Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดที่ 3 รับผิดชอบต่อสังคม

ชุดที่ 3 รับผิดชอบต่อสังคม

Published by georgepitiyan, 2022-06-05 17:58:30

Description: ชุดการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานแบบมีส่วนร่วม เรื่อง พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนกะเปอร์วิทยา จังหวัดระนอง ได้พัฒนาขึ้นเพื่อพัฒนาคุณสมบัติของพลเมืองตามระบอบประชาธิปไตย

Search

Read the Text Version

1

คำนำ ชุดการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปญั หาเปน็ ฐานแบบมสี ่วนรว่ ม เรือ่ ง พลเมืองดีในระบอบ ประชาธิปไตย สาหรบั นกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียนกะเปอรว์ ิทยา จังหวัดระนอง ได้ พัฒนาขนึ้ เพือ่ พฒั นาคุณสมบตั ิของพลเมอื งตามระบอบประชาธิปไตย โดยใช้ข้ันตอนการจดั การ เรียนรูโ้ ดยใช้ปัญหาเปน็ ฐานของสานักงานมาตรฐานการศกึ ษาและพฒั นาการเรียนรู้ (2550 : 8) ได้แบง่ ขนั้ ตอนการจดั การเรียนรแู้ บบใชป้ ัญหาเป็นฐานไว้ ดงั น้ี ขน้ั ท่ี 1 เชือ่ มโยงปัญหาและระบปุ ัญหา เปน็ ข้นั ทค่ี รูนาเสนอสถานการณป์ ญั หา เพื่อกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนเกิดความสนใจและมองเห็นปญั หา สามารถระบุสิ่งทเ่ี ปน็ ปญั หาที่นกั เรยี น อยากรอู้ ยากเรยี นและเกดิ ความสนใจที่จะค้นหาคาตอบ ข้นั ท่ี 2 กาหนดแนวทางที่เป็นไปได้ นกั เรียนแต่ละกลุ่มวางแผนการศกึ ษา คน้ ควา้ ทาความเข้าใจ อภิปรายปญั หา ระดมสมอง คดิ วิเคราะห์ เพอ่ื หาวธิ ีการหาคาตอบ ครูคอย ช่วยเหลอื กระตุน้ ใหเ้ กิดการอภปิ รายในกลมุ่ ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจวิเคราะหป์ ญั หาแหล่งขอ้ มลู ขน้ั ที่ 3 ดาเนินการศึกษาคน้ ควา้ นกั เรยี นกาหนดสิง่ ทตี่ ้องเรยี น ดาเนินการศึกษา คน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ดว้ ยวธิ กี ารหลากหลาย ขนั้ ที่ 4 สงั เคราะห์ความรู้ นกั เรยี นนาขอ้ คน้ พบ ความรู้ท่ีไดค้ น้ ควา้ มาแลกเปลยี่ น เรียนรรู้ ว่ มกัน อภิปรายผลและสงั เคราะหค์ วามรู้ทีไ่ ด้มาว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ขน้ั ท่ี 5 สรปุ และประเมนิ คา่ ของคาตอบ นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ สรปุ ผลงานของกลุม่ ตนเอง และประเมินผลงานวา่ ข้อมูลที่ศึกษาคน้ ควา้ มีความเหมาะสมหรอื ไมเ่ พียงใด โดย พยายามตรวจสอบแนวคิดภายในกล่มุ ของตนเองอยา่ งอสิ ระ ทุกกลมุ่ ช่วยกันสรุปองคค์ วามรใู้ น ภาพรวมของปัญหาอีกครั้ง ขั้นท่ี 6 นาเสนอและประเมนิ ผลงาน นกั เรยี นนาขอ้ มลู ท่ไี ดม้ าจดั ระบบองค์ความรู้ และนาเสนอเป็นผลงานในรูปแบบที่หลากหลาย ครปู ระเมนิ ผลการเรียนรู้และทกั ษะกระบวนการ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูโ้ ดยใช้ปญั หาเป็นฐาน เรอื่ ง พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย สาหรบั นกั เรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 มีทั้งหมด จานวน 3 ชดุ ได้แก่ ชุดที่ 1 เคารพกตกิ า ชุดที่ 2 คนเทา่ เทยี ม ชดุ ที่ 3 รบั ผิดชอบต่อสังคม ผจู้ ดั ทาหวงั ว่าชดุ กิจการจดั การเรียนรู้โดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐานชดุ น้ี จะเป็นรปู แบบการ สอนที่จะกอ่ ให้เกิดการพัฒนาคุณสมบตั ิของพลเมอื งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะเป็น ประโยชน์ต่อการศกึ ษาในระดับสูงต่อไป ของผ้เู รยี นและนาขอ้ คิดไปประยกุ ต์ใช้ในการดาเนนิ ชวี ิต ได้อยา่ งเหมาะสม พติ ยิ ันต์ รักษ์พงศ์ 2

สำรบญั หนำ้ 2 เรือ่ ง 3 คานา 4 สารบญั 5 แผนผงั แสดงข้ันตอนการศกึ ษาชดุ การจดั การเรยี นรู้ 6 คาช้ีแจงสาหรบั ชดุ การจัดการเรยี นรู้ 7 คาแนะนาสาหรบั ครู 13 แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 3 15 แบบบนั ทึกการศกึ ษาคน้ คว้าและการแก้ปญั หา 16 คาแนะนาสาหรับนักเรยี น 17 บัตรคาส่งั 19 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 20 เฉลย แบบทดสอบกอ่ นเรียน 30 ใบความรทู้ ่ี 1 32 ใบกิจกรรมท่ี 1 การผลติ ภาพยนตร์ส้นั เพ่อื สงั คม 34 แบบทดสอบหลังเรยี น 35 เฉลย แบบทดสอบหลงั เรียน บรรณานุกรม 3

แผนผังแสดงข้นั ตอนกำรศึกษำชดุ กำรจัดกำรเรยี นรู้ ดังน้ี อ่ำนคำช้ีแจง และคำแนะนำ ศกึ ษำสำระสำคญั ศกึ ษำจดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ศึกษำบัตรคำสง่ั บัตรเนื้อหำ และบัตรแบบฝกึ หดั ทำแบบทดสอบหลังเรียน ผำ่ นเกณฑ์ ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์ ศึกษำชุดกำรจดั กำรเรยี นรูช้ ดุ ต่อไป 4

คำช้ีแจงสำหรับชดุ กำรจดั กำรเรยี นรู้ 1. เอกสารชุดนี้เป็นชุดการจัดการเรียนรโู้ ดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐานแบบมีสว่ น รว่ ม เร่ือง พลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตย สาหรับนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรียนกะเปอร์วทิ ยา จังหวัดระนอง เลม่ ท่ี 2 เรอ่ื ง รบั ผดิ ชอบต่อสังคม 2. ชดุ การจดั การเรียนรู้ชดุ น้ี ประกอบด้วย - คาช้แี จงเกี่ยวกับชดุ การจัดการเรียนรู้ - คาแนะนาสาหรับครู - คาแนะนาสาหรบั นักเรยี น - แผนผังแสดงข้นั ตอนการศกึ ษาชดุ การจัดการเรียนรู้ - มาตรฐานการเรยี นรู้ และตวั ช้ีวัด - สาระสาคัญ / จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - แบบทดสอบก่อนเรียน - กระดาษแบบทดสอบก่อนเรียน - บัตรเนอื้ หา - บัตรแบบฝึกหัด - แบบทดสอบหลังเรียน - กระดาษแบบทดสอบหลงั เรียน - เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น - เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น - บัตรเฉลยแบบฝกึ หัด 3. ชุดการจดั การเรยี นรู้ ชุดนีใ้ ช้เวลาในการเรยี น 2 ชั่วโมง 5

คำแนะนำสำหรบั ครู คู่มอื สาหรับครู ประกอบการใชช้ ุดการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปญั หาเปน็ ฐานแบบมีส่วน รว่ ม เรอื่ ง พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย สาหรับนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรียน กะเปอรว์ ิทยา จังหวดั ระนอง บทบำทของครผู ู้สอน ครูผสู้ อนเตรียมตวั ให้พร้อมโดยศกึ ษาละเอียดเกย่ี วกับการใช้ชุดการจัดการเรียนรู้ การ จดั ชน้ั เรยี น และการเตรยี มส่อื การเรียนรทู้ ่ใี ชป้ ระกอบการจดั การเรยี นรู้ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ครูจะตอ้ งจดั กจิ กรรมใหเ้ ขาตามท่ีระบไุ วใ้ นแผนการจดั การ เรียนรู้ เพอ่ื ใหก้ ิจกรรมเปน็ ไปอยา่ งตอ่ เน่ืองและบรรลจุ ุดประสงค์ กอ่ นทากจิ กรรมทุกคร้ัง ครตู ้องใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพอ่ื ใชส้ าหรบั ประเมินผลการเรยี นรู้ ครจู ะต้องอธบิ าย ชแ้ี จงวธิ ีปฏบิ ตั ิกิจกรรมให้ชัดเจนเพื่อให้นกั เรียนเข้าใจตรงกนั จึง จะทาใหก้ ารจัดกิจกรรมการเรียนรบู้ รรลเุ ป้าหมายและมีประสทิ ธภิ าพ ครูควรเน้นให้นกั เรยี นทกุ คนมีส่วนรว่ มในการปฏบิ ัติกจิ กรรมเพือ่ เปน็ การใหน้ ักเรียน รจู้ กั การทางานร่วมกัน ช่วยเหลือซงึ่ กันและกัน รับผิดชอบต่อหนา้ ทแ่ี ละกล้าแสดงออก ขณะดาเนินกิจกรรมและก่อนส้ินสุดกิจกรรม ครูต้องสังเกตกระบวนการทางานกลุ่ม ของนักเรยี นแตล่ ะกล่มุ และบันทกึ ผลในแบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ของนักเรียน หลังจากการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ สร็จสน้ิ ลงในแตล่ ะชดุ การจดั การเรียนรู้ ครเู ป็นผู้ ประเมนิ ผลการเรียนของนกั เรียนโดยใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หดั สิ่งทค่ี รตู ้องเตรยี ม 1. แผนการจดั การเรยี นรู้ 2. ส่ือการเรยี นร้ทู ่ีใช้ในกจิ กรรม 3. ใบความรู้ 4. ใบกิจกรรม 5. แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น 6. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ของนักเรียน 7. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ 1. ประเมนิ ผลด้านความรู้ 2. ประเมินผลดา้ นทกั ษะการทางานกลุ่ม 3. ประเมินผลด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6

แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ี่ 3 แผนการจัดการเรยี นรโู้ ดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน รายวชิ าหนา้ ทีพ่ ลเมืองฯ กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 เรอ่ื ง รบั ผิดชอบตอ่ สังคม เวลา 2 ชวั่ โมง 1. มำตรฐำนกำรเรียนรู้ สาระที่ 2 หน้าท่พี ลเมือง วฒั นธรรม และการดาเนนิ ชีวติ มาตรฐาน ส 2.1 ปฏบิ ตั ติ นตามหน้าทีข่ องการเปน็ พลเมอื งดี ตาม กฎหมาย ประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยรู่ ่วมกนั ในสังคมไทย และ สงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ขุ มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมอื งการปกครองในสังคมปัจจบุ นั ยึด มนั่ ศรัทธา และธารงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข 2. ผลกำรเรียนรู้ 1) เหน็ คณุ คา่ การอยู่ร่วมกนั ในภูมิภาคตา่ ง ๆ ของโลกอย่างสนั ติ และ พึง่ พาซึง่ กนั และกัน 3. สำระสำคัญ การรับผิดชอบตอ่ สงั คม คือ การมองตนเองเชอ่ื มโยงกับสงั คม เหน็ ตนเองเปน็ สว่ นหนึง่ ของปญั หา ความตระหนกั ว่าการกระทาใด ๆ ของตนมีผลตอ่ สงั คม การมสี ว่ นรว่ มในการแก้ปัญหาโดยไมก่ ่อปญั หา การลงมอื แก้ปญั หาดว้ ย ตนเอง เป็นส่ิงที่พงึ ปฏิบตั เิ พอ่ื การอยูร่ ่วมกนั ในสงั คมแห่งความหลากหลาย 4. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1) เพ่ือใหน้ กั เรยี นบอกความหมาย ความสาคัญและความจาเปน็ ของการ รบั ผดิ ชอบต่อสงั คมได้ 2) เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นทราบถึงผลดีท่เี กิดข้นึ จากการรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมและ ผลเสียทีเ่ กดิ จากการไมร่ บั ผิดชอบต่อสังคม 3) เพือ่ ให้นักเรยี นรจู้ กั การทางานเปน็ กลมุ่ 4) เพอื่ ใหน้ กั เรยี นมพี ฤติกรรมทีด่ ตี ่อการรบั ผิดชอบสงั คม 7

แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ี่ 3 แผนการจดั การเรยี นรโู้ ดยใช้ปญั หาเป็นฐาน รายวชิ าหน้าที่พลเมืองฯ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 เร่ือง รับผดิ ชอบตอ่ สงั คม เวลา 2 ช่วั โมง 5. สำระกำรเรียนรู้ 1) การเชื่อมโยงตนเองกบั สถานการณ์ และตระหนักถึงการกระทาที่มี ผลต่อสงั คม 2) มีส่วนรว่ มในการแกป้ ัญหาทเ่ี กดิ ขนึ้ ในสงั คม ด้วยการลงมอื ทาดว้ ย ตนเอง 6. กระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ช่ัวโมงที่ 1 5.1 ขนั้ กำหนดปัญหำ 1) ครใู หน้ กั เรียนชมภาพยนตรส์ ้ัน เร่ือง ลกู ชายคนกวาดขยะ Garbage Man เพือ่ ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายว่าเกยี่ วข้องกบั อะไร จากล้งิ ค์ https://youtu.be/oujqv98ZsZM 2) ครูสนทนากบั นักเรียนเก่ียวกับความรับผิดชอบของนกั เรยี น มคี วาม เหมือนหรอื แตกตา่ งจากเดก็ ชายพรชยั ในภาพยนตร์อยา่ งไร 3) แบ่งกลมุ่ ผเู้ รยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน โดยคละเพศ และ ความสามารถ 4) ให้ผเู้ รยี นแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั กาหนดปัญหาท่ีจะศกึ ษาค้นควา้ เชน่ - การรบั ผิดชอบต่อสงั คมมีความสาคญั และความจาเปน็ อยา่ งไร - ผลดที เี่ กิดขึ้นจากการรบั ผิดชอบตอ่ สังคมและผลเสยี ท่เี กิดจากการไม่ รับผดิ ชอบตอ่ สงั คมมีอะไรบ้าง - นกั เรียนจะแสดงออกอยา่ งไร เพอื่ บ่งบอกวา่ นกั เรียนมคี วามรับผดิ ชอบ ต่อสังคม 8

แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ 3 แผนการจดั การเรยี นรู้โดยใชป้ ญั หาเป็นฐาน รายวชิ าหน้าท่ีพลเมอื งฯ กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 เร่ือง รบั ผิดชอบต่อสังคม เวลา 2 ช่วั โมง 5.2 ข้ันทำควำมเข้ำใจกับปญั หำ แตล่ ะกลมุ่ ทาความเข้าใจกบั ปญั หาในประเด็นต่อไปน้ี - ปญั หาคอื อะไร อะไรคอื สงิ่ ท่ยี งั ไม่รู้ และหากตอ้ งการร้จู ะหาคาตอบไดจ้ ากท่ี ไหน เช่น ปญั หำ ส่งิ ที่ตอ้ งกำรรู้ แหล่งข้อมลู การรบั ผิดชอบต่อสังคมมี - ความหมายของการรบั ผิดชอบ - ใบความรู้ ความสาคัญและความจาเปน็ อยา่ งไร ต่อสังคม - หนังสอื คน้ คว้า - ความสาคัญของการ - ห้องสมุด รับผดิ ชอบต่อสังคม - สบื ค้นจากอินเตอรเ์ น็ต - ความจาเป็นของการ - ฯลฯ รบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม - ผลดีทเี่ กิดขน้ึ จากการ - ผลดที ่เี กิดข้ึนจากการ - ใบความรู้ - หนงั สือค้นคว้า รบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมและผลเสยี ที่ รับผดิ ชอบต่อสงั คม - หอ้ งสมดุ - สืบค้นจากอินเตอร์เนต็ เกิดจากการไม่รับผดิ ชอบตอ่ - ผลเสยี ท่ีเกดิ จากการไม่ - ฯลฯ สงั คมมอี ะไรบ้าง รับผดิ ชอบต่อสังคม - นกั เรยี นจะแสดงออกอยา่ งไร - ปฏิบตั ิตนอยา่ งไรเพือ่ ไมใ่ ห้ - ใบความรู้ เพ่ือบง่ บอกว่านกั เรียนมคี วาม เปน็ ภาระหรอื สง่ ผลกระทบต่อ - หนังสือค้นคว้า รับผิดชอบต่อสังคม สังคม - หอ้ งสมุด - มีวิธีการอย่างไรในการสร้างจติ - สบื คน้ จากอินเตอรเ์ น็ต สาธารณะและเสียสละเพือ่ - ฯลฯ สว่ นรว่ ม 9

แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ี่ 3 แผนการจดั การเรียนรูโ้ ดยใช้ปัญหาเปน็ ฐาน รายวชิ าหนา้ ท่ีพลเมอื งฯ กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 เรือ่ ง รับผิดชอบต่อสงั คม เวลา 2 ชว่ั โมง 5.3 ข้นั กำรดำเนนิ กำรศกึ ษำค้นควำ้ แตล่ ะกลุ่มวางแผนการศึกษาค้นคว้า โดย - กาหนดวธิ กี ารและแหล่งขอ้ มลู - แบง่ หนา้ ที่ในการปฏบิ ัติงาน - ลงมือดาเนนิ การศึกษาค้นควา้ จากแหล่งเรยี นรตู้ า่ ง ๆ และบนั ทกึ ผลการศึกษา ในแบบบันทกึ การศึกษาค้นควา้ และแก้ปัญหา (ตอนที่ 1) ชวั่ โมงท่ี 2 5.4 ขั้นสังเครำะหค์ วำมรู้ 1) นกั เรียนแตล่ ะคนในกลุ่มนาขอ้ มูลทไี่ ดจ้ ากการศกึ ษาค้นคว้ามาแลกเปลย่ี น เรยี นร้กู ันในกลุม่ 2) นกั เรยี นแต่ละกลุม่ รว่ มกันคิดพจิ ารณาต่อไปวา่ ความรู้ทไ่ี ดม้ ามีความถูกตอ้ ง สมบูรณ์และครบถว้ นตามประเด็นที่ต้องการศึกษาแลว้ หรือยังถ้าขอ้ มูลยังไม่เพียงพอให้ รว่ มกนั อภิปรายได้ศึกษาค้นควา้ เพิม่ เติม 3) ครูผู้สอนใหค้ าแนะนาเพ่ิมเตมิ ในแตล่ ะกลุ่ม 5.5 ขน้ั สรุปและประเมินคำ่ ของคำตอบ 1) สมาชกิ แต่ละกล่มุ ชว่ ยกนั สรุปผลการศกึ ษาค้นคว้าลงในแบบบนั ทกึ ผล การศกึ ษา ในแบบบันทกึ การศึกษาค้นคว้าและแก้ปัญหา (ตอนที่ 2) พรอ้ มทง้ั ร่วมกันผลติ ภาพยนตรส์ ั้น ตามประเด็นที่กล่มุ สนใจ ตามใบงานที่ 1 2) สมาชิกในกลุ่มรว่ มกันประเมินผลงานของกลมุ่ 5.6 ขนั้ นำเสนอและประเมินผลงำน 1) แตล่ ะกลมุ่ นาเสนอผลงานด้วยการฉายภาพยนตร์ส้ันเกย่ี วกบั ความรับผิดชอบ ตอ่ สังคม 2) เพ่ือน ๆ และผูส้ อน รว่ มกนั ประเมินผลงาน 3) ครูผ้สู อนเสนอแนะความร้เู พมิ่ เตมิ 10

แผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ่ี 3 แผนการจดั การเรยี นรูโ้ ดยใช้ปญั หาเปน็ ฐาน รายวิชาหนา้ ทพ่ี ลเมืองฯ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3 เร่อื ง รับผิดชอบต่อสงั คม เวลา 2 ชัว่ โมง 6. สอ่ื /อปุ กรณ์/แหล่งเรียนรู้ 6.1 ส่อื - ภาพยนตร์สั้น เรอ่ื ง ลกู ชายคนกวาดขยะ Garbage Man - แบบบันทึกการศึกษาคน้ ควา้ และแกป้ ัญหา - ใบความรู้ เรือ่ ง รับผดิ ชอบต่อสงั คม - ใบงานที่ 1 เร่อื ง การผลติ ภาพยนตรส์ ้นั เพ่อื สงั คม 6.2 แหลง่ เรยี นรู้ - ใบความรู้ - หนงั สอื ค้นคว้า - ห้องสมดุ - อนิ เตอรเ์ น็ต - ฯลฯ 7. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล สิง่ ท่ีวัด วธิ กี ำรวดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ำรวดั ทดสอบ ผา่ นร้อยละ 80 ดา้ นความรู้ แบบทดสอบ เรือ่ ง คน ดา้ นรบั ผดิ ชอบต่อสังคม สังเกตพฤติกรรม เทา่ เทียม เปอรเ์ ซน็ ต์ ประเมินทักษะ ผา่ นระดับ ดี ขึน้ ด้านทกั ษะ กระบวนการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทางานเป็นกลุ่ม สังเกตพฤติกรรม การทางานกลมุ่ ของ ไป ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ นกั เรยี น ผา่ นระดับ ดี ขึ้น ประสงค์ ไป แบบประเมิน พฤตกิ รรมทด่ี ีตอ่ การ คุณลกั ษณะอนั พงึ 11 รับผิดชอบสังคม ประสงค์

แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี 3 แผนการจัดการเรียนรโู้ ดยใช้ปญั หาเปน็ ฐาน รายวชิ าหน้าที่พลเมอื งฯ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 เรอื่ ง รบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม เวลา 2 ช่วั โมง 8. สรุปผลกำรสอน 8.1 ผลกำรสอน 1. สรปุ จานวนและคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนที่ทดสอบ เรอ่ื ง รบั ผิดชอบต่อสงั คม 2. สรุปจานวนผผู้ ่านเกณฑ์ประเมินและคะแนนเฉลี่ยจากการสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน ด้านทกั ษะกระบวนการ 3. สรุปจานวนผผู้ า่ นเกณฑป์ ระเมินและคะแนนเฉลย่ี จากการสังเกตพฤติกรรมนกั เรยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8.2 ปัญหำ/อุปสรรค 8.3 ข้อเสนอแนะ/แนวทำงกำรแกไ้ ข 12

แบบบนั ทกึ กำรศกึ ษำค้นคว้ำและกำรแก้ปญั หำ เร่อื ง………………………………………………………….. กลมุ่ ท.่ี .........................................สมาชิก ประกอบดว้ ย 1. …………………………………………………………………………………….ประธาน 2. …………………………………………………………………………………….เลขานุการ 3. ……………………………………………………………………………………. 4. ……………………………………………………………………………………. 5. ……………………………………………………………………………………. ตอนท่ี 1 หวั ข้อปัญหำ................................................................................................ ทำควำมเข้ำใจปญั หำ • สิ่งท่ีตอ้ งการรู้............................................................................ • วิธีการหาคาตอบ....................................................................... • แหลง่ ขอ้ มูล............................................................................... กำรศกึ ษำคน้ ควำ้ และแกป้ ญั หำ ชอ่ื สมำชกิ กำรแบง่ หนำ้ ที่ แหล่งขอ้ มลู ผลกำรศึกษำ 13

ตอนที่ 2 สรุปผลกำรศึกษำคน้ ควำ้ และแกป้ ญั หำ .................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 14

คำแนะนำสำหรับนักเรยี น คู่มอื สาหรับนักเรยี นประกอบการใชช้ ุดการจัดการเรียนรู้โดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐานแบบมีส่วนรว่ ม เรื่อง พลเมอื งดใี นระบอบประชาธปิ ไตย สาหรบั นักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรียนกะเปอร์วทิ ยา จงั หวัดระนอง 1. คำแนะนำในกำรปฏิบัติ การใช้ชดุ การจดั การเรยี นรโู้ ดยใช้ปญั หาเปน็ ฐานแบบมสี ่วนรว่ ม เรอ่ื ง พลเมอื งดใี นระบอบประชาธิปไตย สาหรับนักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรียนกะเปอร์วิทยา จังหวดั ระนอง ให้บรรลจุ ดุ ประสงคแ์ ละมปี ระสทิ ธภิ าพ ให้ นักเรยี นปฏิบตั ดิ งั ต่อไปนี้ 1. ก่อนดาเนนิ กิจกรรมการเรยี นการสอน ให้นักเรียนปฏบิ ัติตามใบ กจิ กรรม และถ้ามีการแบ่งกลมุ่ ให้นกั เรียนคดั เลือกประธาน เลขานกุ าร บันทึก รายช่อื สมาชกิ กลมุ่ ลงในใบกิจกรรม 2. เตรยี มความพร้อมทางด้านรา่ งกายและอารมณข์ องตนเองใหพ้ ร้อม สาหรบั การปฏิบตั ิกิจกรรมรว่ มกับเพ่อื นในห้องเรียนหรือภายในกลมุ่ กบั เพื่อนรว่ มชั้น เรยี น เพอื่ ใหเ้ รียนได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 3. ให้ความรว่ มมือในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมกบั ครูและเพื่อนภายในกลุ่มหรือ เพื่อนร่วมช้นั เรียนโดยปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆอย่างต้งั ใจ 2. กจิ กรรมทนี่ กั เรียนต้องปฏิบตั ิ 1. ปฏบิ ัติกจิ กรรมตามลาดับขน้ั ตอน อา่ นคาชี้แจงจากใบกิจกรรม ใบ ความรู้ และบนั ทึกผลการปฏบิ ัติงาน เพ่อื ให้ทราบความกา้ วหน้าในการเรียนแตล่ ะ ครง้ั 2. มคี วามกระตือรอื ร้นในการปฏบิ ัติกจิ กรรม เมื่อมปี ัญหาให้ปรึกษา เพือ่ นรว่ มกล่มุ หรอื ครู ร่วมกนั อภปิ รายและแสดงความคดิ เหน็ กับทกุ คนอยา่ งมี เหตผุ ล 3. กำรประเมนิ ผล นกั เรยี นบนั ทึกใบกิจกรรมและทาแบบทดสอบเพื่อประเมินผลทางการ เรยี น 15

บัตรคำสง่ั ใหน้ ักเรยี นปฏิบตั ิตำมขน้ั ตอนตอ่ ไปนี้ 1. เลขานุการแตล่ ะกล่มุ สง่ ตัวแทนออกมารับชุดการจดั การ เรยี นร้โู ดยใชป้ ัญหาเปน็ ฐานแบบมสี ว่ นร่วม เรอื่ ง พลเมืองดใี นระบอบ ประชาธิปไตย สาหรับนกั เรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรียนกะเปอร์ วทิ ยา จงั หวดั ระนอง ชุดท่ี 3 เร่อื ง รบั ผิดชอบตอ่ สงั คม จากครู 2. ให้นักเรยี นแต่ละคนศกึ ษาสาระสาคญั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ และทาแบบทดสอบก่อนเรียนจานวน 10 ข้อ 3. ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาใบความรู้ ทากจิ กรรมกลมุ่ ตามใบกิจกรรมท่ี ครูกาหนดให้ 4. ถา้ ไม่เขา้ ใจใหศ้ ึกษาจากบัตรเน้อื หาอีกครัง้ หนึ่ง 5. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียนจานวน 10 ขอ้ 16

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรื่อง รบั ผิดชอบต่อสังคม คาชี้แจง (จงเลือกคาตอบท่ีถกู ตอ้ งเพยี งขอ้ เดียว) 1. ขอ้ ใดมใิ ชค่ วามรบั ผิดของนกั เรยี น ก. ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ข. ความรบั ผิดชอบต่อค่าเลา่ เรยี น ค. ความรับผิดชอบต่อสถานศึกษา ง. ความรบั ผิดชอบต่อสังคม 2. การรู้จกั บทบาทหน้าทีข่ องตนเองท่ีมีต่อส่วนรวมหมายถึงความรบั ผิดชอบดา้ นใด ก. ความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ข. ความรับผดิ ชอบตอ่ การศกึ ษาเล่าเรยี น ค. ความรับผดิ ชอบต่อสถานศึกษา ง. ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม 3. การดารงไวซ้ ง่ึ ศิลปวัฒนธรรมแหง่ ความเปน็ ไทย คือ ความรับผิดชอบต่อสังคม ตาม ข้อใด ก. ความรบั ผดิ ชอบต่อ บดิ ามารดาและครอบครวั ข. ความรับผดิ ชอบตอ่ เพื่อน ค. ความรับผิดชอบต่อชมุ ชน ง. ความรับผดิ ชอบต่อประเทศชาติ 4. การไม่ตัง้ ใจศกึ ษาเลา่ เรยี น หนเี รียนแสดงวา่ ขาดความรบั ผดิ ชอบดา้ นใด ก. ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สถานศกึ ษาครูอาจารย์ ข. ความรบั ผิดชอบตอ่ เพื่อน ค. ความรับผดิ ชอบต่อชมุ ชน ง. ความรับผดิ ชอบตอ่ ประเทศชาติ 5. ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชนข์ องการมคี วามรบั ผดิ ชอบ ก. เป็นคนท่ีมีการวางแผนทดี่ ี ข. เปน็ คนทต่ี รงตอ่ เวลา ค. เป็นคนทร่ี จู้ กั หาชอ่ งทางเอาตัวเองใหร้ อด ง. เป็นคนขยนั หมั่นเพยี ร 17

แบบทดสอบก่อนเรยี น (ตอ่ ) เรอ่ื ง รบั ผิดชอบต่อสังคม คาชแี้ จง (จงเลือกคาตอบที่ถูกตอ้ งเพียงข้อเดียว) 6. บคุ คลทป่ี ฏบิ ตั เิ วรดแู ลทาความสะอาดหรือการจดั การเรื่องต่าง ๆ ภายในหอ้ งเรียนอยเู่ ป็น ประจาแสดงใหเ้ ห็นวา่ บุคคลผนู้ นั้ มีสานึกรบั ผดิ ชอบต่อสังคมตามขอ้ ใด ก. รจู้ กั ชว่ ยเหลอื และดูแลตนเอง เพ่อื ไมใ่ หเ้ ปน็ ภาระหรือสง่ ผลกระทบตอ่ สงั คม ข. รู้จกั ทีจ่ ะคิดใครค่ รวญใหด้ กี ่อนทีจ่ ะลงมอื ทาหรือแสดงความคิดเห็น ค. มจี ิตสาธารณะและเสยี สละเพ่ือส่วนร่วม ง. เข้าใจถึงฐานะการเป็นสมาชิกในครอบครวั ชุมชน สังคม หรือการเปน็ พลเมอื งท่ีดี ของประเทศ 7. บุคคลท่รี ู้จักการคิดก่อนท่จี ะลงมอื ทา โดยลงมือทาจากการเรยี นรู้ เลือกข้อมูลทถ่ี กู ต้อง เหมาะสมบุคคลผนู้ ั้นมีสานึกรับผดิ ชอบตอ่ สังคมตามข้อใด ก. รจู้ กั ชว่ ยเหลือและดูแลตนเอง เพือ่ ไมใ่ หเ้ ปน็ ภาระหรอื ส่งผลกระทบต่อสังคม ข. รจู้ กั ท่จี ะคิดใคร่ครวญให้ดกี ่อนท่ีจะลงมอื ทาหรอื แสดงความคดิ เห็น ค. เขา้ ใจถึงฐานะการเป็นสมาชิกในครอบครวั ชมุ ชน สังคม หรือการเปน็ พลเมอื งทดี่ ี ของประเทศ ง. มีจิตสาธารณะและเสยี สละเพือ่ สว่ นร่วม 8. การทากจิ กรรมอาสาพฒั นา หรอื การร่วมกิจกรรมช่วยเหลอื ตามหน่วยงานตา่ ง ๆ เป็นการ สานกึ รับผิดชอบตอ่ สังคมตามข้อใด ก. มีจิตสาธารณะและเสยี สละเพือ่ ส่วนรว่ ม ข. รจู้ กั ช่วยเหลือและดูแลตนเอง เพอ่ื ไม่ให้เปน็ ภาระหรอื ส่งผลกระทบต่อสังคม ค. รู้จกั ทจ่ี ะคดิ ใครค่ รวญใหด้ กี อ่ นท่ีจะลงมือทาหรือแสดงความคดิ เหน็ ง. เขา้ ใจถึงฐานะการเป็นสมาชกิ ในครอบครวั ชุมชน สงั คม หรือการเปน็ พลเมืองทีด่ ี ของประเทศ 9. ข้อใดหมายถงึ การมคี วามคิดแบบคิดรเิ ริ่ม ไม่จาเป็นตอ้ งรอตอบสนอง ก. การคิดแบบถอ้ ยคา ข. การคิดแบบภาพรวม ค. การคดิ แบบโปรแอคทฟี ง. การคิดเชิงระบบ 10. ในชว่ งการระบาดของเช้ือ Covid-19 นักเรียนควรใชแ้ นวคดิ แบบโปรแอคทีฟเพื่อปฏบิ ตั ิ ตนตามขอ้ ใด ก. สังสรรค์กับเพอ่ื นเปน็ ประจา เพื่อแก้เบ่ือ ข. เดนิ ทางไปท่องเท่ยี ว เพราะคนส่วนใหญอ่ ยบู่ ้าน ค. ใชช้ วี ติ ปกติ เพราะไมเ่ คยเจ็บไข้ไดป้ ว่ ย ง. ใสห่ นา้ กากอนามยั ขณะเดินทาง พกเจลล้างมือ 18

ใบควำมรู้ที่ 1 เร่ือง รับผิดชอบตอ่ สังคม 1. แนวคดิ เกีย่ วกับควำมรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ความรับผิดชอบ หมายถึง การรู้จักหน้าท่แี ละปฏิบัตหิ นา้ ท่ี อย่างเหมาะสม มปี ระสทิ ธิภาพทนั ตามกาหนดเวลา มี 4 ดา้ น คอื ความรับผดิ ชอบต่อตนเอง หมายถงึ การร้จู กั หน้าทีข่ องตนเอง และปฏบิ ัตหิ น้าท่ขี องตนเองอย่างเหมาะสม ใหส้ าเร็จลลุ ว่ ง มี ประสทิ ธภิ าพทนั ตามกาหนดเวลา ในทีน่ อี้ าจรวมได้กับ ความรับผิดชอบตอ่ การศึกษาเล่าเรยี น รวมทง้ั ตัง้ ใจศึกษาเล่า เรียนจนประสบความสาเร็จตามความมุ่งหมายด้วยความขยันหมนั่ เพียร ละเอยี ด รอบคอบ อดทน ซื่อสัตย์ และมีระเบยี บวนิ ยั ความรบั ผิดชอบตอ่ สถานศกึ ษา หมายถงึ การทีน่ ักเรียนมีสว่ น ร่วมในกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของสถานศึกษา รกั ษาผลประโยชน์ เกยี รตยิ ศ ช่อื เสียง ตลอดจนการสรา้ งสรรค์ความเจริญกา้ วหนา้ ให้แก่สถานศึกษา ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม หมายถงึ การรจู้ ักบทบาทหน้าที่ของ ตนเองท่มี ตี ่อสว่ นรวมเพอ่ื ความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ยของสังคม โดยการ ปฏิบัตติ ามกฎระเบียบของสงั คม รวมทั้งจูงใจให้ผอู้ ืน่ ปฏิบตั กิ จิ กรรมเพ่ือ ความสขุ ของสงั คม 19

ใบควำมรู้ที่ 1 เรื่อง รับผิดชอบตอ่ สังคม 2. ควำมสำคัญของควำมรับผิดชอบต่อสังคม การกระทาของบุคคลใดบคุ คลหนง่ึ ย่อมต้องส่งผลกระทบต่อ สังคมส่วนรวมไมม่ ากก็น้อย เม่ือบุคคลทุกคนมีภาระหน้าทที่ จ่ี ะเกยี่ วพนั กบั สวสั ดิภาพของสงั คม ท่ีตนดารงอยบู่ คุ คลจึงมหี น้าท่แี ละความ รบั ผิดชอบต้องปฏิบตั ติ อ่ สงั คม 5 ประการ ดังนี้ 1) ความรบั ผดิ ชอบต่อ บดิ ามารดาและครอบครัวได้แกใ่ ห้ความ เคารพและเชือ่ ฟงั ชว่ ยเหลือการงานให้เตม็ ความสามรถในแตล่ ะโอกาส อันสมควร ประพฤติตนเป็นคนดี ตัง้ ใจศกึ ษาเล่าเรียน ไม่นาความ เดอื ดร้อนมาสู่ครอบครัวและชว่ ยกนั รักษา และเชิดชชู ่ือเสยี งวงศต์ ระกลู 2) ความรบั ผดิ ชอบตอ่ เพื่อน ไดแ้ ก่ การให้ความรกั แกเ่ พ่ือน เปรยี บเสมือนพ่ีนอ้ งของตน ตกั เตือนเมอ่ื เพอ่ื นกระทาผิดแนะนาใหเ้ พ่ือน กระทาในสิง่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ชว่ ยเพอื่ นอย่างเหมาะสมและถกู ต้อง ไมเ่ อารัดเอา เปรยี บ ให้อภัยในกรณที ่เี กดิ ความผิดพลาดหรือบาดหมางกัน ใช้ถอ้ ยคา สุภาพต่อกันด้วยความอ่อนโยน 3) ความรบั ผดิ ชอบต่อสถานศกึ ษาครอู าจารย์ ไดแ้ ก่ การตั้งใจ ศกึ ษาเล่าเรียน ไม่หนีเรยี น เคารพและเช่อื ฟังครูอาจารย์ชว่ ยเหลือ กจิ กรรมงานของสถานศกึ ษาอย่างเครง่ ครัด รกั ษาความสะอาด ไม่ ทาลายทรัพย์สมบตั ิของสถานศกึ ษา รกั ษาและสรา้ งชอื่ เสียงเกียรตยิ ศ ของสถานศึกษา 20

ใบควำมรู้ท่ี 1 เรื่อง รับผดิ ชอบตอ่ สังคม 2. ควำมสำคัญของควำมรับผดิ ชอบต่อสังคม (ต่อ) 4) ความรบั ผิดชอบตอ่ ชมุ ชน ในฐานะท่เี ปน็ สมาชิกของชุมชน ไดแ้ ก่ เคารพ และปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บข้อบงั คบั หรือขนบธรรมเนียม ประเพณที ีย่ ึดถอื ภายในชมุ ชนของตน ช่วยรกั ษาสาธารณสมบตั แิ ละให้ ความร่วมมอื ในการทางานเพื่อพัฒนาชุมชน ไม่ละเลยต่อพลเมอื งดี 5) ความรับผดิ ชอบต่อประเทศชาติ ได้แก่ ปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย หรอื ระเบยี บตา่ ง ๆ ของสงั คมรักษาสาธารณสมบัตขิ องชาตใิ ห้ความ ร่วมมอื และชว่ ยเหลือเจ้าหน้าที่ในการรกั ษาความมัน่ คงของชาติ จงรักภกั ดตี อ่ ชาตศิ าสนา พระมหากษัตรยิ ์ รักษาความสามคั คขี องคนใน ชาติ ดารงไวซ้ ่ึงศิลปวฒั นธรรมแหง่ ความเปน็ ไทย ความรับผดิ ชอบเป็นคณุ สมบตั ทิ ี่ดีอย่างหนง่ึ ซึ่งจาเปน็ อย่างยงิ่ ที่ ควรปลูกฝงั ใหแ้ กเ่ ด็กและเยาวชนไทย นอกจากความมรี ะเบียบวินยั ความ ซ่ือสัตย์สุจรติ ความขยนั ม่ันเพยี ร มมี านะอุตสาหะ และความเสยี สละอนั เปน็ คุณลักษณะของพลเมืองดี 21

ใบควำมรทู้ ่ี 1 เรื่อง รบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม 3. ประโยชนข์ องกำรมีควำมรบั ผดิ ชอบ ความรับผิดชอบเป็นลักษณะของความเปน็ พลเมืองท่ดี ีท่ีสาคัญ อยา่ งหน่ึง ความรสู้ กึ รบั ผดิ ชอบเปน็ ลกั ษณะนิสยั และทัศนคตขิ องบคุ คล ซึ่งเป็นเครอ่ื งผลักดันใหเ้ กดิ การปฏิบตั ติ ามระเบยี บ เคารพสิทธขิ องผู้อ่ืน ทาตามหน้าทขี่ องตนเองและมคี วามซอ่ื สัตย์สุจรติ การทบ่ี ุคคลมีลักษณะ ความผดิ ชอบ จะช่วยให้การอยู่รว่ มกันในสงั คมเป็นไปดว้ ยความราบร่นื สงบสขุ นอกจากนค้ี วามรบั ผดิ ชอบยังเปน็ คณุ ธรรมที่สาคญั ในการพัฒนา ประเทศ หากคนในชาติมีความรับผดิ ชอบจะเกิดผล ดงั น้ี 1. ทาใหง้ านและกิจกรรมต่าง ๆ สาเรจ็ ลุลว่ งตามเปา้ หมายทต่ี ้ัง ไว้ 2. กอ่ ใหเ้ กดิ ความซ่อื สตั ย์ต่อตนเองและผู้อืน่ 3. เกดิ การเติบโตและพฒั นาทางดา้ นจติ ใจมากขน้ึ 4. มคี วามเจริญก้าวหน้าทางด้านชีวติ และการงาน 5. เป็นที่ยอมรบั เช่อื ถือ และเป็นท่ีไวใ้ จของคนอืน่ 6. คนมคี วามรบั ผิดชอบยอ่ มเป็นทนี่ ับถอื ได้รบั การยกยอ่ ง สรรเสริญและเปน็ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและต่อสังคม 7. ความรบั ผดิ ชอบเป็นสิ่งเก้อื หนนุ ใหบ้ ุคคลปฏิบัติงานสอดคล้อง กับกฎหมาย คณุ ธรรม จริยธรรม และหลักเกณฑข์ องสงั คม โดยไมม่ ีการ บงั คับจากผอู้ ืน่ 22

ใบควำมรู้ท่ี 1 เรื่อง รบั ผิดชอบตอ่ สังคม 3. ประโยชนข์ องกำรมีควำมรบั ผิดชอบ (ต่อ) 8. คนทีม่ ีความรบั ผิดชอบ จะไมน่ าความเส่ือมเสียและสร้างความ เสยี หายแกต่ นเองและสังคม 9. คนทม่ี ีความรับผดิ ชอบจะทาใหเ้ กดิ ความก้าวหน้าสงบสขุ ตอ่ ตนเอง 10. ความรบั ผดิ ชอบทาใหเ้ ราโตขน้ึ 11. ทาให้รจู้ กั ตดั อะไรบางอย่างที่ไม่สาคัญออก เพราะเวลาท่ี จากัดข้ึน 12. ทาใหเ้ รารจู้ ักเปน็ ผใู้ ห้ และดูแลใส่ใจผู้อนื่ มากขึ้น 13. ทาให้เราเขา้ ใจโลกมากข้ึน 14. ทาใหเ้ รารจู้ กั เลือกและรับสง่ิ ท่คี ่คู วรมากขึน้ 15. ไดร้ บั โอกาสดๆี เพราะจากการลงมอื ปฏบิ ตั ิด้วยตนเอง 16. มโี อกาสตอบแทนคณุ คน กตัญญตู ่อผู้ท่ีเคยรบั ผิดชอบตวั เรา มากอ่ น เปน็ ความภมู ใิ จ และ ความสขุ ใจทีม่ ีคณุ ค่า 17. คนท่ีมีความรับผดิ ชอบเปน็ คนทีม่ นษุ ยสัมพันธด์ กี ับทุกคน 18. คนท่มี ีความรับผิดชอบ เป็นคนท่มี ีศกั ยภาพท่ดี ี 23

ใบควำมร้ทู ่ี 1 เรื่อง รบั ผดิ ชอบต่อสังคม 3. ประโยชน์ของกำรมีควำมรบั ผดิ ชอบ (ตอ่ ) 19. คนท่มี คี วามรบั ผดิ ชอบ เปน็ คนท่สี มรรถนะทดี่ ี (Based Competency) 20. คนทม่ี คี วามรบั ผดิ ชอบ เป็นคนทม่ี ีความกระตอื รือร้นในการ ปฏิบัติงานเสมอ 21. คนทีม่ ีความรบั ผดิ ชอบ เปน็ คนท่ีมีการวางแผนท่ดี ี 22. คนท่ีมีความรับผิดชอบ เปน็ คนทตี่ รงต่อเวลา 23. คนทม่ี คี วามรบั ผดิ ชอบ เปน็ คนท่มี วี สิ ยั ทศั นท์ ีด่ ี 24. คนท่มี คี วามรับผดิ ชอบ เป็นคนขยนั หมัน่ เพียร 25. คนทม่ี ีความรบั ผิดชอบ เปน็ คนมุง่ มนั่ และมเี ป้าหมายในการ ทางาน 26. คนที่มีความรบั ผิดชอบ มีความเช่ือมัน่ ในตนเอง 27. คนทม่ี คี วามรบั ผิดชอบ เป็นคนมองโลกในแง่ที่ดเี สมอ 28. คนที่มคี วามรบั ผดิ ชอบ จะเจรญิ ก้าวหน้าในหนา้ ที่การงาน 29. คนที่มีความรบั ผิดชอบเป็นคนนา่ เชือ่ และมคี ุณค่าในสังคม 30. คนท่ีมคี วามรับผดิ ชอบจะไดร้ บั ความไว้วางใจจากผอู้ ื่น 24

ใบควำมรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง รับผิดชอบต่อสังคม 3. ประโยชนข์ องกำรมคี วำมรบั ผดิ ชอบ (ต่อ) 31. คนที่มคี วามรับผิดชอบสามารถดารงชวี ิตในสังคมอยา่ งมี ความสขุ ตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง 32. คนท่มี คี วามรบั ผดิ ชอบเปน็ คนทม่ี รี ะเบยี บวนิ ัยต่อตนเองและ สงั คม 33. คนท่ีมคี วามรับผดิ ชอบเป็นคนซือ่ สัตย์ ซอ่ื ตรง ต่อตนเองและ สังคม 34. คนทม่ี คี วามรับผดิ ชอบเป็นคนที่มีความยตุ ิธรรม 35. คนทม่ี คี วามรบั ผดิ ชอบเปน็ คนที่มคี วามเป็นประชาธปิ ไตย 36. คนที่มคี วามรับผิดชอบเปน็ คนทมี่ ชี วี ิตที่สงบสุข 37. คนท่ีมคี วามรบั ผิดชอบเปน็ คนท่ีพบความสาเรจ็ ในชีวติ 25

ใบควำมรูท้ ่ี 1 เรอ่ื ง รับผดิ ชอบต่อสังคม 4. กำรปฏบิ ตั ิตนให้เปน็ ผทู้ ี่มสี ำนึกรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 1) รู้จักช่วยเหลอื และดูแลตนเอง เพอ่ื ไมใ่ ห้เป็นภำระหรือส่งผล กระทบตอ่ สงั คม ร้จู ักช่วยเหลือตัวเองในการทากิจกรรมต่าง ๆ จะทาให้มคี วามกลา้ และ มคี วามมัน่ ใจในการทากจิ กรรมตา่ ง ๆ มากขึน้ เพ่ือจะได้ไม่เปน็ ภาระและคอยแต่ จะรับการชว่ ยเหลือจากบคุ คลอืน่ ซึ่งกิจกรรมทีช่ ่วยสง่ เสรมิ ในจดุ นี้ ไดแ้ ก่ การ ปฏิบตั เิ วรดูแลทาความสะอาดหรือการจดั การเร่ืองต่าง ๆ ภายในห้องเรียนตาม ตารางท่ีไดร้ ับมอบหมาย การดูแลตัวเอง เวลาทต่ี วั เองปว่ ย มีนา้ มกู หรือมอี าการ ไอ ควรใส่หนา้ กากอนามยั เพือ่ ไม่ตัวเองแพรเ่ ชอ้ื ไปสู่บคุ คลอนื่ เปน็ ต้น 2) รู้จกั ที่จะคิดใครค่ รวญใหด้ ีกอ่ นท่ีจะลงมอื ทำหรือแสดงควำม คิดเหน็ ควรใสใ่ จสังคมในการกระทาหรือแสดงความคดิ เหน็ ในเร่อื งต่าง ๆ โดย การคิดใคร่ครวญกอ่ นท่จี ะทาอะไรลงไป เพราะบางคร้งั การกระทาหรอื แสดง ความคิดเห็นอะไรบางอยา่ งนน้ั อาจจะสง่ ผลกระทบตอ่ สงั คมและต่อตัวเองได้ใน อนาคต ดังนนั้ การกระทาหรอื แสดงความคิดเหน็ ใด ๆ จึงควรเปน็ ไปเพอ่ื การ สง่ เสรมิ พัฒนามากกว่าท่ีจะสรา้ งใหเ้ กดิ ความหวาดกลวั ต่นื ตระหนกหรือ แตกแยก การใช้ประโยชนจ์ ากโซเชียลมีเดยี ในการปลกุ ปั่นสร้างความตื่น ตระหนักและความแตกแยกใหเ้ กดิ ขึ้นในสงั คม เพือ่ หวังผลประโยชนซ์ อ่ นเร้น หรืออาจจะกระทาดว้ ยความคึกคะนองนน้ั เป็นการแสดงให้เหน็ ถงึ การขาด กระบวนการคิดทีด่ ี แยกแยะผิดถูก รวมถงึ ความเหมาะสมหรอื ไม่เหมาะสม ดังนนั้ การคิดกอ่ นทจี่ ะลงมือทานนั้ จะตอ้ งเรยี นรเู้ รอื่ งราวจากขา่ วสารตา่ ง ๆ โดยใช้วจิ ารญาณในการแยกแยะถูกผิดและควรเลอื กขอ้ มลู ท่ีถูกตอ้ งเหมาะสม และเปน็ ประโยชน์ตอ่ ตวั เองและสังคม 26

ใบควำมรทู้ ี่ 1 เรื่อง รับผิดชอบต่อสงั คม 4. กำรปฏบิ ัตติ นใหเ้ ปน็ ผู้ท่มี ีสำนึกรับผิดชอบตอ่ สงั คม (ต่อ) 3) มจี ติ สำธำรณะและเสยี สละเพ่อื ส่วนร่วม การมจี ติ สาธารณะ คือ การแสดงความรับผดิ ชอบต่อสงั คม มี จติ สานกึ เพ่อื ส่วนร่วม พรอ้ มร่วมมือร่วมใจในการทากจิ การงานตา่ ง ๆ ท่เี ปน็ ประโยชน์ตอ่ สงั คมโดยรวม จิตสาธารณะและเสียสละเพอื่ สังคมน้ัน ตอ้ งเกดิ ขึน้ จากความปรารถนาภายจิตใจของนักเรยี นเอง ไม่ใชเ่ ปน็ การทาเพ่ืออามสิ สนิ จ้าง หรอื รางวัล ซ่ึงกจิ กรรมท่ชี ่วยให้นักเรียนมีจติ สาธารณะไดน้ ้ัน คือ กิจกรรมท่ีทา เพ่อื สังคมท่ตี อ้ งอาศัยความสามคั คแี ละรว่ มมอื กนั เชน่ การไปร่วมกิจกรรม พฒั นาสิง่ แวดลอ้ ม การทากจิ กรรมอาสาพัฒนา หรอื การร่วมกจิ กรรม ช่วยเหลอื ตามหน่วยงานต่าง ๆ เปน็ ตน้ 4) เข้ำใจถึงฐำนะกำรเปน็ สมำชกิ ในครอบครัว ชมุ ชน สังคม หรือ กำรเป็นพลเมอื งทดี่ ขี องประเทศ ฐานะการเป็นสมาชกิ คนหนง่ึ ในครอบครวั ชุมชน สงั คม รวมถงึ การ เปน็ พลเมอื งท่ดี ีของประเทศ ล้วนเปน็ ส่งิ สาคญั ทีต่ อ้ งสร้างความเขา้ ใจ และ อาศัยความรูส้ กึ เปน็ สว่ นหนง่ึ ซงึ่ ความเข้าใจตรงจุดนี้จะนามาสกู่ ารรู้จกั หน้าท่ี ของตวั เอง การชว่ ยเหลอื ชุมชน การดแู ลรักษาธรรมชาตแิ ละทรัพยากรใน ชุมชน ตลอดจนการปฏบิ ตั ิตนอยา่ งเหมาะสมท้ังในและต่างประเทศ ในฐานะ พลเมืองท่ีดีของประเทศ เช่น การเข้าไปมสี ว่ นรว่ มในการประชุมโรงเรยี น ระหว่างผ้บู รหิ าร ครูผสู้ อน และนกั เรยี น เพ่อื พิจารณาในเรื่องตา่ ง ๆ ท่มี ีความ เกี่ยวขอ้ งกับนักเรยี นโดยตรง กจิ กรรมน้จี ะสรา้ งให้นกั เรยี นได้แสดงความ คดิ เหน็ อย่างเหมาะสมในเร่อื งทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับตวั เองและรสู้ ึกเป็นสว่ นหน่ึงในสังคม มากกวา่ ทีจ่ ะมองตัวเองเป็นแคผ่ ู้ถูกควบคมุ 27

ใบควำมรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง รบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม 4. กำรปฏบิ ัติตนใหเ้ ปน็ ผทู้ ีม่ ีสำนึกรบั ผิดชอบต่อสงั คม (ต่อ) 5) มีควำมคดิ แบบ โปรแอคทีฟ การมีความคดิ แบบโปรแอคทีฟ คอื การมคี วามคิดแบบคิดรเิ ร่มิ ไม่จาเปน็ ต้องรอตอบสนอง ซ่ึงความคดิ แบบโปรแอคทีฟนี้ นับเป็น กระบวนการคดิ ท่ีสาคญั ทชี่ ว่ ยใหส้ ังคมมกี ารเปลี่ยนแปลงไปในทศิ ทางท่ดี ี ข้ึน เพราะผูท้ ่ีมคี วามคิดแบบแบบโปรแอคทีฟ เมื่อพบเจอสงิ่ ท่ไี ม่ เหมาะสมในสังคม พวกเขาจะไมร่ อให้ใครมาสัง่ หรือดาเนินการแทน แต่ เขาจะหาแนวคดิ เพ่อื ป้องกัน แกไ้ ขและปรบั ปรุงเพ่อื ไมใ่ หเ้ กดิ ผลเสียต่อ ทงั้ ตวั เองและสังคม ยกตัวอย่างเช่น หลงั จากทม่ี ีขา่ วการระบาดของเชือ้ Covid-19 แม้วา่ ประเทศไทยยังไมพ่ บการระบาดภายในประเทศ แต่ ประชาชนสว่ นใหญ่ตา่ งเรมิ่ ใสห่ น้ากากอนามยั ขณะเดินทาง พกเจลล้าง มอื บางคนยกเลกิ เทยี่ วบินทบ่ี นิ ไปยังประเทศกลุม่ เสีย่ ง โดยท่ีไม่ จาเปน็ ต้องมีการประกาศอยา่ งเป็นทางการ เพอ่ื ไม่ใหต้ วั เองเสี่ยงติดเชือ้ สว่ นผู้ท่เี ดนิ ทางไปแล้วกก็ ลับมาปฏบิ ตั ติ ามขัน้ ตอนการดูแลตัวเองอยา่ ง เหมาะสม ท้งั นี้ เพือ่ ไมใ่ ห้เกิดการระบาดตอ่ เนอ่ื งในประเทศ เปน็ ต้น การคิดแบบ โปรแอคทีฟ จะต้องฝึกให้ตนเองรู้จกั คดิ และทาส่งิ ต่าง ๆ ด้วย ตวั เอง รจู้ ักประเมนิ สถานการณ์ ซง่ึ จะทาใหม้ ีความกล้าและมคี วาม มนั่ ใจทีจ่ ะทาสิ่งตา่ ง ๆ ทด่ี ีตามความคิดริเรม่ิ ได้ 28

ใบกิจกรรมที่ 1 กำรผลิตภำพยนตร์สั้นเพอ่ื สงั คม กล่มุ ท.ี่ ................... สมำชกิ 1……………………………….…. 4………………………………….... 2………………………….......... 5………………………………….... 3…………………………………. 6……………………………………. 1. ใหน้ ักเรียนผลิตภาพยนตรส์ นั้ เพอ่ื สงั คม หวั ขอ้ รบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ดงั นี้ 1.1 ช่อื เร่อื ง....................................................................................... 1.2 บทบำทของสมำชิก ช่อื สมำชิก บท ภำพ ตัดตอ่ เสยี ง 1.3 อุปกรณท์ ่ีจำเป็น 4………………………………….... 5………………………………….... 1……………………………….…. 6……………………………………. 2………………………….......... 3…………………………………. 29

1.4 สตอรบ่ี อรด์ (Story Board) บท ภำพ 30

แบบทดสอบหลงั เรยี น เร่ือง รับผิดชอบตอ่ สงั คม คาช้แี จง (จงเลอื กคาตอบทถี่ ูกต้องเพยี งข้อเดยี ว) 1. ขอ้ ใดหมายถงึ การมคี วามคดิ แบบคิดรเิ รม่ิ ไม่จาเป็นต้องรอตอบสนอง ก. การคดิ แบบถ้อยคา ข. การคิดแบบภาพรวม ค. การคิดแบบโปรแอคทีฟ ง. การคดิ เชงิ ระบบ 2. การทากิจกรรมอาสาพัฒนา หรอื การรว่ มกจิ กรรมช่วยเหลอื ตามหน่วยงานตา่ ง ๆ เปน็ การสานึกรบั ผดิ ชอบต่อสงั คมตามขอ้ ใด ก. มจี ติ สาธารณะและเสียสละเพ่ือสว่ นร่วม ข. ร้จู ักชว่ ยเหลือและดแู ลตนเอง เพ่อื ไมใ่ หเ้ ปน็ ภาระหรือส่งผลกระทบต่อ สงั คม ค. รจู้ กั ทีจ่ ะคิดใครค่ รวญให้ดีก่อนท่ีจะลงมอื ทาหรอื แสดงความคดิ เห็น ง. เข้าใจถงึ ฐานะการเปน็ สมาชิกในครอบครัว ชมุ ชน สังคม หรือการเปน็ พลเมืองท่ีดขี องประเทศ 3. การรูจ้ ักบทบาทหนา้ ทข่ี องตนเองท่มี ีต่อส่วนรวมหมายถึงความรบั ผดิ ชอบด้านใด ก. ความรับผดิ ชอบต่อตนเอง ข. ความรับผดิ ชอบตอ่ การศึกษาเล่าเรียน ค. ความรบั ผดิ ชอบต่อสถานศึกษา ง. ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม 4. ในช่วงการระบาดของเชอื้ Covid-19 นกั เรยี นควรใช้แนวคดิ แบบโปรแอคทีฟ เพอ่ื ปฏบิ ัตติ นตามขอ้ ใด ก. สังสรรคก์ ับเพื่อนเปน็ ประจา เพื่อแก้เบอ่ื ข. เดนิ ทางไปทอ่ งเทีย่ ว เพราะคนสว่ นใหญอ่ ยู่บา้ น ค. ใชช้ ีวติ ปกติ เพราะไม่เคยเจ็บไขไ้ ด้ปว่ ย ง. ใสห่ นา้ กากอนามัยขณะเดินทาง พกเจลล้างมอื 5. การไม่ตง้ั ใจศกึ ษาเล่าเรยี น หนีเรยี นแสดงวา่ ขาดความรบั ผิดชอบด้านใด ก. ความรับผิดชอบตอ่ สถานศกึ ษาครูอาจารย์ ข. ความรับผิดชอบตอ่ เพ่อื น ค. ความรับผดิ ชอบต่อชมุ ชน ง. ความรบั ผดิ ชอบต่อประเทศชาติ 31

แบบทดสอบหลงั เรยี น (ตอ่ ) เรอื่ ง รับผดิ ชอบต่อสงั คม คาช้แี จง (จงเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องเพยี งขอ้ เดียว) 6. บคุ คลท่ีปฏิบตั เิ วรดูแลทาความสะอาดหรือการจัดการเร่ืองต่าง ๆ ภายในหอ้ งเรยี นอยูเ่ ปน็ ประจาแสดงให้เห็นวา่ บุคคลผู้นั้นมีสานึกรับผิดชอบต่อสังคมตามข้อใด ก. รู้จักชว่ ยเหลอื และดูแลตนเอง เพอื่ ไม่ใหเ้ ป็นภาระหรือส่งผลกระทบตอ่ สังคม ข. รู้จักท่ีจะคดิ ใครค่ รวญให้ดกี อ่ นทจ่ี ะลงมอื ทาหรอื แสดงความคดิ เหน็ ค. มีจิตสาธารณะและเสียสละเพื่อส่วนร่วม ง. เขา้ ใจถงึ ฐานะการเป็นสมาชกิ ในครอบครวั ชมุ ชน สังคม หรือการเปน็ พลเมืองที่ดี ของประเทศ 7. บุคคลท่รี จู้ ักการคิดกอ่ นท่ีจะลงมอื ทา โดยลงมือทาจากการเรียนรู้ เลอื กขอ้ มลู ท่ีถกู ตอ้ ง เหมาะสมบคุ คลผูน้ ัน้ มสี านึกรบั ผิดชอบตอ่ สังคมตามข้อใด ก. รจู้ กั ชว่ ยเหลือและดูแลตนเอง เพอ่ื ไมใ่ ห้เปน็ ภาระหรอื ส่งผลกระทบตอ่ สังคม ข. รจู้ ักทีจ่ ะคิดใคร่ครวญใหด้ ีกอ่ นที่จะลงมือทาหรือแสดงความคิดเหน็ ค. เข้าใจถึงฐานะการเป็นสมาชกิ ในครอบครัว ชมุ ชน สังคม หรือการเปน็ พลเมอื งท่ีดี ของประเทศ ง. มีจิตสาธารณะและเสียสละเพื่อสว่ นรว่ ม 8. การดารงไวซ้ งึ่ ศิลปวัฒนธรรมแหง่ ความเป็นไทย คือ ความรับผิดชอบต่อสังคม ตามข้อใด ก. ความรบั ผดิ ชอบต่อ บดิ ามารดาและครอบครวั ข. ความรับผิดชอบตอ่ เพอื่ น ค. ความรับผดิ ชอบตอ่ ชมุ ชน ง. ความรบั ผดิ ชอบต่อประเทศชาติ 9. ขอ้ ใดมใิ ชค่ วามรบั ผิดของนกั เรยี น ก. ความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ข. ความรบั ผิดชอบต่อคา่ เล่าเรียน ค. ความรบั ผิดชอบต่อสถานศกึ ษา ง. ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม 10. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของการมีความรับผิดชอบ ก. เปน็ คนทม่ี ีการวางแผนท่ดี ี ข. เปน็ คนท่ีตรงต่อเวลา ค. เปน็ คนท่ีรูจ้ ักหาช่องทางเอาตวั เองใหร้ อด ง. เป็นคนขยนั หม่ันเพยี ร 32

บรรณำนกุ รม --------------. (2542). การสังเคราะหร์ ปู แบบการพฒั นาศกั ยภาพของเดก็ ไทยดา้ น ความรับผิดชอบ และ มีวินัยในตนเอง. พิมพค์ รง้ั ท่ี 1. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ การศาสนา. นรรัชต์ ฝนั เชียร. 2563. สอนนักเรียนใหม้ ีสานึกรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม. สืบคน้ เม่ือ 7 พฤศจกิ ายน 2564 จาก https://www.trueplookpanya.com/education/content/82917/- teaartedu-teaart-teamet- สานกั งานเขตวฒั นา. 2564. ภาระหนา้ ที่และความรับผิดชอบของบุคคล. สบื คน้ เม่อื 7 พฤศจิกายน 2564 จาก https://sites.google.com/site/klyuththkarbrihartnxengew/khwam- rab-phid-chxb/prapheth-khwam-rab-phid-chxb 33


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook