631081099 ทรงยศ สุวรรณจุณี

เร่ือง เจ้าพนักงานปลอมเอกสารในหน้าท่ขี องตน มาตรา 161 เจ้าพนักงานรับรองเอกสารอนั เป็ นเทจ็ มาตรา 162 นาย ทรงยศ สุวรรณจุณี รหสั นิสิต 631081099 นาเสนอ อาจาร์ วริ ัตน์ นาทพิ เวทย์ รายวชิ า กฎหมายอาญา 2 รหสั วชิ า 0801221 ภาคเรียนที่1 หลกสั ูตร4 ปี (ภาคปกติ) มหาวทิ ยาลยั ทักษณิ วทิ ยาเขต สงขลา

บทที่ 1 คาอธิบายเชิงโครงสร้างการรับผดิ ทางอาญา มาตารา 161 มาตรา 161 ผใู้ ดเป็นเจา้ พนกั งาน มีหนา้ ท่ีทาเอกสาร กรอกขอ้ ความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร กระทาการปลอมเอกสารโดยอาศยั โอกาสที่ตนมีหนา้ ท่ีน้นั ตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กินสิบปี และปรับไม่เกิน สองแสนบาท เจ้าพนักงานปลอมเอกสารในหน้าท่ีของตน องค์ประกอบภายนอก 1.) เป็นเจา้ พนกั งาน 2.) มีหนา้ ที่ทาเอกสาร กรอกขอ้ ความลงในเอกสาร หรือดูแลรักษาเอกสาร 3.)กระทาการปลอมเอกสาร 4.)โดยอาศยั โอกาสที่ตนมีหนา้ ที่น้นั องค์ประกอบภายใน เจตนาธรรมดา เจา้ พนกั งานมีหนา้ ท่ีรักษาเอกสาร หมายถึง เอกสารที่เป็นเอกสารสมบูรณ์ ไม่ใช่มีหนา้ เพยี งรักษาแบบ พมิ พข์ องใบแทนโฉนดแลว้ นาแบบพิมพใ์ บแทนโฉนดมากรอกขอ้ ความไม่ผดิ ตามมาตราน้ี การปลอมเอกสารเป็นไปตามท่ีอธิบายไวใ้ นมาตรา 264 ซ่ึงอาจเป็นการกรอกขอ้ ความลงในเอกสาร ลง ลายมือชื่อปลอมลงในเอกสาร พมิ พล์ ายนิ้วมือของตนเองแทนนกั โทษในทะเบียนรายตวั ผพู้ น้ โทษ แกไ้ ข เปล่ียนแปลงขอ้ ความในเอกสาร แมแ้ กไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ งกท็ าไม่ได้ ถา้ พน้ จากอานาจหนา้ ท่ีของตนเองแลว้ เช่น เสมียนทารายงานปรับส่งใหน้ ายอาเภอลงช่ือแลว้ นามาแกไ้ ขใ้ หต้ รงกบั ความจริง ผดิ ตามมาตราน้ี แต่ถา้ แกไ้ ข ขณะยงั อยใู่ นอานาจของตน เช่น ลบวนั เดือน ปี และลายมือช่ือของตนออกจากโฉนดก่อนส่งใหผ้ ขู้ อออกโฉนด รับไปไม่เป็ นปลอมเอกสาร

การปลอมน้ี อาจปลอมท้งั ฉบบั โดยการเติมหรือตดั ทอนขอ้ ความแกไ้ ขเอกสารท่ีแทจ้ ริงหรือประทบั ตรา ปลอม ท้งั น้ีเพอ่ื ใหห้ ลงเชื่อวา่ เป็นเอกสารที่แทจ้ ริง เอกสารปลอมกบั เอกสารเทจ็ มีความแตกต่างกนั อยตู่ รงท่ีวา่ ผกู้ ระทามีอานาจทาเอกสารน้นั หรือไม่ ถา้ ทาเอกสารตามอานาจหนา้ ที่แมม้ ีขอ้ ความเทจ็ กไ็ ม่เป็นเอกสารปลอม การท่ีนายทะเบียนราษฎรตาบลออกใบมรณบตั รเทจ็ จึงไม่เป็นการปลอมเอกสาร เพราะเป็นการทาเอกสารตาม อานาจหนา้ ที่ของตน ถา้ ทาโดยเห็นแก่ประโยชนก์ ผ็ ดิ ฐานเจา้ พนกั งานรับสินบนหรืออาจผดิ ฐานรับรองเอกสาร เทจ็ ตามมาตรา 162 ถา้ ไม่มีอานาจเป็นนายทะเบียนแต่ลงชื่อของตนเองออกใบอนุญาตไปเป็นการปลอมเอกสาร ตามมาตราน้ีแมว้ า่ ขอ้ วามน้นั จะเป็นจริงกต็ าม เจา้ พนกั งานผกู้ ระทาตอ้ งมีหนา้ ท่ีหรือกรอกขอ้ ความน้นั ถา้ ทาและใชเ้ อกสารที่ปลอมข้ึนน้นั ดว้ ย ซ่ึงเป็น ความผิดตามมาตรา 161 265 และ 268 ตอ้ งลงโทษตามมาตรา 161 อนั เป็นบทหนกั

มาตรา 162 มาตรา 162 ผใู้ ดเป็นเจา้ พนกั งาน มีหนา้ ที่ทาเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกขอ้ ความลงในเอกสาร กระทาการดงั ต่อไปน้ีในการปฏิบตั ิการตามหนา้ ท่ี (๑) รับรองเป็นหลกั ฐานวา่ ตนไดก้ ระทาการอยา่ งใดข้ึน หรือวา่ การอยา่ งใดไดก้ ระทาต่อหนา้ ตนอนั เป็นความ เทจ็ (๒) รับรองเป็นหลกั ฐานวา่ ไดม้ ีการแจง้ ซ่ึงขอ้ ความอนั มิไดม้ ีการแจง้ (๓) ละเวน้ ไมจ่ ดขอ้ ความซ่ึงตนมีหนา้ ที่ตอ้ งรับจด หรือจดเปลี่ยนแปลงขอ้ ความเช่นวา่ น้นั หรือ (๔) รับรองเป็นหลกั ฐานซ่ึงขอ้ เทจ็ จริงอนั เอกสารน้นั มุ่งพิสูจนค์ วามจริงอนั เป็นความเทจ็ เจ้าพนักงานรับรองเอกสารอนั เป็ นเท็จ องค์ประกอบภายนอก 1.) เป็นเจา้ พนกั งาน 2.) มีหนา้ ที่ทาเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกขอ้ ความในเอกสาร 3.)กระทาการดงั ต่อไปน้ีในการปฏิบตั ิตามหนา้ ที่ (ก.)รับรองเป็นหลกั ฐานวา่ ตนไดก้ ระทาการอยา่ งใดข้ึน หรือวา่ การอยา่ งใดไดก้ ระทาต่อหนา้ ตน อนั เป็นความ เทจ็ (ข.)รับรองเป็นหลกั ฐานวา่ ไดม้ ีการแจง้ ซ่ึงขอ้ ความอนั มิไดม้ ีการแจง้ (ค.)ละเวน้ ไม่จดขอ้ ความซ่ึงตนมีหนา้ ที่ตอ้ งจด หรือจดเปล่ียนแปลงขอ้ ความเช่นวา่ น้นั (ง.)รับรองเป็นหลกั ฐานซ่ึงขอ้ เทจ็ จริงอนั เอกสารน้นั มุง่ พิสูจนค์ วามจริงอนั เป็นคความเทจ็

องค์ประกอบภายใน เจตนาธรรมดา การที่เจา้ พนกั งานมีเจา้ หนา้ ท่ีทาเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกขอ้ ความลงในเอกสารกระทาการดงั ต่อไปน้ี ใน การปฏิบตั ิหนา้ ที่ 1.) รับรองเป็นหลกั ฐานวา่ ตนไดก้ ระทาการอยา่ งใดข้ึนหรือวา่ การอยา่ งใดไดก้ ระทาต่อหนา้ ตนอนั เป็นความเทจ็ เช่น เจา้ พนกั งานศุลกากร ทาเอกสารเทจ็ รับรองวา่ ไดข้ นสินคา้ ข้ึนบกแลว้ พศั ดีกบั ผคู้ มุ เรือนจาร่วมกนั ลงชื่อ นกั โทษที่หลบหนีไปแลว้ ลงในบญั ชีรายชื่อผูร้ ับพระราชทานอภยั โทษเป็นการรับรองวา่ นกั โทษน้นั ยงั ตอ้ งขงั อยเู่ ป็นความเทจ็ เป็นกรรมการตรวจจบั งานจา้ งไม่ไปตรวจแต่รับรองวา่ ไปตรวจแลว้ ถูกตอ้ ง พนกั งานป่ าไม้ ไม่ไดต้ รวจสอบไมแ้ ต่ลงช่ือรับรองวา่ ไมถ้ ูกตอ้ ง 2.)รับรองเป็นหลกั ฐานวา่ ไดม้ ีการแจง้ ขอ้ ความอนั มิไดม้ ีการแจง้ เช่น ตารวจลงบนั ทึกประจาวนั วา่ มีการแจง้ ความท้งั ที่ไม่มีการแจง้ ความหรือจดความใหม้ ีการในการสอบสวนโดยท่ีผใู้ หก้ ารมิไดม้ าใหถ้ อ้ ยคา เป็นตน้ 3.)ละเวน้ ไม่จดขอ้ ความซ่ึงตนมีหนา้ ที่รับจดหรือจดเปลี่ยนแปลงขอ้ ความเช่นวา่ น้นั เช่น มีคนมาแจง้ ความต่อ ตารวจ ตารวจตอ้ งรับจดขอ้ ความไว้ ถา้ ไม่รับแจง้ ความเป็นความผดิ ตามมาตราน้ีหรือรับแจง้ แต่จดขอ้ ความผดิ ไป จากที่แจง้ กผ็ ดิ ตามาตราน้ีเช่นกนั ท่ีสาคญั คือตอ้ งมีผมู้ าแจง้ ขอ้ ความใหจ้ ด ถา้ เจา้ พนกั งานทาข้ึนเองเป็นกรณีตาม ขอ้ อื่น 4.)รับรองเป็นหลกั ฐาน ซ่ึงขอ้ เทจ็ จริงอนั เอกสารน้นั มุ่งพสิ ูจน์ความเป็นเทจ็ เช่น ทาคารับรองวา่ ไดต้ รวจรับรถ ซ่ึงความจริงยงั ไม่มีรถ ตรวจรับงานที่ใชว้ สั ดุไม่ถูกตอ้ ง สารวตั รกานนั ทาหนา้ ท่ีแทนกานนั ออกใบมรณบตั รเทจ็ เพอ่ื ใหพ้ น้ ความรับผดิ ตามสญั ญาประกนั ปล่อยตวั ชว่ั คราว หรือครูเป็นกรรมการตรวจรับบา้ นพกั ครูงวดสุดทา้ ยก็ รับงานท้งั หมด โดยไดร้ ับรองเป็นหลกั ฐานวา่ ผรู้ ับเหมาไดส้ ร้างบา้ นพกั จริงเรียบร้อยสมบูรณ์แลว้ ท้งั ท่ีงานยงั ไม่ เสร็จเป็นการรับรองเป็นหลกั ฐานซ่ึงขอ้ เทจ็ จริงอนั เอกสารน้นั มุ่งพสิ ูจนค์ วามจริงอนั เป็นเทจ็ เป็นความผดิ ตาม มาตราน้ีหรือเป็นเจา้ พนกั งานมีหนา้ ที่กรอกขอ้ ความรับรองคาเบิกเงินคา่ เช่าบา้ นเทจ็ หรือครูใหญ่โรงเรียน รัฐบาลออกใบสุทธิเทจ็ เป็นการรับรองเป็นหลกั ฐานซ่ึงขอ้ เทจ็ จริงอนั เอกสารน้นั มุ่งพสิ ูจน์ความจริงอนั เป็นเทจ็ เป็นความผดิ ตามมาตราน้ี

บทที่ 2 คาอธิบายจากบรรทดั ฐานคาพพิ ากษาศาลฎกี า เจ้าพนักงานปลอมเอกสารในหน้าที่ของตน มาตรา 161 คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 5258/2558 จาเลยเป็นเจา้ หนา้ ท่ีพสั ดุของ อบต. ไม่มีหนา้ ท่ีโดยตรงในการจดั การเอกสารใบรับฝากส่งไปรษณีย์ จึงมิใช่ ปลอมเอกสารโดยอาศยั โอกาสที่ตนมีหนา้ ที่น้นั หนา้ ที่ในการกรอกขอ้ ความในใบรับฝากส่งไปรษณียเ์ ป็นของเจา้ หนา้ ท่ีท่ีทาการไปรษณีย์ ส่วนจาเลยเป็น ปลดั องคก์ ารบริหารส่วนตาบลไดร้ ับแต่งต้งั เป็นเจา้ หนา้ ท่ีพสั ดุและมีหนา้ ท่ีในการนาส่งประกาศประกาศราคา ไปยงั หน่วยงานต่างๆ ไม่มีอานาจหนา้ ที่โดยตรงในการจดั ทาเอกสารใบรับฝากส่งไปรษณีย์ การที่จาเลยกระทา ปลอมเอกสารใบรับฝากส่งไปรษณียด์ ว้ ยการกรอกขอ้ ความวา่ ไดส้ ่งประกาศประกวดราคาไปยงั หน่วยงานต่างๆ แลว้ ไม่ถือวา่ จาเลยกระทาการปลอมเอกสารโดยอาศยั ที่ตนมีหนา้ ที่น้นั ไม่เป็นความผดิ ตามมาตรา 161 คาอธิบายคาพพิ ากษาศาลฎีกา ความผดิ ตามมาตรา 161 เจา้ พนกั งานจะตอ้ งมีหนา้ ท่ีทาเอกสาร กรอกขอ้ ความลงในเอกสารหรือดูแลรักษา เอกสารน้นั ก่อน จึงอาศยั โอกาสปลอมเอกสารที่ตนมีหนา้ ที่น้นั ไดถ้ า้ ไม่มีหนา้ ที่ต้งั แต่แรก กไ็ ม่ใช่การท่ีจะอาศยั โอกาส แต่เป็นการปลอมเอกสารทวั่ ไป ฎีกาน้ีเป็นกรณีที่จาเลยปลอมอกสารหน่วยงาน เพราะไปรษณียไ์ ม่ใช่ หน่วยของตน จาเลยไมใ่ ช่หนกั งานเอกสารและไม่มีหนา้ ที่ และถา้ ทาการปลอมเอกสารกไ็ ม่ใช่ทาโดยอาศยั โอกาสท่ีตนมี

เจ้าพนักงานรับรองเอกสารอนั เป็ นเทจ็ มาตรา 162 คาพพิ ากษาศาลฎีกาที่ 802/2562 ลงลายมือชื่อรับรองวา่ หุน้ ส่วนผจู้ ดั การของหา้ งหุน้ ส่วนต่างๆ เป็นผมู้ ายนื่ ของประมูลดว้ ยตวั เองอนั เป็น ความเทจ็ ความจริงมีคนคนเดียวมายนื่ 3 ซองพร้อมๆกนั (ฮ้วั ประมูลกนั นนั่ เอง) จาเลยผรู้ ับรองเอกสารจึงมี ความผิดตามมาตรา 162(1)(4) การกระทาท่ีจะเป็นความผดิ ฐานเป็นเจา้ พนกั งานทาเอกสารอนั เป็นเทจ็ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 162 น้นั ผู้กระทาหาต้องมมี ูลเหตุชักจูงใจหรือเจตนาพเิ ศษเพื่อให้เกดิ ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือต้องกระทา โดยทุจริตไม่ และไม่จาต้องพจิ ารณาถงึ ผลการกระทาว่าเป็ นเหตุให้เกดิ ความเสียหายอย่างหน่ึงอย่างใดขึน้ หรือไม่ หากผกู้ ระทาเป็นเจา้ พนกั งานผมู้ ีหนา้ ที่ทาเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกขอ้ ความลงในเอกสาร รับรองวา่ มีการ กระทาอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดไดก้ ระทาต่อหนา้ ตน หรือรับรองเป็นหลกั ฐานซ่ึงขอ้ เทจ็ จริงอนั เอกสารน้นั มุ่งพสิ ูจน์ ความจริงวา่ มีขอ้ เทจ็ จริงอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดเกิดข้ึน แต่ความเป็นเทจ็ คดีน้ีในวนั ยน่ื ซองสอบราคาน้นั มี ร. คนเดียว นาซองมายน่ื 3ซอง ซ่ึงเป็นซองของบริษทั ป.จากดั หา้ งหุน้ ส่วนจากดั ร.และหา้ งหุน้ ส่วนจากดั อ.โดยในเอกสาร กลบั มีลายมือชื่อของ ม.และ อ. หุน้ ส่วนผจู้ ดั การของหา้ งลงลายมือช่ือวา่ เป็นผยู้ น่ื เอกสาร โดยในช่องดา้ นบน ของเอกสาร จาเลยท่ี 2 ลงลายมือชื่อรับรองโดยมีขอ้ ความเป็นสาระสาคญั ในตอนทา้ ยวา่ ม. และ อ. หุน้ ส่วน ผจู้ ดั การของท้งั สองหา้ งเป็นผมู้ ายน่ื ซองดว้ ยตนเองอนั เป็นความเทจ็ เม่ือจาเลยท่ี 2 รับรองเป็นหลกั ฐานวา่ ม. และ อ. นาซองมายนื่ ต่อหนา้ ตนและใบรับซองสอบราคาเป็นเอกสารท่ีมุ่งพสิ ูจนค์ วามจริงวา่ เจา้ ของซองนาซอง มายน่ื จริงซ่ึงเป็นความเทจ็ เพราะบุคคลท้งั สองไม่ไดน้ าซองมายนื่ นดว้ ยตนเอง การกระทาของจาเลยที่ 2 จึงเป็น ความผดิ ฐานเป็นเจา้ พนกั งานทาเอกสารอนั เป็นเทจ็ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 162(1)(4) คาอธิบายคาพิพากษาศาลฎีกา แมพ้ นกั งานไม่ไดก้ ระทาเพ่อื ใหเ้ กิดความเสียหายแก่ผใู้ ดผหู้ น่ึงหรือไม่ไดก้ ระทาโดยทุจริตกเ็ ป็นความผดิ ฐาน ทาเอกสารเทจ็ ความผดิ รวมอยใู่ นการกระทาน้นั และไม่ตอ้ งเกิดผลวา่ จะมีผอู้ ่ืนเชื่อหรือไม่วา่ เป็นเอกสารเทจ็

บทท่ี 3 สรุปเนื้อหา สรุปเน้ือหา มาตรา 161 กรณีความผิดตามมาตรา 161 เป็นการที่เจา้ พนกั งานจะตอ้ งมีหนา้ ที่ทาเอกสาร กรอกขอ้ ความลงในเอกสาร หรือดูแลรักษาเอกสารและอาศยั โอกาสปลอมเอกสารที่ตนมีหนา้ ที่น้นั แต่ถา้ การปลอมเอกสารน้นั ไม่ใช่หนา้ ท่ีที่ ตนทาอยกู่ ไ็ ม่ใช่การปลอมเอกสารตามมาตรา 161 ซ่ึงจากคาพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 5258/2558 จะเห็นไดว้ า่ การท่ีจะ ปลอมเอกสารน้นั จะตอ้ งมีการเขา้ องคป์ ระกอบท้งั ภายนอกและภายในและถา้ ไม่ไดเ้ ขา้ องคป์ ระกอบดงั กล่าวกจ็ ะ เป็นแคก่ ารปลอมเอกสารทว่ั ไปหรือปลอมเอกสารหน่วยงาน สรุปเน้ือหา มาตรา 162 กรณีความผดิ ตามมาตรา 162 ผกู้ ระทาตอ้ งมีมูลเหตุชกั จูงใจหรือเจตนาพิเศษ เพ่อื ใหเ้ กิดความเสียหายแก่ผู้ หน่ึงผใู้ ดหรือตอ้ งกระทาโดยทุจริตไม่ และไม่จาเป็นตอ้ งพิจารณาถึงผลการกระทาวา่ เป็นเหตใุ หเ้ กิดความ เสียหายหรือไม่ หากผกู้ ระทาเป็นเจา้ พนกั งานผมู้ ีหนา้ ท่ีทาเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกขอ้ ความลงในเอกสาร รับรองวา่ มีการกระทาอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดไดก้ ระทาต่อหนา้ ตน หรือรับรองเป็นหลกั ฐานซ่ึงขอ้ เทจ็ จริงอนั เอกสาร น้นั มุ่งพิสูจนค์ วามจริงวา่ มีขอ้ เทจ็ จริงอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดเกิดข้ึน แต่เป็นความเทจ็

บรรณานุกรม ทวเี กียรติ มีนะกนิษฐ. คาอธิบายกฎหมายอาญา ภาคความผดิ และลหุโทษ. พิมพค์ ร้ังที่ 18. กรุงเทพฯ: วญิ ญู ชน. 2564 สหรัฐ กิติ ศุภการ. กฎหมายอาญา: คาพพิ ากษาศาลฎกี าและหลกั กฏหมาย. พมิ พค์ ร้ังที่ 1. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พร้ืนติ้งแอนดพ์ บั ลิชชิ่ง. 2564 บุญเพราะ แสงเทียน. กฏหมายอาญา 2 (ภาคความผดิ ) แนวประยกุ ต์. พิมพค์ ร้ังท่ี 2. กรุงเทพฯ: วิทยพฒั น์. 2547