Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี ก่อตั้งขึ้นในปี

สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี ก่อตั้งขึ้นในปี

Published by Supatpong Kapongtong, 2021-03-10 07:28:34

Description: สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี ก่อตั้งขึ้นในปี

Search

Read the Text Version

+ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี ก่อต้งั ขนึ้ ในปี พ.ศ. 2423 (ค.ศ. 1880) ในชื่อทมี เซนต์มากส์ (เวสต์กอร์ตนั ) โดยมี แอนนา คอนเนลล์ และ ผ้ดู ูแลโบสถ์ เซนต์มากส์ อกี 2 คน เป็ นผู้ร่วมก่อต้งั แต่เดมิ ทีมนีต้ ้งั อยู่ท่ี ตาบลกอร์ตนั ทางตะวนั ออก ของเมืองแมนเชสเตอร์ ก่อน จะย้ายไปอยู่ที่สนามใหม่ ในย่านไฮด์ โรด ของเมืองอาร์ดวกิ ใกล้กบั แมนเชสเตอร์ และ ได้เปลย่ี นช่ือทมี ไปเป็ น “อาร์ดวกิ เอเอฟซี” ตามสถานท่ตี ้งั จากน้นั อาร์ดวกิ ได้เข้า ร่วมแข่งขนั ฟุตบอลลกี องั กฤษ ในฐานะสมาชิกก่อต้งั ในระดบั ดวิ ชิ ัน 2 เม่ือปี พ.ศ. 2435 (ค.ศ. 1892)

มาสโมสรฟุตบอลอารเ์ ซนอลเร่ิมต้นขนึ้ เมื่อกลุ่มคนงานของโรงงานผลิตอาวุธรอยัลอาร์เซนอลในแขวงวลู ิช กรุง ลอนดอน ก่อตง้ั ทีมฟุตบอลของตนเองข้ึนมาเมอ่ื ปลายปี ค.ศ. 1886 ในชื่อ ไดอลั สแควร์ การแขง่ ขันแรกของทีมคอื เกมทีส่ ามารถเก็บชัยชนะเหนอื ทีมอีสเทิร์น วนั เดอเรอรส์ 6-0 เมอื่ วันที่ 11 ธนั วาคม ค.ศ. 1886 หลงั จากนั้นไมน่ านก็ เปล่ยี นช่ือเปน็ รอยลั อาร์เซนอล และยงั คงแข่งขันในเกมอนุ่ เครอ่ื งและรายการทอ้ งถนิ่ ต่อไป จากน้ันไดก้ ้าวข้นึ มาเปน็ สโมสรฟุตบอลอาชพี แล้วหันมาใชช้ ่อื วูลชิ อารเ์ ซนอลในปี 1891 สโมสรแห่งนไ้ี ด้เข้ารว่ มการแขง่ ขนั ฟุตบอลลีกเป็น คร้งั แรกในปี 1893 ในดิวชิ นั่ 2 จากน้ันในปี 1904 ก็ไดก้ ้าวขึ้นมาอยดู่ วิ ิชน่ั 1 เปน็ คร้งั แรก อยา่ งไรกต็ าม ในทาง ภมู ิศาสตรน์ นั้ จะเห็นวา่ สโมสรแหง่ นี้ตง้ั อยโู่ ดดเดย่ี วเกินไป สง่ ผลกระทบให้จานวนผชู้ มมีนอ้ ยกว่าสโมสรอ่ืนจนกระท่ัง ทมี ต้องประสบกับปญั หาทางการเงนิ อย่างหนักจนนาไปสกู่ ารยุบทีมในปี 1910 เมอื่ เฮนรี นอร์ริสได้เขา้ มาเทคโอเวอร์ [9] นอร์ริสพยายามมองหาแนวทางทจ่ี ะยา้ ยท่ตี ัง้ ของสโมสรไปอยู่ทอี่ ื่นจนกระท่ังในปี 1913 หลงั จากท่ตี กชั้นดิวชิ น่ั 1 มาอยู่ดิวิชน่ั 2 เหมือนเดิมนั้น อาร์เซนอลก็ไดย้ า้ ยไปอยู่ท่ีอาร์เซนอลสเตเดยี มในย่านไฮบวิ ร่ี บริเวณลอนดอนเหนือ ในปีตอ่ มา สโมสรได้ตัดสนิ ใจตัดคาวา่ \"วลู ิช\" ออกจากชอ่ื สโมสรจนเหลือเพียง อารเ์ ซนอล เท่าทเ่ี หน็ ในปจั จุบัน [10] หลังจากสน้ิ สุดสงครามโลกคร้งั ท่ี 1 ลกี ดิวิชั่น 1 กเ็ พ่มิ จานวนทีมเป็น 22 ทีม อาร์เซนอลได้อันดบั 5 ของดวิ ิชนั่ 2 ในปี 1919 แต่ถึงกระนน้ั ก็ได้รับเลอื กให้กลบั ขน้ึ สู่ดิวิชัน่ 1 อีกครง้ั หนึ่ง[11] และอารเ์ ซนอลก็ไมเ่ คยถูกลดชัน้ หรือตกช้ัน เลยนบั ตงั้ แต่นน้ั

สโมสรฟุตบอลเชลซี ก่อต้งั ในวนั ที่ 11 มีนาคม ค.ศ.1905 โดย กสุ เมียร์ส และได้ เปลี่ยนสนามสแตมฟอร์ดบริดจจ์ ากสนามกรีฑาเป็นสนามฟุตบอล โดยในตอนแรกจะใชช้ ่ือวา่ ฟูแลมเอฟซี แต่ไปซ้ากนั กบั สโมสรฟุตบอลฟแู ลม เลยตอ้ งเปลี่ยนชื่อ โดยตอนแรกใชช้ ่ือวา่ เคน ชิงตนั เอฟซี,สแตมฟอร์ดบริดจเ์ อฟซี แต่สุดทา้ ยกเ็ ปลี่ยนช่ือมาเป็น ลอนดอน เอฟซี และ เปลี่ยนเป็นเชลซีเอฟซี และไดก้ ่อต้งั ณ ผบั ไรซิ่งซนั (ณ ปัจจุบนั ช่ือ เดอะบุชเชอร์สฮุก) สโมสรเชลซีไดเ้ ล่ือนช้นั มาเล่นดิวชิ นั่ 1คร้ังแรกในซีซนั่ ท่ี2หลงั การก่อต้งั สโมสร (ฤดูกาล 1906-07) แต่พวกเขากล็ งไปข้ึนมาระหวา่ งดิวชิ นั่ 1และดิวชิ นั่ 2เรื่อยๆ พวกเขา เขา้ ชิงชนะเลิศเอฟเอคพั ในปี 1915 แต่กแ็ พส้ โมสรฟุตบอลเชฟฟี ลดเ์ วนส์เดยท์ ่ีสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดไป 0 ประตูต่อ 3 และจบอนั ดบั ที่3ในดิวชิ นั่ 1ฤดูกาล 1919-20 และพวก เขากเ็ ริ่มซ้ือสตาร์ดงั เขา้ ทีมมากข้ึน

สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พลู ก่อต้งั หลงั เกิดขอ้ พิพาทระหวา่ งคณะกรรมการของเอฟเวอร์ตนั กบั จอหน์ โฮลดิง ประธานสโมสรและเจา้ ของที่ดินแอนฟี ลด์ เอฟเวอร์ตนั ยา้ ยไปกดู ิสันพาร์กใน ค.ศ. 1892 หลงั ใชง้ านแอนฟี ลดเ์ ป็นระยะเวลาแปดปี และโฮลดิงก่อต้งั สโมสรฟุตบอลลิเวอร์ พลู เพื่อเล่นในแอนฟี ลด[์ 9] แต่เดิมใชช้ ่ือวา่ \"สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตนั และแอตแลติกกราวด์ สจากดั \" (องั กฤษ: Everton F.C. and Athletic Grounds Ltd) (หรือ เรียกส้นั ๆ วา่ เอฟเวอร์ตนั แอตแลติก) สโมสรกลายเป็นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พลู ในเดือน มีนาคม ค.ศ. 1892 และไดร้ ับการยอมรับอยา่ งเป็นทางการในอีกสามเดือนต่อมา หลงั สมาคม ฟุตบอลปฏิเสธท่ีจะยอมรับสโมสรวา่ เป็นเอฟเวอร์ตนั

สโมสรฟุตบอลทอตนมั ฮอตสเปอร์ก่อต้งั ข้ึนในปี ค.ศ. 1882 โดยใชช้ ื่อ ฮอตสเปอร์ เอฟซี มี สนามประจาสโมสรคือ ทอตนัม มาร์เชส แต่แลว้ ในปี ค.ศ. 1897 สนาม ทอตนมั มาร์เชส ไดถ้ ูกระงบั การใชง้ านอยา่ งถาวร เนื่องจากเกิดปัญหาสงครามโลกข้ึน โดย ฮอตสเปอร์ เอฟซี ได้ เช่าบริเวณยา่ นเมือง นอททมั เบอร์แลนด์ และขอเช่าสนาม นอททมั เบอร์แลนด์ พาร์ค เป็นเวลา 8 ปี ก่อนท่ีจะยา้ ยไปยงั สนาม ไวตฮ์ าร์ตเลน สนามประจาสโมสรในปัจจุบนั โดยสโมสรแห่งน้ี เล่นในลีกทางใตข้ อง ประเทศองั กฤษ ซ่ึงไดแ้ ชมป์ ของลีกทางใต้ 1 สมยั ในปี ค.ศ. 1900 จนกระทง่ั ในปี ค.ศ. 1908 ฮอตสเปอร์ เอฟซี ไดย้ า้ ยไปเล่นใน ฟุตบอลลกี ดวิ ชิ ั่น 2 ของ ประเทศองั กฤษ โดยก่อนหนา้ น้นั สเปอส์ไดแ้ ชมป์ เอฟเอคพั ถว้ ยท่ีเก่าแก่ท่ีสุดในการ แข่งฟุตบอลใน ประเทศองั กฤษ ในปี ค.ศ. 1901 ท้งั ที่ยงั เป็นทีมสมคั รเล่นอยู่ และในปี ค.ศ. 1908 สเปอส์กไ็ ดร้ องแชมป์ ฟุตบอลลีกดิวชิ น่ั 2 ซ่ึงนกั ฟุตบอลชื่อดงั ของสเปอส์ในสมยั น้นั คือ อาเทอร์ กริมส์เดล กปั ตนั ทีมของสเปอส์

แมนเชสเตอร์ยไู นเตด็ ก่อต้งั ข้ึนเม่ือ ค.ศ. 1878 ในช่ือสโมสรฟุตบอลนิวตนั ฮีตแอล วายอาร์ (องั กฤษ: Newton Heath LYR Football Club) โดย พนกั งานแผนกตโู้ ดยสารและตสู้ ินคา้ ของโรงซ่อมบารุงรถไฟแลงคาเชียร์และยอร์ก เชียร์ที่นิวตนั ฮีต[18] ในช่วงแรก ทีมแขง่ ขนั กบั แผนกและบริษทั รถไฟอ่ืน ๆ แต่เม่ือ วนั ท่ี 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1880 พวกเขาแขง่ ขนั ในนดั แรกท่ีมีการบนั ทึกไว้ โดย สวมเส้ือสีประจาบริษทั อยา่ งสีเขียวและสีทอง นดั น้นั พวกเขาพา่ ยแพต้ ่อทีมสารองของ โบลตนั วอนเดอเรอส์ดว้ ยผลประตู 6–0[19] ต่อมาใน ค.ศ. 1888 สโมสร กลายเป็นสมาชิกผกู้ ่อต้งั ของเดอะคอมบิเนชนั ลีกฟุตบอลระดบั ภูมิภาค แต่หลงั จากยบุ ลีกในช่วงเวลาผา่ นไปเพียงฤดูกาลเดียว นิวตนั ฮีทเขา้ ร่วมฟุตบอลอลั ไลแอนซ์ที่เพงิ่ ก่อต้งั ใหม่ โดยแข่งขนั สามฤดูกาลก่อนที่ลีกจะถกู รวมเขา้ กบั ฟุตบอลลีก ส่งผลให้ สโมสรเริ่มตน้ ฤดูกาล 1892–93 ในเฟิ สตด์ ิวชิ นั ณ เวลาน้นั พวกเขาแยกตวั ออก จากบริษทั รถไฟและนาคาวา่ \"แอลวายอาร์\" ออกจากช่ือ[18] สองฤดูกาลถดั มา สโมสร ตกช้นั สู่เซคนั ดด์ ิวชิ นั

เวสตแ์ ฮมยไู นเตด็ จดั เป็นสโมสรฟุตบอลขนาดเลก็ ต้งั ข้ึนในปี ค.ศ. 1895 โดย คนงานในโรงงานถลุงเหลก็ จึงเป็นที่มาของฉายา The Irons หรือ The Hammers (ขนุ คอ้ น-ในภาษาไทย) มีสีประจาคือ สีฟ้ า-แดงเลือดหมู ไดร้ ับ การยกยอ่ งวา่ เป็น สถาบนั ฟุตบอล (The Academy of Football) เพราะ เป็นทีมขนาดเลก็ ท่ีป้ันนกั ฟุตบอลท่ีต่อมามีช่ือเสียงและประสบความสาเร็จกบั สโมสร ใหญ่ ๆ หลายคน ต้งั แต่อดีตจนปัจจุบนั เช่น บอ๊ บบ้ี มวั ร์, จอฟฟ์ เฮิร์สต,์ ริโอ เฟอร์ดิ นานด,์ ไมเคิล คาร์ริก, โจ โคล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, เจอร์เมน เดโฟ เป็นตน้ และยงั มี นกั เตะชื่อดงั เขา้ มาเลน่ ใหท้ ีมเช่น จิแลร์โม่ ฟรังโก้ ,ดิเอโก้ ตริสตนั ,เปาโล ดิ คานิโอ ,การ์โลส เตเบซ, คาเบียร์ มาเชราโน,อเลาโญ่ อิลาน,ดาวอร์ ซูเคอร์ เป็นตน้ ใน ประวตั ิศาสตร์ผจู้ ดั การทีมจะเป็นชาวสหราชอาณาจกั รยกเวน้ มีเพียงคนเดียวที่เป็น ต่างชาติคือ จนั ฟรังโก โซลา ท่ีเป็นอิตาลี เวสตแ์ ฮมเคยเขา้ ชิงชนะเลิศเอฟเอ คพั กบั ลิ เวอร์พลู ในฤดูกาล 2005-2006 แต่กไ็ ดเ้ พียงรองแชมป์

สโมสรก่อต้งั ในปี ค.ศ. 1884 โดยใชช้ ่ือวา่ เลสเตอร์ฟอสส์ (Leicester Fosse)[3] โดยเดก็ นกั เรียนกลุ่มหน่ึงท่ีเรียนอยใู่ นโรงเรียนโบสถท์ ่ีเคร่งครัด ลงขนั กนั เพ่ือซ้ือลกู ฟุตบอลราคา 9 เพนนี มาเตะเลน่ โดยการแข่งขนั นดั แรกของสโมสร ตามท่ีบนั ทึกไวใ้ นหนงั สือพิมพเ์ ดอะมิร์เรอร์วา่ เลสเตอร์ฟอสซี แข่งนดั แรก และเป็น ฝ่ ายชนะ ซิสตนั ฟอสส์ (Syston Fosse) ในวนั ท่ี 1 พฤศจิกายน ปี เดียวกนั โดยเล่นในสนามละแวกถนนฟอสส์ ชื่อ วกิ ตอเรียพาร์ก (Victoria Park) ท่ี แตกต่างไปจากสโมสรอื่น ๆ คือ เลสเตอร์ซิตีมีสนามเหยา้ ของตวั เองก่อนการประกาศ ก่อต้งั สโมสรอยา่ งเป็นทางการ เน่ืองจากในปถดั มา คือ ค.ศ. 1886 เมื่อมีสมาชิก ของสโมสรครบ 40 คน เลสเตอร์ซิตีจึงประกาศเป็นทางการวา่ ปี ค.ศ. 1886 เป็น ปี ก่อต้งั อยา่ งเป็นทางการ ก่อนท่ีจะเปล่ียนมาเป็นเลสเตอร์ซิตีในปี ค.ศ. 1919

ช่ือสมาชิก 1.เกียรตศิ กั ดิ์ เบ้าเคลอื บ เลขที2่ 2.ณฐั นนท์ เสือเจริญ เลขท่5ี 3.นนทวฒั น์ วงศ์กรด เลขที8่ 4.นรินทร์ภสั ร์ ผาพิมพ์ เลขท่ี9 5.นวพล ศิริจรรยา เลขท่ี10 6.ยทุ ธพีร์ บญุ สวสั ดิ์ เลขที่15 7.วงศกรณ์ บญุ ซ้อน เลขที่17 8.สพุ ฒั พงษ์ กะพงษ์ทอง เลขที่19


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook