Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือแนวทางในการวางแผน ออกแบบ ก่อสร้าง และดำเนินงานและสถานที่ฝังกลบขยะแแบบกึ่งใช้อากาศ (semi-Aerobic Landfill)

คู่มือแนวทางในการวางแผน ออกแบบ ก่อสร้าง และดำเนินงานและสถานที่ฝังกลบขยะแแบบกึ่งใช้อากาศ (semi-Aerobic Landfill)

Description: คู่มือแนวทางในการวางแผน ออกแบบ ก่อสร้าง และดำเนินงานและสถานที่ฝังกลบขยะแแบบกึ่งใช้อากาศ (semi-Aerobic Landfill)

Search

Read the Text Version

รูปท่ี 50 การเจาะรโู ดยรอบปล้องไมไ้ ผ่เพอื่ ใหน้ �ำ้ ชะขยะไหลเข้าและให้อากาศไหลผ่านรู 4) เชื่อมต่อท่อนไม้ไผ่กับไม้ไผ่โดยการมัดด้วยลวด ทั้งน้ีความยาวของท่อนไม้ไผ่ แต่ละท่อนทีน่ �ำมามดั รวมกัน ควรมคี วามยาวทใ่ี กลเ้ คียงกนั โดยให้น�ำไปสวมในทอ่ ซีเมนตท์ แี่ ตกช�ำรดุ เสยี หาย และกรุด้วยหนิ บดย่อยตอ่ ไป (รปู ท่ี 51) แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill) 33

รปู ท่ี 51 การเชือ่ มตอ่ ทอ่ ไม้ไผ่ลงในทอ่ ซีเมนตท์ ่ีช�ำรดุ เสียหาย 2.13.9 การติดตั้งท่อระบายกา๊ ซ 1) ติดต้ังท่อระบายก๊าซเหนือบริเวณจุดเช่ือมต่อของข้อ 2.13.7 โดยให้มีถังน�้ำมัน ขนาด 200 ลติ ร จ�ำนวน 3 ถงั และเจาะรูรอบถังตามข้อ 2.13.4 ส�ำหรับเป็นท่อกรปุ อ้ งกันความเสียหายของ ทอ่ ระบายกา๊ ซ ซ่ึงอยูต่ รงกลางระหวา่ งถังน้�ำมันขนาด 200 ลิตร ใช้ลวดผูกยึดระหว่างถงั น�ำ้ มนั และทอ่ ระบาย ก๊าซ (รูปท่ี 52) รูปท่ี 52 การตดิ ตัง้ ท่อระบายก๊าซในแนวดิ่ง ขอ้ 2.13.4 (รปู ที่ 53) 2) กรุด้วยหนิ ลงในถังน้ำ� มนั ขนาด 200 ลิตร โดยขนาดของหินบดยอ่ ย ให้เปน็ ไปตาม 34 แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill)

รูปท่ี 53 กรหุ นิ บดย่อยลงในถงั น้ำ� มนั เพอ่ื ชว่ ยป้องกนั ความเสยี หายของท่อระบายกา๊ ซ 3) การติดตั้งท่อระบายก๊าซในช้ันท่ี 2 (เหนือช้ันที่ 1) และการตดิ ตง้ั ทอ่ ระบายกา๊ ซ ในชน้ั ถดั สงู ขน้ึ ไป ในกรณีทีใ่ ชท้ ่อพวี ซี หี รอื ท่อเอชดพี ีอี อาจใช้ข้อต่อแบบสวมอัดต่อเชื่อมระหวา่ งท่อพวี ซี ีหรือ ทอ่ เอชดพี อี ี ส�ำหรับการติดต้งั ท่อระบายกา๊ ซในชั้นถดั สูงขึ้นไป และติดตงั้ ถังนำ้� มันขนาด 200 ลิตรท่ีตัดพน้ื ถัง ออก เจาะรใู ห้มขี นาดตามข้อ 2.13.4 ยดึ ด้วยลวดระหวา่ งถังน�ำ้ มนั ชั้นล่างและช้ันบนให้แน่น ก่อนท่จี ะกรดุ ว้ ย หนิ บดยอ่ ยลงในถงั นำ้� มนั อยา่ งระมดั ระวงั ทง้ั นี้ ใหท้ อ่ ระบายกา๊ ซจะตอ้ งสงู กวา่ ชน้ั ดนิ กลบทบั ขยะอยา่ งนอ้ ย 50 เซนติเมตร และบริเวณพื้นท่ีรอบแนวท่อปลอกที่หุ้มท่อระบายก๊าซจะต้องมีการโปะขยะให้สูงขึ้นจากระดับดิน กลบทบั ปกติอีก 20 เซนตเิ มตร เนือ่ งจากบริเวณนี้ เปน็ บรเิ วณทเี่ กิดการย่อยสลายแบบใชอ้ ากาศมากทส่ี ดุ และ ท�ำใหข้ ยะบรเิ วณรอบ ๆ ทอ่ ปลอกจะมีการยุบตัวเร็วกว่าบริเวณอ่ืน ๆ (รูปที่ 54 (ก) - (ค)) (ก) (ข) แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill) 35

(ค) รปู ท่ี 54 การตดิ ตงั้ ท่อระบายก๊าซในชัน้ ฝังกลบขยะทส่ี งู ขนึ้ ไป 2.13.10 การตดิ ตงั้ ระบบเวยี นกลับน�้ำชะขยะไปยังบอ่ ฝังกลบขยะ 1) ติดต้ังวงขอบไม้ (หรือใช้ฐานไม้พาเลทส�ำเร็จรูป) (ที่สามารถรับน�้ำหนักหินได้) ขนาดประมาณ 5 x 5 เมตร จ�ำนวน 5 แผ่น ส�ำหรบั ใช้เป็นฐานส�ำหรบั การสเปรยเ์ วียนน้�ำชะขยะเพ่อื กลับมา บ�ำบัดในบ่อฝังกลบขยะ 1 แผน่ และผนงั ขอบอกี 4 แผ่น (รูปท่ี 55) รูปท่ี 55 การติดต้ังตดิ ตงั้ วงขอบไม้ขนาดประมาณ 5 x 5 เมตร 2) ติดต้ังตาข่ายลวดเหนือฐานวงขอบไม้ โดยน�ำแผ่นตาข่ายลวดผูกและยึดกับ ฐานวงขอบไมใ้ หแ้ นน่ (รูปที่ 56) 36 แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill)

รปู ที่ 56 การติดต้งั ตาข่ายลวดเหนือฐานวงขอบไม้ 3) วางฐานวงขอบไม้ท่ีขึงตาข่ายลวดไว้บนพื้นท่ีที่ใกล้กับแนวท่อรวบรวมน้�ำชะขยะ เพอ่ื ใหส้ ามารถเวียนน�้ำชะขยะมาบ�ำบัดและระบายออกไดอ้ ย่างสะดวก (รูปที่ 57) รปู ท่ี 57 ฐานวงขอบไม้แตล่ ะด้านท่ีประกอบแล้วเสรจ็ 4) ก่อสร้างวงขอบไม้ โดยให้น�ำวงขอบไม้ยึดต่อเข้าด้วยกัน พร้อมติดตั้งท่อระบาย กา๊ ซโดยใชท้ อ่ พีวซี หี รือท่อเอชดีพอี ีเจาะรู บรรจหุ นิ บดยอ่ ยขนาดต่ำ� สดุ 15 เซนตเิ มตร (รปู ท่ี 58) คละหลาย ๆ ขนาด โดยใช้รถแบ็คโฮจนเต็มวงขอบไม้ ในขั้นตอนนี้ อาจต้องมีการใช้ไม้ค้�ำยันเพ่ือมิให้โครงสร้างเสียหาย (รูปท่ี 59 (ก) และ (ข)) แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill) 37

รปู ท่ี 58 ฐานกรองทบี่ รรจุด้วยหนิ บดย่อยส�ำหรับฉดี พน่ น้�ำชะขยะมาบ�ำบดั โดยผ่านการกรอง รูปท่ี 59 การกอ่ สร้างระบบเวยี นน�้ำชะขยะเพือ่ น�ำมาบ�ำบัดในบรเิ วณบ่อฝังกลบขยะ 5) ติดตั้งระบบท่อสูบน�้ำกลับและเคร่ืองสูบน้�ำ (รูปท่ี 60) จากบ่อเก็บกักน้�ำชะขยะหรือ บ่อควบคุมน้�ำชะขยะด้านท้ายน�้ำมายังบริเวณวงขอบไม้ท่ีบรรจุหินบดย่อยดังกล่าว โดยให้น�้ำชะขยะกระจาย เพ่ือสเปรย์โดยใช้หัวฉีดพ่น (Nozzle) ซึ่งมีหลักการท�ำงานเดียวกันกับระบบบ�ำบัดน�้ำเสียแบบโปรยกรอง (Trickling Filter) (รปู ท่ี 61) 38 แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill)

(ก) (ข) รปู ที่ 60 การตดิ ตง้ั ระบบสบู นำ�้ ชะขยะกลับเข้าไปบ�ำบัดในบ่อฝังกลบขยะ รปู ท่ี 61 การโปรยกรองเพ่ือบ�ำบดั นำ้� ชะขยะในตวั กรองซง่ึ ใชห้ นิ บดยอ่ ยเป็นตวั กลาง 6) ระบบฝังกลบขยะแบบกึ่งใช้อากาศหลังจากท่ีก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเป็นเช่นดัง รปู ท่ี 62 แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill) 39

รูปที่ 62 ระบบฝงั กลบขยะแบบกง่ึ ใช้อากาศหลงั จากที่กอ่ สรา้ งแลว้ เสร็จ (ตัวอย่างในมาเลเซีย) 3. การด�ำเนินงานฝงั กลบขยะแบบกงึ่ ใช้อากาศ 3.1 ข้อควรพิจารณาส�ำหรับการบ�ำรุงรักษาระบบทอ่ รวบรวมน้ำ� ชะขยะ ทอ่ รวบรวมนำ�้ ชะขยะเปน็ ระบบทสี่ �ำคญั ในการใหอ้ ากาศสามารถแพรเ่ ขา้ ไปในบอ่ ฝงั กลบขยะ ช่วยในการระบายน�้ำชะขยะ และควบคุมสภาวะการย่อยสลายแบบใช้อากาศ (Aerobic) ในบ่อฝังกลบขยะ โดยท่อรวบรวมน้�ำชะขยะจะต้องมีระบบป้องกันความเสียหายเนื่องจากน้�ำหนักขยะด้านบนและเครื่องจักรกล ทก่ี ดทบั ระหวา่ งการฝงั กลบขยะ และตอ้ งพจิ ารณาในเรอ่ื งประเภทของขยะทน่ี �ำเขา้ มาก�ำจดั เพอ่ื มใิ หเ้ กดิ สภาวะ การย่อยสลายแบบไม่ใช้อากาศ (Anaerobic) และสามารถให้อากาศไหลออกจากรูระบายท่อรวบรวมน้�ำ ชะขยะแพรเ่ ขา้ ไปในชน้ั ขยะได้ รวมทง้ั ควบคมุ ใหป้ ลายทอ่ รวบรวมนำ�้ ชะขยะเปดิ ออกสบู่ รรยากาศไดต้ ลอดเวลา ซงึ่ มีขอ้ ควรพิจารณาในการด�ำเนินการดงั น้ี 3.1.1 ให้มกี ารควบคมุ การด�ำเนนิ งานในโครงสร้างหลกั ๆ ประกอบดว้ ย (1) ท่อรวบรวมน้ำ� ชะขยะบริเวณพน้ื บอ่ ฝงั กลบขยะ (2) ท่อระบายก๊าซ และดึงอากาศจากภายนอกเข้าสูช่ นั้ ขยะ 3.1.2 ท่อรวบรวมน�้ำชะขยะมีความส�ำคัญที่สุด และจะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการแตก ช�ำรุดเสยี หายหรอื การอดุ ตนั ดงั นนั้ จะตอ้ งมีการหมั่นสังเกตความผดิ ปกตขิ องบ่อฝังกลบขยะเสมอ 40 แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill)

3.1.3 การพิจารณาประเภทของขยะที่จะต้องน�ำไปฝังกลบในบริเวณที่ใกล้กับท่อรวบรวม น้ำ� ชะขยะ คอื ขยะทว่ั ไปที่มขี นาดกลางถึงขนาดใหญ่ โดยควรหลกี เลย่ี งการฝงั กลบขยะทม่ี ขี นาดเล็กหรอื ขยะ อาหาร เนอ่ื งจากอาจมกี ารย่อยสลาย เกิดการสรา้ งเมอื กและจะไปอดุ ตันในช้ันปอ้ งกนั (รูปท่ี 63) รปู ที่ 63 ลักษณะความเสยี หายกับท่อรวบรวมน้ำ� ชะขยะในบริเวณการฝงั กลบขยะในชนั้ แรก 3.1.4 ในช่วงระหว่างการด�ำเนินงาน ให้พิจารณา 1) ประเภทของขยะทนี่ �ำไปก�ำจดั ในชน้ั แรกซงึ่ อยใู่ กลก้ บั ทอ่ รวบรวมระบายนำ้� ชะขยะ 1.1) การฝังกลบขยะในช้ันท่ี 1 อาจท�ำให้เกิดเศษดินหรือขยะขนาดเล็ก ไหลเขา้ ไปตดิ และอดุ ตนั ในชน้ั หนิ บดย่อยทีใ่ ชใ้ นการป้องกนั ความเสียหาย โดยช้นั นจี้ ะเปน็ เหมอื นช้ันวสั ดกุ รอง รอบทอ่ ระบายนำ้� ชะขยะ ซงึ่ หากมขี ยะขนาดเลก็ ขยะอนิ ทรยี ห์ รอื ขยะอาหารตดิ อยู่ อาจท�ำใหเ้ กดิ การยอ่ ยสลาย ของขยะในชน้ั วสั ดกุ รอง บางประเภทกอ่ ใหเ้ กดิ เมอื กไขมนั สง่ ผลใหเ้ กดิ การขดั ขวางการแพรข่ องอากาศภายนอก เข้าไปในบ่อฝังกลบขยะ ดังน้ัน ท่อรวบรวมน้�ำชะขยะจึงมีความส�ำคัญอย่างยิ่ง รวมทั้งจะต้องได้รับการบ�ำรุง รกั ษาตลอดอายกุ ารใช้งานบ่อฝงั กลบขยะจนถงึ การปดิ บอ่ ฝังกลบขยะอย่างตอ่ เน่อื ง ดงั น้นั จึงควรมกี ารบ�ำรุง รักษาและดูแล เพ่ือมิให้เกดิ การอดุ ตันบรเิ วณชน้ั วสั ดุปอ้ งกนั ความเสียหายของท่อรวบรวมน้�ำชะขยะ 1.2) อีกวิธีหนึ่งท่ีจะหลีกเล่ียงป้องกันมิให้วัสดุไหลเข้าไปในท่อรวบรวมระบาย น�ำ้ ชะขยะคือ การฝงั กลบขยะชิ้นใหญ่แบบคละกันหลาย ๆ ประเภท (Non-Uniform shape) และไม่สามารถ ละลายน้ำ� ได้ เชน่ ยางจากวัสดกุ ่อสรา้ งหรือพวกคอนกรตี 2) การฝงั กลบทจี่ ะไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายตอ่ ทอ่ รวบรวมนำ�้ ชะขยะ ซง่ึ โดยปกติ แล้วท่อรวบรวมน้�ำชะขยะจะต้องได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแรงและทนต่อน้�ำหนักขยะและน�้ำหนักของ เครอ่ื งจกั รกลหนกั ในชว่ งระหวา่ งการด�ำเนนิ งานฝงั กลบขยะ โดยในชว่ งของการฝงั กลบชนั้ ขยะทรี่ ะดบั ความสงู 3 เมตรแรกเหนือระดับพ้ืนบ่อฝังกลบขยะ ให้พึงระมัดระวังในการใช้งานเคร่ืองจักรกลเป็นพิเศษ เนื่องจาก แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill) 41

น�้ำหนักของเครื่องจักรกลท่ีเกิดจากการเคล่ือนที่ อาจท�ำให้เกิดการถ่ายเทน้�ำหนักลงมายังด้านล่างและส่งผล กระทบต่อความเสียหายของท่อรวบรวมชะขยะโดยตรง ซึ่งหากท่อรวบรวมน�้ำชะขยะได้รับความเสียหายแล้ว อาจส่งผลให้วัสดุป้องกันความเสียหายของท่อรวบรวมน�้ำชะขยะเสียหายไปด้วย และท�ำให้ขยะไหลเข้าไป อดุ ตนั ขดั ขวางการไหลของนำ้� ชะขยะ รวมทง้ั ขดั ขวางการแพรข่ องอากาศไปในบอ่ ฝงั กลบขยะ ซงึ่ ในทางปฏบิ ตั ิ ควรด�ำเนนิ การ ดังน้ี 2.1) การฝงั กลบขยะในช้ันที่ 1 การฝงั กลบขยะในชน้ั ที่ 1 เปน็ เทคนคิ (Know-how Technique) ทส่ี �ำคญั อยา่ งยงิ่ ส�ำหรบั ระบบฝงั กลบแบบกงึ่ ใชอ้ ากาศ เนอื่ งจากหากด�ำเนนิ งานไมด่ แี ลว้ จะกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี่ งสงู ทจี่ ะ ท�ำให้ท่อรวบรวมน้�ำชะขยะได้รับความเสียหาย ดังน้ัน การฝังกลบขยะในชั้นที่ 1 จึงต้องใช้ความระมัดระวัง และจะตอ้ งมีการควบคมุ การด�ำเนินงานอยู่ตลอดเวลา โดยใหด้ �ำเนนิ การ ดงั นี้ 2.1.1) ให้เทขยะลงในบ่อฝังกลบบริเวณที่อยู่ห่างกับแนวหินบดย่อย ทปี่ อ้ งกนั ทอ่ รวบรวมนำ�้ ชะขยะ โดยจะตอ้ งมเี จา้ หนา้ ทคี่ อยก�ำกบั หนา้ งานฝงั กลบเพอื่ ใหร้ ถบรรทกุ ขยะสามารถ เทขยะในต�ำแหน่งที่ก�ำหนดไว้ และท�ำการบดอัดโดยใช้รถแทรกเตอร์ไถดันวิ่งไปมา 5 เที่ยว และให้มีระยะ เผื่อในแนวดิ่งระหว่างความสูงของหินบดย่อยที่กลบทับท่อรวบรวมน้�ำชะขยะและความสูงของกองขยะที่ กลบทับด้วยดิน อย่างน้อย 1.5 เมตร เน่ืองจากต้องมีการเผ่ือการกระจายน้�ำหนักที่จะกดทับและสร้างความ เสียหายกับท่อรวบรวมน้�ำชะขยะจากการใช้เคร่ืองจักรกล ยิ่งเครื่องจักรกลที่ใช้งานมีน�้ำหนักมาก ยิ่งต้องเพ่ิม ระยะเผอ่ื ในแนวดิ่งนี้มากย่งิ ขึน้ 2.1.2) ให้มีการปักหมุดไม้ช่ัวคราว (ท้ังนี้ ให้มีความสูงกว่าความสูงของ ชนั้ หนิ บดยอ่ ยทปี่ อ้ งกนั ความเสยี หายของทอ่ รวบรวมนำ้� ชะขยะอยา่ งนอ้ ย 1.5 เมตร) เพอื่ ใหผ้ ดู้ �ำเนนิ งานควบคมุ เครอ่ื งจักรกลทราบถงึ ระดับความสูงของขยะในชน้ั แรก ซึง่ จะตอ้ งด�ำเนนิ การฝงั กลบขยะไม่ใหส้ ูงกวา่ ระดบั น้ี 2.1.3) เทขยะอีกฝั่งหน่ึงของแนวท่อรวบรวมน�้ำชะขยะโดยใช้รถแบ็คโฮ เกลยี่ ให้มลี กั ษณะสมมาตรกนั กบั อีกฝั่งหน่งึ 2.1.4) ให้มีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมเครื่องจักรกลตลอดเวลา เม่ือมีการ ไถดันเข้าใกล้กบั แนวทอ่ รวบรวมนำ�้ ชะขยะ เพอ่ื ปอ้ งกันความเสียหายของแนวท่อ 2.1.5) บรรจุขยะในช่องกลาง เกล่ียและบดอัดขยะให้เรียบเป็นระดับ เดยี วกัน 2.1.6) กลบทับด้วยดนิ ให้มรี ะดับราบเรียบเสมอกัน 42 แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill)

2.2) การฝงั กลบขยะในช้นั ท่ี 2 2.2.1) ก่อนที่จะด�ำเนินการ ให้ก�ำหนดความสูงของช้ันขยะในชั้นท่ี 2 โดยการปกั หมดุ ไมช้ ัว่ คราว ขึงเชอื กหรอื ใช้ไม้เพ่ือก�ำหนดแนวระดบั กบั หมุดไม้ช่วั คราว ท่คี วามสงู ประมาณ 3 เมตร เพ่อื ใหท้ ราบถงึ ความสงู ของกองขยะทจี่ ะต้องด�ำเนนิ การเท เกล่ยี ไถ ดัน ไมใ่ หเ้ กนิ ความสูงของระดบั ท่ี ปักหมุดช่ัวคราวนี้ 2.2.2) ให้ด�ำเนนิ การในลกั ษณะเดียวกันกบั การด�ำเนนิ งานฝังกลบขยะใน ชนั้ ท่ี 1 กอ่ นทจ่ี ะกลบด้วยดนิ หนาประมาณ 15 เซนติเมตร ความถี่ในการกลบทับ 2 ครง้ั ตอ่ สัปดาห์ 2.3) ให้มีความหนาของช้ันวัสดุป้องกันความเสียหาย ที่เป็นหินบดย่อย (Crushed Rock) อย่างน้อย 1 เมตร เหนอื ทอ่ รวบรวมระบายน้ำ� ชะขยะ ส�ำหรบั การฝังกลบในชั้นแรก 2.4) กรณที ไี่ มส่ ามารถเทหนิ บดยอ่ ย (Crushed Rock) ใหม้ คี วามหนาอยา่ งนอ้ ย 1 เมตร หรอื เปน็ พน้ื ทที่ มี่ คี วามจ�ำเปน็ ตอ้ งใหเ้ ครอ่ื งจกั รกลวง่ิ ขา้ มแนวทอ่ รวบรวมนำ�้ ชะขยะบอ่ ย ๆ อาจวางแผน่ เหลก็ ชว่ั คราวทมี่ คี วามหนาอยา่ งนอ้ ย 20 มลิ ลเิ มตร ทมี่ รี ะยะความยาวมากกวา่ ความกวา้ งของฐานวสั ดปุ อ้ งกนั ความเสียหายท่ีเป็นหินบดย่อย (Crushed Rock) หลังจากมีการด�ำเนินงานตามข้อ 1.1) เพ่ือช่วยกระจาย น�้ำหนักของเคร่ืองจักรกลท่ีกดทับและป้องกันแนวท่อ หรืออาจออกแบบโครงสร้างพิเศษเพ่ือกระจายน�้ำหนัก มิให้กระท�ำลงไปยังท่อรวบรวมน้�ำชะขยะโดยตรง มิเช่นนั้นจะเกิดความเสียหายของท่อรวบรวมน�้ำชะขยะ (รปู ท่ี 63 และรูปท่ี 64) รูปที่ 64 ตวั อย่างของวธิ ีการป้องกันความเสยี หายของทอ่ รวบรวมน�้ำชะขยะในการฝังกลบขยะชั้นแรก 3) การควบคมุ ระดับนำ�้ ชะขยะ ให้ด�ำเนินงานดงั น้ี 3.1) ในชว่ งการด�ำเนนิ งานฝงั กลบขยะตอ้ งมน่ั ใจวา่ ปลายทอ่ รวบรวมนำ้� ชะขยะ เส้นหลกั ตอ้ งมชี ่องเปดิ ให้อากาศสามารถไหลเขา้ ได้อย่างอิสระตลอดเวลาทค่ี วามสงู 2/3 ถงึ 3/4 ของขนาด เสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางของทอ่ แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill) 43

3.2) ควบคุมแนวท่อระหว่างบ่อบ�ำบัดน้�ำชะขยะและระดับน้�ำในบ่อควบคุมน�้ำชะ ขยะ เพ่ือมิใหเ้ กดิ การไหลย้อนของน้ำ� ชะขยะเขา้ ไปในท่อรวบรวมนำ้� ชะขยะในบ่อฝงั กลบตลอดเวลา มิเช่นน้นั จะเกิดการขัดขวางการแพร่ของอากาศหรือก๊าซออกซิเจนจากภายนอกเข้าไปในบ่อฝังกลบ และจะท�ำให้เกิด สภาพความเป็นกรด จากปฏิกิริยาการย่อยสลายแบบไม่ใช้อากาศ และจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของน้�ำชะ ขยะและก๊าซต่าง ๆ จากบอ่ ฝงั กลบขยะดว้ ย (รปู ท่ี 65) รูปท่ี 65 หลักการก�ำจัดขยะโดยการฝงั กลบแบบกึ่งใช้อากาศ 3.2 ข้อควรพิจารณาในการบำ� รุงรักษาระบบท่อระบายกา๊ ซ ระบบท่อระบายก๊าซเป็นโครงสร้างท่ีส�ำคัญส�ำหรับการให้อากาศหรือก๊าซออกซิเจนจาก ภายนอกสามารถแพร่ผ่านเข้าไปในบ่อฝังกลบขยะ ดังน้ัน ท่อระบายก๊าซและระบบการป้องกันความเสียหาย ของทอ่ ระบายกา๊ ซในช่วงระหว่างการด�ำเนินงาน จงึ ตอ้ งมกี ารดูแลและบ�ำรงุ รักษาอยา่ งถูกต้องตลอดเวลา 3.2.1 ขอ้ กำ� หนด ระบบท่อระบายก๊าซเป็นโครงสร้างที่มีความส�ำคัญในการให้อากาศจากภายนอก สามารถแพร่ผ่านเข้าไปในบ่อฝังกลบขยะเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพในการย่อยสลายขยะอินทรีย์ในบ่อฝังกลบขยะ แบบกงึ่ ใชอ้ ากาศ ดังนน้ั การดูแลและบ�ำรุงรกั ษาระบบทอ่ ระบายก๊าซให้อยูใ่ นสภาพดี จงึ เปน็ ส่ิงทีจ่ �ำเปน็ ตลอด เวลาส�ำหรบั การฝงั กลบขยะแบบกงึ่ ใชอ้ ากาศ 3.2.2 ขอ้ ควรพิจารณาในช่วงระหวา่ งการด�ำเนนิ งาน 1) ท่อระบายก๊าซในแนวดิ่ง ให้ก่อสร้างโดยท่ีฐานรากต้องมีความมั่นคงแข็งแรง มีการเจาะรูโดยรอบ และติดต้ังอย่างเหมาะสม (ถ้ามีการโค้งงอจะมีประสิทธิภาพดีกว่าท่อแนวดิ่งในลักษณะ ตรง) โดยที่ 44 แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill)

1.1) ในระบบฝังกลบแบบก่ึงใช้อากาศ ท่อรวบรวมน้�ำชะขยะบริเวณก้นบ่อ ฝังกลบและท่อแนวดิ่งมีความส�ำคัญอย่างยิ่งท่ีจะช่วยให้เกิดการระบายของน้�ำชะขยะและการระบายก๊าซ ออกซิเจน ดังน้ัน การติดต้ังท่อระบายก๊าซในแนวดิ่งที่ต�ำแหน่งและระยะห่างท่ีเหมาะสม รวมทั้งการขยาย ความสูงของท่อระบายก๊าซให้มีระดับความสูงเหนือกว่าความสูงของช้ันขยะ จึงมีความจ�ำเป็นอย่างย่ิงในการ ด�ำเนินงาน (รูปท่ี 3-4) 1.2) การเพิ่มประสิทธิภาพในการรวบรวมน้ำ� ชะขยะและระบายกา๊ ซ จะต้องมี การต่อเช่อื มโดยใช้บ่อพกั (Manhole) ระหว่างท่อแนวดิง่ กบั ทอ่ รวบรวมระบายนำ�้ ชะขยะ และใหม้ ีระยะหา่ ง ระหว่างท่อระบายก๊าซแนวดิ่งในทุก ๆ ระยะ 20 เมตร และมีวัสดุป้องกันความเสียหายของท่อระบายก๊าซ และเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการระบายนำ้� ชะขยะ โดยวสั ดปุ อ้ งกนั ทเี่ ปน็ แนวหนิ บดยอ่ ยจะเปรยี บเสมอื นเปน็ ชนั้ กรอง และขนาดของหินบดย่อยที่เป็นวัสดุป้องกันความเสียหายจะต้องมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอย่างน้อย 10 เซนตเิ มตร และไมเ่ กิดปฏกิ ิรยิ าหรอื ละลายน�ำ้ โดยให้มเี ส้นผา่ ศนู ยก์ ลางของท่อปลอก (Casing) ท่ีใช้บรรจุ หนิ บดย่อยอยา่ งน้อย 1 เมตร 1.3) ในกรณที ท่ี อ่ แนวดิ่งมีการตอ่ ให้สงู ขน้ึ ไปตามความสูงของช้นั ขยะ ให้มกี าร ใช้หินบดย่อยประเภทเดียวกันกับชั้นวัสดุป้องกันความเสียหายท่ีอยู่บริเวณด้านล่าง และให้มีขนาดเดียวกัน และถา้ ไมส่ ามารถตดิ ตงั้ ทอ่ แนวดง่ิ ใหเ้ ปน็ ลกั ษณะการตง้ั ตรงได้ สามารถใชท้ อ่ ทม่ี กี ารโคง้ งอได้ ซงึ่ จะชว่ ยใหเ้ กดิ พน้ื ทหี่ น้าตัดในการระบายก๊าซได้ดยี งิ่ ขนึ้ (รูปที่ 66) รปู ที่ 66 การแพร่ผ่านของกา๊ ซออกซเิ จนผ่านระบบทอ่ ระบายก๊าซ แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill) 45

1.4) เมอื่ มกี ารเชอื่ มตอ่ แนวทอ่ ระบายกา๊ ซใหส้ งู ขน้ึ อาจท�ำใหท้ อ่ เกดิ การโคง้ งอ ดังน้นั การเชื่อมต่อท่อระบายก๊าซในแนวด่ิง จะขน้ึ กับปจั จยั ดังน้ี (รูปท่ี 67) 1.4.1) ในกรณที ท่ี อ่ ระบายกา๊ ซเกดิ การโคง้ งอ ใหต้ ดิ ตงั้ ทอ่ ระบายกา๊ ซตาม ลกั ษณะการโค้งงอของทอ่ (รปู ท่ี 67) และบรรจหุ ินบดยอ่ ย ตามแนวของท่อปลอกในแต่ละท่อนตามชน้ั ความ สูงของขยะ โดยให้เปน็ ไปตามลักษณะการโคง้ งอของท่อระบายกา๊ ซ 1.4.2) เมื่อวางท่อระบายก๊าซให้สูงขึ้นในแนวด่ิงในชั้นต่อไป ให้ติดต้ังท่อ ระบายก๊าซท่ีก่ึงกลางของจุดก่ึงกลางท่อระบายก๊าซเดิมและติดต้ังในทิศทางที่แตกต่างหรือตรงกันข้ามกับ ทอ่ ระบายกา๊ ซเดิม พร้อมท้งั กรดุ ว้ ยหินบดยอ่ ยเพือ่ ป้องกันความเสียหายของท่อระบายกา๊ ซ รูปท่ี 67 ตวั อย่างการบรรจหุ ินบดยอ่ ยในแนวของท่อปลอกทีโ่ คง้ ตามความงอของทอ่ ระบายกา๊ ซ 2) การฝงั กลบขยะท่ไี ม่ก่อใหเ้ กิดความเสียหายต่อระบบระบายกา๊ ซ เม่ือเดินระบบฝังกลบขยะ อาจเกิดการพังทลายเสียหายของท่อระบายก๊าซใน แนวดงิ่ จากการเคลอื่ นทข่ี องเครอื่ งจกั รกลอปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการฝงั กลบขยะ หรอื นำ�้ หนกั ของขยะในบอ่ ฝงั กลบขยะ ดงั นั้น การดูแลรักษาจึงเป็นสง่ิ จ�ำเป็นและส�ำคัญมากในการเดินระบบฝงั กลบขยะ โดยที่ 2.1) เมื่อเร่ิมการฝังกลบขยะในแต่ละช้ัน โดยท่ัวไปมักจะติดต้ังท่อระบายก๊าซ ในแนวดงิ่ และใหม้ พี น้ื ทฝี่ งั กลบขยะทีม่ ีการปรบั ความลาดชันในลกั ษณะช้ันตอ่ ชนั้ โดยมีความสูงของแต่ละชั้น ประมาณ 3 เมตร ในกรณีนี้ ถ้ามีการดันขยะในด้านหนึ่งด้านในโดยใช้เครื่องจักรกลหนัก มักจะส่งผลให้เกิด ความเสยี หายกบั ทอ่ ระบายกา๊ ซในแนวดงิ่ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในการฝงั กลบขยะในชนั้ แรก เนอื่ งจากทอ่ รวบรวม ระบายน�้ำชะขยะจะต่อเช่ือมกับท่อระบายก๊าซโดยตรง และอาจได้รับความเสียหายด้วยได้ง่าย ดังนั้น การใช้ เครือ่ งจักรกลหนักในช้ันนี้ ควรด�ำเนนิ การด้วยความระมดั ระวงั อยา่ งยิง่ 46 แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill)

2.2) ถ้าบ่อฝังกลบขยะมีการฝังกลบขยะในความสูงมากกว่าความสูงของท่อ ระบายกา๊ ซ จะท�ำใหเ้ กดิ สภาพไรอ้ ากาศเนอื่ งจากกา๊ ซออกซเิ จนและอากาศไมส่ ามารถแพรผ่ า่ นเขา้ สภู่ ายในบอ่ ฝังกลบขยะได้ และจะท�ำใหร้ ะบบฝังกลบแบบกึง่ ใชอ้ ากาศไดร้ บั ความเสียหายทง้ั หมด (รปู ท่ี 68 และ 69) รปู ท่ี 68 ตวั อย่างที่ไม่ถกู ต้องเนอ่ื งจากความสงู รปู ที่ 69 ตวั อยา่ งที่ไมถ่ กู ตอ้ งเน่ืองจากท่อระบาย ของขยะมากกว่าความสงู ของท่อระบายกา๊ ซ ก๊าซมดี นิ แทรกเขา้ ไปในท่อปลอก 3.2.3 การตดิ ต้ังทอ่ ปลอกทีป่ ้องกันความเสยี หายของท่อระบายกา๊ ซในแนวด่งิ 1) กรณีที่มีการตดิ ตั้งทอ่ ปลอกกอ่ นการวางแนวทอ่ ระบายก๊าซ 1.1) ในกรณขี องการวาง/การตดิ ต้งั ทอ่ ปลอก (Casing) ส�ำหรบั ท่อระบายก๊าซ ท่ีถูกยกขึ้นมาให้มีความสูงมากกว่าความสูงของบ่อฝังกลบก่อนหน้าการด�ำเนินงานเดินระบบฝังกลบขยะและ การกลบทับด้วยดิน (รูปที่ 70) ความระมดั ระวงั มคี วามจ�ำเป็นอย่างยงิ่ ในขนั้ ตอนน้ีในชว่ งการเดนิ ระบบฝังกลบ โดยจะตอ้ งฝงั กลบขยะในลกั ษณะทไี่ มใ่ ชก่ ารฝงั กลบในฝง่ั ใดฝง่ั หนง่ึ โดยเฉพาะ แตจ่ ะตอ้ งด�ำเนนิ การในลกั ษณะ การเกล่ียให้เท่า ๆ กันโดยตลอดรอบพ้ืนท่ี เพ่ือป้องกันการถล่ม การทลาย การเสียหายของท่อระบายก๊าซ เนือ่ งมาจากนำ�้ หนักของขยะท่ีกระท�ำตอ่ ท่อระบายกา๊ ซในทิศทางใดทศิ ทางหนึง่ 1.2) ความสงู ของทอ่ ระบายกา๊ ซจะตอ้ งถกู ควบคมุ ใหม้ คี วามสงู มากกวา่ กองขยะ ที่ถกู ฝังกลบโดยรอบอยา่ งน้อย 50 เซนติเมตร รูปท่ี 70 ตวั อย่างของท่อปลอกเพือ่ ป้องกันความเสียหายของทอ่ ระบายก๊าซแนวด่งิ แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill) 47

รปู ท่ี 71 ตวั อย่างของทอ่ ปลอกเพ่อื ป้องกนั ความเสยี หายของท่อระบายก๊าซแนวด่ิง 2) กรณีที่มีการติดต้ังท่อระบายก๊าซในแนวด่ิงก่อนการติดต้ังท่อปลอกและ วัสดุป้องกัน วธิ นี จ้ี ะเปน็ วธิ ที ว่ี างหรอื ตดิ ตง้ั วงขอบเหลก็ หรอื เหลก็ ตาขา่ ยโดยรอบทอ่ รวบรวม ก๊าซ ซึ่งถูกก�ำหนดต�ำแหน่งไว้ก่อนหน้าแล้ว และหลังจากท่ีมีการฝังกลบขยะโดยรอบวงขอบเหล็กแล้ว ให้กรุฐานท่อระบายกา๊ ซภายในดว้ ยหนิ บดตลอดช้นั ความสูง (รูปที่ 72) เพ่อื ปอ้ งกนั ความเสยี หายหรือการพงั ของท่อระบายก๊าซในระหว่างการด�ำเนินงาน โดยท่ีให้มีการกรุหินบดย่อยบริเวณฐานท่อระบายก๊าซให้มี ความสูงกว่าระดบั ดินกลบทบั ขยะประมาณ 50 เซนติเมตร (รปู ท่ี 73) เน่ืองจากบรเิ วณน้จี ะเปน็ บริเวณท่ีเกิด การยอ่ ยสลายแบบใชอ้ ากาศมาก และอาจเกิดการยบุ ตัวของดินบรเิ วณดังกล่าวในอัตราท่เี รว็ กวา่ บรเิ วณอื่น 48 แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill)

รูปที่ 72 การกอ่ สรา้ งท่อระบายก๊าซเมอ่ื ระดบั การฝงั กลบสงู ขึน้ รปู ที่ 73 รูปแบบการกอ่ สร้างระบบท่อระบายกา๊ ซ 3.3 ข้อควรพจิ ารณาเพอ่ื การควบคุมสภาพของพ้นื ทีฝ่ งั กลบท่ีมีการยอ่ ยสลายแบบใช้อากาศ ส�ำหรับวิธีการฝังกลบแบบก่ึงใช้อากาศ ชั้นฝังกลบขยะจะต้องถูกควบคุมในสภาพที่เกิดการ ย่อยสลายแบบใช้อากาศให้มากที่สุด ดังน้ัน วิธีการควบคุมจะเก่ียวข้องกับการก�ำหนดความหนาของ ชั้นขยะท่ีถูกฝังกลบในช่วงระหว่างการด�ำเนินงานฝังกลบขยะในแต่ละวันหรือแต่ละช่วง โดยที่ถ้าช้ันขยะท่ีถูก แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill) 49

ฝงั กลบมคี วามหนามากเกนิ ไป จ�ำเปน็ ทจี่ ะตอ้ งมกี ารเพม่ิ สภาพทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ การยอ่ ยสลายแบบใชอ้ ากาศโดยการ ตดิ ตง้ั ท่อระบายกา๊ ซและปลอกด้วยชั้นหินบดย่อยเพอ่ื เปน็ ชน้ั ป้องกนั ความเสียหายของทอ่ ระบายก๊าซรว่ มดว้ ย โดยมีรายละเอียด ดังน้ี 3.3.1 ในกรณีท่ีบ่อฝังกลบมีความสูงน้อยกว่า 20 เมตร ให้มีการติดต้ังวัสดุท่ีช่วยในการ ระบายอากาศไดด้ ี เชน่ การใชด้ นิ ทม่ี คี วามสามารถในการระบายอากาศกลบทบั ชน้ั ขยะ โดยใหพ้ จิ ารณาคา่ ความ ซึมผา่ นน้�ำของดนิ เป็นหลัก เช่น ดนิ ลกู รัง ดินร่วน ดนิ ปนทราย ดนิ ทีม่ กี รวดปน สว่ นดนิ ท่มี ีคา่ ความซมึ ผ่านของ น้�ำตำ�่ เช่น ดินเหนียว ไม่ควรใชเ้ ป็นดินกลบทับ เน่อื งจากวสั ดกุ ลบทับดังกลา่ วจะปอ้ งกนั มใิ ห้อากาศแทรกซึม เข้าไปในยังชั้นขยะ และท�ำให้น้�ำฝนท่ีไหลลงมายังชั้นขยะไม่สามารถไหลลงไปยังท่อรวบรวมน�้ำชะขยะได้ สง่ ผลใหเ้ กดิ การยอ่ ยสลายแบบไมใ่ ชอ้ ากาศขน้ึ ในบอ่ ฝงั กลบ และจะท�ำใหเ้ กดิ กา๊ ซมเี ทน คณุ ภาพนำ้� ชะขยะมคี า่ ความสกปรกสงู (รปู ที่ 74) รูปที่ 74 ผลเสยี ท่เี กดิ ขึ้นเน่ืองจากการกลบทับชัน้ ขยะด้วยดินเหนียว 3.3.2 หากมีความจ�ำเป็นที่จะต้องใช้ดินกลบทับท่ีมีค่าความซึมผ่านต่�ำกลบทับชั้นขยะ จะต้องมีการเกลี่ยดินกลบทับออกก่อนเพื่อฝังกลบขยะในชั้นต่อไป หรือเว้นร่องพ้ืนท่ีเพ่ือให้เกิดทางระบาย นำ้� ชะขยะและก๊าซทเี่ กดิ ขนึ้ ในบ่อฝังกลบ (รปู ท่ี 75) 50 แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill)

รปู ที่ 75 ตัวอยา่ งการขุดครู ะบายนำ�้ (และระบายอากาศ) ในพนื้ ทฝ่ี งั กลบ 3.3.3 ในกรณีท่ีบ่อฝังกลบมีความสูงมากกว่า 20 เมตร ให้ติดต้ังท่อกระจายอากาศหรือ ชั้นหินบดยอ่ ย ณ ความสงู ณ กึง่ กลางของบ่อฝังกลบ ซง่ึ โดยปกติแลว้ ออกซเิ จนจากภายนอกจะกระจายเข้าไป ในบอ่ ฝังกลบไดโ้ ดย (1) ผ่านทางท่อรวบรวมนำ�้ ชะขยะ (2) ผ่านทางท่อระบายก๊าซ (3) ผ่านทางชน้ั ดนิ กลบทับขยะ ซึ่งในกรณีนี้น้ี มักพบว่าการซึมผ่านของอากาศเข้าไปในชั้นขยะจะข้ึนกับประเภท ของขยะท่ีฝังกลบ ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะอยู่ที่ระยะ 5 เมตร ดังรูปที่ 74 ถ้าความหนาของช้ันขยะมากกว่านี้ จะท�ำใหเ้ กดิ การยอ่ ยสลายแบบไม่ใช้อากาศเกิดขึน้ 3.3.4 ในกรณีของพ้ืนท่ีฝังกลบที่ต้ังอยู่ในเขตหุบเขา ความสูงของบ่อฝังกลบมักจะมีความ สูงมากกวา่ 20 เมตร ให้พจิ ารณาวิธกี ารควบคมุ สภาพใช้อากาศในบ่อฝังกลบขยะ ดงั น้ี (1) ให้ติดตั้งท่อระบายอากาศแนวนอนเพื่อให้อากาศสามารถแทรกซึมเข้าไปใน ชั้นขยะและระบายน้�ำชะขยะในทุก ๆ ระยะความสูง 20 เมตร และให้มีระบบป้องกันความเสียหายของ ทอ่ ระบายอากาศโดยการวางชน้ั หนิ บดอดั ปลอกรอบทอ่ ระบายอากาศแนวนอน และเพอื่ ใหเ้ กดิ สภาพใชอ้ ากาศ ในบอ่ ฝงั กลบขยะรว่ มด้วย (รูปที่ 76) แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill) 51

รปู ท่ี 76 แนวพืน้ ที่ฝงั กลบแบบใช้อากาศและแบบไม่ใชอ้ ากาศ (กงึ่ ใช้อากาศ) ในบ่อฝงั กลบขยะ (2) ให้มีการวางแนวหินบดย่อยตลอดตามแนวท่อระบายน้�ำชะขยะจนถึงชั้นบนสุด ของบ่อฝังกลบ เพ่ือให้เกิดพื้นท่ีการย่อยสลายแบบใช้อากาศให้มากท่ีสุดและยังช่วยให้มีการระบายน้�ำชะขยะ ไดอ้ ย่างรวดเรว็ (3) กรณีที่มีข้อจ�ำกัดในการติดตั้งท่อระบายก๊าซในแนวนอน โดยสามารถติดต้ัง ได้เฉพาะท่อระบายก๊าซในแนวดิ่งและท่อรวบรวมน�้ำชะขยะหลักบริเวณก้นบ่อเท่านั้น ให้มีการก�ำหนดร่อง ระบายนำ้� ตลอดชน้ั ความสงู ตามแนวของทอ่ ระบายกา๊ ซในแนวดงิ่ เหนอื ทอ่ รวบรวมนำ้� ชะขยะดา้ นลา่ งสดุ จนขนึ้ ไปถึงชั้นบนสุดของบ่อฝังกลบ โดยปลอกหินตลอดแนวความสูงของท่อระบายก๊าซในแนวด่ิงที่ต่อเชื่อมกับ ทอ่ รวบรวมนำ้� ชะขยะ (รูปที่ 77) โดยให้มกี ารด�ำเนนิ งานก่อสรา้ ง ดงั นี้ 52 แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill)

รปู ท่ี 77 ระบบท่อระบายกา๊ ซแนวด่งิ และช้นั หินบดยอ่ ยกรุทอ่ ระบายกา๊ ซแนวด่ิง (3.1) กนั แนวฝังกลบขยะออก ใหเ้ ปน็ พ้นื ท่ีระบายอากาศและระบายน�ำ้ ชะขยะ โดยการห้ามน�ำขยะเข้ามาฝังกลบและให้เหลือความกว้างระหว่างแนวขยะกับท่อระบายก๊าซหลักในแนวด่ิง อยา่ งน้อย 1 เมตร (3.2) ปลอกพื้นท่ีทีก่ ันแนวฝังกลบขยะออกดว้ ยหินบดย่อย (3.3) ด�ำเนนิ การแบบเดยี วกนั นต้ี ามขอ้ (3.1) และ (3.2) จนถงึ ความสงู ชน้ั สดุ ทา้ ย ของบอ่ ฝงั กลบ แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill) 53

3.4 ขอ้ ควรพิจารณาสำ� หรับการเวยี นกลบั ของนำ�้ ชะขยะ หลกั การของการสบู นำ้� เพอ่ื เวยี นนำ�้ ชะขยะกลบั เขา้ ไปในบอ่ ฝงั กลบขยะมวี ตั ถปุ ระสงคห์ ลาย ประการ เชน่ (1) ใชป้ ระโยชน์ในการกกั น้ำ� ชะขยะ (2) ใหเ้ กดิ การคายระเหยของน�ำ้ ชะขยะให้มากทส่ี ุด และ (3) บ�ำบัดความสกปรกของนำ�้ ชะขยะโดยใชจ้ ุลนิ ทรยี แ์ บบใช้อากาศท่ีมอี ยใู่ นบ่อฝงั กลบขยะให้มากที่สดุ ดงั น้นั ชน้ั ฝงั กลบสดุ ทา้ ยของบอ่ ฝงั กลบนไ้ี มค่ วรอดั ขยะใหม้ คี วามแนน่ จนเกนิ ไป ควรเปน็ การกลบทบั แคห่ ยาบ ๆ หลวม ๆ เพ่อื รักษาสภาพการยอ่ ยสลายแบบใชอ้ ากาศในบ่อฝังกลบ ทงั้ นี้ พนื้ ทฝ่ี ังกลบทีม่ ีการเวียนน้ำ� ชะขยะสามารถ กอ่ สรา้ งใหม้ คี วามสงู มากกว่าพน้ื ท่ีโดยรอบเพือ่ ป้องกันน้�ำฝนมใิ หไ้ หลเขา้ มาขงั อยูใ่ นพื้นทฝี่ ังกลบได้ 3.4.1 ให้มีการออกแบบบ่อควบคุม (Control Pond) หรือบ่อสูบน�้ำ (Pump Sump) โดยน�้ำชะขยะท่ีถูกรวบรวมได้จะถูกสูบย้อนกลับมายังบ่อฝังกลบขยะ เพื่อบ�ำบัดให้น้�ำชะขยะมีคุณภาพท่ีดีขึ้น (รปู ที่ 78) 3 ต.ค 2548 รปู ภาพ เปรยี บเทียบสขี องนำ้� ขยะ 5 พ.ย 2548 รูปที่ 78 การเปรียบเทียบน�ำ้ ชะขยะหลงั จากเดนิ ระบบและเวยี นนำ�้ ชะขยะผา่ นไป 1 เดือน 54 แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill)

3.4.2 การเวียนน�้ำชะขยะกลับเข้าไปในบ่อฝังกลบขยะยังช่วยให้การออกแบบบ่อบ�ำบัด น�้ำชะขยะมีขนาดเล็กลง เนื่องจากจะช่วยลดภาระของความสกปรกในรูปของบีโอดีจากการบ�ำบัดน�้ำชะขยะ ในบอ่ 3.4.3 การเวียนน้�ำชะขยะ ให้พิจารณาถึงปัจจัยเร่ืองของท่ีตั้ง ความสูงของบ่อฝังกลบ การวางแนวทอ่ หมนุ เวยี นน�้ำกลับ และระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ (รูปที่ 79 และ รปู ที่ 80) รูปท่ี 79 รปู แบบการกอ่ สร้างบอ่ สูบน้�ำชะขยะเวยี นกลบั ไปยังบ่อฝังกลบขยะ รปู ท่ี 80 ตัวอยา่ งของบอ่ สูบน�้ำชะขยะกลับไปบ�ำบดั ยงั บอ่ ฝังกลบแห่งหนง่ึ ในเกาะซามัว แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill) 55

4. การติดตามตรวจสอบส่ิงแวดล้อม 4.1 ความเข้าใจถึงสภาวะการย่อยสลายแบบใช้อากาศและการยอ่ ยสลายแบบไมใ่ ชอ้ ากาศ การติดตามตรวจสอบสิ่งแวดล้อม ให้ดูสภาวะการย่อยสลายแบบใช้อากาศโดยดูจาก พารามิเตอร์ต่าง ๆ เช่น ก๊าซมีเทน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ในก๊าซ และสภาพ ความเปน็ กรด-ดา่ ง (pH) ความสกปรกในรปู ของบโี อดี แอมโมเนยี ม ไนเตรท เหลก็ และแมงกานสี ในนำ้� ชะขยะ ซึง่ พารามเิ ตอร์เหล่านี้ สะทอ้ นถงึ สภาวะการยอ่ ยสลายแบบใชอ้ ากาศและการยอ่ ยสลายแบบไม่ใช้อากาศ ดังน้ี 4.1.1 สภาพความเปน็ กรด-ด่าง (pH) 4.1.2 ความสกปรกในรปู ของบีโอดี 4.1.3 ตัวอยา่ งการบง่ ชี้สภาวะของบ่อฝงั กลบจากพารามิเตอร์ทว่ี ิเคราะหไ์ ด้ (1) ความเขม้ ข้นของแอมโมเนียและไนเตรท (2) ความเข้มข้นของเหลก็ และแมงกานสี ในรูปท่ีละลายน�ำ้ 4.1.4 ความเขม้ ขน้ ของกา๊ ซมเี ทนและคารบ์ อนไดออกไซดจ์ ากบ่อฝงั กลบ 4.1.5 ความเข้มข้นของกา๊ ซไฮโดรเจนซัลไฟดจ์ ากบอ่ ฝงั กลบ 4.2 ข้อพจิ ารณาถงึ สภาวะเสถียรภาพของการฝังกลบชัน้ สุดท้าย สภาวะเสถียรภาพของการฝังกลบ หมายถึง สภาพของบ่อฝังกลบขยะท่ีถูกย่อยสลายแล้ว ท้ังหมดและเกิดการทรุดตัวลงจนถึงท่ีสุด ไม่เกิดความร้อนที่เกิดจากปฏิกิริยาการย่อยสลายของจุลินทรีย์ โดยน้ำ� ชะขยะทเี่ กิดขึ้นในสภาวะนี้จะไม่ก่อให้เกิดมลพษิ ที่เกิดจากการย่อยสลายของขยะในบอ่ ฝังกลบ รวมทงั้ ไม่เกิดกา๊ ซพษิ และโลหะหนกั ที่ถูกชะออกมาจากบ่อฝงั กลบขยะ ในการวัดสภาวะเสถียรภาพของการฝังกลบ จะวัดจากสารอินทรีย์ในขยะท่ีถูกย่อยสลายโดยตรง ซ่งึ ประเมินในเบอ้ื งตน้ ได้จากพารามเิ ตอรด์ ังน้ี 4.2.1 การวิเคราะห์อณุ หภูมิของน�้ำชะขยะ อุณหภูมิของน้�ำชะขยะ เป็นพารามิเตอร์ในการตรวจวัดที่ง่ายและประหยัดที่สุด โดยจะต้องวัด ณ ท่อรวบรวมน�้ำชะขยะ โดยอุณหภูมิของน้�ำชะขยะจะสะท้อนถึงปฏิกิริยาการย่อยสลายของ สารอินทรีย์ในขยะโดยจุลินทรีย์ในบ่อฝังกลบ เมื่อมีการย่อยสลายของสารอินทรีย์ในบ่อฝังกลบจะก่อให้เกิด อณุ หภมู ทิ ส่ี งู กวา่ อณุ หภมู ภิ ายนอก โดยทว่ั ไปอณุ หภมู ขิ องนำ้� ชะขยะเมอ่ื เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าการยอ่ ยสลายสารอนิ ทรยี ์ ในขยะภายในบ่อฝงั กลบมกั จะอยู่ในชว่ ง 30 – 40 องศาเซลเซยี ส แตเ่ มือ่ เวลาผา่ นไป 15 ปี อุณหภูมิอาจลดลง จนเทา่ กบั อุณหภมู ภิ ายนอกของบอ่ ฝงั กลบ 56 แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill)

4.2.2 อตั ราสว่ นระหว่างความสกปรกในรปู ของบโี อดตี อ่ ความสกปรกในรปู ของซโี อดี ความสกปรกของนำ้� ชะขยะในรูปของบีโอดี คือ อัตราการใชอ้ อกซิเจนของจุลินทรยี ์ ทย่ี อ่ ยสลายสารอนิ ทรยี ท์ มี่ อี ยใู่ นนำ้� ชะขยะ สว่ นความสกปรกของนำ�้ ชะขยะในรปู ของซโี อดี จะเปน็ อตั ราการใช้ ออกซิเจนจากการย่อยสลายสารอินทรีย์โดยใช้สารโปแตสเซียมไดโครเมต ในช่วงแรกของการฝังกลบขยะโดย ทว่ั ไปมกั เกดิ การยอ่ ยสลายของความสกปรกในรปู ของบโี อดมี ากกวา่ ความสกปรกในรปู ของซโี อดี ท�ำใหอ้ ตั ราสว่ น ของบโี อดตี อ่ ซโี อดมี คี า่ คอ่ นขา้ งตำ�่ แตเ่ มอื่ เวลาผา่ นไปเมอ่ื สารอนิ ทรยี ใ์ นขยะสว่ นใหญถ่ กู ยอ่ ยสลายโดยจลุ นิ ทรยี ์ ไปแล้ว จะท�ำให้อัตราส่วนของบีโอดีต่อซีโอดี มีค่าสูงมากข้ึน อย่างไรก็ตามอัตราส่วนระหว่างความสกปรก ในรปู ของบโี อดตี อ่ ความสกปรกในรปู ของซโี อดนี ี้ จะขน้ึ กบั ประเภทของขยะทถี่ กู ฝงั กลบดว้ ย เนอ่ื งจากหากเปน็ ขยะบางประเภทท่จี ุลินทรยี ไ์ ม่สามารถยอ่ ยสลายได้ จะท�ำใหค้ วามสกปรกในรูปของบโี อดีเกิดการคลาดเคลือ่ น 4.2.3 ปรมิ าณกา๊ ซต่าง ๆ ท่ีเกิดขนึ้ การวัดปริมาณก๊าซมีเทนและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อาจวัดโดยการติดตั้ง Flux Chamber บนบ่อฝงั กลบ หรอื ประเมนิ จากลกั ษณะและจ�ำนวนของพืชทเี่ ตบิ โตบนชนั้ ดินกลบทับ แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill) 57

บรรณานุกรม 1. ประกาศกรมควบคมุ มลพษิ เรื่อง หลักเกณฑใ์ นการพจิ ารณาความเหมาะสมของพื้นที่ การออกแบบก่อสรา้ ง และการจัดการสถานทฝ่ี ังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสขุ าภบิ าล ประกาศ ณ วนั ท่ี 29 มิถุนายน 2560 2. กรมควบคุมมลพิษ. “เกณฑ์ มาตรฐาน และแนวทางการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน” กรุงเทพฯ; 2551 ดาวน์โหลดจาก 3. Matsufuji Kouji. JICA Training Text “Caution for Application of “Fukuoka Method” (Semi-Aerobic Landfill Technology).”; 2007. [80 pages]. Available from: https://www.sprep.org/att/IRC/eCOPIES/global/159.pdf Accessed 6 September 2019. 4. The Secretariat of the Pacific Regional Environment Programme (SPREP). “A Practical Guide to Landfill Management in Pacific Island Countries and Territories : Volume 1 – Inland-Based Waste Disposal.”; 2010. [77 pages] Available from: https:// www.sprep.org/att/publication/Landfill-Guidelines.pdf Accessed 10 January 2020. 5. Japan International Cooperation Agency, Ministry of Housing and Local Government, Malaysia. “The Study on The Safe Closure and Rehabilitation of Landfill Sites in Malaysia : Final Report Volume 3, Guideline for Safe Closure and Rehabilitation of MSW Landfill Sites.”; 2004. [126 pages] Available from: https:// jpspn.kpkt.gov.my/resources/index/user_1/Sumber_Rujukan/kajian/GUIDELINE_FOR_ SAFE_CLOSURE_AND_REHABILITATION_OF_MSW_LANDFILL_SITES.pdf Accessed 6 December 2019. 58 แนวทางในการวางแผน ออกแบบ กอ่ สรา้ ง และด�ำ เนนิ งานสถานทฝ่ี งั กลบขยะแบบกง่ึ ใชอ้ ากาศ (Semi-Aerobic Landfill)

ภาคผนวก ประกาศกรมควบคมุ มลพษิ เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์ในการพจิ ารณา ความเหมาะสมของพน้ื ท่ี การออกแบบกอ่ สรา้ ง และการจดั การ สถานทฝ่ี งั กลบมลู ฝอยอยา่ งถกู หลกั สขุ าภบิ าล 59

60

ประกาศกรมควบคุมมลพิษ เร่ือง หลักเกณฑใ์ นการพจิ ารณาความเหมาะสมของพื้นท่ี การออกแบบก่อสรา้ ง และการจดั การสถานท่ีฝงั กลบมลู ฝอยอยา่ งถกู หลักสุขาภิบาล โดยที่เป็นการสมควรก�ำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาความเหมาะสมของพ้ืนท่ี การออกแบบ ก่อสร้าง และการจัดการสถานท่ีฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล เพื่อให้หน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งผู้ที่เก่ียวข้องกับการจัดการมูลฝอย น�ำไปใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาความเหมาะสมของพ้ืนที่ การออกแบบกอ่ สรา้ ง และการจดั การสถานทฝ่ี งั กลบมลู ฝอยอยา่ งถกู หลกั สขุ าภบิ าล สำ� หรบั การจดั การมลู ฝอย ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและมคี วามเหมาะสมต่อไป ดังน้ัน เพ่ือให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม พ.ศ. ๒๕๔๕ ซ่ึงกำ� หนดให้กรมควบคุมมลพษิ มอี ำ� นาจหนา้ ที่ พฒั นาระบบ รูปแบบ และวิธีการที่เหมาะสมส�ำหรับระบบต่าง ๆ เพื่อน�ำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการกากของเสีย สารอันตราย คุณภาพน�้ำ อากาศ ระดับเสียง และความส้ันสะเทือน อธิบดีกรมควบคุมมลพิษจึงอาศัยอ�ำนาจตาม มาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ออก ประกาศก�ำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาความเหมาะสมของพ้ืนท่ี การออกแบบก่อสร้าง และการจัดการ สถานท่ีฝงั กลบมูลฝอยอยา่ งถูกหลกั สุขาภบิ าลไว้ ดังรายละเอียดในภาคผนวกทา้ ยประกาศนี้ ประกาศ ณ วันท่ี ๒๙ มถิ นุ ายน ๒๕๖๐ (นายจตพุ ร บรุ ษุ พัฒน์) อธิบดกี รมควบคมุ มลพิษ 61

ภาคผนวก ทา้ ย ประกาศกรมควบคมุ มลพิษ เรื่อง หลกั เกณฑใ์ นการพจิ ารณาความเหมาะสมของพ้นื ที่ การออกแบบกอ่ สรา้ ง และการจดั การสถานทฝ่ี งั กลบมูลฝอยอยา่ งถูกหลกั สขุ าภบิ าล ๑. ใหย้ กเลกิ ประกาศกรมควบคมุ มลพษิ เรอ่ื ง หลักเกณฑใ์ นการคดั เลือกพื้นท่ตี ั้งสถานท่ฝี ังกลบ กากของเสยี ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ๒. ในประกาศน้ี “มลู ฝอย” หมายความวา่ เศษกระดาษ เศษผา้ เศษอาหาร เศษสนิ คา้ เศษวตั ถุ ถงุ พลาสตกิ ภาชนะ ทีใ่ สอ่ าหาร เถา้ มูลสัตว์ ซากสตั ว์ หรอื สงิ่ อนื่ สิง่ ใดทเี่ กบ็ กวาดจากถนน ตลาด ทีเ่ ลย้ี งสัตว์ จากชมุ ชน “สถานที่ฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล” หมายความว่า บ่อ หลุม หรือพ้ืนที่อ่ืน ๆ ท่ีได้รับการคัดเลือก และมีการศึกษาความเหมาะสม การออกแบบมิให้มีการปนเปื้อนของมลพิษจากมูลฝอย ออกสู่สภาพแวดล้อม การก่อสรา้ งตามที่ออกแบบ และมกี ารดำ� เนินงานตามหลักการทางวศิ วกรรม โดยการใช้ เครือ่ งจักรกลบดอัดมูลฝอยให้แนน่ ใช้ดนิ หรอื วสั ดอุ นื่ ๆ ทเ่ี หมาะสมกลบทับเป็นชน้ั ๆ มีมาตรการปอ้ งกันกล่ิน แมลงรบกวน การแพรก่ ระจายของเช้ือโรคและมาตรการติดตามตรวจสอบมลพิษสู่สภาพแวดล้อมโดยรอบ “โบราณสถาน” หมายความว่า โบราณสถานตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศลิ ปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ “เขตอนุรักษ์” หมายความว่า เขตอนุรักษ์ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สงิ่ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ เขตปา่ สงวนแหง่ ชาตติ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยปา่ สงวนแหง่ ชาตทิ กี่ ำ� หนดใหเ้ ปน็ พน้ื ทป่ี า่ อนรุ กั ษ์ ป่าชุมชน และพื้นที่เขตอนุรักษ์ป่าชายเลน รวมถึงพ้ืนที่ท่ีคณะรัฐมนตรีก�ำหนดให้เป็นเขตอนุรักษ์ป่าชายเลน หรอื เขตอนุรักษ์แหล่งนำ้� ดบิ เพือ่ การประปา “พ้ืนที่ลุ่มน้�ำ” หมายความว่า พ้ืนท่ีตามธรรมชาติซ่ึงเป็นแหล่งที่รวมของน้�ำก่อนท่ีจะไหลลงสู่ แม่น้�ำ ล�ำคลอง ห้วย หนอง บึง ทางน�้ำ แหล่งน้�ำใต้ดิน ทะเลสาบ ทะเลอาณาเขตหรือแหล่งรองรับนำ�้ ตาม ธรรมชาติอืน่ ๆ “พ้ืนท่ีลุ่มน�้ำชั้นท่ี ๑” หมายความว่า พื้นท่ีภายในเขตลุ่มน้�ำซึ่งคณะรัฐมนตรีประกาศก�ำหนด ใหเ้ ปน็ เขตสงวนรกั ษาไวเ้ ปน็ พ้นื ทีต่ ้นน�ำ้ ล�ำธารโดยเฉพาะ เนอ่ื งจากมีลกั ษณะและคณุ สมบัติท่อี าจมผี ลกระทบ ทางสง่ิ แวดลอ้ มจากการเปลี่ยนแปลงการใชท้ ี่ดินไดง้ า่ ยและรนุ แรง 62

“พื้นที่ลุ่มน�้ำช้ันที่ ๒” หมายความว่า พื้นที่ภายในเขตลุ่มน�้ำซึ่งคณะรัฐมนตรีประกาศก�ำหนด ให้เป็นพื้นทลี่ มุ่ น้�ำล�ำดบั รองลงมา โดยสามารถใช้ประโยชนใ์ นทีด่ นิ เพอ่ื กจิ การทส่ี ำ� คญั ได้ เชน่ การท�ำเหมืองแร่ เปน็ ตน้ โดยให้หลีกเล่ยี งการใชท้ ดี่ นิ เพือ่ กจิ กรรมทางด้านเกษตรกรรมอย่างเดด็ ขาด “พ้ืนที่ชุ่มน้�ำ” หมายความว่า พื้นที่ลุ่ม พ้ืนที่ราบลุ่ม พ้ืนท่ีลุ่มชื้นแฉะ พื้นที่ฉ�่ำน�้ำมีน้�ำท่วมขัง พ้ืนที่พรุ พื้นท่ีแหล่งน้�ำท้ังที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และที่มนุษย์สร้างขึ้น ทั้งท่ีมีน�้ำขังหรือท่วมอยู่ถาวร และช่วั คราว ท้งั ทีเ่ ปน็ แหลง่ นำ้� น่งิ และน�ำ้ ไหล ทง้ั ที่เปน็ น้ำ� จืด น�ำ้ กร่อย และน้ำ� เคม็ รวมไปถงึ พ้ืนท่ชี ายฝงั่ ทะเล และพ้ืนทข่ี องทะเลในบรเิ วณซึง่ เมอื่ น้ำ� ลดลงต่ำ� สุดมีความลึกของระดับน�้ำไมเ่ กิน ๖ เมตร “แหล่งน้�ำสาธารณะ” หมายความวา่ (๑) แม่น้ำ� ลำ� คลอง ห้วย หนอง บงึ ทางน�ำ้ แหล่งนำ้� ใตด้ ิน ทะเลสาบ ทะเลอาณาเขต และแหล่ง น�้ำธรรมชาตอิ นื่ ๆ (๒) แหล่งน�้ำของรัฐท่ีให้ประชาชนใช้หรือสงวนไว้ให้ประชาชนใช้หรือโดยสภาพประชาชน อาจใชป้ ระโยชนร์ ่วมกนั (๓) แหล่งน้�ำท่ีรฐั จัดสร้างข้นึ เพือ่ ให้ประชาชนใชป้ ระโยชนร์ ว่ มกัน “แหลง่ น้�ำท่ีใช้เพือ่ ประโยชนข์ องแผน่ ดนิ โดยเฉพาะ” หมายความว่า แหลง่ น้ำ� ทร่ี ัฐจัดสรา้ ง หรือพัฒนาข้ึน และการใช้สอยเป็นไปเพ่ือประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน หรอื อยใู่ นการปกครองดแู ล และควบคุมโดยตรงของหน่วยงานของรัฐหรอื องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ “น�ำ้ ชะมลู ฝอย” หมายความวา่ ของเหลวที่ไหลชะลา้ งผ่านหรือออกมาจากมลู ฝอย ซึ่งอาจ ประกอบดว้ ยสารละลายและสารแขวนลอยผสมอยู่ “ระบบบำ� บัดนำ้� เสยี ” หมายความว่า กระบวนการบ�ำบัดน�ำ้ เสีย และให้หมายความรวมถึง ท่อ สิง่ ปลกู สร้าง เครอื่ งมอื เครอ่ื งใช้ อุปกรณ์ และวสั ดุทจี่ ำ� เป็นตอ้ งใชใ้ นการบ�ำบัดน�ำ้ เสยี ของระบบบ�ำบดั นำ�้ เสยี ดว้ ย ๓. พื้นที่ส�ำหรับใช้เป็นสถานท่ีฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล ให้พิจารณาความเหมาะสม เบ้อื งตน้ ดังน้ี ๓.๑ ไมค่ วรใชพ้ ้ืนที่ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) พ้ืนที่ชุ่มน้�ำท่ีมีความส�ำคัญระดับนานาชาติ และระดับชาติตามที่หน่วยงานที่เก่ียวข้อง ไดก้ ำ� หนด (๒) พ้นื ที่ลุ่มน้ำ� ชนั้ ที่ ๑ และช้ันที่ ๒ ตามมติคณะรฐั มนตรี (๓) พนื้ ที่ห้ามก่อสรา้ งโรงงานตามกฎหมายวา่ ด้วยโรงงาน (๔) พื้นทห่ี ้ามกอ่ สร้างอาคารตามกฎหมายว่าดว้ ยการควบคมุ อาคาร 63

(๕) พื้นที่ห้ามตามกฎหมายว่าด้วยการผงั เมอื ง (๖) พ้นื ทีซ่ งึ่ มีลกั ษณะกดี ขวางการไหลของทางนำ�้ และพน้ื ทีท่ ีม่ โี อกาสถกู นำ้� กดั เซาะ (๗) พ้นื ทเี่ สย่ี งภยั ดนิ ถลม่ และน้ำ� ป่าไหลหลากตามทกี่ รมทรพั ยากรธรณี ประกาศกำ� หนด (๘) พื้นท่ีราบน้�ำท่วมถึง โดยพิจารณาจากการเกิดซ�้ำในช่วงระยะเวลา ๓๐ ปีท่ีผ่านมา เว้นแตจ่ ะมีระบบหรอื มาตรการป้องกนั ไม่ใหเ้ กดิ การพัดพามูลฝอยออกภายนอกบรเิ วณ (๙) แหล่งธรรมชาตอิ นั ควรอนรุ ักษ์ตามมติคณะรฐั มนตรี (๑๐) เขตอนรุ ักษ์ ๓.๒ ควรอย่หู ่างจากสถานที่หรอื พ้ืนท่ีต่าง ๆ ดังน้ี (๑) อย่หู ่างจากแนวเขตขอบลานบนิ ในบริเวณสนามบนิ ไมน่ ้อยกว่า ๕,๐๐๐ เมตร (๒) อย่หู า่ งไมน่ ้อยกว่า ๑,๐๐๐ เมตร จาก (ก) แนวเขตท่ดี ินของโบราณสถาน (ข) พนื้ ทลี่ ่มุ น้ำ� ช้นั ที่ ๑ และชั้นท่ี ๒ ตามมตคิ ณะรฐั มนตรี (ค) เขตอนรุ กั ษ์ (ง) แหลง่ ธรรมชาติอนั ควรอนุรกั ษต์ ามมตคิ ณะรัฐมนตรี (จ) เขตชุมชนหรืออยูใ่ นระยะท่ชี มุ ชนใหค้ วามยินยอม (๓) อยหู่ ่างจากบ่อนำ้� ดื่มของประชาชน หรอื โรงผลิตน้�ำประปา ไมน่ อ้ ยกว่า ๗๐๐ เมตร (๔) อยหู่ า่ งจากแหล่งน�ำ้ สาธารณะ แหลง่ น้�ำทีใ่ ชเ้ พ่ือประโยชนข์ องแผ่นดินโดยเฉพาะ หรือ แหลง่ นำ้� ธรรมชาติ ไม่นอ้ ยกว่า ๑๐๐ เมตร ๓.๓ พน้ื ท่ีตัง้ สถานทฝ่ี งั กลบมลู ฝอยอย่างถูกหลักสขุ าภิบาล ควรมีลกั ษณะดงั น้ี (๑) สภาพทางธรณีวทิ ยาของพนื้ ที่ทจี่ ะมคี วามเหมาะสมในการก่อสร้างและด�ำเนนิ การ ควรมลี กั ษณะ ดงั ต่อไปน้ี (ก) อยหู่ า่ งจากรอยแตก รอยเลอ่ื นขนาดใหญต่ ามทก่ี รมทรพั ยากรธรณี ประกาศกำ� หนด รวมถงึ โพรงหิน และพน้ื ที่ท่ีมีสภาพไมม่ ่ันคงไม่นอ้ ยกวา่ ๑๐๐ เมตร ในกรณที ม่ี ีระยะหา่ งน้อยกว่าทกี่ ำ� หนดไว้ จะตอ้ งมมี าตรการป้องกัน แกไ้ ข (ข) ช้ันดินหรอื ชน้ั หนิ ตามธรรมชาติ มีอัตราการซมึ ผา่ นของนำ้� ตำ่� ถึงต�่ำมาก โดยควรมี อัตราการซึมผ่านของน�้ำได้เทียบเท่ากับหรือต่�ำกว่า ๑ x ๑๐-๕ เซนติเมตรต่อวินาที ตลอดช่วงความหนาที่ ๓ เมตร และมีขนาดกว้างกว่าพ้ืนท่ีของสถานท่ีฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาลไม่น้อยกว่า ๕๐ เมตร ในกรณที ส่ี ภาพชน้ั ดนิ หรอื ชน้ั หนิ ตามธรรมชาตมิ อี ตั ราการซมึ ผา่ นของนำ้� สงู กวา่ คา่ ทกี่ ำ� หนด จะตอ้ งมมี าตรการ ป้องกัน แกไ้ ข 64

(ค) ชั้นดินหรือช้ันหินตามธรรมชาติควรมีความม่ันคงแข็งแรงเพียงพอที่จะสามารถ รองรบั ปริมาณมลู ฝอยได้ตามหลักวิศวกรรม (๒) พ้ืนท่ีควรมีระดับน้�ำใต้ดินอยู่ลึก แต่หากพ้ืนที่มีระดับน้�ำใต้ดินอยู่สูงจะต้องมีมาตรการ ป้องกนั การปนเป้ือนของน้ำ� ใต้ดนิ (๓) ควรเป็นท่ีดินต่อเนื่องผืนเดียวและมีขนาดเพียงพอ สามารถใช้ฝังกลบได้ไม่น้อยกว่า ๑๕-๒๐ ปี ในกรณีที่ท่ีดินมีขนาดไม่เพียงพอ ให้มีการออกแบบและการด�ำเนินงานที่เหมาะสมรองรับเพื่อ สามารถยืดอายุการใชง้ านไดไ้ ม่น้อยกว่า ๒ เทา่ ของระยะเวลาเพื่อฝังกลบมลู ฝอยในพนื้ ทนี่ ้นั ๔. การออกแบบและการกอ่ สรา้ งสถานทฝี่ งั กลบมลู ฝอยอยา่ งถกู หลกั สขุ าภบิ าล ใหใ้ ชห้ ลกั เกณฑ์ ดังต่อไปนี้ ๔.๑ ก่อนการก่อสร้างสถานท่ีฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล ควรเตรียมข้อมูล ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) แผนท่ีหรือภาพถ่ายทางอากาศแสดงที่ตั้ง อาณาเขต และการใช้ท่ีดินโดยรอบ ในรัศมี ๑,๐๐๐ เมตร ของสถานทฝี่ งั กลบมลู ฝอยอย่างถกู หลักสขุ าภบิ าล (๒) แผนผังแสดงกระบวนการปฏิบัติงานของสถานท่ีฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลัก สุขาภิบาล (๓) ขอ้ มลู เกย่ี วกบั แหลง่ กำ� เนดิ ชนดิ หรอื ประเภทมลู ฝอย และปรมิ าณมลู ฝอยทจี่ ะกำ� จดั รวมท้ังการคาดการณ์ปริมาณมูลฝอยในอนาคต (๔) ข้อมูลเก่ียวกับบุคลากร เช่น จ�ำนวนบุคลากร จ�ำนวนวันและชั่วโมงปฏิบัติงาน รวมถึงมาตรการความปลอดภัยในระหว่างการปฏิบตั งิ าน (๕) ขอ้ มลู เกย่ี วกบั เครอ่ื งจกั รกลหนกั ทใี่ ชง้ าน อายกุ ารใชง้ านของสถานทฝ่ี งั กลบมลู ฝอย อย่างถูกหลักสขุ าภบิ าล แหล่งและประเภทของวัสดุกลบทบั มูลฝอย (๖) ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพทางอุทกธรณีวิทยาของสถานท่ีฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลัก สุขาภิบาล โดยให้ส�ำรวจทิศทาง และความเรว็ ของการไหลของน�ำ้ ใตด้ นิ ระดับน้�ำสงู สุดของนำ้� ใตด้ ิน คุณภาพ ของน้ำ� ใตด้ ินและนำ�้ ผวิ ดนิ กอ่ นเริ่มโครงการ รวมทัง้ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ ช้ันหินอมุ้ น�ำ้ และแหล่งนำ้� สาธารณะ ภายในรัศมี ๑,๐๐๐ เมตร รอบพนื้ ทีโ่ ครงการ (๗) ขอ้ มลู เกย่ี วกบั สภาพทางธรณวี ทิ ยาเทคนคิ ในบรเิ วณ โดยใหส้ ำ� รวจและอธบิ ายสภาพ ชน้ั ดนิ นำ้� ใตด้ นิ อตั ราการซมึ ผา่ นของนำ้� ของชน้ั ดนิ สภาพความเสย่ี งตอ่ การเกดิ แผน่ ดนิ ไหว รอยเลอ่ื น แผน่ ดนิ ถลม่ และหลมุ ยบุ รวมทง้ั วเิ คราะหฐ์ านรากทรี่ องรบั ภาระและแรงกด และสภาพการทรดุ ตวั ภายหลงั การฝงั กลบ มลู ฝอยอยา่ งถูกหลกั สขุ าภบิ าล 65

๔.๒ การออกแบบสถานท่ีฝงั กลบมูลฝอยอยา่ งถกู หลักสุขาภิบาล ควรด�ำเนินการ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) การออกแบบสถานทฝ่ี งั กลบมลู ฝอยอยา่ งถกู หลกั สขุ าภบิ าล ใหเ้ ปน็ ไปตามประมวล หลกั ปฏบิ ตั วิ ชิ าชพี ของสภาวศิ วกรหรอื ขอ้ กำ� หนดของหนว่ ยงานราชการทเ่ี กย่ี วขอ้ ง หากไมม่ ี ใหป้ ฏบิ ตั ติ ามหรอื ประยุกต์ใช้หลกั เกณฑ์หรอื มาตรฐานท่ยี อมรบั ในระดบั นานาชาติ โดยจะต้องมีการพสิ จู นว์ า่ ขอ้ ก�ำหนดดงั กล่าว มีความเหมาะสมกับสภาพของประเทศไทยและสภาพพื้นท่ี ท้ังน้ี ให้ระบุและแนบมาตรฐานที่ใช้อ้างอิง มาประกอบด้วย (๒) มาตรฐานการก่อสร้าง (เช่น งานโครงสร้าง งานถนน งานไฟฟ้า งานประปา งานเครื่องกล ฯลฯ) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ มาตรฐาน หรือข้อก�ำหนดของหน่วยงานของรัฐที่เก่ียวข้อง หรอื มาตรฐานอืน่ ที่ยอมรับได้ ท้ังนี้ ใหร้ ะบุและแนบมาตรฐานทใ่ี ช้อา้ งองิ มาประกอบด้วย (๓) ระดับก้นบ่อฝังกลบให้อยู่สูงกว่าระดับน�้ำใต้ดินสูงสุดไม่น้อยกว่า ๑ เมตร ยกเว้น ในกรณที ม่ี กี ารออกแบบพเิ ศษ เพอื่ ควบคมุ ปอ้ งกนั แรงดนั ขนึ้ (Uplift Pressure) ของนำ�้ ใตด้ นิ ทม่ี ตี อ่ ชนั้ มลู ฝอย ในสถานทฝี่ ังกลบมูลฝอยอย่างถกู หลักสุขาภบิ าล (๔) การควบคุมปัญหากลิ่นรบกวน ระบบระบายก๊าซชีวภาพ และมาตรการจัดการ เศษมลู ฝอยปลวิ ออกสนู่ อกพ้นื ท่ี ให้มกี ารจัดการให้เหมาะสม (๕) องคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ของสถานทฝ่ี งั กลบมลู ฝอยอยา่ งถกู หลกั สขุ าภบิ าลใหอ้ อกแบบ ตามความจ�ำเป็นของการใช้งานและความเหมาะสมของขนาดพื้นที่ที่มีอยู่ เช่น ระบบถนนภายในและระบบ การจราจร อาคารส�ำนักงาน โรงซ่อมบ�ำรงุ พ้นื ทจ่ี อดรถ พน้ื ท่ลี า้ งรถบรรทกุ ประตูเข้า – ออก รว้ั ภมู สิ ถาปตั ย์ ของสถานที่ ระบบประปา ระบบไฟฟา้ ระบบสอ่ื สาร เปน็ ตน้ และกำ� หนดใหม้ หี อ้ งเวรยามทจ่ี ดั ไวเ้ ฉพาะในอาคาร ส�ำนกั งานอย่างเหมาะสม (๖) การออกแบบระบบปอ้ งกนั การปนเปอื้ นของมลพษิ ให้ดำ� เนนิ การดงั ตอ่ ไปน้ี (ก) ใช้วัสดุกันซึมท่ีมีคุณสมบัติเหมาะสม ทนต่อการกัดกร่อนท่ีจะต้องสัมผัสกับ นำ้� ชะมลู ฝอย ความเสยี หายจากการสัมผัสกบั มูลฝอย และแรงดันของน้�ำ (ข) ติดต้ังวัสดุกันซึมบนพ้ืนหรือสภาพทางธรณีวิทยาท่ีสามารถรองรับแรงกดจาก นำ�้ หนกั ของมลู ฝอย และตอ้ งตดิ ตง้ั ใหค้ รอบคลมุ ดนิ โดยรอบทงั้ หมดทจ่ี ะตอ้ งสมั ผสั กบั มลู ฝอย หรอื นำ้� ชะมลู ฝอย โดยอาจใช้ดินเหนียวบดอัด วัสดุสังเคราะห์ประเภทแผ่นโพลีเอทธิลีนชนิดความหนาแน่นสูง (High Density Polyethylene, HDPE) หรอื ใชด้ นิ เหนยี วรว่ มกบั วสั ดสุ งั เคราะหโ์ ดยทว่ั ไป การปวู สั ดกุ นั ซมึ ทผี่ นงั และกน้ บอ่ ฝงั กลบแบ่งออกเป็น ๔ ประเภท ดงั นี้ (๑.๑) การใช้ดินที่มีอัตราการไหลซึมต่�ำ (Low Permeable Soil Liner) ประกอบด้วยชั้นดินเหนียวบดอัดหนา ๖๐ เซนติเมตร และมีค่าอัตราการซึมผ่านของน�้ำไม่เกิน ๑ x ๑๐-๗ เซนตเิ มตรตอ่ วนิ าที และมชี นั้ รวบรวมและสบู นำ้� ชะมลู ฝอยอยดู่ า้ นบน โดยแรงดนั ของนำ้� ชะมลู ฝอย (Hydraulic 66

Head) ตอ้ งไมเ่ กนิ ๓๐ เซนติเมตร และมชี ั้นดนิ ปกคลมุ เหนอื ชัน้ รวบรวมและสบู น�้ำชะมลู ฝอย ความหนาอย่าง นอ้ ย ๓๐ เซนติเมตร กอ่ นที่จะมกี ารฝังมลู ฝอยลงไป (รปู ที่ ๑) (๑.๒) การใช้แผ่นวัสดุสังเคราะห์ชั้นเดียวกับดินที่มีอัตราการไหลซึมต่�ำ ๑ x ๑๐-๕ เซนตเิ มตรตอ่ วนิ าที (Single Geosynthetic Liner with 1 x 10-5 cm/s Low Permeable Soil) ประกอบด้วยชั้นแผ่นวัสดุสังเคราะห์ประเภท HDPE ความหนา ๑.๕ มิลลิเมตรขึ้นไป ด้านบนของแผ่นวัสดุ สังเคราะหม์ ีชน้ั รวบรวมและสูบนำ้� ชะมูลฝอย และแรงดนั น้�ำชะมลู ฝอยเหนือวสั ดุกนั ซึมไม่เกนิ ๓๐ เซนติเมตร ส่วนช้นั ล่างของวสั ดสุ งั เคราะหเ์ ปน็ ดนิ บดอดั หนา ๖๐ เซนตเิ มตร มีค่าอตั ราการซมึ ผา่ นของน้ำ� ท่ีอ่มิ ตวั ไมเ่ กิน ๑ x ๑๐-๕ เซนติเมตรตอ่ วนิ าที (รปู ท่ี ๒) (๑.๓) การใช้วัสดุกันซึมผสม (Composite Liner) มีลักษณะเช่นเดียวกับ วสั ดกุ ันซึมประเภทแผน่ วสั ดสุ งั เคราะห์ชน้ั เดยี ว เวน้ แตค่ ่าอตั ราการซมึ ผ่านของน้ำ� ของดนิ ท่อี ยชู่ ั้นลา่ งแผน่ วัสดุ สังเคราะห์ ไมเ่ กิน ๑ x ๑๐-๗ เซนติเมตรต่อวนิ าที (รูปที่ ๓ และ ๔) (๑.๔) การใช้วัสดุกันซึมสองช้ัน (Double Liner) ประกอบด้วยแผ่นวัสดุ สงั เคราะห์ HDPE ๒ ชนั้ ความหนา ๑.๕ มลิ ลเิ มตรขน้ึ ไป ดา้ นบนของแผน่ วสั ดสุ งั เคราะหช์ นั้ บนเปน็ ชน้ั รวบรวม น้�ำชะมูลฝอย และแรงดันน้�ำชะมูลฝอยเหนือแผ่นวัสดุสังเคราะห์ชั้นบนไม่เกิน ๓๐ เซนติเมตร ค่าอัตราการ ซึมผา่ นของน�ำ้ ไมน่ ้อยกว่า ๑ x ๑๐-๓ เซนตเิ มตรต่อวินาที ระหวา่ งแผ่นวัสดุสังเคราะหท์ ัง้ สองชั้นมชี ั้นรวบรวม น้�ำชะมูลฝอยเพื่อตรวจสอบรอยร่ัวของแผ่นวัสดุสังเคราะห์ชั้นบน ซึ่งมีค่าอัตราการซึมผ่านของน้�ำต่�ำสุด ๑๐ เซนติเมตรต่อวนิ าที และแรงดันของน�้ำชะมลู ฝอยไม่เกิน ๒.๕ เซนติเมตร (รปู ที่ ๕) ท้ังน้ี มาตรฐานการก่อสร้าง การติดตั้ง การยึดขอบบ่อ และการเช่ือมวัสดุ กนั ซมึ และมาตรฐานการทดสอบคณุ ภาพชน้ั วสั ดกุ นั ซมึ ใหเ้ ปน็ ไปตามขอ้ กำ� หนดของมาตรฐานหนว่ ยงานราชการ ท่เี กยี่ วขอ้ ง หรือมาตรฐานอืน่ ทีย่ อมรับได้ (รูปที่ ๖) ทง้ั นี้ ให้ระบแุ ละแนบมาตรฐานท่ใี ช้อ้างอิงมาประกอบดว้ ย (ค) วางระบบรวบรวมและสูบน�้ำชะมูลฝอย โดยต้องเป็นวัสดุท่ีมีความทนทาน ทางเคมีจากน�้ำชะมูลฝอย และมีความแข็งแรงพอที่จะป้องกันความเสียหายภายใต้แรงดันท่ีเกิดจากการ กองทับของมูลฝอย วัสดุกลบทับ และการปฏิบัติงานของเคร่ืองจักรกลระหว่างการด�ำเนินงานฝังกลบมูลฝอย ระบบรวบรวมนำ�้ ชะมลู ฝอยตอ้ งอยเู่ หนอื ชน้ั วสั ดกุ นั ซมึ โดยอาจใชเ้ ปน็ ทอ่ พวี ซี ี (PVC) หรอื ทอ่ โพลเี อทธลิ นี (PE) หรือท่อโพลีเอทธลิ ีนชนดิ ความหนาแนน่ สูง (HDPE) ขนาดเสน้ ผ่าศูนยก์ ลางไมน่ ้อยกวา่ ๔ นิ้ว เจาะรู หุ้มดว้ ย แผ่นกรองใยสังเคราะห์ และวางในช้ันกรวดหรือทรายมนท่ีมีค่าอัตราการซึมผ่านของน้�ำ หรือค่าความน�ำ ชลศาสตร์ (Hydraulic Conductivity) ไม่น้อยกว่า ๑ x ๑๐-๓ เซนตเิ มตรต่อวินาที และชน้ั ที่มีความหนาไม่น้อย กว่า ๓๐ เซนติเมตร ระยะห่างและความลาดเอียงของท่อรวบรวมน้�ำชะมูลฝอยต้องมีความสอดคล้องกับ ค่าแรงดันน�้ำชะมูลฝอยท่ียอมให้เกิดข้ึน แต่ต้องไม่เกิน ๓๐ เซนติเมตร และการออกแบบท่อรวบรวมน้�ำ ชะมลู ฝอยจะต้องมีวิธีการทดสอบการอดุ ตนั และวิธที ำ� ความสะอาดท่อ (รปู ท่ี ๗ และ ๘) 67

(ง) ออกแบบการควบคุมและการบ�ำบัดน�้ำชะมูลฝอยจากระบบรวบรวมและ สูบน้�ำชะมูลฝอยที่เกิดขึ้นในสถานที่ฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล โดยให้บ่อบ�ำบัดน�้ำเสียเป็นไปตาม หลักเกณฑ์ ดังนี้ (๑.๑) ใช้ดินท่ีมีอัตราการไหลซึมไม่เกิน ๑ x ๑๐-๗ เซนติเมตรต่อวินาที หนา ๖๐ เซนติเมตร หรือใช้วัสดุกันซึมประเภทแผ่นวัสดุสังเคราะห์ชั้นเดียวหนาไม่น้อยกว่า ๑.๕ มิลลิเมตร วางอยูบ่ นช้ันดนิ ทม่ี ีอตั ราการการซึมผ่านของนำ�้ ไม่เกนิ ๑ x ๑๐-๕ เซนตเิ มตรต่อวินาที หนา ๖๐ เซนตเิ มตร (๑.๒) กำ� หนดระยะเผอ่ื (freeboard) อยา่ งนอ้ ย ๖๐ เซนตเิ มตร เหนอื ความ สงู ของนำ�้ ท่ีเกดิ จากพายุฝนชว่ งเวลา ๒๔ ชว่ั โมงท่เี กิดในช่วงระยะเวลา ๒๕ ปี (๑.๓) มีการควบคุมน้�ำทิ้งก่อนระบายออกสู่ภายนอก โดยจะต้องไม่เกิน มาตรฐานน้ำ� ทิ้งตามกฎหมายท่ีเกยี่ วขอ้ ง (จ) ออกแบบระบบควบคุมก๊าซมีเทนเพอื่ ปอ้ งกนั การระเบิด ไฟไหม้ และควบคุม ก๊าซท่ีมีกลิ่นเหม็นรบกวน โดยระบบควบคุมก๊าซในสถานที่ฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาลจะต้อง ออกแบบเพือ่ ป้องกันความเข้มข้นของกา๊ ซมีเทน ดังนี้ (๑.๑) มีค่าไม่เกินจุดระเบิดข้ันต่�ำ (๕% ของก๊าซมีเทน) ในบริเวณภายใน หรอื ภายนอกของสถานท่ีฝงั กลบมลู ฝอยอยา่ งถูกหลักสขุ าภบิ าล (๑.๒) มีคา่ ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๒๕ ของจุดระเบดิ ข้นั ต�ำ่ (๑.๒๕% ของก๊าซมีเทน) ภายในอาคาร ท้งั ในและนอกสถานทีฝ่ ังกลบมลู ฝอยอย่างถูกหลักสขุ าภิบาล (๑.๓) ไม่ก่อให้เกิดกลิ่นที่น่ารังเกียจในหรือนอกสถานท่ีฝังกลบมูลฝอยอย่าง ถูกหลกั สขุ าภิบาล (๑.๔) ควบคุมการระบายก๊าซจากบอ่ ฝังกลบมลู ฝอย โดยวางทอ่ พวี ซี ี (PVC) หรอื ท่อโพลีเอทธิลนี (PE) หรือทอ่ โพลเี อทธลิ นี ชนิดความหนาแนน่ สงู (HDPE) หรอื บอ่ ระบายก๊าซในแนวนอน หรือแนวดิ่งของบ่อฝังกลบ เพ่ือลดแรงดันของก๊าซและระบายสู่บรรยากาศโดยธรรมชาติ (Passive control) และการวางต�ำแหน่งระยะห่างของบ่อหรือท่อในแนวด่ิง ให้มีระยะประมาณ ๓๐ - ๔๐ เมตร หรือวางท่อใน แนวด่ิงและติดตั้งอุปกรณ์ดูดก๊าซจากบ่อฝังกลบ (Active control) เพื่อน�ำก๊าซท่ีเกิดข้ึนไปใช้ประโยชน์เป็น เชอ้ื เพลงิ ในกรณที มี่ ปี รมิ าณกา๊ ซเกดิ ขน้ึ มาก หรอื ใชก้ ำ� จดั กา๊ ซทเี่ กดิ ขน้ึ โดยการเผาไหมเ้ พอ่ื ระบายความดนั สว่ น เกิน (Flaring) ในพนื้ ที่ฝังกลบมลู ฝอย หรือกรณที ี่มปี ริมาณกา๊ ซทเ่ี กดิ ขึ้นไม่มากพอกบั การใช้ประโยชน์เป็นเชอื้ เพลงิ ท้งั นี้ มาตรฐานการปลอ่ ยระบายอากาศเสยี จะตอ้ งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอากาศตามท่กี ฎหมาย กำ� หนด (รูปท่ี ๙ และ ๑๐) (ฉ) ออกแบบขนาดของพ้ืนที่ฝังกลบมูลฝอยให้มีขนาดท่ีเหมาะสมเพ่ือรองรับ ปริมาณมูลฝอยที่เข้าสถานท่ี พร้อมท้ังมีมาตรการป้องกันมิให้น้�ำฝนสัมผัสมูลฝอย หรือขังอยู่ในพ้ืนท่ีฝังกลบ มูลฝอย และให้มีพืน้ ที่สำ� รองส�ำหรับกองวสั ดุกลบทับมลู ฝอยรายวันทีม่ ีขนาดทเ่ี หมาะสม 68

(ช) ออกแบบระบบจัดการน�้ำฝน รวมถึงบ่อพักน้�ำและทางระบายน้�ำภายใน สถานที่ฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาลให้มีประสิทธิภาพ โดยน้�ำฝนท่ีระบายออกต้องปราศจากองค์ ประกอบ ซง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลเสยี ตอ่ สภาพแวดลอ้ ม และสามารถปอ้ งกนั การระบายนำ�้ ฝนสงู สดุ ทเ่ี กดิ จากฝนในชว่ ง ระยะเวลา ๒๕ ปที ผี่ า่ นมา ไหลสบู่ รเิ วณพนื้ ทฝี่ งั กลบทย่ี งั ไมป่ ดิ รวมทงั้ สามารถรวบรวมและควบคมุ ปรมิ าณของ น�้ำฝนชว่ งเวลา ๒๔ ชวั่ โมง ในชว่ งระยะเวลา ๒๕ ปีทผี่ ่านมา และต้องปอ้ งกันไม่ใหน้ ำ้� ฝนผสมกับน�้ำชะมูลฝอย (ซ) ออกแบบพื้นท่ีฉนวนโดยรอบพื้นท่ีฝังกลบโดยให้มีระยะห่างจากแนวเขต ที่ดินรอบบริเวณสถานที่ฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาลไม่น้อยกว่า ๒๕ เมตร เพื่อใช้ประโยชน์พ้ืนท่ี สำ� หรับถนน ครู ะบายน้ำ� และปลูกต้นไมส้ ลบั แถว เชน่ ยูคาลิปตสั กระถินณรงค์ หรอื พันธ์ไุ ม้โตไวท่เี หมาะสม กับสภาพพ้ืนท่ี เพื่อให้เกิดทัศนียภาพท่ีเหมาะสมและลดปัญหากลิ่นเหม็นรบกวนกับชุมชนบริเวณใกล้เคียง (รปู ท่ี ๑๑) (ฌ) ออกแบบการปิดสถานที่ฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล โดยให้ ด�ำเนินการดงั ต่อไปน้ี (๑.๑) ช้ันมูลฝอยเหนือระดับพ้ืนดิน โดยเฉพาะความสูงของช้ันมูลฝอยต้อง คำ� นึงถงึ ทัศนียภาพของสถานท่ี ความมน่ั คงแข็งแรง และความปลอดภัยในการปฏิบัตงิ าน (๑.๒) ความลาดชันด้านข้างชั้นสุดท้าย และความลาดชันด้านข้างของ หน่วยก�ำจัดเหนือดินไม่ควรมีความชันมากกว่า ๓ ต่อ ๑ ในแนวราบต่อแนวด่ิง หากมีความลาดชันมากกว่า ๓ ตอ่ ๑ จะตอ้ งมกี ารพสิ จู นท์ างวศิ วกรรมวา่ จะไมเ่ กดิ การพงั ทลายและการกดั เซาะบรเิ วณหนา้ ดนิ และสามารถ ระบายน�้ำเพอ่ื ควบคุมการกดั เซาะของวัสดปุ กคลมุ ช้นั สุดทา้ ย (๑.๓) ส�ำหรับสถานท่ีฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาลที่รับมูลฝอย ท่ัวไปชั้นสุดท้าย กรณีท่ีมีการใช้วัสดุกันซึมปิดทับด้านบน การปิดทับช้ันสุดท้ายต้องมีชั้นปกคลุมซึ่งมีค่าอัตรา การซึมผ่านของน�้ำไม่มากกว่าอัตราการซึมผ่านของน้�ำของระบบวัสดุกันซึมด้านล่าง ชั้นปกคลุมสุดท้ายจะใช้ แผ่นวัสดุสังเคราะห์หนาไม่น้อยกว่า ๑ มิลลิเมตร และใช้ดินกลบทับช้ันบนหนาไม่น้อยกว่า ๖๐ เซนติเมตร เพื่อปลกู พชื รากสั้นคลมุ ดนิ ส�ำหรบั ป้องกันการพังทลายของดนิ (รูปท่ี ๑๒) (๑.๔) ส�ำหรับสถานท่ีฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาลท่ีรับมูลฝอย ทว่ั ไปชน้ั สดุ ทา้ ย กรณไี มม่ กี ารใชว้ สั ดกุ นั ซมึ ปดิ ทบั ดา้ นบน ใหม้ ชี นั้ ปกคลมุ ทมี่ คี า่ อตั ราการซมึ ผา่ นของนำ้� ไมเ่ กนิ ๑ x ๑๐-๗ เซนติเมตรตอ่ วนิ าที ความหนาไม่น้อยกวา่ ๔๕ เซนติเมตร และใชด้ ินกลบทับชน้ั บนอกี ความหนาไม่ น้อยกวา่ ๔๕ เซนตเิ มตร เพอื่ ปลกู พชื คลมุ ดนิ (รปู ท่ี ๑๓) (๑.๕) ส�ำหรับสถานที่ฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาลท่ีรับมูลฝอย ท่ยี อ่ ยสลายยากหรือไมเ่ น่าเสียง่าย กรณใี ชว้ สั ดกุ ันซมึ หากใชด้ นิ เหนยี วปดู า้ นล่าง ชั้นปกคลมุ จะมคี ่าอัตราการ ซึมผ่านของน�ำ้ ไม่เกิน ๑ x ๑๐-๕ เซนติเมตรต่อวินาที ความหนาไมน่ อ้ ยกว่า ๔๕ เซนตเิ มตร และมดี ินชน้ั สดุ ท้าย ความหนาไม่นอ้ ยกว่า ๔๕ เซนติเมตร เหนือชัน้ ปกคลมุ เพือ่ ปลกู พชื คลุมดนิ ป้องกนั การกดั เซาะ (รปู ที่ ๑๓) 69

(๑.๖) ส�ำหรับสถานที่ฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาลที่รับมูลฝอย ที่ย่อยสลายยากหรือไม่เน่าเสียง่าย กรณีไม่มีการใช้วัสดุกันซึม ชั้นปกคลุมมีลักษณะเช่นเดียวกับกรณีใช้วัสดุ กันซมึ เป็นดนิ เหนยี ว (ญ) กรณที ีม่ ีการออกแบบเพ่อื ยดื อายุการใช้งานสถานที่ฝงั กลบ และใช้ประโยชน์ มลู ฝอยหลังจากปิดสถานทชี่ ั่วคราว โดยการขุด รื้อ ร่อน มลู ฝอย ใหค้ ำ� นึงถงึ (๑.๑) ขนาดและลักษณะของพื้นท่ีที่จะด�ำเนินการ โดยจะต้องมีการศึกษา ถงึ ลกั ษณะทางธรณีวทิ ยา เสถียรภาพของพื้นท่ี ความลกึ ของน�ำ้ ใตด้ ิน และปัจจยั อน่ื ๆ ทีอ่ าจมผี ลกระทบตอ่ การออกแบบและการดำ� เนินการ (๑.๒) ค่าใชจ้ า่ ยในการดำ� เนนิ การ (๑.๓) อัตราการย่อยสลายมูลฝอย เพ่ือใช้พิจารณาระยะเวลาในการขุด รื้อ ร่อน รวมทั้งประเภทและปรมิ าณการใช้ประโยชน์จากวสั ดทุ ี่ร้อื รอ่ นได้แต่ละประเภท (๑.๔) การป้องกันผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมเบ้ืองต้น สุขภาพอนามัย สังคม และความปลอดภยั (๑.๕) สถานที่กักเก็บวัสดุที่ร้ือร่อนได้แต่ละประเภท โดยจะต้องมีรูปแบบ และขนาดรองรับท่ีเหมาะสมกับปริมาณและประเภทของวัสดุที่รื้อร่อนได้ รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อ สิ่งแวดลอ้ ม (๑.๖) ศักยภาพการรองรับ และระยะทางการขนส่งไปยังแหล่งที่จะน�ำวัสดุ ทร่ี อ้ื รอ่ นไดเ้ พ่อื น�ำไปใชป้ ระโยชน์ (๑.๗) กฎหมาย กฎ ระเบยี บ ข้อบังคบั หรอื ประกาศในส่วนทเี่ ก่ยี วขอ้ ง ๕. การจดั การสถานทีฝ่ ังกลบมลู ฝอยอยา่ งถูกหลักสุขาภิบาล ใหด้ ำ� เนินการดังต่อไปนี้ ๕.๑ จัดเตรียมเจ้าหน้าท่ีปฏิบัติงานในช่ัวโมงท�ำงาน และติดประกาศช่ัวโมงปฏิบัติงานท่ี ประตทู างเขา้ เพื่อใหส้ าธารณชนได้ทราบโดยทว่ั ไป ๕.๒ จดั เตรยี มเอกสารหรอื คมู่ อื การปฏบิ ตั งิ านและการบำ� รงุ รกั ษา โดยกำ� หนดใหม้ มี าตรการ ควบคมุ ความปลอดภัยในระหวา่ งการปฏิบตั ิงาน ๕.๓ บันทกึ ปรมิ าณมลู ฝอยรายวนั ทนี่ ำ� เข้าไปกำ� จัด ๕.๔ ตรวจสอบมูลฝอยเม่ือมีการขนส่งเข้ามายังสถานท่ีก�ำจัด เพ่ือตรวจจับและป้องกัน ไมใ่ ห้มกี ารก�ำจดั มูลฝอยทไี่ ม่ไดร้ บั อนญุ าต โดยเฉพาะของเสยี อันตราย มลู ฝอยติดเชือ้ การตรวจสอบจะต้องมี การบันทึกข้อมลู และเกบ็ รักษาข้อมูลไวอ้ ยา่ งนอ้ ยท่ีสดุ ๓ ปี ทั้งนี้ การตรวจสอบ อาจด�ำเนนิ การโดยการสงั เกต หรือใช้เคร่ืองมอื ตรวจวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ เช่น เคร่ืองมือตรวจวดั ความเป็นกรด-ดา่ ง เคร่ืองมือตรวจวดั 70

จุดวาบไฟ ฯลฯ กรณีท่ีพบการขนส่งมูลฝอยผิดประเภทเข้ามา ให้เจ้าหน้าท่ีประจ�ำสถานที่ด�ำเนินการส่งคืน แจ้งผู้ขนสง่ และหน่วยงานรบั ผดิ ชอบเพือ่ ดำ� เนินการตามกฎหมายท่เี กย่ี วขอ้ งตอ่ ไป ๕.๕ ควบคุมเศษมูลฝอยปลิว กลิ่น แมลง และพาหะน�ำโรค มิให้ออกสู่ภายนอกสถานที่ เพือ่ ปอ้ งกันปญั หารบกวนดา้ นสุขอนามัย และสภาพท่ไี ม่น่าดู ๕.๖ จัดเตรียมมาตรการป้องกันอัคคีภัย แผนฉุกเฉินเพื่อแก้ไขปัญหากรณีเคร่ืองจักร หรืออุปกรณ์เกิดขดั ข้อง หรอื เกิดความลา่ ช้าดว้ ยสาเหตอุ น่ื ใดในระหว่างปฏิบัติงาน ๕.๗ ให้ด�ำเนินการเทมูลฝอยโดยการเกลี่ยเป็นช้ัน ๆ แต่ละช้ันให้มีความหนาประมาณ ๖๐ เซนติเมตร และบดอัดให้มีความหนาประมาณ ๓๐ เซนติเมตร หรือน้อยท่ีสุด และกลบทับด้วยวัสดุ กลบทับ ก่อนที่จะเทมูลฝอยช้ันต่อไป และการด�ำเนินงานในสถานท่ีฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล ท่ีรับมลู ฝอยทยี่ ่อยสลายยากหรือไมเ่ น่าเสียงา่ ย ให้บดอัดอยา่ งน้อยสัปดาห์ละหน่ึงคร้ัง สำ� หรับมูลฝอยชนั้ แรก ทท่ี บั อยบู่ นแผน่ วสั ดกุ นั ซมึ และระบบรวบรวมนำ้� ชะมลู ฝอยจะตอ้ งบดอดั หนาไมเ่ กนิ ๑ เมตร และตอ้ งไมม่ มี ลู ฝอย ท่ีอาจท�ำความเสียหายแก่แผ่นวัสดุกันซึม ความลาดชันของการฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล ควรมีความลาดชนั ไมเ่ กนิ ๑ ตอ่ ๓ ในแนวดง่ิ ต่อแนวราบ กรณีการฝังกลบมลู ฝอยอนิ ทรยี ท์ ีม่ กี ลิน่ เหม็นรุนแรง ให้ฝังกลบโดยมีระยะห่างจากหน้างานฝังกลบไม่น้อยกว่า ๑ เมตร โดยอาจฉีดพ่นสารเพ่ือดับกลิ่นท่ีไม่ส่งผล กระทบต่อสุขภาพอนามัยและส่ิงแวดล้อม และใช้วัสดุกลบทับหลังการฝังกลบมูลฝอยในแต่ละวัน ให้มีความ หนาประมาณ ๑๕-๒๐ เซนติเมตร วัสดุกลบทับช้ันกลาง ให้มีความหนาประมาณ ๓๐ เซนติเมตร และวัสดุ กลบทับชน้ั สดุ ท้าย ๕.๘ ควบคุมหน้างานฝังกลบรายวันให้มีขนาดที่เหมาะสม เพ่ือลดกล่ินและสัตว์พาหะที่ อาจเกดิ ขน้ึ รวมทง้ั ก�ำหนดตำ� แหน่งหนา้ งานฝงั กลบให้เป็นระเบยี บ หรอื ใหเ้ ปน็ ไปตามลักษณะที่ได้ออกแบบไว้ ๕.๙ ในการฝังกลบ อาจใหม้ กี ารแบ่งพ้ืนทีฝ่ งั กลบมูลฝอยยอ่ ย ๆ ตามระยะโดยการก่อสร้าง แนวคันดินชั่วคราวในพ้ืนท่ีฝังกลบ เพื่อให้สามารถลดผลกระทบจากน้�ำฝนที่อาจสัมผัสกับมูลฝอยและเกิดน�้ำ ชะมลู ฝอยในพน้ื ทฝ่ี งั กลบมลู ฝอยมากเกนิ จนเกนิ ไป โดยใหค้ ำ� นงึ ถงึ ปรมิ าณและลกั ษณะของมลู ฝอยทจี่ ะถกู ฝงั กลบในแต่ละวัน อัตราการย่อยสลายของมูลฝอย ขนาดของพื้นท่ีฝังกลบทั้งหมดท่ีมีอยู่ ระยะเวลาการใช้งาน ของพ้ืนท่ีย่อย ความปลอดภัย และผลกระทบท่ีอาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ ให้ด�ำเนินการตามรูปแบบท่ีได้ออกแบบไว้ หรอื ดำ� เนนิ การใหส้ อดคล้องกบั สภาพภมู ิประเทศและสภาพทอ้ งถน่ิ ๕.๑๐ จัดหาปริมาณวัสดุกลบทับที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและให้เพียงพอกับปริมาณมูลฝอย ทีเ่ ข้ามาก�ำจัดอย่างตอ่ เนื่อง ๕.๑๑ กรณีท่ีมีการหมุนเวียนการฝังกลบในพ้ืนที่หรือพื้นท่ีย่อยตามระยะโดยมีวัตถุประสงค์ เพ่ือการขุด รื้อ ร่อน มูลฝอย เพื่อใช้ประโยชน์ จะต้องมีการด�ำเนินการตามข้อก�ำหนดที่ได้ออกแบบไว้ ท้ังน้ี ในส่วนของพ้ืนท่ีท่ีปิด ให้ปิดแบบช่ัวคราว โดยใช้วัสดุกลบทับมูลฝอยให้มีความหนาตลอดทั้งพื้นท่ีไม่น้อยกว่า ๕๐ เซนตเิ มตร 71

๕.๑๒ รวบรวม และบ�ำบัดน�้ำชะมูลฝอยเพ่ือให้เป็นไปตามมาตรฐานน้�ำท้ิงตามกฎหมาย ท่ีเก่ียวข้อง ซ่ึงการบ�ำบัดอาจส่งไปสู่โรงบ�ำบัดนอกสถานท่ี หรืออาจมีระบบบ�ำบัดน�้ำชะมูลฝอยในสถานที่ฝัง กลบมลู ฝอยอย่างถูกหลกั สุขาภิบาลกไ็ ด้ ๕.๑๓ ติดตามตรวจสอบก๊าซ ภายในสถานที่ฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล โดยดำ� เนนิ การ ดังนี้ (๑) ก�ำหนดต�ำแหน่งจุดตรวจสอบก๊าซภายนอกบ่อฝังกลบมูลฝอยในบริเวณ แนวอาณาเขตทั้ง ๔ ด้าน ของสถานท่ีก�ำจัดมูลฝอยชุมชนโดยการฝังกลบอย่างถูกหลักสุขาภิบาล อย่างน้อย รวม ๔ จุด (๒) สุ่มตัวอยา่ งตรวจวัดก๊าซอย่างนอ้ ยปีละ ๒ ครัง้ ตามทกี่ �ำหนดไวใ้ นข้อ ๔.๒ (๖)(จ) (๓) ตรวจวดั กา๊ ซมเี ทนโดยคา่ ทต่ี รวจวดั ไดต้ อ้ งไมเ่ กนิ กวา่ ทก่ี ำ� หนดไวใ้ นขอ้ ๔.๒ (๖)(จ) ๕.๑๔ ควบคุมดูแลให้น้�ำฝนสัมผัสกับมูลฝอยน้อยที่สุด เพ่ือไม่ให้น้�ำฝนท่ีระบายออกนอก สถานท่ีฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาลก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสภาพแวดล้อม ตลอดจนท�ำการ ควบคุมดแู ลระบบระบายน้ำ� ฝน ใหอ้ ยูใ่ นสภาพทใี่ ช้งานไดด้ ีอย่างสม่�ำเสมอ ๕.๑๕ จดั เตรยี มเครอื่ งมอื และอปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านใหเ้ พยี งพอ และสำ� รองเครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ดังกล่าวไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน รวมท้ังต้องมีการตรวจสอบสภาพเครื่องมือและอุปกรณ์เป็นประจ�ำ นอกจากนี้ ต้องมีอุปกรณ์ควบคุมอัคคีภัย เคร่ืองมือติดต่อสื่อสารกรณีฉุกเฉิน และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลอยู่ ในสภาพท่ใี ชง้ านได้และเตรยี มพร้อมไว้ตลอดเวลา ๕.๑๖ ดูแลและบำ� รุงรกั ษาถนนที่อยูใ่ นพนื้ ทฝ่ี งั กลบใหส้ ามารถใชง้ านไดด้ ีทุกฤดูกาล ๕.๑๗ ตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพน�้ำ โดยให้ด�ำเนนิ การ ดังน้ี (๑) สมุ่ เกบ็ ตวั อยา่ งและวเิ คราะหน์ ำ้� จากบอ่ ตดิ ตามตรวจสอบ นำ�้ ผวิ ดนิ นำ้� ชะมลู ฝอย และน้�ำท้ิงจากระบบบ�ำบัดน�้ำเสียอย่างน้อยปีละ ๒ ครั้ง ให้ครอบคลุมในช่วงฤดูฝน และฤดูแล้ง และควร ทำ� รายงานเพื่อให้หนว่ ยงานที่เก่ยี วขอ้ งตรวจสอบได้ตลอดเวลา (๒) ตดิ ตามตรวจสอบนำ้� ใตด้ นิ โดยตดิ ตง้ั บอ่ ตดิ ตามตรวจสอบเพอื่ ตรวจวดั การรว่ั ไหล ของน�้ำชะมูลฝอยที่อาจมีต่อชั้นหินอุ้มน�้ำบนสุดภายในเขตการระบายท้ิงอย่างน้อย ๓ บ่อ ต้ังอยู่ในทิศทาง ลาดเอียงลง (Downgradient) ของการไหลน�้ำใต้ดิน จ�ำนวนอย่างน้อย ๒ บ่อ และในทิศทางลาดเอียงข้ึน (Upgradient) ของการไหลของน�ำ้ ใตด้ นิ อยา่ งน้อย ๑ บอ่ ระยะหา่ งระหวา่ งบอ่ ตดิ ตามตรวจสอบในทิศทาง ลาดเอียงลงของการไหลน�้ำใต้ดินมีค่าไม่เกิน ๑๕๐ เมตร และระยะห่างของบ่อติดตามตรวจสอบในทิศทาง ลาดเอียงข้ึนของน้�ำใต้ดิน ไม่เกิน ๔๕๐ เมตร ทั้งน้ี วิธีการเก็บตัวอย่างและตรวจสอบคุณภาพน้�ำในแหล่งน้�ำ ใต้ดินให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๐ (พ.ศ.๒๕๔๓) ออกตามความใน พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรกั ษาคุณภาพส่งิ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ เรือ่ ง ก�ำหนดมาตรฐานคณุ ภาพ 72

นำ้� ใตด้ นิ โดยรายละเอยี ดของบอ่ ตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพนำ�้ ใตด้ นิ อาจใชต้ ามแบบแนบทา้ ยภาคผนวกนี้ หรอื อ้างอิงตามคมู่ อื การตรวจสอบการปนเปอ้ื นนำ้� ใต้ดินจากสถานทก่ี �ำจัดมลู ฝอย กรมควบคมุ มลพิษ (รปู ท่ี ๑๔) (๓) ติดตามตรวจสอบน�้ำผิวดิน โดยการตรวจสอบคุณภาพน�้ำผิวดินท่ีอาจได้รับผล กระทบจากการระบายสิ่งปนเปื้อนในแหล่งน้�ำน่ิง ก�ำหนดจุดตรวจไม่น้อยกว่า ๑ จุดในบริเวณที่ใกล้สถานที่ ฝังกลบมูลฝอยอยา่ งถกู หลักสุขาภบิ าล สำ� หรบั ในแหล่งนำ้� ท่ไี หลให้ตรวจวัดคุณภาพในจดุ เหนือน้ำ� และทา้ ยน้�ำ ของสถานท่ีฝังกลบมูลฝอยอย่างถกู หลักสุขาภิบาล ทัง้ นี้ วิธกี ารเกบ็ ตัวอย่างและตรวจสอบคุณภาพน้�ำในแหลง่ น�้ำผิวดนิ ใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๘ (พ.ศ.๒๕๓๗) ออกตามความใน พระราชบัญญตั ิสง่ เสริมและรักษาคณุ ภาพสิง่ แวดล้อมแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ เรื่อง กำ� หนดมาตรฐานคณุ ภาพ นำ้� ในแหลง่ น�ำ้ ผวิ ดนิ (๔) การสมุ่ เกบ็ ตวั อยา่ งนำ�้ ชะมลู ฝอย และนำ้� ทงิ้ จากระบบบำ� บดั นำ้� เสยี (ถา้ ม)ี จดุ การ สุ่มเก็บตัวอย่างน�้ำชะมูลฝอยต้องอยู่ในต�ำแหน่งที่สูบน้�ำชะมูลฝอยออกน้อยท่ีสุดเพื่อให้ได้คุณลักษณะท่ีเป็น ตวั แทนของนำ�้ ชะมลู ฝอยกอ่ นทคี่ ณุ ลกั ษณะของนำ�้ ชะมลู ฝอยเปลยี่ นแปลงไป สำ� หรบั นำ้� ทง้ิ จากระบบบำ� บดั นำ้� เสยี ให้สมุ่ เกบ็ ตวั อยา่ งจากจุดที่จะระบายทงิ้ สภู่ ายนอก โดยให้เปน็ ไปตามหลกั วิชาการที่เกยี่ วขอ้ ง (๕) ให้มีการสุม่ เกบ็ ตวั อยา่ งเพือ่ วิเคราะห์คุณภาพน้ำ� ผิวดนิ และน�ำ้ ใต้ดิน ทงั้ ก่อนเริ่ม โครงการ ในระหว่างการดำ� เนินงานและหลังจากปดิ สถานที่ฝังกลบมูลฝอยอยา่ งถูกหลักสุขาภิบาลแลว้ โดยน�้ำ ทิ้งให้ส่มุ เกบ็ ตัวอยา่ งเพือ่ วิเคราะห์ในระหวา่ งการดำ� เนินงานและหลังจากปิดสถานท่ี (๖) การประเมินผลและปฏิบัติการแก้ไข หากพบว่าคุณภาพน�้ำผิวดินหรือน�้ำใต้ดิน มีคา่ ต�ำ่ กว่าคณุ ภาพนำ้� ผิวดินหรอื น�ำ้ ใตด้ นิ กอ่ นเริม่ ดำ� เนนิ การ หรือสงู เกินกว่ามาตรฐานคณุ ภาพน้�ำทีเ่ กีย่ วขอ้ ง ของทางราชการ จะต้องเรง่ ตรวจสอบปญั หา พสิ จู น์ และค้นหาสาเหตุ รวมทัง้ หามาตรการแก้ไขปญั หาโดยเรว็ ทส่ี ดุ พร้อมทั้งจัดท�ำรายละเอียดของปัญหาและสรปุ ผลการแก้ไขไวท้ ุกคร้งั (๗) การติดตามตรวจสอบคุณภาพนำ้� จะตอ้ งประกอบดว้ ย (ก) น�้ำใต้ดิน ให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๐ (พ.ศ.๒๕๔๓) ออกตามความในพระราชบญั ญตั สิ ่งเสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพสิ่งแวดล้อมแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๓๕ เร่อื ง ก�ำหนดมาตรฐานคุณภาพน้ำ� ใตด้ นิ (ข) น�ำ้ ผิวดิน ใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศคณะกรรมการส่งิ แวดล้อมแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๘ (พ.ศ.๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบญั ญตั สิ ง่ เสรมิ และรกั ษาคุณภาพส่งิ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๓๕ เรอ่ื ง ก�ำหนดมาตรฐานคุณภาพน�ำ้ ในแหลง่ นำ�้ ผวิ ดนิ (ค) น�้ำท้ิงจากสถานท่ีฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล ให้เป็นไปตาม กฎหมายทเ่ี กีย่ วข้อง 73

๕.๑๘ การใชป้ ระโยชน์จากมูลฝอยทีถ่ ูกฝังกลบโดยการขุด ร้อื รอ่ น ให้ดำ� เนินการตามระยะ เวลาท่ีเหมาะสมหลังจากการฝังกลบ ทง้ั นี้ ใหเ้ ป็นไปตามหลักเกณฑ์และเง่อื นไขทไี่ ดอ้ อกแบบไว้ ซ่งึ การด�ำเนนิ การ ให้พิจารณาถึงมาตรการปอ้ งกันและควบคมุ ดา้ นสขุ ภาพอนามยั และความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิงานของ พนักงานและเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบงั คบั หรือประกาศทีเ่ กี่ยวข้อง ๕.๑๙ การปิดสถานทฝ่ี งั กลบมลู ฝอยอยา่ งถกู หลักสุขาภบิ าล ใหด้ ำ� เนนิ การดังนี้ (๑) จัดท�ำรายละเอียดแผนผังแสดงขั้นตอนการปิด แบบแสดงภูมิประเทศเดิม และ ระดับสุดทา้ ยภายหลงั การปดิ (๒) ติดตง้ั หมุดสำ� รวจเพือ่ เปน็ เครือ่ งหมายแสดงขอบเขตของสถานที่ (๓) ในกรณีทีร่ ะดับสุดท้ายเหนอื ผิวดินเดมิ มากกวา่ ๖ เมตร ตอ้ งทำ� การส�ำรวจขัน้ สุดท้ายภายหลังการปิดสมบูรณ์เพื่อพิสูจน์ว่าเส้นชั้นความสูงระดับสุดท้ายเป็นไปตามแผนการ โดยมีเส้นช้ัน ความสูงไม่เกิน ๑ เมตร หรือใช้เทคนิคการท�ำแผนทางอากาศท่ีมีความถูกต้องเทียบเท่าการส�ำรวจแทนการ ส�ำรวจได้ ๕.๒๐ การดูแลระยะยาว ให้ด�ำเนนิ การดังนี้ (๑) ติดตามตรวจสอบ ดูแลความมั่นคงและประสิทธิภาพของการปิดทับชั้นสุดท้าย กบั ส่วนประกอบอนื่ ของสถานทต่ี ่อไปอกี ไมน่ ้อยกว่า ๒๐ ปี นับจากวนั ปดิ สถานท่ี (๒) ก�ำหนดให้ช่วงเวลาการดูแลระยะยาวลดลงได้ ถ้าสถานท่ีฝังกลบมูลฝอยอย่าง ถกู หลกั สขุ าภบิ าลนนั้ ดำ� เนนิ การสอดคลอ้ งตามมาตรฐาน มรี ะบบควบคมุ นำ้� ชะมลู ฝอยและแผน่ วสั ดกุ นั ซมึ และ ปิดด้วยวัสดุกลบทับช้ันสุดท้ายท่ีเหมาะสม มีการปลูกพืชปกคลุม และมีการติดตั้งระบบติดตามตรวจสอบ รวมท้ัง คุณภาพน�ำ้ ใตด้ ินในบ่อตดิ ตามตรวจสอบมคี า่ ไมเ่ กนิ ค่ามาตรฐาน ไมม่ ีการกดั เซาะช้นั ปกคลุม และการ ยบุ ตัวของมูลฝอยสิ้นสุดลงแล้ว ภายในระยะเวลา ๑๐ ปี หลังการปดิ สถานที่ (๓) ในกรณที ปี่ ระสงคจ์ ะดดั แปลงแกไ้ ขแผนการตดิ ตามตรวจสอบนำ้� ใตด้ นิ เพอ่ื ยกเลกิ คณุ ภาพนำ�้ ตวั ใดตวั หนงึ่ ทรี่ ะบตุ ามขอ้ กำ� หนดการตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพนำ้� และนำ�้ ชะมลู ฝอย สามารถดำ� เนนิ การได้ หากมกี ารสมุ่ เกบ็ ตวั อย่างและวเิ คราะหค์ ณุ ภาพน�้ำทงิ้ นำ้� ผิวดินและนำ้� ใต้ดินอย่างสมำ�่ เสมอ และ ไมพ่ บคณุ ภาพนำ�้ ทง้ิ นำ�้ ผวิ ดนิ หรอื นำ้� ใตด้ นิ เกนิ มาตรฐานทเี่ กย่ี วขอ้ งในระยะเวลาของการฝงั กลบอยา่ งถกู หลกั สุขาภบิ าล (๔) ให้มีการทดแทนเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตามตรวจสอบ ในกรณีที่ ตรวจสอบและพบว่าเกิดความเสียหายโดยเรว็ ๕.๒๑ การก่อสร้างพื้นที่ฝังกลบมูลฝอยไว้ด้านบนหรือด้านข้างลาดเอียงของการฝังกลบ อยา่ งถกู หลกั สขุ าภบิ าลท่ถี มไวก้ ่อนแลว้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนทีย่ ังด�ำเนินการอยู่ ปดิ แล้ว หรือเลกิ ใชแ้ ลว้ ให้ถอื วา่ เป็นการขยายแนวด่ิงของการฝังกลบอย่างถูกหลักสุขาภิบาล ซึ่งจะต้องด�ำเนินการโดยไม่ให้เกิดการรั่วไหล 74

ของน้ำ� ชะมูลฝอย ส�ำหรับการกอ่ สร้างบนสว่ นลาดเอียงของการฝงั กลบมูลฝอยทมี่ อี ยเู่ ดมิ ต้องมีการตรวจสอบ เสถียรภาพของฐานราก และท�ำการค�ำนวณการทรุดตัว การออกแบบการขยายตัวในแนวด่ิงจะต้องใช้ค่า แฟคเตอร์ตามความปลอดภัย (Factor of Safety) ต่�ำสุดเทา่ กับ ๑.๕ ส�ำหรบั เสถียรภาพของระบบวัสดุกันซึม ระบบการจัดการน้�ำผิวดินจะต้องมีการออกแบบทางระบายอย่างเหมาะสมท่ีขอบร่วมระหว่างลาดเอียงท่ี มีอยู่กับบริเวณการขยายแนวดิ่งระบบควบคุมก๊าซจะต้องติดตั้งบ่อระบายก๊าซจากขอบร่วม ระหว่างลาดเอียง ของการฝงั กลบอยา่ งถูกหลักสุขาภบิ าลทเ่ี ป็นอยกู่ บั ลาดเอยี งของการขยายแนวดิง่ ๖. ในกรณีท่ีมีการว่าจ้างบุคคลหรือนิติบุคคลเป็นผู้รับจ้างเพื่อด�ำเนินการบริหารจัดการสถานท่ี ผวู้ า่ จา้ งควรกำ� หนดเงอื่ นไขในสญั ญาจา้ งเพอ่ื ใหผ้ รู้ บั จา้ งเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบคา่ ใชจ้ า่ ยทงั้ หมดทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การเกบ็ ตัวอย่าง และการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามสัญญาจ้าง หรือกรณีมีเหตุร�ำคาญตามกฎหมาย ท่เี กย่ี วข้อง รปู ท่ี 1 วสั ดกุ นั ซึมแบบดนิ ทีม่ อี ัตราการไหลซึมตำ�่ (Low Permeable Soil Liner) 75

รปู ที่ 2 วสั ดุกันซึมแบบแผน่ วัสดสุ ังเคราะห์ชั้นเดยี ว (Single Geosynthetic Liner) 76

รูปที่ 3 วสั ดุกนั ซึมผสม (1) (Composite Liner 1) 77

รปู ท่ี 4 วัสดกุ ันซมึ ผสม (2) (Composite Liner 2) 78

รปู ท่ี 5 วสั ดุกนั ซมึ สองชนั้ (Double Liner) 79

รปู ท่ี 6 ตัวอยา่ งการขงึ ปลายแผ่นวสั ดุสงั เคราะห์ 80

รูปที่ 7 รายละเอยี ดของท่อรวบรวมน้�ำชะมลู ฝอย 81

รปู ท่ี 8 แรงดนั น�้ำชะมลู ฝอยเหนอื วสั ดกุ ันซมึ 82