Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore BOPHIE Employee Handbook & Regulation 2021_Master

BOPHIE Employee Handbook & Regulation 2021_Master

Published by Flurgie, 2021-10-17 07:53:56

Description: BOPHIE Employee Handbook & Regulation 2021_Master

Search

Read the Text Version

BOPHIE EMPLOYEE HANDBOOK

สารบญั หมวด หน้า 1. บทท่วั ไป 3 2. คาจากดั ความ 4 3. การจ้างงาน 7 4. วนั ทางาน เวลาทางานปกติ เวลาพกั และการบันทกึ เวลา 11 5. วนั หยดุ และหลักเกณฑ์การหยุด 13 6. หลักเกณฑ์การทางานล่วงเวลา และการทางานในวันหยุด 15 7. วนั และสถานท่จี ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวนั หยดุ 17 8. วันลา และหลกั เกณฑ์การลา 18 9. วินัย และโทษทางวินัย 22 10. การร้องทุกข์ 26 11. การพ้นสภาพการเป็ นพนักงาน ค่าชดเชย และค่าชดเชยพิเศษ 28 12. สวัสดกิ าร 32 -1-

หมวด 1 บทท่ัวไป 1. ข้อบังคับเกี่ยวกับการทางานฉบับนีเ้ รียกว่า “ข้อบงั คับเกี่ยวกับการทางาน บริษัท โบฟี่ จากัด พ.ศ. 2564\" 2. ข้อบงั คบั เก่ียวกบั การทางานฉบบั นีม้ ผี ลใช้บงั คบั นบั แต่วนั ประกาศให้พนกั งานทราบเป็นต้นไป และให้ พนกั งานทุกคนปฏิบตั ิตามอย่างเคร่งครัด เพ่ือความเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อการเสริมสร้างแรงงานสมั พันธ์ที่ดี และเพ่อื ให้ผลงานสว่ นรวมของบริษทั ฯ มงุ่ สคู่ วามสาเร็จอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 3. ในกรณีทขี่ ้อบงั คบั เกี่ยวกบั การทางาน บริษทั โบฟ่ี จากดั พ.ศ. 2564 นที ้ าขนึ ้ ไว้หลายภาษา ถ้าข้อความ หรือความหมายในหลายภาษาเหลา่ นนั้ ขดั หรือแย้งกนั ให้ถือความตามฉบบั ภาษาไทยเป็นสาคญั 4. บรรดาหลกั เกณฑ์ ข้อบงั คบั หรือระเบียบปฏิบตั ิอื่นใดที่บริษัทฯ และพนกั งานมีสิทธิและหน้าที่ท่ีต้อง ปฏิบตั ิต่อกนั แต่มิได้ระบุไว้ในข้อบงั คับเกี่ยวกับการทางานฉบบั นี ้ ให้ยึดถือปฏิบตั ิตามพระราชบญั ญัติค้มุ ครอง แรงงาน และกฎหมายแรงงานอ่ืนที่เกี่ยวข้องทกุ ประการ -2-

หมวด 2 คาจากัดความ “บริษัทฯ” หมายความว่า บริษัท โบฟี่ จากัด ผู้ซ่ึงตกลงรับพนักงานเข้าทางานโดยจ่ายค่าจ้างให้ และ หมายความรวมถึงผู้มีอานาจกระทาการแทนบริษัทฯ และผู้ซ่ึงได้รับมอบหมายจากผู้มีอานาจกระทาการแทน บริษทั ฯ ให้กระทาการแทนด้วย “พนักงาน” หมายความว่า ผ้ซู งึ่ ตกลงทางานให้แก่บริษทั ฯ โดยได้รับคา่ จ้างซง่ึ จาแนกได้ดังนี ้ 1. พนักงานระดับบริหาร หมายความว่า พนักงานท่ีได้รับมอบหมายจากบริษัทฯ ให้มีอานาจกระทา การแทนบริษัทฯ สาหรับกรณีการจ้างงาน การประเมินผล การให้บาเหน็จ การลงโทษ การเลิกจ้าง การวินิจฉัยชี ้ ขาด หรือกระทาการใดๆ ตามทไ่ี ด้รับมอบหมายจากบริษทั ฯ 2. พนักงานระดับบังคบั บัญชาหรือหัวหน้างาน หมายความวา่ พนกั งานผ้มู ีอานาจในการสงั่ การตาม สายงาน มอบหมายงาน ควบคุมดูแลการทางานของพนักงาน ให้คาแนะนา และบังคับบัญชาให้พนักงาน ผ้ใู ต้บงั คบั บญั ชาปฏบิ ตั ิตามกฎ คาสงั่ ประกาศ ระเบยี บ หรือนโยบายอ่นื ๆ ของบริษัทฯ 3. พนักงานทดลองงาน หมายความว่า พนักงานท่ีบริษัทฯ ได้ตกลงว่าจ้างโดยได้ทาสญั ญาจ้างไว้ ตงั้ แต่เมื่อเริ่มจ้างว่า ให้ทดลองงานภายในระยะเวลาที่บริษัทฯ กาหนดไว้ตามลกั ษณะและสภาพของงานแต่ละ ประเภท 4. พนักงานประจา หมายความวา่ พนกั งานที่ได้ผา่ นพ้นระยะเวลาการทดลองงานและการประเมินผล การปฏิบตั ิงานเป็นที่น่าพอใจตามเกณฑ์ท่ีบริษัทฯ กาหนด และได้ตกลงว่าจ้างเป็นพนักงานประจาตามระเบียบ การทดลองงานท่บี ริษทั ฯ กาหนดไว้ 5. พนักงานรายเดือน หมายความว่า พนกั งานท่ีบริษัทฯ ได้ตกลงว่าจ้างโดยได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน ไม่วา่ จะเป็นพนกั งานทดลองงงาน หรือเป็นพนกั งานประจา 6. พนักงานรายวัน หมายความวา่ พนกั งานที่บริษทั ฯ ได้ตกลงว่าจ้างโดยได้รับคา่ จ้างเป็นรายวนั ไม่วา่ จะเป็นพนกั งานทดลองงงาน หรือเป็นพนกั งานประจา -3-

7. พนักงานตามสัญญาจ้างท่ีมีกาหนดระยะเวลาการจ้างท่ีแน่นอน หมายความว่า พนักงานท่ี บริษัทฯ ได้ตกลงว่าจ้างสาหรับกรณีการจ้างงาน ในลกั ษณะหน่ึงลกั ษณะใด ดงั ตอ่ ไปนี ้ ก. การจ้างงานในโครงการเฉพาะท่ีมิใช่ปกติธุรกิจ หรือการค้าของบริษัทฯ ซง่ึ มรี ะยะเวลาเริ่มต้นและ สนิ ้ สดุ ของงานที่แน่นอน หรือ ข. การจ้างงานอนั มลี กั ษณะเป็นครัง้ คราวทมี่ กี าหนดการสนิ ้ สดุ หรือความสาเร็จของงาน หรือ ค. การจ้างงานท่ีเป็นไปตามฤดกู าล และได้จ้างในชว่ งเวลาของฤดกู าลนนั้ ทงั้ นี ้งานในลกั ษณะดงั กล่าวข้างต้น จะต้องแล้วเสร็จภายในเวลาไม่เกินสองปี โดยบริษัทฯ และพนกั งาน ได้ทาสญั ญาเป็นหนงั สือไว้ตงั้ แต่เมอ่ื เริ่มจ้าง “วนั ทางาน” หมายความวา่ วนั ทกี่ าหนดให้พนกั งานทางานตามปกติ “วันหยุด” หมายความว่า วันที่กาหนดให้พนักงานหยุดประจาสัปดาห์ หยุดตามประเพณี หรือหยุด พกั ผ่อนประจาปี “วันลา” หมายความว่า วนั ที่พนกั งานลาป่ วย ลาเพ่ือทาหมนั ลาเพื่อกิจธุระอนั จาเป็น ลาเพ่ือรับราชการ ทหาร ลาเพ่ือคลอดบุตร ลาเพ่ือการฝึกอบรมหรือพัฒนาความรู้ความสามารถ รวมถึงวันลาท่ีบริษัทฯ จัดให้ นอกเหนอื ทกี่ ฎหมายกาหนด “ค่าจ้าง” หมายความว่า เงินที่บริษัทฯ และพนักงานตกลงกันจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทางานตาม สญั ญาจ้างสาหรับระยะเวลาการทางานปกติเป็นรายวัน รายเดือน หรือระยะเวลาอื่น และให้หมายความรวมถึง เงินที่บริษัทฯ จ่ายให้แก่พนักงานในวันหยุดและวันลาท่ีลกู จ้างมิได้ทางาน แต่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับตามข้อบังคับ เก่ียวกบั การทางานฉบบั นี ้หรือตามพระราชบญั ญัตคิ ้มุ ครองแรงงานฯ “ค่าจ้างในวนั ทางาน” หมายความวา่ คา่ จ้างท่จี ่ายสาหรับการทางานเต็มเวลาการทางานปกติ “การทางานล่วงเวลา” หมายความว่า การทางานนอกหรือเกินเวลาทางานปกติหรือเกนิ ชว่ั โมงทางานใน แตล่ ะวนั ตามทบ่ี ริษทั ฯ และพนกั งานตกลงกนั ในวนั ทางาน หรือวนั หยดุ แล้วแตก่ รณี “ค่าล่วงเวลา” หมายความว่า เงินท่ีบริษัทฯ จ่ายให้แก่พนกั งานเป็นการตอบแทนการทางานลว่ งเวลาใน วนั ทางาน “ค่าทางานในวันหยุด” หมายความว่า เงินท่ีบริษัทฯ จ่ายให้แก่พนกั งานเป็นการตอบแทนการทางานใน วนั หยดุ -4-

“ค่าล่วงเวลาในวันหยุด” หมายความว่า เงินท่ีบริษัทฯจ่ายให้แก่พนกั งานเป็นการตอบแทนการทางาน ลว่ งเวลาในวนั หยดุ “ค่าชดเชย” หมายความว่า เงนิ ทบ่ี ริษัทฯ จา่ ยให้แก่พนกั งานเมื่อเลิกจ้างนอกเหนือ จากเงินประเภทอื่นซงึ่ บริษทั ฯ ตกลงจา่ ยให้แกพ่ นกั งาน “ค่าชดเชยพิเศษ” หมายความว่า เงินท่ีบริษัทฯ จ่ายให้แก่พนกั งานเมื่อสญั ญาจ้างสิน้ สดุ ลงเพราะมีเหตุ กรณีพิเศษ ทก่ี าหนดไว้ในข้อบงั คบั เกี่ยวกบั การทางานฉบบั นี ้ หรือตามพระราชบญั ญัติค้มุ ครองแรงงานฯ -5-

หมวด 3 การจ้างงาน 1. หลกั เกณฑ์การจ้างงาน บริษัทฯ จะพิจารณาคณุ สมบตั ิของผ้สู มคั รในด้านความรู้ ความสามารถ ทศั นคติ ความประพฤติ ประวตั ิ การศึกษา ประวตั ิการทางาน ประวตั ิการต้องโทษ ความสามารถพิเศษ และความเหมาะสมกบั ตาแหน่งงานนนั้ ๆ โดยพิจารณาจากข้อมูลท่ีผู้สมัครได้กรอกไว้ในใบสมคั รงาน หรือที่ยื่นรวมไว้กับใบสมคั รงานและผลการทดสอบ จากแบบทดสอบที่บริษัทฯ ได้จัดทาขึน้ ตามลักษณะและประเภทของงานในตาแหน่งนัน้ ๆ เป็นเกณฑ์ในการ พจิ ารณาคดั เลอื กบคุ คลเข้าทางานกบั บริษทั ฯ เมื่อใดกต็ ามท่ีบริษัทฯ ตรวจพบว่าข้อมลู ท่ผี ้สู มคั รได้กรอก หรือยื่นไว้ในใบสมคั รงานเป็นความเท็จ บริษัทฯ จะไม่ว่าจ้างผ้สู มคั รคนนนั้ เข้าเป็นพนกั งาน หรือถ้าบริษัทฯ ตรวจพบข้อความเท็จเหลา่ นนั้ ภายหลงั ท่ีรับผ้สู มคั รคน นนั้ เข้าทางานแล้ว บริษทั ฯ ถือว่าเป็นการกระทาความผิดทางวินยั ร้ายแรง และบริษัทฯ มสี ิทธิท่ีจะเลกิ จ้างพนกั งาน ผ้นู นั้ ได้ทนั ที 2. หลกั ปฏิบตั ิก่อนการเร่ิมงาน ผ้สู มคั รท่ีผ่านการพิจารณาคณุ สมบตั ิและได้รับการคดั เลือกให้เข้าทางานกบั บริษัทแล้วตามข้อ 1. จะต้อง ปฏิบตั ิตามหลกั เกณฑ์ และเงอื่ นไขดงั ต่อไปนี ้ 2.1 การตรวจสุขภาพ ผ้สู มคั รที่ได้รับการคดั เลือกให้เข้าทางานกบั บริษัทฯ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ กบั สถานพยาบาลที่บริษัทฯ กาหนด และตามรายละเอียดที่ทางบริษัทฯ ได้แจ้งไว้แล้วก่อนการเข้าทางาน และต้อง นาเอกสารใบรับรองแพทย์ แสดงรายละเอียดการตรวจสขุ ภาพนนั้ มาย่ืนกับบริษัทฯ ก่อนการเร่ิมงาน ซึ่งได้แก่ผล การตรวจดงั ตอ่ ไปนี ้ ก. ตรวจร่างกายทว่ั ไปโดยอายรุ แพทย์ (Physical Examination) ข. ตรวจวดั สายตา ตาบอดสี (Vision Test) ค. ตรวจวดั ดชั นีมวลกาย (BMI) ง. ตรวจความสมบรู ณ์ของเลือด (CBC) จ. ตรวจปัสสาวะ (Urine Examination) ฉ. ตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ (Methamphetamine Screening) ฌ. เอกซเรย์ปอด (Chest X-Ray) -6-

หากพบว่าผ้สู มคั รที่บริษัทฯ จะตกลงทาสญั ญาจ้างเพ่อื รับเข้าทางานกบั บริษทั ฯ มปี ัญหาด้านสขุ ภาพ เป็น โรคประจาตวั เป็นโรคติดต่อหรือเป็นโรคอ่ืนๆ ท่ีทางสถาน พยาบาลรับรอง หรือที่บริษัทฯ เห็นว่าไม่สามารถที่จะ ปฏิบตั ิงานได้ หรืออาจทาให้อาการทรุดหนกั กว่าเดิมหากรับเข้าทางาน บริษัทฯ มีสิทธิท่ีจะไมว่ ่าจ้างผ้สู มคั รคนนนั้ เข้าเป็นพนกั งานได้ 2.2 การส่งหลักฐาน ผู้สมคั รท่ีบริษัทฯ ตกลงว่าจ้างเข้าทางานแล้ว จะต้องส่งเอกสารต่างๆ ดงั ต่อไปนี ้ ให้แกบ่ ริษทั ฯ เพ่ือเกบ็ ไว้เป็นหลกั ฐานแสดงการเป็นพนกั งานของบริษทั ฯ 2.2.1 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นกนั แดด ขนาด 1×1\" จานวนหนึ่งรูป โดยถ่ายไว้ไม่ เกิน 6 เดือน 2.2.2 สาเนาบตั รประจาตวั ประชาชน 2.2.3 สาเนาทะเบียนบ้าน 2.2.4 หลกั ฐานทางการศกึ ษา 2.2.5 หลกั ฐานแสดงสถานภาพทางทหาร (ชาย) 2.2.6 หนงั สือรับรองการทางานหรือฝึกงาน (กรณีเคยทางานหรือฝึกงานมาก่อน) 2.2.7 สลปิ เงินเดือนลา่ สดุ 2.2.8 หลกั ฐานผลการสอบวดั ระดบั ภาษาองั กฤษ หรือ ภาษาอ่นื ๆ (ถ้ามี) 2.2.9 สาเนาแสดงเลขท่บี ญั ชอี อมทรัพย์ของธนาคารไทยพาณิชย์ 2.2.10 ใบรับรองแพทย์ ซงึ่ ได้รับจากการตรวจสขุ ภาพตามข้อ 2.1 2.2.11 เอกสารอ่นื ๆ (ถ้ามี) 3. การทาสัญญาจ้าง เมื่อบริษัทฯ ตกลงว่าจ้างผู้สมคั รคนใดเข้าเป็นพนักงานแล้ว บริษัทฯ จะจัดทาสญั ญาจ้างขึน้ จานวนสอง ฉบบั มีข้อความถูกต้องตรงกนั เพ่ือเป็นหลกั ฐานในการจ้างงานโดยในสญั ญาจ้างจะระบุถึงตาแหน่งงานที่ทา วนั เร่ิมงาน ระยะเวลาการทดลองงาน อตั ราค่าจ้าง หน่วยงานท่ีสงั กดั ตลอดจนเงื่อนไขและข้อตกลงอ่ืนๆ ในการจ้าง งาน โดยบริษทั ฯ และพนกั งานจะเกบ็ รักษาสญั ญาจ้างดงั กลา่ วไว้ฝ่ายละหน่งึ ฉบบั -7-

4. การทดลองงาน และการบรรจุ 4.1 เม่ือบริษัทฯ ตกลงว่าจ้างผ้สู มคั รคนใดเข้าเป็นพนกั งานแล้ว พนกั งานคนนนั้ จะต้องทดลองงานเป็น ระยะเวลาไม่เกิน 119 วนั หรือกาหนดระยะเวลาอ่ืนตามหลกั เกณฑ์และเงอ่ื นไขที่บริษัทฯ กาหนดไว้ในสญั ญาจ้าง ทไี่ ด้ตกลงไว้กบั พนกั งานตงั้ แตเ่ ม่อื เริ่มจ้าง 4.2 ก่อนครบกาหนดระยะเวลาทดลองงานตามข้อ 4.1 บริษัทฯ จะประเมินผลการปฏิบัติงานโดย ผ้บู งั คบั บญั ชาต้นสงั กดั หากผลการปฏิบตั ิงาน ทศั นคติ ความรู้ความ สามารถ ความขยนั สถิติการมาปฏิบตั ิงาน และความประพฤติเป็นท่ีน่าพอใจ บริษัทฯ จะแจ้งการบรรจุงานเป็นหนังสือให้พนักงานผู้นัน้ ทราบ และว่าจ้าง พนกั งานผู้นนั้ ไว้เป็นพนักงานประจาของบริษัทฯ ต่อไป โดยพนกั งานจะได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ ตามทบี่ ริษทั ฯ กาหนดไว้ทกุ ประการ หากผลการปฏิบตั ิงาน ทศั นคติ ความรู้ ความสามารถ ความขยนั สถติ กิ ารมาปฏิบตั ิงานและความ ประพฤติไม่เป็นท่ีน่าพอใจ บริษัทฯ มีสิทธิที่จะเลิกจ้างพนักงานผู้นัน้ ได้โดยการบอกกล่าวล่วงหน้า 30 วันตาม กฎหมาย โดยพนกั งานจะได้รับสิทธิทพี่ งึ มพี งึ ได้ตามกฎหมายแรงงานทกุ ประการ 4.3 ในกรณีที่ลักษณะหรือสภาพของงานในบางตาแหน่งต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ หรือศึกษางานที่ มากกว่าพนกั งานในตาแหน่งงานอื่นบริษัทฯ อาจทาข้อตกลงกบั พนกั งาน ให้มีระยะเวลาการทดลองงานเกินกว่า 119 วนั กไ็ ด้ 4.4 พนกั งานตามสญั ญาจ้างที่มีกาหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน จะไม่มีการทดลองงาน เนื่องจาก พนกั งานประเภทนีเ้ มื่อครบกาหนดระยะเวลาการจ้างแล้วสญั ญาจ้างถือเป็นอนั สิน้ สดุ ลงโดยไม่จาต้องมีการบอก กลา่ วลว่ งหน้า และจะไม่ได้รับคา่ ชดเชย ทงั้ นีต้ ามหลกั เกณฑ์ที่กาหนดไว้ในพระราชบญั ญัตคิ ้มุ ครองแรงงานฯ 4.5 สาหรับพนกั งานที่มีการทดลองงานแตผ่ ลงานยงั ไม่เป็นท่ีน่าพอใจ ผ้บู งั คบั บญั ชาหรือหวั หน้างานต้น สงั กดั อาจร้องขอให้บริษัทฯ ขยายระยะเวลาทดลองงานออกไปได้อีกตามความเหมาะสม เพื่อให้พนกั งานผ้นู นั้ ได้มี โอกาสแก้ไขปรับปรุงตนเองให้ดีขึน้ เพ่ือโอกาสในการบรรจุเข้าเป็นพนักงานประจาของบริษัทฯ ต่อไป ทัง้ นีใ้ น ระยะเวลาไม่เกิน 119 วัน และเมื่อครบกาหนดระยะเวลาทดลองงานในครัง้ หลงั นีแ้ ล้ว ผลการปฏิบตั ิงานของ พนกั งานยังไม่เป็นท่ีน่าพอใจ บริษัทฯ จะเลิกจ้างพนักงานผู้นนั้ โดยที่บริษัทฯ จะปฏิบตั ิให้ถูกต้องตามกฎหมาย แรงงานทกุ ประการ -8-

5. หลักประกัน เมื่อปรากฏว่าตาแหน่งงานของพนกั งาน ที่บริษทั ฯ ตกลงรับเข้าทางานมลี กั ษณะ หรือสภาพของงาน ท่ีพนกั งานต้องรับผิดชอบเก่ียวกบั การเงิน หรือทรัพย์สินของบริษัทฯ พนกั งานในตาแหน่งนนั้ จะต้องมีหลกั ประกนั การทางาน หรือหลกั ประกนั ความเสียหายในการทางานเป็นประกันให้ไว้แก่บริษัทฯ ซงึ่ อาจเป็นเงิน ทรัพย์สินอื่น หรือการคา้ ประกนั ด้วยบคุ คลอย่างใดอย่างหน่งึ ตามท่ีบริษัทฯ และพนกั งานตกลงกนั โดยบริษทั ฯ จะจดั ทาหนงั สือ สญั ญาคา้ ประกันเพื่อเป็นหลกั ฐานจานวนสามฉบบั ซ่ึงบริษัทฯ พนักงาน และผู้คา้ ประกันจะเก็บรักษาหนังสือ สญั ญาคา้ ประกนั ไว้ฝ่ายละหน่งึ ฉบบั ตาแหน่งงานท่ีบริษัทฯ มีสิทธิเรียก รับหลกั ประกนั การทางาน หรือหลกั ประกนั ความเสียหายในการ ทางานตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลกั เกณฑ์และวิธีการท่ีกาหนดไว้ในกฎกระทรวง ประกาศกระทรวงแรงงานฯ และกฎหมายแรงงานอ่นื ท่เี กี่ยวข้อง 6. การโยกย้ายและการเปล่ียนตาแหน่งงาน เพือ่ ความเหมาะสมทางด้านการบริหารและประสิทธิภาพในการทางาน บริษัทฯ มีอานาจท่ีจะแตง่ ตงั้ หรือโยกย้ายพนักงานให้ไปปฏิบัติงานในหน่วยงานใด หรือในตาแหน่งงานใดๆ หรือจะเปล่ียนแปลงแก้ไขใน ลกั ษณะงานของพนกั งาน หรือจะมอบหมายให้พนักงานเดินทางไปทางาน ณ สถานที่ใดๆ ก็ได้ตามความจาเป็น และเหมาะสมกับนโยบายการบริหารงานหรือการดาเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยไม่เป็นการลดค่าจ้างและระดับ ตาแหนง่ ของพนกั งานลง 7. การปรับเล่ือนระดับตาแหน่งงาน พนกั งานทุกคนมีสิทธิได้รับการพิจารณา เพื่อการปรับเล่ือนระดับตาแหน่งงาน หรือค่าตอบแทนท่ี นอกเหนือจากการประเมินผล การพิจารณาปรับขึน้ เงินเดือน หรือค่าจ้างประจาปีได้หากปรากฏว่าผลการ ปฏิบตั ิงานของพนกั งานคนนนั้ เป็นทีน่ ่าพอใจ และปรากฏให้เห็นเดน่ ชดั มีความรู้ความสามารถในงานทีร่ ับผิดชอบ มีทัศนคติที่ดีต่อองค์กรและเพื่อนร่วมงาน มีความเคารพต่อผู้บังคับบัญชา มีความขยันขันแข็งในการทางาน ตลอดจนมีความประพฤติเรียบร้อย เป็นท่ียอมรับของเพื่อนร่วมงาน ผ้บู งั คบั บญั ชาหรือ หวั หน้างาน หรือผ้บู ริหาร ระดบั สงู -9-

หมวด 4 วนั ทางาน เวลาทางานปกติ เวลาพัก และการบันทกึ เวลา บริษัทฯ ประกาศกาหนดวนั ทางาน เวลาทางานปกติ และเวลาพกั สาหรับพนกั งาน เท่าทไ่ี ม่ขดั หรือแย้งกบั พระราชบญั ญัติค้มุ ครองแรงงาน หรือที่กาหนดไว้ในกฎกระทรวง และบริษัทฯ อาจทาข้อตกลงกับพนักงาน เพ่ือ เปล่ียนแปลงวนั ทางาน เวลาทางานปกติ และเวลาพกั ท่ีกาหนดไว้ได้เป็นครัง้ คราวเท่าที่จาเป็น ทงั้ นีเ้ พื่อประโยชน์ ร่วมกนั ระหวา่ งบริษทั ฯ และพนกั งาน 1. วันทางาน เวลาทางานปกติ และเวลาพัก วนั ทางาน วนั จนั ทร์ ถึง วนั ศกุ ร์ เวลาทางานปกติ กาหนดเวลาทางานปกติรวมไม่เกิน 8 ชว่ั โมงต่อวนั หรือไมเ่ กนิ 48 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์ โดย เวลาพักกลางวัน พนกั งานสามารถเลอื กเวลาเข้างานเองได้ กาหนดเวลาพกั ระหว่างวนั ทางานติดต่อกนั ไม่น้อยกว่า 1 ชว่ั โมงต่อวนั โดยอาจตกลงให้ มีการพักน้อยกว่าครัง้ ละ 1 ช่ัวโมงก็ได้ แต่รวมกันไม่น้อยกว่า 1 ช่ัวโมงต่อวัน โดย พนกั งานสามารถเลอื กเวลาพกั กลางวนั เองได้ โดยบริษัทฯ ได้กาหนดช่วงเวลาทางานปกตแิ ละเวลาพกั กลางวนั ตามรายละเอยี ดในตารางด้านลา่ ง ดงั นี ้ รูปแบบ เวลาเร่ิมงาน เวลาเลิกงาน เวลาพกั กลางวนั 1 08:00 น. 17:00 น. 12:00 น. – 13:00 น. 2 08:30 น. 17:30 น. 12:30 น. – 13:30 น. 3 09:00 น. 18:00 น. 13:00 น. – 14:00 น. 4 09:30 น. 18:30 น. 13:30 น. – 14:30 น. 5 10:00 น. 19:00 น. 14:00 น. – 15:00 น. หมายเหตุ สาหรับเวลาทางานปกติและเวลาพัก ให้ผ้บู งั คบั บญั ชาหรือหวั หน้างานมีอานาจสบั เปล่ียนโยกย้ายได้ ตามความเหมาะสมเพอ่ื ให้สอดคล้องกบั แผนการปฏิบตั ิงานของบริษทั - 10 -

2. การบันทกึ เวลา ในกรณีทม่ี กี ารทางานลว่ งเวลาในวนั หยดุ พนกั งานต้องบนั ทกึ เวลาเร่ิมงานและเวลาเลกิ งานลงใน แบบฟอร์มหรือระบบของบริษทั พร้อมทงั้ ต้องได้รับการอนมุ ตั จิ ากผ้บู งั คบั บญั ชาหรือหวั หน้างานก่อนทกุ ครัง้ - 11 -

หมวด 5 วันหยดุ และหลักเกณฑ์การหยุด 1 วันหยุดประจาสัปดาห์ ได้แก่ วันเสาร์และวันอาทิตย์ ทัง้ นี ้ บริษัทฯ และพนักงานอาจทาข้อตกลงกัน เพ่ือสบั เปล่ียนวันหยุดท่ี กาหนดไว้ได้เป็นครัง้ คราวเท่าที่มีความจาเป็นและไม่ขดั ต่อกฎหมายทงั้ นีเ้พอื่ ประโยชน์ร่วมกนั ระหว่างบริษทั ฯ และ พนกั งาน 2 วนั หยุดตามประเพณี บริษัทฯ จะประกาศกาหนดวนั หยุดตามประเพณีให้พนกั งานทราบ เป็นการล่วงหน้าปีหนึ่งไม่น้อยกว่าสิบ สามวนั โดยรวมวันแรงงานแห่งชาติตามที่รัฐมนตรีประกาศกาหนด ซ่ึงบริษัทฯ จะพิจารณากาหนดวันหยุดตาม ประเพณีจากวันหยุดราชการประจาปี วนั หยุดทางศาสนา หรือขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งท้ องถ่ินเป็นสาคัญ และในกรณีท่ีบริษัทฯ กาหนดวนั หยดุ ตามประเพณีวนั ใดตรงกบั วนั หยุดประจาสปั ดาห์ ของพนกั งาน พนกั งานจะ ได้หยดุ ชดเชยวนั หยดุ ตามประเพณีในวนั ทางานถดั ไป 3 วันหยดุ พกั ผ่อนประจาปี 3.1 บริษัทฯ กาหนดให้พนกั งานมีสิทธิหยดุ พกั ผ่อนประจาปี (พักร้อน) หลงั จากที่ผ่านระยะเวลาทดลอง งานแล้ว ปีละ 8 วนั โดยจะคานวณสดั ส่วนวนั หยุดพกั ผ่อนประจาปีท่ีได้รับ ตงั้ แต่วนั ผ่านทดลองงานจนถงึ วนั ที่ 31 ธนั วาคมของทกุ ปี 3.2 เม่ือพนกั งานทางานครบทุก 1 ปี จะมีสิทธิได้รับวนั หยุดพกั ผ่อนประจาปี (พกั ร้อน) เพ่ิมอีกปีละ 1 วนั โดยพนกั งานสามารถสะสมวนั หยดุ พกั ผ่อนประจาปี ได้สงู สดุ ปีละไมเ่ กิน 12 วนั 3.3 หากพนกั งานใช้วันหยุดพกั ผ่อนประจาปีท่ีได้ในแต่ละปีไม่ครบ ภายในวนั ที่ 31 ธันวาคม บริษัทจะถือ ว่าจานวนวนั ที่เหลือเป็นโมฆะ และไม่สามารถนาไปสะสมรวมกบั ปีถดั ไปได้ และจะไม่มีการคานวณคืนเป็นเงินให้ ในทกุ กรณี 3.4 พนักงานที่จะขอหยุดพักผ่อนประจาปีให้แจ้งความประสงค์ต่อผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้างานใน หน่วยงานที่ตนสังกัดอยู่ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันทางาน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อแผนการปฏิบัติงานหรือ แผนการดาเนินงานของบริษัทฯ และต้องได้รับการอนมุ ตั ิจากผ้บู งั คบั บญั ชาแล้วเทา่ นัน้ จึงจะสามารถหยดุ ได้ - 12 -

3.5 การหยดุ พกั ผ่อนประจาปี พนกั งานมีสิทธิขอหยดุ ได้ครัง้ ละไมเ่ กนิ 3 วนั ทางานติดตอ่ กนั 3.6 หากพนกั งานหยดุ งานไปโดยไมแ่ จ้งผ้บู งั คบั บญั ชาหรือหวั หน้างาน หรือหยดุ งานไปโดยยงั ไม่ได้รับการ อนมุ ตั ิ บริษัทฯ อาจถือว่าพนกั งานผ้นู นั้ หยุดงานไปโดยพลการ ขาดงาน หรือละทิง้ หน้าท่ี และพนกั งานจะไมไ่ ด้รับ คา่ จ้างในวนั ดงั กลา่ ว - 13 -

หมวด 6 หลักเกณฑ์การทางานล่วงเวลา และการทางานในวนั หยดุ 1 การทางานล่วงเวลา และการทางานในวันหยุด 1.1 บริษัทฯ ไมม่ นี โยบายให้พนกั งานทางานล่วงเวลาเว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากพนกั งานก่อนเป็น คราวๆ ไป หรือกรณีที่ลกั ษณะหรือสภาพของงานต้องทาติดต่อกนั ถ้าหยดุ อาจส่งผลเสียหายแก่งาน หรือเป็นงาน ฉกุ เฉิน บริษทั ฯ อาจให้พนกั งานทางานลว่ งเวลาดงั กลา่ วได้เท่าท่ีจาเป็น 1.2 ในกรณีท่ีลกั ษณะหรือสภาพของงานต้องทาติดต่อกนั ถ้าหยุดอาจส่งผลเสียหายแก่งาน หรือเป็นงาน ฉุกเฉิน เพ่ือประโยชน์แก่การผลิต การจาหน่าย และการบริการ บริษัทฯ อาจให้พนักงานทางานในวนั หยุดเท่าที่ จาเป็น โดยได้รับความยินยอมจากพนกั งานกอ่ นเป็นคราว ๆ ไป 1.3 ในกรณีที่มีการทางานล่วงเวลาต่อจากเวลาทางานปกติไม่น้อยกว่าสองช่ัวโมง บริษัทฯ จะจัดให้ พนกั งานมเี วลาพกั ไมน่ ้อยกวา่ สามสิบนาทกี อ่ นเร่ิมทางานลว่ งเวลา 1.4 บริษัทฯ ได้กาหนดให้มีชวั่ โมงทางานลว่ งเวลา ชว่ั โมงทางานในวนั หยดุ และ ชวั่ โมงทางานลว่ งเวลาใน วนั หยดุ เม่ือรวมแล้วไม่เกนิ อตั ราที่กาหนดในกฎกระทรวง 2 หลกั เกณฑ์การทางานล่วงเวลา และการทางานในวนั หยดุ 2.1 พนักงานที่มีความประสงค์หรือจะต้องทางานล่วงเวลา ทางานในวันหยุดหรือทางานล่วงเวลาใน วันหยุดจะต้องแจ้งต่อผู้บงั คบั บญั ชาในสงั กดั เพ่ือพิจารณาอนุมตั ิ เมื่อได้รับการอนุมตั ิแล้วเท่านนั้ พนักงานจึงจะ สามารถทางานลว่ งเวลา ทางานในวนั หยดุ หรือทางานลว่ งเวลาในวนั หยดุ ได้ 2.2 พนกั งานท่ีไม่แจ้งขอทางานลว่ งเวลา ทางานในวนั หยดุ ทางานลว่ งเวลาในวนั หยดุ หรือทางานในเวลา เหลา่ นนั้ โดยไม่ได้รับการอนุมตั ิจากผ้บู งั คบั บญั ชา หรือทานอกเหนือไปกว่าเวลาที่ร้องขอไว้ บริษัทฯ จะถือว่าไม่มี การทางานในช่วงเวลาดงั กลา่ ว และบริษทั ฯ จะไม่จา่ ยคา่ ลว่ งเวลา คา่ ทางานในวนั หยดุ หรือคา่ ลว่ งเวลาในวนั หยุด ให้ แล้วแตก่ รณี - 14 -

3 การจ่ายค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวนั หยุด บริษัทฯ จะจ่ายค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดตามเวลาที่พนักงานได้ ลง บนั ทึกการทางานล่วงเวลาตามแบบฟอร์มหรือระบบของบริษัท โดยผ่านการอนุมัติจากผู้บงั คับบญั ชาแล้ว โดย บริษทั ฯ จะคานวณให้ตามอตั ราดงั ต่อไปนี ้ 3.1 บริษัทฯ จะจ่ายไมน่ ้อยกว่าสองเท่าของอตั ราคา่ จ้างต่อชว่ั โมงในวนั ทางานตามจานวนชว่ั โมงทท่ี า 3.2 บริษัทฯ จะจ่ายค่าลว่ งเวลาในวนั หยุดให้แก่พนกั งานในอตั ราไม่น้อยกว่าสามเท่าของอตั ราค่าจ้างต่อ ชว่ั โมงในวนั ทางานตามจานวนชวั่ โมงที่ทา 4 พนักงานท่ไี ม่มสี ิทธไิ ด้รับค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวนั หยุด และค่าล่วงเวลาในวนั หยุด ได้แก่ พนักงานซึ่งมีอานาจหน้าที่ทาการแทนบริษัทฯ สาหรับกรณีการจ้าง การให้บาเหน็จ หรือการเลิกจ้าง รวมถึงพนักงานที่ทางานอ่ืนตามท่ีกาหนดไว้ในพระราชบญั ญัติคุ้มครองแรงงานฯ กฎกระทรวง หรือกฎหมาย แรงงานอืน่ ทเ่ี ก่ียวข้อง - 15 -

หมวด 7 วนั และสถานท่ีจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวันหยดุ และค่าล่วงเวลาในวนั หยุด บริษัทฯ จะจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวันหยุด ค่าล่วงเวลาในวันหยุด และเงินพึงได้อื่นใด เน่ืองจากการจ้างให้แก่พนกั งานในทุกวันที่ 25 ของแต่ละเดือน หากกาหนดการจ่ายในเดือนใดตรงกับวันหยุด บริษัทฯ จะเล่ือนมาจ่ายก่อนวันหยุดดังกล่าวนัน้ ซ่ึงจะจ่ายให้พนักงาน ณ ท่ีทาการของบริ ษัทฯ ซึ่งพนักงานได้ ทางานอยู่ โดยการจ่ายผ่านบญั ชีธนาคารในชื่อของพนกั งาน หรืออาจจะจ่าย ณ สถานท่ีอื่นหรือด้วยวิธีอ่ืนใดโดย ได้รับความยนิ ยอมจากพนกั งาน สาหรับคา่ ลว่ งเวลา ค่าทางานในวนั หยุด และค่าลว่ งเวลาในวนั หยุด จะคานวณเงินดงั กล่าวตงั้ แต่วนั ที่ 16 ของเดือนที่ผ่านมา จนถึงวนั ที่ 15 ของเดือนปัจจบุ นั แล้วจ่ายให้กบั พนกั งานเช่นเดียวกบั การจ่ายค่าจ้างตามวรรค แรก กรณีบริษัทฯ เลิกจ้างพนกั งาน บริษัทฯ จะดาเนินการจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวนั หยุด ค่า ล่วงเวลาในวันหยุด และเงินพึงได้อ่ืนใด ตามสิทธิท่ีพนักงานได้รับให้แก่พนักงานภายในรอบการจ่ายเงินเดือน ตามปกติ นบั แต่วนั เลกิ จ้าง - 16 -

หมวด 8 วันลา และหลกั เกณฑ์การลา 1. การลาป่ วย พนักงานมีสิทธิลาป่ วยได้เท่าท่ีป่ วยจริงโดยได้รับค่าจ้างเท่ากับอัตราค่าจ้างในวันทางาน ตลอด ระยะเวลาที่ลา แต่ปีหนึ่งไม่เกิน 30 วนั ทางาน และการลาป่ วยตงั้ แต่สามวนั ทางานขนึ ้ ไป บริษัทฯ อาจให้พนกั งาน แสดงใบรับรองของแพทย์แผนปัจจบุ นั ชนั้ หน่ึง หรือของสถานพยาบาลของทางราชการ และในกรณีท่ีพนกั งานไม่ อาจแสดงใบรับรองของแพทย์แผนปัจจบุ นั ชนั้ หน่ึง หรือของสถานพยาบาลของทางราชการได้ พนกั งานต้องชีแ้ จง เหตผุ ลให้บริษทั ฯ ทราบ โดยหลกั เกณฑ์การลาป่วยมรี ายละเอียดดงั นี ้ 1.1 พนกั งานที่เจ็บป่วยจนไม่สามารถปฏิบตั งิ านได้ในวนั ใด ต้องแจ้งให้ผ้บู งั คบั บญั ชาหรือหวั หน้างาน ในสงั กดั หรือสว่ นทรัพยากรบคุ คลทราบโดยเร็ว ไม่วา่ ด้วยวธิ ีใด กอ่ นเวลา 10:00 น. ของวนั ที่แจ้งว่าป่ วยเป็นอย่าง ช้า เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสยั ไม่อาจแจ้งได้ก่อนนนั้ ให้ย่ืนใบลาให้ผู้บงั คบั บญั ชาหรือหวั หน้างานรับรอง เพ่ือ นาเสนอสว่ นทรัพยากรบคุ คลภายในสามวนั ทางานนบั จากวนั ทีก่ ลบั เข้ามาทางานตามปกติแล้ว 1.2 ถ้าพนักงานที่ลาป่ วยนนั้ ไม่ได้ป่ วยจริง หรือแจ้งการลาป่ วยเป็นเท็จ หรือในกรณีที่ลาป่ วยตัง้ แต่ สามวันทางานขึน้ ไปโดยไม่แสดงใบรับรองแพทย์หรือใบรับรองของสถานพยาบาลที่รับรอง และไม่มีการชีแ้ จง เหตุผลให้บริษัทฯ ทราบ บริษัทฯ อาจถือว่าพนกั งานผู้นนั้ ขาดงาน หรือละทิง้ หน้าที่ในวันดงั กล่าว และจะไม่จ่าย ค่าจ้างให้รวมทงั้ อาจถูกลงโทษทางวินัย ตามที่กาหนดไว้ในข้อบงั คับเก่ียวกับการทางานในหมวดท่ีว่าด้วยวินัย และโทษทางวินยั 2. การลาเพ่อื ทาหมนั พนกั งานมสี ิทธิลาเพื่อทาหมนั และมีสทิ ธิลาเนือ่ งจากการทาหมนั ได้ โดยได้รับค่าจ้างตามระยะเวลาท่ี แพทย์แผนปัจจบุ นั ชนั้ หนึง่ กาหนดและออกใบรับรอง โดยหลกั เกณฑ์การลาเพอื่ ทาหมนั มรี ายละเอียดดงั นี ้ 2.1 พนกั งานท่ีประสงค์จะใช้สิทธิลาเพ่ือทาหมนั ต้องแจ้งลาต่อผ้บู งั คบั บญั ชา ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า เจ็ดวนั เมือ่ ได้รับการอนมุ ตั แิ ล้วจึงจะสามารถลาได้ 2.2 พนกั งานทีใ่ ช้สิทธิในการลาเพื่อทาหมนั เมอ่ื กลบั เข้ามาทางานตามปกติแล้ว พนกั งานจะต้องนา ใบรับรองของแพทย์แผนปัจจุบนั ชนั้ หนึ่งเสนอต่อผู้บงั คับบญั ชา เพ่ือประกอบการลา และนาเสนอสว่ นทรัพยากร บคุ คลตอ่ ไป - 17 -

3. การลากิจ พนกั งานมีสิทธิลาโดยมีเหตธุ ุระจาเป็นได้ไม่น้อยกว่า 3 วันต่อปี โดยมีสิทธ์ิได้รับค่าจ้างตามปกติไม่ เกิน 3 วนั ต่อปี และสามารถใช้สิทธิลากิจได้ครัง้ ละไม่เกิน 2 วนั ทางานติดต่อกนั เว้นแต่ในกรณีท่ีมีเหตสุ ดุ วิสยั หรือ มีเหตุจาเป็นเร่งด่วนที่สาคัญอื่นๆ สาหรับพนักงานรายวันจะไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันลากิจดังกล่าว โดย หลกั เกณฑ์การลากิจมีรายละเอยี ดดงั นี ้ 3.1 พนกั งานทีม่ คี วามจาเป็นและประสงค์ทจี่ ะขออนญุ าตลากจิ จะต้องแจ้งลาตอ่ ผ้บู งั คบั บญั ชาหรือ หวั หน้างานลว่ งหน้าอยา่ งน้อย 1 วนั ทางาน เมอื่ ได้รับการอนมุ ตั ิแล้วเท่านนั้ จงึ จะสามารถลาได้ 3.2 ในกรณีท่ีไม่อาจแจ้งลาลว่ งหน้าได้โดยเหตสุ ดุ วิสยั ให้พนกั งานแจ้งให้ผ้บู งั คบั บญั ชาหรือหัวหน้า งาน หรือส่วนทรัพยากรบุคคลทราบภายในเวลา 10:00 น. ของวนั ที่ลา และให้ยื่นใบลาพร้อมทงั้ เหตอุ นั สมควรตอ่ ผ้บู งั คบั บญั ชาหรือหวั หน้างาน เพอ่ื นาสง่ สว่ นทรัพยากรบคุ คลในวนั แรกท่กี ลบั เข้ามาทางานตามปกติ 3.3 ผ้บู งั คบั บญั ชา หรือหวั หน้างานมีอานาจที่จะอนญุ าตหรือไม่อนญุ าต หรืออนญุ าตภายในเง่ือนไข ตามที่เห็นสมควรก็ได้ โดยพิจารณาจากความจาเป็น และเหตุผลของการลา รวมทงั้ ผลกระทบที่อาจเกิดขึน้ แก่ กระบวนการผลติ การจาหน่าย การบริการ หรือการดาเนินธรุ กิจของบริษทั ฯ 3.4 พนกั งานที่ละเลยหรือปฏิบตั ิไม่ถกู ต้องในเร่ืองการลากจิ บริษัทฯ อาจถือว่าพนกั งานผ้นู นั้ ขาดงาน โดยจะไมไ่ ด้รับคา่ จ้างในวนั นนั้ และอาจถกู ลงโทษทางวนิ ยั ตามข้อบงั คบั เก่ียวกบั การทางานของบริษทั ฯ 4. การลาเพ่อื รับราชการทหาร พนักงานมีสิทธิลาเพื่อรับราชการทหารในการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือเพ่ือ ทดลองความพรั่งพร้ อมตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร โดยได้รับค่าจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันทางาน ตลอดระยะเวลาท่ีลา แตป่ ีหนึง่ ไม่เกนิ 60 วนั โดยหลกั เกณฑ์การลาเพ่ือรับราชการทหารมีรายละเอียดดงั นี ้ 4.1 พนกั งานจะต้องย่ืนใบลาพร้อมหมายเรียกของทางราชการต่อผ้บู งั คบั บญั ชาเพ่ือพิจารณาอนุมัติ เป็นการลว่ งหน้าไมน่ ้อยกว่า 3 วนั ทางาน 4.2 เมื่อสิน้ สดุ การฝึกตามหมายเรียกแล้ว พนกั งานจะต้องกลบั เข้าทางานตาม ปกติภายใน 3 วนั นบั จากวนั ทส่ี นิ ้ สดุ การฝึกตามหมายเรียกดงั กลา่ ว 4.3 หากพนักงานไม่กลบั เข้าทางานตามเวลาที่กาหนดไว้ บริษัทฯ อาจถือว่าพนกั งานผู้นนั้ ขาดงาน หรือละทิง้ หน้าท่โี ดยไมไ่ ด้รับค่าจ้าง และอาจถกู ลงโทษทางวินยั ตามข้อบงั คบั เก่ียวกบั การทางานของบริษทั ฯ - 18 -

5. การลาคลอด พนกั งานซ่ึงเป็นหญิงมีครรภ์มีสิทธิลาเพ่ือคลอดบุตรรวมถึงการลาตรวจครรภ์ก่อนคลอดได้ครรภ์หนึ่ง รวมไมเ่ กิน 98 วนั โดยได้รับคา่ จ้างเท่ากบั คา่ จ้างในวนั ทางานตลอดระยะเวลาท่ีลา แตไ่ ม่เกิน 45 วนั ในกรณีท่ีพนกั งานซ่ึงเป็นหญิงมีครรภ์คนใด มีใบรับรองของแพทย์แผนปัจจุบนั ชัน้ หนึ่งมาแสดงว่าไม่ อาจทางานในหน้าท่เี ดิมต่อไปได้ ให้พนกั งานนนั้ มีสิทธิขอให้บริษัทฯ เปล่ียนงานในหน้าท่เี ดิมเป็นการชว่ั คราวก่อน หรือหลงั คลอดได้ และบริษทั ฯ จะเปลยี่ นงานให้พนกั งานนนั้ ตามความเหมาะสม 6. การลาเพ่อื การฝึ กอบรม หรือพัฒนาความรู้ความสามารถ พนกั งานมีสิทธิลาเพ่ือการฝึกอบรม หรือพฒั นาความรู้ความสามารถได้ เพื่อประโยชน์ต่อการแรงงานและ สวสั ดกิ ารสงั คม หรือเพ่ิมทกั ษะความชานาญเพ่ือประสิทธิภาพในการทางานของพนกั งาน สาหรับพนักงานท่ีต้องการใช้สิทธิการลาให้พนกั งานย่ืนใบลาต่อผู้บงั คับบญั ชาชีแ้ จงสาเหตทุ ี่ลาโดยชัด แจ้ง พร้อมทงั้ แสดงหลกั ฐานที่เกี่ยวข้องถ้ามี ให้บริษัทฯ ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวนั ก่อนวนั ลานนั้ และบริษัท ฯ อาจไมอ่ นญุ าตให้พนกั งานลาได้หากปรากฏเหตหุ น่ึงเหตใุ ด ดงั ต่อไปนี ้ 6.1 ในปีท่ลี านนั้ พนกั งานเคยได้รับอนญุ าตให้ลาเร่ืองนีม้ าแล้วไม่น้อยกว่า 30 วนั หรือ 3 ครัง้ 6.2 บริษัทฯ ได้แสดงให้เห็นว่าการลาของพนักงานนัน้ อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือกระทบต่อการ ประกอบธุรกิจของบริษัทฯ 7. การลาเพ่อื การอปุ สมบท บริษัทฯ ให้สิทธิแกพ่ นกั งานชายท่ีทางานกบั บริษัทฯ ตดิ ต่อกนั มาแล้วครบ 1 ปี มสี ทิ ธิลาเพื่อการอปุ สมบท ได้หนึ่งครัง้ ตลอดช่วงอายกุ ารทางานกบั บริษทั ฯ ในกาหนดระยะเวลาไม่เกิน 30 วนั โดยได้รับค่าจ้างเท่ากบั ค่าจ้าง ในวนั ทางานตลอดระยะเวลาที่ลา แตไ่ มเ่ กนิ 15 วนั สาหรับพนกั งานชายท่ีมีความประสงค์จะลาเพ่ือการอปุ สมบท ต้องปฏบิ ตั ติ ามหลกั เกณฑ์ดงั ตอ่ ไปนี ้ 7.1 พนักงานต้องยื่นใบลาต่อผู้บงั คับบญั ชาหรือหัวหน้างาน เป็นการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วนั ก่อน การลานนั้ โดยต้องได้รับอนญุ าตจากผ้บู งั คบั บญั ชาก่อนจงึ จะสามารถลาได้ 7.2 เมอ่ื พนกั งานได้ลาสกิ ขาบทแล้วต้องกลบั เข้ามาทางานภายใน 3 วนั นบั แตว่ นั ทีล่ าสิกขา และต้องนา ใบสทุ ธิมาแสดงต่อผ้บู งั คบั บญั ชาหรือหวั หน้างาน หรือสว่ นทรัพยากรบคุ คล เพือ่ เป็นหลกั ฐานว่าได้มีการอปุ สมบท จริง หากพนกั งานไม่กลบั เข้ามาทางานภายในระยะเวลาทก่ี าหนด หรือไมม่ หี ลกั ฐานการอปุ สมบทมาแสดงบริษทั ฯ - 19 -

อาจถือว่าพนกั งานผ้นู นั้ แจ้งการลาอนั เป็นความเท็จ ขาดงานหรือละทงิ ้ หน้าท่ี โดยจะไม่ได้รับค่าจ้างในวนั ดงั กล่าว และอาจถกู ลงโทษทางวินยั ตามข้อบงั คบั เกี่ยวกบั การทางานของบริษัท 8. การลาเพ่อื สมรส พนกั งานท่ีทางานกบั บริษัทฯติดต่อกนั มาแล้วครบ 1 ปี มีสิทธิลาเพื่อการสมรสของตนเองได้ 1 ครัง้ ตลอด ช่วงอายุการทางานกับบริษัทฯ ในกาหนดระยะเวลาไม่เกิน 5 วันทางานโดยได้รับค่าจ้าง และต้องยื่นใบลาต่อ ผ้บู งั คบั บญั ชาลว่ งหน้าไม่น้อยกว่า 7 วนั ทางานก่อนการลานนั้ และเม่ือกลบั เข้ามาทางานตามปกติแล้ว ต้องแสดง หลกั ฐานการสมรสเพอื่ ประกอบการลา หรือชีแ้ จงให้ผ้บู งั คบั บญั ชาหรือหวั หน้างาน หรือสว่ นทรัพยากรบุคคลทราบ แล้วแต่กรณี 9. การลาครอบครัวเสียชีวติ พนกั งานมีสิทธิลาครอบครัวเสียชีวิต (บิดา, มารดา, ค่สู มรส และบตุ รที่ถกู ต้องตามกฎหมาย) ในกาหนด ระยะเวลาไม่เกิน 5 วันทางาน โดยได้รับค่าจ้าง และต้องย่ืนใบลาต่อผู้บงั คับบญั ชาล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 1 วัน ทางานก่อนการลานนั้ และเมือ่ กลบั เข้ามาทางานตามปกติแล้ว ต้องแสดงหลกั ฐานใบมรณะบตั รของผ้เู สยี ชวี ติ 10. การลาเพ่ือดูแลภรรยาท่ีคลอดบตุ ร พนกั งานมีสิทธิลาเพ่ือดแู ลภรรยาท่ีคลอดบุตร ในกาหนดระยะเวลาไม่เกิน 5 วนั ทางาน โดยได้รับค่าจ้าง และต้องยื่นใบลาต่อผ้บู งั คบั บญั ชาลว่ งหน้าไมน่ ้อยกว่า 3 วนั ทางานและเมื่อกลบั เข้ามาทางานตามปกติแล้ว ต้อง แสดงหลกั ฐานใบสตู ิบตั รของบตุ ร 11. การลาท่ีไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ถกู ต้องตามระเบียบ พนกั งานผู้ใดที่ใช้สิทธิในการลาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้บงั คับบัญชา หรือหัวหน้างาน หรือไม่แจ้งให้ สว่ นทรัพยากรบุคคลทราบ หรือลาโดยไม่ถกู ต้องตามหลกั เกณฑ์และวิธีปฏิบตั ิเก่ียวกบั การลา บริษัทฯ อาจถือว่า พนักงานผู้นัน้ ขาดงาน หรือละทิง้ หน้าท่ี และจะไม่ได้รับค่าจ้างในวันนัน้ รวมถึงอาจถูกลงโทษทางวินัยตาม ข้อบังคับเก่ียวกับการทางานของบริษัท ตลอดจนมีผลกระทบต่อคะแนนการประเมินผลการปฏิบัติงาน การ พิจารณาขนึ ้ เงนิ เดอื นประจาปี เงินรางวลั และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ของบริษทั ฯ ทีพ่ งึ มีสทิ ธิได้รับด้วย - 20 -

หมวด 9 วินัย และโทษทางวนิ ัย 1. ระเบยี บปฏบิ ตั ทิ ่วั ไป หน้าท่แี ละวินัยพนื้ ฐาน 1.1 พนกั งานท่ีเปลี่ยนช่ือ นามสกุล ท่ีอยู่ สถานภาพทางครอบครัว หรือผู้รับประโยชน์ของพนกั งานใน กรณีต่างๆ จะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงในเร่ืองเหลา่ นนั้ ให้ส่วนทรัพยากรบุคคลทราบภายใน 15 วนั นบั แต่วนั ท่ีมี การเปล่ยี นแปลงนนั้ 1.2 พนกั งานต้องปฏบิ ตั งิ านอยา่ งสมา่ เสมอตามเวลาท่ีบริษัทฯ กาหนดไว้ 1.3 พนกั งานต้องอทุ ิศตนให้แกง่ านของบริษัทฯ ปฏบิ ตั ิงานด้วยความตงั้ ใจ ขยนั ขนั แขง็ และเอาใจใสง่ าน ในความรับผิดชอบของตน หรืองานอน่ื ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย 1.4 พนกั งานต้องปฏบิ ตั ิตอ่ ลกู ค้า หรือผ้มู าติดตอ่ ด้วยกริ ิยามารยาท และอธั ยาศยั ทด่ี งี าม 1.5 พนกั งานต้องช่วยกนั รักษาความสะอาด สอดสอ่ งดแู ล ระมดั ระวงั ปกป้องทรัพย์สินของบริษัทฯ มิให้ เสียหายไม่ว่าจะเกิดจากบุคคลหรือจากภัยพิบัติธรรมชาติใดๆ เท่าที่สามารถจะกระทาได้เสมือนหน่ึงว่าเป็น ทรัพย์สนิ ของตนเอง 1.6 พนกั งานต้องมีความสามคั คีกลมเกลียวกนั ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือเกือ้ กูล และเอือ้ เฟื อ้ เผื่อแผแ่ ก่ เพ่ือนร่วมงานตามสมควร หรือให้ความช่วยเหลือกนั ในกิจการหรือการดาเนินธุรกิจของบริษัทฯ ตามแนวปฏิบตั ิ และคณุ ค่าหลกั องค์กรทกี่ าหนดไว้ 2. ระเบยี บวนิ ัยสาหรับพนักงาน 2.1 พนกั งานต้องปฏิบตั ิตามข้อบงั คบั เก่ียวกบั การทางานฉบบั นี ้รวมทงั้ นโยบาย ประกาศ ระเบียบ หรือ คาสัง่ ใดๆ ของบริษัทฯ ท่ีใช้บังคับอยู่อย่างเคร่งครัด และให้ความร่วมมือกับกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ อย่าง สม่าเสมอ 2.2 พนกั งานต้องปฏิบตั ิงานด้วยความซื่อสตั ย์สจุ ริต เพื่อรักษาไว้ซง่ึ ผลประโยชน์ ช่ือเสียง และความลบั ของบริษัทฯ 2.3 ห้ามมิให้พนกั งานละทิง้ หน้าที่ หรือปฏิบตั ิงานด้วยความประมาทเลินเล่อ จนน่าจะเป็นเหตุให้เกิด อนั ตรายต่อชีวติ ร่างกาย จิตใจ หรือเกดิ ความเสยี หายต่อช่ือเสียง หรือทรัพย์สนิ ของตนเอง ผ้อู น่ื หรือของบริษทั ฯ 2.4 พนกั งานต้องไม่ทางานให้นายจ้างอ่ืน หรือกระทาการอน่ื ใด ทไ่ี มใ่ ชธ่ รุ กจิ ของบริษทั ฯ ในระหว่างเวลา ปฏบิ ตั งิ าน หรือทางานอ่ืนอนั เป็นการแข่งขนั กบั ธุรกจิ ของบริษัทฯ ในระหว่างท่เี ป็นพนกั งานของบริษทั ฯ - 21 -

2.5 ห้ามมิให้พนกั งานใช้เคร่ืองมือ วสั ดอุ ปุ กรณ์ หรือทรัพย์สินอื่นใดของบริษัทฯ เพ่ือการทางานหรือเพ่ือ กจิ การอนั เป็นไปเพื่อประโยชน์ของตน หรือของผ้อู ืน่ ทไ่ี มเ่ กี่ยวข้องกบั การปฏิบตั งิ านตามปกติธรุ กิจของบริษทั ฯ โดย ไม่ได้รับอนญุ าตจากบริษทั ฯ หรือผ้บู งั คบั บญั ชา 2.6 ห้ามมิให้พนกั งานเปิดเผยความลบั หรือใช้ข้อมูลของบริษัทฯ หรือใช้อานาจในตาแหน่งหน้าท่ีที่ตน ดารงอยู่ เพ่อื แสวงหาประโยชน์ทีม่ คิ วรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสาหรับตนเองหรือผ้อู ่นื 2.7 ห้ามมิให้พนกั งานกระทาการจบั กลมุ่ ปฏิบตั ิการใด ลา่ รายชื่อ เร่ียไร แจกจ่ายเอกสาร ปิดประกาศ นดั ประชุม หรือกระทาการอ่ืนใดอนั เป็นการก่อกวน ปลกุ ระดม สร้างความเดือดร้อนราคาญ หรือทาให้เกิดความไม่ สงบเรียบร้อยภายในบริเวณบริษัทฯ หรือกระทาการอ่ืนใดอนั อาจสง่ ผลกระทบต่อช่ือเสียงหรือการดาเนินธุรกิจของ บริษทั ฯ 2.8 ห้ามมิให้พนกั งานโต้เถียง พดู จาประชดประชนั ด่าทอ พดู สอ่ เสียดให้ร้ายผ้อู ่ืน หรือใส่ความผ้อู ื่นต่อ บคุ คลทสี่ ามในประการที่น่าจะทาให้ผ้อู ืน่ นนั้ เสียช่ือเสยี ง ถกู ดหู มิ่น เกลียดชงั หรือได้รับความอบั อายขายหน้า หรือ แสดงกริ ิยาวาจาอนั ไมส่ มควร กระด้างกระเดื่องสอ่ อธั พาลแกเ่ พอ่ื นร่วมงาน ผ้บู งั คบั บญั ชาหรือหวั หน้างาน หรือพดู ให้ร้ายบริษัทฯ อนั อาจสง่ ผลกระทบต่อชอ่ื เสยี ง หรือการดาเนนิ ธรุ กิจของบริษัทฯ 2.9 ห้ามมิให้พนกั งานสนบั สนุน หรือก่อเหตทุ ะเลาะวิวาท หรือทาร้ายร่างกายกนั ในบริเวณบริษัทฯ หรือ ทะเลาะวิวาทกนั เนือ่ งจากกจิ การ หรืองานเลยี ้ งสงั สรรค์อน่ื ใดที่ทางบริษัทฯ ได้จดั ให้มขี ึน้ 2.10 ห้ามมใิ ห้พนกั งานเลน่ หรือสนบั สนนุ ให้มีการเลน่ การพนนั ทุกประเภท และห้ามมใิ ห้มกี ารซอื ้ หรือขาย หวยใต้ดนิ เลน่ แชร์ ปลอ่ ยเงนิ กู้ หรือเลน่ การพนนั อน่ื ท่ีผดิ กฎหมายในบริเวณบริษัทฯ 2.11 พนักงานต้องปฏิบตั ิให้ถูกต้องตามหลกั เกณฑ์ และวิธีปฏิบตั ิในการลาทุกประเภท ตามท่ีระบุไว้ใน ข้อบงั คบั เกี่ยวกบั การทางานฉบบั นี ้ หากพนกั งานผ้ใู ดปฏบิ ตั ไิ ม่ถกู ต้อง หรือลางานโดยไม่ได้รับอนญุ าต หรือใช้สทิ ธิ ในการลาอันเป็นเท็จ บริษัทฯ จะถือว่าพนักงานผู้นัน้ ขาดงานหรือละทิง้ หน้าที่ โดยไม่ได้รับค่าจ้างและจะถูก พิจารณาลงโทษทางวนิ ยั โดยพจิ ารณาจากความร้ายแรงของการกระทา 2.12 ห้ามมิให้พนักงานเปิดเผยค่าจ้าง เงินเดือน หรือรายได้อ่ืนใดของตนเองหรือของผู้อื่นให้ผู้หน่ึงผู้ใด ทราบโดยเดด็ ขาด 2.13 ห้ามมิให้พนกั งานกระทาการทผ่ี ิดจารีตประเพณี ลว่ งเกนิ คกุ คาม หรือก่อความเดอื ดร้อนราคาญทาง เพศต่อผ้อู ่นื ในประการทน่ี ่าจะทาให้ผ้อู ื่นนนั้ เกิดความเสียหาย เสอื่ มเสยี ชอ่ื เสยี ง ถกู ดหู มิ่นเกลยี ดชงั เกิดความอบั อาย เกิดความกลัว หรือความไม่สบายใจ ไม่ว่าจะกระทาด้วยภาษากาย วาจา หรือโดยใช้หรือแสดงออกโดย สญั ลกั ษณ์อื่นใด ไม่ว่าจะเป็นการกระทาท่ีชายกระทาต่อหญิง หญิงกระทาต่อชาย หญิงกระทาต่อหญิง หรือชาย กระทาต่อชาย และไม่วา่ ผ้ถู กู กระทาจะยนิ ยอมให้กระทาหรือไม่กต็ าม - 22 -

2.14 ห้ามมิให้พนกั งานกระทาการอนั เป็นการทจุ ริต ลกั ทรัพย์ ยกั ยอก หรือฉ้อโกงทรัพย์สินของผู้อื่นหรือ ของบริษัทฯ หรือกระทาความผิดอาญาใดๆ ภายในบริเวณบริษัทฯ หรือภายนอกบริษัทฯ ซ่ึงอาจก่อให้เกิดความ เสยี หายตอ่ ทรัพย์สินหรือช่ือเสยี งของบริษัทฯ หรือของผ้อู นื่ 2.15 ห้ามมิให้พนักงานฝ่ าฝืน หรือละเลยไม่นาพาต่อคาส่ังของผู้บังคับบัญชา หรือหัวหน้างาน อัน เกี่ยวข้องกบั การปฏิบตั ิงานในกจิ การ หรือการดาเนินธุรกิจของบริษัทฯ ท่ีได้สง่ั โดยชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยพนกั งานจะต้องปฏิบตั ิตามคาสง่ั นนั้ โดยเคร่งครัด 3. โทษทางวนิ ัย เพ่ือความเป็นระเบียบเรียบร้ อยในการควบคมุ ดแู ลพฤติกรรมของพนักงาน เพื่อให้ปฏิบตั ิตามข้อบังคับ เกี่ยวกับการทางาน ระเบียบ ประกาศหรือคาสั่งของบริษัทฯ และเพ่ือให้เกิดความเป็นธรรมในการปฏิบัติต่อ พนักงาน หรือการพิจารณาโทษทางวินัยแก่พนักงานผู้กระทาผิด บริษัทฯ ได้กาหนดลาดบั ขนั้ ในการลงโทษทาง วินัยตามความหนักเบาของความผิด โดยพิจารณาจากลักษณะของการกระทา เจตนา วิสยั และพฤติการณ์ ในขณะกระทาความผิด ตลอดจนประวตั ิคณุ งามความดีในอดีตเพ่ือประกอบการพิจารณาสงั่ ลงโทษทางวินยั เป็น รายๆ ไป โดยบริษัทฯ ได้กาหนดลาดบั ขนั้ ในการลงโทษทางวนิ ยั ไว้ดังต่อไปนี ้ 3.1 ตกั เตือนด้วยวาจา โดยทาเป็นลายลกั ษณ์อกั ษรเพ่อื บนั ทกึ ไว้เป็นหลกั ฐาน 3.2 ตกั เตือนเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร (หนงั สือเตือน) หนงั สือเตือนมีผลใช้บงั คบั ได้ไม่เกิน 1 ปี นบั แต่วันที่ ออกหนงั สือเตอื นให้พนกั งาน 3.3 พักงานพนักงานผู้กระทาความผิด และปรากฏหลักฐานของการกระทาความผิดโดยชัดแจ้งแล้ว ในขณะกระทาความผิด โดยความผิดที่ได้กระทานนั้ ถึงขนั้ ท่ีต้องพกั งาน หรือเป็นความผิดร้ายแรงที่ถึงขนั้ ต้องพกั งาน บริษัทฯ จะส่ังลงโทษพักงานพนักงานผู้กระทาผิดภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน โดยไม่จ่ายค่าจ้างให้ 3.4 พกั งานระหว่างสอบสวนพนกั งานทถี่ กู กลา่ วหาว่ากระทาความผิด บริษัทฯ มีอานาจท่ีจะสง่ั พกั งานใน ระหว่างการสอบสวนได้ในระยะเวลาไม่เกิน 7 วนั โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้พนกั งานผ้กู ระทาความผิดทราบก่อนการ พกั งาน ซึ่งบริษัทฯ จะจ่ายเงินในระหว่างการสอบสวนให้ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างในวนั ทางาน ท่ีพนกั งาน ได้รับก่อนถกู สงั่ พกั งาน เม่ือได้ทาการสอบสวนจนเสร็จสิน้ แล้วปรากฏว่าพนักงานไม่มีความผิด บริษัทฯ จะจ่ายค่าจ้างให้แก่ พนกั งานเท่ากบั ค่าจ้างในวนั ทางาน นบั แต่วนั ที่พนกั งานถูกสง่ั พกั งานเป็นต้นไป โดยจะคานวณเงินท่ีบริษัทฯ จ่าย ให้ตามวรรคสองเป็นสว่ นหนึ่งของค่าจ้างตามวรรคนี ้ พร้อมด้วยดอกเบยี ้ ร้อยละ 15 ต่อปี - 23 -

3.5 เลิกจ้าง การลงโทษทางวินัยขนั้ เลิกจ้าง จะใช้บงั คบั แก่พนกั งานท่ีผ่านการลงโทษตามข้อ 3.1 ถึงข้อ 3.3 มาแล้ว หรือใช้บงั คับแก่พนกั งานท่ีฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบตั ิตามข้อบงั คบั เกี่ยวกบั การทางาน ระเบียบ หรือคาสงั่ ของบริษัทฯ ผ้บู งั คบั บญั ชาหรือหวั หน้างาน ในกรณีร้ายแรงจนถงึ ขนั้ ต้องถกู เลิกจ้าง อนึ่ง ในการพิจารณาสงั่ ลงโทษพนกั งานผ้กู ระทาความผิดอาจไม่เป็นไปตามลาดบั ขนั้ ตอนดงั ที่ได้กาหนด ไว้ข้างต้นในทกุ กรณี แต่บริษัทฯ จะลงโทษพนกั งานทก่ี ระทาความผิดโดยพิจารณาจากความร้ายแรงของความผดิ ทีไ่ ด้กระทาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาสง่ั ลงโทษพนกั งานเป็นรายๆ ไป 4. การพจิ ารณาส่งั ลงโทษ ให้พนกั งานในระดบั ผู้บงั คบั บญั ชาหรือหวั หน้างาน (Supervisor Level up) มีอานาจพิจารณาสงั่ ลงโทษ พนกั งานในสงั กดั ที่กระทาความผิดได้ตามข้อ 3.1 ถึงข้อ 3.3 โดยมีผู้บริหารของฝ่ายเป็นผ้ลู งนามให้ความเห็นชอบ แล้วนาเสนอส่วนทรัพยากรบุคคล หรือกรรมการผู้จัดการเพ่ือให้ความเห็นชอบและพิจารณาลงโทษตามความ เหมาะสมต่อไป - 24 -

หมวด 10 การร้ องทุกข์ 1. ขอบเขตและความหมาย การร้องทกุ ข์ หมายถงึ กรณีที่ลกู จ้างมคี วามไม่พอใจหรือมีความทกุ ข์อนั เกิดขึน้ เน่ืองจากการทางานไม่ว่า จะเป็นเร่ืองสภาพการทางาน สภาพการจ้าง การบงั คบั บญั ชา การสง่ั หรือมอบหมายงา การจ่ายค่าตอบแทนใน การทางานหรือประโยชน์อ่ืน หรือการปฏิบตั ิใดท่ีไม่เหมาะสมระหว่างนายจ้างหรือผู้บงั คับบญั ชาต่อลูกจ้างหรือ ระหว่างลูกจ้างด้วยกันและลูกจ้างได้เสนอความไม่พอใจหรือความทุกข์นัน้ ต่อนายจ้าง เพ่ือให้นายจ้างได้ ดาเนินการแก้ไขหรือยุติเหตุการณ์นนั้ ทงั้ นีเ้ พ่ือให้เกิดความสมั พนั ธ์อนั ดีระหว่างนายจ้างและลกู จ้าง และเพ่ือให้ ลกู จ้างทางานด้วยความสขุ 2. วธิ ีการและขนั้ ตอน ลูกจ้างท่ีมีความไม่พอใจหรือมีความทุกข์เน่ืองจากการทางานดังกล่าวข้างต้น ควรยื่นคาร้ องทุกข์ต่อ ผ้บู งั คบั บญั ชาโดยตรงหรือผ้บู งั คบั บญั ชาชนั้ แรกของตนโดยเร็ว เว้นแตเ่ รื่องทจ่ี ะร้องทกุ ข์นนั้ เก่ียวกบั การปฏบิ ตั ิของ ผ้บู งั คบั บญั ชาดงั กล่าวหรือผ้บู งั คับบญั ชาดงั กลา่ วเป็นต้นเหตุก็ให้ยื่นคาร้องทุกข์ต่อผู้บงั คบั บญั ชาระดบั สงู ขึน้ ไป อกี ชนั้ หนงึ่ 3. การสอบสวนและพจิ ารณา เม่ือผู้บงั คบั บญั ชาได้รับคาร้องทุกข์จากลกู จ้างแล้ว ให้รีบดาเนินการสอบสวนเพ่ือให้ทราบข้อเท็จจริงใน เรื่องที่ร้องทุกข์นนั้ โดยละเอียดเท่าท่ีจะทาได้ โดยดาเนินการด้วยตนเองหรือด้วยความช่วยเหลือจากนายจ้าง ทงั้ นี ้ ลูกจ้างผู้ยื่นคาร้องทุกข์ชอบท่ีจะให้ข้อเท็จจริงโดยละเอียดแก่ผ้บู งั คับบญั ชาด้วย เมื่อสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วให้ ผ้บู งั คบั บญั ชาพิจารณาเร่ืองราวร้องทุกข์นนั้ หากเป็นเรื่องที่อย่ใู นขอบเขตของอานาจหน้าท่ีของผ้บู งั คบั บญั ชานนั้ และผ้บู งั คบั บญั ชาสามารถแก้ไขได้ ก็ให้ผ้บู งั คบั บญั ชาดาเนินการแก้ไขให้เสร็จสิน้ โดยเร็ว แล้วแจ้งให้ลกู จ้างผ้ยู ่ืน คาร้องทกุ ข์ทราบ พร้อมทงั้ รายงานให้นายจ้างทราบด้วย หากเรื่องราวที่ร้องทุกข์นนั้ เป็นเรื่องท่ีอย่นู อกเหนืออานาจหน้าท่ีของผู้บงั คบั บญั ชานนั้ ให้ผู้บงั คับบญั ชา ดังกล่าวเสนอเรื่องราวท่ีร้ องทุกข์ พร้ อมทัง้ ข้อเสนอในการแก้ไขหรือความเห็นต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึน้ ไป ตามลาดับ ให้ ผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึน้ ไปดาเนินการสอบสวนและพิจารณาคาร้ องทุกข์เช่นเดียวกับ ผ้บู งั คบั บญั ชาระดบั ต้นที่ได้รับคาร้องทกุ ข์ ผ้บู งั คบั บญั ชาแตล่ ะชนั้ ต้องดาเนินการเก่ียวกบั คาร้องทกุ ข์โดยเร็วอย่าง ช้าไมเ่ กิน 7 วนั - 25 -

4. กระบวนการยตุ ขิ ้อร้องทกุ ข์ เมื่อผ้บู งั คบั บญั ชาแต่ละชนั้ ได้พิจารณาคาร้องทุกข์ ดาเนินการแก้ไขหรือยุติเหตุการณ์ที่เกิดการร้องทุกข์ และได้แจ้งให้ลูกจ้างผู้ยื่นคาร้ องทุกข์ทราบ หากลูกจ้างผู้ย่ืนคาร้ องทุกข์พอใจก็ให้แจ้งให้ผู้บงั คับบญั ชาทราบ โดยเร็วแต่ถ้าลกู จ้างผู้ยื่นคาร้องทุกข์ไม่พอใจก็ให้ ยื่นอุทธรณ์ต่อผู้บงั คบั บญั ชาสงู สุดภายใน 7 วนั นับตงั้ แต่วันที่ ทราบผลการร้องทกุ ข์จากผ้บู งั คบั บญั ชาระดบั ต้น ผู้บงั คับบญั ชาระดับสูงสุดจะพิจารณาอุทธรณ์และดาเนินการแก้ไขหรือยุติเหตุการณ์ตามคาร้ องทุกข์ และแจ้งผลการพิจารณาดาเนินการให้ลกู จ้างผ้ยู น่ื คาร้องทกุ ข์ทราบภายใน 15 วนั หากลูกจ้างผู้ย่ืนคาร้ องทุกข์ยังไม่พอใจผลการพิจารณาอุทธรณ์ของผู้บังคับบัญชาสูงสุด ย่อมมีสิทธิ ดาเนนิ การในทางอน่ื อนั ชอบด้วยกฎหมายต่อไปได้ (หรืออาจเสนอต่อนายจ้างเพ่ือร่วมกนั ตงั้ ผ้ชู ีข้ าดขึน้ เพ่ือวินิจฉยั ชีข้ าดปัญหาอนั เกดิ จากคาร้องทกุ ข์นนั้ ตอ่ ไปได้) 5. ความค้มุ ครองผ้รู ้องทกุ ข์และผ้เู ก่ียวข้อง เน่ืองจากการร้ องทุกข์ที่กระทาไปโดยสุจริตใจ ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่ทัง้ นายจ้างและ ลูกจ้ างเป็นส่วนรวม ดังนัน้ ลูกจ้ างผู้ยื่นคาร้ องทุกข์ ลูกจ้ างผู้ให้ ถ้ อยคา ให้ ข้ อมูล ให้ ข้ อเท็จจริง หรือให้ พยานหลกั ฐานใดเกี่ยวกบั การร้องทกุ ข์ และลกู จ้างท่ีเป็นผ้พู ิจารณาคาร้องทุกข์ เมื่อได้กระทาไปโดยสจุ ริตใจ แม้ จะเป็นเหตใุ ห้เกิดข้อย่งุ ยากประการใดแก่นายจ้างก็ย่อมได้รับการประกนั จากนายจ้างว่าจะไม่เป็นเหตหุ รือถือเป็น เหตทุ ีจ่ ะเลิกจ้าง ลงโทษ หรือดาเนินการใดท่ีเกิดผลร้ายต่อลกู จ้างดงั กลา่ ว - 26 -

หมวด 11 การพ้นสภาพการเป็ นพนักงาน ค่าชดเชย และค่าชดเชยพเิ ศษ 1. การพ้นสภาพการเป็ นพนักงาน พนกั งานจะพ้นสภาพจากการเป็นพนกั งาน ด้วยเหตใุ ดเหตหุ นง่ึ ดงั ต่อไปนี ้ 1.1 ถงึ แก่ความตาย 1.2 ลาออก พนักงานท่ีมีความประสงค์จะลาออกจากการเป็นพนกั งาน ต้องยื่นหนงั สือลาออกต่อผู้บงั คับบญั ชาใน สงั กดั เพ่ือนาเสนอบริษัทฯ เป็นการล่วงหน้าอย่างน้อยหน่ึงงวดการจ่ายค่าจ้าง หากพนกั งานที่ลาออกย่ืนหนงั สือ ลาออกน้อยกว่าระยะเวลาท่ีกาหนดไว้ หรือปฏิบตั ิไม่ถูกต้องในเรื่องการลาออก บริษัทฯ อาจเลิกจ้างพนกั งานคน นัน้ ได้ และอาจเสียสิทธิท่ีจะได้รับสิทธิประโยชน์หรือสวัสดิการอื่นๆ ท่ีพึงมีสิทธิได้รับตามประกาศ คาสัง่ หรือ ระเบยี บท่บี ริษทั ฯ กาหนดไว้ 1.3 ถกู เลิกจ้าง การเลิกจ้าง หมายความว่า การท่ีนายจ้างไม่ให้ลกู จ้างทางานต่อไปและไมจ่ ่ายค่าจ้างให้ ไมว่ า่ จะเป็น เพราะเหตสุ นิ ้ สดุ สญั ญาจ้างหรือเหตอุ ื่นใด หรือด้วยเหตใุ ดเหตหุ น่งึ ดงั ตอ่ ไปนี ้ 1.3.1 ครบกาหนดเกษียณอายุ พนักงานจะพ้นสภาพจากการเป็นพนกั งานเมื่อมีอายุครบ 60 ปี บริบูรณ์ โดยถือเอาปีที่มีอายคุ รบบริบรู ณ์ และเกษียณอายุงาน ณ วนั สดุ ท้ายของเดือนท่ีเกิดของปีนนั้ โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้พนักงานที่จะเกษียณอายุงานทราบล่วงหน้า 30 วัน แต่ถ้าพนักงานท่ีจะเกษียณอายุมีความรู้ ความสามารถและมีความสาคญั ต่อการบริหารงาน บริษัทฯ อาจพิจารณาจ้างพนกั งานผ้นู นั้ ต่อไปอีกเป็นปีๆ ไปก็ ได้ 1.3.2 ครบกาหนดระยะเวลาในสัญญาจ้าง พนกั งานท่ีมีกาหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน พนกั งานจะพ้นสภาพจากการเป็นพนกั งานเม่ือครบกาหนดระยะเวลานนั้ โดยบริษทั ฯ ไมจ่ าต้องบอกกลา่ วลว่ งหน้า 1.3.3 ครบกาหนดระยะเวลาการทดลองงาน พนักงานทดลองงานจะพ้นสภาพจากการเป็น พนกั งาน เมื่อได้ทดลองงานจนครบกาหนดระยะเวลาการทดลองงานตามท่ีทางบริษัทฯ ได้กาหนดไว้แล้ว แต่ผล การประเมนิ ไม่ผ่านเกณฑ์ที่บริษทั ฯ จะจ้างไว้เป็นพนกั งานประจา - 27 -

1.3.4 หย่อนสมรรถภาพในการทางาน พนักงานท่ีมีโรคประจาตวั เป็นโรคติดต่อร้ายแรง สภาพ ร่างกายไมส่ มบรู ณ์ ขาดทกั ษะ หรือขาดความรู้ความสามารถในการทางาน หรือมีวนั ลาป่วย ลากิจ อยใู่ นเกณฑ์ท่ี สงู จนเกนิ สมควร และบริษัทฯ ได้เลิกจ้างพนกั งานผ้นู นั้ ด้วยเหตดุ งั กลา่ ว 1.3.5 ถูกเลิกจ้างเน่ืองจากการยุบหน่วยงาน หรือมีความจาเป็นในการปรับปรุงหน่วย งาน กระบวนการผลติ การจาหน่าย หรือยอดการผลิตลดลงในสภาวะท่เี ศรษฐกิจถดถอย หรือประสบภาวะขาดทนุ 1.3.6 ฝ่ าฝื นข้อบังคบั เก่ยี วกบั การทางาน ระเบยี บ หรือคาสง่ั ของบริษัทฯ จนถงึ ขนั้ ต้องถกู เลิกจ้าง หรือกระทาความผดิ ร้ายแรงจนต้องถูกเลิกจ้าง 1.3.7 ถูกเลิกจ้างในกรณีอ่ืนๆ เช่น กระทาความผิดอาญา หรือถูกฟ้องร้ องดาเนินคดีในข้อหา กระทาความผิดอาญา หรือมีสว่ นพวั พนั กบั ยาเสพติดผิดกฎหมาย หรือได้รับโทษจาคกุ ตามคาพิพากษาถึงที่สดุ ให้ จาคกุ เป็นต้น 2. ค่าชดเชย 2.1 บริษัทฯ จะจ่ายค่าชดเชยให้แก่พนักงานซ่งึ เลกิ จ้างดังต่อไปนี้ 2.1.1 พนักงานซ่ึงทางานติดต่อกันครบ 120 วนั แต่ไม่ครบ 1 ปีบริษัทฯ จะจ่ายค่าชดเชยในอัตรา ค่าจ้างสดุ ท้าย 30 วนั หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางาน 30 วันสุดท้ายสาหรับพนักงานท่ีได้รับค่าจ้างตาม ผลงานโดยคานวณเป็นหน่วย 2.1.2 พนกั งานซง่ึ ทางานติดต่อกนั ครบ 1 ปี แตไ่ ม่ครบ 3 ปีบริษทั ฯ จะจา่ ยคา่ ชดเชยในอตั ราค่าจ้าง สดุ ท้าย 90 วนั หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางาน 90 วนั สดุ ท้ายสาหรับพนกั งานท่ีได้รับค่าจ้างตามผลงานโดย คานวณเป็นหนว่ ย 2.1.3 พนกั งานซงึ่ ทางานติดต่อกนั ครบ 3 ปี แต่ไม่ครบหกปีบริษัทฯ จะจา่ ยค่าชดเชยในอตั ราค่าจ้าง สดุ ท้าย 180 วนั หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางาน 180 วนั สดุ ท้ายสาหรับพนกั งานท่ีได้รับค่าจ้างตามผลงาน โดยคานวณเป็นหน่วย 2.1.4 พนักงานซ่ึงทางานติดต่อกันครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปีบริษัทฯ จะจ่ายค่าชดเชยในอัตรา ค่าจ้างสดุ ท้าย 240 วนั หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางาน 240 วนั สดุ ท้ายสาหรับพนกั งานท่ีได้รับค่าจ้างตาม ผลงานโดยคานวณเป็นหน่วย - 28 -

2.1.5 พนักงานซึ่งทางานติดต่อกันครบ 10 ปี แต่ไม่ครบ 20 ปีบริษัทฯ จะจ่ายค่าชดเชยในอัตรา ค่าจ้างสดุ ท้าย 300 วนั หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางาน 300 วนั สดุ ท้ายสาหรับพนกั งานที่ได้รับค่าจ้างตาม ผลงานโดยคานวณเป็นหนว่ ย 2.1.6 พนกั งานซ่ึงทางานติดต่อกนั ครบ 20 ปีขึน้ ไปบริษัทฯ จะจ่ายค่าชดเชยในอตั ราค่าจ้างสดุ ท้าย 400 วัน หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางาน 400 วันสุดท้ายสาหรับพนักงานท่ีได้รับค่าจ้างตามผลงานโดย คานวณเป็นหนว่ ย 2.2 บริษทั ฯ จะไม่จ่ายค่าชดเชยให้แก่พนักงาน ซ่งึ เลิกจ้างในกรณีหน่ึงกรณีใด ดังต่อไปนี้ 2.2.1 ทจุ ริตต่อหน้าท่ี หรือกระทาความผดิ อาญาโดยเจตนาแก่บริษัทฯ 2.2.2 จงใจทาให้บริษัทฯ ได้รับความเสยี หาย 2.2.3 ประมาทเลนิ เลอ่ เป็นเหตใุ ห้บริษัทฯ ได้รับความเสยี หายอย่างร้ายแรง 2.2.4 ฝ่าฝืนข้อบงั คบั เก่ียวกบั การทางาน ระเบียบ หรือคาสง่ั ของบริษัทฯ อนั ชอบด้วยกฎหมายและ เป็นธรรม และบริษทั ฯ ได้ตกั เตอื นเป็นหนงั สือแล้ว เว้นแต่กรณีท่รี ้ายแรง บริษัทฯ ไม่จาเป็นต้องตกั เตือน 2.2.5 ละทิง้ หน้าทเี่ ป็นเวลา 3 วนั ทางานติดต่อกนั ไมว่ า่ จะมีวนั หยดุ คนั่ หรือไมก่ ็ตามโดยไมม่ เี หตอุ นั สมควร 2.2.6 ได้รับโทษจาคกุ ตามคาพิพากษาถึงทส่ี ดุ ให้จาคกุ และถ้าเป็นความผดิ ทไ่ี ด้กระทาโดย ประมาทหรือความผดิ ลหโุ ทษ ต้องเป็นกรณีท่เี ป็นเหตใุ ห้บริษัทฯ ได้รับความเสยี หาย 3. ค่าชดเชยพเิ ศษ 3.1 ในกรณีท่ีบริษัทฯ จะย้ายสถานประกอบกิจการไปตัง้ ณ สถานท่ีอื่นอันมีผลกระทบสาคัญต่อการ ดารงชีวิตตามปกติของพนกั งานหรือครอบครัว บริษัทฯ จะแจ้งให้พนกั งานทราบลว่ งหน้าไม่น้อยกว่า 30 วนั ก่อน วันย้ายสถานประกอบกิจการ ถ้าพนักงานไม่ประสงค์จะไปทางานด้วย ให้พนักงานมีสิทธิบอกเลิกสญั ญาจ้างได้ ภายใน 30 วนั นบั แต่วนั ทีไ่ ด้รับแจ้งจากบริษทั ฯ หรือวนั ทบี่ ริษทั ฯ ย้ายสถานประกอบกจิ การแล้วแต่กรณี และมสี ทิ ธิ ได้รับค่าชดเชยไมน่ ้อยกว่าอตั ราค่าชดเชยทีพ่ นกั งานพงึ มีสิทธิได้รับตามข้อ 2.1 ในกรณีท่ีบริษทั ฯ ไมแ่ จ้งให้พนกั งานทราบลว่ งหน้าตามวรรคหน่ึง บริษทั ฯ จะจา่ ยคา่ ชดเชยพิเศษแทนการ บอกกลา่ วลว่ งหน้าเทา่ กบั ค่าจ้างอตั ราสดุ ท้าย 30 วนั โดยบริษัทฯ จะจา่ ยคา่ ชดเชยพเิ ศษ หรือคา่ ชดเชยพิเศษแทน การบอกกลา่ วลว่ งหน้าให้แกพ่ นกั งานภายใน 7 วนั นบั แตว่ นั ที่พนกั งานบอกเลิกสญั ญา - 29 -

ในกรณีที่บริษัทฯ ไม่จ่ายค่าชดเชยพิเศษ ค่าชดเชยพิเศษแทนการบอกกล่าวล่วง หน้าตามวรรคสอง ให้ พนกั งานมสี ทิ ธิยนื่ คาร้องตอ่ คณะกรรมการสวสั ดิการและค้มุ ครองแรงงานภายใน 30 วนั นบั แต่วนั ครบกาหนดการ จา่ ยคา่ ชดเชยพเิ ศษ หรือคา่ ชดเชยพิเศษแทนการบอกกลา่ วลว่ งหน้า 3.2 ในกรณีที่บริษัทฯ จะเลิกจ้างพนกั งานเพราะเหตทุ ่ีบริษัทฯ ปรับปรุงหน่วยงาน กระบวนการผลิต การ จาหน่าย หรือการบริการ อันเน่ืองมาจากการนาเทคโนโลยีใหม่มาใช้ ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องลดจานวนพนักงาน โดย บริษัทฯ จะแจ้งวนั ทจี่ ะเลิกจ้าง เหตผุ ลของการเลกิ จ้างและรายชื่อพนกั งานต่อพนกั งานตรวจแรงงาน และพนกั งาน ท่ีจะเลิกจ้างทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วนั ก่อนวนั ที่จะเลิกจ้าง โดยพนกั งานมีสิทธิได้รับค่าชดเชยตามข้อ 2.1 ทกุ ประการ ในกรณีที่บริษัทฯ ไม่แจ้งให้พนักงานท่ีจะเลิกจ้างทราบล่วงหน้า หรือแจ้งล่วงหน้าน้อยกว่าระยะเวลาท่ี กาหนดตามวรรคหน่ึงนอกจากพนักงานจะได้รับค่าชดเชยตามข้อ 2.1 แล้ว บริษัทฯ จะจ่ายค่าชดเชยพิเศษแทน การบอกกล่าวลว่ งหน้าเท่ากบั ค่าจ้างอตั ราสดุ ท้าย 60 วนั และให้ถือว่าการจา่ ยค่าชดเชยพเิ ศษแทนการบอกกลา่ ว ลว่ งหน้านี ้เป็นการจา่ ยสินจ้างแทนการบอกกลา่ วล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ด้วย สาหรับพนกั งานท่ีทางานติดต่อกันเกิน 6 ปีขึน้ ไป บริษัทฯ จะจ่ายค่าชดเชยพิเศษเพ่ิมขึน้ จากค่าชดเชย ตามข้อ 2.1 ไม่น้อยกว่าค่าจ้างอตั ราสดุ ท้าย 15 วนั ต่อการทางานครบ 1 ปี แต่ค่าชดเชยตามข้อนีเ้ ม่ือรวมแล้วต้อง ไม่เกินคา่ จ้างอตั ราสดุ ท้าย 360 วนั - 30 -

หมวด 12 สวัสดิการ สวัสดกิ ารตามกฎหมาย 1. กองทุนเงนิ ทดแทน ในกรณีท่ีพนกั งานประสบอนั ตราย กล่าวคือ ได้รับอนั ตรายแก่ร่างกายหรือผลกระทบทางจิตใจ หรือถึงแก่ ความตายเนื่องจากการทางาน หรือป้องกันรักษาประโยชน์ให้แก่บริษัทฯ หรือตามคาสงั่ ของบริษัทฯ หรือการที่ ลกู จ้างเจ็บป่ วยหรือถึงแก่ความตายด้วยโรคซ่ึงเกิดขึน้ ตามลกั ษณะหรือสภาพของงาน หรือเนื่องจากการทางาน รวมทัง้ การสูญเสียอวัยวะ หรือสูญเสียสมรรถภาพในการทางานของร่างกายหรือจิตใจ พนักงานจะได้รับการ เยยี วยาในลกั ษณะต่างๆ ตามกฎหมายดงั นี ้ 1.1. ค่าทดแทน สาหรับการประสบอนั ตราย เจ็บป่ วย หรือสูญหายตามท่ีระบุไว้ในพระราชบญั ญัติเงิน ทดแทน 1.2. ค่ารักษาพยาบาล อนั เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกบั การตรวจ การรักษา การพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นที่ จาเป็น ในกรณีทีพ่ นกั งานประสบอนั ตรายหรือเจ็บป่วย โดยบริษัทฯ จะจ่ายคา่ รักษาพยาบาลให้เท่าทจ่ี า่ ยจริงแต่ไม่ เกนิ อตั ราท่ีกาหนดในกฎกระทรวง 1.3. ค่าฟืน้ ฟสู มรรถภาพ สาหรับพนกั งานทจี่ าเป็นต้องได้รับการฟื น้ ฟสู มรรถภาพ ในการทางานภายหลงั การประสบอันตรายหรือเจ็บป่ วย โดยบริษัทฯ จะจ่ายให้ตามความจาเป็นตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และอัตราที่ กาหนดในกฎกระทรวง 1.4. ค่าทาศพ สาหรับกรณีท่พี นกั งานประสบอนั ตรายหรือเจ็บป่ วยจนถึงแก่ความตาย หรือสญู หาย โดย บริษัทฯ จะจ่ายค่าทาศพให้แก่ผ้จู ัดการศพของพนกั งานเป็นจานวนหน่ึงร้อยเท่าของอตั ราสงู สดุ ของค่าจ้างขัน้ ต่า รายวนั ตามกฎหมายวา่ ด้วยการค้มุ ครองแรงงาน 1.5. เงินทดแทนหรือค่าตอบแทนอื่นๆ บริษัทฯ จะจ่ายให้แก่พนักงานหรือผู้มีสิทธิตามท่ีกาหนดไว้ใน พระราชบญั ญตั เิ งินทดแทนฯ ทกุ ประการ 2. กองทนุ ประกนั สังคม บริษัทฯ ได้จดั ให้มกี ารสงเคราะห์พนกั งานผ้ปู ระกนั ตน ตามพระราชบญั ญัตปิ ระกนั สงั คมฯ โดยการใช้สิทธิ ของผ้ปู ระกนั ตนนนั้ พนกั งานสามารถใช้สทิ ธิในการรักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่ วย หรือประสบอนั ตรายนอกเวลา งาน ทุพพลภาพ คลอดบุตร ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพและว่างงานไ ด้ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการท่ี พระราชบญั ญัติประกนั สงั คมฯ ให้สทิ ธิไว้ - 31 -

สวัสดกิ ารท่บี ริษทั ฯ จัดให้พนักงาน บริษทั ฯ ได้จดั สวสั ดิการให้แก่พนกั งานนอกเหนือจากท่ีกฎหมายกาหนดไว้ดงั นี ้ 1. ประกนั สขุ ภาพ, ประกนั ชีวติ , ประกนั อบุ ตั ิเหตุ และคา่ ทนั ตกรรม 2. บริการสปาท่บี ริษัท เดือนละ 1 ครัง้ 3. ตรวจสขุ ภาพประจาปี 4. หลกั สตู รฝึกอบรมเพอื่ พฒั นาศกั ยภาพของพนกั งาน 5. เงินช่วยเหลืองานฌาปนกิจ จานวน 5,000 บาท และร่วมเป็นเจ้าภาพบาเพ็ญกศุ ลในการสวดอภิธรรม ศพ 1 คืน พร้ อมพวงหรีด ราคา 1,000 บาท ในนามของบริษัทฯ ในกรณีท่ีพนักงาน บิดา มารดา หรือบุตรของ พนกั งานเสยี ชวี ิต 6. สวสั ดิการอน่ื เป็นไปตามท่บี ริษัทฯได้กาหนดหรือจดั ไว้ให้ และตามนโยบาย ประกาศ ระเบยี บ หรือคาสงั่ อื่นๆ ประกาศมา ณ วนั ท่ี ............................................................ (ทรัพย์ เกยี รติฐิตินันท์) กรรมการผู้จดั การ - 32 -

-1-


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook