การจัดทาหนังสอื ฉบบั ย่อย เร่ือง สงิ่ มชี วี ิตกบั สง่ิ แวดลอ้ ม ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 หน่วยการเรียนรู้ สงิ่ มีวิต กบั สง่ิ แวดลอ้ ม จดั ทาข้นึ เพ่ือใช้ประกอบในการจดั การ เรยี นรู้ และพัฒนาการเรยี นการสอน ชว่ ยให้ผู้เรียนสามารถ เรียนรู้ สืบค้นข้อมูล หนังสอื ฉบบั นที้ าขนึ้ เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ทคี่ งทน มีเจตคตติ ่อวิทยาศาสตร์ และนาขอ้ มูลไปใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ได้ จดั ทาโดย นภาพร วัชฤทธกิ์ ุล
เรอ่ื ง หน้า ▪ ความสัมพันธใ์ นสิง่ แวดลอ้ ม 1-5 - ส่ิงแวดลอ้ ม - ระบบนิเวศ 6-10 ▪ โซอ่ าหาร
1
ความหมายของสง่ิ แวดลอ้ ม 2 สิ่งแวดล้อม ( Environment ) หมายถงึ ทุกส่งิ ทกุ อย่างทอี่ ยู่รอบตวั มนุษย์ทง้ั ที่ มีชวี ติ และไม่มชี วี ติ รวมท้ังทเี่ ปน็ รูปธรรม (สามารถจบั ต้องและมองเหน็ ได้) และนามธรรม (ตัวอย่างเชน่ วฒั นธรรมแบบแผน ประเพณี ความเช่อื ) มอี ทิ ธิพลเกย่ี วโยงถงึ กัน เปน็ ปัจจัยใน การเกื้อหนนุ ซงึ่ กันและกนั ผลกระทบจากปัจจยั หนึ่งจะมสี ว่ นเสรมิ สรา้ งหรือทาลายอกี สว่ น หนง่ึ อย่างหลีกเลี่ยงมิได้ สิ่งแวดล้อมเป็นวงจรและวฏั จกั รทเี่ กย่ี วขอ้ งกนั ไปท้งั ระบบ ประเภทของส่ิงแวดลอ้ ม แบง่ เป็น 2 ประเภท คือ 1. ส่งิ แวดล้อมทางธรรมชาติ ไดแ้ ก่ สงิ่ แวดล้อมที่เกิดขนึ้ เองตามธรรมชาติ มี 2 ประเภท คือ 1.1 สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพ เป็นส่ิงแวดลอ้ มท่ไี มม่ ีชวี ติ เช่น อากาศ ดิน ภูเขา หว้ ย หนอง คลอง บงึ ทะเลสาบ มหาสมุทร เปน็ ตน้ 1.2 ส่งิ แวดลอ้ มทางชวี ภาพ เปน็ ส่งิ แวดล้อมทม่ี ีชวี ิต เช่น มนษุ ย์ สัตว์ ป่าไม้ พืชพรรณ ตา่ ง ๆ เปน็ ต้น 2. ส่งิ แวดล้อมที่มนุษยส์ ร้างข้นึ มี 2 ประเภท คอื 2.1 สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพ เปน็ สง่ิ ทม่ี นุษย์สร้างสามารถจบั ตอ้ งมองเห็นได้ เช่น เครือ่ งนงุ่ ห่ม อาคาร บ้านเรือน ถนน หนทาง โบราณสถาน เปน็ ตน้ 2.2 สิ่งแวดลอ้ มทางสงั คม เปน็ สิ่งท่ีมนุษย์สร้างขึ้นเพอ่ื ความเป็นระเบียบเรยี บร้อย ของการอยู่รว่ มกนั ในสังคม เชน่ วัฒนธรรม ประเพณี ศาสนา ความเชอื่ กฎหมาย เป็นตน้
ความหมายของคาต่างๆ ในระบบนเิ วศ 3 ระบบนเิ วศ (ecosystem) หมายถึง ระบบความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งกลุ่มสง่ิ มีชีวติ ทอี่ าศยั อยูร่ ่วมกันในบรเิ วณนั้น และความสัมพันธร์ ะหวา่ งกลุ่มสงิ่ มชี วี ติ กับสภาพแวดลอ้ มของ แหลง่ ทอี่ ยู่ ได้แก่ ดนิ นา้ แสง ในระบบนเิ วศจะมกี ารถ่ายทอดพลังงานระหวา่ งกลมุ่ สิง่ มชี วี ติ กลมุ่ ต่างๆ และมีการหมุนเวยี นสารต่างๆจากสง่ิ แวดลอ้ มสู่สงิ่ มีชีวิตและจาก สิ่งมีชวี ิตสูส่ ง่ิ แวดล้อม ส่ิงมีชวี ิต (Organism) หมายถงึ สิง่ ทีต่ ้องใช้พลังงานในการดารงชีวติ ซง่ึ มีลกั ษณะท่ีสาคญั ดงั น้ี 1. ต้องมีการเจรญิ เตบิ โต 2. เคล่อื นไหวไดด้ ว้ ยพลงั งานทเ่ี กดิ ขนึ้ ในร่างกาย 3. สบื พันธุ์ได้ 4. ประกอบไปดว้ ยเซลล์ 5. มกี ารหายใจ 6. มกี ารขบั ถา่ ยของเสยี ต่างๆ 7. ตอ้ งกนิ อาหาร หรอื แร่ธาตตุ า่ งๆ
4โลกของส่งิ มชี ีวติ (Biosphere) หมายถึง ระบบนิเวศหลายๆ ระบบนเิ วศมารวมกัน สิง่ แวดล้อม (Environment) หมายถึง 1. สิ่งทีม่ ผี ลตอ่ การดารงชวี ติ ของสงิ่ มีชีวติ ทาให้ส่งิ มีชวี ติ เจรญิ เตบิ โตหรอื ดารงชีวิตไดด้ ีหรอื ไม่ 2. ส่ิงทอี่ ยรู่ อบๆ ตัวเรา ท้ังทมี่ ีชวี ติ และไม่มชี ีวติ แหล่งท่ีอยู่ (Habitat) หมายถงึ สถานท่ที ่สี งิ่ มชี ีวติ อาศยั อยกู่ ระจัดกระจายอยู่ตามทต่ี า่ งๆ ทว่ั ไปเพื่อใช้เปน็ แหลง่ ที่อยูอ่ าศยั หาอาหาร หลบภยั จากศตั รู ผสมพันธุ์ วางไข่ เปน็ ต้น แหล่งที่ อยอู่ าศยั นมี้ ขี อบเขตท่ีแน่นอน แต่อาจมขี นาดแตกตา่ งกนั โพรงไมเ้ ปน็ แหล่งท่ีอย่อู าศยั ของกระรอก
แหลง่ ทีอ่ ยอู่ าศัยในนา้ (Aquatic habitat) 5 - แหล่งทอ่ี ย่อู าศัยในทะเลหรอื มหาสมุทร (Marine Ecosystem) เป็นระบบนิเวศท่ีมีนา้ เปน็ น้าเคม็ มีท้งั ทเี่ ป็นทะเลปิดและทะเลเปดิ เน่อื งจากเป็นหว้ งน้า ขนาดใหญ่ จึงนิยมแบง่ ออกเปน็ ระบบนิเวศยอ่ ยตามความลึกของน้าอกี ด้วย - แหล่งท่อี ย่ทู ีเ่ ป็นนา้ จดื (Fresh water Ecosystem) เป็นระบบที่นา้ เปน็ นา้ จดื และเป็นสถานที่ๆสง่ิ มชี วี ิตทอ่ี าศยั อยู่ ตอ้ งมกี ารปรบั ตัวในด้านต่างๆ เช่น มีร่างกายแข็งแรงพอท่จี ะต้านกระแสนา้ ได้ หรอื มีพฤตกิ รรมวา่ ยทวนน้าฯลฯ - ระบบนิเวศน้ากรอ่ ย (Estuarine Ecosystem) เปน็ ระบบนิเวศทเ่ี กิดขนึ้ ตรงรอยตอ่ ระหวา่ ง นา้ จดื กับน้าเคม็ มกั เป็นบริเวณทีเ่ ปน็ ปากแม่น้าต่าง ๆ จะมีตะกอนมากจึงมีปา่ ไมก้ ลุม่ ป่า ชายเลนขน้ึ จึงเรียกวา่ ระบบนิเวศปา่ ชายเลน แต่บางพนื้ ทีอ่ าจเปน็ แอง่ นา้ ขนาดใหญ่ ความสัมพนั ธ์ของสงิ่ มชี วี ติ และแหล่งท่ีอยู่ กลมุ่ มชี ีวติ ในแหลง่ ทีอ่ ยเู่ ดียวกัน มคี วามสมั พนั ธซ์ งึ่ กันและกนั และยงั มคี วามสมั พนั ธก์ ับ สิ่งไม่มีชีวติ ในแหล่งทีอ่ ยู่นน้ั กลุ่มสงิ่ มชี วี ติ มีความสมั พนั ธ์กบั แหลง่ ทอ่ี ยหู่ ลายดา้ นเพอ่ื การดาเนินชวี ติ อยา่ งเหมาะสม
6
ความสมั พันธ์ระหว่างสงิ่ มชี วี ิตในระบบนเิ วศ 7 ส่งิ มชี ีวติ หลายชนิดอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มของสง่ิ มีชีวติ และมคี วามสมั พนั ธเ์ กี่ยวขอ้ งกัน ทัง้ ในลกั ษณะพงึ่ พาอาศยั กันในรูปแบบตา่ งๆ เช่น การเอ้อื ประโยชนต์ อ่ กนั การแก่งแยง่ แขง่ ขัน กนั เป็นศตั รตู ่อกนั และท่สี าคัญทสี่ ดุ คอื เป็นอาหารซง่ึ กันและกนั ทาให้เกิดการถ่ายทอด พลังงานแก่กนั ในระบบนิเวศ โดยผา่ นการกนิ กนั เป็นทอดๆ ตามลาดบั เรยี กวา่ โซ่อาหาร (food chain) โซ่อาหารอาจจะสมั พนั ธก์ นั อย่างสลบั ซับซอ้ นในรูปของสายใยอาหาร (food web) สายใยอาหาร หรือวัฏจักรอาหารน้นั จะบรรยายความสมั พนั ธแ์ บบการกินกนั ในชุมชน นิเวศวทิ ยา นักนิเวศวทิ ยาสามารถรวบรวมรูปแบบชีวติ ทกุ ชนิดอยา่ งกวา้ งขวางเป็นหน่งึ ในสอง หมวดหมูท่ เ่ี รียกวา่ ระดับหรือลาดบั ขั้นการกนิ อาหาร ไดแ้ ก่ 1) ออโตทรอพ (Autotroph) คอื สง่ิ มชี วี ติ ทีส่ ามารถสร้างอาหารเองได้ โดยทาการผลติ อาหาร ขน้ึ มาจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซดท์ ่เี ปน็ แหล่งคาร์บอน และแสงหรือสารอนินทรีย์อน่ื ๆ เป็น แหลง่ พลงั งาน ส่งิ มีชีวิตประเภทออโตทรอพถกู จดั ให้เปน็ ผู้ผลติ ในห่วงโซ่อาหาร สเี ขียวจากตน้ เฟริ ์นบ่งบอกวา่ ตน้ เฟริ น์ มคี ลอโรฟลิ ล์ซง่ึ เปน็ ตวั ท่ีใช้ในการสงั เคราะห์แสง จึงทา ให้มันเปน็ ออโตทรอพ 2) เฮเทโรทรอพ (Heterotroph) คือ ส่งิ มชี ีวติ ที่ตอ้ งการอินทรียสารจากสง่ิ มีชีวติ อน่ื ๆ เปน็ แหล่ง คาร์บอนเพ่ือใชใ้ นการเจรญิ เตบิ โตและการซ่อมแซมสว่ นทส่ี กึ หรอ เฮเทโรทรอพ หรอื เรยี กกันว่า ผ้บู รโิ ภคในหว่ งโซอ่ าหาร เป็นส่งิ มีชีวิตท่ไี มส่ ามารถสรา้ งอาหารเองได้ สิง่ มชี วี ติ จาพวกเฮเทโรทรอพนนั้ ไมส่ ามารถสร้างอาหารเองได้ ดงั ทก่ี ลา่ วขา้ งต้น น่ันคือ ความ ไมส่ ามารถในการสังเคราะห์อนิ ทรยี สารท่มี ีคาร์บอนเปน็ องค์ประกอบหลกั จากแหลง่ อนนิ ทรีย สารในส่ิงแวดล้อมได้ (ดงั เชน่ การท่สี ตั ว์ไม่สามารถสงั เคราะห์แสงได้ ตา่ งจากพชื ที่สามารถทา ได้) และจึงต้องอาศยั แหล่งอาหารทีม่ าจากสงิ่ มชี วี ติ อ่ืนๆ ทงั้ ออโตทรอพ และเฮเทโรทรอพ
1.ผผู้ ลติ (producer) เป็นส่งิ มีชีวติ ท่ีสามารถสรา้ งอาหารได้ จาพวก 8 พชื ท่ีมีสารสีในการสงั เคราะหแ์ สง เช่น แพลงตอนพชื แบคทีเรยี บางชนิดท่ีสงั เคราะหแ์ สงได้ พืชทกุ ชนดิ ส่ิงมีชีวติ เหลา่ นีโ้ ดยเฉพาะพชื ใบเขียว สรา้ งอาหาร โดยกลไกจากการสงั เคราะหแ์ สง ผลผลิตท่ีไดจ้ าก กระบวนการสงั เคราะหแ์ สงนี้ คือ คารโ์ บไฮเดรต จะเป็นสารอาหารท่ีใหพ้ ลงั งานแก่ส่ิงมีชีวิตอ่ืนท่ีไดร้ บั เขา้ ไปในรูปของอาหาร และก๊าซออกซเิ จนจากปฏิกิรยิ านีจ้ ะเป็นก๊าซท่ีคายออกทางปากใบของพืชแลว้ แพรไ่ ปในบรรยากาศ ซง่ึ มีประโยชนท์ ง้ั ตอ่ มนษุ ยแ์ ละระบบนเิ วศในหลายกรณี 2. ผบู้ รโิ ภค (consumer) เป็นส่งิ มีชีวิตท่ีไมส่ ามารถสรา้ งอาหารไดเ้ อง ตอ้ งไดร้ บั อาหารโดยกิน ผผู้ ลิต เช่น แพลงตอนสตั ว์ สตั วต์ ่าง ๆ ทง้ั ชา้ ง มา้ ววั ควาย หมี นก ผีเสือ้ ฯลฯ เน่ืองจากส่งิ มีชีวติ ท่ีเป็น ผบู้ รโิ ภคนีม้ ีจานวนมากและแตล่ ะชนดิ ก็มีลกั ษณะการบรโิ ภคท่ีแตกต่างกนั 3. ผยู้ อ่ ยสลาย (decomposer) เป็นส่งิ มีชีวติ ท่ีดารงชีวิตและไดพ้ ลงั งานมาใชด้ ว้ ยการยอ่ ยสลาย ซากพชื ซากสตั วส์ ารแลว้ ดดู ซมึ เขา้ สรู่ า่ งกาย ไดแ้ ก่ เหด็ รา และ แบคทีเรยี ชนิดตา่ งๆ ซง่ึ มีอย่ทู ่วั ไปทงั้ ใน นา้ อากาศและ ดนิ ผยู้ ่อยสลายจะทาใหพ้ ืชและสตั วท์ ่ีตายแลว้ เกิดการเนา่ เป่ือยสลายเป็นสารท่ีจาเป็น ต่อการเจรญิ เติบโตของพืช ดงั นน้ั ถา้ ไมม่ ีผยู้ อ่ ยสลาย พืชและสตั วท์ ่ีตายแลว้ จะไม่มีการเนา่ เป่ือย แตจ่ ะ ทบั ถมดนิ ก็จะเส่ือมสภาพลงไปเรอ่ื ยๆเพราะไมม่ ีแรธ่ าตเุ พ่มิ จากเดิม
หวั ข้อทใี่ นบทเรียน 9 ➢หว่ งโซอ่ าหาร องคป์ ระกอบของห่วงโซ่อาหาร ความหมายหว่ งโซ่อาหาร ➢สายใยอาหาร ความหมายหว่ งโซ่อาหาร องคป์ ระกอบของหว่ งโซ่อาหาร
10
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: