51
52
53
คู่มือโรงเรียนกะเปอร์วทิ ยา 54
ระเบียบโรงเรียนกะเปอร์วิทยา 14 กรกฎาคม 2564 ระเบยี บโรงเรยี นกะเปอร์วิทยา สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษาพงั งา ภูเก็ต ระนอง วา่ ด้วย การแต่งกาย ความประพฤติ แนวปฏิบตั ิ และการลงโทษ …………………………………………………….. เพ่ือใหก้ ารควบคุม ดูแล ความประพฤติ การแตง่ กาย และการเคารพธงชาติ ตลอดจนการปฏิบตั ิ กจิ กรรมหน้าเสาธงเปน็ ไปด้วยความเรยี บร้อย จงึ เหน็ สมควรให้มกี ารแกไ้ ขเพ่มิ เติม แนวปฏบิ ตั ิสาหรับนกั เรยี น โรงเรยี นกะเปอร์วิทยา พ.ศ. 2564 ใหส้ อดคลอ้ งกบั ระเบยี บกระทรวงศึกษาธิการ วา่ ดว้ ยการลงโทษนกั เรยี น และนักศึกษา พ.ศ. 2548 และระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ ารว่าด้วยเคร่ืองแบบนกั เรยี น พ.ศ. 2551 ตลอดจน ระเบยี บกระทรวงศึกษาธกิ าร ว่าด้วยการชกั ธงชาตใิ นสถานศกึ ษา พ.ศ. 2547 โรงเรียนกะเปอรว์ ทิ ยา จงึ ไดว้ าง ระเบยี บ แนวปฏบิ ัติ และการลงโทษ ดงั น้ี หมวดที่ 1 หมวดทวั่ ไป ขอ้ 1 ระเบียบนเ้ี รยี กว่า “ระเบียบโรงเรียนกะเปอร์วิทยา วา่ ดว้ ยความประพฤติ แนวปฏิบัติ และ การลงโทษนักเรียน” ข้อ 2 ระเบยี บนใี้ หใ้ ชบ้ ังคับตั้งแตอ่ อกประกาศฉบบั นีเ้ ป็นตน้ ไป ข้อ 3 ให้ยกเลกิ บรรดา กฎ ขอ้ บังคบั ประกาศ ตลอดจนคาสั่งอนื่ ใดในสว่ นท่ีไดป้ ระกาศใชแ้ ลว้ ขดั หรอื แยง้ กบั ระเบียบน้ี ใหใ้ ช้ระเบียบน้ีแทน ข้อ 4 ในระเบยี บน้ี (1) ความประพฤติ หมายถึง พฤติกรรมที่นักเรยี นแสดงออกทัง้ ด้านดีและดา้ นท่ีตอ้ งปรบั ปรุง แกไ้ ข (2) การลงโทษนักเรยี น หมายถึง การลงโทษนกั เรียนที่ประพฤติตน ฝ่าฝนื ระเบียบ และแนว ปฏิบัติสาหรบั นกั เรยี น โดยมีความมุง่ หมายเพือ่ การควบคุมพฤตกิ รรม การอบรมส่ังสอนอนั จะนาไปสกู่ าร ปรบั เปลยี่ นพฤติกรรมให้ดขี น้ึ (3) นกั เรยี น หมายถึง ผู้เขา้ รบั การศึกษาและมีรายชือ่ ในทะเบยี นประวตั นิ กั เรียนของโรงเรยี น กะเปอรว์ ิทยา อาเภอกะเปอร์ จงั หวัดระนอง ตั้งแตร่ ะดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1-6 (4) ผ้ปู กครอง หมายถงึ บดิ า มารดา หรอื ผปู้ กครอง หรอื ผทู้ ี่นกั เรียนอาศัยอยู่ ซง่ึ เป็นผูบ้ รรลุนิติ ภาวะ และรับนกั เรยี นไว้ในความปกครอง อปุ การะเล้ยี งดู และไมอ่ ย่ใู นสภาพเปน็ นกั เรยี น หรือนักศกึ ษา เปน็ ผ มีหน้าท่ี ควบคุมดูแลความประพฤตขิ องนักเรยี น (5) ครฝู า่ ยกิจการนกั เรียน หมายถึง ครูผไู้ ด้รบั มอบหมายหน้าท่ีตามคาส่งั ของโรงเรยี นกะเปอร์ วิทยา ให้ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่งี านกจิ การนกั เรียน (6) ผู้อานวยการโรงเรียน หมายถงึ หวั หน้าซึ่งรบั ผิดชอบการบริหารโรงเรยี น คือ โรงเรยี น กะเปอร์วทิ ยา อาเภอกะเปอร์ จงั หวดั ระนอง 55
ระเบยี บโรงเรียนกะเปอรว์ ทิ ยา 14 กรกฎาคม 2564 หมวดที่ 2 ผปู้ กครองนกั เรียน ข้อ 5 ผู้ปกครองคนท่ี 1 หมายถึง บิดา มารดา หรอื ผู้ปกครอง ทีร่ บั นกั เรียนไว้ในความปกครอง อุปการะเลี้ยงดู เป็นผ้บู รรลุนติ ภิ าวะ และไมอ่ ยู่ในสภาพเปน็ นักเรยี น หรือนักศกึ ษา เปน็ ผมู้ หี นา้ ท่ี ควบคมุ ดแู ล ความประพฤติของนักเรียน ขอ้ 6 ผปู้ กครองคนท่ี 2 หมายถงึ บคุ คลท่นี กั เรียนอาศยั อยู่ เป็นผ้บู รรลุนิติภาวะ ไม่เปน็ นกั เรียน นักศกึ ษา และรบั ผิดชอบดแู ลความประพฤติของนักเรยี น ขอ้ 7 ผูป้ กครองตอ้ งใหค้ วามร่วมมือกับโรงเรียน ในการควบคมุ ความประพฤติและการศกึ ษา เล่าเรียน คอยตักเตอื นนักเรยี นในความปกครองให้หม่ันเลา่ เรียน และประพฤตติ นใหเ้ รียบร้อยตามข้อบงั คบั และ ระเบยี บวินัยของโรงเรียนทุกประการ ข้อ 8 เมือ่ ผู้ปกครองยา้ ยทีอ่ ยู่ ความเป็นผปู้ กครองสิน้ สดุ ลงด้วยประการใด ๆ หรือจะเปล่ยี นผู้ปกครอง ผปู้ กครองต้องมาแจง้ ใหโ้ รงเรยี นทราบภายใน 3 วัน ผูป้ กครองคนใหม่ต้องมามอบตัวนกั เรียนทโ่ี รงเรยี นและ ปฏิบัติตามระเบยี บว่าด้วยหนา้ ทข่ี องผปู้ กครอง ขอ้ 9 การมอบตัวนักเรยี นเพื่อเข้าเรียนเปน็ นกั เรยี นโรงเรยี นกะเปอรว์ ิทยา โรงเรยี นอนญุ าตให้ มี ผูป้ กครองนกั เรียนท่คี อยดูแลรบั ผิดชอบตวั นักเรยี นได้ 3 คน ขอ้ 10 ผู้ปกครองท้ัง 2 คนจะต้องมลี ายมอื ชือ่ และหลักฐานครบถ้วนในวันมอบตัว ข้อ 11 ผปู้ กครองท่ลี งลายมอื ชื่อในใบมอบตัวจะตอ้ งมีสว่ นรับผิดชอบและกล้าตดั สนิ ใจทุก ๆ เร่อื งที่ เกี่ยวข้องกับนกั เรียน หมวดท่ี 3 การปฏบิ ตั ิตนภายในโรงเรียน ข้อ 12 นกั เรยี นต้องเดินทางมาถงึ โรงเรียนก่อน เวลา 07.50 น. ข้อ 13 นักเรียนตอ้ งใช้ประตดู ้านหนา้ โรงเรยี นเป็นทางเขา้ กอ่ นผ่านเข้ามาในโรงเรยี นให้หยดุ ยืนทา ความเคารพครูเวร บริเวณหน้าประตูทางเข้าแลว้ เดินแถวชดิ ริมถนนดา้ นขวาเขา้ มาในบริเวณโรงเรยี น กรณใี ชย้ านพาหนะสว่ นตวั เชน่ รถจกั รยาน รถจกั รยานยนตใ์ ห้จงู เข้ามาเก็บยงั สถานท่จี อดรถ สาหรบั นักเรียนทที่ างโรงเรียนจดั ไว้ถ้านักเรียนผใู้ ดจอดรถไว้นอกสถานทีท่ ที่ างโรงเรยี นจัดให้ ถา้ มกี ารสญู หาย โรงเรยี นจะไม่รับผิดชอบแต่อยา่ งใด ข้อ 14 ผู้ทน่ี ายานพาหนะส่วนตวั มาโรงเรียน ต้องปฏบิ ัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไดแ้ ก่ ตอ้ ง สวมหมวกกันนอ็ คทกุ คร้ังท่ขี ับขี่รถจกั รยานยนต์ หรอื ตอ้ งคาดเขม็ ขัดนริ ภัยทกุ คร้งั ทขี่ ับข่ีรถยนต์ และต้องมี ใบอนญุ าตขับขกอ่ นี่ นายานพาหนะสว่ นตวั มาโรงเรียน ขอ้ 15 นักเรียนที่เข้ามาในโรงเรยี นกะเปอร์วทิ ยาต้องสวมหนา้ กากอนามัย ล้างมือดว้ ยแอลกอฮอล์ บรเิ วณจุดคดั กรองโรค และปฏิบตั ิตามมาตรการเฝา้ ระวงั ปอ้ งกนั และควบคมุ โรคโควิด 19 ของกระทรวง สาธารณสขุ อยา่ งเครง่ ครัด ข้อ 16 เม่ือถึงเวลา 08.00 น. นกั เรยี นทกุ คนตอ้ งมาเข้าแถวหนา้ เสาธงแยกตามหอ้ งเรียนและแยก เป็นแถวตามครทู ่ปี รึกษาโดยมคี รทู ีป่ รกึ ษากากบั ดูแลความเรยี บร้อยและตรวจนับจานวนพร้อมทงั้ บันทึก จานวนนกั เรยี นลงในแบบบนั ทึกของกลุ่มงานกิจการนักเรียน ให้นักเรียนทุกคนนากระเปา๋ นกั เรยี นของตนเองติดตวั มาเขา้ แถวดว้ ยทกุ คร้ัง สว่ นสัมภาระอ่นื ๆ ให้ เก็บไว้ในท่ที ่ีเหมาะสมไมเ่ พ่นพา่ น หรอื นาไปเกบ็ ไวใ้ นห้องประจาชน้ั ใหเ้ รยี บร้อย 56
ระเบียบโรงเรยี นกะเปอร์วทิ ยา 14 กรกฎาคม 2564 ข้อ 17 พิธีการปฏิบตั กิ ิจกรรมหนา้ เสาธง (1) ตวั แทนนักเรยี นจานวน 2 คน ออกมายืนประจาท่ีหน้าเสาธง ตัวแทนรอ้ งนาเพลงชาติและ สวดมนต์ จานวน 1 คน เพือ่ เตรียมชกั ธงชาตไิ ทยขนึ้ ส่ยู อดเสา (2) สภานักเรียนทีไ่ ด้รบั มอบหมายหนา้ เสาธงส่ังจดั แถวให้เปน็ ระเบยี บ นกั เรยี นปฏิบัติตามโดย การจดั แถวใหต้ รง พร้อมทัง้ จัดระยะห่างระหวา่ งแถวและระยะห่างระหวา่ งนักเรยี นประมาณหนง่ึ ชว่ งแขน และ ยืนนิ่งด้วยอาการสารวม สภานักเรียนส่ัง “ธงขึ้น ตรง” ตัวแทนนกั เรยี นนาร้องเพลงชาติ ผ้ทู าหนา้ ทเี่ ชิญธง ชาติชักธงชาตขิ ้นึ ชะลอให้ระยะหา่ งจากยอดเสาประมาณ 15 เซนตเิ มตรและกระตกุ เชอื กใหธ้ ง ขนึ้ สู่ยอดเสา พรอ้ มกบั การร้องชาติไทยจนจบแล้วผกู เชือกตรงึ ไวท้ โี่ คนเสาธงชาติ ผู้ผกู ธงชาติทาความเคารพแล้วเดินออกมา พร้อมกนั มาหยุดยืนคกู่ ัน ณ จุดท่กี าหนดใหย้ นื บนลานหนา้ เสาธง (3) ตวั แทนนกั เรียนนาสวดมนต์ไหวพ้ ระโดยใช้บทสวดมนตแ์ ปลเม่ือสวดมนตไ์ หวพ้ ระเสรจ็ ตวั แทนนักเรียนนากลา่ วแผเ่ มตตา (4) ตวั แทนนักเรยี นทีน่ บั ถือศาสนาอิสลามนาสวดขอพรดอุ าอ์ และกลา่ วคาปฏญิ าณตน (5) ตวั แทนนกั เรียนนาร้องเพลงมารช์ ประจาโรงเรียน (6) ครเู วรประจาวนั ใหก้ ารอบรม ชแ้ี จง หรืออาจมกี ิจกรรมพิเศษอื่น อาทิ พธิ ีมอบรางวัล การ ประกาศเกยี รติคุณ ยกย่อง ชมเชยแล้วแตโ่ อกาส (7) เวลาประมาณ 08.20 น. เมื่อครูเวรอบรมชแี้ จงเสรจ็ พธิ ีกรสงั่ แยกเพอ่ื นเดินแถวเข้าช้ันเรยี น โดยใช้ คาส่งั วา่ “ทั้งหมดตรงแยกเข้าชั้นเรียน” โดยใหน้ ักเรยี นเดินแถวเปน็ ระเบยี บเขา้ ห้องแล้วทากจิ กรรม โฮมรมู ข้อ 18 นกั เรียนทีม่ าไม่ทนั เข้ารว่ มกจิ กรรมหนา้ เสาธง หรือมาหลัง เวลา 08.00 น. ถอื วา่ มาสายให้ ปฏิบตั ิ ดังน้ี รายงานตวั ต่อครูเวรประจาวนั ครเู วรบนั ทึกในทะเบียนนักเรียนมาสายรายวนั แลว้ สอบถามสาเหตกุ าร มาสาย พร้อมท้ังว่า กล่าวตักเตอื น แล้วตรวจสอบประวตั ิการมาสาย หากครเู วรตรวจสอบพบว่า เคยมาสาย โดยไมม่ ีเหตอุ นั ควรและเคยวา่ กล่าวตักเตอื นมาแลว้ ใหค้ รูเวรเสนอตดั คะแนนความประพฤตใิ นใบส่งั ทีก่ าหนด จากนั้นใหค้ รเู วรนานกั เรยี นไปยังหอ้ งเรียนแลว้ ทากจิ กรรมหน้าเสาธงปกตหิ รอื ส่ังกาชบั ใหน้ ักเรียนรบี เขา้ ช้นั เรยี น เพ่ือเขา้ เรยี นตามปกติ ขอ้ 19 เวลา 08.30 น. เรมิ่ เรยี นตามตารางเรียน เม่ือครูประจาวิชามาถงึ ชน้ั เรียน หัวหนา้ ช้นั เรียนสั่ง ยนื ตรงทาความเคารพ พรอ้ มท้งั กลา่ วคาสวัสดีขณะครูทาการสอนในชนั้ เรยี นนักเรยี นตอ้ งต้งั ใจเรยี นและให้ ความร่วมมอื ในกิจกรรมการเรยี นการสอน ตลอดจนปฏบิ ัตงิ านท่ีครูมอบหมายดว้ ยความเอาใจใส่งานสาเรจ็ สมบรู ณแ์ ละทนั เวลาเมือ่ หมดชว่ั โมงเรยี น ก่อนครปู ระจาวชิ าจะออกนอกหอ้ งเรยี น นักเรยี นทุกคนยืนแลว้ กล่าว คาขอบคุณครผู ู้สอนพรอ้ มกัน ขอ้ 20 เมื่อมคี วามจาเปน็ ต้องออกนอกหอ้ งเรยี นขณะมกี ารเรียนการสอน นกั เรียนตอ้ งขออนญุ าตจาก ครูผูส้ อน และแจ้งเหตจุ าเปน็ ที่ต้องขออนญุ าตออกนอกห้องเรยี น เมื่อเสร็จธรุ ะตอ้ งรบี กลบั เข้าห้องเรียนอย่าง มาชักชา้ ข้อ 21 ขณะอยู่ในห้องเรยี นตอ้ งไม่สง่ เสียงดัง หยอกล้อกัน หรือแสดงพฤตกิ รรมอื่นใดท่ีกอ่ ให้เกดิ ความ เดือดรอ้ น ราคาญและขาดความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อยในหอ้ งเรยี น ข้อ 22 ชวั่ โมงใดทคี่ รปู ระจาวิชาตดิ ภารกจิ ไม่สามารถทาการสอนได้ให้หัวหน้าชน้ั เรยี นทาหน้าที่ ควบคมุ กากบั ดูแลเพ่ือนนกั เรยี นในช้นั เรยี น ใหอ้ ยู่ในความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย หรือให้นาหนงั สอื เรยี นมา อา่ นทบทวนหรอื ทางานทค่ี ้างอย่ใู ห้แล้วเสร็จ ขอ้ 23 ในกรณที ่ตี ้องใช้เครื่องมืออุปกรณก์ ารเรยี นสว่ นตวั ตอ้ งจัดเตรยี มมาใหพ้ รอ้ มลว่ งหนา้ ห้าม นักเรยี นใช้เป็นขอ้ อา้ งขอกลบั ไปเอาอปุ กรณ์การเรยี นเม่ือมาถงึ โรงเรียนแลว้ 57
ระเบียบโรงเรียนกะเปอร์วทิ ยา 14 กรกฎาคม 2564 ขอ้ 24 การขออนญุ าตออกนอกห้องเรียน/บริเวณโรงเรียน ถา้ มคี วามจาเปน็ ต้องออกนอกหอ้ งเรยี น ใหข้ ออนญุ าตจากครผู ู้สอนทกุ คร้งั เมื่อนักเรียนมาถงึ บรเิ วณ โรงเรียนแล้ว ตอ้ งอยู่ในความควบคุมดูแลของโรงเรยี น จะออกนอกบริเวณโรงเรยี นโดยพลการมิได้ โดย เด็ดขาด จนกวา่ จะถึงเวลาเลิกเรียนนอกจากมีกจิ ธรุ ะจาเปน็ ให้ปฏิบตั ิ ดังน้ี (1) ผูป้ กครองมาขอดว้ ยตนเอง ให้ผ้ปู กครองมาตดิ ต่อทห่ี ้องงานแกไ้ ขปรบั เปลย่ี นพฤติกรรม นกั เรียน (2) ผู้ปกครองให้นักเรยี นถือจดหมายมาขออนญุ าต ส่งถึงโรงเรียนให้ปฏิบัตติ ามขั้นตอน ดังน้ี (2.1) นาหนังสืออนญุ าตย่นื ตอ่ ครทู ี่ปรึกษาหรอื ครูเวรประจาวนั เพื่อบนั ทึกอนญุ าตและลง นามรบั รอง (2.2) นาหนังสอื ยืน่ ตอ่ งานแก้ไขปรับเปลย่ี นพฤติกรรมนกั เรียนเพอ่ื รับบตั รขออนญุ าตและ กรอกรายละเอยี ดตามแบบฟอร์ม บันทึกในสมดุ ออกนอกโรงเรียน (2.3) กรณที ีน่ กั เรียนขออนญุ าตออกนอกโรงเรยี น เพื่อไปทาธุระชั่วครแู่ ละกลบั เข้ามาใน โรงเรยี น ใหป้ ฏบิ ตั ิ ดงั น้ี - ถ้าอยรู่ ะหวา่ งชว่ั โมงเรียนใหแ้ จ้งครผู ู้สอนหรอื ครเู วรประจาวนั รับทราบ และอนุญาต กอ่ น - รับแบบฟอรม์ ขออนุญาตออกนอกโรงเรยี นทงี่ านแก้ไขปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมนักเรยี น และให้ครูทเ่ี ก่ียวข้องเซ็นต์รบั ทราบทุกคนตามลาดบั กอ่ นออกนอกบริเวณโรงเรยี น - เขยี นช่ือ สกุล ชน้ั ลงในสมุดออกนอกบรเิ วณทง่ี านแกไ้ ขปรับเปลี่ยนพฤตกิ รรมนักเรยี น และใหน้ กั เรยี นถอื บตั รออกนอกบรเิ วณโรงเรยี นติดตวั ไปด้วย - เมอื่ กลับมาจากภารกิจแล้ว บนั ทึกเวลากลบั ท่ีงานแกไ้ ขปรับเปลี่ยนพฤตกิ รรมนักเรียน พร้อมนาบัตรส่งคนื หากนักเรียนขออนุญาตแลว้ ไปทาภารกจิ อน่ื ทีไ่ มข่ ออนญุ าตให้ถือว่าหลบหนโี รงเรยี น และหากว่าสงิ่ นั้นไม่เหมาะสมจะตอ้ งได้รับโทษเพิ่มข้ึนตามพฤติกรรมนัน้ ด้วย หากนักเรียนปลอมลายมอื ช่ือผูป้ กครอง จะถูกลงโทษสถานหนกั และเชิญผูป้ กครองมาพบ เพราะเป็น โทษฐานปลอมแปลงเอกสารและแจ้งความ เทจ็ ขอ้ 25 การลาหยุดของนักเรียน (1) การลาหยดุ โรงเรียนทกุ คร้งั นักเรียนต้องย่นื ใบลาตอ่ ครูทปี่ รกึ ษาในวันแรกท่มี าเรียน (2) ทา้ ยใบลาตอ้ งให้ผปู้ กครองเขียนข้อความว่า “ข้าพเจ้าขอรับรองว่าเป็นความจริง” แล้วลง ชอื่ กากบั (3) ถ้านกั เรยี นขาดเรยี นโดยไมส่ ่งใบลาหรอื ไม่ไดร้ ับแจ้งจากผปู้ กครองภายใน 3 วัน โรงเรียนจะ ดาเนินการตามข้นั ตอน ดังนี้ (3.1) ครทู ีป่ รกึ ษาจะสง่ ใบเตือนครัง้ ท่ี 1 ให้ติดต่อโรงเรยี นโดยดว่ นภายใน 3 วนั (3.2) สง่ ใบเตอื นครงั้ ท่ี 2 ในกรณีท่โี รงเรียนไมไ่ ดร้ บั คาตอบ (3.3) เชญิ ผู้ปกครองมาพบงานปรบั เปล่ียนพฤตกิ รรมนักเรียน (3.4) ในกรณที ี่ผู้ปกครองสามารถแจง้ ทางโทรศพั ท์ไดใ้ หโ้ ทรแจ้งโรงเรยี นท่หี มายเลข 077-828563 หรอื โทรแจง้ ครูท่ปี รกึ ษา ข้อ 26 ในชว่ งเปล่ยี นชัว่ โมงเรียนแตล่ ะรายวชิ ากรณีตอ้ งเปลยี่ นหอ้ งเรยี น นกั เรียนต้องปฏบิ ตั ิอย่างไม่ ชกั ชา้ เพือ่ ให้ทนั เวลาชัว่ โมงเรียนตอ่ ไป 58
ระเบยี บโรงเรยี นกะเปอรว์ ิทยา 14 กรกฎาคม 2564 ข้อ 27 การแสดงกริยามารยาท ขณะอยใู่ นโรงเรยี น (1) นักเรียนตอ้ งแสดงกริยามารยาทท่ดี ีงามตามแบบอยา่ งวัฒนธรรมไทยและเหมาะสมกบั สภาพความเป็นนกั เรยี น นักเรยี นชายประพฤติตนเย่ียงสภุ าพบุรุษ นกั เรียนหญงิ ประพฤติตนเยยี่ งกลุ สตร (2) เมื่อเดินผา่ น เดนิ สวนทาง หรอื เขา้ พบตดิ ตอ่ งานกับครตู อ้ งแสดงความเคารพ ชายคานับ หญิงไหว้ขณะสนทนาให้อยู่ในอาการสารวม เคารพนอบน้อม ใชก้ ริยาวาจาที่สุภาพเรียบรอ้ ย (3) นักเรียนต้องไมพ่ ดู คาหยาบ ตอ้ งไม่ส่งเสียงดัง หรือแสดงกริยาอาการใด ๆ ท่ีไมส่ ุภาพ หรอื ก่อความเดอื ดร้อนราคาญแกค่ นอน่ื (4) นกั เรยี นตอ้ งแกไ้ ขปญั หาดว้ ยสนั ติวธิ ีหลีกเลย่ี งการทะเลาะววิ าท หรอื กลั่นแกลง้ ผ้อู ืน่ ด้วย วธิ กี ารใด ๆ ให้ไดร้ ับความเสียหาย หรือเดือดร้อน ราคาญ (5) นักเรยี นต้องไม่กระทาการใด ๆ อนั เป็นการละเมดิ สทิ ธิในร่างกาย ทรัพย์สนิ และช่ือเสยี ง เกยี รติยศของผู้อ่ืน ขอ้ 28 การปฏิบตั ิตนเกยี่ วกับการละเว้น อบายมุขและสิง่ เสพตดิ (1) หา้ มนักเรียนสบู บุหร่ี หรอื เสพสิง่ เสพตดิ ให้โทษทกุ ชนิด หรอื งดการด่ืมของมึนเมา ที่มี สว่ นผสมของแอลกอฮอล์ เชน่ สรุ า หรือเครอื่ งดมื่ ชนดิ อ่ืนในทานองเดยี วกัน (2) ห้าม นกั เรียนมีสิ่งเสพติดไว้ในครอบครองไมว่ า่ จะมีไวเ้ พอ่ื เสพ หรอื จาหนา่ ย (3) หา้ ม มใิ ห้นกั เรียนเล่นการพนัน ทกุ ชนดิ (4) ห้าม มิให้นักเรียนพกพา ซกุ ซอ่ นอาวธุ หรือวัตถุอ่นื ใดทม่ี ีเจตนาใหเ้ ปน็ อาวุธเขา้ มาใน โรงเรียน (5) ห้าม นักเรยี นคบบุคคลผ้มู พี ฤตกิ รรมเปน็ อนั ธพาล หรือชกั ชวน ชกั นา ผูเ้ ปน็ อนั ธพาลเขา้ มา ขอ้ 29 การใช้และบารงุ รกั ษาทรัพยส์ มบตั ิของโรงเรียน (1) นกั เรยี นทกุ คนต้องช่วยกนั ดูแลรักษาอาคารสถานท่ี หากพบเห็นความชารดุ บกพรอ่ งอนั อาจจะเกิดความเสียหาย ตอ้ งรบี แจง้ ผูบ้ รหิ ารโรงเรยี น และครูนักการภารโรง ตลอดจนยามรกั ษาการเพอ่ื ป้องกนั แก้ไขโดยดว่ น (2) หา้ ม ขดี เขียน หรือกระทาการใด ๆ อนั จะเกิดความเสยี หายความสกปรกตอ่ อาคารสถานท่ี (3) นกั เรยี นตอ้ งใช้เคร่ืองมอื อปุ กรณ์ ส่อื การเรยี นทุกชนดิ อย่างระมัดระวัง เพ่ือไมใ่ หเ้ กดิ ความ ชารุดและเสยี หาย การกระทาใด ๆ ของนกั เรยี นไมว่ า่ จะเพราะเหตุจงใจหรือประมาทเลินเลอ่ ต่อทรัพย์สมบัติของ โรงเรียน อันเปน็ ทรัพยส์ ินของทางราชการใหไ้ ด้รับความเสยี หาย ต้องรับผดิ ชอบ ชดใช้หรอื ซ่อมแซมใหอ้ ยู่ใน สภาพเดมิ เวน้ แตเ่ ปน็ ความเสียหายที่เกิดจากการเส่ือมสภาพอันเป็นธรรมดาของตวั ทรพั ย์นนั้ เพราะเกิดจาก การใชง้ านมาเป็นเวลานาน (4) การใช้ห้องนา้ ห้องสว้ ม นักเรยี นตอ้ งช่วยกัน รกั ษาความสะอาดและไม่ทง้ิ เศษส่ิงของลงใน โถส้วม ซึ่งอาจเกิดการอดุ ตัน ทางเดนิ น้า (5) นกั เรยี นต้องชว่ ยกนั รักษาความสะอาดของห้องเรยี น ระเบียบหน้าหอ้ งเรียน หรือบริเวณ อาคารสถานทีอ่ ื่น ๆ โดยไมท่ ้งิ เศษขยะ สง่ิ ของ หรือวัตถอุ ืน่ ใดอนั ก่อให้เกิดความสกปรกโดยการนาขยะเศษ วัตถุสงิ่ ของทิง้ ในภาชนะรองรบั ขยะท่จี ดั ไว้หรอื เก็บรวบรวมสง่ิ ของประเภทท่สี ามารถเขา้ สูก่ ระบวนการใหเ้ กิด ความสูญเปล่าของการใช้ทรพั ยากร (6) ขณะกอ่ นเขา้ แถว ให้นกั เรียนวางกระเปา๋ ผา้ ของโรงเรยี นหรือกระเป๋าทีท่ างโรงเรียนกาหนด หรือสมั ภาระทีน่ ามาโรงเรียน เฉพาะบนห้องเรยี น ถา้ นาไปวางที่หอ้ งเรียนไม่ทัน ใหน้ าสมั ภาระทง้ั หมดติดตัวไป เขา้ แถวดว้ ย 59
ระเบียบโรงเรยี นกะเปอรว์ ิทยา 14 กรกฎาคม 2564 ข้อ 30 การใช้บริการอาคารสถานที่ (1) การใชห้ อ้ งประชุม หอ้ งเรยี นรวมและห้องเรียนรวมและหอ้ งปฏิบตั ิการตา่ ง ๆ ตลอดจนการ ใช้วัสดุ อุปกรณต์ อ้ งขออนุญาตเจ้าหนา้ ท่ีผู้รับผิดชอบ โดยมบี นั ทกึ เป็นลายลกั ษณอ์ กั ษรเว้นแต่การใช้งานปกติ เป็นการประจาหรอื หา้ มนักเรียนใชเ้ คร่อื งมอื อุปกรณโ์ ดยพลการหรอื ไมไ่ ดร้ ับอนุญาตโดยเดด็ ขาด (2) การใช้บริการหอ้ งสมดุ ต้องปฏบิ ตั ติ าม ระเบียบการใช้ห้องสมุดโดยเคร่งครัด (3) การใช้รา้ นคา้ สวัสดกิ ารโรงเรยี นกะเปอรว์ ทิ ยา ในการซ้ือส่งิ ของตอ้ งซ้อื ตามเวลาที่เปดิ ทา การเทา่ นนั้ (4) การใชโ้ รงอาหาร ตอ้ งปฏิบตั ิตามระเบียบการใชอ้ ยา่ งเครง่ ครัด ขอ้ 31 การรับประทานอาหาร (1) หา้ มนกั เรียนซ้อื อาหาร นา้ ดื่ม ในเวลาเรียน ให้ซอ้ื ตามกาหนดเวลาและเขา้ แถวซ้อื อาหาร น้าดมื่ จากร้านจาหนา่ ยตามลาดับก่อน-หลัง (2) กรณีนกั เรียนนาอาหารมารบั ประทานเอง ต้องนาไปรับประทานทโ่ี รงอาหาร หรือสถานท่ี โรงเรียนกาหนด ห้ามนาขึน้ ไปรบั ประทานบนห้องเรยี น หรอื อาคารเรยี น (3) เศษ อาหาร หรือภาชนะห่ออาหาร ให้นาไปทิ้งลงในถงั ขยะ หรือภาชนะรองรับขยะท่ีจัดไว้ ข้อ 32 การแต่งกายนักเรียนภายในโรงเรยี น (1) นักเรยี นต้องแต่งกายเครือ่ งแบบนักเรียน ชุดพลศึกษา เคร่อื งแบบลกู เสอื เนตรนารีลูกเสอื สามญั รุ่นใหญ่และเครอ่ื งแบบนักศกึ ษาวชิ าทหาร ตามวนั เวลาและโอกาสท่กี าหนด โดยให้นักเรียนแตง่ เคร่ืองแบบนกั เรียนทกุ วัน ยกเวน้ วนั ทม่ี ีการเรียนพละและการเรียนกจิ กรรมใหแ้ ต่งตามกิจกรรม (2) การแตง่ เคร่ืองแบบนกั เรียน ให้เปน็ ไปตามหมวด 5 ของระเบียบนว้ี า่ ด้วยเคร่ืองแบบ นกั เรยี น ขอ้ 33 เคร่ืองแตง่ กายอ่ืนท่แี ตง่ ในโอกาสพิเศษตา่ ง ๆ นอกเหนอื จากเคร่ืองแบบนกั เรียน ทง้ั เครื่องประดบั ตกแตง่ รา่ งกาย สง่ิ เสริมแต่งร่างกาย ตอ้ งใหเ้ หมาะสมกับ สภาพความเป็นนักเรียน และ วัฒนธรรมอันดงี ามของไทย ข้อ 34 ห้ามให้นกั เรียนใส่เครอื่ งประดับ ประเภท ต่างหู สร้อยคอ สร้อยแขน แหวน หรือ เครอื่ งประดับอื่นใด ยกเวน้ นาฬกิ าข้อมอื ขอ้ 35 นกั เรียนต้องแต่งกายตามระเบยี บวา่ ด้วยการแต่งกายนกั เรยี นโรงเรยี นกะเปอร์วทิ ยา ข้อ 36 หา้ มมิให้นกั เรยี นมรี อยสกั บนรา่ งกาย ยกเวน้ ผปู้ กครองมาทาสญั ญากบั งานกจิ การนักเรยี น และใชส้ ง่ิ ปลอมตลอดจนเครอ่ื งสาอางเสรมิ แตง่ ร่างกาย ยกเวน้ ใชเ้ สริมแต่งเพอ่ื การแสดง ข้อ 37 ห้ามมิให้นกั เรยี น ไว้หนวดเครา ไวเ้ ล็บยาว หรือลักษณะอ่นื ใดทไี่ มเ่ หมาะสมกับสภาพหรือ บคุ ลกิ ลักษณะความเป็นนกั เรียน ขอ้ 38 หา้ มนาของมคี ่าทุกชนิดมาโรงเรยี น หากนักเรียนไมเ่ ชื่อฟงั และทางโรงเรยี นเกบ็ ไดจ้ ะให้ ผู้ปกครองมารับคนื ในวันทเี่ กบ็ ได้ หรือเกดิ สูญหาย ทางโรงเรยี นจะไม่รับผดิ ชอบ ไม่กวา่ กรณใี ด ๆ ทง้ั ส้นิ กรณีนาโทรศัพท์มือถอื มาโรงเรียน ใหข้ นึ้ อยกู่ ับดุลพนิ ิจของอาจารยท์ ่ปี รึกษา อาจารย์ประจาวิชา สามารถใช้ได้ในกรณีท่ีมคี วามจาเปน็ ต่อการเรียน หากนกั เรียนนามาใช้นอกเหนือจากเวลาเรียน โรงเรียนจะ ดาเนนิ การตาม ขอ้ 38 ข้อ 39 ห้ามนาของมีค่าอ่นื ๆ และของใชท้ ีไ่ มจ่ าเป็น เชน่ วทิ ยุ เทป เครื่องเลน่ MP ตา่ ง ๆ กลอ้ ง ถา่ ยรปู หรือสิง่ มคี า่ อ่ืน ๆ ทไ่ี มม่ ีความจาเปน็ กบั นักเรียนมาโรงเรยี น หากมีความจาเป็นท่จี ะต้องนามาใช้เป็น คร้งั คราวเพือ่ ประกอบการเรยี นหรือจดั กจิ กรรม ต้องขออนุญาตจากครผู ู้สอนหรอื หวั หน้างานแก้ไขปรับเปลี่ยน พฤติกรรมนักเรยี นกอ่ น และต้องดแู ลรกั ษาด้วยตนเอง หากชารุด หรอื เสียหายทางโรงเรียนจะไม่รับผิดชอบ 60
ระเบียบโรงเรยี นกะเปอร์วทิ ยา 14 กรกฎาคม 2564 ขอ้ 40 การใชย้ านพาหนะในโรงเรยี น (1) หา้ มนกั เรยี นขับขร่ี ถยนต์ รถจกั รยานยนต์หรอื รถจกั รยาน ภายในโรงเรยี น ในกรณีท่ีมี ความจา เป็นที่ต้องใช้ตอ้ งขออนุญาตเป็นลายลกั ษณ์อกั ษรตอ่ ผ้อู านวยการโรงเรียน รองผู้อานวยการกลมุ่ งาน กิจการนกั เรยี น หรือผู้ท่ีไดร้ บั มอบหมายจากผูอ้ านวยการโรงเรยี น เมื่อได้รบั อนญุ าตแล้วต้องขบั ข่ดี ้วยความ ระมดั ระวัง หา้ มโดยสารเกนิ 2 คนตอ่ คนั และปฏบิ ัติตามกฎจราจร ขอ้ 41 ห้ามมใิ หน้ กั เรียนจอดยานพาหนะในท่หี ้ามจอดและจอดกีดขวางทางจราจร ขอ้ 42 หา้ มมใิ หน้ ักเรยี นนายานพาหนะทีใ่ ช้เดินทางมาโรงเรียนไปจอดหรือเกบ็ ไวน้ อกบรเิ วณโรงเรยี น โดยเดด็ ขาดและห้ามนกั เรียนเข้าไปในท่จี อดรถตั้งแตเ่ วลา 08.30 น. - 16.00น. ข้อ 43 เวลา 16.00 น. เป็นเวลาเลิกเรยี น นกั เรยี นต้องนายานพาหนะออกจากโรงจอดรถแลว้ จูงออก ประตดู ้านหนา้ เมอื่ พ้นเขตโรงเรยี นจึงขบั ขี่ดว้ ยความระมดั ระวัง ข้อ 44 กรณีนักเรียนโดยสาร รถประจาทางขนึ้ หรอื ลงจากรถให้เรียงลาดบั กอ่ น หลัง หากมผี รู้ ่วม โดยสาร เป็นนักบวช เด็ก สตรีมคี รรภ์ ผู้พิการ ผู้ป่วยและผู้สูงอายุตอ้ งใหก้ ารช่วยเหลือ หรือสละท่ีนั่ง หา้ มมิ ใหน้ กั เรยี นหอ้ ยโหนหรอื ปีนป่ายการกระทาอืน่ ใดทีเ่ ส่ยี งตอ่ การเกดิ อันตราย หรอื อุบัตเิ หตุเมือ่ ลงจากรถข้าม ถนนต้องใช้ความระมัดระวงั ขอ้ 45 การเดนิ ทางไป กลบั กรณเี ดินเท้าใหเ้ ดนิ แถวเรยี งหน่งึ ชดิ ดา้ นขวาของถนน ออกจากบรเิ วณ โรงเรยี นห้ามมิให้เดินลัดสนามสวนหย่อมเม่ือพน้ เขตโรงเรยี นให้เดินชดิ ขอบถนนด้านขวาดว้ ยความ ระมัดระวงั จนกลับถึงบา้ น การเดินถนนในสถานศึกษานักเรยี นจะตอ้ งเดนิ ชิดขวามอื ของตนเอง หมวดท่ี 4 การปฏิบัตติ นภายนอกโรงเรยี น ขอ้ 46 นกั เรยี นโรงเรยี นโรงเรียนกะเปอรว์ ทิ ยาตอ้ งเป็นผไู้ ด้ชอื่ วา่ เปน็ ผมู้ ีความประพฤติดมี รี ะเบยี บ วนิ ยั ตลอดเวลาแม้อยู่ภายนอกโรงเรียน เพือ่ ใหเ้ กิดภาพลกั ษณ์ทีง่ ดงามตอ่ สาธารณะชนผูพ้ บเหน็ นกั เรียนตอ้ ง ประพฤติปฏิบตั ิตน ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพความเปน็ นกั เรยี น การปฏบิ ตั ิตนตอ่ ไปน้ถี ือว่า ไมเ่ หมาะสมกับการ เปน็ นกั เรียน (1) แต่งเครอ่ื งแบบนักเรยี น ต้องแต่งให้ถูกตอ้ งครบถว้ น ไมป่ ล่อยชายเสือ้ หรือพับแขนเสื้อ ในทีส่ าธารณะ (2) การแต่งกายที่ไมเ่ หมาะสมกบั สภาพความเปน็ นกั เรียน ตลอดจนใช้เคร่อื งสาอางหรอื ส่ิง ปลอมเพอื่ เสริมสวยเว้นแตแ่ ตง่ เพ่ือการแสดง (3) แต่งเครื่องแบบนกั เรยี นเข้าไปในโรงมหรสพ หรือสถานเริงรมยเ์ ว้นแต่นักเรียนมีทีพ่ กั อาศัย (4) เข้าไปในสถานบริการค้าประเวณีตามกฎหมายว่า ดว้ ยสถานบรกิ าร หรือสถานทีอ่ ืน่ ใด ท่ี มลี กั ษณะคลา้ ยคลงึ กนั อาทิ บาร์ ไนต์คลับ สถานอาบอบนวด บอ่ นการพนัน สถานโบว์ล่งิ สนามมา้ สนาม มวย เวน้ แต่ นักเรยี นมที พี่ กั อยใู่ นสถานทเี่ ชน่ วา่ นั้น (5) เข้าไปในสถานทค่ี า้ ประเวณีหรือคบค้าสมาคมกับหญิงทปี่ ระพฤตติ นคา้ เวน้ แต่เปน็ ญาติ หรอื นักเรียนมที ่พี ักอยใู่ นสถานทีเ่ ชน่ ว่านน้ั (6) เขา้ ไปในงาน สังสรรค์หรือร่วมสงั สรรค์และงานนนั้ มีการเตน้ รา เวน้ แต่ไปกับ บดิ า มารดา หรอื ผปู้ กครอง หรอื งานัดงกล่าว ทผี่ ู้ปกครองเป็นผ้อู นุญาต (7) เขา้ ชมการแสดงลามก หรอื การแสดงอ่นื ใด ท่ีขดั ต่อหลกั ศลี ธรรม วฒั นธรรมอนั ดีงาม ของไทย (8) ประพฤตติ นทานองชู้สาว ไมว่ า่ จะเปน็ นกั เรียนด้วยกนั หรอื บุคคลอนื่ 61
ระเบยี บโรงเรยี นกะเปอร์วทิ ยา 14 กรกฎาคม 2564 (9) มว่ั สมุ หรอื สมคบกบั ผูอ้ ่ืน ประพฤตติ นกอ่ ความเดือดรอ้ น ราคาญแกผ้อู ืน่ ่ (10) สบู บหุ ร่ี เสพสิ่งเสพตดิ หรอื ดมื่ สรุ าของมนึ เมา จนครองสตไิ มไ่ ดอ้ าละวาดในงานบุญ งานรนื่ เริงหรือสถานทสี่ าธารณะ (11) ขับยานพาหนะเป็นที่หวาดเสียวตอ่ การเกดิ อุบัติเหตหุ รอื ดดั แปลงเครื่องยนตพ์ าหนะ เพ่อื ขบั ข่ีใหเ้ กดิ เสยี งดงั ในทส่ี าธารณะ (12) มีอาวธุ วัตถุระเบดิ หรืออุปกรณ์อ่นื ทเี่ จตนาใหเ้ ปน็ อาวุธ หรือซกุ ซอ่ นไวเ้ พ่ือทาร้าย คนอืน่ (13) เล่นการพนัน ซง่ึ ตอ้ งห้ามตามกฎหมายการพนัน (14) แสดงกรยิ าวาจาไม่สภุ าพต่อสาธารณะชน (15) หลบหนอี อกนอกโรงเรียน หลบหนกี ารเรยี น (16) เทีย่ วเตร่ เร่ร่อนในที่สาธารณะ หรือทาลายทรพั ยส์ มบัตสิ าธารณะ หรือทาความ สกปรกไว้ให้ (17) ตดิ การเล่นเป็นนสิ ยั เที่ยวเตรก่ ลางคนื ระหว่างเวลา 22.00 – 04.00 น.ของวันรงุ่ ข้ึน เวน้ แตไ่ ปกับบดิ า มารดา หรอื ไดร้ บั อนญุ าตจากทางโรงเรียน (18) ดูมไี วห้ รือครอบครอง ซุกซอ่ น สอ่ื ลามก อนาจาร (19) ผลติ ส่ือลามกอนาจารด้วยเครื่องมืออิเลก็ ทรอนิกสเ์ พอ่ื มไี วด้ ูจาหน่าย หรอื นาออก เผยแพรต่ ่อทส่ี าธารณะชน หรือใช้เป็นเครื่องมอื ในการขู่เขญ็ ผอู้ ืน่ เพ่ือให้ได้มาซ่งึ ประโยชนแ์ ก่ตน (20) ประพฤติตนใหเ้ ปน็ ทีเ่ สอ่ื มเสยี เกยี รตยิ ศ ชื่อเสียงของโรงเรยี น (21) กระทาผิดตอ่ กฎหมายหมู่บ้าน และผดิ ตอ่ กฎหมายบา้ นเมือง (22) ถ้านักเรียนบุคคลใด ตอ้ งการนามือถอื มาโรงเรียนใหน้ าผู้ปกครองมาทาสญั ญากบั ทาง โรงเรยี นและฝา่ ยกิจการนกั เรยี น หมวดท่ี 5 เครอื่ งแตง่ กายนักเรยี น ขอ้ 47 เคร่ืองแบบนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ (มัธยมศกึ ษาปีที่ 1-3) (1) เคร่อื งแบบนักเรียนชาย (1.1) เสอ้ื เป็นเสอ้ื เชริ ์ต คอตั้ง ผา้ สขี าวเน้ือเรียบไม่บางจนเกินไป ผา่ อกตลอดและมีสายท่ี อกเส้อื ใช้กระดมุ แบบกลม เส้นผ่าศูนยก์ ลาง 1 เซนตเิ มตร แขนเสอ้ื อยู่เหนือขอ้ ศอกเลก็ นอ้ ย มีกระเป๋าติดที่ หนา้ อกดา้ นซา้ ยราวนม 1 กระเป๋า ขนาดกว้าง 8 – 12 เซนติเมตร หน้าอกดา้ นขวาปักชือ่ – สกุล ขนาดความ สงู 1 เซนตเิ มตร เหนือชอื่ – สกุล ปักอกั ษรยอ่ ก.ป.ว. ขนาดความสงู 1.5 เซนตเิ มตรด้วยดา้ ยสนี ้าเงิน และ เหนืออกั ษร ก.ป.ว. ปักรหัสประจาตวั นักเรยี นเปน็ ตัวเลขไทยด้วยดา้ ยสนี ้าเงนิ ขนาดความสูง 1 เซนตเิ มตร ตรงปกเสอื้ ดา้ นซา้ ยใหป้ กั จุดด้วยไหมสนี า้ เงนิ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ปกั 1 จดุ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ปกั 2 จุด และ มัธยมศึกษาปีที่ 3 ปกั 3 จดุ เพอ่ื บอกระดับชนั้ ตามลาดบั (1.2) กางเกงใชก้ างเกงขาส้ันสีกากี มีความยาวเหนือเขา่ พน้ ก่งึ กลางลูกสะบา้ ไมเ่ กิน 5 เซนตเิ มตร เม่อื ยนื ตรงขากางเกงกวา้ งหา่ งจากขาประมาณ 8-12 เซนตเิ มตร ปลายพับ เขา้ ขา้ งในประมาณ 3 เซนตเิ มตร ผา่ หนา้ ใช้กระดมุ หรือซิบมีกระเปา๋ ตรงตะเข็บขา้ ง ขา้ งละ 1 กระเป๋า ไม่มกี ระเปา๋ หลงั ขอบมหี ู 7 หู จีบด้านหนา้ สวมทบั ชายเสือ้ ให้เรยี บร้อย เข็มขัด ใช้เขม็ ขัดสีน้าตาล กวา้ ง 2.4 - 3 เซนติเมตรขึ้นไปตาม สัดสว่ นของขนาดนกั เรียน ให้คาดโดยสอดไวห้ ูกางเกงใหเ้ รียบรอ้ ย ห้ามมลี วดลาย (1.3) รองเท้าและถงุ เท้าใช้รองเทา้ ห้มุ สน้ ชนิดผกู ผ้าสีน้าตาล ไมม่ ลี วดลายใชป้ ระกอบถงุ เท้าสนี า้ ตาล ความยาวเพยี งเหนอื ตาตมุ่ 62
ระเบียบโรงเรียนกะเปอร์วทิ ยา 14 กรกฎาคม 2564 (1.4) เข็มขดั ใชเ้ ขม็ ขัดลูกเสือ สายหนงั สีนา้ ตาล มีความกวา้ ง 2.5 ซม.–4 ซม. (1.5) การสกั /การเจาะหู หา้ มนกั เรียนชายสกั และเจาะหูอย่างเดด็ ขาด (1.6) กรณใี สเ่ ส้อื ช้ันใน อนญุ าตให้เป็นเสื้อสีขาวเทา่ นน้ั และห้ามมีลวดลาย (2) เครือ่ งแบบนกั เรียนหญงิ (2.1) เสอื้ ใช้ผา้ ขาวเกล้ียงไม่บางจนเกินไป เป็นแบบคอพับในตวั สวมศีรษะได้ สะดวกสบายเข้าข้างในมปี กด้านหลงั ปกกะลาสี ขนาดปก 10 – 15 เซนตเิ มตร ใชผ้ ้าสองชัน้ เยบ็ แบบเขา้ ถา้ แขนยาวเพียงเหนอื ศอกปลายแขนจบี เล็กน้อย ประกอบดว้ ยผ้า 2 ชั้น ตัวยาวเลยขอบกระโปรงลงไปประมาณ 10 – 15 เซนตเิ มตร ไม่รดั เอวขอบดา้ นลา่ งดา้ นหนา้ ตดิ กระเป๋า 1 ใบ ขนาดขนาด 10 * 12 เซนติเมตร เวลา สวมต้องผกู หกู ระตา่ ยสนี า้ เงิน ชายเปน็ สามเหลยี่ มกว้างประมาณ 5-8 เซนติเมตร เมอ่ื ผกู แลว้ เงอ่ื นต้องต่ากวา่ คอปก 6 – 7 เซนติเมตร หน้าอกดา้ นขวาปักชื่อ - สกลุ ขนาดความสูง 1 เซนติเมตร เหนือ ชื่อ-สกลุ ปักอกั ษร ย่อ ก.ป.ว. และเหนอื อกั ษร ก.ป.ว. ปักรหสั ประจาตัวนกั เรียนเปน็ ตัวเลขไทยดว้ ยดา้ ยสนี า้ เงิน ขนาดความสูง 1 เซนติเมตร ตรงปกเส้อื ดา้ นซา้ ยใหป้ กั จดุ ดว้ ยไหมสนี า้ เงิน มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ปัก 1 จดุ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ปกั 2 จดุ และมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ปกั 3 จุดเพือ่ บอกระดบั ช้นั ตามลาดบั (2.2) เสอื้ บงั ทรง ใชแ้ บบเต็มตวั ธรรมดาสีขาว หา้ มใชเ้ ส้ือบังทรงชนิดเส้ือกล้ามแขนกว้าง แผน่ หลงั แคบ คอเสื้อด้านหน้าลึกกว่าคอเสื้อนกั เรียน (2.3) กระโปรงใชผ้ า้ สีนา้ เงินเข้ม (สกี รมทา่ ) เน้อื ผา้ เรียบไม่เป็นมนั ไม่มีลวดลายด้านหนา้ ด้านหลงั พับเปน็ กลีบออกด้านนอกทั้งข้างหน้าข้างหลังด้านละ 3 กลบี ท่ีกลีบตเี กล็ดเปิดลงมาจากขอบ ประมาณ 6-12 เซนติเมตร เวน้ ความกวา้ งระหว่างกลีบพองาม ความยาวของกระโปรงเพยี งคลุมเขา่ ต่าจากหัว เขา่ ไม่เกิน 5 เซนติเมตร ไม่เจาะกระเปา๋ ทก่ี ลีบ (2.4) รองเท้าและถุงเทา้ ใช้รองเท้าหุม้ สน้ ชนดิ หวั มนสีดาไม่มีลวดลาย มสี ายรัดทห่ี ลงั เทา้ สน้ สูงไมเ่ กนิ 3 เซนติเมตร ใช้ประกอบกับถงุ เทา้ สขี าวไม่มีลวดลายความยาวเพยี งเหนือตาตุ่ม (2.5) การเจาะหูและการสกั ใหน้ กั เรยี นหญงิ เจาะหูขา้ งละ 1 รู หา้ มสกั หรือเจาะอวยั วะ อ่นื ๆ ข้อ 48 เครือ่ งแบบนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาตอนปลาย (มธั ยมศึกษาปที ี่ 4-6) (1) เครือ่ งแบบนกั เรยี นชาย (1.1) เสอ้ื ใหใ้ ช้แบบเดยี วกนั กบั เส้ือนกั เรยี นชายชั้นมัธยมศกึ ษาตอนตน้ กางเกงใชก้ างเกง ขาสัน้ สดี า มีความยาวเหนอื เข่าพน้ ก่ึงกลางลกู สะบา้ ไม่เกนิ 5 เซนตเิ มตร เม่อื ยืนตรงขากางเกงกว้างหา่ งจากขา ประมาณ 8-12 เซนตเิ มตร ปลายพับ เข้าขา้ งในประมาณ 3 เซนตเิ มตร ผ่าหน้า ใช้กระดมุ หรือซิบมกี ระเปา๋ ตรง ตะเข็บข้าง ข้างละ 1 กระเป๋า ไมม่ กี ระเป๋าหลงั ขอบมีหู 7 หู จีบดา้ นหน้า สวมทบั ชายเส้อื ใหเ้ รยี บร้อย ตรงปก เสอื้ ดา้ นซ้ายให้ปกั จดุ ดว้ ยไหมสีแดง มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ปกั 1 จดุ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ปกั 2 จุด และมัธยมศกึ ษา ปีท่ี 6 ปัก 3 จดุ เพื่อบอกระดบั ช้นั ตามลาดบั (1.2) เขม็ ขัดใชเ้ ข็มขดั นักเรียนสดี ากวา้ ง 3-4 ซ.ม.หวั โลหะหุ้มหนงั สีดารูปสี่เหล่ียมผนื ผา้ มี เข็มสาหรบั สอดรูเพียงเขม็ เดยี ว ห้ามติดประดับ เขียน พ่นสี หรอื ทาลวดลาย และคาดติดกบั เอวพอดี หา้ มคาด ต่ากวา่ เอว และหา้ มปลอ่ ยใหค้ าดหอ้ ยหลวมๆ (1.3) รองเทา้ และถงุ เทา้ ใช้รองเทา้ หุม้ สน้ ชนดิ ผกู ผ้าสีดา ไมม่ ีลวดลาย ขนาดสน้ สงู ไมเ่ กนิ 3 เซนตเิ มตร ใช้ประกอบถุงเท้าสีขาวไมม่ ีลวดลาย ความยาวเพยี งเหนือตาตุ่ม (1.4) การสกั /การเจาะหู ห้ามนักเรียนชายสักและเจาะหอู ยา่ งเด็ดขาด (2) เคร่อื งแบบนักเรยี นหญงิ (2.1) เสอ้ื ใช้ผา้ ขาวเกลี้ยงไม่มีลวดลาย ไม่บาง ตัดเป็นแบบปกเชริ ต์ ผา่ อกตลอด มสี าบตลบ เขา้ ใน 3 ซ.ม. มีกระดมุ กลม แบน สขี าว เส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกนิ 1 เซนตเิ มตร แขนยาวเพียงเหนือขอ้ ศอก 63
ระเบยี บโรงเรยี นกะเปอรว์ ทิ ยา 14 กรกฎาคม 2564 แขนจบี เฉพาะปลายแขนดา้ นหลัง เข้าหาลาตวั ข้างละ 3 จีบ ปลายแขนเป็นผา้ ทบ 2 ชั้น กวา้ ง 3 เซนตเิ มตร สอดชายเสอื้ ไวใ้ นกระโปรง และควรใสเ่ สอ้ื ซบั ดา้ นในอกี ตวั หนง่ึ หนา้ อกด้านขวาปักชอ่ื -สกลุ ขนาดความสงู 1 เซนติเมตร เหนอื ช่อื -สกุล ปกั อกั ษรยอ่ ก.ป.ว. ขนาดความสงู 1.5 เซนตเิ มตรและเหนอื อกั ษร ก.ป.ว. ปักรหัส ประจาตวั นักเรยี นเปน็ ตวั เลขไทยด้วยด้ายสนี า้ เงิน ตรงปกเสอ้ื ด้านซา้ ยให้ปกั จดุ ด้วยไหมสแี ดง มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ปกั 1 จดุ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ปัก 2 จดุ และมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ปัก 3 จุดเพ่ือบอกระดับชนั้ ตามลาดับ (2.2) กระโปรง เป็นผ้าเกล้ียงสีดา แบบธรรมดาไม่มลี วดลายเนือ้ ผา้ หนาพอสมควร มจี บี ด้านหนา้ และด้านหลงั ขา้ งละ 4 จบี หันจีบออกนอก เยบ็ ทบั ขอบลา่ งลงมา 6-8 เซนตเิ มตร กลบี กระโปรงให้ ซอ้ นลกึ ไม่ต่ากวา่ 1 น้วิ เวน้ ระยะความกวา้ งตรงกลางพองาม ความยาวลงมาจากสะบา้ หัวเข่า ประมาณ 5 เซนตเิ มตร ปลายกระโปรงกว้างพองาม หา้ มสวมกระโปรงใตส้ ะดอื (2.3) เสอื้ บงั ทรง ใช้แบบเตม็ ตวั ธรรมดาสีขาว ห้ามใชเ้ สื้อบังทรงชนิดเสอื้ กลา้ มแขนกวา้ ง แผน่ หลงั แคบ คอเส้ือดา้ นหน้าลึกกวา่ คอเสื้อนกั เรียน (2.4) เขม็ ขัด ใชเ้ ข็มขัดสดี า กว้างตงั้ แต่ 3 เซนตเิ มตร ขึน้ ไป ตามสว่ นของขนาดนักเรยี น หวั แบบรูปสีเ่ หล่ียมผืนผ้า ชนิดหัวรมดา ใช้หนงั สดี าหมุ้ ปลอกหนงั กว้าง 1.5 เซนติเมตร สาหรบั สอดปลายเข็ม ขัดใช้คาดทบั กระโปรงระดับขอบบนพอดี ขอ้ 49 เครอ่ื งแต่งกายนักเรียนชุดพลานามัย (ชดุ พลศึกษา) (1) เสือ้ ใช้เส้ือตามท่ีโรงเรยี นจัดทาขึ้น คอื สเี ขียวลว้ น ทัง้ ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และ ตอนปลาย หนา้ อกขวาปกั ชื่อ-สกลุ เป็นอกั ษรภาษาไทยดว้ ยด้ายสีนา้ เงนิ ขนาดความสูง 1 เซนติเมตร กระเปา๋ ด้านซ้ายปักตราสญั ลักษณข์ องโรงเรยี น กางเกง ใชก้ างเกงวอรม์ สดี า ทกุ ระดับชัน้ มตี ะเข็บขา้ งสเี ขยี ว ปลายกางเกงรดั ขอ้ เลก็ น้อย รองเท้า ถงุ เท้า นักเรียนท้งั ชายและหญงิ ให้ใชร้ องเทา้ ผ้าใบสีขาวไมม่ ีลวดลายใช ประกอบกบั ถงุ เทา้ สขี าวลวดลาย ความยาวเพียงเหนอื ตาตมุ่ ขอ้ 50 ทรงผมนกั เรียนระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ /ตอนปลาย (1) นักเรียนชายใหต้ ัดผมสนั้ หรอื ยาวกไ็ ด้ ผมสว่ นบนดา้ นหน้า ยาวไม่เกนิ คิ้ว ไมไ่ วห้ นวดเครา ไมเ่ ซทลอน ไม่ยอ้ มสี ไมใ่ ส่นา้ มันหรอื เจล หรือกระทาอันผิดไปจากธรรมชาติ ห้ามตดั แต่งทรงผมเปน็ รูปทรง สญั ลักษณ์หรือลวดลายตา่ ง ๆ (2) นกั เรยี นหญงิ ให้ไว้สน้ั หรอื ยาวกไ็ ด้ กรณีไวผ้ มส้ันใหม้ คี วามยาวไมเ่ กิน 5 เซนตเิ มตร ความ ยาวของเส้นผมดา้ นหลงั อยรู่ ะดบั เดยี วกับด้านหน้า ไม่ไวผ้ มทรงหน้าม้า ไมซ่ อยท้ังซอยยาวและสน้ั ไมด่ ัด ไม่ สไลด์ ไม่ยอ้ มสีผม ไมถ่ กั เปีย หรือตกแต่งทรงผมอันผิดไปจากธรรมชาติ ไมใ่ ช้เครอื่ งประดับ และเครอ่ื งสาอาง ทกุ ชนิด กรณีไว้ผมยาวรวบให้เรยี บรอ้ ยวัดจากตน้ คอไมเ่ กิน 15 เซนติเมตร กรณนี กั เรียนหญงิ มธั ยมศึกษาตอนตน้ ผูกผมดว้ ยโบวส์ นี า้ เงิน และนกั เรียนหญงิ มธั ยมศึกษา ตอนปลาย ผูกผมดว้ ยโบวส์ ดี า ตามท่ีโรงเรียนกาหนด ขอ้ 51 เครอ่ื งแตง่ กายในโอกาสอื่น ๆ (1) เคร่อื งแต่งกายลกู เสือ-เนตรนารี ให้เปน็ ไปตามระเบยี บว่า ด้วยการแตง่ กายของลูกเสอื - เนตรนารอี ยา่ งเคร่งครดั (2) เครอื่ งแต่งกายนกั ศึกษาวิชาทหารใหเ้ ป็นไปตามระเบียบการแต่งกายนักศกึ ษาวิชาทหาร อยา่ งเคร่งครดั (3) เครอ่ื งแตง่ กายนักเรยี นที่มาตดิ ตอ่ กับโรงเรยี นทุกกรณี ไม่วา่ จะปิดภาคเรยี นหรือเปิดภาค เรียน ให้นักเรยี นแต่งเครือ่ งแบบนักเรียนหรือชดุ พลานามยั เท่านนั้ ขอ้ 52 การแตง่ กายอน่ื ๆ 64
ระเบียบโรงเรียนกะเปอรว์ ิทยา 14 กรกฎาคม 2564 (1) ใบหน้า ห้ามแต่งหน้าใหผ้ ดิ ธรรมชาติ เช่น โกน หรือ ถอนค้ิว แต่งค้ิว ทาขอบตา ทาริม ฝปี าก แตม้ ไฝแต่งหนา้ หรือใช้แปง้ รองพน้ื หา้ มใชล้ ปิ มันเปลี่ยนสี หรือน้ายาอทุ ัยทิพย์ทาปาก อนุญาต ให้ ใช้ แป้งเดก็ ได้ (2) เลบ็ ทั้งชายและหญงิ ตัดเล็บสั้น รกั ษาให้สะอาด ไม่ไวเ้ ล็บ แตง่ เลบ็ เพน้ ทเ์ ลบ็ ทาสเี ลบ็ (3) เครื่องประดับ ทางโรงเรียนไมอ่ นญุ าตใหน้ ักเรียนสวมใสเ่ ครือ่ งประดบั ทม่ี คี ่าทกุ ชนดิ ยกเวน้ - สรอ้ ย ถา้ จะแขวนสรอ้ ยจะตอ้ งเป็นสรอ้ ยคอชนิดไม่มีคา่ (เหลก็ ขาว) สาหรับแขวนวัตถุ มงคล เพียง 1 เสน้ เทา่ น้ัน โดยไม่มเี จตนาเปน็ เครื่องประดับ สวมใส่ไว้ในเสอื้ ให้มิดชิด มีความยาวท่เี หมาะสม หา้ มส้นั ติดกับต้นคอ - นาฬิกาข้อมือ อนุญาตใหใ้ สท่ ีม่ ีสายเหลก็ สายหนงั หรอื พลาสติก สดี า สีน้าตาล สีสภุ าพ ไม่ฉดู ฉาด ไมม่ ลี วดลาย ใชส้ าหรบั ดเู วลา มิใช่ ใสเ่ พอื่ เป็นแฟชนั่ - สมั ภาระที่ใช้เรียน เปน็ กระเป๋าท่ที างโรงเรยี นกาหนด ไม่มีการตกแต่ง หรือขดี เขียน ขอ้ ความต่าง ๆ บนกระเปา๋ ห้ามถอื กระเป๋าผา้ อยา่ งเดียว และหา้ มนากระเป๋าอ่นื ทน่ี อกเหนอื จากที่ โรงเรียน กาหนดเข้ามาในบรเิ วณโรงเรยี น หมายเหตุ : กรณีแต่งกายไม่ตรงตามระเบยี บ ต้องได้รับการอนุญาตจากครทู ีป่ รึกษาเท่าน้ัน หมวดที่ 6 การลงโทษนกั เรยี น เพอ่ื ให้การควบคมุ ดูแลความประพฤตนิ กั เรยี นเป็นไปด้วยความเรยี บรอ้ ยและใหน้ ักเรยี นมรี ะเบยี บ วนิ ัย โรงเรยี นกะเปอร์วทิ ยา จงึ กาหนดมาตรการควบคมุ ดูแลและการลงโทษนักเรียน ท่มี พี ฤติกรรมฝา่ ฝนื ระเบียบและแนวปฏิบัติสาหรับนกั เรยี น ไวด้ งั น้ี ขอ้ 53 ใหผ้ ู้อานวยการโรงเรียนหรอื ผ้ทู ่ีผอู้ านวยการโรงเรียนมอบหมายมีอานาจลงโทษนักเรียนภายใต้ บทลงโทษทก่ี าหนดไวใ้ นระเบยี บนี้ ครทู กุ คนมีหนา้ ทกี่ ากบั ดูแลและรายงานพฤติกรรมนกั เรยี นตอ่ ผอู้ านวยการโรงเรียนและฝา่ ยกจิ การนักเรียน ขอ้ 54 หา้ มมใิ ห้ลงโทษนกั เรยี นด้วยวธิ ีรนุ แรง หรอื กล่นั แกลง้ หรือลงโทษด้วยอารมณ์โกรธความ พยาบาท หรอื มอี คติต่อนกั เรียนผ้ถู ูกลงโทษ ทงั้ น้ี การลงโทษใหพ้ จิ ารณาถึงอายุเพศและความร้ายแรงแหง่ พฤติการณ์ประกอบการลงโทษด้วย การลงโทษนักเรยี นใหเ้ ปน็ ไปเพื่อเจตนาทจี่ ะแกน้ ิสัยและความประพฤติไม่ ดีของนักเรียนให้รสู้ านกึ ในความผิดและกลับประพฤตติ นในทางทด่ี ีต่อไป ข้อ 55 โทษสาหรบั นักเรยี นมี 4 สถานดงั นี้ (1) วา่ กลา่ วตกั เตือน (2) ทาทณั ฑ์บน (3) ตดั คะแนนความประพฤติ (4) ทากจิ กรรมเพอื่ ปรบั เปลย่ี นพฤติกรรม ขอ้ 56 การวา่ กล่าวตักเตือน ใชใ้ นกรณกี ระทาความผดิ ไมร่ า้ ยแรง เมื่อว่ากล่าวตักเตือนแลว้ 3 คร้ัง ยังไม่ปรบั ปรงุ แก้ไขพฤติกรรมใหเ้ ปล่ียนโทษเป็นตดั คะแนนความประพฤติ ข้อ 57 ทาทณั ฑ์บน ใช้ในกรณนี ักเรียนกระทาความผิดตอ่ ระเบียบ และแนวปฏิบัติของโรงเรยี นซ่งึ ไดร้ ับโทษสถานอ่นื แล้ว ยังประพฤติซา้ ไม่เข็ดหลาบ 65
ระเบยี บโรงเรยี นกะเปอร์วทิ ยา 14 กรกฎาคม 2564 ข้อ 58 ตัดคะแนนความประพฤติใชใ้ นกรณนี กั เรยี นกระทาความผิดผา่ นการตักเตอื นมาแล้ว และเปน็ การกระทาความผดิ ตามกระทงความผิดทร่ี ะบใุ นระเบยี บโรงเรียนกะเปอรว์ ิทยา วา่ ดว้ ยคะแนนความประพฤติ โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1) บันทกึ ความผดิ ของนกั เรียนทุกครง้ั ในแบบบนั ทึก 2) เชิญผูป้ กครองมารบั ทราบความผดิ ของนักเรยี น วา่ กล่าวตกั เตือน ในกรณที ี่นกั เรยี น ถูก ตัดคะแนน 30–50 คะแนน 3) เชิญผูป้ กครองมารับทราบความผิด ทากจิ กรรม ทาทณั ฑบ์ นในกรณีทีน่ ักเรียน ถูกตดั คะแนน 50-70 คะแนน 4) เชญิ ผู้ปกครองมารับทราบความผิด ในกรณีท่ีนักเรียนถูกตัดคะแนนเกนิ 100 คะแนน ลงโทษโดยให้นักเรียนทากิจกรรมครอบครัวสัมพันธ์ 5) เชญิ ผ้ปู กครองมารบั ทราบความผิด ยา้ ยสถานศึกษา ในกรณที ่นี ักเรียนถูกตดั คะแนนเกนิ 100 คะแนน และก่อเกิดความเสยี หายหรือเส่ือมเสยี ต่อสถานศกึ ษาอย่างรา้ ยแรงโดยความเหน็ ชอบของ คณะกรรมการสถานศกึ ษา ข้อ 59 ทากิจกรรมเพ่อื ปรับเปลย่ี นพฤตกิ รรม ใชใ้ นกรณนี กั เรียนกระทาผดิ ระเบียบหรือแนวปฏบิ ตั ิ ของโรงเรยี น หรอื กระทาผดิ ถกู ตดั คะแนนความประพฤตมิ าแล้ว ขอ้ 60 แนวปฏบิ ตั ิในการลงโทษ “ตัดคะแนนความประพฤติ” ให้ปฏิบตั ติ ามระเบียบ โรงเรียนกะเปอร์ วิทยา ว่าดว้ ยคะแนนความประพฤติ ขอ้ 61 การลงโทษทากิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤตกิ รรม ใหด้ าเนินการ ดังน้ี (1) กรณีความผดิ ครงั้ แรก หรือความผิดเล็กนอ้ ยให้ครูทุกคนทพ่ี บเห็น วา่ กล่าวตักเตือน หรอื ให้นกั เรียนทากิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์หรือบรกิ าร ได้ตามความเหมาะสมแก่ เพศ วยั เวลาและฐาน ความผิด (2) กรณีนักเรยี นเคยกระทาความผดิ ถูกตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน มาแล้ว ให้ ผอู้ านวยการโรงเรียน หรือผทู้ ไี่ ด้รบั มอบหมายกาหนดกิจกรรมใหน้ กั เรยี นทาตามความเหมาะสมแก่ เพศ วัย เวลาและฐานความผดิ และควบคุมพฤติกรรมใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั ติ ามท่ีกาหนด (3) กรณนี กั เรยี นไม่ทากิจกรรมตามทก่ี าหนดใหถ้ อื เปน็ ความผดิ ท่หี นักขน้ึ 2 เทา่ (เชิญ ผปู้ กครองมาทาสญั ญาที่ฝา่ ยกจิ การนกั เรียน) ข้อ 62 แนวปฏบิ ัตใิ นการลงโทษทาทณั ฑบ์ นนักเรียน ให้ผูอ้ านวยการโรงเรียนหรอื ผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย มีหนงั สือเชิญผู้ปกครองมารับทราบพฤตกิ รรม ความผดิ ของนักเรยี น การลงโทษทาทณั ฑบ์ น ให้ใช“้ แบบการ ทาทณั ฑ์บน” ท่โี รงเรยี นกาหนดโดยใหร้ ะบุพฤตกิ รรมท่ตี ้องปรับปรุงแกไ้ ขใหช้ ดั เจน และขอ้ สาคญั ท่ีนักเรยี น และผูป้ กครองจะตอ้ งยอมรบั และปฏิบตั ติ าม หากผิดสญั ญา ขอ้ 63 การเชญิ ผู้ปกครองมาพบ ทางโรงเรียนอาจแจ้งทางโทรศัพท์ หรอื ทางจดหมายเชญิ ไปกับ นักเรยี น ผู้ปกครองจะต้องมาพบและตดิ ตอ่ กบั ทางโรงเรียนทุกครง้ั ที่ทางโรงเรยี นเชญิ ไป หากผ้ปู กครองไมม่ า ตามทนี่ ัดหมาย โรงเรยี นจะแจ้งใหผ้ ปู้ กครองทราบเปน็ ครง้ั ที่ 2 และครัง้ ที่ 3 แลว้ นักเรียนจะถูกหักคะแนน ความประพฤติ จนกวา่ จะพาผปู้ กครองมาพบ ขอ้ 64 งานแก้ไขปรับเปลยี่ นพฤติกรรมนักเรยี นทาหลักฐานผูก้ ระทาผดิ ไวเ้ ปน็ ลายลกั ษณ์อักษร และ แจ้งผู้ปกครองรับทราบในโอกาสอนั ควร ขอ้ 65 ครทู กุ ท่านมสี ทิ ธ์ิเสนอการตัดคะแนนความประพฤติของนักเรยี นท่ีกระทาผิด ข้อ 66 ให้ผูอ้ านวยการโรงเรียนโดยมอบหมายให้รองผูอ้ านวยการหรอื หวั หนา้ กล่มุ งานกิจการนกั เรยี น หรอื ข้าราชการครูคนใดคนหนงึ่ รักษาการตามระเบยี บนี้และใหม้ อี านาจวนิ ิจฉยั ปญั หา อันเก่ยี วกับความ ประพฤตนิ ักเรียนตามที่กาหนดไวใ้ นระเบยี บน้ี 66
ระเบยี บโรงเรียนกะเปอร์วิทยา 14 กรกฎาคม 2564 หมายเหตุ การตดั คะแนนในบางเรือ่ งที่กระทาผดิ อาจข้นึ อยูก่ บั คณะกรรมการท่ีตดั สินและลงโทษ นักเรยี นเปน็ ราย ๆ ไป เพือ่ เป็นการส่งเสรมิ และเป็นกาลงั ใจแก่นกั เรยี นท่ีมคี วามประพฤตดิ ี รกั ษาระเบยี บ วนิ ยั ของโรงเรียนสมควรให้มกี ารเพิ่มคะแนนความประพฤติ เชน่ สรา้ งชอ่ื เสยี งให้กบั โรงเรยี น ชว่ ยเหลอื กจิ กรรม ตา่ ง ๆ ของ โรงเรยี น กระทาตนสมควรแกก่ ารยกย่อง เป็นนักเรยี นตวั อย่างทีด่ ี (1) ระดบั การเพมิ่ คะแนนความประพฤติมีดังน้ี (1.1) นกั เรยี นท่ีมผี ลการเรยี นดี 1) มเี กรดเฉล่ียตง้ั แต่ 3.50 -4.00 เพิ่มไดค้ ร้งั ละ 15 คะแนน 2) มีเกรดเฉล่ียตัง้ แต่ 3.00 – 3.49 เพม่ิ ไดค้ ร้ังละ 10 คะแนน (1.2) กระทาดี 1) สร้างช่อื เสยี งให้กับโรงเรียน - ระดับอาเภอ 10 คะแนน - ระดับจงั หวดั 15 คะแนน 30 คะแนน - ระดับภาค - ระดับประเทศ 50 คะแนน (1.3) ชว่ ยเหลอื กจิ กรรมโรงเรียน เพมิ่ ไดค้ รัง้ ละไมเ่ กนิ 10 คะแนน (1.4) ปฏิบัตติ นเปน็ พลเมอื งดีทั้งในและนอกโรงเรยี น เพ่ิมได้คร้ังละไมเ่ กนิ 10 คะแนน หมายเหตุ นกั เรยี นคนใดท่ไี ม่ถกู ตัดคะแนนความประพฤตใิ นส่วนที่ทาความผิดและมคี ะแนนความดี สะสม 100 คะแนนขน้ึ ไป จะไดร้ บั ประกาศเกียรตคิ ุณเปน็ นักเรียนที่มคี วามประพฤตดิ ีเด่น ทั้งนี้ใหย้ กเลกิ ระเบียบโรงเรียนกะเปอร์วิทยา วา่ ดว้ ยความประพฤติ แนวปฏบิ ตั ิ และการลงโทษ นกั เรียน พ.ศ. 2562 ลงวันที่ 10 มิถนุ ายน พ.ศ. 2563 ตงั้ แตว่ นั ท่ปี ระกาศใชร้ ะเบยี บฉบบั น้ีเปน็ ตน้ ไป ประกาศ ณ วนั ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ( ดร.สรุ ยี ร์ ตั น์ พฒั นเธียร ) ผอู้ านวยการโรงเรียนกะเปอร์วิทยา 67
ระเบียบโรงเรียนกะเปอร์วิทยา 14 กรกฎาคม 2564 ตาราง 1 ตารางแสดงประเภทความผิดและเกณฑ์การตดั คะแนนความประพฤติ ตาม ระเบียบโรงเรยี นกะเปอร์วิทยา ว่าดว้ ย คะแนนความประพฤตนิ ักเรียน พ.ศ. 2564 ที่ ประเภท ครง้ั ท่ี 1 คร้ังที่ 2 ครง้ั ที่ 3, 4, 5 หมายเหตุ ความผดิ ระดบั การ คะแนน ระดบั การ คะแนน ระดับการ คะแนน ลงโทษ ทต่ี ดั ลงโทษ ทตี่ ัด ลงโทษ ที่ตัด หมวดที่ 1 การเรยี น 1 มาสาย ว่ากล่าว - ทา 5 ทาทัณฑ์ 10 เชิญ ตกั เตอื น กิจกรรม บน ผปู้ กครอง 2 ไมเ่ ข้าเรยี นใน วา่ กลา่ ว 10 ทา 15 ทาทณั ฑ์ 20 เชญิ คาบ ตกั เตอื น กจิ กรรม บน ผู้ปกครอง 3 หนโี รงเรยี น วา่ กลา่ ว 15 ทา 20 ทาทณั ฑ์ 30 เชิญ ตักเตือน กจิ กรรม บน ผปู้ กครอง 4 ปลอม ว่ากล่าว 15 ทา 20 ทาทัณฑ์ 30 เชิญ หลักฐานหรอื ตักเตอื น กจิ กรรม บน ผปู้ กครอง ทาลาย หลกั ฐานของ ทางราชการ 5 ทากจิ กรรม ว่ากล่าว 5 ทา 10 ทาทณั ฑ์ 15 เชิญ อืน่ ในเวลา ตกั เตอื น กิจกรรม บน ผ้ปู กครอง เรียน หมวดท่ี 2 การแตง่ กาย 6 แต่งกายไม่ ว่ากล่าว 5 ทา 10 ทาทัณฑ์ 15 เชญิ เรียบร้อย ตกั เตอื น กิจกรรม บน ผู้ปกครอง 7 ใชเ้ ครื่องแต่ง ว่ากลา่ ว 5 ทา 10 ทาทัณฑ์ 15 เชญิ กายผิด ตักเตอื น กจิ กรรม บน ผูป้ กครอง ระเบยี บ 8 ใสเ่ คร่ืองแบบ ว่ากล่าว 10 ทา 15 ทาทัณฑ์ 20 เชญิ ของผู้อ่นื ตักเตอื น กจิ กรรม บน ผปู้ กครอง 9 นักเรยี นไม่ วา่ กลา่ ว 5 ทา 10 ทาทัณฑ์ 15 เชญิ สวมเสอื้ บงั ตักเตือน กิจกรรม บน ผ้ปู กครอง ทรง 10 ใส่ ว่ากลา่ ว 5 ทา 10 ทาทณั ฑ์ 15 เชิญ เคร่ืองประดับ ตกั เตือน กจิ กรรม บน ผปู้ กครอง ท่ีผดิ ระเบียบ มาโรงเรยี น 68
ระเบียบโรงเรียนกะเปอรว์ ทิ ยา 14 กรกฎาคม 2564 ที่ ประเภท คร้ังที่ 1 คร้งั ที่ 2 ครั้งที่ 3, 4, 5 หมายเหตุ ระดับการ คะแนน ระดบั การ คะแนน ความผิด ระดบั การ คะแนน ลงโทษ ทตี่ ัด ลงโทษ ทีต่ ัด เชิญ ลงโทษ ทตี่ ัด ทาทัณฑ์ 30 ผปู้ กครอง ทา 20 11 ทรงผมผิด ว่ากลา่ ว 10 บน เชิญ กจิ กรรม ทาทณั ฑ์ 50 ผู้ปกครอง ระเบียบ ตักเตอื น ทา 30 บน 12 ทาศลั ยกรรม วา่ กลา่ ว 20 กิจกรรม หรอื ตกแต่ง ตักเตอื น ใบหนา้ เพอื่ ความ หมวด3 ความ ประพฤติ 13 ลกั ขโมย วา่ กล่าว 10 ทาทณั ฑ์ 20 ทาทัณฑ์ 30 เชญิ 25 ตักเตอื น บน 25 บน ผปู้ กครอง ทาทัณฑ์ ทาทณั ฑ์ 30 เชญิ 14 เล่นการพนัน วา่ กล่าว 20 บน บน ผู้ปกครอง ทุกชนดิ ตักเตือน ทาทณั ฑ์ ทาทณั ฑ์ 40 เชิญ 15 เที่ยวเตรใ่ น ว่ากลา่ ว 20 บน บน ผู้ปกครอง สถานที่ไม่ ตกั เตือน เหมาะสม 16 สูบบหุ รี่ หรอื ว่ากล่าว 10 ทา 20 ทาทัณฑ์ 30 เชญิ กิจกรรม บน ผู้ปกครอง มบี ุหรไี่ วใ้ น ตักเตอื น ครอบครอง เสพสารเสพ ติด 17 ดื่มเครอ่ื งดมื่ ท่ี ว่ากล่าว 30 ทาทณั ฑ์ 40 ทาทัณฑ์ 50 เชญิ บน บน ผู้ปกครอง มีแอลกอฮอล์ ตักเตือน ทาทณั ฑบ์ น 40 ทกุ ชนิด ทากจิ กรรม 15 19 ทะเลาะวิวาท ว่ากล่าว 30 ชดใช้ 20 ทาทณั ฑบ์ น 50 เชญิ ตกั เตอื น ค่าเสียหาย ผู้ปกครอง/ ทาทณั ฑบ์ น 30 เปลีย่ น สถานศึกษา 20 หนีการเขา้ แถว วา่ กลา่ ว 10 ทาทัณฑบ์ น 20 เชิญ 15 ตักเตือน ผู้ปกครอง 20 21 ทาลาย ชดใช้ ชดใช้ 30 เชญิ ทรัพยส์ ินของ คา่ เสยี หาย ค่าเสยี หาย ผปู้ กครอง โรงเรียนและ ของบุคคลอน่ื 22 มว่ั สุมในทาง วา่ กลา่ ว ทาทัณฑบ์ น 45 เชิญ ผูป้ กครอง เสอื่ มเสีย ตกั เตอื น 69
ระเบียบโรงเรยี นกะเปอรว์ ทิ ยา 14 กรกฎาคม 2564 ท่ี ประเภท ครง้ั ที่ 1 ครง้ั ที่ 2 ครง้ั ท่ี 3, 4, 5 หมายเหตุ ความผดิ ระดบั การ คะแนน ระดับการ คะแนน ระดับการ คะแนน ลงโทษ ทีต่ ัด ลงโทษ ที่ตดั ลงโทษ ทตี่ ดั 23 พาหรอื นดั ว่ากลา่ ว 10 ทากจิ กรรม 15 ทาทัณฑบ์ น 20 เชิญ บุคคลภายนอก ตักเตือน ผู้ปกครอง เขา้ มาใน โรงเรียน 24 พูดแสดงกริ ยิ า ว่ากลา่ ว 10 ทากจิ กรรม 20 ทาทัณฑบ์ น 30 เชิญ ไม่สุภาพตอ่ ตักเตอื น ผปู้ กครอง บุคคลอ่นื 25 รบั ประทาน ว่ากลา่ ว 10 ทากิจกรรม 15 ทาทณั ฑบ์ น 20 เชญิ อาหารกอ่ น ตกั เตือน ผู้ปกครอง เวลาพัก 26 แสดง ว่ากล่าว 20 ทากจิ กรรม 30 ทาทัณฑบ์ น 50 เชิญ พฤติกรรมชู้ ตักเตอื น ผ้ปู กครอง สาว 27 มีพฤติกรรมชู้ วา่ กลา่ ว 30 ทากิจกรรม 40 ทาทัณฑบ์ น 50 เชิญ สาวถึงขน้ั ได้ ตักเตอื น ผปู้ กครอง เสยี กนั 28 แสดงท่าทาง ว่ากลา่ ว 20 ทาทัณฑบ์ น 30 ทาทัณฑบ์ น 50 เชิญ หรือใชก้ ิรยิ า ตกั เตอื น ผปู้ กครอง วาจากา้ วร้าว ตอ่ ครู อาจารย์ 29 ไมส่ ง่ เอกสาร ว่ากล่าว 10 ทากจิ กรรม 15 ทาทัณฑบ์ น 20 เชญิ ทางโรงเรียนให้ ตักเตอื น ผปู้ กครอง ผู้ปกครอง 30 มสี ว่ นรว่ มใน วา่ กลา่ ว 10 ทากิจกรรม 15 ทาทัณฑบ์ น 20 เชญิ การกระทาผิด ตักเตอื น ผู้ปกครอง หมวด 4 การ รักษาความ สะอาด 31 กอ่ ใหเ้ กิดความ ทากิจกรรม - ทากิจกรรม 5 ทากจิ กรรม 10 เชิญ สกปรกใน ผู้ปกครอง บรเิ วณ โรงเรยี น 32 เขียนข้อเขยี น ทากิจกรรม 10 ทากิจกรรม 15 ทากจิ กรรม 20 เชิญ ขอ้ ความบน ผปู้ กครอง โต๊ะ เกา้ อ ฝา ผนงั หรือ สิ่งกอ่ สรา้ ง 70
ระเบียบโรงเรยี นกะเปอรว์ ิทยา 14 กรกฎาคม 2564 ท่ี ประเภท ครั้งท่ี 1 ครัง้ ที่ 2 ครั้งท่ี 3, 4, 5 หมายเหตุ ความผิด ระดับการ คะแนน ระดบั การ คะแนน ระดบั การ คะแนน ลงโทษ ท่ีตัด ลงโทษ ท่ตี ดั ลงโทษ ทีต่ ัด 33 นาอาหารหรือ วา่ กล่าว 5 ทากิจกรรม 10 ทาทณั ฑบ์ น 15 เชญิ ของขบเคียว ตักเตอื น ผู้ปกครอง ทุกประเภทมา ขายในโรงเรียน โดยมิไดร้ บั อนญุ าต หมวด5 เบด็ เตลด็ 34 ไม่ร่วมกิจกรรม วา่ กลา่ ว 10 ทากจิ กรรม 15 ทาทัณฑบ์ น 20 เชญิ ตา่ ง ๆ ท่ี ตกั เตอื น ผู้ปกครอง โรงเรียนจดั ขึ้น 35 ออกนอก วา่ กล่าว 10 ทากิจกรรม 15 ทาทัณฑบ์ น 20 เชิญ บริเวณ ตกั เตือน ผปู้ กครอง โรงเรยี นโดย ไม่ไดร้ ับ อนุญาต ไม่เขา้ ออกโรงเรยี น ตามที่โรงเรยี น กาหนด 36 พกพา วา่ กลา่ ว 10 ทาทัณฑบ์ น 15 ทาทัณฑบ์ น 20 เชญิ โทรศพั ทม์ ือถอื ตักเตอื น ผูป้ กครอง มาโรงเรียน หรอื โพสต์สิง่ ที่ ไม่สมควร 37 นาสอื่ หรือ ว่ากล่าว 10 ทากิจกรรม 20 ทาทัณฑบ์ น 30 เชิญ หนงั สอื ลามก ตกั เตอื น ผปู้ กครอง อนาจารมา โรงเรยี นหรอื มี ไวใ้ น ครอบครอง 38 ผปู้ กครองไม่ วา่ กลา่ ว 10 เชิญเป็น 20 หยดุ เรียน 30 มาพบตามที่ ตักเตือน คร้งั ที่ 2 จนกวา่ กาหนด ผ้ปู กครอง จะมา ประชมุ 39 พกพาอาวธุ ที่ ทาทณั ฑ์ 50 เปลย่ี นสถานศกึ ษา / เชิญผ้ปู กครองมาพบ เป็นอนั ตราย บน รา้ ยแรงมา โรงเรียน 71
ระเบยี บโรงเรียนกะเปอรว์ ทิ ยา 14 กรกฎาคม 2564 ท่ี ประเภท ครัง้ ท่ี 1 ครงั้ ที่ 2 ครัง้ ที่ 3, 4, 5 หมายเหตุ ความผดิ ระดบั การ คะแนน ระดับการ คะแนน ระดบั การ คะแนน 40 ทาลาย ลงโทษ ท่ีตดั ลงโทษ ท่ตี ัด ลงโทษ ที่ตัด เกียรตยิ ศ ช่อื เสียง เปลยี่ นสถานศึกษา / เชญิ ผปู้ กครองมาพบ วางแผนทา รา้ ยร่างกาย เปล่ยี นสถานศกึ ษา / เชิญผู้ปกครองมาพบ ครู อาจารย์ เปลย่ี นสถานศึกษา / เชญิ ผปู้ กครองมาพบ 41 จาหน่ายสาร ไมร่ ้ายแรง ให้อยูใ่ นดุลยพนิ จิ ของงานสง่ เสริมแกไ้ ขพฤตกิ รรมนักเรียน รา้ ยแรง ใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของหวั หน้าสถานศกึ ษา เสพติดให้โ ทษ รา้ ยแรง 42 ประพฤติชั่ว หรอื ทาความ เสอื่ มเสยี ใหแ้ ก่ โรงเรียน 43 ความผิดอืน่ นอกเหนอื ท่ี ระบุ ไว้ใหใช้ ดลุ ยพินจิ เกณฑก์ ารลงโทษหลังจากการถกู หักคะแนน 1. นกั เรยี นทถ่ี ูกหักคะแนน 80 คะแนน เชญิ ผปู้ กครองมารบั ทราบ 2. นักเรียนทีถี่ ูกหกั คะแนน 100 คะแนน ทาทณั ฑบ์ น และซ่อมกิจกรรมเป็นรายช่ัวโมง 3. นกั เรียนทีม่ี ีคะแนนความประพฤติต่ากว่า 80 ทางฝ่ายกิจการนกั เรยี นจะไมอ่ อกใบรบั รองความ ประพฤติใหโ้ ดยเด็ดขาด 4. นักเรยี นทีมี่ ีคะแนนความประพฤติ ตา่ กว่า 80 ถือว่าไม่จบหลักสูตร เน่ืองจากไมผ่ ่านคุณลักษณะอัน พึงประสงค์จะตอ้ งเข้ารบั การอบรมแกไ้ ขพฤตกิ รรมเป็นรายช่วั โมง นักเรียนท่ีมคี วามประพฤตดิ ีประกอบ คุณงานความดีสรา้ งคุณประโยชน์ใหก้ บั โรงเรียนและชุมชน ประเทศชาตใิ หเ้ พ่มิ คะแนนความประพฤติ ดงั น้ี 72
ระเบยี บโรงเรียนกะเปอรว์ ทิ ยา 14 กรกฎาคม 2564 บันทกึ คะแนนความพฤตกิ รรม ชื่อ.........................................นามสกุล.........................................เลขประจาตัว................. ครง้ั เร่ือง คะแนนทถ่ี กู คะแนน หมายเหตุ ที่ ตัด คงเหลอื ท้ังส้นิ 73
ระเบยี บโรงเรยี นกะเปอร์วิทยา 14 กรกฎาคม 2564 ตาราง 2 ตารางแสดงประเภทความดีและเกณฑก์ ารเพมิ่ คะแนนความดี ตามระเบียบโรงเรยี นกะเปอรว์ ทิ ยาวา่ ดว้ ยคะแนนความประพฤตนิ ักเรียน พ.ศ. 2564 ลาดับท่ี กิจกรรมหรือพฤตกิ รรมความดหี รือคุณประโยชน์ จานวนคะแนน หมายเหตุ ที่ถูกเพ่ิม/ครงั้ 1 เก็บทรัพย์สินหรือสิง่ ของนามาแจง้ ต่อโรงเรยี น 2 รว่ มกจิ กรรมต่าง ๆ ของทางโรงเรียนผลงานเปน็ ทปี่ ระจักษ์ 10 3 เปน็ ตวั แทนของโรงเรียนไปรว่ มอบรมสมั มนาได้รับคัดเลือก 20 เป็นนกั เรยี นดเี ด่นของโรงเรยี นหรือหนว่ ยงานอ่นื 4 แจ้งเหตุกระทาผดิ ชว่ ยเหลอื การสบื หาผูก้ ระทาผดิ 40 5 ทากิจกรรมพัฒนาส่งิ แวดล้อมในโรงเรยี น 6 รว่ มกิจกรรมแข่งขันดา้ นกฬี า ด้านวิชาการและอืน่ ๆ ในระดับ 10 10 โรงเรียนจนได้รบั รางวลั -รางวัลที่ 1 30 -รางวลั ที่ 2 20 -รางวัลที่ 3 15 7 รว่ มกจิ กรรมแขง่ ขนั ด้านกีฬา ดา้ นวิชาการและอื่น ๆ ในระดบั 40 ศูนย์เครือขา่ ย โรงเรยี น เขตพนื้ ท่ีการศึกษาจนได้รับรางวลั 30 -รางวัลท่ี 1 20 -รางวลั ที่ 2 -รางวลั ท่ี 3 80 60 8 ร่วมกิจกรรมแข่งขนั ด้านกีฬา ด้านวิชาการและอนื่ ๆ ในระดับ 50 ดลุ พนิ จิ ครู จังหวัด ประเทศ จนได้รับรางวัล -รางวลั ท่ี 1 40 -รางวัลที่ 2 -รางวลั ที่ 3 9 กระทากิจกรรมหรือความดอี ่ืน ๆ คะแนนตามความเหมาะสม 10 ทากจิ กรรมรวมกับชุมชนทมี่ ลี ายลกั ษณอ์ กั ษรชัดเจน หมายเหตุ นกั เรียนที่ทาคณุ งามความดีทเ่ี ป็นประโยชน์อนื่ ๆ นอกจากตารางท่ีกาหนดให้ ใหค้ รทู ุก คนรบั รอง โดยการให้เขียนรับรองกิจกรรมท่ที านาส่งฝ่ายกิจการนกั เรยี น เพือ่ เพมิ่ คะแนนความ ประพฤติ 74
ระเบยี บโรงเรียนกะเปอรว์ ทิ ยา 14 กรกฎาคม 2564 ระเบียบโรงเรยี นกะเปอรว์ ิทยา สานักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษา มัธยมศกึ ษาพังงา ภเู ก็ต ระนอง วา่ ดว้ ย การควบคุมความประพฤตินักเรยี นโรงเรยี นกะเปอร์วิทยา พ.ศ. 2564 …………………………………………………….. หมวดท่ี 1 บททัว่ ไป ขอ้ 1 ระเบียบนี้เรยี กว่า “ระเบียบการควบคุมความประพฤตินักเรยี นโรงเรยี นกะเปอร์วิทยา พ.ศ. 2564” ขอ้ 2 ระเบียบนใ้ี ห้ใชบ้ งั คบั ต้งั แต่ออกประกาศฉบบั น้เี ปน็ ตน้ ไป ขอ้ 3 ในระเบียบน้ี 3.1 นกั เรียน หมายถงึ นกั เรียนทกุ คนของโรงเรยี นกะเปอรว์ ิทยา 3.2 ครู – บคุ ลากรทางการศกึ ษา หมายถึง ครู – บคุ ลากรทางการศกึ ษาทกุ คนของโรงเรียน กะเปอรว์ ทิ ยา 3.3 คณะกรรมการงานกจิ การนักเรยี น หมายถึง หวั หนา้ งานกิจการนกั เรียน หวั หน้าระดบั ช้ัน รองหวั หนา้ ระดบั ชนั้ ครูทป่ี รึกษาและผู้ทไี่ ด้รับคาสงั่ แตง่ ตัง้ จากทางโรงเรยี น หมวดที่ 2 ประเภทกระทาความผดิ และระดบั โทษ ขอ้ 4 โทษสาหรบั นักเรยี นท่กี ระทาผดิ ตอ่ ระเบยี บโรงเรยี นกะเปอร์วิทยา มดี ังน้ี 4.1 ว่ากล่าวตักเตือน 4.2 ทากิจกรรม 4.3 ทาทัณฑบ์ น 4.4 ตัดคะแนนความประพฤติ 4.5 ส่ังพกั การเรยี น 4.6 ให้ย้ายโรงเรียน ข้อ 5 ประเภทการกระทาผิดและระเบียบการพจิ ารณากาหนดโทษนักเรียนลกั ษณะความผดิ ต่อไปนี้ นักเรยี นตอ้ งงดเวน้ กระทา เพราะถือว่าเป็นการขดั ตอ่ ระเบียบวนิ ยั ของโรงเรยี นโดยแบง่ ลกั ษณะความผิดและ กาหนดโทษนักเรยี นไว้ 3 ระดับ คอื 1. ความผิดสถานเบา ไดแ้ ก่ ความผิดทีแ่ี สดงถึงการมอี ุปนิสัยไม่ดี เชน่ - ในกระเป๋าไม่มสี มดุ หนงั สือตามตารางสอน - หลีกเล่ียงการเรียนตามตารางสอน - มาโรงเรียนสายโดยไมม่ เี หตผุ ลสมควร - แต่งกายผิดระเบียบการแตง่ กายของโรงเรยี น - ขัดคาส่งั ครู ในเรือ่ งเกย่ี วกับการเรยี น 75
ระเบยี บโรงเรยี นกะเปอรว์ ิทยา 14 กรกฎาคม 2564 - ไว้เล็บ ยาวเกนิ สมควรและเคลอื บเล็บ - แสดงกิรยิ า วาจา หยาบคาย - ไม่ให้ความร่วมมอื กับหมู่คณะหรอื ส่วนรวม - รบั ประทานอาหารก่อนเวลาท่ีโรงเรียนกาหนด - หลกี เล่ยี งการเขา้ แถวตอนเชา้ - ไม่รักษาความสงบเรยี บรอ้ ยในท่ีประชมุ - ไมช่ ว่ ยกนั ดแู ลรักษาทรพั ยส์ มบตั ขิ องสว่ นรวม - ใส่ชุดนักเรยี นเดินเทย่ี วตลาดสด - ออกนอกบรเิ วณโรงเรยี นโดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาตจากฝ่ายกจิ การนักเรียน - ออกนอกบรเิ วณโรงเรยี นก่อนเวลาเลกิ เรยี น - เขา้ ไปน่งั รบั ประทานอาหารและนัง่ เล่นบรเิ วณสวนปาลม์ - รบั ประทานอาหารบนอาคารเรียน การพิจารณากาหนดโทษนักเรียนสาหรับความผิดสถานเบา วา่ กลา่ วตักเตอื น ทากิจกรรมบันทกึ เปน็ ลายลกั ษณ์อักษรในแฟม้ ประวตั ิแจง้ ใหผ้ ปู้ กครองทราบเมอ่ื ไดก้ ระทาความผดิ ซ้าอกี 2. ความผดิ สถานกลาง ไดแ้ ก่ ความทอ่ี าจทาให้เกดิ ความเสยี หายแกส่ ว่ นรวมแต่ไม่รา้ ยแรงหรอื ความผิดที่อาจเปน็ สาเหตุใหเ้ กิดความผดิ ขัน้ รา้ ยแรงต่อไปได้ เช่น - เที่ยวกลางคืน ตลอดจนอยู่นอกบ้านในยามวิกาล ยกเว้นกรณีพิเศษตามความจาเป็นหรือ ได้รับมอบหมายจากผปู้ กครอง - ประพฤติปฏบิ ัติในทางชสู้ าว แตไ่ มถ่ งึ ขนั้ รา้ ยแรง - ประพฤติตนไม่สุภาพเรยี บรอ้ ยต่อสาธารณชน - แต่งกายฝา่ ฝนื ระเบียบท้ังในและนอกโรงเรยี น - แจง้ ความเทจ็ หรือปลอมแปลงลายเซน็ ผู้ปกครองทาใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจผิดหรือทาใหเ้ กดิ ความเสียหายตอ่ สว่ นรวมและทางโรงเรยี น(เชญิ ผปู้ กครองมารับทราบทันทีและทาสญั ญาต่อฝา่ ยกิจการ นักเรียน) - หนโี รงเรยี น ออกนอกบริเวณโรงเรียนโดยไมอ่ ยู่ร่วมกจิ กรรมตา่ ง ๆ ทโี่ รงเรียนกาหนดนัด หมาย หรอื ออกจากบ้านมาแล้วไม่ถงึ โรงเรียน - แสดงกิริยาไม่คารวะตอ่ ครู หรือผู้ท่คี วรใหก้ ารเคารพ แต่ไมถ่ ึงขนั้ รา้ ยแรง - ทาลายทรัพยส์ ินของบุคคลอน่ื - แสดงกริ ยิ าท่ไี ม่ดตี ่อผปู้ กครอง และผทู้ ีค่ วรใหก้ ารเคารพ - ห้ามเขียนคิ้ว แตง่ หน้า โดยเหตไุ ม่อันควร - สิง่ ของทีอ่ ยู่ในกระเปา๋ นักเรียนจะต้องเฉพาะสมดุ และสื่ออปุ กรณ์การเรียนเทา่ น้นั การพจิ ารณาระดบั โทษสาหรบั ความผดิ สถานกลาง โรงเรยี นอาจพจิ ารณาโทษทาทัณฑบ์ นหรือสงั่ พกั การเรยี นในกรณีท่ีนกั เรยี นผู้กระทาผดิ ซ้าอกี โดยไม่เขด็ หลาบ 3. ความผดิ สถานหนกั ความผดิ ท้งั หลายทีน่ าความเสือ่ มเสียมาสู่ตัวนักเรยี น กฎหมายต่าง ๆ และ กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 1 พุทธศักราช 2515 ของคณะปฏวิ ัติ ฉบับ ท่ี ร.จ. (128-132) ท่ีเกยี่ วกับนกั เรยี น หรือ ระเบียบ คาสง่ั ตา่ ง ๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ เชน่ วา่ ดว้ ยการแตง่ กายนกั เรยี น พุทธศักราช 2514 วา่ ด้วย การเคารพของนักเรยี น นักศกึ ษา พุทธศักราช 2530 วา่ ดว้ ยการส่งเสริมและค้มุ ครองสทิ ธเิ ด็กและเยาวชนโดย สถานศึกษา พ.ศ. 2543 พระราชบัญญตั ิคุม้ ครองเด็ก พุทธศักราช 2546 เก่ียวกับความประพฤตนิ ักเรยี น นกั ศกึ ษา วา่ ดว้ ยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พุทธศักราช 2548 และกาหนดความประพฤตขิ องนักเรยี น และนกั ศึกษา พุทธศกั ราช 2548 ได้แก่ 76
ระเบียบโรงเรยี นกะเปอรว์ ทิ ยา 14 กรกฎาคม 2564 - เลน่ การพนนั - ลักทรพั ย์ - ประพฤติตนในทางช้สู าวขน้ั ร้ายแรง - ทารา้ ยร่างกาย ทะเลาะวิวาทกัน ภายในและนอกโรงเรียน - นาอาวธุ เข้ามาในโรงเรียน - เสพสรุ า สิ่งเสพติดใหโ้ ทษ และสารระเหยทุกชนดิ - คบค้าสมาคมกับคนชั่วหรือเข้าไปในสถานท่ีที่ไม่ควรสาหรับนักเรียน เช่น สถานเริงรมย์ ตา่ ง ๆ - ทาลายทรัพยส์ ินอันเป็นประโยชน์ของสว่ นรวม - ประพฤตติ นเป็นอันธพาล - แสดงกริ ิยาลบหลู่และก้าวร้าวเพือ่ น และครู รวมทงั้ บิดา มารดาหรอื ญาตมิ ิตร - ฝา่ ฝืนคาส่ังของโรงเรียนเก่ยี วกับระเบยี บวนิ ัย - ชสู้ าว (กรณีอยู่รว่ มกัน ฉันท์สามภี รรยา) - กระทาความผิดอื่น ๆ ที่มีลักษณะไม่สมควรท่ีนักเรียนจะพึงปฏิบัติและมีผลเสียหายอย่าง รา้ ยแรงต่อสงั คมและส่วนรวม - คา้ ขายสารเสพตดิ หรอื เสพสารเสพติดในสถานศกึ ษา - ชกั นาบุคคลอน่ื เขา้ มาทาลายทรพั ย์สนิ ของทางราชการ การพิจารณากาหนดโทษของนักเรียน สาหรับความผิดสถานหนัก โรงเรียนอาจพิจารณาส่ังพักการ เรียนหรือให้ย้าย หรืออ่ืนใดท่ีเห็นสมควรของหัวหน้าสถานศึกษา และหัวหน้างานกิจการนักเรียน ประจาปี การศกึ ษา 2564 วิธีการลงโทษนักเรียนผู้กระทาความผิด ให้ดาเนินการลงโทษนักเรียนผู้กระทาความผิดตามระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พุทธศักราช 2548 หรือตามคณะปฏิวัติฉบับที่ ร.จ. (128 – 132) ท่ีเกี่ยวกบั นักเรียน 6. ให้ผู้อานวยการโรงเรยี นโดยมอบหมายใหร้ องผ้อู านวยการหรือหวั หน้ากลุ่มงานกิจการนักเรียนหรือ ขา้ ราชการครูคนใดคนหนึ่ง รักษาการให้เป็นไปตามระเบียบน้ีและให้มีอานาจวินิจฉัยปัญหา อันเก่ียวกับความ ประพฤตนิ ักเรยี นตามทก่ี าหนดไว้ในระเบยี บน้ี ท้งั น้ใี หย้ กเลกิ ระเบยี บการควบคมุ ความประพฤตนิ กั เรยี นโรงเรยี นกะเปอร์วิทยา พ.ศ. 2562 ลงวนั ท่ี 10 มิถุนายน พ.ศ. 2563 ต้ังแตว่ ันท่ีประกาศใชร้ ะเบียบฉบับน้เี ป็นตน้ ไป ประกาศ ณ วันท่ี 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ( ดร.สรุ ียร์ ตั น์ พัฒนเธยี ร ) ผู้อานวยการโรงเรยี นกะเปอร์วิทยา 77
คู่มือโรงเรียนกะเปอร์วทิ ยา 78
คู่มือโรงเรียนกะเปอร์วทิ ยา 79
คู่มือโรงเรียนกะเปอร์วทิ ยา 80
คู่มือโรงเรียนกะเปอร์วทิ ยา 81
คู่มือโรงเรียนกะเปอร์วทิ ยา 82
คู่มือโรงเรียนกะเปอร์วทิ ยา 83
Search