ราชกจิ จานเุ บกษา พระราชบญั ญัติพื้นทนี่ วตั กรรมการศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๖๒
พระราชบัญญตั ิพืน้ ท่ีนวตั กรรมการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นปี ที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบนั สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรด เกลา้ ฯ ใหป้ ระกาศวา่ โดยทเี่ ป็นการสมควรมีกฎหมายวา่ ดว้ ยพ้นื ทน่ี วตั กรรมการศึกษา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญตั ิข้ึนไวโ้ ดยคาแนะนาและ ยนิ ยอมของสภานิติบญั ญตั ิแห่งชาติทาหนา้ ทีร่ ัฐสภา ดงั ต่อไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบญั ญตั ิน้ีเรียกวา่ “พระราชบญั ญตั ิพ้นื ท่ีนวตั กรรมการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒” มาตรา ๒[๑] พระราชบญั ญตั ิน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แต่วนั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจา นุเบกษาเป็นตน้ ไป เป็นเวลาเจด็ ปี การขยายเวลาใชบ้ งั คบั พระราชบญั ญตั ิน้ี ใหก้ ระทาไดโ้ ดยตราเป็นพระราช กฤษฎีกาโดยใหก้ ระทาไดเ้ พยี งหน่ึงคร้ังแต่ไม่เกินเจด็ ปี มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญตั ิน้ี “นวตั กรรมการศึกษา” หมายความวา่ แนวคิด วธิ ีการ กระบวนการ สื่อการเรียน การสอน หรือการบริหารจดั การในรูปแบบใหม่ ซ่ึงไดม้ ีการทดลองและพฒั นาจนเป็นที่ น่าเชื่อถือวา่ สามารถส่งเสริมการเรียนรู้ของผเู้ รียนและการจดั การศึกษา และใหห้ มายความรวมถึง การนาส่ิงดงั กล่าวมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นพ้ืนทน่ี วตั กรรมการศึกษาดว้ ย
“พ้ืนทน่ี วตั กรรมการศึกษา” หมายความว่า พ้นื ทท่ี คี่ ณะรัฐมนตรีประกาศ กาหนดใหเ้ ป็นพ้นื ทปี่ ฏิรูปการบริหารและการจดั การศึกษาเพื่อสนบั สนุนการสร้างนวตั กรรม การศึกษา “ผลสมั ฤทธ์ิทางการศึกษา” หมายความวา่ พฒั นาการของผเู้ รียนท้งั ในดา้ นความรู้ สมรรถนะทกั ษะ และเจตคติ “สถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน” หมายความวา่ โรงเรียนทจ่ี ดั การศึกษาในระบบ ระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ประเภทสามญั ศึกษา “สถานศึกษานาร่อง” หมายความวา่ สถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานในสงั กดั สานกั งาน คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐานหรือองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน หรือของเอกชน ที่อยใู่ น พ้นื ที่นวตั กรรมการศึกษาท่คี ณะกรรมการขบั เคล่ือนพ้ืนท่นี วตั กรรมการศึกษาอนุมตั ิให้เป็ น สถานศึกษานาร่อง “คณะกรรมการนโยบาย” หมายความวา่ คณะกรรมการนโยบายพ้ืนทีน่ วตั กรรม การศึกษา “คณะกรรมการขบั เคล่ือน” หมายความว่า คณะกรรมการขบั เคลื่อนพ้ืนที่ นวตั กรรมการศึกษา “คณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน” หมายความว่า คณะกรรมการ สถานศึกษาข้นั พ้นื ฐานตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการศึกษาแห่งชาติ “ก.ค.ศ.” หมายความวา่ คณะกรรมการขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบยี บขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา “รัฐมนตรี” หมายความวา่ รัฐมนตรีผรู้ ักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา ๔ ใหร้ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตามพระราชบญั ญตั ิ น้ี หมวด ๑ การจดั ต้งั พนื้ ทน่ี วตั กรรมการศึกษา มาตรา ๕ พ้ืนท่นี วตั กรรมการศึกษาจดั ต้งั ข้นึ เพือ่ วตั ถุประสงค์ ดงั ต่อไปน้ี
(๑) คิดคน้ และพฒั นานวตั กรรมการศึกษาและการเรียนรู้เพ่ือยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ิ ทางการศึกษาของผเู้ รียน รวมท้งั เพอื่ ดาเนินการใหม้ กี ารขยายผลไปใชใ้ นสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน อื่น (๒) ลดความเหลื่อมล้าในการศึกษา (๓) กระจายอานาจและใหอ้ สิ ระแก่หน่วยงานทางการศึกษาและสถานศึกษานา ร่องในพ้นื ที่นวตั กรรมการศกึ ษาเพื่อเพ่ิมความคล่องตวั ในการบริหารและการจดั การศึกษาใหม้ ี คุณภาพและประสิทธิภาพยง่ิ ข้ึน และ (๔) สร้างและพฒั นากลไกในการจดั การศึกษาร่วมกนั ระหวา่ งภาครัฐ องคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในพ้นื ที่นวตั กรรมการศึกษา ในกรณีทมี่ ีปัญหาเรื่องการตีความหรือการวนิ ิจฉยั ปัญหาอนั เกิดจากการใชบ้ งั คบั พระราชบญั ญตั ิน้ี การตีความจะตอ้ งเอ้ืออานวยใหเ้ กิดการสรา้ งนวตั กรรมการศึกษา และมุ่งเนน้ ใหเ้ กิดสัมฤทธิผลของการจดั ต้งั พ้นื ทนี่ วตั กรรมการศึกษาเป็นสาคญั มาตรา ๖ คณะรัฐมนตรีโดยคาแนะนาของคณะกรรมการนโยบายมีอานาจ กาหนดใหจ้ งั หวดั ใดเป็นพ้นื ที่นวตั กรรมการศึกษาโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา การดาเนินการตามวรรคหน่ึง ใหค้ ณะกรรมการนโยบายพจิ ารณาความเหมาะสม ของการเป็นพ้นื ท่ีนวตั กรรมการศึกษาโดยคานึงถึงความพร้อม ตลอดจนการมีส่วนร่วมของ ผเู้ กี่ยวขอ้ ง และโอกาสทจี่ ะประสบความสาเร็จอยา่ งยงั่ ยนื ประกอบดว้ ย โดยอยา่ งนอ้ ยจะตอ้ ง คานึงถึงผลการดาเนินการทีผ่ า่ นมาของพ้นื ทนี่ วตั กรรมการศึกษาอน่ื ทมี่ ีการจดั ต้งั อยกู่ ่อนแลว้ การพจิ ารณาวา่ จงั หวดั ใดมีความพร้อมเป็นพ้ืนทีน่ วตั กรรมการศึกษา ใหเ้ ป็นไป ตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกาหนด มาตรา ๗ จงั หวดั ใดประสงคจ์ ะเป็นพ้ืนทีน่ วตั กรรมการศึกษา ใหค้ ณะผเู้ สนอ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการศึกษาธิการจงั หวดั เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเพอื่ ดาเนินการตามมาตรา ๖ โดยแสดงใหเ้ หน็ ถึงการมีส่วนร่วมขององคก์ รภาครัฐ องคก์ รปกครอง ส่วนทอ้ งถ่ิน ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมที่เก่ียวขอ้ ง และแสดงใหเ้ ห็นว่าจงั หวดั น้นั มีความ พร้อมท่จี ะดาเนินการตามวตั ถุประสงคข์ องพ้ืนท่ีนวตั กรรมการศึกษา
จานวนและคุณสมบตั ิของคณะผเู้ สนอ หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการเสนอตามวรรค หน่ึงให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกาหนด ท้งั น้ี คณะกรรมการนโยบายอาจ กาหนดใหแ้ ตกต่างกนั ในแต่ละพ้ืนทนี่ วตั กรรมการศึกษากไ็ ด้ มาตรา ๘ การเสนอให้จดั ต้งั พ้ืนที่นวตั กรรมการศึกษาตามมาตรา ๗ วรรคสอง ตอ้ งกระทาอยา่ งเปิ ดเผย และอยา่ งนอ้ ยตอ้ งมีรายละเอยี ด ดงั ต่อไปน้ี (๑) รายชื่อคณะผเู้ สนอ (๒) สถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานท่ปี ระสงคจ์ ะเขา้ ร่วมเป็นสถานศึกษานาร่อง (๓) องคป์ ระกอบของคณะกรรมการขบั เคลอ่ื น (๔) แนวทางการดาเนินงานเพื่อใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคต์ ามมาตรา ๕ (๕) แนวทางการประสานความร่วมมือระหวา่ งภาครัฐ องคก์ รปกครองส่วน ทอ้ งถ่ิน ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมท่ีเกี่ยวขอ้ ง (๖) ผลการรับฟังความคิดเห็นของผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ ง และการวเิ คราะห์ความพร้อมใน การจดั ต้งั พ้ืนทน่ี วตั กรรมการศึกษาอยา่ งรอบดา้ น องคป์ ระกอบของคณะกรรมการขบั เคลื่อนตาม (๓) ในแต่ละพ้นื ทีน่ วตั กรรม การศึกษาอาจมีความแตกตา่ งกนั ตามวตั ถุประสงค์ ความพร้อม และความจาเป็นของแต่ละพ้นื ท่ี นวตั กรรมการศึกษา มาตรา ๙ ในกรณีที่คณะกรรมการนโยบายเห็นวา่ จงั หวดั ใดมีความจาเป็นอยา่ งยง่ิ ทีจ่ ะพฒั นานวตั กรรมการศึกษาเพอ่ื ลดความเหลื่อมล้า คณะกรรมการนโยบายอาจให้ คณะกรรมการศึกษาธิการจงั หวดั สารวจความพร้อมของภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมที่เกี่ยวขอ้ ง ในการดาเนินการขอเป็ นพ้ืนท่ีนวตั กรรม การศึกษาตามมาตรา ๗ และมาตรา ๘ ในกรณีที่มีความพร้อมตามมาตรา ๖ ให้ คณะกรรมการนโยบายเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพ่ือประกาศใหจ้ งั หวดั น้นั เป็นพ้นื ทนี่ วตั กรรม การศึกษาตามพระราชบญั ญตั ิน้ี
หมวด ๒ คณะกรรมการนโยบายพนื้ ทน่ี วตั กรรมการศึกษา มาตรา ๑๐ ใหม้ ีคณะกรรมการคณะหน่ึง เรียกว่า “คณะกรรมการนโยบายพ้นื ท่ี นวตั กรรมการศึกษา” ประกอบดว้ ย (๑) นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีซ่ึงนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็น ประธานกรรมการ (๒) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรองประธานกรรมการ (๓) กรรมการโดยตาแหน่ง จานวนเจด็ คน ไดแ้ ก่ ปลดั กระทรวงการคลงั ปลดั กระทรวงดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คม ปลดั กระทรวงมหาดไทย ปลดั กระทรวง วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ผอู้ านวยการสานกั งบประมาณ และ ประธานท่ีประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ (๔) กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิซ่ึงคณะรัฐมนตรีแต่งต้งั จากบคุ คลซ่ึงมีความรู้ ความ เชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่เก่ียวขอ้ งกบั การพฒั นาการศึกษา การพฒั นานวตั กรรมการศึกษา การพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ การบริหาร การเงิน การพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม การ ประเมินผล กฎหมาย เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวตั กรรม หรือดา้ นอน่ื อนั จะเป็นประโยชน์ แก่การพฒั นาคุณภาพและประสิทธิภาพในการจดั การศึกษาข้นั พ้นื ฐานของสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐานใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคต์ ามมาตรา ๕ จานวนไม่เกินแปดคน เป็นกรรมการ ใหเ้ ลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้นั พน้ื ฐานเป็นกรรมการและเลขานุการ และใหผ้ อู้ านวยการสานกั งานบริหารพ้ืนท่ีนวตั กรรมการศึกษาและผแู้ ทนกรมส่งเสริมการ ปกครองทอ้ งถ่ิน เป็ นผชู้ ่วยเลขานุการ การสรรหากรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขท่ี คณะกรรมการนโยบายประกาศกาหนด ดงั ต่อไปน้ี มาตรา ๑๑ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิตอ้ งมีคุณสมบตั ิและไม่มลี กั ษณะตอ้ งหา้ ม (๑) มีสญั ชาติไทย (๒) ไม่เป็นบคุ คลลม้ ละลายหรือเคยเป็นบุคคลลม้ ละลายทจุ ริต
(๓) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (๔) ไม่เคยไดร้ ับโทษจาคกุ โดยคาพิพากษาถึงทส่ี ุดใหจ้ าคกุ เวน้ แต่เป็นโทษ สาหรับความผดิ ทไี่ ดก้ ระทาโดยประมาทหรือความผดิ ลหุโทษ (๕) ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือใหอ้ อกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ หน่วยงานเอกชนเพราะทุจริตต่อหนา้ ทีห่ รือถือวา่ กระทาการทจุ ริตหรือประพฤติมิชอบ (๖) ไม่เคยตอ้ งคาพพิ ากษาหรือคาส่งั ของศาลอนั ถึงทส่ี ุดใหท้ รัพยส์ ินตกเป็นของ แผน่ ดินเพราะร่ารวยผดิ ปกติ หรือเคยตอ้ งคาพพิ ากษาอนั ถึงทส่ี ุดใหล้ งโทษจาคุกเพราะกระทา ความผดิ ตามกฎหมายว่าดว้ ยการป้องกนั และปราบปรามการทุจริต มาตรา ๑๒ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิมีวาระการดารงตาแหน่งคราวละส่ีปี และอาจ ไดร้ ับแต่งต้งั อีกได้ แต่จะดารงตาแหน่งติดต่อกนั เกินสองวาระไม่ได้ เมื่อครบกาหนดตามวาระในวรรคหน่ึง หากยงั ไม่ไดม้ ีการแต่งต้งั กรรมการ ผทู้ รงคุณวุฒิข้ึนใหม่ ใหก้ รรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิซ่ึงพน้ จากตาแหน่งตามวาระน้นั อยใู่ นตาแหน่ง เพ่อื ดาเนินงานต่อไปจนกวา่ กรรมการผทู้ รงคุณวุฒิซ่ึงไดร้ ับแต่งต้งั ใหม่เขา้ รับหนา้ ที่ มาตรา ๑๓ นอกจากการพน้ จากตาแหน่งตามวาระตามมาตรา ๑๒ กรรมการ ผทู้ รงคุณวฒุ ิพน้ จากตาแหน่ง เม่ือ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคุณสมบตั ิหรือมีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๑๑ (๔) คณะรัฐมนตรีใหอ้ อกเพราะบกพร่องต่อหนา้ ที่ มีความประพฤติเส่ือมเสีย หรือหยอ่ นความสามารถ มาตรา ๑๔ ในกรณีท่กี รรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิพน้ จากตาแหน่งก่อนครบวาระ ให้ แต่งต้งั กรรมการผทู้ รงคุณวุฒิแทนตาแหน่งที่วา่ ง หรือในกรณีท่แี ต่งต้งั กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิ เพม่ิ ข้ึนในระหว่างทีก่ รรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิซ่ึงแต่งต้งั ไวแ้ ลว้ ยงั มีวาระอยใู่ นตาแหน่ง ใหผ้ ไู้ ดร้ ับ แต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหน่งแทนตาแหน่งท่วี า่ งหรือเป็นกรรมการผทู้ รงคุณวุฒิเพม่ิ ข้ึน อยใู่ น ตาแหน่งเท่ากบั วาระท่ีเหลืออย่ขู องกรรมการผทู้ รงคุณวุฒิซ่ึงไดแ้ ต่งต้งั ไวแ้ ลว้ เวน้ แต่วาระของ
กรรมการผทู้ รงคุณวุฒิเหลือไม่ถึงเกา้ สิบวนั จะไม่แต่งต้งั กรรมการผทู้ รงคุณวุฒิแทนหรือเพ่ิมข้ึน ก็ได้ และใหค้ ณะกรรมการประกอบดว้ ยกรรมการท้งั หมดที่มีอยู่ มาตรา ๑๕ คณะกรรมการนโยบายมีหนา้ ท่ีและอานาจ ดงั ต่อไปน้ี (๑) กาหนดนโยบายและยทุ ธศาสตร์ระดบั ประเทศในการดาเนินการส่งเสริมใหม้ ี พ้นื ท่นี วตั กรรมการศึกษา (๒) ใหค้ าแนะนาแก่คณะรัฐมนตรีในการประกาศกาหนดใหจ้ งั หวดั ใดเป็นพ้ืนที่ นวตั กรรมการศึกษา รวมท้งั ประกาศยบุ เลิกพ้นื ทนี่ วตั กรรมการศึกษา (๓) กาหนดนโยบาย และกากบั ดูแลการดาเนินงานของคณะกรรมการขบั เคล่ือน เพอื่ ใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคใ์ นการจดั ต้งั พ้นื ท่ีนวตั กรรมการศึกษาตามมาตรา ๕ (๔) กาหนดหลกั เกณฑก์ ารประเมินผลการดาเนินงานและการบริหารจดั การใน พ้นื ทน่ี วตั กรรมการศึกษา (๕) กาหนดแนวทางใหค้ ณะกรรมการขบั เคล่ือนปรับปรุงแกไ้ ขการดาเนินงาน ของหน่วยงานทางการศึกษาหรือสถานศึกษานาร่องในพ้ืนทนี่ วตั กรรมการศึกษา (๖) กาหนดมาตรฐานขอ้ มูลและมาตรฐานการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลการจดั การศึกษา ของพ้นื ท่ีนวตั กรรมการศึกษาและสถานศึกษานาร่อง (๗) เสนอแนะต่อรัฐมนตรีใหม้ ีการนาแนวปฏิบตั ิทีด่ ีในการจดั การศึกษาในพ้ืนท่ี นวตั กรรมการศึกษาไปใชใ้ นการจดั การศึกษาของสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐานของรัฐและของเอกชน (๘) เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในการปรับปรุงแกไ้ ขกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ หรือคาสัง่ ท่ีเกี่ยวกบั การจดั การศกึ ษาในเขตพ้ืนที่การศึกษาตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบยี บ บริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ และกฎหมายอ่นื ท่ีเก่ียวขอ้ ง โดยนาผลสมั ฤทธ์ิในการ ดาเนินงานของพ้ืนที่นวตั กรรมการศึกษามาใชเ้ ป็นแนวทางในการปรับปรุงแกไ้ ขดงั กล่าว (๙) เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในการตราพระราชกฤษฎีกาขยายเวลาใชบ้ งั คบั พระราชบญั ญตั ิน้ี (๑๐) กาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษาของสถานศึกษานาร่อง (๑๑) ออกระเบยี บเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิงานทวั่ ไปเก่ียวกบั การบริหารจดั การ การ ปฏิบตั ิงาน การเงิน สิทธิประโยชน์ และการประเมินผล ภายในสถานศึกษานาร่อง
(๑๒) แต่งต้งั คณะอนุกรรมการเพอื่ ทาการแทนหรือปฏิบตั ิงานตามท่ี คณะกรรมการนโยบายมอบหมาย (๑๓) ออกระเบยี บหรือประกาศเพ่อื ปฏิบตั ิการใหเ้ ป็นไปตามพระราชบญั ญตั ิน้ี (๑๔) หนา้ ทแ่ี ละอานาจอืน่ ใดตามท่ีพระราชบญั ญตั ิน้ีหรือกฎหมายอ่นื กาหนดให้ เป็นหนา้ ที่และอานาจของคณะกรรมการนโยบาย หลกั เกณฑก์ ารประเมินผลการดาเนินงานและการบริหารจดั การพ้นื ท่นี วตั กรรม การศึกษาตาม (๔) ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคต์ ามมาตรา ๕ มาตรา ๑๖ การประชุมคณะกรรมการนโยบายตอ้ งมีกรรมการมาประชุมไม่นอ้ ย กวา่ ก่ึงหน่ึงของจานวนกรรมการท้งั หมด จึงจะเป็ นองคป์ ระชุม ในการประชุมคณะกรรมการนโยบาย ถา้ ประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่ อาจปฏิบตั ิหนา้ ทีไ่ ด้ ใหร้ องประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถา้ รองประธาน กรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบตั ิหนา้ ที่ได้ ใหท้ ปี่ ระชุมเลือกกรรมการคนหน่ึงเป็น ประธานในท่ีประชุม การวินิจฉยั ช้ีขาดของทีป่ ระชุมใหถ้ ือเสียงขา้ งมาก กรรมการคนหน่ึงใหม้ ีเสียง หน่ึงในการลงคะแนน ถา้ คะแนนเสียงเท่ากนั ใหป้ ระธานในที่ประชุมออกเสียงเพ่ิมข้ึนอีกเสียงหน่ึง เป็ นเสียงช้ีขาด คณะกรรมการนโยบายตอ้ งมีการประชุมอยา่ งนอ้ ยปี ละส่ีคร้ัง มาตรา ๑๗ ใหป้ ระธานกรรมการนโยบาย รองประธาน กรรมการนโยบาย กรรมการนโยบาย และอนุกรรมการที่คณะกรรมการนโยบายแต่งต้ัง ไดร้ ับค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ตามทคี่ ณะรัฐมนตรีกาหนด มาตรา ๑๘ ใหจ้ ดั ต้งั สานกั งานบริหารพ้ืนที่นวตั กรรมการศึกษา ในสานกั งาน คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ทาหนา้ ที่เกี่ยวกบั งานวิชาการและงานธุรการของ คณะกรรมการนโยบาย รวมท้งั ใหม้ ีหนา้ ที่ ดงั ต่อไปน้ี (๑) เป็นหน่วยงานกลางในการดาเนินการ ส่งเสริม สนบั สนุน และประสานงาน ของพ้นื ท่ีนวตั กรรมการศกึ ษา และรับผดิ ชอบงานธุรการของคณะกรรมการนโยบาย
(๒) จดั ทานโยบายและยทุ ธศาสตร์ระดบั ประเทศในการดาเนินการส่งเสริมใหม้ ี พ้ืนท่นี วตั กรรมการศึกษา เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบาย (๓) จดั ใหม้ ีการวิเคราะห์และวิจยั เกี่ยวกบั การพฒั นานวตั กรรมการศกึ ษาในพ้ืนท่ี นวตั กรรมการศึกษา (๔) จดั ทามาตรฐานขอ้ มูลและมาตรฐานการแลกเปล่ียนขอ้ มูลการจดั การศึกษา ของพ้นื ที่นวตั กรรมการศึกษาและสถานศึกษานาร่องเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบาย (๕) รวบรวมขอ้ มลู ศึกษา และวเิ คราะห์แนวทางการจดั การศึกษาของพ้นื ที่ นวตั กรรมการศึกษา รวมท้งั นาเสนอแนวทางการขยายผลแนวปฏิบตั ิที่ดีในการจดั การศึกษาของ พ้นื ท่นี วตั กรรมการศึกษาต่อคณะกรรมการนโยบาย (๖) กากบั ติดตาม และตรวจสอบการจดั การศึกษาในพ้ืนท่ีนวตั กรรมการศึกษา (๗) จดั ทารายงานประจาปี เก่ียวกบั การจดั การศึกษาในพ้นื ท่นี วตั กรรมการศึกษา (๘) ปฏิบตั ิงานอื่นใดตามพระราชบญั ญตั ิน้ีหรือกฎหมายอ่ืนที่บญั ญตั ิใหเ้ ป็น หนา้ ทแี่ ละอานาจของสานกั งาน หรือตามที่คณะกรรมการนโยบายมอบหมาย หมวด ๓ การบริหารพนื้ ทีน่ วตั กรรมการศึกษา มาตรา ๑๙ ในแต่ละพ้ืนท่ีนวตั กรรมการศกึ ษาใหม้ คี ณะกรรมการขบั เคล่ือนพ้นื ท่ี นวตั กรรมการศึกษา คณะหน่ึง จานวนไม่เกินยส่ี ิบเอด็ คน ประกอบดว้ ย ผวู้ ่าราชการจงั หวดั เป็น ประธานกรรมการ และกรรมการอืน่ ซ่ึงอยา่ งนอ้ ยตอ้ งประกอบดว้ ย กรรมการโดยตาแหน่งจาก หน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ ง ผแู้ ทนสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานในพ้ืนท่ีนวตั กรรมการศึกษา ผแู้ ทน สถาบนั อดุ มศึกษาท่ีมีความเชี่ยวชาญดา้ นการผลิตและพฒั นาครู ผแู้ ทนองคก์ รเอกชน และ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิ โดยใหศ้ ึกษาธิการจงั หวดั เป็นกรรมการและเลขานุการ องคป์ ระกอบของคณะกรรมการ จานวน คุณสมบตั ิและลกั ษณะตอ้ งหา้ ม หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการไดม้ า วาระการดารงตาแหน่งและการพน้ จากตาแหน่งของกรรมการ ขบั เคลื่อน ใหเ้ ป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกาหนดตามความเหมาะสมในแต่ละ พ้นื ท่ีนวตั กรรมการศึกษา โดยใหพ้ จิ ารณาจากคาขอจดั ต้งั พ้นื ท่นี วตั กรรมการศึกษาตามมาตรา ๗ และใหค้ านึงถึงความหลากหลายและการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ
เมื่อคณะรัฐมนตรีประกาศใหจ้ งั หวดั ใดเป็นพ้ืนท่ีนวตั กรรมการศึกษาแลว้ ให้ สานกั งานศึกษาธิการจงั หวดั ของจงั หวดั น้นั ดาเนินการใหไ้ ดม้ าซ่ึงกรรมการขบั เคลื่อนตามวรรค หน่ึง เพ่อื เสนอคณะกรรมการนโยบายแต่งต้งั มาตรา ๒๐ เพื่อบรรลุวตั ถุประสงค์ตามมาตรา ๕ ให้คณะกรรมการ ขบั เคลื่อนมีหนา้ ท่แี ละอานาจ ดงั ต่อไปน้ี (๑) กาหนดยทุ ธศาสตร์และแผนการดาเนินงานเพื่อขบั เคลื่อนพ้นื ทีน่ วตั กรรม การศึกษา (๒) ประสานใหห้ น่วยงานทางการศึกษา องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น หน่วยงาน อืน่ ของรัฐและเอกชน ดาเนินการร่วมกนั เพอื่ ขบั เคล่ือนพ้ืนทน่ี วตั กรรมการศึกษาตามยทุ ธศาสตร์ และแผนการดาเนินงานตาม (๑) (๓) ประสานใหห้ น่วยงานที่มีความเช่ียวชาญเฉพาะใหก้ ารสนบั สนุนทางเทคนิค ในการจดั ทาสื่อการสอน จดั การเรียนรูใ้ นรูปแบบใหม่ พฒั นาบุคลากร จดั ระบบการประเมินและ วดั ผล และการอน่ื ทีจ่ าเป็นสาหรับพฒั นานวตั กรรมการศึกษาในพ้ืนท่นี วตั กรรมการศกึ ษา (๔) นาหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐานตามกฎหมายว่าดว้ ยการศึกษา แห่งชาติไปปรับใชก้ บั การจดั การศึกษาในสถานศึกษานาร่องใหเ้ หมาะสมกบั พ้นื ทีน่ วตั กรรม การศึกษา (๕) ส่งเสริมการพฒั นาคุณภาพและศกั ยภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษา ของสถานศึกษานาร่องอยา่ งต่อเนื่อง เพอ่ื ใหส้ ามารถจดั การเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพและ เหมาะสมกบั สภาพในพ้ืนที่นวตั กรรมการศกึ ษา (๖) จดั ใหม้ ีการออกแบบการทดสอบผเู้ รียนเพื่อวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการศึกษาใน พ้นื ที่นวตั กรรมการศึกษา (๗) ส่งเสริม สนบั สนุน ใหค้ วามช่วยเหลือ และติดตามสถานศึกษานาร่องเพือ่ ให้ จดั การเรียนการสอนทีม่ ีคุณภาพและเกิดการพฒั นานวตั กรรมการศึกษา (๘) เสริมสร้างและเตรียมความพร้อมใหส้ ถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานในพ้นื ท่ี นวตั กรรมการศึกษาในการเป็นสถานศึกษานาร่องหรือในการนานวตั กรรมการศึกษาไปใชใ้ น การจดั การศึกษา (๙) เพมิ่ ขีดความสามารถใหแ้ ก่หน่วยงานทางการศึกษาในพ้นื ที่นวตั กรรม การศึกษาเพอื่ ทาการพฒั นานวตั กรรมการศึกษาหรือนานวตั กรรมการศกึ ษาไปใช้
(๑๐) จดั ใหม้ ีการประเมินผลการจดั การศึกษาของสถานศึกษานาร่อง (๑๑) แต่งต้งั คณะอนุกรรมการเพอื่ ทาการแทนหรือปฏิบตั ิงานตามที่ คณะกรรมการขบั เคล่ือนมอบหมาย (๑๒) รายงานผลสัมฤทธ์ิทางการศึกษารวมท้งั ปัญหาและอุปสรรคในพ้นื ท่ี นวตั กรรมการศึกษาต่อคณะกรรมการนโยบาย (๑๓) หนา้ ที่และอานาจทพี่ ระราชบญั ญตั ิน้ีหรือกฎหมายอน่ื กาหนดใหเ้ ป็นหนา้ ที่ และอานาจของคณะกรรมการขบั เคล่ือน (๑๔) ปฏิบตั ิงานอน่ื ตามท่ีคณะกรรมการนโยบายมอบหมาย การดาเนินการตาม (๑) (๒) (๔) (๖) และ (๑๐) ใหค้ ณะกรรมการขบั เคลื่อน ปรึกษาหารือกบั หน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ งประกอบดว้ ย การออกแบบทดสอบตาม (๖) และการประเมินผลตาม (๑๐) ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรตามมาตรา ๒๕ ในกรณีที่คณะกรรมการขบั เคล่ือนเห็นว่าสถานศึกษานาร่องใดมีความพร้อม อาจมอบหมายหนา้ ทีแ่ ละอานาจตาม (๖) ใหแ้ ก่สถานศึกษาดงั กล่าวดาเนินการในส่วนของตนได้ มาตรา ๒๑ ให้นาความในมาตรา ๑๒ วรรคสอง และมาตรา ๑๔ มาใชบ้ งั คบั แก่ การพน้ จากตาแหน่งของกรรมการอื่นนอกจากกรรมการโดยตาแหน่งในคณะกรรมการ ขบั เคลื่อนโดยอนุโลม มาตรา ๒๒ ใหน้ าความในมาตรา ๑๖ มาใชบ้ งั คบั แก่การประชุมของ คณะกรรมการขบั เคล่ือนโดยอนุโลม มาตรา ๒๓ ใหป้ ระธานกรรมการขบั เคลื่อน กรรมการขบั เคล่ือน และ อนุกรรมการที่คณะกรรมการขบั เคลื่อนแต่งต้งั ไดร้ ับค่าตอบแทนและสิทธิประโยชนต์ ามระเบียบที่ คณะกรรมการนโยบายกาหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลงั มาตรา ๒๔ ใหส้ านกั งานศึกษาธิการจงั หวดั ในพ้ืนที่นวตั กรรมการศึกษา ทา หนา้ ทร่ี ับผดิ ชอบงานธุรการของคณะกรรมการขบั เคล่ือน และใหม้ ีหนา้ ทแ่ี ละอานาจ ดงั ต่อไปน้ี
(๑) จดั ใหม้ ีระบบขอ้ มูลตามมาตรฐานทคี่ ณะกรรมการนโยบายกาหนด รวมท้งั ศึกษาและวิเคราะห์แนวทางการจดั การศึกษาของสถานศึกษานาร่องในพ้นื ทนี่ วตั กรรมการศึกษา (๒) จดั ใหม้ ีการวิเคราะห์และวจิ ยั เกี่ยวกบั การพฒั นานวตั กรรมการศึกษาในพ้นื ที่ นวตั กรรมการศึกษา (๓) จดั ทารายงานการดาเนินงานของคณะกรรมการขบั เคลื่อนเพ่ือเสนอต่อ คณะกรรมการศึกษาธิการจงั หวดั โดยใหแ้ จง้ สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาในพ้ืนทนี่ วตั กรรม การศึกษาทราบดว้ ย (๔) ปฏิบตั ิงานอืน่ ตามทีค่ ณะกรรมการนโยบายหรือคณะกรรมการขบั เคล่ือน มอบหมาย ใหส้ านกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาและหน่วยงานทางการศึกษาที่เกี่ยวขอ้ งใหค้ วาม ร่วมมือแก่สานกั งานศึกษาธิการจงั หวดั ในการดาเนินการตามวรรคหน่ึง มาตรา ๒๕ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐานท่ีไดร้ ับการปรับเพือ่ นาไปใชต้ ามมาตรา ๒๐ (๔) ตอ้ งครอบคลุมสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน คุณลกั ษณะอนั พึง ประสงค์ และมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐานตามกฎหมายวา่ ดว้ ย การศึกษาแห่งชาติ โดยตอ้ งจดั สาระการเรียนรู้รายวิชาใหห้ ลากหลายและสอดคลอ้ งกบั ความสามารถ ความถนดั หรือความสนใจของผเู้ รียน และสภาพภมู ิสงั คม ในกรณีท่สี ถานศึกษานาร่องตอ้ งการปรับหลกั สูตรเพมิ่ เติมจากหลกั สูตรตาม มาตรา ๒๐ (๔) ตอ้ งขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานและ คณะกรรมการขบั เคล่ือน ใหถ้ ือวา่ การจดั การเรียนการสอนในหลกั สูตรตามวรรคหน่ึงและวรรคสองเป็น การจดั การเรียนการสอนตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐานตามกฎหมายว่าดว้ ย การศึกษาแห่งชาติ สถานศึกษานาร่องท่ีประสงคจ์ ะจดั การเรียนการสอนโดยไม่ใชห้ ลกั สูตรตาม มาตรา ๒๐ (๔) หรือโดยใชห้ ลกั สูตรต่างประเทศตอ้ งเสนอคณะกรรมการขบั เคล่ือนเพื่อขอความ เห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบาย การเทยี บโอนผลการเรียนและการเทียบวุฒิการศึกษาของผเู้ รียนระหว่าง สถานศึกษานาร่องและสถานศึกษาอ่ืนใหเ้ ป็นไปตามท่คี ณะกรรมการนโยบายกาหนด
มาตรา ๒๖ ในการดาเนินการตามมาตรา ๒๕ คณะกรรมการขบั เคล่ือน หรือ สถานศึกษานาร่อง แลว้ แต่กรณี ตอ้ งจดั ใหม้ ีการรับฟังความคิดเห็นจากผเู้ รียน ผปู้ กครอง ครูและ บคุ ลากรทางการศึกษา องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ผแู้ ทนภาคเอกชน และผแู้ ทนภาคประชา สังคม ในพ้ืนทีน่ วตั กรรมการศึกษาดว้ ย หมวด ๔ สถานศึกษานาร่อง มาตรา ๒๗ สถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานในพ้นื ที่นวตั กรรมการศึกษาแห่งใดประสงค์ จะเป็นสถานศึกษานาร่อง ใหด้ าเนินการ ดงั ต่อไปน้ี (๑) สถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานในสังกดั สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ให้ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานและสานกั งานเขตพ้ืนท่ี การศึกษา (๒) สถานศึกษาข้นั พ้นื ฐานในสงั กดั องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ใหข้ อความ เห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐานและองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินท่ีเป็นตน้ สงั กดั (๓) สถานศึกษาข้นั พ้นื ฐานของเอกชน ใหข้ อความเห็นชอบจากคณะ กรรมการบริหารสถานศึกษาและกลุ่มส่งเสริมการศกึ ษาเอกชนในสานกั งานศึกษาธิการจงั หวดั หรือสานกั งานการศึกษาเอกชนจงั หวดั แลว้ แต่กรณี เม่ือไดด้ าเนินการตามวรรคหน่ึงแลว้ ใหข้ ออนุมตั ิต่อคณะกรรมการ ขบั เคลื่อน ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขท่คี ณะกรรมการขบั เคลื่อนกาหนด มาตรา ๒๘ เพอื่ ใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคต์ ามมาตรา ๕ การจดั สรรงบประมาณ เฉพาะในส่วนของเงินอุดหนุนรายการค่าใชจ้ ่ายในการจดั การศึกษาข้นั พ้นื ฐานและค่าใชจ้ ่าย ดาเนินงานใหแ้ ก่สถานศึกษานาร่องตามมาตรา ๒๗ (๑) เพือ่ พฒั นานวตั กรรมการศึกษา ให้ จดั สรรเป็นเงินอดุ หนุนทวั่ ไปใหส้ านกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐานเพอ่ื จดั สรรใหแ้ ก่ สถานศึกษานาร่องแต่ละแห่งโดยตรง ท้งั น้ี ตอ้ งเป็นไปตามความจาเป็นและความตอ้ งการของ สถานศึกษานาร่อง
การจดั สรรเงินอดุ หนุนทว่ั ไปซ่ึงเป็นค่าใชจ้ ่ายดาเนินงานตามวรรคหน่ึงใหแ้ ก่ สถานศึกษานาร่องแต่ละแห่ง ใหค้ านวณตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการท่คี ณะกรรมการนโยบาย กาหนดโดยความเห็นชอบของสานกั งบประมาณ มาตรา ๒๙ การรับและการใชจ้ ่ายเงินหรือทรัพยส์ ินทีม่ ีผบู้ ริจาคเพื่อการศึกษา ใหแ้ ก่สถานศึกษานาร่องที่เป็ นสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐานในสังกดั สานกั งานคณะกรรมการ การศึกษาข้นั พ้นื ฐานหรือองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ใหเ้ ป็นไปตามระเบียบที่ คณะกรรมการนโยบายกาหนด โดยไม่ตอ้ งนาส่งคลงั เป็นรายไดแ้ ผน่ ดิน การรับและการใชจ้ ่ายเงินหรือทรัพยส์ ินตามวรรคหน่ึง จะตอ้ งเป็ นไปเพ่ือการ พฒั นาสถานศึกษาหรือเป็นไปตามวตั ถุประสงคข์ องผบู้ ริจาค และตอ้ งไม่มีเงื่อนไขเลือกปฏิบตั ิ ต่อผเู้ รียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม มาตรา ๓๐ เพือ่ ประโยชนใ์ นการบริหารงานของสถานศึกษานาร่องในสงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐานหรือองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ให้ คณะกรรมการนโยบายประสานงานกบั กระทรวงการคลงั เพือ่ ใหค้ ณะกรรมการนโยบายสามารถ ดาเนินการจดั ใหม้ ีระเบยี บหรือขอ้ บงั คบั เก่ียวกบั การจดั ซ้ือจดั จา้ งของสถานศึกษานาร่องท้งั หมด หรือแต่บางส่วนไดเ้ อง ท้งั น้ี ตามกฎหมายว่าดว้ ยการจดั ซ้ือจดั จา้ งและการบริหารพสั ดุภาครัฐ มาตรา ๓๑ ให้คณะกรรมการนโยบายเสนอแนะต่อ ก.ค.ศ. เพ่ือให้มีการออก กฎ ก.ค.ศ. หรือหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ หรือเง่ือนไข สาหรับการบริหารงานบุคคลของขา้ ราชการครู และบคุ ลากรทางการศึกษาเก่ียวกบั การคดั เลือก การบรรจุแต่งต้งั การโยกยา้ ย การเล่ือนเงินเดือน และการประเมินวิทยฐานะ ใหเ้ กิดความเหมาะสมกบั การบริหารงานของสถานศึกษานาร่องใน พ้ืนทน่ี วตั กรรมการศึกษา ในการดาเนินการตามวรรคหน่ึง ใหส้ านกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐานประสานกบั สานกั งาน ก.ค.ศ. เมื่อไดม้ ีการดาเนินการตามวรรคหน่ึงแลว้ ใหก้ รมส่งเสริมการปกครอง ทอ้ งถิ่นนากฎ ก.ค.ศ. หรือหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ หรือเงื่อนไขดงั กล่าวไปใชก้ บั สถานศึกษานาร่อง ในสงั กดั องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นดว้ ยโดยอนุโลม
มาตรา ๓๒ ในกรณีท่ีมีความจาเป็นเพอื่ ประโยชน์ในการบริหารงานบุคคลใน พ้นื ทน่ี วตั กรรมการศึกษา คณะกรรมการนโยบายอาจเสนอแนะต่อ ก.ค.ศ. ใหต้ ้งั อ.ก.ค.ศ. ตาม กฎหมายว่าดว้ ยระเบียบขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสาหรับพ้ืนที่นวตั กรรม การศึกษาโดยเฉพาะก็ได้ มาตรา ๓๓ ในกรณีท่หี น่วยงานใดประสงคจ์ ะดาเนินโครงการ กิจกรรม หรือภารกิจ ใดซ่ึงใหส้ ถานศึกษานาร่องเป็นผดู้ าเนินการหรือร่วมดาเนินการ ใหห้ น่วยงานน้นั ขอความ เห็นชอบจากคณะกรรมการขบั เคลื่อนก่อนดาเนินการ มาตรา ๓๔ ในการจดั การเรียนการสอน สถานศึกษานาร่องอาจดาเนินการ ร่วมกบั หน่วยงานของรัฐ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคม ท้งั ใน ประเทศและต่างประเทศไดต้ ามทเี่ ห็นสมควร ในกรณีที่เป็นการจดั การเรียนการสอนร่วมกบั หน่วยงานต่างประเทศจะตอ้ ง ไดร้ ับความเห็นชอบจากคณะกรรมการขบั เคลื่อนก่อน มาตรา ๓๕ สถานศึกษานาร่องอาจใชเ้ งินงบประมาณทีไ่ ดร้ ับจดั สรรในกรณี ดงั ต่อไปน้ีได้ (๑) จดั ทา คดั เลือก จดั หา หรือใชต้ ารา สื่อการเรียนการสอน หรือฐานขอ้ มูลใน ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศสาหรับสถานศึกษาน้นั โดยอิสระ ท้งั น้ี ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั หลกั สูตร ตามมาตรา ๒๕ (๒) ร่วมกนั จดั ซ้ือตารา ส่ือการเรียนการสอน หรือฐานขอ้ มูลในระบบเทคโนโลยี สารสนเทศ เพ่อื นามาใชร้ ่วมกนั ในพ้นื ท่นี วตั กรรมการศึกษา ท้งั น้ี โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการขบั เคล่ือน มาตรา ๓๖ เพือ่ ประโยชน์ในการพฒั นาคุณภาพการศึกษา คณะกรรมการขบั เคล่ือน อาจดาเนินการทดสอบทางการศึกษาโดยร่วมกบั สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน สถาบนั อดุ มศึกษา หรือสถาบนั ทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องคก์ ารมหาชน) กไ็ ด้
มาตรา ๓๗ ใหส้ ถานศึกษานาร่องจดั ใหม้ ีระบบการประกนั คุณภาพการศึกษา ภายในสถานศึกษาและมีการประเมินเพ่อื วดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการศึกษาของผเู้ รียนและตรวจสอบ คุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาเป็นประจาทกุ ปี ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการที่ คณะกรรมการนโยบายกาหนด ใหส้ ถานศึกษานาร่องรายงานผลการประเมินและตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ภายในสถานศึกษาต่อคณะกรรมการขบั เคล่อื น และใหค้ ณะกรรมการขบั เคล่ือนใหค้ าปรึกษา ช่วยเหลือ และแนะนาสถานศึกษา เพอ่ื ใหก้ ารประกนั คุณภาพการศึกษาของสถานศกึ ษาพฒั นา อยา่ งต่อเน่ือง มาตรา ๓๘ สถานศึกษานาร่องทีม่ ีผลสัมฤทธ์ิทางการศึกษาของผเู้ รียนตาม หลกั เกณฑท์ ่คี ณะกรรมการนโยบายประกาศกาหนด ใหถ้ ือว่าเป็นการผา่ นการประเมินคุณภาพ การศึกษาภายนอกตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการศึกษาแห่งชาติแลว้ สถานศึกษานาร่องท่ีมีผลสมั ฤทธ์ิทางการศึกษาของผเู้ รียนไม่เป็นไปตามวรรค หน่ึง ให้คณะกรรมการขบั เคลื่อนขอให้สานกั งานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษา (องคก์ ารมหาชน) หน่วยงาน องคก์ ร หรือสถาบนั ที่มีผลงานดา้ นการรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา ใหค้ าแนะนาในการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาแก่สถานศึกษานา ร่องและแจง้ ใหค้ ณะกรรมการขบั เคล่ือนทราบ มาตรา ๓๙ สถานศึกษานาร่องจะพน้ จากการเป็นสถานศึกษานาร่องในกรณี ดงั ต่อไปน้ี (๑) สถานศึกษานาร่องร้องขอต่อคณะกรรมการขบั เคล่ือน และคณะกรรมการ ขบั เคล่ือนใหค้ วามเห็นชอบ (๒) คณะกรรมการขบั เคล่ือนมีมติใหพ้ น้ เพราะสถานศึกษานาร่องแห่งน้นั ไม่ สามารถดาเนินการใหเ้ ป็นตามวตั ถุประสงคข์ องพ้ืนที่นวตั กรรมการศึกษา หรือไม่ปฏิบตั ิตาม เง่ือนไขในการเขา้ ร่วมเป็นสถานศึกษานาร่อง (๓) ครบกาหนดระยะเวลาตามเง่ือนไขในการเขา้ ร่วมเป็ นสถานศึกษานาร่อง และไม่ประสงค์จะเป็ นสถานศึกษานาร่ องต่อไป (๔) กรณีอืน่ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกาหนด
ในการพิจารณาตาม (๑) และ (๒) ใหค้ ณะกรรมการขบั เคล่ือนรับฟังความคิดเห็น จากนกั เรียน ผปู้ กครอง ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ในสถานศึกษานาร่อง และคณะกรรมการ สถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน และจะตอ้ งคานึงถึงผลกระทบต่อนกั เรียนดว้ ย ใหค้ ณะกรรมการขบั เคลื่อนกาหนดเงื่อนไขใหส้ ถานศึกษานาร่องปฏิบตั ิเพื่อไม่ให้ นกั เรียนและครูและบคุ ลากรทางการศึกษาไดร้ ับผลกระทบจากการพน้ จากการเป็นสถานศึกษานา ร่อง หมวด ๕ การประเมนิ ผล มาตรา ๔๐ ใหม้ ีการประเมินผลการดาเนินงานและการบริหารจดั การพ้นื ที่ นวตั กรรมการศึกษาตามมาตรา ๑๕ (๔) ทกุ สามปี โดยคณะผปู้ ระเมินอสิ ระซ่ึง คณะกรรมการนโยบายแต่งต้งั และใหจ้ ดั ทารายงานเสนอคณะกรรมการนโยบาย ในกรณีท่คี ณะผปู้ ระเมินอสิ ระเห็นว่าผลการดาเนินงานและการบริหารจดั การยงั ไม่เป็นไปตามวตั ถุประสงคต์ ามมาตรา ๕ แต่ยงั อยใู่ นวิสัยทจี่ ะปรับปรุงได้ ก็ใหเ้ สนอรายงานต่อ คณะกรรมการนโยบายพร้อมท้งั ขอ้ เสนอแนะใหป้ รับปรุง และใหค้ ณะกรรมการนโยบายแจง้ ให้ คณะกรรมการขบั เคลื่อนปรับปรุงตามขอ้ เสนอแนะภายในเวลาทกี่ าหนด ในกรณีที่คณะผปู้ ระเมินอิสระเห็นว่าผลการดาเนินงานและการบริหารจดั การยงั ไม่สามารถดาเนินการใหเ้ ป็นไปตามวตั ถุประสงคต์ ามมาตรา ๕ ได้ ใหค้ ณะผปู้ ระเมินอสิ ระ เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายใหม้ ีการยบุ เลิกพ้ืนท่ีนวตั กรรมการศึกษาน้นั มาตรา ๔๑ ในกรณีที่คณะกรรมการนโยบายเห็นว่าพ้ืนทนี่ วตั กรรมการศกึ ษาใดมี เหตุควรยบุ เลิกเนื่องจากไม่อาจดาเนินการใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคต์ ามมาตรา ๕ ได้ ให้ คณะกรรมการนโยบายเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพ่ือยุบเลิกพ้นื ท่ีนวตั กรรมการศึกษาน้นั ตาม เง่ือนไขและเงื่อนเวลาทก่ี าหนด ในการน้ี ใหก้ าหนดมาตรการคุม้ ครองสิทธิของนกั เรียนและครู และบุคลากรทางการศึกษาเพ่อื ไม่ใหไ้ ดร้ ับผลกระทบจากการยบุ เลิกพ้นื ทนี่ วตั กรรมการศึกษา ดว้ ย
การยบุ เลิกพ้นื ทนี่ วตั กรรมการศึกษาตามวรรคหน่ึง ใหป้ ระกาศในราชกิจจา นุเบกษา เม่ือมีการยบุ เลิกพ้นื ทีน่ วตั กรรมการศึกษาแลว้ ใหส้ ถานศึกษานาร่องในพ้นื ท่ี นวตั กรรมการศึกษาน้นั พน้ จากการเป็นสถานศึกษานาร่อง และกลบั คืนสู่สถานะสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานทเี่ ป็นอยแู่ ต่เดิมตามเงื่อนไขและเงื่อนเวลาทกี่ าหนดตามวรรคหน่ึง มาตรา ๔๒ ในกรณีทม่ี ีหลกั ฐานเชิงประจกั ษจ์ ากรายงานของคณะผปู้ ระเมินอิสระ วา่ การดาเนินงานและบริหารจดั การพ้นื ที่นวตั กรรมการศึกษามีผลสัมฤทธ์ิตามวตั ถุประสงคท์ ่ี กาหนดในมาตรา ๕ ใหค้ ณะกรรมการนโยบายดาเนินการตามมาตรา ๑๕ (๗) และ (๘) เพ่อื ใหม้ ี การขยายผลสมั ฤทธ์ิดงั กล่าวไปใชใ้ นการจดั การศึกษาของสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานอนื่ บทเฉพาะกาล มาตรา ๔๓ ในวาระเริ่มแรก ใหค้ ณะกรรมการนโยบายพ้ืนทีน่ วตั กรรมการศึกษา ประกอบดว้ ยกรรมการตามมาตรา ๑๐ (๑) (๒) และ (๓) ปฏิบตั ิหนา้ ทีค่ ณะกรรมการนโยบาย พ้นื ทีน่ วตั กรรมการศึกษาตามพระราชบญั ญตั ิน้ีไปพลางก่อนจนกวา่ จะมีกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิ ตามมาตรา ๑๐ (๔) ซ่ึงตอ้ งไม่เกินหน่ึงร้อยแปดสิบวนั นบั แต่วนั ที่พระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ใหเ้ ลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้นั พน้ื ฐานเป็นกรรมการและเลขานุการ และใหผ้ อู้ านวยการสานกั งานบริหารพ้นื ทนี่ วตั กรรมการศึกษาและผแู้ ทนกรมส่งเสริมการ ปกครองทอ้ งถิ่น เป็ นผชู้ ่วยเลขานุการ ใหม้ ีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพ้นื ที่นวตั กรรมการศึกษาภายในหกสิบ วนั นบั แต่วนั ท่ีพระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั มาตรา ๔๔ ใหพ้ ้ืนที่นวตั กรรมการศึกษาท่ีไดม้ ีการจดั ต้งั โดยประกาศกระทรวง ศึกษาธิการอยใู่ นวนั ก่อนวนั ท่พี ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั เป็นพ้ืนท่ีนวตั กรรมการศกึ ษาทีไ่ ด้ จดั ต้งั ข้ึนตามพระราชบญั ญตั ิน้ี
มาตรา ๔๕ ในวาระเริ่มแรก ใหค้ ณะกรรมการขบั เคลื่อนพ้นื ทน่ี วตั กรรม การศึกษาจงั หวดั ของพ้นื ท่ีนวตั กรรมการศึกษาตามมาตรา ๔๔ ซ่ึงดารงตาแหน่งอยใู่ นวนั ก่อน วนั ทพี่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีคณะกรรมการขบั เคล่ือนพ้ืนทนี่ วตั กรรมการศึกษา ตามพระราชบญั ญตั ิน้ีไปพลางก่อน จนกวา่ จะไดม้ ีการแต่งต้งั คณะกรรมการขบั เคลื่อนพ้ืนท่ี นวตั กรรมการศึกษาตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา ๔๖ ใหส้ ถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานทเ่ี ป็นสถานศึกษานาร่องตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการอยใู่ นวนั ก่อนวนั ท่ีพระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั เป็นสถานศึกษานาร่องตาม พระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา ๔๗ ในระหวา่ งท่ยี งั ไม่มีหลกั เกณฑต์ ามมาตรา ๒๘ วรรคสอง ให้ สถานศึกษานาร่องในสงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ไดร้ ับเงินอุดหนุน ทวั่ ไปเพื่อพฒั นานวตั กรรมการศึกษาเป็นจานวนไม่นอ้ ยกวา่ เงินอุดหนุนรายการค่าใชจ้ ่ายในการ จดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานและค่าใชจ้ ่ายดาเนินงานท่สี ถานศึกษาแห่งน้นั ไดร้ ับก่อนเป็นสถานศึกษา นาร่อง มาตรา ๔๘ ในกรณีทสี่ ถานศึกษานาร่องตอ้ งดาเนินการหรือร่วมดาเนินการใน โครงการ กิจกรรม หรือภารกิจใดท่ีไม่สอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคต์ ามมาตรา ๕ หรือส่งผล กระทบต่อการเรียนการสอน อยใู่ นวนั ก่อนวนั ทีพ่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ใหผ้ ูอ้ านวยการ สถานศึกษานาร่องแจง้ ต่อคณะกรรมการขบั เคลื่อนพ้ืนท่ีนวตั กรรมการศึกษาเพื่อขอยกเวน้ ไม่ ดาเนินการหรือร่วมดาเนินการในโครงการ กิจกรรม หรือภารกิจน้นั ท้งั น้ี หากคณะกรรมการ ขบั เคลื่อนพ้ืนท่ีนวตั กรรมการศกึ ษาพจิ ารณาแลว้ เห็นควรใหย้ กเวน้ ก็ใหม้ ีหนงั สือแจง้ ไปยงั หน่วยงานเจา้ ของโครงการ กิจกรรม หรือภารกิจน้นั มาตรา ๔๙ ภายในหกสิบวนั นบั แต่วนั ท่พี ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการส่ังใหข้ า้ ราชการ พนกั งานราชการ หรือลูกจา้ งของ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐานตามทเ่ี ห็นว่าจาเป็นและเหมาะสม มาปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ในสานกั งานบริหารพ้นื ทนี่ วตั กรรมการศึกษาตามพระราชบญั ญตั ิน้ี
ในระหวา่ งท่ียงั ไม่มีการดาเนินการตามวรรคหน่ึง ใหเ้ ลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาข้นั พ้นื ฐานส่ังใหข้ า้ ราชการ พนกั งานราชการ หรือลกู จา้ งของสานกั พฒั นานวตั กรรม การจดั การศึกษา ในสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน มาปฏิบตั ิหนา้ ท่ใี นสานกั งาน บริหารพ้นื ทนี่ วตั กรรมการศึกษาตามพระราชบญั ญตั ิน้ีไปพลางก่อน มาตรา ๕๐ ในวาระเริ่มแรก ใหส้ านกั งบประมาณจดั สรรงบประมาณใหแ้ ก่ สานกั งานศึกษาธิการจงั หวดั สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ เพอ่ื ปฏิบตั ิการตาม พระราชบญั ญตั ิน้ีในพ้นื ที่นวตั กรรมการศึกษา มาตรา ๕๑ ก่อนพระราชบญั ญตั ิน้ีจะสิ้นผลใชบ้ งั คบั อยา่ งนอ้ ยหน่ึงปี ให้ คณะกรรมการนโยบายพ้ืนที่นวตั กรรมการศึกษากาหนดมาตรการใหห้ น่วยงานท่เี ก่ียวขอ้ ง คณะกรรมการขบั เคลื่อนพ้ืนทน่ี วตั กรรมการศึกษา และสถานศึกษานาร่องเตรียมความพร้อมใน การสิ้นสุดการเป็นพ้ืนทีน่ วตั กรรมการศึกษา และกาหนดหลกั เกณฑก์ ารคุม้ ครองสิทธิเพ่อื ไม่ให้ นกั เรียนและครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาไดร้ ับผลกระทบจากการทพี่ ระราชบญั ญตั ิน้ีสิ้นผลใช้ บงั คบั เม่ือพระราชบญั ญตั ิน้ีสิ้นผลใชบ้ งั คบั แลว้ ใหส้ ถานศึกษานาร่องพน้ จากการเป็น สถานศึกษานาร่อง และกลบั คืนสู่สถานะสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐานท่ีเป็ นอยแู่ ต่เดิม ผรู้ ับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิฉบบั น้ี คือ โดยทสี่ มควรตอ้ งพฒั นาการจดั การศึกษาข้นั พ้นื ฐานอนั เป็นรากฐานสาคญั ของการพฒั นาคนไทย ใหม้ ีคุณภาพ มคี วามใฝ่ รู้ มี ความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถในการส่ือสาร สามารถอยู่และทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นซ่ึงมี ความแตกต่างหลากหลายได้ มีความรู้เท่าทนั โลก และมีทกั ษะในการประกอบอาชีพตามความ ถนดั ของผเู้ รียนแต่ละคน และใหร้ ัฐ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ภาคเอกชน และภาคประชา สงั คม ร่วมกนั พฒั นาคุณภาพและประสิทธิภาพและลดความเหลื่อมล้าในการจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานไดอ้ ยา่ งแทจ้ ริง สมควรกาหนดใหม้ ีพ้ืนที่นวตั กรรมการศึกษาซ่ึงเป็นพ้นื ที่ปฏิรูปการ บริหารและการจดั การการศึกษาข้ึนเพ่อื สนบั สนุนการสร้างนวตั กรรมการศกึ ษาอนั เป็นการนา ร่องในการกระจายอานาจและใหอ้ ิสระแก่หน่วยงานทางการศึกษาและสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ใหเ้ กิดการพฒั นาคุณภาพและประสิทธิภาพและลดความเหล่ือมล้า รวมท้งั มีการขยายผล นวตั กรรมการจดั การเรียนการสอนและวิธีการปฏิบตั ิทดี่ ีไปใชใ้ นสถานศึกษาอนื่ จึงจาเป็นตอ้ ง ตราพระราชบญั ญตั ิน้ี ปณุ ิกา/จดั ทา ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ปริญสินีย/์ ตรวจ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๖/ตอนที่ ๕๖ ก/หนา้ ๑๐๒/๓๐ เมษายน ๒๕๖๒
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: