คำน�ำ ปราชขญอ์เงกแษผต่นรดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เหน็ สมควรใหก้ ารยกยอ่ งและเชดิ ชเู กยี รติ แกผ่ ทู้ รงภมู ปิ ญั ญาดา้ นการเกษตรในสาขาตา่ ง ๆ ซงึ่ เปน็ ผทู้ มี่ คี ณุ ความดี มคี วามรู้ ความสามารถและประสบการณ์ สมควรเป็นปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน จึงก�ำหนดให้มีการสรรหาและแต่งต้ังบุคคลให้เป็นปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน จ�ำนวน 4 สาขา ประกอบด้วย ปราชญ์เกษตรผู้ทรงภูมิปัญญาและมีคุณูปการ ต่อภาคการเกษตรไทย ปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง ปราชญ์เกษตรดีเด่น และปราชญ์เกษตรผนู้ �ำชุมชนและเครือข่าย เพอื่ ให้ไดร้ ับสวัสดกิ ารและสนับสนนุ ให้มกี ารถ่ายทอดความรู้ ประสบการณแ์ ละความสามารถส่สู งั คม ในปี พ.ศ. 2561 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ท�ำการสรรหา และแต่งตั้งบุคคลให้เป็นปราชญ์เกษตรของแผ่นดินใน 3 สาขา ประกอบด้วย นายสุธรรม จันทร์อ่อน เป็นปราชญ์เกษตรของแผ่นดินสาขาปราชญ์เกษตร เศรษฐกจิ พอเพียง นายเสถียร มาเจริญร่งุ เรือง เป็นปราชญเ์ กษตรของแผ่นดนิ สาขาปราชญเ์ กษตรดเี ดน่ และ นายกฤตกร แซเ่ อยี๊ บ เปน็ ปราชญเ์ กษตรของแผน่ ดนิ สาขาปราชญ์เกษตรผู้น�ำชุมชนและเครือข่าย และปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ท้ัง 3 ท่าน ได้เข้ารับพระราชทานโล่รางวัลในงานพระราชพิธีพืชมงคล จรดพระนังคัลแรกนาขวญั ประจำ� ปี 2561 กองนโยบายเทคโนโลยเี พอ่ื การเกษตรและเกษตรกรรมยงั่ ยนื สำ� นกั งาน ปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จงึ ไดจ้ ดั ทำ� หนงั สอื “ปราชญเ์ กษตรของแผน่ ดนิ พ.ศ. 2561” โดยไดร้ วบรวมข้อมูลประสบการณใ์ นการดำ� เนนิ ชีวิต การประกอบ อาชีพ ผลงานที่สร้างคุณประโยชน์และการขยายผลงานของปราชญ์เกษตร ของแผ่นดินแตล่ ะทา่ น เพ่ือเผยแพร่ขอ้ มูลความรทู้ ี่เป็นประโยชนใ์ นการด�ำรงตน และการประกอบอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แก่ผู้ที่สนใจ โดยท่ัวไป และขอขอบคุณผู้เก่ียวข้องในการสนับสนุนข้อมูลและอ�ำนวย ความสะดวกในการสรรหาปราชญ์เกษตรของแผ่นดินในปี พ.ศ. 2561 ให้บรรลุ ตามวตั ถปุ ระสงคท์ กี่ ำ� หนดไวด้ ว้ ยดี กองนโยบายเทคโนโลยเี พ่ือการเกษตรและเกษตรกรรมยั่งยนื มิถุนายน 2561
ปราชขญอ์เงกแษผตน่ รดิน นายสธุ รรม จนั ทร์อ่อน ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง 4
ปราชขญอ์เงกแษผต่นรดนิ ปราชญเ์ กษตรของแผน่ ดนิ สาขาปราชญ์เกษตรเศรษฐกจิ พอเพียง นายสธุ รรม จนั ทร์อ่อน อาย ุ 61 ปี การศึกษา ปริญญาตรี ศิลปศาสตรบณั ฑิต สาขาพัฒนาชมุ ชน มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครปฐม สถานภาพ สมรส มี บุตร-ธดิ า รวม 3 คน บตุ ร 2 คน ธดิ า 1 คน ทีอ่ ยู่ บา้ นเลขท่ี 54 หมู่ท่ี 10 บ้านปลกั ไมล้ าย ต�ำบลทุ่งขวาง อำ� เภอก�ำแพงแสน จังหวัดนครปฐม 73140 โทรศัพท ์ 081-384-5352 อาชีพ เกษตรกร รางวลั หรอื ประกาศเกียรตคิ ณุ ท่ีได้รับ ปราชญ์เกษตรของแผน่ ดนิ สาขาปราชญ์เกษตรเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปี 2561 รางวัลเกษตรกรดีเดน่ แห่งชาติ สาขาบญั ชฟี าร์ม ปี 2553 รางวลั หมอดินอาสาดเี ดน่ กรมพัฒนาท่ีดนิ ปี 2554 โล่เกียรตคิ ุณเกษตรกรผูผ้ ลิตปศสุ ตั ว์อินทรียด์ ีเด่น กรมปศสุ ตั ว์ ปี 2554 รางวลั เกษตรสัมมาชพี ดเี ด่น ระดบั จังหวัด สภาเกษตรแหง่ ชาติ ปี 2557 5
ปราชขญอ์เงกแษผตน่ รดนิ โลเ่ กยี รตคิ ณุ ภมู ปิ ญั ญาดเี ดน่ สำ� นกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ปี 2553 รางวัลครูบัญชีดเี ดน่ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ปี 2553 ชีวติ ทีพ่ อเพยี ง นายสุธรรม จันทร์อ่อน เคยเป็นผู้ท�ำการเกษตรแบบธรรมชาติ โดยเพาะปลูกพชื ผกั ตามฤดกู าล และหันมาปรับเปล่ยี นเป็นการเพาะปลกู แบบเกษตรเชงิ เดยี่ ว ตามคำ� เชญิ ชวนของบรษิ ทั เอกชน โดยปลกู ฝา้ ย ปลกู ออ้ ย เล้ียงกุ้งก้ามกราม ปลูกหน่อไม้ฝร่ัง ซ่ึงสร้างรายได้ดีในช่วงแรกแต่สุดท้าย เกิดมีหนี้สิน เนื่องจากกิจกรรมทางการเกษตรแต่ละอย่างมีต้นทุนท่ีสูง ประกอบกับในกระบวนการผลิตยงั มกี ารใชส้ ารเคมีในปรมิ าณสูง เพื่อใหไ้ ด้ ผลผลิตจ�ำนวนมากและมีคุณภาพ ส่งผลให้มีสุขภาพไม่ดี จึงหันกลับมา ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยทำ� การเกษตรแบบอินทรีย์ มกี าร ทำ� บญั ชคี รวั เรอื นและบญั ชตี น้ ทนุ เพอื่ วเิ คราะหต์ นเอง จนสามารถปลดหนสี้ นิ 6
ปราชขญอ์เงกแษผต่นรดนิ ได้ส�ำเรจ็ และดำ� เนนิ ชีวิตตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี งมาเปน็ ระยะเวลา 17 ปี สามารถเปน็ แบบอยา่ งแกผ่ อู้ ื่น โดยปจั จุบันดำ� เนินกิจกรรมทางการเกษตร บนพืน้ ท่ี 17 ไร่ ประกอบด้วย การปลกู ข้าว การปลกู พืชผกั ผสมผสาน ไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชสมุนไพร การเลี้ยงไก่ เป็ด ปลา กุ้งก้ามแดง ท�ำการผลิต ปุ๋ยหมักชีวภาพ น�้ำหมกั ชีวภาพ และโรงสีขา้ ว ผลผลติ ทางการเกษตรไดร้ บั การรบั รองมาตรฐานเกษตรปลอดสารพษิ GAP และมาตรฐานเกษตรอนิ ทรยี ์ ของ IFOAM, Organic Thailand และ PGS (การรับรองเกษตรอินทรยี ์ แบบมีสว่ นรว่ ม) นอกจากนยี้ งั มีการวางแผนและจัดการผลผลติ ตงั้ แตต่ ้นนำ้� กลางนำ�้ และปลายน�ำ้ จึงทำ� ใหไ้ มม่ ีปญั หาในเร่ืองของตลาด เนอื่ งจาก ผลผลติ ไดร้ บั การรบั รองมาตรฐาน ส่งผลให้มตี ลาดทแี่ นน่ อนในการรบั ซือ้ ผลผลติ และเพ่มิ อ�ำนาจในการเจรจาต่อรองดา้ นราคาของผลผลติ รวมทงั้ มี การสร้างมูลค่าเพ่ิมของผลผลิตโดยการแปรรปู อกี ทางด้วย 7
ปราชขญอ์เงกแษผต่นรดนิ นายสุธรรม เห็นวา่ การทำ� บัญชีเปน็ หวั ใจส�ำคญั ของการด�ำเนินชีวิต เพราะการรู้บัญชี ท�ำให้รู้ต้นทุน รู้อนาคต สามารถน�ำมาใช้ประโยชน์ ในการวางแผนชีวิต การลงทุน การผลิต การสร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับสินค้า “ถ้าเราท�ำบัญชี เราจะรู้ทันทีเลยว่ารายจ่ายท่ีเราใช้ไป และสิ่งที่เราใช้ไป เปน็ เพราะเพ่อื ยงั ชีพ หรอื เป็นเพราะเพ่ือเราอยากอวด หรือฟุ่มเฟือย เราจะ รู้ทนั ที ถา้ เรามีวิธีคิด มีอปุ กรณม์ เี ครื่องมอื มกี ารทำ� บญั ชี และวิเคราะห์ ตวั เองได้ นน่ั หมายถงึ เรามภี มู คิ มุ้ กนั ปอ้ งกนั ตวั เอง เราจะไมห่ ลงในความโลภ ความอยากได้ หรอื หลงในกระแสตา่ ง ๆ และนค่ี อื สง่ิ ทอี่ ยใู่ นหลกั ของปรชั ญา เศรษฐกจิ พอเพยี งนน่ั เอง” นายสธุ รรม ไดน้ ำ� หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นการประกอบ อาชีพเกษตรกร โดยทำ� การเกษตรใหเ้ หมาะสมพอเพียงกับศกั ยภาพแรงงาน ภายในครอบครัว จัดสรรงานให้เป็นระบบและเป็นล�ำดับการปฏิบัติงาน ในแตล่ ะวนั วางแผนชีวติ และการใช้จา่ ยให้เหมาะสมกับรายได้ ลดรายจา่ ย ท่ไี มจ่ �ำเป็น ใช้วัสดุเหลือใช้ด้วยภมู ิปญั ญาท้องถิ่น วางแผนการใชพ้ ้นื ท่ีและ 8
ปราชขญอเ์งกแษผต่นรดนิ การใช้น้�ำในการเกษตรให้เหมาะสมพอดีต่อปัจจัยการผลิตในแต่ละด้าน รวมถึงการใช้เหตุและผลจากอดีตมาเป็นประสบการณ์และปรับใช้ในการ ด�ำเนินชีวิต โดยมีการบันทึกข้อมูลสรุปเป็นสถิติเพ่ือน�ำมาใช้เป็นแผน ในอนาคตอย่างสม�่ำเสมอ มีการประเมินผล การปรับปรุงแก้ไขแผน อย่างต่อเน่ืองเพื่อปรับให้มีความเหมาะสม อีกท้ังน�ำภูมิปัญญาท้องถ่ิน ประสบการณใ์ นการประกอบอาชพี และการดำ� รงชวี ิตมาใชผ้ สมผสานกับ วชิ าการ เทคโนโลยใี หม่ ๆ ในการวางแผนอาชพี วางแผนการผลติ วางแผนชวี ติ และเตรยี มพรอ้ มในการปอ้ งกนั ปญั หาในการประกอบอาชพี ทอี่ าจจะเกดิ ขนึ้ นายสุธรรม หม่นั ศกึ ษาหาข้อมูลเพม่ิ เติมตลอดเวลา และหมัน่ สังเกต ท�ำการศึกษาวิจัยในอาชีพและมีการพัฒนาในทุกด้าน เช่น ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต พัฒนารูปแบบการผลิต พัฒนาคุณภาพ และมีการเรียนรู้ สิง่ ใหม่ ๆ เสมอ เช่น การผสมพันธม์ุ ะละกอจนเกิดมะละกอพันธปุ์ ลักไม้ลาย การเลีย้ งไกไ่ ข่ในแปลงไผ่ ปลูกผกั ผสม 9 ชนดิ และการปลูกผกั ในถงุ เพาะชำ� หรืออุปกรณ์ใกล้ตัว น�ำมาใช้ให้เกิดประโยชน์เพ่ือลดและประหยัดพ้ืนที่ ในการเพาะปลกู อกี ทงั้ ยงั เปน็ ผดู้ ำ� เนนิ ชวี ติ โดยยดึ หลกั การอนรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ้ ม สรา้ งระบบนเิ วศใหส้ มบรู ณ์ เพอ่ื สรา้ งความสมดลุ ทางธรรมชาตแิ ละเออ้ื เฟอ้ื ถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์ตลอดจนแนวคิดให้กับทุกคนที่เดือดร้อน เพื่อให้นำ� ไปปรับใชอ้ ยา่ งเหมาะสมจนมีชีวิตความเปน็ อยูท่ ดี่ ขี ้ึนตอ่ ไป 9
ปราชขญอเ์งกแษผต่นรดนิ ผลงานสรา้ งคุณประโยชน์ นายสุธรรม เป็นผคู้ ดิ ค้นวธิ ีดำ� เนินกิจกรรมการเกษตรตามหลกั การ พงึ่ พาตนเองในการดำ� เนนิ กจิ กรรมทางการเกษตร โดยความรแู้ ละภมู ปิ ญั ญา ทำ� การทดลองปฏิบัตจิ นเกิดผล และได้ถ่ายทอดเผยแพรข่ ้อมลู แกเ่ กษตรกร และผู้สนใจ เพื่อน�ำไปสู่การปฏิบัติ ท�ำให้ผู้น�ำความรู้ไปปฏิบัติสามารถ ด�ำเนินกิจกรรมทางการเกษตรแบบพ่ึงพาตนเองได้ โดยมีผลงานที่สร้าง คุณประโยชน์โดดเด่นหลากหลาย เช่น การน�ำเมล็ดพันธุ์มะละกอจาก ต่างประเทศมาผสมกับมะละกอพื้นบ้านของไทย จนได้มะละกอพันธุ์ ปลักไม้ลายหรือช่ือทางการค้า คือ มะละกอพันธุ์ฮอลแลนด์ ในปัจจุบัน สามารถขยายพื้นที่การปลูกท่ัวประเทศท�ำให้เกิดรายได้ทางเศรษฐกิจอย่าง กวา้ งขวาง การปลูกผักผสม 9 ชนดิ ในแปลงเดียว โดยเน้นการปลกู ผักท่ีมี อายุไล่เล่ียกัน สามารถดูแลพ่ึงพากันได้ เพ่ือลดการใช้น้�ำในแปลงปลูก ป้องกนั แมลงศตั รูพืชได้โดยธรรมชาติ คดิ คน้ วิธกี ารเลย้ี งไก่อนิ ทรยี ์ โดยวธิ ี เล้ียงปล่อยในแปลงไผ่ให้หากินตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นการได้ประโยชน์ ร่วมกันระหวา่ งต้นไผ่และไก่ และเนน้ ผลิตอาหารปลอดภยั เพื่อการบริโภค ท�ำให้ลดความเสย่ี งของการเกิดโรค สขุ ภาพรา่ งกายแข็งแรง มตี น้ ทุนอาชีพ ทต่ี ำ�่ ลง มกี ารวางแผนการผลติ จากการวเิ คราะหป์ จั จยั ทเี่ กย่ี วขอ้ ง เกษตรกร ปรบั เปลย่ี นจากการปลกู ขายมาเปน็ ผบู้ รโิ ภคเองเปน็ ลำ� ดบั แรก เหลอื แบง่ ปนั และจำ� หนา่ ย จำ� หนา่ ยผลผลติ ทแี่ ปรรปู แลว้ ทำ� ใหเ้ กดิ การสรา้ งแรงงานและ ผลผลติ ท่ีมมี ลู คา่ เพม่ิ ลดการน�ำเข้าปัจจัยการผลติ ภายนอก และยังมีผลงาน ในการรวมกลุ่มและสร้างเครือข่าย การจัดการและจ�ำหน่ายสินค้าเกษตร ท้งั ในระดับชุมชนและจังหวดั ต่าง ๆ ท่ีชว่ ยแก้ไขปญั หาด้านการตลาดให้กับ กลมุ่ ต่าง ๆ ดว้ ย 10
ปราชขญอ์เงกแษผตน่ รดนิ การขยายผลงาน นายสุธรรม สร้างตนเองจนประสบผลส�ำเรจ็ และพฒั นาจนสามารถ เปน็ แบบอย่างให้ผอู้ ืน่ นำ� ไปปฏิบัติ โดยจัดตั้งศูนย์เรยี นรูช้ มุ ชนปลกั ไม้ลาย เพอื่ เป็นท่ศี ึกษาดงู านของเกษตรกร นักเรียน นกั ศกึ ษา และผทู้ ีส่ นใจท้ังใน และต่างประเทศ อาทิ ประเทศกมั พชู า ประเทศพม่า ประเทศลาว และ ประเทศภฏู าน โดยเฉพาะในประเทศกมั พชู าและประเทศลาว ไดเ้ ดินทาง ไปเปน็ ทป่ี รกึ ษาในการเปดิ ศนู ยเ์ รยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพียง นอกจากนี้ยงั ได้รบั เชิญเป็นอาจารย์พิเศษและมีการท�ำวิจัยร่วมกันในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ และยงั มกี ารเผยแพรท่ ง้ั ในหนงั สอื พมิ พ์ วารสาร นติ ยสาร วทิ ยุ และโทรทศั น์ อยา่ งแพร่หลาย การสรา้ งกลมุ่ /เครือขา่ ย นายสุธรรม เปน็ ผ้รู เิ รม่ิ รวมกลมุ่ เกษตรกร โดยแบ่งออกเป็นสองกลุม่ หลกั ๆ คือ กลมุ่ เกษตรอินทรยี ์ และกลมุ่ เกษตรปลอดสารพษิ (อยใู่ นระยะ ปรบั เปลยี่ นเปน็ กลมุ่ เกษตรอนิ ทรยี )์ ประกอบดว้ ย เกษตรกรในพน้ื ที่ 4 จงั หวดั ได้แก่ จังหวัดนครปฐม จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดราชบุรี และจังหวัด สุพรรณบุรี และยังมีการท�ำงานร่วมกับองค์การบริหารส่วนต�ำบลในเรื่อง 11
ปราชขญอเ์งกแษผต่นรดนิ การสง่ เสรมิ การทำ� เกษตรอนิ ทรยี ใ์ นพน้ื ท่ี โดยใชพ้ นื้ ทศ่ี นู ยเ์ ปน็ แหลง่ รวบรวม และจัดจ�ำหน่ายผลผลิตของกลุ่มและเครือข่ายสู่ตลาดชุมชน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้าและโรงแรม นอกจากน้ียังมีการรวมกลุ่มต่าง ๆ อาทิ กลุ่มผูป้ ลูกฟกั ข้าว ชมรมครูบญั ชี หมอดนิ อาสา ฯลฯ ขยายเครือข่ายจาก ระดับท้องถนิ่ เป็นระดบั อ�ำเภอ ระดบั จงั หวดั และภมู ภิ าค องคค์ วามร้ทู ี่โดดเดน่ ปรับปรงุ มะละกอพันธ์ปุ ลักไมล้ าย มะละกอพันธุ์ปลักไม้ลาย เป็นมะละกอที่มีการผสมข้ามสายพันธุ์ ระหวา่ งสายพันธุ์พื้นเมอื งของประเทศเมก็ ซิโก “พนั ธุ์เรด มาร์ทาดอร์ (Red Matador)” นำ� มาผสมกับมะละกอสายพนั ธ์ใุ นประเทศไทย “พนั ธ์ุแขกดำ� ” จนประสบความสำ� เร็จได้มะละกอ “พนั ธป์ุ ลักไมล้ าย” ซ่งึ มลี ักษณะผลทีไ่ ม่ ยาวเหมอื นพันธ์แุ ขกด�ำ มรี ูปรา่ งกะทัดรัด มคี วามหวานและอรอ่ ยเหมือน พันธ์ุเรด มาร์ทาดอร์ สำ� หรับชือ่ ของมะละกอ “พนั ธุป์ ลักไม้ลาย” เป็นการ ตัง้ ช่อื ตามชอื่ ของ “วัดปลักไมล้ าย” ซ่ึงเปน็ วัดท่ตี งั้ อยู่ในพื้นทใ่ี กล้บา้ น และ ต่อมาเพือ่ เหตุผลทางการค้า จึงเปลีย่ นชือ่ เป็น มะละกอ “พนั ธฮ์ุ อลแลนด์” และเรียกติดปากมาจนถึงทุกวนั น้ี (เรยี กตามแหล่งท่ไี ด้เมลด็ พันธุม์ ะละกอ เรด มาร์ทาดอร์ จากประเทศฮอลแลนด์) 12
ปราชขญอ์เงกแษผตน่ รดิน 1) ขนั้ ตอนการผสมพันธุ์ 1. ตัดกลบี ดอกและเกสรตวั ผู้ (ระยะดอกตมู ) ของดอกมะละกอ พันธุ์เรด มาร์ทาดอร์ (Red Matador) ทิ้ง และใช้กระดาษห่อให้มิดชิด กันแมลงมาผสมเกสร 2. นำ� พกู่ นั เข่ียเกสรตัวผ้ขู องดอกมะละกอพนั ธแุ์ ขกด�ำ แลว้ นำ� มา ปา้ ยปลายกลบี ดอกตัวเมยี ของมะละกอพนั ธ์เุ รด มาร์ทาดอร์ (Red Mata- dor) และใชก้ ระดาษห่อดอกท่ีผสมแลว้ ใหม้ ิดชิด 3. ท้ิงไว้ 1 อาทิตย์ หากดอกไม่ร่วง แสดงว่าประสบความส�ำเร็จ จะติดผล 4. เมื่อไดผ้ ลมะละกอ ให้น�ำเมลด็ ทีไ่ ด้ไปเพาะจะไดล้ กู ผสมออกมา 5. น�ำผลที่ได้จากต้นลกู ผสมมาคัดลกั ษณะท่ตี ้องการ โดยคัดเลอื ก ผลมะละกอทม่ี ลี กั ษณะแสดงสายพนั ธท์ุ ง้ั สองสายพนั ธอ์ุ ยา่ งชดั เจน (ไมเ่ ลอื ก ผลมะละกอท่ีมีลกั ษณะเด่นไปทางสายพันธใุ์ ด สายพนั ธ์หุ นง่ึ ) 6. นำ� เมลด็ พนั ธท์ุ ไ่ี ดจ้ ากผลมะละกอทคี่ ดั เลอื กแลว้ ไปเพาะปลกู และ คดั เลือกซ้ำ� แบบเดิมจนได้ลกั ษณะลกู ผสมทีน่ ่ิงแลว้ ซึง่ ทำ� การเพาะ 3 รอบ ใชเ้ วลา 2 ปี กจ็ ะได้มะละกอพนั ธุ์ปลกั ไมล้ ายสายพันธแ์ุ ท้ 2) วิธีการปลูก 2 วธิ ี 1. ปลกู ในพน้ื ราบ ใหย้ กรอ่ งแบบร่องผัก กลางร่องให้ทำ� หนุนแบบ หลงั เตา่ แล้วนำ� มะละกอมาปลกู แนวสันกลางรอ่ ง หลุมปลกู ให้มีความลึก พอประมาณ หลงั จากนน้ั ใชป้ ยุ๋ คอก หรอื ปุย๋ หมักรองก้นหลุม คลุกเคลา้ ให้ เข้ากบั ดนิ เสร็จจึงนำ� ตน้ กล้ามาลงปลกู เวลากลบดนิ ควรกลบให้เทา่ กบั ระดับของถงุ เพาะ หา้ มใช้ดนิ สุมโคนกลา้ โดยเดด็ ขาด เพราะจะท�ำให้ต้นกล้า ตายได้ 2. ปลูกพื้นร่องสวน สามารถปลูกได้ 2 วธิ ี คอื ถา้ รอ่ งสวนแคบจะ ปลกู กลางรอ่ งได้ 1 แถว ถา้ รอ่ งสวนกวา้ งจะปลกู ได้ 2 แถว สำ� หรบั การลงปลกู 13
ปราชขญอ์เงกแษผต่นรดิน ด้วยต้นกล้าก็ท�ำแบบเดียวกับการปลูกในพื้นราบ และข้อส�ำคัญคือ การกลบดินควรใหเ้ ท่าระดบั ดนิ ในถุงเพาะ ไมค่ วรใช้ดนิ สมุ โคนต้นกลา้ หลงั ลงปลกู ควรดแู ลรกั ษาการใหน้ ำ�้ ทไ่ี มช่ นื้ แฉะมากจนเกนิ ไป ใหด้ นิ มคี วามชุม่ ชืน้ พอดีทวั่ ทง้ั แปลง การบำ� รุงต้น ด้วยวธิ ใี สป่ ๋ยุ จะเนน้ ในสว่ นของปุ๋ยธรรมชาตเิ ป็นหลกั โดยเฉพาะป๋ยุ คอกและปยุ๋ หมัก สามารถใส่ได้บ่อยครงั้ ประมาณเดือนละ 2-3 คร้ัง โดยหว่านรอบ ๆ โคนต้น ควรจำ� ไว้เสมอวา่ เมอ่ื ใสป่ ๋ยุ ทกุ ครงั้ ควร รดน้�ำให้ชมุ่ ช้นื อย่เู สมอ เพอื่ ให้ปุย๋ ละลายลงไปในดิน ถา้ ปยุ๋ ไมล่ ะลายลงไป ในดนิ การทเี่ ราใสป่ ยุ๋ ลงไปเทา่ ไรกจ็ ะไมไ่ ดผ้ ล หรอื ไดผ้ ลชา้ ตน้ มะละกออาจจะ ชะงกั การเจริญเตบิ โตได้ ซ่งึ เป็นผลพวงทีต่ ่อเน่ืองกนั การกำ� จดั วัชพชื ในชว่ งระยะแรกต้นกลา้ ยังเลก็ ควรใช้แรงงานคน ในการถอนท้งิ ไม่ควรใชจ้ อบถากใกล้โคนตน้ เพราะจะทำ� ให้ระบบรากเนา่ เสียง่าย เมือ่ ตน้ อายไุ ด้ 2-3 เดอื น ลำ� ตน้ มีความสูง 50-70 เซนตเิ มตร และมี ทรงพุ่มกว้างประมาณ 1 เมตร ควรท่ีจะก�ำจัดวัชพืชออกให้หมด เพราะ วชั พืชนีจ้ ะเป็นตัวแย่งปุย๋ และธาตอุ าหารในดิน และแมว้ ่ามะละกอจะมีการ เจริญเติบโตมากขึ้น การก�ำจัดวัชพืชก็ควรใช้แรงคนเพ่ือป้องกันจอบถาก พลาดไปถกู รากของต้นมะละกอ ท�ำใหเ้ กดิ แผลและเชอื้ ราจะเข้ามาทางราก ได้ง่าย หรือมีอีกวิธี คือ ก่อนที่จะลงปลูกให้น�ำพลาสติกด�ำมาคลุมไว้ บนแปลงเพื่อป้องกันการเกิดวัชพืช แต่วิธีน้ีท�ำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ การลงทุนเพมิ่ ขนึ้ แตก่ ็คมุ้ ค่าเชน่ กัน 3) วธิ เี กบ็ ผลผลิต มะละกอพนั ธป์ุ ลกั ไมล้ าย เมอื่ อายไุ ด้ 7 เดอื น จะเรม่ิ ใหผ้ ลแกท่ ยอย ๆ กนั ไป โดยสามารถเก็บเกย่ี วผลผลิตไดเ้ รื่อย ๆ มะละกอจะมีอายุยืนยาวมาก หรือน้อยข้ึนอยู่กับการดูแลรักษา โดยท่ัวไปนิยมเก็บเกี่ยวผลจนอายุ ประมาณ 2 ปี จงึ ปลกู ใหม่ ผลผลติ จะได้ประมาณ 5-8 ตนั ตอ่ ไร่ 14
ปราชขญอ์เงกแษผตน่ รดนิ การปลกู ผัก 9 ชนิด ในแปลงเดียวกนั นายสธุ รรม ดัดแปลงพื้นทปี่ ลกู ผกั 9 ชนดิ ในแปลงเดียวกนั โดยเนน้ พชื ผักทม่ี ีอายุไลเ่ ลยี่ กนั และดูแลซ่งึ กนั และกนั เชน่ ผักกาด คะนา้ ผกั โขม มะเขอื ข้าวโพดออ่ น โดยปลกู พชื สมุนไพรรว่ มดว้ ย อาทิ สะเดา โหระพา ตะไคร้ ใบมะกรดู เปน็ ต้น เพือ่ เปน็ การป้องกันโรคและแมลงมารบกวนแทน การใช้สารเคมี ยาปราบศตั รูพืช 1) การวางแผนการปลูก 1. เตรียมแปลง 4 – 5 แปลง 2. เพาะปลูกทีละ 1 แปลง ห่างกันประมาณเดือนละ 1 แปลง (ระยะเก็บเก่ียวจะพอดีรอบชนรอบ ท�ำให้มีผลผลิตอย่าง ตอ่ เน่ือง) 2) ข้ันตอน 1. เตรยี มดนิ , ไถพรวน, ยอ่ ยดนิ , ใสป่ ุ๋ยหมกั คลุกเคล้าลงในดนิ 2. เตรยี มเมลด็ พนั ธ์ุ 9 ชนดิ ควรเลอื กพชื ทส่ี ามารถปลกู รว่ มกนั ได้ เหลอ่ื มเวลาการเจรญิ เติบโตและการเก็บเกี่ยว เช่น พชื อายสุ น้ั ไดแ้ ก่ ผกั โขม กวางตงุ้ คะนา้ ผกั ชไี ทย ผกั ชลี าว ฯลฯ พชื อายุกลาง ได้แก่ กะเพรา โหระพา ฯลฯ พืชอายยุ าว ได้แก่ มะเขอื เปาะ มะเขือพวง มะเขือยาว ฯลฯ 3) วิธกี ารเพาะปลูก 1. น�ำเมล็ดพันธุ์ทั้งหมดมาคลุกเคล้ารวมกัน แล้วน�ำไปหว่าน ในแปลงท่ีเตรียมดนิ ไว้ จากน้นั คลมุ เมล็ดด้วยแกลบ ฟางข้าว หรอื หญ้าคา 2. รดน้�ำ เชา้ - เย็น 15
ปราชขญอ์เงกแษผต่นรดิน 3. การใสป่ ยุ๋ - ใสค่ รงั้ ท่ี 1 ตอนเตรยี มดิน - ใสค่ รั้งที่ 2 หลังจากเก็บเกยี่ วพืชอายุสัน้ - ใส่ครั้งที่ 3 หลงั จากเกบ็ เกย่ี วพชื อายุกลาง - ใสค่ รั้งท่ี 4 หลงั จากเก็บเกีย่ วพืชอายุยาวรอบแรก (พชื อายุยาวใส่ปุ๋ยประมาณ 2 ครั้ง) 4) การดแู ลรกั ษา หม่นั ตรวจแปลง หากมแี มลงรบกวนให้ใช้สารชวี ภาพ ควบคุม แมลงอยา่ งตอ่ เนือ่ ง 5) การเกบ็ เกย่ี ว 1. การเก็บเก่ียวพืชอายุส้ัน ผักโขม กวางตุ้ง อายุประมาณ 30 – 40 วนั คะนา้ ผักชี อายุประมาณ 60 วัน 2. การเก็บเกี่ยวพืชอายุกลาง กะเพรา โหระพา อายุประมาณ 80 – 90 วนั 3. การเก็บเก่ียวพืชอายุยาว มะเขือเปราะ มะเขือยาว อายุ มากกวา่ 90 วันข้ึนไป (อยู่ได้ 7 – 8 เดือน) มะเขอื พวง อายุ ประมาณ 1 ปี 16
ปราชขญอ์เงกแษผตน่ รดิน แผนท่ศี ูนย์เรยี นรปู้ ราชญเ์ กษตร ไป ุสพรรณ ุบรี คลองชลประทาน คลองชลประทาน ประตรู ะบายนำ้� ไป ัวดป ัลกไ ้มลาย ศนู ยเ์ รยี นรชู้ มุ ชนปลกั ไมล้ าย วดั ปลกั ไมล้ าย วดั ออ้ นอ้ ย ไปวดั หนองงเู หลอื ม สถานท่ตี ดิ ต่อ ไปนครปฐม ทอ่ี ยู่ 54 หมู่ท่ี 10 บา้ นปลกั ไม้ลาย ตำ� บลทุ่งขวาง อำ� เภอกำ� แพงแสน จังหวัดนครปฐม 73140 โทรศัพท ์ 081-384-5352 17
ปราชขญอเ์งกแษผตน่ รดิน นายเสถียร มาเจรญิ ร่งุ เรือง ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรดีเด่น 18
ปราชขญอ์เงกแษผตน่ รดิน ปราชญเ์ กษตรของแผน่ ดิน สาขาปราชญ์เกษตรดเี ดน่ นายเสถียร มาเจริญรงุ่ เรือง อายุ 69 ปี การศึกษา ปริญญาตรี บรหิ ารธุรกจิ บณั ฑิต สาขาบริหารทรพั ยากรมนษุ ย์ สถานภาพ สมรส มี บตุ ร-ธดิ า รวม 5 คน บตุ ร 3 คน ธิดา 2 คน ท่ีอยู่ บา้ นเลขท่ี 378 บา้ นด่านมะขามเตี้ย หมู่ที่ 1 ตำ� บลด่านมะขามเตีย้ อ�ำเภอดา่ นมะขามเต้ีย จงั หวัดกาญจนบรุ ี 71260 โทรศพั ท์ 085-685-2399 อาชีพ เกษตรกร (ท�ำไร่) รางวลั หรือประกาศเกียรตคิ ุณท่ีได้รบั ปราชญเ์ กษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญเ์ กษตรดีเด่น ปี 2561 รางวลั ปราชญเ์ กษตร 72 ปี มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 2557 รางวลั เกษตรกรดีเดน่ สาขาอาชีพท�ำไร่ ระดับเขต ส�ำนักส่งเสริม และพัฒนาการเกษตร เขตท่ี 2 ปี 2559 เกษตรกรดเี ด่นแหง่ ชาติ สาขาอาชพี ท�ำไร่ ปี 2550 ชีวิตท่ีพอเพยี ง นายเสถยี ร มาเจรญิ รุ่งเรอื ง เริ่มชว่ ยครอบครัวทำ� ไร่อ้อย ตัง้ แตอ่ ายุ 8 ขวบ และมีประสบการณ์ท�ำงานในโรงกลึงเหล็ก จึงท�ำให้มีความรู้ เรอื่ งเครอ่ื งจกั รสามารถคดิ คน้ ประดษิ ฐห์ างปลกู ออ้ ยดว้ ยตนเอง เปน็ ผมู้ คี วามเพยี ร 19
ปราชขญอเ์งกแษผตน่ รดิน พยายาม ศกึ ษา ค้นควา้ จนประสบความสำ� เร็จ ดำ� เนนิ กิจกรรมทาง การเกษตรในพ้นื ทก่ี ว่าพันไร่ ประกอบดว้ ย ออ้ ย ปาล์มน�้ำมนั มนั ส�ำปะหลัง มะขามหวาน ยูคาลปิ ตัส ยางพารา ไผ่หวาน สะเดา และอ่นื ๆ มีความ เชี่ยวชาญด้านการคิดค้น พัฒนาและปรับปรุงการเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตอ้อย โดยคิดค้นความรู้ต้ังแต่ขั้นตอนการน�ำเข้า (Input) ได้แก่ การเพม่ิ ความอดุ มสมบรู ณใ์ หแ้ กด่ นิ การคดั เลอื กสายพนั ธอ์ุ อ้ ย กระบวนการผลติ (Process) ได้แก่ การเพ่ิมผลผลิตอ้อยให้ได้ 30 ตัน/ไร่ การประดิษฐ์ หางปลูกออ้ ย แบบ All In One (6 in 1) แบบ 1 ร่อง 4 แถว การปลกู อ้อย ขา้ มแล้งโดยระบบน�้ำหยอด และการนำ� ออก (Output) ไดแ้ ก่ การรวมกลุ่ม เกษตรกรชาวไรอ่ ้อยในพื้นทีเ่ ป็นอ้อยแปลงใหญ่ จากการคดิ คน้ และพฒั นา เทคนคิ ต่าง ๆ ท�ำให้ได้ผลผลิตทดี่ ีและคมุ้ ทุนทสี่ ุด 20
ปราชขญอเ์งกแษผตน่ รดนิ นายเสถียร ท�ำการเกษตรแบบพึ่งพาตนเอง โดยมีแนวคิดท่ีจะใช้ ทรัพยากรธรรมชาติใหน้ อ้ ยที่สดุ ส่งผลกระทบตอ่ ธรรมชาติให้นอ้ ยทีส่ ดุ และ ได้มาซึ่งผลผลติ ท่คี ้มุ ค่ามากที่สดุ ทำ� พอดกี บั ตัวเองไมส่ ร้างความเดอื ดรอ้ น ใหต้ ัวเอง ครอบครวั สังคม ประเทศ และไมเ่ บยี ดเบียนผอู้ ืน่ จัดท�ำบัญชี รายรบั – รายจา่ ยอยูเ่ สมอ มีการเตรียมความพรอ้ มสำ� หรบั การเปลี่ยนแปลง เรียนรู้การท�ำการเกษตรใหม่ ๆ อยู่เสมอและยอมรับผลลัพธ์ ที่จะเกิดขึ้น โดยการทดลองการใชห้ างเครอื่ งปลกู ออ้ ย ลองผดิ ลองถกู เปน็ ระยะเวลานาน ในช่วงแรกประดษิ ฐ์หางปลกู อ้อย 1 ร่อง 2 แถว จนมาเป็นหางปลูกอ้อย 1 ร่อง 4 แถว เนือ่ งจากปัญหาเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย มตี น้ ทุนในการผลิตสงู ผลผลิตไม่สามารถคาดเดาได้ และสภาพอากาศที่ไม่สามารถควบคุมได้ ส่งผลใหเ้ กษตรกรขาดทนุ มากกวา่ ผลกำ� ไร จงึ ไดค้ ดิ หาแนวทางแกไ้ ขปญั หา ดังกล่าวว่าจะท�ำอย่างไรให้ขาดทุนน้อยท่ีสุด และให้เกิดความพอเพียง ต่อการด�ำรงชีวิตของตัวเองและเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย โดยพิจารณาจาก ปจั จัยท่เี กี่ยวข้อง ตลอดจนคำ� นงึ ผลท่ีคาดว่าจะได้รับจากการใช้นวตั กรรม และเกษตรกรจะสามารถนำ� ไปใชป้ ระโยชนใ์ นการประกอบอาชพี เกษตรกรรม 21
ปราชขญอ์เงกแษผตน่ รดิน นายเสถียร ท�ำการเกษตรโดยอาศัยความรู้ที่สั่งสมมาจาก ประสบการณ์ชีวิต ศึกษาจากผู้รู้/นักวิชาการและการไปศึกษาดูงานท่ี เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพเกษตรกรรมในแขนงต่าง ๆ ท�ำให้สามารถ คิดคน้ พฒั นาหางปลกู ออ้ ยและแนวคดิ การปลกู อ้อยจนประสบความสำ� เร็จ เปน็ ทปี่ ระจกั ษแ์ ละยอมรบั ทำ� ใหเ้ กษตรกรชาวไรอ่ อ้ ยทงั้ ในและตา่ งประเทศ นำ� หางปลูกออ้ ย และแนวคดิ การปลูกอ้อยไปประยุกตใ์ ชใ้ นพ้นื ที่ของตนเอง อกี ท้งั ยงั เปน็ ผปู้ ฏิบตั ติ ามหลักคุณธรรมในการด�ำรงชวี ติ ถอื ปฏบิ ัติมาตลอด โดยมิได้ขาด และพัฒนาตนเอง ท�ำให้มีสติในการด�ำเนินชีวิตและ การประกอบอาชพี โดยไม่ประมาท ผลงานสร้างคณุ ประโยชน์ นายเสถยี ร ไดส้ รา้ งสรรคผ์ ลงานอนั เปน็ ประโยชนซ์ งึ่ ไดร้ บั การยอมรบั ได้แก่ องค์ความรูก้ ารเพ่ิมผลผลิตออ้ ยใหไ้ ด้ 30 ตนั /ไร่ ซึง่ ได้จากการทดลอง ปฏบิ ตั ิ โดยท�ำการปลกู แบบ 1 ร่อง 2 แถว และ 1 ร่อง 4 แถว และพบว่า 22
ปราชขญอเ์งกแษผตน่ รดนิ การปลกู แบบ 1 รอ่ ง 4 แถว จะทำ� ใหไ้ ดผ้ ลผลติ ทด่ี แี ละคมุ้ ทนุ ทสี่ ดุ โดยคดิ คน้ ความร้ใู นการบรหิ ารจดั การแปลงควบคู่ทง้ั 4 ส่วน คือ 1) ดิน 2) น�้ำ 3) เขตกรรม ไดแ้ ก่ การปรบั ปรงุ ดนิ นำ้� อากาศ แสงแดด สภาพแวดลอ้ ม ใหม้ ี ความเหมาะสมต่อการเจริญเตบิ โตของพืช การบ�ำรุงใหพ้ ืชมีความสมบรู ณ์ อยู่เสมอ จะท�ำให้พืชมีความแข็งแรงทนทานต่อการเข้าท�ำลายของโรค และแมลงศัตรพู ืช และ 4) พนั ธุอ์ อ้ ย ซึ่งจากการทดสอบสายพันธุ์อ้อยจาก สายพันธุ์ 10 สายพันธ์ุ พบวา่ สายพนั ธุ์ทม่ี ีความเหมาะสมทส่ี ุด สำ� หรับการ ปลูกแบบ 1 รอ่ ง 4 แถว คือ สายพนั ธุ์ K92-213 มกี ารปรับวธิ ีปลูกชว่ งเดอื น ปลูกโดยใช้องค์ความรู้บนแห้งล่างช้ืน ไม่ต้องก�ำจัดวัชพืชท�ำให้ลดต้นทุน การเพาะปลกู การประดษิ ฐห์ างปลกู อ้อย All In One (6 in 1) สำ� หรับการ ปลกู แบบ 1 รอ่ ง 4 แถว โดยไมน่ ำ� ไปจดลิขสิทธเ์ิ พื่อให้เกษตรกรสามารถ นำ� ไปใชป้ ระโยชนไ์ ดโ้ ดยงา่ ย ซงึ่ หางปลกู ออ้ ย All In One (6 in 1) ประกอบดว้ ย 23
ปราชขญอเ์งกแษผต่นรดิน 2 ส่วน คือ สว่ นท่ี 1) ถงั เกบ็ น�้ำ ท่ีทำ� แทนหลงั คาเพือ่ หยอดนำ�้ ขณะปลูกอ้อย เกษตรกรสามารถสง่ั ทำ� ไดเ้ องตามโรงกลงึ เหลก็ ทวั่ ไป สว่ นท่ี 2) หางปลกู ออ้ ย ทม่ี ีกระบวนการท�ำงานพร้อมกนั 6 ข้ันตอน ประกอบด้วย 1. เปิดร่องอ้อย 2. ลำ� เลยี งท่อนพนั ธุ์อ้อยลงร่องท่เี ปิดไว้ 3. ใส่ปุย๋ 4. ใสน่ ้ำ� 5. กลบหน้าดิน ปิดรอ่ งอ้อย และ 6. ลกู กลิง้ กลิ้งทบั หน้าดิน โดยหางปลกู ออ้ ยนี้ได้รับการ พสิ ูจนแ์ ลว้ วา่ สามารถประกันผลผลติ อ้อยไดไ้ ม่น้อยกวา่ 30 ตัน/ไร่ ในทกุ สภาพพื้นที่และภูมิอากาศของประเทศไทย และช่วยลดต้นทุนการผลิต ลดระยะเวลาในกระบวนการเพาะปลกู ลดแรงงานคน นอกจากน้ียงั เปน็ ผู้คิดค้นความรู้การปลูกอ้อยข้ามแล้งด้วยระบบน�้ำหยอด รวมถึงร่วม ประสานงานกับหน่วยงานราชการทั้งในและนอกพ้ืนท่ีเพ่ือสร้างแหล่งน�้ำ ในพนื้ ทท่ี เ่ี ขา้ ถงึ ยากโดยใชอ้ าคารทดนำ้� แลว้ ปลอ่ ยนำ้� ลงสทู่ ตี่ ำ�่ ดา้ นลา่ งเขา้ พนื้ ท่ี ท�ำการเกษตรของเกษตรกร อีกทัง้ ยงั ชว่ ยเหลอื ชุมชน ดว้ ยการบริจาคเงิน ใหแ้ ก่วัด โรงเรยี น และโรงพยาบาล อกี ดว้ ย การขยายผลงาน นายเสถียร ได้ท�ำการถ่ายทอดผลงานท่ีคิดค้น สร้างสรรค์ให้กับ เกษตรกร นกั เรยี น นกั ศกึ ษา โดยเปดิ ไรเ่ ปน็ สถานทศี่ กึ ษาดงู าน และมเี กษตรกร ชาวกัมพูชาส่ังซ้ือหางปลูกอ้อยไปใช้ในประเทศ อีกทั้งยังใช้พ้ืนท่ีเป็นแปลง ทดลองพนั ธอ์ุ อ้ ยของศนู ยเ์ กษตรออ้ ยภาคกลาง ภาคเหนอื และศนู ยว์ จิ ยั ออ้ ย จังหวัดสุพรรณบุรี มีการรวมกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยในพื้นที่เป็นอ้อย แปลงใหญ่ ในปี 2549 - 2550 เปิดสอนหลกั สูตรการปลกู ออ้ ยใหก้ บั ผสู้ นใจ ท่ัวไป โดยมผี จู้ บหลักสตู รมากกว่า 1,000 คน และมกี ารน�ำความรดู้ ้านการ ปลูกอ้อยของนายเสถียรไปปรับเป็นวิชาเรียนในสถาบันการศึกษาให้กับ นกั เรยี นอาชวี ศกึ ษา รวมถงึ เปน็ วทิ ยากรใหก้ บั มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช และรว่ มเปน็ คณะท�ำงาน/คณะกรรมการในระดับอ�ำเภอและระดับจังหวดั 24
ปราชขญอเ์งกแษผต่นรดิน การสรา้ งกลมุ่ /เครือข่าย การรวมกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยในพื้นท่ี ได้ท�ำการรวมกลุ่มผลิต ออ้ ยแปลงใหญ่ เพอ่ื ลดตน้ ทนุ การผลติ และเพม่ิ อำ� นาจตอ่ รองใหแ้ กเ่ กษตรกร การสร้างแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตรนวัตกรรมใหม่โดยใช้แปลงเกษตรของ ตนเองเปน็ แปลงเกษตรสาธติ และมกี ารแลกเปลย่ี นความรู้ ความคดิ ข้อมูล ข่าวสาร ประสบการณ์ อีกท้ังยังเป็นแหล่งเรียนรู้ท่ีมีกระบวนการเรียนรู้ อย่างต่อเนื่อง สนับสนุนการถ่ายทอด และแลกเปล่ียนประสบการณ์ การเรียนรรู้ ะหว่างคนในชมุ ชน และระหวา่ งองคก์ รชมุ ชน โดยเน้นการใช้ ประโยชนจ์ ากภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น ส่งเสรมิ การด�ำเนินงาน จัดการศกึ ษาดูงาน แนะน�ำวิธกี ารเพาะปลูก การดแู ลรกั ษาตลอดจนคัดเลือกพันธุ์ และส่งเสริม ให้องค์กรทางสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ของ ชุมชน 25
ปราชขญอ์เงกแษผต่นรดิน องค์ความรทู้ ี่โดดเด่น การเพมิ่ ผลผลิตอ้อยใหไ้ ด้ 30 ตนั ตอ่ ไร่ มีกระบวนการ ดังนี้ 1) การใชพ้ ันธอ์ุ ้อย การใชพ้ นั ธอ์ุ อ้ ยทเี่ หมาะสมจากการเกบ็ พนั ธไ์ุ วใ้ ชเ้ องและมหี นว่ ยงาน ดา้ นการปรบั ปรงุ พนั ธอ์ุ อ้ ยเขา้ มาทำ� แปลงทดสอบพนั ธท์ุ ำ� ใหม้ คี วามหลากหลาย ของสายพนั ธ์ุ เมอ่ื ได้ออ้ ยพันธุท์ ี่มคี ณุ ภาพดีเหมาะสมจงึ ขยายพันธ์ปุ ลูกในไร่ และจำ� หนา่ ยใหแ้ กเ่ กษตรกรทีส่ นใจการปลูกอ้อยก่อนตดั เข้าโรงงาน ท�ำให้มี พันธุ์อ้อยจ�ำนวนมากให้เลือก จึงได้พันธุ์ที่ดีและมีความงอกสูงเน่ืองจาก ตายังสดและเตง่ พรอ้ มท่จี ะงอก การทดสอบสายพนั ธไ์ุ ดร้ บั ความรว่ มมอื จากศนู ยส์ ง่ เสรมิ อตุ สาหกรรม ออ้ ยและนำ้� ตาลเขต 1 (ภาคกลาง) โดยคณุ สรุ ชยั วงคภ์ กั ด์ิ และสายพนั ธอ์ุ อ้ ย ของศนู ยว์ จิ ยั พืชไรส่ พุ รรณบรุ ี โดยคณุ ประชา ถ้ำ� ทอง สายพันธอ์ุ อ้ ย 95-2-156 K92-213 LK95-214 RT92-2 K84-200 K93-219 LK92-9 K95-177 LK93-11 มก60-1 จากการทดสอบสายพันธุ์อ้อยพบว่าสายพันธุ์ท่ีมีความเหมาะสม ท่สี ดุ คือ สายพนั ธุ์ K92-213 จากสายพันธ์ุ 10 สายพนั ธ์ุ วธิ ีการปลูกอ้อย แบบ 1 รอ่ ง ใชอ้ ้อย 4 แถว เป็นวธิ ีการทตี่ ้นทุนตำ่� ที่สดุ และทำ� ใหไ้ ดผ้ ลผลติ ได้ดที ี่สดุ มากทสี่ ุด 2) การจัดการปัจจยั การผลติ ปรบั ปรงุ ดนิ โดยการเพมิ่ ปยุ๋ อนิ ทรยี แ์ ละเตมิ ปยุ๋ เคมี มแี ปลงจดั การพนั ธ์ุ ไว้ใช้เอง คิดค้นเครื่องมือเครื่องจักรตอบสนองในการผลิตอ้อยได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เช่น การปลูกอ้อย 1 รอ่ ง 4 แถว รถใหน้ �ำ้ รถใสป่ ุย๋ รถคราด สปรงิ ก�ำจดั วัชพชื 1 วนั กำ� จดั ได้ 30-40 ไร่ ซง่ึ เป็นการประหยัดแรงงาน ในการกำ� จัดลูกหญ้าเป็นการลดต้นทนุ การผลิต 26
ปราชขญอ์เงกแษผตน่ รดิน 3) การผลิต/การปลูก/การเล้ียง การปลกู ออ้ ยแบบแลง้ นำ�้ หยอดสามารถลดปญั หาเกย่ี วกบั วชั พชื ลงได้ เนอ่ื งจากช่วงเวลาทีป่ ลกู หนา้ ดินแห้ง แตใ่ ต้ดนิ บริเวณท่อนพนั ธ์ุมีความชน้ื จากนำ้� ทหี่ ยอดและจากการเตรยี มดนิ ใหล้ ะเอยี ดสามารถชว่ ยรกั ษาความชนื้ ในดนิ ไดด้ ว้ ย หนอ่ ออ้ ยทงี่ อกขน้ึ มามคี วามสมบรู ณแ์ ละใหญเ่ นอื่ งจากไมโ่ ดน ดนิ รดั เหมอื นการใหน้ ำ�้ ตามรอ่ งหลงั ปลกู การปลกู ออ้ ยถจี่ ะทำ� ใหอ้ อ้ ยแตกกอ น้อยเม่ือออ้ ยอายมุ ากขึน้ ทำ� ให้อ้อยทไี่ ด้มคี วามหวานใกลเ้ คียงกนั 3.1 การปลกู ออ้ ยแบบแลง้ นำ�้ หยอด จะเตรยี มดนิ เดอื นธนั วาคม ถึงเดือนมกราคม ตัดพันธุ์อ้อยจากแหล่งที่ปลูกเอง โดยเลือกต้นพันธุ์ท่ี อายุ 10-12 เดือน มกี ารจดบนั ทึกการปลกู ในแตล่ ะแปลงเพ่ือการดแู ลรักษา พนั ธ์ุออ้ ย โดยพันธอ์ุ อ้ ยที่ตดั ช่วงเดอื นธันวาคม ถึงเดือนมกราคม (อายอุ ้อย 10 เดือน) จะดีกว่าเพราะไม่โดนแสงแดดเผาบริเวณตาและยังมีความชื้น อยใู่ นพนั ธส์ุ ูง (สงั เกตตา) และยงั มคี วามชื้นอยู่ในทอ่ นพนั ธอุ์ ้อยสูง (สังเกตที่ ตาจะนนู ) 3.2 การเตรยี มดินตอ้ งละเอียดโดยใช้ผาน 8 ไถพรวนก่อน ทำ� การปลกู อีกครง้ั ข้นั ตอนการเตรยี มดนิ เหมือนการเตรยี มดินทวั่ ไป คอื ไถดะ ไถแปร และถ้าดินยังไม่ละเอียด ใช้ผาน 8 ไถพรวนอีกครง้ั ถา้ เป็น แปลงทป่ี ลูกอ้อยอยเู่ ดิมแลว้ ใบอ้อยเกา่ จะใชผ้ านพรวนไถ 2 ครัง้ สลับกนั 27
ปราชขญอ์เงกแษผต่นรดิน 3.3 การปลกู ใช้ปลูกแบบ 1 รอ่ ง 4 แถว โดยใชร้ ถปลูกทไ่ี ด้ คดิ คน้ ขนึ้ มาใหม้ กี ารทำ� งานแบบ 1 ครงั้ 6 ขน้ั ตอน ไดแ้ ก่ เปดิ รอ่ ง พนั ธอ์ุ อ้ ยลง นำ้� ลง ปยุ๋ ลง กลบรอ่ ง และลกู กลงิ้ ทบั เกบ็ ความชนื้ การดแู ลรกั ษา ถา้ มฝี นตก ให้ใช้หางสปริงเตะคลาดดินเพื่อก�ำจัดวัชพืชและท�ำให้ดินร่วนเก็บความชื้น หน้าดินไม่แข็งดา้ น ท�ำให้อ้อยขน้ึ ไดด้ ี หลังจากการปลูกช่วงระยะ 3 เดอื น สามารถเติมนำ้� หยอดให้เป็นการเสรมิ คร้ังที่ 2 ได้ 28
ปราชขญอเ์งกแษผตน่ รดนิ 4) การผลติ ดา้ นคณุ ภาพตามระบบเกษตรดที เ่ี หมาะสม (ออ้ ยโรงงาน) 4.1 การเตรียมพันธุ์อ้อย ใช้พันธุ์อ้อยที่สะอาดมีความสมบูรณ์ ไมม่ เี ชอื้ โรค ทำ� ใหผ้ ลผลติ ทจ่ี ะไดร้ บั คณุ ภาพนำ�้ หนกั ทด่ี ี และเลอื กใชส้ ายพนั ธ์ุ ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพดนิ ฟา้ อากาศ 4.2 การปลกู ออ้ ยและการใสป่ ยุ๋ เลอื กการปลกู ทปี่ ระหยดั พนั ธอ์ุ อ้ ย และแรงงาน แตใ่ หผ้ ลตอบแทนทคี่ มุ้ คา่ และมปี ระสทิ ธภิ าพสงู สดุ ตน้ ทนุ ตำ่� ทสี่ ดุ หรอื นำ� เทคโนโลยเี ขา้ มาใช้ และการใสป่ ยุ๋ ตอ้ งคำ� นงึ วา่ ออ้ ยตอ้ งการสารอาหาร และแรธ่ าตุใด 4.3 การควบคมุ วชั พชื จะตอ้ งกำ� จัดวชั พืชให้ถกู ตอ้ งกบั ลักษณะ ของวัชพชื สามารถเลือกท�ำไดด้ งั นี้ วิธที างเขตกรรม การคลุมดนิ การปลกู พชื แซม การปลกู พชื หมนุ เวยี น และการใชส้ ารเคมี จะตอ้ งเลอื กวธิ ที เ่ี หมาะสม ไม่ก่อใหเ้ กิดผลเสยี ตอ่ คนและสิ่งแวดลอ้ ม 29
ปราชขญอเ์งกแษผต่นรดิน 4.4 มีการดูแลรักษาอ้อยตอท่ีดี หลังจากการเก็บเก่ียว ไม่ให้ ตอออ้ ยตาย มีการให้น้ำ� ให้ปยุ๋ ในชว่ งวกิ ฤต จะชว่ ยเพิ่มจ�ำนวนลำ� เกบ็ เก่ียว ทำ� ใหผ้ ลผลิตออ้ ยเพิ่มขนึ้ สง่ ผลให้มรี ายได้เพิม่ ขึ้น 5) การบริหารจัดการผลติ ที่ดี 5.1 การเก็บรวบรวมข้อมูลส�ำคัญ เพ่ือจดบันทึกท�ำสถิติในการ ปฏบิ ตั งิ านตามขน้ั ตอนตา่ ง ๆ เชน่ เกบ็ ขอ้ มลู ปรมิ าณนำ้� ฝนทตี่ กในแตล่ ะชว่ ง เป็นระยะเวลา 20 กว่าปี เพ่อื เป็นแนวทางในการวางแผนการปฏิบัตงิ าน ในปตี อ่ ๆ ไป และการตรวจสอบแก้ไขปัญหาเมอื่ เจอกับขอ้ ผิดพลาดทอี่ าจ เกิดข้นึ ไดใ้ นลกั ษณะเดิมหรอื ใกลเ้ คยี ง 5.2 การวางแผนการปฏบิ ตั งิ านและการผลติ ไวล้ ว่ งหนา้ เพอื่ ควบคมุ ปรมิ าณตน้ ทุนให้ต�่ำท่ีสดุ และไดผ้ ลผลติ สงู สดุ 5.3 การตดิ ต่อประสานงานด้านการตลาด โดยสอบถามแนวโนม้ และความตอ้ งการของโรงงานน้�ำตาล เพื่อทจ่ี ะปรับการผลติ ให้เข้ากับความ ต้องการของตลาดได้ 5.4 กำ� หนดแผนสำ� รองเผอื่ สำ� หรบั เหตกุ ารณฉ์ กุ เฉนิ นอกเหนอื จาก การปลกู ออ้ ยแลว้ ยงั หาอาชพี เสรมิ อน่ื ๆ เพอื่ เปน็ การสรา้ งชอ่ งทางเสรมิ รายได้ อกี ทางหน่ึงด้วย 30
ปราชขญอ์เงกแษผตน่ รดิน แผนทศ่ี นู ย์เรยี นรปู้ ราชญเ์ กษตร ศาลากลางจงั หวดั กาญจนบรุ ี กรุงเทพฯ แ ม่ น�้ำ แ คว แ ม่ นำ�้ แ คว ทว่ี า่ การอำ� เภอดา่ นมะขามเตยี้ ต.กลอนโต กองการสตั ว์ แกผอนงบกงัเกคษบั ตกรากรรรม วดั ดา่ นมะขามเตยี้ ไปตน้ จามจรุ ียักษ์ โรงเรยี นดา่ นมะขามเตยี้ ศาลเจา้ พอ่ ขนุ ดา่ น ไป ต.หนองไผ่ ศนู ยเ์ รยี นรู้ไรส่ ามคั คเี กษตร โรงเรยี นหนองบวั สถานทตี่ ดิ ตอ่ ท่ีอยู่ 378 บา้ นดา่ นมะขามเตย้ี หม่ทู ่ี 1 ตำ� บลด่านมะขามเตี้ย อ�ำเภอดา่ นมะขามเตย้ี จังหวดั กาญจนบุรี 71260 โทรศัพท์ 085-685-2399 31
ปราชขญอเ์งกแษผต่นรดิน นายกฤตกร แซเ่ อยี๊ บ ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรผู้นำ�ชุมชนและเครือข่าย 32
ปราชขญอ์เงกแษผต่นรดนิ ปราชญเ์ กษตรของแผน่ ดนิ สาขาปราชญเ์ กษตรผู้น�ำชุมชนและเครือขา่ ย นายกฤตกร แซเ่ อ๊ยี บ อายุ 64 ปี การศกึ ษา มัธยมศกึ ษาตอนปลาย สถานภาพ มบี ตุ ร-ธิดา รวม 4 คน บตุ ร 1 คน ธดิ า 3 คน ท่อี ยู่ บา้ นเลขที่ 52/4 หมู่ที่ 1 ต�ำบลบางกระเจา้ อำ� เภอเมอื งสมทุ รสาคร จังหวดั สมุทรสาคร 74000 โทรศัพท์ 081-434-5496 อาชีพ ประมงชายฝัง่ และแปรรปู อาหารทะเล รางวัลหรอื ประกาศเกยี รตคิ ุณที่ไดร้ บั ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรผู้น�ำชุมชนและ เครือขา่ ย ปี 2561 โล่เกียรติคุณ อาสาเฝ้าระวังการท�ำประมงดีเด่น “ฅนเฝ้าทะเล” กรมประมง ปี 2558 รางวลั คนดแี ทนคณุ แผ่นดนิ จังหวดั สมทุ รสาคร ปี 2556 รางวลั คนไทยหัวใจสีเขียว (คนค้นฅนอวอร์ด คร้งั ที่ 3) ปี 2555 โล่เกียรติคุณ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการอนุรักษ์และฟื้นฟู ทรพั ยากรทางทะเล และชายฝั่ง รางวัลคนดีศรีสาคร สาขาการประมงชายฝั่ง สภาวัฒนธรรม จังหวัดสมุทรสาคร ปี 2549 33
ปราชขญอเ์งกแษผตน่ รดิน ชีวติ ทพ่ี อเพียง นายกฤตกร แซเ่ อยี๊ บ พน้ื ฐานครอบครวั ประกอบอาชพี ประมงพน้ื บา้ น โดยหลงั จากเกณฑท์ หาร ไดก้ ลบั มาสมคั รเปน็ ลกู เรอื ของเรอื ประมงขนาดใหญ่ และไต่เต้าขึ้นเป็นนายท้ายเรือ ไต๋ก๋งเรือ จนในท่ีสุดสามารถซื้อเรือประมง เป็นของตนเองได้ ต่อมาท�ำนากุ้งกุลาด�ำควบคู่กันไป แต่ประสบภาวะ ขาดทนุ เนอ่ื งจากมตี น้ ทุนในการเช่าทแ่ี ละปญั หาโรคระบาดในกุง้ เพราะทำ� ไปตามกระแสนิยม ไม่ได้ศึกษาหาความรู้อย่างจริงจัง จึงท�ำให้มีหนี้สิน จ�ำนวนมาก จนในท่ีสุดจ�ำเป็นต้องขายเรือประมงและกลับมาท�ำประมง แบบพน้ื บา้ น เรมิ่ จดั ทำ� บญั ชรี ายรบั -รายจา่ ย และดำ� เนนิ ชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพียง โดยการนำ� มาประยกุ ต์ใช้ใหเ้ หมาะสมกบั การดำ� เนิน ชีวติ ประจำ� วัน มีความพอเพียง ไม่เบยี ดเบียนตนเองและผู้อื่น ดำ� เนนิ การ ผลิตและพฒั นาอย่างสมดลุ ไม่เรง่ รบี ไมล่ งทุนจนเกินตวั ไม่ก่อหนสี้ นิ และ 34
ปราชขญอ์เงกแษผต่นรดิน ไม่ท�ำตามกระแสของการเปลี่ยนแปลง จนสามารถพ่ึงพาตนเองได้และ สังเกตเห็นว่าทรัพยากรทางทะเลเริ่มลดลง โดยเฉพาะปูท่ีลดลงอย่างเห็น ได้ชัด ซ่ึงมีสาเหตุจากส่ิงแวดล้อมถูกท�ำลายท�ำให้สัตว์น�้ำไม่มีท่ีเพาะพันธุ์ และวางไข่ จงึ เรมิ่ รณรงคใ์ หม้ กี ารดำ� เนนิ กจิ กรรมรว่ มกนั ระหวา่ งสมาชกิ ชมุ ชน และกลมุ่ เครอื ขา่ ยทงั้ ดา้ นการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรสตั วน์ ำ้� กระตนุ้ จติ สำ� นกึ และ ผลักดันให้ชุมชนเห็นความส�ำคัญของการรวมกลุ่ม นอกจากน้ีนายกฤตกร ยงั เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ตี อ่ คนในชมุ ชน ดา้ นการทำ� ประโยชนเ์ พอื่ สว่ นรวม มคี วาม เอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่ ซือ่ สตั ย์สุจริต ใฝห่ าความรแู้ ละนำ� มาใช้ในการปฏิบตั งิ าน ให้เกิดประโยชนต์ อ่ ตนเองและชุมชน นายกฤตกร เปน็ ผ้ดู ำ� เนินชวี ิตดว้ ยความพอดีทไี่ ม่น้อยเกนิ ไป และไม่ มากเกนิ ไปโดยไม่เบยี ดเบยี นตนเองและผู้อ่นื ดำ� เนนิ การผลติ และพฒั นา อยา่ งสมดุล ไม่เรง่ รบี ไม่ลงทนุ จนเกนิ ตวั ไมก่ อ่ หนสี้ นิ และไม่ทำ� ตามกระแส 35
ปราชขญอเ์งกแษผตน่ รดิน ของการเปลี่ยนแปลง ยึดหลักความพอเพียง หากจะท�ำการตัดสินใจ ดำ� เนนิ การใด ๆ ตอ้ งเปน็ ไปอยา่ งมเี หตผุ ลบนพนื้ ฐานศกั ยภาพทม่ี อี ยขู่ องตนเอง เชน่ ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วฒั นธรรม และภมู ิปญั ญาทอ้ งถนิ่ ที่ อยเู่ ดมิ ของชมุ ชน มกี ารเตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ มรบั ผลกระทบ และการเปลย่ี นแปลง ท่ีเกิดขึ้น โดยไม่ประมาท มีการออมทรัพย์และมีทุนทางสังคมท่ีเข้มแข็ง รวมทงั้ มที างเลือกทพ่ี ร้อมรบั การปรบั ตวั ได้อย่างเหมาะสม นายกฤตกร เป็นผมู้ ีความรอบรู้เกีย่ วกับดา้ นวชิ าการ และมีความ รอบคอบในการท่ีจะน�ำความรู้เหล่าน้ันมาพิจารณาประกอบการวางแผน เพอ่ื การปฏิบัติอย่างระมดั ระวงั ในการตดั สินใจ และดำ� เนินกจิ กรรมตา่ ง ๆ และน�ำความรู้น้ันมาใช้ในการปฏิบัติงานจนเกิดประโยชน์แก่ตนเองและ แก่ชุมชน เช่น สัมมนาเครือข่ายพิทักษ์สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามโครงการเสริมสร้างเครือข่ายในการพิทักษ์สาธารณสมบัติของแผ่นดิน 36
ปราชขญอเ์งกแษผตน่ รดนิ จากส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และนำ� ความรู้ทางด้านกฎหมายที่ไดร้ บั มาใช้เปน็ ช่องทางในการแก้ไขปัญหา ของคนในชุมชนอย่างทั่วถึง รวมถึงช่วยให้คนในชุมชนมีความตระหนักถึง ปัญหาจากการท�ำลายสาธารณสมบัตขิ องแผ่นดนิ และเป็นผูด้ �ำรงชีวิตยึดใน หลกั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ความซอ่ื สตั ย์ อดทน มคี วามเพยี ร สำ� นกึ รบั ผดิ ชอบ และใช้สตปิ ญั ญาในการด�ำเนินชีวิต ผลงานสร้างคณุ ประโยชน์ นายกฤตกร ได้สรา้ งสรรค์ผลงานท่ีเปน็ ประโยชน์ โดยเรม่ิ จากการ ผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่มผู้ผลิตกะปิในชุมชน เน่ืองจากบ้านกระซ้าขาว เปน็ แหลง่ ชมุ ชนผลติ กะปขิ องจงั หวดั สมุทรสาคร จนเปน็ กลุม่ เกษตรกรท่มี ี ความเขม้ แขง็ จึงก่อตั้งสหกรณ์ผู้ผลติ กะปิสมทุ รสาคร จำ� กัด จำ� นวนสมาชกิ กว่า 80 หลังคาเรือน โดยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชน คือ กุ้งเคย ซ่ึงเป็นวัตถดุ บิ หลกั ในการท�ำกะปิ ประกอบกับใชภ้ ูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ ในการ แปรรปู อาหาร มาสร้างเป็นรายไดใ้ หแ้ กส่ มาชกิ สามารถสร้างความเข้มแข็ง ให้กับสมาชิก และมีอ�ำนาจในการต่อรองด้านการซื้อขายสินค้าท่ีผลิตได้ ในกลุ่ม เป็นแหล่งจัดหาเงินทุนในการประกอบอาชีพของสมาชิก ท�ำให้ พึ่งพาตนเองได้ ประกอบกับนายกฤตกรได้ท�ำการส่งเสริม สนับสนุนให้ คนในชมุ ชนเหน็ ความสำ� คญั และตระหนกั ถงึ การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ โดยการรวมกลุ่มอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล การรวม กลมุ่ ดำ� เนนิ กจิ กรรมเพอ่ื การอนรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มภายในชมุ ชน เชน่ การจดั ตง้ั ธนาคารปู คอกหอย และบ้านปลา เพอ่ื เป็นแหลง่ อนุบาลสัตว์นำ้� วยั ออ่ น เพม่ิ ปริมาณผลผลิตสัตวน์ ้ำ� การรณรงคแ์ ละสรา้ งจิตสำ� นึกคนในชมุ ชนให้มี ส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม สรา้ งสรรคก์ จิ กรรมทอ่ งเทยี่ วเชงิ อนรุ กั ษ์ การทำ� ปา่ เทยี มและไมไ้ ผช่ ะลอคลนื่ 37
ปราชขญอเ์งกแษผตน่ รดิน เพอ่ื ปอ้ งกันการไหลของดนิ เลน การปลกู ต้นโกงกาง ต้นแสมเพือ่ อนบุ าล สัตว์อ่อน ซ่ึงผลงานท่ีนายกฤตกร ได้สร้างสรรค์สามารถน�ำไปแก้ไขปัญหา ในหลากหลายพน้ื ท่ี และเกดิ ประโยชนใ์ นดา้ นการอนรุ กั ษฟ์ น้ื ฟทู รพั ยากรธรรมชาติ ใหก้ บั ชมุ ชน กลมุ่ และเครอื ขา่ ย กอ่ ใหเ้ กดิ ชมุ ชนเขม้ แขง็ เปน็ ชมุ ชนทสี่ ามารถ พง่ึ พาตนเองได้ สามารถสรา้ งรายไดจ้ ากการประกอบอาชพี ประมง สรา้ งงาน ให้กบั คนในชมุ ชน และเครอื ข่าย 38
ปราชขญอเ์งกแษผต่นรดิน การขยายผลงาน นายกฤตกร ได้ศึกษาค้นคว้าและถ่ายทอดความรู้ให้แก่คนใกล้ชิด รวมถึงคนในชมุ ชน และมกี ารจัดต้ังกลมุ่ เครือขา่ ยขยายความร้โู ดยเริ่มจาก เครือข่ายกลุ่มประมงขนาดเล็กโดยมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ขยายผลงาน ผ่านการสร้างมัคคุเทศก์น้อย โดยมีการอบรมให้กับนักเรียนในชุมชนให้มี จิตส�ำนึกรักบ้านเกิด มีความรู้เกี่ยวกับชุมชนสามารถบอกเล่าให้กับ ผู้มาเยือนได้ อีกท้ังมีการเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร วิทยุ และโทรทัศน์ รวมถงึ เปน็ ทศ่ี ึกษาดงู านของนกั เรยี น นกั ศกึ ษาและผู้ทสี่ นใจ ทง้ั ในและตา่ งประเทศ 39
ปราชขญอ์เงกแษผต่นรดนิ การสรา้ งกลุม่ /เครือขา่ ย ด้านการเป็นผู้น�ำชุมชนและเครือข่าย มีการจัดตั้งกลุ่มเกษตรกร ท�ำประมงพื้นบ้านบางกระเจ้า และสหกรณ์ผู้ผลิตกะปิสมุทรสาคร จ�ำกัด (กลมุ่ นติ บิ คุ คลตามกฎหมาย) จำ� นวนสมาชกิ กวา่ 80 หลงั คาเรอื น โดยผลกั ดนั ให้คนในชุมชนให้ความส�ำคัญกับการรวมกลุ่มเป็นกลุ่มเกษตรกรและเป็น สหกรณ์ รวมถึงสร้างการมสี ่วนร่วมในการดำ� เนินกจิ กรรมของสหกรณ์ และ สง่ เสริมใหค้ นในชุมชนใหค้ วามส�ำคัญกับการผลิตสินคา้ และผลติ ภณั ฑ์ ให้ได้ มาตรฐานปลอดภยั ตอ่ ผบู้ ริโภค นอกจากนีย้ ังมีการรวมกล่มุ ต่าง ๆ ภายใน ชุมชน เช่น กลุม่ ธนาคารปมู า้ กลุม่ ประมงพ้นื บ้าน กลมุ่ อนรุ กั ษ์หอยพมิ กลุ่มเล้ียงหอยแมลงภู่ กลุ่มแปรรูปอาหารทะเล กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติ เป็นต้น ส�ำหรบั ในระดับเครอื ขา่ ยเปน็ ผ้ปู ระสานงานในเครือขา่ ย ประมงอ่าวไทยตอนบน หรือเครือข่ายรักษ์อ่าวไทยตอนบน (อ่าวตัวกอ) มีจำ� นวนสมาชกิ ทง้ั หมดกวา่ 700 คน ครอบคลุมพ้นื ท่ี 8 จังหวดั และเปน็ ผู้ประสานเครือข่ายภาคีเพ่ือการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 40
ปราชขญอเ์งกแษผตน่ รดิน ประกอบดว้ ย 4 เครือข่าย ไดแ้ ก่ เครอื ข่ายอา่ วไทยตะวันออก เครือขา่ ย ประมงอ่าวไทยตอนบน เครือข่ายประมงอา่ วไทยตอนล่าง และเครือขา่ ย ประมงฝง่ั อนั ดามนั มีจ�ำนวนสมาชกิ ทั้งหมดกวา่ 2,000 คน ครอบคลุมพืน้ ที่ 24 จงั หวดั นอกจากนยี้ งั ไดร้ บั เชญิ ใหร้ ว่ มเปน็ คณะกรรมการประมงแหง่ ชาติ คณะกรรมการชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย ประธานอนกุ รรมการ ชุมนุมสหกรณ์ประมงแห่งประเทศไทย รวมถึงได้รับเชิญเป็นวิทยากร เพ่ือถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับส่วนราชการ ภาคเอกชน และสถาบันการศกึ ษาดว้ ย องคค์ วามรทู้ ่ีโดดเด่น 1. ธนาคารปู มี 2 ประเภท ดงั น้ี แพลอยน�ำ้ วสั ด/ุ อปุ กรณ์ 1. ถงั น้�ำ 200 ลติ ร 2. ไมก้ ระดาน ส�ำหรบั ทำ� พ้ืน 3. ไม้ไผ่ 4. ตะกร้าพลาสติก 5. เหล็ก 6. เชือก 41
ปราชขญอ์เงกแษผต่นรดนิ ขนั้ ตอนการท�ำ 1. น�ำไม้ไผ่มาประกอบกันให้เป็นโครงสร้างแบบโป๊ะ สามารถ รับน้�ำหนกั คนจำ� นวนมากได้ 2. ใช้ไม้กระดานปูพ้ืน เพ่ือให้คนสามารถยืนและท�ำกิจกรรม บนแพลอยน้�ำได้ โดยเวน้ ช่องวา่ งสำ� หรับใส่คอนโดปู 3. นำ� ถงั นำ�้ มาประกอบและยดึ ตดิ กบั โครงสรา้ งของแพเปน็ ทนุ่ ลอย เพอ่ื ใหแ้ พสามารถลอยน้ำ� ได้ 4. นำ� แพท่ีประกอบเสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ ไปลอยน�ำ้ และใชเ้ ชอื ก ผูกแพเพ่อื กันไมใ่ หแ้ พเคลื่อนทอี่ อกจากฝ่ัง 5. จัดท�ำคอนโด โดยใช้ตะกร้าพลาสติกแยกตะกร้าละ 1 ตัว เปน็ การแยกอาณาเขตการอยอู่ าศยั ของแมป่ แู ตล่ ะตวั เพอื่ ปอ้ งกนั การกดั กนิ และนําตะกรา้ มาซ้อนกนั หลาย ๆ ช้ัน ผูกเป็นกระชัง คล้ายคอนโดมิเนียม กอ่ นจะปล่อยลงน�ำ้ 6. ใสแ่ มป่ ใู นคอนโดชนั้ ละ 1 ตวั นำ� คอนโดไปใสใ่ นชอ่ งวา่ งของแพ และผกู คอนโดตดิ ไว้กบั แพ 42
ปราชขญอ์เงกแษผตน่ รดิน 7. แม่ปจู ะอย่ใู นคอนโด 7-10 วนั รอใหแ้ ม่ปสู ลัดไขอ่ อกลงสู่ ทะเล เม่ือถึงเวลาแม่ปู จะเอาขาเข่ียไขอ่ อก ไขท่ ่ถี ูกเข่ยี ออกจากตวั แมก่ ็จะ ฟักเป็นตัวอ่อนและกินอาหารตามธรรมชาติหลังจากท่ีถูกปล่อยลงสู่ชายฝั่ง ทะเลจนเติบโตเปน็ ปขู นาดใหญ่ ขอ้ ดี คอื ลกู ปจู ะได้ผลผลิตดี ไม่ถกู สัตวท์ ะเลกิน เนอื่ งจากแหลง่ น�้ำตามธรรมชาตมิ ีความขนุ่ เป็นที่หลบพักจากสัตวท์ ะเลอ่ืน ๆ ได้ ขอ้ เสยี คอื แมป่ เู มอื่ สลดั ไขแ่ ลว้ จะตาย เพราะนำ�้ มคี วามขนุ่ ทำ� ให้ อตั ราการรอดของแมป่ นู อ้ ยลง ขอ้ จำ� กดั ไม่มี แตอ่ าจมีปัญหาเร่ืองอุปกรณ์ท่ีตอ้ งเลอื กใช้วัสดุท่ี คงทน ซง่ึ ขน้ึ อยกู่ บั ทนุ ถา้ ทนุ นอ้ ย มผี สู้ นบั สนนุ นอ้ ย สามารถใชเ้ หลก็ ธรรมดา หรือไม้แทนสแตนเลส ธนาคารปบู นพน้ื ดนิ วัสดุ/อปุ กรณ์ 1. ถงั น�้ำ 2. สายยาง 3. ท่อพีวีซี 4. วาล์วเปิด-ปดิ 43
ปราชขญอ์เงกแษผต่นรดิน ขนั้ ตอนการทำ� 1. น�ำถงั น�้ำเจาะรเู พ่อื ตอ่ สายยางให้น�้ำสามารถไหลผา่ นได้ 2. ตอ่ สายยางกับท่อพีวซี เี พอื่ ระบายนำ�้ และไขข่ องแม่ปูไหลลง สทู่ ะเล 3. ตอ่ วาล์วส�ำหรบั การเปดิ ปดิ น�ำ้ 4. น�ำน้ำ� ทะเลที่ผ่านการกรองจนใสใส่ลงในถงั และใส่แมป่ ูลงไป ในถัง เมือ่ แมป่ สู ลดั ไข่กส็ ามารถเปิดวาลว์ นำ�้ ให้ไข่ไหลผา่ นสายยาง ท่อน้ำ� ลงสูแ่ หล่งน้�ำธรรมชาตติ ่อไป ขอ้ ดี 1. เยาวชน ประชาชน ผูส้ นใจสามารถเห็นกระบวนการ วงจร ชีวติ ของปูไดช้ ัดเจนทุกขั้นตอน 2. อตั ราการรอดของแม่ปูมเี พ่ิมมากขน้ึ เนือ่ งจากมกี ารกรองน�้ำ ทะเลใหม้ ีความใสก่อนจงึ จะนำ� มาใส่ถังพัก 44
ปราชขญอ์เงกแษผตน่ รดนิ 2. บา้ นปลา หรือปะการังเทียมมีชวี ติ ประโยชน์ 1. เป็นทอี่ ยอู่ าศยั ของสตั วน์ ้ำ� พอ่ พันธุ์ แมพ่ นั ธ์ุ 2. เป็นที่เพาะพันธข์ุ องสตั ว์น�ำ้ สรา้ งอาชพี สร้างรายได้ 3. เปน็ ทหี่ ยุดการกดั เซาะชายฝัง่ ของคลื่นลม 4. สามารถเปล่ยี นลักษณะนิสยั ของชาวประมง โดยเปล่ยี นจาก การล่าเปน็ การเลยี้ ง 5. เปน็ ทส่ี ะสมของตะกอนดนิ เปน็ อาหารใหส้ ตั ว์นำ�้ วยั ออ่ น วสั ดุ/อุปกรณ์ ได้แก่ ไมไ้ ผ่ ขนั้ ตอนการทำ� 1. นำ� ไมไ้ ผม่ าปักเป็นกลมุ่ ลงในทะเล ท�ำเปน็ บา้ น 2. นำ� ไมไ้ ผม่ าปกั รอบ ๆ ลอ้ มรว้ั เพอ่ื ปอ้ งกนั เครอื่ งมอื ทำ� การประมง ไมใ่ หเ้ ข้ามาบริเวณบา้ นปลาได้ 3. นำ�้ ทะเลจะไหลตามวงรอบ กระแสนำ้� วนจะพดั เอาตะกอนสะสม อยู่ในบ้านปลา ปลากจ็ ะเข้าไปอยู่อาศยั ในบา้ นท่เี ราทำ� ไว้ เน่อื งจากมอี าหาร และเปน็ สถานทหี่ ลบพกั ของปลาได้เปน็ อยา่ งดี จนกระทงั่ ขยายพันธ์ุออกลกู ออกหลาน 45
ปราชขญอเ์งกแษผตน่ รดนิ แผนทศี่ นู ย์เรยี นรู้ปราชญเ์ กษตร วดั บางตะคอย ถ น น พ ร ะ ร า ม ท่ี 2 แ ่ม ้น�ำ ท่ า ีจ น ทางไป อ.บา้ นแพว้ ปม๊ั ปตท. โรงพยาบาลมหาชยั วดั บา้ นบอ่ รา้ นอาหารลมทะเล วดั กระซา้ ขาว ทางครวั เจา้ พระยา ศาลเจา้ แปะ๊ กง (ลา่ ง) รา้ นอาหารครวั ในวงั รา้ นอาหารครวั วาสนา เขา้ ซอยประมาณ 2 กม. สถานท่ตี ิดตอ่ ศนู ยเ์ รยี นรปู้ ราชญเ์ กษตร ทอี่ ยู่ 2/4 หมทู่ ่ี 1 ต�ำบลบางกระเจ้า อำ� เภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000 โทรศพั ท์ 081-434-5496 46
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: