ใบควำมรู้ที่ 1 เร่ือง รับผิดชอบตอ่ สังคม 1. แนวคดิ เกีย่ วกับควำมรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ความรับผิดชอบ หมายถึง การรู้จักหน้าท่แี ละปฏิบัตหิ นา้ ท่ี อย่างเหมาะสม มปี ระสทิ ธิภาพทนั ตามกาหนดเวลา มี 4 ดา้ น คอื ความรับผดิ ชอบต่อตนเอง หมายถงึ การร้จู กั หน้าทีข่ องตนเอง และปฏบิ ัตหิ น้าท่ขี องตนเองอย่างเหมาะสม ใหส้ าเร็จลลุ ว่ ง มี ประสทิ ธภิ าพทนั ตามกาหนดเวลา ในทีน่ อี้ าจรวมได้กับ ความรับผิดชอบตอ่ การศึกษาเล่าเรยี น รวมทง้ั ตัง้ ใจศึกษาเล่า เรียนจนประสบความสาเร็จตามความมุ่งหมายด้วยความขยันหมนั่ เพียร ละเอยี ด รอบคอบ อดทน ซื่อสัตย์ และมีระเบยี บวนิ ยั ความรบั ผิดชอบตอ่ สถานศกึ ษา หมายถงึ การทีน่ ักเรียนมีสว่ น ร่วมในกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของสถานศึกษา รกั ษาผลประโยชน์ เกยี รตยิ ศ ช่อื เสียง ตลอดจนการสรา้ งสรรค์ความเจริญกา้ วหนา้ ให้แก่สถานศึกษา ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม หมายถงึ การรจู้ ักบทบาทหน้าที่ของ ตนเองท่มี ตี ่อสว่ นรวมเพอ่ื ความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ยของสังคม โดยการ ปฏิบัตติ ามกฎระเบียบของสงั คม รวมทั้งจูงใจให้ผอู้ ืน่ ปฏิบตั กิ จิ กรรมเพ่ือ ความสขุ ของสงั คม 19
ใบควำมรู้ที่ 1 เรื่อง รับผิดชอบตอ่ สังคม 2. ควำมสำคัญของควำมรับผิดชอบต่อสังคม การกระทาของบุคคลใดบคุ คลหนง่ึ ย่อมต้องส่งผลกระทบต่อ สังคมส่วนรวมไมม่ ากก็น้อย เม่ือบุคคลทุกคนมีภาระหน้าทที่ จ่ี ะเกยี่ วพนั กบั สวสั ดิภาพของสงั คม ท่ีตนดารงอยบู่ คุ คลจึงมหี น้าท่แี ละความ รบั ผิดชอบต้องปฏิบตั ติ อ่ สงั คม 5 ประการ ดังนี้ 1) ความรบั ผดิ ชอบต่อ บดิ ามารดาและครอบครัวได้แกใ่ ห้ความ เคารพและเชือ่ ฟงั ชว่ ยเหลือการงานให้เตม็ ความสามรถในแตล่ ะโอกาส อันสมควร ประพฤติตนเป็นคนดี ตัง้ ใจศกึ ษาเล่าเรียน ไม่นาความ เดอื ดร้อนมาสู่ครอบครัวและชว่ ยกนั รักษา และเชิดชชู ่ือเสยี งวงศต์ ระกลู 2) ความรบั ผดิ ชอบตอ่ เพื่อน ไดแ้ ก่ การให้ความรกั แกเ่ พ่ือน เปรยี บเสมือนพ่ีนอ้ งของตน ตกั เตือนเมอ่ื เพอ่ื นกระทาผิดแนะนาใหเ้ พ่ือน กระทาในสิง่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ชว่ ยเพอื่ นอย่างเหมาะสมและถกู ต้อง ไมเ่ อารัดเอา เปรยี บ ให้อภัยในกรณที ่เี กดิ ความผิดพลาดหรือบาดหมางกัน ใช้ถอ้ ยคา สุภาพต่อกันด้วยความอ่อนโยน 3) ความรบั ผดิ ชอบต่อสถานศกึ ษาครอู าจารย์ ไดแ้ ก่ การตั้งใจ ศกึ ษาเล่าเรียน ไม่หนีเรยี น เคารพและเช่อื ฟังครูอาจารย์ชว่ ยเหลือ กจิ กรรมงานของสถานศกึ ษาอย่างเครง่ ครัด รกั ษาความสะอาด ไม่ ทาลายทรัพย์สมบตั ิของสถานศกึ ษา รกั ษาและสรา้ งชอื่ เสียงเกียรตยิ ศ ของสถานศึกษา 20
ใบควำมรู้ท่ี 1 เรื่อง รับผดิ ชอบตอ่ สังคม 2. ควำมสำคัญของควำมรับผดิ ชอบต่อสังคม (ต่อ) 4) ความรบั ผิดชอบตอ่ ชมุ ชน ในฐานะท่เี ปน็ สมาชิกของชุมชน ไดแ้ ก่ เคารพ และปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บข้อบงั คบั หรือขนบธรรมเนียม ประเพณที ีย่ ึดถอื ภายในชมุ ชนของตน ช่วยรกั ษาสาธารณสมบตั แิ ละให้ ความร่วมมอื ในการทางานเพื่อพัฒนาชุมชน ไม่ละเลยต่อพลเมอื งดี 5) ความรับผดิ ชอบต่อประเทศชาติ ได้แก่ ปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย หรอื ระเบยี บตา่ ง ๆ ของสงั คมรักษาสาธารณสมบัตขิ องชาตใิ ห้ความ ร่วมมอื และชว่ ยเหลือเจ้าหน้าที่ในการรกั ษาความมัน่ คงของชาติ จงรักภกั ดตี อ่ ชาตศิ าสนา พระมหากษัตรยิ ์ รักษาความสามคั คขี องคนใน ชาติ ดารงไวซ้ ่ึงศิลปวฒั นธรรมแหง่ ความเปน็ ไทย ความรับผดิ ชอบเป็นคณุ สมบตั ทิ ี่ดีอย่างหนง่ึ ซึ่งจาเปน็ อย่างยงิ่ ที่ ควรปลูกฝงั ใหแ้ กเ่ ด็กและเยาวชนไทย นอกจากความมรี ะเบียบวินยั ความ ซ่ือสัตย์สุจรติ ความขยนั ม่ันเพยี ร มมี านะอุตสาหะ และความเสยี สละอนั เปน็ คุณลักษณะของพลเมืองดี 21
ใบควำมรทู้ ่ี 1 เรื่อง รบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม 3. ประโยชนข์ องกำรมีควำมรบั ผดิ ชอบ ความรับผิดชอบเป็นลักษณะของความเปน็ พลเมืองท่ดี ีท่ีสาคัญ อยา่ งหน่ึง ความรสู้ กึ รบั ผดิ ชอบเปน็ ลกั ษณะนิสยั และทัศนคตขิ องบคุ คล ซึ่งเป็นเครอ่ื งผลักดันใหเ้ กดิ การปฏิบตั ติ ามระเบยี บ เคารพสิทธขิ องผู้อ่ืน ทาตามหน้าทขี่ องตนเองและมคี วามซอ่ื สัตย์สุจรติ การทบ่ี ุคคลมีลักษณะ ความผดิ ชอบ จะช่วยให้การอยู่รว่ มกันในสงั คมเป็นไปดว้ ยความราบร่นื สงบสขุ นอกจากนค้ี วามรบั ผดิ ชอบยังเปน็ คณุ ธรรมที่สาคญั ในการพัฒนา ประเทศ หากคนในชาติมีความรับผดิ ชอบจะเกิดผล ดงั น้ี 1. ทาใหง้ านและกิจกรรมต่าง ๆ สาเรจ็ ลุลว่ งตามเปา้ หมายทต่ี ้ัง ไว้ 2. กอ่ ใหเ้ กดิ ความซ่อื สตั ย์ต่อตนเองและผู้อืน่ 3. เกดิ การเติบโตและพฒั นาทางดา้ นจติ ใจมากขน้ึ 4. มคี วามเจริญก้าวหน้าทางด้านชีวติ และการงาน 5. เป็นที่ยอมรบั เช่อื ถือ และเป็นท่ีไวใ้ จของคนอืน่ 6. คนมคี วามรบั ผิดชอบยอ่ มเป็นทนี่ ับถอื ได้รบั การยกยอ่ ง สรรเสริญและเปน็ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและต่อสังคม 7. ความรบั ผดิ ชอบเป็นสิ่งเก้อื หนนุ ใหบ้ ุคคลปฏิบัติงานสอดคล้อง กับกฎหมาย คณุ ธรรม จริยธรรม และหลักเกณฑข์ องสงั คม โดยไมม่ ีการ บงั คับจากผอู้ ืน่ 22
ใบควำมรู้ท่ี 1 เรื่อง รบั ผิดชอบตอ่ สังคม 3. ประโยชนข์ องกำรมีควำมรบั ผิดชอบ (ต่อ) 8. คนทีม่ ีความรบั ผิดชอบ จะไมน่ าความเส่ือมเสียและสร้างความ เสยี หายแกต่ นเองและสังคม 9. คนทม่ี ีความรับผดิ ชอบจะทาใหเ้ กดิ ความก้าวหน้าสงบสขุ ตอ่ ตนเอง 10. ความรบั ผดิ ชอบทาใหเ้ ราโตขน้ึ 11. ทาให้รจู้ กั ตดั อะไรบางอย่างที่ไม่สาคัญออก เพราะเวลาท่ี จากัดข้ึน 12. ทาใหเ้ รารจู้ ักเปน็ ผใู้ ห้ และดูแลใส่ใจผู้อนื่ มากขึ้น 13. ทาให้เราเขา้ ใจโลกมากข้ึน 14. ทาใหเ้ รารจู้ กั เลือกและรับสง่ิ ท่คี ่คู วรมากขึน้ 15. ไดร้ บั โอกาสดๆี เพราะจากการลงมอื ปฏบิ ตั ิด้วยตนเอง 16. มโี อกาสตอบแทนคณุ คน กตัญญตู ่อผู้ท่ีเคยรบั ผิดชอบตวั เรา มากอ่ น เปน็ ความภมู ใิ จ และ ความสขุ ใจทีม่ ีคณุ ค่า 17. คนท่ีมีความรับผดิ ชอบเปน็ คนทีม่ นษุ ยสัมพันธด์ กี ับทุกคน 18. คนท่มี ีความรับผิดชอบ เป็นคนท่มี ีศกั ยภาพท่ดี ี 23
ใบควำมร้ทู ่ี 1 เรื่อง รบั ผดิ ชอบต่อสังคม 3. ประโยชน์ของกำรมีควำมรบั ผดิ ชอบ (ตอ่ ) 19. คนท่มี คี วามรบั ผดิ ชอบ เปน็ คนท่สี มรรถนะทดี่ ี (Based Competency) 20. คนทม่ี คี วามรบั ผดิ ชอบ เป็นคนทม่ี ีความกระตอื รือร้นในการ ปฏิบัติงานเสมอ 21. คนทีม่ ีความรบั ผดิ ชอบ เปน็ คนท่ีมีการวางแผนท่ดี ี 22. คนท่ีมีความรับผิดชอบ เปน็ คนทตี่ รงต่อเวลา 23. คนทม่ี คี วามรบั ผดิ ชอบ เปน็ คนท่มี วี สิ ยั ทศั นท์ ีด่ ี 24. คนท่มี คี วามรับผดิ ชอบ เป็นคนขยนั หมัน่ เพียร 25. คนทม่ี ีความรบั ผิดชอบ เปน็ คนมุง่ มนั่ และมเี ป้าหมายในการ ทางาน 26. คนที่มีความรบั ผิดชอบ มีความเช่ือมัน่ ในตนเอง 27. คนทม่ี คี วามรบั ผิดชอบ เป็นคนมองโลกในแง่ที่ดเี สมอ 28. คนที่มคี วามรบั ผดิ ชอบ จะเจรญิ ก้าวหน้าในหนา้ ที่การงาน 29. คนที่มีความรบั ผิดชอบเป็นคนนา่ เชือ่ และมคี ุณค่าในสังคม 30. คนท่ีมคี วามรับผดิ ชอบจะไดร้ บั ความไว้วางใจจากผอู้ ื่น 24
ใบควำมรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง รับผิดชอบต่อสังคม 3. ประโยชนข์ องกำรมคี วำมรบั ผดิ ชอบ (ต่อ) 31. คนที่มคี วามรับผิดชอบสามารถดารงชวี ิตในสังคมอยา่ งมี ความสขุ ตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง 32. คนท่มี คี วามรบั ผดิ ชอบเปน็ คนทม่ี รี ะเบยี บวนิ ัยต่อตนเองและ สงั คม 33. คนท่ีมคี วามรับผดิ ชอบเป็นคนซือ่ สัตย์ ซอ่ื ตรง ต่อตนเองและ สังคม 34. คนทม่ี คี วามรับผดิ ชอบเป็นคนที่มีความยตุ ิธรรม 35. คนทม่ี คี วามรบั ผดิ ชอบเปน็ คนที่มคี วามเป็นประชาธปิ ไตย 36. คนที่มคี วามรับผิดชอบเปน็ คนทมี่ ชี วี ิตที่สงบสุข 37. คนท่ีมคี วามรบั ผิดชอบเปน็ คนท่ีพบความสาเรจ็ ในชีวติ 25
ใบควำมรูท้ ่ี 1 เรอ่ื ง รับผดิ ชอบต่อสังคม 4. กำรปฏบิ ตั ิตนให้เปน็ ผทู้ ี่มสี ำนึกรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 1) รู้จักช่วยเหลอื และดูแลตนเอง เพอ่ื ไมใ่ ห้เป็นภำระหรือส่งผล กระทบตอ่ สงั คม ร้จู ักช่วยเหลือตัวเองในการทากิจกรรมต่าง ๆ จะทาให้มคี วามกลา้ และ มคี วามมัน่ ใจในการทากจิ กรรมตา่ ง ๆ มากขึน้ เพ่ือจะได้ไม่เปน็ ภาระและคอยแต่ จะรับการชว่ ยเหลือจากบคุ คลอืน่ ซึ่งกิจกรรมทีช่ ่วยสง่ เสรมิ ในจดุ นี้ ไดแ้ ก่ การ ปฏิบตั เิ วรดูแลทาความสะอาดหรือการจดั การเร่ืองต่าง ๆ ภายในห้องเรียนตาม ตารางท่ีไดร้ ับมอบหมาย การดูแลตัวเอง เวลาทต่ี วั เองปว่ ย มีนา้ มกู หรือมอี าการ ไอ ควรใส่หนา้ กากอนามยั เพือ่ ไม่ตัวเองแพรเ่ ชอ้ื ไปสู่บคุ คลอนื่ เปน็ ต้น 2) รู้จกั ที่จะคิดใครค่ รวญใหด้ ีกอ่ นท่ีจะลงมอื ทำหรือแสดงควำม คิดเหน็ ควรใสใ่ จสังคมในการกระทาหรือแสดงความคดิ เหน็ ในเร่อื งต่าง ๆ โดย การคิดใคร่ครวญกอ่ นท่จี ะทาอะไรลงไป เพราะบางคร้งั การกระทาหรอื แสดง ความคิดเห็นอะไรบางอยา่ งนน้ั อาจจะสง่ ผลกระทบตอ่ สงั คมและต่อตัวเองได้ใน อนาคต ดังนนั้ การกระทาหรอื แสดงความคิดเหน็ ใด ๆ จึงควรเปน็ ไปเพอ่ื การ สง่ เสรมิ พัฒนามากกว่าท่ีจะสรา้ งใหเ้ กดิ ความหวาดกลวั ต่นื ตระหนกหรือ แตกแยก การใช้ประโยชนจ์ ากโซเชียลมีเดยี ในการปลกุ ปั่นสร้างความตื่น ตระหนักและความแตกแยกใหเ้ กดิ ขึ้นในสงั คม เพือ่ หวังผลประโยชนซ์ อ่ นเร้น หรืออาจจะกระทาดว้ ยความคึกคะนองนน้ั เป็นการแสดงให้เหน็ ถงึ การขาด กระบวนการคิดทีด่ ี แยกแยะผิดถูก รวมถงึ ความเหมาะสมหรอื ไม่เหมาะสม ดังนนั้ การคิดกอ่ นทจี่ ะลงมือทานนั้ จะตอ้ งเรยี นรเู้ รอื่ งราวจากขา่ วสารตา่ ง ๆ โดยใช้วจิ ารญาณในการแยกแยะถูกผิดและควรเลอื กขอ้ มลู ท่ีถูกตอ้ งเหมาะสม และเปน็ ประโยชน์ตอ่ ตวั เองและสังคม 26
ใบควำมรทู้ ี่ 1 เรื่อง รับผิดชอบต่อสงั คม 4. กำรปฏบิ ัตติ นใหเ้ ปน็ ผู้ท่มี ีสำนึกรับผิดชอบตอ่ สงั คม (ต่อ) 3) มจี ติ สำธำรณะและเสยี สละเพ่อื ส่วนร่วม การมจี ติ สาธารณะ คือ การแสดงความรับผดิ ชอบต่อสงั คม มี จติ สานกึ เพ่อื ส่วนร่วม พรอ้ มร่วมมือร่วมใจในการทากจิ การงานตา่ ง ๆ ท่เี ปน็ ประโยชน์ตอ่ สงั คมโดยรวม จิตสาธารณะและเสียสละเพอื่ สังคมน้ัน ตอ้ งเกดิ ขึน้ จากความปรารถนาภายจิตใจของนักเรยี นเอง ไม่ใชเ่ ปน็ การทาเพ่ืออามสิ สนิ จ้าง หรอื รางวัล ซ่ึงกจิ กรรมท่ชี ่วยให้นักเรียนมีจติ สาธารณะไดน้ ้ัน คือ กิจกรรมท่ีทา เพ่อื สังคมท่ตี อ้ งอาศัยความสามคั คแี ละรว่ มมอื กนั เชน่ การไปร่วมกิจกรรม พฒั นาสิง่ แวดลอ้ ม การทากจิ กรรมอาสาพัฒนา หรอื การร่วมกจิ กรรม ช่วยเหลอื ตามหน่วยงานต่าง ๆ เปน็ ตน้ 4) เข้ำใจถึงฐำนะกำรเปน็ สมำชกิ ในครอบครัว ชมุ ชน สังคม หรือ กำรเป็นพลเมอื งทดี่ ขี องประเทศ ฐานะการเป็นสมาชกิ คนหนง่ึ ในครอบครวั ชุมชน สงั คม รวมถงึ การ เปน็ พลเมอื งท่ดี ีของประเทศ ล้วนเปน็ ส่งิ สาคญั ทีต่ อ้ งสร้างความเขา้ ใจ และ อาศัยความรูส้ กึ เปน็ สว่ นหนง่ึ ซงึ่ ความเข้าใจตรงจุดนี้จะนามาสกู่ ารรู้จกั หน้าท่ี ของตวั เอง การชว่ ยเหลอื ชุมชน การดแู ลรักษาธรรมชาตแิ ละทรัพยากรใน ชุมชน ตลอดจนการปฏบิ ตั ิตนอยา่ งเหมาะสมท้ังในและต่างประเทศ ในฐานะ พลเมืองท่ีดีของประเทศ เช่น การเข้าไปมสี ว่ นรว่ มในการประชุมโรงเรยี น ระหว่างผ้บู รหิ าร ครูผสู้ อน และนกั เรยี น เพ่อื พิจารณาในเรื่องตา่ ง ๆ ท่มี ีความ เกี่ยวขอ้ งกับนักเรยี นโดยตรง กจิ กรรมน้จี ะสรา้ งให้นกั เรยี นได้แสดงความ คดิ เหน็ อย่างเหมาะสมในเร่อื งทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับตวั เองและรสู้ ึกเป็นสว่ นหน่ึงในสังคม มากกวา่ ทีจ่ ะมองตัวเองเป็นแคผ่ ู้ถูกควบคมุ 27
ใบควำมรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง รบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม 4. กำรปฏบิ ัติตนใหเ้ ปน็ ผทู้ ีม่ ีสำนึกรบั ผิดชอบต่อสงั คม (ต่อ) 5) มีควำมคดิ แบบ โปรแอคทีฟ การมีความคดิ แบบโปรแอคทีฟ คอื การมคี วามคิดแบบคิดรเิ ร่มิ ไม่จาเปน็ ต้องรอตอบสนอง ซ่ึงความคดิ แบบโปรแอคทีฟนี้ นับเป็น กระบวนการคดิ ท่ีสาคญั ทชี่ ว่ ยใหส้ ังคมมกี ารเปลี่ยนแปลงไปในทศิ ทางท่ดี ี ข้ึน เพราะผูท้ ่ีมคี วามคิดแบบแบบโปรแอคทีฟ เมื่อพบเจอสงิ่ ท่ไี ม่ เหมาะสมในสังคม พวกเขาจะไมร่ อให้ใครมาสัง่ หรือดาเนินการแทน แต่ เขาจะหาแนวคดิ เพ่อื ป้องกัน แกไ้ ขและปรบั ปรุงเพ่อื ไมใ่ หเ้ กดิ ผลเสียต่อ ทงั้ ตวั เองและสังคม ยกตัวอย่างเช่น หลงั จากทม่ี ีขา่ วการระบาดของเชือ้ Covid-19 แม้วา่ ประเทศไทยยังไมพ่ บการระบาดภายในประเทศ แต่ ประชาชนสว่ นใหญ่ตา่ งเรมิ่ ใสห่ น้ากากอนามยั ขณะเดินทาง พกเจลล้าง มอื บางคนยกเลกิ เทยี่ วบินทบ่ี นิ ไปยังประเทศกลุม่ เสีย่ ง โดยท่ีไม่ จาเปน็ ต้องมีการประกาศอยา่ งเป็นทางการ เพอ่ื ไม่ใหต้ วั เองเสี่ยงติดเชือ้ สว่ นผู้ท่เี ดนิ ทางไปแล้วกก็ ลับมาปฏบิ ตั ติ ามขัน้ ตอนการดูแลตัวเองอยา่ ง เหมาะสม ท้งั นี้ เพือ่ ไมใ่ ห้เกิดการระบาดตอ่ เนอ่ื งในประเทศ เปน็ ต้น การคิดแบบ โปรแอคทีฟ จะต้องฝึกให้ตนเองรู้จกั คดิ และทาส่งิ ต่าง ๆ ด้วย ตวั เอง รจู้ ักประเมนิ สถานการณ์ ซง่ึ จะทาใหม้ ีความกล้าและมคี วาม มนั่ ใจทีจ่ ะทาสิ่งตา่ ง ๆ ทด่ี ีตามความคิดริเรม่ิ ได้ 28
ใบกิจกรรมที่ 1 กำรผลิตภำพยนตร์สั้นเพอ่ื สงั คม กล่มุ ท.ี่ ................... สมำชกิ 1……………………………….…. 4………………………………….... 2………………………….......... 5………………………………….... 3…………………………………. 6……………………………………. 1. ใหน้ ักเรียนผลิตภาพยนตรส์ นั้ เพอ่ื สงั คม หวั ขอ้ รบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ดงั นี้ 1.1 ช่อื เร่อื ง....................................................................................... 1.2 บทบำทของสมำชิก ช่อื สมำชิก บท ภำพ ตัดตอ่ เสยี ง 1.3 อุปกรณท์ ่ีจำเป็น 4………………………………….... 5………………………………….... 1……………………………….…. 6……………………………………. 2………………………….......... 3…………………………………. 29
1.4 สตอรบ่ี อรด์ (Story Board) บท ภำพ 30
แบบทดสอบหลงั เรยี น เร่ือง รับผิดชอบตอ่ สงั คม คาช้แี จง (จงเลอื กคาตอบทถี่ ูกต้องเพยี งข้อเดยี ว) 1. ขอ้ ใดหมายถงึ การมคี วามคดิ แบบคิดรเิ รม่ิ ไม่จาเป็นต้องรอตอบสนอง ก. การคดิ แบบถ้อยคา ข. การคิดแบบภาพรวม ค. การคิดแบบโปรแอคทีฟ ง. การคดิ เชงิ ระบบ 2. การทากิจกรรมอาสาพัฒนา หรอื การรว่ มกจิ กรรมช่วยเหลอื ตามหน่วยงานตา่ ง ๆ เปน็ การสานึกรบั ผดิ ชอบต่อสงั คมตามขอ้ ใด ก. มจี ติ สาธารณะและเสียสละเพ่ือสว่ นร่วม ข. ร้จู ักชว่ ยเหลือและดแู ลตนเอง เพ่อื ไมใ่ หเ้ ปน็ ภาระหรือส่งผลกระทบต่อ สงั คม ค. รจู้ กั ทีจ่ ะคิดใครค่ รวญให้ดีก่อนท่ีจะลงมอื ทาหรอื แสดงความคดิ เห็น ง. เข้าใจถงึ ฐานะการเปน็ สมาชิกในครอบครัว ชมุ ชน สังคม หรือการเปน็ พลเมืองท่ีดขี องประเทศ 3. การรูจ้ ักบทบาทหนา้ ทข่ี องตนเองท่มี ีต่อส่วนรวมหมายถึงความรบั ผดิ ชอบด้านใด ก. ความรับผดิ ชอบต่อตนเอง ข. ความรับผดิ ชอบตอ่ การศึกษาเล่าเรียน ค. ความรบั ผดิ ชอบต่อสถานศึกษา ง. ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม 4. ในช่วงการระบาดของเชอื้ Covid-19 นกั เรยี นควรใช้แนวคดิ แบบโปรแอคทีฟ เพอ่ื ปฏบิ ัตติ นตามขอ้ ใด ก. สังสรรคก์ ับเพื่อนเปน็ ประจา เพื่อแก้เบอ่ื ข. เดนิ ทางไปทอ่ งเทีย่ ว เพราะคนสว่ นใหญอ่ ยู่บา้ น ค. ใชช้ ีวติ ปกติ เพราะไม่เคยเจ็บไขไ้ ด้ปว่ ย ง. ใสห่ นา้ กากอนามัยขณะเดินทาง พกเจลล้างมอื 5. การไม่ตง้ั ใจศกึ ษาเล่าเรยี น หนีเรยี นแสดงวา่ ขาดความรบั ผิดชอบด้านใด ก. ความรับผิดชอบตอ่ สถานศกึ ษาครูอาจารย์ ข. ความรับผิดชอบตอ่ เพ่อื น ค. ความรับผดิ ชอบต่อชมุ ชน ง. ความรบั ผดิ ชอบต่อประเทศชาติ 31
แบบทดสอบหลงั เรยี น (ตอ่ ) เรอื่ ง รับผดิ ชอบต่อสงั คม คาช้แี จง (จงเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องเพยี งขอ้ เดียว) 6. บคุ คลท่ีปฏิบตั เิ วรดูแลทาความสะอาดหรือการจัดการเร่ืองต่าง ๆ ภายในหอ้ งเรยี นอยูเ่ ปน็ ประจาแสดงให้เห็นวา่ บุคคลผู้นั้นมีสานึกรับผิดชอบต่อสังคมตามข้อใด ก. รู้จักชว่ ยเหลอื และดูแลตนเอง เพอื่ ไม่ใหเ้ ป็นภาระหรือส่งผลกระทบตอ่ สังคม ข. รู้จักท่ีจะคดิ ใครค่ รวญให้ดกี อ่ นทจ่ี ะลงมอื ทาหรอื แสดงความคดิ เหน็ ค. มีจิตสาธารณะและเสียสละเพื่อส่วนร่วม ง. เขา้ ใจถงึ ฐานะการเป็นสมาชกิ ในครอบครวั ชมุ ชน สังคม หรือการเปน็ พลเมืองที่ดี ของประเทศ 7. บุคคลท่รี จู้ ักการคิดกอ่ นท่ีจะลงมอื ทา โดยลงมือทาจากการเรียนรู้ เลอื กขอ้ มลู ท่ีถกู ตอ้ ง เหมาะสมบคุ คลผูน้ ัน้ มสี านึกรบั ผิดชอบตอ่ สังคมตามข้อใด ก. รจู้ กั ชว่ ยเหลือและดูแลตนเอง เพอ่ื ไมใ่ ห้เปน็ ภาระหรอื ส่งผลกระทบตอ่ สังคม ข. รจู้ ักทีจ่ ะคิดใคร่ครวญใหด้ ีกอ่ นที่จะลงมือทาหรือแสดงความคิดเหน็ ค. เข้าใจถึงฐานะการเป็นสมาชกิ ในครอบครัว ชมุ ชน สังคม หรือการเปน็ พลเมอื งท่ีดี ของประเทศ ง. มีจิตสาธารณะและเสียสละเพื่อสว่ นรว่ ม 8. การดารงไวซ้ งึ่ ศิลปวัฒนธรรมแหง่ ความเป็นไทย คือ ความรับผิดชอบต่อสังคม ตามข้อใด ก. ความรบั ผดิ ชอบต่อ บดิ ามารดาและครอบครวั ข. ความรับผิดชอบตอ่ เพอื่ น ค. ความรับผดิ ชอบตอ่ ชมุ ชน ง. ความรบั ผดิ ชอบต่อประเทศชาติ 9. ขอ้ ใดมใิ ชค่ วามรบั ผิดของนกั เรยี น ก. ความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ข. ความรบั ผิดชอบต่อคา่ เล่าเรียน ค. ความรบั ผิดชอบต่อสถานศกึ ษา ง. ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม 10. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของการมีความรับผิดชอบ ก. เปน็ คนทม่ี ีการวางแผนท่ดี ี ข. เปน็ คนท่ีตรงต่อเวลา ค. เปน็ คนท่ีรูจ้ ักหาช่องทางเอาตวั เองใหร้ อด ง. เป็นคนขยนั หม่ันเพยี ร 32
บรรณำนกุ รม --------------. (2542). การสังเคราะหร์ ปู แบบการพฒั นาศกั ยภาพของเดก็ ไทยดา้ น ความรับผิดชอบ และ มีวินัยในตนเอง. พิมพค์ รง้ั ท่ี 1. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ การศาสนา. นรรัชต์ ฝนั เชียร. 2563. สอนนักเรียนใหม้ ีสานึกรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม. สืบคน้ เม่ือ 7 พฤศจกิ ายน 2564 จาก https://www.trueplookpanya.com/education/content/82917/- teaartedu-teaart-teamet- สานกั งานเขตวฒั นา. 2564. ภาระหนา้ ที่และความรับผิดชอบของบุคคล. สบื คน้ เม่อื 7 พฤศจิกายน 2564 จาก https://sites.google.com/site/klyuththkarbrihartnxengew/khwam- rab-phid-chxb/prapheth-khwam-rab-phid-chxb 33
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115