ยทุ ธศาสตร์กาแฟ ปี 2560 – 2564
สารบัญ ยุทธศาสตรก์ าแฟ ปี 2560 – 2564 หลกั การและเหตผุ ล 03 05 สถานการณก์ ารผลติ และการตลาด ปี 2553/54-2557/58 ของโลก 24 ของอาเซยี น ของไทย 26 28 ประเดน็ ปญั หา 29 ดา้ นการผลติ 30 ดา้ นการตลาด ดา้ นการแปรรูป 34 การวเิ คราะหส์ ถานการณก์ าแฟภายใตเ้ งอ่ื นไขการคา้ เสรี 38 39 วสิ ยั ทศั น์ 40 พนั ธกจิ ยทุ ธศาสตรก์ าแฟโรบสั ตา เปา้ หมาย กลยทุ ธ์ ยทุ ธศาสตรก์ าแฟอะราบกิ า เปา้ หมาย กลยทุ ธ์ ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะไดร้ บั การขบั เคลอ่ื นยทุ ธศาสตร์ ปจั จยั ความสาเรจ็ ของยทุ ธศาสตร์
หลักการและเหตุผล กาแฟ เป็นพืชเศรษฐกิจท่ีสำคัญชนิดหน่ึงของไทยที่ทำรำยได้ให้เกษตรกรปีละประมำณ 5,500 ล้ำนบำท โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่ำนมำ (ปี 2554 - 2558) ตลำดกำแฟมีกำรขยำยตัวอย่ำงมำก ทำให้ควำมต้องกำรใช้เมล็ดกำแฟของโรงงำนแปรรูปกำแฟในประเทศเพ่ิมขึ้นจำก 61,480 ตัน ในปี 2554 เป็น 80,000 ตัน ในปี 2558 ในขณะเดียวกัน ผลผลิตกำแฟในประเทศกลับลดลงอย่ำงต่อเนื่อง เนื่องจำกรำคำกำแฟท่ีตกต่ำเป็นเวลำนำน ทำให้เกษตรกรปรับเปล่ียนไปปลูกพืชอ่ืนแทน เช่น ยำงพำรำ ปำล์มน้ำมัน และไม้ผล เนื้อท่ีท่ีให้ผลจึงลดลงจำก 322,896 ไร่ ในปี 2554 เหลือเพียง 251,433 ไร่ ในปี 2558 ส่งผลใหผ้ ลผลิตลดลงจำก 42,394 ตนั ในปี 2554 เหลือผลผลติ เพียง 26,089 ตนั ในปี 2558 พันธทุ์ ป่ี ลูกส่วนใหญเ่ ปน็ พันธุ์ กาแฟโรบัสตา มแี หล่งปลูกท่ีสำคัญอยู่ในภำคใต้ ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุรำษฎร์ธำนี กระบี่ ซึ่งในปี 2558 มีสัดส่วนร้อยละ 66 ส่วนพันธุ์ กาแฟอะราบิกา มีสัดสว่ นร้อยละ 34 โดยแหลง่ ปลกู ทส่ี ำคญั อยู่ในภำคเหนือ ไดแ้ ก่ เชยี งใหม่ เชยี งรำย แม่ฮ่องสอน ตำก ปรมิ าณความตอ้ งการใชเ้ มลด็ กาแฟภาคอตุ สาหกรรม และปรมิ าณผลผลติ เมลด็ กาแฟภายในประเทศของไทย ปี 2554 - 2558
ต้งั แตว่ ันท่ี 1 มกรำคม 2553 ภำยใต้ควำมตกลงเขตกำรค้ำเสรีอำเซียน (AFTA) ประเทศไทยจะต้อง เปิดตลำดให้นำเขำ้ กำแฟเสรี โดยลดภำษนี ำเข้ำเมล็ดกำแฟและกำแฟสำเร็จรูปเหลือร้อยละ 5 และร้อยละ 0 ตำมลำดับ ซึ่งกำรเข้ำสู่ประชำคมอำเซียน ทำให้ไทยไม่สำมำรถแข่งขันกับประเทศในอำเซียน ได้แก่ ประเทศเวียดนำม ลำว และอินโดนีเซีย ซ่ึงประเทศเหล่ำนี้สำมำรถผลิตกำแฟที่ให้ผลผลิตสูงกว่ำและ ต้นทุนกำรผลิตที่ต่ำกว่ำ อีกทั้งปัจจุบันสวนกำแฟของไทยร้อยละ 70 ของกำแฟโรบัสตำเป็นสวนผสม ซง่ึ เกษตรกรขำดกำรบำรุงรกั ษำ สง่ ผลใหผ้ ลผลิตต่ำเฉลย่ี ไร่ละ 91 กโิ ลกรมั ในขณะท่สี วนที่ปลกู เป็นสวนเด่ียว ประมำณรอ้ ยละ 30 ของกำแฟโรบสั ตำทง้ั หมดให้ผลผลติ ถงึ 250 กิโลกรัมต่อไร่ ซึง่ มเี น้อื ทป่ี ลกู นอ้ ยกว่ำ สวนผสมมำก ผลผลิตเฉลย่ี ของประเทศจึงต่ำ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินกำรยุทธศำสตร์กำแฟตั้งแต่ปี 2552 - 2556 สำมำรถ บรรลุเป้ำหมำยได้ในระดับหน่ึงเนื่องจำกปัญหำด้ำนงบประมำณ ไม่สำมำรถขยำยผลได้ตำมเป้ำหมำย จึงมีควำมจำเป็นท่ีอุตสำหกรรมกำแฟจะต้องเร่งพัฒนำ โดยไทยมีศักยภำพด้ำนกำรแปรรูปและ มีศักยภำพในกำรผลิตและส่งออกมำก ดังนั้นกำรพัฒนำในระยะต่อไปจำเป็นต้องจัดทำยุทธศำสตร์กำแฟ โดยเน้นกำรบริหำรจัดกำรแบบครบวงจร (Value Chain) บนพ้ืนฐำนของศักยภำพ (Potential) และอัตลักษณ์ของกำแฟไทย พัฒนำระบบมำตรฐำนกำรผลิตในระดับฟำร์มถึงผู้บริโภค โดยกำรเพ่ิม ประสิทธิภำพกำรผลิต ลดต้นทุนกำรผลิต กำรพัฒนำคุณภำพเมล็ดกำแฟสู่มำตรฐำนสำกล กำรผลิต กำแฟเฉพำะถน่ิ และกำรเปน็ ศูนย์กลำงกำรคำ้ กำแฟในอำเซยี นต่อไป
สถานการณก์ ารผลติ และการตลาด ปี 2553/54-2557/58 สถานการณข์ องโลก การผลติ ผลผลติ กำแฟโลก ในชว่ ง 5 ปีที่ผำ่ นมำ เพิม่ ข้ึนจำก 8.425 ล้ำนตนั ในปี 2553/54 เปน็ 8.972 ลำ้ นตนั ในปี 2557/58 หรอื เพ่มิ ขึน้ ร้อยละ 2.07 ตอ่ ปี เน่อื งจำกสภำพอำกำศท่เี ออื้ อำนวย ประเทศท่ผี ลิตกำแฟ มำกท่สี ดุ ได้แก่ บรำซิล รองลงมำคือ เวียดนำม และ โคลัมเบีย โดยมีผลผลิตคิดเป็นร้อยละ 36.64 ร้อยละ 17.34 และรอ้ ยละ 6.92 ของผลผลติ โลก ตำมลำดบั (ตำรำงท่ี 1) (1) บราซิล เป็นผู้ผลิตกำแฟอันดับ 1 ของโลก และเป็นผู้ผลิตกำแฟพันธ์ุอะรำบิกำรำยใหญ่ อันดับ 1 ของโลกเช่นกัน ในช่วง 5 ปีที่ผ่ำนมำ ผลผลิตกำแฟของบรำซิลเพิ่มข้ึนจำก 3.270 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 3.456 ล้ำนตัน ในปี 2555/56 และลดเหลือ 3.258 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 แต่ในภำพรวม ผลผลิตเพ่ิมข้ึนอัตรำร้อยละ 1.44 ต่อปี โดยกำแฟอะรำบิกำมีผลผลิต ลดลงจำก 2.510 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เหลือ 2.238 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือลดลงร้อยละ 0.43 ต่อปี และกำแฟโรบัสตำ ผลผลิต เพ่มิ ขึ้นจำก 0.760 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 1.020 ลำ้ นตนั ในปี 2557/58 หรอื เพิม่ ขึ้นร้อยละ 6.70 ต่อปี เน่ืองจำกสภำพอำกำศเอื้ออำนวย (ตำรำงท่ี 1 ตำรำงที่ 2 และ ตำรำงที่ 3) (2) เวียดนาม เป็นผู้ผลิตกำแฟอันดับ 2 ของโลก และเป็นผู้ผลิตกำแฟพันธ์ุโรบัสตำรำยใหญ่ อันดับ 1 ของโลก ในช่วง 5 ปีที่ผ่ำนมำ ผลผลิตกำแฟของเวียดนำมเพิ่มข้ึนจำก 1.165 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 1.644 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 8.61 ต่อปี โดยแยกเป็นกำแฟโรบัสตำ เพ่ิมขึ้นจำก 1.130 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 1.581 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 8.33 และกำแฟอะรำบิกำ เพิ่มข้ึนจำก 0.039 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.063 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมขึ้นร้อยละ 14.46 ต่อปี เน่ืองจำกมีกำรขยำยพ้ืนที่ปลูกกำแฟเพิ่มขึ้นอย่ำงต่อเนื่อง (ตำรำงที่ 1 ตำรำงท่ี 2 ตำรำงท่ี 3 และ ตำรำงท่ี 13) (3) โคลัมเบีย เป็นผู้ผลิตกำแฟอันดับ 3 ของโลก ในช่วง 5 ปีที่ผ่ำนมำ ผลผลิตกำแฟอะรำบิกำ ของโคลมั เบียเพ่ิมข้ึนจำก 0.510 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.798 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มข้ึน ร้อยละ 14.48 ตอ่ ปี (ตำรำงที่ 1 และตำรำงท่ี 2)
ตารางท่ี 1 ผลผลติ กาแฟของโลก ปี 2553/54 – 2558/59 หนว่ ย : ล้านตนั ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพม่ิ 2558/59* (รอ้ ยละ) 3.456 3.432 3.258 1. บราซลิ 3.270 2.952 1.590 1.790 1.644 1.44 2.964 0.596 0.725 0.798 2. เวยี ดนาม 1.165 1.560 0.630 0.570 0.528 8.61 1.758 0.390 0.381 0.389 3. โคลมั เบยี 0.512 0.459 0.284 0.264 0.300 14.39 0.804 0.318 0.305 0.326 4. อนิ โดนเี ซยี 0.560 0.498 0.216 0.231 0.213 0.17 0.636 0.279 0.237 0.198 5. เอธโิ อเปยี 0.368 0.379 0.241 0.211 0.202 1.17 0.390 0.038 0.039 0.026 6. ฮอนดรู ัส 0.239 0.336 2.16 0.354 1.259 1.157 1.09 7. อินเดีย 0.302 0.314 9.297 9.342 8.972 1.25 0.318 8. ยูกนั ดา 0.193 0.185 4.28 0.228 9. เม็กซิโก 0.240 0.258 -4.59 0.204 10. กวั เตมาลา 0.238 0.265 -5.41 0.199 11. ไทย 0.042 0.041 -9.60 0.031 12. อ่ืน ๆ 1.296 1.387 -5.14 1.121 รวม 8.425 8.634 2.07 9.007 หมายเหตุ * ประมาณการ ทมี่ า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร ตารางท่ี 2 ผลผลติ กาแฟพนั ธอ์ุ ะราบกิ าของโลก ปี 2553/54 – 2558/59 หนว่ ย : ลา้ นตัน ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพมิ่ 2558/59* (รอ้ ยละ) 2.526 2.508 2.238 1. บราซิล 2.510 2.082 0.596 0.725 0.798 -0.43 2.166 0.390 0.381 0.389 2. โคลมั เบีย 0.510 0.459 0.284 0.264 0.300 14.48 0.804 0.240 0.210 0.201 3. เอธิโอเปีย 0.370 0.379 0.267 0225 0.186 1.06 0.390 0.258 0.255 0.174 4. ฮอนดูรสั 0.240 0.336 0.116 0.120 0.126 2.07 0.354 0.099 0.102 0.098 5. กัวเตมาลา 0.240 0.261 0.101 0.087 0.084 -5.56 0.198 0.588 0.547 0.502 6. เม็กซโิ ก 0.230 0.246 -5.01 0.192 5.465 5.424 5.096 7. เปรู 0.250 0.312 -8.85 0.180 8. นิคารากวั 0.100 0.126 4.22 0.132 9. อนิ เดยี 0.100 0.101 -0.31 0.089 10. คอสตารกิ า 0.090 0.107 -3.39 0.081 11. อื่นๆ 0.590 0.592 -3.94 0.513 รวม 5.230 5.001 0.29 5.099 หมายเหตุ * ประมาณการ ทม่ี า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
ตารางที่ 3 ผลผลติ กาแฟพนั ธโุ์ รบสั ตาของโลก ปี 2553/54 – 2558/59 หน่วย : ล้านตัน ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพมิ่ 2558/59* (รอ้ ยละ) 1.536 1.719 1.581 1. เวยี ดนาม 1.130 1.512 0.930 0.924 1.020 8.33 1.692 0.528 0.471 0.441 2. บราซิล 0.760 0.870 0.220 0.202 0.229 6.70 0.798 0.168 0.180 0.168 3. อินโดนีเซีย 0.480 0.420 0.084 0.090 0.105 -0.55 0.558 0.105 0.101 0.084 4. อนิ เดยี 0.210 0.212 0.030 0.030 0.017 1.26 0.229 0.029 0.023 0.032 5. ยูกันดา 0.150 0.132 0.028 0.029 0.029 5.51 0.180 0.176 0.149 0.172 6. มาเลเซีย 0.070 0.087 8.82 0.108 3.834 3.918 3.878 7. ไอเวอร่ี โคท 0.100 0.096 -2.94 0.080 8. ไทย 0.037 0.035 -15.71 0.021 9. คาแมรนู 0.030 0.039 -3.91 0.035 10. ลาว 0.030 0.027 -0.04 0.030 11. อ่นื ๆ 0.203 0.198 -5.97 0.179 รวม 3.200 3.628 4.72 3.910 หมายเหตุ * ประมาณการ ที่มา: กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร การตลาด (1) ความตอ้ งการใชเ้ มล็ดกาแฟ ควำมต้องกำรใช้เมล็ดกำแฟของโลก ในช่วง 5 ปีท่ีผ่ำนมำ เพิ่มข้ึนจำก 8.060 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เปน็ 8.732 ล้ำนตนั ในปี 2557/58 หรอื เพมิ่ ขึน้ รอ้ ยละ 1.65 ต่อปี เนอื่ งจำกกำรบริโภค โดยรวมของโลกขยำยตัว ประเทศท่ีมีควำมต้องกำรใช้เมล็ดกำแฟมำกท่ีสุด ได้แก่ ประเทศในกลุ่ม สหภำพยโุ รป รองลงมำ ได้แก่ สหรฐั อเมรกิ ำ และบรำซิล (ตำรำงท่ี 4) ปรมิ าณ (ลา้ นตัน) 9 8.5 8 7.5 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 2558/59 ปรมิ าณความตอ้ งการใชเ้ มลด็ กาแฟของโลก ปี 2553/54 - 2558/59
ตารางท่ี 4 ความต้องการใชเ้ มลด็ กาแฟของโลก ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ล้านตนั ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพม่ิ 2558/59* (รอ้ ยละ) 1. EU 2.480 2.715 2.597 2.489 2.618 2. สหรฐั อเมริกา 1.340 1.377 1.382 1.429 1.415 0.21 2.631 3. บราซลิ 0.170 1.202 1.207 1.213 1.220 4. ญี่ป่นุ 0.420 0.423 0.450 0.465 0.470 1.47 1.444 5. แคนาดา 0.250 0.250 0.254 0.276 0.270 6. ฟิลปิ ปนิ ส์ 0.170 0.220 0.264 0.218 0.256 48.45 1.220 7. รสั เซีย 0.260 0.232 0.248 0.254 0.243 8. อนิ โดนเี ซีย 0.100 0.143 0.160 0.167 0.183 3.25 0.488 9. เอธิโอเปีย 0.170 0.183 0.180 0.187 0.179 10. เวียดนาม 0.100 0.100 0.110 0.120 0.133 2.56 0.288 11. อ่ืนๆ 2.600 1.690 1.682 1.747 1.745 8.43 0.276 -0.45 0.245 14.61 0.185 1.26 0.178 7.82 0.156 -7.36 1.785 รวม 8.060 8.535 8.534 8.565 8.732 1.65 8.896 หมายเหตุ * ประมาณการ ทมี่ า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร (2) ราคา ในช่วง 5 ปีท่ีผ่ำนมำ รำคำเมล็ดกำแฟโรบัสตำตลำดนิวยอร์ก ลดลงจำกกิโลกรัมละ 78.34 บำท ในปี 2554 เหลือกิโลกรัมละ 67.24 บำท ในปี 2558 หรือลดลงร้อยละ 3.03 ต่อปี และรำคำเมล็ดกำแฟ โรบัสตำตลำดลอนดอน ลดลงจำกกิโลกรัมละ 65.28 บำท ในปี 2554 เหลือกิโลกรัมละ 58.96 บำท ในปี 2558 หรือลดลงร้อยละ 1.75 ต่อปี เน่ืองจำกผลผลิตของโลกเพิ่มข้ึน ส่วนรำคำกำแฟอะรำบิกำ ตลำดนิวยอร์ก ลดลงจำกกิโลกรัมละ 184.46 บำท ในปี 2554 เหลือกิโลกรัมละ 121.52 บำท ในปี 2558 หรอื ลดลงรอ้ ยละ 7.02 ตอ่ ปี (ตำรำงท่ี 5) ตารางท่ี 5 ราคาเมลด็ กาแฟดบิ ปี 2553-2558 ปี ราคาทเี่ กษตรกรขายได้ 1/ ราคากาแฟโรบสั ตา ราคากาแฟโรบสั ตา หนว่ ย : บาท/กก. (นวิ ยอรก์ ) 2/ (ลอนดอน) 4/ ราคากาแฟอะราบกิ า 2554 70.94 78.34 65.28 (นวิ ยอรก์ ) 3/ 184.46 2555 69.09 75.61 63.03 130.43 96.69 2556 71.16 68.17 57.14 145.08 121.52 2557 64.94 75.42 64.73 -7.02 2558 68.30 67.24 58.96 118 อตั ราเพมิ่ -1.37 -3.03 -1.75 (รอ้ ยละ) 2559* 65.43 66.00 53.75 หมายเหตุ : * ประมาณการ ทม่ี า: 1/ สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร 2/, 3/ International Coffee Organization, October 2015 4/ Robusta Coffee Futures/Global Derivatives, October 2015
(3) การส่งออก กำรสง่ ออกเมล็ดกำแฟและกำแฟสำเรจ็ รูป ในชว่ ง 5 ปีท่ีผ่ำนมำเพ่ิมข้ึนจำก 6.793 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 7.157 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.66 ต่อปี ประเทศผู้ส่งออก มำกทส่ี ดุ ไดแ้ ก่ บรำซิล ส่งออก 2.097 ลำ้ นตัน ในปี 2553/54 เพ่ิมเป็น 2.194 ลำ้ นตัน ในปี 2557/58 หรอื เพิม่ ขน้ึ รอ้ ยละ 2.28 ต่อปี รองลงมำ ได้แก่ เวียดนำม ส่งออก 1.113 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เพ่ิมเป็น 1.324 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 5.03 ต่อปี และโคลัมเบียส่งออก 0.5 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เพ่ิมเป็น 0.728 ลำ้ นตันในปี 2557/58 หรือเพมิ่ ขน้ึ ร้อยละ 12.25 ตอ่ ปี (ตำรำงที่ 6) เมล็ดกาแฟ ในช่วง 5 ปีผ่ำนมำ กำรส่งออกเมล็ดกำแฟเพ่ิมขึ้นจำก 6 ล้ำนตัน ในปี 2553/2554 เป็น 6.066 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 0.79 ต่อปี โดยประเทศ บรำซลิ ส่งออกมำกที่สุด จำก 1.910 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 1.983 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือ เพิ่มข้ึนร้อยละ 2.19 ต่อปี รองลงมำ ได้แก่ เวียดนำม ส่งออก 1.090 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 1.220 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 3.62 ต่อปี และโคลัมเบีย ส่งออก 0.440 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เปน็ 0.681 ลำ้ นตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มขน้ึ ร้อยละ 13.95 ตอ่ ปี (ตำรำงท่ี 7) กาแฟสาเร็จรูป ในช่วง 5 ปีผ่ำนมำ กำรส่งออกกำแฟสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นจำก 0.800 ล้ำนตัน ในปี 2553/2554 เป็น 0.883 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมข้ึนร้อยละ 2.45 ต่อปี โดยประเทศ บรำซิลสง่ ออกมำกท่ีสุด จำก 0.190 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.209 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือ เพ่ิมข้ึนร้อยละ 2.78 ต่อปี รองลงมำ ได้แก่ อินโดนีเซีย ส่งออก 0.140 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เหลือ 0.114 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือลดลงร้อยละ 7.13 ต่อปี และมำเลเซีย ส่งออก 0.100 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เปน็ 0.167 ล้ำนตนั ในปี 2557/58 หรอื เพมิ่ ขึ้นรอ้ ยละ 11.71 ตอ่ ปี (ตำรำงท่ี 8) ตารางที่ 6 ปรมิ าณการสง่ ออกเมลด็ กาแฟและกาแฟสาเร็จรปู ของโลก ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ล้านตัน ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพม่ิ 2558/59* (รอ้ ยละ) 1. บราซิล 2.097 1.791 1.840 2.049 2.194 2.28 2.000 2. เวยี ดนาม 1.113 1.470 1.479 1.697 1.324 5.03 1.723 3. โคลมั เบีย 0.500 0.442 0.531 0.662 0.728 12.25 0.734 4. อินโดนีเซีย 0.583 0.447 0.534 0.468 0.422 -5.83 0.485 5. ฮอนดูรัส 0.234 0.317 0.269 0.236 0.282 0.78 0.336 6. อนิ เดยี 0.331 0.312 0.291 0.299 0.282 -3.56 0.300 7. เอธโิ อเปยี 0.194 0.188 0.210 0.197 0.210 2.06 0.211 8. ยกู ันดา 0.189 0.180 0.215 0.216 0.204 3.41 0.210 9. กัวเตมาลา 0.219 0.230 0.226 0.191 0.184 -5.20 0.181 10. มาเลเซีย 0.101 0.117 0129 0.127 0.167 11.49 0.141 11. อนื่ ๆ 1.232 1.489 1.421 1.271 1.160 -2.75 1.186 รวม 6.793 6.983 7.145 7.413 7.157 1.66 7.507 หมายเหตุ * ประมาณการ ทมี่ า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
ตารางที่ 7 ปรมิ าณการสง่ ออกเมลด็ กาแฟของโลก ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ลา้ นตัน ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพม่ิ 2558/59* (รอ้ ยละ) 1.629 1.836 1.983 1. บราซิล 1.910 1.593 1.427 1.636 1.220 2.19 1.800 0.486 0.618 0.681 2. เวียดนาม 1.090 1.437 0.269 0.236 0.282 3.62 1.600 0.414 0.360 0.306 3. โคลัมเบีย 0.440 0.401 0.210 0.197 0.210 13.95 0.690 0.205 0.198 0.192 4. ฮอนดรู ัส 0.230 0.317 0.215 0.216 0.204 1.13 0.336 0.225 0.189 0.183 5. อนิ โดนีเซยี 0.450 0.297 0.246 0.246 0.165 -5.63 0.330 0.818 0.654 0.640 6. เอธิโอเปีย 0.190 0.188 2.50 0.211 6.144 6.386 6.066 7. อินเดีย 0.250 0.224 -6.31 0.210 8. ยูกันดา 0.190 0.180 3.30 0.210 9. กวั เตมาลา 0.220 0.228 -5.41 0.180 10. เปรู 0.230 0.308 -8.51 0.168 11. อนื่ ๆ 0.800 0.861 -6.96 0.655 รวม 6.000 6.034 0.79 6.390 หมายเหตุ * ประมาณการ ทมี่ า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร ตารางที่ 8 ปริมาณการสง่ ออกกาแฟสาเรจ็ รปู ของโลก ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ลา้ นตัน ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพม่ิ 2558/59* (รอ้ ยละ) 0.209 0.211 0.209 1. บราซิล 0.190 0.194 0.120 0.108 0.114 2.78 0.198 0.129 0.127 0.167 2. อนิ โดนีเซีย 0.140 0.150 0.045 0.054 0.077 -7.13 0.153 0.086 0.100 0.090 3. มาเลเซยี 0.100 0.117 0.055 0.056 0.050 11.71 0.141 0.048 0.045 0.048 4. เวยี ดนาม 0.020 0.027 0.065 0.049 0.046 40.34 0.090 0.040 0.040 0.041 5. อินเดยี 0.080 0.089 0.020 0.019 0.018 3.58 0.090 0.026 0.035 0.023 6. เม็กซโิ ก 0.040 0.047 6.41 0.054 0.843 0.844 0.883 7. ไทย 0.070 0.044 -7.06 0.048 8. เอกวาดอร์ 0.050 0.059 -3.46 0.044 9. โคลมั เบีย 0.060 0.037 -6.61 0.039 10. ไอเวอรี่ โคท 0.020 0.020 -2.59 0.018 11. อืน่ ๆ 0.030 0.023 -1.11 0.026 รวม 0.800 0.807 2.45 0.901 หมายเหตุ * ประมาณการ ทมี่ า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
(4) การนาเข้า กำรนำเข้ำเมล็ดกำแฟและกำแฟสำเร็จรูป ในช่วง 5 ปีท่ีผ่ำนมำเพ่ิมขึ้นจำก 6.430 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เปน็ 7.013 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมขึ้นร้อยละ 2.15 ต่อปี ประเทศผู้นำเข้ำมำกที่สุด ได้แก่ กลุ่มประเทศสหภำพยุโรป นำเข้ำ 2.680 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เพ่ิมข้ึนเป็น 2.707 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมขึ้นร้อยละ 0.36 ต่อปี รองลงมำ ได้แก่ สหรัฐอเมริกำ นำเข้ำ 1.390 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เพ่ิมข้ึนเป็น 1.441 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมข้ึนร้อยละ 1.17 ต่อปี และญ่ีปุ่น นำเข้ำ 0.450 ลำ้ นตัน ในปี 2553/54 เพิ่มเป็น 0.485 ลำ้ นตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมขึ้นร้อยละ 3.18 ต่อปี เนอื่ งจำกควำมตอ้ งกำรบริโภคของประเทศเหล่ำนน้ั เพ่ิมขึ้น (ตำรำงท่ี 9) เมล็ดกาแฟ ในช่วง 5 ปีผ่ำนมำ กำรนำเข้ำเมล็ดกำแฟเพิ่มขึ้นจำก 5.710 ล้ำนตัน ในปี 2553/2554 เป็น 6.074 ลำ้ นตัน ในปี 2557/58 หรือเพม่ิ ขึ้นร้อยละ 1.59 ต่อปี โดยกลุ่มประเทศ สหภำพยุโรปนำเข้ำมำกที่สุด จำก 2.680 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 2.707 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.36 ต่อปีรองลงมำ ได้แก่ สหรัฐอเมริกำ นำเข้ำ 1.350 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 1.412 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 1.26 ต่อปี และญ่ีปุ่น นำเข้ำ 0.410 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.429 ลำ้ นตัน ในปี 2557/58 หรอื เพิ่มขน้ึ รอ้ ยละ 2.36 ตอ่ ปี (ตำรำงที่ 10) กาแฟสาเร็จรูป ในช่วง 5 ปีผ่ำนมำ กำรนำเข้ำกำแฟสำเร็จรูปเพ่ิมข้ึนจำก 0.694 ล้ำนตัน ในปี 2553/2554 เป็น 0.792 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 3.42 ต่อปี โดยประเทศ ฟิลิปปินส์นำเข้ำมำกที่สุด จำก 0.170 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.221 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.36 ต่อปี รองลงมำได้แก่ รัสเซียนำเข้ำ 0.120 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เหลือ 0.093 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือลดลงร้อยละ 6.24 ต่อปี และแคนำดำนำเข้ำ 0.060 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เปน็ 0.077 ล้ำนตนั ในปี 2557/58 หรอื เพิ่มขนึ้ ร้อยละ 6.66 ตอ่ ปี (ตำรำงที่ 11) ตารางท่ี 9 ปรมิ าณการนาเขา้ กาแฟและกาแฟสาเรจ็ รปู ของโลก ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ลา้ นตนั ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพมิ่ 2558/59* (รอ้ ยละ) 1. EU-27 2.680 2.637 2.704 2.679 2.707 0.36 2.730 2. สหรฐั อเมรกิ า 1.390 1.430 1.422 1.495 1.441 1.17 1.470 3. ญปี่ ุ่น 0.450 0.401 0.501 0.472 0.485 3.18 0.479 4. แคนาดา 0.200 0.250 0.254 0.276 0.270 7.24 0.288 5. ฟลิ ปิ ปินส์ 0.100 0.197 0.233 0.191 0.227 17.45 0.248 6. รสั เซีย 0.250 0.232 0.248 0.254 0.243 0.34 0.245 7. สวสิ เซอร์แลนด์ 0.130 0.128 0.139 0.138 0.145 2.98 0.144 8. เกาหลีใต้ 0.110 0.107 0.110 0.130 0.138 6.70 0.141 9. แอลจีเรยี 0.110 0.136 0.117 0.138 0.129 3.39 0.137 10. จีน 0.060 0.064 0.094 0.102 0.116 19.54 0.116 11. อน่ื ๆ 0.950 1.126 1.142 1.104 1.112 3.00 1.049 รวม 6.430 6.708 6.964 6.679 7.013 2.15 7.047 หมายเหตุ * ประมาณการ ทม่ี า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
ตารางที่ 10 ปรมิ าณการนาเขา้ เมลด็ กาแฟของโลก ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ล้านตนั ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพมิ่ 2558/59* (รอ้ ยละ) 2.704 2.679 2.707 1. EU-27 2.680 2.637 1.402 1.473 1.412 0.36 2.730 0.448 0.413 0.429 2. สหรฐั อเมริกา 1.350 1.422 0.140 0.152 0.147 1.26 1.440 0.139 0.138 0.145 3. ญี่ปุ่น 0.410 0.358 0.123 0.137 0.134 2.36 0.420 0.115 0.136 0.128 4. แคนาดา 0.140 0.134 0.103 0.122 0.129 2.26 0.156 0.071 0.071 0.079 5. สวสิ เซอร์แลนด์ 0.130 0.128 0.083 0.076 0.081 2.98 0.144 0.733 0.683 0.683 6. รสั เซีย 0.100 0.103 9.10 0.138 6.061 6.080 6.074 7. แอลจีเรีย 0.110 0.134 3.23 0.135 8. เกาหลีใต้ 0.120 0.101 3.39 0.132 9. ออสเตรเลยี 0.070 0.068 2.89 0.078 10. มาเลเซยี 0.060 0.068 7.37 0.078 11. อน่ื ๆ 0.540 0.724 4.20 0.648 รวม 5.710 5.877 1.59 6.099 หมายเหตุ * ประมาณการ ทม่ี า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร ตารางท่ี 11 ปรมิ าณการนาเขา้ กาแฟสาเรจ็ รปู ของโลก ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ล้านตัน ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพมิ่ 2558/59* (รอ้ ยละ) 0.204 0.182 0.221 1. ฟลิ ปิ ปนิ ส์ 0.170 0.166 0.114 0.104 0.093 6.36 0.240 0.074 0.081 0.077 2. รัสเซยี 0.120 0.119 0.037 0.047 0.059 -6.24 0.090 0.045 0.050 0.049 3. แคนาดา 0.060 0.070 0.047 0.041 0.034 6.66 0.084 0.037 0.032 0.035 4. จีน 0.020 0.024 0.020 0.022 0.029 32.79 0.060 0.038 0.033 0.043 5. ญป่ี ุ่น 0.030 0.035 0.019 0.015 0.017 14.32 0.051 0.141 0.153 0.135 6. ยเู ครน 0.080 0.060 -18.88 0.036 0.776 0.760 0.792 7. ไทย 0.030 0.035 2.21 0.033 8. สหรฐั อเมรกิ า 0.040 0.008 3.75 0.030 9. อินโดนเี ซยี 0.020 0.028 18.47 0.023 10. ออสเตรเลีย 0.020 0.019 -5.46 0.018 11. อ่นื ๆ 0.104 0.143 6.07 0.137 รวม 0.694 0.707 3.42 0.802 หมายเหตุ * ประมาณการ ทมี่ า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
สถานการณ์ของอาเซียน การผลิต ผลผลิตกำแฟอำเซียน ในช่วง 5 ปีท่ีผ่ำนมำ เพ่ิมข้ึนจำก 1.89 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 2.361 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่มิ ขึ้นร้อยละ 5.89 ต่อปี ประเทศทผ่ี ลิตกำแฟมำกทส่ี ดุ ไดแ้ ก่ เวยี ดนำม รองลงมำคอื อินโดนีเซยี โดยมีผลผลติ ในปี 2557/58 คิดเป็นรอ้ ยละ 69.63 และร้อยละ 22.36 ของผลผลิตอำเซยี น ตำมลำดบั (ตำรำงที่ 12) (1) เวียดนาม เป็นผู้ผลิตกำแฟอันดับ 1 ของอำเซียน ในช่วง 5 ปีท่ีผ่ำนมำ ผลผลิตกำแฟของ เวียดนำมเพ่ิมข้ึนจำก 1.165 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 1.644 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมขึ้น รอ้ ยละ 8.61 ต่อปี โดยแยกเป็นกำแฟโรบสั ตำ เพิ่มขึ้นจำก 1.126 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เปน็ 1.581 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.41 ส่วนกำแฟอะรำบิกำ เพ่ิมขึ้นจำก 0.039 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.063 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 14.46 (ตำรำงที่ 12 ตำรำงที่ 13 และ ตำรำงที่ 14) (2) อนิ โดนเี ซยี เป็นผู้ผลิตกำแฟอันดับ 2 ของอำเซียน ในช่วง 5 ปีท่ีผ่ำนมำ ผลผลิตกำแฟของ อินโดนีเซียเพ่ิมข้ึนจำก 0.560 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.630 ล้ำนตัน ในปี 2555/56 และลดลง เหลอื 0.528 ลำ้ นตัน ในปี 2557/58 ในภำพรวมมีอัตรำเพิ่มข้ึนร้อยละ 0.17 ต่อปี โดยแยกเป็นกำแฟ โรบัสตำ ลดลงจำก 0.477 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เหลือ 0.441 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือลดลงร้อยละ 0.42 ส่วนกำแฟอะรำบิกำ เพ่ิมข้ึนจำก 0.083 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.087 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรอื เพม่ิ ขนึ้ ร้อยละ 3.38 (ตำรำงที่ 12 ตำรำงท่ี 13 และตำรำงที่ 14) ตารางที่ 12 ผลผลติ กาแฟของอาเซยี น ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ล้านตนั ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพมิ่ 2558/59* (รอ้ ยละ) 1.590 1.790 1.644 1. เวียดนาม 1.165 1.560 0.630 0.570 0.528 8.61 1.758 0.084 0.090 0.105 2. อนิ โดนีเซยี 0.560 0.498 0.038 0.039 0.026 0.17 0.636 0.028 0.029 0.029 3. มาเลเซีย 0.066 0.087 0.027 0.027 0.029 10.10 0.108 2.397 2.544 2.361 4. ไทย 0.042 0.041 -9.60 0.031 5. ลาว 0.030 0.027 0.04 0.030 6. ฟลิ ิปปินส์ 0.027 0.027 1.44 0.029 รวม 1.890 2.240 5.89 2.592 หมายเหตุ * ประมาณการ ทม่ี า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
ตารางท่ี 13 ผลผลติ กาแฟพนั ธโุ์ รบสั ตาของอาเซยี น ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ลา้ นตนั ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพมิ่ 2558/59* (รอ้ ยละ) 1.536 1.719 1.581 1. เวยี ดนาม 1.126 1.512 0.528 0.471 0.441 8.41 1.692 0.084 0.090 0.105 2. อินโดนีเซยี 0.477 0.420 0.030 0.030 0.017 -0.42 0.558 0.028 0.029 0.029 3. มาเลเซีย 0.066 0.087 0.026 0.026 0.027 10.10 0.108 2.202 1.364 2.200 4. ไทย 0.037 0.035 -15.71 0.021 5. ลาว 0.030 0.027 0.04 0.030 6. ฟิลิปปินส์ 0.030 0.026 -2.09 0.027 รวม 1.766 2.072 17.09 2.436 หมายเหตุ * ประมาณการ ทม่ี า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร ตารางที่ 14 ผลผลติ กาแฟพนั ธอ์ุ ะราบกิ าของอาเซยี น ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ล้านตนั ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพม่ิ 2558/59* (รอ้ ยละ) 0.102 0.099 0.087 1. อนิ โดนีเซยี 0.083 0.078 0.054 0.071 0.063 3.38 0.078 0.002 0.002 0.002 2. เวยี ดนาม 0.039 0.048 0.158 0.172 0.152 14.46 0.066 3. ฟลิ ิปปินส์ 0 0.002 0 0.002 รวม 0.122 0.128 7.63 0.146 หมายเหตุ * ประมาณการ ทม่ี า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร การตลาด (1) ความต้องการใช้เมลด็ กาแฟ ควำมต้องกำรใช้เมล็ดกำแฟของโลก ในช่วง 5 ปีท่ีผ่ำนมำ เพ่ิมข้ึนจำก 0.453 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.708 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 10.34 ต่อปี เนื่องจำก กำรบรโิ ภคโดยรวมของโลกและเอเชียขยำยตัว ประเทศที่มีควำมต้องกำรใช้เมล็ดกำแฟมำกที่สุดได้แก่ ประเทศฟิลิปปนิ ส์ รองลงมำไดแ้ ก่ อนิ โดนีเซยี และเวียดนำม (ตำรำงท่ี 15)
ตารางที่ 15 ความตอ้ งการใชก้ าแฟของอาเซยี น ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ลา้ นตนั ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพม่ิ 2558/59* (รอ้ ยละ) 0.264 0.218 0.256 1. ฟลิ ปิ ปนิ ส์ 0.170 0.220 0.160 0.167 0.183 8.43 0.276 0.110 0.120 0.133 2. อินโดนีเซยี 0.101 0.143 0.068 0.076 0.102 14.43 0.185 0.038 0.040 0.019 3. เวยี ดนาม 0.080 0.100 0.007 0.007 0.009 12.74 0.156 0.006 0.007 0.006 4. ไทย 0.047 0.064 0.653 0.635 0.708 18.79 0.093 5. มาเลเซยี 0.040 0.038 -13.39 0.045 6. สงิ คโปร์ 0.009 0.009 -2.28 0.009 7. ลาว 0.006 0.006 1.55 0.006 รวม 0.453 0.580 10.34 0.770 หมายเหตุ * ประมาณการ ทม่ี า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร (2) ราคา ในชว่ ง 5 ปีท่ีผ่ำนมำ รำคำเมล็ดกำแฟโรบัสตำตลำดนิวยอร์ก ลดลงจำกกิโลกรัมละ 78.34 บำท ในปี 2554 เหลอื กโิ ลกรัมละ 67.24 บำท ในปี 2558 หรือลดลงร้อยละ 3.03 ต่อปี ส่วนกำแฟโรบัสตำ ตลำดลอนดอน ลดลงจำกกิโลกรมั ละ 65.28 บำท ในปี 2554 เหลือกิโลกรมั ละ 58.96 บำท ในปี 2558 หรือลดลงร้อยละ 1.75 ต่อปี สำหรับรำคำกำแฟอะรำบิกำตลำดนิวยอร์ก ในปี 2554 ลดลงจำกกิโลกรัมละ 184.46 บำท เหลือกโิ ลกรมั ละ 121.52 บำท ในปี 2558 ลดลงรอ้ ยละ 7.02 ต่อปี (ตำรำงท่ี 16) ตารางท่ี 16 ราคาเมลด็ กาแฟดบิ ปี 2553/54 - 2558/59 ปี ราคาทเ่ี กษตรกรขายได้ 1/ ราคากาแฟโรบสั ตา ราคากาแฟโรบสั ตา หนว่ ย : บาท/กก. (นวิ ยอรก์ ) 2/ (ลอนดอน) 2/ 65.28 ราคากาแฟอะราบกิ า 2554 70.94 78.34 63.03 (นวิ ยอรก์ ) 3/ 57.14 184.46 2555 69.09 75.61 64.73 130.43 58.96 96.69 2556 71.16 68.17 145.08 -1.75 121.52 2557 64.94 75.42 53.75 -7.02 2558 68.30 67.24 118 อตั ราเพมิ่ -1.37 -3.03 (รอ้ ยละ) 2559* 65.43 66.00 หมายเหตุ : * ประมาณการ ทม่ี า: 1/, 2/ International Coffee Organization, October 2015 3/ WWW.ERONEXT.COM
(3) การสง่ ออก กำรส่งออก ในชว่ ง 5 ปี ทีผ่ ่ำนมำเพ่ิมขึน้ จำก 1.898 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 1.986 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมขึ้นร้อยละ 2.10 ต่อปี ประเทศผู้ส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เวียดนำม ส่งออก 1.118 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เพ่ิมเป็น 1.324 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.94 ต่อปี อินโดนีเซีย ส่งออก 0.583 ล้ำนตันในปี 2553/54 ลดเหลือ 0.422 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือลดลง ร้อยละ 5.83 ต่อปี และมำเลเซีย ส่งออก 0.101 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เพิ่มขึ้นเป็น 0.167 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มขน้ึ รอ้ ยละ 11.49 (ตำรำงที่ 17) เมล็ดกาแฟ ในช่วง 5 ปีผ่ำนมำ กำรส่งออกเมล็ดกำแฟเพิ่มข้ึนจำก 1.563 ล้ำนตัน ในปี 2553/2554 เป็น 1.551 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.25 ต่อปี โดยประเทศ เวียดนำมส่งออกมำกที่สุด จำก 1.093 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 1.220 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือ เพ่ิมข้ึนร้อยละ 3.56 ต่อปี รองลงมำได้แก่ อินโดนีเซียส่งออก 0.445 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 ลดเหลือ 0.306 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือลดลงร้อยละ 5.41 ต่อปี และลำวส่งออก 0.024 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เหลอื 0.023 ลำ้ นตัน ในปี 2557/58 หรือลดลงร้อยละ 0.39 ต่อปี (ตำรำงท่ี 18) กาแฟสาเร็จรูป ในช่วง 5 ปีผ่ำนมำ กำรส่งออกกำแฟสำเร็จรูปเพ่ิมขึ้นจำก 0.331 ล้ำนตัน ในปี 2553/2554 เป็น 0.406 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมขึ้นร้อยละ 4.05 ต่อปี โดยประเทศ อินโดนเี ซียส่งออกมำกท่ีสุด จำก 0.138 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เหลือ 0.114 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือลดลงร้อยละ 6.86 ต่อปี รองลงมำ ได้แก่ มำเลเซีย ส่งออก 0.101 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.167 ล้ำนตนั ในปี 2557/58 หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 11.49 ต่อปี และเวียดนำม ส่งออก 0.020 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เปน็ 0.077 ลำ้ นตนั ในปี 2557/58 หรือเพิ่มขึน้ ร้อยละ 40.34 ต่อปี (ตำรำงที่ 19) ตารางที่ 17 ปรมิ าณการสง่ ออกเมลด็ กาแฟและกาแฟสาเรจ็ รูปของอาเซยี น ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ล้านตนั ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพมิ่ 2558/59* (รอ้ ยละ) 1. เวยี ดนาม 1.118 1.470 1.479 1.697 1.324 4.94 1.722 2. อินโดนีเซยี 0.583 0.447 0.534 0.468 0.422 -5.83 0.485 3. มาเลเซีย 0.101 0.117 0.129 0.127 0.167 11.49 0.141 4. ไทย 0.072 0.045 0.049 0.047 0.050 -6.63 0.050 5. ลาว 0.024 0.021 0.022 0.022 0.023 -0.39 0.024 รวม 1.898 2.100 2.213 2.361 1.986 2.10 2.422 หมายเหตุ * ประมาณการ ทมี่ า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
ตารางท่ี 18 ปรมิ าณการสง่ ออกเมลด็ กาแฟของอาเซยี น ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ลา้ นตัน ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพม่ิ 2558/59* (รอ้ ยละ) 1. เวียดนาม 1.093 1.437 1.457 1.636 1.220 3.56 1.600 2. อินโดนเี ซยี 0.445 0.297 0.141 0.360 0.306 -5.41 0.330 3. ลาว 0.024 0.021 0.022 0.022 0.023 -0.39 0.024 4. ไทย 0.001 0.001 0.001 0.002 0.002 23.11 0.002 รวม 1.563 1.756 1.621 2.020 1.551 1.25 1.956 หมายเหตุ * ประมาณการ ทมี่ า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร ตารางท่ี 19 ปรมิ าณการสง่ ออกกาแฟสาเรจ็ รปู ของอาเซยี น ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ลา้ นตัน ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพม่ิ 2558/59* (รอ้ ยละ) 1. อินโดนีเซีย 0.138 0.150 0.120 0.108 0.114 -6.86 0.153 2. มาเลเซยี 0.101 0.117 0.129 0.127 0.167 11.49 0.141 3. เวยี ดนาม 0.020 0.027 0.045 0.054 0.077 40.34 0.090 4. ไทย 0.072 0.044 0.048 0.045 0.048 -7.58 0.048 รวม 0.331 0.338 0.342 0.334 0.406 4.05 0.432 หมายเหตุ * ประมาณการ ทมี่ า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร (4) การนาเขา้ กำรนำเข้ำ ในช่วง 5 ปีท่ีผ่ำนมำ เพิ่มขึ้นจำก 0.389 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.528 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมข้ึนร้อยละ 6.18 ต่อปี ประเทศผู้นำเข้ำกำแฟท่ีสำคัญ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ไทย มำเลเซีย และอนิ โดนีเซีย โดยฟลิ ิปปินส์ มกี ำรนำเขำ้ 0.2 ลำ้ นตนั ในปี 2553/54 เพิ่มข้ึนเป็น 0.227 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 2.25 ต่อปี ไทยนำเข้ำ 0.063 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เพิ่มขึ้นเป็น 0.098 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมขึ้นร้อยละ 11.47 ต่อปี และมำเลเซียนำเข้ำ 0.062 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เพิ่มเป็น 0.081 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมข้ึนร้อยละ 6.67 ต่อปี เนื่องจำก ควำมตอ้ งกำรบรโิ ภคของประเทศเหล่ำนนั้ เพมิ่ ขนึ้ (ตำรำงท่ี 20) เมล็ดกาแฟ ในช่วง 5 ปีผ่ำนมำ กำรนำเข้ำเมล็ดกำแฟเพ่ิมข้ึนจำก 0.151 ล้ำนตัน ในปี 2553/2554 เป็น 0.2 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.24 ต่อปี โดยประเทศ มำเลเซยี นำเข้ำมำกทส่ี ดุ จำก 0.062 ลำ้ นตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.081 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.67 ต่อปีรองลงมำได้แก่ ไทยนำเข้ำ 0.037 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.062 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมขึ้นร้อยละ 16.59 ต่อปี และอินโดนีเซียนำเข้ำ 0.011 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.024 ลำ้ นตนั ในปี 2557/58 หรอื เพิ่มขึน้ รอ้ ยละ 18.91 ตอ่ ปี (ตำรำงที่ 21)
กาแฟสาเร็จรูป ในช่วง 5 ปีผ่ำนมำ กำรนำเข้ำกำแฟสำเร็จรูปเพิ่มข้ึนจำก 0.126 ล้ำนตัน ในปี 2553/2554 เป็น 0.307 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมข้ึนร้อยละ 20.12 ต่อปี โดยประเทศ ฟลิ ิปปินส์นำเขำ้ มำกที่สดุ จำก 0.016 ลำ้ นตนั ในปี 2553/54 เป็น 0.221 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือ เพ่ิมข้ึนร้อยละ 70.63 ต่อปี รองลงมำได้แก่ ไทยนำเข้ำ 0.062 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เหลือ 0.035 ล้ำนตัน ในปี 2557/58 หรือลดลงร้อยละ 11.60 ต่อปี และอินโดนีเซียนำเข้ำ 0.037 ล้ำนตัน ในปี 2553/54 เป็น 0.043 ล้ำนตนั ในปี 2557/58 หรือเพิม่ ขน้ึ ร้อยละ 4.76 ตอ่ ปี (ตำรำงท่ี 22) ตารางท่ี 20 ปรมิ าณการนาเขา้ เมลด็ กาแฟและกาแฟสาเรจ็ รปู ของอาเซยี น ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ลา้ นตัน ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพม่ิ 2558/59* (รอ้ ยละ) 1. ฟลิ ิปปินส์ 0.200 0.197 0.233 0.191 0.227 2.25 0.248 2. ไทย 0.063 0.058 0.066 0.071 0.098 11.47 0.089 3. มาเลเซีย 0.062 0.068 0.083 0.076 0.081 6.67 0.078 4. อินโดนเี ซยี 0.034 0.092 0.065 0.062 0.078 13.50 0.035 5. เวียดนาม 0.021 0.027 0.049 0.039 0.035 14.91 0.022 6. สิงคโปร์ 0.009 0.009 0.007 0.007 0.009 -2.48 0.009 รวม 0.389 0.451 0.503 0.446 0.528 6.18 0.481 หมายเหตุ * ประมาณการ ทม่ี า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov, สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร ตารางที่ 21 ปริมาณการนาเขา้ เมลด็ กาแฟของอาเซยี น ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ลา้ นตัน ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพมิ่ 2558/59* (รอ้ ยละ) 1. มาเลเซีย 0.062 0.068 0.073 0.076 0.081 6.67 0.078 2. ไทย 0.037 0.023 0.029 0.038 0.062 16.59 0.054 3. อนิ โดนเี ซยี 0.011 0.016 0.018 0.019 0.024 18.91 0.012 4. เวียดนาม 0.011 0.012 0.029 0.029 0.027 30.71 0.012 5. ฟลิ ิปปินส์ 0.030 0.031 0.029 0.010 0.006 -35.28 0.008 รวม 0.151 0.150 0.178 0.172 0.200 7.24 0.164 หมายเหตุ * ประมาณการ ทมี่ า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov, สานักงานเศรษฐกจิ การเกษตร ตารางท่ี 22 ปรมิ าณการนาเขา้ กาแฟสาเรจ็ รปู ของอาเซยี น ปี 2553/54 - 2558/59 หนว่ ย : ล้านตนั ประเทศ 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 2557/58 อตั ราเพมิ่ 2558/59* (รอ้ ยละ) 1. ฟิลปิ ปินส์ 0.016 0.166 0.204 0.182 0.221 70.63 0.240 2. ไทย 0.062 0.035 0.037 0.032 0.035 -11.60 0.033 3. อินโดนีเซีย 0.037 0.028 0.038 0.033 0.043 4.76 0.023 4. เวียดนาม 0.011 0.015 0.010 0.010 0.008 -9.90 0.010 รวม 0.126 0.244 0.289 0.257 0.307 20.12 0.306 หมายเหตุ * ประมาณการ ทม่ี า: กระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า www.usda.gov, สานักงานเศรษฐกจิ การเกษตร
สถานการณ์ของไทย การผลิต (1) กาแฟพนั ธโ์ุ รบสั ตา ในช่วง 5 ปีที่ผ่ำนมำ เนอ้ื ท่ใี ห้ผล และผลผลิตลดลง โดยเนอ้ื ทใี่ หผ้ ลลดลง จำก 288,716 ไร่ ในปี 2553/54 เหลือ 189,281 ไร่ ในปี 2557/58 หรือลดลงร้อยละ 10.44 ผลผลิต ลดลงจำก 37,055 ตนั ในปี 2553/54 เหลือ 17,160 ตัน ในปี 2557/58 หรือลดลงร้อยละ 15.72 เนื่องจำก ช่วงท่ีผ่ำนมำเกษตรกรต้องกำรเปลี่ยนพื้นท่ีปลูกกำแฟ โดยปลูกแซมในไม้ผล ไม้ยืนต้น เช่น ยำงพำรำ ปำล์มน้ำมัน และทุเรียน ปัจจุบันไม้ผล ไม้ยืนต้น เริ่มให้ผลผลิต เกษตรกรจึงโค่นต้นกำแฟออก สำหรับ ผลผลิตต่อไร่ลดลงจำก 128 กิโลกรัมในปี 2553/54 เหลือ 91 กิโลกรัม ในปี 2557/58 หรือลดลงร้อยละ 5.71 เนื่องจำกไม้ผลท่ีปลูกไวเ้ รม่ิ ให้ผลผลิต เกษตรกรโค่นต้นกำแฟทไี่ มส่ มบรู ณ์ทงิ้ (ตำรำงท่ี 23) สำหรับแหล่งปลูกกำแฟพันธ์ุโรบัสตำท่ีสำคัญของไทยอยู่ในภำคใต้ ได้แก่ จังหวัดชุมพร ระนอง สุรำษฎรธ์ ำนี นครศรีธรรมรำช ซง่ึ ในปี 2558 มีสดั ส่วนร้อยละ 75 เมื่อเทยี บกบั เนอื้ ที่ปลกู ทงั้ หมด (2) กาแฟพนั ธ์ุอะราบกิ า ในช่วง 5 ปที ี่ผ่ำนมำ เน้ือท่ีให้ผล และผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยเนื้อที่ให้ผล เพิ่มจำก 34,180 ไร่ ในปี 2553/54 เปน็ 62,152 ไร่ ในปี 2557/58 หรือเพ่ิมข้ึนร้อยละ 16.53 ผลผลิต เพิ่มจำก 5,339 ตัน ในปี 2553/54 เป็น 8,929 ตัน ในปี 2557/58 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.99 เน่ืองจำกภำครัฐและเอกชน มีโครงกำรส่งเสรมิ ใหป้ ลูกกำแฟเพ่ิมในสวนไม้ผล ไม้ยืนต้น และพื้นท่ีป่ำชุมชน และกำแฟเร่มิ ให้ผลผลิต สว่ นผลผลติ ตอ่ ไรล่ ดลงจำก 156 กโิ ลกรัม ในปี 2553/54 เหลือ 144 กิโลกรัม ในปี 2557/58 หรือลดลงร้อยละ 2.10 เน่ืองจำกสภำพอำกำศแห้งแล้ง ในช่วงท่ีกำแฟกำลังออกดอก ทำให้กำแฟตดิ ผลลดลง (ตำรำงท่ี 23) สำหรับแหล่งปลูกกำแฟพันธุ์อะรำบิกำที่สำคัญอยู่ทำงภำคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงรำย เชยี งใหม่ แมฮ่ อ่ งสอน โดยมีสดั ส่วนรอ้ ยละ 25 เมอ่ื เทียบกับเนือ้ ทีป่ ลกู ท้ังหมด ตารางที่ 23 เนอ้ื ทใ่ี หผ้ ล ผลผลติ และผลผลติ ตอ่ ไร่ กาแฟของไทย ปี 2553/54 – 2557/58 ปี เนอื้ ทใี่ หผ้ ล (ไร)่ ผลผลติ (ตนั ) ผลผลติ ตอ่ ไร่ (กก.) โรบสั ตา อะราบกิ า รวม โรบสั ตา อะราบกิ า รวม โรบสั ตา อะราบกิ า 37,055 5,339 42,394 128 156 2553/54 288,716 34,180 322,896 35,316 6,145 41,461 132 158 29,680 7,795 37,475 120 154 2554/55 267,227 38,885 306,112 29,794 8,136 37,930 145 150 17,160 8,929 26,089 2555/56 246,748 50,277 297,025 91 144 -15.72 13.99 -10.06 2556/57 206,405 54,298 260,703 -5.71 -2.10 2557/58 189,281 62,152 251,433 อตั ราเพม่ิ -10.44 16.53 -6.40 (รอ้ ยละ) ทมี่ า: ศนู ย์สารสนเทศการเกษตร สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
ต้นทุนกำรผลิตกำแฟในช่วง 5 ปีที่ผ่ำนมำ เพ่ิมข้ึนจำก 5,960.04 บำทต่อไร่ ในปี 2554 เป็น 6,310.12 บำทต่อไร่ ในปี 2558 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.18 ต่อปี และต้นทนุ กำรผลิตต่อกโิ ลกรัม เพ่ิมข้ึน จำก 45.50 บำท ในปี 2554 เปน็ 60.67 บำท ในปี 2558 หรือเพ่ิมขึ้นรอ้ ยละ 6.24 ต่อปี เนื่องจำกกำร เพม่ิ ขึน้ ของค่ำแรงงำน คำ่ ปยุ๋ และ ค่ำยำปรำบศัตรูพืช (ตำรำงท่ี 24) ตารางท่ี 24 ตน้ ทนุ การผลติ เมลด็ กาแฟของไทย ปี 2553 - 2558 ปี ตน้ ทนุ ผนั แปร ตน้ ทนุ คงที่ ตน้ ทนุ ทงั้ หมด ตน้ ทนุ ตอ่ หนว่ ย (บาท/ไร)่ (บาท/ไร)่ (บาท/ไร)่ (บาท/กก.) 5,960.04 45.50 2554 4,580.60 1,379.44 6,236.53 46.20 6,398.22 50.78 2555 4,754.51 1,482.02 6,902.26 47.60 6,310.12 60.67 2556 4,832.23 1,565.69 2.18 6.24 2557 5,323.06 1,579.20 2558 5,059.16 1,610.97 อตั ราเพม่ิ 3.17 3.81 (รอ้ ยละ) ทม่ี า: ศนู ย์สารสนเทศการเกษตร สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร สำหรบั ตน้ ทุนกำรผลิตพนั ธุ์โรบัสตำลดลงจำก 6,137.10 บำทต่อไร่ ปี2556 เหลือ 5,913 บำท ต่อไร่ ในปี 2558 หรอื ลดลงรอ้ ยละ 2.18 ต่อปี ต้นทุนต่อกิโลกรมั เพิม่ จำก 51.14 บำท ในปี 2556 เป็น 62.24 บำท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.24 ตอ่ ปี ส่วนพันธุอ์ ะรำบิกำตน้ ทุนกำรผลิต 7,633.37 บำทต่อไร่ ในปี 2556 เป็น 7,791.34 บำทต่อไร่ ในปี 2558 หรอื เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.03 ต่อปี ส่วนต้นทุนต่อกิโลกรัม เพ่ิมขึ้นจำก 49.25 บำทต่อกิโลกรัม ในปี 2556 เปน็ 54.87 บำท ในปี 2558 หรอื เพิม่ ขึน้ รอ้ ยละ 5.55 (ตำรำงที่ 25) ตารางที่ 25 ตน้ ทนุ การผลติ เมลด็ กาแฟของไทยแยกพนั ธุ์ ปี 2556 - 2559 ปี ตน้ ทนุ ผนั แปร ตน้ ทนุ คงที่ ตน้ ทนุ ทง้ั หมด ตน้ ทนุ ตอ่ หนว่ ย (บาท/ไร)่ (บาท/ไร)่ (บาท/ไร)่ (บาท/กก.) พันธโุ์ รบสั ตา 4,657.64 1,479.46 6,137.10 51.14 2556 6,654.95 46.21 5,913.00 62.24 2557 5,198.32 1,456.63 6.24 2.18 52.26 2558 4,444.91 1,468.09 6,271.03 49.25 อตั ราเพมิ่ (รอ้ ยละ) 3.17 3.81 7,633.37 52.17 7,878.21 54.87 2559* 4,816.42 1,454.61 7,791.34 5.55 54.75 พนั ธอุ์ ะราบกิ า 5,766.44 1,866.93 1.03 2556 7,774.21 2557 5,900.29 1,977.92 2558 5,793.76 1,997.58 อตั ราเพม่ิ (รอ้ ยละ) 0.24 3.44 2559* 5,790.94 1,983.27 หมายเหตุ * ประมาณการ โดยสานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร ทม่ี า: ศนู ย์สารสนเทศการเกษตร สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
การตลาด (1) ความตอ้ งการใช้เมลด็ กาแฟของโรงงาน ในช่วง 5 ปีท่ีผ่ำนมำ ควำมต้องกำรใช้เมล็ดกำแฟของโรงงำนแปรรูปเพ่ิมข้ึนจำก 61,480 ตัน ในปี 2554 เปน็ 80,000 ตนั ในปี 2558 หรือเพิม่ ข้นึ ร้อยละ 6.50 ตอ่ ปี ท้ังน้เี นอื่ งจำกกระแสควำมนิยม ด่ืมกำแฟค่ัวบด และกำแฟสำเร็จรูปเพิ่มข้ึน ประกอบกับมีกำรผลิตกำแฟสำเร็จรูปเพ่ือกำรส่งออก เพ่ิมข้ึน (ตำรำงท่ี 26) ตารางท่ี 26 ความตอ้ งการใชเ้ มลด็ กาแฟของโรงงานแปรรปู ในประเทศ ปี 2554-2558 ปี ความต้องการใช้ (ตนั ) 2554 61,480 2555 67,620 2556 70,000 2557 75,000 2558 80,000 อตั ราเพม่ิ (ร้อยละ) 6.50 ทมี่ า: ศนู ยส์ ารสนเทศการเกษตร สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร สำหรับควำมตอ้ งกำรใชเ้ มล็ดกำแฟในประเทศปี 2559 - 2563 มีอัตรำเพ่ิมขึ้นร้อยละ 5.42 ต่อปี โดยกำแฟพันธุ์โรบัสตำมีควำมต้องกำรเพิ่มจำก 77,500 ตันในปี 2559 เป็น 95,500 ตัน ในปี 2563 หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 5.36 ต่อปี ส่วนพันธ์ุอะรำบิกำมีควำมต้องกำรเพ่ิมข้ึนจำก 7,500 ตันในปี 2559 เปน็ 9,500 ตนั ในปี 2563 หรอื เพ่มิ ขึน้ ร้อยละ 6.08 ตอ่ ปี (ตำรำงที่ 27) ตารางท่ี 27 ความตอ้ งการใชเ้ มลด็ กาแฟในประเทศแยกพนั ธุ์ ปี 2559 – 2563 ปี โรบสั ตา ความต้องการใช้ (ตนั ) รวม 77,500 85,000 2559* อะราบกิ า 2560* 82,000 7,500 90,000 2561* 86,500 95,000 2562* 91,000 8,000 100,000 2563* 95,500 8,500 105,000 อตั ราเพมิ่ (รอ้ ยละ) 5.36 9,000 5.42 9,500 หมายเหตุ: * ประมาณการโดยผปู้ ระกอบการ 6.08
(2) ราคา รำคำเมล็ดกำแฟดิบโรบัสตำที่เกษตรกรขำยได้ ในช่วง 5 ปีที่ผ่ำนมำลดลงจำกกิโลกรัมละ 70.94 บำท ในปี 2554 เหลือกิโลกรัมละ 68.30 บำท ในปี 2558 หรือลดลงร้อยละ 1.37 ต่อปี เน่ืองจำกผลผลติ โลกทีเ่ พ่ิมสงู ขึ้น และเศรษฐกิจโลกท่ซี บเซำ สำหรับรำคำเมลด็ กำแฟอะรำบกิ ำเกษตรกรขำยเป็นผลสดในพ้ืนทรี่ ำคำกโิ ลกรมั ละ 15 - 20 บำท ตารางท่ี 28 ราคาเมลด็ กาแฟดบิ โรบสั ตา ปี 2554 - 2559 หนว่ ย : บาท/กก. ปี ราคาทเ่ี กษตรกรขายได้ 2554 70.94 69.09 2555 71.16 2556 64.94 2557 68.30 2558 -1.37 อตั ราเพม่ิ (รอ้ ยละ) 65.43 2559* หมายเหตุ : * ประมาณการ ทมี่ า : ศูนยส์ ารสนเทศการเกษตร สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร, (3) การสง่ ออก ในช่วง 5 ปีที่ผ่ำนมำ กำรส่งออกเมล็ดกำแฟดิบของไทยลดลง จำก 720 ตัน ในปี 2554 เหลือ 450 ตัน ในปี 2558 หรือลดลงร้อยละ 22.40 เน่ืองจำกควำมต้องกำรบริโภคภำยในประเทศ เพิ่มมำกขึ้น ส่งผลให้กำรส่งออกลดลง สำหรับเมล็ดกำแฟคั่วเพิ่มขึ้นจำก 137 ตัน ในปี 2554 เป็น 177 ตัน ในปี 2558 หรือเพ่ิมขึ้นร้อยละ 9.23 และกำแฟสำเร็จรูป เพิ่มขึ้นจำก 5,263 ตัน ในปี 2554 เป็น 7,595 ตนั ในปี 2558 หรอื เพิ่มขึ้นรอ้ ยละ 6.12 เนื่องจำกควำมต้องกำรบริโภคเพิม่ ขนึ้ (ตำรำงท่ี 29) ตารางท่ี 29 ปริมาณและมลู คา่ การสง่ ออกเมลด็ กาแฟดบิ เมลด็ กาแฟคว่ั และกาแฟสาเรจ็ รปู ปี 2554-2558 ปรมิ าณ : ตนั มูลคา่ : ลา้ นบาท ปี เมลด็ กาแฟดบิ เมลด็ กาแฟคว่ั กาแฟสาเรจ็ รปู กาแฟสาเรจ็ รปู อน่ื ๆ ปรมิ าณ มลู คา่ ปรมิ าณ มลู คา่ ปรมิ าณ มลู คา่ ปรมิ าณ มลู คา่ 2554 720 102 137 30 5,263 906 36,719 3,806 2555 1,969 161 116 33 7,260 1,130 40,142 4,468 2556 270 45 98 31 1,621 303 51,548 5,389 2557 399 63 168 47 6,316 860 57,624 5,933 2558 450 79 177 46 7,595 1,007 46,823 4,874 อตั ราเพมิ่ -22.40 -13.49 9.23 12.85 6.12 -0.61 8.85 8.09 (รอ้ ยละ) ทมี่ า : กรมศุลกากร
(4) การนาเขา้ ในช่วง 5 ปีท่ีผ่ำนมำ กำรนำเข้ำเมล็ดกำแฟดิบเพิ่มข้ึนจำก 34,374 ตัน ในปี 2554 เป็น 57,115 ตัน ในปี 2558 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.15 ต่อปี และเมล็ดกำแฟคั่วเพ่ิมข้ึนเช่นเดียวกันโดย เพ่มิ ขน้ึ ร้อยละ 32.67 ต่อปี เนอื่ งจำกผลผลติ ในประเทศไม่เพียงพอตอ่ ควำมต้องกำรของโรงงำนแปรรูป สำหรบั กำแฟสำเรจ็ รปู มีกำรนำเข้ำเพิ่มขึ้นจำก 4,446 ตัน ในปี 2554 เป็น 6,972 ตัน ในปี 2558 หรือ เพ่มิ ขน้ึ ร้อยละ 10.20 ตอ่ ปี (ตำรำงท่ี 30) ตารางท่ี 30 ปรมิ าณและมลู คา่ การนาเขา้ เมลด็ กาแฟดบิ เมลด็ กาแฟคว่ั และกาแฟสาเรจ็ รปู ปี 2554-2558 ปรมิ าณ : ตนั มูลคา่ : ลา้ นบาท ปี เมลด็ กาแฟดบิ เมลด็ กาแฟคว่ั กาแฟสาเรจ็ รปู กาแฟสาเรจ็ รปู อน่ื ๆ ปรมิ าณ มลู คา่ ปรมิ าณ มลู คา่ ปรมิ าณ มลู คา่ ปรมิ าณ มลู คา่ 2554 34,374 2,528 447 206 4,446 1,314 6,261 879 2555 28,612 1,995 380 171 6,531 1,972 7,650 1,115 2556 34,356 2,201 551 216 6,427 2,041 6,706 984 2557 46,305 3,095 1,108 316 7,015 2,124 5,761 885 2558 57,115 3,679 1,076 362 6,972 2,116 7,003 1,041 อตั ราเพม่ิ 16.15 12.63 32.67 19.02 10.20 10.82 -0.59 1.08 (รอ้ ยละ) หมายเหตุ : กรมศลุ กากร
ประเดน็ ปัญหา ด้านการผลติ กาแฟโรบสั ตา (1) พนั ธ์ุกำแฟโรบัสตำทเี่ กษตรกรใชไ้ มไ่ ด้ผ่ำนกำรคัดเลอื กพันธ์ุ ทำให้มีผลผลิตมีควำมแปรปรวน ปริมำณ ผลผลิตไมส่ มำ่ เสมอ ศักยภำพด้ำนกำรให้ผลผลติ ตำ่ (2) พ้ืนที่ปลูกกำแฟโรบัสตำลดลงทุกปี ทำให้ผลผลิตกำแฟมีไม่เพียงพอต่อควำมต้องกำร ของอตุ สำหกรรมกำรผลิตในประเทศ ตลอดจนพ้ืนท่ปี ลูกส่วนใหญอ่ ยูใ่ นพ้นื ทที่ ีไ่ มม่ เี อกสำรสิทธ์ิ (3) ต้นกำแฟโรบัสตำที่เกษตรกรปลูกส่วนใหญ่มีอำยุมำกกว่ำ 25 ปี ให้ผลผลิตต่ำ เกษตรกรไม่ให้ ควำมสำคญั ในกำรตดั แต่งก่งิ และกำรตัดฟน้ื ตน้ กำแฟเสื่อมโทรม (4) ปัญหำด้ำนกำรเปลยี่ นแปลงสภำพภูมิอำกำศ ทำใหผ้ ลกำแฟสุกหลำยรุ่น ทำใหเ้ กิดปัญหำดำ้ นกำร จัดกำรแรงงำนเกบ็ เก่ียว และมีตน้ ทุนกำรผลติ สูงข้นึ และยังสง่ ผลใหเ้ กดิ ปัญหำดำ้ นกำรจัดกำรหลัง กำรเกบ็ เก่ยี วซง่ึ สง่ ผลกระทบโดยตรงต่อคุณภำพเมล็ดกำแฟ และขำดแคลนแรงงำนในกำรผลติ (5) ปริมำณกำรผลิตมคี วำมผนั ผวนตำมสภำพภมู อิ ำกำศ (6) เกษตรกรขำดเทคโนโลยีกำรผลิตกำแฟที่เหมำะสม (กำรจัดกำรดิน กำรเขตกรรม เครื่องมือ เครื่องจักรกล ฯลฯ) ทำให้ตน้ ทุนกำรผลติ สงู ผลผลติ ต่อไร่ตำ่ เม่ือเปรยี บเทยี บกบั ประเทศคูแ่ ข่ง เปรยี บเทยี บตน้ ทนุ การผลติ กาแฟ 1 กโิ ลกรมั ระหว่างประเทศไทยและประเทศเวยี ดนาม ในปี 2557
กาแฟอะราบิกา (1) ขำดกำรประชำสัมพันธ์ข้อมูลของพันธุ์ที่ชัดเจน ท้ังพื้นที่ที่เหมำะสมของแต่ละพันธุ์ จุดเด่นของพันธ์ุ และปริมำณผลผลิต (2) พ้ืนที่ปลูกส่วนใหญ่อยู่ในพื้นท่ีที่ไม่มีเอกสำรสิทธ์ิ ทำให้ไม่ได้รับกำรส่งเสริมสนับสนุนจำกภำครัฐ สภำพภูมิอำกำศเปลี่ยนแปลง มีผลทำให้กำรระบำดของโรคและแมลงมีควำมหลำกหลำยและ รุนแรงมำกขึ้นทุกปี ได้แก่ โรครำสนมิ มผี ลทำใหพ้ ันธุ์กำแฟอะรำบิกำท่ตี ำ้ นทำนต่อโรครำสนิมเริ่มไม่ ตำ้ นทำน โรคแอนแทรกโนส โรคใบรู และกำรระบำดของมอดเจำะผลกำแฟ เปน็ ตน้ (3) ขำดกำรจดั กำรเทคโนโลยีกำรผลติ ท่ีดีและเหมำะสม (4) เกษตรกรไม่มีกำรนำเทคโนโลยีกำรตดั ฟ้นื ตน้ กำรเขตกรรม กำรจัดกำรโรคและแมลงไปใช้ (5) คุณภำพผลผลิตบำงส่วนไมไ่ ด้มำตรฐำน เน่ืองจำกกระบวนกำรปฏิบัติก่อนและหลังกำรเก็บเก่ียว ไมถ่ ูกต้อง ส่งผลใหผ้ ลผลติ เมล็ดกำแฟไม่ไดม้ ำตรฐำนและคุณภำพ ได้แก่ กำรเข้ำทำลำยของมอด เจำะผลกำแฟ เมล็ดมีควำมช้ืนสูง เกิดเช้ือรำได้ง่ำย ผลผลิตเมล็ดกำแฟบำงส่วนมีคุณภำพต่ำ เน่ืองจำกเก็บเมล็ดสุกและไม่สุกปะปนกัน เก็บในกระสอบปุ๋ย เก็บรักษำภำยในโรงเก็บไม่ถูกวิธี และขำดแคลนแรงงำนในกำรผลติ และเก็บเก่ียว (6) เมล็ดกำแฟอะรำบิกำของไทยขำดอัตลักษณ์ในแต่ละท้องถ่ิน มีกำรปลอมปนเมล็ดกำแฟจำกถ่ินอ่ืน ทำใหไ้ มส่ ำมำรถรักษำมำตรฐำน คณุ ภำพและรำคำได้สูงเทำ่ ทีค่ วร (7) มกี ำรลักลอบนำเขำ้ เมลด็ กำแฟอะรำบิกำจำกประเทศเพ่ือนบำ้ นเข้ำมำขำยทำกำไรในประเทศไทย โดยไม่ผ่ำนข้ันตอนกำรนำเข้ำตำมกฎหมำย ดา้ นการตลาด (1) เกษตรกรมกี ำรเข้ำถึงข้อมูลด้ำนภำวะกำรตลำดของตลำดโลกน้อย ทำให้ไม่พร้อมในกำรปรับตัว เพื่อสร้ำงขีดควำมสำมำรถด้ำนกำรแข่งขันด้ำนกำรผลติ และคุณภำพ (2) หำกกำแฟมกี ำรเปิดเสรีกำรคำ้ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งกับประเทศในกลุ่มอำเซียน จะทำให้เกษตรกร ได้รับผลกระทบ เนือ่ งจำกประเทศเหลำ่ น้ีมตี ้นทนุ กำรผลิตต่ำกวำ่ (3) ผลิตภัณฑ์กำแฟ ขำดอตั ลกั ษณ์ที่จะชว่ ยส่งเสริมกำรขำย กำรตลำด กำรยกระดับคุณภำพกำแฟ ทอ้ งถิน่ ที่จะสำมำรถเพิ่มคุณคำ่ ในตวั สินค้ำ เช่น เป็นสนิ คำ้ ทร่ี ะลึกในพน้ื ที่น้นั ๆ (4) ขำดกำรวจิ ัยและพฒั นำนวตั กรรม เพ่ือใหเ้ กิดผลิตภณั ฑ์ใหม่ๆ ด้านการแปรรปู (1) กำรรวมกล่มุ แปรรปู ผลิตภณั ฑ์ ยังขำดกำรพัฒนำให้ไดม้ ำตรฐำนและหลำกหลำย (2) กลุม่ เกษตรกรขำดเครอื่ งจักรกลในกำรแปรรปู ที่มคี ณุ ภำพดี รำคำถูก
การวิเคราะหส์ ถานการณ์กาแฟ ภายใตเ้ งอ่ื นไขการคา้ เสรี ใช้แนวทำงวเิ ครำะห์แบบ SWOT คอื วิธวี เิ ครำะห์สภำพแวดลอ้ มทงั้ ภำยในและภำยนอก เพ่ือให้ เข้ำใจ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกำส และอุปสรรค เพื่อให้สำมำรถกำหนดกลยุทธ์สำหรับสินค้ำกำแฟของ ประเทศไทยได้ ดังน้ี จดุ แขง็ (Strength-S) (1) พ้ืนท่ีภำคใต้ของไทยมีควำมเหมำะสมต่อกำรเจริญเติบโตของกำแฟโรบัสตำเพรำะมีฝนตกชุก ทำให้ สภำพอำกำศชุ่มช้ืน ส่วนพื้นท่ีภำคเหนือของไทยมีควำมเหมำะสมต่อกำรเจริญเติบโตของกำแฟ อะรำบกิ ำ เพรำะมีสภำพอำกำศเยน็ (2) กำแฟไทยได้รับกำรยอมรับว่ำคุณภำพดีท้ังพันธ์ุโรบัสตำและอะรำบิกำ และมีรสชำติดี ได้รับ กำรยอมรับทง้ั ในประเทศและต่ำงประเทศ (3) มีหนว่ ยงำนภำครฐั และเอกชนให้ควำมช่วยเหลือด้ำนกำรพัฒนำให้แก่ชำวสวนกำแฟไทย (4) ประเทศไทยได้เปรียบทำงภูมิศำสตร์ เนื่องจำกตั้งอยู่จุดกึ่งกลำงภูมิภำคอำเซียน และยังมีระบบ โลจิสตกิ ส์ที่ดเี ม่อื เปรียบเทยี บกบั ประเทศเพอื่ นบำ้ น จดุ อ่อน (Weakness-w) (1) พื้นท่ีปลูกกำแฟส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่ำ ภำครัฐไม่สำมำรถส่งเสริมได้เต็มที่ โดยมำกกว่ำร้อยละ 50 เป็น เขตป่ำสงวน ซึ่งเกษตรกรได้ทำกินกันมำนำนโดยไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ทำให้ยำกต่อกำรให้ กำรสง่ เสริมของภำครฐั (2) ต้นทนุ กำรผลติ ของไทยอย่ใู นระดับสงู เมื่อเปรยี บเทยี บกับคแู่ ข่งด้วยกัน ทำให้แข่งขันกับประเทศ ค่แู ข่งไมไ่ ด้ในเรอ่ื งรำคำเมลด็ กำแฟ โดยรำคำกำแฟของคู่แข่งต่ำกว่ำของไทย สำเหตุที่ต้นทุนของ ไทยสูงกว่ำ เน่ืองจำกไทยมีผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่ำ ประกอบกับค่ำแรงงำนของไทยสูงกว่ำของ เวียดนำมและประเทศเพอ่ื นบำ้ น เป็นต้น (3) ผลผลิตลดลง ไม่เพียงพอกับควำมต้องกำรใช้ของโรงงำนแปรรูป เน่ืองจำกชำวสวนกำแฟไทยหันไป ปลกู พืชอนื่ ทใี่ หผ้ ลตอบแทนสงู กว่ำ เช่น ยำงพำรำ ปำลม์ นำ้ มันสง่ ผลเนอ้ื ท่ีปลูกลดลง (4) ผลผลิตต่อไร่ต่ำ เน่ืองจำกดินมีสภำพเส่ือมโทรม ประกอบกับขำดกำรตัดแต่งกิ่งและทำสำว ตน้ กำแฟ เนอื่ งจำกกำรขำดแคลนแรงงำน และรำคำพืชค่แู ขง่ ใหผ้ ลตอบแทนสงู กว่ำ
โอกาส (Opportunity-O) (1) ควำมตอ้ งกำรใชเ้ มลด็ กำแฟในประเทศมีแนวโนม้ เพ่มิ มำกขนึ้ ประมำณรอ้ ยละ 7-10 ตอ่ ปี (2) มแี หลง่ รับซ้ือผลผลติ กระจำยอยู่ทัว่ ไปบรเิ วณพน้ื ทีท่ ี่มกี ำรปลกู กำแฟ (3) กำแฟไทยไดร้ ับกำรยอมรบั ในด้ำนคณุ ภำพ เปน็ ท่ตี ้องกำรของตลำดท้ังภำยในและต่ำงประเทศ (4) รฐั บำลมนี โยบำยสนับสนนุ และมกี ำรจดั ทำยุทธศำสตร์กำแฟ ในลกั ษณะบูรณำกำร (5) มีหน่วยงำนของทำงรำชกำร และภำคเอกชนส่งเสริมและสนับสนุนพันธุ์กำแฟคุณภำพดี และ ใหผ้ ลผลิตตอ่ ไร่สงู (6) เกษตรกรสำมำรถจำหน่ำยผลผลิตกำแฟได้สูงกว่ำรำคำตน้ ทนุ (7) มกี ระแสควำมนยิ มดื่มกำแฟภำยในประเทศเพิม่ มำกขึน้ ทุกปี (8) ไทยสำมำรถส่งออกเมล็ดกำแฟดิบและผลิตภัณฑ์กำแฟไปประเทศต่ำงๆ มำกกว่ำ 50 ประเทศ โดยมมี ูลค่ำกำรส่งออกมำกกวำ่ 5,000 ล้ำนบำท (9) พฤตกิ รรมกำรบรโิ ภคกำแฟในอำเซยี นใช้กำแฟโรบัสตำเป็นหลัก ในขณะที่พื้นที่ปลูกกำแฟโรบัสตำ ในอำเซียนลดลง แต่ควำมต้องกำรใช้กำแฟโรบัสตำทั้งในประเทศและต่ำงประเทศมีแนวโน้มเพิ่ม มำกข้ึน จะเปน็ ชอ่ งทำงให้ประเทศไทยสำมำรถครองตลำดกำแฟโรบัสตำได้มำกข้นึ (10) รัฐบำลมนี โยบำยสง่ เสรมิ กจิ กำร SME สร้ำงสภำพคล่องให้ผปู้ ระกอบกจิ กำรมำกข้ึน อุปสรรค/ข้อจากัด (Threat-T) (1) กำรเปิดเสรีกำรค้ำ (AFTA) ภำษีลดลง ส่งผลให้เมล็ดกำแฟภำษีเหลือร้อยละ 5 กำแฟสำเร็จรูป ภำษีเหลือร้อยละ 0 กำรนำเข้ำจำกประเทศอำเซียนมีผลให้รำคำกำแฟถูกลง ซ่ึงอำจกระทบกับ ผลผลติ ในประเทศ (2) ประเทศเวยี ดนำมซ่ึงปลูกกำแฟโรบัสตำเชน่ เดยี วกบั ไทยมีปริมำณกำรผลิตมำกเป็นที่สองของโลก มีค่ำแรงงำนและต้นทุนกำรผลิตต่ำกว่ำไทย และสำมำรถระบำยกำแฟภำยในประเทศโดยขำย รำคำตำ่ กวำ่ (3) ประเทศเพื่อนบ้ำนของไทย เช่น พม่ำ ลำว มีนโยบำยส่งเสริมกำรปลูกกำแฟส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ อะรำบิกำ และมตี น้ ทุนกำรผลิตตำ่ กวำ่ (4) ปริมำณและคุณภำพผลผลติ แปรผันตำมสภำพแวดลอ้ ม
วิสยั ทศั น์ เปน็ ผนู้ า การผลิตและการค้า กาแฟคณุ ภาพ ในภูมภิ าคอาเซยี น ก้าวไกลสู่ตลาดโลก ภายใต้ภาพลกั ษณก์ าแฟไทย
พนั ธกจิ 01 เพ่มิ ปริมาณผลผลติ กาแฟในประเทศ 02 เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพเพื่อลดตน้ ทุนการผลติ โดยไม่ทาลายสิง่ แวดลอ้ ม 03 สรา้ ง/พัฒนาเครอื ข่ายระหวา่ งกล่มุ เกษตรกรและผปู้ ระกอบการ 04 ยกระดบั คณุ ภาพมาตรฐานสสู่ ากลและภาพลักษณก์ าแฟไทย 05 สร้างให้ไทยเป็นศูนยก์ ลางการคา้ กาแฟในอาเซยี น
ยุทธศาสตรก์ าแฟโรบสั ตา เป้าหมาย (1) รักษำผลผลติ กำแฟภำยใตก้ ำรผลติ เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมไมน่ อ้ ยกวำ่ 30,000 ตนั /ปี (2) เพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มำกกว่ำ 250 กก./ไร่ ในสวนเด่ียว และ มำกกว่ำ 150 กก./ไร่ ในสวนผสมผสำน (สวนเด่ยี ว 170 ต้น/ไร่ และสวนผสมท่ีมตี น้ กำแฟประมำณ 100 ต้น/ไร)่ (3) ลดตน้ ทุนกำรผลติ ของเกษตรกรอย่ำงน้อย 10% (4) เพม่ิ มลู ค่ำกำรค้ำกำแฟอย่ำงน้อย 10% กลยทุ ธ์ กลยทุ ธท์ ่ี 1 เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนการผลติ โดยไม่ทาลายสิง่ แวดลอ้ ม แนวทางดาเนนิ การ หนว่ ยงาน 1. จดั ทำเขตกำรผลิตกำแฟโรบสั ตำ ท่เี หมำะสม มีศักยภำพด้ำนกำรผลิต พด. สปก. ทส. สศก. ในพ้ืนทีท่ ีม่ ศี ักยภำพใหม่ โดยคำนึงถึงสภำพดิน ภูมิอำกำศ ระบบ กสก. สศก. ชลประทำน พด. (1) บริหำรจดั กำรพน้ื ทแ่ี ละควบคุมพนื้ ทผี่ ลิตใหม้ ปี รมิ ำณที่เหมำะสม กสก. กวก. พด. เพ่อื ป้องกันปญั หำด้ำนปริมำณสนิ ค้ำทอ่ี อกสตู่ ลำดในอนำคต ภาคเอกชน 2. ขนึ้ ทะเบยี น และจัดทำฐำนข้อมูลเกษตรกรผู้ปลกู กำแฟโรบสั ตำ กวก. กสก. สปก. 3. พฒั นำและสง่ เสรมิ กำรใช้ทรพั ยำกรดนิ อย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ ภาคเอกชน พด. 4. ถ่ำยทอดเทคโนโลยีกำรเพ่ิมประสิทธิภำพกำรผลิตกำแฟโรบัสตำ กวก. กสก. เช่น กำรตัดฟ้ืนต้น กำรปลูก/เปล่ียนพันธุ์ดีทดแทน กำรปรับปรุง บำรุงดิน กำรป้องกันกำจัดโรคแมลง กำรทำปุ๋ยหมักจำกแกลบ กำแฟ 5. ปรับเปล่ียนสวนเก่ำโดยใช้กำแฟโรบัสตำสำยพันธุ์ดี โดยผลิตกำแฟ สำยพันธ์ุดีที่ให้ผลผลิต คุณภำพสูง และจัดทำแปลงทดสอบ และ แปลงสำธิตกำแฟสำยพันธุ์ดีในพ้ืนที่เดิม และพ้ืนที่ใหม่ท่ีมี ศักยภำพ 6. พัฒนำกำรผลิตกำแฟโรบสั ตำของเกษตรกรใหไ้ ด้มำตรฐำน GAP
กลยทุ ธ์ที่ 2 พัฒนาการแปรรปู และสรา้ งมูลค่าเพ่ิม หนว่ ยงาน กสส. วท. แนวทางดาเนนิ การ สถาบันการศึกษา 1. ส่งเสรมิ กำรแปรรูปกำแฟโรบสั ตำเพือ่ เพิ่มมูลค่ำสนิ ค้ำผลิตภัณฑ์กำแฟ อก. อย. วท. สถาบันการศึกษา กำรผลิตกำแฟเฉพำะถ่ิน สร้ำงเอกลักษณ์กำแฟไทย ในสถำบัน อก. อย. เกษตรกรและผูป้ ระกอบกำร 2. ส่งเสริมกำรแปรรูปกำแฟโรบัสตำและคุณภำพของวัตถุดิบที่ใช้เป็น วท. กวก. สว่ นผสมในกำรผลิตผลติ ภัณฑ์กำแฟใหไ้ ด้มำตรฐำน GMP/HACCP สถาบนั การศกึ ษา 3. ส่งเสริมกำรสรำ้ งนวตั กรรมผลิตภณั ฑก์ ำแฟโรบัสตำ อก. พณ. ภาคเอกชน 4. สง่ เสรมิ กำรสร้ำงแบรนดส์ ินค้ำ และเป็นมติ รต่อสิ่งแวดล้อม กลยุทธ์ที่ 3 พัฒนาด้านการตลาด หนว่ ยงาน แนวทางดาเนนิ การ มกอช. 1. ส่งเสรมิ กำรซอ้ื ขำยเมล็ดกำแฟและผลติ ภณั ฑก์ ำแฟตำมช้นั คุณภำพ อก. (1) จดั ทำมำตรฐำนเมลด็ กำแฟโรบสั ตำเพ่อื ยกระดบั คุณภำพ มกอช. กวก. (2) ทบทวนมำตรฐำนผลิตภณั ฑ์กำแฟโรบสั ตำเพอื่ ยกระดับคณุ ภำพ มกอช. พณ. อตก. และส่งเสรมิ กำรใช้ (3) พฒั นำกำรรบั รองตำมมำตรฐำนกำแฟโรบัสตำของประเทศและ พณ. พณ. อำเซียน พณ. (4) กำรประชำสัมพันธ์และสง่ เสรมิ ซื้อขำยกำแฟโรบสั ตำ และ ผลติ ภณั ฑ์กำแฟตำมชน้ั คุณภำพ 2. บรหิ ำรตลำดภำยในและตลำดตำ่ งประเทศ (1) ประชำสมั พันธเ์ ผยแพร่ขอ้ มลู กำรเคลอ่ื นไหวรำคำสนิ ค้ำกำแฟโรบัสตำ (2) ประชำสมั พันธก์ ำแฟโรบสั ตำไทยทั้งในประเทศและตำ่ งประเทศ 3. แนวทำง กลไก และมำตรกำรดำ้ นกำรตลำดหลังส่งเสรมิ กำรผลติ
กลยทุ ธ์ท่ี 4 ด้านการวจิ ยั และพัฒนา หนว่ ยงาน กวก. วท. แนวทางดาเนนิ การ ภาคเอกชน 1. วิจัยพันธ์ุกำแฟโรบัสตำท่ีให้ผลผลิตสูง ต้ำนทำนโรค ทนแล้งและ กวก. วท. มีมำตรฐำนคุณภำพตรงตำมควำมต้องกำรของผู้ผลิตและได้รับกำร ภาคเอกชน ยอมรับจำกเกษตรกร กรมชลประทาน 2. วิจัยเทคโนโลยีกำรผลิตกำแฟโรบัสตำในกำรเพ่ิมผลผลิต คุณภำพ กรมอตุ นุ ยิ มวิทยา และลดต้นทุนกำรผลิต (กำรตัดแต่ง อัตรำปุ๋ยที่เหมำะสม ระบบน้ำ สภำพอำกำศที่เปล่ี ยนแปลง กำรป้องกันโรค และแมล ง กวก. กรมชลประทาน เครื่องจักรกลกำรเกษตร และเทคโนโลยีหลังกำรเก็บเก่ียว) พร้อม กรมอตุ ุนยิ มวิทยา วท. กับพัฒนำเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ (precision farming) เพื่อลด กำรใชท้ รัพยำกร วท. อก. กวก. พณ. 3. วิจยั และพัฒนำเทคโนโลยีดำ้ นกำรติดตำม กำรคำดกำรณร์ ะบบเตือนภัย สถาบันการศึกษา สศก. ท่ีเป็นระดับ microclimate และระบบพยำกรณ์ผลผลิต เพ่ือกำหนด แ น ว ท ำ ง แ ก้ ไ ข ปั ญ ห ำ ใ น ก ร ณี ท่ี เ กิ ด ค ว ำ ม เ สี ย ห ำ ย ต่ อ ก ำ แ ฟ สศก. กวก. อนั เนอื่ งมำจำกภัยพบิ ัติในรูปแบบต่ำงๆ 4. วิจัยและพัฒนำนวัฒกรรมเพ่ือเพิ่มมูลค่ำผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือ กวก. กสก. กสส. พณ. แปรรูปกำแฟโรบัสตำ 5. วิจัยและพัฒนำกำรตลำดเดิมและตลำดใหม่เพ่ือเพ่ิมขีดควำมสำมำรถ ในกำรแข่งขัน 6. วิจัยและพัฒนำควำมรว่ มมอื กับต่ำงประเทศ
กลยุทธ์ที่ 5 ด้านการบรหิ ารจัดการ แนวทางดาเนนิ การ หนว่ ยงาน 1. บริหำรสำนกั งำนเลขำนกุ ำรในกำรขบั เคลือ่ นยุทธศำสตร์ คณะอนกุ รรมการพืชสวน (1) ติดตำม ประสำน และเช่ือมโยงผลงำนวิจัยต่ำงๆ ไปประยุกต์ใช้ คณะทางานพืชกาแฟ ประโยชน์ในกำรขับเคลื่อนกลยทุ ธอ์ ื่นๆ กวก. 2. สรำ้ งเครือขำ่ ยขอ้ มลู กำแฟโรบสั ตำภำยในประเทศและตำ่ งประเทศ กษ. กวก. พณ. สศก. สมาคม 3. ส่งเสริมควำมเข้มแข็งกลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์ และพัฒนำเครือข่ำย กสก. กสส. ผผู้ ลติ กำแฟโรบัสตำ สถาบันเกษตรกร 4. พฒั นำเครอื ข่ำยกลุ่มรบั ซ้อื และจดั กำรผลผลิตกำแฟโรบัสตำ กสก. กสส. สมาคม ภาคเอกชน 5. ทบทวนมำตรกำรด้ำนกำรค้ำและภำษีกำรนำเข้ำและส่งออก เพ่ือเพ่ิม พณ. กวก. ภาคเอกชน ขีดควำมสำมำรถด้ำนกำรบริหำรวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ให้แก่ อุตสำหกรรมในประเทศ 6. จัดทำโครงกำรควำมร่วมมือระหว่ำงผู้ปลูกและภำคเอกชนเพ่ือกำรผลิต กษ. ภาคเกษตรกร กำแฟอย่ำงยัง่ ยนื ภาคเอกชน 7. ประชำสัมพันธ์ให้เกษตรกรใช้พื้นท่ีสำหรับกำรเพำะปลูกกำแฟในที่ดิน ทส. กษ. ทีเ่ ปน็ ไปตำมขอ้ กำหนดของกฎหมำยที่เก่ียวข้องเพื่อป้องกันกำรบุกรุก พ้นื ท่ปี ่ำเพ่อื ทำกำรเกษตรต่อไป
ยุทธศาสตรก์ าแฟอะราบกิ า เปา้ หมาย (1) พฒั นำคุณภำพกำแฟอะรำบิกำ ใหไ้ ดม้ ำตรฐำนเพมิ่ ข้นึ 20% (2) เพ่ิมมูลค่ำกำรคำ้ กำแฟอะรำบิกำอย่ำงน้อย 10% กลยุทธ์ กลยุทธท์ ่ี 1 เพม่ิ ประสทิ ธิภาพการผลติ และพฒั นาคณุ ภาพผลผลติ โดยไมท่ าลายสง่ิ แวดลอ้ ม แนวทางดาเนนิ การ หนว่ ยงาน 1. จัดทำเขตกำรผลิตกำแฟอะรำบิกำที่เหมำะสม มีศักยภำพด้ำนกำรผลิต ทส. พด. สปก. สศก. ในพื้นท่ีปลูกเดิม และพื้นที่ท่ีมีศักยภำพใหม่ โดยคำนึงถึงสภำพดิน กสก. สศก. ภูมอิ ำกำศ ระบบชลประทำน พด. (1) บริหำรจัดกำรพ้ืนที่และควบคุมพื้นท่ีผลิตให้มีปริมำณที่เหมำะสม กสก. กวก. วท. เพ่ือป้องกันปญั หำด้ำนปรมิ ำณสินค้ำที่ออกสตู่ ลำดในอนำคต มลู นธิ ิโครงการหลวง 2. ขน้ึ ทะเบียนและจดั ทำฐำนขอ้ มูลเกษตรกรผู้ปลูกกำแฟอะรำบกิ ำ สวพส. ภาคเอกชน 3. พัฒนำและส่งเสริมกำรใช้ทรัพยำกรดินในกำรผลิตกำแฟอะรำบิกำ กสก. กวก. วท. อย่ำงมีประสิทธิภำพ มลู นธิ ิโครงการหลวง 4. ถ่ำยทอดเทคโนโลยีกำรเพ่ิมประสิทธิภำพกำรผลิตกำแฟอะรำบิกำ สวพส. เชน่ กำรตัดฟน้ื ต้น กำรปลูก กำรเปล่ียนพันธ์ุดีทดแทน กำรปรับปรุง ภาคเอกชน บำรุงดนิ กำรป้องกันกำจัดโรคแมลง กำรทำปุ๋ยหมักจำกแกลบกำแฟ ฯลฯ 5. พัฒนำกำรผลิตกำแฟอะรำบิกำของเกษตรกรให้ได้มำตรฐำน GAP และมำตรฐำนอินทรีย์
กลยุทธ์ที่ 2 พฒั นาการแปรรปู และสรา้ งมลู คา่ เพ่มิ แนวทางดาเนนิ การ หนว่ ยงาน 1. ส่งเสริมกำรแปรรูปกำแฟชนิดพิเศษ เพ่ือเพ่ิมมูลค่ำสินค้ำผลิตภัณฑ์ กสส. อก. วท. อย. สถาบนั การศกึ ษา กำแฟอะรำบิกำ กำรผลิตกำแฟเฉพำะถ่ิน สร้ำงเอกลักษณ์กำแฟไทย ในสถำบันเกษตรกรและผู้ประกอบกำร วท. สถาบันการศกึ ษา 2. ส่งเสริมกำรแปรรูปและคุณภำพของวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสม อก. อย. ในกำรผลิตผลติ ภณั ฑ์กำแฟ ใหไ้ ดม้ ำตรฐำน GMP/HACCP วท. อก. 3. ส่งเสรมิ กำรสร้ำงนวัตกรรมผลติ ภัณฑก์ ำแฟอะรำบิกำ สถาบนั การศึกษา 4. สง่ เสริมกำรสร้ำงแบรนด์สินคำ้ และเป็นมติ รต่อสิง่ แวดลอ้ ม อก. พณ. ภาคเอกชน กลยุทธ์ที่ 3 พฒั นาดา้ นการตลาด หนว่ ยงาน แนวทางดาเนนิ การ มกอช. 1. สง่ เสรมิ กำรซ้อื ขำยเมล็ดกำแฟและผลิตภัณฑ์กำแฟอะรำบิกำตำมชั้น อก. มกอช. กวก. คณุ ภำพ มกอช. พณ. อตก. (1) จดั ทำมำตรฐำนเมลด็ กำแฟอะรำบกิ ำเพ่อื ยกระดบั คณุ ภำพ (2) ทบทวนมำตรฐำนผลิตภัณฑ์กำแฟอะรำบิกำเพื่อยกระดับคุณภำพ พณ. พณ. และสง่ เสริมกำรใช้ พณ. (3) พฒั นำกำรรบั รองตำมมำตรฐำนกำแฟอะรำบิกำของประเทศและ อำเซียน (4) กำรประชำสัมพันธ์และส่งเสริมซ้ือขำยกำแฟอะรำบิกำและ ผลติ ภณั ฑก์ ำแฟตำมชั้นคณุ ภำพ 2 บริหำรตลำดกำแฟอะรำบกิ ำภำยในและตลำดต่ำงประเทศ (1) ประชำสมั พนั ธเ์ ผยแพรข่ อ้ มูลกำรเคลือ่ นไหวรำคำสินค้ำ กำแฟอะรำบิกำ (2) ประชำสมั พันธ์กำแฟอะรำบกิ ำไทยทัง้ ในประเทศและตำ่ งประเทศ 3. แนวทำง กลไก และมำตรกำรดำ้ นกำรตลำดหลังสง่ เสริมกำรผลิต
กลยุทธ์ท่ี 4 ด้านการวิจัยและพัฒนา หนว่ ยงาน กวก. วท. มูลนธิ ิโครงการหลวง แนวทางดาเนนิ การ 1. วิจัยพนั ธุ์กำแฟอะรำบกิ ำ ทนทำนต่อโรค มีควำมเหมำะสมแต่ละ สวพส. สถาบันการศึกษา พน้ื ท่ี รสชำติดี มคี วำมหลำกหลำยของพันธุ์ ภาคเอกชน 2. วิจัยเทคโนโลยีกำรผลิตและวิทยำกำรหลังกำรเก็บเกี่ยว กวก. วท. มลู นธิ โิ ครงการหลวง กำแฟอะรำบิกำในกำรเพิ่มผลผลิต คุณภำพ และลดต้นทุน กำรผลิต (กำรตัดแต่ง อัตรำปุ๋ยที่เหมำะสม ระบบน้ำ สภำพ สวพส. อำกำศท่ีเปล่ียนแปลง กำรป้องกันโรคและแมลง วิทยำกำร สถาบันการศึกษา หลังกำรเก็บเก่ียว เครื่องจักรกลกำรเกษตร) พร้อมกับพัฒนำ เทคโนโลยเี กษตรแม่นยำ (precision farming) เพ่ือลดกำรใช้ ภาคเอกชน ทรัพยำกร กรมชลประทาน กรมอตุ ุนิยมวิทยา 3. วิจัยและพัฒนำเทคโนโลยีด้ำนกำรติดตำม กำรคำดกำรณ์ ระบบเตือนภัยที่เป็นระดับ microclimate และระบบ กวก. กรมชลประทาน พยำกรณ์ผลผลิต เพ่ือกำหนดแนวทำงแก้ไขปัญหำในกรณีท่ี กรมอตุ ุนิยมวทิ ยา วท. เกดิ ควำมเสยี หำยต่อกำแฟอะรำบิกำ อันเนื่องมำจำกภัยพิบัติ ในรปู แบบต่ำงๆ วท. กวก. สถาบันการศกึ ษา 4. วิจัยและพฒั นำเทคโนโลย/ี เทคนคิ ดำ้ นเทคโนโลยีชวี ภำพใน กำรจำแนก บง่ บอกอตั ลักษณข์ องพนั ธุก์ ำแฟในแต่ละท้องถนิ่ วท. อก. กวก. สถาบนั การศึกษา สศก. พณ. 5. วิจัยและพัฒนำเพ่ือเพ่ิมมูลค่ำผลิตภัณฑ์ และเคร่ืองมือแปรรูป กำแฟอะรำบิกำ สศก. กวก. 6. วิจยั และพฒั นำกำรตลำดเดมิ และตลำดใหม่กำแฟอะรำบกิ ำ กวก. กสก. กสส. พณ. เพื่อเพ่มิ ขีดควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขัน 7. วจิ ัยและพัฒนำควำมรว่ มมอื กบั ต่ำงประเทศ
กลยทุ ธท์ ี่ 5 ด้านการบริหารจัดการ แนวทางดาเนนิ การ หนว่ ยงาน 1. บรหิ ำรสำนักงำนเลขำนุกำรในกำรขับเคลอ่ื นยุทธศำสตร์ คณะอนกุ รรมการพชื สวน (1) ตดิ ตำม ประสำน และเชื่อมโยงผลงำนวิจัยต่ำงๆ ไปประยุกต์ใช้ คณะทางานพืชกาแฟ ประโยชน์ในกำรขบั เคลื่อนกลยุทธอ์ ่ืนๆ กวก. 2. สร้ำงเครือข่ำยข้อมูลกำแฟอะรำบิกำภำยในประเทศและตำ่ งประเทศ กษ. กวก. พณ. สศก. สมาคม 3. ส่งเสริมควำมเข้มแข็งกลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์ และพัฒนำเครือข่ำย กสก. กสส. สวพส. ผ้ผู ลติ กำแฟอะรำบิกำ สถาบนั เกษตรกร 4. พฒั นำเครือขำ่ ยกลมุ่ รับซอื้ และจดั กำรผลผลิตกำแฟอะรำบิกำ กสก. กสส. พณ. สมาคม สวพส. ภาคเอกชน 5. ทบทวนมำตรกำรด้ำนกำรค้ำและภำษีกำรนำเข้ำและส่งออก กวก. พณ. ภาคเอกชน เพ่ือเพิ่มขีดควำมสำมำรถด้ำนกำรบริหำรวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ กำแฟอะรำบกิ ำใหแ้ กอ่ ุตสำหกรรมในประเทศ 6. จัดทำโครงกำรควำมร่วมมือระหว่ำงผู้ปลูกและภำคเอกชนเพ่ือกำร กษ. ภาคเกษตรกร ผลิตกำแฟอะรำบกิ ำอยำ่ งยง่ั ยืน ภาคเอกชน 7. ประชำสัมพันธ์ให้เกษตรกรใช้พ้ืนท่ีสำหรับกำรเพำะปลูกกำแฟในที่ดิน ทส. กษ. ที่เปน็ ไปตำมข้อกำหนดของกฎหมำยทเี่ กี่ยวข้องเพื่อป้องกันกำรบุกรุก มลู นธิ ิโครงการหลวง พ้นื ที่ปำ่ เพื่อทำกำรเกษตรตอ่ ไป สวพส.
ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ บั กาแฟโรบสั ตา (1) กลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์ มีควำมเขม้ แขง็ คณุ ภำพชวี ติ ทด่ี ขี นึ้ (2) ผลผลติ เพียงพอกบั ควำมต้องกำรของอตุ สำหกรรมไม่น้อยกว่ำรอ้ ยละ 30 (3) เกษตรกรมีควำมสำมำรถในกำรผลิตกำแฟคุณภำพ มำตรฐำน ลดต้นทุนกำรผลิต โดยไม่ทำลำย ส่งิ แวดล้อม (4) สำมำรถพัฒนำให้ไทยเป็นศนู ยก์ ลำงของกำรค้ำกำแฟคุณภำพในอำเซียน กาแฟอะราบกิ า (1) กลมุ่ เกษตรกร/สหกรณ์ มคี วำมเขม้ แข็ง คณุ ภำพชวี ิตที่ดีขน้ึ (2) เกษตรกรมีควำมสำมำรถในกำรผลิตกำแฟคุณภำพ มำตรฐำน ลดต้นทุนกำรผลิต โดยไม่ทำลำย สิง่ แวดลอ้ ม (3) ทำให้เมล็ดกำแฟไทยและผลิตภัณฑ์กำแฟ เป็นที่รู้จักและยอมรับในตลำดในประเทศและ ต่ำงประเทศ
การขบั เคลอื่ นยุทธศาสตร์ เพอ่ื ให้กำรดำเนินงำนตำมยุทธศำสตรก์ ำแฟเปน็ ไปตำมเป้ำหมำย จะตอ้ งไดร้ บั กำรสนบั สนุนจำก คณะกรรมการนโยบาย คณะอนุกรรมการพชื สวน และแผนพัฒนาการเกษตร และคณะทางานพชื กาแฟ และสหกรณ์การเกษตร ขับเคลื่อนยุทธศาสตรก์ าแฟ กากบั ดูแล และตดิ ตาม กาหนดนโยบาย การดาเนินแผนงาน โครงการ การพัฒนากาแฟ ภายใตย้ ทุ ธศาสตร์กาแฟ อย่างเป็นระบบ ใหเ้ ปน็ ไปอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ปัจจยั ความสาเร็จของยุทธศาสตร์ ปจั จัยทส่ี นับสนุนท่จี ะทำให้กำรขับเคลื่อนยทุ ธศำสตร์กำแฟปี 2560-2564 บรรลุเป้ำหมำยที่กำหนด ไดแ้ ก่ ไดร้ ับกำรจัดสรรงบประมำณ กำรทำงำนในลักษณะบรู ณำกำรของผู้ท่เี กี่ยวข้อง ได้แก่
Search
Read the Text Version
- 1 - 40
Pages: