๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ นิทานอ่านสนกุ
๒
๓ ท ๓/ผ.๑ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ นทิ านอ่านสนกุ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… คาชีแ้ จง ปฏิบตั กิ ิจกรรมต่อไปน้ี ๑. โยงเส้นจบั คู่คำเตม็ กบั อักษรย่อใหถ้ ูกต้อง (๒ คะแนน) พ.ศ. ผ้อู ำนวยกำร กม. โรงพยำบำล ผอ. พทุ ธศักรำช รพ. กิโลเมตร ๒. โยงเส้นจับคเู่ ครอ่ื งหมำยวรรคตอนใหถ้ ูกต้อง อัศเจรีย์ (...........................) นขลิขิต “ ” อญั ประกำศ ! ทับ / ๓. เขยี นคำอ่ำนของอักษรนำต่อไปน้ี ขนุน อ่ำนวำ่ ................................................................................................ สมดุ อำ่ นวำ่ ................................................................................................. ตลำด อำ่ นวำ่ ................................................................................................. ฉลำด อ่ำนว่ำ................................................................................................ ๔. ขีดเสน้ ใต้คำกรยิ ำจำกประโยคตอ่ ไปน้ี - ทกุ คนหัวเรำะเม่อื ดูรำยกำรตลก - กบหลำยตวั กระโดดไปมำในหนองน้ำใหญ่
๔ ๕. เขียนคำวเิ ศษณท์ ี่มีควำมหมำยตรงขำ้ ม ท ๓/ผ.๑ หอม คำตรงข้ำม ...................... อว้ น คำตรงข้ำม ...................... ใหญ่ คำตรงขำ้ ม ...................... เช้ำ คำตรงขำ้ ม ...................... ๖. อ่ำนเรื่องท่ีกำหนดแลว้ เขยี นแผนภำพโครงเร่ือง นา้ ใจกระรอกนอ้ ย มะปรำงกบั แม่ปลูกบ้ำนอยู่ในสวนเล็กๆ แถวชำนเมือง มะปรำงต่นื แต่เชำ้ ตรู่เพอื่ ทำขนมกลว้ ย ไปสง่ แม่ค้ำในตลำด พอทำขนมเสร็จมะปรำงจะจดั ขนมตำมจำนวนท่ีแมค่ ้ำแต่ละคนสง่ั อยำ่ งครบถว้ น แต่สองสำมวนั มำนี้ แมค่ ้ำคนหน่งึ บน่ วำ่ มะปรำงส่งขนมไม่ครบ ขนมขำดไป ๑ หอ่ มะปรำงรบี ขอโทษ และรับปำกวำ่ จะไมใ่ ห้ขนมขำดจำนวนอกี พอวันต่อมำแม่ค้ำก็บอกว่ำขนมขำดไป ๑ หอ่ อีก มะปรำง กลุม้ ใจมำกจึงคดิ หำทำงแกไ้ ข วันนน้ั พอมะปรำงจดั ขนมเสร็จ มะปรำงก็แอบสังเกตกำรณท์ ปี่ ระตู เพอ่ื หำสำเหตุของขนม ทห่ี ำยไปทันใดนน้ั เองมะปรำงก็เห็นกระรอกน้อยตัวหนึ่งหำงเปน็ พวงวิ่งออกมำลำกขนมไป เธอยิ้มออกมำ อย่ำงดใี จเพรำะเห็นควำมน่ำรักของมัน ต่อมำเธอวำงขนมให้มนั ๑ หอ่ ทุกวัน ซ่งึ กระรอกนอ้ ยก็ออกมำกิน ทกุ วนั เชน่ กนั ต้ังแตน่ ัน้ มำ มะปรำงร้สู ึกแปลกใจเมื่อเธอไปเกบ็ มะพร้ำวในสวน จะเห็นมะพรำ้ วแก่ๆ ตกอยใู่ ต้ตน้ วนั ละ ๒-๓ ลูกทุกวนั ในทสี่ ดุ มะปรำงกร็ ู้ว่ำเป็นฝีมอื กระรอกน้อยนั่นเอง มะปรำงรู้สึก ตนื้ ตนั ใจกบั ควำมมนี ้ำใจของมนั มนั ตอบแทนควำมใจดขี องเธอในส่งิ ทีม่ ันสำมำรถทำได้ ใครจะนกึ ว่ำ แม้แตส่ ัตวต์ ัวนอ้ ยกร็ ู้จักกตัญญรู ู้คุณถึงเพยี งน้ี หนังสอื ทกั ษะภำษำ กระทรวงศึกษำธกิ ำร. ตวั ละคร ………………………………………………………………………………………................. สถำนท่ี ผลของเหตุกำรณ์ ……………………………………………………………………………………………………... ขอ้ คิดท่ีได้รับ เหตุกำรณ์ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………ท…๓……/ผ….…๑ ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
๕ นทิ านเรอื่ ง “สนุ ขั จิง้ จอกกบั พวงองุน่ ” วนั หนงึ่ ในช่วงฤดูรอ้ น ขณะท่ีสนุ ขั จง้ิ จอกกำลงั เดินเล่น…ผำ่ นเข้ำไปยงั สวนผลไม้ จนกระทงั่ มำถงึ พวงองุ่นช่อหนึ่งเพิ่งสกุ เตม็ ที่ ซ่ึงอยสู่ งู ตระงำ่ น “มันจะช่วยดบั กระหำยของข้ำได้” สนุ ขั จ้งิ จอกกลำ่ ว มันถอยหลังไป 2-3 ก้ำวแลว้ วงิ่ กลบั มำ…และกระโดด แต่มันกพ็ ลำด ไม่สำมำรถเก็บองนุ่ ช่อนั้นได้ มันทำเชน่ เดิมอีกแตก่ ย็ งั ไมส่ ำเร็จ คร้งั แลว้ คร้งั เล่ำท่ีมันพยำยำมอยู่เช่นนั้นหลงั จำกท่ีไดเ้ ห็นอำหำรล่อใจชน้ิ นั้น แต่สุดทำ้ ยมันกต็ อ้ งยอมแพ้ และเดนิ กลับออกมำ พรอ้ มเอ๋ยออกมำวำ่ “ฉนั ม่ันใจวำ่ …มนั ตอ้ งเป็นองุ่นเปรี้ยวแน่ ๆ” https://bkkseek.com/the-fox-and-the-grapes
๖ ท ๓/ผ.๑ นิทานเร่อื ง ยายกะตา ยำยกะตำปลกู ถัว่ ปลกู งำใหห้ ลำนเฝ้ำ หลำนไมเ่ ฝ้ำ กำมำกินถั่วกินงำเจด็ เม็ดเจด็ ทะนำน ยำยมำยำย กด็ ่ำ ตำมำตำกต็ ี หลำนรอ้ งไห้ไปหำนำยพรำน ขอให้ชว่ ยยิงกำ กำกนิ ถว่ั กินงำเจด็ เมด็ เจ็ดทะนำน ยำยมำ ยำยกด็ ำ่ ตำมำตำกต็ ี นำยพรำนตอบว่ำ “ไม่ใช่กงกำรอะไรของขำ้ ”หลำนจึงไปหำหนู ขอให้ชว่ ยกดั สำยธนู นำยพรำน นำยพรำนไมช่ ่วยยงิ กำ กำกนิ ถั่วกินงำเจด็ เมด็ เจด็ ทะนำน ยำยมำยำยกด็ ำ่ ตำมำตำก็ตี หนตู อบ ว่ำ “ไมใ่ ชก่ งกำรอะไรของข้ำ” หลำนจึงไปหำแมว ขอให้แมวช่วยกัดหนู หนไู ม่ชว่ ยกัดสำยธนนู ำยพรำน นำยพรำนไมช่ ่วยยิงกำ กำกินถั่วกินงำเจด็ เม็ดเจด็ ทะนำน ยำยมำยำยกด็ ่ำ ตำมำตำก็ตี แมวตอบวำ่ “ไมใ่ ช่ กงกำรอะไรของข้ำ หลำนจึงไปหำหมำ ขอให้ชว่ ยกัดแมว แมวไม่ชว่ ยกัดหนู หนูไม่ช่วยกัดสำยธนูนำยพรำน นำยพรำนไมช่ ่วยยงิ กำ กำกินถวั่ กินงำเจ็ดเม็ดเจด็ ทะนำน ยำยมำยำยก็ด่ำ ตำมำตำก็ตี หมำตอบวำ่ “ไมใ่ ช่ กงกำรอะไรของข้ำ” หลำนจึงไปหำไมค้ ้อนให้ย้อนหวั หมำ หมำไม่ช่วยกัดแมว แมวไม่ช่วยกัดหนู หนูไม่ช่วย กัดสำยธนนู ำยพรำน นำยพรำนไม่ชว่ ยยงิ กำ กำกินถ่ัวกินงำเจ็ดเมด็ เจด็ ทะนำน ยำยมำยำยกด็ ำ่ ตำมำตำก็ตี ไมค้ ้อนตอบว่ำ “ไมใ่ ช่กงกำรอะไรของข้ำ” หลำนจึงไปหำน้ำให้ช่วยดับไฟ ไฟให้ช่วยไหม้ไม้คอ้ น ไมค้ ้อน ไม่ช่วยยอ้ นหัวหมำ หมำไม่ช่วยกัดแมว แมวไมช่ ่วยกัดหนู หนูไมช่ ่วยกดั สำยธนูนำยพรำน นำยพรำนไม่ช่วย ยงิ กำ กำกนิ ถวั่ กนิ งำเจ็ดเม็ดเจ็ดทะนำน ยำยมำยำยกด็ ำ่ ตำมำตำก็ตี ไฟตอบว่ำ “ไม่ใช่กงกำรอะไรของข้ำ” หลำนจึงไปหำนำ้ ใหช้ ว่ ยดบั ไฟ ไฟไมใ่ ห้ช่วยไหม้ไมค้ ้อน ไม้ค้อนไมช่ ว่ ยย้อนหัวหมำ หมำไม่ชว่ ยกดั แมว แมวไมช่ ว่ ยกดั หนู หนูไมช่ ว่ ยกัดสำยธนนู ำยพรำน นำยพรำนไมช่ ว่ ยยงิ กำ กำกินถั่วกินงำเจด็ เมด็ เจ็ดทะนำน ยำยมำยำยกด็ ่ำ ตำมำตำก็ตี นำ้ ตอบวำ่ “ไมใ่ ช่กงกำรอะไรของขำ้ ” หลำนจงึ ไปหำตลิ่งใหช้ ่วยพงั ทบั น้ำ น้ำไมช่ ่วยดับไฟ ไฟไม่ชว่ ยไหม้ไม้คอ้ น ไม้ค้อนไม่ชว่ ยยอ้ นหวั หมำ หมำไม่ช่วยกดั แมว แมวไมช่ ว่ ยกัดหนู หนูไมช่ ว่ ยกัดสำยธนนู ำยพรำน นำยพรำนไม่ช่วยยงิ กำ กำกินถว่ั กินงำเจด็ เม็ดเจ็ดทะนำน ยำยมำยำยกด็ ่ำ ตำมำตำก็ตี ตลง่ิ ตอบวำ่ “ไม่ใช่กงกำรอะไรของขำ้ ” หลำนจึงไปหำช้ำงใหช้ ่วยถล่มตลิ่ง ตลิ่งไม่ช่วย พงั ทับน้ำ น้ำไมช่ ว่ ยดบั ไฟ ไฟไม่ช่วยไหม้ ไม้ค้อน ไมค้ ้อนไมช่ ว่ ยย้อนหวั หมำ หมำไมช่ ว่ ยกดั แมว แมวไม่ช่วยกดั หนู หนไู ม่ชว่ ยกัดสำยธนนู ำยพรำน นำยพรำนไม่ชว่ ยยงิ กำ กำกินถว่ั กินงำเจด็ เม็ดเจด็ ทะนำน ยำยมำยำยกด็ ่ำ ตำมำตำก็ตี ช้ำงตอบวำ่ “ไม่ใชก่ งกำรอะไรของข้ำ” หลำนจงึ ไปหำแมลงหว่ใี ห้ชว่ ยตอมตำช้ำง ชำ้ งไม่ชว่ ยถล่ม ตล่งิ ตล่งิ ไมช่ ว่ ยพงั ทบั นำ้ น้ำไมช่ ่วยดบั ไฟ ไฟไมช่ ่วยไหม้ไมค้ ้อน ไม้คอ้ นไมช่ ว่ ยยอ้ นหัวหมำ หมำไมช่ ่วยกัด แมว แมวไมช่ ่วยกัดหนู หนไู ม่ชว่ ยกัดสำยธนูนำยพรำน นำยพรำนไม่ช่วยยิงกำ กำกนิ ถ่ัวกินงำเจด็ เม็ดเจด็ ทะนำน ยำยมำยำยกด็ ่ำ ตำมำตำกต็ ี แมลงหวต่ี อบว่ำ “ข้ำจะชว่ ยตอมตำช้ำงให้ตำเนำ่ ท้งั สองข้ำง” ชำ้ งตกใจ จงึ รีบไปช่วยถลม่ ตลิง่ ตล่งิ จึงรีบไปช่วยพังน้ำ น้ำจงึ รบี ไปช่วยดบั ไฟ ไฟจึงรบี ไปช่วยไหมไ้ ม้ค้อน ไม้ค้อนจงึ รีบ ไปช่วยย้อนหวั หมำหมำ จึงรีบไปชว่ ยกัดแมว แมวจึงรีบไปชว่ ยกัดหนู หนูจึงรบี ไปชว่ ยกดั สำยธนูของนำยพรำน นำยพรำนจงึ รบี ไปชว่ ยยิงกำ กำจึงเอำถวั่ เอำงำเจด็ เมล็ดเจ็ดทะนำนมำคืนหลำน หลำนเอำถ่ัวเอำงำ ไปใหแ้ ก่ ยำยกะตำ ยำยกะตำกเ็ ลิกด่ำเลกิ ตีหลำนแต่น้ันมำ
๗ ท ๓/ผ.๑-๐๑ ใบงานท่ี ๐๑ นิทานเรอื่ งยายกะตา ตอนท่ี ๑ สำรวจคำศพั ท์ทส่ี นใจ ๓ – ๕ คำ แลว้ นำคำนน้ั ไปแตง่ ประโยค คาศัพท์ ประโยค ตอนท่ี ๒ ตอบคำถำมและแสดงควำมคดิ เหน็ จำกนิทำนเรอื่ งตำกะยำย ๑. ถำ้ นักเรียนเป็นหลำนของยำยกบั ตำ นักเรียนจะเฝำ้ ถ่วั งำให้ยำยกบั ตำหรือไม่ เพรำะเหตใุ ด ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. ๒. กำรทีย่ ำยกบั ตำ ให้หลำนเฝำ้ ถั่วงำ นกั เรียนคิดวำ่ เปน็ ผลดหี รือผลเสียกับหลำนหรือไม่ เพรำะเหตุใด ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ๓. เม่ือหลำนไปบอกแมลงหวี่ ใหไ้ ปตอมตำชำ้ ง หำกแมลงหวตี่ อบวำ่ “ไม่ใช่กงกำรอะไรของข้ำ” ใหน้ กั เรยี น เขียนเหตุกำรณท์ จ่ี ะเกดิ ขึ้นหลังจำกนัน้ .......................................................................................................................... ................................................ ............................................................................................................................. ............................................. .................................................................................................................................................................. ........ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๘ ท ๓ /ผ.๑ ใบความรู้ การเขียนแผนภาพโครงเรอื่ ง กำรเขียนแผนภำพโครงเรื่อง เป็นกำรเขียนเพ่อื แสดงให้เห็นโครงเร่อื งโดยรวมท้ังเร่ือง ทำให้จับใจควำมสำคัญของเรือ่ งทีอ่ ่ำนไดด้ ีย่ิงข้ึน กำรเขยี นแผนภำพโครงเรื่องตอ้ งอำศยั กำรตง้ั คำถำมและตอบคำถำมจำกเรื่องที่อำ่ นว่ำตัวละครมใี ครบ้ำง สถำนที่เกิดเหตคุ อื ทใ่ี ด มเี หตกุ ำรณอ์ ะไรเกดิ ขนึ้ และผลของเหตกุ ำรณน์ ัน้ คอื อะไร แล้วจงึ เขยี นเป็นแผนภำพโครงเรือ่ ง นทิ านเรอื่ งหมากบั เงา หมำตวั หน่งึ มนั ขโมยกอ้ นเนอ้ื ววั จำกรำ้ นค้ำในตลำดสด มนั คำบกอ้ นเน้อื วิ่งขึ้นสะพำน ข้ำมแมน่ ำ้ แหง่ หนึง่ ขณะอยู่บนสะพำน มนั มองลงไปในนำ้ เหน็ เงำของมันเองและกอ้ นเนอ้ื ที่มี ขนำดใหญ่กว่ำก้อนเนอ้ื ทมี่ ันคำบ ดว้ ยควำมโลภ มนั จึงคำยกอ้ นเน้ือก้อนที่มนั คำบ โดยตั้งใจ จะแย่งกอ้ นเน้อื ทใ่ี หญก่ ว่ำน้ัน ทงั้ กอ้ นเนอ้ื ทั้งเงำก็จมหำยไปพร้อมกันทันที หมำตวั นัน้ จึงอด ท้ังช้นิ เน้อื ท่ีคำบมำและก้อนเนื้อที่ใหญก่ ว่ำ ตัวละคร แผนภาพโครงเรื่อง นทิ านเรือ่ งหมากับเงา สถานที่ หมำกบั เงำ เหตกุ ารณ์ บนสะพำนข้ำมแมน่ ้ำ หมำขขี้ โมยตวั หนึ่งลักเนอ้ื วัวแลว้ ว่งิ ขำ้ มสะพำน มันเหน็ เงำของกอ้ นเน้ือ ผลของเหตุการณ์ ในนำ้ กอ้ นใหญ่กว่ำก้อนเน้ือที่มันคำบอยู่ จงึ ท้ิงกอ้ นเน้ือท่ีคำบไว้ลงไป ในน้ำ ข้อคดิ ก้อนช้ินเน้อื ที่หมำคำบมำจมหำยไปในแม่น้ำและเงำของกอ้ นเน้อื กจ็ ม หำยไป โลภนักมกั ลำภหำย ควรพอใจในส่งิ ทต่ี นมี
๙ ท ๓/ผ.๑-๐๒ ใบงานท่ี ๐๒ แผนภาพโครงเร่ืองนิทานเร่ืองยายกะตา คาช้แี จง เขยี นแผนภำพโครงเรือ่ งจำกนิทำนเรื่องยำยกะตำ ตวั ละคร ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... ........ ............................................................... สถำนท่ี ............................................................... เหตกุ ำรณ์ ............................................................................................................................. ................. ............................................................................................................... ............................... ............................................................................................................................. ................. .............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................. .............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................. .............................................................................................................................................. …………………………………………………………………………………………………………… ผลของเหตกุ ำรณ์ …………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………… ข้อคิด …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………….
๑๐ ท ๓/ผ.๒ ใบความรู้ การใช้เครื่องหมายวรรคตอนในภาษาไทย เครือ่ งหมำยวรรคตอน คือ เครื่องหมำยที่ใช้เขียนกำกบั คำ กลุม่ คำ ประโยค หรือข้อควำมให้ เดน่ ชัดเพือ่ ให้อ่ำนได้ถูกต้อง และช่วยให้ผอู้ ำ่ นเขำ้ ใจควำมหมำยไดช้ ดั เจนขนึ้ .มหัพภาค - ใชเ้ ขียนไวห้ ลงั ตัวอักษร เพ่ือแสดงวำ่ เปน็ อักษรย่อ เชน่ ม.ค. คำเตม็ ว่ำ มกรำคม - ใชเ้ ขยี นไว้ขำ้ งหลงั ตัวอกั ษรหรอื ตัวเลขท่ีบอกลำดับข้อ เช่น ๑. ก. หรอื ข. ๒. ในกรณีที่มหี ัวขอ้ ย่อย ใหใ้ ส่ลำดบั ขอ้ ย่อยไว้หลงั จดุ เช่น ๑.๑ อำ่ นว่ำ หนง่ึ จดุ หนง่ึ ๑.๑๐ อำ่ นว่ำ หนึ่งจุดสบิ ๔.๑.๑๒ อ่ำนว่ำ สีจ่ ดุ หนึ่งจดุ สบิ สอง - ใชค้ ่ันระหว่ำงชว่ั โมงกับนำทีเพื่อบอกเวลำ เช่น ๙.๓๐ น. อ่ำนว่ำ เก้ำนำฬกิ ำสำมสบิ นำที - ใชเ้ ป็นจุดทศนยิ ม แลว้ จุดทศนิยมให้อ่ำนตวั เลขเรียงกันไป เชน่ ๒.๓๔๕ อ่ำนว่ำ สองจุดสำมสหี่ ำ้ ๑๐.๗๕ วินำที อำ่ นว่ำ สิบจุดเจ็ดหำ้ วินำที ๔.๕๖๗ เมตร อำ่ นวำ่ สจี่ ดุ หำ้ หกเจ็ดเมตร เสมอภาค = ใชเ้ ขยี นคน่ั กลำง เพ่ือแสดงควำมข้ำงหนำ้ กบั ข้ำงหลงั ว่ำมีสว่ นเทำ่ กัน เชน่ ๒+๒ = ๔ ,จุลภาค - ใช้ค่ันจำนวนเลขนบั จำกหลักหน่วยไปทีละ ๓ หลัก เช่น ๑,๕๐๐ อำ่ นว่ำ หนึ่งพันหำ้ ร้อย ๒,๓๕๐,๐๐๐ อำ่ นว่ำ สองลำ้ นสำมแสนห้ำหม่นื - ใชใ้ นหนงั สอื ประเภทพจนำนุกรมเพือ่ ค่นั ควำมหมำยของคำทมี่ ีควำมหมำยหลำย ๆ อยำ่ ง เช่น บรรเทำ ก. ทุเลำหรอื ทำให้ทุเลำ, ผ่อนคลำยหรือทำใหผ้ ่อนคลำยลง
๑๑ ท ๓/ผ.๒ วงเล็บ หรือ นขลิขติ ( ) - ใช้กันข้อควำมที่ขยำยหรืออธิบำยไวเ้ ป็นพเิ ศษ เพ่ือชว่ ยใหเ้ ข้ำใจข้อควำมน้นั ไดแ้ จ่มแจ้งขน้ึ เช่น มนษุ ย์ไดส้ รำ้ งโลภะ (ควำมโลภ) โทสะ (ควำมโกรธ) และโมหะ (ควำมหลงผดิ ) ใหเ้ กิดขน้ึ ในใจ ของตัวเอง - ใช้กนั ข้อควำมท่ีบอกท่ีมำของคำหรือข้อควำม เชน่ ชลี (กลอน) ก. อัญชลี, ไหว้ - ใช้กับหวั ขอ้ ทเ่ี ป็นตัวอักษรหรือตวั เลข ซ่งึ อำจจะใชเ้ พียงเครือ่ งหมำยวงเลบ็ ปดิ ก็ได้ เชน่ (ก) หรอื ก) ( ๑ ) หรือ ๑) ใช้กับนำมเต็มทเี่ ขยี นใต้ลำยมือชอ่ื เช่น ธณั ตยิ ำ พรหมประเสรฐิ (นำงธัณติยำ พรหมประเสรฐิ ) - ยตั ิภงั ค์ -- - ใชแ้ ยกพยำงค์เพ่ือบอกคำอ่ำน โดยเขียนไวร้ ะหวำ่ งพยำงค์แตล่ ะพยำงค์ เช่น เสมำ อ่ำนว่ำ เส-มำ - ใช้ในควำมหมำยวำ่ “ถงึ ” เพอ่ื แสดงชว่ งเวลำ จำนวน สถำนท่ี - เวลำ ๙.๐๐ – ๑๐.๓๐ น. อำ่ นวำ่ เวลำเกำ้ นำฬิกำถึงสิบนำฬิกำสำมสิบนำที มผี ูช้ มประมำณ ๑๐ - ๒๐ คน อำ่ นว่ำ มีผู้ชมประมำณสิบถึงยีส่ บิ คน ระยะทำง นครนำยก – จันทบรุ ี อ่ำนวำ่ ระยะทำงนครนำยกถงึ จนั ทบุรี - ใช้เขียนแสดงลำดบั ย่อยของรำยกำรทีไ่ ม่ตอ้ งใสต่ ัวอักษร มีรำยกำรครำ่ ว ๆ ดังนี้ – พิธเี ปดิ งำน – รำอวยพร – ดนตรบี รรเลง – ปดิ งำน อัญประกาศ “ ” - - ใช้เพือ่ แสดงว่ำคำหรอื ขอ้ ควำมนน้ั เป็นคำพูดหรอื ควำมนึกคิด “ขอให้ทุกคนตัง้ ใจจรงิ แลว้ จะ ประสบควำมสำเรจ็ ” - ใชเ้ พ่ือเน้นคำหรอื ข้อควำมนั้นให้เดน่ ชัดข้นึ เชน่ คำว่ำ “ตะโก้” พจนำนุกรมฉบบั บัณฑติ ยสถำน พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้ให้ควำมหมำยไวว้ ำ่ หมำยถงึ ” ชือ่ ขนมชนดิ หนงึ่ ทำดว้ ยแป้งข้ำวเจำ้ กวนเข้ำกับน้ำตำล ใส่แหว้ หรือข้ำวโพดเป็นตน้ ก็ได้ หยอดหนำ้ ด้วยกะทิกวนกับแปง้ ”
๑๒ ท ๓/ผ.๒ ปรัศนี ? - ใชเ้ ม่อื สน้ิ สุดควำมหรอื ประโยคทเี่ ปน็ คำถำม เช่น ทำไมเธอถงึ มำโรงเรยี นสำย ? อศั เจรีย์ ! - ใชเ้ ขียนหลังคำ วลี หรอื ประโยคทีเ่ ป็นคำอุทำน เชน่ อ้อื ฮือ ! มำกจงั เลย - ใช้เขยี นหลังคำเลยี นเสียงธรรมชำติ เพอ่ื ให้ผู้อ่ำนทำเสยี งไดเ้ หมำะสมกบั เหตกุ ำรณใ์ นเรื่องนน้ั ๆ เช่น โครม ! ไม้ยมก หรือ ยมก ๆ - ใช้เขยี นหลังคำ วลี หรือประโยค เพ่ือใหอ้ ่ำนซ้ำคำ วลี หรอื ประโยค อีกครัง้ หนึ่ง เช่น ๑. เดก็ เลก็ ๆ อำ่ นว่ำ เดก็ เล็กเล็ก ๒. ในวนั หน่งึ ๆ อ่ำนว่ำ ในวนั หนึ่งวนั หน่งึ ๓. แต่ละวัน ๆ อ่ำนวำ่ แตล่ ะวนั แต่ละวัน ไปยาลน้อย ฯ - ใชล้ ะคำทีร่ ู้กนั ดีแลว้ โดยละสว่ นทำ้ ยไว้เหลือแต่ส่วนหน้ำของคำพอเป็นท่เี ข้ำใจ เชน่ กรงุ เทพฯ คำเตม็ คือ กรงุ เทพมหำนคร
๑๓ ท ๓/ผ.๒ ไปยาลใหญ่ ฯ ล ฯ ใชส้ ำหรับละขอ้ ควำมขำ้ งทำ้ ยที่อยู่ในประเภทเดียวกันซ่ึงยังมีอีกมำก แต่ไม่ไดน้ ำมำแสดงไว้ เช่น สงิ่ ของที่ซอื้ ขำยกนั ในตลำดมี เนื้อสัตว์ ผกั น้ำตำล น้ำปลำ ฯลฯ สัญประกาศ ___ ใช้ขีดไว้ใตค้ ำหรอื ข้อควำมที่สำคัญ เพอ่ื เน้นให้ผู้อำ่ นสังเกตเปน็ พเิ ศษ เช่น หลักกำรอ่ำนตัวเลขมตี ีพิมพ์รวมอย่ใู นหนงั สืออ่ำนอยำ่ งไร-เขยี นอยำ่ งไร บุพสัญญา ” ใชแ้ ทนคำหรือข้อควำมที่อย่บู รรทัดบนเพ่ือไม่ต้องเขียนซ้ำอีก ทับ / ใชข้ ีดหลังจำนวนเลข เพอื่ แบง่ จำนวนยอ่ ยออกจำกจำนวนใหม่ เชน่ บ้ำนเลขท่ี ๕๖/๓๔๒ อำ่ นว่ำ บ้ำน – เลข – ท่ี หำ้ – สบิ – หก ทบั สำม – ส่ี – สอง
๑๔ ท ๓/ผ.๒ ใบความรู้ คาย่อ หรืออกั ษรย่อ คำย่อ หรืออักษรย่อ ช่วยใหถ้ อ้ ยคำสัน้ ลง จงึ นยิ มใชเ้ พรำะสะดวกในกำรสอื่ สำร กำรอ่ำน ต้องอ่ำนเต็มคำ กำรเขียนอักษรย่อให้ใชเ้ ครื่องหมำยมหัพภำค ( . ) ตำมหลงั อกั ษรยอ่ แตล่ ะตัวหรอื คำ ตัวอย่างอักษรย่อ อกั ษรยอ่ คาเต็ม อักษรย่อ คาเต็ม อ. อำจำรย์,วันองั คำร,อำเภอ บ. บำท ต. ตำบล ม. มหำวทิ ยำลัย.มัธยม.เมตร,หมบู่ ำ้ น จ. จังหวดั ,วนั จนั ทร์ น. ทิศเหนอื , นำฬกิ ำ ถ. ถนน จ.ม. จดหมำย ม.ค. มกรำคม รพ. โรงพยำบำล ก.พ. กุมภำพนั ธ์ รร. โรงเรียน,โรงแรม มี.ค. มนี ำคม สต. สตำงค์ เม.ย. เมษำยน ด.ช. เด็กชำย พ.ค. พฤษภำคม ด.ญ. เดก็ หญงิ ม.ิ ย. มถิ ุนำยน น.ส. นำงสำว ก.ค. กรกฎำคม พญ. แพทยห์ ญงิ
๑๕ ท ๓/ผ.๒ อกั ษรย่อ คาเตม็ อักษรย่อ คาเตม็ ส.ค. สงิ หำคม ครม. คณะรฐั มนตรี ก.ย. กนั ยำยน ส.ส. สมำชกิ สภำผแู้ ทนรำษฎร ต.ค. ตลุ ำคม พ.ศ. พทุ ธศกั รำช พ.ย. พฤศจิกำยน นสพ. หนงั สอื พิมพ์ ธ.ค. ธันวำคม พญ. แพทยห์ ญิง ตร. ตำรวจ ผอ. ผูอ้ ำนวยกำร ททท. กำรทอ่ งเทยี่ วแหง่ ประเทศไทย ตร.ว ตำรำงวำ อบต. องค์กำรบรหิ ำรส่วนตำบล ตร.ม. ตำรำงเมตร อบจ. องค์กำรบริหำรส่วนจงั หวัด ททท. กำรทอ่ งเทย่ี วแห่งประเทศไทย ผวจ. ผู้วำ่ รำชกำรจังหวดั พ.ร.บ. พระรำชบญั ญตั ิ รร.จปร. โรงเรียนนำยรอ้ ย ว/ด/ป , วัน เดอื น ปี พระจุลจอมเกล้ำ ว.ด.ป. ส.ค.ส. สง่ ควำมสุข ทลู เกล้ำฯ ทลู เกลำ้ ทูลกระหม่อม โปรดเกลำ้ ฯ โปรดเกล้ำโปรดกระหม่อม น้อมเกลำ้ ฯ นอ้ มเกลำ้ น้อมกระหมอ่ ม
๑๖ ท ๓/ผ.๒-๐๓ ใบงานท่ี ๐๓ อา่ นถกู วรรคตอน อกั ษรยอ่ หนำ้ คำย่อ คาช้แี จง ตอนที่ ๑ เลอื กจบั ค่คู ำเตม็ กบั อักษรย่อต่อไปนี้ โดยใส่ตวั อักษรใน ถ. ก. หนงั สือพมิ พ์ อบต. ข. แพทย์หญงิ ผวจ. ค. ถนน นสพ. ฆ. พุทธศักราช กม. ง. ผู้อานวยการ พ.ศ. จ. องค์การบรหิ ารส่วนตาบล จ.ม. ฉ. ผวู้ ่าราชการจงั หวัด พญ. ช. กิโลเมตร ผอ. ซ. โรงพยาบาล รพ. ฌ. จดหมาย ตอนที่ ๒ เลือกเครือ่ งหมำยวรรคตอนท่ีกำหนดให้ แล้วเติมลงในข้อควำม ! (อัศเจรยี ์) / ( ทับ ) “ ” ( อัญประกำศ ) ? ( ปรศั นี ) — ( ยัตภิ งั ค)์ ( ) (นขลขิ ิต) ฯลฯ (ไปยำลใหญ่) ตวั อยา่ ง วันน้มี สี มำชิกสภำผู้แทนรำษฎร น้อมเกลำ้ ฯ ถวำยแจกันดอกไม้สด ๑. ระยะทำงจำก …………จงั หวดั นครสวรรค์จงั หวัดกำแพงเพชรประมำณ ๑๒๐ กิโลเมตร ๒. …………เจ้ำไมไ่ ด้ยนิ หรืออย่ำงไรข้ำส่ังให้เจ้ำหยดุ อำละวำดเด๋ยี วน้ี…….. ๓. ตำยจริง…………. กระรอกน้อยกระโดดตดั หน้ำรถเรำ ๔. นอ้ ยหน่ำอยู่บำ้ นเลขท่ี ๔ ……… ๑๗๙ ซ่งึ อยหู่ มูบ่ ้ำนเดียวกับงำมจติ ๕. ระบำสำยฟ้ำ หมำยถงึ อะไร ……………….
๑๗ ท ๓/ผ.๒ ใบความรู้ การอ่านอกั ษรนา การอ่านคาที่มอี ักษรสงู นา เชน่ ขณะ ขนบ ขนม ขนาด เฉลียว ฉลาด ไฉน ฉงน ถลา ถวาย ถนดั ถลน สนาน สลับ สนอง สมอง การอา่ นคาท่ีมอี กั ษรกลางนา เชน่ ตวำด จมูก จรติ จรสั ตนุ ตวัด ตลก ตลำด อรำ่ ม อรอ่ ย อเนก อนำถ ตลอด ตวำด จรวด จรติ ข้อสังเกตคำที่มีอักษรสงู นำและคำท่ีมีอักษรกลำงนำ ๑. คำขำ้ งต้น พยำงค์ ๑ ออกเสียงพยัญชนะตัวหน้ำประสมกบั สระอะ ( ออกเสยี ง อะ เพียงคร่ึงเสยี ง)พยำงคท์ ่ี ๒ ออกเสียงพยัญชนะตัวท่ี ๒ ประสมกับ สระและพยัญชนะสะกดตำมที่ปรำกฏ โดยออกเสยี งวรรณยุกต์ตำมเสยี งพยญั ชนะตวั หน้ำ คล้ำยมี ห นำ ๒. คำอักษรนำซง่ึ พยัญชนะตัวหนำ้ เปน็ อกั ษรสงู หรือเปน็ อักษรกลำงนำ พยัญชนะตัวหลงั เป็นอักษรตำ่ เดยี่ ว คอื ง ณ น ม ย ร ล ว และออกเสียงพยำงค์ท่ี ๒ คลำ้ ยที่ ๒ คำ มี ห นำ เชน่ ผลติ อำ่ นว่ำ ผะ – หลิด ฝร่ัง อำ่ นวำ่ ฝะ – หรงั่ เศวต อ่ำนวำ่ สะ – เหวด สยำม อ่ำนวำ่ สะ – หยำม สวัสดิ์ อำ่ นวำ่ สะ – หวดั กนก อำ่ นวำ่ กะ – กนก ตวาด อำ่ นว่ำ ตะ – หวำด จมกู อำ่ นว่ำ จะ – หมกู อร่อย อ่ำนว่ำ อะ – หร่อย จริต อำ่ นว่ำ จะ – หรดิ
๑๘ ท ๓/ผ.๒ คำบำงคำแม้มีลักษณะเชน่ ข้อ ๑ และข้อ ๒ แตไ่ ม่นยิ มอ่ำนพยำงค์ที่ ๒ เหมือนมี ห นำ ขนษิ ฐำ ขะ – นดิ – ถำ ขมำ ขะ – มำ ศรณั ยู สะ – รนั – ยู สมญั ญำ สะ – มนั – ยำ สมำทำน สะ – มำ – ทำน สมำธิ สะ – มำ – ทิ กนษิ ฐำ กะ – นิด – ถำ อนัตตำ อะ – นัด – ตำ คาทม่ี ี ห นา หยมุ หยมิ หนักหนำ หรหู รำ หญิงใหญ่ แหงนหงำย หลงั ไหล่ หวั่นไหว หมกั หมม คำทม่ี ีพยญั ชนะต้นเป็น ห นำพยญั ชนะตวั หลงั คือ ง ญ น ม ย ร ล ว ไมอ่ อกเสยี งตวั ห แตอ่ อกเสยี งพยญั ชนะตวั หลังให้มีเสยี งวรรณยกุ ตต์ ำมตัว ห คาทมี่ ี อ นา อยำ่ อยู่อย่ำงอยำกได้ ของเขำ อยู่ อยำ่ งคนตัวเบำ สุขล้ำ อย่ำง อยำกอย่อู ย่ำเอำ แต่ได้ อยำก อยอู่ ย่ำงอยำ่ ยำ้ เหลำ่ นี้ อ นำ คำที่มีพยญั ชนะตัวหนำ้ เปน็ อ นำ ย ไมอ่ อกเสียง อ แตเ่ สียงวรรณยุกตข์ องพยำงค์ ออกเสยี งตำมพยญั ชนะ อ มี ๔ คำ ได้แก่ อย่ำ อยู่ อย่ำง อยำก (หนังสือเรยี นรำยวชิ ำพ้ืนฐำน ภำษำไทย ชุดภำษำเพ่ือชวี ติ ภำษำพำที ชน้ั ประถมศึกษำปีที่ ๔)
๑๙ ท ๓/ผ.๒-๐๔ ใบงานที่ ๐๔ สนุกกบั อกั ษรนา คาชแี้ จง ขีดเส้นใตค้ ำท่ีมีอักษรวนรำรตค่อตไอปนนอ้ีพักรษ้อมรนทำง้ั เคขียำยน่อคำอำ่ น ๑. ต้นขนนุ อ่ำนวำ่ ........................................................... ๒. เส้นขนำน อ่ำนว่ำ.............................................................. ๓. สมำ่ เสมอ อ่ำนวำ่ ........................................................................... ๔.ปกสมดุ อำ่ นว่ำ ................................................................. ๕. สมุนไพร อำ่ นว่ำ .................................................................... ๖. ปลำสวำย อ่ำนวำ่ ........................................................... ๗. ตลำดน้ำ อ่ำนว่ำ ........................................................... ๘. ขนมทองมว้ น อ่ำนว่ำ ........................................................... ๙. เสือสมิง อ่ำนวำ่ ........................................................... ๑๐. เด็กฉลำด อำ่ นวำ่ ...........................................................
๒๐ ท ๓/ผ.๓ ใบความรู้ คากริยา คำกรยิ ำ เป็นคำทบี่ อกอำกำร หรอื บอกสภำพของคน สัตว์ พชื ส่งิ ของ เครอื่ งใช้ เช่น ย้ิม ลม้ กนิ ตี ยิ้ม ว่ิง เป็นคำกริยำบอกอำกำร อว้ น ผอม ฉลำด โง่ เก่ำ ใหม่ เปน็ คำกรยิ ำบอกสภำพ อ่านและพิจารณาประโยคตอ่ ไปนี้ ภเู ขำถลม่ เมือ่ วำนนี้ รถกระบะวิง่ ลบั หำยไป คำว่ำ ถลม่ ว่งิ ไม่ตอ้ งมกี รรมตำมหลังก็ไดใ้ จควำม คำกริยำประเภทนเ้ี รยี กว่ำ คากริยาอกรรม คณุ ยำยเย็บกระทง ชำ่ งสลกั กาบกล้วยใหเ้ ป็นลวดลำย คำวำ่ เยบ็ สลัก ตอ้ งมีกรรม คือ คำ กระทง กาบกล้วย (คำทพ่ี ิมพ์ตัวเอนหนำ) ตำมหลังจงึ จะได้ ใจควำมสมบูรณ์ คำกรยิ ำประเภทน้เี รียกวำ่ คากริยาสกรรม เขำเหมือนฉนั ขำ้ วเป็นอำหำรของคนไทย ผลกลว้ ยตำนีแตกตำ่ งจำกผลกล้วยชนิดอ่ืน คือ มีเมล็ดมำก คำว่ำ เหมือน ของ เปน็ เป็นคำกรยิ ำทต่ี ้องมคี ำนำม หรือคำสรรพนำม ซ่ึงทำหน้ำทเ่ี ปน็ ส่วน เติมเตม็ ตำมหลังเสมอ เรยี กว่ำ คากริยาตอ้ งเติมเตม็ คำกรยิ ำประเภทนย้ี งั มีอีก นักเรยี นควรศกึ ษำเพิ่มเตมิ หนังสือเรยี นรำยวชิ ำพ้นื ฐำนภำษำไทย ชุดภำษำเพื่อชีวติ ภำษำพำที ชน้ั ประถมศึกษำปีที่ ๖
๒๑ ท ๓/ผ.๓ ใบความรู้ คาวิเศษณ์ คำวิเศษณ์ คอื คำทท่ี ำหน้ำท่ีขยำยคำนำม คำสรรพนำม คำกรยิ ำ หรอื คำวเิ ศษณ์ด้วยกัน เพ่ือให้ เนอ้ื ควำมชดั เจนขึน้ คำวเิ ศษณม์ ักอยู่หลงั คำท่นี ำมำขยำย อ่านและพิจารณา ประโยค คาวิเศษณ์ ชนดิ ของคาวิเศษณ์ เฒ่า เจ้าปัญญา ขยำยคำนำม ( พรำหมณ์ คน ) ๑. พรำหมณเ์ ฒา่ เป็นคนเจา้ ปัญญา ขยำยคำนำม ( คอมพวิ เตอร์ ) ๒. นกั เรียนกำลังสนใจคอมพิวเตอร์เครอื่ ง เครื่องใหม่ ใหม่ ขยำยคำสรรพนำม (ฉนั ) เอง ขยำยคำสรรพนำม (ใคร) ๓. ฉนั เองเปน็ คนทำ คนนน้ั ขยำยคำกริยำ (พูดจำ) ๔. เรำไม่อยำกนึกถึงใครคนนัน้ อีกแล้ว ไพเราะ ขยำยคำกรยิ ำ (มี ) มากมาย ๕. เด็ก ๆ พดู จำไพเราะ ขยำยคำวิเศษณ์ ( นอ้ ย ) ๖. ขอ้ มลู ในอนิ เทอรเ์ น็ตมปี ระโยชน์ จรงิ ๆ ขยำยคำวเิ ศษณ์ ( มำกมำย) มากมาย มหาศาล ๗. น้ำในคลองเหลอื น้อยจริง ๆ ๘. ขอ้ มลู ในอนิ เทอร์เนต็ มีประโยชน์ มำกมำยมหาศาล อ่านและพจิ ารณาประโยคตอ่ ไปนี้ ประโยค(คาท่ีพิมพ์ตัวหนาเป็นคาวิเศษณ์) ทาหนา้ ที่ ๑. เสำธงหนำ้ โรงเรียนสงู ปร๊ีด ปรีด๊ ขยำยกริยำ สงู ๒. เครื่องปรบั อำกำศเงยี บสนิท สนทิ ขยำยกริยำ เงียบ ๓. น้องฉนั วำดรปู เกง่ เกง่ ขยำยกริยำสกรรม วำด ๔. ทุกคนลุกข้ึนยนื ตรงอย่างสงบ อยา่ งสงบ ขยำยกริยำลกุ ขึ้นยืนตรง ๕. แสงสว่ำงในโรงละครพอเห็นได้ราง ๆ ราง ๆ ขยำยกรยิ ำสกรรม เห็น ๖. เรำจะจัดคอนเสิร์ตกันเม่อื ไร เมือ่ ไร ขยำยกรยิ ำ ( จะ) จดั แสดงคำถำม จะ เปน็ คำช่วยกรยิ ำ ๗. เพราะเหตใุ ด วัยรุ่นไม่ชอบชมกำรแสดง เพราะเหตใุ ด ขยำยกรยิ ำ (ไม่) ชอบชม (แสดง นำฏศิลป์ไทย คำถำม) ไม่ เป็นคำชว่ ยกริยำ หนงั สือเรยี นรำยวิชำพ้ืนฐำนภำษำไทย ชดุ ภำษำเพือ่ ชีวิต ภำษำพำที ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี ๖ หลักสตู รกำรศึกษำ ขน้ั พื้นฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๔๔
๒๒ ท ๓/ผ.๓-๐๕ ใบงานท่ี ๐๕ ร้จู ักคากริยา – จดจาคาวิเศษณ์ ตอนที่ ๑ ระบำยสรี ปู ภำพท่มี ีคำกรยิ ำ คลำ้ ย ฝน หวั เรำะ นำฬกิ ำ เขยี น หนงั สือ เขำ เลน่ นอน กระโดด วิทยุ วำ่ ยนำ้
๒๓ ท ๓/ผ.๓-๐๕ ตอนที่ ๒ นักเรยี นเลอื กคำกรยิ ำ จำกตอนที่ ๑ แตง่ ประโยคให้เหมำะสม ๕ ประโยค ๑. คำกริยำท่ีเลือก .......................................................... แต่งประโยค ............................................................................................................................. ................................... .............................................................................................................................................................. .. ............................................................................................................................. ................................... ..... ๒. คำกริยำที่เลอื ก .......................................................... แตง่ ประโยค ........................................................................................................................... ..................................... .................................................................................................................................. .............................. ..................................................................................... ๓. คำกริยำท่ีเลอื ก .......................................................... แต่งประโยค ............................................................................................................................. ................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… .. ๔. คำกรยิ ำที่เลอื ก .......................................................... แตง่ ประโยค ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... .... ๕. คำกรยิ ำท่ีเลอื ก .......................................................... แต่งประโยค ............................................................................................................................. ................................... ..................................................................................................................................... ........................... .....
๒๔ ท ๓/ผ.๓-๐๕ ตอนท่ี ๓ นักเรียนหำคำวิเศษณ์ที่มีควำมหมำยตรงขำ้ มกับคำทีก่ ำหนดให้ ๑. ใกล้ ๒. เก่ำ ๓. อว้ น ๔. บน ๕. หอม ๖. เชำ้ ๗. ใหญ่ ๘. ฉลำด
๒๕ ท ๓/ผ.๓-๐๕ ตอนท่ี ๔ นกั เรยี นเลอื กคำวิเศษณ์ จำกตอนที่ ๓ แตง่ ประโยคใหเ้ หมำะสม ๕ ประโยค ๑. คำวเิ ศษณท์ ีเ่ ลอื ก .......................................................... แต่งประโยค ............................................................................................................................. ............................. ............................................................................................................................. ............................. .... ๒. คำวิเศษณ์ที่เลอื ก .......................................................... แตง่ ประโยค ............................................................................................................................. ........................... .................................................................................................... .................................................... ๓. คำวเิ ศษณท์ ่เี ลือก .......................................................... แต่งประโยค ........................................................................................................... .............................................. ............................................................................................................................. ............................ ๔. คำวเิ ศษณท์ ี่เลือก .......................................................... แตง่ ประโยค ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ๕. คำวิเศษณ์ทเ่ี ลือก .......................................................... แต่งประโยค ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..........................
๒๖ ท ๓/ผ.๔ ใบความรู้ การเขยี นรายงาน กำรเขียนรำยงำน เปน็ กำรเสนอผลงำนกำรศึกษำคน้ คว้ำ ผลกำรทดลอง หรือผลกำรปฏบิ ัตงิ ำน ต่ำง ๆ เสนอต่อครู เพื่อนนักเรียนหรือผูอ้ ืน่ เพ่ือให้มีควำมรู้กว้ำงขวำงยิง่ ขน้ึ หรือให้ผู้อื่นทรำบผลกำรปฏิบัติงำน ของเรำ กำรเขียนรำยงำนทดี่ ีควรปฏิบตั ดิ ังน้ี ๑ กำหนดหวั ข้อเร่ือง ๒ วำงแผนเขียนรำยงำน กำรเขียน ๓ รวบรวมข้อมลู รำยงำน ๔ เขียนรำยงำน ๕ ตรวจทำนและปรบั ปรงุ ให้สมบรู ณ์ ๑ กำหนดหวั ข้อเรือ่ ง ควรกำหนดเรื่องทผี่ ู้รำยงำนสนใจตอ้ งกำรจะรู้ หรือคำดวำ่ คนสว่ นใหญส่ นใจ เช่น สำรพิษใน ชีวติ ประจำวัน กระดำษนี้มที ี่มำ ฯลฯ นอกจำกกำหนดหัวข้อเร่อื งไดแ้ ล้ว ควรกำหนดหัวขอ้ ย่อย ๆ ดว้ ยเพอื่ ควำมสะดวกในกำรค้นคว้ำ เชน่ เร่อื ง กระดำษน้ีมีทีม่ ำ ทีม่ ำของกระดำษ คุณค่ำของกระดำษ กำรทำกระดำษ กำรใช้กระดำษ ฯลฯ ๒ วำงแผนเขียนรำยงำน กำหนดระยะเวลำปฏิบัติงำน เชน่ จะเขยี นใหเ้ สร็จภำยใน ๒ สปั ดำห์ ฯลฯ กำหนดสถำนท่ีท่จี ะไปค้นควำ้ เช่น หอ้ งสมุด อนิ เตอรเ์ น็ต สถำนประกอบกำร หน่วยงำนต่ำง ๆ กำหนดผรู้ ่วมงำน (ถ้ำทำงำนกลมุ่ ) และแบง่ หน้ำที่กันให้ชัดเจน กำหนดวนั เขียนรำยงำน วนั ตรวจทำน ปรับปรงุ แกไ้ ข กำหนดวนั ส่ง ฯลฯ
๒๗ ท ๓/ผ.๔ ๓ รวบรวมข้อมลู ค้นควำ้ หำข้อมูลจำกแหล่งควำมรตู้ ำ่ ง ๆ แล้งรวบรวมข้อมูลอยำ่ งเป็นหมวดหมู่ หรือตำมหวั ขอ้ ย่อยที่ กำหนด ๔ เขยี นรำยงำน ๔.๑ นำข้อมูลท่ีรวบรวมได้มำเขียนเรยี บเรียงเปน็ ภำษำของตนเองให้อำ่ นเขำ้ ใจง่ำย ประกอบดว้ ย ๓ ส่วน มีกำรลำดับควำมสำคัญ มสี ำระควำมรู้ มีข้อคดิ ที่เปน็ ประโยชน์ และมีเหตผุ ล ประกอบ ฯลฯ ข้อสำคัญ ไมค่ วรลอกขอ้ ควำมจำกหนงั สืออื่น หรอื ตดั ต่อข้อควำมจนดูเสมอื นเปน็ สำนวนของ ตนเอง แต่ถำ้ จำเป็นต้องลอกข้อควำมสำคัญ ต้องบอกว่ำมำจำกหนังสอื อะไร และถือเป็นมำรยำทท่ีจะต้องระบุ ชื่อผู้แต่งเสมอ ๔.๒ ทำรปู เล่มรำยงำนให้สมบรู ณ์ ซึง่ มีสว่ นประกอบ ดังนี้ ๔.๒.๑ หนำ้ ปก ควรมรี ำยละเอียดดังตวั อย่ำง ดังตัวอย่ำง รำยงำนวชิ ำภำษำไทย เรอ่ื ง กระดาษนี้มที ม่ี า ……………………. ผเู้ ขยี นรำยงำน เดก็ ชำยผลิต กระดำษสำ ชั้นประถมศึกษำปที ี่ ๔ เสนอคุณครูละเอยี ด วงศ์แสนดี สง่ รำยงำนวนั ท่ี ๒๐ สิงหำคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ๔.๒.๒ คำนำ กำรเขียนคำนำอำจกล่ำวถึงสำระตำ่ ง ๆ เชน่ ที่มำ จดุ ประสงค์ของ กำรเขยี นรำยงำน วิธีกำรคน้ คว้ำ ผรู้ ว่ มงำน วธิ ีกำรคน้ คว้ำ ผรู้ ว่ มงำน ผมู้ อี ุปกำรคุณ ประโยชน์ที่คำดวำ่ จะ ไดร้ บั จำกรำยงำน ฯลฯ
๒๘ ท ๓/ผ.๔ ตัวอยา่ งการเขียนคานา คานา รำยงำนเร่อื งเครอื่ งหมำยวรรคตอนฉบบั นี้ คณะผูจ้ ดั ทำได้พยำยำมคน้ คว้ำ และรวบรวมตวั อย่ำงไวม้ ำกมำยเพอื่ ใหผ้ ูส้ นใจใชส้ ำหรับค้นควำ้ แตล่ ะเคร่ืองหมำย ไดน้ ำประโยคท่ีมักใสเ่ ครื่องหมำยผดิ มำยกเป็นตัวอยำ่ งไว้ด้วย คณะผ้จู ดั ทำหวังเป็นอยำ่ งยิง่ ว่ำ รำยงำนฉบับนี้คงจะเป็นประโยชน์สำหรับ ผู้อำ่ นไดต้ ำมต้องกำร คณะผจู้ ัดทำ ๑๖ มกรำคม ๒๕๕๖ ๔.๒.๓ สำรบญั ระบเุ รอ่ื งแต่ละเรอื่ งท่เี สนอและเลขหนำ้ ของเรื่องน้ัน ๆ ตัวอย่างสารบัญ สารบัญ หน้า คานา ๑ กำรใชเ้ คร่อื งหมำยวรรคตอน ๓ เครื่องหมำยจลุ ภำค ๔ เคร่อื งหมำยมหัพภำค ๖ เครือ่ งหมำยปรัศนี ๗ เคร่อื งหมำยอัศเจรีย์ ๘ เครอ่ื งหมำยนขลิขติ ๑๐ เครอื่ งหมำยอญั ประกำศ ๑๑ บรรณำนกุ รม ๔.๒.๔ เน้อื เร่ือง คือสว่ นที่ค้นควำ้ เร่ืองมำเรยี บเรียง ซึ่งเป็นสว่ นสำคญั ของ เร่อื ง ตำมขอ้ ๔.๑
๒๙ ท ๓/ผ.๔ ๔.๒.๕ รำยชือ่ หนงั สอื ท่ีใชค้ น้ ควำ้ หรอื บรรณำนุกรม มวี ิธีเขียนดังตวั อยำ่ ง บรรณานกุ รม กระทรวงศึกษำธกิ ำร. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพมหำนคร : โรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณ์กำรเกษตรแห่งประเทศไทย จำกดั , ๒๕๕๑ วชิ ำกำร, กรม, กระทรวงศึกษำธิกำร. หนังสือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษา เพ่อื ชีวิต ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖. กรงุ เทพมหำนคร : องค์กำรคำ้ ครุ ุสภำ, ๒๕๕๕. ๕. ตรวจทานและปรบั ปรุงแกไ้ ขใหส้ มบูรณ์ นำรำยงำนมำตรวจทำนอกี คร้ัง พจิ ำรณำควำมต่อเนอื่ งและตรวจกำรเขยี นตัวสะกดกำรนั ต์ แลว้ แกไ้ ข ให้ถูกต้อง
๓๐ ท ๓/ผ.๔ หนังสือเรียนรำยวิชำพืน้ ฐำน ภำษำไทย ชดุ ภำษำเพื่อชวี ติ ภำษำพำที ชนั้ ประถมศกึ ษำปีที่ ๕
๓๑ ท ๓/ผ.๔-๐๖ ใบงานที่ ๐๖ การเขียนรายงาน คาช้ีแจง ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมดังต่อไปนี้ แบง่ กลุ่มนักเรยี น กลุ่มท่ี ๑ ทารายงานเร่ืองคากริยา กล่มุ ที่ ๒ ทารายงานเรื่องคาวิเศษณ์ นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรายงานหนา้ ช้นั เรยี น
๓๒ ท ๓/ผ.๔ แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๓ นทิ านอา่ นสนกุ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… คาชีแ้ จง ปฏิบตั ิกจิ กรรมตอ่ ไปน้ี ๑. โยงเสน้ จบั คู่คำเต็มกับอักษรย่อใหถ้ ูกต้อง (๒ คะแนน) พ.ศ. ผู้อำนวยกำร กม. โรงพยำบำล ผอ. พทุ ธศักรำช รพ. กโิ ลเมตร ๒. โยงเส้นจับค่เู คร่อื งหมำยวรรคตอนใหถ้ ูกต้อง อศั เจรยี ์ (...........................) นขลขิ ติ “ ” อญั ประกำศ ! ทับ / ๓. เขยี นคำอ่ำนของอักษรนำต่อไปน้ี ขนุน อ่ำนวำ่ ..................................................................................................... สมุด อำ่ นวำ่ ..................................................................................................... ตลำด อำ่ นว่ำ..................................................................................................... ฉลำด อ่ำนวำ่ ...................................................................................................... ๔. ขดี เส้นใต้คำกริยำจำกประโยคต่อไปน้ี -ทุกคนหัวเรำะเมอื่ ดูรำยกำรตลก -กบหลำยตัวกระโดดไปมำในหนองน้ำใหญ่ ๕. เขยี นคำวเิ ศษณ์ทมี่ ีควำมหมำยตรงข้ำม หอม คำตรงข้ำม ...................... ใหญ่ คำตรงขำ้ ม ...................... อว้ น คำตรงข้ำม ...................... เชำ้ คำตรงข้ำม ......................
๓๓ ท ๓/ผ.๔ ๖. อำ่ นเรอื่ งทก่ี ำหนดแลว้ เขียนแผนภำพโครงเรอ่ื ง นา้ ใจกระรอกน้อย มะปรำงกับแม่ปลูกบำ้ นอยู่ในสวนเล็กๆ แถวชำนเมอื ง มะปรำงตืน่ แตเ่ ช้ำตรูเ่ พื่อทำ ขนมกลว้ ยไปส่งแม่คำ้ ในตลำด พอทำขนมเสร็จมะปรำงจะจดั ขนมตำมจำนวนท่ีแม่ค้ำแต่ละคนสง่ั อยำ่ งครบถ้วน แต่สองสำมวันมำนี้ แมค่ ้ำคนหนึง่ บ่นวำ่ มะปรำงสง่ ขนมไม่ครบ ขนมขำดไป ๑ ห่อ มะปรำงรีบขอโทษและรับปำกวำ่ จะไมใ่ หข้ นมขำดจำนวนอีก พอวันต่อมำแมค่ ำ้ กบ็ อกว่ำขนมขำดไป ๑ หอ่ อกี มะปรำงกลมุ้ ใจมำกจึงคดิ หำทำงแก้ไข วนั นน้ั พอมะปรำงจดั ขนมเสร็จ มะปรำงก็แอบสงั เกตกำรณท์ ีป่ ระตู เพื่อหำสำเหตุของ ขนมทหี่ ำยไปทนั ใดน้ันเองมะปรำงกเ็ ห็นกระรอกนอ้ ยตวั หนง่ึ หำงเป็นพวงวงิ่ ออกมำลำกขนมไป เธอยิ้มออกมำอย่ำงดีใจเพรำะเห็นควำมน่ำรกั ของมัน ต่อมำเธอวำงขนมให้มนั ๑ หอ่ ทกุ วัน ซ่งึ กระรอกน้อยก็ออกมำกนิ ทุกวนั เช่นกนั ตั้งแต่นั้นมำมะปรำงรู้สึกแปลกใจเม่ือเธอไปเกบ็ มะพร้ำว ในสวน จะเห็นมะพร้ำวแกๆ่ ตกอย่ใู ตต้ น้ วนั ละ ๒-๓ ลูกทกุ วัน ในท่สี ดุ มะปรำงกร็ วู้ ำ่ เป็นฝมี อื กระรอกน้อยนั่นเอง มะปรำงรสู้ ึกต้ืนตนั ใจกบั ควำมมีนำ้ ใจของมัน มนั ตอบแทนควำมใจดขี องเธอ ในสง่ิ ทมี่ ันสำมำรถทำได้ ใครจะนกึ วำ่ แม้แต่สัตว์ตวั น้อยกร็ ู้จักกตัญญูรู้คณุ ถงึ เพียงนี้ หนังสือทักษะภำษำ กระทรวงศกึ ษำธิกำร ตัวละคร ………………………………………………………………………………………................. สถำนท่ี ผลของเหตกุ ำรณ์ ……………………………………………………………………………………………………... ข้อคิดท่ีได้รับ เหตุกำรณ์ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……น…ทิ …า…น…เร…่อื …ง…“……ช…า…ย…ห…น…ุ่ม…ก…บั …คน……แจ…ว…เ…รือ…จ…า้…ง…”…………………………….
Search
Read the Text Version
- 1 - 33
Pages: