Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 6122040011ใบงานที่4

6122040011ใบงานที่4

Published by Thanita Puangkham, 2021-03-15 16:35:01

Description: 6122040011ใบงานที่4

Search

Read the Text Version

นางสาว ฐนติ า พว่ งขา รหสั นกั ศกึ ษา 6122040011 ระดบั ชน้ั ปวช. 3 กลุม่ 1 คอมพวิ เตอร์ และ สารสนเทศ แผนกวชิ าคอมพวิ เตอร์ วทิ ยาลยั เทคนคิ สกลนคร สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คำนำ วิชาเครือข่ายคอมพิวเตอร์เบ้ืองต้นจัดอยู่ในหมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐาน ประเภทวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการผู้เขียนได้บริหารสาระการเรียนรู้แบ่งเป็น 10 บทเรียน ได้จัดแผนการจัดการเรียนรู้/แผนการสอนที่เน้นฐานสมรรถนะ (Competency Based) และการบูรณาการ (Integrated) ตรงตามจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา คาอธิบายรายวิชา ในแต่ละบทเรียนมุ่งให้ความสาคัญส่วนที่ เป็นความรู้ทฤษฎี หลักการ กระบวนการ ตัวอย่าง แบบฝึกปฏิบัติ และคาถามเพ่ือการทบทวน เพ่ือฝึกทักษะประสบการณ์ เร่งพฒั นาบทบาทของผู้เรียนเปน็ ผู้จัดการแสวงหาความรู้ (Explorer) เป็นผู้สอนตนเองได้สร้างองค์ความรู้ใหม่ และบทบาท ของผสู้ อนเปลีย่ นจากผใู้ หค้ วามรเู้ ปน็ ผชู้ ้ีแนะ (Teacher Role) จัดสงิ่ แวดล้อมเอือ้ อานวยต่อความสนใจเรียนรู้และเป็นผู้ร่วม เรียนรู้ (Co - Investigator) จัดห้องเรียนเป็นสถานที่ทางานร่วมกัน (Learning Context) จัดกลุ่มเรียนรู้ให้รู้จักทางาน ร่วมกัน (Grouping) ฝึกความใจกว้าง มุ่งสร้างสรรค์คนรุ่นใหม่ สอนความสามารถที่นาไปใช้งานได้ (Competency) สอน ความรัก ความเมตตา (Compassion) ความเช่ือม่ัน ความซื่อสัตย์ (Trust) เป้าหมายอาชีพอันยังเป็นประโยชน์ (Productive Career) และชีวิตที่มีศักด์ิศรี (Noble Life) เหนือส่ิงอื่นใด เป็นคนดี ท้ังกาย วาจา ใจ มีคุณธรรม จรรยาบรรณทางธรุ กจิ และวิชาชพี ส่งเสริมสนบั สนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคุณวุฒวิ ิชาชพี (Vocational Qualification System) สอดคล้องตามมาตรฐานอาชีพ (Occupational Standard) สร้างภูมิคุ้มกัน เพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศ กาลังแรงงาน การพัฒนามาตรฐานการปฏิบัติงานระดับชาติ(National Benchmarking)และการวิเคราะห์ หนา้ ทีก่ ารงาน (Functional Analysis) เพือ่ ใหเ้ กดิ ผลสาเรจ็ ในภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม ทุกสาขาอาชีพ เป็นการเตรียมความ พรอ้ มเขา้ สูป่ ระชาคมอาเซยี น ขอขอบพระคณุ ท่านอาจารยผ์ ้สู อน ผูป้ ระสาทวิชาความรู้ เอกสาร หนงั สอื ทีใ่ ชป้ ระกอบในการ เรยี บเรยี งไว้ ณ โอกาสนี้

จุดประสงคร์ ำยวิชำ 1.ให้ความรเู้ กี่ยวกบั หลักการทางานและองคป์ ระกอบของระบบเครือขา่ ย 2.เลอื กใช้อปุ กรณ์เชื่อมตอ่ ระบบเครือข่าย 3.ประยุกตใ์ ชง้ านเครอื ขา่ ยในองคก์ ร 4.มีคณุ ธรรม จริยธรรม แบะคา่ นยิ มที่ดใี นการใชง้ านคอมพิวเตอร์ระบบเครอื ข่าย สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรูแ้ ละหลกั การทางานเก่ียวกับระบบเครอื ข่าย 2. ปฏิบตั ิ ตรวจสอบระบบเครอื ขา่ ยตา่ งๆ คำอธบิ ำยรำยวิชำ ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับหลักการทางานและองค์ประกอบของระบบเครือข่าย อุปกรณ์ระบบเครือข่าย ประเภท เครือข่าย ตัวกลางการเช่ือมต่อเครือข่าย โปรโตคอล รูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่าย การติดตั้งระบบปฏิบัติการเครือข่าย เลือกใช้โปรแกรมประยุตโ์ ปรแกรมอรรถประโยชน์บนเครือขา่ ย LAN MAN WAN

สารบญั เรื่อง หน้ำท่ี คอมพวิ เตอรแ์ ละสำรสนเทศ ความหมายและประวตั ิความเปน็ มา 1-5 ประเภทของคอมพวิ เตอร์ 6-7 ความร้เู บื้องตน้ เก่ยี วกับพื้นฐานคอมพวิ เตอร์ องค์ประกอบของระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ 8 กระบวนการทางานของระบบสารสนเทศ 9 10



ควำมหมำยและประวัติควำมเป็นมำ คอมพวิ เตอร์ หมายถึง ? • เครอ่ื งอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกสช์ นดิ หนึง่ ที่มีการทางานแบบอัตโนมตั ิ ทาหน้าทีเ่ หมอื นสมองกล • สามารถแกป้ ญั หาต่าง ๆ ทั้งทงี่ า่ ยและซับซอ้ นตามคาสงั่ ของโปรแกรม • ขนั้ ตอนการทางานจะประกอบด้วย การรับโปรแกรมและข้อมูลในรูปแบบท่ีเคร่ืองสามารถรับได้ และทาการประมวลผล โดยทาการเปรียบเทียบจนกระท่ังได้ผลลัพธ์ จากน้ันนาผลลัพธ์ท่ีได้ไปแสดงผลท่ีอุปกรณ์แสดงผล เช่น จอภาพหรือ เครือ่ งพมิ พ์ เป็นต้น ประวัติควำมเป็นมำ คอมพิวเตอร์ทเ่ี ราใชก้ ันอยู่ทกุ วันนี้เป็นผลมาจากการประดษิ ฐค์ ดิ คน้ เคร่ืองมอื ในการคานวณซ่งึ มีวิวัฒนาการนานมาแล้ว เริ่มจากเครอ่ื งมือในการคานวณเคร่ืองแรกคือ \"ลูกคดิ \" (Abacus) ท่ีสรา้ งขึ้นในประเทศจีน เม่ือประมาณ 2,000-3,000 ปี •คอมพิวเตอร์ยุคที่ 1 •อย่รู ะหว่างปี พ.ศ. 2488 ถงึ พ.ศ. 2501 เปน็ คอมพวิ เตอร์ที่ใช้หลอดสุญญากาศซึ่งใช้กาลังไฟฟ้าสูง จึงมีปัญหาเรื่องความ ร้อนและไส้หลอดขาดบ่อย ถึงแม้จะมีระบบระบายความร้อนท่ีดีมาก การส่ังงานใช้ภาษาเครื่องซึ่งเป็นรหัสตัวเลขที่ยุ่งยาก ซบั ซอ้ น เครื่องคอมพวิ เตอรข์ องยุคนมี้ ีขนาดใหญโ่ ต เชน่ มาร์ค วนั (MARK I), อนี ิแอค (ENIAC), ยนู ิแวค (UNIVAC) v เริ่มจาก พ.ศ. 2488-2501 v ใช้อุปกรณ์ หลอดสุญญากาศ (Vacuum Tube) เป็นส่วนประกอบหลัก ทาให้ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ ใช้พลังงานไฟฟ้ามาก และเกิดความร้อนสูง v ทางานดว้ ยภาษาเครือ่ ง (Machine Language) เท่าน้ัน v เริ่มมกี ารพัฒนาภาษาสญั ลกั ษณ์ (Assembly / Symbolic Language) ขน้ึ ใชง้ าน

ควำมหมำยและประวัตคิ วำมเปน็ มำ •คอมพวิ เตอรย์ ุคที่ 2 •คอมพิวเตอร์ยุคท่ีสอง อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2502 ถึง พ.ศ. 2506 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทรานซิสเตอร์ โดยมีแกนเฟอร์ไรท์ เป็นหน่วยความจา มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลสารองในรูปของสื่อบันทึกแม่เหล็ก เช่น จานแม่เหล็ก ส่วนทางด้านซอฟต์แวร์ก็มี การพฒั นาดีขึ้น โดยสามารถเขียนโปรแกรมด้วยภาษาระดับสูงซึ่งเป็นภาษาที่เขียนเป็นประโยคที่คนสามารถเข้าใจได้ เช่น ภาษาฟอรแ์ ทน ภาษาโคบอล เป็นต้น ภาษาระดบั สูงนไ้ี ด้มกี ารพัฒนาและใช้งานมาจนถงึ ปัจจุบนั v เริม่ จาก พ.ศ. 2502-2506 v ใช้ ”ทรำนซอสเตอร”์ เป็นวงจรอเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ทนหลอดสุญญากาศ v ใช้วงแหวนเป็นหน่วยความจา v สามารถทางานไดท้ นั ทไี มต่ ้องรอให้หลอดค่อยๆทางาน v ใชก้ ระแสไฟฟ้านอ้ ยกว่า แม่นยากวา่ v ส่งั งานไดส้ ะดวกมากข้ึน เนื่องจากทางานด้วยภาษาสญั ลักษณ์ (Assembly Language) v เริ่มพัฒนาภาษาระดบั สงู (High Level Language) ขึ้นใชง้ านในยคุ น้ี

ควำมหมำยและประวัติควำมเป็นมำ •คอมพวิ เตอร์ยคุ ที่ 3 •คอมพวิ เตอรย์ ุคที่สาม อยรู่ ะหวา่ งปี พ.ศ. 2507 ถงึ พ.ศ. 2512 เปน็ คอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวม (Integrated Circuit : IC) โดยวงจรรวมแต่ละตวั จะมีทรานซิสเตอรบ์ รรจุอยู่ภายในมากมายทาใหเ้ ครอ่ื งคอมพิวเตอร์จะออกแบบซับซ้อนมากข้ึน และ สามารถสร้างเป็นโปรแกรมย่อย ๆ ในการกาหนดชุดคาส่ังต่าง ๆ ทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีระบบควบคุมท่ีมีความสามารถสูง ท้ังในรูประบบแบง่ เวลาการทางานให้กับงานหลาย ๆ อยา่ ง v เร่มิ จาก พ.ศ. 2507-2512 v เป็นคอมพิวเตอร์ท่ีใช้อุปกรณ์ วงจรรวม (Integrated Circuit : IC) หรือ ไอซี โดยวงจรรวมแต่ละตัวจะมี ทรานซิสเตอรบ์ รรจอุ ยู่ภายในมากมาย v ความเร็วในการประมวลผลในหน่ึงคาส่ัง ประมาณหน่ึงในล้านของวินาที (Microsecond : mS) (สูงกว่าเคร่ือง คอมพวิ เตอรใ์ นยคุ ที่ 1 ประมาณ 1,000 เทา่ ) v ทางานไดด้ ้วยภาษาระดับสูงทัว่ ไป v ในยคุ นีค้ อมพิวเตอร์มขี นาดเลก็ ลง

ควำมหมำยและประวตั คิ วำมเปน็ มำ •คอมพิวเตอร์ยคุ ที่ 4 •คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบัน เป็นยุคของคอมพิวเตอร์ท่ีใช้วงจรรวมความจุสูงมาก(Very Large Scale Integration : VLSI) เช่น ไมโครโพรเซสเซอร์ที่บรรจุทรานซิสเตอร์นับหม่ืนนับแสนตัว ทาให้ขนาดเคร่ือง คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงสามารถตั้งบนโต๊ะในสานักงานหรือพกพาเหมือนกระเป๋าห้ิวไปในที่ต่าง ๆ ได้ ขณะเดียวกัน ระบบซอฟตแ์ วรก์ ็ได้พฒั นาขดี ความสามารถสูงข้นึ มาก มีโปรแกรมสาเรจ็ ให้เลือกใช้กันมากทาให้เกิดความสะดวกในการใช้ งานอย่างกว้างขวาง v เร่มิ จาก พ.ศ. 2513-2532 v เปน็ ยุคของคอมพิวเตอรท์ ่ีใชว้ งจรรวมความจุสูงมาก(Very Large Scale Integration : VLSI) v โดยรวมวงจรไอซจี านวนมากลงไปในแผ่นซลิ ิกอน v ชิป 1แผน่ สามารถบรรจุไดม้ ากกวา่ ล้านวงจร โดยบรรจุการทางานพ้ืนฐานของคอมพิวเตอร์ ท่ีเรียกว่า “ซีพียู” ลงไปใน ชิปตวั เดยี วหรอื ทีเ่ รยี กว่า “ไมโครโปรเซสเซอร”์

ควำมหมำยและประวัตคิ วำมเปน็ มำ •คอมพวิ เตอรย์ ุคท่ี 5 •คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า เป็นคอมพิวเตอร์ท่ีมนุษย์พยายามนามาเพื่อช่วยในการตัดสินใจและแก้ปัญหาให้ดีย่ิงข้ึน โดยจะมี การเก็บความรอบรตู้ ่าง ๆ เขา้ ไว้ในเคร่ือง สามารถเรยี กคน้ และดงึ ความรู้ทสี่ ะสมไวม้ าใชง้ านให้เป็นประโยชน์ คอมพิวเตอร์ ยุคน้ีเป็นผลจากวิชาการด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ประเทศต่างๆ ท่ัวโลกไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุน่ และประเทศในทวปี ยุโรปกาลงั สนใจคน้ คว้าและพัฒนาทางดา้ นนีก้ นั อยา่ งจริงจงั v เริ่มจาก พ.ศ. 2533-ปัจจบุ ัน v ไมโครคอมพวิ เตอร์มีความสามารถมากขนึ้ ทางานไดร้ วดเร็ว การแสดงผล การจัดเก็บข้อมูล สามารถประมวลผลได้ทีละ มากๆ ทาให้คอมพิวเตอร์ทางานไดห้ ลายงานพรอ้ มๆกัน(Multitasking) v เปน็ คอมพวิ เตอรท์ ี่มนุษย์พยายามนามาเพอื่ ชว่ ยในการตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หาใหด้ ยี ่งิ ข้ึน v คอมพิวเตอรย์ ุคน้ีเป็นผลจากวชิ าการด้านปญั ญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI)

ประเภทของคอมพิวเตอร์ ประเภทของคอมพวิ เตอร์ ประเภทคอมพวิ เตอร์แบ่งตามระดับความสามารถประกอบด้วย 1.ซเู ปอรค์ อมพวิ เตอร์ 2.เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ 3.มินิคอมพิวเตอร์ 4.เวิร์กสเตชั่น 5.ไมโครคอมพวิ เตอร์ 1.ซเู ปอรค์ อมพวิ เตอร์ (Supercomputer) • มีความสามารถสูงสดุ มขี นาดใหญ่ ทางานรวดเร็วที่สดุ ในโลก • สามารถประมวลผลขอ้ มูลในปริณมาณมาก • สามารถประมวลผลงานทีม่ รี ปู แบบซบั ซอ้ น มคี วามเรว็ ในการคานวณได้มากกว่า หนึ่งลา้ นลา้ นคาส่งั ตอ่ วินาที • หนว่ ยวดั ความเร็วของซปู เปอรค์ อมพวิ เตอร์ เรยี กวา่ กิกะฟลอป (Gigaflop) • ใชใ้ นงานพยากรณ์อากาศ งานทางวิศวกรรม งานดา้ นวทิ ยาศาตร์ งานการวิจัยนวิ เคลียร์ 2. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainfram Computer) • ความสามารถรองจากซปู เปอร์คอมพิวเตอร์ • ใชง้ านกบั ธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น บริษทั ประกันภยั ธุรกจิ ธนาคาร งานด้านสายการบิน ระบบจองต๋ัวเครื่องบิน การจัดเก็บ ภาษี ข้อเดน่ ของการใชเ้ มนเฟรมอยู่ที่งานทต่ี ้องการใหม้ ีระบบศนู ย์กลาง และกระจายการใช้งานไปเปน็ จานวนมาก ตัวอย่าง บริษัท IBM มีแอปพลิเคชั่นทางานมากกว่า 1000 โปรแกรม เมนเฟรมจะนาไปใช้งานเป็นเคร่ืองศูนย์กลาง และ กระจายการใช้งานใหก้ บั เครื่องคอมพวิ เตอร์อืน่ 3. มนิ คิ อมพวิ เตอร์ (Minicomputer) • เปน็ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์สาหรับองคก์ รขนาดกลาง และขนาดเลก็ เหมาะสาหรับธุรกิจขนาดเล็กไปถงึ ขนาดกลาง • ความสามารถอย่รู ะหวา่ งเมนเฟรมคอมพิวเตอร์และไมโครคอมพิวเตอร์ • เปน็ คอมพิวเตอร์ทสี่ ามารถใชง้ านได้พร้อม ๆ กนั หลายคน จึงมีเครอื่ งปลายทางที่เชอ่ื มต่อกัน • นามาใช้สาหรับประมวลผลในงานสารสนเทศขององค์การขนาดกลาง จนถึงองค์การขนาดใหญ่ที่มีการวางระบบเป็น เครือข่ายเพอ่ื ใช้งานร่วมกนั 4. เวิร์กสเตชั่น (Workstation)• เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีความสามารถอยู่ระหว่างความสามารถของ มินิคอมพิวเตอร์และไมโครคอมพิวเตอร์ • มีความเรว็ ประสทิ ธิภาพ และราคาสูงกวา่ เครอื่ งคอมพิวเตอร์ PC โดยทว่ั ไป • มีจดุ เด่นสาหรับงานกราฟฟิก สร้างรูปภาพ และภาพเคลอื่ นไหว • สามารถใช้เพื่อเชื่อมโยงเป็นเครอื ขา่ ยได้ • สาหรับงานออกแบบวงจรอิเล็กทรอนกิ ส์ งานควบคมุ เครื่องจักร งานจาลองและคานวณทางวิทยาศาสตร์ ฯ

ประเภทของคอมพวิ เตอร์ 5. ไมโครคอมพิวเตอร์(Microcomputer)• เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ราคาถูกสามารถเรียกได้อีกอย่างหนึ่ง วา่ เคร่ืองคอมพวิ เตอรส์ ว่ นบุคคล (Personal Computer หรอื PC) • พีซีทั่วไปจะมรี ะบบปฎิบตั ิการ พรอ้ มโปรแกรมใชง้ านทางดา้ นเอกสาร ทอ่ งเว็บ อเี มล ดหู นัง ฟงั เพลง เปน็ ตน้ • เราสามารถแบง่ คอมพิวเตอรส์ ว่ นบคุ คล ได้ดังนี้ - คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ (Desktop Computer) เป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ราคาถูกสามารถเรียกได้อีกอย่าง หนึง่ วา่ เคร่ืองคอมพิวเตอรส์ ่วนบุคคล (Personal Computer หรือ PC) - โน๊ตบุ๊คคอมพิวเตอร์ (Notebook Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก มี น้าหนักเบาประมาณ 2-4 กิโลกรัม และ บางกวา่ แบบตัง้ โตะ๊ สามารถพกพาไปยงั สถานที่ตา่ ง ๆ ได้สะดวก - เนต็ บคุ๊ คอมพิวเตอร์ (Netbook) เป็นคอมพิวเตอร์ท่ีมีขนาดเล็กกว่าเครื่องพีซีและโน๊ตบุค โดยออกแบบให้สามารถนาติดตัวไปใช้งานตามท่ีต่างๆได้ดี เพราะมีขนาดเลก็ และน้าหนกั เบา - แท็บเลต็ คอมพวิ เตอร์(Tablet Computer) • เป็นคอมพิวเตอรท์ ส่ี ามารถใช้งานในขณะเคล่อื นทไี่ ด้ • รวมการทางานทุกอย่างไว้ท่ีจอสัมผัสโดยใช้ปากกา หรือปลายน้ิว เป็นอุปกรณ์อินพุตพื้นฐาน เทนการใช้คีย์บอร์ดและ เมาส์ กำรนำคอมพวิ เตอร์มำประยุกตใ์ ช้กับงำนดำ้ นต่ำงๆ • คอมพิวเตอรก์ ับงานด้านสถานอี วกาศ • คอมพิวเตอรก์ ับงานดา้ นวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ • คอมพวิ เตอรก์ ับงานดา้ นธุรกิจทั่วไป • คอมพิวเตอรก์ ับงานดา้ นการศกึ ษาและการวจิ ยั • คอมพิวเตอรก์ ับงานดา้ นออกแบบทางวิศวกรรม • คอมพิวเตอร์กับงานดา้ นอตุ สาหกรรมและหุ่นยนต์ • คอมพวิ เตอรก์ บั งานดา้ นเกบ็ ประวัติอาชญากรรม • คอมพวิ เตอรก์ บั งานดา้ นบนั เทิง

ควำมรู้เบ้อื งตน้ เกย่ี วกับพ้ืนฐำนคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสำรสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือสาคัญของการทางานทุกด้าน นับตั้งแต่ ด้านการศึกษา ด้านพานิชยกรรม ด้าน เกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้านสาธารณสุข ด้านการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนด้านการเมืองและราชการ เทคโนโลยี สารสนเทศเขา้ ไปช่วยในการทางานนัน้ ๆ ใหม้ ปี ระสิทธภิ าพมากขนึ้ ควำมสำคัญของเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่อสำรมี5 ประกำร ดังน้ี 1. การสื่อสารถือเป็นส่ิงจาเป็นในการดาเนิน กิจกรรมตา่ งๆ 2. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารประกอบด้วยผลิตภัณฑห์ ลกั ทม่ี ากกว่าโทรศพั ท์และคอมพวิ เตอร์ 3. มีผลใหก้ ารใช้งานด้านต่างๆ มีราคาถูกลง 4. เครือขา่ ยสอื่ สารไดร้ ับประโยชน์จากเครือข่ายภายนอก 5. เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารทาใหฮ้ าร์ดแวร์คอมพิวเตอร์และต้นทนุ การใช้ ICT มีราคาถูกลงมาก ข้อมูล (data) กลุ่มตัวอักษรอักขระท่ีเม่ือนามารวมกันแล้วมีความหมายอย่างใดอย่างหนึ่งและสาคัญควรค่าแก่การ จัดเก็บเพอ่ื นาไปใช้ในโอกาสต่างๆ ข้อมลู มกั เปน็ ขอ้ ความทีอ่ ธิบายถึงส่ิงใดสิ่งหนึ่ง อาจเป็นตัวอักษร ตัวเลข หรือสัญลักษณ์ ใดๆ ทสี่ ามารถนาไปประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ สารสนเทศ ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ต่างๆ ที่ได้รับการสรุป คานวณ จัดเรียงหรือประมวลแล้วจากข้อมูลต่างๆ ที่ เกยี่ วข้องอยา่ งเปน็ ระบบตามหลกั วชิ าการจนไดเ้ ปน็ ความร้เู พอื่ นามาเผยแพรแ่ ละใชป้ ระโยชน์ในงานด้านต่างๆ

องคป์ ระกอบของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ องค์ประกอบของระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศ มดี ังตอ่ ไปน้ี • 1.เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอรเ์ ปน็ เคร่ืองมอื อิเลก็ ทรอนกิ สท์ ี่สามารถจดจาขอ้ มูลต่างๆ และปฏิบัติตามคาสั่ง ที่บอกเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทางานอย่างใดอย่างหนึ่ง ในคอมพิวเตอร์นั้นประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ต่อเช่ือมกันเรียกว่า Hardware และอุปกรณ์ Hardware น้จี ะตอ้ งทางานรว่ มกบั โปรแกรมคอมพิวเตอรห์ รอื เรยี กว่า Software Hardware - อุปกรณ์รับข้อมูล (Input) - อุปกรณส์ ง่ ขอ้ มูล (Output) - หน่วยประมวลผลกลาง - หน่วยความจาหลัก -หน่วยความจารอง •Software - ซอฟต์แวร์ระบบ - ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ ซอฟต์แวร์ระบบ มีหน้าที่ควบคุมระบบต่างๆ ภายในคอมพิวเตอร์ และเป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์หรือ Hardware ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ เปน็ โปรแกรมท่ีเขียนขึ้นเพอื่ ทางานเฉพาะดา้ นตามความตอ้ งการของผใู้ ช้งาน 2. เทคโนโลยสี อื่ สารโทรคมนาคม เทคโนโลยีส่ือสารโทรคมนาคมใช้ในการติดต่อสื่อสาร รับ/ส่ง ข้อมูลจากท่ีไกลๆ เป็นการส่งของข้อมูลระหว่าง คอมพิวเตอร์หรือเคร่ืองมือที่อยู่ห่างไกลกัน ซึ่งจะช่วยให้การเผยแพร่ข้อมูลหรือสารสนเทศไปยังผู้ใช้ในแหล่งต่างๆ เป็นไป อยา่ งสะดวก รวดเร็ว ถกู ตอ้ ง ครบถ้วน และทนั การณ์ ซึ่งรปู แบบของขอ้ มูลที่ รบั /ส่ง อาจเป็นตัวเลข (Numeric Data) , ตวั อกั ษร (Text) , ภาพ (Image) และเสียง (Voice)

กระบวนการทางานของระบบสารสนเทศ กระบวนกำรทำงำนของระบบสำรสนเทศ ปจั จยั ที่ทำใหเ้ กดิ ควำมลม้ เหลวในกำรนำเทคโนโลยสี ำรสนเทศมำใช้ 1.การขาดการวางแผนท่ีดีพอ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงการวางแผนจดั การความเส่ยี งไม่ดีพอ ย่ิงองค์การมีขนาดใหญ่มาก ข้นึ เท่าใด การจดั การความเส่ียงยอ่ มจะมคี วามสาคัญมากขน้ึ เป็นเงาตามตวั ทาให้ค่าใช้จา่ ยด้านนีเ้ พิ่มสงู ข้นึ 2. การนาเทคโนโลยีทีไ่ ม่เหมาะสมมาใช้งาน การนาเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในองค์กรจาเป็นต้องพิจารณาให้ สอดคล้องกับ ลักษณะของธุรกิจหรืองานท่ีองค์กรดาเนินอยู่ หากเลือกใช้เทคโนโลยีที่ไม่สอดรับกับความต้องการของ องค์กรแล้วจะทาให้เกิด ปญั หาต่าง ๆ ตามมา และเปน็ การสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใชเ่ หตุ 3. การขาดการจัดการหรอื สนับสนนุ จากผู้บริหารระดบั สูง การทจ่ี ะนาเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้งานในองค์กร หากขาดซึ่งความสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูงแล้วก็ถือว่าล้มเหลวตั้งแต่ยัง ไม่ได้เร่ิมต้น การได้รับความม่ันใจจาก ผบู้ ริหารระดบั สงู เปน็ ก้าวย่างทสี่ าคญั และจาเป็นท่ี ทาใหก้ ารนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในองคก์ ารประสบความสาเร็จ ประโยชนข์ องระบบสำรสนเทศ 1.ช่วยใหผ้ ใู้ ช้สามารถเขา้ ถงึ สารสนเทศทตี่ ้องการไดอ้ ย่างรวดเรว็ และทนั ต่อ เหตกุ ารณ์เนื่องจากข้อมูลถูกจัดเก็บและ บริหารอยา่ งเป็นระบบ ทาให้ผบู้ รหิ ารสามารถเข้าถงึ ข้อมูลไดอ้ ยา่ งรวดเร็วในรปู แบบทีเ่ หมาะสมและสามารถนาข้อมูลมาใช้ ประโยชน์ทันตอ่ ความต้องการ 2. ช่วยในการกาหนดเป้าหมายกลยุทธ์และการวางแผนปฏิบัติการโดยผู้บริหาร สามารถนาข้อมูลท่ีได้จากระบบ สารสนเทศมาช่วยในการวางแผนและกาหนดเป้าหมายใน การดาเนินงานเน่อื งจากสารสนเทศถูกรวบรวมและจัดการอย่าง เป็นระบบ ทาให้มีประวัติของข้อมูลอย่างต่อเนื่อง สามารถที่จะบ่งชี้แนวโน้มของการดาเนินงานว่าน่าจะเป็นไปในลักษณะ ใด 3. ช่วยในการตรวจสอบการดาเนินงาน เม่ือแผนงานถูกนาไปปฏิบัติในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ผู้ควบคุมจะต้อง ตรวจสอบผลการดาเนินงานโดยนาขอ้ มูลบางส่วนมาประมวลผลเพ่ือประกอบการประเมิน สารสนเทศท่ีได้จะแสดงให้เห็น ผลการดาเนนิ งานวา่ สอดคล้องกบั เป้าหมายที่ต้องการเพยี งไร 4. ช่วยในการศึกษาและวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาผู้บริหารสามรถใช้ระบบสารสนเทศประกอบการศึกษาและการ ค้นหาสาเหตุ หรือข้อผิดพลาดท่ีเกิดขึ้นในการดาเนินงาน ถ้าการดาเนินงานไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยอาจจะเรียก ข้อมูลเพิ่มเติมออกมาจากระบบ เพื่อให้ทราบว่าความผิดพลาดในการปฏิบัติงานเกิดข้ึนจากสาเหตุใด หรือจัดรูปแบบ สารสนเทศในการวเิ คราะห์ปญั หาใหม่ 5. ชว่ ยให้ผูใ้ ช้สามารถวเิ คราะหป์ ญั หาหรืออุปสรรคท่ีเกดิ ขน้ึ เพ่ือหาวิธีควบคุม ปรับปรุงและแก้ไขปัญหา สารสนเทศ ท่ไี ดจ้ ากการประมวลผลจะช่วยให้ผู้บริหารวิเคราะห์ว่าการดาเนินงานใน แต่ละทางเลือกจะช่วยแก้ไขหรือควบคุมปัญหาท่ี เกิดข้ึนได้อยา่ งไร ธรุ กิจตอ้ งทาอยา่ งไรเพอ่ื ปรับเปลยี่ นหรอื พัฒนาใหก้ ารดาเนินงานเปน็ ไปตามแผน งานหรือเปา้ หมาย 6. ช่วยลดค่าใช้จ่ายระบบสารสนเทศท่ีมีประสิทธิภาพช่วยให้ธุรกิจลดเวลา แรงงาน และค่าใช้จ่ายในการทางานลง เน่อื งจากระบบสารสนเทศสามารถรับภาระงานที่ต้องใช้แรงงานจานวนมาก ตลอดจนช่วยลดขั้นตอนในการทางาน ส่งผล ให้ธุรกิจสามารถลดจานวนคนและระยะเวลาในการประสานงานให้น้อยลง โดยผลงานที่ออกมาอาจเท่าหรือดีกว่าเดิม ซึ่ง จะเปน็ การเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการแข่งขนั ของธุรกิจ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook