Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๕

พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๕

Description: พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๕

Search

Read the Text Version

ราชกจิ จานเุ บกษา พระราชบญั ญตั ิ แกไ้ ขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยตุ ธิ รรม (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๕

พระราชบญั ญตั ิ แก้ไขเพมิ่ เติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๕ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นปี ที่ ๖๗ ในรัชกาลปัจจุบนั พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด เกลา้ ฯ ใหป้ ระกาศวา่ โดยทเี่ ป็นการสมควรแกไ้ ขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยตุ ิธรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญตั ิข้ึนไวโ้ ดยคาแนะนาและ ยนิ ยอมของรัฐสภา ดงั ต่อไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบญั ญตั ิน้ีเรียกวา่ “พระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพ่ิมเติมพระธรรมนูญ ศาลยตุ ิธรรม (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๕” มาตรา ๒[๑] พระราชบญั ญตั ิน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั เมื่อพน้ กาหนดสามสิบวนั นบั แต่วนั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป มาตรา ๓ ใหย้ กเลิกความในมาตรา ๑๓ แห่งพระธรรมนูญศาลยตุ ิธรรม และให้ ใชค้ วามต่อไปน้ีแทน “มาตรา ๑๓ ใหม้ ีอธิบดีผพู้ พิ ากษาภาค ภาคละหน่ึงคน จานวนเกา้ ภาค มสี ถาน ท่ีต้งั และเขตอานาจตามท่ีคณะกรรมการบริหารศาลยตุ ิธรรมกาหนดโดยประกาศในราชกิจจา นุเบกษา กบั ใหม้ ีรองอธิบดีผพู้ ิพากษาภาค ภาคละสามคน ในกรณีทม่ี ีความจาเป็นเพอ่ื ประโยชน์

ในทางราชการ คณะกรรมการบริหารศาลยตุ ิธรรมโดยความเห็นชอบของประธานศาลฎีกาจะ กาหนดใหม้ ีรองอธิบดีผพู้ พิ ากษาภาคมากกว่าสามคนแต่ไม่เกินหกคนกไ็ ด้ เม่ือตาแหน่งอธิบดีผพู้ พิ ากษาภาคว่างลง หรือเมื่อผดู้ ารงตาแหน่งดงั กล่าวไม่อาจ ปฏิบตั ิราชการได้ ใหร้ องอธิบดีผพู้ พิ ากษาภาคทีม่ ีอาวุโสสูงสุดเป็นผทู้ าการแทน ถา้ ผทู้ ี่มีอาวุโส สูงสุดไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ใหผ้ ทู้ ่มี ีอาวโุ สถดั ลงมาตามลาดบั เป็นผทู้ าการแทน ในกรณีทไี่ ม่มีผทู้ าการแทนตามวรรคสอง ประธานศาลฎีกาจะสง่ั ใหผ้ พู้ พิ ากษา คนหน่ึงเป็นผทู้ าการแทนก็ได้ ผพู้ ิพากษาอาวโุ สหรือผพู้ พิ ากษาประจาศาลจะเป็นผูท้ าการแทนในตาแหน่งตาม วรรคหน่ึงไม่ได”้ มาตรา ๔ ใหเ้ พ่ิมความต่อไปน้ีเป็นวรรคสองของมาตรา ๑๔ แห่งพระธรรมนูญ ศาลยตุ ิธรรม “ใหร้ องอธิบดีผพู้ พิ ากษาภาคเป็นผพู้ พิ ากษาในศาลท่อี ยใู่ นเขตอานาจดว้ ย โดยให้ มีอานาจตามท่กี าหนดไวใ้ นมาตรา ๑๑ วรรคหน่ึง (๒) และใหม้ ีหนา้ ทช่ี ่วยอธิบดีผพู้ พิ ากษาภาค ตามที่อธิบดีผพู้ ิพากษาภาคมอบหมาย” มาตรา ๕ ใหย้ กเลิกความใน (๓) ของมาตรา ๒๘ แห่งพระธรรมนูญศาลยตุ ิธรรม และใหใ้ ชค้ วามต่อไปน้ีแทน “(๓) ในศาลช้นั ตน้ ไดแ้ ก่ อธิบดีผพู้ พิ ากษาศาลช้นั ตน้ อธิบดีผพู้ พิ ากษาภาค ผู้ พิพากษา หวั หนา้ ศาล หรือรองอธิบดีผพู้ ิพากษาศาลช้นั ตน้ รองอธิบดีผพู้ ิพากษาภาค หรือผู้ พิพากษาในศาลช้นั ตน้ ของศาลน้นั ซ่ึงอธิบดีผพู้ ิพากษาศาลช้นั ตน้ อธิบดีผพู้ พิ ากษาภาค หรือผู้ พิพากษาหวั หนา้ ศาล แลว้ แตก่ รณี มอบหมาย” มาตรา ๖ ใหย้ กเลิกความใน (๓) ของมาตรา ๒๙ แห่งพระธรรมนูญศาลยตุ ิธรรม และใหใ้ ชค้ วามต่อไปน้ีแทน “(๓) ในศาลช้นั ตน้ ไดแ้ ก่ อธิบดีผพู้ พิ ากษาศาลช้นั ตน้ อธิบดีผพู้ พิ ากษาภาค รอง อธิบดีผพู้ ิพากษาศาลช้นั ตน้ รองอธิบดีผพู้ ิพากษาภาค หรือผพู้ ิพากษาหวั หนา้ ศาล แลว้ แต่กรณี” มาตรา ๗ ใหป้ ระธานศาลฎีการักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี

ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ ยง่ิ ลกั ษณ์ ชินวตั ร นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิฉบบั น้ี คือ เนื่องดว้ ยปริมาณงานตุลาการ และงานธุรการคดีของศาลยตุ ิธรรมไดเ้ พ่ิมมากข้ึนเป็นลาดบั แต่ผรู้ ับผดิ ชอบควบคุมดูแลงานของ ศาลยตุ ิธรรมในส่วนภูมิภาคมีอธิบดีผพู้ พิ ากษาภาคเพยี งคนเดียว ไม่มีผชู้ ่วยปฏิบตั ิราชการ ทาให้ ราชการของศาลยตุ ิธรรมไม่อาจดาเนินไปไดด้ ว้ ยความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เทา่ ทีค่ วร และปริมาณคดีทเ่ี พม่ิ มากข้ึนดงั กล่าวส่งผลต่อระยะเวลาในการพจิ ารณาพพิ ากษาคดี ของศาลช้นั ตน้ ทาใหก้ ารพิจารณาพพิ ากษาคดีของศาลช้นั ตน้ มีความล่าชา้ กระทบต่อการอานวย ความยตุ ิธรรมแก่ประชาชนและคู่ความในคดี ดงั น้นั เพอื่ ใหก้ ารบริหารจดั การคดีของศาล ยตุ ิธรรมเป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพเพ่ือประโยชน์ในการพิจารณาพิพากษา อรรถคดีใหเ้ ป็นไปโดยถูกตอ้ ง รวดเร็ว และเป็นธรรม สมควรแกไ้ ขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาล ยตุ ิธรรมโดยกาหนดตาแหน่งรองอธิบดีผพู้ ิพากษาภาคและอานาจหนา้ ที่ของอธิบดีผพู้ ิพากษา ภาคและรองอธิบดีผพู้ ิพากษาภาค จึงจาเป็นตอ้ งตราพระราชบญั ญตั ิน้ี ปริยานุช/ผจู้ ดั ทา ๓๐ เมษายน ๒๕๕๕ ปณตภร/ผตู้ รวจ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๕ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๙/ตอนที่ ๓๗ ก/หนา้ ๑/๒๗ เมษายน ๒๕๕๕