พฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ของ ทวีปยโุ รป
สารบญั 1.ท่ีตงั้ และสภาพภมู ิศาสตร์ 2.ความเป็นมาทางประวตั ิศาสตร์ 3.พฒั นาการดา้ นการเมืองการปกครอง 4.พฒั นาการดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม 5.พฒั นาการดา้ นเศรษฐกิจ
ท่ีต้งั และสภาพภูมิศาสตร์ ทวีปยโุ รปตงั้ อยใู่ นซีกโลกเหนือ ประกอบดว้ ยท่ีราบลมุ่ ท่ี ราบสงู เทือกเขา และมีคาบสมทุ รจานวนมาก จงึ ไดช้ ่ือวา่ เแปล็นะดกนิารแมดีแนมแน่หา้ง่ สคาายบตสา่มงทุ ๆร รคววมาทมงั้อกดุ ามรสมมีอบณุ รู หณภข์ มู อิทง่ีอผบืนอดนุ่ิน เหลา่ นีเ้ ป็นปัจจยั สาคญั ท่ีดงึ ดดู ใหผ้ คู้ นเขา้ มาตงั้ หลกั แหลง่ ทวปี ยโุ รปตงั้ อยรู่ ะหวา่ งละตจิ ดู ประมาณ 36 องศาเหนือ ถงึ 71 องศาเหนือ และลองจจิ ดู ประมาณ 9 องศา ตะวนั ตก ถงึ ลองจจิ ดู ประมาณ 66 องศาตะวนั ออก กลา่ วคือ ทวีปยโุ รป มีพืน้ ท่ีทงั้ หมดอยเู่ หนือเสน้ ทอยรอใู่ นปเิกขอตออฟาแกคาศนอเซบออรนุ่ ์ (เลหะนตือิจเดูกทือบ่ี 2ท3งั้ ½หมอดงยศกาเวเหน้ นตืออ)นซง่ึ เหนือสดุ ของทวีปเทา่ นนั้ ท่ีอยใู่ นเขตอากาศหนาวเหนือ
ความเป็นมาทางประวตั ิศาสตร์ ทวีปยโุ รป เป็นทวีปท่ีอยบู่ นผืนแผน่ ดนิ เดียวกบั ทวีปเอเชีย มีลกั ษณะคลา้ ยกบั เป็นคาบสมทุ รใหญ่ของทวีปเอเชีย จงึ มีผเู้ รยี กทวีปยโุ รป และเอเชียรวมกนั วา่ “ยเู รเซีย” พรมแดนธรรมชาตทิ ่ีใช้ เป็นแนวแบง่ ทวีปยโุ รปกบั ทวีเอเชียออก จากกนั คือ แนว เทือกเขาอรู าลและ แมน่ า้ อรู าล
พฒั นาการดา้ นการเมืองการปกครอง โดยท่วั ไปกล่าวไดว้ า่ ในอดีตดนิ แดนสว่ นใหญ่ของทวีปยโุ รปมีกษัตรยิ เ์ ป็น ประมขุ สงู สดุ แมแ้ ต่ในสมยั กรกี เรอื งอานาจเม่ือกว่า ๕๐๐ ปีก่อนครสิ ตศ์ กั ราช ระบอบการปกครองแบบกษัตรยิ ก์ ็เป็นท่ีรูจ้ กั กนั แพรห่ ลายแลว้ ในสมยั จกั รวรรดิโรมนั (๒๗ ปีก่อนครสิ ตศ์ กั ราช-ค.ศ.๔๗๖) พระประมขุ สงู สดุ เรยี กว่า ซีซารห์ รอื จกั รพรรดซิ ง่ึ ทรงปกครองอาณาบรเิ วณกวา้ งขวางครอบคลมุ พืน้ ท่ีใน ยโุ รปและบางส่วนของเอเชียและแอฟรกิ า เม่ือจกั รวรรดิโรมนั ลม่ สลายลงใน ค.ศ. ๔๗๖ ยโุ รปไดเ้ ขา้ ส่สู มยั กลาง (Middle Ages ค.ศ. ๔๗๖-๑๔๙๒)ท่ี ระยะแรกๆบา้ นเมืองแตกแยกจากการเขา้ รุกรานของพวกอนารยชนเผ่ากอท (Goth) หรอื ชนเผ่าเยอรมนั ท่ีอพยพลงมาจากตอนเหนือ ระบอบการปกครอง แบบรวมศนู ยอ์ านาจของโรมสลายตวั บา้ นเมืองไรข้ ่ือแป ประมวลกฎหมาย โรมนั ท่ีใชบ้ งั คบั ท่วั ทงั้ จกั รวรรดิถกู ละทงิ้ เกิดเป็นระบอบการปกครองแบบฟิวดลั (feudalism) หรอื การปกครองแบบกระจายอานาจการปกครองตกอย่ใู น มือของขนุ นางเจา้ ของท่ีดิน และมีการใชก้ ฎหมายจารตี ประเพณี (customary law) ของพวกอนารยชนแทนประมวลกฎหมายโรมนั อยา่ งไรก็ดี กษัตรยิ ก์ ็ยงั คงไดร้ บั การยกยอ่ งว่าเป็นเจา้ ของแผ่นดินและไดร้ บั การ ยกยอ่ งว่าเป็นพระประมขุ (แตไ่ ม่มีอานาจ) แต่ในปลายสมยั กลางกษัตรยิ ต์ ่าง สามารถสถาปนาอานาจปกครองแบบรวมศนู ยอ์ านาจและสรา้ งรฐั ชาติ (nation state) ท่ีรวมดินแดนต่างๆ เขา้ เป็นชาตเิ ดียวกนั ได้ ซ่งึ พระราช อานาจในการปกครองของกษัตรยิ ใ์ นดินแดนต่างๆ มีพฒั นาการท่ีแตกต่างกนั
พฒั นาการดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม สมยั โบราณ กรกี และโรมนั เป็นสงั คมชนชนั้ โดยแบง่ พลเมอื ง เป็นชนชนั้ ปกครอง ไดแ้ ก่ ผนู้ าทางการเมอื ง เชน่ กษัตรยิ ์ กงสลุ จกั รพรรดิ รวมถงึ ทหารและขนุ นาง และชนชนั้ ท่ีถกู ปกครอง ไดแ้ ก่ เสรชี นท่ปี ระกอบอาชีพตา่ ง ๆ เชน่ พอ่ คา้ เกษตรกร ชา่ งฝีมอื รวมถึงทาส สมยั กลาง เป็นสงั คมแมน เนอรท์ ่มี ีปราสาทของขนุ นางเป็นศนู ยก์ ลางชมุ ชน แบ่งออกเป็น 2 ชนั้ คือ ชนชนั้ ปกครองประกอบดว้ ยกษัตรยิ ์ ขนุ นาง และ บาทหลวง และชนชนั้ สามญั ชน สมยั ใหม่ ลกั ษณะทาง สตง่าั คงมๆแมลกี ะาวรฒั รอื้นฟธื้นรรวมทิ เยจารญิกากรา้สวาหขนาตา้ โา่ ดงยๆเฉขพอางะกทรกีางแคลวะาโมรมรูนดั้ า้ น ทาใหเ้ กิดการปฏิวตั วิ ิทยาศาสตร์ การประดิษฐ์แท่นพิมพข์ นึ้ ใช้ ไดผ้ ลเป็นครงั้ แรกในยโุ รป เม่อื ค.ศ. 1454 ทาใหม้ ีการอา่ น หนงั สือกนั อยา่ งกวา้ งขวาง
พฒั นาการ ทวีปยโุ รปมีพฒั นาการดา้ น เศรษฐกิจ 3 รูปแบบ ดงั นี้ ดา้ นเศรษฐกิจ 1. เศรษฐกิจแบบพาณิชยน์ ิยมรฐั ควบคมุ อตุ สาหกรรม และการคา้ กบั ตา่ งประเทศ ตลอดจนกีดกนั การนาเขา้ จาก ตา่ งประเทศ 2. เศรษฐกิจแบบทนุ นิยม เอกชนแขง่ ขนั เสรที างดา้ น อตุ สาหกรรมและการเงิน 3. เศรษฐกิจแบบสงั คมนิยม เป็นระบบเศรษฐกิจท่ีมี ความ เสมอภาค ยกเลกิ กรรมสทิ ธิ์สว่ นบคุ คล และ อานาจการผลิตอยทู่ ่ีชนชนั้ แรงงาน
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: