Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระราชบัญญัติพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๓๔ (๑)

พระราชบัญญัติพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๓๔ (๑)

Description: พระราชบัญญัติพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๓๔ (๑)

Search

Read the Text Version

ราชกจิ จานเุ บกษา พระราชบัญญตั ิ พัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๓๔

พระราชบญั ญตั ิ พฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๓๔ ภมู ิพลอดุลยเดช ป.ร. ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ ๒๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นปี ที่ ๔๖ ในรัชกาลปัจจุบนั พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด เกลา้ ฯ ใหป้ ระกาศวา่ โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายวา่ ดว้ ยการพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญตั ิข้ึนไวโ้ ดยคาแนะนาและ ยนิ ยอมของสภานิติบญั ญตั ิแห่งชาติ ดงั ต่อไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบญั ญตั ิน้ีเรียกวา่ “พระราชบญั ญตั ิพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๓๔” มาตรา ๒[๑] พระราชบญั ญตั ิน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แต่วนั ถดั จากวนั ประกาศในราช กิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญตั ิน้ี “การพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย”ี หมายความวา่ การดาเนินกิจการทีเ่ ป็น การเพมิ่ พูนความรู้และความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยเี พ่อื ยกระดบั ความสามารถ ทางการผลิตและการบริการตลอดจนระดบั ฐานะทางเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศ โดยรวม ถึงการพฒั นาขีดความสามารถในการรับและถ่ายทอดเทคโนโลยที ้งั ภายในประเทศและจาก ต่างประเทศเพื่อการพฒั นาประเทศในทกุ ดา้ น

“การวจิ ยั พฒั นาและวศิ วกรรม” หมายความว่า การศึกษาคน้ ควา้ ทีม่ ุ่งจะนาผลไป ปรับปรุงผลิตภณั ฑห์ รือกรรมวิธีการผลิตทางอตุ สาหกรรม เกษตรกรรมและบริการหรือกิจกรรม ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง รวมท้งั การศึกษาคน้ ควา้ เพอ่ื นามาซ่ึงผลิตภณั ฑใ์ หม่หรือกรรมวิธีการผลิตใหม่ ตลอดจนบริการหรือกิจกรรมใหม่ โดยรวมถึงการเผยแพร่และพฒั นาผลของการศึกษาคน้ ควา้ จนถึงข้นั การผลิตเชิงธุรกิจ “กองทุน” หมายความว่า กองทุนเพือ่ การพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยแี ห่งชาติ “สานกั งาน” หมายความวา่ สานกั งานพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ “ผอู้ านวยการ” หมายความวา่ ผอู้ านวยการสานกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยแี ห่งชาติ “รัฐมนตรี” หมายความวา่ รัฐมนตรีผรู้ ักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา ๔ ใหม้ ีคณะกรรมการพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ ประกอบดว้ ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย*ี เป็นประธานกรรมการ ปลดั กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย*ี เป็นรองประธานกรรมการ ผทู้ รงคุณวุฒิซ่ึง คณะรัฐมนตรีแต่งต้งั เป็ นกรรมการไม่เกินยส่ี ิบสองคน โดยใหแ้ ต่งต้งั จากหน่วยงานของรัฐที่ เก่ียวขอ้ งกบั ผซู้ ่ึงมิใช่ขา้ ราชการจานวนฝ่ ายละเท่า ๆ กนั และใหผ้ อู้ านวยการเป็นกรรมการและ เลขานุการ มาตรา ๕ คณะกรรมการมีอานาจหนา้ ทีค่ วบคุมดูแลกิจการทวั่ ไปของสานกั งาน และโดยเฉพาะมีอานาจหนา้ ท่ี ดงั น้ี (๑) พจิ ารณาอนุมตั ิแผนหลกั เก่ียวกบั การพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยขี อง สานกั งาน (๒) กาหนดนโยบายและควบคุมดูแลการดาเนินงานของสานกั งานในการบริหาร กองทุนและพิจารณาจดั สรรทุนสาหรับกิจกรรมหลกั ตา่ ง ๆ ใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาวการณ์ในการ พฒั นาประเทศ (๓) วางมาตรการ กาหนดหลกั เกณฑแ์ ละเงื่อนไขต่าง ๆ ในส่วนทเ่ี ก่ียวกบั กองทุน เพ่อื สนบั สนุนการรับและการถ่ายทอดเทคโนโลยี

(๔) อนุมตั ิแผนการเงินและงบประมาณประจาปี ของสานกั งาน (๕) จดั ต้งั หน่วยงานเฉพาะทางข้ึนในสานกั งานโดยอนุมตั ิคณะรัฐมนตรีในกรณี ทม่ี ีความจาเป็นตอ้ งดาเนินการพฒั นากิจกรรมใดเป็นกรณีพเิ ศษ (๖) ออกขอ้ บงั คบั ว่าดว้ ยการจดั แบง่ ส่วนงานของสานกั งาน และขอ้ บงั คบั วา่ ดว้ ย การบริหารงานของสานกั งาน รวมถึงระเบียบขอ้ บงั คบั ดา้ นการเงิน (๗) กาหนดจานวน ตาแหน่ง ระยะเวลาจา้ ง อตั ราเงินเดือน ค่าจา้ งและเงินเดือน ของพนกั งานและลูกจา้ ง (๘) ออกขอ้ บงั คบั ว่าดว้ ยการบรรจุ การแตง่ ต้งั การกาหนดตาแหน่ง การกาหนด อตั ราเงินเดือนหรือค่าจา้ ง การเล่ือนเงินเดือนหรือค่าจา้ ง การออกจากงาน วนิ ยั การลงโทษและ การอุทธรณ์ การลงโทษทางวนิ ยั การร้องทุกขข์ องพนกั งานและลูกจา้ งรวมท้งั การบริหารงาน บุคคลโดยทว่ั ไป (๙) ออกขอ้ บงั คบั ว่าดว้ ยการคดั เลือกผอู้ านวยการ การปฏิบตั ิงานของผูอ้ านวยการ และการมอบใหผ้ อู้ ื่นรักษาการแทนหรือปฏิบตั ิการแทนผอู้ านวยการ (๑๐) ออกขอ้ บงั คบั วา่ ดว้ ยสวสั ดิการหรือการสงเคราะห์อืน่ แก่พนกั งานและ ลูกจา้ ง มาตรา ๖ ใหก้ รรมการซ่ึงคณะรัฐมนตรีแตง่ ต้งั อยใู่ นตาแหน่งคราวละสองปี ในกรณีทกี่ รรมการซ่ึงคณะรัฐมนตรีแต่งต้งั พน้ จากตาแหน่งก่อนวาระ หรือใน กรณีที่คณะรัฐมนตรีแต่งต้งั กรรมการเพมิ่ ข้นึ ในระหว่างท่กี รรมการซ่ึงแต่งต้งั ไวแ้ ลว้ ยงั มีวาระอยู่ ในตาแหน่ง ใหผ้ ไู้ ดร้ ับแต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหน่งแทนหรือเป็นกรรมการเพ่ิมข้ึนอยใู่ นตาแหน่ง เท่ากบั วาระท่ีเหลืออยขู่ องกรรมการซ่ึงไดแ้ ต่งต้งั ไวแ้ ลว้ เม่ือครบกาหนดตามวาระดงั กลา่ วในวรรคหน่ึง หากยงั มิไดม้ ีการแต่งต้งั กรรมการข้ึนใหม่ ใหก้ รรมการซ่ึงพน้ จากตาแหน่งตามวาระน้นั อยใู่ นตาแหน่งเพอ่ื ดาเนินงาน ต่อไปจนกวา่ กรรมการซ่ึงไดร้ ับแต่งต้งั ใหม่เขา้ รับหนา้ ที่ กรรมการซ่ึงพน้ จากตาแหน่งตามวาระอาจไดร้ ับแต่งต้งั อกี ได้ มาตรา ๗ นอกจากการพน้ จากตาแหน่งตามวาระตามมาตรา ๖ กรรมการซ่ึง คณะรัฐมนตรีแต่งต้งั พน้ จากตาแหน่ง เมื่อ (๑) ตาย

(๒) ลาออก (๓) คณะรัฐมนตรีใหอ้ อก (๔) เป็นบุคคลลม้ ละลาย (๕) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (๖) ไดร้ ับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงทส่ี ุดใหจ้ าคุก เวน้ แต่เป็นโทษสาหรับ ความผดิ ทีไ่ ดก้ ระทาโดยประมาท หรือความผดิ ลหุโทษ มาตรา ๘ การประชุมคณะกรรมการทกุ คราวตอ้ งมีกรรมการมาประชุมไม่นอ้ ย กว่าก่ึงหน่ึงของจานวนกรรมการท้งั หมด จึงจะเป็ นองคป์ ระชุม ในการประชุมคณะกรรมการ ถา้ ประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจ ปฏิบตั ิหนา้ ที่ได้ ใหร้ องประธานกรรมการเป็นประธานในทปี่ ระชุม ถา้ ประธานกรรมการและ รองประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไมอ่ าจปฏิบตั ิหนา้ ท่ไี ด้ ใหท้ ปี่ ระชุมเลือกกรรมการคน หน่ึงเป็ นประธานในที่ประชุม การวินิจฉยั ช้ีขาดของท่ีประชุมใหถ้ ือเสียงขา้ งมาก กรรมการคนหน่ึงใหม้ ีเสียงหน่ึงในการลงคะแนน ถา้ คะแนนเสียงเท่ากนั ให้ ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิม่ ข้ึนอีกเสียงหน่ึงเป็นเสียงช้ีขาด มาตรา ๙ ใหป้ ระธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการไดร้ ับเบ้ีย ประชุมและประโยชน์ตอบแทนอน่ื ตามระเบยี บที่คณะรัฐมนตรีกาหนด มาตรา ๑๐ คณะกรรมการมีอานาจแต่งต้งั คณะอนุกรรมการเพ่อื พจิ ารณาหรือ ปฏิบตั ิการอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดตามทค่ี ณะกรรมการมอบหมายได้ การดาเนินการตามมาตรา ๕ (๗) (๘) และ (๑๐) ใหค้ ณะกรรมการแต่งต้งั คณะอนุกรรมการเพือ่ พจิ ารณาก่อนนาเสนอคณะกรรมการ การแต่งต้งั คณะอนุกรรมการตามวรรคสอง ใหม้ ีตวั แทนพนกั งานหรือลูกจา้ งซ่ึง มาจากการเลือกต้งั ของพนกั งานและลูกจา้ งเป็นอนุกรรมการสองคน การประชุมคณะอนุกรรมการตามวรรคหน่ึงและวรรคสอง ใหน้ ามาตรา ๘ มาใช้ บงั คบั โดยอนุโลม

มาตรา ๑๑ ใหจ้ ดั ต้งั สานกั งานข้ึนเรียกวา่ “สานกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยแี ห่งชาติ” และใหส้ านกั งานน้ีเป็นนิติบคุ คลที่กฎหมายวา่ ดว้ ยแรงงานสัมพนั ธไ์ ม่ใช้ บงั คบั มีวตั ถุประสงค์ ดงั ต่อไปน้ี (๑) บริหารกองทุนตามกฎหมาย ขอ้ บงั คบั และมติของคณะกรรมการ (๒) สารวจ ศึกษาและวิเคราะห์ทางวชิ าการต่าง ๆ เพื่อใชเ้ ป็นพ้ืนฐานในการ วางเป้าหมาย นโยบาย และจดั ทาแผน โครงการ และมาตรการต่าง ๆ ในการพฒั นาวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยขี องประเทศ แลว้ นาเสนอต่อรัฐมนตรี (๓) ดาเนินการวจิ ยั พฒั นาและดาเนินการดา้ นวศิ วกรรม และสนบั สนุนการวิจยั พฒั นาและวศิ วกรรมของภาครัฐบาล ภาคเอกชน และสถาบนั การศึกษา และส่งเสริมความ ร่วมมือในกิจกรรมดา้ นน้ีระหว่างภาครัฐบาล ภาคเอกชน และสถาบนั การศึกษา ตลอดจนนานา ประเทศเพื่อพฒั นาประโยชน์เชิงพาณิชย์ (๔) ดาเนินการและสนบั สนุนการใหบ้ ริการในการวเิ คราะห์ทดสอบคุณภาพ ผลิตภณั ฑ์ การสอบเทยี บมาตรฐานและความถกู ตอ้ งของอุปกรณ์ การใหบ้ ริการขอ้ มลู และการ ใหค้ าปรึกษาทางเทคโนโลยี และสนบั สนุนการใหบ้ ริการอ่นื ๆ ทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (๕) สนบั สนุนการเพิ่มสมรรถนะในการเลอื กและรับเทคโนโลยจี ากต่างประเทศ ตลอดจนการจดั การโครงการลงทุนและโครงการพฒั นาท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การรับการถา่ ยทอด เทคโนโลยจี ากต่างประเทศ เพ่อื ใหไ้ ดเ้ ทคโนโลยที ่มี ีประสิทธิภาพและเหมาะสม และเพ่ือเก้ือกลู การสร้างเสริมสมรรถนะทางเทคโนโลยขี องประเทศ (๖) ดาเนินการและส่งเสริมการพฒั นาโครงสร้างพ้นื ฐานทางวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยขี องประเทศ รวมท้งั การพฒั นากาลงั คนดา้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยที ้งั ใน ภาครัฐบาลและภาคเอกชน (๗) กระทาการอนื่ ใดตามท่กี ฎหมายกาหนดใหเ้ ป็นหนา้ ท่ขี องสานกั งานและ ตามท่ีคณะกรรมการมอบหมาย มาตรา ๑๒ ใหส้ านกั งานมีอานาจกระทากิจการต่าง ๆ ภายในขอบแห่ง วตั ถุประสงคต์ ามมาตรา ๑๑ และอานาจเช่นว่าน้ีใหร้ วมถึง (๑) จดั ใหไ้ ดม้ า ถือกรรมสิทธ์ิ เช่า ใหเ้ ช่า เช่าซ้ือ ใหเ้ ช่าซ้ือ ยมื ใหย้ มื แลกเปลี่ยน โอน รับโอน และขายหรือจาหน่ายดว้ ยวธิ ีใด ๆ ซ่ึงอสังหาริมทรัพยห์ รือสังหาริมทรัพยร์ วมท้งั หลกั ทรัพยต์ ่าง ๆ ตลอดจนรับทรัพยส์ ินทมี่ ีผมู้ อบหรืออุทศิ ให้

(๒) รับค่าตอบแทนการใชป้ ระโยชน์ทรัพยส์ ินทางปัญญา ค่าตอบแทนการใหใ้ ช้ หรือการโอนสิทธิบตั ร และค่าบริการในการใหบ้ ริการ รวมท้งั ทาความตกลงและกาหนดเง่ือนไข เกี่ยวกบั ค่าตอบแทนและค่าบริการน้นั (๓) ทาความตกลงและร่วมมือกบั องคก์ ารหรือหน่วยงานในประเทศและ ต่างประเทศ ในกิจการท่ีเก่ียวกบั การพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการวิจยั พฒั นาและ วศิ วกรรม (๔) จดั ใหม้ ีและใหท้ ุนเพอื่ สนบั สนุนการพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (๕) เขา้ ร่วมกิจการกบั บุคคลอืน่ หรือถือหุน้ ในบริษทั จากดั เพอ่ื ประโยชน์แก่การ พฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (๖) กยู้ มื เงิน ใหก้ ยู้ มื เงิน โดยมีหลกั ประกนั ดว้ ยบุคคลหรือทรัพยส์ ินหรือการ ลงทนุ ท้งั น้ี เพื่อการวจิ ยั และพฒั นา และการบริการทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี การกูย้ มื เงินหรือการลงทุน ถา้ เป็นจานวนเงินเกินวงเงินทรี่ ัฐมนตรีกาหนด ตอ้ งไดร้ ับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน (๗) กระทาการอยา่ งอน่ื บรรดาท่เี ก่ียวกบั หรือเนื่องในการจดั ใหส้ าเร็จตาม วตั ถุประสงคข์ องสานกั งาน มาตรา ๑๓ ใหส้ านกั งานมีผอู้ านวยการคนหน่ึงซ่ึงคณะกรรมการแต่งต้งั ดว้ ย ความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มาตรา ๑๔ ใหผ้ อู้ านวยการมีวาระอยใู่ นตาแหน่งคราวละสามปี และอาจไดร้ ับ แต่งต้งั อกี ไดแ้ ต่ไม่เกินสองวาระติดต่อกนั นอกจากการพน้ จากตาแหน่งตามวาระแลว้ ผอู้ านวยการพน้ จากตาแหน่งเม่ือ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) คณะกรรมการใหอ้ อกดว้ ยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มาตรา ๑๕ ผอู้ านวยการมีอานาจหนา้ ท่ี ดงั น้ี (๑) บริหารงานของสานกั งานตามกฎหมาย ขอ้ บงั คบั ระเบยี บ และมติของ คณะกรรมการ

(๒) รับผดิ ชอบในการดาเนินงานและบงั คบั บญั ชาพนกั งานและลูกจา้ งของ สานกั งานทกุ ตาแหน่ง (๓) บรรจุ แต่งต้งั เล่ือน ลด ตดั เงินเดือนหรือค่าจา้ ง ลงโทษทางวินยั พนกั งานและ ลูกจา้ ง ตลอดจนใหพ้ นกั งานหรือลูกจา้ งออกจากตาแหน่ง ท้งั น้ี ตามขอ้ บงั คบั ที่คณะกรรมการ กาหนด แต่ถา้ เป็นพนกั งานระดบั รองผอู้ านวยการ ผชู้ ่วยผอู้ านวยการหรือผอู้ านวยการฝ่ าย ตอ้ ง ไดร้ ับความเห็นชอบจากคณะกรรมการก่อน (๔) วางระเบียบเก่ียวกบั การปฏิบตั ิงานของสานกั งาน โดยไม่ขดั หรือแยง้ กบั ขอ้ บงั คบั ระเบยี บ หรือมติของคณะกรรมการ มาตรา ๑๖ ในกิจการท่เี กี่ยวกบั บุคคลภายนอก ใหผ้ อู้ านวยการเป็นผแู้ ทนของ สานกั งาน และเพ่อื การน้ี ผอู้ านวยการจะมอบอานาจใหบ้ คุ คลใดปฏิบตั ิงานเฉพาะอยา่ งแทนกไ็ ด้ แต่ตอ้ งเป็นไปตามขอ้ บงั คบั ที่คณะกรรมการกาหนด มาตรา ๑๗ ใหจ้ ดั ต้งั กองทุนข้ึนกองทุนหน่ึงในสานกั งานเรียกว่า “กองทุนเพอ่ื การพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย”ี ประกอบดว้ ย (๑) เงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจดั สรรให้ (๒) เงินและทรัพยส์ ินในส่วนท่ีเก่ียวกบั โครงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยเี พอื่ การพฒั นาทไ่ี ดร้ ับโอนจากสถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งประเทศไทย (๓) เงินและทรัพยส์ ินที่ไดร้ ับโอนจากสานกั งานปลดั กระทรวง กระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย*ี ในส่วนท่ีเก่ียวกบั โครงการศูนยพ์ นั ธุวิศวกรรมและ เทคโนโลยชี ีวภาพแห่งชาติ ศูนยเ์ ทคโนโลยโี ลหะและวสั ดุแห่งชาติ และศูนยเ์ ทคโนโลยี อิเลก็ ทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (๔) เงินอดุ หนุนท่รี ัฐบาลจดั สรรใหจ้ ากงบประมาณแผน่ ดินประจาปี (๕) เงินอดุ หนุนจากต่างประเทศรวมท้งั องคก์ รระหวา่ งประเทศ (๖) เงินหรือทรัพยส์ ินที่มีผมู้ อบใหเ้ พอื่ สมทบกองทุน (๗) ดอกผลหรือรายไดข้ องกองทุน รวมท้งั ผลประโยชนจ์ ากทรัพยส์ ินทางปัญญา และค่าตอบแทนการใหใ้ ชห้ รือการโอนสิทธิบตั ร (๘) เงินและทรัพยส์ ินอนื่ ที่ตกเป็นของกองทุน

ในกรณีกองทนุ มีจานวนเงินไม่พอสาหรับค่าใชจ้ ่ายในการดาเนินงานของ สานกั งานและค่าภาระต่าง ๆ ทเ่ี หมาะสม รฐั พงึ จดั สรรเงินงบประมาณแผน่ ดินเขา้ สมทบกองทนุ เท่าจานวนทจ่ี าเป็ น มาตรา ๑๘ รายไดข้ องกองทุนและของสานกั งานใหน้ าเขา้ สมทบกองทุนโดยไม่ ตอ้ งส่งกระทรวงการคลงั ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยเงินคงคลงั และกฎหมายวา่ ดว้ ยวิธีการงบประมาณ มาตรา ๑๙ ใหส้ านกั งานวางและถือไวซ้ ่ึงระบบการบญั ชีที่เหมาะสมแก่กิจการ แยกตามประเภทงานส่วนที่สาคญั มีสมุดบญั ชีลงรายการรับและจ่ายเงิน สินทรัพยแ์ ละหน้ีสินที่ แสดงกิจการทีเ่ ป็นอยตู่ ามความจริงและตามทีค่ วร ตามประเภทงานพร้อมดว้ ยขอ้ ความอนั เป็ น ทีม่ าของรายการน้นั ๆ และใหม้ กี ารตรวจสอบบญั ชีภายในเป็ นประจา มาตรา ๒๐ ใหส้ านกั งานจดั ทางบดุล บญั ชีทาการ และบญั ชีกาไรขาดทนุ ส่ง ผสู้ อบบญั ชีตรวจสอบภายในหน่ึงร้อยยสี่ ิบวนั นบั แต่วนั สิ้นปี บญั ชีทุกปี ใหส้ านกั งานตรวจเงินแผน่ ดินเป็นผสู้ อบบญั ชีของสานกั งานทกุ รอบปี แลว้ ทา รายงานผลการสอบบญั ชีเสนอต่อคณะกรรมการ มาตรา ๒๑ ทกุ ๆ ปี ใหส้ านกั งานจดั ทารายงานประจาปี เสนอต่อคณะกรรมการ เพอื่ เสนอรัฐมนตรี โดยแสดงงบดุล บญั ชีทาการ และบญั ชีกาไรขาดทุนท่ผี สู้ อบบญั ชีรับรองวา่ ถูกตอ้ ง พร้อมท้งั รายงานของผสู้ อบบญั ชี รวมท้งั แสดงผลงานของสานกั งานในปี ทล่ี ่วงมาดว้ ย ใหร้ ัฐมนตรีเสนอรายงานประจาปี ตามวรรคหน่ึงต่อคณะรัฐมนตรี และให้ คณะรัฐมนตรีเสนอรายงานน้นั ต่อรัฐสภาเพ่อื ทราบ มาตรา ๒๒ ใหจ้ ดั ต้งั ศูนยพ์ นั ธุวิศวกรรมและเทคโนโลยชี ีวภาพแห่งชาติ ศูนย์ เทคโนโลยโี ลหะและวสั ดแุ ห่งชาติ และศูนยเ์ ทคโนโลยอี ิเลก็ ทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ เป็นส่วนหน่ึงของสานกั งาน มาตรา ๒๓ ใหโ้ อนบรรดากิจการ ทรัพยส์ ิน สิทธิ หน้ี งบประมาณ รวมท้งั พนกั งานและลูกจา้ งของสถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งประเทศไทยในส่วนท่ี

เก่ียวกบั โครงการวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยเี พ่ือการพฒั นา ไปเป็นของสานกั งานโดยให้ พนกั งานและลูกจา้ งดงั กลา่ วดารงตาแหน่งท่ดี ารงอยแู่ ละไดร้ ับเงินเดือนหรือค่าจา้ งรวมท้งั สิทธิ และประโยชน์ต่าง ๆ ทีไ่ ดร้ ับอยใู่ นวนั ท่พี ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ไปพลางก่อนจนกว่าจะได้ บรรจุและแต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหน่งในสานกั งาน แต่จะแต่งต้งั ใหไ้ ดร้ ับเงินเดือนหรือค่าจา้ งต่ากว่า เงินเดือนหรือค่าจา้ งทไี่ ดร้ ับอยเู่ ดิมไม่ได้ และใหถ้ ือวา่ เวลาทางานของบุคคลดงั กล่าวในโครงการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยเี พ่อื การพฒั นาเป็นเวลาทางานติดต่อกนั กบั เวลาทางานในสานกั งาน นบั แต่วนั ทีพ่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั มาตรา ๒๔ ใหโ้ อนบรรดากิจการ ทรัพยส์ ิน สิทธิ หน้ี และงบประมาณของ สานกั งานปลดั กระทรวง กระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย*ี ในส่วนท่เี ก่ียวกบั โครงการ ศูนยพ์ นั ธุวศิ วกรรมและเทคโนโลยชี ีวภาพแห่งชาติ ศูนยเ์ ทคโนโลยโี ลหะและวสั ดุแห่งชาติ และ ศูนยเ์ ทคโนโลยอี เิ ลก็ ทรอนิกส์และคอมพวิ เตอร์แห่งชาติ ท่ีมีอยใู่ นวนั ทีพ่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใช้ บงั คบั ไปเป็นของสานกั งาน ขา้ ราชการหรือลูกจา้ งผใู้ ดของสานกั งานปลดั กระทรวง กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลย*ี ซ่ึงปฏิบตั ิงานเก่ียวกบั กิจการทโ่ี อนไปตามวรรคหน่ึง ถา้ สมคั รใจจะโอนไป ปฏิบตั ิงานเป็ นพนกั งานหรือลูกจา้ งของสานกั งาน และไดแ้ จง้ ความจานงเป็นหนงั สือต่อ ผบู้ งั คบั บญั ชาผมู้ ีอานาจบรรจุและแต่งต้งั ภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ทีพ่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใช้ บงั คบั ใหโ้ อนขา้ ราชการหรือลูกจา้ งผนู้ ้นั ไปเป็ นพนกั งานหรือลูกจา้ งของสานกั งาน แต่ท้งั น้ี ตามทร่ี ัฐมนตรีเจา้ สงั กดั และสานกั งานจะไดต้ กลงกนั ใหข้ า้ ราชการหรือลูกจา้ งทโ่ี อนไปเป็นพนกั งานหรือลูกจา้ งของสานกั งาน แลว้ แต่กรณี ไดร้ ับเงินเดือนหรือค่าจา้ ง รวมท้งั สิทธิและประโยชน์ต่าง ๆ เท่ากบั ทเ่ี คยไดร้ ับอยู่ เดิมไปพลางก่อนจนกวา่ จะไดบ้ รรจุและแตง่ ต้งั ใหด้ ารงตาแหน่งในสานกั งานแต่จะแต่งต้งั ให้ ไดร้ ับเงินเดือนหรือค่าจา้ งต่ากว่าเงินเดือนหรือค่าจา้ งที่ไดร้ ับอยเู่ ดิมไม่ได้ การโอนขา้ ราชการตามมาตราน้ีใหถ้ ือวา่ เป็นการใหอ้ อกจากราชการเพราะเลิก หรือยบุ ตาแหน่งตามกฎหมายวา่ ดว้ ยบาเหนจ็ บานาญขา้ ราชการ การโอนลูกจา้ งตามมาตราน้ีใหถ้ ือวา่ เป็นการใหอ้ อกจากงานเพราะทางราชการ ยบุ ตาแหน่งหรือทางราชการเลิกจา้ งโดยไมม่ ีความผดิ และใหไ้ ดร้ ับบาเหนจ็ ตามระเบยี บ กระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยบาเหน็จลูกจา้ ง

เพ่ือประโยชนใ์ นการนบั เวลาการทางานสาหรับคานวณบาเหนจ็ หรือบานาญตาม ขอ้ บงั คบั ของสานกั งาน ขา้ ราชการหรือลกู จา้ งผใู้ ดที่โอนไปตามมาตราน้ีประสงคจ์ ะใหน้ บั เวลา ราชการหรือเวลาทางานในขณะทเ่ี ป็นขา้ ราชการหรือลูกจา้ งก่อนที่มีการโอนเป็นเวลาทางานของ พนกั งานหรือลูกจา้ งของสานกั งาน แลว้ แต่กรณี ก็ใหม้ ีสิทธิกระทาไดโ้ ดยแสดงความจานงว่าไม่ ขอรับบาเหน็จหรือบานาญ การไม่ขอรับบาเหนจ็ หรือบานาญตามวรรคหก จะตอ้ งกระทาภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ที่โอน สาหรับกรณีของขา้ ราชการใหด้ าเนินการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยบาเหน็จบานาญ ขา้ ราชการ สาหรับกรณีของลูกจา้ งใหก้ ระทาเป็นหนงั สือลงลายมือชื่อเป็ นหลกั ฐานยน่ื ต่อผู้ ว่าจา้ งเพอ่ื ส่งต่อไปใหก้ ระทรวงการคลงั ทราบ มาตรา ๒๕ ใหร้ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย*ี รักษาการ ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ พลตารวจเอก เภา สารสิน รองนายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิฉบบั น้ี คือ การท่รี ัฐบาลจะนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยมี าใชใ้ นการพฒั นาประเทศอยา่ งมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ จาเป็ นตอ้ งเพม่ิ สมรรถนะทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยขี องภาครัฐบาลและภาคเอกชน และพฒั นาโครงสร้าง พ้นื ฐานทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยขี องประเทศใหเ้ ก้ือหนุนการพฒั นาประเทศอยา่ งแทจ้ ริง การพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยนี ้นั มิไดจ้ ากดั อยเู่ ฉพาะการเสริมสร้างองคก์ รและกิจกรรม ดา้ นวิจยั และพฒั นาเทา่ น้นั หากตอ้ งเสริมสร้างสมรรถนะทางวศิ วกรรมและสมรรถนะทาง เทคโนโลยอี น่ื ๆ ตลอดจนการบริการทางเทคโนโลยดี า้ นต่าง ๆ ไปพร้อมกนั ดว้ ย จึงจะสามารถ นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยมี าใชป้ รับปรุงและพฒั นาการผลิต การบริการ และกิจกรรม ต่อเนื่องต่าง ๆ ท้งั ทางอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม รวมท้งั ช่วยใหภ้ าคการผลิตสามารถรับการ ถ่ายทอดเทคโนโลยจี ากต่างประเทศไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ดงั น้นั การพฒั นาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยตี อ้ งครอบคลุมกิจกรรมหลายประเภทและตอ้ งอาศยั ทุนจานวนมากท้งั จากภาครัฐบาล และจากแหล่งทุนอื่นท้งั ภายในและต่างประเทศดว้ ย การระดมทนุ และการบริหารทนุ เพอื่ ดาเนิน กิจกรรมตา่ ง ๆ สาหรับพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยนี ้ีตอ้ งใชค้ วามชานาญการพิเศษ ไม่ อาจอาศยั องคก์ รทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยที ่มี ีอยแู่ ลว้ แต่จาเป็นตอ้ งมีองคก์ รทม่ี ีความเป็น อสิ ระและความคล่องตวั สูงโดยไม่ผกู พนั ไวก้ บั กฎระเบียบการปฏิบตั ิและขอ้ บงั คบั ปกติของ ราชการและรัฐวิสาหกิจ และเป็นองคก์ รท่ปี ระกอบดว้ ยบุคลากรทีม่ ีความชานาญในการปฏิบตั ิ ภารกิจต่าง ๆ ท้งั น้ี เพ่ือใหก้ ารบริหารมีประสิทธิภาพสูงและสามารถดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้ เก้ือหนุนองคก์ รต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยไี ดอ้ ยา่ งเป็นระบบ พร้อมท้งั สามารถ ประสานการพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยรี ะหว่างภาครัฐบาลและภาคเอกชนใหบ้ รรลุ ประโยชนร์ ่วมสูงสุดต่อการพฒั นาประเทศ การส่งเสริมการพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในภาครัฐบาลและภาคเอกชน และการจดั ต้งั กองทุนน้ีจะครอบคลุมถึงการจดั ต้งั ศูนยแ์ ห่งชาติ เพ่ือพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยเี ฉพาะสาขา และการจดั ต้งั องคก์ รพเิ ศษอื่นเพือ่ พฒั นา วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยเี ฉพาะดา้ นดว้ ย เพ่ือใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคใ์ นการพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยดี งั กล่าว ขา้ งตน้ จึงจาเป็นตอ้ งตราพระราชบญั ญตั ิน้ี *พระราชกฤษฎีกาแกไ้ ขบทบญั ญตั ิใหส้ อดคลอ้ งกบั การโอนอานาจหนา้ ทขี่ องส่วนราชการให้ เป็นไปตามพระราชบญั ญตั ิปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕[๒]

มาตรา ๘๒ ในพระราชบญั ญตั ิพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๓๔ ใหแ้ กไ้ ขคาว่า “กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละ การพลงั งาน” เป็น “กระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี” คาว่า “รัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยแี ละการพลงั งาน” เป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลย”ี และคาวา่ “ปลดั กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละ การพลงั งาน” เป็น “ปลดั กระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย”ี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชกฤษฎีกาฉบบั น้ี คือ โดยทีพ่ ระราชบญั ญตั ิ ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ไดบ้ ญั ญตั ิใหจ้ ดั ต้งั ส่วนราชการข้ึนใหม่โดยมี ภารกิจใหม่ ซ่ึงไดม้ ีการตราพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหารและอานาจหนา้ ท่ีของส่วน ราชการใหเ้ ป็นไปตามพระราชบญั ญตั ิปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม น้นั แลว้ และเน่ืองจาก พระราชบญั ญตั ิดงั กล่าวไดบ้ ญั ญตั ิใหโ้ อนอานาจหนา้ ทข่ี องส่วนราชการ รัฐมนตรีผดู้ ารง ตาแหน่งหรือผซู้ ่ึงปฏิบตั ิหนา้ ทใี่ นส่วนราชการเดิมมาเป็นของส่วนราชการใหม่ โดยใหม้ ีการ แกไ้ ขบทบญั ญตั ิต่าง ๆ ใหส้ อดคลอ้ งกบั อานาจหนา้ ท่ีท่ีโอนไปดว้ ย ฉะน้นั เพื่ออนุวตั ิใหเ้ ป็นไป ตามหลกั การที่ปรากฏในพระราชบญั ญตั ิและพระราชกฤษฎีกาดงั กล่าว จึงสมควรแกไ้ ข บทบญั ญตั ิของกฎหมายใหส้ อดคลอ้ งกบั การโอนส่วนราชการ เพอื่ ใหผ้ เู้ ก่ียวขอ้ งมีความชดั เจน ในการใชก้ ฎหมายโดยไม่ตอ้ งไปคน้ หาในกฎหมายโอนอานาจหนา้ ท่วี า่ ตามกฎหมายใดไดม้ ีการ โอนภารกิจของส่วนราชการหรือผรู้ ับผดิ ชอบตามกฎหมายน้นั ไปเป็ นของหน่วยงานใดหรือผใู้ ด แลว้ โดยแกไ้ ขบทบญั ญตั ิของกฎหมายใหม้ ีการเปลี่ยนช่ือส่วนราชการ รัฐมนตรี ผดู้ ารงตาแหน่ง หรือผซู้ ่ึงปฏิบตั ิหนา้ ที่ของส่วนราชการใหต้ รงกบั การโอนอานาจหนา้ ท่ี และเพมิ่ ผแู้ ทนส่วน ราชการในคณะกรรมการใหต้ รงตามภารกิจที่มีการตดั โอนจากส่วนราชการเดิมมาเป็นของส่วน ราชการใหม่ รวมท้งั ตดั ส่วนราชการเดิมท่มี ีการยบุ เลกิ แลว้ ซ่ึงเป็นการแกไ้ ขใหต้ รงตาม พระราชบญั ญตั ิและพระราชกฤษฎีกาดงั กล่าว จึงจาเป็นตอ้ งตราพระราชกฤษฎกี าน้ี

ปณตภร/ผจู้ ดั ทา ๔ มีนาคม ๒๕๕๖ กลุ ชาติ/ตรวจ ๔ มีนาคม ๒๕๕๖ ๒๕๓๔ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๘/ตอนที่ ๒๔๐/ฉบบั พิเศษ หนา้ ๑๐๐/๒๙ ธนั วาคม [๒] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๙/ตอนที่ ๑๐๒ ก/หนา้ ๖๖/๘ ตุลาคม ๒๕๔๕