Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐

พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐

Description: พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐

Search

Read the Text Version

ราชกจิ จานุเบกษา พระราชบัญญัติ องคก์ รจัดสรรคลืน่ ความถี่และกากับการ ประกอบกิจการวทิ ยุกระจายเสียง วิทยุ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐

พระราชบญั ญัติ องค์กรจัดสรรคล่ืนความถี่และกากบั การประกอบกจิ การ วทิ ยุกระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกจิ การโทรคมนาคม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ สมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู ให้ไว้ ณ วนั ท่ี ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นปี ที่ ๒ ในรัชกาลปัจจบุ นั สมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราช โองการโปรดเกลา้ ฯ ใหป้ ระกาศวา่ โดยที่เป็นการสมควรแกไ้ ขเพ่ิมเติมกฎหมายวา่ ดว้ ยองคก์ รจดั สรรคลื่น ความถี่และกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคม เพอื่ ใหส้ อดคลอ้ งกบั การพฒั นาดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ตราพระราชบญั ญตั ิข้ึนไวโ้ ดย คาแนะนาและยนิ ยอมของสภานิติบญั ญตั ิแห่งชาติทาหนา้ ที่รัฐสภา ดงั ตอ่ ไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบญั ญตั ิน้ีเรียกวา่ “พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่น ความถี่และกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐” มาตรา ๒[๑] พระราชบญั ญตั ิน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แตว่ นั ถดั จากวนั ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป

มาตรา ๓ ใหย้ กเลิกความในมาตรา ๖ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรร คล่ืนความถี่และกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “มาตรา ๖ ใหม้ ีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรียกโดยยอ่ วา่ “กสทช.” จานวนเจด็ คน ซ่ึงแต่งต้งั จากผมู้ ี คุณสมบตั ิและไมม่ ีลกั ษณะตอ้ งห้ามตามมาตรา ๗ และมีความรู้ความเชี่ยวชาญดา้ น กิจการกระจายเสียง ดา้ นกิจการโทรทศั น์ ดา้ นกิจการโทรคมนาคม ดา้ นวิศวกรรม ดา้ น กฎหมาย ดา้ นเศรษฐศาสตร์ และดา้ นการคุม้ ครองผบู้ ริโภคหรือส่งเสริมสิทธิและ เสรีภาพของประชาชน ดา้ นละหน่ึงคน ท้งั น้ี ที่จะยงั ประโยชน์ตอ่ การปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของ กสทช. ใหเ้ ลขาธิการ กสทช. เป็นเลขานุการ กสทช.” มาตรา ๔ ใหย้ กเลิกความในมาตรา ๗ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรร คล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วามต่อไปน้ีแทน “มาตรา ๗ กรรมการตอ้ งมีคุณสมบตั ิและไม่มีลกั ษณะตอ้ งห้าม ดงั ตอ่ ไปน้ี ก. คุณสมบตั ิทวั่ ไป (๑) มีสญั ชาติไทยโดยการเกิด และ (๒) มีอายไุ มต่ ่ากวา่ สี่สิบปี แต่ไมเ่ กินเจด็ สิบปี ข. ลกั ษณะตอ้ งห้าม (๑) เป็นผดู้ ารงตาแหน่งทางการเมือง (๒) เป็นผดู้ ารงตาแหน่งใดในพรรคการเมือง (๓) เป็นบคุ คลวกิ ลจริตหรือจิตฟั่นเฟื อนไม่สมประกอบ (๔) ติดยาเสพติดใหโ้ ทษ (๕) เป็นบคุ คลลม้ ละลายหรือเคยเป็นบุคคลลม้ ละลายทจุ ริต

(๖) เป็นบุคคลที่ตอ้ งคาพิพากษาใหจ้ าคุกและถกู คุมขงั อยโู่ ดยหมาย ของศาล (๗) เคยตอ้ งคาพิพากษาอนั ถึงที่สุดว่ากระทาความผิดใด เวน้ แต่เป็ น ความผิดอนั ไดก้ ระทาโดยประมาท ความผดิ ลหุโทษ หรือความผดิ ฐานหม่ินประมาท (๘) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือใหอ้ อกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือจากหน่วยงานของเอกชน เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือประพฤติชวั่ อยา่ งร้ายแรง หรือถือวา่ กระทาการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (๙) เคยตอ้ งคาพิพากษาหรือคาสั่งของศาลใหท้ รัพยส์ ินตกเป็ นของ แผน่ ดินเพราะร่ารวยผิดปกติหรือมีทรัพยส์ ินเพ่มิ ข้ึนผดิ ปกติ (๑๐) เป็นตลุ าการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการการเลือกต้งั ผตู้ รวจการ แผน่ ดิน กรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ กรรมการตรวจเงิน แผน่ ดิน หรือกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (๑๑) เคยถูกวฒุ ิสภามีมติให้ถอดถอนออกจากตาแหน่ง (๑๒) เป็นหรือเคยเป็นกรรมการ ผจู้ ดั การ ผบู้ ริหาร ที่ปรึกษา พนกั งาน ผถู้ ือหุน้ หรือหุน้ ส่วน ในบริษทั หรือห้างหุน้ ส่วนหรือนิติบุคคลอ่ืนใด บรรดาท่ีประกอบ ธุรกิจดา้ นกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคม ในระยะเวลา หน่ึงปี ก่อนไดร้ ับการคดั เลือกตามมาตรา ๑๕ (๑๓) อยใู่ นระหวา่ งตอ้ งหา้ มมิใหด้ ารงตาแหน่งทางการเมือง (๑๔) เคยเป็นผตู้ อ้ งพน้ จากตาแหน่งกรรมการ หรือผบู้ ริหารบริษทั มหาชนจากดั เพราะเหตุมีลกั ษณะที่แสดงถึงการขาดความเหมาะสมท่ีจะไดร้ ับความ ไวว้ างใจให้บริหารจดั การกิจการที่มีมหาชนเป็นผถู้ ือหุน้ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ย หลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย”์ มาตรา ๕ ให้ยกเลิกส่วนท่ี ๒ การไดม้ าซ่ึงรายช่ือผสู้ มควรไดร้ ับเลือก เป็นกรรมการโดยวิธีการคดั เลือกกนั เอง มาตรา ๙ ถึงมาตรา ๑๓ ในหมวด ๑ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่นความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการ วทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๖ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ ร จดั สรรคล่ืนความถี่และกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยุโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “มาตรา ๑๔ เม่ือมีเหตุตอ้ งมีการเลือกและแต่งต้งั กรรมการ ใหม้ ี คณะกรรมการสรรหากรรมการคณะหน่ึง ทาหนา้ ท่ีคดั เลือกผสู้ มควรไดร้ ับเลือกเป็น กรรมการ ประกอบดว้ ย (๑) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยที่ประชุมใหญ่ตลุ าการ ในศาลรัฐธรรมนูญ จานวนหน่ึงคน (๒) ผพู้ ิพากษาในศาลฎีกาซ่ึงดารงตาแหน่งไมต่ ่ากว่าผพู้ ิพากษาศาลฎีกา หรือผพู้ ิพากษาอาวโุ สซ่ึงเคยดารงตาแหน่งไม่ต่ากว่าผพู้ ิพากษาศาลฎีกาซ่ึงไดร้ ับ คดั เลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จานวนหน่ึงคน (๓) ตลุ าการในศาลปกครองสูงสุดซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยท่ีประชุมใหญ่ ตลุ าการในศาลปกครองสูงสุด จานวนหน่ึงคน (๔) กรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติซ่ึงไดร้ ับคดั เลือก โดยที่ประชุมคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จานวนหน่ึงคน (๕) กรรมการตรวจเงินแผน่ ดินซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยท่ีประชุม คณะกรรมการตรวจเงินแผน่ ดิน จานวนหน่ึงคน (๖) ผตู้ รวจการแผน่ ดินซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยท่ีประชุมผตู้ รวจการแผน่ ดิน จานวนหน่ึงคน (๗) ผวู้ า่ การธนาคารแห่งประเทศไทย ใหค้ ณะกรรมการสรรหาตามวรรคหน่ึงเลือกกรรมการสรรหาคนหน่ึง เป็ นประธานกรรมการสรรหา ประธานและกรรมการสรรหาไม่มีสิทธิสมคั รเป็นกรรมการ

ในกรณีท่ีไม่มีกรรมการสรรหาในตาแหน่งใด หรือมีแต่ไม่สามารถ ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีได้ ถา้ กรรมการสรรหาที่เหลืออยนู่ ้นั มีจานวนไม่นอ้ ยกวา่ ก่ึงหน่ึง ให้ คณะกรรมการสรรหาประกอบดว้ ยกรรมการสรรหาเท่าท่ีมีอยู่ ให้สานกั งานเลขาธิการวฒุ ิสภาทาหนา้ ที่เป็นหน่วยธุรการในการ ดาเนินการสรรหาและคดั เลือกกรรมการ” มาตรา ๗ ใหเ้ พิ่มความต่อไปน้ีเป็นมาตรา ๑๔/๑ และมาตรา ๑๔/๒ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถี่และกากบั การประกอบกิจการ วิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ “มาตรา ๑๔/๑ ก่อนดาเนินการประกาศรับสมคั รตามมาตรา ๑๕ ให้ คณะกรรมการสรรหากาหนดลกั ษณะของความรู้ความเช่ียวชาญ ประสบการณ์และ ผลงานของแต่ละดา้ นท่ีจะยงั ประโยชน์ตอ่ การปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของ กสทช. แลว้ ประกาศ ให้ทราบทวั่ กนั มาตรา ๑๔/๒ ผมู้ ีสิทธิสมคั รเขา้ รับการสรรหาเพื่อเป็นกรรมการตอ้ งมี ลกั ษณะอยา่ งหน่ึงอยา่ งใด ดงั ต่อไปน้ี (๑) เป็นหรือเคยเป็นขา้ ราชการพลเรือน พนกั งานในหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ท่ีดารงตาแหน่งไม่ต่ากวา่ รองหวั หนา้ ส่วนราชการต้งั แตร่ ะดบั กรมข้ึน ไป หรือรองหวั หน้าหน่วยงานอื่นของรัฐที่เป็นนิติบุคคลหรือรัฐวิสาหกิจ หรือ (๒) เป็นหรือเคยเป็นนายทหารหรือนายตารวจท่ีมียศต้งั แต่พนั เอก นาวา เอก นาวาอากาศเอก หรือพนั ตารวจเอก อตั ราเงินเดือนพนั เอกพิเศษ นาวาเอกพเิ ศษ นาวาอากาศเอกพิเศษ หรือพนั ตารวจเอกพิเศษข้ึนไป หรือ (๓) ดารงตาแหน่งหรือเคยดารงตาแหน่งรองศาสตราจารยข์ ้ึนไป หรือ (๔) เป็นหรือเคยเป็นผบู้ ริหารมาแลว้ ไม่นอ้ ยกวา่ สามปี ในตาแหน่งไม่ต่า กวา่ รองกรรมการผจู้ ดั การในบริษทั มหาชนจากดั ท่ีมีทุนจดทะเบียนไมน่ ้อยกว่าห้าร้อย ลา้ นบาท หรือ

(๕) มีประสบการณ์การทางานดา้ นการคุม้ ครองผบู้ ริโภคหรือส่งเสริม สิทธิและเสรีภาพของประชาชนอยา่ งสม่าเสมอและตอ่ เนื่องมาแลว้ ไม่นอ้ ยกวา่ สิบปี หรือ (๖) มีประสบการณ์ดา้ นการบริหารกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคมอยา่ งสม่าเสมอและต่อเนื่องมาแลว้ ไมน่ อ้ ยกวา่ สิบปี ” มาตรา ๘ ใหย้ กเลิกความในมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ ร จดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “มาตรา ๑๕ ในการดาเนินการคดั เลือกกรรมการ ให้สานกั งานเลขาธิการ วฒุ ิสภาประกาศการเปิ ดรับสมคั รบุคคลผมู้ ีคุณสมบตั ิตามมาตรา ๖ ให้ทราบเป็นการ ทวั่ ไปผา่ นทางวทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ ส่ือสิ่งพมิ พ์ และส่ืออิเล็กทรอนิกส์อยา่ ง นอ้ ยสามสิบวนั ติดต่อกนั เม่ือพน้ กาหนดระยะเวลาตามวรรคหน่ึงแลว้ ใหค้ ณะกรรมการสรรหา พจิ ารณาคดั เลือกผสู้ มคั รซ่ึงมีคุณสมบตั ิที่จะเป็ นกรรมการให้ไดจ้ านวนสองเท่าของ จานวนกรรมการที่จะพึงมีในแตล่ ะดา้ นภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ที่ไดร้ ับรายช่ือ ผสู้ มคั รเขา้ รับการคดั เลือกจากสานกั งานเลขาธิการวฒุ ิสภา หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการคดั เลือกให้เป็นไปตามท่ีคณะกรรมการสรรหา กาหนด โดยแต่ละดา้ นใหผ้ ทู้ ่ีไดร้ ับคะแนนสูงสุดเรียงตามลาดบั เป็นผไู้ ดร้ ับการคดั เลือก ในกรณีที่มีการฟ้องคดีเก่ียวกบั การสรรหากรรมการต่อศาลปกครอง การ ฟ้องคดีดงั กล่าวไม่เป็นเหตุใหร้ ะงบั หรือชะลอการดาเนินการใด ๆ เก่ียวกบั การสรรหา ท่ีไดด้ าเนินการไปแลว้ เวน้ แต่ศาลปกครองจะมีคาพิพากษาหรือคาสงั่ เป็นอยา่ งอื่น ใน การน้ี หากศาลปกครองมีคาพพิ ากษาหรือคาสง่ั ใด ๆ อนั เป็นผลใหบ้ คุ คลทไ่ี ดร้ ับการ คดั เลือกขาดคุณสมบตั ิหรือมีลกั ษณะตอ้ งหา้ มหรือไดร้ ับการคดั เลือกโดยไม่ชอบดว้ ย กฎหมาย กรณีเช่นว่าน้นั ไมม่ ีผลกระทบต่อกิจการท่ีบคุ คลน้นั ไดก้ ระทาไวแ้ ลว้ ก่อนมีคา พพิ ากษาหรือคาสัง่ ดงั กล่าว”

มาตรา ๙ ใหย้ กเลิกความในส่วนที่ ๔ การเลือกและการแต่งต้งั กรรมการ มาตรา ๑๖ ถึงมาตรา ๑๘ ของหมวด ๑ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืน ความถี่และกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใชค้ วามต่อไปน้ีแทน ส่วนท่ี ๔ การเลือกและการแต่งต้ังกรรมการ มาตรา ๑๖ เม่ือไดร้ ายช่ือผสู้ มควรไดร้ ับเลือกเป็ นกรรมการจากการสรร หาตามส่วนท่ี ๓ แลว้ ให้เลขาธิการวฒุ ิสภาจดั ทารายชื่อผซู้ ่ึงไดร้ ับการคดั เลือกน้นั และ เสนอบญั ชีรายชื่อ พร้อมประวตั ิและเอกสารหลกั ฐานของบุคคลดงั กล่าว ซ่ึงตอ้ ง ระบุให้ชดั เจนหรือมีหลกั ฐานแสดงให้เห็นวา่ เป็นบคุ คลท่ีมีความเหมาะสมตาม มาตรา ๖ ต่อประธานวฒุ ิสภาภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ท่ีคดั เลือกเสร็จตามมาตรา ๑๕ เพ่อื เสนอใหว้ ฒุ ิสภาพจิ ารณาและมีมติเลือกต่อไป ในกรณีท่ีคณะกรรมการสรรหาไม่อาจสรรหาผสู้ มควรไดร้ ับเลือกเป็น กรรมการตามส่วนที่ ๓ ใหแ้ ลว้ เสร็จไดภ้ ายในกาหนดเวลาตามมาตรา ๑๕ ให้เลขาธิการ วฒุ ิสภานารายชื่อผสู้ มควรไดร้ ับเลือกเป็นกรรมการท่ีคณะกรรมการสรรหาดาเนินการ แลว้ เสร็จภายในกาหนดเวลา พร้อมประวตั ิและเอกสารหลกั ฐานของบุคคลดงั กล่าว แสดงให้เห็นวา่ เป็นบุคคลท่ีมีความเหมาะสมตามมาตรา ๖ เสนอตอ่ ประธานวฒุ ิสภา ภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ท่ีคดั เลือกเสร็จตามมาตรา ๑๕ เพอื่ เสนอให้วฒุ ิสภา พจิ ารณาและมีมติเลือกต่อไป มาตรา ๑๗ ให้วุฒิสภามีมติเลือกบุคคลจากบญั ชีรายช่ือท่ีเลขาธิการ วฒุ ิสภาเสนอให้แลว้ เสร็จภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ที่ไดร้ ับบญั ชีรายช่ือ เพ่ือใหไ้ ด้ กรรมการตามมาตรา ๖ โดยแตล่ ะดา้ นให้ผทู้ ี่ไดร้ ับคะแนนสูงสุดเรียงตามลาดบั เป็นผู้ ไดร้ ับการคดั เลือก ซ่ึงจะตอ้ งกระทาโดยวิธีลงคะแนนลบั แลว้ แจง้ ใหผ้ ไู้ ดร้ ับเลือกทราบ

และประธานวฒุ ิสภาจดั ใหผ้ ไู้ ดร้ ับการเลือกมาประชุมร่วมกนั เพ่ือคดั เลือกกนั เองเป็น ประธานกรรมการ แลว้ นารายช่ือผไู้ ดร้ ับการคดั เลือกเป็นประธานกรรมการและไดร้ ับ การเลือกเป็นกรรมการ แจง้ ใหน้ ายกรัฐมนตรีทราบภายในยส่ี ิบวนั นบั แต่วนั ที่วฒุ ิสภามี มติเลือก เพื่อนายกรัฐมนตรีดาเนินการนาความกราบบงั คมทลู เพื่อทรงพระกรุณาโปรด เกลา้ ฯ แตง่ ต้งั ต่อไป เม่ือล่วงพน้ กาหนดเวลาตามวรรคหน่ึง ถา้ ยงั มีผไู้ ดร้ ับเลือกเป็นกรรมการ ไมค่ รบตามจานวนท่ีกาหนดในมาตรา ๖ ให้ประธานวฒุ ิสภาแจง้ ให้คณะกรรมการสรร หาดาเนินการสรรหาเพิ่มเติมตามมาตรา ๑๕ วรรคสอง ตามจานวนท่ีไมค่ รบ โดยตอ้ ง ดาเนินการให้แลว้ เสร็จภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ท่ีคณะกรรมการสรรหาไดร้ ับแจง้ ในกรณีท่ีวุฒิสภามีมติเลือกบุคคลเป็ นกรรมการไม่ครบตามวรรคสอง แต่มีจานวนผูไ้ ดร้ ับเลือกเป็นกรรมการไมน่ อ้ ยกวา่ ห้าคน ให้ประธานวฒุ ิสภานารายชื่อ ผทู้ ่ีไดร้ ับเลือกเป็นกรรมการแจง้ ให้นายกรัฐมนตรีทราบ และใหน้ ายกรัฐมนตรีนา รายช่ือผไู้ ดร้ ับเลือกดงั กล่าว ข้ึนกราบบงั คมทลู เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ต้งั และใหก้ รรมการดงั กล่าวปฏิบตั ิหนา้ ท่ีตอ่ ไปไดโ้ ดยให้ถือวา่ กสทช. ประกอบดว้ ย กรรมการจานวนดงั กล่าว และใหก้ รรมการ กสทช. น้นั ประชุมร่วมกนั เพือ่ เลือก กรรมการคนหน่ึงทาหนา้ ท่ีประธานกรรมการชวั่ คราว จนกว่าจะไดม้ ีพระบรมราช โองการโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ต้งั ประธานกรรมการตามวรรคสี่ เม่ือวฒุ ิสภาไดร้ ับบญั ชีรายช่ือเพิ่มเติมจากคณะกรรมการสรรหาตาม วรรคสองแลว้ ให้วุฒิสภาดาเนินการตามวรรคหน่ึงเพื่อเลือกบุคคลจากบญั ชีรายชื่อ น้นั ให้ครบตามจานวนท่ีกาหนดในมาตรา ๖ ภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ที่ไดร้ ับบญั ชี รายช่ือดงั กล่าว และใหป้ ระธานวฒุ ิสภาจดั ให้ผทู้ ่ีไดร้ ับเลือกเป็นกรรมการมาประชุม ร่วมกบั กรรมการตามวรรคสามเพื่อคดั เลือกผสู้ มควรดารงตาแหน่งประธานกรรมการ ให้แลว้ เสร็จภายในยสี่ ิบวนั นบั แต่วนั ท่ีวฒุ ิสภามีมติเลือกกรรมการเพิ่มเติม แลว้ แจง้ บญั ชีรายช่ือกรรมการท่ีไดร้ ับเลือกและผไู้ ดร้ ับคดั เลือกเป็นประธานกรรมการให้ นายกรัฐมนตรีทราบ เพอื่ ดาเนินการนาความกราบบงั คมทูลเพ่ือทรงพระกรุณาโปรด เกลา้ ฯ แต่งต้งั ต่อไป ในกรณีท่ีผไู้ ดร้ ับการคดั เลือกเป็นประธานกรรมการเป็ นกรรมการ

ตามวรรคสาม ให้ผูน้ ้นั พน้ จากความเป็ นกรรมการนบั แต่วนั ที่ไดร้ ับโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ต้งั เป็นประธานกรรมการ วนั ที่วฒุ ิสภาจะดาเนินการเลือกตามวรรคหน่ึงให้หมายถึงวนั ในสมยั ประชุมรัฐสภา มาตรา ๑๘ ในกรณีท่ีบคุ คลท่ีจะไดร้ ับการแต่งต้งั ตามมาตรา ๑๗ มี ลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๘ (๑) (๒) หรือ (๓) นายกรัฐมนตรีจะนาความข้ึนกราบ บงั คมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ต้งั ไดต้ อ่ เม่ือผนู้ ้นั ไดล้ าออกจากการเป็น บคุ คลตามมาตรา ๘ (๑) หรือ (๒) หรือแสดงหลกั ฐานให้เป็นท่ีเช่ือถือไดว้ า่ ตนไดเ้ ลิก ประกอบอาชีพหรือวิชาชีพตามมาตรา ๘ (๓) แลว้ ซ่ึงตอ้ งกระทาภายในสิบห้าวนั นบั แตว่ นั ที่ไดร้ ับเลือก แตถ่ า้ ผนู้ ้นั มิไดล้ าออก หรือมิไดเ้ ลิกประกอบอาชีพหรือวิชาชีพ อิสระภายในเวลาที่กาหนด ใหถ้ ือวา่ ผนู้ ้นั ไมเ่ คยไดร้ ับเลือกให้เป็นกรรมการ และให้ คณะกรรมการสรรหาคดั เลือกบคุ คลจากรายช่ือผเู้ ขา้ รับการคดั เลือกตามมาตรา ๑๖ เพอ่ื เสนอวฒุ ิสภาใหค้ วามเห็นชอบ” มาตรา ๑๐ ใหย้ กเลิกความในวรรคสามของมาตรา ๑๙ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการ วิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วาม ต่อไปน้ีแทน “ก่อนครบกาหนดตามวาระเป็นเวลาไม่นอ้ ยกวา่ หน่ึงร้อยหา้ สิบวนั ให้ สานกั งานเลขาธิการวฒุ ิสภาดาเนินการจดั ใหม้ ีการเสนอชื่อและแตง่ ต้งั กรรมการข้ึน ใหมใ่ หแ้ ลว้ เสร็จโดยเร็ว” มาตรา ๑๑ ใหย้ กเลิกความในวรรคสามของมาตรา ๒๐ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่นความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการ วิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วาม ต่อไปน้ีแทน

“เมื่อมีกรณีตามวรรคหน่ึง ให้กรรมการเทา่ ที่เหลืออยปู่ ฏิบตั ิหนา้ ท่ีต่อไปได้ และใหถ้ ือว่า กสทช. ประกอบดว้ ยกรรมการเท่าท่ีเหลืออยู่ แต่ท้งั น้ี จะตอ้ งมีจานวน กรรมการไม่นอ้ ยกวา่ สี่คน” มาตรา ๑๒ ใหย้ กเลิกความในวรรคสองของมาตรา ๒๒ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่นความถี่และกากบั การประกอบกิจการ วิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วาม ต่อไปน้ีแทน “มติของวฒุ ิสภาตามวรรคหน่ึงตอ้ งไดค้ ะแนนเสียงไมน่ อ้ ยกวา่ สามในหา้ ของจานวนสมาชิกท้งั หมดเทา่ ท่ีมีอยู่ โดยในการลงมติน้นั ตอ้ งนารายงานของ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานท่ีไดส้ ่งมายงั วฒุ ิสภาตามมาตรา ๗๒ มาพิจารณาประกอบดว้ ย” มาตรา ๑๓ ให้เพม่ิ ความต่อไปน้ีเป็นมาตรา ๒๒/๑ ของส่วนท่ี ๕ วาระ การดารงตาแหน่งและการพน้ จากตาแหน่งของกรรมการ ในหมวด ๑ คณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถี่และกากบั การประกอบกิจการ วทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ “มาตรา ๒๒/๑ หา้ มมิใหผ้ ซู้ ่ึงพน้ จากตาแหน่งกรรมการเป็นผถู้ ือหุน้ หุน้ ส่วน หรือดารงตาแหน่งใด ในบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนหรือนิติบคุ คลอื่นใด บรรดา ท่ีประกอบธุรกิจดา้ นกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคม เวน้ แตจ่ ะไดพ้ น้ จากตาแหน่งมาแลว้ ไมน่ ้อยกวา่ สองปี ” มาตรา ๑๔ ให้ยกเลิกความใน (๑) ของมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบญั ญตั ิ องคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยุ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใชค้ วามต่อไปน้ีแทน

“(๑) จดั ทาแผนแมบ่ ทการบริหารคลื่นความถี่ ตารางกาหนดคลื่นความถ่ี แห่งชาติ แผนแมบ่ ทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ แผนแมบ่ ทกิจการ โทรคมนาคม แผนความถ่ีวิทยแุ ละแผนเลขหมายโทรคมนาคม และดาเนินการให้ เป็นไปตามแผนดงั กล่าว แต่แผนดงั กลา่ วตอ้ งสอดคลอ้ งกบั นโยบายและแผนระดบั ชาติ วา่ ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกิจและสงั คม” มาตรา ๑๕ ใหย้ กเลิกความใน (๔) ของมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบญั ญตั ิ องคก์ รจดั สรรคลื่นความถี่และกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยุ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “(๔) พิจารณาอนุญาตและกากบั ดูแลการใช้คลื่นความถี่และเครื่องวิทยุ คมนาคมในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคม หรือในกิจการวิทยคุ มนาคม และกาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการเก่ียวกบั การอนุญาต เง่ือนไข หรือค่าธรรมเนียมการอนุญาตดงั กล่าว ในการน้ี กสทช. จะ มอบหมายให้สานกั งาน กสทช. เป็นผอู้ นุญาตแทน กสทช. เฉพาะการอนุญาตในส่วนที่ เก่ียวกบั เคร่ืองวิทยคุ มนาคมตามหลกั เกณฑแ์ ละเง่ือนไขท่ี กสทช. กาหนดกไ็ ด”้ มาตรา ๑๖ ใหเ้ พมิ่ ความตอ่ ไปน้ีเป็น (๑๒/๑) ของมาตรา ๒๗ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการ วทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ “(๑๒/๑) เรียกคืนคลื่นความถ่ีท่ีไม่ไดใ้ ชป้ ระโยชน์ หรือใชป้ ระโยชน์ไม่ คุม้ ค่า หรือนามาใชป้ ระโยชนใ์ หค้ ุม้ คา่ ยง่ิ ข้ึน ตามท่ีกาหนดไวใ้ นแผนซ่ึงจดั ทาข้ึนตาม (๑) จากผทู้ ี่ไดร้ ับอนุญาตเพ่ือนามาจดั สรรใหม่ ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และ เง่ือนไขที่ กสทช. กาหนด โดยเง่ือนไขดงั กล่าวตอ้ งกาหนดวิธีการทดแทน ชดใช้ หรือ จ่ายค่าตอบแทนสาหรับผทู้ ่ีถูกเรียกคืนคล่ืนความถ่ี โดยให้คานึงถึงสิทธิของผทู้ ่ีไดร้ ับ ผลกระทบจากการถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ในแตล่ ะกรณีดว้ ย”

มาตรา ๑๗ ใหย้ กเลิกความใน (๑๔) ของมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบญั ญตั ิ องคก์ รจดั สรรคล่ืนความถี่และกากบั การประกอบกิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยุ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “(๑๔) ประสานงานเกี่ยวกบั การบริหารคลื่นความถ่ีท้งั ในประเทศและ ระหวา่ งประเทศ โดยเป็นหน่วยงานอานวยการของรัฐในกิจการสื่อสารระหวา่ ง ประเทศกบั องคก์ ารระหวา่ งประเทศ รัฐบาล และหน่วยงานต่างประเทศดา้ นการบริหาร คลื่นความถ่ี รวมท้งั สนบั สนุนกิจการของรัฐ เพ่ือให้มีดาวเทียมหรือให้ไดม้ าซ่ึงสิทธิ ในการเขา้ ใช้วงโคจรดาวเทียม ท้งั น้ี เพื่อให้เป็ นไปตามแผนซ่ึงจดั ทาตาม (๑) และ นโยบายและแผนระดบั ชาติวา่ ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ” มาตรา ๑๘ ใหเ้ พมิ่ ความต่อไปน้ีเป็น (๒๒/๑) ของมาตรา ๒๗ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการ วทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ “(๒๒/๑) ให้ขอ้ มลู ท่ีเกี่ยวกบั การดาเนินการของ กสทช. และ ผปู้ ระกอบการที่ไดร้ ับอนุญาตจาก กสทช. ท้งั น้ี ในส่วนท่ีเก่ียวกบั ดิจิทลั ตามท่ี สานกั งานคณะกรรมการดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติร้องขอเพ่ือใชเ้ ป็น ขอ้ มลู ในการวิเคราะห์และจดั ทานโยบายและแผนระดบั ชาติว่าดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพอ่ื เศรษฐกิจและสงั คม” มาตรา ๑๙ ใหเ้ พิ่มความต่อไปน้ีเป็นมาตรา ๒๗/๑ แห่งพระราชบญั ญตั ิ องคก์ รจดั สรรคลื่นความถี่และกากบั การประกอบกิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยุ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ “มาตรา ๒๗/๑ ในกรณีที่มีปัญหาวา่ การดาเนินการของ กสทช. สอดคลอ้ งกบั นโยบายและแผนระดบั ชาติวา่ ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและ สงั คมหรือไม่ ให้ผทู้ ี่เก่ียวขอ้ งเสนอคณะกรรมการดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คม แห่งชาติตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คม เพือ่ วนิ ิจฉยั ช้ีขาด

ในการวินิจฉยั ช้ีขาด ให้คณะกรรมการดิจิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและสงั คม แห่งชาติแตง่ ต้งั คณะกรรมการข้ึนเพ่ือพิจารณาเสนอแนะตอ่ คณะกรรมการดิจิทลั เพื่อ เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ โดยใหค้ ณะกรรมการประกอบดว้ ยผแู้ ทนจาก คณะกรรมการดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคนหน่ึง เป็นประธานกรรมการ และผแู้ ทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งและ กสทช. จานวนเท่า ๆ กนั เป็นกรรมการ คาวินิจฉัยช้ีขาดของคณะกรรมการดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติตามวรรคหน่ึง ใหเ้ ป็นที่สุด” มาตรา ๒๐ ใหย้ กเลิกความในมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ ร จดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยุโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วามต่อไปน้ีแทน “มาตรา ๓๓ ให้ กสทช. มีอานาจแตง่ ต้งั คณะอนุกรรมการเพอื่ ปฏิบตั ิ หนา้ ที่ตามท่ี กสทช. มอบหมายไดต้ ามความจาเป็นและเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั อานาจ หนา้ ท่ีของ กสทช. ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี คณะอนุกรรมการท่ีไดร้ ับแตง่ ต้งั จะมอบหมายให้ บคุ คลอ่ืนดาเนินการแทนไม่ได้ และการสงั่ การใด ๆ ตามที่ไดร้ ับมอบหมายน้นั จะตอ้ ง รายงานให้ กสทช. ทราบ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการที่ กสทช. กาหนด อนุกรรมการตอ้ งไม่มีลกั ษณะตอ้ งห้ามตามมาตรา ๗ ข.” มาตรา ๒๑ ให้เพิม่ ความตอ่ ไปน้ีเป็นมาตรา ๓๓/๑ แห่งพระราชบญั ญตั ิ องคก์ รจดั สรรคลื่นความถี่และกากบั การประกอบกิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยุ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ “มาตรา ๓๓/๑ กสทช. อาจมอบหมายให้พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ตามพระราชบญั ญตั ิน้ีไดต้ ามความจาเป็ นและเหมาะสม สอดคลอ้ งกบั อานาจหนา้ ที่ ของ กสทช. โดยพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีน้นั ตอ้ งรายงานการปฏิบตั ิหนา้ ที่ให้ กสทช. ทราบ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการที่ กสทช. กาหนด”

มาตรา ๒๒ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๓๔ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ ร จดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “มาตรา ๓๔ ในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ให้ กสทช. และ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานมีอานาจส่งั หน่วยงานของรัฐหรือ บคุ คลใดใหช้ ้ีแจงขอ้ เทจ็ จริง มาใหถ้ อ้ ยคา หรือส่งเอกสารหลกั ฐานที่เก่ียวขอ้ งเพ่ือ ประกอบการพจิ ารณาได”้ มาตรา ๒๓ ให้ยกเลิกส่วนที่ ๑ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและ กิจการโทรทศั น์ และส่วนท่ี ๒ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม มาตรา ๓๕ ถึง มาตรา ๔๐ ในหมวด ๒ การกากบั ดูแลการประกอบกิจการ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ ร จดั สรรคลื่นความถี่และกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๒๔ ใหย้ กเลิกความในวรรคสี่ของมาตรา ๔๑ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการ วทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วาม ตอ่ ไปน้ีแทน “การอนุญาตให้ใชค้ ลื่นความถ่ีเพอื่ กิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทศั นต์ อ้ งคานึงถึงประโยชนส์ ูงสุดของประชาชนในระดบั ชาติ ระดบั ภมู ิภาค และ ระดบั ทอ้ งถิ่น ในดา้ นการศึกษา วฒั นธรรม ความมนั่ คงของรัฐ และประโยชน์ สาธารณะอ่ืน รวมท้งั การแข่งขนั โดยเสรีอยา่ งเป็นธรรม และตอ้ งดาเนินการในลกั ษณะ ท่ีมีการกระจายการใชป้ ระโยชนโ์ ดยทว่ั ถึงในกิจการดา้ นต่าง ๆ โดยเฉพาะดา้ นการ บริการสาธารณะแก่ประชาชน เพื่อใหค้ ล่ืนความถ่ีเหมาะสมแก่การเป็นสมบตั ิของ ชาติ เพ่ือใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ประเทศชาติและประชาชน”

มาตรา ๒๕ ให้ยกเลิกความในวรรคหกของมาตรา ๔๑ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถี่และกากบั การประกอบกิจการ วทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วาม ตอ่ ไปน้ีแทน “ในกรณีท่ีเป็นการอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่เพ่ือกิจการกระจายเสียงหรือ กิจการโทรทศั น์ ให้ใชว้ ธิ ีคดั เลือกท้งั ในระดบั ชาติ ระดบั ภมู ิภาค และระดบั ทอ้ งถิ่น โดย ใหแ้ ยกกนั ในแตล่ ะระดบั ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ ระยะเวลา และเงื่อนไขท่ี กสทช. ประกาศกาหนด แตใ่ นกรณีท่ีเป็นการประกอบกิจการทางธุรกิจตามที่กาหนด ไวใ้ นกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ การ คดั เลือกให้ทาโดยวิธีการประมลู โดย กสทช. ตอ้ งกาหนดหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ ระยะเวลา และเงื่อนไขก่อนการประมูล ซ่ึงตอ้ งคานึงถึงประโยชน์สาธารณะ และประโยชนท์ ่ี ผบู้ ริโภคจะไดร้ ับดว้ ย” มาตรา ๒๖ ใหย้ กเลิกความในวรรคแปดของมาตรา ๔๑ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่นความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจาย วทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วาม ตอ่ ไปน้ีแทน “การอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถ่ีเพอ่ื กิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทศั นท์ ี่ก่อใหเ้ กิดหรืออาจเกิดการรบกวนหรือทบั ซอ้ นกบั คล่ืนความถ่ีท่ีไดร้ ับ อนุญาตอยกู่ ่อนแลว้ จะกระทามิได้ ในกรณีที่ปรากฏวา่ เกิดการรบกวนหรือทบั ซอ้ นของ คลื่นความถ่ีใด ๆ อนั เป็นผลจากการละเมิดกฎหมาย กสทช. ตอ้ งดาเนินการระงบั การ รบกวนหรือทบั ซอ้ นน้นั โดยเร็ว” มาตรา ๒๗ ใหเ้ พิ่มความต่อไปน้ีเป็นวรรคเกา้ และวรรคสิบของมาตรา ๔๑ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการ วทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

“คลื่นความถี่ที่ กสทช. อนุญาตใหผ้ รู้ ับใบอนุญาตใชต้ ามวรรคหน่ึง กสทช. อาจกาหนดเป็ นเง่ือนไขไวล้ ่วงหน้าในใบอนุญาตว่า กสทช. อาจอนุญาตให้ บุคคลอ่ืนร่วมใชป้ ระโยชน์ในยา่ นความถี่หรือช่องความถี่จากคลื่นความถ่ีที่ได้ อนุญาตไวแ้ ลว้ น้นั ได้ แต่การอนุญาตน้นั จะตอ้ งไม่เป็นการรบกวนการใชป้ ระโยชน์ หรือเป็นการแข่งขนั กบั กิจการของผไู้ ดร้ ับใบอนุญาต ท้งั น้ี เวน้ แต่จะไดป้ ระกาศให้ ทราบทวั่ กนั ไวเ้ ป็นอยา่ งอ่ืนในการคดั เลือกหรือในการอนุญาต เม่ือ กสทช. อนุญาตใหผ้ ใู้ ดใชค้ ล่ืนความถี่เพอื่ กิจการกระจายเสียง และ กิจการโทรทศั นแ์ ลว้ ให้แจง้ ไปยงั คณะกรรมการดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คม แห่งชาติตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสงั คมทราบ” มาตรา ๒๘ ให้ยกเลิกความในวรรคหน่ึงของมาตรา ๔๒ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการ วทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ซ่ึงแกไ้ ขเพม่ิ เติม โดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๘๐/๒๕๕๗ เรื่อง การแกไ้ ขเพ่มิ เติม กฎหมายวา่ ดว้ ยองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถี่และกากบั การประกอบกิจการ วิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม ลงวนั ที่ ๙ กรกฎาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “มาตรา ๔๒ ให้ กสทช. มีอานาจกาหนดอตั ราค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ตามมาตรา ๔๑ โดยแยกเป็นคา่ ธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใชค้ ล่ืนความถ่ี และ คา่ ธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการ ซ่ึงตอ้ งชาระเมื่อไดร้ ับใบอนุญาตและตอ้ ง ชาระเป็นรายปี ในอตั ราที่เหมาะสมกบั ประเภทของใบอนุญาตตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการ ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ เวน้ แต่ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ ใชค้ ล่ืนความถ่ีเพ่อื ประกอบกิจการทางธุรกิจ ใหถ้ ือวา่ เงินที่ไดจ้ ากการประมูลตาม มาตรา ๔๑ วรรคหก เป็นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใชค้ ลื่นความถี่ซ่ึงตอ้ งชาระเม่ือ ไดร้ ับใบอนุญาต และภายใตบ้ งั คบั มาตรา ๕๓ (๘/๑) เงินท่ีไดจ้ ากการประมูลดงั กล่าว เมื่อหกั ค่าใชจ้ ่ายในการประมลู และเงินที่ตอ้ งนาส่งเขา้ กองทุนพฒั นาดิจิทลั เพื่อ

เศรษฐกิจและสังคมตามกฎหมายว่าดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพอื่ เศรษฐกิจและสงั คมแลว้ เหลือเทา่ ใดให้นาส่งเป็นรายไดแ้ ผน่ ดิน” มาตรา ๒๙ ให้ยกเลิกความในวรรคหน่ึงของมาตรา ๔๕ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการ วิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วาม ต่อไปน้ีแทน “มาตรา ๔๕ ผใู้ ดประสงคจ์ ะใชค้ ล่ืนความถี่เพอ่ื กิจการโทรคมนาคมตอ้ ง ไดร้ ับใบอนุญาตตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ซ่ึงตอ้ งดาเนินการโดยวิธีคดั เลือกโดยวิธีการ ประมลู คล่ืนความถ่ี เวน้ แต่ในกรณีเป็นคลื่นความถี่ท่ีมีเพียงพอตอ่ การใชง้ านหรือ นาไปใชใ้ นกิจการบางประเภทท่ีไม่มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือแสวงหากาไร ตามลกั ษณะและ ประเภทท่ี กสทช. ประกาศกาหนดไวเ้ ป็นการล่วงหนา้ จะใชว้ ิธีการคดั เลือกโดยวธิ ีอื่น ก็ได้ ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และเง่ือนไขที่ กสทช. ประกาศกาหนด โดยใหน้ าความในมาตรา ๔๑ วรรคส่ี วรรคเจด็ วรรคเกา้ และวรรคสิบมาใชบ้ งั คบั โดย อนุโลม และภายใตบ้ งั คบั มาตรา ๕๓ (๘/๑) เงินที่ไดจ้ ากการคดั เลือกเมื่อหักคา่ ใชจ้ า่ ย ในการคดั เลือก และเงินท่ีตอ้ งนาส่งเขา้ กองทนุ พฒั นาดิจิทลั เพอ่ื เศรษฐกิจและสงั คม ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คมแลว้ เหลือเทา่ ใดให้นาส่ง เป็นรายไดแ้ ผน่ ดิน” มาตรา ๓๐ ให้เพมิ่ ความตอ่ ไปน้ีเป็นวรรคห้าของมาตรา ๕๐ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการ วทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ “ในการดาเนินการตามแผนการจดั ให้มีบริการโทรคมนาคมพ้นื ฐานโดย ทวั่ ถึงและบริการเพ่ือสงั คมตามวรรคหน่ึง ให้ กสทช. มีอานาจมอบหมายให้สานกั งาน คณะกรรมการดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติดาเนินการท้งั หมดหรือบางส่วน แทนได้ ในกรณีเช่นน้นั ให้ กสทช. โอนเงินที่เรียกเก็บไดต้ ามวรรคสามและท่ีกาหนด ไวต้ ามวรรคสี่ใหแ้ ก่กองทุนพฒั นาดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คมเพ่ือดาเนินการต่อไป”

มาตรา ๓๑ ให้ยกเลิกความใน (๖) ของมาตรา ๕๒ แห่งพระราชบญั ญตั ิ องคก์ รจดั สรรคล่ืนความถี่และกากบั การประกอบกิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยุ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ซ่ึงแกไ้ ขเพม่ิ เติมโดยประกาศคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๘๐/๒๕๕๗ เรื่อง การแกไ้ ขเพม่ิ เติมกฎหมายวา่ ดว้ ยองคก์ ร จดั สรรคลื่นความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และ กิจการโทรคมนาคม ลงวนั ที่ ๙ กรกฎาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปน้ี แทน “(๖) สนบั สนุนการใชค้ ล่ืนความถี่ใหเ้ กิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมท้งั สนบั สนุนการเรียกคืนคลื่นความถ่ีท่ีมีผไู้ ดร้ ับอนุญาตไป เพื่อนามาจดั สรรใหม่และ สนบั สนุนการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนการถูกเรียกคืนคลื่นความถ่ี ท้งั น้ี เพ่อื ใหเ้ กิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใชค้ ลื่นความถี่” มาตรา ๓๒ ใหเ้ พ่มิ ความตอ่ ไปน้ีเป็น (๘/๑) ของมาตรา ๕๓ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่นความถี่และกากบั การประกอบกิจการ วิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ “(๘/๑) เงินรายไดท้ ่ีไดจ้ ากการจดั สรรคล่ืนความถ่ีท่ีไดร้ ับคืนตามมาตรา ๒๗ (๑๒/๑) ภายหลงั หกั คา่ ใชจ้ า่ ยในการจดั สรรคลื่นความถี่ดงั กล่าวแลว้ ” มาตรา ๓๓ ให้ยกเลิกความในวรรคสองและวรรคสามของมาตรา ๕๓ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระ จายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใชค้ วามต่อไปน้ี แทน “เงินกองทุนใหใ้ ชต้ ามวตั ถุประสงคข์ องกองทนุ ตามมาตรา ๕๒ และตาม แผนการจดั ให้มีบริการโทรคมนาคมพ้ืนฐานโดยทวั่ ถึงและบริการเพื่อสังคมตามมาตรา ๕๐ เวน้ แตว่ ตั ถุประสงคข์ องกองทุนตามมาตรา ๕๒ (๖) ใหใ้ ชเ้ งินจากกองทุนตาม (๘/ ๑) เท่าน้นั

เงินกองทนุ ตาม (๘/๑) ถา้ กระทรวงการคลงั เห็นวา่ มีเกินความจาเป็นหรือ หมดความจาเป็นตอ้ งใช้ จะขอให้นาส่วนที่เกินจาเป็นส่งเขา้ เป็นรายไดแ้ ผน่ ดินกไ็ ด”้ มาตรา ๓๔ ใหย้ กเลิกความใน (๒) ของมาตรา ๕๗ แห่งพระราชบญั ญตั ิ องคก์ รจดั สรรคลื่นความถี่และกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยุ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “(๒) จดั ทางบประมาณรายจ่ายประจาปี ของสานกั งาน กสทช. เพอ่ื เสนอ กสทช. อนุมตั ิ โดยรายจ่ายประจาปี ของสานกั งาน กสทช. ให้หมายความรวมถึงรายจา่ ย ใด ๆ อนั เกี่ยวกบั การดาเนินการตามอานาจหนา้ ท่ีของ กสทช. คณะกรรมการติดตาม และประเมินผลการปฏิบตั ิงาน และสานกั งาน กสทช. งบประมาณรายจ่ายประจาปี ดงั กล่าวตอ้ งจดั ทาโดยคานึงถึงความคุม้ ค่า การประหยดั และประสิทธิภาพ รายการหรือ โครงการใดที่ต้งั งบประมาณไวแ้ ลว้ และมิไดจ้ ่ายเงินหรือก่อหน้ีผกู พนั ภายใน ปี งบประมาณน้นั ใหร้ ายการหรือโครงการน้นั เป็นอนั พบั ไปและให้สานกั งาน กสทช. นาส่งงบประมาณสาหรับรายการหรือโครงการดงั กล่าวเป็นรายไดแ้ ผน่ ดิน” มาตรา ๓๕ ให้เพม่ิ ความต่อไปน้ีเป็ นวรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ ของมาตรา ๕๗ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่นความถี่และกากบั การประกอบ กิจการวิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ “ในการจดั ทางบประมาณรายจ่ายประจาปี ตาม (๒) ก่อนที่สานกั งาน กสทช. จะเสนอ กสทช. อนุมตั ิ ใหส้ านกั งาน กสทช. เสนอร่างงบประมาณรายจ่าย ประจาปี ตอ่ คณะกรรมการดิจิทลั เพอื่ เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติเพอ่ื พจิ ารณาให้ ความเห็น และใหส้ านกั งาน กสทช. พจิ ารณาดาเนินการแกไ้ ขหรือปรับปรุงร่าง งบประมาณรายจ่ายประจาปี ดงั กล่าว เวน้ แต่งบประมาณรายจา่ ยประจาปี ในส่วนของ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงาน ให้สานกั งาน กสทช. เสนอไปยงั คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานเพ่ือดาเนินการแกไ้ ขหรือปรับปรุง ในกรณีที่ สานกั งาน กสทช. หรือคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงาน แลว้ แต่กรณี ไม่เห็นดว้ ยกบั ความเห็นของคณะกรรมการดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสงั คม

แห่งชาติ ให้สานกั งาน กสทช. เสนอร่างงบประมาณรายจ่ายประจาปี ดงั กล่าวพร้อม ความเห็นของคณะกรรมการดิจิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติต่อ กสทช. เพอื่ พจิ ารณาต่อไป เมื่อ กสทช. อนุมตั ิงบประมาณรายจ่ายประจาปี ของสานกั งาน กสทช. ตามวรรคสองแลว้ ใหส้ านกั งาน กสทช. เปิ ดเผยงบประมาณรายจ่ายประจาปี น้นั พร้อม ท้งั รายการหรือโครงการที่ไดร้ ับอนุมตั ิงบประมาณ ใหป้ ระชาชนทราบทางระบบ เครือข่ายสารสนเทศ หรือวธิ ีการอื่นท่ีเขา้ ถึงไดโ้ ดยสะดวก ใหค้ ณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานเสนอ งบประมาณรายจ่ายต่อสานกั งาน กสทช. เพ่ือจดั สรรเป็นงบประมาณของ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงาน ไวใ้ นร่างงบประมาณรายจ่าย ประจาปี ของสานกั งาน กสทช. ในการน้ี สานกั งาน กสทช. อาจทาความเห็นเก่ียวกบั การจดั สรรงบประมาณดงั กล่าวไวใ้ นรายงานการเสนอร่างงบประมาณรายจ่ายประจาปี ก็ได”้ มาตรา ๓๖ ใหย้ กเลิกความใน (๗) ของมาตรา ๕๘ แห่งพระราชบญั ญตั ิ องคก์ รจดั สรรคลื่นความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยุ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “(๗) การจา้ งและการแต่งต้งั บุคคลเพื่อเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญหรือเป็ น ผชู้ านาญการเฉพาะดา้ นอนั จะเป็นประโยชนต์ ่อการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของ กสทช. รวมท้งั จานวนและอตั ราคา่ ตอบแทนของตาแหน่งดงั กล่าว ท้งั น้ี โดยใหค้ านึงถึงการ ปฏิบตั ิงานและระยะเวลาการปฏิบตั ิงานของตาแหน่งน้นั ดว้ ย” มาตรา ๓๗ ใหย้ กเลิกความใน (๔) ของมาตรา ๕๙ แห่งพระราชบญั ญตั ิ องคก์ รจดั สรรคล่ืนความถี่และกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยุ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน

“(๔) รายละเอียดของอตั ราค่าตอบแทนกรรมการ จานวน คณะอนุกรรมการและอตั ราค่าตอบแทนของอนุกรรมการเป็นรายบุคคล และอตั รา คา่ ตอบแทนที่ปรึกษาที่ กสทช. แต่งต้งั เป็นรายบุคคล” มาตรา ๓๘ ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา ๖๕ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่นความถี่และกากบั การประกอบกิจการ วิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วาม ตอ่ ไปน้ีแทน “รายไดข้ องสานกั งาน กสทช. ตาม (๑) และ (๒) เม่ือไดห้ กั รายจ่าย สาหรับการดาเนินงานอยา่ งมีประสิทธิภาพของสานกั งาน กสทช. ค่าภาระต่าง ๆ ที่ จาเป็น เงินที่จดั สรรเพื่อสมทบกองทนุ ตามมาตรา ๕๒ กองทุนพฒั นาเทคโนโลยเี พอื่ การศึกษาตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการศึกษาแห่งชาติ และกองทุนพฒั นาดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกิจและสงั คมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสงั คมแลว้ เหลือเท่าใดใหน้ าส่งเป็นรายไดแ้ ผน่ ดิน” มาตรา ๓๙ ให้เพ่มิ ความต่อไปน้ีเป็นวรรคสี่ของมาตรา ๖๙ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่นความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการ วทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ “ในเวลาใด ๆ ท่ีสานกั งานการตรวจเงินแผน่ ดินตรวจพบวา่ การใชจ้ ่ายเงิน และทรัพยส์ ินของสานกั งาน กสทช. ไม่เกิดประสิทธิผล หรือเป็นการฟ่ มุ เฟื อยเกิน สมควร หรือการดาเนินการใดไมถ่ ูกตอ้ งตรงตามแผน หรือจะก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อประโยชน์ส่วนรวม ใหส้ านกั งานการตรวจเงินแผน่ ดินแจง้ ให้ กสทช. ทราบ และให้ กสทช. ดาเนินการปรับปรุงแกไ้ ข หรือระงบั การดาเนินการตามควรแก่กรณีภายใน ระยะเวลาท่ีสานกั งานการตรวจเงินแผ่นดินกาหนด และหากปรากฏวา่ กสทช. ไม่ ดาเนินการภายในระยะเวลาดงั กล่าวโดยไมม่ ีเหตุอนั ควร สานกั งานการตรวจเงิน แผน่ ดินอาจพิจารณารายงานตอ่ วฒุ ิสภาเพ่ือพิจารณาดาเนินการตามอานาจหนา้ ท่ี ตอ่ ไป”

มาตรา ๔๐ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๗๔ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ ร จดั สรรคลื่นความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยุโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และใหใ้ ชค้ วามต่อไปน้ีแทน “มาตรา ๗๔ ในการดาเนินการตามอานาจหนา้ ที่ กสทช. ตอ้ งดาเนินการ ให้สอดคลอ้ งกบั นโยบายท่ีคณะรัฐมนตรีแถลงไวต้ ่อรัฐสภา และตอ้ งสอดคลอ้ งกบั นโยบายและแผนระดบั ชาติวา่ ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คม” มาตรา ๔๑ ใหเ้ พิม่ ความต่อไปน้ีเป็ นมาตรา ๗๖/๑ ในหมวด ๘ บท กาหนดโทษ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่นความถี่และกากบั การประกอบ กิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ “มาตรา ๗๖/๑ ผใู้ ดฝ่าฝืนมาตรา ๒๒/๑ ตอ้ งระวางโทษปรับไม่เกินหน่ึง ลา้ นบาท” มาตรา ๔๒ ใหก้ รรมการ กสทช. ซ่ึงดารงตาแหน่งอยใู่ นวนั ที่ พระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ยงั คงดารงตาแหน่งต่อไปจนกวา่ จะครบวาระ หรือพน้ จาก ตาแหน่งเพราะเหตุอ่ืน ในกรณีที่มีตาแหน่งวา่ งลงไมว่ า่ ดว้ ยเหตใุ ด ให้กรรมการ กสทช. ประกอบดว้ ยกรรมการเทา่ ที่เหลืออยู่ เวน้ แตม่ ีกรรมการ กสทช. เหลือไมถ่ ึงสี่คน ให้ กรรมการ กสทช. ท่ีเหลืออยพู่ น้ จากตาแหน่ง โดยใหถ้ ือวา่ เป็นการพน้ จากตาแหน่งตาม วาระ และให้ดาเนินการแตง่ ต้งั กรรมการ กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรร คล่ืนความถี่และกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ซ่ึงแกไ้ ขเพมิ่ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิน้ี ในระหวา่ ง ท่ียงั มิไดแ้ ตง่ ต้งั กรรมการ กสทช. ดงั กล่าว ใหก้ รรมการ กสทช. ที่เหลืออยปู่ ฏิบตั ิหนา้ ที่ ตามที่จาเป็นไปพลางก่อน จนกวา่ กรรมการ กสทช. ซ่ึงไดร้ ับการแตง่ ต้งั ตาม พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการ วิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ซ่ึงแกไ้ ข เพมิ่ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิน้ี เขา้ รับหนา้ ที่

ในกรณีที่ผทู้ ี่พน้ จากตาแหน่งตามวรรคหน่ึงเป็นผดู้ ารงตาแหน่งประธาน กรรมการ กสทช. ใหก้ รรมการ กสทช. ท่ีเหลืออยเู่ ลือกกรรมการ กสทช. คนหน่ึงทา หนา้ ท่ีประธานกรรมการ กสทช. ตอ่ ไป มิใหน้ าบทบญั ญตั ิเก่ียวกบั คุณสมบตั ิและลกั ษณะตอ้ งหา้ ม และการพน้ จากตาแหน่งของกรรมการ กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถี่และ กากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ซ่ึงแกไ้ ขเพ่ิมเติมตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มาใชบ้ งั คบั กบั กรรมการ กสทช. ตามวรรคหน่ึง โดยใหเ้ ป็นไปตามที่บญั ญตั ิไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืน ความถี่และกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ก่อนการแกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยพระราชบญั ญตั ิน้ี การพน้ จากตาแหน่งของกรรมการ กสทช. ตามวรรคหน่ึง ให้ถือวา่ เป็น การพน้ จากตาแหน่งตามวาระตามความในมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ ร จดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๔๓ บทบญั ญตั ิแห่งกฎหมาย กฎ ขอ้ บงั คบั ระเบียบ หรือคาสง่ั อื่น ใดอา้ งถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ และคณะกรรมการ กิจการโทรคมนาคม ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถี่และกากบั การ ประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม ใหถ้ ือวา่ บทบญั ญตั ิแห่งกฎหมาย กฎ ขอ้ บงั คบั ระเบียบ หรือคาสง่ั น้นั อา้ งถึงคณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ มาตรา ๔๔ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี

ผรู้ ับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิฉบบั น้ี คือ โดยท่ีไดม้ ีการจดั ต้งั คณะกรรมการดิจิทลั เพอ่ื เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติตามกฎหมายว่าดว้ ยการพฒั นาดจิ ิทลั เพอื่ เศรษฐกิจและสงั คม เพอ่ื ทาหนา้ ท่ีในการจดั ทานโยบายและแผนระดบั ชาติวา่ ดว้ ยดิจิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและสงั คม ซ่ึงกาหนดใหห้ น่วยงานของรัฐตอ้ งดาเนินการตามอานาจหนา้ ท่ใี ห้ สอดคลอ้ งกบั เป้าหมายและแนวทางการดาเนินการที่กาหนดไวใ้ นนโยบายและแผน ระดบั ชาติ ดงั น้นั เพื่อเป็ นการเตรียมความพร้อมต่อแนวทางการพฒั นาดิจิทลั เพอ่ื เศรษฐกิจ และสังคม และปรับปรุงกฎหมายใหส้ อดคลอ้ งกบั การพฒั นาระบบเทคโนโลยแี ลว้ จึงตอ้ งแกไ้ ข กฎหมายใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบายและแผนระดบั ชาติดงั กล่าว ประกอบกบั เทคโนโลยเี ก่ียวกบั การจดั สรรคล่ืนความถีใ่ นปัจจุบนั มีความเจริญกา้ วหนา้ เพ่มิ ข้ึน และเพอ่ื ใหก้ ารใชบ้ งั คบั กฎหมาย วา่ ดว้ ยองคก์ รจดั สรรคลื่นความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชนแ์ ก่ส่วนรวมและ สาธารณะมากยง่ิ ข้ึน กรณีจาเป็นตอ้ งปรับปรุงโครงสร้างองคก์ รและอานาจหนา้ ทใี่ หส้ ามารถ รองรับในเร่ืองดงั กล่าว จึงจาเป็นตอ้ งตราพระราชบญั ญตั ิน้ี ชวลั พร/ภวรรณตรี/จดั ทา ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๐ พจนา/ตรวจ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๐ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๔/ตอนที่ ๖๕ ก/หนา้ ๕๙/๒๒ มถิ ุนายน ๒๕๖๐