Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ข้อมูลศาสนาและวัฒนธรรม

ข้อมูลศาสนาและวัฒนธรรม

Published by librarybanpong, 2019-01-30 02:39:52

Description: ข้อมูลศาสนาและวัฒนธรรม

Search

Read the Text Version

ข้อมูลด้านศาสนาและวฒั นธรรมอาเภอบ้านโป่ ง

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม ตาบลบ้านโป่ ง ชื่อ วดั /คริสตจกั ร ..........บา้ นโป่ ง....................... สถานท่ีต้งั เลขที่...........1...........หม่ทู ่ี .........-..........ตาบล......บา้ นโป่ ง...... อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็นมา โดยสังเขป วดั บา้ นโป่ ง เป็นวดั เก่าแก่วดั หน่ึง ซ่ึงมีอายนุ านเกือบ ๒๐๐ ปี ต้งั อยรู่ ิมฝ่ังตะวนั ออกของแม่น้าแมก่ ลอง ซ่ึงไม่ ห่างจากสถานีรถไฟเทา่ ใดนกั เน้ือที่รอบๆ บริเวณวดั ประมาณ ๕๐ กวา่ ไร่ มีประวตั ิความเป็นมาตามท่ีผเู้ ฒา่ ไดเ้ ล่าสืบ ต่อๆ กนั มาพอจะจบั ใจความไดด้ งั น้ี เดิมทีไดม้ ีพระภิกษุลาวรูปหน่ึง ไดม้ าสร้างกระท่อมมุงดว้ ยแฝกและไดจ้ ดั ต้งั เป็ น สานกั สงฆข์ ้ึนหากแต่ท่ีวดั บา้ นโป่ ง น้นั เตม็ ไปดว้ ยป่ าไมใ้ บหนา เป็นท่ีอยอู่ าศยั ของสัตวน์ านาชนิด เตม็ ไปดว้ ยภยั อนั ตรายมาก จึงไมม่ ีผใู้ ดอาศยั อยู่ ต่อมาจึงเส่ือมโทรมลงและไม่มีผใู้ ดทราบวา่ พระภิกษุลาวรูปน้นั ไปไหนและท่ีใด ศิลปะ/วฒั นธรรม ท่ีโดดเด่น รายละเอียด (ระบุ) - อุโบสถจตั ุรมุข ๒ ช้นั ภายในประดิษฐาน พระพทุ ธเกษี ( พระประธานในอุโบสถ ) และหลวงพอ่ ๕ พน่ี อ้ ง ไดแ้ ก่ หลวงพอ่ โสธร หลวงพอ่ วดั ไร่ขิง หลวงพอ่ วดั บา้ นแหลม หลวงพอ่ โตวดั บางพลี และหลวงพอ่ ทอง วดั เขาตะเครา และรูปเหมือนอดีตเจา้ อาวาส - อุโบสถหลงั เก่า - เจดีย์ ๕ ยอด ( ศิลปะมอญ ) นางกมลา แผนดี ผใู้ หข้ อ้ มลู

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม ตาบลบ้านโป่ ง ชื่อ วดั /คริสตจกั ร ..........ดอนตูม....................... สถานที่ต้งั เลขท่ี...........-...........หมทู่ ่ี .........-..........ตาบล......บา้ นโป่ ง...... อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็นมา โดยสังเขป เดิมทีท่ีต้งั วดั เป็นที่ดอนเป็นป่ าดงพงไพร เป็นที่อาศยั ของเหล่าฝงู สัตวเ์ ช่น เกง้ กวาง เป็ นตน้ มีหนองน้าลอ้ มรอบอยู่ ๓ แห่ง คือ หนองตามี หนองหลุม หนองเยน็ ฝงู สัตวท์ ี่อาศยั อยใู่ นป่ าดอนน้ี กไ็ ดอ้ าศยั น้าในหนองท้งั ๓ น้ีเป็นท่ีเล่นที่กิน พรานท้งั หลายที่ชอบเท่ียวล่าสตั ว์ ก็จะมาล่าสตั วอ์ ยใู่ นป่ าดอนน้ีอยเู่ สมอ สมยั น้นั อาวธุ ที่พรานท้งั หลายใชล้ ่าสัตวค์ ือ “ปื นแกป๊ ” เมื่อยงิ สตั วเ์ สียงปื นกจ็ ะดงั “ตมู ตมู ” ชาวบา้ นท่ีอาศยั อยบู่ ริเวณถ่ินฐานน้นั มกั จะไดย้ นิ เสียงปื นของบรรดา พรานท้งั หลายอยเู่ ป็ นประจา เพราะถือเอานิมิตของเสียงปื นที่ชาวบา้ นไดย้ นิ จึงเรียกป่ าดอนน้ีวา่ “ดอนตมู ” และเป็น ท่ีมาของช่ือ “วดั ดอนตูม” มาจนตราบเท่าปัจจุบนั น้ี สมยั น้นั มีปื นอยชู่ นิดหน่ึง สาหรับมีไวป้ ้ องกนั ตวั และล่าสัตว์ เรียกวา่ ปื นแก๊ป เม่ือยงิ ไปแลว้ ดงั ตมู ๆ คลา้ ย ๆ พลุไทย ดงั ไมเ่ หมือนปื นสมยั ปัจจุบนั คาวา่ “ตูม ตูม” เป็นสาเนียงเสียง ภาษาของคนในสมยั น้นั ในทอ้ งถ่ินตาบลน้นั วดั ดอนตมู ต้งั เมื่อ ไดส้ ร้างวดั เม่ือประมาณ พ.ศ.๒๓๓๐ และไดร้ ับ พระราชทานวสิ ุงคามสีมาคร้ังท่ี ๒ เมื่อวนั ท่ี ๑๖ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๖ เขตวสิ ุงคามสีมากวา้ ง ๔๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร ศิลปะ/วฒั นธรรม ที่โดดเด่น รายละเอียด (ระบุ) - เขาพระพุทธฉายจาลอง การจดั งานปิ ดทองพระพุทธฉายประจาปี ซ่ึงตรงกบั วนั เพญ็ กลางเดือน ๓ ของทุกปี มีประชาชนท้งั ในและนอกอาเภอ มาสักการบชู า และเท่ียวงานเป็นจานวนมาก เฉพาะวนั ข้ึน ๑๕ ค่า เดือน ๓ ซ่ึงตรงกบั วนั มาฆบชู า ประชาชนจะมาทาพิธีเวยี นเทียนรอบองค์ พระพุทธฉาย มากเป็นพเิ ศษ นางกมลา แผนดี ผใู้ หข้ อ้ มูล

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม ตาบลบ้านโป่ ง ชื่อ วดั /คริสตจกั ร ..........วดั นกั บุญ โย เซฟ บา้ นโป่ ง....................... สถานที่ต้งั เลขท่ี......................หมทู่ ี่ .........-..........ตาบล......บา้ นโป่ ง...... อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั คิ วามเป็ นมา โดยสังเขป ในปี ค.ศ.1927 (พ.ศ. 2470) ซาเลเซียนไดเ้ ขา้ มาประเทศไทยเป็นปี แรกไดต้ งั หลกั ที่บางนกแขวก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ในปี แรกสมาชิกซาเลเซียนใชเ้ วลาเตรียมตวั รับงานมิสซงั ราชบุรี โดยเรียนภาษาและ ขนบธรรมเนียม ประเพณีไทย วนั ที่ 22 กนั ยายน ค.ศ.1928 (พ.ศ. 2471) คุณพอ่ กาลิโอ และคุณพอปี นฟั โฟไป่ อยดู่ อนกระเบ้ืองกบั คุณ พอริชาร์ด เพ่ือศึกษางานอภิบาลของคุณพอ่ ริชาร์ด และวนั ท่ี 1 ม.ค. ค.ศ.1929 (พ.ศ. 2472) คุณพอ่ ท้งั สองคนไดร้ ับงาน อภิบาลทงั หมดจากคุณพอ่ ริชาร์ด เองไดย้ า้ ยจากดอนกระเบ้ืองไปอยทู ่ี วดั หนองหิน วนั ที่ 28 ธนั วาคม ค.ศ.1928 วฒั นธรรม ทโ่ี ดดเด่น รายละเอยี ด (ระบุ) - อนุสาวรียพ์ ระหฤทยั นางกมลา แผนดี ผใู้ หข้ อ้ มลู

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ชื่อ วดั ปลกั แรต สถานท่ีต้งั เลขที่ - หมู่ท่ี ๔ ตาบลเบิกไพร อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็ นมา โดยสังเขป เดิมวดั ปลกั แรด ต้งั อยใู่ กลก้ บั ที่ต้งั ในปัจจุบนั น้ี ซ่ึงติดกบั ทา่ ควาย ต่อมาถูกน้าในแมน่ ้าแมก่ ลองกดั เซาะตล่ิง พงั เขา้ มาหาวดั เรื่อย ๆ จึงขยบั ขยายไปต้งั อยทู่ ี่บริเวณคลองวดั ร้างทางฝั่งขวาของคลอง ในที่สุดตอ้ งยา้ ยวดั อีกคร้ัง จึงได้ ยา้ ยวดั มาต้งั ในสถานท่ีปัจจุบนั วดั ปลกั แรดไดร้ ับพระราชทานวสิ ุงคามสีมา เม่ือ พ.ศ. ๒๕๑๗ ภายในวดั มีวหิ ารหลวง พอ่ บา้ นแหลม หลงั เก่าสร้างในปี พ.ศ. ๒๕๐๔ การเวลาผา่ นวหิ ารหลงั เก่าเลก็ และทรุดโทรมลง พระครูเกษมปัญญา พิสุทธ์ิ เจา้ อาวาสรูปปัจจุบนั ( สมยั น้นั ดารงตาแหน่งพระครูวนิ ยั ธรหลอด เขมจาโร ) จึงไดร้ ้ือถอน แลว้ สร้างวหิ ารหลงั ใหม่ลงในท่ีเดิม แลว้ เสร็จเฉลิมฉลองเม่ือวนั ที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ซ่ึงหลวงพอ่ บา้ นแหลมจาลองน้ี เป็นท่ี สกั การะนบั ถือของชาวตาบลเบิกไพรและใกลเ้ คียง วดั ปลกั แรดไดจ้ ดั ใหม้ ีงานประจาปี ปิ ดทองหลวงพอ่ บา้ นแหลม ใน วนั แรม ๑๓ - ๑๕ ค่าเดือน ๔ ของทุกปี ศิลปะ/วฒั นธรรม ทโ่ี ดดเด่น รายละเอยี ด (ระบุ) ส่วนใหญเ่ ป็ นรูปทรงแบบของไทย ศิลปกรรมในในวดั ส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูปแบบเถรวาท พระพุทธรูป ส่วนมากเป็นบางสมาธิ ปางอุม้ บาตร หรือปางประจาวนั เกิด นางสาวลาปาง สอนดี ผใู้ หข้ อ้ มลู ครู กศน.ตาบลเบิกไพร

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ช่ือ วดั บางพงั สถานที่ต้งั เลขท่ี ๔๐ หมู่ที่ ๘ ตาบลเบิกไพร อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั คิ วามเป็ นมา โดยสังเขป วดั บางพงั ก่อต้งั เมื่อ วนั ที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๒๕ หลวงตานวมไดเ้ ดินธุดงค์ เพือ่ แสวงหาความวเิ วกใน การปฏิบตั ิธรรม ในสมยั น้นั พ้นื ท่ียงั คงเป็นป่ าดงดิบอยู่ เห็นวา่ พ้นื ที่บริเวณน้ีเหมาะท่ีจะสร้างวดั เพื่อใหป้ ระชาชนได้ ทาบุญ จึงไดห้ ารือกบั ชาวบา้ น แลว้ จึงไดต้ กลงกนั สร้างวดั ข้ึน เรียกตามทอ้ งถิ่นวา่ “วดั บางพงั และเป็นสานกั สงฆอ์ ยู่ หลายปี ตอ่ มาเมื่อวนั ท่ี ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๒๕ ทางราชการจึงไดป้ ระกาศเป็นวดั บางพงั ไดร้ ับพระราชทาน วสิ ุงคามสีมา เมื่อวนั ที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๓๑ สงั กดั คณะสงฆม์ หานิกาย ท่ีดินต้งั วดั มีเน้ือที่ ๑๘ ไร่ ๓ งาน ๒๙ ตารางวา โฉนดท่ีดิน เลขที่ ๑๐๙๓๗ อาณาเขต ทิศเหนือจดแม่น้าแมก่ ลอง ทิศใตแ้ ละทิศตะวนั ออกจดทาง สาธารณประโยชน์ ทิศตะวนั ตกจดที่ดินเอกชนอาคารเสนาสนะ ประกอบดว้ ย อุโบสถ สร้างเม่ือ พ.ศ. ๒๕๑๐ ศาลาการ เปรียญ หอสวดมนต์ กฏุ ิสงฆ์ ศาลาบาเพญ็ กุศล ฯลฯ ปัจจุบนั มี พระครูโสภณถิรธรรมจนทโสภโณ (จาเนียร รสเครือ) เป็นเจา้ อาวาส ศิลปะ/วฒั นธรรม ทโ่ี ดดเด่น รายละเอยี ด (ระบุ) อุโบสถ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๐ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ กุฏิสงฆ์ ศาลาบาเพญ็ กศุ ล นางสาวลาปาง สอนดี ผใู้ หข้ อ้ มลู ครู กศน.ตาบลเบิกไพร

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ช่ือ วดั หุบกระทงิ สถานท่ีต้งั เลขท่ี ๘๗ หมทู่ ่ี ๑๐ ตาบลเบิกไพร อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี วดั หุบกระทิง จดั ต้งั เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๐ ไดร้ ับพระราชทานวสิ ุงคามสีมา เมื่อวนั ที่ ๑ ตุลาคม ๒๔๗๐ วดั หุบกระทิง ไดต้ ้งั ชื่อวดั ตามชื่อของหมบู่ า้ น ตระกลู บุญแจ่มเป็ นผบู้ ริจาคท่ีดินใหส้ ร้างวดั สังกดั คณะสงฆม์ หานิกาย ที่ดินต้งั วดั มี เน้ือที่ ๑๕ ไร่ ๒ งาน ๔๖ ตารางวา มีอาณาเขต ทิศเหนือจดที่สาธารณะประโยชน์ ทิศใตแ้ ละทิศตะวนั ออกจดที่ดิน เอกชน ทิศตะวนั ตกจดลาหว้ ยสาธารณะ มีที่ธรณีสงฆ์ ๒ แปลง อาคารเสนาสนะ ประกอบดว้ ย อุโบสถ สร้างเม่ือ พ.ศ. ๒๔๗๔ ศาลาการเปรียญ สร้างเม่ือ พ.ศ. ๒๕๓๖ หอสวดมนต์ สร้างเม่ือ พ.ศ. ๒๕๑๔ กฏุ ิสงฆ์ ๖ หลงั วหิ ารสร้างเม่ือ พ.ศ. ๒๕๔๔ ศาลาบาเพญ็ กุศล หอฉนั โรงครัว โรงเกบ็ พสั ดุ วดั หุบกระทิง เป็นที่ต้งั ของโครงการลานวดั ลานใจ ลาน กีฬา เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ภายในบริเวณวดั ยงั เป็ นท่ีต้งั ของศาลหลวงพอ่ เสือ ซ่ึงเป็นที่เคารพของประชาชนในหมูบ่ า้ น และในละแวกใกลเ้ คียง ปัจจุบนั มีพระครูวิจิตรธรรมธาดา เป็นเจา้ อาวาส และเป็นเจา้ คณะตาบลเบิกไพร – ลาดบวั ขาว ศิลปะ/วฒั นธรรม ทโ่ี ดดเด่น รายละเอยี ด (ระบุ) อาคารเสนาสนะ ประกอบดว้ ย อุโบสถ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๔ ศาลาการเปรียญ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๖ หอสวด มนต์ สร้างเม่ือ พ.ศ. ๒๕๑๔ กุฏิสงฆ์ ๖ หลงั วหิ ารสร้างเม่ือ พ.ศ. ๒๕๔๔ นางสาวลาปาง สอนดี ผใู้ หข้ อ้ มูล ครู กศน.ตาบลเบิกไพร

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ชื่อ ศาลเจา้ แม่เบิกไพร สถานท่ีต้งั เลขที่ ๑ หมูท่ ี่ ๑ ตาบลเบิกไพร อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ศาลเจา้ แมเ่ บิกไพร ต้งั อยเู่ ลขที่ ๑ หมู่ ๑ ตาบลเบิกไพร อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประมาณในรัชสมยั กรุง ธนบุรีหรือประมาณ พ.ศ. ๒๓๑๗ เมืองราชบุรี(เมืองคูบวั ) เป็นเมืองทา่ มีการติดต่อคา้ ขายกบั ชาวต่างประเทศ มีพอ่ คา้ ชาวจีนซ่ึงเคารพศรัทธาต่อองคเ์ จา้ แมเ่ ทียงโหวเช้ียบอ้ (เจา้ แม่ทบั ทิม หรืออีกในหลายชื่อ) จากเมืองจีนไดน้ าผงธูปติดตวั มาเพื่อเป็ นท่ีพ่งึ ทางใจในระหวา่ งเดินทางโดยได้ เดินทางมาทางเรือและมาติดต่อคา้ ขายกบั พอ่ คา้ ชาวจีนในเมืองไทย เมื่อมาถึงเมืองคูบวั (ราชบุรี) ซ่ึงเป็นเมืองทา่ ไดเ้ ดินทางมาท่ีบา้ นโป่ ง โดยเดินทางมาตามลาน้าแม่กลอง เม่ือมาถึงตาบล เบิกไพร(ในสมยั น้นั เป็ นชุมชนการคา้ ขาย ตามประวตั ิอาเภอบา้ นโป่ ง จากหนงั สือลุ่มน้าแม่กลองของมหาวทิ ยาลยั ศิลปากรและจดหมายเหตุเมืองราชบุรี ซ่ึงหาหลกั ฐานไดท้ ี่วดั มว่ ง) สถานท่ีน้นั ถูกตอ้ งตามตาราการสร้างศาล และยงั คุง้ น้าวนใกลบ้ ริเวณ และสมยั น้นั บา้ นคุง้ พะยอมและบา้ นเบิกไพรเป็นชุมชนแลกเปล่ียนสินคา้ กนั จึงได้ สร้างศาลเลก็ ๆ ข้ึนหลงั หน่ึงอยตู่ ิดกบั ลาน้าแมก่ ลอง และไดน้ าผงธูปขององคเ์ จา้ แม่เทียงโหวเช้ียบอ้ ต้งั ประดิษฐานไว้ หลงั จากน้นั พอ่ คา้ ชาวจีนก็เดินทางคา้ ขายไป – มา แตม่ ิไดน้ ากระถางธูปขององคเ์ จา้ แม่เทียงโหวเช้ียบอ้ กลบั ไปเมืองจีนแต่อยา่ งใด ชาวบา้ นโป่ งส่วนใหญเ่ ป็ นชาวจีนก็ไดน้ มสั การองคเ์ จา้ แมเ่ ทียงโหวเช้ียบอ้ สืบสานต่อจากพอ่ คา้ ชาวจีน ต้งั แตบ่ ดั น้นั เป็นตน้ มา และไดข้ นานนาม เจา้ แมเ่ ทียงโหวเช้ียบอ้ วา่ “เจา้ แม่เบิกไพร” ตามตาบลท่ีอยู่ กิตติศพั ทอ์ ภินิหารของเจา้ แม่ เบิกไพร เป็นที่เล่ืองลือในหมู่ชาวตลาดบา้ นโป่ งและจงั หวดั ใกลเ้ คียงเป็นอยา่ งยงิ่ ไดร้ ับความศรัทธาเลื่อมใสเป็นท่ี เคารพสกั การะและเป็นที่ยดึ เหน่ียวจิตใจของ ประชาชนในอาเภอบา้ นโป่ งและจงั หวดั ใกลเ้ คียงมาจวบจนถึงปัจจุบนั ศิลปะ/วฒั นธรรม ทโ่ี ดดเด่น รายละเอยี ด (ระบุ) ศาลเจา้ แมเ่ บิกไพร ไดร้ ับรางวลั “ศาลเจา้ ดีเด่น” ในเขตภาคกลาง ไดเ้ ขา้ รับรางวลั ศาลเจา้ ดีเด่น เม่ือวนั พฤหสั บดี ที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ ปัจจุบนั บริหารงานในรูปของคณะกรรมการ นางสาวลาปาง สอนดี ผใู้ หข้ อ้ มูล ครู กศน.ตาบลเบิกไพร

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ช่ือ วดั ตาลปากลดั สถานที่ต้งั เลขที่ - หมทู่ ี่ ๑๑ ตาบลคุง้ พยอม อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็ นมา โดยสังเขป วดั ตาลปากลดั ต้งั เม่ือ พ.ศ.๒๓๒๓ เหตุที่ต้งั ช่ือวดั วา่ วดั ตาล เพราะบริเวณที่ต้งั วดั มีตน้ ตาลข้ึนมากมาย และอยใู่ กล้ ปากลดั แม่น้าแมก่ ลอง วดั ตาลปากลดั เม่ืออดีตข้ึนอยกู่ บั ตาบลนครชุมน์ ไดม้ ีการยา้ ยวดั เม่ือใดไมท่ ราบ แตเ่ หตุที่ยา้ ย เพราะตล่ิงพงั จึงยา้ ยมาอยใู่ นเขตดงตาล อาณาเขต ทิศเหนือจดแม่น้าแม่กลอง ทิศใตจ้ ดที่ดินเอกชน ทิศตะวนั ออกจด ทางหลวงเก่า ทิศตะวนั ตกจดท่ีดินเอกชน ไดร้ ับพระราชวสิ ุงคามสีมาเมื่อวนั ที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๒๙ สังกดั คณะ สงฆม์ หานิกาย ศิลปะ/วฒั นธรรม ทโี่ ดดเด่น รายละเอยี ด (ระบุ) เป็นวดั หน่ึงในประเทศไทยที่ไดอ้ ญั เชิญพระบรมสารีริกธาตุขององคพ์ ระสมั มาสัมพทุ ธเจา้ (ส่วนพระอุระขา้ งซา้ ย) จาก ประเทศอินเดีย มาประดิษฐานไวท้ ี่วดั นายสมลกั ษ์ ขนั นาค ผใู้ หข้ อ้ มลู ครู กศน.ตาบลคุง้ พยอม

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ช่ือ วดั /คริสตจกั ร วดั หนองปลาดุก สถานท่ีต้งั เลขที่..........166............หมทู่ ่ี .........5..........ตาบล.....หนองกบ............. อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั คิ วามเป็ นมา โดยสังเขป วดั หนองปลาดุก ต้งั เม่ือ พ.ศ.2471 วสิ ุงคามสีมาเม่ือวนั ที่14 ธนั วาคม 2509 สงั กดั คณะสงฆม์ หานิกาย ท่ีดินต้งั วดั มีเน้ือที่ 14 ไร่ 40 ตารางวา อาณาเขต ทิศเหนือและทิศใตจ้ ดที่ดินเอกชน ทิศตะวนั ออกและทิศตะวนั ตกจดทาง สาธารณประโยชน์ มีที่ธรณีสงฆ์ จานวน 1 แปลง เน้ือท่ี 10 ไร่ 3 งาน 93 ตารางวา สร้างเม่ือ พ.ศ.2513 กุฏิสงฆ์ วหิ าร สร้างเม่ือ พ.ศ.2529 ศาลาเอนกประสงค์ สร้างเม่ือ พ.ศ.2532 ศาลาบาเพญ็ กุศล ปัจจุบนั มี พระครูวรพรตธาดา สุขิโต (ทองสุข ทองโชติ) เป็นเจา้ อาวาสและเป็นเจา้ คณะตาบลหนองกบ ศิลปะ/วฒั นธรรม ทโ่ี ดดเด่น รายละเอยี ด (ระบุ) ศิลปะของโบถส์และอโบสถ ท่ีมีความเป็นเอกลกั ษณ์ และที่โดดเด่นคือเคร่ืองรางของขลงั และพระเคร่ืองบูชา นางสาวอจั ฉราภรณ์ เจริญวโิ รจน์ ผใู้ หข้ อ้ มลู ครู กศน.ตาบลหนองกบ

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ชื่อ วดั /คริสตจกั ร วดั หนองกบ สถานท่ีต้งั เลขท่ี.......-...............หมทู่ ี่ .........3..........ตาบล.....หนองกบ............. อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็ นมา โดยสังเขป ประวตั ิของวดั หนองกบ โดยสังเขปนามาจากหนงั สือ สูจิบตั ิ งานผกู พทั ธสีมา ปิ ดทองฝังลูกนิมิต 16 – 25 กุมภาพนั ธ์ 2539 วดั หนองกบ มีความหมายเป็ นสญั ลกั ษณ์ แก่ประชาชนในตาบลหนองกบ และตาบลใกลเ้ คียงท้งั ยงั มีชื่อเสียงใน อาเภอบา้ นโป่ ง ชื่อกลอ้ งไมโ่ ด่งดงั ในจงั หวดั ราชบุรี ในวดั จานวนน้ี อาเภอน้ีมี 53 วดั จะไดเ้ ล่าเอาประวตั ิมาสู่กนั ฟัง ดงั ต่อไปน้ี “วดั หนองกบ” ไดก้ ่อสร้างมาต้งั แต่สมยั ไหน พ.ศ.เท่าไร ไม่มีหลกั ฐานปรากฏแน่ชดั แตพ่ อจะจาไดว้ า่ ในคร้ัง หน่ึงกรมศิลป์ ไดม้ าพิสูจน์อิฐก่อสร้างอุโบสถ วดั ก็คงก่อสร้างมาก่อนอุโบสถ จึงประมาณกาลเอาไวว้ า่ คงสร้างใน ระหวา่ ง พ.ศ. 2367 และมีผบู้ อกอีกวา่ นามช่ือนายรอด ไมท่ ราบนามสกลุ อยบู่ า้ นหนองกบ เป็นผถู้ วายท่ีดินให้สร้าง วดั โดยที่จะสร้างวดั น้นั เดิมทีมีหนองน้าใหญ่ที่เราเรียกกนั จนติดปากวา่ “หนองกบ” อาจจะมีกบมากในสมยั น้นั อยู่ ทิศตะวนั ตกท่ีต้งั วดั ในปัจจุบนั น้ี ริมหนองดา้ นเหนือเป็นท่ีจะสร้างวดั มาก่อน แต่ยงั ไมไ่ ดล้ งมือสร้าง จึงมองหาท่ี ใหม่ ไดม้ าองมาท่ีอยใู่ นปัจจุบนั ท่ีเป็นที่นายรอดถวาย จึงไดส้ ร้างวดั กนั มาจนถึงปัจจุบนั เมื่อประมาณ 60 ปี เศษ ชาวประชาชนในตาบลหนองกบ ยงั ไม่รู้หนงั สือกนั เป็นส่วนมากเพราะยงั ไม่ไดต้ ้งั โรงเรียน ประชาบาล อาศยั เรียนหนงั สือวดั เรียนกบั พระ หนงั สือวดั ในสมยั น้นั ส่วนมากเป็นหนงั สือขอม การเรียน เขียน อา่ น สมยั น้นั ไม่ค่อยสะดวก พออา่ นออกเขียนไดบ้ า้ ง บางคนกไ็ มไ่ ดเ้ ขา้ โรงเรียนเลยเป็นส่วนมาก หนองกบ พ่ึงจะ ต้งั โรงเรียนประชาบาลในปี พ.ศ. 2456 เป็นตน้ มา สถานท่ีต้งั วดั มีอาณาเขตติดต่อกนั ดงั น้ี ทิศเหนือติดทางรถไฟ ยาว 6เส้น 13วา ทิศตะวนั ออกติดถนนสาธารณะ ยาว 4เส้น 8วา ทิศใตต้ ิดต่อที่สาธารณะ ยาว 6เส้น 17วา ทิศตะวนั ตก ติดนานายคา ยาว 4เส้น 5วา รวมเน้ือท่ี 30 ไร่ 2งาน 65ตารางวา มีโฉนดแยกออกเป็ น 2แปลง เพราะถนนตดั ผา่ น การสร้างวดั ในตอนน้นั ยงั ไมม่ ีหลกั ฐานวา่ ใครเป็นผรู้ ิเร่ิมกนั มาก่อน โดยเฉพาะวดั น้ีไดเ้ ร่ิมสร้างมาก่อนทางรถไฟสาย ใต้ ระหวา่ งรัชกาลท่ี 4 – 5 ต่อกนั มีพระอาจารยท์ ่ีแถวน้นั เรียกกนั วา่ หลวงพอ่ บุตรดี แต่ไมป่ รากฏวา่ สร้างเมื่อวนั ที่ ... เดือน ... พ.ศ. ... เทา่ ไร อุโบสถหลงั เก่าไดถ้ ูกร้ือไปแลว้ ไมป่ รากฏวา่ สร้าง พ.ศ. เท่าไร แต่มีผมู้ าล่าใหฟ้ ังมาเทา่ น้นั วา่ ไดส้ ร้างมาแลว้ ประมาณ 15 ปี ก็ลงมือก่อสร้างอุโบสถ โยมพอ่ ของขา้ พเจา้ ในสมยั น้นั อายปุ ระมาณ 6 – 7 ขวบ ไดต้ ิดตามโยมพอ่ มาจากอาเภอโพธาราม ไดเ้ ห็นอุโบสถหลงั น้ีมุงดว้ ยหญา้ คา ต่อมาประชาชนไดไ้ ปตดั ไมเ้ คร่ืองบน แถวหมู่บา้ นวดั หนองโรง โดยเฉพาะวดั หนองโรง เขตจงั หวดั กาญจนบุรี หลวงพอ่ บอนไดเ้ คยก่อสร้างมาก่อนในสมยั น้นั แถวบา้ นหนองประทุน บา้ นหนองโพ ไดม้ าตดั ไมท้ าเครื่องบนอุโบสถ จึงไดม้ ุงหลงั คากนั ในราว พ.ศ. 2404

ต้นโพธ์ิใหญ่อายุเก่าแก่ ภายในวดั หนองกบ ส่ิงถาวรวตั ถุในวดั หนองกบ ไม่มีปชู นียสถาน เจดียส์ าคญั อะไร คงมีแต่พทุ ธาวาส เช่น อุโบสถ สังฆวาส มีกุฎี สงฆ์ ศาลาการเปรียญ เหล่าน้ีเป็นตน้ กาลเวลาต่อมา อุโบสถหลงั เก่า ไดช้ ารุดทรุดโทรมตามกาลเวลา จึงไดร้ ิเร่ิมทา การก่อสร้างข้ึนมาใหม่ไดก้ าหนดงานวางศิลาฤกษ์ เม่ือวนั ท่ี 1 เมษายน 2526 (แรม 14 ค่า เดือน 4) ไดล้ งมือสร้าง อุโบสถวนั ที่ 26 กรกฎาคม 2516 (แรม 11 ค่า เดือน 8 ) เป็นตน้ การก่อสร้างวดั และอุโบสถ ในอดีตเจา้ อาวาสท่ีแลว้ มาไมไ่ ดท้ าหลกั ฐาน สถิติอะไรไวเ้ ลย จะบนั ทึกเป็นที่แน่นอนก็ ไมไ่ ด้ จึงไดส้ ืบสาวลาวเร่ืองมาประติดประตอ่ ตามท่ีคนแก่เล่ากนั สืบมา ล่ามาหลายปาก อาจจะไมต่ รงกนั มาก นกั ต้งั แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั มีเจา้ อาวาสปกครองวดั 9 องค์ คือ 1. พระอาจารยบ์ ุตรดี ไม่ปรากฏ พ.ศ. เทา่ ไร 2. พระอาจารยว์ อน ไมป่ รากฏ พ.ศ. เท่าไร 3. พระอาจารยไ์ ซ ไมป่ รากฏ พ.ศ. เทา่ ไร 4. พระอาจารยส์ อน(หลวงพอ่ การมงั ) ไม่ปรากฏ พ.ศ. เทา่ ไร 5. พระอาจารยบ์ อน ไมป่ รากฏ พ.ศ. เทา่ ไร 6. พระมหาคามี ไม่ปรากฏ พ.ศ. เทา่ ไร 7. พระอธิการสิ้ว ติสสวโส พ.ศ. 2475 8. พระอธิการสาย เขมวโส พ.ศ. 2475 – 2493 9. พระครูมงคลรัตนาภิรักษ์ พ.ศ. 2493 – ถึงปัจจุบนั ศิลปะ/วฒั นธรรม ทโ่ี ดดเด่น รายละเอยี ด (ระบุ) ศิลปะของโบถส์และอุโบสถ ที่มีความเป็นเอกลกั ษณ์ นางสาวอจั ฉราภรณ์ เจริญวิโรจน์ ผใู้ หข้ อ้ มูล ครู กศน.ตาบลหนองกบ

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ชื่อ วดั /คริสตจกั ร วดั หนองปลาดุก สถานท่ีต้งั เลขท่ี..........-............หมูท่ ี่ .........4..........ตาบล.....หนองกบ............. อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั คิ วามเป็ นมา โดยสังเขป วดั บึงกระจบั ต้งั อยเู่ ลขที่ 193 หมู่ 4 บา้ นบึงกระจบั ตาบลหนองกบ อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรีเน้ือท่ี 12 ไร่ พ.ศ.2502 เป็นสานกั สงฆโ์ พธ์ิสุขาราม พ.ศ.2522 แต่งต้งั เป็นวดั บึงกระจบั พ.ศ.2554 ไดร้ ับพระราชทานวสิ ุงคามสีมา การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหมายเลข 323 ก่อนถึงอาเภอบา้ นโป่ งประมาณ 3 กิโลเมตร จะเห็น ทางเขา้ วดั บึงกระจบั ศิลปะ/วฒั นธรรม ทโี่ ดดเด่น รายละเอยี ด (ระบุ) ศิลปะของโบถส์และอุโบสถ ที่มีความเป็นเอกลกั ษณ์ นางสาวอจั ฉราภรณ์ เจริญวโิ รจน์ ผใู้ หข้ อ้ มลู ครู กศน.ตาบลหนองกบ

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ช่ือ วดั /คริสตจักร ......วดั บวั งาม.................... สถานทตี่ ้งั เลขท่ี.........126.......หมู่ที่ .......2............ตาบล....บา้ นม่วง..................... อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็ นมา โดยสังเขป (ความเป็นมาของช่ือวดั , ผสู้ ร้าง,การสร้างและบรู ณะพฒั นาวดั , เหตุการณ์ต่างๆ ที่สาคญั ซ่ึงเกี่ยวขอ้ งกบั วดั ต้งั แต่แรกเริ่มสร้างวดั จนถึงปัจจุบนั ) เน่ืองจากสถานท่ีต้งั วดั บวั งาม ต้งั อยใู่ กลก้ บั บึงวงั มะนาว ภายในบึงวงั มะนาวน้ีมีพืชน้าจานวนมาก คือ ดอกบวั ชาวบา้ นจึงเห็นควรใชช้ ื่อวดั วา่ “วดั บวั งาม” เพื่อใหเ้ หมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ ม ผรู้ ิเร่ิมก่อสร้างวดั บวั งาม คือทา่ นอาจารย์ เกเล ซ่ึงท่านจาพรรษาอยทู่ ี่วดั ม่วง ตาบลบา้ นม่วง อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ไดเ้ ห็นความลาบากของชาวบา้ นวดั บวั งามสมยั น้นั ซ่ึงตอ้ งเดินทางไปทาบุญถึงท่ี วดั มว่ ง ซ่ึงอยหู่ ่างไกล การเดินทางในสมยั น้นั ลาบามาก เพราะไมม่ ีถนน ไม่มีรถ มีทางเดินเล็กๆ ท่านอาจารยเ์ กเล จึงไดป้ รึกษาหารือกบั ชาวบา้ น และพร้อมใจกนั ก่อสร้างวดั บวั งามข้ึน เมื่อประมาณ พ.ศ.2468 มีพระจาพรรษา 6 รูป เมื่อสร้างเสร็จแลว้ ท่านอาจารยเ์ กเล กไ็ ดล้ าสิกขาบท ตอ่ มาท่านอาจารยส์ อน อุตฺตโม ไดร้ ับตาแหน่งเจา้ อาวาสเป็นรูปแรก เม่ือประมาณ พ.ศ.2472 และดารง ตาแหน่งเจา้ อาวาสเรื่อยมา เจา้ อาวาสรูปท่ี 2 คือพระครูจอย นาคเสโน ซ่ึงก่อนจะดารงตาแหน่ง ไดร้ ่วมกบั ชาวบา้ น ก่อสร้างพระอุโบสถจนแลว้ เสร็จเมื่อประมาณ พ.ศ.2494 พร้อมกบั สร้างหอสวดมนตข์ นาดกวา้ ง 14 เมตร ยาว 22 เมตร ลกั ษณะทรงไทย(คอนกรีตเสริมเหล็ก) 1 หลงั พ.ศ.2520 พระครูจอย นาคเสโน ไดม้ รณภาพรวมอายไุ ด้ 84 พรรษา เจา้ อาวาสรูปที่ 3 คือทา่ นอาจารยบ์ ุญธรรม อภโย ไดร้ ับตาแหน่งเจา้ อาวาสแทนเม่ือ พ.ศ. 2521 ต่อมาไดต้ าแหน่งฐานา ที่ พระครูวนิ ยั ธร และไดร้ ับสมณศกั ด์ิพดั ยศช้นั ตรี ท่ีชื่อวา่ “พระครูอภยั ธรรมคุณ” เม่ือปี พ.ศ. 2531 ท่านไดบ้ รู ณะ ก่อสร้างเจดียอ์ งคใ์ หญบ่ รรจุพระบรมสาริกธาตุ 1 องค์ ขนาดกวา้ ง 10 วา สูง 11 วา และสร้างโรงครัว 1 หลงั สร้าง หอ้ งน้า/ ศาลา/ เมรุ....ฯ มรณภาพ พ.ศ.2536 เจา้ อาวาสรูปที่ 4 ปัจจุบนั คือ พระครูปทุมธรรมกิจ (ฐานะ พลู เสม) ศิลปะ/วฒั นธรรม ทโี่ ดดเด่น รายละเอยี ด (ระบุ) มีโบราณวตั ถุ 1. พระประธานมีจานวน 1 องค์ ขนาดหนา้ ตกั กวา้ ง 9 ศอก ปางมารวชิ ยั สร้างเม่ือปี พ.ศ.2495 2. พระโมคคลั ลา+พระสารีบุตร ขนาดเท่าคนจริง ผมู้ ีจิตศรัทธาสร้างถวายเม่ือปี พ.ศ.2495

นางสุนนั ทา จินดาสวย ผใู้ หข้ อ้ มลู ครู กศน.ตาบลบา้ นม่วง

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ช่ือ วดั /คริสตจักร .......วดั รับน้า (ขนุ สีห์)................................................................. สถานทต่ี ้งั เลขท่ี.........87.............หมู่ที่ .......8............ตาบล....บา้ นม่วง..................... อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็ นมา โดยสังเขป อดีตเป็นแหล่งโบราณคดี เป็ นสถานท่ีรกร้างวา่ งเปล่า เดิมเรียกพ้ืนที่น้ีวา่ “โคกขนุ สีห์” และ “โคกอิฐ” เพราะ ไดข้ ดุ พบโบราณวตั ถุโบราณ เช่น หวั สิงโต และเจดียป์ รากฏอยเู่ ป็นตน้ นายบุญรอด เหิมพยคั ฆ์ ชาวรับน้าเป็นผไู้ ดร้ ับ อนุญาตใหส้ ร้างวดั พระอธิการมงคล ฉายา ญาณวโร นามสกลุ บตั รัช ชาวจงั หวดั นครพนม เป็นเจา้ อาวาสองคป์ ฐม ไดข้ อประกาศจดั ต้งั เป็ นวดั ในพระพทุ ธศาสนาตามมติเห็นชอบของกรรมการมหาเถรสมาคม กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ เม่ือวนั ท่ี 14 กมุ ภาพนั ธ์ 2533 ไดร้ ับพระราชทานวสิ ุงคามสีมา พุทธศกั ราช 2544 ประกาศ ณ วนั ท่ี 18 ธนั วาคม 2544 ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาฉบบั ประกาศทวั่ ไป เล่ม 114 ตอนท่ี 10 ง ณ วนั ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2545 “สานกั สงฆข์ นุ สีห์”อยกู่ ลางทุง่ นา มีนาอยรู่ อบๆ สานกั สงฆ์ เป็นท่ีนาของของชาวไทยเช้ือสายรามญั บา้ นม่วง ชาวบา้ นแถวน้ีส่วนใหญป่ ระกอบอาชีพทานาและพืชไร่สวน ก่อนจะมาช่ือ “วดั รับน้า” เป็น “สานกั สงฆข์ นุ สีห์”มาก่อน สร้างราวประมาณ พ.ศ.2513 สถานท่ีแห่งน้ีเป็นป่ ารกดว้ ยตน้ ไมน้ านาชนิด มีผเู้ ล่าวา่ ชุกชุมไปดว้ ยสัตวป์ ่ า เช่น เสือ วดั รับน้า ช่ือวดั โดยทางราชการ “วดั รับน้า” ช่ือที่ชาวบา้ นเรียก “วดั ขนุ สีห์” วดั โคก แลว้ แต่จะถนดั เรียก ศิลปะ/วฒั นธรรม ทโ่ี ดดเด่น รายละเอยี ด (ระบุ) อุโบสถ สร้างพ.ศ. 2542 วหิ ารหลวงพอ่ วดั ปากน้า สร้าง พ.ศ.2543 หอระฆงั สร้าง พ.ศ. 2536 พระประธานในอุโบสถ นามวา่ “พระพทุ ธศิริวฒุ ิรจนาสุตาพลสิทธิ” ประธานนามโดย สมเด็จพระมหารัชมงั คลาจารย์ เจา้ อาวาสวดั ปากน้า เจา้ คณะใหญ่หนเหนือ กรรมการมหาเถรสมาคม

นางสุนนั ทา จินดาสวย ผใู้ หข้ อ้ มลู ครู กศน.ตาบลบา้ นม่วง

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ช่ือ วดั /คริสตจักร ......วดั มว่ ง................................. สถานทตี่ ้งั เลขที่......................หมู่ที่ .....5..............ตาบล....บา้ นม่วง... อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั คิ วามเป็ นมา โดยสังเขป องค์ บรรจุน จากคาบอกเล่าของชาวบา้ น เชื่อกนั วา่ บรรพบุรุษรุ่นแรกน้นั อพยพมาจากประเทศพมา่ ในสมยั กรุงศรีอยธุ ยา ราวรัชสมยั ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในปี (พ.ศ. 2133 – พ.ศ. 2148) โดยติดตามพระมหาเถรคนั ฉ่องซ่ึงเป็น พระสงฆเ์ ช้ือสายมอญนิกายมหายาน เขา้ มาต้งั ถ่ินฐานริมแมน่ ้าแม่กลอง แลว้ ใหช้ ื่อหมู่บา้ นเหมือนเดิมในพมา่ วา่ “บา้ น ม่วง” และไดส้ ร้างวดั ประจาหมู่บา้ นโดยใชช้ ่ือวา่ “วดั ม่วง” ต่อมาในทะเบียนวดั ของกรมศาสนา ไดร้ ะบุวา่ “วดั ม่วง” ประกาศจดั ต้งั เม่ือ พ.ศ. 2233 ซ่ึงตรงกบั สมยั อยธุ ยา ในรัชสมยั ของสมเดจ็ พระนารายณ์ (พ.ศ.2199 – 2231) แต่จากการ คน้ ควา้ และอา่ นคมั ภีร์ใบลาน หมายเลข 320 เป็นเรื่องเกี่ยวกบั พระปริต (12 ตานาน) ในตอนทา้ ยจารไวว้ า่ “…..ศกั ราช 1000 เดือน 6 แรม 5 ค่า วนั ศุกร์ จารเสร็จเม่ือตะวนั บ่าย กระผมชื่อ อุตตมะจารไวใ้ นวดั ม่วง” ศกั ราช 1000 น้นั เป็ นจุล ศกั ราชจะเทา่ กบั (1000+1181) พ.ศ.2181 ซ่ึงตรงกบั สมยั อยธุ ยาในรัชกาลสมเดจ็ พระเจา้ ปราสาททอง (พ.ศ. 2173 – 2198) และหลงั รัชกาลสมเด็จพระนเรศวรประมาณ 30 ปี เศษ ซ่ึงอาจจะเป็นไดว้ า่ ชาวมอญรุ่นแรกของบา้ นม่วงอาจจะ อพยพมาในราวสมยั สมเด็จพระนเรศวรจริง และใชเ้ วลาในการต้งั ชุมชนและสร้างวดั และจารคมั ภีร์ใบลานที่เก่าที่สุด ในเวลาอีก 30 ปี เศษต่อมา อยา่ งไรก็ตามอายขุ องการจารคมั ภีร์ใบลานผกู น้ี แสดงวา่ ในปี พ.ศ.2131 สมยั อยธุ ยา ในรัชกาลสมเด็จพระ เจา้ ปราสาททองไดม้ ีวดั มว่ งแลว้ และวดั มว่ งมีอายไุ มต่ ่ากวา่ 354 ปี มาแลว้ วดั ม่วงในสมยั หลวงป่ เู ขม็ เจริญมาก เพราะหลวงป่ ูเขม็ เป็ นองคอ์ ุปัชฌายต์ อนเหนือลุ่มแม่น้าแมก่ ลองเขม็ เป็ น องคเ์ ดียว ชาวมอญ ชาวกะเหร่ียง ตอนเหนือลุ่มแมน่ ้าแม่กลองข้ึนไปถึง เมืองกาญจนบุรีล่องแพมาบวช คนลาวจาก หนองปลาหมอ และชาวมอญสองฝ่ังตอนบนกม็ าบวชท่ีวดั มว่ งกนั หลงั จากหลวงป่ เู ขม็ มรณภาพแลว้ วดั ม่วงมีท่านเจา้ อาวาสต่อมา คือหลวงป่ ูโวะ่ หลวงป่ ดู วง (พระครูสงั วราภิวฒั น์) และอาจารยล์ ม (พระครูวรธรรมพิทกั ษ)์ ชาวบา้ นต่าง ใหค้ วามเคารพทา่ นเจา้ อาวาสวดั มว่ งมาก เมื่อมีเรื่องราวคดีความกนั ถา้ ไดร้ ับการวา่ กล่าวจากทา่ นมกั จะยตุ ิ ชาวบา้ นจึง อยกู่ นั อยา่ งสนั ติ ไมค่ ่อยมีปัญหาในการอยรู่ ่วมกนั ในชุมชน ศิลปะ/วฒั นธรรม ทโี่ ดดเด่น รายละเอยี ด (ระบุ) เป็นวดั ที่มีพระอุโบสถหนา้ บนั ปูนป้ัน ลวดลายเรขาคณิตระบายสี คลา้ ยมงั กร กรอบประตูเขียนเป็นรูปซุม้ วดั บานประตูเป็นไมม้ ีภาพเขียนสีเป็นทวารบาลรูปยกั ษย์ นื ถืออาวธุ เหยยี บอยบู่ นสตั วพ์ าหนะ บนผนงั ดา้ นหนา้ พระ

อุโบสถมีภาพจิตรกรรม พระอุโบสถวดั มว่ งหลงั เก่า สร้างข้ึนในปี พ.ศ. 2427 ซ่ึงตรงกบั รัชสมยั ของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (รัชกาลท่ี 5 บา้ นม่วงเป็นชุมชนมอญริมแม่น้าแมก่ ลองที่เก่าแก่ นบั แต่สมยั อยธุ ยาตอนปลาย และมวี ดั มว่ งเป็นศูนยร์ วม จิตใจมาตลอดจนทุกวนั น้ี เป็ นหมู่บา้ นมอญที่ยงั คงวฒั นธรรมมอญอยมู่ าก ด้งั จะเห็นไดจ้ าก ประเพณีการนบั ถือผี และ ประเพณีเก่ียวกบั พทุ ธศาสนาจจุบนั วดั มว่ ง มีพิพิธภณั ฑพ์ ้ืนบา้ นมอญ ไดร้ ับการจดั ต้งั เป็นศนู ยม์ อญศึกษา เป็นแหล่ง เรียนรู้เรื่องมอญ และเก็บรวมโบราณวตั ถุ เช่น คมั ภีร์งาชา้ งจารึกอกั ษรมอญ ธรรมาสน์ พระพทุ ธรูป เคร่ืองใชใ้ นวถิ ี ชีวติ มอญ รวมท้งั โรงเรียนวดั ม่วงยงั ไดเ้ ปิ ดหลกั สูตรทอ้ งถิ่น ภมู ิปัญญาชุมชน จดั การเรียนการสอนนาฏศิลป์ มอญ และหลกั สูตรภาษามอญในโรงเรียนอีกดว้ ย นางสุนนั ทา จินดาสวย ผใู้ หข้ อ้ มูล ครู กศน.ตาบลบา้ นม่วง

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ช่ือ วดั /คริสตจักร .....พิพิธภณั ฑพ์ ้นื บา้ นวดั มว่ ง... สถานทตี่ ้งั เลขที่......................หมทู่ ี่ .........5..........ตาบล....บา้ นมว่ ง.... อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็ นมา โดยสังเขป พพิ ิธภณั ฑพ์ ้ืนบา้ นวดั ม่วง ต้งั อยภู่ ายในวดั มว่ ง ริมแม่น้าแมก่ ลอง ตาบลบา้ นม่วง อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี โดยชาวบา้ นวดั มว่ ง ร่วมกบั มหาวทิ ยาลยั ศิลปากรรวบรวม และจดั แสดงโบราณวตั ถุ ศิลปวตั ถุ และเครื่องมือ เคร่ืองใชต้ ่างๆ ท่ีพระสงฆใ์ นวดั มว่ ง ไดร้ วบรวมไวใ้ นอาคารพิพธิ ภณั ฑท์ ี่สร้างข้ึนใหม่ และสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ พระราชดาเนินทรงเปิ ดพพิ ธิ ภณั ฑพ์ ้นื บา้ นวดั ม่วง เม่ือวนั ที่ 26 กมุ ภาพนั ธ์ 2536 พิพธิ ภณั ฑพ์ ้ืนบา้ นวดั ม่วง แห่งน้ีเป็นแหล่งคน้ ควา้ รวบรวมประวตั ิความเป็นมา วถิ ีชีวิต และวฒั นธรรมชุมชน ทอ้ งถิ่นชาวมอญ ต้งั แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั แบ่งการจดั แสดงออกเป็นหอ้ งตา่ งๆ โดยเริ่มจากหอ้ งโถง มอญในตานาน มอญในตานาน มอญในไทยและผนู้ าทางวฒั นธรรม มีการจดั แสดงโบราณวตั ถุ คมั ภีร์ใบลานท่ีเขียนดว้ ยอกั ษรมอญมี อายกุ วา่ 300 ปี เส้ือผา้ การแต่งกาย และขา้ วของเครื่องใชต้ า่ งๆ ที่บง่ บอกถึงภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ินที่น่าสนใจ ใหค้ วามรู้ เกี่ยวกบั ความสาคญั ของลุ่มน้าแมก่ ลองในอดีต ความสัมพนั ธ์ดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรม ของชุมชนบา้ นมว่ งกบั ชุมชนใกลเ้ คียง ศิลปะ/วฒั นธรรม ทโี่ ดดเด่น รายละเอยี ด (ระบุ) ศิลปะ และโบราณวตั ถุจานวนมากมายท่ีนามาจดั แสดงในพิพิธภณั ฑส์ ่วนใหญไ่ ดร้ ับบริจาคจากชาวบา้ นใน ทอ้ งถิ่น ขอ้ มลู ที่น่าสนใจ อาทิ การอพยพของกลุ่มชนมอญท่ีมาจากประเทศพมา่ เขา้ มาต้งั ถิ่นฐานต้งั แต่สมยั อยธุ ยา ตอนกลาง และรัตนโกสินทร์ตอนตน้ มกั ต้งั ถิ่นฐานอยรู่ ิมน้า โดยเฉพาะบริเวณสองฝ่ังแมน่ ้าเจา้ พระยา และบริเวณลุ่ม แม่น้าแมก่ ลอง การแสดงการแตง่ กายของชาวมอญ ชาวมอญในบา้ นมว่ งมีวถิ ีชีวติ ท่ีเรียบง่ายยงั สามารถดารงวฒั นธรรม เอกลกั ษณ์ของชาวมอญอยไู่ ดม้ ากกวา่ ชุมชนมอญอื่น ในปัจจุบนั ยงั คงเห็นวถิ ีชีวติ ในการแตง่ กายไดใ้ นชุมชนบา้ นม่วง ภาพท่ีพบเห็นจนชินตา คือผชู้ ายนุ่งผา้ โสร่ง ผหู้ ญิงนุ่งผา้ ซิ่น และใชผ้ า้ สไบมอญ เป็นตน้ คมั ภีร์งาชา้ ง เป็ นคมั ภีร์วา่ ดว้ ยสวดนาก ใหเ้ ป็นพระในโบสถข์ องมอญ เป็นอกั ษรเมด็ มะขาม หรือผา้ ห่อคมั ภีร์ โบราณวตั ถุสาคญั ของวดั มว่ ง มีเป็นจานวนมากที่เก่าแก่ถึงสมยั ปัจจุบนั ประเพณีการใชผ้ า้ ห่อพระคมั ภีร์น้ีสะทอ้ นถึง ความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวมอญไดเ้ ป็นอยา่ งดี ธรรมมาสน์วดั ม่วง คือ ธรรมมาสนแ์ บบมอญสะทอ้ นถึงการนบั ถือและปฏิบตั ิทางศาสนาแบบมอญด้งั เดิมอยู่ อยา่ งไมเ่ สื่อมคลาย

พธิ ีงานบวชแบบมอญ การแตง่ กายจะแตกตา่ งจากชาวไทย โดยวนั แห่นาก ยงั ไม่โกนผม นากห่มสไบ นุ่งผา้ ยก ตดั ผมทรงดอกกระทุม่ ใส่กาไลขอ้ เทา้ ส่วนชุดสีขาวจะใส่ตอนเขา้ โบสถ์ ภาพพระเจา้ ราชาธิราช ยงั มีภาพวาดและเรื่องราวของพระเจา้ ราชาธิราช กษตั ริยม์ อญผทู้ รงความสามารถดา้ น การทามหายทุ ธสงคราม กบั พม่ายาวนาน พระนามของพระองคจ์ ึงยง่ิ ใหญท่ ้งั ในชาวพมา่ และชาวมอญ นางสุนนั ทา จินดาสวย ผใู้ หข้ อ้ มูล ครู กศน.ตาบลบา้ นมว่ ง

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ช่ือ วดั เขาแจง สถานท่ีต้งั 93 หม่ทู ี่ 1 บา้ นเขาแจง ตาบลเขาขลุง อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็นมา โดยสงั เขป วดั เขาแจงประกาศต้งั วดั เม่ือ พ.ศ.2442 สังกดั คณะสงฆม์ หากาย อาณาเขตทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวนั ออกจดทาง สาธารณประโยชน์ ทิศตะวนั ตกจดท่ีดินเอกชน และไดร้ ับพระราชทานวสิ ุงครามสีมา เมื่อ พ.ศ.2520 ปัจจุบนั มีพระครู ศึกษากร เป็นเจา้ อาวาส ศิลปะ/วฒั นธรรม ท่ีโดดเด่น รายละเอียด (ระบุ) ภายในอาคารเสนาสนะ ประกอบดว้ ยอุโบสถมีพระพุทธปางสมาธิ อายรุ าว 200 ปี (นางสุรารักษ์ ติมนาค) ผใู้ หข้ อ้ มลู ครู กศน.ตาบลเขาขลุง

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ช่ือ วดั เจริญธรรม สถานที่ต้งั 13/2 หมทู่ ่ี 3 บา้ นเจริญธรรม ตาบลเขาขลุง อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็นมา โดยสังเขป วดั เจริญธรรม เที่ยววดั เจริญธรรม ดูส่ิงน่าสนใจในวดั เจริญธรรมวดั เจริญธรรม รัฐประชานุเคราะห์ หมู่ท่ี 3 ตาบลเขาข ลุง อาเภอบ้านโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี. ศิลปะ/วฒั นธรรม ท่ีโดดเด่น รายละเอียด (ระบุ) ศิลปะของโบสถแ์ ละอุโบสถ มีความเป็นเอกลกั ษณ์ นางสุรารักษ์ ติมนาค ผใู้ หข้ อ้ มูล ครู กศน.ตาบลเขาขลุง

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ชื่อ วดั เขาขลุง สถานที่ต้งั บา้ นเขาขลุง หมู่ที่ 5 ตาบลเขาขลุง อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็นมา โดยสงั เขป จากคาบอกเล่าของผเู้ ฒ่า ผแู้ ก่ วา่ ในสมยั ก่อนน้นั มีชา้ งจานวนมาก อาศยั ท่ีบริเวณเขาชาวบา้ นเรียกวา่ เขาโขลง ต่อมาชา้ ง ป่ าหมดไป จึงไมม่ ีใครเห็นชา้ ง ทาใหเ้ รียกเพ้ียนเป็ นเขาขลุง และเรียกเป็นช่ือของตาบลและวดั มาจนถึงทุกวนั น้ี ศิลปะ/วฒั นธรรม ท่ีโดดเด่น รายละเอียด (ระบุ) วดั เขาขลงุ Wat Khao Khlung. ประเภทสถานท่ี : วดั -ท่องเที่ยว-สถานท่ีปฏิบตั ิธรรม; ท่ีอยู่ : ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ ง จ.ราชบุรี ศิลปะของโบสถแ์ ละอุโบสถ มีความเป็นเอกลกั ษณ์เป็นสถานที่ปฏิบตั ิธรรม นางสุรารักษ์ ติมนาค ผใู้ หข้ อ้ มลู ครู กศน.ตาบลเขาขลุง

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ชื่อ วดั สัมมาราม สถานท่ีต้งั บา้ นสมั มารามหมู่ที่ 10 ตาบลเขาขลุง อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็นมา โดยสงั เขป วดั สัมมาราม ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ ง จ.ราชบุรี ปี 2535 จดั สร้างสมยั พระครูไพศาลพฒั นโกศล เจา้ อาวาส ปัจจุบนั มีพระ ครู ปัญญาภิยตุ เป็นเจา้ อาวาส. ศิลปะ/วฒั นธรรม ท่ีโดดเด่น รายละเอียด (ระบุ) วดั สมั มาราม ศิลปะของโบสถแ์ ละอุโบสถ มีความเป็นเอกลกั ษณ์ นางสุรารักษ์ ติมนาค ผใู้ หข้ อ้ มลู ครู กศน.ตาบลเขาขลุง

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ชื่อ วดั ไผส่ ามเกาะ สถานที่ต้งั หมู่ที่ 12 บา้ นไผส่ ามเกาะ ตาบลเขาขลุง อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็นมา โดยสังเขป วดั ไผส่ ามเกาะต้งั เมื่อ พ.ศ.2476 ไดม้ ีราษฎรบา้ นเบิกไพร ไดย้ กครอบครัวมาต้งั บา้ นเรือน ทาไร่ ทานา ในถิ่นฐานน้ี ซ่ึง ขณะน้นั บริเวณพ้นื ท่ีมีไมไ้ ผข่ ้ึนอยตู่ ามเนินดินเป็ นเกาะๆ อยู่ 3 เกาะ จึงเรียกวา่ บา้ นไผส่ ามเกาะ วดั ไผส่ ามเกาะในสมยั เร่ิมแรกพระอาจารยม์ ว่ ง จกั หม่ืนภผู า และอาจารยค์ ้า ไดเ้ ป็นผรู้ ิเริ่มสร้างวดั ไผส่ ามเกาะ โดยไดส้ ร้างกุฏิไมข้ ้ึนหน่ึงหลงั เม่ือประมาณปี พ.ศ.2476 เป็ นเวลาผา่ นมาถึงปี พ.ศ.2523 ได้ 47 ปี ไดช้ ารุดทรุดโทรมจนใชก้ ารไม่ไดท้ างวดั จึงทาการ ร้ือถอนเอาสถานท่ีนน่ั สร้างกุฏิสงฆข์ ้ึนใหม่ต้งั แตป่ ี พ.ศ.2490 เป็นตน้ มา หลวงป่ ูหนูไดร้ ับการต้งั ต้งั ใหเ้ ป็นเจา้ อาวาสวดั ไผส่ ามเกาะ ศิลปะ/วฒั นธรรม ท่ีโดดเด่น รายละเอียด (ระบุ) วดั ไผส่ ามเกาะ เป็นวดั ที่อยใู่ นเขตตาบลเขาขลุง เป็นท่ีประดิษฐานพระพทุ ธรูปเก่าแก่ พระพทุ ธศากยมุนีศรี รัตนโกสินทร์ และเป็นศูนยร์ วมจิตใจของชาวเขาขลุงทุกคน นางสุรารักษ์ ติมนาค ผใู้ หข้ อ้ มูล ครู กศน.ตาบลเขาขลุง

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ชื่อ วดั โป่ งยอ สถานที่ต้งั บา้ นโป่ งยอ หมู่ที่ 13 ตาบลเขาขลุง อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็นมา โดยสงั เขป วัดโป่ งยอ เป็นวดั ราษฎร์ในนิกายมหานิกาย วัดโป่ งยอ ต้งั อยทู่ ่ี ม. 13 ตาบลเขาขลุง อาเภอบ้านโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี. ศิลปะ/วฒั นธรรม ท่ีโดดเด่น รายละเอียด (ระบุ) ศิลปะของโบสถแ์ ละอุโบสถ มีความเป็นเอกลกั ษณ์ นางสุรารักษ์ ติมนาค ผใู้ หข้ อ้ มลู ครู กศน.ตาบลเขาขลุง

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ช่ือ วดั หนองไก่ขนั สถานที่ต้งั บา้ นหนองไก่ขนั หมทู่ ่ี 15 ตาบลเขาขลุง อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็นมา โดยสังเขป เร่ิมก่อต้งั วดั ปี พ.ศ.2507 เริ่มจากมีศาลาการประเล่ียน หลงั เก่า มีเจา้ อาวาสองคท์ ่ี 1 หลวงพอ่ เกษม 2.หลวงตาสม 3.หลวงพอ่ นิยม 4.พระมหาสมศกั ด์ิ จนถึงปัจจุบนั ศิลปะ/วฒั นธรรม ที่โดดเด่น รายละเอียด (ระบุ) เป็นสถานท่ีศกั ด์ิสิทธ์ิศิลปะของโบสถแ์ ละอุโบสถ มีความเป็นเอกลกั ษณ์ นางสุรารักษ์ ติมนาค ผใู้ หข้ อ้ มูล ครู กศน.ตาบลเขาขลุง

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ชื่อ วดั สระสี่มุม สถานที่ต้งั บา้ นสระส่ีมุม หมู่ที่ 18 ตาบลเขาขลุง อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็นมา โดยสงั เขป 1. วดั สระส่ีมุม สระส่ีมุม เป็นสระน้าโบราณ ที่กองทพั ทหารขดุ ข้ึนเพ่ือเป็นท่ีกกั เก็บน้าไวใ้ ชใ้ นฤดูแลง้ ยามศึก สงคราม มีขนาดกวา้ ง 137 เมตร ยาว 133 เมตร มีลกั ษณะเป็นสี่เหล่ียมส่ีมุม เกิดข้ึนจากการชกั ชวนกนั ใหต้ ้งั วดั ข้ึนใหม่ของชาวบา้ นท่ีบา้ นสระสี่มุม เพราะตอ้ งไปทาบุญที่วดั เขาขลุงไกลมาก จึงเร่ิมต้งั วดั ข้ึน โดย นางริ้ว เป็น ผรู้ ิเร่ิมก่อต้งั ร่วมกบั ชาวบา้ น เดิมวดั ต้งั อยตู่ ิดลาหว้ ยทางทิศเหนือของสระสี่มุม ห่างจากสระประมาณ 2 เส้น ต้งั ข้ึนเม่ือ พ.ศ. 2475 ไดร้ ับพระราชทานวสิ ุงคามสีมาเมื่อวนั ท่ี 10 มีนาคม พ.ศ. 2515 1.หลวงพอ่ ที 2.หลวงพอ่ โท่3.หลวงพอ่ ช่ืน4.พระอธิการสวา่ ง5.พระอธิการพวง6.พระครูสังฆรักษเ์ ทิ้ม วรปทุโม7.พระครูวหิ ารการโกวทิ (สมศกั ด์ิ อุวฒทโน) พ.ศ.2533 - ปัจจุบนั เป็นเจา้ อาวาส ศิลปะ/วฒั นธรรม ที่โดดเด่น รายละเอียด (ระบุ) ศิลปะของโบสถแ์ ละอุโบสถ มีความเป็นเอกลกั ษณ์ นางสุรารักษ์ ติมนาค ผใู้ หข้ อ้ มลู ครู กศน.ตาบลเขาขลุง

ข้อมูลด้านศาสนา/วฒั นธรรม กศน.อาเภอบ้านโป่ ง ชื่อ อุทยานเขาตะครอง สถานที่ต้งั บา้ นสระส่ีมุม หมู่ที่ 18 ตาบลเขาขลุง อาเภอบา้ นโป่ ง จงั หวดั ราชบุรี ประวตั ิความเป็นมา โดยสังเขป ในช่วงน้ีวา่ มีน้าไหลซึมออกจากฐานพระองคใ์ หญ่ บนยอดเขาตะครอง หมู่ที่ 18 ต.เขาขลุง อ.บา้ นโป่ ง จ.ราชบุรี และมี ชาวบา้ นแห่ข้ึนบนยอดเขาเพ่ือนาน้าที่ไหลซึมออกมาน้นั ไปรักษาโรคเมื่อไปตรวจสอบ พบวา่ สถานท่ีดงั กล่าวเป็นศูนย์ ปฏิบตั ิธรรม อุทยานเขาตะครอง บนยอดเขามีพระประธานองคใ์ หญ่ แต่ตอ้ งเดินข้ึนเขาทางบนั ไดมีท้งั หมด 293 ข้นั ข้ึน ไปถึงพบพระประธานองคใ์ หญ่ สีเหลือง หนา้ ตกั กวา้ ง 8.50 เมตร สูง 11 เมตร ดวงตาทาดว้ ยนิลประดบั ดว้ ยมุข ท้งั องค์ สร้างดว้ ยกระเบ้ืองโมเสก มีฐานพระเป็นคอนกรีตเสริมเหลก็ ขนาดใหญ่ ท่ีฐานพบชาวบา้ นกาลงั นาฟองน้าและผา้ มาซบั น้าที่ไหลซึมออกมาชาวบา้ นบอกวา่ หลายคนนาน้าไปรักษาโรคปวดขอ้ ปวดตามเน้ือตามตวั เมื่อทาแลว้ จะหายทนั ที เม่ือ ตรวจสอบที่ฐานพระ พบวา่ ฐานพระท้งั สองขา้ ง มีน้าซึมไหลออกมาตลอดเวลา แต่ไม่มีใครทราบวา่ ไหลออกมาได้ อยา่ งไร เนื่องจากพระองคใ์ หญ่ ท่ีชาวบา้ นเรียกวา่ หลวงพอ่ โต หรือหลวงพอ่ เขาตะครอง ต้งั อยบู่ นยอเขาและมีฐานพระ ทาดว้ ยคอนกรีต นายมานพ วรรณเครือ ผใู้ หญ่บา้ นหมู่ท่ี 2 บอกวา่ หลวงพอ่ โต หรือหลวงพอ่ ตะครอง สร้างเม่ือปี พ.ศ. 2539 โดยชาวบา้ นไดร้ ่วมกนั สร้างข้ึนเพ่ือเป็นพทุ ธบูชา และถวายในวโรกาสพระราชพิธีทรงครองราชยค์ รบ 50 ปี ของ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั จากน้นั ไดจ้ ดทะเบียนเขาลูกน้ีเป็นอุทยานแห่งชาติ ต่อมาไดม้ ีประชาชนต่างจงั หวดั และ ชาวบา้ นใกลเ้ คียง มาเท่ียวและข้ึนมากราบไหวห้ ลวงพอ่ โต เมื่อชาวบา้ นข้ึนมาพบวา่ ท่ีฐานพระมีน้าซึมไหลออกมา ตลอด ตอนแรกชาวบา้ นนึกวา่ น้าท่ีขงั อยโู่ ดยรอบ แต่พอหนา้ แลง้ ไมม่ ีฝนตกน้ากซ็ ึมไหลออกมาที่ฐานพระท้งั สองขา้ ง ทาใหช้ าวบา้ นต่างวพิ ากษว์ จิ ารณ์ส่วนหน่ึงเชื่อวา่ น้าท่ีซึมออกมาน้นั เป็นน้าศกั ด์ิสิทธ์ิ จึงไดม้ ีชาวบา้ นนาฟองน้าหรือผา้ มาซบั น้าท่ีไหลออกมาแลว้ บิดใส่ขวด เพ่ือนาไปรักษาโรค หลงั จากน้นั ข่าวการนาน้าที่ฐานพระไดก้ ระจายไปทว่ั ทาให้ ชาวบา้ นต่างแห่กนั ข้ึนมานาน้าไปรักษาโรคเช่นกนั บางคนนาไปทาโรคปวดแขน ปวดขา ปวดตามตวั จนหายเป็น ปกติ อยา่ งไรกต็ ามน้าท่ีไหลซึมออกมาจากฐานพระน้นั ยงั ไม่มีใครทราบวา่ เกิดจากสาเหตุใดและการนาน้าน้นั ไปรักษา โรคกเ็ ป็ นความเชื่อของชาวบา้ นทุกวนั น้ีจึงมีประชาชนเดินทางข้ึนไปอยตู่ ลอดเวลา และอนาคตเช่ือวา่ หลวงพอ่ โต หรือ หลวงพอ่ เขาตะครองที่อยบู่ นยอดเขาแห่งน้ี จะเตม็ ไปดว้ ยผคู้ นที่แห่กนั มานาน้าศกั ด์ิสิทธ์ิไปรักษาโรคโรคท่ีรักษาดว้ ย ความเชื่อและศรัทธา ศิลปะ/วฒั นธรรม ท่ีโดดเด่น รายละเอียด (ระบุ) พระประธานองคใ์ หญ่ สีเหลือง หนา้ ตกั กวา้ ง 8.50 เมตร สูง 11 เมตร ดวงตาทาดว้ ยนิลประดบั ดว้ ยมุข ท้งั องคส์ ร้างดว้ ย กระเบ้ืองโมเสก มีฐานพระเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่

นางสุรารักษ์ ติมนาค ผใู้ หข้ อ้ มลู ครู กศน.ตาบลเขาขลุง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook