สิ งหาคม 2563 พฤติ กรรมผู้ นํา LEADER BEHAVIOR นายศรี สุ วรรณ เปาะทอง วิ ทยาลั ยเทคโโลยี ภาคใต้
คำนำ บทความ เร่อื ง การศึกษาพฤติกรรมความเป็นผูน้ ำของผู้บริหารสถานศกึ ษาท่ีมผี ลต่อประสิทธภิ าพการ บริหารสถานศึกษา ไดจ้ ัดทำขน้ึ เพอ่ื นำเสนอผลการศกึ ษางานวิจยั ทเ่ี ก่ยี วข้องกบั พฤตกิ รรมผู้นำ (Leader Behavior) ซงึ่ มที ง้ั งานวจิ ัยในประเทศและตา่ งประเทศ และจดั ทำเป็นบทความสรปุ องคค์ วามรทู้ ่เี กดิ ข้นึ จาก การศึกษา คณุ ค่าและประโยชน์จากการอา่ นบทความฉบบั นี้ คณะผู้จัดทำขอมอบแดส่ ถานศกึ ษาทุกแหง่ ผ้บู ริหาร สถานศึกษา และผทู้ ่ีทีส่ นใจเก่ียวกบั พฤตกิ รรมความเปน็ ผนู้ ำของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาที่มผี ลตอ่ ประสิทธิภาพการ บรหิ ารสถานศกึ ษา หวังเป็นอย่างยิง่ ว่าบทความฉบบั นจี้ ักเป็นประโยชนแ์ กท่ กุ คนทส่ี นใจ นายศรสี ุวรรณ เปาทอง 27 สงิ หาคม 2563
สารบัญ 1 คำนำ 1 สารบัญ กลา่ วนำ 2 งานวจิ ยั ท่ีศึกษา 3 1. ศึกษาพฤตกิ รรมผนู้ ำของผู้อำนวยการสถานศกึ ษาตามความต้องการของครู 4 อำเภอนาทวี สังกัดสำนกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาสงขลา เขต 3 2. พฤติกรรมภาวะผนู้ ำของผู้บริหารสถานศกึ ษาข้นั พน้ื ฐานในสังกดั สำนักงานเขต 5 พ้นื ท่ีการศกึ ษา ประถมศึกษาเชยี งราย เขต 3 6 3. พฤตกิ รรมผนู้ ำของผ้บู ริหารทสี่ ่งผลตอ่ ความสำเรจ็ ในการบริหาร จัดการ 7 สถานศกึ ษา สงั กดั สำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา ประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 8 4. พฤตกิ รรมผู้นำของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษากับความผกู พนั ตอ่ องค์การของครู สงั กัด 9 สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาสมทุ รสงคราม 5. การศึกษาพฤติกรรมผนู้ ำของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา ตามความต้องการของครู 10 สงั กดั สำนกั งานเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 11 6. How Leadership Behaviors Affect Organizational Performance in 12 19 Pakistan 20 7. Leadership Behavior in High- Performing Government Boys Secondary Schools in Quetta: A Grounded Theory Analysis 8. School Effectiveness In Relation to Leadership Behaviour 9. Effects of School Principals’ Leadership Behaviors: A Comparison between Taiwan and Japan 10. Effectiveness of School Administrators’ Leadership Skills and Behaviors and their School Performance in Area III Leyte Division, Philippines 11. การศึกษาพฤตกิ รรมความเปน็ ผนู้ ำของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษาทม่ี ีผลต่อ ประสิทธิภาพการบรหิ ารสถานศึกษา วรรณกรรมท่ีเก่ยี วข้อง สรุปผลการศึกษา บรรณานุกรม
ศึกษาพฤติกรรมผนู้ ำของผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษาตามความตอ้ งการของครู อำเภอนาทวี สงั กัดสำนกั งานเขต พนื้ ที่การศกึ ษาสงขลา เขต 3 สำราญ แสงจันทร์ : 2561 แนวคดิ ในการจดั การศกึ ษา คอื การให้ชมุ ชนและท้องถ่ินและทกุ สว่ นของสังคมไดเ้ ข้ามีสว่ นรว่ มในการจดั การศกึ ษาอยา่ งแทจ้ ริง ผูอ้ ำนวยการสถานศึกษาระดบั ขั้นพ้นื ฐานมบี ทบาทสำคญั ตอ่ การดำเนินงานทางการศกึ ษา เป็นอยา่ งย่ิงต่อหน่วยงาน ต่อผู้ใต้บงั คับบญั ชา และตอ่ ผลงานอนั เป็นส่วนรวม คุณภาพและบทบาของ ผู้อำนวยการสถานศึกษา มีความสมั พนั ธ์อยา่ งใกลช้ ิดกับคุณภาพของสถานศกึ ษา สมรรถนะของผูอ้ ำนวยการ สถานศกึ ษาเปน็ ดชั นชี ี้บ่งความสำเรจ็ ของการบรหิ าร การท่ผี ูอ้ ำนวยการมีความเขา้ ใจบทบาทหนา้ ทขี่ องการ บริหารสถานศกึ ษาจะเป็นสงิ่ ทช่ี ่วยใหก้ ารศึกษาสำเรจ็ ลุล่วงไปดว้ ยดี พฤติกรรมผู้นำ (Leader Behavior) หมายถงึ การประพฤติ การปฏบิ ตั ขิ องผบู้ รหิ ารท่ีแสดงออก สามารถในการนำกลมุ่ เพ่ือดำเนนิ กิจกรรมตา่ ง ๆ ไปสเู่ ปา้ หมายทก่ี ำหนด แนะนำ บอกกล่าว ให้ ผู้ใต้บงั คบั บญั ชาเขา้ ใจในบทบาท หน้าท่ี รว่ มมอื ร่วมใจกนั ทำงาน หาทางแก้ปัญหารวมทง้ั การบำรุงขวญั และ สร้างกำลงั ใจให้แก่กล่มุ ซ่งึ แบง่ พฤติกรรมผู้นำออกเป็นสองมิติ คือ ผู้นำมิติมุ่งงาน และผนู้ ำมิติสัมพนั ธ์ 1. ผนู้ ำมติ ิมุ่งสัมพันธ์ (Consideration) หมายถงึ การประพฤติ การปฏิบัตขิ องผบู้ รหิ ารทแ่ี สดงออกต่อ ผูใ้ ต้บงั คบั บัญชา โดยท่ีผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษาให้ความสำคญั กับคน พฤติกรรมผู้นำจะแสดงให้เหน็ ถงึ ความเปน็ มติ ร ความไว้วางใจระหว่างกัน การยอมรับนบั ถือ เกิดความอบอนุ่ ในความสมั พันธ์ระหวา่ งผอู้ ำนวยการกับ ผรู้ ว่ มงาน 2. ผู้นำมติ มิ ่งุ งาน (Initiating Structure) หมายถึง การประพฤติ การปฏบิ ัตขิ องผ้บู ริหารทแ่ี สดงออก ตอ่ ผใู้ ต้บงั คบั บญั ชา โดยที่ผู้อำนวยการให้ความสำคญั กบั งาน พฤตกิ รรมผู้นำ มิตนิ จ้ี ะมคี วามหา่ งเหนิ ความสัมพนั ธ์ระหว่างตวั ผอู้ ำนวยการเองกบั ผู้ใตบ้ งั คบั บญั ชาโดยทผี่ อู้ ำนวยการจะพยายามกำหนดระเบียบ วธิ ีการ ปฏบิ ัติงาน ช่องทางการติดตอ่ สื่อสารและโครงสรา้ งของสงั คมไวเ้ ปน็ อย่างดี การพฒั นาส่ผู ู้บริหารระดบั สงู ประกอบดว้ ยสมรรถนะหลัก 5 ดา้ น คอื ศักยภาพในการเปลยี่ นแปลง (Leading Change) ศกั ยภาพในการเป็นผู้นำ (Leading People Driven) การมุ่งผลสัมฤทธ์ิ (Results Driven) ความเฉยี บคมทางการบริหาร (Business Acumen) และการสรา้ งความเข้าใจ / การติดต่อสื่อสาร (Building Coalitions/Communication) ผ้นู ำจะต้องใช้ทกั ษะในการเป็นผู้นำ การปกครอง การบงั คบั บญั ชา ทกั ษะการบำรงุ ขวญั ทักษะในการสรา้ งมนุษยสัมพนั ธ์ ตลอดจนใชห้ ลักจิตวทิ ยาในการทำงานของมนษุ ย์ให้ เหมาะสมกับบุคคล ประเภทของงาน เพราะหน่วยงานแตล่ ะหนว่ ยยอ่ มมีความแตกตา่ งกนั สรุปผลจากงานวจิ ยั พฤติกรรมผนู้ ำมิตมิ ่งุ งานและมิตมิ งุ่ สัมพันธ์มีผลต่อการใหบ้ รกิ ารสาธารณะ และ ความสามารถในการกระตุ้นให้บคุ ลากรในองคก์ ารไดใ้ ชศ้ กั ยภาพทด่ี ี ทำงานใหเ้ กดิ ผลสูงสุด ส่วนพฤตกิ รรมผูน้ ำ ของผู้อำนวยการสถานศกึ ษา ไม่สง่ ผลตอ่ ความต้องการของครู เนอ่ื งจากผบู้ ริหารอาศยั ภาวะผู้นำ และ ความสามารถในการบริหารจดั การ และมีการพฒั นาตนเองอย่างตอ่ เนอื่ ง หรืออาจเป็นเพราะวุฒกิ ารศึกษาของ ผู้บริหารสถานศึกษา คอื มวี ฒุ ปิ รญิ ญาโท และปรญิ ญาตรี และทีส่ ำคญั และจำเปน็ ตอ่ ผ้นู ำท่ีประสบความสำเรจ็ ในศตวรรษที่ 21 คือ ความสามารถในการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง (Self-Learning) หรอื การเรยี นร้วู ธิ กี ารแสวงหา ความรู้ (Learning how to learn) ซ่ึงเป็นความสามารถในการวเิ คราะห์ ตรวจสอบกระบวนการคดิ ของ ตนเอง พรอ้ มท้ังหาทางปรับปรงุ ใหด้ ขี ้ึน
พฤตกิ รรมภาวะผู้นำของผู้บรหิ ารสถานศึกษาขัน้ พื้นฐานในสังกัดสำนกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษา ประถมศกึ ษา เชียงราย เขต 3 สายฝน อกแผ่, วีรพันธ์ุ ศิรฤิ ทธิ์, และจินตนา จนั ทร์เจริญ : 2557 สถานศกึ ษาเป็นสถานท่ีทส่ี ำคญั ในการพัฒนาคนให้เปน็ คนดี มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม ผู้บริหารสถานศกึ ษา ในฐานะทเ่ี ปน็ ผู้นำขององค์การ เป็นผูท้ ี่มบี ทบาทในการพฒั นาคณุ ภาพของคนในองคก์ าร ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษาจงึ ตอ้ งเป็นผ้ทู ่ีมภี าวะผ้นู ำการเปลยี่ นแปลง มวี สิ ยั ทศั น์การทำงานทชี่ ัดเจนคิดกลยุทธเ์ ชิงรุก (proactive) เปน็ ผู้นำ การเปลยี่ นแปลง (change leader) ทม่ี ีประสิทธิภาพและประสทิ ธิผล สามารถกำหนดทศิ ทางการเปลี่ยนแปลงได้ อยา่ งชัดเจน มีความมงุ่ มั่นตอ่ การสรา้ งภาพใหม่ขององคก์ าร รวมท้ังเปน็ ผสู้ ่งเสริม การเปลย่ี นแปลง (change sponsor) ซึ่งจะชว่ ยให้เกิดการตดั สินใจ การแก้ปญั หา การสนับสนุนที่เหมาะสม เพอ่ื ใหก้ ารเปลยี่ นแปลงดำเนนิ ไป อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ส่อื สารให้บุคคลในองคก์ รเขา้ ใจ และตระหนักถึงความสำคญั และความจำเปน็ ของการ เปลีย่ นแปลง พฤติกรรมภาวะผนู้ ำ หมายถงึ การแสดงออก ถงึ ความสามารถในการนำกลมุ่ ผรู้ ่วมงานเพ่ือดำเนนิ กจิ กรรมไปสเู่ ปา้ หมายทก่ี ำหนด ซงึ่ ในงานวจิ ยั ไดก้ ำหนดพฤตกิ รรมภาวะผ้นู ำของผู้บรหิ ารสถานศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน ไว้ 2 ดา้ น คอื 1) ผ้นู ำแบบมติ มิ ุ่งงาน (Initiating Structure) และ 2) ผนู้ ำแบบมิตมิ ุ่งสมั พันธ์ (Consideration) 1. พฤติกรรมภาวะผ้นู ำแบบมิตมิ ่งุ งาน (Initiating Structure) หมายถึง การแสดงออกทเ่ี กีย่ วกับ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผนู้ ำกบั ผรู้ ว่ มงานในลกั ษณะทเ่ี นน้ ความเขา้ ใจในการดำเนนิ งานตามระเบยี บแบบแผน การ สอื่ ความหมายทเ่ี ปน็ ระบบ และวธิ กี ารดำเนนิ งาน ตามข้ันตอนท่กี ำหนด 2. พฤติกรรมภาวะผู้นำแบบมิตมิ ุ่งสมั พันธ์ (Consideration) หมายถึง การแสดงออกทเ่ี ก่ียวกบั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผนู้ ำกบั ผู้ร่วมงาน ในลักษณะความเป็นมิตรทด่ี ี ความไวว้ างใจ ความสนใจ และ ความเอาใจ ใสต่ ่อความเปน็ อยู่ ความเคารพนบั ถือ และ ความสนิทสนมซ่ึงกันและกนั สรุปผลจากงานวิจยั ผู้นำแบบมติ มิ งุ่ สมั พันธ์ เป็นพฤตกิ รรมท่มี งุ่ เนน้ ผู้นำใหก้ ารสนบั สนุนและมี พฤติกรรมทเี่ ป็นมติ ร ทผ่ี ใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาสามารถเขา้ ถึงไดง้ ่ายเปน็ ผู้นำ ท่ใี ส่ใจในสวสั ดกิ ารความเป็นอยู่และความ ต้องการ ในฐานะความเป็นมนุษย์ของผ้อู ยใู่ ตบ้ งั คบั บัญชา ผนู้ ำจะแสดงพฤติกรรมใหก้ ารสนับสนุนในการสร้าง บรรยากาศทีด่ ขี องการทำงาน รวมท้ังใหก้ ารปฏิบัตอิ ยา่ งเสมอภาค และใหก้ ารนบั ถือตอ่ ศักดศ์ิ รีของ ผใู้ ตบ้ ังคบั บญั ชา ส่วนพฤติกรรมมุ่งงานจะเปน็ พฤตกิ รรมของผู้นำ ท่ปี ฏบิ ัตติ อ่ ผู้ใตบ้ ังคบั บญั ชา ต้องการใช้คำสง่ั เกยี่ วกับการทำงาน รวมทัง้ แจ้งความคาดหวงั ใหท้ ราบ บอกถึงวิธีการทำงาน ตลอดจนเวลาทำงานเสร็จใหผ้ ู้อย่ใู ต้ บงั คับบัญชาทราบ ผนู้ ำแบบน้ีจะกำหนดมาตรฐานของการทำงาน พรอ้ มกบั กฎระเบียบตา่ ง ๆ ทชี่ ดั เจน ผนู้ ำองคก์ าร (Organization leader) ต้องแสดงภาวะความเป็นผ้นู ำในการจดั ระบบ และโครงสรา้ ง องคก์ าร เปน็ ผ้นู ำทางวัฒนธรรม (Cultural leader) ท่ีจะต้องให้มกี ารสำรวจและใหม้ กี ารเปล่ียนแปลงใน วัฒนธรรม ต้องมกี ารทำงานกับคณะกรรมการสถานศกึ ษาเปน็ ผ้นู ำทางการเรยี นการสอน (Instructional leader) โดยจะต้องเป็นผ้มู ีวิสยั ทศั นต์ ่อแนวโนม้ ในการเปลี่ยนแปลง และเปน็ ผนู้ ำด้านหลกั สตู ร การประเมนิ ผลนกั เรยี น การจดั โครงการสำหรบั เดก็ ทมี่ คี วามสามารถพเิ ศษ การประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านของครู และการวางแผนเพื่อ ความกา้ วหน้าในวชิ าชีพของครู ใหค้ วามสนใจเกีย่ วกับระเบยี บ ขอ้ บังคับ หรือ แนวปฏบิ ตั ิ การบำรงุ รักษาเพอ่ื ความปลอดภัย และความเป็นระเบยี บเรียบรอ้ ยของสภาพแวดลอ้ มสถานศกึ ษา ตลอดจนการจัดการทรพั ยากรให้ เปน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ
พฤติกรรมผนู้ ำของผู้บรหิ ารทสี่ ง่ ผลตอ่ ความสำเรจ็ ในการบริหาร จดั การสถานศกึ ษา สังกัดสำนกั งานเขตพนื้ ท่ี การศกึ ษา ประถมศึกษาสรุ าษฎร์ธานี เขต 3 สลลิ รตั น์ ด้วงทองกุล, บรรจง เจรญิ สุข, และวรรณะ บรรจง : 2559 ความสำเรจ็ ในการทำงานน้นั ถอื ได้ว่าเปน็ สง่ิ ทป่ี รารถนาและเป้าหมายสงู สดุ ความสำเรจ็ ในวชิ าชพี ของ บุคคล ส่งผลตอ่ ความสำเร็จขององคก์ ร และความสำเรจ็ ของ องค์กรสง่ ผลต่อความสำเรจ็ ของประเทศชาติ ผบู้ รหิ ารจะตอ้ งเป็นผู้ทีม่ คี วามรู้ ความสามารถ และทักษะในการบรหิ ารงานที่ดี เพื่อทจ่ี ะนำสถานศึกษาไปสู่ จดุ หมายและบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ทต่ี งั้ ไว้ แตส่ ถานศึกษายังไมส่ ามารถปฏิบัตหิ นา้ ทีต่ ามบทบาทและอำนาจหน้าที่ได้ ตามเกณฑ์มาตรฐานและคณุ ภาพการศกึ ษาท่ีกำหนด โดยเฉพาะการใช้องค์ประกอบด้านตา่ ง ๆ ในการบรหิ ารงานท่ี สง่ ผลต่อความสำเร็จของความมปี ระสิทธผิ ลและคณุ ภาพของสถานศึกษา อันถือไดว้ า่ เป็นความสำเร็จของการ บริหารสถานศกึ ษา พฤตกิ รรมผู้นำของผู้บรหิ ารทดี่ ี ประกอบดว้ ย ด้านการเขา้ สังคมไดด้ ี ดา้ นการมีความคดิ ริเริ่ม ด้านการ ประสานงาน ด้านการรู้จกั ปรบั ปรงุ แกไ้ ข ด้านการโน้มนา้ วจติ ใจ ด้านการใหก้ ารยอมรับนบั ถอื และด้านการให้ ความชว่ ยเหลือ และ ปจั จัยด้านคณุ ลักษณะของผูบ้ รหิ ารจะส่งผลต่อความสำเร็จของการบริหารงานโรงเรยี น ได้แก่ ความสำเรจ็ ดา้ นการบรหิ ารงบประมาณ ดา้ นการบรหิ ารงานทว่ั ไป ด้านการบรหิ ารงานบคุ คล และดา้ นงาน วชิ าการ ซงึ่ ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษาจำเปน็ อยา่ งยงิ่ ท่จี ะตอ้ งใชภ้ าวะผู้นำ เพอ่ื ปรับเปลยี่ นพฤตกิ รรม รูจ้ ักใช้อำนาจที่ เหมาะสม ความสำเร็จของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาอย่ทู ี่การเรียนร้ฝู ึกฝนให้มที กั ษะการใช้ภาวะผู้นำในสถานการณ์ ตา่ ง ๆ มคี วามโอบออ้ มอารี กวา้ งขวาง ไมต่ ระหนถี่ ีเ่ หนยี ว มมี รรยาท เปน็ นักวชิ าการ สงา่ ผา่ เผย มีคุณธรรม จรยิ ธรรม มีความจำเป็นเลิศ และเปน็ ผู้ให้บรกิ าร สรปุ ผลจากงานวจิ ยั ผบู้ รหิ ารควรมคี วามรคู้ วามสามารถ ประพฤติตนเพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์แก่สว่ นรวม กระทำตนเปน็ แบบอย่างทดี่ ใี นการอุทิศเวลา เสียสละ มจี ติ สาธารณะ มคี วามชัดเจนในการปฏิบตั ิ มองการณไ์ กล และมงุ่ อนาคต มคี วามกระตอื รอื รน้ ม่งุ มั่นในการปฏิบตั งิ าน ตัดสนิ ใจโดยคำนงึ ถึงผลทตี่ ามมาทางดา้ นศลี ธรรม และจริยธรรม ให้เกียรติกับผู้ปฏิบตั ิงาน มกี ารกระจายอำนาจและความรบั ผิดชอบใหก้ บั ผ้รู ว่ มงาน รู้จักชกั จงู ผใู้ ตบ้ งั คบั บัญชาให้ทมุ่ เทการทำงาน กระตนุ้ ให้ครเู กดิ กำลังใจในการปฏิบัตงิ าน เปดิ โอกาสใหผ้ ู้ร่วมงานปฏบิ ตั ิงาน อย่างเต็มความสามารถ ผบู้ ริหารจะสามารถบรหิ ารสถานศึกษาใหป้ ระสบผลสำเร็จ จะต้องมปี ระสบการณใ์ นการบริหารงาน มี จริยธรรม มีความคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์ ซึ่งจะกอ่ ใหเ้ กิดการเปล่ยี นแปลงดีขึน้ ทัง้ ของสถานศกึ ษาและสังคม มี ความอดทน ขยันหม่ันเพยี ร มคี วามทะเยอทะยานในการปฏิบัตงิ าน มีความซอ่ื สตั ย์และความยุตธิ รรม มี ความสามารถในการสอ่ื สารใหเ้ พือ่ นรว่ มงานหรอื ผู้ใตบ้ งั คับบัญชาเขา้ ใจบทบาทของตนเอง และกระตุ้นใหเ้ กดิ ความมุ่งม่นั ปฏบิ ัตงิ านให้ลลุ ว่ ง
พฤติกรรมผ้นู ำของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษากบั ความผกู พนั ต่อองค์การของครู สงั กัดสำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษา ประถมศึกษาสมทุ รสงคราม นางสาวสุธาสินี เพชรกระจ่าง : 2559 การพฒั นาประเทศสคู่ วามสมดลุ และยงั่ ยืน จะตอ้ งให้ความสำคญั กับการเสริมสร้างทนุ ของประเทศทม่ี อี ยู่ ใหเ้ ขม้ แขง็ และมีพลงั เพียงพอในการขับเคลอ่ื นกระบวนการพฒั นาประเทศ โดยเฉพาะการพฒั นาคน หรอื ทุน มนษุ ยใ์ หเ้ ข้มแข็ง การศึกษาเปน็ กระบวนการพฒั นาคนใหเ้ ปน็ มนษุ ยท์ มี่ คี ณุ ภาพ มีความสามารถเต็มตาม ศกั ยภาพ มีการพฒั นาทสี่ มดุลทัง้ ดา้ นปญั ญา จิตใจ รา่ งกาย และสังคม ซงึ่ เปน็ ปัจจยั หลักของการพฒั นาทัง้ ปวง สถานศกึ ษาเปน็ องค์การในระดบั หนว่ ยปฏบิ ัตทิ มี่ บี ทบาทสำคญั ในการจัดการศกึ ษา โดยมีครเู ปน็ กลไกท่ี สำคัญยิ่งในการดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งเป็นภารกจิ สำคญั ของสถานศกึ ษาใหเ้ ป็นไปอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ผบู้ ริหารสถานศกึ ษาเปน็ อีกปัจจัยหน่งึ ทม่ี คี วามสำคัญไม่ยิง่ หยอ่ นไปกวา่ ครู เพราะเป็นเสมือนหวั เรือใหญ่ ในการขับเคลอื่ นสถานศกึ ษาไปส่จู ุดมงุ่ หมาย นอกจากผู้บริหารจะตอ้ งมีความรู้ ความสามารถในการบรหิ าร และ มีวสิ ัยทัศนก์ ว้างไกลแลว้ พฤติกรรมผนู้ ำของผู้บริหารกเ็ ป็นส่งิ สำคญั และจำเปน็ อยา่ งยิ่งในการบริหารงาน เพราะผ้บู รหิ ารจะตอ้ งใช้พฤตกิ รรมผนู้ ำในการช้นี ำ ชักชวน และกระตนุ้ ใหค้ รไู ดใ้ ชศ้ กั ยภาพทดี่ ี ทำงานให้เกิด ประโยชนส์ งู สดุ ดว้ ยความเตม็ ใจ ดงั น้ันพฤติกรรมผูน้ ำและความผูกพนั ตอ่ องค์การของครู จงึ มคี วามสำคญั เปน็ อยา่ งยิ่งต่อการพัฒนาการศึกษาของชาติ การศึกษาองค์ประกอบของพฤตกิ รรมผู้นำและสภาพทแ่ี ทจ้ ริงของความ ผูกพันตอ่ องคก์ ารของครู จะนำมาซ่ึงความรทู้ ่ีเปน็ ประโยชนต์ อ่ การจัดการศกึ ษาในอนาคต พฤติกรรมผ้นู ำ (Leadership Behavior) หมายถงึ การกระทำใด ๆ ทแี่ สดงถงึ ความสามารถในการนำ บคุ คลอืน่ ๆ ดว้ ยการจงู ใจ หรือใช้อทิ ธิพลใหผ้ ู้อื่นกระทำตามทีต่ อ้ งการด้วยความเตม็ ใจ เพื่อใหส้ ามารถบรรลุ เป้าหมายตามทีต่ อ้ งการ สามารถขจดั ปญั หาขอ้ ขดั แยง้ ทเ่ี กิดขน้ึ ได้ โดยใช้ความรู้ ทักษะในการสื่อสาร วสิ ัยทศั น์ และสตปิ ญั ญา พฤติกรรมผู้นำของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ตามการรวบรวมแนวคิดของผ้วู ิจยั ประกอบด้วย 1. พฤติกรรมผ้นู ำด้านใหค้ ำแนะนำบคุ ลากรทข่ี าดประสบการณ์ 2. พฤติกรรมผ้นู ำด้านสนบั สนนุ บุคลากรทรี่ ับผดิ ชอบงานทีม่ คี วามสำคญั 3. พฤตกิ รรมผนู้ ำดา้ นช้แี นะบุคลากรพร้อมกำหนดบทบาทอย่างอสิ ระ 4. พฤติกรรมผู้นำด้านเขา้ ใจสถานการณ์ 5. พฤตกิ รรมผนู้ ำดา้ นขอคำปรกึ ษาจากผ้รู ู้ 6. พฤตกิ รรมผนู้ ำด้านเน้นการวางแผน 7. พฤตกิ รรมผู้นำด้านตกั เตอื นและสอดส่องบุคลากรทมี่ ีพฤตกิ รรมไมเ่ หมาะสม 8. พฤติกรรมผู้นำดา้ นใหค้ ำแนะนำเมอื่ เกิดปญั หา สรุปผลจากงานวิจยั ผ้บู ริหารสถานศกึ ษา ไมว่ ่าจะปฏบิ ตั งิ านอยใู่ นองค์กรใด หรอื สังกัดใด กจ็ ะตอ้ งให้ ความสำคัญและแสดงออกซ่ึงพฤตกิ รรมผนู้ ำอยเู่ สมอ เพอ่ื ใหอ้ งค์การน้ันขบั เคลอื่ นไปอย่างมปี ระสิทธิภาพ ควรให้ ความสำคญั กับการใหค้ ำแนะนำกับบคุ ลากรเมือ่ เกิดปญั หา โดยการวเิ คราะหป์ ญั หาหรอื สถานการณค์ วรเปน็ ระบบ รวดเร็ว ถกู ต้อง และช้ีแนะแนวทางทีก่ ระชับ เข้าใจงา่ ย เพ่ือให้บุคลากรสามารถจัดการกับปญั หาไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง
การศึกษาพฤติกรรมผนู้ ำของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ตามความตอ้ งการของครสู งั กดั สำนกั งานเขตธนบุรี กรงุ เทพมหานคร นางสาวยุพดี คารว์ : 2560 การพฒั นาประเทศใหเ้ จรญิ กา้ วหน้าจะต้องพัฒนาดา้ นการศกึ ษา เพราะการศึกษาคือรากฐานของการ พัฒนาในทุก ๆ ดา้ นของประเทศ ไม่วา่ จะเปน็ ดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม การเมืองการปกครอง เม่ือต้องการพัฒนา ดา้ นการศึกษานน้ั กห็ มายถึง เด็ก ซึ่งในอนาคตจะเปน็ ผู้ใหญใ่ นวนั ข้างหน้า เพอื่ เปน็ พลเมอื งที่ดขี องประเทศชาติ บคุ คลทม่ี ีสว่ นรว่ มในการพฒั นาการศกึ ษานัน้ กค็ อื ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาเป็นผ้ทู ำหน้าทถี่ า่ ยทอดความรู้ คุณธรรมจริยธรรม และความสามารถในการดำเนนิ ชวี ติ ในยุคปจั จุบนั และอนาคต ดงั นัน้ ผบู้ รหิ ารสถานศึกษาจึง เปน็ ผูท้ ่มี บี ทบาทสำคญั ในการพฒั นาการศกึ ษาเพือ่ ใหบ้ รรลุตามเปา้ ประสงค์ของการจัดการศกึ ษาไทยในปจั จบุ นั การจัดการศกึ ษาเพอ่ื พัฒนาคนให้มคี ณุ ภาพเปน็ เร่อื งทม่ี คี วามจำเป็นอยา่ งยิง่ โดยจะต้องพัฒนาศกั ยภาพ ทม่ี อี ย่ใู นตวั คนใหไ้ ด้รบั การพัฒนาอย่างเต็มที่ ให้เปน็ คนทีร่ จู้ กั การคดิ วเิ คราะห์ ร้จู ักแก้ปัญหา มคี วามคดิ รเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ รู้จักการเรียนรดู้ ้วยตนเอง สามารถเช่อื มโยงความรู้ ทกั ษะและค่านยิ มที่ดงี าม เพือ่ การดำเนินชวี ติ สามารถปรับตวั ใหท้ นั กบั การเปลี่ยนแปลงทเี่ กิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มีคณุ ธรรม จริยธรรม ร้จู ักพ่งึ ตนเองและ สามารถดำรงชีวติ อยใู่ นสงั คมไดอ้ ย่างมคี วามสุข จึงตอ้ งอาศัยการปฏิรูปการศึกษาเพ่อื พฒั นาคนใหม้ ีความ เตรยี มพรอ้ มต่อการเผชิญต่อการเปลีย่ นแปลงและความทา้ ทายจากกระแสโลกในยุคโลกาภิวัตน์ ผบู้ ริหารสถานศกึ ษามีบทบาทสำคญั และมสี ่วนรบั ผดิ ชอบอย่างใกล้ชิดตอ่ การจัดการศกึ ษาทจี่ ะใหเ้ กดิ ผล อยา่ งมีประสิทธภิ าพ เพราะความสำเร็จของการบรหิ ารเป็นเร่อื งสำคญั และปัจจัยสำคัญท่ีสดุ ในการบรหิ ารงาน ตา่ ง ๆ คือ ผ้นู ำ หน่วยงานใดที่มผี ้นู ำทมี่ คี วามรู้ มปี ระสบการณ์ มีความสามารถรอบดา้ นย่อมประสบ ความสำเร็จ ดงั น้ัน พฤตกิ รรมผู้นำทีเ่ หมาะสมจงึ เปน็ สิง่ ที่สำคัญ ในการขับเคลอ่ื นทำให้องคก์ รประสบ ความสำเร็จ ซงึ่ บุคคลท่มี คี วามสามารถในการบงั คับบญั ชาบคุ คลอน่ื โดยได้รบั การยอมรับและยกย่องจากบคุ คล อ่นื เป็นผู้นำใหบ้ คุ คลอน่ื ไว้วางใจและใหค้ วามรว่ มมอื ความเป็นผู้นำเปน็ ผู้มหี น้าทใี่ นการอำนวยการ หรอื ส่ังการ บงั คับบญั ชา ประสานงานโดยอาศยั อำนาจหน้าท่ีเพอื่ ใหก้ จิ การงานบรรลผุ ลสำเร็จตามวัตถปุ ระสงคแ์ ละนโยบาย การศกึ ษาพฤติกรรมผู้นำของผู้บรหิ ารสถานศึกษาตามความตอ้ งการของครโู รงเรียนในสังกัดสำนกั งานเขต ธนบรุ ี กรงุ เทพมหานคร ประกอบด้วยพฤตกิ รรมผู้นำ 4 ดา้ น ได้แก่ การมีความคดิ รเิ ร่ิม การให้การยอมรบั นบั ถอื การใหค้ วามช่วยเหลอื และการโนม้ นา้ วจติ ใจ สรปุ ผลจากงานวิจยั ผบู้ ริหารสถานศกึ ษาในปจั จุบนั จะต้องมพี ฤติกรรมของผ้นู ำ เพื่อเปน็ แบบอย่าง และแนวทางในการปฏบิ ัตใิ หก้ บั ครูในสถานศึกษา ผู้บรหิ ารจะต้องมแี นวคดิ ใหม่ ๆ ในการทำงาน เปน็ สิง่ ทท่ี ำให้ เกดิ ประโยชนต์ ่อตนเองและส่วนรวม และจะต้องฉบั ไวทนั ตอ่ เหตุการณ์ตา่ ง ๆ ผู้บริหารสถานศกึ ษาจะตอ้ งทำงาน รว่ มกับบคุ ลากรในสถานศกึ ษา จึงต้องรจู้ ักการใหเ้ กยี รตผิ ู้อ่นื รู้จกั การชื่นชมผู้อ่ืน มกี ารใหค้ วามช่วยเหลอื เมอ่ื ผ้อู ่ืนขอความช่วยเหลือ และนอกจากน้ีแล้วยงั ต้องรูจ้ กั การพูดโน้มนา้ ว เพ่อื ใหง้ านสำเรจ็ ลลุ ว่ งได้ดว้ ยดี และมี ประสิทธิภาพในการจดั การศึกษาและพฒั นางานทางดา้ นการศกึ ษาให้เจรญิ ย่ิงขึ้น พฤตกิ รรมผู้นำของผูบ้ ริหารตามทศั นะของข้าราชการครนู นั้ ขา้ ราชการครทู ม่ี ปี ระสบการณใ์ นการ ปฏบิ ตั ิงานมาก มอี งค์ความรแู้ ละมวลประสบการณเ์ พ่มิ มากขน้ึ ความรับผิดชอบในหนา้ ทแี่ ตกต่าง ประสบการณ์ ของแตล่ ะบคุ คลทไี่ ดป้ ฏบิ ตั ิงานมีระยะเวลาไมเ่ ท่ากัน ความรบั ผิดชอบในหน้าทแี่ ตกต่าง จะส่งผลตอ่ ทัศนะของ ขา้ ราชการครตู อ่ พฤตกิ รรมผนู้ ำของผบู้ รหิ าร
How Leadership Behaviors Affect Organizational Performance in Pakistan Muhammad Akram, Hassan Mobeen Alam, Liaqat Ali, Muhammad Muazzam Mughal : 2012 Leadership is vital and leaders have multiple responsibilities in organization because leadership is incorporated with different hierarchical levels like individuals, units and organizational levels. Organizations that compete in innovation, uncertain environments, and turbulent becomes critical engines for viability, prosperity, and growth because globalization has been increasing intense competition in product market activities and resource market activities. Through seedy development of new quality products, organization can easily attain advantageous positions in products market. High performance of an organization can easily be achieved through adoption or adaption of a good leadership behavior in organization. leadership is lined with putting efforts and championing in development, generating ideas, exploring opportunities, and innovative behavior. Providing vision leadership behavior is connected with providing directions for future actions, communication of preferred typos of innovation, and communication of explicit vision. leadership behavior and transformational behavior on performance. Support for innovation was constituted in model. Mediation of support for innovation. Providing vision leadership behavior is connected with providing directions for future actions. Organizational performance is significantly contributed by interaction of styles of leadership and positively correlated to vision providing and charismatic style of leadership. Innovative role-modeling behavior of leadership is lined with putting efforts and championing in development, generating ideas, exploring opportunities, and innovative behavior. Conclusion Firstly, with regard to relationship between leadership behaviors and organizational performances, leadership behaviors are positively correlated with leader and employee has perceived organizational performance. Secondly, with regard to impact of leadership behaviors and organizational performances in public sector organizations, only monitoring leadership behaviors has significant positive impact on leader’s perceived organizational performance. Leadership behaviors like innovating role modeling, vision providing, consulting, delegating, support for innovation, and recognition have no significant positive impact on leader’s perceived organizational performance and employee’s perceived organizational performance. Lastly, with regard to impact of leadership behaviors and organizational performances on the base of pooled analysis, support for innovation and monitoring leadership behaviors have high significant positive impact on leader’s perceived organizational performance
Leadership Behavior in High- Performing Government Boys Secondary Schools in Quetta: A Grounded Theory Analysis Waheed Bahadur, Amir Bano, Zarina Waheed and Abdul Wahab : 2017 Leaders have the ability to influence, convince and motivate school members to achieve school goals. As a leader of a school, one performs multiple roles in order to be ready and adaptive for all kinds of situations. One has to work as a marshal of a troop, as a friend, as a guardian, as well as a guide and mentor. Due to lack of in-depth studies, their best practices, behaviors and contributions are not shared with others. Thus, there is a decisive need to conduct in-depth studies on school leadership that are performing well. According to tri-dimensional theory of leadership, the leaders’ multiple and flexible behaviors can be grouped into three dimension or orientations: relation-oriented leadership behavior. Task-oriented leadership behavior includes. a) Short-term planning, b) clarifying task objectives and role expectations, c) monitoring operations and performance, d) Problem solving. Change-oriented leadership behaviors are used to increase innovation, collective learning and adaptation to external changes among organizational members. It involves. a. monitoring the external environment b. envisioning the change c. encouraging innovation and creativity d. taking risks e. facilitating collective learning. Discussion : Leadership, in order to effect success and performance of schools, needs to be adaptive and multiple-oriented. The leaders in selected high-performing schools mainly emphasized on the continuous and effective monitoring. Emphasis on continuous and effective monitoring process in school success. Leaders in selected schools developed strong bonds with school members as well as with parents and other school stakeholders. They developed trusting and friendly relationship with the school members, thus motivating them for change and commitment towards schools. In addition to this, appreciation, achievements, contributions and commitment to work added as an energetic supplement to develop interest, commitment and hard work among school members.
School Effectiveness In Relation to Leadership Behaviour Joyce Mary Claris D’Sa and Dr. G. Sheela : 2015 Leadership is one of the most salient aspects of the organizational structure of any institution. Leadership is a process in which a leader strives to influence his or her followers to establish and accomplish a goal or goals. In educational institutions, the principal, the head, the leader plays a very important role in the accomplishment of its goals. The successful heads take off on school reforms and its effectiveness while depending on the set of actions by education planners and school administrators. The main duty of the principal is to enhance teaching and learning in the school. Leadership Styles. Leadership style is based on three defining constructs. Transformational Leadership Transactional Leadership Laissez-faire (Passive). Three ways in which leaders transform the followers. Increasing their awareness of task importance and value; Getting them to focus first on the team or organizational goals rather than on their own interests; and Activating their higher-order needs Discussion : Transformational Style of Leadership has implies the motivation and self esteem of the head of the school. The heads of schools have a positive relationship with a range of measures such as productivity, job satisfaction, commitment and lower levels of stress. Hence it is suggested to provide further opportunities for growth of personal and managerial skills of the heads of the schools as it would result in higher levels of School Effectiveness. Transactional Style of Leadership has shows the transformational approach is insufficient for the heads of schools and they need be given training to enhance their management skills to motivate and to get higher level of goal reaching effects in the school. The workshop and training programmers could be organized by the managements and department of education to develop strategies to foster creativity, among the students and to increase the level of motivation among the head of schools. Passive style of Leadership which goes to speak of the low level of leadership performance require to be challenged through evaluation and motivational sessions to bolster up their leadership competencies and style. The management and government authorities could organize leadership training to enhance the awareness of leadership task importance and value. Continuous evaluation and supervision.
Effects of School Principals’ Leadership Behaviors: A Comparison between Taiwan and Japan Yi-Gean Chen, Jao-Nan Cheng, and Mikio Sato : 2017 Japanese culture values the team approach to leadership, as a team’s honor is greater than an individual’s honor. Taiwan is located at the junction of East Asia and Southeast Asia and is an island country like Japan. Both countries share similar geographic characteristics and a culture rooted in Confucianism. The benchmark for the comparison of leadership behaviors and the theoretical foundation of leadership behaviors originates from a team approach to instruction leadership, compound leadership. principals’ leadership behaviors are related to teachers’ job performance and organizational commitment leadership behaviors and school effectiveness are positively correlated. pointed out that school achievements evaluation and school effectiveness evaluation are important indicators. leadership behavior and organizational commitment, effectiveness, and performance are widely discussed in Japan. In addition, the relationship between organizational commitment and performance has recently been explored in Taiwan Appropriate School Leadership. 1. A team approach to instruction leadership. 2. Compound leadership. 3. Diverse leadership. 4. The school effectiveness. 5. The teacher’s job performance. Discussion : In terms of the relationship between leadership behaviors and school effectiveness, a team approach to instructional leadership is more effective in assisting Taiwanese primary school and secondary school principals to improve students’ performance. In comparison, a team approach to instructional leadership is more effective in assisting Japanese school principals to improve teachers’ professionalism. in terms of prompting teachers’ willingness to put forth effort, adopting a team approach to teaching has apparent benefits in Japan, the reason for which can be attributed to the value of team spirit and team honor in Japanese culture; however, such a characteristic does not exist in Taiwan. Taiwanese school principals who wish teachers to put forth effort should adopt a leadership structure with clear goals, clearly delegated tasks, and symbol-oriented leadership behaviors, such as creating school stories and rituals.
Effectiveness of School Administrators’ Leadership Skills and Behaviors and their School Performance in Area III Leyte Division, Philippines Vilma S. Pricellas, Roland A. Niez, Reggie N. Nierra, and Allan Paul U. Tubis : 2016 The actions of school leaders impact school capacity and may either enhance or diminish student achievement. School capacity is defined as the collective power of a school staff to raise student achievement. School administrators who build school capacity through an effective leadership style may influence student achievement through teachers. leadership is both an activity and a process. It is an activity of influencing people to band together for a common purpose and endeavor by the inspiration and guidance of a leader determined to achieve this purpose. To be a leader, one must possess the talent and skills to be an effective leader. To be effective, one can exude a sincere image of an excellent leader. Actions of the principal can have widespread impact on many students. Effective educational leadership makes a difference in improving student learning. that effective school leadership must include the principal in the role of the instructional leader. An instructional leader must : (a) give feedback, (b) model effective instruction, (c) solicit opinions, (d) make suggestions, (e) support collaboration, (f) provide professional development opportunities, and (g) give praise for effective teaching. The principal‘s ability to (a) build leadership capacity in teachers and staff, (b) encourage team focus on school goals, (c) use efficient and flexible organizational skills, and (d) distribute leadership throughout the school. The principal has the power to establish and guide the positive progress of a school and develop and nurture relationships within the school community that impact the overall school climate. Discussion : The school administrators exhibited the need for improvement as evidenced by its lack of higher exposure particularly on seminars and trainings attended in the international level. Insofar as leadership skills are concerned, the school administrators have also proven their effectiveness on such function. Similarly, they too possessed effectiveness in terms of their leadership behavior. Thus, school performance appeared to have strong correlations to selected socio-demographic profile variables and leadership skills of the school administrators.
การศกึ ษาพฤติกรรมความเป็นผนู้ ำของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาท่ีมีผลตอ่ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารสถานศึกษา นายศรีสวุ รรณ เปาะทอง : 2563 เนือ่ งจากในปัจจบุ ันเปน็ ยคุ โลกาภิวตั น์ ซ่ึงเปน็ ยคุ ทม่ี กี ารเปล่ยี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ในทุก ๆ ด้าน ไมว่ ่าจะ เป็นด้านเศรษฐกจิ ด้านการเมือง ด้านการศกึ ษาและดานสงั คม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศ หนว่ ยงานท่ีเกยี่ วข้องกับการศึกษา ได้เปลยี่ นแปลงบทบาทขององคก์ รใหส้ อดคล้องกับสถานการณแ์ ละปรับองค์กร ให้สามารถตอบสนองความตอ้ งการไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพและมปี ระสิทธผิ ล ซงึ่ ผบู้ รหิ ารนอกจากจะมคี วามรู้ ความเข้าใจ มีวิสัยทัศนท์ ี่กว้างไกล รู้เท่าทันเหตุการณ์ ภาวะผ้นู ำของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษามคี วามสำคญั ในการ บริหารงานให้บรรลวุ ัตถุประสงค์ โดยอาศัยความร่วมมือ ความสามัคคี และความศรทั ธาของผรู้ ่วมงาน พระราชบญั ญัติการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และทแี่ ก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545 (ราชกจิ จา นเุ บกษา, 2542, 1-14, 18) หมวดที่ 1 บททว่ั ไปในมาตรา 6 ได้กล่าวถงึ การศกึ ษาไว้วา่ การจัดการศกึ ษาตอ้ ง เป็นไปเพือ่ พัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษยท์ ส่ี มบรู ณท์ ้ังร่างกาย จิตใจ สตปิ ัญญา ความรแู้ ละคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ วฒั นธรรมในการดำรงชีวิต และสามารถอยู่รว่ มกบั ผูอ้ ่ืนไดอ้ ย่างมคี วามสขุ สถานศกึ ษาจึงมีบทบาทสำคญั สูงสดุ ตอ่ การพฒั นาคณุ ภาพของคน เนอื่ งจากการดำเนนิ งานในสถานศกึ ษามีผลกระทบตอ่ การพฒั นาศักยภาพของนักเรยี น โดยตรง สถานศึกษาเป็นองคก์ ารในระดับหน่วยปฏิบตั ทิ ี่มบี ทบาทสำคัญในการจดั การศกึ ษา พฒั นาคนใหเ้ ปน็ คนดี มคี ุณธรรม จริยธรรม โดยมคี รูเปน็ กลไกที่สำคญั ย่ิง ในการดำเนนิ กจิ กรรมการเรียนรู้ซงึ่ เปน็ ภารกจิ สำคัญของ สถานศกึ ษาให้เป็นไปอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ผู้บริหารสถานศกึ ษาเป็นอีกปจั จยั หนึ่งทม่ี ีความสำคญั ไมย่ ง่ิ หย่อนไปกวา่ ครู เพราะเปน็ เสมือนหวั เรอื ใหญใ่ นการขบั เคลอ่ื นสถานศึกษาไปสู่จดุ มุ่งหมาย นอกจากผ้บู ริหารจะตอ้ งมคี วามรู้ ความสามารถในการบริหาร และมีวสิ ัยทศั นก์ ว้างไกล พฤตกิ รรมผนู้ ำของผู้บรหิ ารก็เป็นสิ่งสำคัญ และจำเปน็ อย่างย่งิ ในการบรหิ ารงาน เพราะผู้บรหิ ารจะตอ้ งใช้พฤตกิ รรมผู้นำในการชน้ี ำ ชักชวน และ กระตุ้นใหค้ รูไดใ้ ช้ ศักยภาพทดี่ ีทำงานใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุดดว้ ยความเต็มใจ ดังนัน้ พฤติกรรมผู้นำและความผกู พนั ต่อองคก์ ารของ ครูจงึ มีความสำคญั เป็นอยา่ งยงิ่ ต่อการพฒั นาการศึกษาของชาติ การศกึ ษาองคป์ ระกอบของพฤติกรรมผ้นู ำและ สภาพที่แทจ้ รงิ ของความผกู พันตอ่ องค์การของครู จะนำมาซึง่ ความรทู้ ี่เปน็ ประโยชนต์ ่อการจัดการศึกษาในอนาคต ผบู้ ริหารสถานศกึ ษาจำเปน็ อยา่ งยิง่ ทจ่ี ะตอ้ งใช้ภาวะผู้นำ เพ่อื ปรับเปลีย่ นพฤติกรรม ร้จู ักใชอ้ ำนาจที่ เหมาะสม ซึ่งความสำเรจ็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาอย่ทู ี่การเรยี นร้ฝู ึกฝนให้มที ักษะการใช้ภาวะผู้นำในสถานการณ์ ต่าง ๆ มีความโอบออ้ มอารี กว้างขวาง ไม่ตระหนถ่ี เี่ หนียว มมี รรยาทเปน็ นักวิชาการ สง่าผ่าเผย มคี ณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามจำเป็นเลิศ และเปน็ ผใู้ ห้บรกิ าร ดงั นน้ั การทีจ่ ะทำใหเ้ กิดประสิทธิภาพ ในการปฏบิ ตั ิงานของ ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา จึงควรใหค้ วามสำคญั กกบั การเปน็ ผนู้ ำแบบมติ มิ งุ่ งานและเปน็ ผู้นำ แบบมิติมุง่ สมั พันธค์ วบคู่ กนั ไป การบรหิ ารจงึ จะประสบความสำเรจ็ และมปี ระสทิ ธภิ าพ
วรรณกรรมทีเ่ กี่ยวขอ้ ง ผูน้ ำ (Leader) เป็นปัจจัยทสี่ ำคัญยิง่ ต่อความสำเร็จขององคก์ าร ทงั้ น้ีเพราะผู้นำมภี าระหน้าท่ี และ ความรบั ผิดชอบโดยตรงทจ่ี ะตอ้ งวางแผน ส่ังการ ดแู ล และควบคุมให้บคุ ลากรขององค์การปฏบิ ตั งิ านตา่ ง ๆ ให้ ประสบความสำเรจ็ ตามเปา้ หมาย และวตั ถุประสงคท์ ต่ี ง้ั ไว้ ซง่ึ มิใชเ่ รอ่ื งงา่ ยท่ผี นู้ ำจะแสดงออกถงึ พฤตกิ รรมทจี่ ะ ส่งเสรมิ สนบั สนนุ หรือทำให้ผใู้ ตบ้ ังคบั บัญชาเกดิ ความผกู พนั กบั งาน แลว้ ทมุ่ เทความสามารถ และความ พยายามท่ีจะทำใหง้ านสำเรจ็ ดว้ ยความเตม็ ใจ ในอดีตมคี วามเชอื่ วา่ ความเป็นผู้นำนัน้ เปน็ มาโดยกำเนดิ พร้อม คณุ ลกั ษณะเฉพาะทีค่ นทั่วไปไมม่ ี สรา้ งกันไม่ได้ ดังนน้ั ผูน้ ำท่ปี ระสบความสำเร็จจะเป็นผู้ทมี่ คี วามสามารถเหนือ คนธรรมดา แตใ่ นปจั จบุ นั น้นั ความเชื่อดังกลา่ วเปลยี่ นไปอยา่ งสนิ้ เชงิ เพราะนักการศกึ ษาส่วนใหญเ่ ชอ่ื ว่าการเปน็ ผูน้ ำ อาจไดม้ าโดยกำเนิด แตก่ ารเปน็ ผนู้ ำทย่ี ิ่งใหญน่ น้ั จะต้องไดม้ าดว้ ยการสรา้ งหรอื การเรยี นรไู้ ม่ใชไ่ ด้มา โดย กำเนิด ทฤษฎผี ู้นำเชิงพฤติกรรม (Behavioral Theories of Leadership) แนวความคิดน้เี ชอื่ ว่า การเป็น ผู้นำที่มีประสิทธภิ าพน้นั จำเป็นต้องมีพฤตกิ รรม ทักษะ และเจตคติทีเ่ หมาะสม โดยจำแนกพฤติกรรมทผ่ี นู้ ำใชใ้ น การบริหารงานออกเปน็ 2 ดา้ น ได้แก่ พฤตกิ รรมมงุ่ งานกบั พฤติกรรมทม่ี ุ่งคน และพฤตกิ รรมท้งั สองดา้ น สามารถ จำแนกออกเป็นแบบของผนู้ ำ (Leadership Style) ได้หลายรปู แบบ ผูน้ ำแต่ละแบบจะมคี วามเชอื่ และมุมมองตอ่ ผู้ใต้บังคับบัญชาทแี่ ตกต่างกัน แตเ่ ชือ่ ว่าแบบของผู้นำทมี่ ีประสิทธภิ าพสูงสดุ มีพฤติกรรมทมี่ งุ่ งานและมงุ่ คนสงู ท้ัง สองด้าน ความหมายของผนู้ ำและภาวะผูน้ ำ ความหมายของผ้นู ำ ประเวศ วะสี (2541 : 13) ให้ความหมายวา่ ผู้นำคือผู้ทีส่ ามารถทำใหส้ งั คมมจี ดุ มงุ่ หมายรว่ มกนั และรวม พลงั กนั ปฏบิ ตั ิใหป้ ระสบความสำเร็จตามจุดประสงค์ อานนั ท์ ปันยารชุน (2541 : 37) ให้ความหมายว่า ผูน้ ำ คอื ผูท้ ี่คนอ่นื อยากเดินตาม ไซมอน สมิทเบิรก์ และทอมปส์ ัน (Simon, Smithburg and Thomoson. 1971 : 16) ใหค้ วามหมายวา่ ผูน้ ำคือผ้ทู สี่ ามารถรวมคนใหเ้ ป็นนำ้ หน่งึ ใจเดียวกนั เพื่อสามารถบรรลุวตั ถปุ ระสงคท์ ตี่ ้งั ไวใ้ หไ้ ด้ สรปุ ได้ว่า ผู้นำ คือ บคุ คลทีม่ ีอทิ ธพิ ลเหนือบุคคลอืน่ เป็นผทู้ ไ่ี ดร้ บั การยอมรบั และยกยอ่ งใหเ้ ป็นหวั หน้าท่ี รเิ ร่ิมใหม้ กี ารเปลี่ยนแปลงการปฏบิ ัติงานของกลมุ่ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ มคี วามสามารถชี้นำและโน้มน้าวใหผ้ อู้ ่นื ให้ ความรว่ มมอื รว่ มแรง รว่ มใจ ในการปฏิบตั งิ านให้บรรลุผลสำเรจ็ ตามเปา้ หมาย พรอ้ มทัง้ สนับสนนุ สง่ เสริมให้ ความสมั พนั ธ์ของสมาชกิ ภายในกล่มุ ดำเนนิ ไดด้ ว้ ยดี ความหมายของภาวะผนู้ ำ พจนานกุ รม ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ใหค้ ําจาํ กัดความไว้วา่ ดังนี้ คําวา่ “ภาวะผู้นํา” เปน็ คาํ ผสมระหว่าง คาํ ว่า “ภาวะ” กับ “ผนู้ าํ ” พจนานกุ รมฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2542 ไม่ได้บญั ญัติคาํ ว่า “ภาวะผูน้ ํา” แตบ่ ญั ญตั วิ า่ “ภาวะ” เป็นคํานาม แปลว่า “ความมี หรอื ความเป็น หรือความปรากฏ” สว่ นคาํ ว่า “ผนู้ าํ ” ไมไ่ ดบ้ ัญญัตไิ ว้ในพจนานุกรม โดยตรง แตม่ ีคาํ ท่ีใกล้เคยี งกัน
ปรุ ชัย เปี่ยมสมบรู ณ์ (2550 : 303) ให้ความหมายวา่ ภาวะผู้นำ หมายถึงความสามารถในการจงู ใจ โนม้ น้าวใหบ้ ุคคลอื่นประพฤตใิ นส่ิงทผ่ี นู้ ำวางวตั ถุประสงค์ไว้ ลือชา เสถยี รวริ ภาพ (2550 : 18) ใหค้ วามหมายวา่ ภาวะผนู้ ำ หมายถงึ กระบวนการ อทิ ธิพลทางสงั คม ทีม่ ีบุคคลหนึง่ ตงั้ ใจใชอ้ ิทธิพลตอ่ ผอู้ ื่น เพ่ือใหก้ ารปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตา่ ง ๆ ตามกำหนด รวมทง้ั สรา้ งความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งบุคคลในองคก์ ร ภาวะผนู้ ำจงึ เป็นกระบวนการทางอิทธพิ ลทช่ี ่วยให้องคก์ รสามารถบรรลเุ ป้าหมาย รชิ ารด์ (Richard. 1961 : 31) ให้ความหมายว่า ภาวะผนู้ ำ หมายถงึ ความพยายามของบุคคลทจี่ ะชกั จูง และกำหนดพฤติกรรม ทัศนคติ ความเชอื่ หรอื คา่ นิยมของบคุ คลอ่นื เพือ่ บรรลุเป้าหมายทก่ี ำหนดในสถานการณใ์ ด สถานการณห์ น่ึง สรุปไดว้ ่า ภาวะผ้นู ำ คอื กระบวนการทบ่ี คุ คลใช้อิทธพิ ลของตนหรือกล่มุ กระตุน้ ชี้นำ ผลกั ดนั จูงใจให้ บคุ คลอื่นหรือกล่มุ บคุ คลอ่นื มคี วามเตม็ ใจและกระตอื รือรน้ ในการทำสง่ิ ต่าง ๆ ตามต้องการซึ่งมีความสำเรจ็ ของ องคก์ รเปน็ เป้าหมาย โดยผูน้ ำสามารถกระทำให้คนสว่ นมากซง่ึ เป็นผตู้ ามดำเนินการไปในทศิ ทางและวธิ กี ารที่ กำหนดเพอื่ มุ่งเข้าสู่เปา้ หมายขององคก์ ร ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ความสำคญั ของผู้นำและภาวะผนู้ ำ สำหรบั ผ้บู ริหารความเป็นผนู้ ำจำเปน็ ตอ้ งใหค้ วามสำคญั เป็นอย่างมาก เนอ่ื งจากผตู้ ามจะมาเชือ่ ม่นั และ ศรทั ธา สนับสนุนหรือไมอ่ ยทู่ ี่ศลิ ปะและยุทธวธิ ตี า่ ง ๆ และถ้าหนั กลบั มาพจิ ารณาในสว่ นของประสิทธิภาพและ ประสทิ ธผิ ล ต้องนับว่าผู้นาํ เป็นศนู ย์รวมพลของกลมุ่ คน และผู้นาํ จะต้องนำความรสู้ ึกที่ดีทำใหค้ นสามารถท่ีจะสรา้ ง แรงบันดาลใจและปลดปล่อยส่ิงทีด่ ที ส่ี ุดออกมา การเป็นผ้นู ำต้องมีการสรา้ งอารมณเ์ ป็นพื้นฐานท่สี ำคญั ที่ผนู้ ำทกุ คนต้องมี จากการท่ีผนู้ ำมอี ทิ ธิพลเหนือผู้อืน่ และสามารถโน้มนา้ วผู้อ่นื ใหค้ ลอ้ ยตามไดด้ ว้ ยความเตม็ ใจนั้น ผูน้ าํ จะต้องมคี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรมอันดีงามทสี่ ามารถเป็นแบบอย่างแก่ผู้อืน่ ได้ดว้ ย มิฉะนั้นจะสรา้ งปญั หาตา่ ง ๆ มากมาย จงึ กลา่ วไดว้ ่าผู้นํามคี วามสำคญั ต่อประสิทธิภาพและประสทิ ธิผลขององค์การมาก ความหมายของพฤตกิ รรมผนู้ ำ พฤติกรรม หมายถึง การกระทำทแ่ี สดงออกทางรา่ งกาย สามารถสังเกตไดโ้ ดยตรง และสง่ิ อยู่ภายในจิตใจ ซง่ึ ตอ้ งคาดเดาจากการกระทำ ความหมายของคำว่า ผู้นำ (Leader) หมายถึง ผู้ทมี่ ีความสามารถในการนำบุคคลอน่ื ๆ ดว้ ยการจงู ใจ หรอื ใช้อทิ ธพิ ลให้ผอู้ นื่ กระทำ ตามที่ตอ้ งการดว้ ยความเตม็ ใจ เพ่อื ให้สามารถบรรลุเปา้ หมายตามที่ตอ้ งการ สามารถขจดั ปญั หา ขอ้ ขัดแย้งทีเ่ กิดข้นึ ได้ โดยจะตอ้ งมีความรู้ มีทักษะในการสือ่ สาร มีวิสัยทัศน์ และเฉลยี วฉลาด ดังน้ัน จงึ สรุปไดว้ ่า พฤตกิ รรมผู้นำ (Leadership Behavior) หมายถงึ การกระทำใด ๆ ท่แี สดงถงึ ความสามารถในการนำบุคคลอื่น ๆ ด้วยการจูงใจ หรือใช้อทิ ธพิ ลใหผ้ ้อู ื่นกระทำตามทตี่ ้องการดว้ ยความ เตม็ ใจ เพื่อให้สามารถบรรลเุ ป้าหมายตามทตี่ อ้ งการ สามารถขจัดปัญหาขอ้ ขดั แยง้ ท่เี กดิ ข้นึ ได้ โดยใช้ ความรู้ ทกั ษะใน การสือ่ สาร วสิ ยั ทศั น์ และสติปัญญา
ทฤษฎที ่เี กีย่ วขอ้ งกับพฤติกรรมผู้นำ ในชว่ งปลายทศวรรษ 1940 นกั วจิ ัยแหง่ มหาวิทยาลัยมิชิแกน (Michigan) นำทีมโดยลเิ คริ ท์ (Likert) ได้ พบ The Michigan Leadership Studies ขึน้ โดยเขาไดเ้ ร่ิมศึกษาผลกระทบของพฤติกรรมทมี่ ีตอ่ ประสทิ ธภิ าพ ในการทำงาน พบวา่ รูปแบบของการเปน็ ผู้นำมี 3 ประเภท คอื 1. พฤตกิ รรมมุ่งงาน (Task-Oriented Behavior) ผู้นำท่มี ีประสิทธิภาพจะไม่ใชเ้ วลาและความพยายาม ในการทำงานเหมือนกบั ผใู้ ตบ้ งั คับบญั ชา แตจ่ ะมุ่งไปทภี่ าระหน้าที่ของผนู้ ำ ซึ่งได้แก่ การวางแผน การจัดตาราง การทำงาน ช่วยประสานกิจกรรมตา่ ง ๆ ของผู้ใตบ้ ังคบั บญั ชาจดั หาวสั ดอุ ปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื รวมท้งั เทคนิควธิ กี าร ทำงาน ผู้นำท่มี ีประสิทธิภาพ จะแนะนำใหล้ กู นอ้ งตง้ั เปา้ หมายของงานท่ีทา้ ทายและเปน็ ไปได้ 2. พฤติกรรมมงุ่ ความสมั พนั ธห์ รอื มงุ่ คน (Relationship-Oriented Behavior) ผ้นู ำทม่ี ี ประสทิ ธิภาพจะ เป็นผู้นำที่ห่วงใย สนบั สนนุ และช่วยเหลอื ผู้ใตบ้ งั คบั บญั ชา ทัง้ ยังศรัทธา เช่ือมั่น และมคี วามเป็นเพ่อื น พยายาม เขา้ ใจปญั หาของลูกน้อง ชว่ ยให้ลูกน้องมีการพัฒนาในอาชีพและสนบั สนุนให้ประสบความสำเรจ็ ผนู้ ำทมี่ ี ประสิทธิภาพจะไมค่ วบคมุ ลูกน้องใกล้ชิด ดูแลอยหู่ า่ ง ๆ อย่างให้เกยี รติ ผู้นำจะต้งั เปา้ หมายและใหค้ ำแนะน า แต่ กใ็ ห้อสิ ระในการทำงาน 3. ภาวะผ้นู ำแบบมีส่วนร่วม (Participative Leadership) การนเิ ทศหรอื ติดตามดแู ลการปฏบิ ตั งิ านของ ผใู้ ตบ้ ังคบั บัญชาควรกระทำโดยใช้กล่มุ นเิ ทศงานจะดกี ว่าจะนิเทศคนเดยี ว เพราะการนิเทศงาน โดยกล่มุ จะเปิด โอกาสให้ผูใ้ ตบ้ ังคับบัญชา เขา้ มามีส่วนรว่ มในการพจิ ารณาและตัดสินใจ นอกจากนน้ั ยังชว่ ย เพิ่มการสอื่ สาร เพิม่ ความรว่ มมือและลดความขดั แย้ง หนา้ ทข่ี องผู้นำในกลุม่ นิเทศงาน ควรจะเป็นผูน้ ำในการอภิปรายผล ใหก้ าร สนบั สนุนใหม้ ีการอภิปราย กำหนดขอบเขตและทศิ ทางในการแกป้ ญั หาตา่ ง ๆ สำราญ แสงจนั ทร์ (2561 : 18) พฤติกรรมผ้นู ำ (Leader Behavior) หมายถึง การประพฤติ การ ปฏบิ ตั ิของผบู้ ริหารทีแ่ สดงออก สามารถในการนำกล่มุ เพ่ือดำเนนิ กิจกรรมต่าง ๆ ไปส่เู ปา้ หมายทก่ี ำหนด แนะนำ บอกกลา่ ว ใหผ้ ้ใู ต้บงั คบั บญั ชาเข้าใจในบทบาท หนา้ ที่ รว่ มมอื ร่วมใจกนั ทำงาน หาทางแกป้ ญั หา รวมท้งั การบำรงุ ขวัญและสรา้ งกำลังใจใหแ้ ก่กลุ่ม ซ่ึงแบง่ พฤติกรรมผู้นำออกเป็นสองมติ ิ คอื ผู้นำมติ มิ ุง่ งาน และผ้นู ำมติ สิ มั พันธ์ 1. ผนู้ ำมติ ิมุง่ สมั พันธ์ (Consideration) หมายถึง การประพฤติ การปฏบิ ตั ขิ องผ้บู รหิ ารทแ่ี สดงออกต่อ ผใู้ ต้บังคบั บญั ชา โดยที่ผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษาให้ความสำคญั กับคน พฤตกิ รรมผู้นำจะแสดงใหเ้ หน็ ถึงความเปน็ มิตร ความไว้วางใจระหวา่ งกัน การยอมรบั นบั ถือ เกดิ ความอบอุ่นในความสัมพันธ์ระหวา่ งผ้อู ำนวยการกับ ผรู้ ว่ มงาน 2. ผนู้ ำมติ มิ ่งุ งาน (Initiating Structure) หมายถงึ การประพฤติ การปฏิบัตขิ องผู้บริหารที่แสดงออก ตอ่ ผูใ้ ตบ้ ังคบั บญั ชา โดยที่ผอู้ ำนวยการใหค้ วามสำคญั กับงาน พฤตกิ รรมผนู้ ำ มติ นิ ี้จะมคี วามห่างเหิน ความสัมพนั ธร์ ะหว่างตวั ผู้อำนวยการเองกบั ผใู้ ตบ้ งั คบั บัญชาโดยทผี่ ้อู ำนวยการจะพยายามกำหนดระเบียบ วธิ ีการ ปฏิบัติงาน ช่องทางการตดิ ตอ่ ส่ือสารและโครงสร้างของสงั คมไว้เปน็ อย่างดี สายฝน อกแผ่ (2559 : 150) พฤตกิ รรมภาวะผนู้ ำ หมายถงึ การแสดงออก ถงึ ความสามารถในการนำ กลุ่มผู้รว่ มงานเพ่อื ดำเนิน กจิ กรรมไปส่เู ป้าหมายทกี่ ำหนด ซ่งึ ในงานวจิ ยั ได้กำหนดพฤตกิ รรมภาวะผู้นำของ ผ้บู ริหารสถานศึกษาข้ันพืน้ ฐาน ไว้ 2 ด้าน คือ 1) ผนู้ ำแบบมติ มิ ุ่งงาน (Initiating Structure) และ 2) ผนู้ ำแบบมิติ มุ่งสัมพนั ธ์ (Consideration)
1. พฤตกิ รรมภาวะผนู้ ำแบบมติ มิ ุ่งงาน (Initiating Structure) หมายถงึ การแสดงออกทีเ่ กยี่ วกบั ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผู้นำกบั ผรู้ ว่ มงานในลักษณะทเ่ี นน้ ความเข้าใจในการดำเนนิ งานตามระเบยี บแบบแผน การ ส่อื ความหมายทเ่ี ป็นระบบ และวิธีการดำเนนิ งาน ตามขัน้ ตอนท่ีกำหนด 2. พฤตกิ รรมภาวะผนู้ ำแบบมติ มิ ุ่งสัมพนั ธ์ (Consideration) หมายถึง การแสดงออกทเ่ี ก่ยี วกบั ความสมั พันธ์ระหวา่ งผนู้ ำกบั ผรู้ ่วมงาน ในลกั ษณะความเปน็ มติ รทด่ี ี ความไวว้ างใจ ความสนใจ และ ความเอาใจ ใส่ต่อความเปน็ อยู่ ความเคารพนบั ถือ และ ความสนิทสนมซึ่งกนั และกนั วาฮีด วาฮาเดอ (Waheed Bahadur. 2555 : 354-363) พฤตกิ รรมผูน้ ำทม่ี ุ่งเนน้ งาน ได้แก่ 1) การวางแผนระยะสน้ั 2) ช้แี จงวตั ถปุ ระสงค์และความคาดหวงั ของงาน 3) การตรวจสอบการดำเนินงานและประสทิ ธภิ าพ 4) การแกป้ ัญหา พฤตกิ รรมผูน้ ำทีม่ ุ่งเนน้ การเปลี่ยนแปลงถูกนำมาใชเ้ พ่อื เพิม่ นวัตกรรมการเรียนรูร้ ่วมกนั และการปรับตวั ให้ เขา้ กับการเปลีย่ นแปลงภายนอกของสมาชกิ ในองค์กร เกยี่ วขอ้ งกับ 1) การตรวจสอบสภาพแวดล้อมภายนอก 2) จินตนาการเพอื่ สง่ เสริมนวตั กรรมและความคดิ สรา้ งสรรค์ 3) รับความเสีย่ ง 4) อำนวยความสะดวกในการเรียนร้รู ว่ มกัน สรปุ ไดว้ ่า ผ้นู ำแบบมิตมิ งุ่ สัมพันธ์ เป็นพฤตกิ รรมท่ีมงุ่ เน้นผนู้ ำให้การสนับสนนุ และมพี ฤตกิ รรมทเ่ี ปน็ มิตร ท่ีผู้ใต้บังคบั บญั ชาสามารถเขา้ ถงึ ไดง้ า่ ยเป็นผู้นำ ทีใ่ สใ่ จในสวสั ดิการความเป็นอย่แู ละความต้องการ ในฐานะความ เปน็ มนษุ ยข์ องผอู้ ยใู่ ตบ้ ังคบั บัญชา ผนู้ ำจะแสดงพฤติกรรมใหก้ ารสนบั สนุนในการสรา้ งบรรยากาศท่ดี ขี องการ ทำงาน รวมท้ังใหก้ ารปฏิบตั อิ ยา่ งเสมอภาค และให้การนบั ถอื ตอ่ ศักด์ศิ รขี องผใู้ ตบ้ งั คับบญั ชา สว่ นพฤตกิ รรมมุ่ง งานจะเป็นพฤติกรรมของผ้นู ำ ทปี่ ฏิบัตติ อ่ ผูใ้ ต้บงั คบั บญั ชา ตอ้ งการใชค้ ำสัง่ เกยี่ วกับการทำงาน รวมทั้งแจ้งความ คาดหวงั ใหท้ ราบ บอกถงึ วธิ กี ารทำงาน ตลอดจนเวลาทำงานเสรจ็ ใหผ้ ้อู ยู่ใต้บงั คบั บญั ชาทราบ ผู้นำแบบนี้จะ กำหนดมาตรฐานของการทำงาน พร้อมกบั กฎระเบียบตา่ ง ๆ ที่ชัดเจน บทบาทหน้าท่ขี องผูน้ ำ กวี วงศพ์ ุฒ (2539 : 31-32) ไดก้ ล่าวถงึ บทบาทหนา้ ทข่ี องผ้นู ำไว้ดงั ต่อไปนี้ 1) การวางแผน (Planning) ถา้ ผ้บู รหิ ารไมม่ ีการคิดไว้ล่วงหน้า ผ้ปู ฏิบตั ิกจ็ ะกระทำในส่ิงท่ีไม่ คุ้มค่ากับเวลาและพลงั งาน การวางแผนเป็นเรอ่ื งของการคิดเพอ่ื ควบคุมแนวทางการปฏิบตั งิ านใหไ้ ดป้ ระสทิ ธิภาพ มากทสี่ ดุ 2) การจัดองคก์ าร (Organizing) คอื การรวบรวมกำลังคน งบประมาณ วธิ กี าร วสั ดอุ ุปกรณ์ และส่ิงอำนวยประโยชนอ์ นื่ ๆ ของหนว่ ยงานเขา้ ด้วยกนั เพ่ือให้การดำเนนิ งานมปี ระสิทธภิ าพสูงสุด โดยตอ้ งไมท่ ำ ให้เกดิ การสญู เปล่านอ้ ยท่ีสดุ 3) การจัดคณะบคุ คลเข้าทำงาน (Staffing) ผู้นำไมค่ วรคดิ เพยี งแตก่ ารทำงานอย่างเดียว จงึ จะต้องแน่ใจว่าได้จดั สรรคนเขา้ กบั งานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ตรงตามความสามารถของแต่ละบุคคล รวมทง้ั มกี ารพัฒนา ความสามารถของบคุ ลากรไดอ้ ย่างดอี ีกดว้ ย
4) การวนิ ิจฉัยส่งั การ (Directing) การส่งั การของผู้นำถือเป็นเรอื่ งสำคญั ประการหนงึ่ เพราะผู้นำ ทดี่ ตี อ้ งรู้จกั การใชค้ นใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพสงู สดุ ดว้ ยเช่นกนั จะต้องมีความชัดเจนสามารถนำไปปฏิบตั ไิ ดท้ นั ที การ สง่ั การทดี่ ีนั้น หากสามารถสงั่ ดว้ ยวาจาแล้วตามด้วยเอกสารทเ่ี ป็นลายลกั ษณอ์ กั ษรด้วยกจ็ ะยง่ิ สร้างความเชื่อม่นั ใน การเขา้ ใจการสงั่ การดงั กล่าวไดเ้ ปน็ อย่างดี ดว้ ยเพราะหากมคี วามชดั เจนในงานแล้วกจ็ ะช่วยให้งานมีผลงานดตี าม ไปดว้ ย ผู้นำต้องเป็นผู้ชท้ี าง โดยการแยกอำนาจและหน้าทใ่ี หผ้ ใู้ ตบ้ ังคบั บญั ชา รวมทัง้ การกำหนดมาตรฐานการ ปฏบิ ตั เิ พือ่ สามารถประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านได้ 5) การประสานงาน (Coordinating) ในการทำงานส่วนใหญแ่ ลว้ การประสานงานของหนว่ ยงาน ตา่ ง ๆ รวมทง้ั การประสานงานในตำแหนง่ หนา้ ท่ีการงานถอื วา่ เป็นความจำเป็นและสำคญั อยา่ งมากในการ ปฏบิ ตั งิ าน ผู้นำหรอื หวั หนา้ งานจะทำหนา้ ทป่ี ระสานงานได้เปน็ อย่างดี เพราะมหี นา้ ท่ีทจี่ ะต้องรบั ผิดชอบใน หนว่ ยงานอยู่แลว้ หรือรวมไปถึงงานทท่ี ุกคนจะต้องอาศยั การทำงานทีเ่ ก่ยี วข้องกบั หัวหนา้ เป็นประจำ ดงั นัน้ ผู้นำ จะตอ้ งประสานงานปจั เจกบคุ คลกับกล่มุ เข้าดว้ ยกนั เพื่อบุคลากรจะไดท้ ำงานเปน็ ลักษณะอันหนงึ่ อันเดียวเพือ่ ประโยชน์ขององคก์ าร 6) การระดมความรว่ มมือ (Participating) ผนู้ ำต้องสามารถทำให้บคุ ลากรมคี วามร่วมมือกนั ใน การทำงาน โดยการจดั สภาพการทำงานใหส้ ัมพันธก์ นั ตอ้ งตรงตามความตอ้ งการของบคุ คากรและสรา้ ง บรรยากาศของความรว่ มมอื ชว่ ยเหลือซ่ึงกนั และกัน 7) การควบคุม (Controlling) คนเราสว่ นใหญ่ไม่ตอ้ งการทจี่ ะใหใ้ ครมาควบคมุ เรา แตใ่ นทาง ปฏิบัติงานแล้ว การควบคมุ สง่ิ ท่อี ยู่หา่ ง ๆ จะไดผ้ ลดตี ามมาในลกั ษณะของการตดิ ตามผลงาน 8) การทบทวนและการประเมนิ ผล (Reviewing and Evaluating) ผูน้ ำจะปฏิบตั งิ านกับ ผู้เก่ียวขอ้ ง ไม่เพยี งแตค่ วามพอใจเทา่ นน้ั ยังตอ้ งให้หนว่ ยงานนนั้ สามารถชว่ ยเหลือกัน พนักงานสว่ นใหญ่มี สมรรถภาพในการปฏบิ ตั งิ าน เป็นบคุ ลากรท่ีมีคณุ ภาพ ในการพิจารณาความดคี วามชอบตลอดระยะเวลาของการ ทำงานขงพนกั งานหรอื เจา้ หน้าท่ี ถอื เปน็ หนา้ ทส่ี ำคญั ประการหนง่ึ ของผูน้ ำ อันจะเปน็ การเพม่ิ ขวัญและกำลังใจใน การทำงาน การประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านทด่ี คี วรกระทำเป็นระยะและสามารถประเมินผลงานไดอ้ ย่างถูกต้องและ เปน็ ธรรมแลว้ ปัญหาในดา้ นการบริหารบคุ คลย่อมทจี่ ะลดนอ้ ยลง 9) การนำ (Leading) ผ้นู ำจะตอ้ งเป็นผูน้ ำของพนกั งาน ด้วยการกระต้นุ ใหท้ ำงานด้วยความเต็ม ใจและศลิ ปะในการจูงใจใหท้ ำงานดว้ ยทา่ ทมี ีคณุ ภาพทกุ คน 10) การทำงบประมาณ (Budgeting) ผ้นู ำจะต้องประเมินค่าตนเองว่าไดท้ ำใหห้ น่วยงานนน้ั เกิด ความเปน็ ปกึ แผ่น มคี วามสมานสามคั คใี นบรรดาพนกั งาน มีความมัน่ คงเพียงใด รวมทง้ั พิจารณาถงึ การใชเ้ วลา ความคิด ความสามารถ และพฤติกรรมตา่ ง ๆ เป็นการเอื้ออำนวยให้งานดำเนินไปตามหลักการงบประมาณทตี่ ั้งไว้ คณุ ลักษณะของความเป็นผู้นำ Kirkpatrick และ Locke (1990) ได้จดั องค์ประกอบของคณุ ลกั ษณะของความเป็นผู้นำ ซึง่ มอี ย่ดู ว้ ยกนั 7 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) แรงขับ (Driving) คือ ความปรารถนา อนั แรงกล้าท่ีจะประสบความสำเรจ็ อาศัยความ ทะเยอทะยานและความกระตอื รอื รน้ 2) ปรารถนาที่จะเป็นผนู้ ำ (Leader Ambition) คอื ความปรารถนาอันแรงกลา้ ทจี่ ะมี อทิ ธิพล และนำผู้อ่นื
3) ความซอ่ื สตั ยแ์ ละยืนหยดั ในความถกู ตอ้ ง (Trust in Honest and Right) คอื การเต็มไปด้วย ความไวใ้ จและปฏิสัมพันธท์ ่ีจรงิ ใจกบั ผู้ตามอยตู่ ลอดเวลา 4) ความเชอื่ มน่ั ในตนเอง (Self Confidence) 5) เชาว์ปัญญา (Intelligent) 6) ความรู้ ในงานที่เก่ยี วข้อง (Proficient Knowledge) 7) ความมน่ั ใจและการชอบเข้าสังคม (Social Satisfaction and Confidently) คอื การเป็น มติ รและเข้ากบั ผู้อนื่ ไดง้ า่ ยและมน่ั ใจในตัวเอง โบยาซิลย์ (Boyatzis 1982 : 29-31) ได้ดำเนนิ การศึกษาวจิ ัยในองคก์ ารทห่ี ลากหลายทงั้ ในองค์การ ภาครัฐและเอกชน พบว่า สมรรถภาพ (Competencies) ของผนู้ ำมคี วามสัมพันธ์กบั ประสิทธภิ าพในการจัดการ สมรรถภาพดงั กล่าวประกอบด้วย การจูงใจ (Motives) คุณลกั ษณะ (Traits) และทักษะ (Skills) จนิ ตภาพแหง่ ตน (Self-Image) และความรู้ (Knowledge) ซง่ึ ในด้านคุณลกั ษณะน้ัน ไดค้ น้ พบคณุ ลกั ษณะของผูน้ ำท่มี ปี ระสทิ ธิภาพ ดังต่อไปนี้ 1) มุ่งเนน้ ประสิทธิภาพ (Efficiency Orientations) 2) ใส่ใจกับผลกระทบท่ีจะเกดิ ขน้ึ ตามมา (Concern with Impact) 3) ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมที่แสดงถงึ ความคดิ ริเริ่มในการปฏบิ ตั ิส่ิงตา่ ง ๆ (Proactivity) 4) มีความเชอ่ื มั่นในตนเอง (Self-Confidence) 5) มีความสามารถในการสรา้ งกรอบความคดิ รวบยอดตอ่ สง่ิ ตา่ ง ๆ (Conceptualization) 6) มีความสามารถในการวินจิ ฉัยสงิ่ ต่าง ๆ โดยใช้ประโยชน์จากความคดิ รวบยอดต่าง ๆ (Diagnostic use of Concepts) 7) มอี ำนาจบารมที างสงั คม (Use of Socialized Power) 8) มกี ารบรหิ ารจดั การโดยอาศัยกระบวนการกลุม่ (Managing Group Process) จอยซ์ เมร่ี แคริส ดี ซา (Joyce Mary Claris D’Sa : 53) รูปแบบความเปน็ ผู้นำขึ้นอยู่กบั โครงสรา้ งที่ กำหนด 3 ประการ 1) ภาวะผู้นำการเปล่ียนแปลง 2) ความเปน็ ผู้นำในติดตอ่ สมั พนั ธ์ 3) พฤตกิ รรมผู้นำ ลเิ คิร์ท (Likert) ไดเ้ สนอ รูปแบบพฤตกิ รรมหรือแบบของผูน้ ำทม่ี ีผลต่อผู้ใตบ้ งั คบั บญั ชา 4 ระบบ ระบบที่ 1 เรียกวา่ เผด็จการเต็มรูป (Exploitative-Authoritative) ระบบนีผ้ ู้นำเป็นผูน้ ำแบบเผดจ็ การมาก มอี ำนาจสมบูรณแ์ บบ ผนู้ ำจะเช่อื และไว้ใจลูกนอ้ งน้อยมาก มักใช้ วธิ กี ารจูงใจให้ทำงานด้วยความกลัวและการลงโทษ และใหร้ างวลั เปน็ ครง้ั คราว เน้นการตดิ ต่อส่อื สารจากบนลงมา ล่าง การตัดสินใจเปน็ หนา้ ทขี่ องผูน้ ำเทา่ นนั้ ระบบที่ 2 เรียกวา่ เผด็จการใจดี (Benevolent-Authoritative) ผู้นำในระบบนี้ ผนู้ ำจะใชอ้ ำนาจอยา่ งมวี ธิ กี ารและศลิ ปะมากขนึ้ ผู้นำจะมคี วามเชื่อม่นั และศรทั ธาในผูใ้ ต้ บังคบั บญั ชา จูงใจด้วยรางวัลและการลงโทษบา้ ง ยนิ ยอมให้มีการตดิ ตอ่ ส่อื สารจากล่างขนึ้ ไปบน อกี ท้ังยังรับฟงั
ความคิดเหน็ ของลูกน้อง สำหรบั การตดั สนิ ใจก็มกี ารมอบหมายใหต้ ดั สนิ ใจบ้าง แตก่ อ็ ยู่ภายใต้การควบคมุ อยา่ ง ใกล้ชิด ระบบท่ี 3 เรยี กว่า ประชาธปิ ไตยแบบปรกึ ษา (Consultative System) ระบบน้ีเปน็ การปรกึ ษาหารอื โดยผนู้ ำจะใหค้ วามสำคญั แกผ่ ู้ใตบ้ งั คับบญั ชา แต่ยังไมเ่ ช่อื มน่ั และไว้ใจอย่าง สมบูรณ์ พยายามทจ่ี ะนำความคดิ ของผู้ใตบ้ งั คบั บญั ชามาพิจารณาดว้ ยในการปฏิบัตงิ าน ใช้รางวัลเป็นเครื่องจูงใจ และมกี ารลงโทษบ้างเป็นครงั้ คราว การติดตอ่ ส่ือสารในองค์การใชท้ ัง้ บนลงลา่ ง และจากลา่ งขึน้ ข้างบน นโยบาย เปิดกวา้ งสำหรบั การตดั สนิ ใจ แต่สว่ นใหญก่ ็จะตัดสนิ โดยผู้นำ นอกจากบางเร่ืองก็ยอมให้มกี ารตดั สนิ ใจในระดบั ลา่ ง ระบบที่ 4 เรียกวา่ ประชาธปิ ไตยแบบมีส่วนร่วม (Participative System) ระบบน้ี ผนู้ ำจะมีความเชือ่ มนั่ และศรทั ธาในตวั ผใู้ ตบ้ ังคบั บญั ชาสงู มากในทกุ ด้าน เนน้ การรว่ มมอื กันเป็น กล่มุ มีการจูงใจดว้ ยการใหร้ างวัลในรปู ของเงนิ และส่งเสริมให้กลุ่มมีความผูกพันกับองคก์ าร โดยการรว่ มกัน กำหนดเปา้ หมาย และประเมินความกา้ วหนา้ ของเป้าหมายน้ัน การติดตอ่ สอื่ สารใช้ทงั้ บนลงล่าง จากลา่ งข้ึนสู่ ข้างบน และข้างเคียงกับเพอ่ื นร่วมงานด้วย การตัดสนิ ใจสง่ เสรมิ ใหก้ ระทำโดยกลมุ่ คุณลักษณะทช่ี ว่ ยใหเ้ กิดประสิทธิผลของภาวะผู้นำหรอื ชว่ ยใหผ้ นู้ ำสามารถนำกลุ่มหรอื องค์กรไปสู่ ความสำเร็จ มกั ปรากฏในตวั ของผนู้ ำทุกคน ซ่ึงสามารถจำแนกได้ 5 ดา้ น ดงั นี้ 1) คณุ ลักษณะด้านร่างกาย ประกอบดว้ ย มรี ่างกายสมบรู ณแ์ ข็งแรง มีพลังและความทนทานของรา่ งกาย มีบคุ ลกิ ภาพท่ดี ี และแสดงออกทเ่ี หมาะสม 2) คุณลักษณะด้านอารมณแ์ ละจติ ใจ ประกอบดว้ ย มีความตนื่ ตวั อยเู่ สมอ ความสามารถในการควบคมุ อารมณไ์ ด้ดี มีความเช่ือมน่ั ในตนเอง มคี วามทะเยอทะยานสคู่ วามสำเรจ็ เตม็ ใจทจี่ ะรบั ผิดชอบ มคี วามกลา้ เผชิญ กับความยากลำบาก การมคี วามเดด็ ขาด 3) คุณลกั ษณะดา้ นสงั คม ประกอบดว้ ย เตม็ ใจทจ่ี ะทำงานร่วมกับผู้อืน่ มสี ถานภาพเปน็ ท่ยี อมรบั มี ความสามารถเขา้ สงั คม มีความสามารถปรบั ตวั เขา้ กับประสบการณต์ ่าง ๆ ได้ มคี วามพร้อมที่จะใหค้ วามชว่ ยเหลือ มคี วามเห็นอกเหน็ ใจ เชอ่ื ถือและให้การยอมรบั ผู้อื่น มีฐานะทางเศรษฐกิจ มีความสามารถในการปกปอ้ งคมุ้ ครอง และมอี ำนาจบารมีทางสังคม 4) คุณลักษณะดา้ นสตปิ ญั ญา ประกอบดว้ ย มีความสามารถทางสตปิ ญั ญา มีการตดั สนิ ใจดี ความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ เฉลียวฉลาดมไี หวพรบิ มีตินตาการ มีความสามารถในการสรา้ งกรอบแนวคิดรวบยอด มีความสามารถ ในการวินิจฉยั 5) คุณลกั ษณะด้านคณุ ธรรม ประกอบด้วย อดทนอดกลน้ั ความซอ่ื สัตย์ ความมานะ ความรบั ผดิ ชอบ ความยตุ ิธรรม ความไมเ่ หน็ แก่ตวั และความเสยี สละ กล่าวโดยสรุปแล้ว บทบาทหน้าทสี่ ำคญั ของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา คือ 1) บทบาทในฐานะผู้บรหิ าร 2) บทบาทในฐานะผ้นู ำทางวิชาการ 3) บทบาทในฐานะเป็นหวั หน้าของกล่มุ
นอกจากนี้ ผ้บู รหิ ารในฐานะผนู้ ำในสถานศกึ ษาน้นั มีภารกจิ ในการบรหิ ารงานวชิ าการ งบประมาณ บคุ คล และการบริหารกจิ การตา่ ง ๆ ทเี่ กีย่ วกบั นกั เรียน ซึง่ ผบู้ ริหารจะตอ้ งรับผิดชอบใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านบรรลุเปา้ หมาย โดยผู้บรหิ ารมีหนา้ ทป่ี ระสานและอำนวยความสะดวกในการปฏิบตั ิงาน พฤติกรรมผ้นู ำ สธุ าสินี เพชรกระจ่าง (2559 : 98-101) พฤติกรรมผ้นู ำ (Leadership Behavior) หมายถึง การกระทำใด ๆ ที่แสดงถงึ ความสามารถในการนำบคุ คลอื่น ๆ ด้วยการจงู ใจ หรอื ใชอ้ ทิ ธิพลใหผ้ อู้ ่นื กระทำตามทต่ี ้องการดว้ ย ความเตม็ ใจ เพอื่ ใหส้ ามารถบรรลุเป้าหมายตามทต่ี อ้ งการ สามารถขจดั ปญั หาขอ้ ขัดแยง้ ทเ่ี กิดข้ึนได้ โดยใช้ ความรู้ ทักษะในการสอ่ื สาร วสิ ัยทัศน์ และสตปิ ญั ญา พฤติกรรมผูน้ ำของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ประกอบดว้ ย 1. พฤตกิ รรมผนู้ ำด้านใหค้ ำแนะนำบุคลากรทข่ี าดประสบการณ์ 2. พฤตกิ รรมผนู้ ำด้านสนบั สนุนบคุ ลากรทร่ี บั ผิดชอบงานท่ีมคี วามสำคญั 3. พฤติกรรมผู้นำด้านชแี้ นะบคุ ลากรพรอ้ มกำหนดบทบาทอยา่ งอสิ ระ 4. พฤติกรรมผู้นำด้านเขา้ ใจสถานการณ์ 5. พฤตกิ รรมผู้นำด้านขอคำปรกึ ษาจากผรู้ ู้ 6. พฤตกิ รรมผู้นำดา้ นเน้นการวางแผน 7. พฤตกิ รรมผ้นู ำดา้ นตกั เตอื นและสอดสอ่ งบคุ ลากรทม่ี พี ฤตกิ รรมไมเ่ หมาะสม 8. พฤติกรรมผ้นู ำด้านใหค้ ำแนะนำเมอ่ื เกดิ ปญั หา สรปุ ผลการศกึ ษาพฤติกรรมความเปน็ ผู้นำของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา ผู้บริหารสถานศึกษา ไมว่ า่ จะปฏิบัตงิ านอย่ใู นองคก์ รใด หรอื สงั กัดใด ก็จะตอ้ งใหค้ วามสำคญั และ แสดงออกซ่งึ พฤตกิ รรมผูน้ ำอยเู่ สมอ เพ่ือใหอ้ งค์การน้นั ขบั เคลือ่ นไปอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ควรใหค้ วามสำคญั กบั การให้คำแนะนำกบั บคุ ลากรเมอ่ื เกดิ ปญั หา โดยการวิเคราะหป์ ัญหาหรอื สถานการณค์ วรเป็นระบบ รวดเรว็ ถูกต้อง และช้แี นะแนวทางทก่ี ระชบั เขา้ ใจงา่ ย เพ่อื ใหบ้ คุ ลากรสามารถจัดการกับปัญหาไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง มี ความรูค้ วามสามารถ ประพฤตติ นเพ่ือให้เกิดประโยชนแ์ ก่สว่ นรวม กระทำตนเปน็ แบบอย่างทดี่ ใี นการอทุ ศิ เวลา เสียสละ มจี ิตสาธารณะ มคี วามชดั เจนในการปฏิบัติ มองการณไ์ กลและม่งุ อนาคต มีความกระตอื รือรน้ มุ่งม่ันใน การปฏบิ ตั งิ าน ตัดสินใจโดยคำนึงถึงผลทตี่ ามมาทางด้านศลี ธรรม และจริยธรรม ใหเ้ กียรตกิ ับผปู้ ฏิบตั ิงาน มกี าร กระจายอำนาจและความรบั ผิดชอบใหก้ ับผ้รู ่วมงาน รู้จกั ชกั จูงผูใ้ ต้บงั คบั บญั ชาใหท้ มุ่ เทการทำงาน กระตนุ้ ให้ครู เกิดกำลังใจในการปฏบิ ัติงาน เปิดโอกาสใหผ้ ู้ร่วมงานปฏิบตั ิงานอย่างเตม็ ความสามารถ ผู้บริหารจะสามารถบรหิ ารสถานศึกษาใหป้ ระสบผลสำเร็จ จะตอ้ งมปี ระสบการณใ์ นการบริหารงาน มี จริยธรรม มคี วามคดิ รเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ ซง่ึ จะกอ่ ให้เกิดการเปล่ยี นแปลงดีขึน้ ท้งั ของสถานศกึ ษาและสังคม มี ความอดทน ขยันหม่ันเพียร มคี วามทะเยอทะยานในการปฏบิ ตั งิ าน มคี วามซ่ือสตั ย์และความยุตธิ รรม มี ความสามารถในการสอื่ สารใหเ้ พื่อนร่วมงานหรอื ผ้ใู ตบ้ งั คบั บัญชาเขา้ ใจบทบาทของตนเอง และกระต้นุ ใหเ้ กดิ ความมุง่ มน่ั ปฏบิ ัตงิ านใหล้ ลุ ่วง
บรรณานุกรม ยพุ ดี คารว์ (2560). การศกึ ษาพฤติกรรมผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา ตามความตอ้ งการของครูสงั กดั สำนกั งานเขตธนบรุ ี กรงุ เทพมหานคร. วทิ ยานพิ นธศ์ ึกษาศาสตรมหาบัญฑิต สาขาการบรหิ าร การศกึ ษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง. สายฝน อกแผ่, วีรพันธุ์ ศริ ิฤทธ์ิ, และจนิ ตนา จันทร์เจริญ (2557). พฤติกรรมภาวะผ้นู ำของผูบ้ รหิ าร สถานศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานในสงั กัดสำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษา ประถมศึกษาเชียงราย เขต 3. วทิ ยานิพนธศ์ กึ ษาศาสตรมหาบัญฑติ สาขาวชิ าการบริหารการศกึ ษา บณั ฑติ วทิ ยาลัย วทิ ยาลยั เชียงราย จงั หวัดเชียงราย. สลลิ รัตน์ ดว้ งทองกลุ , บรรจง เจรญิ สุข, และวรรณะ บรรจง (2559). พฤติกรรมผนู้ ำของผบู้ รหิ ารทสี่ ง่ ผลต่อ ความสำเร็จในการบริหาร จัดการสถานศึกษา สังกัดสำนกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษา ประถมศึกษา สรุ าษฎร์ธานี เขต 3. สำนักวทิ ยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ; มหาวิทยาลยั ราชภัฏสรุ าษฎรธ์ านี. สธุ าสินี เพชรกระจ่าง (2559). พฤติกรรมผู้นำของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษากับความผูกพนั ตอ่ องคก์ ารของครู สังกัดสำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาสมุทรสงคราม. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัญฑิต สาขาการบริหารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา, พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แกไ้ ข เพ่ิมเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2553, เข้าถงึ เมอื่ วันท่ี 31 มกราคม 2557, เขา้ ถึงได้จาก http://media.wix.com/ugd/2cef27_c7c9894bd94e7b6e42e48f128de37069. pdf ,2. สำราญ แสงจันทร.์ (2551). ศกึ ษาพฤติกรรมผ้นู ำของผูอ้ ำนวยการสถานศกึ ษาตามความต้องการของครู อำเภอนาทวี สงั กัดสำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาสงขลา เขต 3. วทิ ยานิพนธ์ศกึ ษามหาบญั ฑิต สาขา การบริหารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ . Joyce Mary Claris D’Sa and Dr. G. Sheela (2015). School Effectiveness In Relation to Leadership Behaviour. University of Mysore, Manasagangothri, Mysore. Muhammad Akram, Hassan Mobeen Alam, Liaqat Ali, Muhammad Muazzam Mughal (2012). How Leadership Behaviors Affect Organizational Performance in Pakistan. Journal of Economics and Behavioral Studies, 4(6), 354 - 363. Retrieved from https://ojs.amhinternational.com/index.php/jebs/article/view/335/335. Waheed Bahadur, Amir Bano, Zarina Waheed and Abdul Wahab (2017). Leadership Behavior in High- Performing Government Boys Secondary Schools in Quetta: A Grounded Theory Analysis. Journal of Education and Educational Development, 4(2), 153–176. Retrieved from https://files.eric.ed.gov/fulltext/EJ1161482.pdf. Vilma S. Pricellas, Roland A. Niez, Reggie N. Nierra, and Allan Paul U. Tubis (2016). Effectiveness of School Administrators’ Leadership Skills and Behaviors and their School Performance in Area III Leyte Division, Philippines. Journal of Business and
Management, 18(8), 106–126. Retrieved from https://pdfs.semanticscholar.org/697a/34b91edd1e07bd4552f5770f61c4f198c107.pdf. Yi-Gean Chen, Jao-Nan Cheng, and Mikio Sato (2017). Effects of School Principals’ Leadership Behaviors: A Comparison between Taiwan and Japan. Department of Early Childhood Education, Faculty of Education, National University of Tainan, Taiwan.
นายศรี สุ วรรณ เปาะทอง วิ ทยาลั ยเทคโโลยี ภาคใต้
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: