Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การผลิตปาล์มน้ำมัน

การผลิตปาล์มน้ำมัน

Description: การผลิตปาล์มน้ำมัน

Search

Read the Text Version

การเกบ็ เกีย่ วปาลม์ น้ามนั 1. การเกบ็ เกย่ี ว (1) เก็บเก่ยี วทะลายท่ีสกุ เต็มท่ี โดยสังเกตจากการหลดุ ร่วงของผลจะตอ้ งมีผลรว่ ง ประมาณ 1-10 ผล

การเกบ็ เกี่ยวปาลม์ นา้ มัน 1. การเกบ็ เกี่ยว (2) ช่วงการเก็บเก่ียว 15 วัน/ครงั และลดลงในชว่ งฤดูฝน เปน็ 10 วนั /ครัง

การเก็บเก่ียวปาล์มน้ามัน 1. การเก็บเกย่ี ว (3) การเก็บเกย่ี วปาล์มนา้ มนั อายุ 3-5 ปี ใชเ้ สียมแทงตรงกา้ นทะลาย และตดั ให้ชดิ ทะลาย กา้ นทะลายยาวไมเ่ กนิ 5 เซนติเมตร

การเก็บเก่ยี วปาลม์ น้ามัน 1. การเก็บเกีย่ ว (4) การเกบ็ เกี่ยวปาล์มน้ามนั อายุ 5 ปีขนึ ไป ใชเ้ คียวเกี่ยวกา้ นทะลายแล้วดงึ ลง

ตรวจสภาพสวนอยา่ งสมา้่ เสมอ ใช้ปยุ๋ เคมใี ห้เหมาะสมตามพนื ท่ี ชนดิ ของดนิ และอายุของต้นปาลม์ น้ามนั

โรคศตั รแู ละการปอ้ งกันกา้ จดั

โรคศตั รูและการปอ้ งกันก้าจัด โรคใบไหม้ สาเหตุ เชอื รา Curvularia oryzae ลักษณะอาการ เปน็ โรคที่สา้ คญั ในแปลงเพาะกลา้ ระยะแรกเกิดจุดเลก็ ๆ โปร่งใส กระจายอยู่บนยอดท่ียงั ไม่คล่ี ต่อมาแผลพัฒนาขึนมีรูปรา่ งกลมสี น้าตาลดา้ บุ๋มตรงกลาง ขอบแผลนูนมีลกั ษณะเป็นมนั มีวงสีเหลือง ลอ้ มรอบ ถ้าหากโรคระบาดรุนแรง แผลจะรวมตัวกันใบเปลี่ยนเป็นสี นา้ ตาลมองดคู ลา้ ยไฟไหม้ และอาจทา้ ให้ต้นกลา้ ตายได้ ชนนิ ทร ดวงสอาด

โรคศตั รูและการปอ้ งกันกา้ จดั การปอ้ งกนั ก้าจดั • สังเกตใบออ่ นของตน้ กล้า ซ่ึงเป็นสว่ นทงี่ ่ายต่อการเข้า พรพมิ ล อธิปญั ญาคม ท้าลายของเชอื รา หากพบอาการเพยี งเล็กนอ้ ย ให้ตดั ส่วนท่ี เป็นโรคออกไปท้าลาย • ตน้ ที่แสดงอาการรุนแรง ตอ้ งน้าออกจากแปลงเพาะ เพ่อื ก้าจัดแหลง่ สะสมของเชอื ราสาเหตุ • ใส่ปุ๋ยบ้ารงุ ใหต้ น้ กลา้ แข็งแรง • หากพบโรคยงั คงระบาด พ่นทุก 7 วนั ดว้ ยสารแมนโคเซบ 80% ดับเบิลยพู ี อัตรา 30 กรัมตอ่ น้า 20 ลติ ร หรือ อะซอกซี่สโตรบนิ + ไดฟโี นโคนาโซล 20% + 12.5% เอสซี อัตรา 20 มิลลลิ ิตรต่อนา้ 20 ลติ ร หรอื ไทแรม 80% ดบั เบิลยูจี อตั รา 30 กรัมต่อนา้ 20 ลติ ร หรือแคปแทน 50% ดับเบลิ ยูพี อัตรา 50 กรมั ตอ่ นา้ 20 ลติ ร โดยไม่พ่น สารชนิด เดียวตอ่ เนือ่ งกนั เป็นเวลานาน ควรสลับชนิดสาร เพือ่ ปอ้ งกันเชือตา้ นทานสารเคมี และงดการให้นา้ ดว้ ย ระบบพ่นฝอย เปล่ยี นเป็นใชร้ ะบบน้าหยด หรอื ใช้คนรดน้า

โรคศัตรแู ละการปอ้ งกันกา้ จัด โรคล้าต้นเนา่ สาเหตุ เชอื เหด็ Ganoderma boninenes พรพมิ ล อธิปญั ญาคม ลกั ษณะอาการ พรพิมล อธิปญั ญาคม มกั พบบนตน้ ปาลม์ นา้ มันท่มี ีอายมุ ากกวา่ 20 ปขี ึนไป โดยสีของใบซีดจาง และแหง้ ตาย ทางใบลา่ งหกั พบั ทิงตัวหอ้ ยลงรอบ ๆ ลา้ ต้น ทางยอดที่ยงั ไม่ คลี่มจี า้ นวนมากกว่าปกติ ตน้ ปาล์มน้ามนั หักพบั ลม้ ลงทบ่ี ริเวณโคนต้น บาง ต้นจะยนื ต้นตาย ภายในลา้ ตน้ จะมลี ักษณะกลวงเนือเยือ่ ภายใน ผเุ ป่ือย เปลือกรากเปลย่ี นเป็นสีนา้ ตาล เนอื เยื่อภายในรากเปล่ยี นเป็นสดี า้ ราสรา้ ง ดอกเห็ดทโี่ คนต้นหรือที่รากผวิ ดนิ บริเวณใกล้โคนตน้ ดอกเหด็ มสี นี ้าตาลแดง ขอบสีขาว ผวิ ด้านบนของดอกเหด็ เรียบเป็นมันคลา้ ยทาดว้ ยแลคเกอร์ ผิว ดา้ นลา่ งมสี ขี าวข่นุ เตม็ ไปด้วยรเู ลก็ ๆ

โรคศัตรูและการปอ้ งกนั ก้าจัด ชนนิ ทร ดวงสอาด การปอ้ งกนั ก้าจัด • ตรวจสอบตน้ ท่ีเป็นโรคโดยใชไ้ มเ้ คาะล้าต้นปาล์มน้ามนั เพื่อ ฟังเสียงบริเวณที่ถกู ทา้ ลาย • ขุดหลมุ รอบ ๆ ตน้ ปาลม์ ทีเ่ ปน็ โรค เพ่อื เป็นการปอ้ งกันการ แพร่ระบาดจากต้นท่เี ปน็ โรคไปยงั ตน้ ปกตโิ ดยการสัมผสั กัน ของราก • เกบ็ ดอกเห็ดทเ่ี ชอื เหด็ สรา้ งขึนบนโคนต้นปาลม์ นา้ มนั ทีเ่ ปน็ โรค หรอื ท่รี ากบรเิ วณผิวดินออกจากแปลง • ผ่าและตัดส่วนทเี่ ป็นโรคออก ทังสว่ นท่อี ยเู่ หนอื ดนิ และส่วน ทอี่ ยใู่ ต้ดิน แลว้ ทาบริเวณทีต่ ดั ด้วยสารเคมี เช่น โคลทาร์ หรือสารทม่ี สี ว่ นผสมของโคลทาร์ หรอื สารป้องกนั กา้ จัดโรค พชื ไทแรม 80% ดับเบลิ ยูจี

แมลงศตั รแู ละการปอ้ งกันกา้ จดั

แมลงศตั รูและการปอ้ งกนั กา้ จัด ด้วงกุหลาบ ท้าลายกดั กนิ ใบเวลากลางคนื ป้องกันก้าจัดโดยใสฟ่ ูราดาน 1 ช้อนชา หรอื ใช้สารเซฟวิน 85% อตั รา 40 กรมั /นา้ 20 ลติ ร ฉีดพน่ ในเวลาเย็นช่วงใกลค้ า่้ ท่ัวบริเวณตน้ ใบปาลม์ ถูกกดั กนิ ด้วงกุหลาบ

แมลงศตั รแู ละการปอ้ งกันก้าจัด หนอนหนา้ แมว ทา้ ลายกัดกนิ ใบ ถา้ อาการรนุ แรงมากใบถูกกดั จนเหลอื แต่กา้ นใบ ปอ้ งกันก้าจดั ใช้สารฆา่ แมลงพ่น เร่มิ พน่ สารตังแตห่ นอนยงั เลก็ อยู่ ควรพ่นซา้ ทีเ่ ดิมอกี 1 ครงั โดยหา่ งจากครงั แรกประมาณ 10 วนั เช่น carbaryl (Sevin 85 % MP) ต่ออตั รา 10 กรมั ตอ่ น้า 20 ลิตร lambda cyhalothrin (Karate 2.5 % EC) ในอัตรา 10 มล. ตอ่ นา้ 20 ลิตร

แมลงศัตรแู ละการปอ้ งกันก้าจัด หนอนหัวด้า เฝา้ ระวงั หนอนหัวด้ามะพร้าวในปาล์มนา้ มนั หนอนหัวดา้ เข้าทา้ ลายปาลม์ นา้ มันทอ่ี ยูใ่ กลก้ บั สวนมะพรา้ วที่หนอนหวั ดา้ ระบาด

แมลงศัตรแู ละการปอ้ งกันก้าจดั หนอนหัวดา้ พบหนอนหวั ด้าให้ปฏบิ ตั ิดังนี หนอน ดักแด้ 1.วิธเี ขตกรรมและวธิ กี ล ลกั ษณะใบท่ถี ูกทา้ ลาย - ตัดใบท่ีมหี นอนหัวดา้ มะพร้าวไปเผาท้าลายทนั ที - ไมค่ วรเคลือ่ นยา้ ยตน้ พนั ธุป์ าลม์ น้ามันหรือพชื ตระกูลปาลม์ มาจาก แหลง่ ทมี่ ีการระบาด 2. การใชช้ ีววิธี - ปล่อยแตนเบยี นโกนโี อซัสและบราคอนในอตั ราชนิดละ 200 ตวั /ไร่ - ประเมนิ สถานการณ์หลงั ปล่อยแตนเบยี นทกุ 7 วนั - พน่ แบคทีเรียบาซลิ สั (Bt) อตั รา 100 มล./ น้า 20 ลติ ร โดยเคร่ือง พน่ แรงดนั สูงใหท้ ่วั ทรงพมุ่ ควรพ่นช่วงเยน็ หลกี เล่ียงแสงแดด

หนศู ตั รแู ละการปอ้ งกันกา้ จดั

หนูศตั รูและการป้องกนั กา้ จดั หนทู ี่พบในสวนปาลม์ น้ามนั ปลกู ใหม่ อายุ 1 - 4 ปี 1. หนูพกุ ใหญ่ หรือ หนูแผง 2. หนูทอ้ งขาวบา้ น 3. หนนู าใหญ่ 4. หนูป่ามาเลย์

หนูศตั รูและการปอ้ งกนั ก้าจัด ลกั ษณะการทา้ ลายปาลม์ นา้ มัน กล้าตน้ ปาลม์ น้ามันใน ตน้ ปาลม์ นา้ มันเล็กใน ผลปาลม์ น้ามันดบิ และ แปลงเพาะช้า สวนปลกู ใหม่ สกุ บนทะลายปาล์ม

หนูศัตรูและการปอ้ งกนั ก้าจัด การปอ้ งกนั ก้าจัดหนูศตั รูปาลม์ ปลูกใหม่ ทา้ การป้องกันก้าจัดแบบผสมผสาน การกา้ จดั วัชพชื ล้อมโคนต้นปาล์มเล็กด้วยลวดตาข่าย หรอื แผน่ สงั กะสี การใช้กรงดกั และกบั ดกั ตาย เลือกใช้สารกา้ จดั หนู เช่น ยาด้า สตอม บาราคี เส็ด ฯลฯ สารชวี ินทรยี ์ก้าจดั หนู : โปรโตซัว Sacocystis singaporensis วางเหยื่อพษิ 1 ก้อน/ต้น

หนศู ตั รแู ละการปอ้ งกนั กา้ จดั หนทู ี่พบในสวนปาลม์ น้ามนั อายุ 4 ปขี นึ ไป 1. หนูป่ามาเลย์ 2. หนทู อ้ งขาวบา้ น

หนศู ัตรูและการปอ้ งกนั กา้ จัด ลกั ษณะการท้าลายปาลม์ นา้ มัน ผลปาล์มนา้ มันดบิ และสกุ บนทะลายปาลม์ ช่อดอกเกสรตวั ผู้ และตัวเมยี

หนูศตั รูและการปอ้ งกนั ก้าจดั การปอ้ งกนั ก้าจัดหนศู ัตรูปาล์มอายุ 4 ปขี ึนไป ท้าการปอ้ งกันกา้ จดั แบบผสมผสาน การก้าจัดวชั พชื การใชก้ รงดกั และกบั ดกั ตาย เลอื กใชส้ ารก้าจัดหนู เช่น ยาดา้ สตอม บาราคี เสด็ ฯลฯ สารชีวินทรยี ์ก้าจดั หนู : โปรโตซวั Sacocystis singaporensis วางเหยื่อพิษ 1 กอ้ น/ตน้ อนุรกั ษส์ ตั ว์ศตั รูธรรมชาตขิ องหนู เช่น พังพอน แมวดาว นกแสก เหยี่ยวนกเขาชิครา งเู หลือม งูทางมะพร้าว งูสงิ ฯลฯ

การจดั การวัชพืชในสวน ปาล์มน้ามัน

การจัดการวัชพชื ชนิดวชั พืชในสวนปาลม์ นา้ มัน ในสวนปาล์มนา้ มัน วัชพชื ทพี่ บในสวนปาล์มนา้ มัน วชั พชื ประเภทใบแคบ เช่น หญ้าคา หญา้ รงั นก หญา้ ปากควาย Imperata cylindrica L. Chloris barabata Sw.. Dactyloctenium aegyptium (L.) Willd..

การจดั การวชั พืช ชนดิ วชั พืชในสวนปาลม์ นา้ มัน ในสวนปาลม์ นา้ มัน วชั พชื ที่พบในสวนปาลม์ น้ามัน วชั พชื ประเภทใบกวา้ ง เช่น ขีไก่ยา่ น ลกู ใตใ้ บ Mikania micrantha Kunth Phyllanthus amarus Schumach. & Thonn.

การจดั การวัชพืช ชนดิ วชั พชื ในสวนปาลม์ น้ามัน ในสวนปาล์มนา้ มัน วชั พชื ที่พบในสวนปาลม์ น้ามัน วัชพชื ประเภทกก เช่น แหว้ หมู Cyperus rotundus L.

การจดั การวัชพชื การควบคุมวัชพชื ในปาล์มนา้ มัน ในสวนปาลม์ นา้ มัน  ไม่ใช้สารเคมี 1. การดายด้วยจอบบริเวณโคนต้นปาล์มน้ามัน โดยเฉพาะต้นท่ปี ลูกใหมอ่ ายุไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งยงั ไมค่ วรใช้สารก้าจัดวัชพชื เพราะอาจเป็นพิษตอ่ ตน้ ปาล์มได้ 2. การตัดวชั พืช ต้องท้าตอ่ เนอ่ื งกันอยา่ งนอ้ ย 3-4 ครงั ตอ่ ปี ในสวนปาล์มปลกู ใหม่ และ ประมาณ 2 ครังตอ่ ปี ในปาลม์ อายุ 3-4 ปี 3. การปลกู พชื คลมุ ดิน โดยการปลกู พชื คลุมดนิ ตระกลู ถ่ัว 4. การปลกู พืชแซม เช่น ถั่วเขยี ว ข้าวโพด ท้าไดต้ ังแตป่ าล์มเร่มิ ปลูกใหม่ จนกระท่ังปาล์ม เร่มิ ใหผ้ ลผลิต (ประมาณ 3 ปี) พืชที่นา้ มาปลูกแซมต้องมรี ะบบราก ความตอ้ งการธาตุ อาหาร อตั ราการเจรญิ เติบโต อายุเกบ็ เก่ยี ว และศัตรูธรรมชาตทิ ่ีแตกต่างจากปาล์ม นา้ มนั

การจัดการวชั พชื อตั ราการใช้ วิธีการใช/้ ในสวนปาลม์ นา้ มนั ตอ่ น้า 20 ลิตร ตอ่ พืนท่ี 1 งาน ข้อควรระวัง  ใช้สารเคมี 100-120 พ่นระหว่างแถวปาลม์ น้ามัน หลัง มิลลลิ ิตร วัชพชื งอก มีความสูงไม่เกนิ 30 ซม. สารกา้ จดั วัชพืช 175-200 ขณะพน่ ระวังไม่ให้ละอองสารสมั ผัส พาราควอต มลิ ลลิ ิตร ต้นและใบปาลม์ (27.6% เอสแอล) กลูโฟซเิ นต-แอมโมเนยี ม 125-150 (15% เอสแอล) มลิ ลลิ ิตร ไกลโฟเสต (48% เอสแอล)

สอบถามข้อมูลเพม่ิ เตมิ ไดท้ ่ีหนว่ ยงานของกรมวิชาการเกษตร ดังนี ศนู ย์วิจัยปาลม์ นา้ มันสรุ าษฎรธ์ านี สถาบนั วจิ ยั พชื ไรแ่ ละพชื ทดแทนพลงั งาน โทรศพั ท์ 077-259145 โทรสาร. 077-259450 โรค แมลงศตั รูและวชั พชื สา้ นกั วจิ ัยพัฒนาการอารักขาพืช โทรศัพท์ 0-2579-8540


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook