Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

Description: พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

Search

Read the Text Version

ราชกจิ จานเุ บกษา พระราชบัญญตั ิ องคก์ รจัดสรรคลืน่ ความถ่ีและกากับการ ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

พระราชบญั ญตั ิ องค์กรจดั สรรคลืน่ ความถแี่ ละกากบั การประกอบกจิ การ วทิ ยุกระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกจิ การโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๑๗ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นปี ท่ี ๖๕ ในรัชกาลปัจจุบนั พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด เกลา้ ฯ ใหป้ ระกาศวา่ โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าดว้ ยองคก์ รจดั สรรคลื่นความถ่ีและ กากบั กิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พระราชบญั ญตั ิน้ีมีบทบญั ญตั ิบางประการเกี่ยวกบั การจากดั สิทธิและเสรีภาพ ของบคุ คล ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๓ มาตรา ๔๕ มาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗ มาตรา ๖๑ และมาตรา ๖๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย บญั ญตั ิใหก้ ระทาไดโ้ ดยอาศยั อานาจตามบทบญั ญตั ิแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญตั ิข้ึนไวโ้ ดยคาแนะนาและ ยนิ ยอมของรัฐสภา ดงั ต่อไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบญั ญตั ิน้ีเรียกวา่ “พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่นความถี่ และกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓” มาตรา ๒[๑] พระราชบญั ญตั ิน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แต่วนั ถดั จากวนั ประกาศในราช กิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป

มาตรา ๓ ใหย้ กเลิกพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั กิจการ วิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญตั ิน้ี “คล่ืนความถี่” หมายความวา่ คล่ืนวทิ ยหุ รือคลื่นแฮรตเซียนซ่ึงเป็นคล่ืน แม่เหลก็ ไฟฟ้าท่มี ีความถ่ีต่ากวา่ สามลา้ นเมกะเฮิรตซ์ลงมาทีถ่ ูกแพร่กระจายในท่ีว่างโดย ปราศจากส่ือนาทีป่ ระดิษฐข์ ้ึน “โทรคมนาคม” หมายความว่า การส่ง การแพร่ หรือการรับเคร่ืองหมาย สญั ญาณ ตวั หนงั สือ ตวั เลข ภาพ เสียง รหสั หรือสิ่งอื่นใดซ่ึงสามารถใหเ้ ขา้ ใจความหมายไดโ้ ดยระบบ คล่ืน ความถี่ ระบบสาย ระบบแสง ระบบแม่เหลก็ ไฟฟ้า หรือระบบอื่น “วทิ ยคุ มนาคม” หมายความว่า การส่ง การแพร่ หรือการรับเครื่องหมาย สัญญาณ ตวั หนงั สือ ตวั เลข ภาพ เสียง รหสั หรือสิ่งอนื่ ใดซ่ึงสามารถใหเ้ ขา้ ใจความหมายไดด้ ว้ ยคลื่น ความถี่ “วิทยกุ ระจายเสียง” หมายความวา่ วิทยคุ มนาคมทส่ี ่งหรือแพร่เสียงเพื่อใหบ้ คุ คล ทวั่ ไปรับไดโ้ ดยตรง “วทิ ยโุ ทรทศั น์” หมายความว่า วทิ ยคุ มนาคมท่ีแพร่ภาพและเสียงเพ่อื ใหบ้ ุคคล ทวั่ ไปรับไดโ้ ดยตรง “กิจการกระจายเสียง” หมายความวา่ กิจการวิทยกุ ระจายเสียงและกิจการกระจาย เสียง ซ่ึงใหบ้ ริการการส่งข่าวสารสาธารณะหรือรายการไปยงั เคร่ืองรับทสี่ ามารถรับฟังการ ใหบ้ ริการน้นั ๆ ได้ ไม่ว่าจะส่งโดยผา่ นระบบคล่ืนความถ่ี ระบบสาย ระบบแสง ระบบ แม่เหลก็ ไฟฟ้า หรือระบบอ่นื ระบบใดระบบหน่ึง หรือหลายระบบรวมกนั หรือกิจการอน่ื ทานองเดียวกนั ที่ กสทช. กาหนดใหเ้ ป็นกิจการกระจายเสียง “กิจการโทรทศั น์” หมายความวา่ กิจการวทิ ยโุ ทรทศั น์และกิจการโทรทศั นซ์ ่ึง ใหบ้ ริการการส่งขา่ วสารสาธารณะหรือรายการไปยงั เครื่องรับท่ีสามารถรับชมและฟังการ ใหบ้ ริการน้นั ๆ ได้ ไม่วา่ จะส่งโดยผา่ นระบบคล่ืนความถี่ ระบบสาย ระบบแสง ระบบ แม่เหลก็ ไฟฟ้า หรือระบบอ่ืน ระบบใดระบบหน่ึง หรือหลายระบบรวมกนั หรือกิจการอน่ื ทานองเดียวกนั ท่ี กสทช. กาหนดใหเ้ ป็นกิจการโทรทศั น์ “กิจการวิทยคุ มนาคม” หมายความวา่ กิจการซ่ึงเป็นการรับและส่งเคร่ืองหมาย สัญญาณ ตวั หนงั สือ ตวั เลข ภาพ เสียง รหสั หรือส่ิงอนื่ ใด ซ่ึงสามารถใหเ้ ขา้ ใจความหมายไดโ้ ดย ระบบคล่ืนความถี่ เพ่ือความมุ่งหมายทางโทรคมนาคมในกิจการใดกิจการหน่ึงโดยเฉพาะหรือ

เป็นการเฉพาะกิจทม่ี ิใช่เป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมตามกฎหมายว่าดว้ ยการประกอบ กิจการโทรคมนาคมหรือกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทศั นต์ ามกฎหมายว่าดว้ ยการ ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ “กิจการโทรคมนาคม” หมายความวา่ กิจการซ่ึงใหบ้ ริการการส่ง การแพร่ หรือ การรับเคร่ืองหมาย สญั ญาณ ตวั หนงั สือ ตวั เลข ภาพ เสียง รหสั หรือสิ่งอืน่ ใด ซ่ึงสามารถให้ เขา้ ใจความหมายไดโ้ ดยระบบคลื่นความถี่ ระบบสาย ระบบแสง ระบบแม่เหลก็ ไฟฟ้า หรือ ระบบอ่ืน ระบบใดระบบหน่ึง หรือหลายระบบรวมกนั และรวมถึงกิจการซ่ึงใหบ้ ริการดาวเทียม สื่อสาร หรือกิจการอน่ื ท่ี กสทช. กาหนดใหเ้ ป็นกิจการโทรคมนาคม แต่ไม่รวมถึงกิจการท่เี ป็น กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์และกิจการวทิ ยคุ มนาคม “ตารางกาหนดคล่ืนความถ่ี” หมายความวา่ การกาหนดยา่ นความถี่วทิ ยขุ อง วทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ วทิ ยคุ มนาคม โทรคมนาคม และการอ่นื เพ่ือใชง้ านภายใต้ เงื่อนไขที่ กสทช. กาหนด “แผนความถ่ีวิทย”ุ หมายความวา่ การกาหนดช่องความถ่ีวทิ ยสุ าหรับกิจการ วทิ ยกุ ระจายเสียง กิจการวิทยโุ ทรทศั น์ กิจการวทิ ยคุ มนาคม และกิจการโทรคมนาคม เพื่อใชง้ าน ภายใตเ้ ง่ือนไขท่ี กสทช. กาหนด “จดั สรรคล่ืนความถ่ี” หมายความว่า การอนุญาตใหส้ ถานีวิทยกุ ระจายเสียง สถานีวิทยโุ ทรทศั น์ หรือสถานีวทิ ยคุ มนาคม ใชค้ วามถี่วิทยหุ รือช่องความถ่ีวทิ ยตุ ามตาราง กาหนดคล่ืนความถ่ีหรือแผนความถี่ วทิ ยเุ พ่อื ใชง้ านภายใตเ้ งื่อนไขท่ี กสทช. กาหนด “สิทธิในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทยี ม”[๒] หมายความว่า สิทธิท่ปี ระเทศไทยหรือ หน่วยงานของรัฐไดร้ ับหรือมีอยใู่ นการส่งดาวเทียมเขา้ สู่วงโคจรตามขอ้ บงั คบั วิทยขุ องสหภาพ โทรคมนาคมระหว่างประเทศ “ชุมชน” หมายความว่า กลุ่มประชาชนทีม่ ีพ้นื ท่ีอาศยั ในแหล่งเดียวกนั ไม่วา่ จะใน เมือง หรือในชนบท และใหห้ มายความรวมถึงกลุ่มประชาชนทมี่ ีความสนใจร่วมกนั และอยใู่ น พ้นื ทใี่ กลเ้ คียงกนั หรือสื่อสารถึงกนั ได้ โดยมีผลประโยชนด์ า้ นสังคมและวฒั นธรรมเกี่ยวขอ้ ง เช่ือมโยงกนั ทากิจกรรมอนั ชอบดว้ ยกฎหมายและศีลธรรมร่วมกนั มีการดาเนินการอยา่ ง ต่อเน่ือง มีการจดั การและการแสดงเจตนาแทนกลุ่มได้ “กองทุน” หมายความวา่ กองทุนวจิ ยั และพฒั นากิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทศั นแ์ ละกิจการโทรคมนาคม เพ่ือประโยชนส์ าธารณะ “กรรมการ” หมายความวา่ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

“พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี” หมายความวา่ ผซู้ ่ึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ แต่งต้งั ใหป้ ฏิบตั ิการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา ๕ ใหน้ ายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี หมวด ๑ คณะกรรมการกจิ การกระจายเสียง กจิ การโทรทศั น์ และกจิ การโทรคมนาคมแห่งชาติ ส่วนที่ ๑ องค์ประกอบ คุณสมบตั แิ ละลกั ษณะต้องห้ามของกรรมการ มาตรา ๖[๓] ใหม้ ีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ เรียกโดยยอ่ วา่ “กสทช.” จานวนเจด็ คน ซ่ึงแต่งต้งั จากผมู้ ีคุณสมบตั ิและ ไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๗ และมีความรู้ความเช่ียวชาญดา้ นกิจการกระจายเสียง ดา้ น กิจการโทรทศั น์ ดา้ นกิจการโทรคมนาคม ดา้ นวิศวกรรม ดา้ นกฎหมาย ดา้ นเศรษฐศาสตร์ และ ดา้ นการคุม้ ครองผบู้ ริโภคหรือส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ดา้ นละหน่ึงคน ท้งั น้ี ท่ี จะยงั ประโยชน์ต่อการปฏิบตั ิหนา้ ท่ขี อง กสทช. ใหเ้ ลขาธิการ กสทช. เป็นเลขานุการ กสทช. มาตรา ๗[๔] กรรมการตอ้ งมีคุณสมบตั ิและไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ ม ดงั ต่อไปน้ี ก. คุณสมบตั ิทว่ั ไป (๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด และ (๒) มีอายไุ ม่ต่ากว่าสี่สิบปี แต่ไม่เกินเจด็ สิบปี ข. ลกั ษณะตอ้ งหา้ ม (๑) เป็นผดู้ ารงตาแหน่งทางการเมือง (๒) เป็นผดู้ ารงตาแหน่งใดในพรรคการเมือง (๓) เป็นบุคคลวกิ ลจริตหรือจิตฟั่นเฟื อนไม่สมประกอบ (๔) ติดยาเสพติดใหโ้ ทษ (๕) เป็นบคุ คลลม้ ละลายหรือเคยเป็นบคุ คลลม้ ละลายทุจริต

(๖) เป็นบคุ คลที่ตอ้ งคาพิพากษาใหจ้ าคุกและถูกคุมขงั อยโู่ ดยหมายของศาล (๗) เคยตอ้ งคาพิพากษาอนั ถึงที่สุดว่ากระทาความผดิ ใด เวน้ แต่เป็ นความผดิ อนั ไดก้ ระทาโดยประมาท ความผดิ ลหุโทษ หรือความผดิ ฐานหมิ่นประมาท (๘) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือใหอ้ อกจากราชการ หน่วยงานของรัฐหรือ รัฐวสิ าหกิจ หรือจากหน่วยงานของเอกชน เพราะทุจริตต่อหนา้ ท่ี หรือประพฤติชว่ั อย่างร้ายแรง หรือถือว่ากระทาการทจุ ริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (๙) เคยตอ้ งคาพิพากษาหรือคาส่ังของศาลให้ทรัพยส์ ินตกเป็ นของแผ่นดิน เพราะร่ารวยผดิ ปกติหรือมีทรัพยส์ ินเพ่ิมข้ึนผดิ ปกติ (๑๐) เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการการเลือกต้งั ผตู้ รวจการแผน่ ดิน กรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการตรวจเงินแผน่ ดิน หรือกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (๑๑) เคยถูกวฒุ สิ ภามีมติใหถ้ อดถอนออกจากตาแหน่ง (๑๒) เป็นหรือเคยเป็นกรรมการ ผจู้ ดั การ ผบู้ ริหาร ทีป่ รึกษา พนกั งาน ผถู้ ือ หุน้ หรือหุน้ ส่วน ในบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนหรือนิติบุคคลอื่นใด บรรดาที่ประกอบธุรกิจดา้ นกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคม ในระยะเวลาหน่ึงปี ก่อนไดร้ ับการ คดั เลือกตามมาตรา ๑๕ (๑๓) อยใู่ นระหว่างตอ้ งหา้ มมิใหด้ ารงตาแหน่งทางการเมือง (๑๔) เคยเป็นผตู้ อ้ งพน้ จากตาแหน่งกรรมการ หรือผบู้ ริหารบริษทั มหาชน จากดั เพราะเหตุมีลกั ษณะท่ีแสดงถึงการขาดความเหมาะสมท่ีจะไดร้ ับความไวว้ างใจใหบ้ ริหาร จดั การกิจการที่มีมหาชนเป็นผถู้ ือหุน้ ตามกฎหมายว่าดว้ ยหลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรพั ย์ มาตรา ๘ กรรมการตอ้ ง (๑) ไม่เป็นขา้ ราชการซ่ึงมีตาแหน่งหรือเงินเดือนประจา (๒) ไม่เป็นพนกั งานหรือลูกจา้ งของหน่วยงานของรัฐ รัฐวสิ าหกิจหรือราชการ ส่วนทอ้ งถ่ินและไม่เป็ นกรรมการหรือท่ีปรึกษาของรัฐวสิ าหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ (๓) ไม่ประกอบอาชีพหรือวชิ าชีพอิสระอื่นใดทีม่ ีส่วนไดเ้ สียหรือมีผลประโยชน์ ขดั แยง้ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยออ้ มกบั การปฏิบตั ิหนา้ ทใ่ี นตาแหน่งกรรมการ

ส่วนท่ี ๒ การได้มาซึ่งรายช่ือผ้สู มควรได้รับเลอื กเป็ นกรรมการ โดยวธิ กี ารคดั เลอื กกนั เอง[๕] มาตรา ๙[๖] (ยกเลิก) มาตรา ๑๐[๗] (ยกเลิก) มาตรา ๑๑[๘] (ยกเลิก) มาตรา ๑๒[๙] (ยกเลิก) มาตรา ๑๓[๑๐] (ยกเลิก) ส่วนท่ี ๓ การได้มาซ่ึงรายช่ือผ้สู มควรได้รับเลือกเป็ นกรรมการ โดยวธิ ีการสรรหา มาตรา ๑๔[๑๑] เม่ือมีเหตุตอ้ งมีการเลือกและแต่งต้งั กรรมการ ใหม้ ีคณะกรรมการ สรรหากรรมการคณะหน่ึง ทาหนา้ ที่คดั เลือกผสู้ มควรไดร้ ับเลือกเป็นกรรมการ ประกอบดว้ ย (๑) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยทปี่ ระชุมใหญ่ตุลาการในศาล รัฐธรรมนูญ จานวนหน่ึงคน (๒) ผพู้ ิพากษาในศาลฎีกาซ่ึงดารงตาแหน่งไม่ต่ากวา่ ผพู้ พิ ากษาศาลฎีกาหรือผู้ พิพากษาอาวโุ สซ่ึงเคยดารงตาแหน่งไม่ต่ากวา่ ผพู้ ิพากษาศาลฎีกาซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยท่ปี ระชุม ใหญ่ศาลฎกี า จานวนหน่ึงคน (๓) ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการใน ศาลปกครองสูงสุด จานวนหน่ึงคน

(๔) กรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยท่ี ประชุมคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จานวนหน่ึงคน (๕) กรรมการตรวจเงินแผน่ ดินซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยทีป่ ระชุมคณะกรรมการ ตรวจเงินแผน่ ดิน จานวนหน่ึงคน (๖) ผตู้ รวจการแผ่นดินซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยท่ปี ระชุมผตู้ รวจการแผ่นดิน จานวน หน่ึงคน (๗) ผวู้ า่ การธนาคารแห่งประเทศไทย ใหค้ ณะกรรมการสรรหาตามวรรคหน่ึงเลือกกรรมการสรรหาคนหน่ึงเป็น ประธานกรรมการสรรหา ประธานและกรรมการสรรหาไม่มีสิทธิสมคั รเป็นกรรมการ ในกรณีทไี่ ม่มีกรรมการสรรหาในตาแหน่งใด หรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ได้ ถา้ กรรมการสรรหาที่เหลืออยนู่ ้นั มีจานวนไม่นอ้ ยกว่าก่ึงหน่ึง ใหค้ ณะกรรมการสรรหา ประกอบดว้ ยกรรมการสรรหาเท่าท่ีมีอยู่ ใหส้ านกั งานเลขาธิการวุฒิสภาทาหนา้ ทเ่ี ป็นหน่วยธุรการในการดาเนินการสรร หาและคดั เลือกกรรมการ มาตรา ๑๔/๑[๑๒] ก่อนดาเนินการประกาศรับสมคั รตามมาตรา ๑๕ ให้ คณะกรรมการสรรหากาหนดลกั ษณะของความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และผลงานของ แต่ละดา้ นทจ่ี ะยงั ประโยชน์ต่อการปฏิบตั ิหนา้ ท่ขี อง กสทช. แลว้ ประกาศใหท้ ราบทวั่ กนั มาตรา ๑๔/๒[๑๓] ผมู้ ีสิทธิสมคั รเขา้ รับการสรรหาเพ่ือเป็ นกรรมการตอ้ งมี ลกั ษณะอยา่ งหน่ึงอยา่ งใด ดงั ต่อไปน้ี (๑) เป็นหรือเคยเป็นขา้ ราชการพลเรือน พนกั งานในหน่วยงานอื่นของรัฐหรือ รัฐวิสาหกิจ ที่ดารงตาแหน่งไม่ต่ากว่ารองหวั หนา้ ส่วนราชการต้งั แต่ระดบั กรมข้ึนไป หรือรอง หวั หนา้ หน่วยงานอื่นของรัฐทเ่ี ป็นนิติบุคคลหรือรัฐวิสาหกิจ หรือ (๒) เป็นหรือเคยเป็ นนายทหารหรือนายตารวจที่มียศต้งั แต่พนั เอก นาวาเอก นาวา อากาศเอก หรือพนั ตารวจเอก อตั ราเงินเดือนพนั เอกพเิ ศษ นาวาเอกพิเศษ นาวาอากาศเอกพิเศษ หรือพนั ตารวจเอกพิเศษข้ึนไป หรือ (๓) ดารงตาแหน่งหรือเคยดารงตาแหน่งรองศาสตราจารยข์ ้ึนไป หรือ

(๔) เป็นหรือเคยเป็นผบู้ ริหารมาแลว้ ไม่นอ้ ยกวา่ สามปี ในตาแหน่งไม่ต่ากว่ารอง กรรมการผจู้ ดั การในบริษทั มหาชนจากดั ทม่ี ีทุนจดทะเบียนไม่นอ้ ยกว่าหา้ ร้อยลา้ นบาท หรือ (๕) มีประสบการณ์การทางานดา้ นการคุม้ ครองผบู้ ริโภคหรือส่งเสริมสิทธิและ เสรีภาพของประชาชนอยา่ งสม่าเสมอและตอ่ เนื่องมาแลว้ ไม่นอ้ ยกว่าสิบปี หรือ (๖) มีประสบการณ์ดา้ นการบริหารกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือ กิจการโทรคมนาคมอยา่ งสม่าเสมอและต่อเนื่องมาแลว้ ไม่นอ้ ยกวา่ สิบปี มาตรา ๑๕[๑๔] ในการดาเนินการคดั เลือกกรรมการ ใหส้ านกั งานเลขาธิการ วุฒิสภาประกาศการเปิ ดรับสมคั รบุคคลผมู้ คี ุณสมบตั ิตามมาตรา ๖ ใหท้ ราบเป็นการทว่ั ไปผา่ น ทางวิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ ส่ือส่ิงพิมพ์ และส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์อยา่ งนอ้ ยสามสิบวนั ติดต่อกนั เม่ือพน้ กาหนดระยะเวลาตามวรรคหน่ึงแลว้ ใหค้ ณะกรรมการสรรหาพิจารณา คดั เลือกผสู้ มคั รซ่ึงมีคุณสมบตั ิท่ีจะเป็ นกรรมการใหไ้ ดจ้ านวนสองเท่าของจานวนกรรมการที่ จะพึงมีในแต่ละดา้ นภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ทไี่ ดร้ ับรายชื่อผสู้ มคั รเขา้ รับการคดั เลอื กจาก สานกั งานเลขาธิการวฒุ ิสภา หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการคดั เลือกใหเ้ ป็นไปตามท่คี ณะกรรมการสรรหากาหนด โดย แต่ละดา้ นใหผ้ ทู้ ่ไี ดร้ ับคะแนนสูงสุดเรียงตามลาดบั เป็นผไู้ ดร้ ับการคดั เลือก ในกรณีท่ีมีการฟ้องคดีเกี่ยวกบั การสรรหากรรมการต่อศาลปกครอง การฟ้องคดี ดงั กล่าวไม่เป็นเหตุใหร้ ะงบั หรือชะลอการดาเนินการใด ๆ เก่ียวกบั การสรรหาที่ไดด้ าเนินการไป แลว้ เวน้ แต่ศาลปกครองจะมีคาพพิ ากษาหรือคาสั่งเป็นอยา่ งอ่ืน ในการน้ี หากศาลปกครองมีคา พพิ ากษาหรือคาส่งั ใด ๆ อนั เป็ นผลใหบ้ คุ คลทีไ่ ดร้ ับการคดั เลือกขาดคุณสมบตั ิหรือมีลกั ษณะ ตอ้ งหา้ ม หรือไดร้ ับการคดั เลือกโดยไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย กรณีเช่นวา่ น้นั ไม่มีผลกระทบต่อกิจการ ท่ีบคุ คลน้นั ไดก้ ระทาไวแ้ ลว้ ก่อนมีคาพิพากษาหรือคาสั่งดงั กลา่ ว ส่วนที่ ๔ การเลือกและการแต่งต้ังกรรมการ[๑๕] มาตรา ๑๖[๑๖] เม่ือไดร้ ายช่ือผสู้ มควรไดร้ ับเลือกเป็ นกรรมการจากการสรรหา ตามส่วนท่ี ๓ แลว้ ใหเ้ ลขาธิการวฒุ สิ ภาจดั ทารายชื่อผซู้ ่ึงไดร้ ับการคดั เลือกน้นั และเสนอบญั ชี

รายช่ือ พร้อมประวตั ิและเอกสารหลกั ฐานของบุคคลดงั กล่าว ซ่ึงตอ้ งระบุให้ชดั เจนหรือมี หลกั ฐานแสดงให้เห็นว่าเป็นบุคคลท่ีมีความเหมาะสมตามมาตรา ๖ ต่อประธานวฒุ ิสภาภายใน สามสิบวนั นบั แต่วนั ที่คดั เลือกเสร็จตามมาตรา ๑๕ เพอื่ เสนอใหว้ ฒุ ิสภาพิจารณาและมีมติเลือก ต่อไป ในกรณีทค่ี ณะกรรมการสรรหาไม่อาจสรรหาผสู้ มควรไดร้ ับเลือกเป็นกรรมการ ตามส่วนที่ ๓ ใหแ้ ลว้ เสร็จไดภ้ ายในกาหนดเวลาตามมาตรา ๑๕ ใหเ้ ลขาธิการวฒุ ิสภานารายช่ือผู้ สมควรไดร้ ับเลือกเป็นกรรมการท่ีคณะกรรมการสรรหาดาเนินการแลว้ เสร็จภายในกาหนดเวลา พร้อมประวตั ิและเอกสารหลกั ฐานของบุคคลดงั กล่าวแสดงใหเ้ ห็นวา่ เป็นบคุ คลทมี่ ีความ เหมาะสมตามมาตรา ๖ เสนอต่อประธานวุฒิสภาภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ท่คี ดั เลือกเสร็จตาม มาตรา ๑๕ เพอื่ เสนอใหว้ ฒุ ิสภาพจิ ารณาและมีมติเลือกต่อไป มาตรา ๑๗[๑๗] ให้วุฒิสภามีมติเลือกบุคคลจากบญั ชีรายชื่อที่เลขาธิการวุฒิสภา เสนอใหแ้ ลว้ เสร็จภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ท่ีไดร้ ับบญั ชีรายชื่อ เพื่อใหไ้ ดก้ รรมการตาม มาตรา ๖ โดยแต่ละดา้ นใหผ้ ูท้ ่ีไดร้ ับคะแนนสูงสุดเรียงตามลาดบั เป็นผไู้ ดร้ ับการคดั เลือก ซ่ึง จะตอ้ งกระทาโดยวิธีลงคะแนนลบั แลว้ แจง้ ใหผ้ ไู้ ดร้ ับเลือกทราบ และประธานวฒุ ิสภาจดั ใหผ้ ู้ ไดร้ ับการเลือกมาประชุมร่วมกนั เพอ่ื คดั เลือกกนั เองเป็ นประธานกรรมการ แลว้ นารายช่ือผู้ ไดร้ ับการคดั เลือกเป็นประธานกรรมการและไดร้ ับการเลือกเป็นกรรมการ แจง้ ใหน้ ายกรัฐมนตรี ทราบภายในยสี่ ิบวนั นบั แต่วนั ท่ีวุฒิสภามีมติเลือก เพ่ือนายกรัฐมนตรีดาเนินการนาความกราบ บงั คมทูลเพ่ือทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั ต่อไป เมื่อล่วงพน้ กาหนดเวลาตามวรรคหน่ึง ถา้ ยงั มีผไู้ ดร้ ับเลือกเป็นกรรมการไม่ครบ ตามจานวนท่กี าหนดในมาตรา ๖ ใหป้ ระธานวุฒิสภาแจง้ ใหค้ ณะกรรมการสรรหาดาเนินการ สรรหาเพ่มิ เติมตามมาตรา ๑๕ วรรคสอง ตามจานวนที่ไม่ครบ โดยตอ้ งดาเนินการใหแ้ ลว้ เสร็จ ภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ที่คณะกรรมการสรรหาไดร้ ับแจง้ ในกรณีท่ีวุฒิสภามีมติเลือกบุคคลเป็ นกรรมการไม่ครบตามวรรคสองแต่มี จานวนผูไ้ ดร้ ับเลือกเป็นกรรมการไม่นอ้ ยกว่าหา้ คน ใหป้ ระธานวฒุ ิสภานารายช่ือผทู้ ไ่ี ดร้ ับเลือก เป็นกรรมการแจง้ ใหน้ ายกรัฐมนตรีทราบ และใหน้ ายกรัฐมนตรีนารายช่ือผไู้ ดร้ ับเลือกดงั กล่าว ข้ึนกราบบงั คมทลู เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั และใหก้ รรมการดงั กล่าวปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ต่อไปไดโ้ ดยใหถ้ ือว่า กสทช. ประกอบดว้ ยกรรมการจานวนดงั กลา่ ว และใหก้ รรมการ กสทช. น้นั ประชุมร่วมกนั เพือ่ เลือกกรรมการคนหน่ึงทาหนา้ ท่ีประธานกรรมการชวั่ คราว จนกวา่ จะได้ มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั ประธานกรรมการตามวรรคส่ี

เม่ือวฒุ ิสภาไดร้ ับบญั ชีรายช่ือเพม่ิ เติมจากคณะกรรมการสรรหาตามวรรคสอง แลว้ ให้วุฒิสภาดาเนินการตามวรรคหน่ึงเพ่ือเลือกบคุ คลจากบญั ชีรายช่ือน้นั ใหค้ รบตาม จานวนที่กาหนดในมาตรา ๖ ภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ทไ่ี ดร้ ับบญั ชีรายชื่อดงั กล่าว และให้ ประธานวฒุ ิสภาจดั ใหผ้ ทู้ ่ีไดร้ ับเลือกเป็นกรรมการมาประชุมร่วมกบั กรรมการตามวรรคสามเพือ่ คดั เลือกผสู้ มควรดารงตาแหน่งประธานกรรมการใหแ้ ลว้ เสร็จภายในยสี่ ิบวนั นบั แต่วนั ทีว่ ุฒิสภา มีมติเลือกกรรมการเพิม่ เติม แลว้ แจง้ บญั ชีรายชื่อกรรมการที่ไดร้ ับเลือกและผไู้ ดร้ ับคดั เลือกเป็น ประธานกรรมการใหน้ ายกรัฐมนตรีทราบ เพื่อดาเนินการนาความกราบบงั คมทูลเพือ่ ทรงพระ กรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั ต่อไป ในกรณีทีผ่ ไู้ ดร้ ับการคดั เลือกเป็นประธานกรรมการเป็น กรรมการตามวรรคสาม ให้ผนู้ ้นั พน้ จากความเป็ นกรรมการนบั แต่วนั ท่ีไดร้ ับโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั เป็ นประธานกรรมการ วนั ท่ีวุฒิสภาจะดาเนินการเลือกตามวรรคหน่ึงใหห้ มายถึงวนั ในสมยั ประชุม รัฐสภา มาตรา ๑๘[๑๘] ในกรณีท่ีบคุ คลท่จี ะไดร้ ับการแต่งต้งั ตามมาตรา ๑๗ มีลกั ษณะ ตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๘ (๑) (๒) หรือ (๓) นายกรัฐมนตรีจะนาความข้ึนกราบบงั คมทูลเพื่อทรง พระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั ไดต้ ่อเมื่อผนู้ ้นั ไดล้ าออกจากการเป็นบุคคลตามมาตรา ๘ (๑) หรือ (๒) หรือแสดงหลกั ฐานใหเ้ ป็นที่เชื่อถือไดว้ า่ ตนไดเ้ ลิกประกอบอาชีพหรือวิชาชีพตามมาตรา ๘ (๓) แลว้ ซ่ึงตอ้ งกระทาภายในสิบหา้ วนั นบั แต่วนั ทไี่ ดร้ ับเลือก แต่ถา้ ผนู้ ้นั มิไดล้ าออก หรือมิได้ เลิกประกอบอาชีพหรือวิชาชีพอิสระภายในเวลาทกี่ าหนด ใหถ้ ือวา่ ผนู้ ้นั ไม่เคยไดร้ ับเลือกให้ เป็นกรรมการ และใหค้ ณะกรรมการสรรหาคดั เลือกบุคคลจากรายชื่อผเู้ ขา้ รับการคดั เลือกตาม มาตรา ๑๖ เพื่อเสนอวุฒิสภาใหค้ วามเห็นชอบ ส่วนท่ี ๕ วาระการดารงตาแหน่งและการพ้นจากตาแหน่งของกรรมการ มาตรา ๑๙ กรรมการมีวาระการดารงตาแหน่งหกปี นบั แต่วนั ทพ่ี ระมหากษตั ริย์ ทรงแต่งต้งั และใหด้ ารงตาแหน่งไดเ้ พียงวาระเดียว ใหก้ รรมการซ่ึงพน้ จากตาแหน่งตามวาระ อยใู่ นตาแหน่งเพือ่ ปฏิบตั ิหนา้ ที่ต่อไป จนกว่าจะมีพระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั กรรมการข้ึนใหม่

ก่อนครบกาหนดตามวาระเป็นเวลาไม่นอ้ ยกวา่ หน่ึงร้อยหา้ สิบวนั ใหส้ านกั งาน เลขาธิการวุฒิสภาดาเนินการจดั ใหม้ กี ารเสนอชื่อและแต่งต้งั กรรมการข้ึนใหมใ่ หแ้ ลว้ เสร็จ โดยเร็ว[๑๙] มาตรา ๒๐ นอกจากการพน้ จากตาแหน่งตามวาระ กรรมการพน้ จากตาแหน่งเม่ือ (๑) ตาย (๒) มีอายคุ รบเจด็ สิบปี บริบรู ณ์ (๓) ลาออก (๔) ขาดคุณสมบตั ิหรือมีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๗ (๕) กระทาการอนั เป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๘ (๖)[๒๐] (ยกเลิก) (๗)[๒๑] (ยกเลิก) การพน้ จากตาแหน่งกรรมการตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ใหน้ าความกราบบงั คมทูล เพ่ือทรงทราบถา้ เป็นการพน้ จากตาแหน่งตาม (๔) หรือ(๕)ใหน้ าความกราบบงั คมทูลเพ่อื มีพระบรม ราชโองการใหพ้ น้ จากตาแหน่ง พระบรมราชโองการดงั กล่าวใหม้ ีผลต้งั แต่วนั ทข่ี าดคุณสมบตั ิ หรือมีลกั ษณะตอ้ งหา้ มหรือวนั ทกี่ ระทาการอนั เป็ นการฝ่ าฝื น แลว้ แต่กรณี[๒๒] เม่ือมีกรณีตามวรรคหน่ึง ใหก้ รรมการเท่าที่เหลืออยปู่ ฏิบตั ิหนา้ ท่ตี ่อไปได้ และให้ ถือว่า กสทช. ประกอบดว้ ยกรรมการเท่าท่ีเหลืออยู่ แต่ท้งั น้ี จะตอ้ งมีจานวนกรรมการไม่นอ้ ยกวา่ สี่คน[๒๓] ในกรณีทีก่ รรมการพน้ จากตาแหน่งก่อนวาระ ใหผ้ ไู้ ดร้ ับแต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหน่ง แทน อยใู่ นตาแหน่งเท่ากบั วาระทเี่ หลืออยขู่ องกรรมการซ่ึงตนแทน และในกรณีท่วี าระท่ี เหลืออยไู่ ม่ถึงสามปี ใหผ้ นู้ ้นั มีสิทธิไดร้ ับการแต่งต้งั อกี วาระหน่ึงได้ ในกรณีท่ีประธานกรรมการหรือรองประธานกรรมการพน้ จากตาแหน่งตาม วรรคหน่ึง ให้ กสทช. ประชุมกนั เพือ่ เลือกกรรมการคนหน่ึงเป็นประธานกรรมการหรือรอง ประธานกรรมการ แลว้ แจง้ ใหน้ ายกรฐั มนตรีทราบ และใหน้ ายกรัฐมนตรีนาความข้ึนกราบ บงั คมทูลเพ่ือทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั เป็ นประธานกรรมการหรือรองประธาน กรรมการ แลว้ แต่กรณี เม่ือมีเหตุตามวรรคหน่ึงใหส้ านกั งาน กสทช. มีหนงั สือแจง้ ใหส้ านกั งาน เลขาธิการวุฒิสภาทราบภายในระยะเวลาสิบห้าวนั นบั แต่วนั ท่มี ีเหตุดงั กล่าว และใหส้ านกั งาน

เลขาธิการวฒุ ิสภาเริ่มดาเนินการจดั ใหม้ ีการเลือกกรรมการแทนตาแหน่งที่ว่างภายในสิบห้าวนั นบั แต่วนั ท่ีไดร้ ับหนังสือแจง้ [๒๔] มาตรา ๒๑[๒๕] (ยกเลิก) มาตรา ๒๒[๒๖] (ยกเลิก) มาตรา ๒๒/๑[๒๗] หา้ มมิใหผ้ ซู้ ่ึงพน้ จากตาแหน่งกรรมการเป็นผถู้ ือหุน้ หุน้ ส่วน หรือดารงตาแหน่งใด ในบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนหรือนิติบคุ คลอื่นใด บรรดาที่ประกอบธุรกิจ ดา้ นกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคม เวน้ แต่จะไดพ้ น้ จากตาแหน่ง มาแลว้ ไม่นอ้ ยกว่าสองปี ส่วนที่ ๖ การประชุมและอานาจหน้าทข่ี องคณะกรรมการ มาตรา ๒๓ การประชุม การลงมติ และการปฏิบตั ิงานของ กสทช. ใหเ้ ป็นไปตาม ระเบียบที่ กสทช. กาหนด ในการประชุม ถา้ มีการพจิ ารณาเร่ืองทีก่ รรมการผใู้ ดมีส่วนไดเ้ สีย กรรมการผนู้ ้นั ไม่มีสิทธิเขา้ ประชุม ในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ กสทช. อาจมอบหมายใหก้ รรมการคนหน่ึงหรือหลายคน ปฏิบตั ิงานแทน กสทช. ได้ แต่ กสทช. จะปฏิเสธความรับผดิ เพราะเหตุท่ไี ดม้ อบหมายให้ กรรมการไปทาแทนแลว้ ไม่ได้ มาตรา ๒๔ การปฏิบตั ิหนา้ ท่ขี อง กสทช. กสท. และ กทค. ในเรื่องใดทเี่ กี่ยวขอ้ ง หรือมีผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ ตอ้ งกระทาโดยมติของท่ีประชุม และตอ้ งเปิ ดเผย รายงานการประชุม พร้อมท้งั ผลการลงมตขิ องที่ประชุมท้งั รายบุคคลและท้งั คณะใหส้ าธารณชน ทราบผา่ นทางสื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์ของสานกั งาน กสทช. และโดยวธิ ีการอน่ื ที่เหมาะสมตามที่ กสทช. ประกาศกาหนด

ขอ้ มูลทปี่ รากฏอยใู่ นรายงานการประชุมเร่ืองใดมีลกั ษณะตามทก่ี ฎหมายวา่ ดว้ ย ขอ้ มูลข่าวสารของราชการกาหนดมิใหต้ อ้ งเปิ ดเผยก็ได้ กสทช. อาจมีมติมิใหเ้ ปิ ดเผยขอ้ มูล เฉพาะในส่วนน้นั ได้ การเปิ ดเผยรายงานการประชุมพร้อมท้งั ผลการลงมติตามวรรคหน่ึง ตอ้ ง ดาเนินการภายในระยะเวลาไม่เกินสามสิบวนั นบั แต่วนั ท่ไี ดม้ ีการลงมติ เวน้ แต่มีเหตุจาเป็นให้ ขยายเวลาออกไปไดอ้ ีกไม่เกินสิบหา้ วนั แต่ตอ้ งแสดงเหตุผลและความจาเป็นทต่ี อ้ งขยายเวลาไว้ ดว้ ย มาตรา ๒๕ ใหก้ รรมการเป็นผดู้ ารงตาแหน่งระดบั สูงตามกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญ ว่าดว้ ยการป้องกนั และปราบปรามการทุจริต และเป็นเจา้ พนกั งานตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา ๒๖ ใหป้ ระธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการปฏิบตั ิ หนา้ ทีเ่ ตม็ เวลา ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการ ไดร้ ับค่าตอบแทนเหมา จ่ายเป็นรายเดือนตามทีก่ าหนดในพระราชกฤษฎีกา ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการ อาจไดร้ ับค่าใชจ้ ่ายอนั เกี่ยวกบั การเดินทางไปปฏิบตั ิหนา้ ท่ีต่างทอ้ งท่ีไดไ้ ม่เกินอตั ราท่ีกาหนดในพระราชกฤษฎีกา มาตรา ๒๗ ให้ กสทช. มีอานาจหนา้ ที่ ดงั ต่อไปน้ี (๑)[๒๘] จดั ทาแผนแม่บทการบริหารคล่ืนความถ่ี ตารางกาหนดคล่ืนความถี่ แห่งชาติ แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ แผนแม่บทกิจการ โทรคมนาคม แผนความถี่วทิ ยุ แผนการบริหารสิทธิในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทียม และแผน เลขหมายโทรคมนาคม และดาเนินการให้เป็ นไปตามแผนดงั กล่าว แต่แผนดงั กล่าวตอ้ ง สอดคลอ้ งกบั นโยบายและแผนระดบั ชาติว่าดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกิจและสงั คม (๒) กาหนดการจดั สรรคลื่นความถ่ีระหว่างคลื่นความถ่ีท่ีใชใ้ นกิจการกระจาย เสียง กิจการโทรทศั น์ กิจการวทิ ยคุ มนาคม และกิจการโทรคมนาคม (๓) กาหนดลกั ษณะและประเภทของกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และ กิจการโทรคมนาคม

(๔)[๒๙] พิจารณาอนุญาตและกากบั ดูแลการใชค้ ลื่นความถี่และเครื่องวิทยุ คมนาคมในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม หรือใน กิจการวทิ ยคุ มนาคม และกาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการเกี่ยวกบั การอนุญาต เง่ือนไข หรือ ค่าธรรมเนียมการอนุญาตดงั กล่าว ในการน้ี กสทช. จะมอบหมายใหส้ านกั งาน กสทช. เป็ นผู้ อนุญาตแทน กสทช. เฉพาะการอนุญาตในส่วนที่เก่ียวกบั เครื่องวิทยคุ มนาคมตามหลกั เกณฑ์ และเง่ือนไขท่ี กสทช. กาหนดกไ็ ด้ (๕) กาหนดหลกั เกณฑก์ ารใชค้ ลื่นความถี่ใหเ้ ป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพและ ปราศจากการรบกวนซ่ึงกนั และกนั ท้งั ในกิจการประเภทเดียวกนั และระหว่างกิจการแต่ละ ประเภท (๖) พจิ ารณาอนุญาตและกากบั ดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม เพ่อื ใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการไดร้ ับบริการทม่ี ีคุณภาพ ประสิทธิภาพ รวดเร็ว ถูกตอ้ ง และเป็นธรรมและกาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการเกี่ยวกบั การอนุญาต เงื่อนไข หรือค่าธรรมเนียมการอนุญาตดงั กลา่ ว (๗) พจิ ารณาอนุญาตและกากบั ดูแลการใชเ้ ลขหมายโทรคมนาคม และกาหนด หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการเก่ียวกบั การอนุญาต เงื่อนไข หรือค่าธรรมเนียมการอนุญาตดงั กล่าว (๘) กาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการในการใชห้ รือเชื่อมต่อ และหลกั เกณฑแ์ ละ วิธีการในการกาหนดอตั ราค่าใชห้ รือค่าเช่ือมต่อโครงข่ายในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม ท้งั ในกิจการประเภทเดียวกนั และระหว่างกิจการแต่ ละประเภท ใหเ้ ป็นธรรมต่อผใู้ ชบ้ ริการ ผใู้ หบ้ ริการและผลู้ งทุน หรือระหว่างผใู้ หบ้ ริการ โทรคมนาคม โดยคานึงถึงประโยชนส์ าธารณะเป็นสาคญั (๙) กาหนดโครงสร้างอตั ราค่าธรรมเนียมและโครงสรา้ งอตั ราค่าบริการใน กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม ใหเ้ ป็นธรรมต่อผใู้ ชบ้ ริการและผู้ ใหบ้ ริการโดยคานึงถึงประโยชน์สาธารณะเป็นสาคญั (๑๐) กาหนดมาตรฐานและลกั ษณะพึงประสงคท์ างดา้ นเทคนิคในการประกอบ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ กิจการโทรคมนาคม และในกิจการวิทยคุ มนาคม (๑๑) กาหนดมาตรการเพ่ือป้องกนั มิใหม้ ีการกระทาอนั เป็ นการผกู ขาดหรือ ก่อใหเ้ กิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขนั ในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคม (๑๒) กาหนดมาตรการใหม้ ีการกระจายบริการดา้ นโทรคมนาคมใหท้ ว่ั ถึงและ เทา่ เทียมกนั ตามมาตรา ๕๐

(๑๒/๑)[๓๐] เรียกคืนคล่ืนความถ่ีท่ไี ม่ไดใ้ ชป้ ระโยชน์ หรือใชป้ ระโยชน์ไม่คุม้ ค่า หรือนามาใชป้ ระโยชน์ใหค้ ุม้ ค่ายง่ิ ข้ึน ตามทีก่ าหนดไวใ้ นแผนซ่ึงจดั ทาข้ึนตาม (๑) จากผทู้ ีไ่ ดร้ ับ อนุญาตเพอื่ นามาจดั สรรใหม่ ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ กสทช. กาหนด โดย เง่ือนไขดงั กล่าวตอ้ งกาหนดวิธีการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนสาหรับผทู้ ี่ถูกเรียกคืน คล่ืนความถ่ี โดยใหค้ านึงถึงสิทธิของผทู้ ี่ไดร้ ับผลกระทบจากการถูกเรียกคืนคล่ืนความถี่ในแต่ ละกรณีดว้ ย (๑๓) คุม้ ครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนมิใหถ้ ูกเอาเปรียบจากผปู้ ระกอบ กิจการและคุม้ ครองสิทธิในความเป็นส่วนตวั และเสรีภาพของบุคคลในการสื่อสารถึงกนั โดย ทางโทรคมนาคมและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของประชาชนในการเขา้ ถึงและ ใชป้ ระโยชนค์ ลื่นความถี่ที่ใชใ้ นกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม (๑๔)[๓๑] ดาเนินการในฐานะหน่วยงานอานวยการของรัฐทม่ี ีอานาจในการ บริหารกิจการส่ือสารระหว่างประเทศกบั สหภาพโทรคมนาคมระหวา่ งประเทศ หรือกบั องคก์ าร ระหว่างประเทศอื่น รัฐบาลและหน่วยงานต่างประเทศ ตามที่อยใู่ นหนา้ ทีแ่ ละอานาจของ กสทช. หรือตามท่ีรัฐบาลมอบหมาย รวมท้งั สนบั สนุนการดาเนินการของรัฐเพ่ือให้มีดาวเทยี มหรือให้ ไดม้ าซ่ึงสิทธิในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทียมและประสานงานเกี่ยวกบั การบริหารคล่ืนความถี่ท้งั ในประเทศและระหวา่ งประเทศ ท้งั น้ี เพ่อื ใหเ้ ป็นไปตามแผนซ่ึงจดั ทาตาม (๑) และนโยบายและ แผนระดบั ชาติว่าดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพอื่ เศรษฐกิจและสงั คม (๑๔/๑)[๓๒] ดาเนินการใหไ้ ดม้ าและรักษาไวซ้ ่ึงสิทธิในการเขา้ ใชว้ งโคจร ดาวเทียมอนั เป็ นสมบตั ิของชาติ และดาเนินการใหม้ ีการใชส้ ิทธิดงั กล่าวเพ่อื ใหเ้ กิดประโยชน์ สูงสุดกบั ประเทศชาติและประชาชน ในกรณีที่การรักษาสิทธิดงั กล่าวก่อใหเ้ กิดภาระแก่รัฐเกิน ประโยชนท์ จ่ี ะไดร้ ับ กสทช. อาจสละสิทธิดงั กล่าวไดต้ ามทก่ี าหนดในแผนการบริหารสิทธิใน การเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทยี ม และใหร้ ายงานคณะรัฐมนตรีพร้อมท้งั ประกาศเหตุผลโดยละเอียด ใหป้ ระชาชนทราบ ในการดาเนินการใหม้ ีการใชส้ ิทธิในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทยี มดงั กล่าว ให้ กสทช. มีอานาจกาหนดหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาตค่าธรรมเนียมและการยกเวน้ ค่าธรรมเนียมการอนุญาต รวมถึงค่าใชจ้ ่ายต่าง ๆ ในการดาเนินการท่ีเก่ียวขอ้ งท่ีผขู้ อรับอนุญาต หรือผรู้ ับอนุญาต แลว้ แต่กรณี จะตอ้ งรับภาระโดยค่าธรรมเนียมการอนุญาตดงั กล่าวเมื่อหกั ค่าใชจ้ ่ายในการอนุญาตแลว้ เหลือเทา่ ใดใหน้ าส่งเป็นรายไดแ้ ผน่ ดิน (๑๔/๒)[๓๓] พิจารณาอนุญาตและกากบั ดูแลการประกอบกิจการตาม พระราชบญั ญตั ิน้ี โดยใชช้ ่องสญั ญาณดาวเทยี มต่างชาติ และกาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการ เก่ียวกบั การอนุญาต เงื่อนไข และค่าธรรมเนียมการอนุญาตดงั กล่าว

(๑๕) วินิจฉยั และแกไ้ ขปัญหาการใชค้ ล่ืนความถี่ที่มีการรบกวนซ่ึงกนั และกนั (๑๖) ติดตามตรวจสอบและใหค้ าปรึกษาแนะนาการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั นแ์ ละกิจการโทรคมนาคม (๑๗) กาหนดลกั ษณะการควบรวม การครองสิทธิขา้ มสื่อ หรือการครอบงา กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ท่ใี ชค้ ลื่นความถ่ี ระหวา่ งสื่อมวลชนดว้ ยกนั เองหรือโดย บคุ คลอ่นื ใด ซ่ึงจะมีผลเป็นการขดั ขวางเสรีภาพในการรับรู้ขอ้ มูลข่าวสารหรือปิ ดก้นั การไดร้ ับ ขอ้ มูลข่าวสารทหี่ ลากหลายของประชาชน (๑๘) ส่งเสริมการรวมกลุ่มของผรู้ ับใบอนุญาต ผผู้ ลิตรายการ และผปู้ ระกอบ วชิ าชีพส่ือสารมวลชนทีเ่ กี่ยวกบั กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์เป็นองคก์ รในรูปแบบ ต่าง ๆ เพอ่ื ทาหนา้ ท่ีจดั ทามาตรฐานทางจริยธรรมของการประกอบอาชีพหรือวชิ าชีพและการ ควบคุมการประกอบอาชีพหรือวชิ าชีพกนั เองภายใตม้ าตรฐานทางจริยธรรม (๑๙) ออกระเบียบหรือประกาศตามมาตรา ๕๘ (๒๐) อนุมตั ิงบประมาณรายจ่ายของสานกั งาน กสทช. รวมท้งั เงินท่จี ะจดั สรรเขา้ กองทุนตามมาตรา ๕๒ (๒๑) พิจารณาและใหค้ วามเห็นชอบเกี่ยวกบั การจดั สรรเงินกองทนุ ตามทคี่ ณะ กรรมการบริหารกองทุนเสนอตามมาตรา ๕๕ (๒๒) ใหข้ อ้ มูลและร่วมดาเนินการในการเจรจาหรือทาความตกลงระหวา่ ง รัฐบาลแห่งราชอาณาจกั รไทยกบั รัฐบาลต่างประเทศหรือองคก์ ารระหว่างประเทศ ในเรื่องที่ เกี่ยวกบั การบริหารคลื่นความถี่ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ กิจการโทรคมนาคม หรือ กิจการอ่นื ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง (๒๒/๑)[๓๔] ใหข้ อ้ มูลท่เี ก่ียวกบั การดาเนินการของ กสทช. และผปู้ ระกอบการท่ี ไดร้ ับอนุญาตจาก กสทช. ท้งั น้ี ในส่วนทีเ่ กี่ยวกบั ดิจิทลั ตามทสี่ านกั งานคณะกรรมการดิจิทลั เพอื่ เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติร้องขอเพ่ือใชเ้ ป็นขอ้ มูลในการวิเคราะห์และจดั ทานโยบายและ แผนระดบั ชาติวา่ ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพอื่ เศรษฐกิจและสงั คม (๒๓) เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพอื่ ใหม้ ีกฎหมายหรือแกไ้ ขปรับปรุงหรือ ยกเลิกกฎหมายทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั การจดั สรรคล่ืนความถ่ีและการดาเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั คล่ืนความถ่ี กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม (๒๔) ออกระเบยี บ ประกาศ หรือคาส่ังอนั เก่ียวกบั อานาจหนา้ ท่ีของ กสทช. (๒๕) ปฏิบตั ิการอน่ื ใดตามที่กาหนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิน้ีหรือกฎหมายอ่ืน

การกาหนดลกั ษณะการควบรวม การครองสิทธิขา้ มส่ือหรือการครอบงาตาม (๑๗) ให้ กสทช. รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผเู้ กี่ยวขอ้ งประกอบดว้ ย การใชอ้ านาจหนา้ ที่ตามวรรคหน่ึง ตอ้ งไม่ขดั หรือแยง้ กบั กฎหมายวา่ ดว้ ยการ ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ กฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการ โทรคมนาคม และกฎหมายวา่ ดว้ ยวทิ ยคุ มนาคม บรรดาระเบยี บ ประกาศ หรือคาสัง่ ใด ๆ ท่ีใชบ้ งั คบั เป็นการทว่ั ไปเม่ือไดป้ ระกาศ ในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ใหใ้ ชบ้ งั คบั ได้ ในการดาเนินการตามวรรคหน่ึง กสทช. ตอ้ งดาเนินการเพ่อื ประโยชนส์ ูงสุดของ ประชาชน ความมน่ั คงของรัฐ และประโยชน์สาธารณะ รวมตลอดท้งั การให้ประชาชนมีส่วนไดใ้ ช้ ประโยชน์จากคล่ืนความถ่ี ท้งั ตอ้ งจดั ให้มีมาตรการป้องกันมิให้มีการแสวงหาประโยชน์จาก ผูบ้ ริโภคโดยไม่เป็ นธรรมหรือสร้างภาระแก่ผบู้ ริโภคเกินความจาเป็ น ป้องกนั มิใหค้ ลื่นความถี่ รบกวนกนั รวมตลอดท้งั ป้องกนั การกระทาท่ีมีผลเป็ นการขดั ขวางเสรีภาพในการรับรู้หรือปิ ด ก้นั การรับรู้ขอ้ มูลหรือข่าวสารที่ถูกตอ้ งตามความเป็นจริงของประชาชนและป้องกนั มิใหบ้ ุคคล หรือกลุ่มบคุ คลใดใชป้ ระโยชนจ์ ากคล่ืนความถี่โดยไม่คานึงถึงสิทธิของประชาชนทวั่ ไป รวมถึง ป้องกนั ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทีอ่ าจเกิดข้ึนจากการใชค้ ล่ืนความถี่ ตลอดท้งั การ กาหนดสดั ส่วนข้นั ต่าท่ีผใู้ ชป้ ระโยชน์จากคล่ืนความถี่จะตอ้ งดาเนินการเพ่ือประโยชน์สาธารณะ [๓๕] การดาเนินการตามวรรคหน่ึงและวรรคหา้ มิใหถ้ ือวา่ เป็นการใหเ้ อกชนร่วม ลงทนุ ในกิจการของรัฐตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการใหเ้ อกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ[๓๖] มาตรา ๒๗/๑[๓๗] ในกรณีที่มีปัญหาว่าการดาเนินการของ กสทช. สอดคลอ้ งกบั นโยบายและแผนระดบั ชาติวา่ ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คมหรือไม่ ใหผ้ ทู้ ี่ เก่ียวขอ้ งเสนอคณะกรรมการดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตามกฎหมายว่าดว้ ยการ พฒั นาดิจิทลั เพอื่ เศรษฐกิจและสังคม เพ่ือวินิจฉยั ช้ีขาด ในการวินิจฉยั ช้ีขาด ใหค้ ณะกรรมการดิจิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ แต่งต้งั คณะกรรมการข้ึนเพ่ือพิจารณาเสนอแนะต่อคณะกรรมการดิจิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ โดยใหค้ ณะกรรมการประกอบดว้ ยผแู้ ทนจากคณะกรรมการดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติคนหน่ึง เป็นประธานกรรมการ และผแู้ ทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งและ กสทช. จานวนเทา่ ๆ กนั เป็นกรรมการ

คาวินิจฉยั ช้ีขาดของคณะกรรมการดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตาม วรรคหน่ึง ใหเ้ ป็นทส่ี ุด มาตรา ๒๘ ให้ กสทช. จดั ใหม้ ีการรับฟังความคิดเห็นของผมู้ ีส่วนไดเ้ สียและ ประชาชนทวั่ ไปเพื่อนาความคิดเห็นทีไ่ ดม้ าประกอบการพิจารณาก่อนออกระเบียบ ประกาศ หรือคาส่งั เกี่ยวกบั การกากบั ดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคมทม่ี ีผลใชบ้ งั คบั เป็ นการทวั่ ไปและเก่ียวขอ้ งกบั การแข่งขนั ในการประกอบกิจการ หรือมีผลกระทบต่อประชาชนอยา่ งมีนยั สาคญั โดยตอ้ งใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ความเป็นมา เหตุผล ความจาเป็น และสรุปสาระสาคญั เก่ียวกบั เรื่องทจี่ ะรับฟังความคิดเห็น ตลอดจนประเดน็ ท่ี ตอ้ งการรับฟังความคิดเห็น ท้งั น้ี ระยะเวลาในการรับฟังความคิดเห็นตอ้ งไม่นอ้ ยกว่าสามสิบวนั เวน้ แต่ในกรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือมีความจาเป็นเร่งด่วน กสทช. อาจกาหนดระยะเวลาในการรับ ฟังความคิดเห็นใหน้ อ้ ยกวา่ ระยะเวลาทก่ี าหนดได้ ใหส้ านกั งาน กสทช. จดั ทาบนั ทกึ สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นทป่ี ระกอบดว้ ย ความคิดเห็นทีไ่ ดร้ ับมติหรือผลการพจิ ารณาของ กสทช. ที่มีต่อความคิดเห็นดงั กล่าว พร้อมท้งั เหตุผลและแนวทางในการดาเนินการต่อไป และเผยแพร่บนั ทึกดงั กล่าวในระบบเครือข่าย สารสนเทศของสานกั งาน กสทช. มาตรา ๒๙ การกาหนดอตั ราค่าใชห้ รือค่าเชื่อมต่อโครงข่าย ค่าธรรมเนียมใด ๆ หรือค่าบริการในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมตาม พระราชบญั ญตั ิน้ีและตามกฎหมายว่าดว้ ยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ หรือตามกฎหมายว่าดว้ ยการประกอบกิจการโทรคมนาคม ให้ กสทช. คานึงถึงประโยชน์ สาธารณะและภาระของผบู้ ริโภคความสอดคลอ้ งกบั ตน้ ทุนการใหบ้ ริการ ความคุม้ ค่า และการ จดั สรรทรัพยากรท่มี ีประสิทธิภาพดว้ ย มาตรา ๓๐ ในการปฏิบตั ิหนา้ ทขี่ อง กสทช. กสท. กทค. คณะกรรมการอนื่ และ คณะอนุกรรมการท่จี ดั ต้งั ข้ึนตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ตลอดจนเลขาธิการ กสทช. และพนกั งานของ สานกั งาน กสทช. เก่ียวกบั การพิจารณาคาขอหรือคาร้องเรียนที่ประชาชนยนื่ ตามกฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ประกาศ หรือสัญญาท่ี กสทช. หรือสานกั งาน กสทช. ทากบั เอกชน หาก กฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ประกาศ หรือสัญญาดงั กล่าวมิไดก้ าหนดระยะเวลาในการดาเนินการ ไวโ้ ดยเฉพาะให้ กสทช. กาหนดระยะเวลาการดาเนินการแลว้ เสร็จและประกาศใหป้ ระชาชน

ทราบโดยทว่ั ไป เร่ืองใดท่ีมิไดก้ าหนดระยะเวลาไว้ จะตอ้ งดาเนินการใหแ้ ลว้ เสร็จภายในเวลาไม่ เกินสิบหา้ วนั นบั แต่วนั ทไ่ี ดร้ ับเรื่อง ในกรณีท่ี กสทช. กสท. กทค. คณะกรรมการอ่ืนและคณะอนุกรรมการทีจ่ ดั ต้งั ข้ึน ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี เลขาธิการ กสทช. หรือพนกั งานของสานกั งาน กสทช. ปฏิบตั ิหนา้ ทล่ี ่าชา้ กว่าท่กี าหนดตามวรรคหน่ึงโดยไม่มีเหตุอนั สมควร หากก่อใหเ้ กิดความเสียหายแก่บคุ คลใด ให้ สานกั งาน กสทช. รับผดิ ชดใชค้ วามเสียหายใหแ้ ก่บคุ คลน้นั และใหเ้ รียกเงินชดใชค้ ืนจาก กสทช. กสท. กทค. คณะกรรมการอื่นและคณะอนุกรรมการที่จดั ต้งั ข้ึนตามพระราชบญั ญตั ิน้ี เลขาธิการ กสทช. หรือพนกั งานของสานกั งาน กสทช. ผเู้ ป็นตน้ เหตุแห่งความล่าชา้ น้นั แลว้ แต่กรณี หาก ความเสียหายน้นั เกิดจากการกระทาหรืองดเวน้ การกระทาดว้ ยความจงใจหรือประมาทเลินเล่อ อยา่ งร้ายแรง มาตรา ๓๑ เพือ่ ประโยชนใ์ นการคุม้ ครองผบู้ ริโภคมิใหถ้ ูกเอาเปรียบจากผู้ ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม ให้ กสทช. มีหนา้ ที่ ตรวจสอบการดาเนินการของผปู้ ระกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคม มิใหม้ ีการดาเนินการใด ๆ ในประการท่ีน่าจะเป็นการเอาเปรียบผูบ้ ริโภค ท้งั น้ี โดยให้ กสทช. แต่งต้งั คณะอนุกรรมการข้นึ สองคณะ ประกอบดว้ ยผทู้ ีม่ ีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์อนั เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบตั ิหนา้ ทขี่ อง กสทช. ในการคุม้ ครองผบู้ ริโภค ดา้ นกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ และในการคุม้ ครองผบู้ ริโภคดา้ นกิจการ โทรคมนาคมโดยใหม้ ีอานาจหนา้ ทใ่ี นการพจิ ารณาและเสนอความเห็นเกี่ยวกบั เรื่องร้องเรียน และปฏิบตั ิหนา้ ท่ีอื่น ท้งั น้ี ตามท่ี กสทช. กาหนด ในกรณีที่ผปู้ ระกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการ โทรคมนาคม ดาเนินการใด ๆ ในประการที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผบู้ ริโภค โดยอาศยั การใช้ เครือข่ายหรือการโฆษณาอนั มีลกั ษณะเป็นการคา้ กาไรเกินควร หรือก่อใหเ้ กิดความเดอื ดร้อน ราคาญ ไม่วา่ ดว้ ยวิธีการใดตามหลกั เกณฑท์ ี่ กสทช. กาหนด ให้ กสทช. มีอานาจสงั่ ระงบั การ ดาเนินการดงั กล่าวได้ มาตรา ๓๒ เพอ่ื ประโยชน์ในการคุม้ ครองสิทธิในความเป็นส่วนตวั และเสรีภาพ ของบุคคลในการสื่อสารถึงกนั โดยทางโทรคมนาคม ให้ กสทช. มีอานาจกาหนดมาตรการ คุม้ ครองสิทธิของผใู้ ชบ้ ริการโทรคมนาคมเก่ียวกบั ขอ้ มูลส่วนบคุ คล สิทธิในความเป็นส่วนตวั และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกนั โดยทางโทรคมนาคม

ในกรณีท่ีมีการกระทาความผดิ โดยการดกั รับไว้ ใชป้ ระโยชน์ หรือเปิ ดเผย ขอ้ ความข่าวสารหรือขอ้ มูลอน่ื ใดทมี่ ีการส่ือสารทางโทรคมนาคมโดยไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย ให้ ถือว่า กสทช. เป็นผเู้ สียหายตามประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา ในกรณีท่ผี ไู้ ดร้ ับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเป็นผกู้ ระทาความผดิ ตามวรรคสอง หรือรู้ว่ามีการกระทาความผดิ ตามวรรคสอง แต่เพกิ เฉยหรือไม่ดาเนินการตาม กฎหมายภายในเวลาอนั สมควร ให้ กสทช. มีอานาจส่ังพกั ใชห้ รือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบ กิจการโทรคมนาคมได้ มาตรา ๓๓[๓๘] ให้ กสทช. มีอานาจแต่งต้งั คณะอนุกรรมการเพอ่ื ปฏิบตั ิหนา้ ที่ ตามท่ี กสทช. มอบหมายไดต้ ามความจาเป็นและเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั อานาจหนา้ ทีข่ อง กสทช. ในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ คณะอนุกรรมการที่ไดร้ ับแต่งต้งั จะมอบหมายใหบ้ ุคคลอน่ื ดาเนินการแทนไม่ได้ และการส่งั การใด ๆ ตามท่ีไดร้ ับมอบหมายน้นั จะตอ้ งรายงานให้ กสทช. ทราบ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการท่ี กสทช. กาหนด อนุกรรมการตอ้ งไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๗ ข. มาตรา ๓๓/๑[๓๙] กสทช. อาจมอบหมายใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทีป่ ฏิบตั ิหนา้ ที่ตาม พระราชบญั ญตั ิน้ีไดต้ ามความจาเป็นและเหมาะสม สอดคลอ้ งกบั อานาจหนา้ ทข่ี อง กสทช. โดย พนกั งานเจา้ หนา้ ทีน่ ้นั ตอ้ งรายงานการปฏิบตั ิหนา้ ที่ให้ กสทช. ทราบ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการ ท่ี กสทช. กาหนด มาตรา ๓๔[๔๐] ในการปฏิบตั ิหนา้ ทตี่ ามพระราชบญั ญตั ิน้ี ให้ กสทช. และ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานมีอานาจส่งั หน่วยงานของรัฐหรือบคุ คลใด ใหช้ ้ีแจงขอ้ เทจ็ จริง มาใหถ้ อ้ ยคาหรือส่งเอกสารหลกั ฐานทเี่ กี่ยวขอ้ งเพ่ือประกอบการพจิ ารณาได้ หมวด ๑/๑ เลขหมายโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ[๔๑] มาตรา ๓๔/๑[๔๒] ในหมวดน้ี

“เลขหมายโทรศพั ทฉ์ ุกเฉินแห่งชาติ” หมายความว่า เลขหมายโทรคมนาคมที่ กสทช. จดั ไวเ้ พือ่ ใชเ้ ป็นเลขหมายโทรศพั ทส์ าหรับรับแจง้ เหตุฉุกเฉินตามหมวดน้ี “เหตุฉุกเฉิน” หมายความวา่ เหตุด่วนหรือเหตุร้ายที่ผปู้ ระสบเหตุประสงคแ์ จง้ เพ่ือขอรับความช่วยเหลือเป็นการด่วนเพอ่ื ใหต้ นเองหรือผอู้ ่ืนพน้ จากอนั ตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ ทรัพยส์ ิน หรือเหตุอน่ื ท่ีตอ้ งการความช่วยเหลือเป็นการด่วน “ผแู้ จง้ ” หมายความวา่ ผแู้ จง้ เหตุฉุกเฉินผา่ นเลขหมายโทรศพั ทฉ์ ุกเฉินแห่งชาติ เพ่ือขอรับความช่วยเหลือหรือระงบั เหตุฉุกเฉิน “ผรู้ ับแจง้ ” หมายความวา่ ผซู้ ่ึงสานกั งานตารวจแห่งชาติแต่งต้งั ใหม้ ีหนา้ ทีร่ ับแจง้ เหตุฉุกเฉินตามมาตรา ๓๔/๒ มาตรา ๓๔/๒[๔๓] ให้ กสทช. จดั เลขหมายโทรศพั ทฉ์ ุกเฉินแห่งชาติใหแ้ ก่ สานกั งานตารวจแห่งชาติ เพอ่ื ประโยชน์ในการรับแจง้ เหตุฉุกเฉิน ใหส้ านกั งานตารวจแห่งชาติมีหนา้ ที่รับแจง้ เหตุฉุกเฉินและประสานงานกบั หน่วยงานทเ่ี กี่ยวขอ้ งในการช่วยเหลือหรือระงบั เหตุฉุกเฉินใหเ้ ป็นไปอยา่ งรวดเร็วและมี ประสิทธิภาพ วธิ ีการบริหารและการประสานงานสาหรับการดาเนินการเก่ียวกบั เลขหมาย โทรศพั ทฉ์ ุกเฉินแห่งชาติใหเ้ ป็นไปตามระเบียบทสี่ านกั งานตารวจแห่งชาติกาหนดโดยความ เห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มาตรา ๓๔/๓[๔๔] ในการแจง้ เหตุฉุกเฉิน ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตประกอบกิจการ โทรคมนาคมจะเรียกเก็บค่าบริการใด ๆ จากผแู้ จง้ มิได้ มาตรา ๓๔/๔[๔๕] ผูร้ ับแจง้ และหน่วยงานที่เก่ียวขอ้ งในการช่วยเหลือหรือ ระงบั เหตุฉุกเฉิน สามารถเขา้ ถึงหรือเปิ ดเผยพิกดั ตาแหน่งหรือขอ้ มูลส่วนบุคคลของผแู้ จง้ หรือผปู้ ระสบเหตุฉุกเฉิน โดยไม่มีความผิด ท้งั น้ี เฉพาะเท่าท่ีจาเป็นเพื่อประโยชน์ในการ ช่วยเหลือหรือระงบั เหตุฉุกเฉิน หรือเพือ่ ตรวจสอบผกู้ ระทาความผดิ ตามหมวดน้ี มาตรา ๓๔/๕[๔๖] ผใู้ ดใชห้ รือเรียกเลขหมายโทรศพั ทฉ์ ุกเฉินแห่งชาติโดยไม่มี เหตุฉุกเฉินหรือมีพฤติกรรมอนั เป็ นการก่อกวนการปฏิบตั ิงานของผูร้ ับแจง้ ตอ้ งระวางโทษ จาคุกไม่เกินหน่ึงเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงหมื่นบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ

หมวด ๒ การกากบั ดแู ลการประกอบกจิ การ ส่วนที่ ๑ คณะกรรมการกจิ การกระจายเสียงและกจิ การโทรทศั น์[๔๗] มาตรา ๓๕[๔๘] (ยกเลกิ ) มาตรา ๓๖[๔๙] (ยกเลกิ ) มาตรา ๓๗[๕๐] (ยกเลิก) ส่วนท่ี ๒ คณะกรรมการกจิ การโทรคมนาคม[๕๑] มาตรา ๓๘[๕๒] (ยกเลิก) มาตรา ๓๙[๕๓] (ยกเลิก) มาตรา ๔๐[๕๔] (ยกเลิก) ส่วนที่ ๓ การอนุญาตให้ใช้คล่นื ความถ[่ี ๕๕] มาตรา ๔๑[๕๖] ผใู้ ดประสงคจ์ ะใชค้ ล่ืนความถี่เพ่ือประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคม ตอ้ งไดร้ ับใบอนุญาตตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ท้งั น้ี ตาม หลกั เกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขที่ กสทช. ประกาศกาหนด โดยประกาศดงั กล่าวตอ้ งระบุกิจการ

ที่สามารถใชค้ ล่ืนความถี่ท่ีจะมีการอนุญาตน้นั ประกอบกิจการไดต้ ามแผนแม่บทการบริหาร คลื่นความถ่ี การอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่ กสทช. อาจกาหนดใหม้ ีการอนุญาตในระดบั ชาติ ระดบั ภูมิภาค และระดบั ทอ้ งถิ่น โดยแยกการอนุญาตในแต่ละระดบั ได้ ภายใตบ้ งั คบั มาตรา ๔๒ การอนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่นความถใ่ี หด้ าเนินการโดยวธิ ีการ ประมูลคล่ืนความถ่ีตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขที่ กสทช. ประกาศกาหนด คล่ืนความถ่ีท่ี กสทช. อนุญาตใหผ้ รู้ ับใบอนุญาตใชต้ ามวรรคหน่ึง กสทช. อาจ อนุญาตใหบ้ ุคคลอื่นร่วมใชป้ ระโยชนใ์ นยา่ นความถ่ีหรือช่องความถ่ีจากคลื่นความถ่ีทไ่ี ด้ อนุญาตไวแ้ ลว้ น้นั ได้ แต่การอนุญาตน้นั จะตอ้ งไม่เป็ นการรบกวนการใชป้ ระโยชน์ของผไู้ ดร้ ับ ใบอนุญาต โดย กสทช. จะตอ้ งประกาศเงื่อนไขดงั กล่าวใหท้ ราบเป็นการทวั่ ไปในการอนุญาตให้ ใชค้ ล่ืนความถี่น้นั ดว้ ย ท้งั น้ี หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ เงื่อนไข และค่าธรรมเนียมในการขออนุญาต และการอนุญาตใหบ้ ุคคลอน่ื ร่วมใชป้ ระโยชนใ์ นยา่ นความถ่ีหรือช่องความถ่ี ใหเ้ ป็นไปตามที่ กสทช. ประกาศกาหนด เงินรายไดท้ ่ีไดจ้ ากการประมูลคล่ืนความถี่ตามวรรคสามเมื่อหกั ค่าใชจ้ ่ายในการ ประมูล และเงินที่ตอ้ งนาส่งเขา้ กองทุนพฒั นาดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คมตามกฎหมายว่าดว้ ย การพฒั นาดิจิทลั เพอ่ื เศรษฐกิจและสงั คมแลว้ เหลือเทา่ ใดใหน้ าส่งเป็นรายไดแ้ ผน่ ดิน มาตรา ๔๒[๕๗] คล่ืนความถ่ใี นกรณีดงั ต่อไปน้ี กสทช. อาจอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืน ความถ่โี ดยวธิ ีการอื่นนอกจากการประมูล (๑) คลื่นความถี่ที่มีเพยี งพอต่อการใชง้ าน (๒) คล่ืนความถ่ีท่ี กสทช. ประกาศกาหนดใหน้ าไปใชใ้ นกิจการเพื่อบริการ สาธารณะ ความมนั่ คงของรัฐ หรือกิจการอน่ื ทไ่ี ม่แสวงหากาไร หลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการอนุญาตตามวรรคหน่ึง ใหเ้ ป็นไปตามท่ี กสทช. ประกาศกาหนด มาตรา ๔๓[๕๘] ใหผ้ ไู้ ดร้ ับใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่ยน่ื คาขออนุญาตประกอบ กิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทศั น์ตามกฎหมายว่าดว้ ยการประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคมตามกฎหมายว่าดว้ ยการประกอบกิจการ โทรคมนาคม ที่สามารถใชค้ ล่ืนความถ่ีดงั กล่าวประกอบกิจการไดต้ ามทีก่ าหนดในประกาศตาม

มาตรา ๔๑ วรรคหน่ึง ต่อ กสทช. ภายในระยะเวลาสามสิบวนั นบั แต่วนั ไดร้ ับใบอนุญาตใหใ้ ช้ คลื่นความถ่ี ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่นความถี่อาจยนื่ คาขออนุญาตประกอบกิจการกระจาย เสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคมท่ีสามารถใชค้ ล่ืนความถ่ีน้นั ประกอบกิจการ ตามทกี่ าหนดในประกาศตามมาตรา ๔๑ วรรคหน่ึง เพมิ่ เติมได้ เม่ือ กสทช. อนุญาตใหป้ ระกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการ โทรคมนาคมตามวรรคหน่ึงหรือวรรคสองแลว้ ใหถ้ ือว่าไดร้ ับอนุญาตใหม้ ีและใชเ้ ครื่องวิทยุ คมนาคมและต้งั สถานีวิทยคุ มนาคมตามกฎหมายว่าดว้ ยวทิ ยคุ มนาคมดว้ ย ท้งั น้ี เฉพาะในส่วนท่ี เก่ียวกบั เครื่องวิทยคุ มนาคมท่รี ะบไุ วใ้ นคาขออนุญาต มาตรา ๔๔[๕๙] การอนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่นความถ่ีที่ก่อใหเ้ กิดหรืออาจเกิดการ รบกวนคลื่นความถ่ีที่ไดร้ ับอนุญาตอยู่ก่อนแลว้ จะกระทามิได้ ในกรณีท่ีปรากฏว่าเกิดการ รบกวนของคลื่นความถี่ใด ๆ อนั เป็นผลจากการละเมิดกฎหมาย กสทช. ตอ้ งดาเนินการระงบั การรบกวนน้นั โดยเร็ว มาตรา ๔๔/๑[๖๐] ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่เพือ่ ประกอบกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคมตอ้ งประกอบกิจการดว้ ยตนเอง จะมอบ การบริหารจดั การท้งั หมดหรือบางส่วนหรือยนิ ยอมใหบ้ ุคคลอืน่ เป็นผมู้ ีอานาจประกอบกิจการ แทนมิได้ การใหบ้ คุ คลอืน่ เช่าเวลาดาเนินรายการบางช่วงเวลาสาหรับการประกอบกิจการ กระจายเสียง หรือกิจการโทรทศั นใ์ หก้ ระทาได้ แต่ตอ้ งเป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และ เง่ือนไขท่ี กสทช. ประกาศกาหนด มาตรา ๔๔/๒[๖๑] ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่เพอื่ ประกอบกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคมตอ้ งเสียค่าธรรมเนียมการขออนุญาตและ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ซ่ึงตอ้ งชาระเม่ือไดร้ ับใบอนุญาตตามท่ี กสทช. ประกาศกาหนดและให้ ถือว่าเงินทไ่ี ดจ้ ากการประมูลตามมาตรา ๔๑ เป็นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามมาตราน้ี บรรดาหน่วยงานท่ีไดร้ ับยกเวน้ ไม่ตอ้ งปฏิบตั ิตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบ กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ไม่ว่าท้งั หมดหรือบางส่วน ตอ้ งเสียค่าธรรมเนียมตาม

วรรคหน่ึงดว้ ย แต่ กสทช. จะลดหยอ่ นใหต้ ามที่เห็นสมควรก็ไดโ้ ดยคานึงถึงวตั ถุประสงคข์ อง กิจการของหน่วยงานน้นั มาตรา ๔๔/๓[๖๒] ใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่เป็ นสิทธิเฉพาะตวั จะโอนแก่กนั มิได้ เวน้ แต่จะไดร้ ับอนุญาตจาก กสทช. และเสียค่าธรรมเนียมการโอน ท้งั น้ี หลกั เกณฑ์ วิธีการ เง่ือนไข และอตั ราค่าธรรมเนียมในการโอนใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่ ใหเ้ ป็นไปตามที่ กสทช. ประกาศกาหนด เมื่อ กสทช. อนุญาตใหม้ ีการโอนใบอนุญาตให้ใชค้ ลื่นความถี่ตามวรรคหน่ึง แลว้ ใหใ้ บอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคมท่ีใช้ คล่ืนความถี่น้นั ของผโู้ อนสิ้นสุดลง และให้ กสทช. ออกใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคม แลว้ แต่กรณี ใหแ้ ก่ผรู้ ับโอนตามลกั ษณะ ประเภท และ ขอบเขตของใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคม ของผโู้ อนดงั กล่าว มาตรา ๔๔/๔[๖๓] เม่ือ กสทช. อนุญาตใหผ้ ใู้ ดใชค้ ลื่นความถี่ตามพระราชบญั ญตั ิ น้ีแลว้ ใหแ้ จง้ ไปยงั คณะกรรมการดิจิทลั เพอื่ เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติตามกฎหมายว่าดว้ ยการ พฒั นาดิจิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและสังคมทราบ มาตรา ๔๔/๕[๖๔] ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่นความถี่ผใู้ ด (๑) ไม่ดาเนินการตามมาตรา ๔๓ วรรคหน่ึง (๒) ไม่ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคมท่ี สามารถใชค้ ล่ืนความถี่น้นั ประกอบกิจการตามทตี่ นไดร้ ับใบอนุญาตภายในระยะเวลาท่ี กสทช. กาหนด หรือ (๓) นาคล่ืนความถ่ีไปใชใ้ นกิจการนอกวตั ถุประสงค์ หรือไม่ปฏิบตั ิตาม เง่ือนไขการประกอบกิจการที่ใชค้ ล่ืนความถ่ี หรือกระทาการอนั มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามท่ี กาหนดในมาตรา ๒๗ (๑๑) ให้ กสทช. ดาเนินการเพอื่ ใหม้ ีการแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ งหรือมีคาส่ังเพิกถอน ใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่น้นั ท้งั หมดหรือบางส่วน

ส่วนที่ ๔ การกากบั การประกอบกจิ การ[๖๕] มาตรา ๔๕[๖๖] ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการ โทรทศั นต์ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ หรือกิจการ โทรคมนาคมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการโทรคมนาคมตอ้ งเสียค่าธรรมเนียมการขอ อนุญาต และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการรายปี ตามอตั ราท่ี กสทช. ประกาศกาหนด อตั ราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการรายปี ตามวรรคหน่ึงใหค้ านึงถึง รายจ่ายในการกากบั ดูแลการประกอบกิจการอยา่ งมีประสิทธิภาพในอตั รารวมท้งั สิ้นไม่เกินร้อย ละสองของรายไดก้ ่อนหกั ค่าใชจ้ ่ายของผรู้ ับใบอนุญาต และใหน้ าส่งเป็นรายไดข้ องสานกั งาน กสทช. บรรดาหน่วยงานทไ่ี ดร้ ับยกเวน้ ไม่ตอ้ งปฏิบตั ิตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบ กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ไม่ว่าท้งั หมดหรือบางส่วน ตอ้ งเสียค่าธรรมเนียม ตามวรรคหน่ึงดว้ ย แต่ กสทช. จะลดหยอ่ นใหต้ ามทเ่ี ห็นสมควรก็ได้ โดยคานึงถึงวตั ถุประสงค์ ของกิจการของหน่วยงานน้นั มาตรา ๔๖[๖๗] เพ่อื ประโยชนใ์ นการส่งเสริมรายการวิทยแุ ละรายการโทรทศั น์ที่ มีเน้ือหาสร้างสรรคส์ ังคมหรือรายการสาหรับเดก็ และเยาวชน ให้ กสทช. กาหนดเงื่อนไขใน ใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทศั น์ท่ใี ชค้ ล่ืนความถี่ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ ใหผ้ รู้ ับใบอนุญาตตอ้ งจดั เวลาให้ รายการดงั กล่าวไดอ้ อกอากาศในช่วงเวลาทเ่ี หมาะสมสาหรับกลุ่มเป้าหมาย มาตรา ๔๗[๖๘] (ยกเลิก) หมวด ๓ แนวทางการจดั ทาแผน มาตรา ๔๘ ใหม้ ีแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถ่ีซ่ึงอยา่ งนอ้ ยตอ้ งมีรายการ ดงั ต่อไปน้ี

(๑) รายละเอียดเก่ียวกบั ตารางกาหนดคลื่นความถ่ีท้งั หมดท่ีประเทศไทยสามารถ นามาใชป้ ระโยชน์ได้ (๒) แนวทางการดาเนินการเกี่ยวกบั คล่ืนความถี่ระหว่างประเทศ (๓) รายละเอยี ดเก่ียวกบั คล่ืนความถี่ที่กาหนดใหใ้ ชใ้ นกิจการกระจายเสียงและ กิจการโทรทศั น์กิจการโทรคมนาคม และกิจการอ่นื (๔) แนวทางในการคืนคลื่นความถ่ีเพอ่ื นาไปจดั สรรใหม่หรือการปรับปรุงการใช้ คล่ืนความถี่ แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถ่ี เม่ือประกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ใหใ้ ช้ บงั คบั ไดแ้ ละใหใ้ ชเ้ ป็นหลกั เกณฑแ์ ละเงื่อนไขเบ้อื งตน้ ในการอนุญาตและการดาเนินกิจการท้งั ปวงท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การใชค้ ล่ืนความถี่ ให้ กสทช. ติดตามประเมินผลการดาเนินงานตามแผนแม่บทการบริหารคลื่น ความถ่ี และตอ้ งปรับปรุงแผนแม่บทดงั กล่าว เพ่อื ประโยชนใ์ นการบริหารคล่ืนความถ่ีใหม้ ี ประสิทธิภาพและสอดคลอ้ งกบั ความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยที ่เี ปล่ียนแปลงไป ในการจดั ทาแผนแม่บทการบริหารคล่ืนความถ่ี ให้ กสทช. รับฟังความคิดเห็น ของประชาชนผปู้ ระกอบกิจการทใี่ ชป้ ระโยชน์คลื่นความถี่ และหน่วยงานของรัฐที่เก่ียวขอ้ ง เพ่ือเป็นขอ้ มูลประกอบการพิจารณาดว้ ย ท้งั น้ี ระยะเวลาในการรับฟังความคิดเห็นตอ้ งไม่ นอ้ ยกว่าสามสิบวนั และการจดั ทาแผนแมบ่ ทการบริหารคล่ืนความถี่ใหค้ านึงถึงการใชง้ านดา้ น ความมน่ั คงของรัฐตามความจาเป็น มาตรา ๔๙[๖๙] ในการกากบั ดูแลการประกอบกิจการ ให้ กสทช. จดั ใหม้ ีแผน แม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ และแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม เพือ่ ใชเ้ ป็น แนวทางในการดาเนินการระยะหา้ ปี โดยในแผนดงั กล่าวตอ้ งสอดคลอ้ งกบั แผนแม่บท การบริหาร คลื่นความถ่ีและอยา่ งนอ้ ยตอ้ งมีแนวทางการพฒั นาและการส่งเสริมแข่งขนั โดยเสรีอยา่ งเป็นธรรม ระหว่างผปู้ ระกอบกิจการ แนวทางการอนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่นความถี่และการอนุญาตใหป้ ระกอบ กิจการ โดยคานึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและมลภาวะสิ่งแวดลอ้ มต่าง ๆ ท่อี าจ เกิดข้ึนจากการใชค้ ลื่นความถี่ การดาเนินการตามวรรคหน่ึง ในส่วนกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ ตอ้ งจดั ใหม้ ีการใชค้ ลื่นความถี่เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือสาหรับภาคประชาชนรวมกนั ใน สัดส่วนไม่นอ้ ยกว่าร้อยละยส่ี ิบห้าของความสามารถในการส่งสัญญาณท่ีจะอนุญาตในแต่ละ คร้ัง

เพือ่ ใหก้ ารบริหารจดั การคล่ืนความถี่เป็นไปโดยมีประสิทธิภาพ และเกิด ประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ความมน่ั คงของรัฐ และประโยชน์สาธารณะในกรณีที่ไม่มีการ ใชป้ ระโยชน์จากคล่ืนความถ่ีท่ีจดั ใหเ้ พ่อื ประโยชน์สาธารณะหรือสาหรับภาคประชาชนตาม วรรคสองหรือคล่ืนความถ่ีเพอื่ กิจการตามประเภทอื่นทก่ี าหนดไวจ้ นพน้ กาหนดสามปี นบั ต้งั แต่ วนั ท่ไี ดม้ ีการประกาศใหข้ ออนุญาต หาก กสทช.เห็นว่าการนาคล่ืนความถ่ีดงั กล่าวไปใชเ้ พ่ือ กิจการประเภทอ่ืนจะเกิดประโยชน์หรือมีประสิทธิภาพสูงกว่า ให้ กสทช. มีอานาจนาคล่ืน ความถ่ีน้นั ไปใชป้ ระโยชน์ในกิจการประเภทอ่ืนได้ แต่จะตอ้ งไม่มีผลกระทบต่อสิทธิในการ ใชค้ ลื่นความถี่ที่จดั ใหเ้ พ่ือประโยชน์สาธารณะหรือสาหรับภาคประชาชน ในกรณีท่ีการ ดาเนินการดงั กล่าวทาใหส้ ัดส่วนตามวรรคสองลดลง ให้ กสทช. จดั ใหม้ ีคลื่นความถ่ีตามสัดส่วน ดงั กล่าวโดยเร็ว ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑท์ ี่ กสทช. ประกาศกาหนด ในการจดั ทาแผนแม่บทตามวรรคหน่ึง ให้ กสทช. รับฟังความคิดเห็นของ ประชาชนผปู้ ระกอบกิจการ และหน่วยงานของรัฐทเี่ ก่ียวขอ้ ง เพอื่ เป็นแนวทางในการพจิ ารณา ดว้ ย ท้งั น้ี ระยะเวลาในการรับฟังความคิดเห็นตอ้ งไม่นอ้ ยกวา่ สามสิบวนั ใ นกรณี ท่ี กสทช. วินิจฉัยเร่ืองใดไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของ ประชาชน ผูป้ ระกอบกิจการ หรือหน่วยงานของรัฐตามทป่ี รากฏในการรับฟังความคดิ เห็นตาม วรรคส่ี กสทช. ตอ้ งช้ีแจงและแสดงเหตุผลใหป้ ระชาชน ผูป้ ระกอบกิจการ หรือหน่วยงานของรัฐ ทราบ ประชาชน ผปู้ ระกอบกิจการ หรือหน่วยงานของรัฐตามวรรคหา้ ผใู้ ดเห็นวา่ แผน แม่บทที่ กสทช. กาหนดขดั ต่อบทบญั ญตั ิของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ใหม้ ีสิทธิ ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง โดยใหถ้ ือว่าแผนแม่บทดงั กล่าวเป็ นกฎตามกฎหมายว่าดว้ ยการจดั ต้งั ศาลปกครองและวธิ ีพิจารณาคดีปกครอง และใหศ้ าลปกครองพจิ ารณาพิพากษาให้แลว้ เสร็จ ภายในหน่ึงร้อยยส่ี ิบวนั นบั แต่วนั ยน่ื ฟ้องคดี แผนแม่บทตามวรรคหน่ึง เม่ือไดป้ ระกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ใหผ้ กู พนั กสทช. และหน่วยงานของรัฐท่ีเกี่ยวขอ้ ง มาตรา ๕๐ เพอื่ ประโยชน์ในการจดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคมพ้นื ฐานโดยทว่ั ถึง และบริการเพ่ือสังคมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการโทรคมนาคม ให้ กสทช. กาหนด แผนการจดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคมพ้นื ฐานโดยทว่ั ถึงและบริการเพื่อสงั คม โดยในแผนอยา่ ง นอ้ ยจะตอ้ งกาหนดพ้ืนท่แี ละกลุ่มเป้าหมาย ระยะเวลาในการดาเนินการ พร้อมท้งั ประมาณการ ค่าใชจ้ ่ายทีจ่ ะเกิดข้ึนจากการดาเนินการดงั กล่าว

การจดั ทาแผนตามวรรคหน่ึง ให้ กสทช. หารือกบั หน่วยงานของรัฐอ่นื ที่ เกี่ยวขอ้ งโดยตอ้ งสอดคลอ้ งกบั นโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงไวต้ ่อรัฐสภา ให้ กสทช. ประกาศกาหนดจานวนค่าใชจ้ ่ายท่จี ะเรียกเก็บจากผไู้ ดร้ ับใบอนุญาต ประกอบกิจการโทรคมนาคมเพ่ือนาไปใชด้ าเนินการสนบั สนุนการจดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคม ตามวรรคหน่ึง ท้งั น้ี โดยคานึงถึงรายไดท้ ่ผี ไู้ ดร้ ับใบอนุญาตไดร้ ับจากการใหบ้ ริการ โทรคมนาคม ให้ กสทช. ประกาศกาหนดจานวนเงินจากกองทุนตามมาตรา ๕๓ (๔) ที่จะนามา สนบั สนุนผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตเพือ่ ใหส้ ามารถดาเนินการจดั ใหม้ ีบริการดงั กล่าวได้ ในการดาเนินการตามแผนการจดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคมพ้ืนฐานโดยทว่ั ถึงและ บริการเพอ่ื สงั คมตามวรรคหน่ึง ให้ กสทช. มีอานาจมอบหมายใหส้ านกั งานคณะกรรมการดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดาเนินการท้งั หมดหรือบางส่วนแทนได้ ในกรณีเช่นน้นั ให้ กสทช. โอนเงินทีเ่ รียกเกบ็ ไดต้ ามวรรคสามและทกี่ าหนดไวต้ ามวรรคสี่ใหแ้ ก่กองทุนพฒั นา ดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสังคมเพอื่ ดาเนินการต่อไป[๗๐] มาตรา ๕๐/๑[๗๑] ในการดาเนินการใหไ้ ดม้ าและรักษาไวซ้ ่ึงสิทธิในการเขา้ ใชว้ ง โคจรดาวเทียมและการสละสิทธิดงั กล่าว ให้ กสทช. จดั ทาแผนการบริหารสิทธิในการเขา้ ใชว้ ง โคจรดาวเทียมเพ่อื เป็นแนวทางในการดาเนินการซ่ึงตอ้ งสอดคลอ้ งกบั นโยบายและแผน ระดบั ชาติวา่ ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคมรวมท้งั นโยบายรัฐบาลที่เกี่ยวกบั สิทธิ ในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทยี ม โดยในการจดั ทาแผนดงั กล่าว กสทช. ตอ้ งหารือร่วมกบั หน่วยงานของรัฐท่ีเก่ียวขอ้ ง แผนการบริหารสิทธิในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทยี มตามวรรคหน่ึง อยา่ งนอ้ ยตอ้ ง มีรายการดงั ต่อไปน้ี (๑) รายละเอยี ดเก่ียวกบั สิทธิในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทยี มท้งั หมดทป่ี ระเทศไทย สามารถนามาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ (๒) แนวทางการดาเนินการเก่ียวกบั การใหไ้ ดม้ าและรักษาไวซ้ ่ึงสิทธิในการ เขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทียม เพ่อื ใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ประเทศชาติและประชาชน (๓) แนวทางในการสละสิทธิในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทยี ม กรณีทก่ี ารรกั ษา สิทธิดงั กล่าวก่อใหเ้ กิดภาระแก่รัฐเกินประโยชน์ที่จะไดร้ ับ (๔) แนวทางในการอนุญาตใหม้ ีการใชส้ ิทธิในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทยี ม

แผนตามวรรคหน่ึงเม่ือประกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ให้ผูกพนั กสทช. และหน่วยงานของรัฐท่เี ก่ียวขอ้ ง มาตรา ๕๑ เพ่ือส่งเสริมใหภ้ าคประชาชนไดใ้ ชค้ ลื่นความถี่ตามสดั ส่วนท่กี าหนด ไวใ้ นมาตรา ๔๙ วรรคหน่ึง ให้ กสทช. กาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการในการส่งเสริมชุมชนทมี่ ี ความพร้อมใหเ้ ป็นผมู้ ีคุณสมบตั ิในการขอรบั ใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการ โทรทศั น์ประเภทบริการชุมชน การหารายได้ และการสนบั สนุนผปู้ ระกอบกิจการบริการชุมชน ท่มี ีคุณภาพ ท้งั น้ี โดยใหร้ ับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวขอ้ ง ประกอบดว้ ย รายไดข้ องผปู้ ระกอบกิจการบริการชุมชนตอ้ งเป็นรายไดจ้ ากการบริจาค การ อุดหนุนสถานีหรือรายไดท้ างอื่นซ่ึงมิใช่การโฆษณาหรือการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือ กิจการโทรทศั น์ การสนบั สนุนผปู้ ระกอบกิจการบริการชุมชนทีม่ ีคุณภาพตอ้ งเป็นการอดุ หนุน การดาเนินการของสถานีมิใช่เป็นการสนบั สนุนรายการใดโดยเฉพาะ และมสี ัดส่วนไม่เกินก่ึง หน่ึงของรายไดท้ ้งั หมดของผูป้ ระกอบกิจการบริการชุมชน รวมท้งั ตอ้ งจดั ใหม้ ีการประเมินผล คุณภาพการใหบ้ ริการและประสิทธิภาพในการใชจ้ ่ายเงินทีไ่ ดร้ ับการอุดหนุนเพือ่ ใช้ ประกอบการพจิ ารณาจดั สรรเงินอดุ หนุนในแต่ละคราว หมวด ๔ กองทุนวจิ ัยและพฒั นากจิ การกระจายเสียง กจิ การโทรทศั น์ และกจิ การโทรคมนาคม เพ่ือประโยชน์สาธารณะ มาตรา ๕๒ ใหจ้ ดั ต้งั กองทนุ ข้ึนในสานกั งาน กสทช. เรียกวา่ “กองทุนวิจยั และ พฒั นากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม เพือ่ ประโยชน์ สาธารณะ” โดยมีวตั ถุประสงค์ ดงั ต่อไปน้ี (๑) ดาเนินการใหป้ ระชาชนไดร้ ับบริการดา้ นกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทศั นแ์ ละกิจการโทรคมนาคม อยา่ งทว่ั ถึง ตลอดจนส่งเสริมชุมชนและสนบั สนุนผูป้ ระกอบ กิจการบริการชุมชนตามมาตรา ๕๑

(๒) ส่งเสริมและสนบั สนุนการพฒั นาทรัพยากรส่ือสาร การวิจยั และพฒั นาดา้ น กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม รวมท้งั ความสามารถในการรู้เทา่ ทนั สื่อเทคโนโลยดี า้ นการใชค้ ลื่นความถ่ี เทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยสี ิ่งอานวยความ สะดวกสาหรับผพู้ ิการ ผสู้ ูงอายุ หรือผดู้ อ้ ยโอกาส ตลอดจนอตุ สาหกรรมโทรคมนาคม และ อตุ สาหกรรมต่อเน่ือง (๓) ส่งเสริมและสนบั สนุนการพฒั นาบคุ ลากรดา้ นกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทศั น์ กิจการโทรคมนาคม และเทคโนโลยสี ารสนเทศ ตลอดจนการดาเนินการขององคก์ รซ่ึง ทาหนา้ ทจี่ ดั ทามาตรฐานทางจริยธรรมของการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพตามกฎหมายว่าดว้ ย การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ (๔) สนบั สนุน ส่งเสริม และคุม้ ครองผบู้ ริโภคดา้ นกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทศั น์และกิจการโทรคมนาคม (๕) สนบั สนุนการดาเนินการตามกฎหมายว่าดว้ ยกองทนุ พฒั นาสื่อปลอดภยั และ สร้างสรรคโ์ ดยจดั สรรเงินใหแ้ ก่กองทุนพฒั นาส่ือปลอดภยั และสร้างสรรค์ (๖)[๗๒] สนบั สนุนการใชค้ ล่ืนความถ่ีใหเ้ กิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมท้งั สนบั สนุนการเรียกคืนคลื่นความถี่ที่มีผไู้ ดร้ บั อนุญาตไป เพือ่ นามาจดั สรรใหม่และสนบั สนุน การทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนการถูกเรียกคืนคล่ืนความถ่ี ท้งั น้ี เพ่อื ใหเ้ กิด ประสิทธิภาพสูงสุดในการใชค้ ลื่นความถี่ มาตรา ๕๓ กองทนุ ตามมาตรา ๕๒ ประกอบดว้ ย (๑) ทนุ ประเดิมท่ีรัฐบาลจดั สรรให้ (๒)[๗๓] (ยกเลิก) (๓) เงินท่ีไดร้ ับการจดั สรรตามมาตรา ๖๕ วรรคสอง (๔) เงินทส่ี ่งเขา้ กองทุนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการกระจายเสียงและ กิจการโทรทศั นแ์ ละกฎหมายว่าดว้ ยการประกอบกิจการโทรคมนาคม (๕) เงินค่าปรับทางปกครองท่ีปรับตามพระราชบญั ญตั ิน้ี และตามกฎหมายว่า ดว้ ยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ และตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบ กิจการโทรคมนาคม (๖) เงินหรือทรัพยส์ ินที่มีผมู้ อบใหเ้ พอ่ื สมทบกองทุน (๗) เงินและทรัพยส์ ินท่ไี ดร้ ับโอนมาตามมาตรา ๙๑

(๘) ดอกผลและรายไดข้ องกองทนุ รวมท้งั ผลประโยชน์จากค่าตอบแทนการใช้ ประโยชนจ์ ากการวิจยั และพฒั นาดา้ นกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคม (๘/๑)[๗๔] เงินรายไดท้ ่ีไดจ้ ากการจดั สรรคล่ืนความถ่ีที่ไดร้ ับคืนตามมาตรา ๒๗ (๑๒/๑) ภายหลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายในการจดั สรรคล่ืนความถี่ดงั กล่าวแลว้ (๙) เงินและทรัพยส์ ินอนื่ ที่ตกเป็นของกองทุน เงินกองทุนใหใ้ ชต้ ามวตั ถุประสงคข์ องกองทนุ ตามมาตรา ๕๒ และตามแผนการ จดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคมพ้ืนฐานโดยทว่ั ถึงและบริการเพอ่ื สังคมตามมาตรา ๕๐ เวน้ แต่ วตั ถุประสงคข์ องกองทุนตามมาตรา ๕๒ (๖) ใหใ้ ชเ้ งินจากกองทุนตาม (๘/๑) เทา่ น้นั [๗๕] เงินกองทนุ ตาม (๘/๑) ถา้ กระทรวงการคลงั เห็นว่ามีเกินความจาเป็นหรือหมด ความจาเป็นตอ้ งใช้ จะขอใหน้ าส่วนท่ีเกินจาเป็นส่งเขา้ เป็นรายไดแ้ ผน่ ดินกไ็ ด[้ ๗๖] มาตรา ๕๔[๗๗] ใหม้ ีคณะกรรมการบริหารกองทุนคณะหน่ึง ประกอบดว้ ย (๑) ประธาน กสทช. เป็นประธานกรรมการ (๒) ปลดั สานกั นายกรัฐมนตรี ปลดั กระทรวงกลาโหม เลขาธิการคณะกรรมการ พฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ผอู้ านวยการสานกั งบประมาณ อธิบดีกรมบญั ชีกลาง และผอู้ านวยการศูนยเ์ ทคโนโลยอี เิ ลก็ ทรอนิกส์และคอมพวิ เตอร์แห่งชาติ เป็นกรรมการโดย ตาแหน่ง (๓) ผทู้ รงคุณวุฒิ จานวนสองคน ซ่ึงกรรมการตาม (๑) และ (๒) เป็นผคู้ ดั เลือก ใหเ้ ลขาธิการ กสทช. เป็นกรรมการและเลขานุการ และใหเ้ ลขาธิการ กสทช. แต่งต้งั พนกั งานของสานกั งาน กสทช. เป็นผชู้ ่วยเลขานุการ กรรมการตามวรรคหน่ึง (๓) ตอ้ งไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๗ ข. (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) (๙) (๑๐) และ (๑๑) และมีวาระการดารงตาแหน่งคราวละสามปี และอาจ ไดร้ ับการแต่งต้งั อีกได้ แต่จะดารงตาแหน่งติดต่อกนั เกินสองวาระมิได้ ใหน้ ามาตรา ๒๓ มาใชบ้ งั คบั กบั การประชุมของคณะกรรมการบริหารกองทุน โดยอนุโลม มาตรา ๕๕ คณะกรรมการบริหารกองทุนมีอานาจหนา้ ท่ีในการบริหารกองทนุ และเสนอความเห็นเกี่ยวกบั การจดั สรรเงินกองทุนเพ่ือใชจ้ ่ายตามวตั ถุประสงคต์ ามมาตรา ๕๒

ต่อ กสทช. เพื่อพจิ ารณาใหค้ วามเห็นชอบ ในกรณีที่ กสทช. มีความเห็นแตกต่างจากคณะ กรรมการบริหารกองทุน กสทช. ตอ้ งใหเ้ หตุผลประกอบการพจิ ารณาไวด้ ว้ ย ใหค้ ณะกรรมการบริหารกองทนุ เปิ ดเผยรายละเอยี ดเก่ียวกบั การจดั สรร เงินกองทนุ และการดาเนินการตามวรรคหน่ึงใหป้ ระชาชนทราบผา่ นทางสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ของ สานกั งาน กสทช. โดยตอ้ งแสดงขอ้ มูลเก่ียวกบั ผทู้ ขี่ อและผทู้ ่ไี ดร้ ับการจดั สรรเงินจากกองทนุ และจานวนเงินทีไ่ ดร้ ับจากการจดั สรรท้งั หมดดว้ ย การเก็บรักษา การใชจ้ ่าย การจดั ทาบญั ชีและระบบบญั ชี ใหเ้ ป็ นไปตามระเบียบท่ี คณะกรรมการบริหารกองทนุ กาหนด หมวด ๕ สานกั งานคณะกรรมการกจิ การกระจายเสียง กจิ การโทรทศั น์ และกจิ การโทรคมนาคมแห่งชาติ มาตรา ๕๖ ใหม้ ีสานกั งานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรียกโดยยอ่ วา่ “สานกั งาน กสทช.” เป็นนิติบุคคล มีฐานะเป็น หน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบียบบริหารราชการแผน่ ดินและ ไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวิธีการงบประมาณหรือกฎหมายอื่น และอยภู่ ายใตก้ าร กากบั ดูแลของประธานกรรมการ กิจการของสานกั งาน กสทช. ไม่อยภู่ ายใตบ้ งั คบั แห่งกฎหมายว่าดว้ ยการคุม้ ครอง แรงงาน กฎหมายว่าดว้ ยแรงงานสมั พนั ธ์ กฎหมายวา่ ดว้ ยการประกนั สงั คมและกฎหมายว่าดว้ ย เงินทดแทน มาตรา ๕๗ ใหส้ านกั งาน กสทช. มีอานาจหนา้ ท่ี ดงั ต่อไปน้ี (๑) รับผดิ ชอบในการรับและจ่ายเงินรายไดข้ องสานกั งาน กสทช. (๒)[๗๘] จดั ทางบประมาณรายจ่ายประจาปี ของสานกั งาน กสทช. เพอื่ เสนอ กสทช. อนุมตั ิ โดยรายจ่ายประจาปี ของสานกั งาน กสทช. ใหห้ มายความรวมถึงรายจา่ ยใด ๆ อนั เก่ียวกบั การดาเนินการตามอานาจหนา้ ท่ขี อง กสทช. คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการ ปฏิบตั ิงาน และสานกั งาน กสทช. งบประมาณรายจ่ายประจาปี ดงั กล่าวตอ้ งจดั ทาโดยคานึงถึงความ คุม้ ค่า การประหยดั และประสิทธิภาพ รายการหรือโครงการใดท่ีต้งั งบประมาณไวแ้ ลว้ และมิได้

จ่ายเงินหรือก่อหน้ีผกู พนั ภายในปี งบประมาณน้นั ใหร้ ายการหรือโครงการน้นั เป็นอนั พบั ไป และใหส้ านกั งาน กสทช. นาส่งงบประมาณสาหรับรายการหรือโครงการดงั กล่าวเป็นรายได้ แผน่ ดิน (๓) ตรวจสอบและติดตามการใชค้ ลื่นความถี่ (๔) รับและพิจารณาเร่ืองร้องเรียนเกี่ยวกบั การใชค้ ลื่นความถ่ี การประกอบ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม เพ่ือตรวจสอบและแกไ้ ขปัญหา หรือเสนอความเห็นต่อ กสทช. เพอ่ื พิจารณาตามหลกั เกณฑท์ ่ี กสทช. กาหนด (๕) ศึกษารวบรวมและวเิ คราะห์ขอ้ มูลเก่ียวกบั คลื่นความถี่ การใชค้ ลื่นความถี่ การประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม (๖) รับผดิ ชอบงานธุรการของ กสทช. กสท. กทค. และคณะกรรมการบริหาร กองทนุ (๗) ปฏิบตั ิการอ่นื ตามท่ี กสทช. กสท. และ กทค. มอบหมาย ในการจดั ทางบประมาณรายจ่ายประจาปี ตาม (๒) ก่อนทส่ี านกั งาน กสทช. จะ เสนอ กสทช. อนุมตั ิ ใหส้ านกั งาน กสทช. เสนอร่างงบประมาณรายจ่ายประจาปี ต่อ คณะกรรมการดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพ่อื พจิ ารณาใหค้ วามเห็น และให้ สานกั งาน กสทช. พจิ ารณาดาเนินการแกไ้ ขหรือปรับปรุงร่างงบประมาณรายจ่ายประจาปี ดงั กล่าว เวน้ แต่งบประมาณรายจ่ายประจาปี ในส่วนของคณะกรรมการติดตามและประเมินผล การปฏิบตั ิงาน ใหส้ านกั งาน กสทช. เสนอไปยงั คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการ ปฏิบตั ิงานเพอื่ ดาเนินการแกไ้ ขหรือปรับปรุง ในกรณีท่ี สานกั งาน กสทช. หรือคณะกรรมการ ติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงาน แลว้ แต่กรณี ไม่เห็นดว้ ยกบั ความเห็นของคณะกรรมการ ดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ใหส้ านกั งาน กสทช. เสนอร่างงบประมาณรายจ่าย ประจาปี ดงั กล่าวพร้อมความเห็นของคณะกรรมการดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อ กสทช. เพอื่ พจิ ารณาต่อไป[๗๙] เมื่อ กสทช. อนุมตั ิงบประมาณรายจ่ายประจาปี ของสานกั งาน กสทช. ตามวรรคสอง แลว้ ใหส้ านกั งาน กสทช. เปิ ดเผยงบประมาณรายจ่ายประจาปี น้นั พร้อมท้งั รายการหรือ โครงการที่ไดร้ ับอนุมตั ิงบประมาณ ใหป้ ระชาชนทราบทางระบบเครือข่ายสารสนเทศ หรือ วธิ ีการอ่นื ท่เี ขา้ ถึงไดโ้ ดยสะดวก[๘๐] ใหค้ ณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานเสนองบประมาณรายจ่าย สาหรับค่าตอบแทนและค่าใชจ้ ่ายอนื่ ตามหลกั เกณฑต์ ามมาตรา ๗๑ วรรคเจด็ ต่อสานกั งาน กสทช. เพ่อื จดั สรรเป็นงบประมาณของคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงาน ไวใ้ น

ร่างงบประมาณรายจ่ายประจาปี ของสานกั งาน กสทช. ในการน้ี สานกั งาน กสทช. อาจทา ความเห็นเก่ียวกบั การจดั สรรงบประมาณดงั กล่าวไวใ้ นรายงานการเสนอร่างงบประมาณรายจ่าย ประจาปี กไ็ ด[้ ๘๑] ในการดาเนินการตามวรรคสอง ใหส้ านกั งาน กสทช. เสนอร่างงบประมาณ รายจ่ายประจาปี ต่อคณะกรรมการดิจิทลั เพอื่ เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติก่อนวนั เร่ิม ปี งบประมาณไม่นอ้ ยกวา่ เกา้ สิบวนั และใหค้ ณะกรรมการดิจิทลั เพอ่ื เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ พิจารณาใหค้ วามเห็นใหแ้ ลว้ เสร็จก่อนวนั เร่ิมปี งบประมาณไม่นอ้ ยกว่าสามสิบวนั และเมื่อไดร้ ับ ความเห็นหรือเม่ือพน้ ระยะเวลาดงั กล่าวแลว้ ใหส้ านกั งาน กสทช. เสนอร่างงบประมาณรายจ่าย ประจาปี ต่อ กสทช. เพ่ือดาเนินการต่อไป[๘๒] มาตรา ๕๘ ให้ กสทช. มีอานาจออกระเบียบหรือประกาศเกี่ยวกบั การ บริหารงานทวั่ ไปการบริหารงานบคุ คล การงบประมาณ การเงินและทรัพยส์ ิน และการ ดาเนินการอ่ืนของสานกั งาน กสทช. โดยใหร้ วมถึงเรื่องดงั ต่อไปน้ีดว้ ย (๑) การแบ่งส่วนงานภายในของสานกั งาน กสทช. และขอบเขตหนา้ ทข่ี องส่วน งานดงั กล่าว (๒) การกาหนดตาแหน่ง อตั ราเงินเดือน และค่าตอบแทนอืน่ ของเลขาธิการ กสทช. พนกั งานและลูกจา้ งของสานกั งาน กสทช. ตลอดจนค่าตอบแทนและค่าใชจ้ ่ายของ กรรมการอ่ืนและอนุกรรมการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี (๓) การคดั เลือกหรือการประเมินความรู้ความสามารถเพอื่ ประโยชนใ์ นการ บรรจุและแต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหน่ง หรือการเล่ือนข้นั เงินเดือน หลกั เกณฑก์ ารต่อสัญญาจา้ ง และ การจ่ายเงินชดเชยกรณีเลิกจา้ งเน่ืองจากไม่ผา่ นการประเมิน (๔) การบริหารงานบคุ คล รวมตลอดท้งั การดาเนินการทางวนิ ยั การอทุ ธรณ์ และ ร้องทกุ ข์ (๕) การรักษาการแทนและการปฏิบตั ิการแทน (๖) การกาหนดเคร่ืองแบบและการแต่งกายของพนกั งานและลูกจา้ งของ สานกั งาน กสทช. (๗)[๘๓] การจา้ งและการแต่งต้งั บุคคลเพ่ือเป็ นผูเ้ ช่ียวชาญหรือเป็ นผชู้ านาญการ เฉพาะดา้ นอนั จะเป็นประโยชนต์ ่อการปฏิบตั ิหนา้ ทข่ี อง กสทช. รวมท้งั จานวนและอตั รา ค่าตอบแทนของตาแหน่งดงั กล่าว ท้งั น้ี โดยใหค้ านึงถึงการปฏิบตั ิงานและระยะเวลาการ ปฏิบตั ิงานของตาแหน่งน้นั ดว้ ย

(๘) การบริหารและจดั การงบประมาณ ทรัพยส์ ิน และการพสั ดุของสานกั งาน กสทช. (๙) การจดั สวสั ดิการหรือการสงเคราะห์อ่นื ระเบยี บหรือประกาศตามวรรคหน่ึง ใหป้ ระธานกรรมการเป็นผลู้ งนาม และเมื่อ ไดป้ ระกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ใหใ้ ชบ้ งั คบั ได้ มาตรา ๕๙ ใหส้ านกั งาน กสทช. เปิ ดเผยขอ้ มูลเก่ียวกบั การดาเนินงานของ กสทช. และสานกั งาน กสทช. ใหป้ ระชาชนทราบทางระบบเครือข่ายสารสนเทศ หรือวิธีการอ่นื ท่ีเห็นสมควรโดยอยา่ งนอ้ ยตอ้ งเปิ ดเผยขอ้ มูล ดงั ต่อไปน้ี (๑) ใบอนุญาตประกอบกิจการของผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตทุกราย พร้อมท้งั เง่ือนไขท่ี กาหนด (๒) รายไดข้ องสานกั งาน กสทช. ตามมาตรา ๖๕ เป็นรายเดือนโดยสรุป (๓) รายจ่ายสาหรับการดาเนินงานของ กสทช. และสานกั งาน กสทช. เป็นราย เดือนโดยสรุป (๔)[๘๔] รายละเอียดของอตั ราค่าตอบแทนกรรมการ จานวนคณะอนุกรรมการ และอตั ราค่าตอบแทนของอนุกรรมการเป็นรายบคุ คล และอตั ราคา่ ตอบแทนที่ปรึกษาท่ี กสทช. แต่งต้งั เป็ นรายบุคคล (๕) ผลการศึกษาวิจยั และผลงานอ่นื ๆ ทว่ี า่ จา้ งใหห้ น่วยงานภายนอกดาเนินการ (๖) รายการเรื่องร้องเรียน ความคืบหนา้ และผลการพจิ ารณาเรื่องร้องเรียนของ ผบู้ ริโภคและผรู้ ับใบอนุญาตและจานวนเร่ืองทย่ี งั คา้ งพิจารณา (๗) รายละเอียดของผลการจดั ซ้ือจดั จา้ งของสานกั งาน กสทช. และสญั ญาต่าง ๆ ที่เก่ียวขอ้ ง มาตรา ๖๐ ใหส้ านกั งาน กสทช. มีเลขาธิการ กสทช. คนหน่ึงรับผดิ ชอบการ ปฏิบตั ิงานของสานกั งาน กสทช. ข้ึนตรงต่อประธานกรรมการ และเป็นผบู้ งั คบั บญั ชาพนกั งาน และลูกจา้ งของสานกั งาน กสทช. ในกิจการของสานกั งาน กสทช. ทีเ่ กี่ยวกบั บุคคลภายนอก ใหเ้ ลขาธิการ กสทช. เป็นผแู้ ทนของสานกั งาน กสทช. เพ่อื การน้ีเลขาธิการ กสทช. จะมอบอานาจใหบ้ ุคคลใด ปฏิบตั ิงานเฉพาะอยา่ งแทนกไ็ ด้ ท้งั น้ี ตามระเบยี บท่ี กสทช. กาหนด โดยประกาศในราชกิจจา

นุเบกษา ระเบียบดงั กล่าวจะกาหนดในลกั ษณะบงั คบั ใหเ้ ลขาธิการ กสทช. ตอ้ งมอบอานาจให้ บุคคลใดมิได้ มาตรา ๖๑ ใหป้ ระธานกรรมการ โดยความเห็นชอบของ กสทช. เป็นผแู้ ต่งต้งั และถอดถอนเลขาธิการ กสทช. เลขาธิการ กสทช. ตอ้ งมีอายไุ ม่ต่ากวา่ สามสิบหา้ ปี บริบูรณ์ในวนั แต่งต้งั และตอ้ ง มีคุณสมบตั ิและไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๗ รวมท้งั คุณสมบตั ิอ่นื ตามท่ี กสทช. กาหนด มาตรา ๖๒ เลขาธิการ กสทช. มีวาระการดารงตาแหน่งคราวละหา้ ปี นบั แต่วนั ท่ี ไดร้ ับแต่งต้งั และอาจไดร้ ับแต่งต้งั อีกได้ แต่จะดารงตาแหน่งติดต่อกนั เกินสองวาระไม่ได้ มาตรา ๖๓ นอกจากการพน้ จากตาแหน่งตามวาระตามมาตรา ๖๒ เลขาธิการ กสทช. พน้ จากตาแหน่งเม่ือ (๑) ตาย (๒) มีอายคุ รบหกสิบปี บริบูรณ์ (๓) ลาออก (๔) เป็นบุคคลลม้ ละลาย (๕) ไดร้ ับโทษจาคุกโดยคาพพิ ากษาถึงทสี่ ุดใหจ้ าคุก (๖) ขาดคุณสมบตั ิหรือมีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๖๑ วรรคสอง (๗) กสทช. มีมติดว้ ยคะแนนเสียงไม่นอ้ ยกว่าสองในสามของจานวนกรรมการ ท้งั หมดใหอ้ อกจากตาแหน่งเพราะบกพร่องต่อหนา้ ที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หยอ่ น ความสามารถ หรือไม่สามารถปฏิบตั ิหนา้ ที่ได้ มาตรา ๖๔ ใหเ้ ลขาธิการ กสทช. และพนกั งานของสานกั งาน กสทช. เป็น เจา้ หนา้ ที่ของรัฐตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าดว้ ยการป้องกนั และปราบปรามการทุจริต พนกั งานของสานกั งาน กสทช. ตอ้ งมีคุณสมบตั ิและไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตาม ระเบียบที่ กสทช. กาหนด และตอ้ งไม่เป็นกรรมการ ผจู้ ดั การ ผบู้ ริหาร ทปี่ รึกษา พนกั งาน ผถู้ ือ หุน้ หรือหุน้ ส่วนในบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนหรือนิติบคุ คลอืน่ ใดบรรดาท่ีประกอบธุรกิจดา้ น กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั นห์ รือกิจการโทรคมนาคม

ใหเ้ ลขาธิการ กสทช. เป็นผดู้ ารงตาแหน่งระดบั สูงตามกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญว่าดว้ ยการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริต ในการปฏิบตั ิหนา้ ทีต่ ามพระราชบญั ญตั ิน้ี ให้ เลขาธิการ กสทช. และพนกั งาน เจา้ หนา้ ที่เป็นเจา้ พนกั งานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๕ รายไดข้ องสานกั งาน กสทช. มีดงั ต่อไปน้ี (๑)[๘๕] ค่าธรรมเนียมการขออนุญาตและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่น ความถ่ีตามมาตรา ๔๔/๒ วรรคหน่ึง ค่าธรรมเนียมการขออนุญาตและค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ประกอบกิจการตามมาตรา ๔๕ วรรคหน่ึง และค่าธรรมเนียมการโอนใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่น ความถ่ีตามมาตรา ๔๔/๓ (๒) รายไดห้ รือผลประโยชน์อนั ไดม้ าจากการดาเนินงานตามอานาจหนา้ ท่ีของ กสทช. และสานกั งาน กสทช. (๓) รายไดจ้ ากทรัพยส์ ินของสานกั งาน กสทช. (๔) เงินและทรัพยส์ ินทีม่ ีผบู้ ริจาคใหแ้ ก่สานกั งาน กสทช. ตามระเบียบท่ี กสทช. กาหนดเพ่อื ใชใ้ นการดาเนินงานของสานกั งาน กสทช. (๕) เงินอุดหนุนทว่ั ไปที่รัฐบาลจดั สรรให้ รายไดข้ องสานกั งาน กสทช. ตาม (๑) และ (๒) เมื่อไดห้ กั รายจ่ายสาหรับการ ดาเนินงานอยา่ งมีประสิทธิภาพของสานกั งาน กสทช. ค่าภาระต่าง ๆ ท่ีจาเป็น เงินทีจ่ ดั สรรเพ่อื สมทบกองทุนตามมาตรา ๕๒ กองทุนพฒั นาเทคโนโลยเี พอื่ การศึกษาตามกฎหมายวา่ ดว้ ย การศึกษาแห่งชาติ และกองทุนพฒั นาดิจิทลั เพอ่ื เศรษฐกิจและสังคมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการ พฒั นาดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คมแลว้ เหลือเท่าใดใหน้ าส่งเป็นรายไดแ้ ผน่ ดิน[๘๖] ในกรณีรายไดข้ องสานกั งาน กสทช. มีจานวนไม่พอสาหรับค่าใชจ้ ่ายในการ ดาเนินงานอยา่ งมีประสิทธิภาพของสานกั งาน กสทช. รวมท้งั ค่าภาระต่าง ๆ ทจ่ี าเป็นและไม่ สามารถหาเงินจากแหล่งอนื่ ไดร้ ัฐพงึ จดั สรรเงินงบประมาณแผน่ ดินใหแ้ ก่สานกั งาน กสทช. เทา่ จานวนทจี่ าเป็น มาตรา ๖๖ เพอ่ื ประโยชนใ์ นการจดั สรรเงินงบประมาณแผน่ ดินใหแ้ ก่สานกั งาน กสทช. ตามมาตรา ๖๕ วรรคสาม ใหส้ านกั งาน กสทช. เสนองบประมาณรายจ่ายของ ปี งบประมาณที่ขอความสนบั สนุนต่อคณะรัฐมนตรี เพ่อื จดั สรรเงินอุดหนุนทวั่ ไปของสานกั งาน กสทช. ไวใ้ นร่างพระราชบญั ญตั ิงบประมาณรายจ่ายประจาปี หรือร่างพระราชบญั ญตั ิ

งบประมาณรายจ่ายเพมิ่ เติม แลว้ แต่กรณี ในการน้ีคณะรัฐมนตรีอาจทาความเห็นเกี่ยวกบั การ จดั สรรงบประมาณของสานกั งาน กสทช. ไวใ้ นรายงานการเสนอร่างพระราชบญั ญตั ิ งบประมาณรายจ่ายประจาปี หรือร่างพระราชบญั ญตั ิงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมดว้ ยกไ็ ด้ และใน การพิจารณาร่างพระราชบญั ญตั ิงบประมาณรายจ่ายประจาปี หรือร่างพระราชบญั ญตั ิงบประมาณ รายจ่ายเพมิ่ เติม สภาผแู้ ทนราษฎรหรือวฒุ ิสภาอาจขอใหเ้ ลขาธิการ กสทช. เขา้ ช้ีแจงเพอ่ื ประกอบการพิจารณาได้ มาตรา ๖๗ บรรดาอสังหาริมทรัพยท์ ส่ี านกั งาน กสทช. ไดม้ าโดยการซ้ือหรือ แลกเปลี่ยนจากรายไดข้ องสานกั งาน กสทช. ตามมาตรา ๖๕ (๑) (๒) หรือ (๓) หรือทีม่ ีผบู้ ริจาค ใหต้ าม (๔) ใหเ้ ป็นกรรมสิทธ์ิของสานกั งาน กสทช. อสงั หาริมทรัพยท์ เ่ี ป็นที่ราชพสั ดุตามกฎหมายว่าดว้ ยทรี่ าชพสั ดุท่อี ยใู่ นความ ครอบครองของสานกั งาน กสทช. ใหส้ านกั งาน กสทช. มีอานาจในการปกครอง ดูแล บารุงรักษา ใช้ และจดั หาผลประโยชนไ์ ด้ ตามระเบยี บที่ กสทช. กาหนด ทรัพยส์ ินของสานกั งาน กสทช. ไม่อยใู่ นความรับผดิ แห่งการบงั คบั คดี มาตรา ๖๘ การบญั ชีของสานกั งาน กสทช. ใหจ้ ดั ทาตามหลกั สากลตาม มาตรฐานของสภาผสู้ อบบญั ชี และตอ้ งจดั ใหม้ ีการตรวจสอบภายในเก่ียวกบั การเงิน การบญั ชี และการพสั ดุของสานกั งาน กสทช. ตามระเบียบที่ กสทช. กาหนด ในการตรวจสอบภายในตามวรรคหน่ึง ใหม้ ีคณะกรรมการตรวจสอบภายใน จานวนไม่นอ้ ยกวา่ สามคนและไม่เกินหา้ คน ซ่ึง กสทช. แต่งต้งั จากผทู้ รงคุณวฒุ ิซ่ึงมีความรู้ ความสามารถในการตรวจสอบภายในและมีคุณสมบตั ิและไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๗ และมาตรา ๘ และใหส้ านกั งาน กสทช. จดั ใหม้ ีเจา้ หนา้ ทีผ่ ูต้ รวจสอบภายในมีจานวนตามสมควร ข้ึนตรงต่อคณะกรรมการตรวจสอบภายใน เพ่อื ทาหนา้ ท่ีช่วยคณะกรรมการตรวจสอบภายในใน การดาเนินการตามอานาจหนา้ ที่ ใหค้ ณะกรรมการตรวจสอบภายในมีอิสระในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ และให้ กสทช. เลขาธิการ กสทช. และพนกั งานของสานกั งาน กสทช. อานวยความสะดวกแก่คณะกรรมการ ตรวจสอบภายในและเจา้ หนา้ ท่ผี ตู้ รวจสอบภายในตามทร่ี ้องขอ ใหค้ ณะกรรมการตรวจสอบภายในแจง้ ผลการตรวจสอบต่อ กสทช. ทุกหน่ึงร้อย แปดสิบวนั

วาระการดารงตาแหน่ง การพน้ จากตาแหน่ง และการประชุมของคณะกรรมการ ตรวจสอบภายในใหเ้ ป็นไปตามระเบียบที่ กสทช. กาหนด มาตรา ๖๙ ใหส้ านกั งาน กสทช. จดั ทางบดุล งบการเงิน และบญั ชีทาการส่ง ผสู้ อบบญั ชีภายในหกสิบวนั นบั แต่วนั สิ้นปี บญั ชี ในทกุ รอบปี ใหส้ านกั งานการตรวจเงินแผน่ ดินเป็นผสู้ อบบญั ชีและประเมินผล การใชจ้ ่ายเงินและทรัพยส์ ินของสานกั งาน กสทช. โดยใหว้ เิ คราะห์ประสิทธิผลของการใช้ จ่ายเงินพร้อมท้งั แสดงความคิดเห็นว่าการใชจ้ ่ายดงั กล่าวเป็นไปตามวตั ถุประสงค์ และไดผ้ ลตาม เป้าหมายเพียงใดดว้ ยแลว้ ทาบนั ทึกรายงานผลเสนอต่อ กสทช. คณะรัฐมนตรี และรัฐสภา ใหส้ านกั งาน กสทช. เป็นหน่วยรับตรวจตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่า ดว้ ยการตรวจเงินแผน่ ดิน ในเวลาใด ๆ ทส่ี านกั งานการตรวจเงินแผน่ ดินตรวจพบวา่ การใชจ้ ่ายเงินและ ทรัพยส์ ินของสานกั งาน กสทช. ไม่เกิดประสิทธิผล หรือเป็ นการฟ่ ุมเฟื อยเกินสมควรหรือการ ดาเนินการใดไม่ถูกตอ้ งตรงตามแผน หรือจะก่อใหเ้ กิดความเสียหายต่อประโยชน์ส่วนรวม ให้ สานกั งานการตรวจเงินแผ่นดินแจง้ ให้ กสทช. ทราบ พร้อมท้งั ขอ้ เสนอแนะ และให้ กสทช. ดาเนินการปรับปรุงแกไ้ ข หรือระงบั การดาเนินการตามควรแก่กรณีภายในระยะเวลาทส่ี านกั งาน การตรวจเงินแผน่ ดินกาหนด[๘๗] หมวด ๖ การตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลการดาเนนิ การและการบริหารงาน มาตรา ๗๐ ใหม้ ีคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานคณะหน่ึง ประกอบดว้ ยประธานกรรมการคนหน่ึงและกรรมการอ่นื อกี จานวนส่ีคน ซ่ึงมีคุณสมบตั ิ ดงั ต่อไปน้ี (๑) เป็นผทู้ มี่ ีผลงานหรือมีความรู้ และมีความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์ดา้ น กิจการกระจายเสียง จานวนหน่ึงคน และดา้ นกิจการโทรทศั น์ จานวนหน่ึงคน (๒) เป็นผทู้ ม่ี ีผลงานหรือมีความรู้ และมคี วามเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์ดา้ น กิจการโทรคมนาคม จานวนหน่ึงคน (๓) เป็นผทู้ ่ีมีผลงานและประสบการณ์ดา้ นการคุม้ ครองผูบ้ ริโภค จานวนหน่ึงคน

(๔) เป็นผทู้ ม่ี ีผลงานและประสบการณ์ดา้ นการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของ ประชาชน จานวนหน่ึงคน ใหป้ ระธานวฒุ ิสภาจดั ใหม้ ีการดาเนินการคดั เลือกบคุ คลผสู้ มควรไดร้ ับการเสนอ ช่ือเป็นกรรมการจานวนสองเท่าของจานวนกรรมการตามวรรคหน่ึง เพื่อนาเสนอใหว้ ฒุ ิสภา พิจารณาคดั เลือกต่อไป ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการท่ีประธานวุฒิสภากาหนด ใหผ้ ไู้ ดร้ ับการคดั เลือกเป็นกรรมการประชุมร่วมกนั เพอ่ื คดั เลือกผสู้ มควรเป็น ประธานกรรมการ มาตรา ๗๑[๘๘] กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานมีวาระการดารง ตาแหน่งคราวละสามปี และจะแต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหน่งสองวาระติดต่อกนั มิได้ กรรมการตามวรรคหน่ึงตอ้ งไม่เป็นกรรมการ กสทช. อนุกรรมการ เลขาธิการ กสทช. พนกั งานหรือลูกจา้ งของสานกั งาน กสทช. และใหน้ าความในมาตรา ๗ มาตรา ๘ และ มาตรา ๒๐ (๑) (๓) (๔) และ (๕) มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม ก่อนครบกาหนดตามวาระเป็ นเวลาไม่นอ้ ยกว่าเกา้ สิบวนั ใหส้ านกั งานเลขาธิการ วุฒิสภาดาเนินการจดั ใหม้ ีการคดั เลือกกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานข้ึนใหม่ให้ แลว้ เสร็จโดยเร็ว และใหก้ รรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานซ่ึงพน้ จากตาแหน่งตาม วาระอยใู่ นตาแหน่งเพ่อื ปฏิบตั ิหนา้ ที่ต่อไปจนกวา่ จะมีการคดั เลือกกรรมการข้ึนใหม่ ในกรณีท่กี รรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานพน้ จากตาแหน่งดว้ ยเหตุ อน่ื นอกจากการพน้ จากตาแหน่งตามวาระ ใหก้ รรมการเทา่ ทเี่ หลืออยปู่ ฏิบตั ิหนา้ ที่ต่อไปได้ และ ใหถ้ ือว่าคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานประกอบดว้ ยกรรมการเทา่ ท่ี เหลืออยู่ เวน้ แต่มีกรรมการเหลืออยไู่ ม่ถึงสามคน เมื่อมีเหตุใหก้ รรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานตอ้ งพน้ จากตาแหน่ง เพราะเหตุอนื่ นอกจากการพน้ จากตาแหน่งตามวาระ ใหส้ านกั งาน กสทช. มีหนงั สือแจง้ ให้ สานกั งานเลขาธิการวุฒสิ ภาทราบภายในระยะเวลาสิบหา้ วนั นบั แต่วนั ทีม่ ีเหตุดงั กล่าว โดยให้ สานกั งานเลขาธิการวฒุ ิสภาเร่ิมดาเนินการจดั ใหม้ ีการเลือกกรรมการแทนตาแหน่งที่ว่างภายใน สิบหา้ วนั นบั แต่วนั ทไ่ี ดร้ ับหนงั สือแจง้ และใหผ้ ไู้ ดร้ ับคดั เลือกใหด้ ารงตาแหน่งแทนอยใู่ น ตาแหน่งเทา่ กบั วาระทีเ่ หลืออยขู่ องกรรมการซ่ึงตนแทน วธิ ีการประชุมและการลงมติใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บท่ีคณะกรรมการติดตามและ ประเมินผลการปฏิบตั ิงานกาหนด

ค่าตอบแทนและค่าใชจ้ ่ายอน่ื ในการปฏิบตั ิงานของคณะกรรมการติดตามและ ประเมินผลการปฏิบตั ิงานใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บท่คี ณะกรรมการดิจิทลั เพอื่ เศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติกาหนด มาตรา ๗๒ ใหค้ ณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงาน มีอานาจ หนา้ ทตี่ ิดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดาเนินการและการบริหารงานของ กสทช. กสท. กทค. สานกั งาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. แลว้ แจง้ ผลให้ กสทช. ทราบภายในเกา้ สิบวนั นบั แต่วนั สิ้นปี บญั ชี และให้ กสทช. นารายงานดงั กล่าวเสนอต่อรัฐสภาพร้อมรายงานผลการ ปฏิบตั ิงานประจาปี ของ กสทช. ตามมาตรา ๗๖ และเปิ ดเผยรายงานดงั กล่าวใหป้ ระชาชนทราบ ทางระบบเครือข่ายสารสนเทศของสานกั งาน กสทช. หรือวิธีการอน่ื ที่เห็นสมควร การประเมินตามวรรคหน่ึงตอ้ งอยบู่ นพ้ืนฐานขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ มูลต่าง ๆ และ ตอ้ งมีการรับฟังความคิดเห็นของผมู้ ีส่วนไดเ้ สียประกอบดว้ ย คณะกรรมการอาจมอบหมายใหห้ น่วยงานหรือองคก์ รทีม่ ีความเช่ียวชาญเป็นผู้ รวบรวมขอ้ มูล วิเคราะห์ และประเมินผลเพอื่ ประโยชน์ในการจดั ทารายงาน มาตรา ๗๓ รายงานตามมาตรา ๗๒ อยา่ งนอ้ ยจะตอ้ งมีเน้ือหา ดงั ต่อไปน้ี (๑) ผลการปฏิบตั ิงานของ กสทช. กสท. กทค. สานกั งาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. (๒) รายงานขอ้ เทจ็ จริงหรือขอ้ สงั เกตจากการปฏิบตั ิตามอานาจหนา้ ที่ของ กสทช. ในส่วนท่เี ก่ียวกบั การปฏิบตั ิหนา้ ท่ีอยา่ งมีประสิทธิภาพและความสอดคลอ้ งกบั นโยบายของ รัฐบาล พร้อมท้งั ความเห็นและขอ้ เสนอแนะ (๓) ความเห็นเก่ียวกบั รายงานประจาปี ที่ กสทช. ไดจ้ ดั ทาข้ึนตามมาตรา ๗๖ (๔) เร่ืองอน่ื ๆ ท่ีเห็นสมควรรายงานให้ กสทช. รัฐสภา หรือประชาชน ทราบ ให้ กสทช. กสท. กทค. สานกั งาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. ใหค้ วามร่วมมือ และอานวยความสะดวกใหแ้ ก่คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานตามทีร่ ้องขอ

หมวด ๗ ความสัมพนั ธ์กบั รัฐบาลและรัฐสภา มาตรา ๗๔[๘๙] ในการดาเนินการตามอานาจหนา้ ท่ี กสทช. ตอ้ งดาเนินการให้ สอดคลอ้ งกบั นโยบายท่คี ณะรัฐมนตรีแถลงไวต้ ่อรัฐสภา และตอ้ งสอดคลอ้ งกบั นโยบายและ แผนระดบั ชาติว่าดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกิจและสงั คม มาตรา ๗๕ ในกรณีท่ีจะตอ้ งมีการเจรจาหรือทาความตกลงระหวา่ งรัฐบาลแห่ง ราชอาณาจกั รไทยกบั รัฐบาลต่างประเทศหรือองคก์ ารระหวา่ งประเทศ ในเรื่องทเี่ กี่ยวกบั การ บริหารคลื่นความถี่ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ กิจการโทรคมนาคม หรือการอ่นื ท่ี เก่ียวขอ้ ง กสทช. และสานกั งาน กสทช. มีหนา้ ทีต่ อ้ งใหข้ อ้ มูลและร่วมดาเนินการตามท่รี ัฐบาล แจง้ ใหท้ ราบ มาตรา ๗๖ ให้ กสทช. จดั ทารายงานผลการปฏิบตั ิงานประจาปี ในดา้ นการ บริหารคล่ืนความถ่ี กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม แลว้ แต่กรณี ซ่ึงตอ้ งแสดงรายละเอยี ดแผนงานและผลการปฏิบตั ิงาน รายละเอียดเกี่ยวกบั การบริหารคลื่น ความถี่ การจดั สรรคลื่นความถ่ี การประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคม แลว้ แต่กรณี และแผนการดาเนินงานในระยะต่อไปเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและ รัฐสภาภายในหน่ึงร้อยยส่ี ิบวนั นบั แต่วนั สิ้นปี บญั ชี และเปิ ดเผยใหป้ ระชาชนทราบ รายงานผลการปฏิบตั ิงานประจาปี ตามวรรคหน่ึงอยา่ งนอ้ ยตอ้ งมีเน้ือหา ดงั ต่อไปน้ี (๑) ผลงานของ กสทช. ในปี ท่ีล่วงมาแลว้ เมื่อเปรียบเทยี บกบั แผนงานหรือ โครงการที่กาหนดไว้ (๒) แผนงาน โครงการ และแผนงบประมาณสาหรับปี ถดั ไป (๓) งบการเงินและรายงานของผสู้ อบบญั ชี รายงานการตรวจสอบภายใน (๔) ปัญหาและอุปสรรคในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมประเภทต่าง ๆ ทมี่ ีความสาคญั ต่อประชาชน (๕) คุณภาพและอตั ราค่าบริการโทรคมนาคมประเภทต่าง ๆ ท่ีมีความสาคญั ต่อ ประชาชน

(๖) ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการพจิ ารณาเร่ืองร้องเรียนของผบู้ ริโภค (๗) ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกองทนุ ตามมาตรา ๕๒ (๘) รายงานเก่ียวกบั สภาพการแข่งขนั ของตลาดในการประกอบกิจการกระจาย เสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมประเภทต่าง ๆ รวมท้งั ขอ้ สงั เกตเกี่ยวกบั การ กระทาอนั มีลกั ษณะเป็นการครอบงากิจการท้งั ทางตรงและทางออ้ มที่มีผลกระทบกบั ประโยชน์ ของรัฐและประชาชน นายกรัฐมนตรี สภาผแู้ ทนราษฎร และวฒุ ิสภา อาจขอให้ กสทช. หรือ เลขาธิการ กสทช. แลว้ แต่กรณี ช้ีแจงการดาเนินงานในเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงเป็ นหนงั สือหรือขอให้ มาช้ีแจงดว้ ยวาจาก็ได้ หมวด ๘ บทกาหนดโทษ มาตรา ๗๖/๑[๙๐] ผใู้ ดฝ่ าฝื นมาตรา ๒๒/๑ ตอ้ งระวางโทษปรับไม่เกินหน่ึงลา้ น บาท มาตรา ๗๗ ผปู้ ระกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการ โทรคมนาคมผใู้ ดไดร้ ับคาสัง่ ตามมาตรา ๓๑ วรรคสอง แลว้ ไม่ปฏิบตั ิตาม ให้ กสทช. มีอานาจ ปรับทางปกครองไม่เกินหา้ ลา้ นบาท และปรับอีกวนั ละไม่เกินหน่ึงแสนบาทตลอดเวลาทย่ี งั มิได้ ปฏิบตั ิตามคาสัง่ มาตรา ๗๘[๙๑] ผใู้ ดใชค้ ลื่นความถ่ีเพอ่ื กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือ กิจการโทรคมนาคม โดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาตตามมาตรา ๔๑ วรรคหน่ึง ผนู้ ้นั ตอ้ งรับโทษตามที่ บญั ญตั ิไวส้ าหรับความผดิ ตามมาตรา ๖๖ แห่งพระราชบญั ญตั ิการประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทศั น์ พ.ศ. ๒๕๕๑ หรือตามมาตรา ๖๗ แห่งพระราชบญั ญตั ิการประกอบกิจการ โทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ แลว้ แต่กรณี มาตรา ๗๙ พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี กสทช. หรือผซู้ ่ึงใชอ้ านาจของ กสทช. ทรี่ ู้หรือ ไดร้ ับแจง้ จากบุคคลใดวา่ มีการใชค้ ล่ืนความถี่อนั เป็นการฝ่ าฝื นหรือไม่ปฏิบตั ิตาม

พระราชบญั ญตั ิน้ี หากมิไดด้ าเนินการบงั คบั การใหเ้ ป็นไปตามพระราชบญั ญตั ิน้ี และการกระทา หรืองดเวน้ การกระทาน้นั ไม่เป็นความผดิ ตามมาตรา ๑๕๗ แห่งประมวลกฎหมายอาญา พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ กสทช. หรือผซู้ ่ึงใชอ้ านาจของ กสทช. ท่กี ระทาการดงั กล่าว ตอ้ งระวางโทษ จาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหม่ืนบาทหรือท้งั จาท้งั ปรับ บทเฉพาะกาล มาตรา ๘๐ ในระหว่างท่ีการแต่งต้งั กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ียงั ไม่แลว้ เสร็จ ใหค้ ณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติท่ไี ดแ้ ต่งต้งั ข้ึนตามพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรร คล่ืนความถี่และกากบั กิจการวิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ยงั คงปฏิบตั ิหนา้ ทีต่ ่อไปในฐานะ กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี แต่ในส่วนท่ีเกี่ยวกบั การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั นต์ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการ กระจายเสียงและกิจการโทรทศั นใ์ หเ้ ป็นไปตามกฎหมายดงั กลา่ ว เม่ือ กสทช. ไดร้ ับการแต่งต้งั แลว้ ใหค้ ณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ตามวรรคหน่ึง เป็นอนั พน้ จากหนา้ ท่ี มาตรา ๘๑ ใหค้ ณะกรรมการตามพระราชบญั ญตั ิการประกอบกิจการกระจาย เสียงและกิจการโทรทศั น์ พ.ศ. ๒๕๕๑ คณะกรรมการตามพระราชบญั ญตั ิการประกอบกิจการ โทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั นแ์ ห่งชาติ ตามมาตรา ๖๑ แห่งพระราชบญั ญตั ิองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศ ไทย พ.ศ. ๒๕๕๑ หมายความถึง กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ใหบ้ รรดาอานาจหนา้ ท่ขี องรัฐมนตรี อธิบดีกรมไปรษณียโ์ ทรเลข และเจา้ พนกั งานผอู้ อกใบอนุญาต ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวทิ ยคุ มนาคมเป็นอานาจหนา้ ท่ีของ กสทช. ตาม พระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา ๘๒ เมื่อมีการแต่งต้งั กสทช. แลว้ ใหส้ ่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงาน ของรัฐหรือบคุ คลใดทไี่ ดร้ ับจดั สรรคล่ืนความถี่หรือใชค้ ล่ืนความถ่ีเพอ่ื การประกอบกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม อยใู่ นวนั ท่ีพระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั มี

หนา้ ทีแ่ จง้ รายละเอียดการใชป้ ระโยชน์คล่ืนความถ่ี รวมท้งั เหตุแห่งความจาเป็นในการถือครอง คลื่นความถี่ต่อ กสทช. ตามหลกั เกณฑ์ และระยะเวลาท่ี กสทช. กาหนด ในการดาเนินการตามวรรคหน่ึง ใหส้ ่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจ และหน่วยงานของ รัฐแจง้ รายละเอยี ดเก่ียวกบั การอนุญาต สมั ปทาน หรือสญั ญา รวมถึงอายสุ ญั ญาและค่าสมั ปทาน หรือค่าตอบแทนต่าง ๆ ตามการอนุญาต สัมปทาน หรือสญั ญาน้นั ต่อ กสทช. ตามหลกั เกณฑ์ และวธิ ีการที่ กสทช. กาหนด และให้ กสทช. ตรวจสอบความชอบดว้ ยกฎหมายของการอนุญาต สัมปทานหรือสัญญาน้นั พร้อมท้งั เปิ ดเผยขอ้ มูลและผลการตรวจสอบใหส้ าธารณชนทราบ มาตรา ๘๓ ผไู้ ดร้ ับจดั สรรคลื่นความถี่หรือใชค้ ล่ืนความถ่ีเพอ่ื การประกอบ กิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทศั นท์ ี่ชอบดว้ ยกฎหมาย อยใู่ นวนั ท่พี ระราชบญั ญตั ิน้ีใช้ บงั คบั และไดป้ ฏิบตั ิตามมาตรา ๘๒ แลว้ ใหถ้ ือว่าไดร้ ับอนุญาตจาก กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิ น้ี และให้ กสทช. กากบั ดูแลใหผ้ ไู้ ดร้ ับจดั สรรคล่ืนความถ่ีหรือใชค้ ลื่นความถ่ีน้นั ปฏิบตั ิตาม พระราชบญั ญตั ิน้ี กฎหมายอ่ืนและตามหลกั เกณฑท์ ่ี กสทช. กาหนด ท้งั น้ี จนกวา่ จะถึงกาหนดท่ี ตอ้ งคืนคล่ืนความถี่ตามวรรคสาม ความในมาตรา ๔๔/๑ มิใหใ้ ชบ้ งั คบั กบั ส่วนราชการและรัฐวสิ าหกิจทีน่ าคลื่น ความถี่ท่ีไดร้ ับจดั สรรไปใหผ้ อู้ นื่ ประกอบกิจการโดยการอนุญาต สมั ปทาน หรือตามสญั ญาทช่ี อบ ดว้ ยกฎหมาย และใหผ้ ไู้ ดร้ ับอนุญาต สมั ปทาน หรือสญั ญาประกอบกิจการต่อไปไดเ้ ฉพาะในช่วง ระยะเวลาทเี่ หลืออยตู่ ามการอนุญาต สัมปทาน หรือตามสญั ญาน้นั [๙๒] ให้ กสทช. กาหนดระยะเวลาทีแ่ น่นอนในการใหผ้ ไู้ ดร้ ับจดั สรรคล่ืนความถี่หรือ ใชค้ ลื่นความถ่ีคืนคลื่นความถี่ดงั กล่าวเพ่อื นาไปจดั สรรใหม่หรือปรับปรุงการใชค้ ลื่นความถ่ี ตามทีก่ าหนดไวใ้ นแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถ่ีตามมาตรา ๔๘ โดยคานึงถึงประโยชน์ สาธารณะและความจาเป็นของการประกอบกิจการและการใชค้ ล่ืนความถี่ ท้งั น้ี ใหน้ าเหตุแห่ง ความจาเป็นในการถือครองคลื่นความถี่ตามทีไ่ ดร้ ับแจง้ ตามมาตรา ๘๒ มาพิจารณาประกอบดว้ ย มาตรา ๘๔ ผไู้ ดร้ ับจดั สรรคลนื่ ความถ่ีหรือใชค้ ล่ืนความถี่เพอ่ื กิจการ โทรคมนาคมท่ชี อบดว้ ยกฎหมายอยใู่ นวนั ท่ีพระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั และไดป้ ฏิบตั ิตามมาตรา ๘๒ แลว้ ใหถ้ ือว่าไดร้ ับอนุญาตจาก กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี และให้ กสทช. กากบั ดูแลให้ ผไู้ ดร้ ับจดั สรรคล่ืนความถ่ีหรือใชค้ ล่ืนความถี่น้นั ปฏิบตั ิตามพระราชบญั ญตั ิน้ี กฎหมายอ่นื และ ตามหลกั เกณฑท์ ่ี กสทช. กาหนด ท้งั น้ี จนกวา่ จะถึงกาหนดท่ีตอ้ งคืนคลื่นความถี่ตามวรรคส่ี

ความในมาตรา ๔๔/๑ มิใหใ้ ชบ้ งั คบั กบั รัฐวิสาหกิจที่นาคล่ืนความถ่ีท่ไี ดร้ ับ จดั สรรไปให้ผูอ้ ื่นประกอบกิจการโดยการอนุญาต สัมปทาน หรือตามสัญญาท่ีชอบดว้ ย กฎหมายและให้ผูไ้ ดร้ ับอนุญาต สมั ปทาน หรือสญั ญาประกอบกิจการต่อไปไดเ้ ฉพาะในช่วง ระยะเวลาท่ีเหลืออยตู่ ามการอนุญาต สมั ปทาน หรือตามสัญญาน้นั [๙๓] เม่ือพน้ กาหนดระยะเวลาสามปี นบั แต่วนั ท่ีพระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ให้ รัฐวสิ าหกิจนารายไดจ้ ากผลประกอบการในส่วนทไี่ ดร้ ับจากการใหอ้ นุญาต สัมปทาน หรือ สัญญาตามวรรคสองท่ีรัฐวิสาหกิจไดด้ าเนินการตามกฎหมายว่าดว้ ยการให้เอกชนเขา้ ร่วมงาน หรือดาเนินการในกิจการของรัฐ ท้งั น้ี ไม่วา่ จะไดด้ าเนินการท้งั หมดหรือบางส่วน โดยใหห้ กั ค่าใชจ้ ่ายดงั ต่อไปน้ีแลว้ เหลือเทา่ ใดใหส้ ่ง กสทช. และให้ กสทช. นาส่งเงินจานวนดงั กล่าวเป็น รายไดแ้ ผน่ ดินต่อไป (๑) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการ เฉพาะในส่วนทคี่ ิดจากฐานรายไดท้ ่ี เกิดจากการอนุญาต สมั ปทาน หรือสัญญา (๒) ค่าใชจ้ ่ายเพื่อสนบั สนุนการจดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคมพ้นื ฐานโดยทวั่ ถึง และบริการเพื่อสงั คมตามนโยบายของรัฐบาล และตามมาตรา ๕๐ เฉพาะในส่วนท่ีคิดจากฐาน รายไดท้ ่ีเกิดจากการอนุญาต สมั ปทาน หรือสัญญา (๓) ค่าใชจ้ ่ายทเ่ี กิดข้ึนจากการดาเนินการตามการอนุญาต สมั ปทาน หรือสัญญา ตามทีก่ ระทรวงการคลงั กาหนด ให้ กสทช. กาหนดระยะเวลาท่แี น่นอนในการใหผ้ ไู้ ดร้ ับจดั สรรคลื่นความถ่ีหรือ ใชค้ ล่ืนความถ่ีคืนคลื่นความถี่ดงั กลา่ วเพ่ือนาไปจดั สรรใหม่หรือปรับปรุงการใชค้ ล่ืนความถ่ี ตามที่กาหนดไวใ้ นแผนแม่บทการบริหารคล่ืนความถี่ตามมาตรา ๔๘ โดยใหน้ าความในมาตรา ๘๓ วรรคสาม มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม มาตรา ๘๕ ในวาระเริ่มแรกมใิ หน้ าบทบญั ญตั ิมาตรา ๔๙ ในส่วนที่เก่ียวกบั การ จดั ใหภ้ าคประชาชนไดใ้ ชค้ ล่ืนความถี่ในกิจการโทรทศั นไ์ ม่นอ้ ยกว่าร้อยละยส่ี ิบมาใชบ้ งั คบั ท้งั น้ี จนกวา่ กสทช. จะประกาศใหใ้ ชร้ ะบบการรับส่งสัญญาณวิทยโุ ทรทศั นใ์ นระบบดิจิตอลแลว้ ให้ กสทช. จดั ใหม้ ีแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถ่ีตามมาตรา ๔๘ ภายใน ระยะเวลาหน่ึงปี นบั แต่เม่ือมีการแต่งต้งั กสทช. แลว้ โดยแผนดงั กล่าวตอ้ งกาหนดใหม้ ีการ กาหนดเวลาในการเปล่ียนไปสู่ระบบการรับส่งสัญญาณวิทยโุ ทรทศั น์ในระบบดิจิตอลและ กาหนดเวลาเกี่ยวกบั การจดั ใหภ้ าคประชาชนไดใ้ ชค้ ลื่นความถใ่ี นกิจการโทรทศั นด์ ว้ ย

หลงั จากประกาศใชแ้ ผนแม่บทการบริหารคล่ืนความถ่ีแลว้ ในช่วงเวลาทีย่ งั มิได้ ประกาศใหใ้ ชร้ ะบบการรับส่งสัญญาณวทิ ยโุ ทรทศั นใ์ นระบบดิจิตอลให้ กสทช. จดั สรรคลื่น ความถใี่ หภ้ าคประชาชนไดใ้ ชใ้ นกิจการโทรทศั น์เป็ นการชว่ั คราวเฉพาะในพ้ืนท่ีที่มีคล่ืนความถ่ี เพียงพอทจี่ ะดาเนินการจดั สรรได้ มาตรา ๘๖ ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมทคี่ ณะกรรมการ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติมอบหมายใหด้ าเนินการจดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคมพ้นื ฐานโดย ทว่ั ถึงและบริการเพอื่ สงั คมตามพระราชบญั ญตั ิการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ ก่อนวนั ทีพ่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ใหไ้ ดร้ ับยกเวน้ ไม่ตอ้ งนาส่งค่าใชจ้ ่ายเขา้ กองทุนตามมาตรา ๕๐ จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาตามท่กี าหนดไวใ้ นประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ เร่ือง หลกั เกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการจดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคมพน้ื ฐานโดย ทว่ั ถึงและบริการเพื่อสังคม มาตรา ๘๗ บรรดาใบอนุญาตที่ออกโดยชอบดว้ ยกฎหมายตามพระราชบญั ญตั ิ วิทยคุ มนาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถี่และกากบั กิจการ วทิ ยกุ ระจายเสียงวทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ พระราชบญั ญตั ิการ ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ พ.ศ. ๒๕๕๑ และพระราชบญั ญตั ิการประกอบ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ ก่อนวนั ทีพ่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ใหค้ งใชไ้ ดต้ ่อไปจนกว่า จะสิ้นอายุ และใหถ้ ือว่าเป็นใบอนุญาตที่ออกตามพระราชบญั ญตั ิน้ี โดยให้ กสทช. กากบั ดูแลให้ ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตปฏิบตั ิตามพระราชบญั ญตั ิน้ีกฎหมายอืน่ ท่เี กี่ยวขอ้ ง และตามหลกั เกณฑท์ ี่ กสทช. กาหนด ใบอนุญาตใดตามวรรคหน่ึงทีใ่ หส้ ิทธิในการถือครองหรือใชค้ ล่ืนความถ่ีและ มิไดก้ าหนดวนั สิ้นอายใุ หค้ งใชไ้ ดต้ ่อไปจนกว่าจะถึงวนั ที่ กสทช. กาหนดใหใ้ บอนุญาตดงั กล่าว สิ้นอายลุ ง โดยใหน้ าความในมาตรา ๘๓ วรรคสามมาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม มาตรา ๘๘ ภายในหน่ึงร้อยยสี่ ิบวนั นบั แต่วนั ทีพ่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ให้ กสทช. ออกใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถ่ีและใบอนุญาตประกอบกิจการตามกฎหมายว่าดว้ ยการ ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ ใหแ้ ก่องคก์ ารกระจายเสียงและแพร่ภาพ สาธารณะแห่งประเทศไทยตามลกั ษณะและประเภทของการประกอบกิจการ รวมท้งั ขอบเขต การใหบ้ ริการเทา่ ทมี่ ีอยใู่ นวนั ที่พระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั

การใชค้ ล่ืนความถ่ีเพื่อประกอบกิจการเพ่ิมเติมจากทไ่ี ดร้ ับใบอนุญาตตามวรรค หน่ึงตอ้ งสอดคลอ้ งกบั แผนแม่บทการบริหารคล่ืนความถี่ และตอ้ งไดร้ ับใบอนุญาตจาก กสทช. ในการน้ี กสทช. จะกาหนดเง่ือนไขใด ๆ ท่ีจาเป็นเพอ่ื ประโยชนส์ าธารณะก็ได้ การประกอบกิจการขององคก์ ารกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่ง ประเทศไทยใหอ้ ยภู่ ายใตพ้ ระราชบญั ญตั ิน้ีเพียงเท่าท่ีไม่ขดั หรือแยง้ กบั กฎหมายวา่ ดว้ ยองคก์ าร กระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ในระหวา่ งทยี่ งั มิไดร้ ับใบอนุญาตตามวรรคหน่ึง ใหอ้ งคก์ ารกระจายเสียงและ แพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยประกอบกิจการต่อไปได้ มาตรา ๘๙ ใหโ้ อนบรรดากิจการ ทรัพยส์ ิน สิทธิ หนา้ ที่ หน้ี พนกั งานและลูกจา้ ง และเงินงบประมาณ ของสานกั งานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติทม่ี ีอยไู่ ปเป็ นของ สานกั งาน กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ใหพ้ นกั งานและลูกจา้ งทโี่ อนไปตามวรรคหน่ึงไดร้ ับเงินเดือน เงินประจา ตาแหน่งหรือค่าจา้ ง รวมท้งั สิทธิและประโยชน์ต่าง ๆ เทา่ กบั ทเี่ คยไดร้ ับอยเู่ ดิมไปพลางก่อน จนกว่าจะไดบ้ รรจุและแต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหน่งในสานกั งาน กสทช. แต่จะแต่งต้งั ใหไ้ ดร้ ับ เงินเดือนหรือค่าจา้ งต่ากว่าเงินเดือนหรือค่าจา้ งท่ีไดร้ ับอยเู่ ดิมไม่ได้ ในกรณีทพ่ี นกั งานหรือลูกจา้ งผใู้ ดอยภู่ ายใตร้ ะเบยี บหรือสญั ญาจา้ งทม่ี ิไดก้ าหนด ระยะเวลาการจา้ ง มิใหถ้ ือวา่ การจา้ งโดยไม่มีกาหนดระยะเวลาดงั กล่าวเป็นสิทธิและประโยชน์ ตามวรรคสอง มาตรา ๙๐ ในวาระเริ่มแรก ใหด้ าเนินการแต่งต้งั เลขาธิการ กสทช. ตาม พระราชบญั ญตั ิน้ีภายในกาหนดเกา้ สิบวนั นบั แต่วนั ทมี่ ีการแต่งต้งั กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ในระหวา่ งทีย่ งั ไม่มีเลขาธิการ กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ใหเ้ ลขาธิการ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติตามพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่นความถี่และ กากบั กิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ซ่ึงดารง ตาแหน่งอยใู่ นวนั ก่อนวนั ท่พี ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ดารงตาแหน่งเลขาธิการ กสทช. ไปพลาง ก่อน มาตรา ๙๑ ใหโ้ อนเงินและทรัพยส์ ินของกองทุนพฒั นากิจการกระจายเสียงและ กิจการโทรทศั น์เพ่อื ประโยชน์สาธารณะ และกองทนุ พฒั นากิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์