ใบความรทู้ ี่ 9 กฎหมายและหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้องกบั งาน อาชวี อนามยั และความปลอดภยั
ใบความรทู้ ่ี 9 เรอ่ื ง กฎหมายและหน่วยงานท่เี กี่ยวขอ้ งกบั งานอาชีวอนามัยและความปลอดภยั 1. ความสำคัญของกฎหมายและหน่วยงานที่เก่ยี วขอ้ งกบั งานอาชีวอนามยั และความปลอดภยั กฎหมายท่ีเก่ียวกบั การปฏิบัติงานในโรงงานมีมาต้ังแตต่ ้นศตวรรษท่ี 19 ท่ีประเทศอังกฤษเพ่ือปกป้อง คุ้มครองผู้ประกอบอาชีพ จนถึงศตวรรษท่ี 21 ก็ยังมีสถานประกอบการนำเอาสารเคมีที่มีอันตรายต่อ ผู้ปฏิบัติงานมาใช้ในกระบวนการผลิต ย่ิงทำให้กฎหมายมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อท่ีจะปกป้องคุ้มครอง ผู้ปฏิบัติงาน จึงต้องมีหน่วยงานกำหนดมาตรฐาน แต่สถานประกอบการก็ยังนำสารอันตรายมาใช้ในระบวน การผลิต การท่ีจะทำให้สถานประกอบการหรือนายจ้างเห็นความสำคัญของสุขภาพอนามัยของผู้ปฏิบัติงาน ต้องทำความเข้าใจและให้ความร่วมมือ อีกทั้งต้องบังคับผู้ปฏิบัติงานให้ตระหนักถึงความสำคัญในความ ปลอดภยั และการป้องกนั อันตรายท่จี ะเกดิ ในกระบวนการผลติ โดยต้องมีอปุ กรณ์ปอ้ งกนั อนั ตรายเฉพาะตัวเอง รวมท้ังอันตรายท่เี กดิ จากสภาพแวดลอ้ มในการปฏิบตั ทิ ีไ่ มป่ ลอดภัย 2. กฎหมายความปลอดภยั ในการทำงาน กฎหมายเพ่ือความปลอดภัยในการทำงาน สำหรับประเทศไทยได้ออกกฎหมายที่เก่ียวกับอาชีวอนา มัยและความปลอดภัยไว้หลายฉบับ ดงั น้ี 1. ประกาศคณะปฏวิ ตั ฉิ บบั ที่ 103 เรื่อง การคุม้ ครองแรงงาน พทุ ธศกั ราช 2515 2. พระราชบัญญตั ปิ ระกันสังคม พทุ ธศกั ราช 2533 3. พระราชบัญญัตกิ ารสาธารณสขุ พุทธศกั ราช 2535 4. พระราชบัญญัติโรงงาน พทุ ธศักราช 2535 5. พระราชบญั ญัติวตั ถุอันตราย พทุ ธศกั ราช 2535 6. พระราชบัญญัติเงินทดแทน พุทธศักราช 2537 7. ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอื่ ง ความปลอดภยั ในการทำงาน ทงั้ หมด 17 ฉบับ 3. พระราชบญั ญัติโรงงาน พุทธศักราช 2535 1. การประกอบกิจการโรงงาน มาตรา 7 กำหนดใหโ้ รงงานตามประเภทชนิดหรอื ขนาดใดเป็นโรงงาน จำพวกท่ี 1 โรงงานจำพวกท่ี 2 หรือโรงงานจำพวกที่ 3 แล้วแต่กรณี โดยคำนึงถึงความจำเป็นในการ ควบคุมดูแลการป้องกันอุบัติเหตุเดือดร้อนรำคาญ การป้องกันความเสียหาย และการป้องกันอันตรายตาม ระดับความรุนแรงของผลกระทบที่จะมีต่อประชาชนหรอื สงิ่ แวดล้อม 2. การขอใบอนุญาตให้เป็นไปตามมาตรา 14 ใบอนุญาตให้ใช้ได้จนถงึ วนั สน้ิ ปีปฏิทินแห่งปที ่ีห้านับแต่ ปที ่เี ร่ิมประกอบกจิ การ เวน้ แต่มกี ารย้ายโรงงานตามมาตรา 27 หรอื มกี ารเลิกประกอบกจิ การโรงงาน ให้ถือว่า
ใบอนุญาตส้ินสุดอายุในวันท่ีออกใบอนุญาตใหม่ หรือวันที่เลิกประกอบกิจการโรงงาน ถ้ามีเหตุอันสมควรเพ่ือ ยุติการประกอบกิจการในอนาคตอันใกล้ ผู้อนุญาตโดยอนุมัติรัฐมนตรีจะออกใบอนุญาตให้มีอายุส้ันกว่าท่ี กำหนดไว้ในวรรคหนึ่งก็ได้ ใบอนุญาตท่ีออกในกรณีนี้จะขอต่ออายุอีกไม่ได้ และมาตรา 15 การขอต่ออายุ ใบอนุญาต ใหผ้ ู้รับใบอนุญาตยืน่ คำขอก่อนวันท่ใี บอนุญาตส้นิ อายุ เม่ือได้ย่ืนคำขอดังกล่าวแล้วให้ถือว่าผู้ย่นื คำ ขออยใู่ นฐานะผู้รับใบอนุญาตจนกวา่ จะมคี ำสง่ั ถึงที่สดุ ไมอ่ นญุ าตให้ต่ออายุใบอนุญาต 3. กฎกระทรวงฉบับท่ี 2 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัตโิ รงงานพ.ศ. 2535 4. พระราชบัญญตั ิคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 1. ระยะเวลาทำงาน พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 หมวด 2 มาตรา 23 ระบุว่า ให้ นายจ้างประกาศเวลาทำงานปกติให้ลูกจ้างทราบ โดยกำหนดเวลาเริม่ ต้นและเวลาส้ินสุดของการทำงานแต่ละ วัน โดยวันหน่ึงต้องไม่เกินแปดชั่วโมง และรวมท้ังส้ินแล้วสัปดาห์หน่ึงต้องไม่เกินส่ีสิบแปดช่ัวโมงเว้นแต่งานท่ี อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้างตามที่กำหนดในกฎกระทรวงจะมีเวลาทำงานปกติ ตอ้ งไมเ่ กินเจ็ดชวั่ โมงในหนง่ึ วนั แต่รวมท้ังสนิ้ แลว้ สัปดาหห์ น่ึงต้องไม่เกนิ สีส่ บิ สองช่วั โมง 2. การใช้แรงงานเด็ก ในมาตรา 44 ห้ามไม่ให้นายจ้างจ้างเด็กอายตุ ํ่ากว่า 15 ปีเป็นลูกจ้าง และหาก มกี ารจ้างเดก็ อายตุ ่ํากวา่ 18 ปเี ป็นลกู จ้าง หา้ มมิให้นายจา้ งใหเ้ ดก็ ทำงานอย่างใดอยา่ งหนง่ึ ดงั ตอ่ ไปน้ี 2.1. งานหลอม เป่า หลอ่ หรือรีดโลหะ 2.2 งานป๊มั โลหะ 2.3 งานเก่ียวกับความร้อน ความเย็น ความส่ันสะเทือน เสียง และแสงท่ีมีระดับแตกต่างจาก ปกตอิ นั อาจเปน็ อันตรายตามทก่ี ำหนดในกฎกระทรวง 2.4 งานเกี่ยวกบั สารเคมที ีเ่ ปน็ อันตรายตามที่กำหนดในฎกระทรวง 2.5 งานเกี่ยวกับจุลชีวันเป็นพิษซ่ึงอาจเป็นเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ราหรือเช้ืออ่ืนตามที่กำหนดใน กฎกระทรวง 2.6 งานเกี่ยวกับวัตถุมีพิษ วัตถุระเบิด หรือวัตถไุ วไฟ เว้นแต่งานในสถานีบริการนํ้ามันเชื้อเพลิง ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง 2.7 งานขบั หรือบงั คบั รถยกหรอื ป้นั จ่นั ตามท่ีกำหนดในกฎกระทรวง 2.8 งานใช้เลอ่ื ยเดนิ ด้วยพลังไฟฟา้ หรือเครื่องยนต์ 2.9 งานท่ตี ้องทำ ใตด้ ิน ใตน้ ้ํา ในถํา้ อุโมงค์ หรอื ปล่องในภูเขา 2.10 งานเกี่ยวกบั กมั มนั ตภาพรงั สตี ามทกี่ ำหนดในกฎกระทรวง
2.11 งานทำความสะอาดเครื่องจักรหรือเคร่ืองยนต์ขณะท่ีเครื่องจักรหรือเครื่องยนต์กำลัง ทำงาน 2.12 งานที่ตอ้ งทำ บนน่ังรา้ นท่สี ูงกว่าพนื้ ดินตัง้ แต่สิบเมตรขน้ึ ไป 2.13 งานอื่นตามท่กี ำหนดในกฎกระทรวง 3. ค่าจา้ ง คา่ ลว่ งเวลา คา่ ทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดในกรณที ่ีงานมลี ักษณะและ คุณภาพอย่างเดียวกันและปริมาณเท่ากัน ให้นายจ้างกำหนดค่าจ้างค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่า ล่วงเวลาในวนั หยดุ ให้แก่ลูกจ้างเทา่ เทยี มกัน ไม่วา่ ลูกจ้างนนั้ จะเป็นชายหรือหญิง และต้องจา่ ยเป็นเงนิ ตราไทย และให้นายจา้ งจ่ายค่าจา้ งใหแ้ กล่ ูกจ้างเทา่ กบั คา่ จ้างในวนั ทำงานสำหรับวันหยดุ ดงั ตอ่ ไปนี้ 3.1 วันลา นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในวันลาป่วย เท่ากับอัตราค่าจ้างในวันทำงานตลอด ระยะเวลาทล่ี า แตป่ หี นึง่ ต้องไมเ่ กนิ 30 วนั ทำงาน 3.2 ลาทำหมัน ลูกจ้างใช้สิทธลิ าเพือ่ ทำหมนั ให้นายจ้างจา่ ยคา่ จา้ งใหแ้ กล่ กู จ้างในวนั ลานนั้ ด้วย 3.3 ลารับราชการทหาร นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในวันลาเพื่อรับราชการทหารเท่ากับ คา่ จา้ งในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ปหี นง่ึ ตอ้ งไมเ่ กนิ 60 วนั 3.4 ลาคลอด นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างซ่ึงเป็นหญิงในวันลาเพ่ือคลอดบุตรเท่ากับค่าจ้าง ในวนั ทำงานตลอดระยะเวลาท่ลี า แตไ่ มเ่ กิน 45 วัน 4. คณะกรรมการค่าจ้าง ให้มีคณะกรรมการค่าจ้างประกอบด้วย ปลัดกระทรวงแรงงานและ สวัสดิการสงั คมเป็นประธานกรรมการ โดยมีผู้แทนฝา่ ยรัฐบาล 4 คน ผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผแู้ ทนฝ่ายลกู จ้าง ฝ่ายละ5 คน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งต้ังเป็นกรรมการ และข้าราชการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมซึ่ง รฐั มนตรแี ต่งตั้งเปน็ เลขานุการ 5. สวัสดิการ ให้มีคณะกรรมการสวัสดิการแรงงานประกอบด้วย ปลัดกระทรวงแรงงานและ สวัสดิการสังคมเป็นประธานกรรมการ กรรมการผู้แทนฝ่ายรัฐบาล 4 คน กรรมการผู้แทนฝ่ายนายจ้างและ กรรมการผู้แทนฝ่ายลูกจ้างฝ่ายละ 5 คน ซ่ึงรัฐมนตรีแต่งต้ังเป็นกรรมการและข้าราชการกรมสวัสดิการและ คมุ้ ครองแรงงานซ่งึ รฐั มนตรแี ตง่ ต้ังเป็นเลขานุการ 6. ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเป็น ประธานกรรมการ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ผู้แทนกรมอนามัย ผู้แทนกรมโรงงาน อุตสาหกรรม ผู้แทนกรมโยธาธิการ และผู้แทนกรมควบคุมมลพิษเป็นกรรมการ กับผู้แทนฝ่ายนายจ้างและ ผู้แทนฝ่ายลูกจ้างฝ่ายละ 7 คน และข้าราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเป็นกรรมการและ เลขานกุ าร
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: