คำสั่งหวั หนำ้ คณะรักษำควำมสงบแหง่ ชำติ ที่ ๘/๒๕๕๘ เรื่อง กำรเลอื กกรรมกำรแทนตำแหนง่ ท่ีว่ำงใน คณะกรรมกำรกจิ กำรกระจำยเสียง กจิ กำรโทรทศั น์ และกิจกำรโทรคมนำคม แหง่ ชำติ
คำส่ังหัวหน้ำคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติ ท่ี ๘/๒๕๕๘ เรื่อง กำรเลือกกรรมกำรแทนตำแหน่งทว่ี ่ำงในคณะกรรมกำรกจิ กำรกระจำยเสียง กจิ กำรโทรทศั น์ และกจิ กำรโทรคมนำคมแห่งชำติ ตามท่ีประธานสภานิติบญั ญตั ิแห่งชาติไดแ้ จง้ ให้นายกรัฐมนตรีทราบ ตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถี่และกากบั การประกอบ กิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ วา่ สภา นิติบญั ญตั ิแห่งชาติมีมติไมร่ ับบญั ชีรายช่ือผสู้ มควรเป็ นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ดา้ นกฎหมาย ตามท่ีมีการสรรหา และคดั เลือกมา ๔ คน เพือ่ ใหส้ ภานิติบญั ญตั ิแห่งชาติเลือกใหเ้ หลือจานวน ๑ คน จึง ขอให้นายกรัฐมนตรีนาบญั ชีรายช่ือดงั กล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีเพ่อื พิจารณาและ ดาเนินการเลือกให้แลว้ เสร็จภายใน ๓๐ วนั น้นั คณะรัฐมนตรีไดข้ อให้คณะกรรมการ กฤษฎีกาเสนอความเห็นในขอ้ กฎหมายและแนวทางปฏิบตั ิ ซ่ึงคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพเิ ศษ) ไดเ้ สนอความเห็นวา่ โดยที่สภานิติบญั ญตั ิแห่งชาติไดเ้ คยพิจารณาบญั ชี รายชื่อดงั กล่าวแลว้ และมีมติไม่รับรายช่ือท้งั หมดตามบญั ชีน้นั การที่คณะรัฐมนตรีจะ เลือกบุคคลใดตามบญั ชีรายชื่อน้นั ต่อไปจึงเป็นการไมช่ อบดว้ ยเหตุผล ท้งั คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาบุคคลอื่นใดนอกเหนือไปจากบุคคลตามบญั ชีรายชื่อน้นั มิได้ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวนั ท่ี ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๘ วา่ ไม่สมควรท่ีจะดาเนินการ ตามท่ีประธานสภานิติบญั ญตั ิแห่งชาติแจง้ กรณีน้ีจึงเป็นความจาเป็นเพื่อประโยชนใ์ นการปฏิรูปราชการแผน่ ดิน และแกไ้ ขขอ้ ขดั ขอ้ งทางกฎหมาย อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย (ฉบบั ชวั่ คราว) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗ หวั หนา้ คณะ รักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมี
คาสง่ั ให้ กสทช. ประกอบดว้ ยกรรมการเทา่ ที่เหลืออยใู่ นปัจจุบนั โดยไม่ตอ้ ง ดาเนินการสรรหาและคดั เลือกบุคคลใดแทนตาแหน่งท่ีวา่ งตามมาตรา ๑๗ แห่ง พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการ วิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และเม่ือมีเหตุที่ จะตอ้ งมีการเลือกกรรมการใน กสทช. แทนตาแหน่งที่วา่ งลงในอนาคต ในกรณีเช่นวา่ น้นั ใหผ้ ทู้ ี่เก่ียวขอ้ งดาเนินการตามกฎหมายโดยอนุโลมตอ่ ไป คาสง่ั น้ีให้ใชบ้ งั คบั ต้งั แตว่ นั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็ นตน้ ไป[๑] สงั่ ณ วนั ท่ี ๒๔ เมษายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๘ พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทร์โอชา หวั หนา้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ปริยานุช/ผจู้ ดั ทา ๒๗ เมษายน ๒๕๕๘ ปริญสินีย/์ ผตู้ รวจ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒/ตอนพเิ ศษ ๙๔ ง/หนา้ ๑/๒๔ เมษายน ๒๕๕๘
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: