Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 1

บทที่ 1

Published by watsana, 2018-05-09 02:27:59

Description: บทที่ 1

Search

Read the Text Version

บทที่ 1 ความหมายและความสาคญั ของพชื ผกั 1. ความหมายของพชื ผกัสาหรับความหมายหรือลกั ษณะของคาวา่ พชื ผกั น้นั มีการอธิบายไวห้ ลายลกั ษณะ ดงั น้ี - ผกั เป็นกลุ่มพืชอายสุ ้นั มีลกั ษณะอวบน้า เปอร์เซ็นตน์ ้าในเน้ือเยอื่ สูง มีเน้ือมาก อ่อนนุ่ม ไม่ แขง็ มีรสชาติคอ่ นขา้ งหวานสามารถนาส่วนต่างๆของพชื มาใชป้ ระโยชนเ์ พอื่ การบริโภคได้ เช่น ใบ ลา ตน้ ก่ิงกา้ น ดอก ผล หวั และราก ไม่วา่ จะนามาบริโภคในรูปของผกั สด หรือทาใหส้ ุกก่อนโดยอาจจะใช้ เป็นส่วนประกอบหลกั ของอาหารหรือเป็นส่วนประกอบรอง หรือเป็นสิ่งท่ีช่วยทาใหอ้ าหารน่า รับประทานมากข้ึน - ผกั หมายถึง พืชท่ีเป็นพชื ลม้ ลุก ปลูกง่าย ตอ้ งการการดูแลรักษาดี มีอายคุ ่อนขา้ งส้นั มี ระยะเวลาในการเก็บเก่ียวเร็ว เป็นพชื ที่ใหผ้ ลผลิตและรายไดส้ ูงกวา่ พืชอื่น สามารถปลูกหมุนเวยี น สร้าง รายไดใ้ หก้ บั ผปู้ ลูกปี ละหลายรอบได้ - คาวา่ ผกั ในประเทศไทยน้นั ยงั มีความหมายกวา้ งออกไปถึงการนาส่วนต่างๆของพืชอ่ืนที่ ไมใ่ ช่พชื ผกั โดยตรงมาบริโภคเป็นพชื ผกั เช่น กลุ่มพชื ไร่ ไดแ้ ก่ ใบปอ ขา้ วโพดฝักอ่อน ถวั่ เหลืองฝัก สด กลุ่มไมผ้ ล ไดแ้ ก่ ใบอ่อนของมะม่วงหิมพานต์ ใบออ่ นของตน้ ชมพู่ ใบอ่อนมะขาม ใบมะกรูด ปลี กลว้ ย ผลและใบอ่อนของขนุน กลุ่มไมด้ อกไมป้ ระดบั เช่น สายบวั ใบออ่ นของตน้ เลบ็ ครุฑ ใบอ่อน ของโกศล ไมย้ นื ตน้ หรือไมป้ ่ า เช่น ยอดอ่อน ดอกและฝักของตน้ แค ใบออ่ นและดอกของตน้ ข้ีเหลก็ ใบ และฝักของกระถิน สะตอ ลูกเนียง ผกั หวานบา้ น ผกั หวานป่ า รวมถึงวชั พืชบางชนิด เช่น ผกั โขม ผกั เส้ียน ผกั แขยง เป็นตน้ จากความหมายและลกั ษณะของพชื ผกั ดงั กล่าวจึงสามารถสรุปไดว้ า่ พืชผกั เป็นกลุ่ม ของพชื หลายชนิดท้งั ชนิดลม้ ลุกและยนื ตน้ แตส่ ่วนมากจะเป็นพชื ลม้ ลุก อายสุ ้นั อวบน้า มีเน้ือเยอ่ื อ่อน นุ่ม สามารถนาส่วนต่างๆมาใชเ้ พ่ือการบริโภคได้ 2.ความสาคัญของพชื ผกั พชื ผกั มีความสาคญั ในดา้ นต่างๆ สามารถสรุปไดด้ งั น้ีคือ 2.1 การใช้เป็ นอาหาร ความสาคญั ของพชื ผกั ในฐานะที่เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์

2เน่ืองจากพชื ผกั มีองคป์ ระกอบของสารอาหารชนิดตา่ งๆที่ร่างกายตอ้ งการและยงั เป็นแหล่งสาคญั ของเยอ่ื ใยอาหารที่มีความสาคญั ตอ่ ระบบการยอ่ ยอาหารและการขบั ถ่าย จาแนกความสาคญั ของพชื ผกั ในฐานะเป็นแหล่งของอาหารไดด้ งั น้ี 2.1.1 ใชเ้ ป็นอาหารหลกั ชนิดของผกั ที่ใชเ้ ป็นหลกั ในการประกอบอาหาร ไดแ้ ก่ คะนา้กวางตุง้ กะหล่าปลี ผกั กาดขาวปลี กะหล่าดอก ผกั กาดหวั ผกั บุง้ ฟักทอง หน่อไมฝ่ รั่ง แครอท บวบแตงกวา มะเขือยาว เป็นตน้ อาหารยอดนิยมหลายชนิดมีผกั เป็นองคป์ ระกอบส่วนใหญ่ เช่น สลดั ผกัส้มตา ยาตะไคร้ ยาผกั กระเฉด แกงจืด แกงเรียง ฯลฯ คนที่ตอ้ งการควบคุมน้าหนกั หรือรักษาสุขภาพ จึงมกั หนั มาบริโภคอาหารที่ทาจากผกั เป็นอาหารหลกั มากข้ึน 2.1.2 ใชเ้ ป็นเครื่องเคียงหรือรับประทานเพ่ือเรียกน้ายอ่ ย เช่น กะหล่าดอก บร็อคโคลีหน่อไมฝ้ ร่ัง มะเขือเทศ แตงกวา แครอท ขา้ วโพดฝักอ่อนและมนั ฝร่ัง ถูกนามาเป็นเครื่องเคียงหรือรับประทานเพือ่ เรียกน้ายอ่ ยได้ 2.1.3 ใชเ้ ป็นของหวาน เช่น แตงโม แตง เทศ ใชบ้ ริโภคสด ส่วนมนั เทศ ฟักทอง นามาเช่ือมหรือทาขนมหวานไดห้ ลายชนิด 2.1.4 ใชเ้ ป็นเครื่องเทศ ผกั บางชนิดนอกจากจะเป็นองคป์ ระกอบหลกั ของอาหารหวาน คาวแลว้ ยงั ใชเ้ ป็นเคร่ืองเทศปรุงแต่งกล่ิน รส ของอาหาร เช่น หอมหวั ใหญ่ กระเทียม พริก ตน้ หอม ผกั ชีคื่นฉ่าย จากคุณสมบตั ิของพชื ผกั ท่ีมีกลิ่นและรสชาติท่ีแตกต่างกนั ทาใหน้ ามาทาอาหารไดห้ ลากหลายชนิด 2.1.5 ใชเ้ ป็นเคร่ืองประดบั ประดาในจานอาหาร ผกั บางชนิดช่วยเพิ่มสีสนั ประดบัประดาใหอ้ าหารในจานน่ารับประทาน ซ่ึงส่วนใหญ่จะเป็นผกั ที่มีสีตดั กนั เช่นคะนา้ ใหส้ ีเขียว พริกแดงและมะเขือเทศใหส้ ีแดง พริกเหลืองและฟักทองใหส้ ีเหลือง แครอทใหส้ ีส้ม ผกั กาดหอมใชร้ องอาหารในจาน 2.1.6 ประโยชนอ์ ื่นๆ ผกั หลายชนิดเช่นผกั กาดหอมและมะเขือเทศ แตงกวาดอง หอมหวั ใหญ่และพริก เป็นองคป์ ระกอบของอาหารท่ีคนทว่ั โลกนิยมบริโภคมาก เช่น แซนวชิ และแฮมเบอร์เกอร์ขนมขบเค้ียวหลายชนิดทามาจากผกั เช่น มนั ฝร่ังแผน่ อบกรอบ เมล็ดถว่ั ลนั เตาอบกรอบ เป็นตน้ 2.2 ความสาคญั ทางด้านเภสัชศาสตร์ พืชผกั เป็นแหล่งของวติ ามินและเกลือแร่หลายชนิดท่ีจาเป็นต่อร่างกาย ช่วยใหก้ ารทางานของร่างกายเป็นไปอยา่ งปกติ มีภูมิตา้ นทานโรค ผกั บางชนิดมีสารอาหารและวติ ามินบางชนิดที่ช่วยใหฟ้ ้ื นจากการเจบ็ ป่ วยไดเ้ ร็ว ทาใหร้ ่างกายทนต่อการ

3เปล่ียนแปลงของสภาพแวดลอ้ มท่ีผนั แปรได้ ถา้ มนุษยไ์ ม่รับประทานผกั ระบบต่างๆ ของร่างกายอาจผดิ ปกติ ความตา้ นทานลดลง ในวงการแพทยเ์ ป็นท่ียอมรับกนั แลว้ วา่ การบริโภคผกั นอกจากจะไดร้ ับวติ ามินและเกลือแร่แลว้ ผกั บางชนิดมีองคป์ ระกอบทางเคมีที่มีสรรพคุณทางยา ช่วยป้ องกนั และรักษาโรคได้ เช่น มะเขือเทศ ฟักทอง แครอท คือ สารเบตา้ แคโรทีน ซ่ึงช่วยบารุงสายตา และสร้างภูมิตา้ นทานโรคใหแ้ ก่ร่างกาย ซ่ึงสามารถป้ องกนั การเกิดโรคมะเร็งได้ กระเทียม ในหวั กระเทียมสดมีสารอลั ลิซีน ช่วยลดคลอเรสเตอรอล กระตุน้ การทางานของตอ่ มใตส้ มอง และช่วยบารุงหวั ใจ พริก ในผลพริก นอกจากจะอุดมไปดว้ ยวติ ามินซี และเบตา้ แคโรทีนแลว้ ยงั มีสารแคปไซซีนซ่ึงสารเหล่าน้ีจะช่วยยบั ย้งั และต่อตา้ นอนุมูลอิสระ ท่ีเป็นสาเหตุของการเสื่อมสภาพของเซลลแ์ ละอวยั วะของร่างกาย กระเพรา โหระพา บรรเทาอาการทอ้ งอืด ทอ้ งเฟ้ อ เป็นตน้ จะเห็นไดว้ า่ พชื ผกั หลายชนิดนอกจากจะมีสรรพคุณทางยาแลว้ ยงั มีคุณค่าทางโภชนาการต่างๆดงั ตารางท่ี 1.1 ดงั น้นั การบริโภคผกั ตา่ งๆในปริมาณที่เหมาะสมและเป็นประจาทุกวนั จะทาใหส้ ุขภาพแขง็ แรง ไมเ่ จบ็ ป่ วยง่าย 1.3 ความสาคญั ของพชื ผกั ในด้านเศรษฐกจิ การท่ีพืชผกั มีราคาจาหน่ายที่คอ่ นขา้ งสูงเม่ือเปรียบเทียบกบั พืชชนิดอ่ืน ใชพ้ ้นื ที่ปลูกไม่มาก มีอายสุ ้นั จึงเป็นขอ้ ไดเ้ ปรียบที่สาคญั เพราะใชเ้ วลาปลูกไมน่ านก็ทาใหผ้ ปู้ ลูกมีรายได้ ดงั น้นั จึงมีจานวนผู้ยดึ อาชีพการปลูกผกั เป็นจานวนมากและพ้นื ที่ปลูกกระจายอยทู่ ว่ั ภูมิภาคของประเทศ ปัจจุบนั พ้ืนท่ีปลูกผกั ของไทยยงั คงไม่เปลี่ยนแปลงมากนกั โดยมีพ้นื ท่ีปลูกประมาณ 3 ลา้ นไร่ มีผลผลิตรวมประมาณ 5-5.5 ลา้ นตนั ชนิดของผกั มีความหลากหลายและปลูกหมุนเวยี นตลอดท้งั ปี โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ พืชผกัตระกลู พริก มะเขือ ตระกลู แตง และตระกลู กะหล่า เป็นตน้ สามารถเลือกปลูกเพ่อื เป็นอาชีพหลกั อาชีพเสริม หรือปลูกไวบ้ ริโภคในครอบครัว ความสาคญั ทางดา้ นเศรษฐกิจของพืชผกั มีคนกล่าวไวว้ า่ ถา้อยากมีรายไดเ้ ร็วก็ใหป้ ลูกผกั ซ่ึงสามารถผลิตเพือ่ เป็นการสร้างรายไดห้ รือเพ่อื ลดคา่ ใชจ้ า่ ยในครอบครัวกไ็ ด้ การปลูกผกั เพ่อื ขายอาจเป็นการซ้ือขายภายในชุมชนหรือทอ้ งถิ่นเดียวกนั ระหวา่ งทอ้ งถ่ิน หรือระหวา่ งจงั หวดั ก็ได้ ทาใหเ้ กิดรายไดแ้ ละการหมุนเวยี นของวงจรเศรษฐกิจท้งั ในส่วนของผผู้ ลิตผกั ผู้จาหน่ายปัจจยั การผลิตและพอ่ คา้ รับซ้ือผลผลิต ทาใหเ้ ศรษฐกิจของประเทศดีข้ึน พืชผกั จึงมีความสาคญัตอ่ เศรษฐกิจของประเทศเป็นอยา่ งมาก

4 ตารางท่ี 1.1 แสดงคุณคา่ ทางโภชนาการของพืชผกั บางชนิด คุณค่าทางโภชนาการส่วนทก่ี นิ ได้ 100 กรัม ส่วนประกอบ เกลอื แร่ วติ ามนิชื่อพชื ผกั พลังงาน โปร ีตน ไขมัน คา ์รโบไฮเดรต เ ้สนใย เ ้สนหใยยา ่ยบอย แคลไเ ้ด ี่ซยม ฟอสฟอ ัรส เหล็ก Total-A( RE ) เบ ้ตา-คาโรทีน วิตามิน ีซ ไทอามีน ไรโบฟลาวิน ไนอา ีซนหน่วยวดั (กโิ ล กรัม มิลลกิ รัม ไมโครกรัม มลิ ลกิ รัม แคลอร่ี)กะหล่าปลี 11 1.6 0.1 1.0 0.5 1.2 5 76 0.1 7 42 23 0.04 0.22 2.8ขา้ วโพดอ่อน 25 2.3 0.3 3.2 0.6 2.1 4 25 0.5 3 18 23 0.13 0.15 0.4คื่นช่าย 13 1.6 0.5 0.5 0.9 2.6 93 40 13.7 265 1593 45 0.02 0.18 0.6แครอท 37 1.6 0.4 6.8 1 - 1 68 1.2 116 6994 41 0.04 0.05 0.8 6แตงกวา 12 0.8 0.1 2.0 0.4 0.7 5 11 0.4 7 40 20 0.03 0.05 Tr.ถว่ั ฝักยาว 31 2.6 0.5 4.0 1.4 1.9 43 50 26 113 682 41 0.08 0.11 1ถว่ั ลนั เตา 52 4.3 0.1 8.5 1.4 - 171 115 1.5 - - 82 0.11 0.09 1.4บวบเหลี่ยม 17 0.7 0.2 3.0 0.3 - 5 24 0.7 5 30 15 0.02 0.04 0.4บร็อคโคลี่ 28 2.7 0.3 3.7 1.3 - 10 44 1.2 - - 18 0.05 0.23 2.8 3ผกั กวางตงุ้ 8 1.5 0.2 - 0.6 1.6 11 34 1.6 301 1808 25 0.04 0.07 0.5ผกั กาดขาว 9 1.5 0.1 0.6 0.5 - 7 20 0.4 2 11 52 0.07 0.24 1.2ผกั กาดเขียว 15 1.8 0.1 1.7 0.6 1 108 34 0.2 222 1329 55 0.03 0.18 0.4ผกั กาดหอม 24 2.0 0.4 3.0 0.8 - 16 39 4.9 286 1719 24 0.06 0.18 0.6ผกั คะนา้ 24 2.7 0.5 2.2 1.6 - 245 80 1.2 419 2512 14 0.05 0.08 1 7พริกข้ีหนู 55 3.4 1.4 7.2 5.2 - 4 14 1.2 - - 44 0.29 0.11 1.5ฟักทอง 43 1.9 0.2 8.5 1.7 - 21 17 4.9 - - 52 0.10 0.05 1.1มะเขือเทศ 22 1.1 0.3 3.6 1.2 1.1 2 31 4.9 62 373 32 0.06 0.04 0.9มะระจีน 28 1.0 0.2 5.6 0.7 - 21 32 0.7 - - 85 0.05 0.03 0.2กระเทียม 34 3.2 0.8 3.5 1.3 - 63 45 Tr. 272 1634 28 0.04 0.15 0.70ท่ีมา : มารศรี และ สุปราณี . (2544)

5สามารถจาแนกการปลูกพชื ผกั เพือ่ ผลทางดา้ นเศรษฐกิจออกไดด้ งั น้ี 2. 3.1 การปลกู เพอื่ เป็ นอาชีพหลกัการปลูกผกั เพอื่ เป็นอาชีพหลกั เป็นลกั ษณะการผลิตท่ีใชพ้ ้นื ที่มาก ปลูกตลอดท้งั ปี การดูแลเอาใจใส่ดี ลงทุนค่อนขา้ งสูง มีการจดั การดีและครบวงจร ลกั ษณะการทาสวนผกั แบบน้ีมกั พบมากในเขตภาคกลาง หรือพ้นื ที่ซ่ึงอยตู่ ามชานเมืองขนาดใหญ่ ผปู้ ลูกจะมีรายไดห้ ลกั จากการผลิตผกั ปลูกหมุนเวยี นตลอดท้งั ปี มีการใชเ้ ทคโนโลยกี ารผลิตค่อนขา้ งสูง ใชท้ ุน ใชก้ ารจดั การมาก มีความพร้อมดา้ นปัจจยั การผลิต การปลูกในลกั ษณะน้ีตอ้ งมีการวางแผนดา้ นการผลิตและการจาหน่ายผลผลิตเป็นอยา่ งดี 2. 3.2 การปลูกผกั เป็ นอาชีพเสริม การผลิตผกั ในลกั ษณะน้ี ผปู้ ลูกส่วนใหญม่ กั จะเป็นเกษตรกรรายยอ่ ยซ่ึงมีพ้นื ที่ปลูกไม่มากประมาณ 1-2 งาน มกั จะปลูกในบางช่วงของปี หรือปลูกตามฤดูกาล เช่น การปลูกผกั ในนาหลงั การเก็บเกี่ยวขา้ วนาปี การปลูกตามหวั ไร่ปลายนา การปลูกแซมหรือผสมผสานกบั พืชหลกั อ่ืน โดยใชพ้ ้นื ท่ีหรือเวลาที่เหลือจากการทากิจกรรมหลกั ใหเ้ กิดประโยชน์ ทาใหเ้ กิดรายไดเ้ พ่ิมข้ึนซ่ึงเรียกวา่ รายไดเ้ สริมการปลูกข้ึนอยกู่ บั ประสบการณ์และความชานาญ พบไดท้ วั่ ไปโดยเฉพาะการปลูกในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ เช่น การปลูกผกั บุง้ กวางตุง้ คะนา้ ในสภาพนาหลงั การเก็บเกี่ยวขา้ วนาปี โดยอาศยั แหล่งน้าในไร่นา เป็นตน้ 2. 3. 3 การปลูกเพอื่ ใช้บริโภคเป็ นการลดค่าใช้จ่ายในครอบครัว เป็นอีกรูปแบบหน่ึงของการผลิตผกั ท่ีไมไ่ ดม้ ีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ การจาหน่ายเป็นรายไดแ้ ต่ผลิตผกั ไวเ้ พ่ือใชบ้ ริโภคในครอบครัวซ่ึงเป็นการลดค่าใชจ้ า่ ยไมต่ อ้ งซ้ือผกั มาบริโภค ถา้ มีผลผลิตเหลือจากการบริโภคกน็ าไปแจกจ่ายเพื่อนบา้ นหรือขายไดเ้ งินเพยี งเล็กนอ้ ย สภาพการผลิตมกั ทาตามความพร้อมไม่มีการลงทุนหรือการจดั การมาก เลือกปลูกพชื ผกั ชนิดท่ีใชบ้ ริโภคในชีวติ ประจาวนั เป็นหลกั เช่นคะนา้ กวางตุง้ หอมแบง่ ข่า ตะไคร้ เป็นตน้ พืชผกั ท่ีปลูกส่วนใหญเ่ ป็นผกั สวนครัว การผลิตเนน้ ความปลอดภยั ในการบริโภคเป็นหลกั การปลูกในรูปแบบน้ีพบไดท้ ว่ั ไปโดยเฉพาะในชนบท

6 1.4 ความสาคญั ด้านอน่ื 2.4.1 ใช้เป็ นพชื สมุนไพรป้ องกนั กาจัดโรคและแมลงศัตรูพชื การใชเ้ ป็นสารสมุนไพรป้ องกนั กาจดั ศตั รูพืช พชื ผกั หลายชนิดนอกจากจะนามาใชเ้ ป็นอาหารแลว้ ยงั มีคุณสมบตั ิในการใชเ้ ป็นสารสมุนไพรป้ องกนั กาจดั ศตั รูพืช เพราะมีกล่ินฉุน จากกระแสการผลิตทางเกษตรในปัจจุบนั เนน้ การผลิตที่มีความปลอดภยั ไมท่ าลายสภาพแวดลอ้ ม เพ่อื ลด ละ และเลิกใชส้ ารเคมีในกระบวนการผลิต ทาใหต้ อ้ งหาทางเลือกใหมเ่ พอ่ื ทดแทนการใชส้ ารเคมี ซ่ึงทางเลือกหน่ึงที่นามาใชค้ ือ การใชพ้ ชื ผกั บางชนิดป้ องกนั กาจดั ศตั รูพชื ซ่ึงมีคุณสมบตั ิไล่และดึงดูดแมลง เป็นตน้ส่วนที่นามาใชเ้ ป็นสมุนไพรไดแ้ ก่ หวั เมล็ดใบ ผล และท้งั ตน้ ดงั ตารางท่ี 1.4ตารางท่ี 1.2 การใชพ้ ืชผกั เป็นสมุนไพรป้ องกนั กาจดั ศตั รูพชื ช่ือพชื ส่ วนของพชื ประสิทธิภาพ กระเทียม หวั ไล่แมลงวนั ทองปานกลาง แตงไทย เมลด็ ไล่แมลงวนั ทองสูง มะกรูด ใบ ไล่แมลงวนั ทองสูง ตะไคร้หอม ใบ ดึงดูดแมลงวนั ทองปานกลาง มะระ ผล ดึงดูดแมลงวนั ทองปานกลาง กระเพราแดงและขาว ท้งั ตน้ ดึงดูดแมลงวนั ทองสูง พริก ผล มีพิษตอ่ ดว้ งงวงขา้ ว มด เพล้ียออ่ น หนอนผเี ส้ือกะหล่า มะเขือเทศ ใบ ดว้ งหมดั ผกั หนอนเจาะลาตน้ หนอนใยผกั หนอนผเี ส้ือ กระเทียม หวั มีพิษต่อเพล้ียออ่ น และ หนอนกระทูผ้ กั ขา่ ลิง หวั มีพิษต่อเพล้ียออ่ นสูงท่ีมา: สาล่ี (2544)

7 2.4.2 การนาไปใช้ประดับประดาตกแต่งในทตี่ ่างๆ ในการจดั งานเล้ียง นิทรรศการ การประชุมสัมมนา การตกแต่งสถานท่ี ในปัจจุบนั นิยมใชว้ สั ดุจากธรรมชาติ นอกจากใชไ้ มด้ อกและไมป้ ระดบั แลว้ ยงั มีการนาพืชผกั หลายชนิดที่มีสีสัน สะดุดตาและรูปร่างที่หลากหลายมาใชใ้ นการตกแต่งประดบั ประดาตามโตะ๊ อาหาร และมุมหอ้ ง นอกจากน้ียงันามาแกะสลกั เพือ่ แสดงถึงศิลปวฒั นธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีไทยอีกดว้ ยภาพที่ 1 การนาพืชผกั มาตกแตง่ สถานที่ ภาพท่ี 2 การแกะสลกั เพอ่ื ประดบั ในจานอาหาร2.4. 3 ความสาคัญของพชื ผกั ในด้านเป็ นงานอดิเรกหรือเพอื่ การพกั ผ่อนการปลูกพชื ผกั นอกจากจะทาเป็นอาชีพหลกั หรืออาชีพเสริมแลว้ ยงั มีการปลูกพชื ผกั เพอ่ื การพกั ผอ่ น การออกกาลงั กาย หรือทาเป็นงานอดิเรก การปลูกพชื ผกั แบบน้ีใชพ้ ้ืนท่ีไมม่ าก ซ่ึงสามารถปลูกในรูปของสวนหยอ่ ม หรือปลูกในกระถางหนา้ บา้ น ความพถิ ีพิถนั ในการปลูกจะมากหรือนอ้ ยข้ึนอยกู่ บัผปู้ ลูก การปลูกแบบน้ีมกั พบในเมือง คนที่ปลูกมกั ไม่ไดค้ าดหวงั รายไดจ้ ากการปลูกผกั แบบน้ีภาพที่ 3 การปลูกผกั ในกระถางหนา้ บา้ น

8


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook