สีเคมลี ะคะ มันดยี งั ไงคะ ผมว่าไมเ่ หน็ ต้องท�ำ ไงสีเคมี สีธรรมชาตนิ า่ จะดีกวา่ และเป็นมิตรไมไ่ ดเ้ อาไปสอบก็มขี ้อดีนะคะ ตอ่ สิ่งแวดล้อมด้วย ซะหนอ่ ย กรมหม่อนไหมอมื ... นั่นน่ะสิ 51
เพราะเมื่อนำ�มาผสมจนได้สีท่ีต้องการ แล้ว วิธีการ ย้อมทำ�ได้ง่ายและสะดวก สีท่ีย้อมได้จะมีความสด สวยและมีความทนทานของสีดี การผสมสีก็มี ความสำ�คัญมากในการย้อมเพราะถ้าเรามีหลักในการ ผสมสีแล้วจะทำ�ให้เราสามารถผสมให้ได้สีที่ต้องการ ในการผสมสียอ้ มควรเลือกสปี ระเภท กรมหม่อนไหมเดยี วกันและมีวธิ กี ารยอ้ มแบบเดยี วกนั มคี ณุ สมบัตใิ นการดูดซมึ เหมือนกนั เพื่อป้องกันการยอ้ มสดี า่ ง 52
กรมหม่อนไหมหม้ออะไรฮะ 53
หมอ้ เปน็ อปุ กรณ์ในการยอ้ มสคี ะ ถา้ ไมเ่ ปน็ กะทะใบบวั ก็ต้องเป็นหม้อเคลือบ หรือหม้อสแตนเลส แล้วก็ ไม้กวนผ้า ก็ต้องเลือกให้มีขนาดพอดีกับน้ำ�หนัก เส้นไหม เพราะเวลาท่ีไหมเปียกนำ้�ก็จะหนักเพราะ ฉะนั้น ไม้กวนก็ต้องใหญ่ แล้วก็มีกะละมัง หรือ กรมหมอ่ นไหมถังพลาสติกสำ�หรับล้างเส้นไหมก่อนย้อมและ หลังยอ้ ม สว่ นเตาไฟจะเป็นเตาฟืนหรอื เตาแก๊สก็ได้ 54
ตอนแรกคดิ วา่ ไมเ่ ยอะ เยอะเหมือนกนั แหะ ขนั้ ตอนตอ่ มากต็ อ้ งเตรยี มเปลอื กไมห้ รอื รากไม้ หรือสีที่เราต้องการย้อม ถ้าเป็น กรมหม่อนไหมพวกเปลือกไม้ หรือรากไม้ หรือใบไม้ ก็ต้องสบั ให้ละเอยี ด หรอื ต�ำ ให้ละเอยี ด แล้วน�ำ มาใส่ในหมอ้ ยอ้ มเติมน้ำ�ใหท้ ว่ ม และกะใหน้ �ำ้ ทว่ มเสน้ ไหมดว้ ย กอ่ นยอ้ ม แช่น้�ำ ท้งิ ไว้ ๑ คนื 55
พคี่ �ำ แก้วจะยกตัวอยา่ ง การย้อมไหมด้วยคร่งั ซ่งึ ใหส้ ีแดงนะคะ การยอ้ มไหมดว้ ยครงั่ เรม่ิ ดว้ ยการบดครงั่ ทต่ี ากแหง้ ไว้ ใหล้ ะเอยี ด กรมหมอ่ นไหมแช่ผงครง่ั ในนำ้�ประมาณ ๓ วนั แลว้ กรอง เตรียมนำ้�มะขามเปียก เติมลงในน�ำ้ สี เตมิ นำ้�มะกรดู แล้วชิมให้มีรสเปรยี้ วหวาน จงึ นำ� ไหมลงยอ้ ม ตม้ ใหเ้ ดอื ดจนสตี ดิ สม�ำ่ เสมอ จะไดเ้ สน้ ไหมสแี ดง 56
หนรู ูแ้ ลว้ ท�ำ ไมผา้ ไหมถึงแพง กรมหม่อนไหมเพราะไร !เว่อร์นายณเดช อกี แล้ว อกี แลว้ 57
กรมหม่อนไหมก็ตงั้ หลายข้นั ตอนขนาดน้ี ใช้ทัง้ เวลา แรงงาน และเงนิ จะไมใ่ หแ้ พงไดไ้ งละ จรงิ ไมค๊ ะครู จรงิ จงั ถกู ตอ้ งจะ้ ผา้ ไหมถงึ มรี าคาแพงไง เพราะมนั ไมไ่ ดท้ �ำ กนั งา่ ยๆ ไปดตู อ่ เถอะ ตกใจหมด 58
กรมหม่อนไหมหลงั จากที่แชเ่ปลอื กไม้ หรือใบไม้สับแล้ว ๑ คนื ตอ่ ไปนกี่ เ็ป็น ข้ันตอนสุดท้ายก่อนได้เส้นไหมสีสวยไปทอผ้า พอวันรุ่งขึ้น เราก็นำ�มาต้มให้เดือดประมาณ ๑ ช่ัวโมง หรือหมั่นดูว่านำ้�สี ในหมอ้ ยอ้ มเขม้ ขน้ ไดท้ หี่ รอื ยงั ถา้ ไดแ้ ลว้ กใ็ หก้ รองเอาแตน่ ำ้�สี เพอ่ื ไปใชย้ อ้ มเสน้ ไหม จากนน้ั น�ำ เสน้ ไหมทที่ �ำ ความสะอาดแลว้ ต้มในนำ้�สีย้อมประมาณ ๓๐-๔๕ นาที แต่ก่อนที่เราจะนำ� เส้นไหมลงย้อมควรแช่น�้ำ ให้เปียก แล้วบิดให้หมาดก่อนย้อม ทุกครั้ง เพราะจะทำ�ให้เส้นไหมสามารถดูดสีนำ้�ย้อมได้ดีและ เร็วข้ึนและท�ำ ให้สตี ดิ ท่เี สน้ ใยได้ง่าย และสมำ่�เสมอ 59
เม่ือเราได้สีท่ีพอใจแล้ว ก็ยกหม้อลง นำ�เส้นไหมที่ผ่านการย้อมสีบิดให้หมาดกระตุก ๒-๓ ครั้ง ผึง่ ใหแ้ ห้งจากนน้ั น�ำ เสน้ ไหมมาล้าง ในน�ำ้ สะอาดจนน�้ำ ใสแลว้ น�ำ ไปสะบดั โดยใชแ้ ขน สองขา้ งดงึ เสน้ ไหมแลว้ กระตกุ ๒-๓ ครง้ั นำ�ไป ตากในท่ีร่มให้แห้ง (การย้อมแบบนี้เรียกว่า ย้อมร้อน) ยังมีการย้อมแบบท่ีเรียกว่าย้อมเย็น กรมหมอ่ นไหมอกี นะคะการยอ้ มเยน็ นน้ั จะนยิ มยอ้ มในหมอ้ ดนิ ข้ันการเตรียมสีก็เหมือนกับย้อมร้อนแหละค่ะ แตไ่ ม่ตอ้ งนำ�มาตม้ ให้เอาเสน้ ไหมใส่ลงไปเลย จากน้ันก็ ใช้มือคน บีบ จนกระท่ังได้สีตาม ต้องการ หรอื จะหมักไวเ้ พือ่ ให้สที ไี่ ด้เข้มขึ้นก็ได้ เหมือนกัน (การย้อมเย็นนิยมใช้กับการย้อม ดว้ ยคราม) เปน็ อนั วา่ เราไดเ้ สน้ ไหมส�ำ หรบั จะน�ำ ไปทอผา้ แลว้ ไมไ่ ด้ทำ�กันงา่ ยๆ เลยนะคะเน้ีย 60
กรมหม่อนไหมเส้นไหมทย่ี ้อมด้วยสีเคมี เส้นไหมที่ย้อมดว้ ยสีธรรมชาติ 61
กรมหม่อนไหม สีจะยึดติดกับผิวเส้นใยได้ดีมีความ สม่ำ�เสมอตลอดเส้น และที่สำ�คัญ คือ สีไม่ตกคะ่ อย่างของเราทน่ี ี่ เราเลือกใช้สี และปรมิ าณทเี่ หมาะสมกบั เสน้ ใย ขน้ั ตอน การย้อมก็ต้องดูให้ถูกต้องกับชนิดสีด้วย เราควบคมุ ทง้ั อณุ หภมู ิ เวลาและการเตมิ สาร ชว่ ยยอ้ มค่ะ 62
อะไรฮะ สารชว่ ยย้อม กรมหมอ่ นไหมเปน็ สารทีช่ ว่ ยทำ�ใหส้ ีตดิ กับ เส้นไหมได้ดีขนึ้ นะ่ คะ 63
ผใู้ หญเ่ ลิศเข้ามา เสร็จพอดคี ะ่ ผใู้ หญ่ เป็นไงคำ�แกว้ อา้ วเหรอ อยู่กนิ ข้าว ดกู นั ไปถงึ ไหนแลว้ กรมหม่อนไหมเย็นกนั กอ่ นสิครู 64
เอา้ ได้ๆ ไหนเป็นไงเด็กๆ การทำ�ผ้าไหม ยากไม๊ กรมหมอ่ นไหมสดุ สดุ เลยครบั หลายขัน้ ตอนยากมากค่ะ ดว้ ยครบั ยากมากฮะครบั ฮา ฮา ฮา แต่ของไทยๆ แบบน้ี เราตอ้ งชว่ ยกนั ดูและสืบทอด ตอ่ นะ เอาไวม้ าศึกษาใหม่นะ 65
งน้ั ผมขอตวั กลบั ก่อนนะครบั ผใู้ หญ่ ขอบคุณมากท่เี ปน็ ผู้ใหญใ่ จดใี ห้ เจา้ สามตัวนีไ่ ดค้ วามรู้เพม่ิ ขึ้นนะครับ สวัสดคี ่ากลบั ดๆี ๆ ล่ะ สวัสดีกรมหมอ่ นไหมครับโชคดี ครับ คะ่ 66
กรมหม่อนไหม“ผ้าไหมไทย ผา้ ไทยทคี่ วรอนรุ ักษ์” 67
กรมหมอ่ นไหม 68
การทอผา้ ไหม กระบวนการและขน้ั ตอนการเตรียมไหมเส้นพุ่ง หลงั จากการฟอกไหมดบิ แลว้ การเตรยี มไหมส�ำ หรบั เสน้ พงุ่ แบบธรรมดา ก็มีกรรมวิธีเหมือนกันกับการเตรียมเส้นยืนทุกประการโดยเฉพาะกระบวนการ ย้อมสีสามารถนำ�ไจไหมมาย้อมเป็นสีๆ แบบเดียวกันกับเส้นยืนเก็บไว้ใช้เพียง แต่ไม่ต้องทำ�ไหมท่ีย้อมเสร็จแล้วไปลงแป้ง สามารถนำ�ไจไหมมาป่ันเข้าอักเก็บ ไวส้ ำ�หรับปนั่ เขา้ หลอดเล็กเพ่ือบรรจกุ ระสวยส�ำ หรบั ทอผา้ ไดเ้ ลย กรมหมอ่ นไหม ส่วนการเตรยี มเส้นพ่งุ อีกแบบหนึง่ ไดแ้ ก่ การเตรียมเสน้ พงุ่ สำ�หรับการ ทำ�มัดหมี่ ก็คือ ต้องนำ�ไหมท่ีฟอกแล้วมาปั่นเข้าอักหรือหลอดแล้วจึงจัดไหม คล้องกับหลักค้นมัดหม่ีซ่งึ มีลกั ษณะเปน็ เสากลมเลก็ ๆ ๒ หลักสำ�หรบั วางให้ ตั้งตรงระยะห่างระหว่างเสาสองเสาน้ีเท่ากับความกว้างของหน้าผ้าที่เรากำ�หนด ข้ึนการคล้องไหมน้ีจะทำ�เป็นชั้น แล้วจึงมัดเส้นไหมตามชั้นน้ันตามท่ีลวดลาย กำ�หนด 69
การมัดคหร้ังมแ่ี รกต้องมัดไหมขาวเพ่ือกันส่วนที่จะเป็นสีขาว, เหลือง,สีคราม,เขียว เอาไว้ปล่อยส่วนที่จะเป็นสีแดงและดำ� ไว้แล้วจึงนำ�ไปย้อมสีแดงด้วยคร่ัง เม่ือย้อมสีแดงแล้วต้อง มัดส่วนที่จะเป็นสีแดงเอาไว้แล้วแก้ส่วนที่เป็นสีเหลืองและ สีเขียวออกมาแล้วนำ�ไปย้อมสีเหลืองด้วยไม้ประโหดหรือไม้ แกแลเมื่อย้อมเหลืองแล้วต้องมัดส่วนที่เป็นสีเหลืองเก็บไว้ อีกแก้ส่วนท่ีเป็นสีครามออกมาแล้วจึงนำ�ไปย้อมครามนำ�ไป กรมหม่อนไหมลา้ งให้สะอาดแก้เชือกออกมาใหห้ มดหวั มัดหมกี่ ็จะมสี คี รบท้ัง ๕ สี คอื แดง,เหลอื ง,เขียว,คราม,ด�ำ (ไมน่ ับสีขาว) เมื่อได้หวั มัดหมี่แล้วต้องนำ�เข้าระวิงเพ่ือปั่นเข้าหลอดตามลำ�ดับ เก็บไว้ ทอเสน้ พุ่งเป็นผ้ามดั หมตี่ อ่ ไป การป่นั เข้าอักหรอื หลอด เม่ือลงแป้งแล้วเส้นไหมจะถูกนำ�ไปป่ันเข้าอักหรือหลอดต่างๆ เพ่ือ สะดวกในการนำ�มาเรยี งส�ำ หรบั ดงึ หรอื ท�ำ เส้นยนื ตอ่ ไป การลงแปง้ เม่ือไหมเส้นยืนถูกย้อมสีเสร็จจะถูกนำ�ไปตากให้แห้งสนิทแล้ว นำ�มาลงแป้ง (ชาวบ้านเรียกว่าให้ข้าว) เหตุที่ต้องลงแป้งหรือให้ข้าวเพราะ ต้องการให้เส้นยืนมีความเหนียวที่พอดี ไม่เป็นขุยขาดง่ายเม่ือเวลาทอ วิธีการให้ข้าวแบบชาวบ้านก็คือ การนำ�เอาข้าวสุกที่หุงค้างคืนมาตำ�ให้ ละเอียดแล้วผสมน้ำ� อย่าให้ข้นมากนักแล้วกรองเอาแต่นำ้� จึงนำ�เส้นไหม ที่ย้อมสีอย่างดีแล้วมาจุ่มแช่ให้ทั่วแล้วกระตุกตากจนแห้งสนิทเหตุที่ต้องใช้ ข้าวสุกค้างคืนเพราะมีความเหนียวกำ�ลังพอดี หากใช้ข้าวที่หุงใหม่จะมี ความเหนียวมากท�ำ ใหเ้ ส้นไหมแตล่ ะเส้นตดิ กันกระตุกยากตอ้ งใช้ แรงมาก 70
การคดั เส้นยนื ต้องนำ�ไหมที่ป่ันอักหรือหลอดมาเรียงกันแล้วดึงให้คล้องกับหลัก คัดเส้นยนื ซึง่ มีลกั ษณะคล้ายคราดหงายทั้ง ๒ ข้างคล้องไปคล้องมาโดยท่ี ปลายทงั้ ๒ ขา้ ง ของหลกั จะมหี ลกั พเิ ศษสำ�หรบั พลกิ ไหมใหจ้ ดั ลำ�ดบั เรยี งกนั เรียกว่า สอดดาม การคัดเส้นยืนมีจำ�นวนรอบเป็นตัวกำ�หนดความกว้าง ของหน้าผ้าโดยมากถ้าทำ�เต็มฟืมจะมีจำ�นวนเส้นยืนประมาณ ๒,๐๐๐ เส้น ขนาดกว้างของหนา้ ผ้าประมาณ ๑ เมตร กรมหมอ่ นไหม เสน้ ไหมที่ฟอกเสร็จแลว้ จะถูกแบ่งเป็น ๒ ชนดิ คือเส้นไหมส�ำ หรับท�ำ เส้นยืนและเส้นไหมสำ�หรับทำ�เส้นพุ่งโดยปกติไหมเส้นยืนจะมีขนาดเล็กกว่า เส้นพุง่ เล็กน้อยและไหมเส้นยืนจะถกู ตีเกลยี วแนน่ กวา่ ไหมเสน้ พุ่ง 71
การสอดฟันหวี การสอดฟันหวี คือ ข้ันตอนที่ต่อจากการคัดเส้นยืนแล้วต้องนำ�ไหม เสน้ ยนื แตล่ ะเส้นมาสอดในชอ่ งฟนั ฟืมให้ครบหมดทุกเส้น โดยใช้คนสองคน คนหนงึ่ จบั ปอยไหมสง่ ใหอ้ กี คนทถี่ อื ไมต้ ะขอคอยคลอ้ งตามลำ�เสน้ ยนื ทม่ี ดี า้ ม เป็นตัวก�ำ หนดการถกั ตะกอส�ำ หรับเปน็ ตะกอเนื้อผา้ เมอ่ื สอดฟนั หวเี สรจ็ แลว้ ตอ้ งยา้ ยเสน้ ยนื ทม่ี ว้ นไวก้ บั หวั มว้ นไปจดั ลงบนก่ี แลว้ ปลายอกี ดา้ นหนง่ึ ของเสน้ ยนื จะถกู มดั ไวก้ บั ไมผ้ สม (ไมส้ �ำ หรบั มว้ นผา้ ทที่ อ เสร็จแล้ว)ส่วนหัวม้วนก็จะถูกมัดดึงกับกี่ด้วยเช่นกันทำ�ให้เส้นยืนมีความตึง กรมหม่อนไหมแขวนอยบู่ นกแี่ ลว้ คดั เสน้ ยนื ดว้ ยการเลอื กเสน้ ดว้ ยไมเ้ตรยี ม ถา้ เปน็ ผา้ ๒ ตะกอ ก็เลือกเส้นยืนเป็นยกหนึ่งเส้นข่มหน่ึง ถ้าเป็นผ้า ๓ ตะกอก็เลือกเส้นยืนยก ๒ ขม่ ๑ แลว้ จึงใช้เชือกคลอ้ งถกั เสน้ ยนื ให้เป็นตะกอเสรจ็ แลว้ จึงคล้องตะกอ กบั ไมเ้ หยียบข้างล่างเพอื่ เหยยี บทอผ้าต่อไป 72
วิธกี ารทอ ปัจจุบัน ถึงแม้ว่ายังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดบ่งบอกถึงต้นกำ�เนิดของ การทอผ้า แต่ก็สามารถเทียบเคียงกับหลักฐานอื่นๆ ซ่ึงมีความคล้ายคลึงกัน โดยมีเหตุผลหลายอย่างสนับสนุนแนวคิดท่ีว่า การทอผ้ามีวิวัฒนาการมาจาก การทำ�เชือก ทอเสอ่ื และการจักสาน โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งลายเชอื กทาบที่ปรากฏ ร่องรอยให้เห็นบนภาชนะดินเผา ซึ่งพบเป็นจำ�นวนมากตามแหล่งโบราณคดี กอ่ นประวตั ศิ าสตรส์ มยั หนิ ใหม่ เรอ่ื ยมาจนถงึ แหลง่ โบราณคดสี มยั ประวตั ศิ าสตร์ ด้วยเหตุนี้เอง จึงกล่าวได้ว่าการทอผ้าเป็นงานหัตถกรรมที่เก่าแก่ท่ีสุดในโลก กรมหมอ่ นไหมงานหนงึ่ หลักของการทอผา้ ก็คือการทำ�ให้เส้นด้ายสองกลุ่มขดั กนั โดยทั้งสอง พวกตั้งฉากกัน เส้นด้ายกลุ่มหน่ึงเรียกว่า ด้ายยืนและอีกกลุ่มหนึ่งเรียกว่า ด้ายพุ่ง ลักษณะของการขัดกันของด้ายพุ่งและด้ายยืน จะขัดกันแบบธรรมดา ทเ่ี รยี กวา่ ลายขดั หรอื อาจจะเพม่ิ เทคนคิ พเิ ศษเพอื่ ใหผ้ า้ มลี วดลาย สสี นั ทสี่ วยงาม แปลกตา 73
ขนั้ ตอนในการทอผ้าไหม ๑. สืบเสน้ ดา้ ยยืนเข้ากบั แกนม้วนดา้ ยยนื และรอ้ ยปลายด้ายแตล่ ะเส้น เขา้ ในตะกอแตล่ ะชดุ และฟนั หวี ดงึ ปลายเสน้ ดา้ ยยนื ทง้ั หมดมว้ นเขา้ กบั แกนมว้ น ผา้ อกี ดา้ นหน่ึง ปรับความตึงหย่อนให้พอเหมาะ กรอด้ายเข้ากระสวยเพ่อื ใช้เป็น ดา้ ยพุง่ ๒. เร่ิมการทอโดยกดเครื่องแยกหมู่ตะกอ เส้นด้ายยืนชุดท่ี ๑ จะถูก แยกออกและเกดิ ชอ่ งวา่ ง สอดกระสวยดา้ ยพงุ่ ผา่ น สลบั ตะกอชดุ ที่ ๑ ยกตะกอ ชุดที่ ๒ สอดกระสวยดา้ ยพุ่งกลับ ท�ำ สลับกนั ไปเร่อื ยๆ ๓. การกระทบฟันหวี (ฟืม) เมื่อสอดกระสวยด้ายพุ่งกลับก็จะกระทบ กรมหม่อนไหมฟันหวี เพื่อใหด้ า้ ยพุ่งแนบติดกนั ไดเ้นอื้ ผ้าทแี่ น่นหนา ๔. การเก็บหรือม้วนผ้า เม่ือทอผ้าได้พอประมาณแล้วก็จะม้วนเก็บใน แกนมว้ นผา้ โดยผอ่ นแกนดา้ ยยนื ใหค้ ลายออก และปรบั ความตงึ หยอ่ นใหมใ่ ห้ พอเหมาะ 74
สรุปกระบวนการผลิตผ้าไหม ๑. การปลูกหมอ่ น ๒. การเลยี้ งไหม ๓. การสาวไหม ๔. การเตรยี มเส้นไหม กรมหม่อนไหม - เตรียมเส้นยนื - เตรียมเส้นพงุ่ - การฟอกกาว - การย้อมสีเสน้ ไหม ๕. การทอผ้าไหม - ผา้ ไหม - แปรรปู ผลิตภณั ฑ์ 75
เคลด็ ลับ “การซักผา้ ไหม อย่างถกู วธิ ”ี ผ้าไหมเป็นเส้นใยธรรมชาติท่ีแปลกกว่าเส้นใยชนิดอ่ืน คือ กรมหมอ่ นไหมมีการปรับตัวได้ดีเวลาสวมใส่ ในฤดูหนาวถ้าสวมใส่แล้วจะอบอุ่น ในฤดรู อ้ นสวมใสแ่ ลว้ เยน็ สบาย นอกจากนี้ สงิ่ สกปรกตา่ งๆ เชน่ ฝนุ่ คราบเหงื่อไคล จะไม่เกาะติดแน่นกับเน้ือผ้า ดังน้ันการซักผ้าไหมจึง ไม่ต้องขยีแ้ รงมาก การซักผ้าไหม กระทำ�ได้ง่ายมาก โดยใช้น้ำ�ยาซักผ้าหรือ ผงซักฟอกใส่ลงในนำ้� คนให้ผงซักฟอกหรือนำ้�ยาซักผ้าเข้ากันดี น�ำ ผ้าไหมทีใ่ สแ่ ลว้ จมุ่ ลงในน�ำ้ ขยี้เบาๆ ตรงรอยเปื้อน บรเิ วณปกเสอื้ และบริเวณทส่ี กปรก สง่ิ สกปรกตา่ งๆ จะหลดุ ออกมา สา่ ยไปมาแลว้ บีบเบาๆ ไมค่ วรบดิ จนแห้ง บีบเบาๆ แล้วนำ�ผ้าไหมลงล้างในน้ำ�สะอาด ส่ายไปมาเปลี่ยน น้ำ�จนหมดฟอง นำ�ขน้ึ ตากบนไมแ้ ขวน ไมค่ วรบดิ เพราะจะท�ำ ใหผ้ า้ ไหม รดี ยาก วธิ ีการรีดผา้ ไหมท�ำ ไดง้ ่าย และสะดวก คอื เม่ือตากแห้งแล้ว น�ำ ผ้าไหมมาพรมน้�ำ ให้หมาดเกือบชุม่ ทงิ้ ไว้ประมาณ ๓๐ นาที จึงนำ�ไป รดี ได้ การรดี ใชเ้ ตารดี ไฟแรงปานกลางเพอื่ ใหผ้ า้ ไหมเรยี บ ทง้ั หมดเปน็ วิธีการซักรีดทสี่ ามารถท�ำ เองได้อยา่ งงา่ ยๆ และประหยัด 76
Search