Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระราชกำหนดการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๔๐

พระราชกำหนดการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๔๐

Description: พระราชกำหนดการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๔๐

Search

Read the Text Version

พระราชกาํ หนด การปฏิรูประบบสถาบนั การเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๐

พระราชกาํ หนด การปฏริ ูประบบสถาบันการเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๐ ภูมพิ ลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วนั ที่ ๒๒ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็ นปี ท่ี ๕๒ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราช โองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็ นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูประบบสถาบัน การเงนิ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๑๘ ของรัฐธรรมนูญแห่ ง ราชอาณาจักรไทยจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกําหนดขึ้นไว้ ดงั ต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกําหนดนีเ้ รียกว่า “พระราชกําหนดการปฏิรูประบบ สถาบนั การเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๐” มาตรา ๒[๑] พระราชกาํ หนดนใี้ ห้ใช้บงั คบั ต้งั แต่วนั ถัดจากวนั ประกาศใน ราชกจิ จานุเบกษาเป็ นต้นไป

มาตรา ๒ ทวิ[๒] พระราชกาํ หนดนีเ้ ป็ นกฎหมายเกย่ี วกบั การจํากัดสิทธิ ในทรัพย์สินของบุคคลซ่ึงตราขึน้ โดยอาศัยอํานาจตามมาตรา ๔๘ ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๓ ในพระราชกาํ หนดนี้ “องค์การ” หมายความว่า องค์การเพอ่ื การปฏริ ูประบบสถาบนั การเงนิ “สถาบันการเงนิ ” หมายความว่า (๑) ธนาคารพาณชิ ย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณชิ ย์ (๒) บริษทั เงนิ ทุน บริษทั เงนิ ทุนหลกั ทรัพย์ หรือบริษัทเครดติ ฟองซิเอร์ ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจ เครดติ ฟองซิเอร์ “กองทุน” หมายความว่า กองทุนเพื่อการฟื้ นฟูและพฒั นาระบบสถาบัน การเงนิ ตามกฎหมายว่าด้วยธนาคารแห่งประเทศไทย “บริษทั ท่ีถูกระงับการดาํ เนินกจิ การ” หมายความว่า บริษทั เงินทุนและ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่ถูกระงับการดําเนินกิจการตามคําส่ังของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง ลงวันท่ี ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๐ และวันท่ี ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ ซ่ึงสั่งโดยอาศัยอํานาจตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจ หลกั ทรัพย์ และธุรกจิ เครดติ ฟองซิเอร์ “ผู้ฝากเงิน” หมายความว่า ผู้ฝากเงนิ ทุกประเภทของบริษัทที่ถูกระงับ การดาํ เนนิ กจิ การ และหมายความรวมถึง ผู้ถือต๋ัวสัญญาใช้เงนิ ท่ีออกเพอ่ื การก้ยู ืมหรือ รับเงนิ จากประชาชน “เจ้าหนี้” หมายความว่า เจ้าหนี้อ่ืนของบริษัทที่ถูกระงับการดําเนิน กจิ การที่มิใช่ผู้ฝากเงนิ สําหรับหนีท้ ่ีเกดิ จากการประกอบธุรกจิ เงนิ ทุนของบริษทั น้ัน “คณะกรรมการองค์การ” หมายความว่า คณะกรรมการองค์การเพอ่ื การ ปฏริ ูประบบสถาบนั การเงนิ

“กรรมการ” หมายความว่า กรรมการองค์การเพ่ือการปฏิรูประบบ สถาบนั การเงนิ “เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการองค์การเพ่ือการปฏิรูประบบ สถาบันการเงนิ “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผ้รู ักษาการตามพระราชกาํ หนดนี้ มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราช กาํ หนดนี้ หมวด ๑ องค์การเพอ่ื การปฏริ ูประบบสถาบันการเงนิ ส่วนท่ี ๑ การจดั ต้งั และเงนิ ทุน มาตรา ๕ ให้จัดต้ังองค์การของรัฐขึน้ เรียกว่า “องค์การเพ่ือการปฏิรูป ระบบสถาบันการเงนิ ” เรียกโดยย่อว่า “ปรส.” และให้เป็ นนิติบุคคล มาตรา ๖ ให้องค์การต้งั สํานักงานใหญ่ในกรุงเทพมหานคร มาตรา ๗ ให้องค์การมวี ตั ถุประสงค์เพอ่ื ดาํ เนินการกบั บริษัทเงินทุนและ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่ถูกระงับการดําเนินกิจการตามคําสั่งของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง ลงวันท่ี ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๐ และวันท่ี ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึ่งสั่งโดยอาศัยอํานาจตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจ หลกั ทรัพย์ และธุรกจิ เครดติ ฟองซิเอร์ ดงั ต่อไปนี้

(๑) แก้ไขฟื้นฟฐู านะของบริษทั ทถี่ ูกระงบั การดาํ เนินกจิ การ (๒) ช่วยเหลือผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้ที่สุจริตของบริษัทท่ีถูกระงับการ ดาํ เนินกจิ การ (๓) ชําระบัญชีบริษัทท่ีถูกระงับการดําเนินกิจการในกรณีที่บริษัท ดงั กล่าวไม่อาจดาํ เนินกจิ การต่อไปได้ มาตรา ๘ ให้องค์การมีอํานาจกระทํากิจการต่ าง ๆ ภายในขอบ วตั ถุประสงค์ขององค์การตามมาตรา ๗ อาํ นาจเช่นว่านใี้ ห้รวมถึง (๑) ถือกรรมสิทธ์ิหรือมีสิทธิครอบครองหรือมีทรัพยสิทธิต่าง ๆ สร้าง ซื้อ จัดหา ขาย จําหน่าย เช่า ให้เช่า เช่าซื้อ ให้เช่าซื้อ ยืม ให้ยืม รับจํานํา รับจํานอง แลกเปลี่ยน โอน รับโอน หรือดําเนินการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินท้ังในและนอก ราชอาณาจักร ตลอดจนรับเงนิ หรือทรัพย์สินทมี่ ีผู้มอบให้ (๒) มีเงินฝากไว้ในสถาบันการเงินตามที่คณะกรรมการองค์การเห็นว่า จําเป็ นและสมควร (๓) ซื้อ ซื้อลด หรือรับช่วงซื้อลดตราสารแสดงสิทธิในหนี้ หรือรับโอน สิทธิเรียกร้อง (๔) ก้หู รือยมื เงนิ ออกตั๋วเงนิ หรือตราสารแห่งหนี้ (๕) ออกพนั ธบัตร (๖) ให้ก้ยู ืมเงินหรือลงทุนในหลกั ทรัพย์ของรัฐบาลหรือองค์การของรัฐ หรือรัฐวสิ าหกจิ (๗) ทํากิจการท้ังปวงที่เก่ียวกับหรือเนื่องในการจัดการให้สําเร็จตาม วตั ถุประสงค์ขององค์การ มาตรา ๙ ทุนขององค์การประกอบด้วย (๑) ทุนประเดมิ ท่ีรัฐจ่ายให้เป็ นการอุดหนุน

(๒) เงนิ และทรัพย์สินทมี่ ผี ้มู อบให้ (๓) เงนิ และทรัพย์สินทตี่ กเป็ นขององค์การ (๔) ดอกผลของทรัพย์สินขององค์การ มาตรา ๑๐ ให้กําหนดทุนประเดิมขององค์การเป็ นจํานวนห้าร้อยล้าน บาท และองค์การจะได้รับเงนิ จาํ นวนนีเ้ ป็ นการอุดหนุนจากรัฐบาล ในแต่ละงวดการบัญชีหากปรากฏว่าองค์การมีผลขาดทุน ให้รัฐบาล ช่วยเหลอื ทางการเงนิ แก่องค์การตามควรแก่กรณี ส่วนท่ี ๒ คณะกรรมการองค์การและการดําเนนิ งาน มาตรา ๑๑ ให้มีคณะกรรมการคณะหนง่ึ เรียกว่า “คณะกรรมการองค์การ เพอ่ื การปฏริ ูประบบสถาบันการเงิน” ประกอบด้วย ประธานกรรมการคนหน่ึง ผู้แทน ธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้แทนกระทรวงการคลัง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจํานวน สองคน เป็ นกรรมการ และเลขาธกิ ารเป็ นกรรมการและเลขานุการ ให้ รั ฐ ม น ต รี โ ด ย ค ว า ม เ ห็ น ช อ บ ขอ ง ค ณ ะ รั ฐ ม น ต รี แ ต่ ง ต้ั ง ป ร ะ ธ า น กรรมการและกรรมการผ้ทู รงคณุ วุฒิจากผ้ทู รงคณุ วุฒภิ าคเอกชน มิให้นํามาตรา ๕ (๒) แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสําหรับ กรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๑๘ มาใช้บังคับกับการดํารงตําแหน่ง ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวฒุ ิ มาตรา ๑๒ ผู้มีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดงั ต่อไปนี้ ต้องห้ามมิให้เป็ น กรรมการผู้ทรงคณุ วุฒิ (๑) เป็ นหรือเคยเป็ นบุคคลล้มละลาย

(๒) เคยได้รับโทษจําคุกโดยคําพพิ ากษาถึงที่สุดให้จําคุก เว้นแต่เป็ นโทษ สําหรับความผดิ ทีไ่ ด้กระทําโดยประมาทหรือความผดิ ลหุโทษ (๓) เป็ นข้าราชการการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมือง กรรมการบริหาร พรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง (๔) เป็ นกรรมการหรือผู้บริหารหรือผู้มีอาํ นาจในการจัดการของสถาบัน การเงนิ (๕) เป็ นหรือเคยเป็ นลูกหนี้ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงินตาม หลกั เกณฑ์ทธ่ี นาคารแห่งประเทศไทยได้กาํ หนดไว้ มาตรา ๑๓ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตาํ แหน่งคราวละสามปี ในกรณีท่ีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่งก่อนวาระ ให้ผู้ได้รับ แต่งต้ังให้ดํารงตําแหน่งแทนอยู่ในตําแหน่งเท่ากับวาระท่ีเหลืออยู่ของกรรมการซึ่ง ได้รับแต่งต้ังไว้แล้ว เม่ือครบกาํ หนดตามวาระดงั กล่าวในวรรคหนึ่ง หากยงั มิได้มีการแต่งต้ัง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึน้ ใหม่ ให้กรรมการซ่ึงพ้นจากตําแหน่งตามวาระน้ันอยู่ใน ตาํ แหน่ง เพอ่ื ดาํ เนนิ งานต่อไปจนกว่ากรรมการซึ่งได้รับแต่งต้ังใหม่เข้ารับหน้าท่ี กรรมการผ้ทู รงคณุ วุฒิซ่ึงพ้นจากตําแหน่งตามวาระอาจได้รับแต่งต้ังอกี ได้ แต่ไม่เกนิ สองวาระติดต่อกนั มาตรา ๑๔ นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระตามมาตรา ๑๓ กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ พิ ้นจากตาํ แหน่ง เมือ่ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) รัฐมนตรีให้ออกเพราะบกพร่อง หรือไม่สุจริตต่อหน้าท่ี หรือหย่อน ความสามารถ

(๔) เป็ นบุคคลล้มละลาย (๕) เป็ นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมอื นไร้ความสามารถ (๖) ได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงท่ีสุดให้จําคุก เว้นแต่เป็ นโทษ สําหรับความผดิ ที่ได้กระทําโดยประมาท หรือความผดิ ลหุโทษ มาตรา ๑๕ การประชุมคณะกรรมการองค์การต้องมกี รรมการมาประชุม ไม่น้อยกว่ากึ่งหน่ึงของจํานวนกรรมการท้ังหมดจึงจะเป็ นองค์ประชุม ถ้าประธาน กรรมการไม่อยู่ในที่ประชุม ให้กรรมการท่ีมาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็ น ประธานในที่ประชุม การวนิ จิ ฉัยชี้ขาดของทป่ี ระชุมให้ถอื เสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มี เสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียง เพมิ่ ขนึ้ อกี เสียงหนึ่งเป็ นเสียงชี้ขาด กรรมการผู้ใดมีส่วนได้เสียเป็ นการส่วนตัวในเรื่องใด ห้ามมิให้เข้าร่วม พจิ ารณาและออกเสียงลงคะแนนในเร่ืองน้นั มาตรา ๑๖ คณะกรรมการองค์การมีอํานาจหน้าท่ีวางนโยบายและ ควบคุมดูแลโดยท่ัวไปซึ่งกิจการขององค์การภายในขอบวัตถุประสงค์ตามมาตรา ๗ อาํ นาจหน้าท่ีเช่นว่านใี้ ห้รวมถงึ (๑) กําหนดหลักเกณฑ์การเสนอและการพิจารณาแผนแก้ไขฟื้ นฟูฐานะ ของบริษทั ทถ่ี ูกระงบั การดาํ เนินกจิ การ (๒) กําหนดหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้ท่ี สุจริตของบริษทั ทถ่ี ูกระงบั การดาํ เนนิ กจิ การ (๓) กาํ หนดวธิ ีการชําระบัญชีและขายทรัพย์สินของบริษัทท่ีถูกระงับการ ดาํ เนนิ กจิ การทไ่ี ม่อาจดาํ เนินกจิ การต่อไปได้

(๔) กําหนดข้อบังคับเก่ียวกับการบริหารงานบุคคล เงินตอบแทน และ ค่าใช้จ่าย (๕) กําหนดข้อบังคับเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง การเงิน ทรัพย์สิน และ การบญั ชี รวมท้ังการตรวจสอบและสอบบญั ชีภายใน (๖) กาํ หนดข้อบงั คบั เกย่ี วกบั การบริหารงานและการดาํ เนนิ กจิ การ (๗) ปฏบิ ตั กิ ารอนื่ ใดเพอื่ ให้เป็ นไปตามวตั ถุประสงค์ของพระราชกําหนด นี้ ให้คณะกรรมการองค์การประกาศหลักเกณฑ์ตาม (๑) และ (๒) โดย เปิ ดเผย มาตรา ๑๗ ให้รัฐมนตรีแต่งต้ังและถอดถอนเลขาธิการโดยความ เหน็ ชอบของคณะรัฐมนตรี เลขาธิการต้องสามารถปฏิบัติงานเต็มเวลาให้แก่องค์การ และไม่มี ลกั ษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๒ มิให้นํามาตรา ๙ (๒) แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสําหรับ กรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๑๘ มาใช้บังคับกับการดํารงตําแหน่ง เลขาธกิ าร มาตรา ๑๘ เลขาธิการมีอํานาจหน้าท่ีดําเนินกิจการขององค์การให้ เป็ นไปตามวตั ถุประสงค์และอาํ นาจหน้าท่ีขององค์การ และตามนโยบายหรือข้อบังคบั ทค่ี ณะกรรมการองค์การกาํ หนด ในกจิ การขององค์การที่เกีย่ วกับบุคคลภายนอก ให้เลขาธิการเป็ นผู้แทน ขององค์การ และเพ่ือการนีเ้ ลขาธิการจะมอบอํานาจให้ตัวแทนหรือบุคคลใดกระทํา กิจการเฉพาะอย่างแทนก็ได้ แต่ต้องเป็ นไปตามข้อบังคับท่ีคณะกรรมการองค์การ กาํ หนด

มาตรา ๑๙ ให้กรรมการได้รับประโยชน์ตอบแทนตามทร่ี ัฐมนตรีกาํ หนด มาตรา ๒๐ เงินขององค์การให้นํามาใช้จ่ายได้เฉพาะเพ่ือดําเนินการให้ เป็ นไปตามวตั ถุประสงค์ขององค์การ และเป็ นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานขององค์การ ตามทคี่ ณะกรรมการองค์การกาํ หนด รวมท้ังค่าตอบแทนต่าง ๆ ตามหมวดนี้ หมวด ๒ การแก้ไขฟื้นฟฐู านะของบริษทั ทถี่ ูกระงบั การดําเนนิ กจิ การ มาตรา ๒๑ ให้องค์การมีหน้าท่ีดาํ เนินการแก้ไขฟื้ นฟูฐานะของบริษทั ที่ ถูกระงบั การดาํ เนินกจิ การตามบทบัญญัติในหมวดนี้ มาตรา ๒๒ ให้บริษัทท่ีถูกระงับการดําเนินกิจการเสนอแผนเพ่ือแก้ไข ฟื้นฟูฐานะต่อคณะกรรมการองค์การเพอื่ ขอความเห็นชอบ มาตรา ๒๓ เพอื่ ประโยชน์ในการแก้ไขฟื้ นฟูฐานะของบริษัทที่ถูกระงับ การดําเนินกิจการ การอนุญาต หรือการผ่อนผัน ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบ ธุรกิจเงินทุน ธุรกจิ หลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ ในเรื่องดังต่อไปนี้ แล้วแต่ กรณี ให้เป็ นอาํ นาจหน้าท่ขี องคณะกรรมการองค์การ (๑) การถือหุ้นสถาบนั การเงนิ เกนิ อตั ราที่กฎหมายกาํ หนด (๒) จาํ นวนหุ้นท่ีบุคคลผ้มู ีสัญชาติไทยถืออยู่ต่ํากว่าสามในสี่ของจํานวน หุ้นท่ีจําหน่ายได้แล้วท้ังหมดของสถาบันการเงิน และจํานวนกรรมการเป็ นบุคคลผู้มี สัญชาตไิ ทยตํ่ากว่าสามในสี่ของจํานวนกรรมการท้งั หมด (๓) การซือ้ หรือมีหุ้นในบริษัทจํากดั หรือบริษทั มหาชนจํากดั เกนิ อตั ราที่ กฎหมายกาํ หนด

(๔) การซื้อหรือมีหุ้นในสถาบนั การเงนิ อนื่ (๕) การแต่งต้ังกรรมการ ผู้จัดการ หรือพนักงาน หรือบุคคลผู้มีอาํ นาจ ในการจัดการ หรือทําสัญญาให้บุคคลอื่นมีอํานาจเด็ดขาดในการบริหารงานของ สถาบันการเงนิ มาตรา ๒๔ ให้คณะกรรมการองค์การพิจารณาแผนแก้ไขฟื้ นฟูฐานะ ของบริษัทท่ีถูกระงับการดําเนินกิจการ และให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบโดยไม่ ชักช้า ในการพิจารณาเพือ่ ให้ความเห็นชอบแผนเพื่อการแก้ไขฟื้ นฟูฐานะของ บริษัทที่ถูกระงบั การดําเนินกจิ การ ให้คณะกรรมการองค์การพิจารณาด้วยว่าบริษัทท่ี ถูกระงบั การดาํ เนนิ กจิ การจะดาํ รงเงนิ กองทุนเป็ นอัตราส่วนกับสินทรัพย์ หนีส้ ิน หรือ ภาระผูกพนั เพียงพอที่จะดาํ เนินการตามหลักเกณฑ์ท่ีคณะกรรมการองค์การประกาศ กําหนด และได้แสดงว่ามีความสามารถและความผูกพันท่ีจะดํารงอัตราส่ วน เงนิ กองทุนดงั กล่าวภายในช่วงเวลาสามปี ในการให้ความเห็นชอบแผนตามวรรคหน่ึง คณะกรรมการองค์การจะ กาํ หนดระยะเวลาและเงอื่ นไขใด ๆ ให้บริษทั น้ันต้องปฏิบตั ิด้วยกไ็ ด้ มาตรา ๒๕ เพอื่ ประโยชน์แก่การแก้ไขฟื้ นฟูฐานะของบริษทั ท่ีถูกระงับ การดําเนินกิจการ คณะกรรมการองค์การมีอํานาจสั่งให้บริษัทน้ันลดทุน เพิ่มทุน จดั สรรหุ้นเพ่ิมทุน ปรับปรุงแก้ไขการบริหารงาน ถอดถอนและต้ังกรรมการผู้บริหาร หรือผู้มอี าํ นาจในการจดั การของบริษัท หรือสั่งให้ดําเนินการควบกิจการหรือโอนหรือ รับโอนกิจการท้ังหมดหรือบางส่วนกับสถาบันการเงินอ่ืน หรือสั่งให้โอนสิทธิตาม สัญญาและหลักประกัน หรือโอนทรัพย์สิน หรือสั่งการใด ๆ ท่ีเกี่ยวข้องในการแก้ไข ฟื้ นฟูฐานะ โดยจะกาํ หนดระยะเวลาดําเนินการและกําหนดเง่ือนไขใดด้วยก็ได้ ท้ังนี้ ให้ถอื ว่าคาํ ส่ังของคณะกรรมการองค์การดงั กล่าวเป็ นมติทป่ี ระชุมผ้ถู อื หุ้น

ในกรณีที่บริษัทท่ีถูกระงับการดําเนินกิจการต้องดําเนินการตามคําส่ัง ของคณะกรรมการองค์การตามวรรคหน่งึ ให้บริษัทน้ันและสถาบันการเงนิ ท่ีเก่ยี วข้อง ได้รับยกเว้นการใช้บังคับบทบัญญัติดังต่อไปนี้ ในระหว่างเวลาต้ังแต่คณะกรรมการ องค์การให้ความเห็นชอบแผนแก้ไขฟื้ นฟูฐานะของบริษัทจนถึงวันถึงท่ีสุดแห่งการ ชําระบญั ชีองค์การตามมาตรา ๔๓ (๑) บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. ๒๕๐๕ และพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจ เครดติ ฟองซิเอร์ พ.ศ. ๒๕๒๒ เกยี่ วกบั การบงั คบั ให้สถาบันการเงนิ เป็ นบริษัทมหาชน จํากัด และการกําหนดจํานวนข้ันตํ่าของทุนจดทะเบียนและทุนซึ่งชําระแล้ว แล้วแต่ กรณี (๒) มาตรา ๒๓๗ มาตรา ๑๑๑๗ มาตรา ๑๒๒๐ มาตรา ๑๒๒๒ มาตรา ๑๒๒๔ มาตรา ๑๒๒๕ มาตรา ๑๒๒๖ และมาตรา ๑๒๔๐ แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณชิ ย์ (๓) มาตรา ๕๐ มาตรา ๕๒ มาตรา ๑๐๒ ประกอบกับมาตรา ๓๓ วรรค สอง มาตรา ๑๓๗ มาตรา ๑๓๙ มาตรา ๑๔๐ มาตรา ๑๔๑ มาตรา ๑๔๗ และมาตรา ๑๔๘ แห่งพระราชบัญญัติบริษทั มหาชนจํากดั พ.ศ. ๒๕๓๕ (๔) มาตรา ๘๕ แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจํากัด พ.ศ. ๒๕๓๕ ท้ังนี้ เฉพาะทเี่ กย่ี วกบั การปฏบิ ตั ิตามมตทิ ีป่ ระชุมผ้ถู ือหุ้น และการระมดั ระวงั รักษาผลประโยชน์ของบริษทั (๕) มาตรา ๙๔ (๒) มาตรา ๑๑๓ มาตรา ๑๑๔ และมาตรา ๑๑๕ แห่ง พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ ท้ังนี้ เฉพาะที่เกี่ยวกับการโอน ทรัพย์สิน หรือการกระทําใดเก่ียวกับทรัพย์สิน เนื่องในการควบกิจการหรือการโอน กจิ การ ในกรณีที่จะต้ องใช้ สิ ทธิทางศาลต่ อบริ ษัทที่ถูกระงับการดําเนินกิจการ หรือสถาบนั การเงนิ ท่ีเกย่ี วข้องตามวรรคสอง ไม่ให้นับระยะเวลาท่ีบริษัทหรือสถาบัน

การเงนิ ดงั กล่าวได้รับยกเว้นการใช้บังคบั บทบัญญัติของกฎหมายตามวรรคสองเข้าใน อายุความใช้สิทธเิ รียกร้อง มาตรา ๒๖ ห้ามมิให้บุคคลใดฟ้ องบริษัทท่ีถูกระงับการดําเนินกิจการ และสถาบันการเงนิ ทีเ่ กยี่ วข้องเป็ นคดลี ้มละลายในระหว่างดาํ เนินการตามแผนเพอื่ การ แก้ไขฟื้นฟทู ไ่ี ด้รับความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการองค์การ มาตรา ๒๗ การโอนสิทธิเรียกร้องท้ังหมดหรือบางส่วนของบริษัทที่ถูก ระงบั การดาํ เนนิ กจิ การไปยังสถาบันการเงินอ่ืน ให้กระทําได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวการ โอนไปยังลูกหนี้ตามมาตรา ๓๐๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่ไม่ กระทบกระเทือนสิทธิของลูกหนี้ท่ีจะยกข้อต่อสู้ตามมาตรา ๓๐๘ วรรคสอง แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ มาตรา ๒๘ ให้คณะกรรมการองค์การมีอํานาจสั่งให้กรรมการ พนักงาน หรือลูกจ้างของบริษัทท่ีถูกระงับการดําเนินกิจการ ผู้สอบบัญชีของบริษัทและผู้ รวบรวมหรือประมวลผลของบริษทั ดงั กล่าวด้วยเคร่ืองคอมพวิ เตอร์หรือด้วยเคร่ืองมือ อ่ืนใด มาให้ถ้อยคาํ หรือส่งสําเนาหรือแสดงสมุดบัญชี เอกสาร ดวงตรา หรือหลกั ฐาน อนั เกยี่ วกบั กจิ การ สินทรัพย์ และหนสี้ ินของบริษทั น้ัน มาตรา ๒๙ ในกรณที ี่คณะกรรมการองค์การเห็นว่า บริษทั ที่ถูกระงับการ ดาํ เนินกิจการซ่ึงองค์การเข้าแก้ไขฟื้ นฟูฐานะ ได้ดําเนินการตามแผนเพอ่ื แก้ไขฟื้ นฟู ฐานะจนสามารถจะดาํ เนนิ กจิ การของตนเองต่อไปได้ หรือควบกจิ การ หรือโอนกิจการ กบั สถาบันการเงินอน่ื ตามแผนเพอ่ื แก้ไขฟื้ นฟูฐานะให้คณะกรรมการองค์การรายงาน รัฐมนตรีทราบ

ในกรณีที่คณะกรรมการองค์การเห็นว่า บริษัทที่ถูกระงับการดําเนิน กิจการสามารถจะดําเนินกิจการของตนต่อไปได้ ถ้ารัฐมนตรีโดยคําแนะนําของ ธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นว่าควรอนุญาตให้บริษทั ดังกล่าวดําเนินกิจการต่อไปได้ ให้มีคาํ สั่งอนุญาตให้บริษทั น้นั ดาํ เนินกจิ การได้ เม่ือบริษทั ตามวรรคหนึ่งเปิ ดดาํ เนนิ กจิ การตามปกตแิ ล้ว หรือควบกจิ การ หรือโอนกจิ การกบั สถาบนั การเงนิ อน่ื แล้ว อาํ นาจหน้าทข่ี ององค์การเป็ นอนั สิ้นสุดลง มาตรา ๓๐ ในกรณที ่ีคณะกรรมการองค์การเห็นว่า บริษทั ที่ถูกระงบั การ ดําเนินกิจการใดไม่อาจแก้ไขหรือฟื้ นฟูฐานะหรือการดําเนินงานได้ ให้รายงาน รัฐมนตรีทราบ และให้คณะกรรมการองค์การมีอํานาจแต่งต้ังคณะกรรมการ ประกอบด้วย ประธานกรรมการและกรรมการอนื่ อกี ไม่น้อยกว่าสองคนมีอาํ นาจเข้า ดําเนินการแทนบริษัทน้ันได้ทุกประการและทําการชําระบัญชีบริษัท กับให้ประธาน กรรมการเป็ นผู้แทนของบริษทั น้นั โดยให้ถอื ว่าเป็ นมติทป่ี ระชุมผ้ถู ือหุ้น เม่ือมีการแต่งต้ังคณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง ให้เลขาธิการแจ้งเป็ น หนงั สือให้บริษทั น้ันทราบและให้กรรมการของบริษทั น้ันพ้นจากตาํ แหน่งท้ังคณะ โดย ให้ถอื ว่าเป็ นมติท่ีประชุมผู้ถือหุ้น และให้ปิ ดประกาศการแต่งต้ังคณะกรรมการไว้ในที่ เปิ ดเผย ณ สํานักงานของบริษัทน้ัน กับท้ังให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและใน หนังสือพมิ พ์รายวนั อย่างน้อยหนึ่งฉบบั ประธานกรรมการอาจมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งหรือหลายคนหรือ บุคคลอนื่ ใดปฏิบัติการอย่างใดอย่างหน่ึงแทนบริษทั น้ันหรือคณะกรรมการได้ ในการดําเนินงานของคณะกรรมการตามวรรคหน่ึง การใดที่บทบัญญัติ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ว่าด้วยบริษทั จํากดั หรือกฎหมายว่าด้วยบริษัท มหาชนจํากัด กําหนดอํานาจและหน้าท่ีให้เป็ นของที่ประชุมใหญ่ ให้เป็ นอาํ นาจและ หน้าทข่ี องรัฐมนตรี

การขายทรัพย์สินเพอื่ ชําระบัญชีของบริษทั น้นั ให้เปิ ดประมูลโดยเปิ ดเผย หรือแข่ งขันราคาตามวิธีการท่ีคณะกรรมการกําหนด และให้ องค์การได้รับ ค่าธรรมเนยี มในอตั ราร้อยละหนง่ึ ของราคาท่ขี ายได้ การชําระบัญชีของบริษทั ให้คณะกรรมการมีอาํ นาจแต่งต้ังผู้ชําระบัญชี และการใดท่ีเป็ นอํานาจและหน้าท่ีของที่ประชุมใหญ่ ให้เป็ นอํานาจและหน้าที่ของ รัฐมนตรี มาตรา ๓๐ ทวิ[๓] ในการขายทรัพย์สินเพอื่ ชําระบัญชีบริษทั ที่ถูกระงับ การดําเนินกิจการตามมาตรา ๓๐ ให้องค์การดําเนินการประกาศรายการพร้อมด้วย รายละเอยี ดตามสมควรของทรัพย์สินทจ่ี ะขาย วนั เวลา และสถานท่ีท่จี ะขายทรัพย์สิน น้ันล่วงหน้าก่อนกําหนดวันขายไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน โดยปิ ดประกาศรายการและ รายละเอียดไว้ในที่เปิ ดเผย ณ สํานักงานขององค์การ โฆษณาในระบบเครือข่าย คอมพวิ เตอร์ และโฆษณาในหนังสือพมิ พ์รายวนั อย่างน้อยหนึ่งฉบับเป็ นระยะเวลาไม่ น้อยกว่าสามวนั การประกาศตามวรรคหน่งึ ให้ถือเป็ นการบอกกล่าวการโอนทรัพย์สินแก่ ลกู หนี้ บุคคลภายนอกที่ได้ให้ประกันหนีเ้ ดมิ และบุคคลซ่ึงมีส่วนได้เสียในทรัพย์สินที่ จะขาย ในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีข้อต่อสู้เก่ียวกับทรัพย์สินท่ีจะขายน้ัน ให้ยื่นคํา คัดค้านโดยชี้แจงเหตุผลและหลักฐานท่ีเก่ียวข้องต่อคณะกรรมการตามมาตรา ๓๐ ก่อนกําหนดวันขายทรัพย์สินไม่น้อยกว่าสามวันทําการ หากพ้นกําหนดระยะเวลา ดังกล่าวแล้ว มิได้ยื่นคาํ คัดค้านการขายทรัพย์สินน้ัน ให้ถือว่าลูกหนีบ้ ุคคลภายนอกที่ ได้ให้ประกนั หนเี้ ดมิ และบุคคลซ่ึงมีส่วนได้เสียในทรัพย์สินทีจ่ ะขายได้ให้ความยนิ ยอม กบั การโอนทรัพย์สินท่ีจะขายน้นั แล้ว เมือ่ คณะกรรมการตามมาตรา ๓๐ ได้รับคาํ คัดค้านตามวรรคสองแล้ว ให้ จัดทําความเห็นพร้อมด้วยเหตุผลเสนอให้คณะกรรมการองค์การพิจารณาวินิจฉัย ถ้า คณะกรรมการองค์การเห็นว่า คาํ คัดค้านมีเหตุอนั สมควรกใ็ ห้ยุติการขายทรัพย์สินน้ัน

ไว้ก่อนจนกว่าจะมีการพิสูจน์สิทธิในทรัพย์สินน้ันเสร็จสิ้น ถ้าเห็นว่าไม่มีเหตุอัน สมควรก็ให้ยกคาํ คัดค้านพร้อมท้ังแจ้งให้ผู้คัดค้านทราบและดาํ เนินการขายทรัพย์สิน น้นั ต่อไป แต่ท้งั นี้ ไม่ตัดสิทธิผู้เสียหายเพราะการน้ันท่ีจะใช้สิทธิเรียกร้องตามมาตรา ๓๐ จตั วา มาตรา ๓๐ ตรี[๔] ในกรณีท่ีมีการโอนทรัพย์สินที่ได้ขายตามวิธีการท่ี กาํ หนดไว้ในมาตรา ๓๐ ทวิ แล้ว (๑) สิทธขิ องผู้ซื้อทรัพย์สินโดยสุจริตไม่เสียไป ถึงแม้ภายหลังจะพสิ ูจน์ ได้ว่าทรัพย์สินน้ันมใิ ช่ของบริษทั ท่ีถูกระงบั การดาํ เนนิ กจิ การตามมาตรา ๓๐ (๒) ห้ามมิให้ลูกหนีห้ รือบุคคลใดขอหักกลบลบหนีท้ ่ีมีอยู่กบั บริษทั ท่ีถูก ระงบั การดาํ เนินกจิ การกบั ทรัพย์สินท่ีขายน้นั (๓) ผู้ซื้อทรัพย์สินมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยตามวิธีการและตามอัตราใน สัญญาเดมิ มาตรา ๓๐ จตั วา[๕] การเพกิ ถอนการโอนทรัพย์สินที่ได้ขายตามวิธีการที่ กาํ หนดไว้ในมาตรา ๓๐ ทวิ จะกระทาํ มไิ ด้ ผู้เสี ยห ายจ าก การ ข า ยท รั พย์ สิ นซึ่ งค ณะ ก ร ร ม กา ร อ งค์ ก าร ได้ ย กคํ า คดั ค้านตามมาตรา ๓๐ ทวิ วรรคสาม มสี ิทธิเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายจากรายได้ท้ัง ปวงทีไ่ ด้จากการขายทรัพย์สินของบริษทั ท่ีถูกระงบั การดาํ เนินกจิ การน้นั ได้ การเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายตามวรรคสอง ให้ผู้เสียหายย่ืนคาํ ขอต่อ องค์การภายในกําหนดระยะเวลาสองเดือนนับแต่วนั ที่ได้มีการขายทรัพย์สินน้ัน หาก พ้นกาํ หนดระยะเวลาดงั กล่าวแล้วมิได้ยน่ื คําขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย ให้ถือว่าผู้น้ันสละ สิทธิเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย หลกั เกณฑ์และวิธีการย่ืนคําขอและการพิจารณาคาํ ขอตามวรรคสาม ให้ เป็ นไปตามท่คี ณะกรรมการองค์การกาํ หนด ในกรณที ่ีผู้ยืน่ คําขอไม่เห็นด้วยกบั ผลการ

พิจารณาคําขอ ให้มีสิทธิเสนอคดีต่อศาลได้ภายในกําหนดระยะเวลาสามเดือนนับแต่ วนั ท่ไี ด้รับแจ้งผลการพจิ ารณา มาตรา ๓๑ เมื่อองค์การประสงค์จะขอทราบกจิ การของสถาบันการเงิน เพ่ือปฏิบัติตามพระราชกําหนดนี้ ให้ ธนาคารแห่ งประเทศไทย สํ านักงาน คณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทยเปิ ดเผยกจิ การของสถาบันการเงินดังกล่าวให้แก่องค์การได้ และมิให้นํา มาตรา ๔๖ สัตต แห่งพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. ๒๕๐๕ และมาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจ เครดติ ฟองซิเอร์ พ.ศ. ๒๕๒๒ แล้วแต่กรณี มาใช้บงั คบั มาตรา ๓๒ ในการดาํ เนินการเพื่อแก้ไขฟื้ นฟูฐานะของบริษทั ท่ีถูกระงบั การดําเนินกิจการใด องค์การจะขอให้กองทุนเข้าถือหุ้นของบริษัทน้ันได้เฉพาะเพื่อ เป็ นการรักษาเสถยี รภาพของระบบการชําระเงิน และบริษทั น้ันได้ตัดส่วนสูญเสียของ กจิ การออกจากบัญชีโดยการลดทุนแล้ว และไม่สามารถจําหน่ายหุ้นได้ภายในเวลาอนั ควร เพอื่ ประโยชน์ในการแก้ไขฟื้นฟฐู านะ องค์การจะขอให้กองทุนเข้าถือหุ้น ของบริษทั ที่ถูกระงบั การดาํ เนนิ กจิ การได้เฉพาะในกรณตี ่อไปนี้ (๑) บริษัทที่ถูกระงับการดําเนินกิจการได้รับรู้ผลขาดทุนและได้ปฏิบัติ เกยี่ วกบั การกนั สํารองตามท่ีองค์การกาํ หนด (๒) ส่วนได้เสียของผู้ถือหุ้นของบริษัทท่ีถูกระงับการดําเนินกิจการ ณ วนั ท่ีองค์การเข้าดําเนินการเพอ่ื แก้ไขฟื้ นฟูฐานะได้ลดลงจนถึงจุดต่ําสุดเท่าท่ีจะทําได้ ตามกฎหมาย

(๓) กรณที ี่ผ้ถู อื หุ้นเข้าซือ้ หุ้นของบริษทั ทถ่ี ูกระงบั การดําเนินกจิ การผู้ถือ หุ้นไม่ ว่ าลําพังหรื อร่ วมกันจะถือหุ้นเกินกว่ าจํานวนที่องค์ การกําหนดว่ าสาม ารถ ครอบงาํ การจัดการบริษทั ไม่ได้ (๔) กองทุนจะเข้าถือหุ้นได้เพียงไม่เกินกว่าการเข้าถือหุ้นของผู้ถือหุ้น รายอนื่ มาตรา ๓๓ ในกรณีที่กองทุนจะต้องเข้าไปช่วยเหลือทางการเงินใน บริษทั ทถี่ ูกระงบั การดาํ เนนิ กจิ การตามท่คี ณะกรรมการองค์การร้องขอและได้รับความ เสียหาย ให้รัฐบาลช่วยเหลอื ทางการเงนิ แก่กองทุนตามควรแก่กรณี หมวด ๓ การสอบและตรวจบัญชี มาตรา ๓๔ ให้องค์การวางและรักษาไว้ซึ่งระบบบัญชีอันถูกต้องและจัด ให้มรี ะบบการควบคมุ และตรวจสอบภายใน มาตรา ๓๕ ให้องค์การจัดทํางบดุลและบัญชีกําไรขาดทุนทุกงวดหก เดอื น มาตรา ๓๖ ให้รัฐมนตรีมีอาํ นาจแต่งต้ังสํานักงานตรวจเงินแผ่นดินหรือ บุคคลอนื่ ตามแต่จะเห็นสมควรเป็ นผู้สอบบัญชีขององค์การ ทําการตรวจสอบบัญชี รวมท้ังการเงนิ ทุกประเภททุกหกเดอื น มาตรา ๓๗ ให้องค์การรายงานกจิ การ งบดุล บัญชีกาํ ไรและขาดทุน ซ่ึง ผู้สอบบัญชีตามมาตรา ๓๖ ได้รับรองแล้วต่อรัฐมนตรีภายในสามเดือน นับแต่วนั สิ้น

งวดการบัญชีเพือ่ รายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ และให้รัฐมนตรีประกาศรายงานงบ ดลุ และบัญชีดงั กล่าวโดยเปิ ดเผย มาตรา ๓๘ ในกรณีที่องค์การขอให้กระทรวงการคลังคํา้ ประกันเงนิ กู้ที่ องค์การกู้ยืมเงินจากแหล่งให้กู้ยืมในหรือนอกราชอาณาจักร ให้กระทรวงการคลังมี อาํ นาจคาํ้ ประกนั เงินกู้น้ันได้ แต่จํานวนเงินก้ทู ี่จะคํา้ ประกันเม่ือรวมกบั ต้นเงินก้ทู ่ีการ คํา้ ประกนั ของกระทรวงการคลังยงั ค้างอยู่ต้องไม่เกนิ สิบสองเท่าของเงินกองทุนของ องค์การเม่อื คาํ นวณเป็ นเงนิ ตราไทย ท้ังนี้ ไม่ว่าจะเป็ นการคาํ้ ประกนั ตามอาํ นาจท่ีมีอยู่ ในกฎหมายใด การคํานวณเงินตราต่างประเทศเป็ นเงนิ ตราไทยเพือ่ ทราบยอดรวมของ เงินกู้ตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราตามอัตราอ้างอิงประจําวันท่ี ธนาคารแห่งประเทศไทยกาํ หนดไว้ในวนั ทาํ สัญญา หมวด ๔ บทกาํ หนดโทษ มาตรา ๓๙ ผู้ใดล่วงรู้กจิ การของสถาบันการเงนิ ใดเน่ืองจากการปฏิบัติ ตามอาํ นาจและหน้าทท่ี ่ีกาํ หนดในพระราชกาํ หนดนีอ้ ันเป็ นกิจการที่ตามปกติพึงสงวน ไว้ไม่เปิ ดเผย แล้วนําไปเปิ ดเผยแก่บุคคลอ่นื ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ ปรับไม่เกนิ หนึ่งล้านบาท หรือท้งั จาํ ท้ังปรับ ความในวรรคหนงึ่ มิให้นํามาใช้บังคบั แก่การเปิ ดเผยในกรณี ดงั ต่อไปนี้ (๑) การเปิ ดเผยตามหน้าที่ (๒) การเปิ ดเผยเพอื่ ประโยชน์แก่การสอบสวนหรือการพจิ ารณาคดี (๓) การเปิ ดเผยเพ่ือประโยชน์แก่การแก้ไขฟื้ นฟูฐานะของบริษัทที่ถูก ระงบั การดาํ เนนิ กจิ การ

(๔) การเปิ ดเผยเม่ือได้รับความเห็นชอบจากสถาบันการเงินน้ันเป็ นลาย ลกั ษณ์อกั ษร มาตรา ๔๐ บุคคลใดไม่ปฏิบัติตามคําส่ังของคณะกรรมการองค์การตาม มาตรา ๒๘ ต้องระวางโทษปรับไม่เกนิ หนงึ่ แสนบาท และปรับอีกไม่เกนิ วนั ละสามพนั บาทตลอดเวลาท่ียงั ฝ่ าฝื นอยู่ หรือจนกว่าจะปฏิบัตไิ ด้ถูกต้อง หมวด ๕ การยุบเลกิ องค์การ มาตรา ๔๑ เมื่อองค์การได้ดําเนินการแก้ไขฟื้ นฟูฐานะของบริษัทที่ถูก ระงับการดําเนินกิจการตามอํานาจหน้าท่ีเสร็จสิ้นแล้ว ให้คณะกรรมการองค์การ รายงานรัฐมนตรี เพอ่ื นาํ เสนอคณะรัฐมนตรีมีมติยบุ เลกิ องค์การต่อไป มาตรา ๔๒ เมอ่ื คณะรัฐมนตรีมีมติให้ยุบเลิกองค์การแล้ว ให้ดาํ เนินการ ชําระบัญชีโดยให้รัฐมนตรีแต่งต้ังบุคคลขึ้นคณะหนึ่งเป็ นคณะกรรมการผู้ชําระบัญชี ขององค์การ การชําระบัญชีองค์การให้นําบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณชิ ย์ว่าด้วยการชําระบญั ชีบริษทั จาํ กดั มาใช้บังคบั โดยอนุโลม มาตรา ๔๓ เมื่อคณะกรรมการผ้ชู ําระบญั ชีได้ดาํ เนนิ การชําระบัญชีเสร็จ สิ้นแล้วให้คณะกรรมการผู้ชําระบัญชีรายงานการชําระบัญชีต่อรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติ และเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ แล้วประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป และให้ถือ วันท่ีประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็ นวันถึงท่ีสุดแห่งการชําระบัญชีและวันยุบเลิก องค์การ

บรรดาทรัพย์ สิ นขององค์ การที่ยังคงเหลืออยู่ให้ จัดโอนให้ แก่ กระทรวงการคลงั ภายหลงั วนั ถงึ ทส่ี ุดแห่งการชําระบัญชี ให้คณะกรรมการผู้ชําระบัญชีมอบสมุด บัญชี และเอกสารท้ังหมดของ องค์การให้แก่กระทรวงการคลังภายในสิบส่ีวันนับแต่วันถึงที่สุดแห่งการชําระบัญชี และให้กระทรวงการคลงั รักษาไว้สิบปี นบั แต่วนั ดงั กล่าว สมุด บัญชี และเอกสารตามวรรคสามให้เปิ ดเผยแก่ผู้มีส่วนได้เสียตรวจดู ได้โดยไม่ต้องเรียกค่าธรรมเนียม บทเฉพาะกาล มาตรา ๔๔ บรรดาหลักเกณฑ์และเง่ือนไขที่รัฐมนตรี ธนาคารแห่ง ประเทศไทย หรือคณะกรรมการกํากับการควบหรือโอนกิจการของสถาบันการเงินซึ่ง แต่งต้ังตามคาํ สั่งของกระทรวงการคลังกําหนดไว้สําหรับบริษัทท่ีถูกระงบั การดาํ เนิน กจิ การยงั คงใช้ได้ต่อไปจนกว่าจะมีการเปลยี่ นแปลง บรรดาแผนเพอื่ แก้ไขฟื้นฟฐู านะท่ีบริษทั ที่ถูกระงับการดําเนินกจิ การยนื่ ต่อคณะกรรมการกาํ กบั การควบหรือโอนกจิ การของสถาบันการเงนิ ให้ถือเป็ นแผนเพอ่ื แก้ไขฟื้นฟูฐานะตามมาตรา ๒๒ ผ้รู ับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ชวลติ ยงใจยทุ ธ นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกาํ หนดฉบับนี้ คือ โดยท่ีมีความจําเป็ น จะต้องแก้ไขปัญหาระบบสถาบันการเงินและฟื้ นฟูสถานะการดําเนินการของสถาบัน การเงนิ บางแห่งทปี่ ระสบปัญหา ไม่สามารถดาํ เนินกจิ การไปได้ตามปกติ และคุ้มครอง ผ้ฝู ากเงนิ และเจ้าหนีข้ องสถาบนั การเงนิ เพือ่ เรียกความเชื่อมั่นในระบบสถาบันการเงิน กลับคืนมา สมควรกําหนดมาตรการในลักษณะของการแก้ไขปัญหาสถาบันการเงิน อย่างเป็ นระบบตามแนวทางสากล และจัดต้ังองค์การของรัฐขึ้นเพื่อทําหน้าท่ี รับผิดชอบในการดาํ เนินมาตรการดงั กล่าว เพ่ือแก้ไขฟื้ นฟูฐานะของสถาบันการเงิน ตลอดจนช่วยเหลอื ผู้ฝากเงนิ และเจ้าหนีท้ ส่ี ุจริตของสถาบนั การเงิน และโดยท่ีเป็ นกรณี ฉุกเฉินท่ีมีความจําเป็ นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเล่ียงได้ในอันที่จะรักษาความมั่นคง ทางเศรษฐกจิ ของประเทศ จงึ จาํ เป็ นต้องตราพระราชกาํ หนดนี้ ประกาศสํานกั นายกรัฐมนตรี เรื่อง การอนุมัติพระราชกาํ หนดการปฏิรูประบบสถาบัน การเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๐[๖] พระราชกาํ หนดการปฏริ ูประบบสถาบนั การเงนิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑[๗] มาตรา ๒ พระราชกําหนดนี้ให้ใช้บังคบั ต้ังแต่วันถัดจากวนั ประกาศใน ราชกจิ จานุเบกษาเป็ นต้นไป มาตรา ๕ นับแต่วันที่พระราชกําหนดนี้ใช้บังคับ ดอกเบี้ยหรือเงินค่า ป่ วยการอนื่ แทนดอกเบีย้ อนั เกดิ จากหนที้ บ่ี ริษทั ที่ถูกระงบั การดาํ เนนิ กจิ การตามมาตรา ๓๐ ได้ก่อขึน้ มใิ ห้ถือว่าเป็ นหนที้ ี่จะขอรับชําระได้ มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราช กาํ หนดนี้

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกําหนดฉบับนี้ คือ โดยท่ีขณะนีม้ ีความ จําเป็ นต้องแก้ไขปัญหาวกิ ฤติทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างรวดเร็ว และจําเป็ นต้อง เร่งรัดให้มีการระดมเงนิ ทุนเพอ่ื เสริมสร้างสภาพคล่องให้เกดิ การหมุนเวียนทางการเงิน ในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการตรากฎหมายว่าด้วยการปฏิรูประบบสถาบัน การเงินขึน้ เพอ่ื ดําเนินการแก้ไขฟื้ นฟูฐานะของสถาบันการเงินท่ีถูกระงับการดาํ เนิน กจิ การ โดยให้สถาบนั การเงนิ เหล่าน้ันจดั ทําแผนเพอ่ื แก้ไขฟื้นฟฐู านะในการดาํ เนินการ ให้ม่ันคงต่อไป และสําหรับสถาบันการเงินท่ีไม่อาจดําเนินการต่ อไปได้ ให้องค์การ ปฏิรูประบบสถาบันการเงินเข้าควบคุมเพ่ือชําระบัญชีต่อไป ซ่ึงในการชําระบัญชี จําเป็ นต้องขายทรัพย์สินของสถาบันการเงินน้ัน ฉะน้ัน เพอ่ื มิให้เป็ นอุปสรรคในการ ดําเนินการจําเป็ นต้องมีมาตรการเป็ นพิเศษผ่อนคลายจากกรณีปกติท่ัวไปเพื่อให้ องค์การปฏริ ูประบบสถาบันการเงนิ สามารถดาํ เนินการตามวตั ถุประสงค์ของกฎหมาย ให้แล้วเสร็จได้โดยเร็ว เพ่อื ให้เกดิ ความเช่ือม่ันแก่ผู้ซื้อทรัพย์สินอันเป็ นส่วนหน่ึงของ การแก้ไขปัญหาวกิ ฤติทางเศรษฐกจิ ซ่ึงหากมาตรการดังกล่าวไม่อาจกระทําได้โดยเร็ว จะส่งผลกระทบต่อแผนการระดมเงนิ ทุนเพอื่ เสริมสร้างสภาพคล่องทางเศรษฐกจิ ของ ประเทศโดยรวม และโดยท่ีเป็ นกรณีฉุกเฉินที่มีความจําเป็ นรีบด่วนอันมิอาจจะ หลกี เลย่ี งได้ในการท่ีจะรักษาความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงจําเป็ นต้อง ตราพระราชกาํ หนดนี้ ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เร่ือง การอนุมัติพระราชกาํ หนดการปฏิรูประบบสถาบัน การเงนิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑[๘]

องั ศุมาล/ี ผ้จู ดั ทาํ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖ อดุ มลกั ษณ์/ผ้ตู รวจ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖ [๑] ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๑๑๔/ตอนท่ี ๖๐ ก/หน้า ๑/๒๔ ตุลาคม ๒๕๔๐ [๒] มาตรา ๒ ทวิ เพม่ิ โดยพระราชกาํ หนดการปฏริ ูประบบสถาบนั การเงนิ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑ [๓] มาตรา ๓๐ ทวิ เพมิ่ โดยพระราชกาํ หนดการปฏริ ูประบบสถาบันการเงนิ (ฉบับ ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑ [๔] มาตรา ๓๐ ตรี เพมิ่ โดยพระราชกาํ หนดการปฏริ ูประบบสถาบนั การเงนิ (ฉบับ ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑ [๕] มาตรา ๓๐ จตั วา เพมิ่ โดยพระราชกาํ หนดการปฏริ ูประบบสถาบันการเงนิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑ [๖] ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๑๑๔/ตอนที่ ๗๐ ก/หน้า ๓๑/๑๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๔๐ [๗] ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๑๑๕/ตอนที่ ๒๙ ก/หน้า ๑/๒๒ พฤษภาคม ๒๕๔๑ [๘] ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๑๑๕/ตอนที่ ๓๔ ก/หน้า ๘/๔ มถิ ุนายน ๒๕๔๑