บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 93 ความสามารถในการปรบั ตวั : ไมท่ นต่อปจั จยั ก่อโรคต่าง ๆ เช่น ความเยน็ ความรอ้ น ความช้นื ความรอ้ นอบอา้ ว แนวโนม้ เกดิ โรค : มกั เป็นหวดั งา่ ยเมอ่ื อากาศเปลย่ี น หลงั การเจบ็ ป่วยร่างกายมกั ฟ้ืนตวั ชา้ ภูมิ ตา้ นทานอ่อนแอจงึ มกั มกี ารเจบ็ ป่วยเฉียบพลนั ไดอ้ กี หากป่วยเป็นมะเร็ง ขนาดของกอ้ นมะเรง็ มกั ขยาย โตไดง้ า่ ย ระบบการสรา้ งเมด็ เลอื ดไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพจงึ มโี ลหติ จาง ระบบการไหลเวยี นของเลอื ดชา้ ไมม่ ี แรงส่งพอ ทาํ ใหป้ วดศีรษะ มเี ลอื ดไปเล้ยี งไม่พอเป็นเหตุใหเ้ กิดการคงั่ ของเลอื ด ระบบการย่อยไม่มี กาํ ลงั จงึ มอี าการอาหารไมย่ ่อย มกั มอี าการทอ้ งเดนิ โภชนาการไมด่ ี ระบบเมตาบอลซิ มึ ถดถอยจงึ แก่เรว็ ขอ้ สงั เกต : ลกั ษณะช่พี ร่อง มกั พบไดบ้ ่อยในเดก็ เลก็ และผูท้ ่อี ยู่ในวยั กลางคนจนถงึ วยั ชรา พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย รูปร่างผอม หรือดูฉุ ๆ บวม ๆ กลา้ มเน้ือเหลวหย่อน ผิวหนงั ไม่ ยดื หยุ่น เวลานงั่ ดูเหมอื นหมดแรง ถ่ายอจุ จาระแลว้ จะรูส้ กึ เพลยี มกั รูส้ กึ กลวงโลง่ ในทอ้ ง ในสตรเี มอ่ื ประจาํ เดอื นหมดจะเพลยี มาก เวลาเหน่อื ยมกั นกึ อยากทานของหวาน ๆ ขอ้ แนะนํา : 1. ควรปรบั สภาพอารมณ์ใหค้ ิดบวกในการใชช้ ีวติ ประจาํ วนั ใหก้ าํ ลงั ใจตนเองอยู่เสมอ เพ่อื เพม่ิ ความมนั่ ใจ ควรออกไปสมั ผสั กบั ธรรมชาติ และแสวงหากจิ กรรมหรอื สง่ิ ทต่ี นสนใจ 2. ไม่ควรหกั โหมทง้ั ทางร่างกายและความคิด หลงั การทาํ งานควรเรียนรูใ้ นการใชช้ ีวติ อย่าง ปลอ่ ยวาง และควรใชเ้ วลาว่างในการพกั ผ่อนเพอ่ื ผ่อนคลายความเครียดและเหน่ือยลา้ ควรตงั้ สตแิ ละ ปรบั สภาพอารมณใ์ หส้ มดลุ อยู่ตลอดเวลา 3. อาหารสาํ หรบั คนพ้นื ฐานช่พี ร่อง ควรตอ้ งปรบั ใหร้ ะบบการย่อยดูดซมึ ดขี ้นึ จงึ จะทาํ ใหไ้ ดร้ บั สารอาหารครบถว้ น อาหารท่เี หมาะ ไดแ้ ก่ นม ไข่ ปลา นมผ้งึ ปลาไหล ซุปแม่ไก่แก่ ไข่นกกระทา นกพริ าบ อาหารท่ที าํ จากผลติ ภณั ฑถ์ วั่ ซนั เหยา้ พทุ ราแดง เชอร่ี องนุ่ ถวั่ ลสิ ง โจก๊ ขา้ วเหนียว นาํ้ ตาล มอลต์ มงี านวจิ ยั ทย่ี นื ยนั วา่ ซุปแมไ่ ก่ และนมผ้งึ จะช่วยใหก้ ารทาํ งานของภมู ติ า้ นทานของร่างกายดขี ้นึ ช่วยใหร้ ่างกายกระฉบั กระเฉง ขจดั อาการอ่อนเพลยี ในผูท้ ่ถี ่ายเหลวบ่อยใหเ้ นน้ พุทราแดง ซนั เหยา้ ในช่วงฟ้ืนไขค้ วรตม้ โจก๊ ขา้ วเหนียว และนาํ้ ซุปเน้ือววั และหลกี เลย่ี งอาหารทม่ี ฤี ทธ์บิ นั่ ทอนช่ี เช่น ผกั บงุ้ หวั ผกั กาดสด (หวั ไชเทา้ ) เป็นตน้ โภชนบาํ บดั :สมนุ ไพรจนี ทม่ี สี รรพคณุ ในดา้ นการบาํ รุงช่ี เช่น หวงฉี ซนั เย่า และ เหรนิ เซนิ (โสมคน) หวงฉี (HuangQi: 黄芪) คือ สมนุ ไพรท่มี สี รรพคุณเด่นในดา้ นการบาํ รุงช่ี เหมาะสาํ หรบั ผูท้ ่ี มลี กั ษณะพ้นื ฐานของร่างกายจดั อยู่ในกลมุ่ ช่พี ร่อง และเหมาะทส่ี ุดสาํ หรบั ผูท้ ม่ี ชี ่ปี อดพร่อง โดยเฉพาะผูท้ ่ี
94 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 เป็นหวดั งา่ ยเมอ่ื อากาศเปลย่ี น ซง่ึ ทางการแพทยแ์ ผนจนี จดั บคุ คลประเภทน้ีอยู่ในกลมุ่ เป่ียวพร่อง ฉะนนั้ ตวั ยาหวงฉีจงึ เหมาะสาํ หรบั ผูท้ เ่ี ป็นหวดั บ่อย จากประสบการณ์การใชห้ วงฉีนน้ั มกั ใชร้ ่วมกบั เหรนิ เซนิ ตนั เซนิ หรอื ไทจ่ อ่ื เซนิ ทง้ั น้เี พอ่ื เป็นการเสรมิ ฤทธ์ใิ นการบาํ รุงช่ี ซนั เย่า (ShanYao: 山药) หรือในอกี ช่ือหน่ึงว่า ห่วยซวั มกั ถูกนาํ มาใชป้ รุงเป็นอาหาร โดย ซนั เย่า มสี รรพคุณในการบาํ รุงช่มี า้ ม จากการศึกษาพบว่า มสี ารเคมใี นซนั เย่าทช่ี ่วยในการกระตนุ้ ระบบ การย่อยอาหาร ฉะนนั้ ผูท้ ่มี พี ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายท่จี ดั อยู่ในกลุ่มช่ีพร่อง โดยเฉพาะช่ีมา้ มพร่อง ควรเลอื กรบั ประทานซนั เย่า โดยสามารถนาํ ซนั เย่าไปตนุ๋ เป็นนาํ้ แกงไก่ วธิ ีทาํ คือ นาํ ซนั เย่า 100 กรมั ตุน๋ รวมกบั เน้ือไก่ 1000 กรมั แลว้ ปรุงรสตามท่ชี อบ หรือนาํ ซนั เย่าทต่ี ากแหง้ มาควั่ บนกระทะรอ้ นจนก่งึ สุกก่งึ ดบิ แลว้ นาํ มาบดเป็นผง รบั ประทานครงั้ ละ 20 กรมั โสมคน หรอื เหรนิ เซิน (RenShen: 人参) มฤี ทธ์อิ ่นุ รสหวานอมขม เป็นสมนุ ไพรทใ่ี ชบ้ ่อย ในการบาํ รุงช่ี มสี รรพคุณในการบาํ รุงหยวนช่ี โดยตามคมั ภรี โ์ บราณบนั ทกึ ว่า โสมคนสามารถบาํ รุงช่ี ของอวยั วะตนั ทงั้ 5 ได้ เน่ืองจากโสมคนเป็นโสมท่มี รี ูปร่างลกั ษณะคลา้ ยมนุษย์ จงึ ถูกตง้ั ช่อื ว่า “โสม คน” ซง่ึ วธิ กี ารนาํ โสมคนมาบรโิ ภคนน้ั มหี ลากหลายดงั น้ี - ตนุ๋ ด่มื โดยหนั่ โสมคนเป็นแว่นบาง ๆ ประมาณ 3 ซม. จากนนั้ นาํ ไปใส่ในถว้ ยกระเบ้อื ง เตมิ นาํ้ ใหเ้ตม็ ถว้ ย ปิดฝาถว้ ยใหม้ ดิ ชดิ แลว้ นาํ ไปน่ึงในหมอ้ น่งึ ประมาณ 3 ชวั่ โมง แลว้ นาํ มาดม่ื - เค้ียวรบั ประทาน โดยการหนั่ โสมคนเป็นแว่น ๆ รบั ประทานครง้ั ละ 2 แว่น ซ่งึ วธิ นี ้ีเป็น วธิ กี ารรบั ประทานโสมคนทง่ี า่ ยทส่ี ุด - บดละเอียด นาํ โสมคนมาบดเป็นผง ปริมาณท่ใี ชจ้ ะแตกต่างกนั โดยเทยี บจากลกั ษณะหรือ ขนาดร่างกายของแต่ละบคุ คล โดยเฉลย่ี จะอยู่ทป่ี ระมาณ 2 กรมั ต่อวนั - ชงดม่ื แทนนาํ้ ชา นาํ โสมคนมาหนั่ เป็นแวน่ บาง ๆ จากนนั้ นาํ ไปแช่ในนาํ้ รอ้ นประมาณ 5 นาที แลว้ นาํ ไปดม่ื - แช่เหลา้ นาํ โสมคนหนั่ เป็นแว่นแช่ในเหลา้ ขาวทม่ี ปี รมิ าณแอลกอฮอลม์ ากกวา่ 50 ดกี รี ใช้ ดม่ื ทกุ วนั พอประมาณ - ตนุ๋ พรอ้ มอาหาร สามารถนาํ โสมคนหนั่ เป็นแว่น นาํ ไปตนุ๋ พรอ้ มกบั เน้ือหมูหรือเน้ือไก่ แลว้ รบั ประทานพรอ้ มนาํ้ แกง หมายเหตุ : การบริโภคโสมคน ไม่ควรรบั ประทานโสมคนพรอ้ มกบั หวั ไชเทา้ หรือพรอ้ มกบั การดม่ื ชา และไมค่ วรใชอ้ ปุ กรณท์ เ่ี ป็นโลหะในการปรุงยา เน่ืองจากจะส่งผลกระทบต่อฤทธ์ขิ องยา
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 95 การเก็บรกั ษาโสมคน โสมคนหากมลี กั ษณะแหง้ สนิทควรเก็บในถงุ สูญญากาศและวางไวใ้ นทม่ี ี อากาศถ่ายเทและไม่ตากแดด หากโสมคนทม่ี ลี กั ษณะไม่แหง้ สนิทควรนาํ โสมห่อดว้ ยกระดาษเก็บในไห หรือขวดโหลท่มี ฝี าปิด และใส่ตวั ดูดความช้นื เช่น ถ่าน แลว้ ปิดฝาใหส้ นิท นอกจากนนั้ ยงั สามารถนาํ โสมคนไปตากแหง้ เก็บไวใ้ นถงุ พลาสตกิ มดั ปากถงุ ใหส้ นิท แลว้ นาํ ไปเก็บไวใ้ นตูเ้ยน็ ช่องแช่แขง็ ซง่ึ วธิ ีน้ี จะทาํ ใหส้ ามารถเก็บรกั ษาโสมคนไวไ้ ดเ้ป็นระยะเวลานาน ขอ้ ควรระวงั ในการใชโ้ สมคน : การใชโ้ สมคนท่ไี มพ่ อเหมาะ หรอื ผดิ กบั กลุ่มอาการของโรค อาจเกิดผลหรอื อาการขา้ งเคยี งได้ โดยส่วนใหญ่มกั พบผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยมี อาการแสดง คอื นอนไมห่ ลบั สะดุง้ ต่นื กลางดกึ ไดง้ า่ ย จติ อ่อน สนั่ กระตกุ ความดนั โลหติ สูง เป็นตน้ และบางรายอาจพบอาการไมอ่ ยากอาหาร ความดนั โลหติ ตาํ่ ผดผน่ื ตามผวิ หนงั เจบ็ คอ ทอ้ งเสยี อาการ บวมนาํ้ จติ ใจหดหู่ ประจาํ เดอื นมาไมป่ กติ หรอื มอี าการประสาทหลอน เป็นตน้ จุดฝงั เข็ม : จดุ ฝงั เขม็ ทม่ี คี ณุ สมบตั ใิ นการบาํ รุงช่ี คอื ZuSanLi (ST 36) GuanYuan (CV 4) TanZhong (CV 17) ShenQue (CV 8) YinGu (KI 10) ShenShu (BL23) PiShu (BL 20) สามารถกระตนุ้ จดุ โดยการกดนวดดว้ ยตนเอง หรอื การฝงั เขม็ ตาํ รบั ยา : 1) ตาํ รบั ป่ ูจงอ้ชี ่ีทงั (补中益气汤) ตวั ยาในตาํ รบั : จหฺ วผี ี (橘皮) ตงั กยุ (当归) เหรนิ เซนิ (人参) หวงฉี (黄芪) เซงิ หมา (升麻) ไฉหู (柴胡) กนั เฉ่า(จ้อื ) [甘草(制)] ไป๋จู๋ (白术) สรรพคุณ : เสรมิ ช่ี บาํ รุงส่วนกลาง ช่วยใหห้ ยางช่ลี อยข้นึ ใชร้ กั ษากลุม่ อาการช่พี ร่องของระบบ มา้ มและกระเพาะอาหาร โดยมอี าการตวั รอ้ น มเี หงอ่ื ปวดศีรษะ กลวั หนาว คอแหง้ และกระหายนาํ้ (อยากด่มื นาํ้ อ่นุ ) ช่นี อ้ ย อ่อนแรงจนไมอ่ ยากพูด รบั ประทานอาหารไมร่ ูร้ ส มอื เทา้ ไมม่ แี รง ล้นิ ซดี มฝี ้า ขาวบาง ชีพจรจมอ่อน (RuòMài 弱脉) หรือชีพจรพร่อง (XūMài: 虚脉) ทาํ ใหเ้ กิดมดลูกและ กระเพาะอาหารหย่อน ทอ้ งเสยี หรอื เป็นบดิ เร้อื รงั 2) ตาํ รบั เซินหลงิ ไป๋ จูส๋ า่ น (参苓白术散) ตวั ยาในตาํ รบั : ฝูหลงิ (茯苓) เป่ียนโตว้ (扁豆) เหรนิ เซนิ (人参) ไป๋จู๋ (白术)
96 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 อ้อี เ่ี หรนิ (薏苡仁) ซนั เย่า (山药) กนั เฉ่า (甘草) ซาเหรนิ (砂仁) เจยี๋ เก่งิ (桔梗) เหลยี นจอ่ื โร่ว (莲子肉) สรรพคุณ : บาํ รุงช่ี เสริมมา้ ม ปรบั สมดุลกระเพาะอาหาร ระบายความช้นื ใชร้ กั ษากลุ่มอาการท่มี ี ความ ช้ืนคงั่ จากมา้ มพร่อง ซ่งึ มอี าการแขนขาไม่มแี รง ร่างกายอ่อนเพลยี อาหารไม่ย่อย อาจมอี าการ อาเจยี นร่วมดว้ ย หรอื ทอ้ งเสยี แน่นทอ้ งและอดึ อดั บรเิ วณทรวงอกและล้นิ ป่ี หนา้ ซดี เหลอื ง ล้นิ มฝี ้าขาว เหนยี ว ชพี จรพร่อง (XūMài: 虚脉) 3) ตาํ รบั กุยผที งั (归脾汤) ตวั ยาในตาํ รบั : เหรนิ เซนิ (人参) หวงฉี (黄芪) ไป๋จู๋ (白术) กนั เฉ่า (จ้อื ) [甘草(制)] ตงั กยุ (当归) ฝูเสนิ (茯神) หลงเหยย่ี นโร่ว (龙眼肉) ตา้ เจ่า (大枣) มเู่ ซยี ง (木香) ซวนเจ่าเหรนิ (酸枣仁) เซงิ เจยี ง (生姜) หย่วนจ้อื (จ้อื ) [远志(制)] สรรพคณุ : บาํ รุงช่เี ลอื ด เสรมิ ระบบมา้ ม บาํ รุงหวั ใจ ใชร้ กั ษาโรคทร่ี ะบบหวั ใจ มา้ ม ช่ี และเลอื ด พร่อง ใจสนั่ หลงลมื นอนไมห่ ลบั เหงอ่ื ออกขณะหลบั ไขต้ าํ่ ๆ อ่อนเพลยี เบ่อื อาหาร หนา้ ซดี เหลอื ง ล้นิ ซดี มฝี ้าขาวบาง ชพี จรเลก็ และเช่อื งชา้ (XìChíMài: 细迟脉) ยาตาํ รบั น้ใี ชใ้ นการรกั ษาโรคทม่ี กี ารไหลเวยี นของเลอื ดภายในระบบมา้ มผดิ ปกติ สง่ ผลใหถ้ า่ ย อุจจาระเป็นเลอื ด สตรีตกเลอื ด ประจาํ เดือนมาก่อนกาํ หนด ปริมาณมาก สซี ดี จาง หรือไหลไม่หยุด หรอื อาจมอี าการตกขาว 4) ตาํ รบั ยฺว่ผี งิ เฟิ งสา่ น (玉屏风散) ตวั ยาในตาํ รบั : หวงฉี (黄芪) ไปจู๋ (白术) ฝางเฟิง (防风) สรรพคณุ : เพม่ิ ช่ี เสรมิ ภมู คิ มุ้ กนั ระงบั เหงอ่ื ใชใ้ นผูป้ ่วยทม่ี รี ่างกายอ่อนแอ ภมู คิ ุม้ กนั ตาํ่ แพ้ อากาศ เป็นหวดั งา่ ย เหงอ่ื ออกเอง หนา้ ซดี ขาว กลวั ลม ล้นิ ซดี มฝี ้าขาว ชพี จรลอยอ่อน (RúMài 濡脉) ตาํ รบั น้สี ามารถนาํ ไปประยุกตใ์ ชเ้ป็นโภชนบาํ บดั ดว้ ยการตม้ เป็นขา้ วตม้ ได้ โดยมสี ่วนประกอบ ดงั น้ี หวงฉี 150 กรมั ไป๋จู๋ 60 กรมั ฝางเฟิง 50 กรมั (ปรมิ าณดงั กลา่ วเป็นปรมิ าณทใ่ี ชต้ ่อ 100 วนั ) ขา้ ว 50 กรมั (ปรมิ าณต่อหน่ึงวนั ) วิธีการทํา : นาํ สมนุ ไพรทงั้ 3 ชนิดไปอบแหง้ ระวงั ไม่ใหไ้ หม ้ จากนนั้ นาํ สมนุ ไพรทงั้ หมดมา
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 97 บดละเอยี ด คลกุ เคลา้ ใหเ้ขา้ กนั แลว้ เก็บไวใ้ นภาชนะทแ่ี หง้ และมฝี าปิดสนิท (เก็บไวใ้ ช้ 100 วนั ) จากนน้ั นาํ ขา้ ว 50 กรมั มาลา้ งทาํ ความสะอาด เตมิ นาํ้ ปรมิ าณ 800 มล. นาํ ไปตม้ ดว้ ยไฟแรงจนเดอื ด แลว้ ลด เหลอื ไฟอ่อน ตม้ ต่ออกี 20 นาที ระวงั ไมใ่ หล้ น้ หรอื ไหม ้ ควรเปิดฝาคนเป็นครงั้ คราว จากนน้ั เปิดไฟแรง ตม้ อกี 3 นาทแี ลว้ ปิดไฟ แลว้ นาํ ผงสมนุ ไพรปรมิ าณ 2.5 กรมั ใส่ลงไปแลว้ คนใหเ้ขา้ กนั ปิดฝาท้งิ ไว ้ ประมาณ 5 นาที เพอ่ื เป็นการเพม่ิ ภมู คิ ุม้ กนั ควรรบั ประทานตดิ ต่อกนั 100 วนั ในช่วงเปลย่ี นแปลงฤดูกาล หมายเหตุ : ตาํ รบั ยาทม่ี สี รรพคุณในการบาํ รุงช่ี ดงั กลา่ วมาขา้ งตน้ นนั้ มวี ธิ กี ารเลอื กทแ่ี ตกต่างกนั ดงั น้ี - ตาํ รบั ป่ ูจงอ้ีช่ีทงั เหมาะสาํ หรบั ผูท้ ่มี อี าการของอวยั วะภายในหย่อน หรือมคี วามรูส้ กึ หน่วง บรเิ วณทวารหนกั - ตาํ รบั เซินหลงิ ไป๋ จูส๋ า่ น เหมาะสาํ หรบั ผูท้ ร่ี ะบบย่อยผดิ ปกติ ทอ้ งอดื บ่อย หรอื ทานอาหารได้ ปกตแิ ต่ร่างกายซูบผอม - ตาํ รบั กุยผีทงั เหมาะสาํ หรบั ผูท้ าํ งานท่ีตอ้ งใชส้ มองมาก ซ่ึงการใชค้ วามคิดนน้ั จะส่งผล กระทบต่อช่แี ละเลอื ด - ตาํ รบั ยว่ีผิงเฟิ งส่าน เหมาะสาํ หรบั ผูท้ ่จี ดั อยู่ในกลุ่มช่ีปอดพร่อง โดยเฉพาะผูท้ ่เี หน่ือยง่าย อ่อนแรงจนไมอ่ ยากพดู เป็นหวดั บอ่ ย เหงอ่ื ออกมาก 3. Type C: กลมุ่ หยางพรอ่ ง (YangXu : 阳虚) ลกั ษณะโดยรวม : หยางช่พี ร่อง ลกั ษณะเด่น คอื กลวั หนาว แขนขาเยน็ เป็นตน้ ลกั ษณะรูปรา่ ง : กลา้ มเน้ือไมก่ ระชบั อาการแสดง : กลวั หนาว แขนขาเยน็ ชอบทานของอ่นุ ขาดชวี ติ ชวี า ล้นิ ซดี อว้ นนุ่ม ชพี จรจมและชา้ (ChenChiMai) มกั มอี าการข้หี นาว ชอบอุ่น ไวต่ออุณหภูมทิ ่เี ปล่ยี นแปลง มอื -เทา้ เย็น แผ่นหลงั รูส้ กึ เย็นวาบ เหมอื นรดนาํ้ ใบหนา้ ขาวซดี ไม่สดใส หรือใบหนา้ หมองคลาํ้ อ่อนเพลยี ไม่มแี รง โดยเฉพาะอาการเป็น มากข้นึ เมอ่ื เคลอ่ื นไหว ใจสนั่ หายใจสนั้ เหงอ่ื ออก รูส้ กึ ปวดทอ้ งแบบเยน็ ๆ ถ่ายเหลว ชอบด่มื นาํ้ รอ้ น หากถูกกระทบความเยน็ มกั ทอ้ งเสยี หากตรากตราํ เลก็ นอ้ ยจะบวมนาํ้ หรอื กลางคนื ปสั สาวะบอ่ ย ความ ตอ้ งการทางเพศลดลง สตรีประจาํ เดือนมานอ้ ย อารมณ์หดหู่ อยากอยู่เงยี บ ๆ ไม่ชอบพบปะผูค้ น ความดนั โลหติ ตาํ่ ความตา้ นทานโรคตาํ่ ต่อมไรท้ ่อทาํ งานนอ้ ยกวา่ ปกติ ในผูท้ ่หี ยางพร่อง มกั แสดงอาการกลุ่มความเยน็ เด่น ขณะเดยี วกนั มกี ลุ่มอาการช่ีพร่องปรากฏ
98 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 ร่วมดว้ ย อณุ หภมู ริ ่างกายตาํ่ กว่าปกติ มอื เทา้ เยน็ จติ ใจเหน่ือยหลา้ กลางวนั งว่ งนอน เคยมปี ระวตั เิ สยี เลอื ดมาก่อน เช่น ประจาํ เดอื นมามาก รดิ สดี วงทวารเลอื ดออก เลอื ดออกในระบบทางเดนิ อาหาร หรอื มี ทอ้ งเสยี เร้อื รงั มกั พบในผูส้ ูงอายุ และไมไ่ ดอ้ อกกาํ ลงั กายเป็นเวลานาน สภาวะจติ ใจ : ไมก่ ลา้ แสดงออก เงยี บขรมึ ความสามารถในการปรบั ตวั ต่อสภาวะแวดลอ้ ม : ทนต่อฤดูรอ้ นแต่ไมท่ นต่อฤดูหนาว อกี ทงั้ งา่ ย ต่อการไดร้ บั ผลกระทบจากปจั จยั อนิ เช่น ลม ความเยน็ และความช้นื แนวโนม้ การเกดิ โรค : งา่ ยต่อการเกดิ เสมหะและสารเหลวปฏกิ ูล (ถานอน่ิ ) อาการบวม อจุ จาระ ร่วง นอกจากนนั้ ผูป้ ่วยในกลุม่ น้ียงั มแี นวโนม้ ทจ่ี ะเกิดโรคในกลมุ่ อาการเยน็ เมอ่ื ไดร้ บั ความเยน็ ช้นื มา กระทบ จะทาํ ใหป้ วดขอ้ ปวดเมอ่ื ยกลา้ มเน้ือบรเิ วณคอ บ่า หลงั และเอว ภูมติ า้ นทานลดลง ทาํ ใหเ้ป็น หวดั งา่ ย และมโี อกาสเป็นมะเรง็ ไดง้ า่ ยดว้ ย หยางพร่องทาํ ใหเ้กดิ ความเยน็ ข้นึ ภายใน เสน้ เลอื ดในสมองตบี ในสตรจี ะมอี าการปวดประจาํ เดอื น ประจาํ เดอื นไมม่ า ระบบการย่อยอาหารอ่อนแอ ทาํ ใหเ้กดิ ภาวะทโุ ภชนาการ โลหติ จาง ทอ้ งเสยี เร้อื รงั หย่อนสมรรถภาพทางเพศ ทาํ ใหม้ บี ตุ รยาก เป็นหมนั ขอ้ แนะนํา : 1) หลกี เลย่ี งการดม่ื นาํ้ เยน็ เน่ืองจากนาํ้ เยน็ จดั เป็นอนิ โดยหากอนิ ทแ่ี กร่งจะส่งผลกระทบต่อ หยางช่ขี องร่างกาย เมอ่ื นานวนั จะสามารถก่อใหเ้กดิ อาการหยางพร่องได้ 2) หลกี เล่ยี งการอดนอน เน่ืองจากช่วงกลางคืนเป็นเวลาท่หี ยางช่ีจะถูกเก็บกกั เขา้ สู่ภายใน หาก อดนอนจะทาํ ใหห้ ยางช่ไี มส่ ามารถเก็บกกั เขา้ สูภ่ ายในได้ ส่งผลใหห้ ยางช่ไี มไ่ ดร้ บั การฟ้ืนฟู เมอ่ื นาน วนั จะสามารถก่อใหเ้กดิ อาการหยางพร่องได้ 3) หลกี เลย่ี งการรบั ประทานอาหารทอด อาหารมนั เน่ืองจากอาหารเหล่าน้ีเป็นสาเหตุของกลุ่ม อาการรอ้ นช้นื ซง่ึ อาการแสดง คอื รอ้ นใน การเกดิ สวิ การเกิดการอกั เสบต่าง ๆ เป็นตน้ โดยการรกั ษา อาการขา้ งตน้ เหล่าน้ีส่วนใหญ่ มกั ใชต้ วั ยาท่มี รี สขม ฤทธ์ิเย็น มสี รรพคุณระบายความรอ้ น แกอ้ กั เสบ ตวั ยาเหลา่ น้ีมกั สง่ ผลกระทบต่อหยางของมา้ ม เมอ่ื นานวนั จะสามารถก่อใหเ้กดิ อาการหยางพร่องได้ 4) ควรรกั ษาความอบอุ่นของเทา้ อยู่เสมอ กลา่ วคอื การเดนิ ยาํ่ บนหนิ หรือพ้นื ทเ่ี ยน็ หรอื ไปใน สถานท่ที ม่ี อี ากาศเยน็ ควรสวมถงุ เทา้ หรอื รองเทา้ เพอ่ื รกั ษาความอบอุ่นแก่เทา้ อยู่เสมอ เน่ืองจากความ เยน็ สว่ นใหญ่จะเขา้ สูร่ ่างกายไดจ้ ากทางเทา้ เมอ่ื นานวนั จะสามารถก่อใหเ้กดิ อาการหยางพร่องได้
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 99 5) สตรีหลงั คลอดบุตร เน่ืองจากการคลอดบตุ รนน้ั จะทาํ ใหส้ ตรีมกี ารเสยี ช่ีและเลอื ด ดงั นน้ั ใน ช่วงเวลา 1 เดอื น หลงั คลอดบตุ ร ควรหลกี เลย่ี งการถกู ปจั จยั อนิ เขา้ มากระทบ เช่น ความเยน็ ลม ความช้นื 6) ทาํ จติ ใจใหส้ ดใสเบกิ บานอยู่เสมอ เน่ืองจากผูท้ จ่ี ดั อยู่ในกลุม่ อาการหยางพร่องนนั้ มกั จะมี ลกั ษณะเก็บตวั มจี ติ ใจทห่ี ดหู่ ดงั นน้ั การพบปะสงั สรรคผ์ ูค้ นจะเป็นวธิ กี ารขจดั ปจั จยั การเกดิ โรค 7) ควรไดร้ บั แสงแดดอย่างเหมาะสม สามารถเลอื กรบั แสงแดดวนั ละประมาณคร่ึงชวั่ โมง โดยขณะทร่ี บั แสงแดดนน้ั สามารถกาํ มอื และเคาะไปทบ่ี รเิ วณจดุ เซน่ิ ซู (ShenShu-BL 23) ซง่ึ วธิ กี ารน้ีจะ เป็นวธิ ที ง่ี า่ ยทส่ี ุดในการกระตนุ้ หยางช่ี 8) หมนั่ แช่เทา้ ในนาํ้ อุ่น กลา่ วคอื การแช่เทา้ ในนาํ้ ทม่ี อี ุณหภูมิ 40 - 50 องศาเซลเซยี ส นาน 15 นาที พรอ้ มทง้ั กดนวดบรเิ วณขอ้ เทา้ และฝ่าเทา้ จนรูส้ กึ เทา้ มคี วามรอ้ น จะเป็นการกระตนุ้ หยางช่ไี ด้ นอกจากน้ียงั สามารถใส่ตวั ยาทม่ี สี รรพคุณใหค้ วามอบอ่นุ แก่หยางช่ลี งไปในนาํ้ ทใ่ี ชแ้ ช่เทา้ ได้ เช่น กุย้ จอื เหลา้ ขาว เป็นตน้ 9) อาหารทเ่ี หมะกบั ผูท้ ม่ี หี ยางพร่อง ควรเลอื กรบั ประทานอาหารท่มี สี รรพคุณในการบาํ รุงห ยางช่ีของมา้ มและไต เช่น เน้ือกวาง เน้ือแพะ เน้ือสุนขั นมววั นมแพะ ไก่กระทง นกกระจอก กุง้ ผกั กุยช่าย พริก กระเทยี ม ขงิ เมด็ ย่หี ร่า อบเชย (ผงพะโล)้ พริกไทย มนั เทศ ซนั เย่า เซ่ยี นสอื นาํ้ ตาล มอลต์ ลาํ ไย พทุ ราแดง เกาลคั ล้นิ จ่ี นาํ้ ตาลทรายแดง เชอร่ี เป็นตน้ - แปะกว๊ ย (YinXing: 银杏) สรรพคณุ บาํ รุงปอด ระงบั หอบ ช่วยลดการปสั สาวะขณะนอนหลบั - ลูเ่ ปียน (LuBian: 鹿鞭), นิวเปียน (NiuBian: 牛鞭) ช่วยใหม้ กี าํ ลงั วงั ชา แกอ้ าการข้ี หนาว เม่อื ยเอวแบบเย็น ปสั สาวะบ่อยในเวลากลางคืน เหมาะกบั วยั กลางคนและผูส้ ูงอายุท่ีมภี าวะ หยางพร่อง - เหลา้ ดีกรีตาํ่ เช่น เหลา้ องุ่น เหลา้ เหลอื ง จะช่วยอุ่นหลอดเลอื ดใหไ้ หลเวียน ใชป้ ้ องกนั หลอดเลอื ดหวั ใจและสมองตบี ตนั - ควรหลกี เลย่ี งอาหารและเคร่อื งดม่ื ทม่ี คี วามเยน็ เช่น นาํ้ แขง็ ไอศกรมี แตงโมแช่เยน็ เป็นตน้ จดุ ฝงั เข็ม : จดุ ฝงั เขม็ ทม่ี สี รรพคณุ ในการกระตนุ้ หยางช่ี ไดแ้ ก่ QiHai (CV 6) ZuSanLli (ST 36) YongQuan (KI 1) เป็นตน้ โดยสามารถใชก้ ารรมยาบรเิ วณจดุ ดงั กลา่ ว อกี ทง้ั ยงั สามารถเลอื กจดุ ฝงั เขม็ บนเสน้ ลมปราณตู เน่ืองจากเป็นเสน้ ลมปราณทเ่ี ก็บกกั หยางช่ี การกระตุน้ จดุ บนเสน้ ลมปราณน้ีจะสามารถกระตนุ้ หยางช่ี ได้ นอกจากน้กี ารกระตนุ้ หยางช่ยี งั มวี ธิ กี ารบบี ตามแนวกลา้ มเน้อื ขา้ งกระดูกสนั หลงั (เนียจ)่ี
100 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 ตาํ รบั ยา : 1) ตาํ รบั ยวผ่ี งิ เฟิ งสา่ น (玉屏风散) ตวั ยาในตาํ รบั : ไป๋จู๋ (白术) ฝางเฟิง (防风) หวงฉี (黄芪) สรรพคุณ : เพม่ิ ช่ี เสริมภูมคิ ุม้ กนั ระงบั เหงอ่ื ใชใ้ นผูป้ ่วยท่มี รี ่างกายอ่อนแอ ภูมคิ ุม้ กนั ตาํ่ แพ้ อากาศ เป็นหวดั งา่ ย เหงอ่ื ออกเอง หนา้ ซดี ขาว กลวั ลม ล้นิ ซดี และมฝี ้าขาว ชพี จรลอยอ่อน (RúMài 濡脉) 2) ตาํ รบั หลจ่ี งหวาน (理中丸) ตวั ยาในตาํ รบั : กนั เจยี ง (干姜) เหรนิ เซนิ (人参) ไป๋จู๋ (白术) กนั เฉ่า(จ้อื ) [甘草 (制)] สรรพคุณ : เสรมิ ความอบอ่นุ ขบั ความเยน็ ทส่ี ่วนกลาง เสรมิ ช่แี ละพลงั บาํ รุงมา้ มและกระเพาะ อาหาร ใชร้ กั ษาโรคมา้ มและกระเพาะอาหารอ่อนแอ ซง่ึ มอี าการปวดทอ้ งนอ้ ย ชอบความอบอ่นุ หรอื กด นาบทห่ี นา้ ทอ้ งแลว้ รูส้ กึ สบาย อุจจาระใสเหลว ทอ้ งอดื รบั ประทานอาหารไดน้ อ้ ย คลน่ื ไสอ้ าเจยี น ล้นิ ซดี มฝี ้าขาว ชพี จรจมและเลก็ (ChénXìMài: 沉细脉) หรอื หยางพร่องและเสยี เลอื ด หรอื อาการชกั หรือสะดุง้ ผวาในเด็กท่ีเกิดจากโรคเร้ือรงั หรือหลงั ป่วยมกั มีนํา้ ลายและเสมหะไหล หรือหยางของ สว่ นกลางพร่อง ทาํ ใหเ้จบ็ ทรวงอก 3) ตาํ รบั จนิ กุย้ เซ่ินช่ีหวาน (金匮肾气丸) ตวั ยาในตาํ รบั : ต้หี วง (地黄) ซนั เย่า (山药) ซานหยูโร่ว (山萸肉) ฝูหลงิ (茯苓) เจอ๋ เซย่ี (泽泻) หมตู่ นั ผี (牡丹皮) กยุ้ จอื (桂枝) ฟู่จ่อื [附子(炮)] สรรพคุณ : บาํ รุงเสรมิ หยาง เพม่ิ ความอบอ่นุ ใหไ้ ต ใชร้ กั ษาอาการหยางของไตไมส่ มบูรณ์ ซ่งึ มี อาการเม่ือยเอว ขาไม่มีแรง ช่วงล่างของร่างกายมีอาการเย็น ทอ้ งนอ้ ยหดเกร็ง รอ้ นรุ่มหนา้ อก กระสบั กระส่าย ปสั สาวะไม่คล่อง หรือมปี สั สาวะมากผดิ ปกติและเสมหะช้ืนตกคา้ ง หรือมอี าการของ โรคเบาหวาน เช่น หวิ บ่อย กระหายนาํ้ ปสั สาวะบ่อย และขาบวมนาํ้ ล้ินอว้ นหนาและซดี ชีพจร พร่อง (XūMài: 虚脉) หมายเหตุ : ตาํ รบั ยาทม่ี สี รรพคณุ บาํ รุงหยางดงั กลา่ วขา้ งตน้ นนั้ มวี ธิ กี ารเลอื กทแ่ี ตกต่างกนั ดงั น้ี - ตาํ รบั ยว่ีผิงเฟิ งส่าน เหมาะสาํ หรบั ผูท้ ่มี อี าการกลวั ลม มกั ปวดศีรษะหลงั จากถูกลมพดั ไม่ สบายตามขอ้ ต่าง ๆ เมอ่ื กระทบความเยน็
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 101 - ตาํ รบั หลจ่ี งหวาน เหมาะสาํ หรบั กลมุ่ อาการมา้ มและกระเพาะอาหารหยางพร่อง ซง่ึ มอี าการไม่ ชอบการถูกกระทบโดยความเย็นท่บี ริเวณหนา้ ทอ้ ง หากรบั ประทานอาหารทม่ี ฤี ทธ์เิ ยน็ จะทาํ ใหท้ อ้ งเสยี ถ่ายเหลว เน่ืองจากตาํ รบั ยาน้ีมสี รรพคุณในการใหค้ วามอบอุ่นจงเจียว ขบั ไล่ความเย็น และยงั บาํ รุงช่ี กระตนุ้ ระบบการทาํ งานของมา้ มไดอ้ กี ดว้ ย - ตาํ รบั จินกุย้ เซ่ินช่ีหวาน เหมาะสาํ หรบั กลุ่มอาการเซ่ยี เจียวเยน็ พร่อง อาการแสดง คือ ไม่ ชอบการถกู กระทบโดยความเยน็ และลมทบ่ี รเิ วณเอวและขอ้ เขา่ สมรรถภาพทางเพศถดถอย 4. Type D: กลมุ่ อนิ พรอ่ ง (YinXu : 阴虚) ลกั ษณะโดยรวม : อนิ และสารนาํ้ พร่อง ลกั ษณะเด่น คอื ปากแหง้ คอแหง้ ฝ่ามอื และฝ่าเทา้ รอ้ น เป็นตน้ ลกั ษณะรูปรา่ ง : รูปร่างผอมบาง อาการแสดง : ฝ่ามอื และฝ่าเทา้ รอ้ น ปากแหง้ คอแหง้ จมกู แหง้ เลก็ นอ้ ย ชอบรบั ประทานของเยน็ อจุ จาระแหง้ แขง็ ล้นิ แดงไมช่ ่มุ ช้นื ชพี จรเลก็ และเรว็ (XiShuMai) 1) อนิ ไม่พอ (ค่อนไปทางนาํ้ ในร่างกายนอ้ ย) ทจ่ี ะไปหลอ่ เล้ยี งใหค้ วามช่มุ ช่นื แก่ร่างกาย จงึ มี อาการแหง้ ขาดนาํ้ ทาํ ใหว้ งิ เวยี น ตาลาย ผ่ายผอม ผวิ พรรณแหง้ เสน้ ผมแหง้ แตกปลาย ใบหนา้ หมองคลาํ้ ปากคอแหง้ โดยเฉพาะเวลากลางคนื หรอื มกั ไอแหง้ มานาน ตาแหง้ เมอ่ื ยเอวเขา่ อ่อน เสยี งดงั ในหู หลงลมื ปสั สาวะนอ้ ย ทอ้ งผูก ล้นิ แดงมฝี ้านอ้ ยและแหง้ หรอื ล้นิ ไมม่ ฝี ้า สตรปี ระจาํ เดอื นนอ้ ยหรอื ช่องคลอดแหง้ 2) อาการรอ้ นพร่อง หรอื รูส้ กึ ร่างกายทาํ งานมากเกนิ (hyperactive) รอ้ นฝ่ามอื ฝ่าเทา้ มไี ข ้ ตาํ่ เวลาบ่ายหรือคาํ่ คนื มกั รอ้ นทใ่ี บหนา้ โดยบริเวณโหนกแกม้ แดง รอ้ นเป็นเวลา หรือในช่องปากมกั มี แผลรอ้ นในแบบเป็น ๆ หาย ๆ อารมณร์ อ้ น รูส้ กึ เพลยี แต่นอนหลบั ยาก เตา้ ฮนั่ ใจหววิ ชพี จรเลก็ และ เร็ว (XiShuMai) ในผูช้ ายมกั มคี วามตอ้ งการทางเพศมากหรอื มอี าการฝนั เปียก ในผูห้ ญงิ ประจาํ เดอื น มปี รมิ าณเพม่ิ ข้นึ ล้นิ แดงมฝี ้านอ้ ย หรอื หลดุ ลอกหรอื ไมม่ ฝี ้า ลาํ คอแหง้ และแดง ลกั ษณะเหลา่ น้ีเป็นลกั ษณะเด่นของผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายชนิดอนิ พร่อง พบไดบ้ ่อย ในผูส้ ูงอายุ วยั ทอง หรือในผูท้ ่มี จี ติ ใจมคี วามกดดนั มาก นอนหลบั ไม่พอ และวยั ทาํ งานท่ใี ชก้ าํ ลงั มาก เกนิ ไป ส่วนใหญ่คนเหลา่ น้ีจะผา่ ยผอม มกั มจี ติ ใจเป็นทกุ ข์ สภาวะจติ ใจ : หงดุ หงดิ กระวนกระวาย ชอบแสดงออก ลกุ ล้ลี กุ ลน ร่าเรงิ ความสามารถในการปรบั ตวั ตอ่ สภาวะแวดลอ้ ม : ทนต่อฤดูหนาวแต่ไมท่ นต่อฤดูรอ้ น และไมท่ น ต่อผล กระทบจากปจั จยั หยาง เช่น ความรอ้ นอบอา้ ว ความรอ้ น ความแหง้
102 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 แนวโนม้ การเกิดโรค : ง่ายต่อการเกิดอาการอ่อนลา้ นอนไม่หลบั ในชายมกั มอี สุจเิ คลอ่ื นเอง นอกจาก นนั้ ผูป้ ่วยในกลุ่มน้ียงั มแี นวโนม้ ท่จี ะเกิดโรคในกลุ่มอาการรอ้ น มกั มอี าการเจ็บป่วยดา้ นการ ทาํ งานของระบบประสาทอตั โนมตั ิ เช่น หวั ใจเตน้ เร็วเกินไป นอนไม่หลบั มคี วามทุกขใ์ จ เมอ่ื อินพร่อง หยางมกั จะแกร่ง ทาํ ใหค้ วามดนั โลหิตสูง อินพร่องมกั ทาํ ใหข้ บวนการเผาผลาญแปรปรวน ทาํ ใหเ้ กิด เบาหวานไดง้ า่ ย หากขบวนการเผาผลาญมากเกนิ ไปจะป่วยดว้ ยภาวะต่อมไทรอยดท์ าํ งานเกิน ขณะเดยี วกนั ภมู ติ า้ นทานมกั ลดลงจงึ ป่วยเป็นโรคไดง้ า่ ย กรณีทน่ี อนหลบั ยาก หรอื จติ ใจมคี วามทกุ ขห์ รอื ตงึ เครยี ดนาน จะสง่ ผลต่อการหลงั่ นาํ้ ย่อยในกระเพาะอาหารใหแ้ ปรปรวนได้ ในทส่ี ุดเกดิ เป็นแผลในกระเพาะอาหาร ขอ้ แนะนํา : 1) พ้นื ฐานสุขภาพของบคุ คลจะถกู กาํ หนดตง้ั แต่อยู่ในครรภม์ ารดา ดงั นน้ั ในหญงิ มคี รรภค์ วร หลกี เลย่ี งอาหารประเภทป้ิงย่าง รสเผด็ เพราะอาหารเหล่าน้ีสามารถกระทบถงึ ร่างกาย และความรอ้ น ความแหง้ สามารถกระทบถงึ สารอนิ ซง่ึ เป็นสาเหตใุ หท้ ารกในครรภม์ ลี กั ษณะอนิ พร่องได้ นอกจากน้ีการ ใหท้ ารกรบั ประทานนมววั นนั้ อาจส่งผลกระทบใหท้ ารกอนิ พร่องได้ เน่ืองจากนมววั มฤี ทธ์ิรอ้ น หาก รบั ประทานเป็นเวลานาน อาจเกดิ กลมุ่ อาการรอ้ นแหง้ ได้ ฉะนน้ั ควรใหท้ ารกดม่ื นมมารดา 2) อารมณข์ องผูท้ จ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ อนิ พร่องนน้ั งา่ ยต่อการเกดิ ไฟภายใน ทาํ ใหม้ ลี กั ษณะนิสยั ท่ี โมโหงา่ ย กระวนกระวาย หงดุ หงดิ งา่ ย ดงั นน้ั การปรบั สมดุลอารมณ์จึงเป็นส่งิ สาํ คญั ควรหากิจกรรม เพอ่ื การผอ่ นคลาย เช่น การฟงั เพลง ท่องเทย่ี ว เป็นตน้ 3) ผูท้ ม่ี ลี กั ษณะพ้นื ฐานร่างกายทจ่ี ดั อยู่ในกลุม่ อนิ พร่องนน้ั จะมรี ูปร่างทผ่ี อมซูบ ตวั เลก็ และ มอี าการแสดงท่พี บไดบ้ ่อย คือ กระหายนาํ้ หนา้ แดง ปสั สาวะนอ้ ย ทอ้ งผูก ผวิ หนงั แหง้ กรา้ น โพรง จมกู แหง้ เป็นตน้ การออกกาํ ลงั กายทเ่ี หมาะสาํ หรบั คนในกลุม่ น้ี เช่น การวา่ ยนาํ้ และควรหลกี เลย่ี งการ ออกกาํ ลงั กายทห่ี กั โหมจนเกนิ ไป หรอื การอบซาวน่า 4) อาหารของผูท้ พ่ี ้นื ฐานแบบอนิ พร่อง - ไตเป็นธาตนุ าํ้ มสี ดี าํ เป็นรากเหงา้ ของสารนาํ้ ในร่างกาย สดี าํ ช่วยเสรมิ อนิ บาํ รุงไต ขจดั รอ้ น ลด ไฟ ควรเลอื กรบั ประทานอาหารทม่ี ฤี ทธ์เิ ยน็ รสหวาน มสี รรพคณุ ในดา้ นการบาํ รุงอนิ โดยเฉพาะอนิ ของไต อาหารทแ่ี นะนาํ ไดแ้ ก่ ตะพาบนาํ้ เต่า เหด็ หูหนู ปลงิ ทะเล ไก่ดาํ งาดาํ เหด็ หอม รงั นก นม นาํ้ ซปุ ตม้ เป็ด ปูทะเล หอย เมด็ บวั เมด็ เกา๋ ก้ี ถวั่ เขยี ว ไป่เหอ รากบวั สด บวบ เตา้ หู ้ ออ้ ย ผลทอ้ มลั เบอร่ี แปะกว๊ ย ห่วยซวั แมงกะพรุน ผลสาล่ี แตงโม ผลปี๋ผา ตลอดจนผกั สดและผลไม้ อาหารเหลา่ น้จี ะช่วยบาํ รุงไต
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 103 - เม็ดเกา๋ ก้ี ช่วยกระตนุ้ การสรา้ งเมด็ เลอื ดแดง เมด็ เลอื ดขาว ช่วยเพม่ิ ภมู ติ า้ นทาน ลดนาํ้ ตาลใน เลอื ด ช่วยปกป้องตบั ในผูท้ อ่ี นิ พร่องจะมปี ญั หาสายตา เมด็ เกา๋ ก้สี ามารถบาํ รุงอนิ ใหส้ ายตาดี บาํ รุงเลอื ด ช่วยบาํ รงุ ผวิ พรรณบนใบหนา้ และป้องกนั ผมหงอก - เหด็ หหู นูดาํ เป็นอาหารทม่ี ไี ขมนั ตาํ่ สามารถป้องกนั ผนงั หลอดเลอื ดแขง็ ตวั หากใชเ้ป็นประจาํ จะไดผ้ ล นอกจากน้เี หด็ หูหนูดาํ ยงั มคี อลลาเจนมาก จงึ ช่วยใหใ้ บหนา้ เต่งตงึ - อาหารทค่ี วรหลกี เลย่ี ง ไดแ้ ก่ อาหารหรอื ผลไมท้ ม่ี ฤี ทธ์อิ ่นุ รสเผด็ เช่น เน้ือไก่ เน้ือแพะ ผกั กุยช่าย พริก เมลด็ ทานตะวนั ลาํ ไย ล้นิ จ่ี เป็นตน้ นอกจากน้ี ควรหลกี เลย่ี งการปรุงอาหารดว้ ยวธิ กี าร ทอด อบ ป้ิงหรอื ย่าง จุดฝงั เข็ม : จดุ ฝงั เขม็ ทม่ี สี รรพคุณในดา้ นการบาํ รุงอนิ ไดแ้ ก่ TaiXi (KI 3) SanYinJiao (SP 6) ZhaoHai (KI 6) โดยสามารถกระตนุ้ ดว้ ยการกดนวดดว้ ยตนเอง หรอื การฝงั เขม็ โภชนบาํ บดั : 1) สูตรท่ี 1 สว่ นประกอบ : สาล่ี 2 ผล รงั นก 5 กรมั นาํ้ ตาลกรวด 10 กรมั วธิ กี ารทาํ : ลา้ งผลสาลใ่ี หส้ ะอาด นาํ มาควา้ นแกนกลางออก จากนน้ั นาํ นาํ้ ตาลกรวดและรงั นกใส่ ไวใ้ นผลสาล่บี ริเวณท่คี วา้ นออก นาํ แกนท่คี วา้ นออกตดั เอาส่วนหวั มาปิดส่วนบนช่องท่คี วา้ นออก ยึด ดว้ ยไมจ้ ้มิ ฟนั นาํ ไปน่ึง รบั ประทานทกุ เชา้ เน่ืองจากรงั นกมสี รรพคุณในการบาํ รุงอนิ ใหค้ วามช่มุ ช้นื แก่ ปอด สาลแ่ี ละนาํ้ ตาลกรวดมสี รรพคณุ ในการใหค้ วามช่มุ ช้นื สลายเสมหะ ดงั นนั้ การรบั ประทานเช่นน้ีจงึ เหมาะสมกบั ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายในกลมุ่ อนิ ปอดพร่อง 2) สูตรท่ี 2 สว่ นประกอบ : ห่วยซวั 250 กรมั ตน้ หอมและขงิ พอประมาณ จกิ๊ โฉ่ว นาํ้ มนั งาและเกลอื เลก็ นอ้ ย วธิ ีการทาํ : เทนาํ้ มนั งาลงในกระทะ รอนาํ้ มนั รอ้ น นาํ ห่วยซวั ลงไปผดั ครู่หน่ึง จากนนั้ นาํ ขงิ และ ตน้ หอมใส่ลงไปคลุกใหเ้ ขา้ กนั ปรุงรสดว้ ยจิก๊ โฉ่วและเกลอื ใหไ้ ดร้ สตามตอ้ งการ อาหารประเภทน้ี สามารถรบั ประทานไดบ้ อ่ ยครงั้ เหมาะสาํ หรบั ผูท้ จ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ อนิ ของไตพร่อง
104 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 3) สูตรท่ี 3 สว่ นประกอบ : เมด็ บวั 30 กรมั เมด็ แปะกว๊ ยชนิดแหง้ 30 กรมั เน้ือหมู 100 กรมั เกลอื เลก็ นอ้ ย วิธีการทาํ : นาํ แปะกว๊ ยแหง้ แช่ลงในนาํ้ ประมาณ 20 นาที ขณะรอ แกะเปลอื กและแกนกลางของ เมด็ บวั ออก หนั่ เน้อื หมใู หเ้ป็นช้นิ ขนาดพอคาํ นาํ สว่ นประกอบทง้ั หมดลงตม้ ในหมอ้ ประมาณ 30 นาที ปรุง รสดว้ ยเกลอื อาหารประเภทน้รี บั ประทานไดบ้ อ่ ยครง้ั เหมาะสาํ หรบั ผูท้ จ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ อนิ ของ ปอดพร่อง ตาํ รบั ยา : 1) ตาํ รบั ไป่ เหอกจู้ นิ ทงั (百合固金汤) ตวั ยาในตาํ รบั : เซงิ ต้หี วง (生地黄) สูต้หี วง (熟地黄) ไมต่ ง (麦冬) ไป่เหอ (百合) เป้ยห์ มู่ (贝母) ไป๋เสา (白芍) เสฺวยี นเซนิ (玄参) ตงั กยุ (当归) เจยี๋ เก่งิ (桔梗) เซงิ กนั เฉ่า [甘草 (生)] สรรพคณุ : สรา้ งอนิ ทาํ ใหป้ อดช่มุ ช้นื ละลายเสมหะ ระงบั ไอ ใชร้ กั ษากลุม่ อาการไอจากความ แหง้ กระทบปอด มอี าการเจ็บคอ คอแหง้ ไอ หายใจหอบ เสมหะมเี ลอื ด รอ้ นบริเวณฝ่ามอื และฝ่าเทา้ ล้นิ แดงมฝี ้านอ้ ย ชพี จรเลก็ และเรว็ (XiShuMai) 2) ตาํ รบั เทยี นหวางป่ ูซินตนั (天王补心丹) ตวั ยาในตาํ รบั : เซงิ ต้ี (生地 ) เสฺวยี นเซนิ (玄参) ตนั เซนิ (丹参) ตงั กยุ (当归) เหรนิ เซนิ (人参) เทยี นตง (天冬) ไป๋จ่อื เหรนิ (柏子仁) ซวนเจ่าเหรนิ (酸枣仁) หย่วนจ้อื (远志) ฝูหลงิ (茯苓 ) ไมต่ ง (麦冬 ) อู่เวย่ จ์ ่อื (五味子) เจยี๋ เก่งิ (桔梗) สรรพคณุ : เสริมสรา้ งอนิ ระบายความรอ้ น เสริมเลอื ด สงบจิตใจ ใชร้ กั ษาผูท้ ่จี ดั อยู่ในกลุ่ม อาการหวั ใจและไตอ่อนแอ เลอื ดนอ้ ย อนิ พร่อง ไฟรอ้ นพร่องรบกวนภายใน มอี าการหงดุ หงดิ จาก
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 105 อาการอนิ พร่อง นอนหลบั ไม่สนิท ใจสนั่ อ่อนเพลยี ฝนั เปียก ข้หี ลงข้ลี มื อุจจาระแหง้ แขง็ มแี ผลใน ปากและบนล้นิ ล้นิ แดงมฝี ้าเลก็ นอ้ ย ชพี จรเลก็ และเรว็ (XiShuMai) 3) ตาํ รบั ล่วิ เว่ยต้หี วงหวาน (六味地黄丸) ตวั ยาในตาํ รบั : ซนั เย่า (山药) ซานหยวโี ร่ว (三鱼肉) สูต้ี (熟地) ฝูหลงิ (茯苓 ) หมตู่ นั ผี (牡丹皮) เจอ๋ เซย่ี (泽泻) สรรพคณุ : บาํ รุงตบั และไต เสรมิ อนิ และธาตนุ าํ้ ใชร้ กั ษาผูท้ จ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ อาการอนิ ของตบั และไตพร่อง มอี าการปวดหรือเมอ่ื ยลา้ บริเวณเอว มนึ เวยี นศีรษะ หูอ้อื หูหนวก เหงอ่ื ออกขณะหลบั นาํ้ อสุจิเคลอ่ื น ทารกกระหมอ่ มปิดไมส่ นิท ภาวะรอ้ นพร่องอนั เน่ืองจากอนิ พร่อง ทาํ ใหม้ ไี ขใ้ นช่วงบา่ ยหรอื กลางคนื หรอื มเี หงอ่ื ออก รอ้ นทบ่ี รเิ วณฝ่ามอื ฝ่าเทา้ กระหายนาํ้ ปวดฟนั จากภาวะรอ้ นพร่อง ปากแหง้ คอแหง้ ล้นิ แดง มฝี ้านอ้ ย ชพี จรเลก็ และเรว็ จี๋ (XiJiMai) 4) ตาํ รบั อกี ว้ นเจ้ียน (一贯煎) ตวั ยาในตาํ รบั : ต้หี วง (地黄) เป่ยซ์ าเซนิ (北沙参) ไมต่ ง (麦冬) ตงั กยุ (当归) ชวนเลย่ี นจ่อื (川楝子) โก่วฉีจ่อื (枸杞子) สรรพคุณ : เสริมบาํ รุงอนิ ของตบั และไต กระจายและปรบั ช่ีของตบั ใชร้ กั ษาผูท้ ่จี ดั อยู่ในกลุ่ม อาการอนิ ของตบั และไตพร่อง เจบ็ ชายโครงจากช่ตี ดิ ขดั แน่นหนา้ อกหรอื เจบ็ เสยี ดบรเิ วณชายโครง เรอ เปร้ียว คอแหง้ ปากแหง้ ล้ินแดงแหง้ ไสเ้ ล่ือน ชีพจรเล็ก (XìMài) หรือชีพจรพร่องและตึง (XūXiánMài) หมายเหตุ : ตาํ รบั ยาท่ีมสี รรพคุณในการบาํ รุงอินดงั กล่าวขา้ งตน้ นนั้ มวี ิธีการเลอื กใชท้ ่ี แตกต่างกนั ดงั น้ี - ตาํ รบั ไป่ เหอกจู้ นิ ทงั เหมาะสาํ หรบั กลมุ่ อาการอนิ ปอดพร่อง ไอแหง้ ไมม่ เี สมหะ หรอื เสมหะ นอ้ ยบว้ นออกยาก - ตาํ รบั เทยี นหวางป่ ูซินตนั เหมาะสาํ หรบั กลุม่ อาการอนิ หวั ใจพร่อง มอี าการนอนไมห่ ลบั ฝนั เยอะ ใจหววิ ข้หี ลงข้ลี มื หงดุ หงดิ งา่ ย - ตาํ รบั ล่ิวเว่ยต้ีหวงหวาน เหมาะสาํ หรบั กลุ่มอาการอนิ ไตพร่อง มอี าการเม่อื ยเอวเข่าอ่อน นอนไมห่ ลบั ฝนั เยอะ เหงอ่ื ออกขณะหลบั รูส้ กึ รอ้ นวูบวาบ
106 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 - ตาํ รบั อีกว้ นเจ้ียน เหมาะสาํ หรบั กลุ่มอาการอนิ ตบั พร่อง มอี าการวงิ เวยี นศีรษะ ตาลาย ตา แหง้ ความสามารถในการมองเหน็ ลดลง 5. Type E : กลมุ่ เสมหะช้ืน (TanShi : 痰湿) ลกั ษณะโดยรวม : เสมหะช้นื เกาะตวั และตดิ ขดั ลกั ษณะเด่น คอื รูปร่างอว้ น หนา้ ทอ้ งใหญ่หนา ปากเหนยี ว ล้นิ มฝี ้าหนา เป็นตน้ ลกั ษณะรูปรา่ ง : รูปร่างอว้ น หนา้ ทอ้ งใหญ่หนาและอ่อนนุ่ม อาการแสดง : ใบหนา้ มนั เหงอ่ื ออกงา่ ยและเหนียว แน่นหนา้ อก เสมหะเยอะ ปากเหนยี วหรอื ในปากมรี สหวาน ชอบอาหารมนั หรอื มรี สหวาน ล้นิ มฝี ้าเหนยี ว ชพี จรลน่ื (HuaMai) มกั รูส้ กึ หนกั ต้อื เมอ่ื ยเน้ือเมอ่ื ยตวั แขนขาหนกั อ้งึ เมอ่ื ยตามขอ้ หรอื มรี ูปร่างอว้ น บรเิ วณ ใบหนา้ และเทา้ มกั บวม หรอื มอี าการอดึ อดั ทรวงอก ไอเสมหะมาก คลน่ื ไส้ อาเจยี นเป็นเสมหะเหนยี ว รูส้ กึ เหนียวในช่องปาก อจุ จาระไมจ่ บั ตวั หรอื อาจจะเหนียวถา่ ยไมส่ ะดวก ปสั สาวะขนุ่ ในสตรมี อี าการ ตกขาว ล้นิ อว้ นมฝี ้าหนาเหนยี ว ชพี จรลอยอ่อน ลน่ื และตงึ (RúHuaXiánMai) การตรวจร่างกายเพอ่ื ใชอ้ า้ งองิ ผูท้ ม่ี สี ุขภาพพ้นื ฐานชนดิ เสมหะช้นื มกั มรี ะดบั ไขมนั และนาํ้ ตาล ในเลอื ดสูง เลอื ดค่อนขา้ งหนืดขน้ ตรวจการทาํ งานของต่อมไรท้ ่อพบความผดิ ปกติ เช่น การทาํ งานของ ต่อมไทรอยดล์ ดลง การทาํ งานของหวั ใจและปอดลดลง ขอ้ สงั เกตใชอ้ า้ งองิ วิเคราะหว์ ่ามีเสมหะมาก : มกั มรี ูปร่างอว้ น (คนอว้ นมกั มเี สมหะความช้นื ) เมอ่ื เคลอ่ื น ไหวจะหายใจถ่ี เหงอ่ื ออกมาก (ผูท้ ่อี ว้ นมกั ช่ีพร่อง) ฝ้ าล้นิ หนาเหนียว จติ ใจเหน่ือยหน่าย อยากนอน (เสมหะความช้นื ปิดบงั ทวารศีรษะ) ขบั ถา่ ยไมค่ ลอ่ ง อจุ จาระเหนียวตดิ โถสว้ มชาํ ระลา้ งยาก สภาวะจติ ใจ : มลี กั ษณะนิสยั ค่อนขา้ งอ่อนโยน สุขมุ มคี วามอดทนสูง ความสามารถในการปรบั ตวั ต่อสภาวะแวดลอ้ ม : ปรบั ตวั เขา้ กบั ฤดูฝน หรอื พ้นื ทอ่ี ากาศช้นื ไดย้ าก แนวโน้มการเกิดโรค : ง่ายต่อการเกิดโรคเบาหวาน (XiaoKe) โรคหลอดเลือดสมอง (ZhongFeng) และกลมุ่ อาการเจบ็ หนา้ อก (XiongBi) คมั ภรี แ์ พทยโ์ บราณมบี นั ทกึ ว่า “ผูท้ ่ีอว้ นมกั เกิดจง้ เฟิ งง่าย” ซง่ึ หมายถงึ ป่วยดว้ ยโรคหลอด เลอื ดสมอง จากการศึกษาขอ้ มลู ผูป้ ่วยกว่าสามรอ้ ยรายทป่ี ่วยดว้ ยโรคหลอดเลอื ดสมอง พบวา่ ประมาณ 2 ใน 3 ของผูป้ ่วย มพี ้นื ฐานสุขภาพชนดิ ทม่ี เี สมหะความช้นื มาก ผูท้ ่ีมเี สมหะความช้ืนมาก มกั ตรวจพบไขมนั ในเลอื ดสูง มโี รคหวั ใจ เบาหวาน ไขมนั ในตบั ถงุ นาํ้ ดี อกั เสบ น่ิวในถงุ นาํ้ ดี เป็นเน้ืองอกทต่ี ่อมไทรอยด์ ในสตรมี กั มปี ญั หาของต่อมนาํ้ นมเจรญิ ผดิ ปกติ หรอื มเี น้อื งอก
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 107 คนทอ่ี ว้ นจากสาเหตเุ สมหะความช้ืนตกคา้ งสะสม มกั พบว่ามโี รคของต่อมไรท้ ่อทาํ งานผดิ ปกติ ในชายอาจเกิดเส่อื มสมรรถภาพทางเพศ ความตอ้ งการทางเพศลดลง ในสตรีมปี ระจาํ เดอื นแปรปรวน ประจาํ เดือนหยุด มีการตกไข่ผิดปกติหรือไม่ตกไข่ มบี ุตรยาก และผูท้ ่ีมีเสมหะความช้ืนมาก เม่ือ เจบ็ ป่วยมกั รกั ษายาก (โรคทร่ี กั ษายาก หรอื โรคแปลกประหลาดมกั เกดิ จากเสมหะ) ขอ้ แนะนํา : 1. ผูท้ ่มี พี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลุ่มเสมหะช้ืน ส่วนมากมกั มรี ูปร่างอว้ นใหญ่ และมกั ตรวจ พบโรคเก่ยี วกบั ระบบเมตาบอลซิ มึ เช่น เบาหวาน ไขมนั สูงในเลอื ด ความดนั โลหติ สูง โรคหวั ใจ ดงั นนั้ ผูป้ ่วยในกลุ่มน้ีจงึ ควรระมดั ระวงั ในการดาํ รงชีวติ หลกี เลย่ี งการอยู่ในทอ่ี บั ช้ืนเป็นระยะเวลานาน 2. การออกกาํ ลงั กาย ควรหากิจกรรมท่มี กี ารเผาผลาญพลงั งานไดด้ ี และควรทาํ อย่างสมาํ่ เสมอ เช่น การว่ายนาํ้ การพายเรือ ปีนเขา ว่งิ หรือปนั่ จกั รยาน โดยเร่ิมจากเบาไปถงึ การออกกาํ ลงั กายหนกั ใช้ เวลาการออกกาํ ลงั กายใหต้ ่อเน่อื งอย่างนอ้ ย 60 นาที หลกี เลย่ี งการออกกาํ ลงั กายทห่ี กั โหม 3. เน่ืองจากผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพในกลมุ่ เสมหะช้นื มกั มลี กั ษณะนิสยั อ่อนโยน เฉ่ือยชา ดงั นนั้ การปรบั สมดุลอารมณจ์ งึ ควรเลอื ก การฟงั เพลง ชมภาพยนตร์ หรือทาํ กิจกรรมท่มี ลี กั ษณะร่ืนเริงและ กระฉบั กระเฉง เพอ่ื กระตนุ้ ใหม้ ไี หวพริบมากข้นึ อกี ทง้ั ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพในกลุม่ เสมหะช้นื มกั พบโรค ทเ่ี ก่ียวกบั ระบบการย่อยอาหาร (มา้ มและกระเพาะอาหาร) ซ่งึ ง่ายต่อการถูกปจั จยั อนั เกิดจากความ เครยี ดและการครุ่นคดิ ดงั นนั้ จงึ ควรรูจ้ กั ปลอ่ ยวาง 4. ผูท้ ่มี พี ้นื ฐานสุขภาพในกลุ่มเสมหะช้ืน มกั ปรบั ตวั เขา้ กบั สภาพอากาศช่วงฤดูฝนไดไ้ ม่สูด้ ี ในขณะฝนตกมกั มลี กั ษณะร่างกายอ่อนเพลยี งว่ งนอน ไมก่ ระฉบั กระเฉง จงึ ควรหลกี เลย่ี งการตากฝน หรอื อยู่ในสถานทท่ี ม่ี คี วามช้นื สูง และควรปรบั ใหภ้ ายในหอ้ งหรอื ทอ่ี ยู่อาศยั มคี วามช้นื เพยี ง 60% 5. อาหารท่เี หมาะกบั ผูท้ ่มี เี สมหะความช้ืน ควรเลอื กรบั ประทานอาหารประเภทท่มี สี รรพคุณ กระจายช่ีปอด กระตุน้ ระบบการทาํ งานของมา้ ม บาํ รุงไต สลายความช้ืน ควรเป็นอาหารท่ีมไี ขมนั ตาํ่ นาํ้ ตาลนอ้ ย แคลอรีตาํ่ และมใี ยอาหาร เป็นหลกั เช่น แตงกวา ฟกั ใบบวั ค่ึนช่าย กุยช่าย ซนั จา ผกั กาดขาว ขา้ วโอต๊ ถวั่ งอก หวั ผกั กาด (ไชเทา้ ) แหว้ สาหร่าย แมงกะพรุน หอมใหญ่ ผลปี๋ผา เหด็ ลูกเดอื ย ผกั กะหลาํ่ ปลี ถวั่ แดง พรกิ - ใบชา มสี รรพคุณช่วยลดโคเลสเตอรอล และไขมนั ชนิดกลาง (neutral fat) ช่วยลดความ ดนั โลหติ ป้องกนั โรคหวั ใจ และลดความอว้ น - เน้ือกระตา่ ย มโี ปรตนี สูง มธี าตเุ หลก็ แคลเซย่ี ม ฟอสฟอรสั สูง ไขมนั ตาํ่ โคเลสเตอรอลตาํ่
108 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 - เหด็ หหู นู มไี ขมนั ตาํ่ มใี ยอาหารมาก มเี กลอื สารอนนิ ทรยี ม์ าก มอี งคป์ ระกอบเป็นโพลแิ ซค็ คาไรด์ ช่วยลดโคเลสเตอรอลและลดความอว้ น - ซนั จา มสี รรพคณุ ช่วยใหเ้ลอื ดไหลเวยี นดขี ้นึ สลายเลอื ดคงั่ ช่วยย่อย ลดไขมนั ในเลอื ด ลด ความดนั โลหติ - ไหไ่ ต้ (สาหร่าย Laminaria japonica) ช่วยละลายเสมหะ สลายกอ้ นใหน้ ่มิ ลง ขบั ปสั สาวะ มใี ยอาหารซง่ึ มไี ขมนั ตาํ่ ใหแ้ คลอรนี อ้ ย - หน่อไม้ มไี ขมนั ตาํ่ มสี รรพคณุ ทะลวงหลอดเลอื ด สลายเสมหะ ช่วยย่อย ขบั ปสั สาวะ ลดความอว้ น - หวั ผกั กาด มสี าร Choline มปี ระโยชนใ์ นผูท้ อ่ี ว้ น โดยช่วยลดความดนั เลอื ดและไขมนั - แตงกวา ช่วยลดไขมนั ลดความอว้ น ช่วยขบั ถา่ ย มโี พแทสเซย่ี มคลอไรดช์ ่วยขบั ปสั สาวะ - ควรเล่ยี งอาหารท่ีมรี สหวาน มนั เค็ม เช่น ขนมเคก้ ขนมหวาน ทบั ทิม พุทราจีน สม้ โอ เน้ือสตั วต์ ดิ มนั งดการดม่ื สุรา เมอ่ื รบั ประทานอาหารควรรบั ประทานชา้ ๆ และไมอ่ ม่ิ จนเกนิ ไป โภชนบาํ บดั : - ฝูหลงิ (FuLing: 茯苓) มสี รรพคุณ ขบั นาํ้ สลายความช้นื กระตนุ้ ระบบการทาํ งานของมา้ ม สลายเสมหะ สงบเสิน จากการวจิ ยั พบว่า ฝูหลงิ สามารถกระตุน้ ระบบภูมคิ ุม้ กนั มฤี ทธ์ิในการขบั ไอออนของโพแทสเซยี ม โซเดยี มและคลอไรดข์ องร่างกายออกทางปสั สาวะได้ ลดการตน่ื ตวั ของร่างกาย ปกป้องตบั ลดการเกดิ การอกั เสบตดิ เช้อื ลดนาํ้ ตาลในเลอื ด ป้องกนั รงั สที ก่ี ระทบร่างกาย ตาํ รบั อาหารท่ใี ชฝ้ ูหลงิ เป็นสว่ นประกอบ สว่ นประกอบ : ฝูหลงิ (บดเป็นผง) 50 กรมั เน้ือไก่สบั ละเอยี ด พอประมาณ ขงิ สด พรกิ ไทยและเกลอื พอประมาณ วิธกี ารทาํ : นาํ ส่วนผสมทงั้ หมดคลุกเคลา้ เขา้ ดว้ ยกนั ปรุงแต่งรสชาตติ ามตอ้ งการ จากนน้ั นาํ มา ห่อดว้ ยแป้งเกยี๊ ว นาํ ไปตม้ ใหส้ ุก สามารถรบั ประทานไดบ้ อ่ ย โดยอาหารสูตรน้ีเหมาะสาํ หรบั ผูท้ จ่ี ดั อยู่ใน กลมุ่ มา้ มและกระเพาะอาหารพร่อง เสมหะช้นื ปิดกนั้ มา้ ม - ลกู เดอื ย (อ้อี เ่ี หรนิ : YiYiRen: 薏苡仁) มสี รรพคณุ ขบั ปสั สาวะ ลดอาการบวม กระตุน้ ระบบการทาํ งานของมา้ ม สลายความช้นื คลายเสน้ ระบายความรอ้ น ขบั ฝีหนอง จากงานวจิ ยั พบว่า ลูก เดือยมสี รรพคุณท่ีดีในการสลายเสมหะ ขบั ความช้ืน นอกจากนนั้ ยงั เป็นพชื ท่ีอุดมสมบูรณ์ไปดว้ ย สารอาหารทม่ี ปี ระโยชนต์ ่อร่างกาย ซง่ึ ประกอบดว้ ยโปรตนี 16.2% ไขมนั 4.6% นาํ้ ตาล 79.2% ดงั นน้ั
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 109 จงึ จดั เป็นอาหารสาํ หรบั ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพในกลุม่ เสมหะช้นื สามารถรบั ประทานไดบ้ ่อย คมั ภรี เ์ ปิน่ เฉ่า กงั มู่ บนั ทกึ วธิ กี ารปรุงอาหารดว้ ยลูกเดอื ย ดงั น้ี ใชล้ ูกเดอื ย 50 กรมั และ ขา้ วจงิ หม่ี 200 กรมั นาํ มา ตม้ รวมกนั ใชร้ บั ประทานแทนขา้ ว ตาํ รบั อาหารท่ใี ชล้ ูกเดือยเป็นสว่ นประกอบ สว่ นประกอบ : ลูกเดอื ย 20 กรมั เมลด็ ฟกั 30 กรมั ขา้ วจงิ หม่ี 100 กรมั หมายเหตุ : ปกตกิ ารปลูกขา้ วจะใชว้ ธิ กี ารปลอ่ ยนาํ้ เขา้ นาใหท้ ่วมรากของตน้ ขา้ ว แต่ขา้ วจงิ หม่ี คอื ขา้ วชนดิ หน่งึ ทข่ี น้ั ตอนในการปลูกขา้ วไมไ่ ดม้ กี ารปลอ่ ยใหน้ าํ้ เขา้ มาท่วมรากขา้ ว โดยขา้ วและขา้ วจงิ หมน่ี นั้ ลว้ นมสี รรพคุณในการบาํ รุงมา้ ม แต่ขา้ วจะมสี รรพคุณในการขบั ปสั สาวะดว้ ย ซ่งึ ขา้ วจงิ หม่จี ะ ไม่มสี รรพคุณน้ี ปจั จุบนั ขา้ วจิงหมห่ี าซ้อื ไดย้ าก จงึ มกี ารนาํ ซานจามาใชแ้ ทน - ซนั จา (ShanZha: 山楂) มสี รรพคุณ สลายอาหารทต่ี กคา้ งในร่างกาย โดยเฉพาะช่วยยอ่ ย สลายอาหารทเ่ี ป็นประเภทเน้อื สตั วแ์ ละไขมนั สามารถนาํ มาทาํ เป็นชาชงดม่ื ตาํ รบั ชาชงท่มี ซี นั จาเป็นสว่ นประกอบ สว่ นประกอบ : ซนั จา 300 กรมั กนั เหอเย่ (ใบบวั แหง้ ) 100 กรมั ลูกเดอื ย 50 กรมั กนั เฉ่า 30 กรมั วธิ กี ารทาํ : นาํ สว่ นประกอบทเ่ี ตรยี มไวม้ าบดละเอยี ด ผสมใหเ้ขา้ กนั จากนนั้ นาํ มาแบง่ ออกเป็น 10 ห่อ เทา่ ๆ กนั รบั ประทาน โดยการนาํ มาชงนาํ้ ดม่ื วนั ละ 1 หอ่ จุดฝงั เข็ม : จุดฝงั เขม็ ท่มี สี รรพคุณในดา้ นการสลายเสมหะ ขบั ความช้ืน เช่น FengLong (ST 40) ZhongWan (CV 12) ZuSanLi (ST 36) YinLingQuan (SP 9) โดยสามารถกระตนุ้ จดุ ดว้ ยการกดนวดดว้ ยตนเอง หรอื การฝงั เขม็ ตาํ รบั ยา : 1) ตาํ รบั เออ้ รเ์ ฉินทงั (二陈汤) ตวั ยาในตาํ รบั :
110 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 ปนั้ เซย่ี (半夏) ฝูหลงิ (茯苓) เฉินผี (陈皮) กนั เฉ่า (จ้อื ) [甘草 (制)] อูเหมย (乌梅) เซงิ เจยี ง (生姜) สรรพคุณ : ขจดั ความช้ืน ละลายเสมหะ ปรบั สมดุลช่ีส่วนกลาง ใชร้ กั ษาโรคท่มี คี วามช้ืนและ เสมหะ ซ่งึ แสดงออกโดยมอี าการไอ มเี สมหะมากสขี าว แน่นหนา้ อก อดึ อดั คลน่ื ไสอ้ าเจยี น วงิ เวยี น ศีรษะ ใจสนั่ ล้นิ ช่มุ มฝี ้าขาว ชพี จรลน่ื (HuaMai) ตาํ รบั ยาน้สี ามารถเพม่ิ หรอื ลดขนาดยา ใหเ้หมาะสมกบั ผูป้ ่วยโรคหลอดลมอกั เสบ กระเพาะ อาหารอกั เสบ ซง่ึ เกดิ จากเสมหะช้นื 2) ตาํ รบั อ้กี งสา่ น (异功散) ตวั ยาในตาํ รบั : เหรนิ เซนิ (人参) เฉินผี (陈皮) ฝูหลงิ (茯苓) เซงิ เจยี ง (生姜) ไป๋จู๋ (白术) ตา้ เจ่า (大枣) กนั เฉ่า (จ้อื ) [甘草(制)] สรรพคุณ : บาํ รุงช่ี กระตุน้ การทาํ งานของมา้ ม กระตนุ้ การไหลเวยี นของช่ี สลายช่ตี ิดขดั โดย ผูป้ ่วยมอี าการรบั ประทานอาหารไดน้ อ้ ย อจุ จาระเหลว แน่นหนา้ อก หรอื อาเจยี น ถ่ายเหลว 3) ตาํ รบั ล่วิ จฺวนิ จ่อื ทงั (六君子汤) ตวั ยาในตาํ รบั : เหรนิ เซนิ (人参) ไป๋จู่ (白术) ฝูหลงิ (茯苓) เซงิ เจยี ง (生姜) กนั เฉ่า (甘草) ตา้ เจ่า (大枣) เฉินผี (陈皮) ปนั้ เซย่ี (半夏) สรรพคุณ : บาํ รุงช่ี กระตนุ้ การทาํ งานของมา้ ม สลายความช้นื ขบั เสมหะ ใชใ้ นผูป้ ่วยทจ่ี ดั อยู่ใน กลมุ่ มา้ มและช่พี ร่อง มเี สมหะและความช้นื อดุ กนั้ ภายใน 4) ตาํ รบั เซียงซาล่วิ จฺวนิ จอ่ื ทงั (香砂六君子汤) ตวั ยาในตาํ รบั : เหรนิ เซนิ (人参) ไป๋จู่ (白术) ฝูหลงิ (茯苓) เซงิ เจยี ง (生姜) กนั เฉ่า (甘草) ตา้ เจ่า (大枣) เฉินผี (陈皮) ปน้ั เซย่ี (半夏) มเู่ ซยี ง (木香) ซาเหรนิ (砂仁) สรรพคณุ : บาํ รุงช่ี กระตนุ้ การทาํ งานของมา้ ม กระตนุ้ การไหลเวยี นของช่ี ขบั เสมหะ ใชส้ าํ หรบั ผูป้ ่วยทจ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ ช่ขี องมา้ มและกระเพาะอาหารพร่อง มเี สมหะและช่อี ดุ กน้ั ภายใน
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 111 หมายเหตุ : ตาํ รบั อ้กี งส่าน ตาํ รบั ลว่ิ จวฺ นิ จ่อื ทงั และตาํ รบั เซยี งซาลว่ิ จวฺ นิ จ่อื ทงั ลว้ นมพี ้นื ฐานมา จากตาํ รบั ซ่อื จฺวนิ จ่อื ทงั ซ่งึ มสี รรพคุณในการบาํ รุงช่ี กระตุน้ การทาํ งานของมา้ ม ดงั นนั้ ทง้ั 3 ตาํ รบั ขา้ งตน้ จงึ มสี รรพคณุ ในการบาํ รุงช่ี กระตนุ้ การทาํ งานของมา้ มเช่นกนั - ตาํ รบั อ้กี งสา่ น เพม่ิ ตวั ยาเฉินผี ซง่ึ เพม่ิ สรรพคุณในการกระตนุ้ การไหลเวยี นของช่ี สลายช่ี ตดิ ขดั เหมาะสาํ หรบั กลมุ่ อาการช่ขี องมา้ มและกระเพาะอาหารพร่อง ช่ตี ดิ ขดั - ตาํ รบั ล่วิ จวินจ่ือทงั เพม่ิ ตวั ยาปน้ั เซย่ี และเฉินผี ซ่งึ เพม่ิ สรรพคุณในการปรบั สมดุลกระเพาะ อาหาร สลายความช้นื เหมาะสาํ หรบั กลมุ่ อาการมา้ มและกระเพาะอาหารช่พี ร่อง เสมหะช้นื อดุ กน้ั ภายใน - ตาํ รบั เซียงซาล่วิ จวนิ จ่อื ทงั เพม่ิ ตวั ยาปนั้ เซย่ี เฉินผี มเู่ ซยี ง และซาเหรนิ ซง่ึ เพม่ิ สรรพคณุ ใน การปรบั สมดุลกระเพาะอาหาร กระตนุ้ การไหลเวยี นของช่ี ขบั เสมหะ เหมาะสาํ หรบั กลมุ่ อาการมา้ มและ กระเพาะอาหารช่พี ร่อง เสมหะช้นื อดุ กน้ั ภายใน ช่ตี ดิ ขดั 6. Type F : กลมุ่ รอ้ นช้ืน (ShiRe : 湿热) ลกั ษณะโดยรวม : ความรอ้ นช้นื สะสมภายใน ลกั ษณะเด่น คอื หนา้ หมองและมนั วาว ปากขม ฝ้าล้นิ เหลอื งเหนยี ว เป็นตน้ ลกั ษณะรูปรา่ ง : มรี ูปร่างปานกลาง หรอื ค่อนขา้ งผอมบาง อาการแสดง : หนา้ หมองและมนั วาว งา่ ยต่อการเกดิ สวิ ปากขมปากแหง้ ร่างกายหนกั อ่อนลา้ อุจจาระเหนียวหนืด ถ่ายไม่คล่องหรือแหง้ แขง็ ปสั สาวะนอ้ ยและมสี เี หลอื งเขม้ ในเพศชายบริเวณถงุ อณั ฑะจะอบั ช้นื ในเพศหญงิ ตกขาวจะมปี ริมาณมากข้นึ ล้นิ ค่อนขา้ งแดง มฝี ้าเหลอื งเหนียว ชพี จรลน่ื และเรว็ (HuaShuMai) สภาวะจติ ใจ : หงดุ หงดิ กระวนกระวาย ใจรอ้ น แนวโนม้ การเกดิ โรค : งา่ ยต่อการเกดิ แผลหนอง ดซี ่าน ปสั สาวะแสบขดั รอ้ น เป็นตน้ ความสามารถในการปรบั ตวั ตอ่ สภาวะแวดลอ้ ม : ช่วงปลายฤดูรอ้ นตน้ ฤดูฝน ทม่ี อี ากาศรอ้ นช้นื จะยากต่อการปรบั ตวั ขอ้ แนะนํา : 1. ลกั ษณะอารมณข์ องผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพในกลุม่ รอ้ นช้ืน เป็นคนท่รี ่าเรงิ เบกิ บาน เปิดเผย แต่มกั มอี ารมณ์ฉุนเฉียวงา่ ย ดงั นน้ั จงึ ควรเรยี นรูว้ ธิ กี ารควบคุมอารมณ์ เช่น การเลย่ี งจากสถานการณ์ ทก่ี ระตนุ้ อารมณ์ แบง่ ปนั เร่อื งราวไมส่ บายใจใหค้ นรอบขา้ ง หรอื ทาํ กจิ กรรมทช่ี ่วยพกั ผ่อนหย่อนใจ
112 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 2. ท่อี ยู่อาศยั ของผูท้ ่มี พี ้นื ฐานสุขภาพในกลุ่มรอ้ นช้ืน ควรมลี กั ษณะท่ปี ลอดโปร่ง และแหง้ อยู่ เสมอ ไมค่ วรมลี กั ษณะทอ่ี บั ช้นื ควรนอนใหเ้ป็นเวลาและเพยี งพอ หากเป็นในช่วงฤดูรอ้ นทม่ี ชี ่วงกลางวนั ยาว ควรปรบั การนอนใหเ้ขา้ นอนชา้ ลงและตน่ื เชา้ ข้นึ และหลกี เลย่ี งการตากแสงแดดเป็นเวลานาน 3. การออกกาํ ลงั กาย ควรเลอื กการออกกาํ ลงั กายทต่ี อ้ งใชก้ าํ ลงั มาก เช่น การวง่ิ ระยะยาว วา่ ย นาํ้ ปีนเขา ฟตุ บอล บาสเกต็ บอล เป็นตน้ เพอ่ื เป็นการเผาผลาญพลงั งานในร่างกาย ขบั สารนาํ้ สว่ นเกนิ 4. เน่ืองจากผูท้ จ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ น้ี มปี จั จยั ความช้นื เป็นสาเหตดุ ว้ ย ซง่ึ ความช้นื จะมลี กั ษณะหนกั ขุ่น สกปรก เป็นนาํ้ ไหลลงท่ีตาํ่ ขงั อยู่ตามส่วนล่างของร่างกาย และมกั พบโรคท่ีบริเวณอวยั วะเพศ ดงั นนั้ จงึ ควรป้องกนั การอบั ช้ืน และรกั ษาความสะอาดอยู่เสมอ ควรเลอื กกางเกงยนี สผ์ า้ ฝ้าย สามารถ ระบายอากาศไดด้ ี และหลกี เลย่ี งการใสก่ างเกงยนี สร์ ดั รูป 5. ควรเลอื กรบั ประทานอาหารท่มี รี สหวาน ฤทธ์ิเย็น เช่น ถวั่ เขยี ว แตงกวา รากบวั เป็นตน้ หรือเลอื กอาหารท่มี สี รรพคุณในการระบายความรอ้ น สลายความช้ืน เช่น ลูกเดอื ย เมด็ บวั ฟกั บวบ มะระ ผกั กาดขาว ผกั บงุ้ และควรเลย่ี งอาหารทม่ี รี สเผด็ ฤทธ์ริ อ้ น เช่น พรกิ ขงิ สด ตน้ หอม กระเทยี ม เน้ือววั เน้ือแพะ สุรา ทบั ทมิ พทุ ราจนี สม้ โอ เป็นตน้ หลกี เลย่ี งการรบั ประทานอาหารจาํ พวกหมอ้ ไฟ ของทอด ของป้ิงย่าง และควบคุมการบรโิ ภคเกลอื โภชนบาํ บดั : 1) สูตรท่ี 1 สว่ นประกอบ : ถวั่ เขยี ว 100 กรมั จนิ อนิ๋ ฮวฺ า 20 กรมั วธิ กี ารทาํ : นาํ จนิ อนิ๋ ฮวฺ ามาหอ่ ดว้ ยถงุ ผา้ ขาวบาง นาํ ถวั่ เขยี วไปตม้ จนสุก จากนนั้ ใส่จนิ อนิ๋ ฮวาตม้ ต่อจนเดอื ดอกี ครง้ั นาํ จนิ อนิ๋ ฮวฺ าออก จงึ นาํ มารบั ประทาน 2) สูตรท่ี 2 สว่ นประกอบ : ผงรากบวั 12 กรมั วิธีการทาํ : นาํ ผงรากบวั ผสมกบั นาํ้ เยน็ คนใหล้ ะลาย จากนน้ั ใส่นาํ้ ตาลทรายขาวลงไปคนใหเ้ขา้ กนั เตมิ นาํ้ รอ้ นเลก็ นอ้ ยใหพ้ ออ่นุ นาํ มาดม่ื หมายเหตุ : ผงรากบวั สามารถนาํ มาใส่เพอ่ื ตม้ นาํ้ แกงไดเ้ช่นกนั 3) สูตรท่ี 3 30 กรมั สว่ นประกอบ : อนิ เฉิน
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 113 เซงิ ตา้ หวง 6 กรมั ชาเขยี ว 10 กรมั วธิ กี ารทาํ : นาํ สมนุ ไพรทง้ั สามมาแช่นาํ้ รอ้ นดน่ื แทนชา สรรพคณุ : ระบายความรอ้ น ขบั ความช้นื ทะลวงอวยั วะกลวง จดุ ฝงั เข็ม : จดุ ฝงั เขม็ ทม่ี สี รรพคณุ ในการระบายความรอ้ น ขบั ความช้นื เช่น FeiShu (BL 13) ShangLiao (BL 31) CiLiao (BL 32) ZhongLiao (BL 33) XiaLiao (BL 34) ZhongWan (CV 12) ZuSanLi (ST 36) YinLianQuan (SP 9) โดยกระตนุ้ จดุ ดว้ ยการกดนวดดว้ ยตนเอง หรอื การฝงั เขม็ ตาํ รบั ยา : 1) ตาํ รบั ซานเหรินทงั (三仁汤) ตวั ยาในตาํ รบั : หฺวาสอื (化石) ทงเฉ่า (通草) ซง่ิ เหรนิ (杏仁) ไป๋โค่วเหรนิ (白叩仁) จูเ๋ ย่ (竹叶) อ้อี เ่ี หรนิ (薏苡仁) ปนั้ เซย่ี (半夏) โฮ่วผอ (厚朴) สรรพคณุ : ระบายความรอ้ น ขบั ความช้นื ปรบั สมดลุ ลมปราณซานเจยี ว ขอ้ ควรระวงั : ตวั ยาปน้ั เซย่ี ะมพี ษิ การจ่ายยาควรอยู่ภายใตก้ ารกาํ กบั ดูแลของแพทยจ์ นี หมายเหตุ : การจ่ายยาแก่ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพรอ้ นช้นื นน้ั กลุม่ ยาทเ่ี ลอื กใชส้ ่วนใหญ่จะเป็นยาก ลมุ่ ทม่ี ฤี ทธ์เิ ยน็ รสขม ซง่ึ มสี รรพคุณในการระบายความรอ้ น ขบั ความช้นื แกพ้ ษิ แต่ยากลุ่มน้ีสามารถ กระทบถึงการทาํ งานของมา้ ม ทาํ ใหก้ ารทาํ งานของมา้ มผิดปกติ การขบั เคล่ือนสารนํา้ ในร่างกายมี ประสทิ ธิภาพนอ้ ยลง อาจเกิดการสะสมของความช้ืนในร่างกายมากข้นึ ดงั นนั้ การเลอื กใชย้ าในกลุ่มน้ี ควรเพ่มิ ตวั ยาท่ีมฤี ทธ์ิอุ่น รสเผ็ดลงไปดว้ ย เพ่อื กระตุน้ การทาํ งานของมา้ มใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพมากข้นึ และจะสง่ ผลใหส้ ามารถขบั ความช้นื ไดด้ ยี ง่ิ ข้นึ อกี ดว้ ย 7. Type G: กลมุ่ เลอื ดคงั่ (XueYu: 血瘀) ลกั ษณะโดยรวม : เลอื ดไหลเวยี นไมค่ ลอ่ ง ลกั ษณะเด่น คอื สผี วิ หมองคลาํ้ ล้นิ มว่ งคลาํ้ เป็นตน้ ลกั ษณะรูปรา่ ง : พบไดท้ งั้ คนทร่ี ูปร่างอว้ นและรูปร่างผอม อาการแสดง : สผี วิ หมองคลาํ้ เมด็ สขี องผวิ หนงั เขม้ ข้นึ งา่ ยต่อการเกิดจาํ้ เลอื ด รมิ ฝีปากหมองซดี
114 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 ล้นิ คลาํ้ มจี ดุ จาํ้ เลอื ด หลอดเลอื ดใตล้ ้นิ มว่ งคลาํ้ หนาหยาบและขยายโต ชพี จรฝืด (SeMai) มกั พบว่ามรี มิ ฝีปาก เลบ็ ดูคลาํ้ ผวิ หนงั มรี อยจาํ้ หรือหยาบกระดา้ ง มอี าการปวดเฉพาะท่ี แบบ เขม็ ทม่ิ แทง หรอื ปวดบดิ หรอื คลาํ พบกอ้ น ใบหนา้ มฝี ้า ขอบเป้าตาคลาํ้ ปวดประจาํ เดอื น เลอื ดสคี ลาํ้ มี ล่มิ เลอื ด หรือประจาํ เดือนหยุด ล้นิ คลาํ้ หรือมจี ุดจาํ้ เลอื ดบนล้นิ หลอดเลอื ดดาํ ใตล้ ้นิ โป่ง ชีพจรฝืด (SèMài) ผลการตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั ิการประกอบการอา้ งอิง ตรวจพบการไหลเวยี นบริเวณหลอดเลอื ด ฝอยมลี กั ษณะบดิ งอ มรี ่องรอยเป็นจดุ เลอื ดคงั่ อาจพบว่าบริเวณนนั้ ขาดเลอื ดหรือมเี ลอื ดออก ความ หนืดของเลอื ดเพม่ิ ข้นึ ความดนั ในหลอดเลอื ดดาํ สูงข้นึ บรเิ วณนนั้ บวมมเี ลอื ดออกหรอื บวมนาํ้ มพี งั ผดื ภมู ติ า้ นทานลดลง หมายเหตุ : ช่ตี ดิ ขดั และการมเี ลอื ดคงั่ มกั มผี ลถงึ กนั จงึ มกั ปรากฏอาการเหลา่ น้ีร่วมกนั สภาวะจติ ใจ : หงดุ หงดิ งา่ ย ความจาํ ไมด่ ี ความสามารถในการปรบั ตวั ตอ่ สภาวะแวดลอ้ ม : ไมท่ นต่อความหนาวเยน็ แนวโนม้ การเกดิ โรค : งา่ ยต่อการเกดิ กอ้ นในร่างกาย (เจงิ เจย่ี ) โรคปวด โรคเลอื ด เป็นตน้ ในวงการแพทยย์ อมรบั ว่า การไหลเวยี นไม่คล่องของเลอื ดในหลอดเลอื ดบริเวณไกล ๆ หรือ หลอดเลอื ดฝอย จะเป็นพ้นื ฐานของพยาธสิ ภาพทท่ี าํ ใหเ้กิดโรคหลายชนิด สรุปไดว้ ่า “ช่ตี ดิ ขดั เลอื ดคงั่ ทาํ ใหเ้ป็นบ่อเกิดแห่งโรค” ซ่งึ แนวความคิดน้ีมคี ่าอย่างย่งิ ในการเตอื นใหร้ ะวงั ขณะเดยี วกนั เป็นปจั จยั สาํ คญั ของการเกดิ โรคเร้อื รงั ทร่ี กั ษายาก ในผูท้ ่ชี ่ีติดขดั มเี ลอื ดคงั่ มกั มอี าการแสดงออกถงึ ลกั ษณะเด่นไม่คล่อง เช่น ปวดศีรษะเร้ือรงั นอนไม่หลบั อาการซมึ เศรา้ หลอดเลอื ดแดงแขง็ ตวั เสน้ เลอื ดในสมองตบี เกิดอาการสมองเส่อื มจาก การขาดเลอื ด โรคหวั ใจ กลา้ มเน้ือหวั ใจขาดเลอื ด ถงุ นาํ้ ดอี กั เสบ น่ิวในถงุ นาํ้ ดี ลาํ ไสอ้ กั เสบเร้อื รงั การ ทาํ งานของลาํ ไสแ้ ปรปรวน ต่อมนาํ้ นมเพม่ิ ปรมิ าณผดิ ปกติ ปวดประจาํ เดอื น เกดิ เน้ืองอกในมดลูก หรอื เน้อื รา้ ย ขอ้ แนะนํา : 1. การปรบั สมดุลอารมณ์ หากจิ กรรมท่สี นุกสนาน สรา้ งความร่าเรงิ ใหก้ บั ตนเอง หากประสบ กบั ปญั หา ใหพ้ ยายามมองโลกในแงด่ เี สมอ 2. ควรใหค้ วามอบอ่นุ แก่ร่างกายเสมอ โดยเฉพาะบรเิ วณศีรษะ แผน่ หลงั และเทา้ หลกี เลย่ี ง
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 115 การอยู่ในหอ้ งปรบั อากาศเป็นเวลานาน หรือการถูกพดั ลมเป่าใส่โดยตรง และควรหลกี เลย่ี งการด่มื นาํ้ เยน็ หรอื นาํ้ แขง็ เป็นตน้ 3. การออกกาํ ลงั กาย ไมค่ วรออกกาํ ลงั กายอย่างหกั โหม โดยวธิ กี ารทเ่ี หมาะสมทส่ี ุดคอื การเดนิ 4. อาหารทเ่ี หมาะกบั ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานช่ตี ดิ ขดั เลอื ดคงั่ ควรรบั ประทานอาหารทม่ี สี รรพคุณในการ กระตนุ้ การไหลเวยี นของช่ี สลายเลอื ดคงั่ เช่น นาํ้ สม้ สายชูจนี (Cu: 醋) ดอกกุหลาบ สม้ จดี๊ มะละกอ เมลด็ ทอ้ ถวั่ ดาํ เหลา้ องนุ่ แดง เหลา้ เหลอื ง หอมใหญ่ ขงิ พรกิ แปะกว๊ ย กระเทยี ม ซนั จา หวั ผกั กาด สม้ ย่ีหร่า อบเชย กานพลู มะนาว สม้ โอ ชาหอม หรือนําสมุนไพรจีน เช่น จา้ งหงฮฺวา (ZangHongHua) ซานชี (SanQi) มาตม้ ในนาํ้ แกงด่มื ในปรมิ าณพอเหมาะ หรอื ด่มื ไวนเ์ ลก็ นอ้ ยก่อน เขา้ นอน ซนั จา หรอื นาํ้ สม้ (กรด) ช่วยลดไขมนั และลดความหนืดในเลอื ด 5. ขอ้ หา้ ม ไมค่ วรรบั ประทานอาหารรสเคม็ ไมค่ วรใสผ่ งชูรส เลย่ี งอาหารทม่ี ไี ขมนั สูง โภชนบาํ บดั : - ซนั จา (ShanZha: 山楂) ซนั จาไมเ่ พยี งแต่เหมาะสาํ หรบั กลมุ่ เสมหะช้นื เพราะมสี รรพคุณ ในการกระตนุ้ การทาํ งานของมา้ ม ลดโคเลสเตอรอล อกี ทง้ั ยงั มสี รรพคุณกระตนุ้ การไหลเวยี นของเลอื ด สลายเลอื ดคงั่ จากงานวจิ ยั พบวา่ ซนั จา มคี ุณสมบตั ใิ นการขยายหลอดเลอื ด และลดความดนั โลหติ ตาํ รบั การปรุงซนั จาเพอ่ื รบั ประทาน 1) ตาํ รบั ซนั จาสูตร 1 สว่ นประกอบ : ซนั จา 500 กรมั เถาเหรนิ (เมลด็ ทอ้ ) 50 กรมั นาํ้ ผ้งึ 100 กรมั วธิ กี ารทาํ : นาํ ซนั จาและเถาเหรนิ มาบดละเอยี ด คลกุ ใหเ้ขา้ กนั จากนนั้ นาํ นาํ้ ผ้งึ เทใสแ่ ละกวนให้ เขา้ กนั อกี ครงั้ ใชร้ บั ประทานวนั ละ 1 ชอ้ นโตะ๊ 2) ตาํ รบั ซนั จาสูตร 2 250 กรมั สว่ นประกอบ : ซนั จา 200 กรมั ตนั เซนิ นาํ้ ผ้งึ และนาํ้ ตาลกรวด พอประมาณ วธิ กี ารทาํ : นาํ ซนั จา ตนั เซนิ และนาํ้ ตาลกรวดมาบดละเอยี ด คลกุ ใหเ้ขา้ กนั จากนน้ั นาํ นาํ้ ผ้งึ เท ใสแ่ ละกวนใหเ้ขา้ กนั อกี ครงั้ ใชร้ บั ประทานวนั ละ 1 ชอ้ นโตะ๊
116 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 3) ตาํ รบั ซนั จาสูตร 3 สว่ นประกอบ : ซนั จา 60 กรมั นาํ้ ตาลทรายแดง พอประมาณ วธิ กี ารทาํ : นาํ ซนั จามาบดละเอยี ด นาํ มาชงกบั นาํ้ รอ้ น จากนน้ั เตมิ นาํ้ ตาลทรายแดงพอประมาณ ชงใหล้ ะลาย ดม่ื ขณะอ่นุ 4) ตาํ รบั ซนั จา สูตร 4 สว่ นประกอบ : ซนั จา และ เสย่ี วหยุ เซยี ง ปรมิ าณเทา่ กนั วิธีการทํา : นาํ ซนั จาและเส่ยี วหุยเซยี งปริมาณเท่ากนั มาบดละเอยี ดคลุกใหเ้ ขา้ กนั ตกั แบ่ง ออกมา 3 - 6 กรมั ผสมเกลอื และเหลา้ ขาวเลก็ นอ้ ยเพอ่ื ปรบั สมดุลยา ใชด้ ม่ื พรอ้ มนาํ้ อ่นุ โดยซนั จามสี รรพคุณในการกระตนุ้ การไหลเวยี นของเลอื ด และเสย่ี งหยุ เซยี งมสี รรพคุณในการ กระตนุ้ การไหลเวยี นของช่ี หมายเหตุ : 1. ไม่ควรรบั ประทานซนั จา ขณะทอ้ งว่าง เพราะจะทาํ ใหก้ ารหลงั่ ของกรดในกระเพาะอาหาร มากข้นึ และส่งผลกระทบต่อเยอ่ื บกุ ระเพาะอาหาร ทาํ ใหม้ อี าการทอ้ งอดื หรอื กรดไหลยอ้ น 2. ไมค่ วรรบั ประทานซนั จาสด โดยเฉพาะผูท้ ม่ี ปี ญั หาในการย่อยอาหาร ควรปรุงใหส้ ุกก่อน 3. ซนั จา เหมาะสาํ หรบั ผูท้ จ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ เลอื ดคงั่ โดยเฉพาะซา่ งเจยี ว (ปอดและหวั ใจ) เลอื ดคงั่ - ดอกกหุ ลาบ (MeiGuiHua: 玫瑰花) มสี รรพคณุ ในการปรบั สมดลุ ช่ี กระตนุ้ การไหลเวยี น ของเลอื ด สลายเลอื ดคงั่ ตาํ รบั การปรุงดอกกหุ ลาบเพอ่ื รบั ประทาน 1) ตาํ รบั ดอกกหุ ลาบสูตร 1 สว่ นประกอบ : ดอกกหุ ลาบตากแหง้ , นาํ้ ตาลกรวดหรอื นาํ้ ผ้งึ วิธีการทํา : นํากุหลาบตากแหง้ มาชงนํา้ รอ้ น เติมนํา้ ตาลกรวดหรือนํา้ ผ้ึงพอประมาณตาม ความชอบของ แต่ละบคุ คล หมายเหตุ : 1. ไมค่ วรชงดม่ื พรอ้ มใบชา เพราะจะส่งผลกระทบถงึ การออกฤทธ์ขิ องดอกกหุ ลาบ 2. เน่ืองจากดอกกหุ ลาบมคี ุณสมบตั ใิ นการกระตนุ้ การไหลเวยี นของเลอื ด สลายเลอื ดคงั่ สตรี มคี รรภ์ หรอื ผูม้ ปี ระจาํ เดอื นควรระมดั ระวงั ในการดม่ื
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 117 2) ตาํ รบั ดอกกหุ ลาบสูตร 2 10 กรมั สว่ นประกอบ : ดอกกหุ ลาบตากแหง้ 10 กรมั 5 กรมั ตงั กยุ หงฮวฺ า เหลา้ ขาว พอประมาณ วิธีการทาํ : นาํ ส่วนประกอบทง้ั หมดตม้ รวมกนั จนนาํ้ เดอื ด จากนน้ั กรองแยกกากออก นาํ นาํ้ ท่ี แยกกากออกแลว้ ผสมกบั เหลา้ ขาวเลก็ นอ้ ย ใชด้ ม่ื พอประมาณ หมายเหตุ : สูตรน้ีเหมาะสาํ หรบั ผูท้ จ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ เลอื ดคงั่ ทเ่ี ซย่ี เจยี ว เช่น ปวดประจาํ เดอื น เจบ็ บรเิ วณต่อมลูกหมาก เป็นตน้ - ซานชี (SanQi: 三七) มสี รรพคณุ ในการกระตนุ้ การไหลเวยี นของเลอื ด สลายเลอื ดคงั่ สูตรการปรุงซานชี ไก่ดาํ 1 ตวั สว่ นประกอบ : ตงั กยุ 15 กรมั ซานชี 5 กรมั เซงิ เจยี ง (ขงิ สด) 1 หวั วธิ กี ารทาํ : หนั่ ขงิ สดเป็นแวน่ แลว้ นาํ สว่ นประกอบทง้ั หมดใส่ลงในหมอ้ เตมิ นาํ้ ใหท้ ่วมตวั ไก่ นาํ ไปตงั้ ไฟ ตม้ จนนาํ้ เดอื ด หลงั จากนาํ้ เดอื ดแลว้ ใหน้ าํ ไปน่ึงต่ออกี 3 ชวั่ โมง จนไก่สุก นาํ มารบั ประทาน หมายเหตุ : ซานชสี ามารถนาํ มาบดเป็นผงแลว้ ผสมกบั อาหารหรอื เคร่อื งดม่ื ใชร้ บั ประทานวนั ละ 1 กรมั จดุ ฝงั เข็ม: จดุ ฝงั เขม็ ทม่ี สี รรพคณุ ในการกระตนุ้ การไหลเวยี นของเลอื ด สลายเลอื ดคงั่ เช่น ShenQue (CV 8) GeShu (BL 17) GanShu (BL 18) TaiChong (LR 3) SanYinJiao (SP6) WeiZhong (BL 40) QuChi (LI 11) โดยสามารถกระตนุ้ ดว้ ยการกดนวดดว้ ยตนเอง หรอื การฝงั เขม็ ตาํ รบั ยา : 1) ตาํ รบั เซฺ วย่ี ฝ่ ูจูย๋ ฺวที งั (血府逐瘀汤) ตวั ยาในตาํ รบั : ชวนซฺยง (川芎) เช่อเสา (赤芍) ตงั กยุ (当归)
118 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 เถาเหรนิ (桃仁) หงฮวา (红花) หนิวซี (牛膝) ไฉหู (柴胡) เจยี๋ เกงิ (桔梗) จ่อื เขอ (枳壳) เซงิ ต้ี (生地) กนั เฉ่า (甘草) สรรพคณุ : สลายเลอื ดคงั่ กระตนุ้ การไหลเวยี นของเลอื ด กระตนุ้ การไหลเวยี นของช่ี ระงบั อาการปวด ใชร้ กั ษาอาการเลอื ดคงั่ ทท่ี รวงอก ซง่ึ มอี าการเจบ็ หนา้ อก ปวดศีรษะเร้อื รงั มอี าการปวด ลกั ษณะเหมอื นเขม็ ทม่ิ ช่ยี อ้ นกลบั สะอกึ ไมห่ ยุด รอ้ นใน หงดุ หงดิ แน่นหนา้ อก ใจสนั่ นอนไมห่ ลบั ข้ี หงดุ หงดิ โกรธงา่ ย ช่วงหวั คาํ่ มอี าการไขข้ ้นึ ล้นิ มสี แี ดงคลาํ้ หรอื มจี ดุ จาํ้ เลอื ด รมิ ฝีปากแดงคลาํ้ หรอื ขอบตาดาํ คลาํ้ ทงั้ 2 ขา้ ง ชพี จรฝืด (SèMài) หรอื ชพี จรตงึ แน่น (JǐnMài) หมายเหตุ : ตาํ รบั ยาน้สี ามารถเพม่ิ หรอื ลดขนาดยาใหเ้หมาะสม ในผูป้ ่วยทม่ี พี ยาธสิ ภาพบนเสน้ เลอื ดเล้ยี งหวั ใจ หรอื เสน้ เลอื ดทไ่ี ปเล้ยี งสมองอดุ ตนั และอกั เสบ โรคความดนั โลหติ สูง โรคตบั แขง็ ปวด ประจาํ เดอื น ประจาํ เดอื นขาดหาย รกตกคา้ งในครรภห์ ลงั การแทง้ บตุ ร และผูป้ ่วยทม่ี อี าการปวดศีรษะ เจบ็ หนา้ อกและชายโครง เน่ืองจากมชี ่อี ดุ กนั้ มเี ลอื ดคงั่ ขอ้ ควรระวงั ในการใชต้ าํ รบั ยา เสว่ะฟ่ จู ูย๋ วที งั ยาตาํ รบั น้ีมตี วั ยาทม่ี สี รรพคณุ ในการสลายเลอื ด คงั่ หลายชนดิ ดงั นน้ั ควรผา่ นการตรวจวนิ ิจฉยั ของแพทยจ์ นี ก่อนใช้ และหา้ มใชใ้ นสตรมี คี รรภ์ 8. Type H : กลมุ่ ช่ีอน้ั (QiYu : 气郁) ลกั ษณะโดยรวม : การไหลเวยี นของช่อี ดุ อนั้ ตดิ ขดั ลกั ษณะเด่น คอื จติ ใจหมน่ หมอง อดั อน้ั ตนั ใจอารมณอ์ ่อนไหวเปราะบาง คดิ มาก เป็นตน้ ลกั ษณะรูปรา่ ง : ส่วนใหญ่พบในผูท้ ร่ี ูปร่างผอม อาการแสดง : จติ ใจหมน่ หมอง อดั อน้ั ตนั ใจ อารมณอ์ ่อนไหวเปราะบาง หดหู่ ไมส่ ดใส ล้นิ แดง ซดี มฝี ้าบางขาว ชพี จรตงึ (XianMai) มกั มอี าการแน่นทรวงอก ชอบถอนหายใจ มอี าการเสยี ดชาย โครง กระเพาะอาหารและทอ้ ง เรอบ่อย มกั รูส้ กึ มสี ง่ิ ของจกุ อยู่ทค่ี อ นิสยั ไมแ่ สดงออก จติ ใจระทมทกุ ข์ อารมณ์เฉยเมย เม่ือมีอารมณ์แปรปรวนมกั ปวดทอ้ ง ทอ้ งเสีย สตรีมีอาการปวดแน่นเตา้ นมและ ทอ้ งนอ้ ย สภาวะจติ ใจ : มกั เป็นคนเก็บตวั อารมณแ์ ปรปรวน ต่นื ตระหนก หวาดระแวง แนวโนม้ การเกิดโรค : ง่ายต่อการเกิดกลุ่มอาการซมึ เศรา้ (Depression syndrome) เช่น globus hysteriocus (MeiHeQi: 梅核气), hysteria (ZangZao: 脏燥), lily disease* (BaiHeBing: 百合病), melancholia (YuZheng: 郁证)
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 119 ความสามารถในการปรบั ตวั ต่อสภาวะแวดลอ้ ม: ทนต่อสภาวะกดดนั ทางอารมณไ์ ดน้ อ้ ย ปรบั ตวั เขา้ กบั ฤดูฝนไดย้ าก * Lily disease: ancient term for neurosis characterized by mental strain, listlessness, sleeplessness, anorexia, pseudo heat and pseudo cold, bitterness in the mouth, yellow urine and rapid pulse ขอ้ แนะนํา : 1. การปรบั สมดุลอารมณ์ ควรทาํ อารมณใ์ หท้ แ่ี จ่มใสและร่าเรงิ อยู่เสมอ มองโลกในแงด่ ี สรา้ ง ความมชี วี ติ ชวี าใหแ้ ก่ตนเอง เพอ่ื ทาํ ใหช้ ่มี กี ารไหลเวยี นไดด้ ี และเพอ่ื เป็นการป้องกนั การอดุ กนั้ ของช่ี 2. ควรสรา้ งเป้าหมายใหแ้ ก่ชวี ติ และจดั ระเบยี บชวี ติ ใหด้ าํ เนินไปอย่างมคี ณุ ภาพ การจดั ระเบยี บ ชีวิตยงั เป็นการคน้ หาเป้ าหมายของตนเอง ทาํ ใหไ้ ดพ้ ิจารณาว่าตนเป็นอย่างไร การกระทาํ เช่นน้ีจะ สามารถทาํ ใหป้ รบั ตวั เขา้ กบั สงั คมได้ เรยี นรูท้ จ่ี ะรบั มอื และจดั การกบั ปญั หา สุดทา้ ยจะทาํ ใหค้ น้ พบการมี ชวี ติ อย่างมคี วามสุข 3. การออกกาํ ลงั กาย ผูท้ ่มี พี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลุ่มช่อี น้ั ส่วนใหญ่มสี าเหตมุ าจากสภาวะ อารมณท์ แ่ี ปรปรวน ทาํ ใหก้ ารเคลอ่ื นไหวของช่เี กดิ การตดิ ขดั ดงั นนั้ วธิ กี ารดูแลสุขภาพทด่ี ที ส่ี ุดคอื การ ออกกาํ ลงั กาย เพอ่ื เป็นการกระตุน้ การไหลเวยี นของชี่ และควรเลอื กการออกกาํ ลงั กายกลางแจง้ ใช้ พลงั งานมาก เพอ่ื เป็นการปลดปลอ่ ยอารมณ์ เช่น การวง่ิ ปีนเขา ว่ายนาํ้ ฟตุ บอล บาสเก็ตบอล การราํ มวยจนี เป็นตน้ 4. การรบั ประทานอาหาร ควรรบั ประทานอาหารท่มี สี รรพคุณในการกระจายช่ีปอด กระตนุ้ การไหลเวยี นของช่ี เช่น ดอกไมจ้ นี สาหร่ายทะเล ซนั จา ดอกกุหลาบ ปลา เน้ือสตั ว์ นม ถวั่ สม้ และ เปลอื กสม้ เป็นตน้ นอกจากน้ีการด่ืมไวนเ์ ลก็ นอ้ ยยงั สามารถกระตุน้ การไหลเวยี นของเลอื ดและช่ีได้ อกี ดว้ ย ควรหลกี เลย่ี งอาหารรสเผด็ กาแฟ ชาเขม้ อาหารรสมนั รสจดั เป็นตน้ โภชนบาํ บดั : 15 กรมั 1) ตาํ รบั อาหารสูตร 1 10 กรมั สว่ นประกอบ : เหด็ หูหนูขาว 24 ดอก ดอกเกก๊ ฮวย 100 กรมั ดอกมะลิ ตบั ไก่
120 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 วธิ กี ารทาํ : 1. หนั่ เหด็ หูหนูขาวเป็นช้นิ เลก็ ๆ นาํ ไปแช่นาํ้ เตรยี มใช้ 2. นาํ ดอกเกก๊ ฮวยและดอกมะลมิ าลา้ งดว้ ยนาํ้ อ่นุ ใหส้ ะอาด 3. หนั่ ตบั ไก่เป็นช้นิ บาง ๆ 4. ตงั้ ไฟตม้ นาํ้ ใหเ้ดอื ด เตมิ เหลา้ ประกอบอาหาร นาํ้ ขงิ เกลอื 5. ใสเ่ หด็ หูหนูขาวและตบั ไก่ลงไป รอจนนาํ เดอื ดอกี ครง้ั จงึ ทาํ การตกั ฟองออก 6. เมอ่ื ตบั ไก่สุกใหท้ าํ การปรุงรสอกี ครง้ั 7. นาํ ดอกเกก๊ ฮวยและดอกมะลใิ สล่ งในหมอ้ รอจนนาํ้ เดอื ด และปิดไฟ 2) ตาํ รบั อาหารสูตร 2 1 ลูก สว่ นประกอบ : มะนาว นาํ้ ตาล พอประมาณ นาํ้ ผ้งึ พอประมาณ วิธีการทํา : ฝานมะนาวเป็นแว่นบาง ๆ นาํ ไปคลุกเคลา้ กบั นาํ้ ตาล จากนนั้ ใหเ้ ก็บในภาชนะท่ี มดิ ชดิ นาํ ไปแช่ไวใ้ นตูเ้ยน็ 1 คนื การชงดม่ื ใหน้ าํ มะนาวคลกุ นาํ้ ตาล 1 - 2 แวน่ ชงกบั นาํ้ รอ้ น รอจนนาํ้ เยน็ ลงถงึ อณุ หภมู หิ อ้ งจงึ ทาํ การใส่นาํ้ ผ้งึ ชงใหล้ ะลายแลว้ ด่มื ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพกลุ่มช่อี นั้ สามารถด่มื ไดบ้ อ่ ย เน่ืองจากสูตรน้ีมสี รรพคุณในการกระจายลมปราณตบั กระตนุ้ การไหลเวยี นช่ี จุดฝงั เข็ม : จดุ ทม่ี สี รรพคณุ ในการปรบั สมดุลช่ี เช่น TanZhong (CV 17) ZhongWan (CV 12) ShenQue (CV 8) JianShi (PC 5) QiHai (CV 6) NeiGuan (PC 6) RiYue (GB 24) YongQuan (KI 1) YangLingQuan (GB 34) QiMen (EX-CA5) FeiShu (BL 13) GanShu (BL 18) สามารถกระตนุ้ โดยการกดนวดดว้ ยตนเอง หรอื การฝงั เขม็ ตาํ รบั ยา : 1) ตาํ รบั ไฉหูเจียหลงกู่หมู่ลท่ี งั (柴胡加龙骨牡蛎汤) ตวั ยาในตาํ รบั : หลงกู (龙骨) หวงฉิน (黄芩) ไฉหู (柴胡) เชยี นตนั (铅丹) เหรนิ เซนิ (人参) เซงิ เจยี ง (生姜)
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 121 กยุ้ จอื (桂枝) ฝูหลงิ (茯苓) ปน้ั เซย่ี (半夏) ตา้ หวง (大黄) หมลู ่ี (牡蛎) ตา้ เจ่า (大枣) สรรพคุณ : ปรบั สมดุล ระบายความรอ้ น ระงบั อาการหวาดผวา สงบเสนิ ใชใ้ นผูท้ ่ีมอี าการ รอ้ น ๆ หนาว ๆ แน่นหนา้ อก หงดุ หงดิ กระวนกระวาย พูดเพอ้ เจอ้ ตวั หนกั ไม่สามารถนอนตะแคง ขา้ งได้ ในปจั จบุ นั นาํ มาใชร้ กั ษาโรคลมชกั (epilepsy), Meniere's syndrome รวมไปถงึ โรคความดนั โลหติ สูงเป็นตน้ โดยจะมอี าการแน่นหนา้ อก หงดุ หงดิ กระวนกระวาย เป็นกลมุ่ อาการหลกั หมายเหตุ : เน่ืองจากตวั ยาเชยี นตนั (QianDan) เป็นตวั ยาทม่ี พี ษิ การนาํ ไปใช้ จงึ เลอื กใชย้ า ตวั อน่ื แทนทม่ี สี รรพคุณในการสงบเสนิ เช่น หลงิ ฉือสอื (LingCiShi) 2) ตาํ รบั กนั มา่ ยตา้ เจ่าทงั (甘麦大枣汤) ตวั ยาในตาํ รบั : กนั เฉ่า (GanCao) เสย่ี วมา่ ย (XiaoMai) ตา้ เจ่า (DaZao) สรรพคุณ : บาํ รุงหวั ใจ สงบเสนิ ปรบั สมดุลจงเจียว ระงบั การแปรปรวนทางจติ ใชร้ กั ษากลุ่ม อาการอินของหวั ใจพร่อง ช่ีตบั ขาดสมดุลของโรค “จา้ งจา้ ว” กล่าวคือ สติไม่อยู่กบั เน้ือกบั ตวั หดหู่ อยากรอ้ งไห้ ไม่สามารถควบคุมตวั เองได้ หงุดหงิดกระวนกระวาย นอนไม่หลบั หรืออาจพบการ ผดิ ปกตทิ างการพดู หรอื การกระทาํ หาวบอ่ ย ล้นิ แดงซดี มฝี ้านอ้ ย ชพี จรเลก็ และเรว็ (XiShuMai) 9. Type I : กลมุ่ พเิ ศษ (เทอ่ ป่ิ ง) (TeBing : 特禀) ลกั ษณะโดยรวม : เกดิ ความผดิ ปกตติ ง้ั แต่อยู่ในครรภม์ ารดา ลกั ษณะเด่น คอื เกดิ ความ ผดิ ปกตทิ างสรรี ะวทิ ยา เป็นภมู แิ พไ้ ดง้ า่ ย เป็นตน้ ลกั ษณะรูปร่าง : ผูท้ ่ีอยู่ในจาํ พวกภูมแิ พม้ กั ไม่มคี วามผดิ ปกตทิ างสรีระวทิ ยา ส่วนผูท้ ่ีไดร้ บั สารจาํ เป็นก่อนกาํ เนิดจากบดิ ามารดาไมเ่ พยี งพอ มกั เกิดความผดิ ปกตทิ างสรีระวทิ ยา หรือความพกิ าร ของร่างกาย อาการแสดง : ผูท้ อ่ี ยู่ในจาํ พวกภมู แิ พม้ กั พบอาการหอบหดื ภมู แิ พ้ คดั จมกู คนั คอ ไอ จาม เป็นตน้ ส่วนผูท้ ่เี ป็นโรคทางพนั ธุกรรม อาจเกิดเน่ืองจากบดิ ามารดาถ่ายทอด หรือพฒั นาการขณะอยู่ในครรภ์ ผดิ ปกติ หรือบคุ คลในครอบครวั มปี ระวตั กิ ารเจบ็ ป่วย ในบางรายอาจเกิดการตดิ เช้ือหรือเป็นโรคขณะ อยู่ในครรภ์ ซง่ึ ไดร้ บั การถ่ายทอดจากมารดาและส่งผลกระทบต่อพฒั นาการ ทาํ ใหเ้กิดโรคหรือเป็นโรค ขณะอยู่ในครรภ์ มกั พบการเกิดชา้ ทงั้ หา้ “อู่ฉือ” (พฒั นาการชา้ ทงั้ หา้ คอื การยนื การเดนิ การงอกของ เสน้ ผม การงอกของฟนั การหดั พดู ) การอ่อนทง้ั หา้ “อู่หย่วน” (อ่อนทงั้ หา้ คอื ศีรษะอ่อน คออ่อน แขน ขาอ่อน กลา้ มเน้ืออ่อน การพดู หรอื การเค้ยี วอาหารผดิ ปกต)ิ กระหมอ่ มปิดชา้ ลมชกั ในเดก็ เป็นตน้
122 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 ความสามารถในการปรบั ตวั ตอ่ สภาวะแวดลอ้ ม : ปรบั ตวั เขา้ กบั สง่ิ แวดลอ้ มไดย้ าก เช่น ในผูท้ ่ี จดั อยู่ในจาํ พวกภมู แิ พ้ จะงา่ ยต่อการเกดิ ภมู แิ พแ้ ละยากในการปรบั ตวั ต่อการเปลย่ี นแปลงฤดูกาล อกี ทงั้ งา่ ยต่อการกาํ เรบิ ของโรคประจาํ ตวั ขอ้ แนะนํา : 1. ผูท้ ่มี พี ้นื ฐานสุขภาพอยู่ในกลุ่มพเิ ศษน้ี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มท่มี คี วามผดิ ปกติตงั้ แต่กาํ เนิด ดงั นนั้ ในทางปฏบิ ตั จิ ะเป็นการดูแลสุขภาพของพ่อและแม่ในการวางแผนการมบี ุตร การตรวจสุขภาพ การงดเหลา้ บหุ ร่ี และระมดั ระวงั ในการรบั ประทานยา เป็นตน้ 2. ในผูท้ เ่ี ป็นภมู แิ พ้ หอบหดื ควรหลกี เลย่ี งสารก่อภมู แิ พ้ ควรจดั การทอ่ี ยู่อาศยั มกี ารถ่ายเทของ อากาศอยู่เสมอ ควรใสผ่ า้ ปิดจมกู หรอื แวน่ เมอ่ื เขา้ สูท่ ส่ี าธารณะ และหลกี เลย่ี งการเล้ยี งสตั วม์ ขี นไวใ้ นบา้ น 3. รกั ษาสภาพอารมณ์ใหร้ ่าเริงอยู่เสมอ มองโลกในแง่บวก ใหก้ าํ ลงั ใจตนเองเพ่อื สรา้ งความ มนั่ ใจ และหากจิ กรรมสรา้ งความสุข 4. ผูท้ ม่ี ภี ูมแิ พท้ างผวิ หนงั ควรหลกี เลย่ี งการรบั ประทานเน้ือสตั วท์ เ่ี ป็นส่วนหวั หรอื ส่วนขาของ สตั ว์ และพชื ตระกูลถวั่ เน่ืองจากมสี ารกระตุน้ การเกิดภูมแิ พ้ หลกี เลย่ี งการรบั ประทานอาหารรสเผ็ด เพอ่ื เป็นการป้องกนั การเกดิ ความแหง้ ความรอ้ นซง่ึ เป็นสาเหตกุ ารเกดิ ไฟภายใน 5. การออกกาํ ลงั กาย ควรหลกี เลย่ี งการออกกาํ ลงั กายในช่วงเปลย่ี นฤดู ในผูท้ เ่ี ป็นโรคหอบหดื สามารถออกกาํ ลงั กายโดยการวา่ ยนาํ้ แต่ตอ้ งมกี ารอบอ่นุ ร่างกายก่อนเสมอ โดยการอบอ่นุ ร่างกาย นอก จากการยดื กลา้ มเน้ือแลว้ ยงั สามารถเพม่ิ การวง่ิ เรว็ อยู่กบั ท่ี 30 วนิ าที สลบั หยุดพกั 60 วนิ าที ทาํ ซาํ้ 2- 3 ครงั้ จากการวจิ ยั พบวา่ การทาํ เช่นน้ีสามารถกระตนุ้ ใหร้ ่างกายหลงั่ ฮอรโ์ มนทช่ี ่วยในการขยายหลอดลม ได้ โดยหลงั จากการว่งิ แลว้ ใหม้ กี ารออกกาํ ลงั กายเบาต่ออีกซกั พกั เป็นการทาํ ใหร้ ่างกายมกี ารปรบั สมดลุ ป้องกนั การเปลย่ี นแปลงของอณุ หภมู ซิ ง่ึ อาจส่งผลกระทบต่อหลอดลม 6. การรบั ประทานอาหาร ควรหลกี เลย่ี งอาหารรสจดั ควรรบั ประทานอาหารใหค้ รบ 5 หมู่ สามารถเลอื กทานอาหารทม่ี สี รรพคุณในการบาํ รุงช่ี ปกป้องเป่ียว เช่น ขา้ วเหนียว ขา้ วโอต๊ หงจ่าว รงั นก ผกั ขม แครอท หรือสมนุ ไพรจนี เช่น หวงฉี ซนั เย่า ไท่จ่อื เซนิ เป็นตน้ ควรหลกี เลย่ี งการรบั ประทาน เน้ือววั กงุ้ ปู มะเขอื มว่ ง พรกิ ชาเขม้ ขน้ กาแฟ สุรา เป็นตน้ โภชนบาํ บดั : 1) สูตร 1 หวงฉี มสี รรพคณุ ในการบาํ รุงช่ี ปกป้องเป่ียว
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 123 วธิ กี ารทาํ : ใชห้ วงฉี 15 กรมั นาํ มาชงแทนชาดม่ื ได้ หรอื ใชห้ วงฉี 60 กรมั ตม้ กบั นาํ้ 300 มลิ ลลิ ติ ร แลว้ แบง่ ดม่ื เชา้ -เยน็ สามารถรบั ประทานไดท้ กุ วนั นอกจากน้ีสามารถตม้ ร่วมกบั ฝางเฟิง เพอ่ื เพม่ิ สรรพคณุ ใหด้ ยี ง่ิ ข้นึ 2) สูตร 2 เหด็ หลงิ จอื มสี รรพคุณในการบาํ รุงร่างกาย เป็นยาอายุวฒั นะ วิธกี ารทาํ : นาํ เฉพาะส่วนดอกของเหด็ หลงิ จอื มาบด ชงนาํ้ รอ้ นด่มื วนั ละ 6 กรมั หรอื สามารถ รบั ประทานร่วมกบั สมนุ ไพรจ้อื โส่วอู [ShouWu(zhi): 首乌(制)] เพอ่ื เป็นการบาํ รุงตบั และไต ช่ีและ เลอื ด ทง้ั ยงั ช่วยเสรมิ สรา้ งความสามารถในการปรบั ตวั ต่อสภาพแวดลอ้ มไดอ้ กี ดว้ ย จดุ ฝงั เข็ม : ผูท้ เ่ี ป็นโรคภมู แิ พท้ างเดนิ หายใจ เลอื กใชจ้ ดุ YingXiang (LI 20) ShangYingXiang (EX-HN 8) YinTang (EX-HN 3) JingMing (BL 1) TaiYang (EX-HN 5) ผูท้ เ่ี ป็นโรคภูมแิ พท้ างผวิ หนงั เลอื กใชจ้ ดุ BaiChongWo (EX-LE 3) ZuSanLi (ST 36) GeShu (BL 17) ตาํ รบั ยา : 1) ตาํ รบั การรกั ษาโรคภมู แิ พท้ างเดินหายใจ นาํ สมนุ ไพรเออ๋ ปู้สอื เฉ่า 100 กรมั แช่กบั แอลกอฮอล์ 75% ในขวดแกว้ ทส่ี ะอาด นาน 10 วนั วธิ กี ารใช้ : นาํ สารละลายทไ่ี ดม้ าหยดลงในโพรงจมกู ครง้ั ละ 4 - 5 หยด วนั ละ 3 - 4 ครงั้ หยดสลบั ซา้ ยขวาวนั ละขา้ ง 2) ตาํ รบั การรกั ษาโรคผิวหนงั อกั เสบ นาํ สมนุ ไพรเจนิ จูหมู่ 20 กรมั ปิงเพย่ี น 2 กรมั มาบดละเอยี ด คลกุ เคลา้ ใหเ้ขา้ กนั วธิ กี ารใช้ : นาํ ผงสมนุ ไพรทไ่ี ด้ โรยลงบนสว่ นผวิ หนงั ทอ่ี กั เสบ หากสว่ นผวิ หนงั บรเิ วณทอ่ี กั เสบ แหง้ ใหน้ าํ ผงสมนุ ไพรไปผสมกบั นาํ้ มนั glycerine ก่อน แลว้ ทาลงบนบรเิ วณทอ่ี กั เสบ 3) ตาํ รบั ยวผ่ี งิ เฟิ งสา่ น (YuPingFengSan: 玉屏风散) ตวั ยาในตาํ รบั : หวงฉี (HuangQi) ไปจู๋ (BaiZhu) ฝางเฟิง (FangFeng) สรรพคุณ : เพม่ิ ช่ี เสรมิ ภูมคิ ุม้ กนั ระงบั เหงอ่ื ใชใ้ นผูป้ ่วยท่มี รี ่างกายอ่อนแอ ภูมคิ ุม้ กนั ตาํ่ แพ้ อากาศ เป็นหวดั งา่ ย เหงอ่ื ออกเอง หนา้ ซดี ขาว กลวั ลม ล้นิ ซดี มฝี ้าขาว ชพี จรลอยอ่อน (RúMài)
124 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 นอกจากนน้ั ยาตาํ รบั น้สี ามารถนาํ ไปประยุกตใ์ ชเ้ป็นโภชนบาํ บดั ดว้ ยการตม้ เป็นขา้ วตม้ ได้ โดย มสี ว่ นประกอบดงั น้ี หวงฉี 480 กรมั ไป๋จู๋ 240 กรมั ฝางเฟิง 240 กรมั เจยี๋ เก่งิ 120 กรมั กนั เฉ่า 60 กรมั (ปรมิ าณดงั กลา่ วเป็นปรมิ าณทใ่ี ชต้ ่อ120 วนั ) ขา้ ว 20 กรมั (ปรมิ าณต่อหน่งึ วนั ) วิธีการทํา : นาํ สมนุ ไพรทงั้ หมดไปอบแหง้ แต่ควรระวงั ไม่ใหไ้ หม ้ หลงั จากนน้ั นาํ สมนุ ไพร ทงั้ หมดมาบดละเอยี ด คลกุ เคลา้ ใหเ้ขา้ กนั นาํ ไปเกบ็ ไวใ้ นภาชนะทแ่ี หง้ และมฝี าปิดสนทิ จากนน้ั นาํ ขา้ วมาลา้ งทาํ ความสะอาด เตมิ นาํ้ 400 มล. นาํ ไปตม้ ดว้ ยไฟแรงจนเดอื ด แลว้ ลด เหลอื ไฟอ่อน ตม้ ต่ออกี 20 นาที ระวงั ไมใ่ หล้ น้ หรอื ไหม ้ ควรเปิดฝาคนเป็นครงั้ คราว เปิดไฟแรงตม้ อกี 3 นาทแี ลว้ ปิดไฟ แลว้ นาํ ผงสมนุ ไพรมาใสป่ รมิ าณ 20 กรมั คนใหเ้ขา้ กนั แลว้ ปิดฝาท้งิ ไว ้ 5 นาที หมายเหตุ :เพอ่ื เป็นการเพม่ิ ภมู คิ มุ้ กนั ควรรบั ประทานตดิ ต่อกนั 120 วนั ในช่วงการเปลย่ี นแปลงของฤดู หลกั การวเิ คราะห์ วิธีการ : ตอบคาํ ถามในแบบสอบถามตารางการแบ่งแยกและวเิ คราะหล์ กั ษณะพ้นื ฐานของ ร่างกาย โดยศาสตรก์ ารแพทยแ์ ผนจนี (เอกสารแนบ) ซง่ึ คาํ ถามแต่ละขอ้ จะแบ่งการใหค้ ะแนนออกเป็น หา้ ลาํ ดบั การรวมคะแนนแบ่งออกเป็นคะแนนดบิ และคะแนนคาํ นวณ ซ่งึ อา้ งองิ จากมาตรฐานการ วเิ คราะหแ์ ยกแยะพ้นื ฐานสุขภาพของร่างกาย คะแนนดิบ = คะแนนรวมจากหวั ขอ้ ย่อยในแต่ละกลมุ่ คะแนนคาํ นวณ = [(คะแนนดบิ – จาํ นวนหวั ขอ้ ย่อย) / (จาํ นวนหวั ขอ้ ย่อย × 4)] × 100 มาตรฐาน : กลมุ่ สมดลุ (PingHe:平和) จดั เป็นลกั ษณะพ้นื ฐานของร่างกายทป่ี กติ สว่ นทเ่ี หลอื อกี แปดกลมุ่ นน้ั จดั เป็นลกั ษณะพ้นื ฐานของร่างกายท่ี ไม่สมดลุ มาตรฐานการวเิ คราะหม์ ดี งั ตารางต่อไปน้ี
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 125 ตารางแสดงมาตรฐานการวเิ คราะหล์ กั ษณะพ้นื ฐานของร่างกาย พ้นื ฐานรา่ งกาย ดชั นีช้ีวดั สรุปผล คะแนนคาํ นวณ ≥ 60 คะแนน ใช่ กลมุ่ ไมส่ มดลุ คะแนนคาํ นวณ < 30 คะแนน ถอื วา่ ใช่ กลมุ่ สมดลุ คะแนนคาํ นวณ ≥ 60 คะแนน (มแี นวโนม้ ) กลมุ่ ไมส่ มดลุ คะแนนคาํ นวณ < 40 คะแนน ไมใ่ ช่ ไมส่ อดคลอ้ งต่อดชั นีขา้ งตน้ ใช่ มแี นวโนม้ คะแนนคาํ นวณ ≥ 40 คะแนน ไมใ่ ช่ กลมุ่ ไม่สมดลุ คะแนนคาํ นวณ 30-39 คะแนน คะแนนคาํ นวณ < 30 คะแนน ตวั อย่างการวเิ คราะห์ ตวั อย่างท่ี 1: นาย ก ไดค้ ะแนนคาํ นวณจากการตอบแบบสอบถามดงั น้ี กลมุ่ สมดลุ 75 คะแนน กลมุ่ ช่ีพรอ่ ง 56 คะแนน กลมุ่ หยางพร่อง 27 คะแนน กลมุ่ อนิ พร่อง 25 คะแนน กลมุ่ เสมหะช้นื 12 คะแนน กลมุ่ รอ้ นช้นื 15 คะแนน กลมุ่ เลอื ดคงั่ 20 คะแนน กลมุ่ ช่อี นั้ 18 คะแนน กลมุ่ พเิ ศษ 10 คะแนน จากตารางมาตรฐานการวิเคราะห์ ฯ ถึงแมว้ ่ากลุ่มสมดุลไดค้ ะแนนคํานวณมากกว่า 60 คะแนน แต่อกี 8 กลุ่มท่ไี ม่สมดุล มกี ลุ่มท่ไี ดค้ ะแนนคาํ นวณไม่นอ้ ยกว่า 40 คะแนน ซ่งึ กลุ่มท่ไี ด้ คะแนนคาํ นวณมากกวา่ หรอื เทา่ กบั 40 คะแนน คอื กลมุ่ ช่พี ร่อง เพราะฉะนนั้ นาย ก จึงไม่สามารถจดั อยู่ในกลุ่มสมดุล แต่ควรจดั จาํ แนกอยู่ในกลุ่มช่ีพร่อง
126 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 ตวั อย่างท่ี 2: นาย ข ไดค้ ะแนนคาํ นวณจากการตอบแบบสอบถามดงั น้ี กลมุ่ สมดลุ 75 คะแนน กลมุ่ ช่พี ร่อง 16 คะแนน กลมุ่ หยางพร่อง 27 คะแนน กลมุ่ อนิ พร่อง 25 คะแนน กลมุ่ เสมหะช้ืน 32 คะแนน กลมุ่ รอ้ นช้นื 25 คะแนน กลมุ่ เลอื ดคงั่ 10 คะแนน กลมุ่ ช่อี นั้ 18 คะแนน กลมุ่ พเิ ศษ 10 คะแนน จากตารางมาตรฐานการการวเิ คราะห์ ฯ กลมุ่ สมดุลไดค้ ะแนนคาํ นวณมากกวา่ หรอื เท่ากบั 60คะแนน และอกี 8 กลมุ่ ทไ่ี มส่ มดุล ลว้ นมคี ะแนนคาํ นวณนอ้ ยกวา่ 40 คะแนน ดงั นนั้ สามารถวเิ คราะหไ์ ดว้ ่านาย ข มลี กั ษณะพ้นื ฐานของร่างกายท่ีจดั อยู่ในกลุ่มสมดุล ทงั้ น้ีกลุ่มเสมหะช้ืนมคี ะแนนคาํ นวณระหว่าง 30-39 คะแนน จงึ สามารถวเิ คราะหไ์ ดว้ า่ พ้นื ฐานสุขภาพของร่ายกายของนาย ข มแี นวโนน้ ทจ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ เสมหะช้นื สรุปผลการวเิ คราะหด์ งั น้ี นาย ข มพี ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายจดั เป็นกลุ่มสมดุล และมแี นว โนม้ อยู่ในกลุ่มเสมหะช้ืน การประยกุ ตใ์ ช้ 1. แสดงถงึ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งปจั จยั การเกดิ โรคและลกั ษณะสุขภาพ 2. อธบิ ายกลไกการเกดิ โรค 3. อธบิ ายการเปลย่ี นแปลงทางพยาธวิ ทิ ยา 4. เป็นแนวทางในการจาํ แนกกลมุ่ อาการของโรค 5. เป็นแนวทางในการรกั ษา 6. เป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพ 1. แสดงถงึ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างปจั จยั การเกดิ โรคและลกั ษณะสขุ ภาพ ลกั ษณะสุขภาพของร่างกายจดั เป็นปจั จยั ช้ีวดั ต่อการเกิดการเจ็บป่วย การดาํ เนิน การเปลย่ี น แปลงและลกุ ลามของโรค
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 127 1.1 ความสมั พนั ธต์ ่อการเกดิ การเจบ็ ป่วยและการดาํ เนินการของโรค เช่น - ผูท้ ่มี ลี กั ษณะพ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายจดั เป็นหยางนนั้ จะง่ายต่อการถูกปจั จยั ก่อโรค ประเภท ลม ความรอ้ นอบอา้ ว และความรอ้ น เขา้ มากระทบ แต่จะทนต่อความเยน็ - ผูท้ ่มี ลี กั ษณะพ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายจดั เป็นอินนนั้ จะง่ายต่อการถูกปจั จยั ก่อโรค ประเภท ความเยน็ และความช้นื เขา้ มากระทบ แต่จะทนต่อความรอ้ น - ในเดก็ เลก็ จะง่ายต่อการเจบ็ ป่วยจากการถูกปจั จยั ก่อโรคต่าง ๆ จากภายนอก รวมทงั้ การ รบั ประทานอาหารทไ่ี มเ่ หมาะสม 1.2 ความสมั พนั ธต์ อ่ การเปล่ยี นแปลงและการลกุ ลามของโรค เช่น - เด็กเลก็ อวยั วะภายในอ่อนนุ่ม งา่ ยต่อการถูกกระทบ มกั พบการเกิดโรคไอหอบ ทอ้ งเสยี อาหารไมย่ ่อย - ผูส้ ูงอายุ ประสทิ ธภิ าพการทาํ งานของอวยั วะต่าง ๆ ลดลง มกั พบการเกดิ โรคเสมหะและสาร เหลวปฏกิ ูล โรคเบาหวาน (เซยี วเขอ่ ) โรคหลอดเลอื ดสมอง เวยี นศีรษะ ใจสนั่ - คนอว้ นหรอื ผูท้ จ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ เสมหะช้นื มกั พบการเกดิ โรคหลอดเลอื ดสมอง เวยี นศีรษะ - คนผอมหรอื ผูท้ จ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ อนิ พร่อง มกั พบการเกดิ โรควณั โรค ไอ - ผูป้ ่วยทจ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ อาการอนิ แกร่ง มกั พบการเกดิ โรค ในกลมุ่ อาการช่ตี บั ตดิ ขดั 2. อธบิ ายกลไกการเกดิ โรค กลา่ วคอื อาการแสดงและกลไกการเกิดโรคของแต่ละบคุ คลนนั้ จะข้นึ อยู่กบั พ้นื ฐานสุขภาพของ ร่างกาย เช่น ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายแขง็ แรง เจ้งิ ช่แี กร่ง จะมภี มู ติ า้ นทานทด่ี ี ซง่ึ ยากต่อการเกดิ โรค ในทางกลบั กนั ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายไม่แขง็ แรง เจ้งิ ช่พี ร่อง จะมภี ูมติ า้ นทานท่อี ่อนแอ และงา่ ยต่อการเกดิ โรค 3. อธบิ ายการเปล่ยี นแปลงทางพยาธวิ ทิ ยา 3.1 พ้นื ฐานสขุ ภาพของรา่ งกายเป็นปจั จยั สาํ คญั ตอ่ การเปลย่ี นแปลงอาการและกลไกของโรค เช่น - ผูท้ จ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ หยางแกร่งอนิ พร่อง หลงั จากไดร้ บั ปจั จยั การเกดิ โรค จะมแี นวโนม้ เกดิ โรค ในกลมุ่ อาการรอ้ น - ผูท้ จ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ อนิ แกร่งหยางพร่อง หลงั จากไดร้ บั ปจั จยั การเกดิ โรค จะมแี นวโนม้ เกดิ โรค ในกลมุ่ อาการเยน็ - ผูท้ จ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ อนิ และเลอื ดพร่อง หลงั จากไดร้ บั ปจั จยั การเกิดโรค จะมแี นวโนม้ เกิดโรค
128 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 ในกลมุ่ อาการแหง้ - ผูท้ จ่ี ดั อยู่ในกลมุ่ ความช้ืนแกร่งช่พี ร่อง หลงั จากไดร้ บั ปจั จยั การเกิดโรค จะมแี นวโนม้ เกิด โรคในกลมุ่ อาการช้นื 3.2 พ้นื ฐานสขุ ภาพของรา่ งกายเป็นปจั จยั สาํ คญั ในการกาํ หนดการพฒั นาของโรค - สามารถกาํ หนดการเกิดและพฒั นาของโรคตามการส่งผลกระทบต่อเจ้ิงช่ี เช่น หากพ้นื ฐาน สุขภาพของร่างกายแขง็ แรง เจ้งิ ช่ีสมบูรณ์ จะป่วยยาก หรือหากป่วยการพฒั นาของโรคจะนอ้ ย และมี ระยะเวลาการป่วยสน้ั สาํ หรบั ผูท้ ่มี พี ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายอ่อนแอ เจ้งิ ช่ีพร่อง จะป่วยง่าย ถา้ หาก ป่วยการพฒั นาของโรคจะรุนแรง ระยะเวลาการป่วยจะนาน และหายยาก - สามารถกาํ หนดแนวโนม้ การเกดิ และพฒั นาของโรคตามปจั จยั การก่อโรค เช่น ผูท้ ร่ี ่างกายจดั อยู่ในกลุ่มหยางแกร่งอนิ พร่อง เมอ่ื ถูกปจั จยั ต่าง ๆ เขา้ มากระทบ จะมแี นวโนม้ เกิดโรคในกลุ่มอาการ รอ้ น ซ่งึ จะจดั อยู่ในกลุม่ อาการรอ้ นแกร่งหรือรอ้ นพร่อง สาํ หรบั ผูท้ ร่ี ่างกายจดั อยู่ในกลุ่มอนิ แกร่งหยาง พร่อง เมอ่ื ถูกปจั จยั ต่าง ๆ เขา้ มากระทบ จะมแี นวโนม้ เกิดโรคในกลุ่มอาการเย็น ซ่งึ จะจดั อยู่ในกลุ่ม อาการเยน็ แกร่งหรอื เยน็ พร่อง 4. เป็นแนวทางในการจาํ แนกกลมุ่ อาการของโรค พ้นื ฐานสุขภาพร่างกายเป็นตวั กาํ หนดหรือจาํ แนกกลุ่มอาการของโรค และเป็นพ้นื ฐานสาํ คญั ในการเกดิ กลมุ่ อาการ 4.1 อาการแสดง - หากไดร้ บั ปจั จยั ก่อโรคเดียวกนั หรือเป็นโรคเดียวกนั ผูท้ ่ีมพี ้ืนฐานสุขภาพของร่างกายท่ี ต่างกนั จะมกี ารแสดงออกของโรคทต่ี ่างกนั และจดั อยู่ในกลมุ่ อาการทต่ี ่างกนั ในการแพทยแ์ ผนจนี ไดใ้ ห้ นยิ ามวา่ “โรคเหมือนกนั กลมุ่ อาการตา่ งกนั ” - หากไดร้ บั ปจั จยั ก่อโรคต่างกนั หรอื เป็นโรคท่ไี มเ่ หมอื นกนั แต่เกิดในผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพของ ร่างกายท่เี หมอื นกนั จะมกี ารแสดงออกของโรคมเี หมอื นกนั และจดั อยู่ในประเภทเดียวกนั การแพทย์ แผนจนี ไดใ้ หน้ ยิ ามวา่ “โรคต่างกนั กลมุ่ อาการเหมือนกนั ” 4.2 ในเวชปฏบิ ตั ิ การจะจาํ แนกถงึ “โรคเหมอื นกนั กลมุ่ อาการต่างกนั ” หรอื “โรคต่างกนั กลมุ่ อาการเหมอื นกนั ” นน้ั ควรยดึ พ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายเป็นหลกั โดยพ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายนนั้ สามารถกาํ หนดกลมุ่ อาการไดใ้ นเบ้อื งตน้ อกี ทงั้ ยงั สามารถเป็นหลกั ในการอา้ งองิ ทส่ี าํ คญั อกี ดว้ ย
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 129 5. เป็นแนวทางในการรกั ษา 5.1 กาํ หนดการรกั ษาตามลกั ษณะเด่นของพ้นื ฐานสขุ ภาพรา่ งกาย เช่น - ผูท้ ่ีมพี ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายในกลุ่มหยางพร่อง ง่ายต่อการไดร้ บั ปจั จยั อินต่าง ๆ เช่น ความหนาว ความช้นื กระทบ อกี ทง้ั ยงั มแี นวโนน้ การเกดิ โรคในกลมุ่ อาการความเยน็ ความช้นื การรกั ษา จงึ จาํ เป็นตอ้ งใชย้ าทม่ี รี สเผด็ ฤทธ์ริ อ้ น เพอ่ื บาํ รุงอบอ่นุ หยาง ขบั ความเยน็ หรอื ทะลวงหยาง ขบั ความช้นื - ผูท้ ่มี พี ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายในกลุ่มอนิ พร่อง งา่ ยต่อการเกิดความรอ้ นภายใน ถงึ แมว้ ่า ไดร้ บั ปจั จยั อนิ ต่าง ๆ เช่น ความหนาว ความช้นื กระทบ แต่จะมแี นวโนน้ การเกดิ โรคในกลมุ่ อาการความ รอ้ น ซง่ึ สามารถกระทบอนิ การรกั ษาจงึ จาํ เป็นตอ้ งใชย้ าทม่ี ฤี ทธ์เิ ยน็ ระบายความรอ้ นและใหค้ วามช่มุ ช้นื - ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายในกลมุ่ หยาง ส่วนใหญ่มกั เกดิ โรคในกลมุ่ อาการรอ้ นแกร่งได้ งา่ ย ควรระมดั ระวงั การใชย้ าทม่ี ฤี ทธ์ริ อ้ น เพอ่ื ป้องกนั การเผาผลาญอนิ - ผูท้ ่มี พี ้นื ฐานสุขภาพของร่างกายในกลุ่มอนิ ส่วนใหญ่มกั เกิดโรคในกลุ่มอาการเยน็ แกร่งได้ งา่ ย ควรระมดั ระวงั การใชย้ าทม่ี ฤี ทธ์เิ ยน็ เพอ่ื ป้องกนั ผลกระทบต่อหยาง 5.2 กาํ หนดขอ้ บง่ ใช้ ขอ้ หา้ ม ขอ้ ควรระวงั ในการใชย้ าและการฝงั เข็ม โดยองิ จากพ้นื ฐานสุขภาพของร่างกาย เช่น รสและฤทธ์ยิ า ปรมิ าณยา เทคนคิ การกระตนุ้ เขม็ เป็นตน้ - ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลมุ่ หยาง สามารถใชย้ าทม่ี รี สหวานฤทธ์เิ ยน็ รสเปร้ยี วฤทธ์เิ ยน็ รสเค็มฤทธ์เิ ยน็ หรือฤทธ์ิเยน็ ช่มุ ช้ืน และระมดั ระวงั ในการใชย้ าท่มี รี สเผด็ ฤทธ์ิรอ้ น ซ่งึ ก่อใหเ้กิดความ อบอ่นุ หรอื ควรระวงั ในการใชย้ าทม่ี รี สขมฤทธ์เิ ยน็ ทม่ี สี รรพคณุ ในการขบั ระบาย ซง่ึ ก่อใหเ้กดิ ความแหง้ และเผาผลาญอนิ สาเหตคุ อื ผูท้ จ่ี ดั เป็นกลมุ่ อาการหยาง อนิ ในร่างกายมกั ถูกเผาผลาญ การใชย้ ารสขม ฤทธ์เิ ยน็ อย่างไมถ่ กู ตอ้ ง จะทาํ ใหอ้ นิ ไดร้ บั ผลกระทบรุนแรง - ผูท้ ่ีมพี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลุ่มอิน สามารถใชย้ าท่ีมฤี ทธ์ิรอ้ นบาํ รุงไฟในร่างกาย และ ระมดั ระวงั ในการใชย้ าทม่ี รี สขมฤทธ์เิ ยน็ ทม่ี สี รรพคณุ ในการ ขบั รอ้ น ระบายไฟ - ผูท้ ่มี พี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลุม่ ช่พี ร่อง สามารถใชย้ าท่มี ฤี ทธ์บิ าํ รุง และระมดั ระวงั ในการ ใชย้ าทม่ี ฤี ทธ์ขิ บั กระจายออก - ผูท้ ่ีมีพ้ืนฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลุ่มเสมหะช้ืน สามารถใชย้ าท่ีมกี ล่นิ ฉุน หอมระเหย ซ่ึงมี สรรพคุณในการบาํ รุงมา้ ม และระมดั ระวงั การใชย้ าทม่ี ฤี ทธ์บิ าํ รุงอนิ - ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลมุ่ ความรอ้ นช้นื สามารถใชย้ าทม่ี ฤี ทธ์ริ ะบายรอ้ นขบั ช้นื และ ระมดั ระวงั ในการใชย้ าทม่ี ฤี ทธ์บิ าํ รุง หรอื เหนยี วขน้
130 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 - ผูท้ ่มี พี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลุ่มเลอื ดคงั่ สามารถใชย้ าท่มี ฤี ทธ์ิทะลวงช่ี กระตุน้ การไหล เวยี นเลอื ด และระมดั ระวงั ในการใชย้ าทม่ี ฤี ทธ์เิ ก็บกกั เหน่ียวรง้ั ดูดกลบั - ผูท้ ม่ี รี ่างกายแขง็ แรง สามารถจ่ายยาในปรมิ าณมาก และสามารถใชย้ าทม่ี ฤี ทธ์แิ รง - ผูท้ ม่ี รี ่างกายไมแ่ ขง็ แรง การจ่ายยาควรใชป้ รมิ าณนอ้ ย และยาทใ่ี ชค้ วรมฤี ทธ์สิ มดลุ - ผูท้ ม่ี รี ่างกายแขง็ แรง สามารถฝงั เขม็ จาํ นวนมาก และใชก้ ารกระตนุ้ ทแ่ี รงได้ - ผูท้ ม่ี รี ่างกายไมแ่ ขง็ แรง ควรฝงั เขม็ ในปรมิ าณนอ้ ย และควรใชก้ ารกระตนุ้ ทเ่ี บา - ผูท้ ร่ี ่างกายอว้ น การฝงั เขม็ ควรฝงั ลกึ กระตนุ้ ในปรมิ าณมาก และใชเ้ขม็ อ่นุ ในการรกั ษาได้ - ผูท้ ร่ี ่างกายผอม การฝงั เขม็ ควรฝงั ต้นื กระตนุ้ ในปรมิ าณนอ้ ย และหลกี เลย่ี งการใชเ้ขม็ อ่นุ 5.3 กาํ หนดการดูแลสขุ ภาพหลงั การรกั ษาตามลกั ษณะของพ้นื ฐานสขุ ภาพร่างกาย เช่น - ผูท้ ่มี พี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลุ่มหยาง หากอยู่ในช่วงการฟ้ืนฟู ควรหลกี เล่ยี งการบริโภค ของทม่ี ฤี ทธ์ริ อ้ น หรอื รสเผด็ - ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลมุ่ อนิ หากอยู่ในช่วงการฟ้ืนฟู ควรหลกี เลย่ี งการบรโิ ภคของท่ี มฤี ทธ์บิ าํ รุงเหนยี วขน้ หรอื รสเปร้ยี วฝาด ซง่ึ มฤี ทธ์ดิ ูดกลบั หนดื แน่น 6. เป็นแนวทางในการดูแลสขุ ภาพ เช่น ทางดา้ นอาหาร สุขภาพทางจติ เป็นตน้ - ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลมุ่ หยาง ควรบรโิ ภคอาหารฤทธ์เิ ยน็ และเลย่ี งอาหารฤทธ์ริ อ้ น - ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลมุ่ เยน็ ควรบรโิ ภคอาหารฤทธ์ริ อ้ น และเลย่ี งอาหารฤทธ์เิ ยน็ - ผูท้ ร่ี ูปร่างอว้ น ควรบรโิ ภคอาหารรสจดื และย่อยงา่ ย เลย่ี งอาหารรสหวาน มนั และย่อยยาก - ผูท้ ม่ี กี รดในกระเพาะอาหารค่อนขา้ งมาก ควรเลย่ี งอาหารรสเปร้ยี วและเคม็ - ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลมุ่ อนิ พร่อง ควรบรโิ ภคอาหารรสหวานฤทธ์เิ ยน็ เสริมความ ช่มุ ช้นื และเลย่ี งอาหารทเ่ี หนยี วขน้ หรอื รสเผด็ ฤทธ์ริ อ้ น - ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลมุ่ หยางพร่อง ควรบรโิ ภคอาหารทม่ี ฤี ทธ์ริ อ้ น บาํ รุง - ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลมุ่ ช่อี นั้ ควรรกั ษาสภาพจติ ใจใหส้ ดช่นื แจ่มใสอยู่เสมอ - ผูท้ ม่ี พี ้นื ฐานสุขภาพจดั อยู่ในกลมุ่ หยางพร่อง ควรเนน้ การใหก้ าํ ลงั ใจเป็นหลกั
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 131 ตารางการแบ่งและวเิ คราะหล์ กั ษณะพ้นื ฐานของรา่ งกาย ดว้ ยศาสตรก์ ารแพทยแ์ ผนจนี Type A : กลมุ่ สมดลุ (平和 : PingHe) หมายเหตุ การคาํ นวนคะแนนของหวั ขอ้ ทม่ี เี คร่อื งหมาย * จะเป็นการใหค้ ะแนนในทางกลบั กนั ดงั น้ี 15 , 24 , 33 , 42 ,51 โปรดกรอกแบบสอบถามตามความรูส้ ึกและ เลก็ ปาน บอ่ ย สมาํ่ ไมเ่ คย ประสบการณใ์ นช่วงหน่งึ ปีทผ่ี า่ นมา นอ้ ย กลาง ครงั้ เสมอ (1) คุณรูส้ กึ สดช่นื มชี วี ติ ชวี าหรอื ไม่ 12345 (2) คุณเหน่ือยงา่ ยหรอื ไม่ * 12345 (3) คุณพดู เสยี งเบาเหมอื นไมม่ แี รงหรอื ไม่ * 12345 (4) คุณรูส้ กึ หดหู่ ทกุ ขใ์ จหรอื ไม่ * 12345 (5) คุณกลวั หนาวมากกวา่ คนปกตหิ รอื ไม่ (เช่นฤดู 12345 หนาว หอ้ งแอร์ พดั ลม เป็นตน้ ) * (6) คุณสามารถปรบั ตวั ต่อธรรมชาติหรือสงั คมท่ี 12345 เปลย่ี นแปลงไดห้ รอื ไม่ (7) คุณนอนไมห่ ลบั บอ่ ยหรอื ไม่ * 12345 (8) คณุ หลงลมื งา่ ย ความจาํ ไมด่ หี รอื ไม่ * 12345 สรุปผล □ ใช่ □ มแี นวโนม้ □ ไมใ่ ช่
132 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 Type B : กลมุ่ ช่ีพร่อง (气虚 : QiXu) โปรดกรอกแบบสอบถามตามความรู ้สึกและ เลก็ ปาน บอ่ ย สมาํ่ ไมเ่ คย ประสบการณใ์ นช่วงหน่งึ ปีทผ่ี ่านมา นอ้ ย กลาง ครงั้ เสมอ (1) คณุ เหน่ือยงา่ ยหรอื ไม่ 12345 (2) คุณหายใจเรว็ สนั้ เหมอื นหายใจไมท่ นั บอ่ ย 12345 หรอื ไม่ (3) คุณใจหววิ ตน่ื ตระหนกบอ่ ยหรอื ไม่ 12345 (4) คณุ วงิ เวยี นศีรษะงา่ ยหรอื วงิ เวยี นขณะลกุ ยนื บอ่ ย 12345 หรอื ไม่ (5) คุณเป็นหวดั ไดง้ า่ ยกวา่ คนปกตหิ รอื ไม่ 12345 (6) คณุ ชอบความเงยี บสงบ เบอ่ื หน่ายกบั การพดู 12345 หรอื ไม่ (7) คุณพดู เสยี งเบา ไมม่ แี รงหรอื ไม่ 12345 (8) คณุ เหงอ่ื ออกงา่ ยหากขยบั หรอื ออกกาํ ลงั กาย 12345 หรอื ไม่ สรุปผล □ ใช่ □ มแี นวโนม้ □ ไมใ่ ช่
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 133 Type C : กลมุ่ หยางพรอ่ ง (阳虚 : YangXu) โปรดกรอกแบบสอบถามตามความรูส้ กึ และ เลก็ ปาน บอ่ ย สมาํ่ ประสบการณใ์ นช่วงหน่งึ ปีทผ่ี า่ นมา ไมเ่ คย นอ้ ย กลาง ครงั้ เสมอ (1) คุณแขนขาเยน็ งา่ ยหรอื ไม่ 12345 (2) คุณกลวั หนาวบริเวณหนา้ ทอ้ ง หลงั เอว หวั เข่า 12345 หรอื ไม่ (3) คุณกลวั หนาว หรือมกั จะใส่เส้ือผา้ หนากว่าคนอ่ืน 12345 หรอื ไม่ (4) คุณกลวั หนาวมากกว่าคนปกติหรือไม่ (เช่น ฤดู 12345 หนาว หอ้ งแอร์ พดั ลม เป็นตน้ ) (5) คณุ เป็นหวดั ไดง้ า่ ยกวา่ คนปกตหิ รอื ไม่ 12345 (6) คุณจะรูส้ กึ ไม่สบายหากทาน(ด่มื )ของเย็น หรือกลวั 12345 การทาน(ดม่ื )ของเยน็ หรอื ไม่ (7) คุณทอ้ งเสยี ง่าย หลงั จากสมั ผสั ความเย็น ทาน(ด่มื ) 12345 ของเยน็ หรอื ไม่ สรุปผล □ ใช่ □ มแี นวโนม้ □ ไมใ่ ช่
134 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 Type D : กลมุ่ อนิ พรอ่ ง (阴虚 : YinXu) โ ป ร ด ก ร อ ก แ บ บ ส อ บ ถ า ม ต า ม ค ว า ม รู ้สึก แ ล ะ เลก็ ปาน บอ่ ย สมาํ่ ไมเ่ คย ประสบการณใ์ นช่วงหน่งึ ปีทผ่ี ่านมา นอ้ ย กลาง ครง้ั เสมอ (1) คุณรูส้ กึ รอ้ นทฝ่ี ่ามอื ฝ่าเทา้ หรอื ไม่ 1 2 3 45 (2) คณุ รูส้ กึ รอ้ นทร่ี ่างกาย ใบหนา้ หรอื ไม่ 1 2 3 45 (3) คุณรูส้ กึ ผวิ หนงั หรอื รมิ ฝีปากแหง้ หรอื ไม่ 1 2 3 45 (4) คุณมรี มิ ฝีปากทแ่ี ดงกวา่ คนปกตหิ รอื ไม่ 1 2 3 45 (5) คุณทอ้ งผูกหรอื อจุ จาระแหง้ แขง็ งา่ ยหรอื ไม่ 1 2 3 45 (6) คณุ มกั จะโหนกแกม้ ทงั้ สองมสี แี ดงหรอื ค่อนขา้ งแดง 1 2 3 45 เป็นเวลาทแ่ี น่นอนหรอื ไม่ (7) คณุ รูส้ กึ ตาแหง้ หรอื ไม่ 1 2 3 45 (8) คุณรูส้ ึกปากแหง้ คอแหง้ กระหายนํา้ ตลอดเวลา 1 2 3 45 หรอื ไม่ สรุปผล □ ใช่ □ มแี นวโนม้ □ ไมใ่ ช่
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 135 Type E : กลมุ่ เสมหะช้ืน (痰湿 : TanShi) โ ป ร ด ก ร อ ก แ บ บ ส อ บ ถ า ม ต า ม ค ว า ม รู ้สึก แ ล ะ เลก็ ปาน บอ่ ย สมาํ่ ไมเ่ คย ประสบการณใ์ นช่วงหน่งึ ปีทผ่ี ่านมา นอ้ ย กลาง ครงั้ เสมอ (1) คณุ รูส้ กึ แน่นหนา้ อก หรอื ทอ้ งอดื แน่นตงึ หรอื ไม่ 1 2 3 4 5 (2) คุณรูส้ กึ เน้ือตวั หนกั ไมค่ ลอ่ งตวั หรอื ไม่ 12345 (3) คณุ มหี นา้ ทอ้ งทอ่ี ว้ นใหญ่ อ่อนนุ่มหรอื ไม่ 12345 (4) คุณมหี นา้ ผากทม่ี นั วาวเน่อื งจากความมนั หรอื ไม่ 1 2 3 4 5 (5) คุณมหี นงั ตาทบ่ี วม (นูนออกเลก็ นอ้ ย) ไดม้ ากกวา่ 12345 คนอน่ื หรอื ไม่ (6) คณุ รูส้ กึ ปากเหนยี วหรอื ไม่ 12345 (7) คุณมกั จะมเี สมหะเยอะ โดยเฉพาะในลาํ คอจะรูส้ กึ 12345 เหมอื นมเี สมหะตดิ อยู่ตลอดเวลาหรอื ไม่ (8) คุณมฝี ้าบนล้นิ ทห่ี นาเหนียว หรอื มคี วามรูส้ กึ ฝ้าหนา ๆ 12345 หรอื ไม่ สรุปผล □ ใช่ □ มแี นวโนม้ □ ไมใ่ ช่
136 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 Type F : กลมุ่ รอ้ นช้ืน (湿热 : ShiRe) โปรดกรอกแบบสอบถามตามความรูส้ กึ และ เลก็ ปาน บอ่ ย สมาํ่ ประสบการณใ์ นช่วงหน่งึ ปีทผ่ี ่านมา ไมเ่ คย นอ้ ย กลาง ครง้ั เสมอ (1) คณุ มอี าการมนั วาวทบ่ี รเิ วณใบหนา้ หรอื จมกู หรอื ไม่ 1 2 3 4 5 (2) คณุ มสี วิ ฝีหนองงา่ ยหรอื ไม่ 12345 (3) คณุ ปากขมหรอื มกี ลน่ิ ปากหรอื ไม่ 12345 (4) คุณมกั มคี วามรูส้ กึ อุจจาระเหนียวหนืดถ่ายไม่คล่อง 12345 เหมอื นถา่ ยไมส่ ุดหรอื ไม่ (5) ขณะปสั สาวะคณุ รูส้ กึ รอ้ นในทางเดนิ ปสั สาวะ และ 12345 ปสั สาวะมสี เี ขม้ ข้นึ หรอื ไม่ (6) ตกขาวของคณุ สเี หลอื งหรอื ไม่ (เฉพาะผูห้ ญงิ ) 12345 (7) คุณรูส้ กึ อบั บรเิ วณถงุ อณั ฑะหรอื ไม่ (เฉพาผูช้ าย) 12345 สรุปผล □ ใช่ □ มแี นวโนม้ □ ไมใ่ ช่
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 137 Type G : กลมุ่ เลอื ดคงั่ (血瘀 : XueYu) โปรดกรอกแบบสอบถามตามความรูส้ กึ และ เลก็ ปาน บอ่ ย สมาํ่ ประสบการณใ์ นช่วงหน่งึ ปีทผ่ี ่านมา ไมเ่ คย นอ้ ย กลาง ครงั้ เสมอ (1) คุณมรี อยฟกชาํ้ จาํ้ เลอื ดบนผวิ หนงั (เลอื ดออกใต้ 12345 ผวิ หนงั ) แบบไมท่ นั สงั เกตหรอื ไม่ (2) โหนกแกม้ ทงั้ สองของคุณมเี สน้ สแี ดง (รอยเสน้ เลอื ด 12345 ฝอย) หรอื ไม่ (3) คณุ มกี ารปวดเจบ็ บรเิ วณร่างกายหรอื ไม่ 12345 (4) คณุ สหี นา้ หมองคลาํ้ หรอื ตกกระงา่ ยหรอื ไม่ 12345 (5) คุณขอบตาดาํ งา่ ยหรอื ไม่ 12345 (6) คณุ หลงลมื งา่ ย ความจาํ ไมด่ หี รอื ไม่ 12345 (7) รมิ ฝีปากของคุณสคี ่อนขา้ งคลาํ้ หรอื ไม่ 12345 สรุปผล □ ใช่ □ มแี นวโนม้ □ ไมใ่ ช่
138 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 Type H : กลมุ่ ช่ีอน้ั (气郁 : QiYu) โ ป ร ด ก ร อ ก แ บ บ ส อ บ ถ า ม ต า ม ค ว า ม รู ้สึก แ ล ะ เลก็ ปาน บอ่ ย สมาํ่ ไมเ่ คย ประสบการณใ์ นช่วงหน่งึ ปีทผ่ี า่ นมา นอ้ ย กลาง ครงั้ เสมอ (1) คณุ รูส้ กึ หดหู่ ทกุ ขใ์ จหรอื ไม่ 12345 (2) คุณรูส้ กึ หวาดระแวง ต่นื ตระหนกงา่ ยหรอื ไม่ 12345 (3) คุณมกั จะอารมณ์อ่อนไหว เปราะบาง คิดมาก 12345 หรอื ไม่ (4) คณุ รูส้ กึ หวาดกลวั หรอื ตกใจงา่ ย หรอื ไม่ 12345 (5) คุณปวดเสียดบริเวณชายโครงหรือสีขา้ ง หรือมี 12345 อาการคดั บรเิ วณเตา้ นมหรอื ไม่ (6) คณุ มกั ถอนหายใจอย่างไมม่ สี าเหตหุ รอื ไม่ 12345 (7) คุณรูส้ กึ เหมอื นมอี ะไรจุกท่คี อหอย กลนื ไม่เขา้ คาย 12345 ไมอ่ อกหรอื ไม่ สรุปผล □ ใช่ □ มแี นวโนม้ □ ไมใ่ ช่
บทท่ี 6 ทฤษฎพี ้นื ฐานสุขภาพ 139 Type I : กลมุ่ พเิ ศษ (特病 : TeBing) โปรดกรอกแบบสอบถามตามความรูส้ กึ และ เลก็ ปาน บอ่ ย สมาํ่ ประสบการณใ์ นช่วงหน่งึ ปีทผ่ี า่ นมา ไมเ่ คย นอ้ ย กลาง ครง้ั เสมอ (1) คุณมกั จะจามทงั้ ทไ่ี มไ่ ดเ้ป็นหวดั หรอื ไม่ 12345 (2) คุณมกั จะมอี าการคดั จมกู นาํ้ มกู ไหลทง้ั ทไ่ี มไ่ ดเ้ป็น 12345 หวดั หรอื ไม่ (3) หากมกี ารเปล่ยี นแปลงของฤดูกาล อุณหภูมิ หรือ 12345 กลน่ิ แปลกปลอมคุณมกั จะมอี าการไอหอบหรอื ไม่ (4) คณุ มกั จะมอี าการแพต้ ่อ ยา อาหาร กลน่ิ ต่างๆ เกสร 12345 ดอกไม้การเปลย่ี นแปลงของฤดูกาล อณุ หภมู ิ หรอื ไม่ (5) คุณเกดิ ภมู แิ พ(้ ผน่ื คนั )บนผวิ หนงั งา่ ยหรอื ไม่ 12345 (6) คณุ ผวิ หนงั มจี าํ้ เลอื ด ซง่ึ เกดิ จากการแพห้ รอื ไม่ 12345 (7) เมอ่ื เกาผวิ หนงั ของคุณจะแดง และจะท้งิ รอยป้ืนแดง 12345 ไวห้ รอื ไม่ สรุปผล □ ใช่ □ แนวโนม้ ใช่ □ ไมใ่ ช่
140 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 บรรณานุกรม 1. ลอื ชา วนรตั น,์ ทศั นีย์ ฮาซาไนน,์ เยน็ จติ ร เตชะดาํ รงสนิ (บรรณาธกิ าร). ศาสตรก์ ารแพทยแ์ ผน จนี เบ้อื งตน้ . พมิ พค์ รง้ั ท1่ี . กรุงเทพมหานคร: สาํ นกั งานกจิ การโรงพมิ พ์ องคก์ ารทหารผา่ นศึกใน พระบรมราชูปถมั ภ,์ 2551. 2. วลิ าวณั ย์ จงึ ประเสรฐิ , ทศั นีย์ ฮาซาไนน,์ เยน็ จติ ร เตชะดาํ รงสนิ , เกา หย่งเสยี ง (บรรณาธกิ าร). พจนานุกรมศพั ทก์ ารแพทยแ์ ผนจนี (จนี -ไทย-องั กฤษ). พมิ พค์ รงั้ ท1่ี . กรุงเทพมหานคร : ชมุ นุม สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จาํ กดั , 2554. 3. วชิ ยั โชคววิ ฒั น, ชวลติ สนั ตกิ จิ รุ่งเรอื ง, เยน็ จติ ร เตชะดาํ รงสนิ (บรรณาธกิ าร). ตาํ รบั ยาจนี ทใ่ี ช้ บอ่ ยในประเทศไทย เลม่ 1. พมิ พค์ รง้ั ท่ี 3. กรุงเทพมหานคร : สาํ นกั งานกจิ การโรงพมิ พอ์ งคก์ าร ทหารผา่ นศึกในพระบรมราชูปถมั ภ,์ 2550. 4. วชิ ยั โชคววิ ฒั น, เยน็ จติ ร เตชะดาํ รงสนิ , อทุ ยั โสธนะพนั ธุ,์ จรสั ตงั้ อร่ามวงศ,์ สวา่ ง กอแสง เรอื ง และคณะ (บรรณาธกิ าร). ตาํ รบั ยาจนี ทใ่ี ชบ้ อ่ ยในประเทศไทย เลม่ 2. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 1. กรุงเทพมหานคร: สาํ นกั งานกจิ การโรงพมิ พอ์ งคก์ ารทหารผา่ นศึกในพระบรมราชูปถมั ภ,์ 2551. 5. เยน็ จติ ร เตชะดาํ รงสนิ , วชิ ยั โชคววิ ฒั น, อทุ ยั โสธนะพนั ธุ,์ นพมาศ สุนทรเจรญิ นนท,์ จรสั ตงั้ อร่ามวงศ,์ สวา่ ง กอแสงเรอื ง และคณะ (บรรณาธกิ าร). ตาํ รบั ยาจนี ทใ่ี ชบ้ อ่ ยในประเทศไทย เลม่ 3. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 1. กรุงเทพมหานคร: ชมุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทยจาํ กดั , 2553. 6. Shun GR. Basic Theory of Traditional Chinese Medicine. Vol. II. 27th ed. Beijing: China Press of traditional Chinese Medicine, 2010. 7. China Association of Traditional Chinese Medicine. Classification and Determination of Constitution in TCM. Vol. I. 1st ed. Beijing: China Press of traditional Chinese Medicine, 2009. 8. Wangqi. The nine constitutions user guide. Vol. I. 3rd ed. Beijing: China Press of traditional Chinese Medicine, 2012.
ภาคผนวก 141 ภาคผนวก 1 : รายช่ือตวั ยาจนี รายช่ือ พนิ อนิ จนี กลาง จนี แตจ้ วิ๋ ไทย เหรนิ เซนิ หยง่ิ เซยี ม โสมคน 人参 Renshen ชวนเลย่ี นจ่อื ชวนเหลย่ี งจ้ี ผลเลย่ี น 川楝子 Chuanlianzi ชวนหนวิ ซี ชวนหงฉู่ ิก Chuanniuxi ชวนซฺยง ชวงเกยี ง - 川牛膝 Chuanxiong ตา้ หวง ตวั่ องึ๊ โกฐหวั บวั 川芎 Dahuang ตา้ เจ่า ตวั่ จอ้ โกฐนาํ้ เตา้ 大黄 Dazao หน่เี จนิ จอ่ื เหนงิ เจง็ จึ พทุ ราจนี 大枣 Nuzhenzi ซนั เย่า ซวั เอยี๊ ะ 女贞子 Shanyao ไหวซ่ านเย่า ห่วยซวั เอยี๊ ะ - 山药 Huaishanyao ฮ่วยซวั 淮山药 Shanzhuyu ซานจูยหฺ วี ซวั จูยู ้ Shanyurou ซานหยูโร่ว ซวั หยูเน็ก - 山茱萸 Shanzha ซนั จา ซวั จา 山萸肉 Cheqianzi เชอเฉียนจอ่ื เชยี ไจ่จ้ี - 山楂 Danpi ตนั ผี ตงั พว้ ย ผกั กาดนาํ้ เลก็ 车前子 Mudanpi หมตู่ นั ผี โบว๋ ตวั พว้ ย เปลอื กรากโบตนั๋ 丹皮 Danshen ตนั เซนิ ตงั เซยี ม 牡丹皮 Muxiang มเู่ ซยี ง บกั เฮยี - 丹参 Niuhuang หนวิ หวง หวูอ่ งึ๊ โกฐกระดูก 木香 Niuxi หนวิ ซี หงฉู่ ิก โคโรค 牛黄 Huainiuxi ไหวหนวิ ซี ฮ่วยหวูฉ่ ิก พนั งนู อ้ ย 牛膝 Maodongqing 怀牛膝 Tianhuafen เหมาตงชงิ มอ๋ ตงั แช - 毛冬青 เทยี นฮวฺ าเฟ่ิน เทยี งฮวยฮ่งุ - 天花粉
142 การฝงั เขม็ รมยา เลม่ 5 รายช่ือ พนิ อนิ จนี กลาง จนี แตจ้ วิ๋ ไทย เทยี นหมา เทยี นมว้ั - 天麻 Tianma ไท่จอ่ื เซนิ ไท่จเึ ซยี ม - 太子参 Taizishen อู่เวย่ จ์ ่อื โหงวบจ่ี ้ี - 五味子 Wuweizi ไป๋เป่ียนโตว้ แป๊ ะเปีย๊ งเต่า เมลด็ ถวั่ แปบ 白扁豆 Baibiandou เป่ียนโตว้ เปีย๊ งเต่า 扁豆 Biandou ไป๋จู๋ แปะตกุ๊ - 白术 Baizhu ไป๋เสา แปะเจยี ก - 白芍 Baishao ไป๋เสา (เฉ่า) แปะเจยี ก (ช่า) - 白芍 (炒) Baishao (chao) ปนั้ เซย่ี ปวั้ แห่ โหราขา้ วโพด 半夏 Banxia กนั เฉ่า กาํ เช่า 甘草 Gancao กนั ซง กาํ ซง้ ชะเอมเทศ 甘松 Gansong หลงเหยย่ี นโร่ว เหลง่ งงั่ เน็ก - 龙眼肉 Longyanrou เซงิ เจยี ง แชเกยี 生姜 Shengjiang สอื เกา เจยี ะกอ เน้ือลาํ ไย 石膏 Shigao เซงิ สอื เกา แซจว่ิ กอ 生石膏 Shengshigao สอื ฉางผู่ เจย่ี ะชางโผว่ ขงิ สด Shichangpu สอื หู สอื หู 石菖蒲 Shihu สอื เจยี๋ หมงิ เจยี กกว๊ กเมง้ เกลอื จดื 石斛 Shijueming เซยี นหลงิ ผี เซยี งเหลง่ ปี๊ 石决明 Xianlingpi เซยี นเหมา เซยี งเมา้ - 仙灵脾 Xianmao เสฺวยี นเซนิ เหย่ี งเซยี ม เอ้อื งเคา้ ก่วิ Xuanshen เก็กบชี๋ วิ 仙茅 Yumixu ยวห่ี มซ่ี วี เงก็ เตก็ เปลอื กหอยเกา้ รู 玄参 Yuzhu ยวฺ จ่ี ู๋ เปียเผย่ี ง - 玉米须 Bingpian ปิงเพย่ี น ตงั กยุ 玉竹 Danggui ตงั กยุ วา่ นพรา้ ว 冰片 - 当归 หนวดขา้ วโพด - พมิ เสน ตงั กยุ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213