แหล่งเรียนรู้ตำบลเขาทราย ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ คำนำ ในปัจจุบันนี้เป็นโลกแห่งข้อมูลข่าวสารที่แพร่หลายทั่วถึงกันได้อย่างรวดเร็ว ไร้อาณาเขตขวางกั้น สภาพดังกล่าวมีส่วนกระทบถึงวิถีชีวิตของผู้คนพลเมืองโดยทั่วไป เพราะเป็นสภาพที่เอื้ออำนวยใน การรับและเชื่อมโยงเอาศาสตร์หรือภูมิปัญญาตะวันตกเข้ามาในการพัฒนาประเทศและพัฒนา ผลผลิต ตลอดจนการดำเนินชีวิต อย่างมิได้มีการปรับปนกับภูมิปัญญาไทยที่มีความเหมาะสมกับ สภาพท้องถิ่นที่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้ชุมชนชนบทประสบปัญหาดังที่กล่าวว่าชุมชนล่มสลาย อันมี ผลรวมไปถึงความทรุดโทรมของสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวาง การพยายามใช้กลไกลทางการศึกษา จากเงื่อนไขที่เปิดโอกาสให้มีการพัฒนาหลักสูตรตามความต้องการ ของท้องถิ่น เป็นช่องทางใน การประยุกต์เอาภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีจุดเด่น ที่สามารถพิสูจน์ตัวเองในการยืนหยัดอยู่รอดได้ ท่ามกลางกระแส การล่มสลายของชุมชนและการทรุดโทรมของสิ่งแวดล้อมดังกล่าว มาสู่ หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ในแนวทางของการคิดปฏิบัติจริง จากการประยุกต์ปรับปน ภูมิปัญญาชาวบ้านหรือภูมิปัญญาไทยกับปัญญาสากล เพื่อให้ผู้เรียนค้นพบคุณค่าภูมิปัญญาที่มีใน ท้องถิ่นที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตของชุมชน และสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างไม่มี ที่สิ้นสุด นามาซึ่ง ดุลยภาพที่สงบสันติสุขของบุคคล ชุมชนและชาติ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ วัดเขาทราย สารบัญ ๔ ๒๑ วัดสามัคคีธรรม (วัดเขาพระเหนือ) ๒๔ ๒๗ วัดศรีพรมจริยาวาส (วัดเขาพระใต้) ๓๐ ๓๑ วัดวังหินเพลิง ๓๒ ๓๔ ศูนย์พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดวังหินเพลิง ๓๙ ๔๕ วัดวังแดงใต้ ๖๖ ๗๐ แหล่งโบราณคดีบ้างวังแดง ๗๓ ๗๙ ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ ๘๔ ประวัติความเป็นมาประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ บุษบา อธิษฐาน นายสุเทพ เพ็งแจ้ง เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ พระอธิการสมพร คฺณยุตฺโต ผลิตภัญฑ์จากหญ้าแฝกหมวกทรงกุดโซ์ ผลิตภัญฑ์จากหญ้าแฝกหมวกทรงชาโนว์ โอ่งผลิตภัญฑ์จากหญ้าแฝก ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ วัดเขาทราย เมื่อครั้งอดีตเดิมวัดเขาทราย นั้นได้ตั้งอยู่ที่บริเวณหมู่บ้านวัง เดือนห้าแถวสถานีตำรวจภูธรอำเภอทับคล้อในปัจจุบันนี้ โดยได้มีการตั้งชื่อ วัดตามชื่อของหมู่บ้านนั้นว่าวัดวังเดือนห้า ซึ่งคณะพระสงฆ์และชาวบ้านได้ ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างกุฏิพระสงฆ์และศาลาการเปรียญรวมถึงสิ่งก่อสร้าง ของวัดไม่มากนัก วัดวังเดือนห้าได้ตั้งอยู่ในบริเวณที่ราบลุ่มของหมู่บ้านโดย มีคลองวังเดือนห้ามีน้ำไหลผ่านบริเวณวัด ทำให้วัดเกิดทำท่วมขังเป็นระยะ เวลาที่ยาวนานทุกปีในช่วงฤดูฝน ทำให้สิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัดเกิดเสีย หายจากน้ำท่วมและกระแสน้ำที่พัดผ่านบริเวณวัดและคลองวังเดือนห้า ต่อมา ไม่นานคณะสงฆ์พร้อมด้วยชาวบ้านได้ประชุมหาหรือกันถึงปัญหาดังกล่าว จึง มีมติกันว่าต้องทำการย้ายวัดกันพร้อมทั้งมองหาที่สร้างวัดแห่งใหม่ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ต่อจากนั้นไม่นานมากนักเจ้าอาวาสวัดได้เล็งเห็นความสำคัญของวัดใน อนาคตข้างหน้าอย่างมากจึงได้ตัดสินใจย้ายวัดเป็นครั้งที่สาม มาทำการ สร้างวัดอยู่ที่บริเวณเนินเขาสูงซึ่งติดกับภูเขา จากนั้นเจ้าอาวาสและชาวบ้านได้ เห็นพร้อมต้องกันว่าสมควรเปลี่ยนชื่อของวัดขึ้นมาใหม่จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น วัดเขาทราย จนมาถึงปัจจุบันนี้ พร้อมทั้งเริ่มมีการก่อสร้างและศาสนะสถาน ที่สำคัญ ต่างๆ เกิดขึ้นมา เช่นกุฎิพระสงฆ์ ศาลาการเปรียญ ฯลฯ ต่อจากนั้นวัดเขาทรายได้ดำเนินการจัดทำคำขออนุญาตประกาศตั้งวัด ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๔ เป็นต้นมา เจ้าอาวาสวัดเขาทรายได้เริ่มก่อสร้างและ ศาสนะสถานที่สำคัญ ต่างๆ เกิดขึ้นมา โดยเฉพาะการก่อสร้างโบสถ์ขึ้นมา และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๘ เขตวิสุงคามสีมามีความกว้าง ๔๐ เมตร มีความยาว ๘๐ เมตร ได้จัดงาน ผูกพัทธสีมาขึ้นในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๙ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ มีเจ้าอาวาสปกครองวัดเขาทรายจากการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน คือ รูปที่ ๑ พระครูพินิจธรรมคนี รูปที่ ๒ พระอธิการเดช เตชวโร รูปที่ ๓ พระมหาประเสริฐ ฐานเสฏโฐ พ.ศ. ๒๕๑๐ – ๒๕๒๓ (พระเทพวิมลเมธี) อดีตรองเจ้าคณะภาค ๔ รูปที่ ๔ พระมหาอดิศักดิ์ ฐิตวํโส (พระครูวิจิตรธรรมนาท) วัดพระพุทธบาทเขาทรายตั้งอยู่ที่ตำบลเขาทราย อำเภอทับคล้อ จังหวัด พิจิตร ซึ่งวัดดังกล่าวอยู่ใกล้กับสี่แยกเขาทรายริมทางหลวงหมายเลข ๑๑ ตากฟ้า – เขาทราย -วังทอง วัดและรอยพระพุทธบาทจำลองแห่งนี้ตั้งอยู่บน ภูเขาที่ไม่สูงมากนัก สามารถเดินขึ้นผ่านบันได ๓๓๓ ขั้น หรือจะขับรถยนต์ อ้อมไปทางด้านหลังก็สามารถขึ้นถึงบริเวณยอดเขาซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธบาทจำลอง ๔ รอย อยู่ในอาคารที่สร้างขึ้นอย่างสวยงามมีจุดชมวิว ให้มองเห็นวิว ๓๖๐ องศา จากบนยอดเขา ซึ่งในช่วงหน้าหนาวนี้ตอนเช้าและ ตอนเย็นอากาศจะเย็นสบาย ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ นอกจากนี้ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ หรือ พระ นอน ขนาดยาว ๓๑ เมตร สูง ๑๒ เมตร ให้นักท่องเที่ยวสายบุญได้กราบ ไหว้ขอพร นอกจากนี้ก็ยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ด้วย เช่นกัน เมื่อกราบไหว้พระพุทธบาทจำลองแล้วและนำให้เดินลงจากยอดเขา เพื่อจะได้สัมผัสธรรมชาติภายในวัด ซึ่งมีพื้นที่เป็นทุ่งโล่งที่เมื่อถึงฤดูฝนก็จะ มีดอกกระเจียวบานสะพรั่ง ให้ได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกของความประทับ ใจ ภายในบริเวณวัดปกคลุมไปด้วยต้นไม้ที่ยังคงเป็นธรรมชาติ ดังนั้นภายใน สวนป่า สวนสมุนไพร ของวัดพระพุทธบาทเขาทราย ซึ่งเป็นเขตอภัยทาน ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ สิ่งก่อสร้างและศาสนะสถานที่สำคัญ ต่างๆ วัดเขาทราย ๑. มณฑป เดิมเป็นมณฑป ขนาดเล็กมีการสร้างครอบเพิ่มเติม ๒. พระพุทธไสยาสน์ มีขนาดความยาว ๓๑ เมตร สูง ๑๒ เมตร ๓. พระสังกัจจายหรือหลวงพ่ออ้วนมีขนาดหน้าตัก ๘ เมตรสูง ๘ เมตร ๔. บันไดขึ้นยอดเขา เดิมมี ๓๑๙ ขั้นปัจจุบัน สร้างเพิ่มเติมนับได้ ๓๓๓ ขั้น ๕. รอยพระพุทธบาทจำลองประดิษฐานในมณฑปยาว ๒ เมตร กว้าง ๘๐ เซนติเมตร ๖. รอบมณฑปส่วนรอบนอกมีพระประจำวันพระเกจิคณาจารย์มณฑปรอบในมี พระพุทธรูป ๔๔ องค์ ๗. หลวงพ่อเงินทองไหลมาเทมาตลอดกาลอยู่บนยอดมณฑปขนาดสูง ๙ ศอกสร้างแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๕ ๘. พระพุทธสิหิงค์อยู่บนศาลาการเปรียญหลังใหญ่ ๙. หลวงพ่อโพธิ์ทองทำจากไม้โพธิ์พระคู่วัด ๒๔๗๔ศักดิ์สิทธิ์ให้โชคลาภ ๑๐. วิหารดิน หลวงพ่อโพธิ์ทองสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๖๐ ๑๑. พระสิวลี ๒ องค์ อยู่ยอดมหามณฑป ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ บันไดขึ้นยอดเขา บันไดขึ้นยอดเขาไปยังมณฑปยอดเขานั้น สร้างขึ้นได้ช่วงรอยต่อเจ้าอาวาสองค์ที่หนึ่ง กับองค์ที่สอง สร้างด้วยแรงจิตศัทธาในพระพุทธศาสนาและเป็นการจำลองมาจาก พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อเทศนาโปรดพระมารดา เมื่อตอนวัน ออกพรรษา บันไดถูกสร้างด้วยคอนกรีตมีสองช่องทางที่ในการเดินขึ้นมณฑปโดยแบ่ง เป็นช่องทางเดินขึ้นหนึ่งช่องทางช่องทางเดินลงหนึ่งช่องทางมีกำแพงแบ่งครึ่งกั้นกลางไว้ ส่วนด้านซ้ายและด้านขาวของทางขึ้นและทางลงมีกำแพงกั้นเพื่อป้องกันการผลัดตกจาก เขาและใช้เป็นที่จับและพยุงตัวในการเดินขึ้นและเดินลงระหว่างตีนเขาและยอดมณฑป ด้านบนของสันกำแพงนั้นได้มีการปั้นเป็นพระยานาคจำนวน ๓ ตัว ส่วนหัวพระยานาคอยู่ ที่ตีนเขา หางอยู่ที่ยอดมณฑปทาด้วยสีขาว ตั้งแต่ตีนเขาถึงยอดมณฑปนั้นได้มีการตั้ง ไฟฟ้าส่องสว่างเป็นระยะโดยที่หัวเขานั้นเป็นรูปหงษ์ ในการสร้างบันไดนั้นแต่เดิมได้การ สร้างไว้จำนวน ๓๑๙ ขั้น แต่ในปัจจุบันนี้ได้มีการสร้างเพิ่มเติมขึ้นอีกสามารถนับได้ จำนวน ๓๓๓ ขั้น บันไดดังกล่าวใช้ในการจัดงานบุญประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ ในช่วงวันออกพรรษาทุกปี ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ พระพุทธไสยาสน์ พระพุทธไสยาสน์ไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่าได้มีการจัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.ใด แต่มีการบอกเล่าจากผู้รู้ของผู้สูงอายุได้บอกเล่าต่อๆกันมาว่า พระพุทธไสยาสน์ได้จัดสร้างขึ้นระหว่างเจ้าอาวาสองค์แรกรอยต่อเจ้าอาวาส องค์ที่สอง ได้จัดสร้างด้วยการก่ออิฐฉาบปูนที่ตัวขององค์พระซึ่งตั้งอยู่บริเวณ เชิงภูเขาด้านซ้ายมือของบันไดทางขึ้นสู่ยอดเขา องค์พระที่ได้จัดสร้างขึ้นนั้นได้ มีขนาดความยาว ๓๑ เมตร สูง ๑๒ เมตร ทาด้วยสีเหลืองทองทั้งองค์พระ ได้หันพระหน้าไปทางหมู่บ้านเขาทรายและทุกวันที่ ๓๑ ธันวาคมของทุกปี ชาว บ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดกิจกรรมเป็นประจำทุกปี ห่มผ้าหลวงพ่อ พระพุทธไสยาสน์ เป็นการจัดกิจกรรมต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ อุโบสถ อุโบสถวัดเขาทรายไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่าได้มีการจัดสร้างขึ้น ระหว่างเจ้าอาวาสองค์ใดกันแน่ แต่จากคำบอกเล่าจากผู้สูงอายุในชุมชนบอก เล่าว่าอาจมีการสร้างขึ้นระหว่างเจ้าอาวาสที่หนึ่งและเจ้าอาวาสองค์ที่สอง โดย แต่พบหลักฐานจากที่แน่ชัดจากการดำเนินการจัดทำคำขออนุญาตประกาศตั้ง วัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๔ เป็นต้นมา เจ้าอาวาสวัดเขาทรายได้เริ่มก่อสร้าง โบสถ์เป็นทรงไทยประยุกต์ มีภาพวาดด้านหลังหน้าบันด้านบนของอุโบสถมี การวาดภาพการเล่าเรื่องงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ ด้านบนหน้าบัน ขึ้นมาและได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๘ เขตวิสุงคามสีมามีความกว้าง ๔๐ เมตร มีความยาว ๘๐ เมตร ได้จัดงานผูกพัทธสีมาขึ้นในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๙ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ บ่อเลี้ยงปลาวัดเขาทราย บ่อเลี้ยงปลาวัดเขาทราย ได้ขุดขึ้นในช่วงระยะเวลาใดไม่ปรากฏหลัก ฐานแน่ชัด จากคำบอกเล่าจากผู้สูงอายุเล่าว่าขึ้นในช่วงที่ก่อสร้างอุโบสถ ของวัดเขาทรายเพื่อนำดินที่ได้ไปทำการถมพื้นที่สร้างอุโบสถและพื้นที่ส่วน ต่างๆของวัด นอกจากนี้ยังใช้เป็นที่กักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งซึ่งจะมีการ ขาดแคลนน้ำใช้ในช่วงฤดูแห้งของพระสงฆ์ในวัดเขาทรายและชาวบ้านใน บริเวณรอบวัดเขาทราย ปัจจุบันนี้บ่อน้ำดังกล่าวได้ปรับเปลี่ยนเป็นบ่อเลี้ยงปลา ของวัด ทางวัดได้นำพันธุ์ชนิดต่างๆ มาทำการเลี้ยงไว้อย่างมากมายหลาย ชนิด เช่น ปลาตะเพียน ปลานิล ปลาบึก ปลาดุก ปลาหมอ ปลาช่อน ฯลฯ เป็นจุดท่องเที่ยวอีกสถานที่หนึ่งของวัดที่หน้าสนใจ โดยทางวัดได้จัดให้ มีจุดให้อาหารปลาและเป็นเส้นที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวใช้เดินและใช้วิ่งออก กำลังกายในช่วงเวลาเย็นทุกวัน ทางวัดยังประกาศให้บ่อเลี้ยงปลาวัดเขา ทรายนั้นเป็นเขตห้ามจับสัตว์น้ำด้วย ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ นกยูง นกยูงของวัดเขาทรายได้เป็นนกยูงไทยที่มีความสวยงามอยาก มาก จัดอยู่ในตระกูลไก่ฟ้า ทีมีหางสวยๆ และปลายทางจะมีแผ่นขนแบนๆ เป็นวงกลมหรือที่เรียกว่าแววมยุราไว้ใชสำหรับรำแพนเกี้ยวกับตัวเมีย โดย ตัวผู้และตัวเมียจะมีหงอนเป็นพู่สีเหลืองชี้ตรงอยู่บนหัว บนหัวและคอเป็นขน สั้นๆ สีเขียวเหลืองน้ำเงิน หน้ามีสีฟ้า ดำ และเหลืองขนคอ หน้าอกและ หลังตรงกลาง ขนมีเหลืองน้ำเงินแก่ล้อมด้วยสีเขียวและสีทองแดง นกยูง ตัวผู้มีแพนขนปิดหางยาวหลายเส้น ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ นกยูง จะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์จะมีการเกรี้ยวพาราสีกันของนกยูง เมื่อ นกยูงตัวเมียหากินเข้าไปในพื้นที่บริเวณของตัวผู้ ตัวผู้จะเข้าไปหากินร่วมใน ฝูงด้วยพร้อมแสดงรำแพนหาง กางปีกกลองข้างออกเพื่อพยุงลำตัว ทำการ ชูคอขึ้นแล้วย่างก้าวเดินหมุนตัวเองไปรอบๆ ตัวเมีย การรำแพนหางใช้ระยะ เวลานานประมาณ ๕ - ๑๐ นาที หากตัวเมียมีความพร้อมที่จะผสมพันธุ์กับ ตัวผู้จะย่อตัวลงให้ตัวผู้ขึ้นผสมพันธุ์ จากนั้นตัวเมียจะนำเอาหญ้าหรือใบไม้ แห้งมารองทำเป็นรังวางไข่ครั้งละ ๓ - ๖ ฟอง เริ่มฟักไข่หลังจากออกไข่ ฟองสุดท้ายแล้ว ใช้เวลาในการฟักไข่ทั้งสิ้น ๒๖ - ๒๘ วัน ลูกนกแรกเกิด จะมีขนอุยขึ้นปกคลุมทั่วตัว สามารถยืนและเดินตามแม่ไปหาอาหารได้ทันทีที่ ขนแห้ง โดยลูกจะตามแม่ไปหากินระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๖ เดือน จากนั้นจึง จะแยกตัวออกไปหาอาหารกินตามลำพัง นกยูง หลังจากช่วงฤดูผสมพันธุ์แล้วมักจะพบว่าตัวเมียอยู่กับลูกกันตาม ลำพัง มักพากันออกหากินในช่วงเวลาเช้าและช่วงเวลาบ่าย ในบริเวณพื้นที่ ของวัดเขาทราย ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ รอยพระพุทธบาทจำลอง รอยพระพุทธบาทจำลอง จากหลักฐานที่ได้บอกเล่ากันมาสืบต่อ กันมาเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดเขาทรายทรงได้อันเชิญมาจากวัดทุ่งโพธิ์ อำเภอตะพานหิน เพื่อมาประดิษฐ์ฐานที่บนยอดมณฑปวัดเขาทราย ให้กับ ชาวบ้านที่มีจิตศัทธาได้กราบไหว้และปิดทองรอยพระพุทธบาทจำลองกันทุกวัน รอยพระพุทธบาทจำลองนั้นได้ทำการหล่อด้วยทองเหลือง มีความยาว ๒ เมตร ความกว้าง ๘๐ เซนติเมตร ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ยอดมณฑป ยอดมณฑป จากหลักฐานและคำบอกเล่าของผู้สูงอายุในพื้นที่ เล่าว่า มณฑปของวัดเขาทรายนั้นได้สร้างขึ้นในช่วงระยะเวลาของเจ้าอาวาสองค์ที่หนึ่ง ถูกสร้างขึ้นบนยอดใช้ในการประดิษฐ์รอยพระพุทธบาทจำลอง วางอยู่บนแท่น ปูน เป็นอาคารที่ก่ออิฐฉาบปูน ทรงสี่เหลี่ยม ด้านบนมีซุ้มประดิษฐ์ฐานพระพุทธ รูป ทาด้วยสีเหลือง มีทางเดินรอบอาคารสามารถยืนชมทัศนียภาพความ สวยงามของตัวอำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร และอำเภอวังโป่ง อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ นอกจากนี้ในบริเวณยอดมณฑป ยังได้มีการจัดสร้างสิ่งต่างๆ ที่สำคัญไว้อีก มากมาย หลวงพ่อเงินทองไหลมา ได้จัดสร้างขึ้นในช่วงเวลาใดไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่ ทางวัดได้ดำเนินการบูรณะระหว่าง ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ – ๒๕๕๓ จึงแล้วเสร็จต่อจาก นั้นได้จัดงานเฉลิมฉลององค์หลวงพ่อขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ประดิษฐ์ฐานอยู่ด้านหน้า ของมณฑลหันหน้ามาทางด้านหน้าไปทางด้านหน้าวัดตรงกับบันไดทางขึ้นสู่ยอดมณฑป อยู่ในลักษณะยืนอุ้มบาตรอยู่บนฐาน สร้างด้วยปูนปั้นฉานปูนทาด้วยสีเหลืองทอง มีความ สูง ๕ เมตร ความกว้าง ๑ เมตร พระพุทธรูปปารต่างๆที่ได้จัดสร้างขึ้นในยุคสมัยต่าง ๆ เช่น ยุคสมัยสุโขทัย ยุคสมัยเชียงแสน ยุคสมัยอู่ทอง เป็นต้น ได้ประดิษฐ์ฐานอยู่ ภายในอาคารมณฑป เพื่อใช้เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าหาความรู้แก่ผู้ที่สนใจ ประดิษฐ์ฐาน พระสงฆ์คณาจารย์ ๒๔ คณาจราย์ เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงปู่เขียน วัด สำนักขุนเณร หลวงปู่ทบ วัดพระพุทธบาทชนแดน หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ ฯลฯ ได้ประดิษฐ์ฐานด้านนอกรอบอาคารมณฑป เจ้าแม่กวนอิน จัดสร้างขึ้น เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ สร้างด้วยการก่ออิฐฉาบปูน อยู่บนยอดมณฑป มีความสูง ๕ เมตร มีความกว้าง ๑ เมตร อยู่ในทางยืนบนฐานของดอกบัว ทาด้วยสีขาวกับสีเขียว อ่อน มังกรคู่ จัดสร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ สร้างด้วยการก่ออิฐฉาบปูน อยู่บนยอด มณฑป ทาด้วยสีเหลืองทองตัดสีแดงอย่างสวยงาม ที่ประดิษฐ์ฐานพระแก้วมรกต จำลอง ในปรางที่มีเครื่องทรง ๓ ฤดูกาล มีเครื่องทรงสีเหลืองทองอย่างสวยงาม ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ หลวงพ่อหิน หลวงพ่อหิน ได้มีหลักฐานในการสร้างว่าผู้ใดเป็นผู้สร้างและสร้างขึ้น ในปี พ.ศ.ใด พบเพียงหลักฐานว่า ชื่อ หลวงพ่อหิน จากการสลักชื่อไว้ใต้ ฐานรูปปูนปั้นที่เป็นรูปดอกบัว หลวงพ่อหินจัดสร้างด้วยปูนปั้นเสริมโครงเหล็ก ตั้งอยู่บนก้อนหินของลานหินของภูเขาทิศตะวันออกของวัดเขาทราย ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ หลวงพ่อโพธิ์ทอง หลวงพ่อโพธิ์ทอง ไม่พบหลักฐานที่แน่ชัดว่าจัดสร้างขึ้นในช่วงระยะเวลา ใด แต่จากคำบอกเล่าของผู้สูงอายุบ้างท่าน เล่าบอกว่าอาจจัดสร้างขึ้นระหว่าง เจ้าอาวาสองค์ที่หนึ่งกับเจ้าอาวาสองค์ที่สอง โดยเจ้าอาวาสที่ได้จัดสร้างได้นำ เอาไม้ต้นโพธิ์มาทำการแกะสลักเป็นหลวงพ่อโพธิ์ทอง จากนั้นไม่นานหลวง พ่อโพธิ์ทองได้เกิดการชำรุดเสียหายจากกาลเวลา จึงได้ย้ายท่านมาประดิษฐ์ ฐานอยู่ด้านใต้ต้นโพธิ์ข้างบ่อเลี้ยงปลาของวัดเป็นเวลานาน จากนั้นพระอาจราย์ เดือนได้เห็นหลวงพ่อโพธิ์ทองมีลักษณะที่แตกต่างจากพระพุทธรูปองค์อื่น จึง ได้นำมาบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ให้เกิดความสวยงาม แล้วทาสีที่องค์พระพุทธรูป เป็นสีทอง พร้อมตั้งชื่อใหม่เป็น “หลวงพ่อโพธิ์ทอง” แล้วนำไปประดิษฐ์ฐาน ไว้ในวิหารบ้านดิน ให้ทุกคนได้กราบไหว้บูชา ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ดอกกระเจียววัดเขาทราย ดอกกระเจียววัดเขาทราย จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนดอกกระเจียว เป็นชื่อเรียกของดอกต้น กระเจียว เป็นพืชดั้งเดิมของไทยขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ในแถบภาคเหนือและอีสาน รวมทั้งประเทศใกล้เคียง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Curcuma aeruqinosa Roxb มีชื่อท้องถิ่น เช่น ดอกกระเจียว กระเจียวแดง ดอกอีเจียว ต้นดอกกระเจียวมีลำต้นอยู่ ใต้ดินที่เรียกว่า เหง้า หรือหัว รูปร่างกลมแตกแขนงเป็นแง่งคล้ายหัวขิง ใบลักษณะเป็น กาบเป็นใบเดี่ยว สีเขียว ส่วนดอกโอบเป็นช่อแทงออกใจกลางของลำต้น ดอกและก้าน มักมีสีขาวม่วงและแดง ตัวดอกมักมีหลายสีผสมกัน เช่น แดง ชมพู ขาว ม่วง และ เหลือง ดอกเรียงซ้อนกันขึ้นสูงเป็นรูปทรงกระบอกยาวประมาณ ๑๐ - ๑๘ เซนติเมตร ลักษณะเป็นหลอด บานอย่างสวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ชม เฉพาะในช่วงหน้าฝน โดย มาชมทุ่งดอกกระเจียวแห่งนี้ ไม่มีค่าเข้าชมแต่อย่างใด นักท่องเที่ยวสามารถชมฟรีได้ ตลอดฤดูกาล นักท่องเที่ยวที่สนใจ จุดเด่นที่สุดคือ ดอกกระเจียวที่มีขนาดใหญ่และ จะมีกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย สำหรับวัดเขาทรายอยู่ในพื้นที่ป่าของวัดเขาทราย ต้น กระเจียวมีดอกขนาดใหญ่สีชมพู สลับขาว ขนาดกลีบดอกสูงประมาณ ๒๐ เซนติเมตร กระจายปกคลุมพื้นที่ป่าวัดเขาทราย จะบานตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนกันยายน ของทุกปี ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ วัดสามัคคีธรรม (วัดเขาพระเหนือ) ชื่อสถานที่ วัดสามัคคีธรรม (วัดเขาพระเหนือ) สถานที่ตั้ง เลขที่ ๙ หมู่ ๗ บ้านเขาพระ ตำบลเขา ทราย อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ๖๖๒๓๐ ประวัติความเป็นมา วัดสามัตตีธรรม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดเขาพระ เหนือ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๑ โดย นายอุบล อินขาน อยู่บ้านเลขที่ ๒๗๐/๑ หมู่ ๗ ตำบลเขา ทราย อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นผู้ได้รับการ อนุญาติให้สร้างวัด และสำนักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติ ประกาศตั้งเป็นวัดในพระพุทธศาสนา เมื่อ วันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๖ ไร่ ๓ งาน ๙ ตารางวา มีพระบุญมา จนฺทธมฺโม เป็นเจ้าอาวาส วัดรูปแรก ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ปัจจุบัน พระบุญมา จนฺทธมฺโม ได้มรณภาพ แล้ว ศพยังเก็บรักษาไว้ในวิหารหลวงปู่บุญมา ศิษยานุศิษย์กำหนดเก็บไว้ ๓ ปี (ครบกำหนดปี ๒๕๕๕) และยังไม่ได้แต่งตั้งผู้ดูแล อาณาเขต ทิศเหนือ ติดกับโรงเรียนบ้านเขาพระ ทิศใต้ ติดกับป่าสงวน ทิศตะวันออก ติดกับทางหลวง ทิศตะวันตก ติดกับป่าสงวน พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบสูง ภายในบริเวณวัดมี อาคารเสนาสนะต่าง ๆ คือ ศาลาการเปรียญ กุฎีสงฆ์ ๗ หลัง ศาลาธรรมสังเวท เมรุ และ วิหารหลวงปู่บุญมา บนยอดเขามีพระพุทธรูป องค์ใหญ่ นามว่า พระพุทธมงคล และ รอย พระพุทธบาทจำลอง ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ความสำคัญ เป็นสถานที่จัดกิจกรรมด้านศาสนา ศิลปะ และ วัฒนธรรม ของทางราชการ และชุมชน เช่น - จัดปฏิบัติธรรมเป็นประจำทุกปี ระหว่างเดือน กุมพา พันธ์ - มีนาคม ระยะเวลา ๙ วัน - จัดงานประเพณีสงกรานต์ สรงน้ำและเปลี่ยนผ้าห่ม พระพุทธมงคล สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ - จัดงานในเทศกาลและวันสำคัญต่าง ๆ - เป็นสถานที่ประชุมประจำเดือนของหมู่บ้าน ในวันที่ ๓ ของเดือนๆ ละ ๑ ครั้ง - เป็นสถานที่อบรม ให้ความรู้ ของหน่วยงาน ส่วน ราชการในตำบล เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ประจำตำบล กลุ่มคนที่ใช้ หน่วยงาน ส่วนราชการ และชุมชน หมู่ ๗ บ้านเขาพระ และ หมู่ ๑, ๔, ๑๐ บ้านเขาทราย จำนวนผู้อาศัย พระภิกษุ ๓ รูป ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ วัดศรีพรมจริยาวาส (วัดเขาพระใต้) ชื่อสถานที่ วัดศรีพรมจริยาวาส (วัดเขาพระใต้) สถานที่ตั้ง เลขที่ ๓๒๙ หมู่ ๗ บ้านเขาพระ ตำบลเขา ทราย อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ๖๖๒๓๐ ประวัติความเป็นมา วัดศรีพรมจริยาวาส หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดเขาพระ ใต้ เดิมขึ้นกับหมู่ ๔ ตำบลเขาทราย อำเภอตะพานหิน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๘ โดยชาวบ้านจาก สุพรรณบุรี ซึ่งอพยพมาตั้งดินฐานที่บ้านเขาพระ ได้รับ การรับรองให้เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย (สร้างก่อน ปี ๒๔๗๘) ตามหนังสือรับรอง เลขที่ ๖๙/๒๕๓๑ ลงวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๓๑ โดยเจ้าคณะอำเภอ ตะพานหิน เดิมบริเวณวัดมีเนื้อที่ ๓๐ ไร่ เนื่องจากสมัย ก่อนยังไม่มีหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์การครอบครอง ที่ดิน จึงมีประชาชนเข้าไปปลูกบ้านเรือนอยู่อาศัย ปัจจุบัน บริเวณวัดมีเนื้อที่ ๒๐ ไร่ ๓ งาน ๘๘ ตารางวา ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ อาณาเขต ทิศเหนือ ติดกับที่ดินของนายยงค์ ทิศใต้ ติดกับที่ดิน ของนายอินทร์ ทิศตะวันออก ติดกับทางหลวง ทิศตะวัน ตก ติดกับที่ดินของนายอินทร์ พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบ ภายในบริเวณวัดมีอาคารเสนาสนะ ต่าง ๆ คือ ศาลาการเปรียญ หอระฆังเก่า (ปัจจุบันได้ นำระฆังขึ้นไว้บนศาลาการเปรียญ) กุฎีสงฆ์ ๒ หลัง เมรุ ศาลาสันติสุข (ยังก่อสร้างไม่เสร็จ) บ้านพักคน ตาบอด กุฎแม่ชี ๑ หลัง และมีต้นประดู่ใหญ่อายุกว่า ๑๐๐ ปี ความสำคัญ เป็นสถานที่จัดกิจกรรมด้านศาสนา ศิลปะ และ วัฒนธรรม ของคนในชุมชน เช่น จัดงานประเพณี สงกรานต์ กิจกรรมก่อพระทราย สรงน้ำพระ รดน้ำ ดำหัวผู้สูงอายุ ในวันที่ ๒๐ -๒๑ เมษายนของทุกปี สถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาในเทศกาลและวันสำคัญ ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ซึ่งทางราชการใช้เลือก ตั้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และนายก อบต.อีกด้วย ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ กลุ่มคนที่ใช้ หน่วยงาน และประชาชน หมู่ ๗ บ้านเขาพระ และบ้านหนองจอก ตำบลท้ายทุ้ง จำนวนผู้อาศัย พระภิกษุ ๓ รูป ศิษย์วัด ๑ คน ผู้อาศัย (คน ตาบอด ๒ คน) ผู้ดูแล พระอธิการสมบุญ คุณยุตโต ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ วัดวังหินเพลิง ชื่อสถานที่ วัดวังหินเพลิง สถานที่ตั้ง เลขที่ ๑ หมู่ ๑๑ บ้านวังหินเพลิง ตำบลเขา ทรายก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ๖๖๒๓๐ ประวัติความเป็นมา วัดวังหินเพลิง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๙ โดยชาวบ้าน ร่วมใจกันจัดสร้างและเรียกชื่อวัดตามชื่อหมู่บ้าน ประกาศตั้ง เป็นวัดในบวรพุทธศาสนา ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมาวันที่ ๔ มกราคม พ.ศง ๒๕๒๙ เขต วิสุงคามสีมากว้าง ๔๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร เปิดสอนพระ ปริยัติธรรมแผนกธรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๘ เป็นที่ตั้งหน่วย อบรมประชาชนประจำตำบล ( อ.ป.ต.) และธนาคารข้าว อ.ป.ต. การกุศล มีเจ้าอาวาสวัด รูปแรก คือ พระอธิการเชี่อม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มี ที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๖ ไร่ ๖๗ ตารางวา ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ อาณาเขต ทิศเหนือ ยาว ๔ เส้น ๑๑ วา ๒ ศอก ติดกับที่ดินของนายก้อ ขันแกว ทิศใต้ ยาว ๔ เส้น ๑๒ วา ๑ ศอก ติดกับโรงเรียนวัดวังหินเพลิง ทิศตะวันออก ยาว ๑ เส้น ๖ วา ๓ ศอก ติดกับที่ดินของนายก้อ ขันแก้ว ทิศตะวันตก ยาว ๑ เส้น ๖ วา ๓ ศอก ติดกับที่ดินของนายกำจัด ม่วงตั้น และนายประชุม ศรีสักดา พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบสูง ภายในบริเวณวัดมีอาคารเสนาสนะต่าง ๆ คือ พระอุโบสถ กว้าง ๖ เมตร ยาว ๒๐ เมตร โรงเรียนพระปริยัติธรรม ทรงไทย ๒ ชั้น ยาว ๑๒ วา สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๕ กุฎีสงฆ์ ๖ หลัง ศาลาการเปรียญกว้าง อาคารจตุรัส ( ศาลาธรรมสังเวท) เมรุ อาคารหอสุวรรณ (ศูนย์ส่งเสริมอาชีพของคนในชุมชน) ความสำคัญ เป็นสถานที่จัดกิจกรรมด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ของทางราชการ และ ชุมชน เช่น จัดกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ งานประเพณีสงกรานต์ สรงน้ำพระ ทำบุญแจงรวมญาติ จัดงานทำบุญปีใหม่ จัดกิจกรรมวันพ่อ วันแม่ เป็นสถานที่ ประชุมของทางราชการ และชุมชน และเป็นสถานที่ส่งเสริมอาชีพของคนในชุมชน นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ของเด็กและเยาวชนในชุมชนอีก ด้วย ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ กลุ่มคนที่ใช้ หน่วยงานราชการ และชุมชน หมู่ ๑๑ บ้านวังหินเพลิง จำนวนผู้อาศัย พระภิกษุ ๙ รูป สามเณร ๔ รูป ผู้ดูแล/เจ้าอาวาส พระอธิการธานินทร์ กตฺสีโล คำสำคัญ วัดวังหินเพลิง หมวดหมู่ ศาสนสถาน สถานที่ตั้ง วัดวังหินเพลิง เลขที่ ๑ หมู่ที่/หมู่บ้าน หมู่ ๑๑ บ้านวังหินเพลิง อำเภอ ทับคล้อ จังหวัด พิจิตร ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ศูนย์พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดวังหินเพลิง ศูนย์พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดวังหินเพลิง ตั้งอยู่เลขที่ ๑ ถนน เขาทราย-วังทอง บ้านวัง หินหินเพลิง หมู่ที่ ๑๑ ตำบลเขาทราย อำเภอ ทับคล้อ จังหวัดพิจิตร รหัสไปรษณีย์ ๖๖๑๕๐ โทรศัพท์ ๐๕๖-๖๖๘๑๒๓, ๐๘๕ - ๒๖๘๒๓๑๔ เปิดดำเนินการครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๔ และได้รับการ จดทะเบียนไว้ในความอุปถัมภ์ของกรรมการศาสนาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๔ มี พระธานินทร์ กตสีโล เป็นผู้บริหารศูนย์ เปิดสอนในระดับประถมต้น คำสำคัญ ศพอ.วัดวังหินเพลิง ศูนย์พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดวังหินเพลิง หมวดหมู่ ศาสนสถาน สถานที่ตั้ง วัดวังหินเพลิง หมู่ที่/หมู่บ้าน ๑๑ ถนน เขาทราย-วังทอง อำเภอ ทับคล้อ จังหวัด พิจิตร ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ วัดวังแดงใต้ ประวัติความเป็นมา ของวัดวังแดงใต้ ตำบลเขาทราย อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ในอดีตโบราณ ๑,๒๐๐ ปี บริเวณที่ตั้งของวัด เคยเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านโบราณโดยมีการขุดพบก้อน ศิลาแลงสร้างเป็นแนวลำลางตลอดไปจนถึงสระน้ำโบราณชื่อ ( สระเพ็ง ) ชึ่งอยู่ห่างจากวัดไปทาง ทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ ๑,๕๐๐ เมตร และในอดีตบริเวณนี้ยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดงาน ประเพณี กำฟ้า ชึ่งเป็นงานประจำปี บวงสรวงเทพยาดาฟ้าดินของชาวไทยพรวนให้มีฝนตกถูกต้อง ตามฤดูกาล และมีความเป็นอยู่อุดมสมบูรณ์ วัดวังแดงเดิมก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ ศ ๒๔๘๐ ตั้งอยู่ในที่ดินของ นายศรีมล ศิริอินทราทร และ ต่อมาเมื่อทางราชการสร้างทางหลวงหมายเลข ๑๑ ( เขาทราย - วังทอง ) แล้วเสร็จ จึงได้ย้าย มาอยู่ติดถนนทางหลวงบนที่ดิน ๑๒ ไร่ ๓ งาน ๖ ตารางวา ซึ่งนายขาว อ้วนลา ได้บริจากให้แก้ วัด และได้รับอนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการด้วยความเห็นชอบของพระมหาเถรสมาคมให้ ประกาศตั้งเป็นวัดขึ้นในพุทธศาสนาเมื่อ ๒๓ พย ๒๕๒๕ ๑๑ ก ค ๒๕๔๐ พระอธิการ สมบัติ จตตมโล ( หลวงตากี๋ ) เจ้าอาวาสวัดและเป็นพระนักพัฒนาได้รวบรวมชาวบ้านตลอดจนผู้มีจิต ศรัทธา ร่วมกันสร้างพระอุโบสถเพื่อเป็นแดนสีมา ประกอบสังฆกรรมและศาสนกิจต่างๆ โดยได้ ทยอยก่อสร้างตามกำลังของวัดและชาวบ้าน จนใกล้แล้วเสร็จร่วมกันสร้างพระอุโบสถเพื่อเป็นแดน สีมา ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ แหล่งโบราณคดีบ้านวังแดง ที่ตั้ง บ้านวังแดง หมู่ ๒ ตำบลเขาทราย อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร พิกัดทางภูมิศาสตร์ ละติจูด ๑๖ องศา ๑๓ ลิปดา ๓๗ ฟิลิปดาเหนือ ลองจิจูด ๑๐๐ องศา ๓๗ ลิปดา ๖๑ ฟิลิปดาตะวันออก UTM 674580 E ๑๗๙๔๕๙๐N แผนที่ทหาร มาตราส่วน ๑ : ๕๐๐๐๐ ระวาง ๕๑๔๑ III ลำดับชุด L ๗๐๑๗ พิมพ์ ครั้งที่ ๒ – RTSD ประวัติการศึกษา กลุ่มวิชาการโบราณคดี สำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ ๕ สุโขทัยสำรวจครั้งแรก เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๔๓ ต่อมาได้ร่วมสำรวจอีกครั้งกับรศ.ดร.ผาสุข อินทราวุธ จากคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๔๔ ต่อมา อาจารย์วินัย ผู้นำพล แจ้งว่ามีผู้นำหลักฐานข้อมูลมาแจ้งให้อาจารย์ทราบว่าพบฐานอิฐสมัย โบราณ พบตราประทับและวงล้อเสมาธรรมจักรมากพอควร และเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านเตรียมสร้าง อุโบสถใหม่ นั้น กลุ่มวิชาการโบราณคดี สำนักงานศิลปากรที่ ๖ สุโขทัย จึงเข้าสำรวจพื้นที่ภายในวัด วังแดงอีกครั้งเมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๔๙ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ สภาพแวดล้อม เป็นพื้นที่ราบเชิงเขา มีเนินเขาโดด อยู่ทางด้านทิศตะวันออกและทิศใต้ ห่างออกไป ประมาณ ๘ – ๑๐ กิโลเมตร แหล่งโบราณคดีตั้งอยู่ใกล้กับคลองวังแดง ที่อยู่ทางทิศใต้ พบซาก โบราณสถานก่อด้วยอิฐขนาดใหญ่หลายแห่งอยู่กลางทุ่งนา นอกจากนี้ยังมีสระน้ำโบราณขนาดใหญ่อยู่ ห่างออกไปทางตะวันออกประมาณ ๑๐ กิโลเมตร โบราณวัตถุที่พบ ได้พบเนินโบราณสถานหลายแห่ง แต่ส่วนใหญ่ถูกไถทำลายเหลือเพียงเศษอิฐ มี บางแห่งที่ยังมีร่องรอยส่วนฐานของเจดีย์ อิฐที่ใช้ก่อสร้างเป็นอิฐขนาดใหญ่สมัยทวารวดี ขนาด ๑๗ x ๓๐ x ๗ เซนติเมตร มีร่องรอยของแกลบข้าวปะปนในก้อนอิฐ นอกจากนี้มีโบราณวัตถุที่นายเล็ก มณีเรือง ราษฎร หมู่ ๒ บ้านวังแดง เก็บรักษาไว้ ดังนี้ ๑.เหรียญเงินรูปพระอาทิตย์และศรีวัตสะ จำนวน ๓ เหรียญ ขุดพบระหว่างการสร้างถนนสายวังทอง – เขาทราย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๗ โดยพบบรรจุอยู่ในไหร่วมกับเหรียญเงินประเภทเดียวกันจำนวนทั้งสิ้น ๓๐๐ เหรียญ และยังพบไหบรรจุกระดูกวางอยู่ด้วยกัน แต่ไม่พบฐานเจดีย์หรือโบราณสถานอื่น (ข้อมูลการสัมภาษณ์นายเล็ก มณีเรือง) เหรียญเงินมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๒.๖, ๓ และ ๓.๕ เซนติเมตร ๒. ชิ้นส่วนโลหะเงิน ซึ่งน่าจะเป็นวัสดุในการผลิตเหรียญดังกล่าว ๓. เครื่องมือเหล็ก ขนาดกว้าง ๗.๕ เซนติเมตร ยาว ๑๒ เซนติเมตร และหนา ๐.๘ เซนติเมตร นอกจากนี้ที่วัดวังแดงนั้น เจ้าอาวาสวัดวังแดงได้เก็บรักษาโบราณวัตถุไว้จำนวนหนึ่ง ดังนี้ ๑. แท่นหินบด ขนาด กว้าง ๑๔ เซนติเมตร ยาว ๔๐ เซนติเมตร หนา ๑๔ เซนติเมตร ๒. หินบดขนาดยาว ๘ เซนติเมตร ๓. เศษภาชนะดินเผาเนื้อไม่แกร่ง (earthern ware) ลวดลายต่าง ๆ การกำหนดอายุ สมัยทวารวดี ๑,๒๐๐ – ๑,๕๐๐ ปีมาแล้ว ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ เนื่องจาก วัดพระพุทธบาทเขาทรายเป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรแต่เดิมชื่อว่า “วัดวังเดือนห้า” ก่อตั้งราวปี ๒๔๗๔ เดิมตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามที่ว่าการอำเภอทับคล้อ ในปัจจุบัน ต่อมาเกิดอุทกภัยน้ำท่วมเป็นประจำจึงย้ายมาอยู่ ณ บริเวณตลาดสดเช้าเขา ทราย และต่อมาได้ย้ายมาตั้งอยู่ติดบริเวณเขาในปัจจุบัน โดยได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๘ ทางวัดได้จัดให้มีประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ สืบทอดกันมานานกว่า ๕๐ ปี เนื่องจากบริเวณวัดอยู่ติดกับเขาและมีทำเลคล้ายคลึงกับตำนานทางพระพุทธศาสนา ชาวตำบลเขาทรายจึงพร้อมใจกันจัดงานขึ้นโดยถือเอาวันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ของ ทุกปี เป็นวันทำบุญตักบาตร ซึ่งช้ากว่าตำนานทางพระพุทธศาสนา ๑ วัน เนื่องจากผู้ เฒ่าผู้แก่ชาวเขาทรายในอดีต ต้องการให้ชาวพุทธญาติธรรมที่อาศัยอยู่บริวณใกล้เคียง ได้มีโอกาสเดินทางมาร่วมทำบุญโดยพร้อมเพรียงกัน ซึ่งถือเป็นกุศโลบายอันชาญ ฉลาดของบรรพบุรุษ เพื่อจะรวบรวมชาวพุทธญาติธรรมให้มาร่วมทำบุญในวันนี้ให้มาก ที่สุด และทำให้เป็นประเพณีตักบาตรเทโว-โรหณะที่ยิ่งใหญ่ โดยถือปฎบัติกันเรื่อยมา ซึ่งแต่เดิมชาวบ้านเรียกงานนี้ติดปากว่า “วันตักบาตรพระร้อย”เนื่องจากมีพระภิกษุสงฆ์ มารับบิณฑบาตหลายร้อยรูป นั่นเอง ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ สมัยที่ นายประสาท พงษ์ศิวภัย ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เล็งเห็นว่าประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะของวัด เขาทราย เป็นประเพณีเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรซึ่งจัดสืบทอดกันมากว่า ๕๐ ปี ในแต่ละปีมีประชาชนในจังหวัดพิจิตรและพื้นที่ใกล้เคียง มาร่วมงานเป็นจำนวน มาก จึงส่งเสริมให้เป็นงานประเพณีระดับจังหวัด เพื่อส่งเสริมทำนุบำรุง พระพุทธศาสนา และเพื่อให้สอดคล้องกับตำนานในพระพุทธศาสนา จึงร่วม กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (เทศบาลตำบลเขาทราย) ตลอดจนประชาชน คิดจัดขบวนสมมุติเป็นขบวนเทวดา (ท้าวสักกะเทวราชา เสด็จนำพุทธองค์จาก สรวงสวรรค์สู่โลกมนุษย์) ทั้งนี้โดยความเห็นพร้องของทุกฝ่าย เพื่อให้เป็น ประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันไป ประชาชนชาวพิจิตรจึงพร้อมใจกันให้ผู้ที่ดำรง ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรทุกคน รับเป็นองค์สมมุติท้าวสักกะเทวราช โดยมี นายประสาท พงษ์ศิวภัย เป็นท่านแรก และถือปฏิบัติกันสืบต่อมาจน ปัจจุบัน ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ตำนาน ตามตำนานพระพุทธศาสนา กล่าวถึง การทำบุญตักบาตรเทโว โรหณะมาจากคำว่าเทโวโรหณะ หมายถึง การเสด็จจากเทวโลก(สวรรค์)ของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งได้กล่าวถึง ประวัติในเหตุการณ์ นี้ว่า เมื่อ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว พระองค์ได้ เสด็จประกาศพระศาสนาทั่วแคว้นชมพูทวีป เริ่มตั้งแต่เมืองราชคฤห์พารานสี สาวัตถี ตลอดจนเมืองกบิลพัสต์ ที่เมื่องกบิลพัสต์ ทรงเทศนาโปรดพระเจ้า สุทโธทนะ พระพุทธบิดา พระนางมหาประชาบดี โคตรมี พระนางพิมพา และ พระราหุลราชบุตร ตลอดจนถึงพระประยูรญาติทั้งหลาย ต่างได้บรรลุ มรรคผลสมควรแก่อุปนิสัยแห่งตนเอง ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ณ กาลนั้น พระองค์ทรงรำลึกถึง พระนางสิริมหามายาพระพุทธ มารดา ซึ่งเสด็จสิ้นพระชนม์ หลังจากพระพุทธองค์ประสูติได้ ๗ ราตรี ทรง ดำริที่จะสนองคุณพระพุทธมารดา ซึ่งมีพระคุณล้นฟ้า มหาสมุทร ซึ่งมีเพียง พระอภิธรรมเท่านั้นที่ควรค่าแก่การทดแทนพระคุณเกษียรธารา (น้ำนม) ใน พรรษานั้น นับตั้งแต่ได้ตรัสรู้พรรษาที่ ๗ พระพุทธองค์จึงเสด็จขึ้นไปจำ พรรษาบนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อเทศนาพระอภิธรรมปิฏกโปรดพระพุทธ มารดาตลอดพรรษา ตลอดจนเหล่าเทพเทวดา อันมีท้าวสักกะเทวราชเป็น ประมุข ซึ่งต่างก็บรรลุอริยมรรค อริยผล เป็นพระอรหันต์กันทั่วหน้า ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ครั้นถึงวันปวารณาออกพรรษา วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ พระพุทธ องค์จึงเสด็จกลับสู่โลกมนุษย์ ในการครั้งนั้น ท้าวสักกะเทวราชมีบัญชาให้พระ วิษณุกรรม นิรมิตบันไดทิพย์ทั้ง ๓ ได้แก่บันไดแก้ว บันไดทอง บันไดเงินทอด จากสวรรค์สู่โลกมนุษย์ทางประตูเมืองสังกัสนคร เป็นทางเสด็จของพระพุทธ องค์ ณ ที่นั้น พุทธศาสนิกชนต่างมารอรับเพื่อตักบาตรภัตตาหารกันอย่าง เนืองแน่น ในวันนั้นพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงพุทธาภินิหาร บันดาลให้ชาวโลกทั้ง สาม คือ สวรรค์(เทวดา) มนุษย์และนรกภูมิ ต่างสามารถแลเห็นกันได้ตลอด ทั้งวันทั้งสามโลกเป็นอัศจรรย์กล่าวกันว่าแม้ในนรกขุมที่มืดสนิทก็มีแสงสว่าง พร่างพรายขึ้นชั่วขณะ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นอนุสติเตือนใจ แก่เหล่าพุทธศาสนิกชน ถึงผลแห่งการประพฤติดี ประพฤติชั่ว ตามคำสอนของพระพุทธองค์ จึงมีชื่อ เรียกขานอีกอย่างหนึ่งว่า “วันพระเจ้าเปิดโลก” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชาวพุทธ จึงยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาว่า ในวันแรมขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี จะจัด ให้มีงานทำบุญตักบาตร เพื่อรำลึกถึงประวัติในเหตุการณ์คล้ายวันที่ พระพุทธเจ้าเสด็จกลับจากสวรรค์ถึงโลกมนุษย์ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ประวัติความเป็นมาประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ ที่วัดพระพุทธบาทเขาทรายนั้น เนื่องจาก วัดพระพุทธบาทเขาทรายเป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรแต่เดิมชื่อ ว่า “วัดวังเดือนห้า” ก่อตั้งราวปี ๒๔๗๔ เดิมตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามที่ว่าการ อำเภอทับคล้อในปัจจุบัน ต่อมาเกิดอุทกภัยน้ำท่วมเป็นประจำจึงย้ายมาอยู่ ณ บริเวณตลาดสดเช้าเขาทราย และต่อมาได้ย้ายมาตั้งอยู่ติดบริเวณเขาใน ปัจจุบัน โดยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๘ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ทางวัดได้จัดให้มีประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ สืบทอดกันมานานกว่า ๕๐ ปี เนื่องจากบริเวณวัดอยู่ติดกับเขาและมีทำเลคล้ายคลึงกับตำนานทาง พระพุทธศาสนา ชาวตำบลเขาทรายจึงพร้อมใจกันจัดงานขึ้นโดยถือเอาวันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี เป็นวันทำบุญตักบาตร ซึ่งช้ากว่าตำนานทาง พระพุทธศาสนา ๑ วัน เนื่องจากผู้เฒ่าผู้แก่ชาวเขาทรายในอดีต ต้องการให้ ชาวพุทธญาติธรรมที่อาศัยอยู่บริวณใกล้เคียง ได้มีโอกาสเดินทางมาร่วม ทำบุญโดยพร้อมเพรียงกัน ซึ่งถือเป็นกุศโลบายอันชาญฉลาดของบรรพบุรุษ เพื่อจะรวบรวมชาวพุทธญาติธรรมให้มาร่วมทำบุญในวันนี้ให้มากที่สุด และ ทำให้เป็นประเพณีตักบาตรเทโว-โรหณะที่ยิ่งใหญ่ โดยถือปฎบัติกันเรื่อยมา ซึ่งแต่เดิมชาวบ้านเรียกงานนี้ติดปากว่า “วันตักบาตรพระร้อย”เนื่องจากมีพระ ภิกษุสงฆ์มารับบิณฑบาตหลายร้อยรูป นั่นเอง ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ สมัยที่ นายประสาท พงษ์ศิวภัย ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เล็งเห็นว่าประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะของวัด เขาทราย เป็นประเพณีเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรซึ่งจัดสืบทอดกันมากว่า ๕๐ ปี ในแต่ละปีมีประชาชนในจังหวัดพิจิตรและพื้นที่ใกล้เคียง มาร่วมงานเป็นจำนวน มาก จึงส่งเสริมให้เป็นงานประเพณีระดับจังหวัด เพื่อส่งเสริมทำนุบำรุง พระพุทธศาสนา และเพื่อให้สอดคล้องกับตำนานในพระพุทธศาสนา จึงร่วม กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (เทศบาลตำบลเขาทราย) ตลอดจนประชาชน คิดจัดขบวนสมมุติเป็นขบวนเทวดา (ท้าวสักกะเทวราชา เสด็จนำพุทธองค์จาก สรวงสวรรค์สู่โลกมนุษย์) ทั้งนี้โดยความเห็นพร้องของทุกฝ่าย เพื่อให้เป็น ประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันไป ประชาชนชาวพิจิตรจึงพร้อมใจกันให้ผู้ที่ดำรง ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรทุกคน รับเป็นองค์สมมุติท้าวสักกะเทวราช โดยมี นายประสาท พงษ์ศิวภัย เป็นท่านแรก และถือปฏิบัติกันสืบต่อมาจน ปัจจุบัน ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ความมุ่งหมายของประเพณี ๑. เพื่อส่งเสริมและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคงสืบไป ๒. เพื่อดำรงรักษาประเพณีทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ ตามตำนานใน พระพุทธศาสนาให้คงอยู่ และยึดถือเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อกันไป ๓. เพื่อเสริมสร้างสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน โดยนำพระพุทธศาสนา มาเป็นตัวเชื่อมประสานให้ประชาชนเกิดความสามัคคีรักใคร่ปรองดองกัน โอกาส เวลา และสถานที่ช่วงเวลาที่จัดงาน วันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ของ ทุกปี (หลังวันออกพรรษา ๑ วัน) ณ วัดพระพุทธบาทเขาทราย ตำบลเขา ทราย อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ขั้นตอนการปฎิบัติงานหรือพิธีกรรม การปฏิบัติพิธีกรรมจะประกอบด้วยพิธีทางศาสนาพุทธ และศาสนาพราหมณ์ ดังนี้ – ก่อนถึงวันจัดงาน ทางวัดจะนิมนต์พระภิกษุสงฆ์จากวัดในอำเภอต่างๆ ของจังหวัดพิจิตร และ จังหวัดใกล้เคียง มารับบิณฑบาต จำนวน ๕๐๙ รูป เริ่มงานวันแรก ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ – เวลา ๑๗.๐๐ น. มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีปิดทองพระเนตรพระพุทธไสยาสน โดยมี นายอำเภอทับคล้อ เป็นประธาน และมีมหรสพสมโภช งานวันที่สอง เป็นวันตักบาตรเทโวโรหณะ ตรงกับวันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๑ – เวลา ๐๗.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ทั้งหมด เสร็จแล้วนำพระภิกษุสงฆ์ขึ้นไปบน ยอดเขา – เวลา ๐๘.๐๙ น. ประกอบพิธีพราหมณ์บวงสรวงเทพยดา เพื่อสวมชุดท้าวสักกะ เทวราช ให้ผู้ว่า ราชการจังหวัดพิจิตร (โดยพราหมณ์จากสำนักหมอพราหมณ์) – พิธีเปิดงาน โดยมี ส.ส. พิจิตร เขต ๒ เป็นประธาน (ประธานลั่นฆ้อง ๓ ครั้ง) – การแสดงรำ (สมมุติเป็นเหล่านางฟ้าร่ายรำรับขบวนท้าวสักกะเทวราช บริเวณ เชิงเขา) – ท้าวสักกะเทวราช นำขบวนองค์รักษ์ เหล่าเทพเทวดา นางฟ้าและพระภิกษุสงฆ์เดินลงจากยอดเขา เพื่อรับบิณฑบาต – พุทธศาสนิกชนทำบุญตักบาตร – เวลา ๑๑.๓๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ – ผู้ร่วมงานชมการแสดง เลือกชมและซื้อสินค้า OTOP – เวลา ๑๙.๓๐ น. – ๒๔.๐๐ น. มหรสพสมโภช ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ความเชื่อที่เกี่ยวข้อง เป็นอนุสติเตือนใจแก่เหล่าพุทธศาสนิกชน ถึงผลแห่งการประพฤติดี ประพฤติชั่ว ตามคำ สอนของพระพุทธองค์ ชาวพุทธญาติธรรมชาวตำบลเขาทราย และตำบลใกล้เคียงอีก ๓ ตำบล คือ ตำบลทับคล้อ ตำบลเขาเจ็ดลูก และตำบลท้ายทุ่ง รวมทั้งประชาชนในจังหวัด พิจิตร และจังหวัดเพชรบูรณ์ คุณค่าของประเพณี ๑ พุทธศาสนิกชน รำลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จกลับจากสวรรค์ถึงโลกมนุษย์ ซึ่งเป็นวัน ปวารณาออกพรรษา ร่วมกันทำบุญตักบาตร และยึดถือปฏิบัติและสืบทอดประเพณีตักบาตร เทโวโรหณะ ตามตำนานในพระพุทธศาสนา ให้คงอยู่สืบไป ๒ พุทธศาสนิกชนเกิดความศรัทธาในพุทธศาสนา มีผลให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง เจ้าพิธี พราหมณ์จากสำนักหมอพราหมณ์ การสืบทอดประเพณี ส่งเสริมให้เป็นประเพณีสำคัญระดับจังหวัด โดยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ตลอดจนพ่อค้า ประชาชน บ้าน วัด และโรงเรียน ทำให้ทุกฝ่ายเกิด ความรักและหวงแหนในประเพณีของท้องถิ่น และร่วมมือกันสืบทอดประเพณีให้คงอยู่สืบไป คำสำคัญ ตักบาตรเทโวโรหนะวัดเขาทราย ตักบาตรพระร้อย ประเพณีทำบุญตักบาตรเทโวโรหนะ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ บุษบา อธิษฐาน \"บุษบา อธิษฐาน\" (๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๐ - ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๔) เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งชาวไทย มีชื่อจริง ว่า \"ละเอียด ชารีภา\" ชื่อเล่น อ้อม เป็น บุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง ๔ คน พื้นเพ เดิมเป็นคนบ้านคลองเดื่อ ตำบลเขาทราย อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ประวัติการทำงาน บุษบาเดินทางเข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่งเมื่ออายุ ๑๗ ปี จากการแนะนำของ \"ชลธี ธารทอง\" และ \"พนม นพพร\" พร้อมทั้ง \"ฝ้าย สุวิเศษ\" ยายของ บุษบาที่ช่วยผลักดันและสนับสนุนในการเข้าวงการ และได้ชื่อในวงการว่า \"บุษบา อธิษฐาน\" โดยคาดว่ามีที่มาจากวรรณคดีอิเหนาในเรื่องของ \"นาง บุษบาเสี่ยงเทียน\" ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ เส้นทางชีวิตของเธอนั้นไม่ได้มีรายละเอียดมากมายในหน้าข่าวสาร วงการบันเทิง รู้แต่เพียงว่าเธอเป็นบุคคลมาจากจังหวัดพิจิตร ซึ่งนักร้องอย่าง \"สันติ ดวงสว่าง\" และ \"ยอดรัก สลักใจ\" ก็เกิดที่จังหวัดนี้ด้วยเช่นกัน ในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ บุษบาได้ออกผลงานอัลบั้มชุดแรกชื่อ \"สาว นครชัยศรี\" ในสังกัดเอไอเดีย (นพพรโปรโมชั่น) มีเพลงดังในชุดคือ สาว นครชัยศรี , สาวนาหาแฟน เป็นเพลงเปิดตัว ในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้ออกอัลบั้ม \"ท้ารัก\" โดยเพลงอัลบั้มชุดนี้ เป็นการร้องเพลงสไตล์สนุกสนานและเป็นชุดที่สร้างชื่อเสียงให้กับบุษบาเป็น อย่างมาก จึงทำให้ชื่อของเธอนั้นกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงการเพลงลูกทุ่ง ไทย ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๓๘ บุษบาได้ออกอัลบั้ม \"ความช้ำจำแม่น\" ซึ่ง เป็นอัลบั้มชุดสุดท้ายในค่ายเอไอเดีย ก่อนที่เธอได้ตรวจพบว่าเธอเป็นโรค ภูมิแพ้จึงได้พักการทำเพลงไปนานถึง ๒ ปี ก่อนจะหวนกลับมาอีกครั้งใน สังกัด \"นพพร ซิลเวอร์โกลด์\" ในปี พ.ศ. ๒๕๔๑ ในสังกัดนี้บุษบาได้ออก อัลบั้ม ๒ ชุด คือ \"ปัดฝุ่นรุ่นพิเศษ ๒\" (พ.ศ. ๒๕๔๑) และ \"บุษบา...ลีลา ใหม่\" (พ.ศ. ๒๕๔๓) ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งปอดในปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ในวัยเพียง ๓๔ ปี หลังจากนั้น แมงปอ ชลธิชา , ยุ้ย ญาติเยอะ และนักร้องท่านอื่น ได้นำ เพลงของบุษบามาขับร้องใหม่ในภายหลัง ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ ผลงาน ผลงานในสังกัดเอไอเดีย (นพพรโปรโมชัน): พ.ศ. ๒๕๒๘-พ.ศ. ๒๕๓๘ อัลบั้มที่ ๑ สาวนครชัยศรี (ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๘) - สาวนครชัยศรี (แมงปอ ชลธิชา นำไปร้องใหม่ : อัลบั้ม หนูกลัวตุ๊กแก) - ลูกเลวของพ่อ - สาวนาหาแฟน (สาลี่ ขนิษฐา นำไปร้องใหม่ : อัลบั้ม ชะแว๊ป...มาสักนิด) - กลัวบางกอก - กรุณาอย่าทำให้ฉันรัก - คนไทยเขาถือ - สาวบ้านนอก (สาลี่ ขนิษฐา นำไปร้องใหม่ : อัลบั้ม ปิดทองย่าโม) - เบื้องหลังคนดัง - เด็กขายพวงมาลัย - แตกเนื้อสาว ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ อัลบั้มที่ ๒ ท้ารัก (สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๙) - ชอบคนมีตังค์ (แมงปอ ชลธิชา และ ยุ้ย ญาติเยอะ นำไปร้อง ใหม่) - โอ้โฮ...บางกอก (แมงปอ ชลธิชา นำไปร้องใหม่) - น้องแดง - ท้ารัก (แมงปอ ชลธิชา และ ยุ้ย ญาติเยอะ นำไปร้องใหม่) - ถึงคิวร้องไห้ - ไม่รักคนรูปหล่อ - น้ำตาคนชั่ว - ผู้ชายร้ายกว่างู - หนีรัก (ณิชา ดารินทร์ นำไปร้องใหม่) - เห็นแวบเดียว (เพ็ญพักตร์ พวงทอง นำไปร้องใหม่) ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ อัลบั้มที่ ๓ ยิ้มรับคุณ (เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๐) - ยิ้มรับคุณ (ยอดรัก สลักใจ ร้องแก้ด้วยเพลง \"ยิ้มให้คุณ • ในอัลบั้ม ยิ้มให้คุณ • ปี พ.ศ. ๒๕๓๐\") - ขอให้ผู้หญิงบ้าง - อย่าลืมป้าลืมลุง - เดี๋ยวเดี๊ยะ (ยุ้ย ญาติเยอะ นำไปร้องใหม่) - ได้ไม่ดี ดีไม่ได้ (ยุ้ย ญาติเยอะ นำไปร้องใหม่) - หน้าไหว้หลังหลอก - คุณน้าคะ - ถ้าหลอกบอกด้วย - สนคนหัวล้าน - ไอ้เพชร ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.ตำบลเขาทราย
Search