พระราชกาหนด การปฏริ ูประบบสถาบนั การเงนิ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑
พระราชกาหนด การปฏิรูประบบสถาบนั การเงนิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑ ภมู ิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วนั ท่ี ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ เป็ นปี ที่ ๕๓ ในรัชกาลปัจจุบนั พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราช โองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็ นการสมควรแก้ไขเพ่ิมเติมกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูประบบ สถาบนั การเงนิ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๒๑๘ ของรัฐธรรมนูญแห่ ง ราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกาหนดขึ้นไว้ ดงั ต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกาหนดนีเ้ รียกว่า “พระราชกาหนดการปฏิรูประบบ สถาบันการเงนิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกาหนดนใี้ ห้ใช้บงั คบั ต้งั แต่วันถัดจากวนั ประกาศใน ราชกจิ จานุเบกษาเป็ นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ เพิ่มความต่อไปนี้เป็ นมาตรา ๒ ทวิ แห่งพระราช กาหนดการปฏิรูประบบสถาบนั การเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๐ “มาตรา ๒ ทวิ พระราชกาหนดนเี้ ป็ นกฎหมายเกี่ยวกบั การจากดั สิทธิใน ทรัพย์สินของบุคคล ซ่ึงตราขนึ้ โดยอาศัยอานาจตามมาตรา ๔๘ ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจกั รไทย” มาตรา ๔ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็ นมาตรา ๓๐ ทวิ มาตรา ๓๐ ตรี และ มาตรา ๓๐ จตั วา แห่งพระราชกาหนดการปฏริ ูประบบสถาบนั การเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๐ “มาตรา ๓๐ ทวิ ในการขายทรัพย์สินเพ่ือชาระบัญชีบริษัทที่ถูกระงับ การดาเนินกิจการตามมาตรา ๓๐ ให้องค์การดาเนินการประกาศรายการพร้อมด้วย รายละเอยี ดตามสมควรของทรัพย์สินทจ่ี ะขาย วนั เวลา และสถานทที่ ี่จะขายทรัพย์สิน น้ันล่วงหน้าก่อนกาหนดวันขายไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน โดยปิ ดประกาศรายการและ รายละเอียดไว้ในที่เปิ ดเผย ณ สานักงานขององค์การ โฆษณาในระบบเครือข่าย คอมพวิ เตอร์ และโฆษณาในหนังสือพิมพ์รายวันอย่างน้อยหน่ึงฉบับเป็ นระยะเวลาไม่ น้อยกว่าสามวนั การประกาศตามวรรคหนึง่ ให้ถือเป็ นการบอกกล่าวการโอนทรัพย์สินแก่ ลกู หนี้ บุคคลภายนอกทไ่ี ด้ให้ประกันหนีเ้ ดมิ และบุคคลซึ่งมีส่วนได้เสียในทรัพย์สินที่ จะขาย ในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีข้อต่อสู้เกี่ยวกับทรัพย์สินที่จะขายน้ัน ให้ย่ืนคา คัดค้านโดยชี้แจงเหตุผลและหลักฐานที่เก่ียวข้องต่อคณะกรรมการตามมาตรา ๓๐ ก่อนกาหนดวันขายทรัพย์สินไม่น้อยกว่าสามวันทาการ หากพ้นกาหนดระยะเวลา ดงั กล่าวแล้ว มิได้ยื่นคาคัดค้านการขายทรัพย์สินน้ัน ให้ถือว่าลูกหนีบ้ ุคคลภายนอกท่ี ได้ให้ประกนั หนีเ้ ดมิ และบุคคลซ่ึงมีส่วนได้เสียในทรัพย์สินท่จี ะขายได้ให้ความยินยอม กบั การโอนทรัพย์สินทีจ่ ะขายน้นั แล้ว เมื่อคณะกรรมการตามมาตรา ๓๐ ได้รับคาคดั ค้านตามวรรคสองแล้ว ให้ จัดทาความเห็นพร้อมด้วยเหตุผลเสนอให้คณะกรรมการองค์การพจิ ารณาวินิจฉัย ถ้า
คณะกรรมการองค์การเห็นว่าคาคัดค้านมีเหตุอนั สมควรก็ให้ยุติการขายทรัพย์สินน้ัน ไว้ก่อนจนกว่าจะมีการพิสูจน์สิทธิในทรัพย์สินน้ันเสร็จสิ้น ถ้าเห็นว่าไม่มีเหตุอัน สมควรก็ให้ ยกคาคัดค้านพร้ อมท้ังแจ้ งให้ ผู้คัดค้านทราบและดาเนินการขายทรัพย์สิ น น้ันต่อไป แต่ท้ังนี้ไม่ตัดสิทธิผู้เสียหายเพราะการน้ันท่ีจะใช้สิทธิเรียกร้องตามมาตรา ๓๐ จตั วา มาตรา ๓๐ ตรี ในกรณีที่มีการโอนทรัพย์สินท่ีได้ขายตามวิธีการท่ี กาหนดไว้ในมาตรา ๓๐ ทวิ แล้ว (๑) สิทธิของผู้ซื้อทรัพย์สินโดยสุจริตไม่เสียไป ถึงแม้ภายหลงั จะพสิ ูจน์ ได้ว่าทรัพย์สินน้นั มิใช่ของบริษทั ท่ถี ูกระงบั การดาเนนิ กจิ การตามมาตรา ๓๐ (๒) ห้ามมิให้ลูกหนีห้ รือบุคคลใดขอหักกลบลบหนีท้ ่ีมีอยู่กบั บริษทั ที่ถูก ระงบั การดาเนนิ กจิ การกบั ทรัพย์สินท่ขี ายน้นั (๓) ผู้ซื้อทรัพย์สินมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยตามวิธีการและตามอัตราใน สัญญาเดมิ มาตรา ๓๐ จัตวา การเพิกถอนการโอนทรัพย์สินท่ีได้ขายตามวิธีการท่ี กาหนดไว้ในมาตรา ๓๐ ทวิ จะกระทามไิ ด้ ผู้เสี ยห ายจ าก การ ข า ยท รั พย์ สิ นซ่ึ งค ณะ ก ร ร ม กา ร อ งค์ ก าร ได้ ย กค า คดั ค้านตามมาตรา ๓๐ ทวิ วรรคสาม มสี ิทธิเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายจากรายได้ท้ัง ปวงทีไ่ ด้จากการขายทรัพย์สินของบริษทั ทถี่ ูกระงบั การดาเนินกจิ การน้นั ได้ การเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายตามวรรคสอง ให้ผู้เสียหายย่ืนคาขอต่อ องค์การภายในกาหนดระยะเวลาสองเดือนนับแต่วันที่ได้มีการขายทรัพย์สินน้ัน หาก พ้นกาหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้วมิได้ย่นื คาขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย ให้ถือว่าผู้น้ันสละ สิทธิเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย หลกั เกณฑ์และวธิ ีการยนื่ คาขอและการพจิ ารณาคาขอตามวรรคสาม ให้ เป็ นไปตามทค่ี ณะกรรมการองค์การกาหนด ในกรณที ี่ผู้ยน่ื คาขอไม่เห็นด้วยกบั ผลการ
พิจารณาคาขอ ให้มีสิทธิเสนอคดีต่อศาลได้ภายในกาหนดระยะเวลาสามเดือนนับแต่ วนั ท่ีได้รับแจ้งผลการพจิ ารณา” มาตรา ๕ นับแต่วันท่ีพระราชกาหนดนี้ใช้บังคับ ดอกเบี้ยหรือเงินค่า ป่ วยการอน่ื แทนดอกเบยี้ อนั เกดิ จากหนีท้ ่ีบริษทั ทถ่ี ูกระงบั การดาเนินกจิ การตามมาตรา ๓๐ ได้ก่อขึน้ มใิ ห้ถอื ว่าเป็ นหนที้ ่จี ะขอรับชาระได้ มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราช กาหนดนี้ ผ้รู ับสนองพระบรมราชโองการ ชวน หลกี ภยั นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกาหนดฉบับนี้ คอื โดยทขี่ ณะนีม้ คี วามจาเป็ นต้อง แก้ไขปัญหาวกิ ฤติทางเศรษฐกจิ ของประเทศอย่างรวดเร็ว และจาเป็ นต้องเร่งรัดให้มกี ารระดม เงนิ ทนุ เพอื่ เสริมสร้างสภาพคล่องให้เกดิ การหมุนเวยี นทางการเงนิ ในระบบเศรษฐกจิ ซึ่งท่ีผ่าน มาได้มีการตรากฎหมายว่าด้วยการปฏิรูประบบสถาบันการเงินขึน้ เพอื่ ดาเนินการแก้ไขฟื้ นฟู ฐานะของสถาบันการเงนิ ทถ่ี กู ระงบั การดาเนินกจิ การ โดยให้สถาบันการเงนิ เหล่าน้ันจัดทาแผน เพื่อแก้ไขฟื้ นฟูฐานะในการดาเนินการให้ม่ันคงต่อไป และสาหรับสถาบันการเงินที่ไม่อาจ ดาเนนิ การต่อไปได้ ให้องค์การปฏริ ูประบบสถาบันการเงินเข้าควบคุมเพอ่ื ชาระบัญชีต่อไป ซ่ึง ในการชาระบญั ชีจาเป็ นต้องขายทรัพย์สินของสถาบันการเงินน้ัน ฉะน้ัน เพอื่ มใิ ห้เป็ นอุปสรรค ในการดาเนนิ การจาเป็ นต้องมมี าตรการเป็ นพเิ ศษผ่อนคลายจากกรณปี กติทวั่ ไปเพอื่ ให้องค์การ ปฏริ ูประบบสถาบันการเงนิ สามารถดาเนินการตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายให้แล้วเสร็จได้ โดยเร็ว เพอื่ ให้เกดิ ความเชื่อมน่ั แก่ผู้ซือ้ ทรัพย์สินอนั เป็ นส่วนหน่งึ ของการแก้ไขปัญหาวิกฤติทาง เศรษฐกจิ ซึ่งหากมาตรการดงั กล่าวไม่อาจกระทาได้โดยเร็วจะส่งผลกระทบต่อแผนการระดม เงนิ ทนุ เพอื่ เสริมสร้างสภาพคล่องทางเศรษฐกจิ ของประเทศโดยรวม และโดยท่เี ป็ นกรณีฉุกเฉิน ทม่ี คี วามจาเป็ นรีบด่วนอันมิอาจจะหลกี เลยี่ งได้ในการที่จะรักษาความม่ันคงในทางเศรษฐกิจ ของประเทศ จงึ จาเป็ นต้องตราพระราชกาหนดนี้ วศิน/จดั ทำ ๓ มีนำคม ๒๕๕๒ โชติกำนต/์ ปรับปรุง ๑๖ พฤษภำคม ๒๕๕๙ [๑] รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๑๕/ตอนท่ี ๒๙ ก/หนำ้ ๑/๒๒ พฤษภำคม ๒๕๔๑
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: