วัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง คำนำ หนังสือทำเนียบแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่อง “ประวัติวัดมงคล ทับคล้อ พระอารามหลวง” ที่จัดทำขึ้นนี้อยู่ภายใต้ห้องสมุดประชาชนอำเภอ ทับคล้อและห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอทับคล้อ จัดทำขึ้นเพื่อ เป็นการรวบรวมข้อมูลแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อเกี่ยวกับการ สถานที่สำคัญ บุคคลสำคัญ ศิลปะ วัฒนธรรม ขบนธรรมเนียบ ประเพณี อาหาร ภาษา การดำเนินชีวิตและอาชีพ ซึ่งบรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชน อำเภอทับคล้อและบรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอ ทับคล้อ ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายในการถ่ายทอดองค์ความรู้และ ประสบการณ์ต่าง คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือทำเนียบแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญา ท้องถิ่น เรื่อง “ประวัติวัดมงคลทับคล้อ” เล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษา และผู้ที่สนใจการดำเนินงานต่อไป ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ กศน.อำเภทับคล้อ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง วัดมงคลทับคล้อได้เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏชัด แต่คาดว่านายไหมแพง และนายเม้ง หนูพิน ได้ยกที่ดินให้ วัดก่อน พ.ศ.๒๔๘๕ เดิมชื่อ “วัดท่ามงคล” ต่อมาได้รับ การประกาศตั้งเป็นวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๒ ในระยะแรกมี เจ้าอธิการสุวรรณซึ่งย้ายมาจากวัดหนองนาดำ อำเภอ เมืองพิจิตร เป็นผู้นำในการก่อสร้างและดำรงตำแหน่งเจ้า อาวาส และเจ้าคณะตำบลทับคล้อ ครั้น พ.ศ. ๒๔๘๗ เจ้าอธิการสุวรรณได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและ เจ้าคณะตำบลทับคล้อ ดังนั้น พระครูพิบูลศีลสุนทร เจ้า คณะอำเภอตะพานหิน ในขณะนั้น จึงนิมนต์ พระมหาบุญ มา ญาณวิมโล ป.ธ.๔ (ภายหลังดำรงสมณศักดิ์ คือ พระครูนิพัทธธรรมโกศล พระวิมลญาณเมธี พระราช วิมลเมธี และพระเทพญาณเวที ตามลำดับ) ซึ่งย้ายมา จากวัดราชบูรณะ (วัดเลียบ) กรุงเทพมหานคร มาเป็น ครูสอนพระปริยัติธรรมอยู่ ณ วัดทรงธรรม ตำบลทับค ล้อ อำเภอตะพานหิน (เปลี่ยนมาเป็นอำเภอทับคล้อ เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๐) มาเป็นเจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลทับ คล้อแทน ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง ขณะนั้นวัดมงคลทับคล้อมีเพียงกุฏิเล็ก ๆ ๔ หลัง หลังคามุงแฝก ๑ หลัง มุงด้วยกระเบื้อง ไม้ ๑ หลัง และมุงสังกะสี ๒ หลัง นอกจากนี้ยังมีหอสวดมนต์กว้าง ๓ วา ยาว ๔ วา ๒ ศอก ศาลาการเปรียญกว้าง ๖ วา ยาว ๙ วา และพระอุโบสถซึ่งทำด้วยไม้ทั้งหลัง มีเสา พื้น และ กระดานฝาเป็นไม้แดง หลังคามุงสังกะสี กว้าง ๑๐ ศอก ยาว ๕ วา ๒ ศอก พระมหาบุญมาปรารภ ว่า “ถ้าประสงค์จะดำรงค์สมณเพศให้ยาวนาน เพียงศึกษาพระธรรมอย่างเดียว ไม่ชื่อว่าศึกษาพระ ศาสนาได้กว้างขวาง หากแต่ได้มีการศึกษาบาลีด้วย ก็จะเป็นหนทางนำความเจริญก้าวหน้าในชีวิต แห่งสมณะและคณะสงฆ์” ดังนั้นท่านจึงได้ประกาศตั้ง การศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีขึ้น ในปี พ.ศ. ๒๔๘๘ โดย นิมนต์พระมหาแทน นุสิทธิ์ (ป.ธ.๖) จากวัดอนงคาราม ธนบุรี มาเป็นครูสอน และมีนักเรียนจำนวน ๑๒ รูปในปีแรก ปีต่อมามีนักเรียนเพิ่มมากขึ้นจึงได้นิมนต์พระมหาเจียร นักธรรม (ป.ธ.๖) จากวัด ราชบูรณะ (วัดเลียบ) กรุงเทพมหานคร มาเป็นครูสอนเพิ่มครั้น พ.ศ. ๒๔๙๑ มีนักเรียนสอบเป็น เปรียญได้จำนวน ๒ รูป พระมหาบุญมา ได้พยายามสนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี เป็นอย่างมาก โดยสนับสนุนหาครูและอุปกรณ์การศึกษาเพิ่มเติมตลอดมา และได้เปลี่ยนชื่อวัดท่า มงคล เป็นวัดมงคลทับคล้อ ในช่วงนี้ พ.ศ. ๒๔๙๐ มีภิกษุสามเณรเพิ่มมากขึ้น จึงได้ก่อสร้างกุฏิสงฆ์เพิ่มขึ้นอีก ๔ หลัง ได้ปรับผังวัด ให้เป็นระเบียบมากขึ้น และสร้างโรงครัวเพื่อจัดภัตตาหารถวายพระภิกษุสามเณรตลอดมา พ.ศ. ๒๔๙๑ นายอำ นางกิมหลั่น โพธิ์นคร พร้อมด้วยนางสมภวิล กังสดาลย์ ภริยา ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเสริฐ กังสดาลย์ ได้บริจาคทุนทรัพย์สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมเป็น อาคารไม้ ๒ ชั้น กว้าง ๔ วา ยาว ๑๐ วา ขึ้นพร้อมทั้งอุปกรณ์การศึกษา เช่นโต๊ะ กระดานดำ แต่ นักเรียนได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงขัดสนเรื่องที่พักอาศัยและภัตตาหาร ในปี พ.ศ. ๒๔๙๓ พระครู นิพัทธธรรมโกศล ได้ก่อสร้างศาลาการเปรียญ เป็นอาคารยกพื้นชั้นเดียว กว้าง ๘ วา ยาว ๑๖ วา หลังคามุงกระเบื้องสถาปัตยกรรมทรงไทยขึ้นหลังหนึ่ง ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ได้รื้อศาลาหลังเก่า แล้วนำไม้และอุปกรณ์อื่นมาประกอบขยายศาลาหลังใหม่ให้ใหญ่และยาวขึ้นเป็นกว้าง ๑๑ วา ยาว ๒๑ วา ปัจจุบันพระวิสุทธิวราภรณ์ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ได้ปรับปรุงตบแต่งให้เป็นศาลา ๒ ชั้น เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๖ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง ต่อมา พ.ศ. ๒๕๐๐ มีการฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ พระราชวิมลเมธี (ได้รับพระราชทานเลื่อน สมณศักดิ์ เป็นพระวิมลญาณเมธี เมื่อปี ๒๕๐๐ และพระราชวิมลเมธี เมื่อปี ๒๕๐๙) ได้ก่อสร้างอาคาร เรียนพระปริยัติธรรมหลังใหม่ขึ้น เป็นอาคาร ๓ ชั้น จำนวน ๒๑ ห้อง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง ๑๕.๑๕ เมตร ยาว ๔๔.๕ เมตร หลังคามุงกระเบื้องสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ โดยเหตุที่พระ ราชวิมลเมธี ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้การศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลีของวัดมงคลทับคล้อมี สถิติผู้ที่สามารถสอบได้สูงมากขึ้น วัดมงคลทับคล้อ จึงได้รับยกย่องเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมดี เด่น (สำนักเรียนตัวอย่าง) ปี พ.ศ. ๒๕๒๖ และได้พัฒนาวัดให้เจริญทุกด้าน จนกระทั่งกรมการศาสนา ได้ประการศให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างและวัดพัฒนาดีเด่นประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๘ นอกจากการสนับสนุนเรื่องการศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งแผนกบาลี และนักธรรมแล้ว พระมหาบุญ มายังสนับสนุนการศึกษาของประชาชนทั่วไป โดยได้อนุญาติให้ตั้งโรงเรียนผดุงวิทย์ในบริเวณวัด มงคลทับคล้อ มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ภายหลังได้ยุบ (เลิกกิจการประมาณปี ๒๕๒๐) ต่อมาจึง ได้ขอบริจาคที่ดินจากผู้มีจิตศรัทธา และสร้างโรงเรียนบ้านทับคล้อขึ้น นอกจากนั้นท่านยังสนับสนุน ทางด้านอุปกรณ์การศึกษาและทุนการศึกษาแก่นักเรียนทั้งประถมและมัธยมศึกษาตลอดมาอีกด้วย ในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ พระเทพญาณเวที (ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เมื่อปี ๒๕๓๑ รองเจ้า คณะภาค ๔ และเจ้าอาวาสวัดมงคลทับคล้อ) ได้มรณภาพลง พระวิสุทธิวราภรณ์ (สมชาย จนฺทสา โร ปสาริกัง ป.ธ.๗) รองเจ้าอาวาสและเจ้าคณะอำเภอตะพานหิน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสจึงได้ สานต่อโดยการพัฒนาการศึกษาปริยัติธรรมให้มั่นคงขึ้น ได้พัฒนาวัดต่างๆ ทั้งสาธารณูปโภค การศึกษา การปกครองให้เป็นระบบและระเบียบยิ่งขึ้น ได้ก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์และหอสมุดเป็นอาคาร คอนกรีตเสริมเหล็ก มี ๓ ชั้น ทรงกลม จตุรมุข สำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป นอกจากวัดมงคลทับ คล้อจะสนับสนุนเรื่องการศึกษาพระปริยัติธรรม และการพัฒนาวัดให้เป็นที่เหมาะสมแล้ว ยังได้ สนับสนุนการศึกษาในการจัดส่งครูสอนพระปริยัติธรรม ครูสอนธรรมศึกษาและครูสอนวิชาพระพุทธ ศาสนาไปยังโรงเรียนต่างๆ รวมถึงการส่งเสริมการอบรมเยาวชนภาคฤดูร้อน ส่งเสริมและสนับสนุน การสาธารณูปการ เช่น สนับสนุนการก่อสร้างโรงพยาบาลทับคล้อ ส่งเสริมการก่อสร้างตึกผ่าตัด โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช อำเภอตะพานหิน จัดตั้งส่วนราชการในสถานที่ของวัด เช่น เป็นสถาน ที่จัดประชุมสมาชิก ธกส. สปอ. ทับคล้อ เป็นสถานที่จัดสัมมนาโครงการต่างๆ ของกรมการ ศาสนา เช่น โครงการครูสอนพระปริยัติธรรมอาสา เป็นต้น ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง สิ่งสำคัญภายในวัดมงคลทับคล้อ วัดมงคลทับคล้อ มีเสนาสนะ และสิ่งปลูกสร้างที่สำคัญ ได้แก่ พระอุโบสถ กว้าง ๘ เมตร ยาว ๒๒ เมตร เป็นอาคาร คอนกรีตเสริมเหล็ก ลักษณะสถาปัตยกรรมไทย ศาลาการเปรียญ กว้าง ๒๓ เมตร ยาว ๕๐ เมตร เป็น อาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทยประยุกต์ กุฏิสงฆ์ จำนวน ๑๕ หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก โรงครัว กว้าง ๑๖ เมตร ยาว ๒๒ เมตร เป็นอาคารชั้น เดียว สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ห้องน้ำห้องสุขา จำนวน ๖ หลัง ๘๐ ห้อง ศาลาอเนกประสงศ์ จำนวน ๔ หลัง เมรุ จำนวน ๑ หลัง โรงเรียนพระปริยัติธรรม จำนวน ๑ หลัง เป็นอาคาร คอนกรีตเสริมเหล็ก มี ๓ ชั้น จำนวน ๒๑ ห้อง สร้างด้วย คอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง ๑๕.๑๕ เมตร ยาว ๔๔.๕ เมตร หลังคามุงกระเบื้องสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ ห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์พระเทพญาณเวที ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง ปูชนียวัตถุ ๑. พระพุทธมงคล พระประธานในอุโบสถ อัญเชิญมาจากวัดราชบูรณะ กรุงเทพมหานคร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๖ ๒. เจดีย์บำรุงสุข ประดิษฐานพระพุทธรูปบูชา ๔ องค์ ๓. อาคารพิพิธภัณฑ์และหอสมุดเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก มี ๓ ชั้น ทรงกลม จัตุรมุข สำหรับ ประดิษฐานพระพุทธรูป การศึกษา ๑. ได้จัดให้มีการศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรม และแผนกบาลี โดยแต่ละปีจะมีภิกษุและสามเณร เป็นจำนวนมาก ๒. จัดส่งพระภิกษุไปสอน และอบรมศีลธรรม และวิชาพระพุทธศาสนาตามสำนักเรียน และสถานศึกษา ๓. จัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนการศึกษา ทั้งแผนกพระปริยัติธรรมและการศึกษาของเยาวชนทั่วไป ตลอด ถึงจัดอบรมเยาวชนภาคฤดูร้อนเป็นประจำทุกปี การสาธารณสงเคราะห์ ๑. สนับสนุนการสร้างโรงพยาบาลทับคล้อขนาด ๓๐ เตียง ห้องพิเศษ ๑๐ ห้อง พร้องทั้งอุปกรณ์ และ เครื่องมือการแพทย์ ๒. ช่วยเหลือสนับสนุนการสร้างตึกผ่าตัดโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน ๓. ช่วยเหลือสนับสนุนการสร้างสำนักงานประถมศึกษาอำเภอทับคล้อ ๔. จัดตั้งกองทุนสงเคราะห์ประชาชนที่ประสบภัยต่างๆ ๕. อำนวยความสะดวกให้แก่ส่วนราชการและเอกชนในการใช้สถานที่ของวัด เช่น ใช้เป็นที่จัดประชุม อบรม สัมมนา เป็นต้น ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง พระราชพุฒิเมธี (สมชาย จนฺทสาโร ป.ธ.๗) เกิด ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ อายุ ๘๑ ปี อุปสมบท ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๖ พรรษา ๖๐ มรณภาพ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ วัด วัดมงคลทับคล้อ ท้องที่ พิจิตร สังกัด มหานิกาย ตำแหน่ง ฝ่ายปกครอง เจ้าอาวาสวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร สมณศักดิ์ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระวิสุทธิวราภรณ์ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชพุฒิเมธี ตรีปิฎกวราลงกรณ์ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง ชื่อ พระปิฎกคุณาภรณ์ ฉายา กิตฺติวณฺโณ วิทยฐานะ ป.ธ. ๗ น.ธ. เอก วัดมงคลทับคล้อ พระอาราม หลวง ตำบลทับคล้อ อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ๑. รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดมงคลทับคล้อ พระอาราม หลวง ๒. อาจารย์ใหญ่สำนักศาสนศึกษาวัดมงคลทับคล้อ ๓. เจ้าคณะอำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ๔. พระอุปัชฌาย์ ๕. พระปริยัตินิเทศก์จังหวัดพิจิตร สถานะเดิม ชื่อ สวี นามสกุล วงศ์ขันธ์ เกิดวันที่ ๒๑ เดือน มกราคม พ.ศ.๒๕๐๐ บิดา นายเรอะ วงศ์ขันธ์ มารดา นางญาติ วงศ์ขันธ์ ที่บ้านเลขที่ ๑๑๒ หมู่ที่ ๑๕ ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัด ศรีสะเกษ บรรพชา เมื่อวันที่ ๒๖ เดือน พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๗ วัดปรือคัน ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ พระ อุปัชฌาย์ พระครูโสภิตธรรมขันธ์ วัดกลางอัมรินทราวาส ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๗ เดือน กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๙ วัดปรือคัน ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ พระ อุปัชฌาย์ เจ้าอธิการวิจิตร วีตราโค วัดปรือคัน ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ วิทยฐานะ (๑) พ.ศ.๒๕๑๐ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านนิคม ตำรวจตระเวนชายแดนสงเคราะห์ ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ (๒) พ.ศ.๒๕๒๒ สอบไล่ได้ นักธรรมชั้นเอก สำนักศาสนศึกษาวัดมงคลทับคล้อ ตำบลทับคล้อ อำเภอทับค ล้อ จังหวัดพิจิตร (๓) พ.ศ.๒๕๓๙ สอบไล่ได้ เปรียญธรรม ๗ ประโยค สำนักเรียนวัดมงคลทับคล้อ ตำบลทับคล้อ อำเภอทับ คล้อ จังหวัดพิจิตร ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง การศึกษาพิเศษ - อบรมหลักสูตรพระสังฆาธิการระดับอำเภอ ณ วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร - อบรมบุคลากรตามโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ - อบรมหลักสูตรอิเล็กทรอนิกส์ - อบรมโครงการพัฒนาพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดพิจิตร - อบรมพัฒนาพระสังฆาธิการในเขตจังหวัดพิจิตร - เข้าร่วมประชุมพระสังฆาธิการจังหวัดพิจิตร ความชำนาญการ - การวางแผนโครงสร้างวัด - นวกรรมการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์ - ไฟฟ้าภายในอาคาร - การจัดพิธีทางคณะสงฆ์และการจัดสถานที่ในพิธีต่าง ๆ งานปกครอง พ.ศ.๒๕๓๓ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ วัดมงคลทับคล้อ ตำบลทับคล้อ อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมงคลทับคล้อ (ผจล.) ตำบลทับคล้อ อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร พ.ศ.๒๕๔๒ เป็นรองเจ้าคณะอำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร พ.ศ.๒๕๔๖ เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.๒๕๔๘ เป็นพระวินยาธิการจังหวัดพิจิตร พ.ศ.๒๕๔๘ เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร พ.ศ.๒๕๔๙ เป็นเจ้าคณะอำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร พ.ศ.๒๕๕๖ เป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง พ.ศ.๒๕๕๖ เจ้าอาวาสวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง ประวัติพระเทพญาณเวที (บุญมา ญาณวิมโล) ประวัติ พระเทพญาณเวทีมีนามเดิมว่า บุญมา สังเขป เกิดเมื่อ วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2459 ตรงกับวันอังคาร แรม 9 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง เวลาประมาณ 02.00 น. ที่บ้านป่าหวาย หมู่ที่ 1 ตำบลทะเลชุบศร (ปัจจุบันเรียกว่า ตำบลโคกลำ นาน)อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี บิดาชื่อเนตร มารดาชื่อ พวง นามสกุล สังเขป พระเทพญาณเวที เป็นบุตรคนที่สาม มีพี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน 6 คน คือ 1. เด็กหญิงบุญมี สังเขป (ถึงแก่กรรมตั้งแต่อายุ 5 ขวบ) 2. นางทองสุข สีดา 3. บุญมา สังเขป (พระเทพญาณเวที) 4. นางเอียง เง้าเป็ด 5. นางเฮียง นามวงศ์ (ถึงแก่กรรมแล้ว) 6. นายบัว สังเขป พ.ศ.2468 บิดาถึงแก่กรรม มารดาจึงต้องทำไร่ ทำนา กับธิดาคนโต คือ เด็กหญิงทองสุข สังเขป ซึ่ง ขณะนั้นมีอายุเพียง 12 ต่อมามารดาสมรสใหม่ กับนายกิ่งเมื่อ พ.ศ. 2470 มีบุตรธิดาอีก 3 คนคือ 1. นางก้าน 2. ร.ต.ต.สังวาลย์ สังเขป 3. นายสังเวียน สังเขป ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง เด็กชายบุญมา สังเขป จัดว่าเป็นเด็กที่ฉลาด เด็ดเดี่ยว และขยันขันแข็ง เมื่ออายุ ประมาณ 4 ขวบ น้าชายได้ไปบวชเป็นพระภิกษุที่วัดบ้านป่าหวาย เด็กชายบุญมาจึงได้ไปอยู่ที่วัด กับหลวงน้าได้เรียนหนังสือต่อหนังสือภาคค่ำ โดยมีพระเป็นครูสอน การต่อหนังสือภาคค่ำคือ การต่อหนังสือสวดมนต์ตามที่พระท่านสวดในขณะนั้น พ.ศ.2466 พระอาจารย์เฮ้าจากวัดเทวราชกุญชร (วัดสมอแครง)เทเวศร์กรุงเทพ ฯไปที่ บ้านเด็กชายบุญมาได้ฟังท่านพูดถึงเรื่องกรุงเทพ ฯก็อยากไปอยู่กรุงเทพ ฯ กับท่าน ขออนุญาต มารดาไปอยู่กรุงเทพ ฯ แต่มารดาไม่อนุญาตเด็กชายบุญจึงแอบหนีขึ้นรถไฟไปหลบอยู่ในห้องน้ำ ไปกับพระอาจารย์เฮ้าเมื่อมาถึงกรุงเทพ ฯเด็กชายบุญมาได้พักอาศัยอยู่กับพระอาจารย์เฮ้าที่วัด เทวราชกุญชร และได้เรียนหนังสือแบบโบราณ 3 – 4 ปีกับปลัดถมยา ต่อมาพระอาจารย์เฮ้าย้าย ไปอยู่บ้านเดิมที่นครนายก จึงได้อยู่กับพระอาจารย์สาย พ.ศ.2468 พระอาจารย์สายลาสิกขา จึงฝากไว้กับพระอาจารย์สมบูรณ์ ให้เข้าเรียนชั้น ประถมปีที่ 1 ที่โรงเรียนประสาทวิทยา ตั้งอยู่ที่ถนนอยุธยา ด้านสี่เสาเทเวศร์ เด็กชายบุญมาเรียน จบชั้นสูงสุดของโรงเรียนอยากจะเรียนต่อแต่บิดา ถึงแก่กรรมจึงไม่ได้เรียน แต่พระอาจารย์ สมบูรณ์ให้ไปเรียนบาลีที่วัดสามพระยา จนเรียนจบไวยากรณ์ 6 ชั้นกับอาจารย์สว่างในปี พ.ศ. 2474 พ.ศ. 2474 พระอาจารย์สมบูรณ์เห็นว่าเด็กชายบุญมาเรียนจบไวยากรณ์แล้ว ประกอบ กับมีอายุได้ 15 ปี สมควรบรรพชาเป็นสามเณรได้แล้ว จึงให้เด็กชายบุญมาบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดอินทรวิหาร เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ปีมะแม ตรงกับวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2474 โดยมีพระครูสังฆรักษ์ (เงิน) (ภายหลังได้เลื่อนสมศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ “พระอินทรสมาจาร ย์”) วัดอินทรวิหารเป็นพระอุปัชฌาย์ และให้เรียนบาลีที่วัดสามพระยาต่อไปอีกโดยเรียนประโยค ป.ธ.3 กับพระมหาฟื้น ชุตินฺธโร ป.ธ.4 (ภายหลังได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระ พุทธโฆษาจารย์) ในขณะนั้นวัดสามพระยามีพระธรรมดิลก (ขาว) เป็นเจ้าอาวาส ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง พ.ศ. 2475 พระอาจารย์สมบูรณ์ลาสิกขา และไม่ได้ฝากให้สามเณรบุญมาอยู่ในปกครอง ของพระอาจารย์รูปใด ได้อยู่เป็นอิสระขึ้นตรงกับเจ้าอาวาส ต่อมาในปี พ.ศ. 2476 ทวดบัว จันทรพฤกษ์ ซึ่งเป็นป้าของหลวงชลวิสัยเสนี นายทหารเรือเป็นผู้ให้อุปการะ ให้ย้ายจากวัด อินทรวิหารไปอยู่กับพระมหามุ้ย ชาวสวรรคโลก ณ วัดราชบูรณะ (วัดเลียบ) เชิงสะพาน พระพุทธยอดฟ้าฯ และขอให้คุณหญิงปฏิภาณพิเศษ ซึ่งเป็นหลานของท่านให้ความอุปการะแก่ สามเณรบุญมาเรื่อยมา และในปี พ.ศ. 2476 สามเณรบุญมาก็สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี ภาย หลักจากที่แปลธรรมบทกอง 1 และกอง 2 เป็นลำดับมาแล้ว (ในสมัยนั้นไม่มีประโยค ป.ธ.1 และ ป.ธ.2) ต่อมาได้เรียนแปลต่อกอง 3 จนในที่สุดได้เข้าสอบไล่สนามหลวงและสอบไล่ได้ ประโยค ป.ธ.3 ในปี พ.ศ. 2477 พ.ศ. 2480 เมื่ออายุครบอุปสมบทได้ สามเณร บุญมาได้ไปหาอาจารย์ปลัดถมยาซึ่งลาสิกขาไปอยู่ กับครอบครัวที่บ้านหลังวัดนรนาถสุนทริการาม เมื่อไปถึงบ้านอาจารย์ปลัดถมยา พอดีมีหม่อม ละออง เกษมศรี หม่อมของหม่อมเจ้าวัฒยากร เกษมศรี ไปที่บ้านของอาจารย์ปลัดถมยา พอท่านรู้ ว่าสามเณรบุญมาเกิดปีเดียวกับ ยุครบพลูกสาวจึง จัดการบวชให้ โดยได้กำหนดให้ทำการอุปสมบทที่ วัดราชบูรณะในวันพุธ ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 8 ปี ฉลู ตรงกับวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2480 โดยมีพระเทพเทวี(โสม ฉนฺนมหาเถระ) เป็นพระ อุปัชฌาย์ มีพระครูสุนทรสีลาจารย์ เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และพระครูประสิทธิสุตคุณ เป็นพระ อนุสาวนาจารย์ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง พ.ศ. 2480 พระมหาบุญมา ญาณวิมล ได้เรียนและสอนอยู่ที่วัดราชบูรณะและสอบไล่ได้ นักธรรมชั้นโทในปี พ.ศ. 2481 และสมัครสอบ ม.3 ได้ในปีนั้นด้วย ครั้นในปีถัดไปก็สอบไล่ ได้ประโยค ป.ธ.4 พ.ศ. 2483 – 2484 พระมหาแทน เขมวโร (นุสิทธิ์) ป.ธ.6 ซึ่งเป็นเพื่อนกับพระมหาบุญมา ตั้งแต่ครั้งเป็นสามเณรอยู่ที่วัดอนงคาราม ย้ายไปช่วยเป็นครูสอนนักธรรมที่วัดบางมูลนาก อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ได้ชวนพระมหาบุญมา ให้ไปช่วยสอนนักธรรมด้วยกันที่ วัดบางมูลนาก แต่พระมหาบุญมาปฏิเสธไม่ไป เนื่องจากเป็นห่วงเด็กนักเรียนที่อยู่ด้วยหลาย คน จนกระทั่งปี พ.ศ. 2486 พระมหาแทนย้ายจากวัดบางมูลนากไปอยู่วัดทรงธรรม ตำบลทับ คล้อ อำเภอตะพานหิน (ปัจจุบันเป็นอำเภอทับคล้อ) จังหวัดพิจิตร และได้ชวนให้ไปอยู่ ด้วยกัน พ.ศ. 2487 ขณะใกล้จะถึงวันเข้าพรรษา ท่านเจ้าอธิการสุวรรณ ได้ขอลาออกจาก ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่ามงคลและเจ้าคณะตำบลทับคล้อ ในวันขึ้น 14 ค่ำเดือน 8 ปี พ.ศ. 2487 ท่านพระครูพิบูลศีลสุนทร (บุญมา ปภสฺสโร) ได้ให้พระปลัดเจริญปุณฺณสุวณฺโณ วัดตะพานหิน มาติดต่อขอให้ไปเป็นเจ้าอาวาส วัดท่ามงคลและเป็นเจ้าคณะตำบลทับคล้อ พระมหาบุญมาใช้เวลาตัดสินใจ อยู่ 3 ชั่วโมง จึงรับปากกับท่านปลัดเจริญที่จะย้ายไปเป็น เจ้าอาวาสวัดท่ามงคล เหตุผลหนึ่งที่ยอมรับไปเป็นเจ้าอาวาสน่าจะเป็นเพราะท่านมีความ ประสงค์ที่จะจัดตั้งสำนักเรียนภาษาบาลีตามที่เคยตั้งความปรารถนาไว้แล้วก็ได้ (วัดท่ามงคล ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดมงคลทับคล้อ” ในภายหลัง) ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง การเดินทางไปรับตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดท่ามงคล พระมหาบุญมามีอายุได้ 28 ปี กำนันทรงธรรม บุรพรัตน์ ได้จัดช้าง 7 เชือก ไปส่งที่วัดท่ามงคลพร้อมกับอุบาสกอุบาสิกาด้วย เมื่อขบวนแห่มาถึงวัดไม่ทราบว่าจะลงจากหลังช้าง ที่ตรงไหนจึงต้องเอาช้างไปเทียบที่หน้าต่าง แล้วเข้ากุฏิทางหน้าต่าง หลังจากนั้นได้ไปคารวะพระพุทธรูปที่หอสวดมนต์และเข้านมัสการท่าน เจ้าอธิการสุวรรณ อดีตเจ้าอาวาสด้วย ต่อมาได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับพระภิกษุสามเณร และ เดินลงบันไดไปเยี่ยมญาติโยมทั้งที่มาส่งและมาต้อนรับ อุบาสกอุบาสิกาชาวทับคล้อ ไม่พอใจ ท่านเจ้าคณะอำเภอตะพานหินและเข้าใจว่าพระมหาบุญมาเป็นพรรคพวกของเจ้าคณะอำเภอที่ส่ง มาปกครองวัดท่ามงคลได้ทำการประท้วง ด้วยการไม่จัดเวรอาหารเพลมาถวายแก่พระภิกษุ สามเณร เป็นเหตุให้พระภิกษุสามเณรไม่มีอาหารเพลฉัน พระมหาบุญมาจึงต้องแก้ไขสถานการณ์ ด้วยการจัดทำอาหารเพลกันเอง โดยเรียกเอาเงินวัดที่มีอยู่ที่สามเณรอุนะ (สามเณรประภาส สังข์น้อย) มารวมกับเงินของพระมหาบุญมาที่มีอยู่ 27 บาท แล้วให้สามเณรจัดทำอาหารเพลฉัน กัน พระมหาบุญมาได้บอกกับพระภิกษุสามเณรว่าถ้าเงินหมดเมื่อไรก็จะย้ายไปทันทีแม้จะเป็นใน พรรษา ในตอนค่ำได้ไปพบกับญาติโยมในบ้านบางคนจึงทราบว่าญาติโยม จะลองใจดู จึงได้พูด ให้ญาติโยมเข้าใจ ญาติโยมจึงได้จัดอาหารเพลมาถวายตามปกติตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ในการรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่ามงคลครั้งนี้ พระมหาบุญมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะ ตำบลทับคล้อและเป็นกรรมการสงฆ์อำเภอ องค์การศึกษา เรียกว่า “ศึกษาอำเภอตะพานหิน” ด้วย พ.ศ. 2490 ทางการคณะสงฆ์ โดยเฉพาะพระธรรมดิลก เจ้าคณะ ตรวจการภาค 2 (ในขณะ นั้น) เห็นว่าพระมหาบุญมา ญาณวิมโล เจ้าสำนักเรียน วัดมงคลทับคล้อเป็นผู้ที่มีความสนใจใน กิจการของพระศาสนา และมีความเหมาะสมที่จะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสงฆ์ องค์การ ปกครองคือเจ้าคณะอำเภอ จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้พระมหาบุญมาดำรงตำแหน่งกรรมการสงฆ์ องค์การปกครอง คือ เจ้าคณะอำเภอตะพานหิน ทำหน้าที่ปกครองดูแลพระภิกษุสามเณรในเขต อำเภอตะพานหินต่อไป ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง พ.ศ. 2491 ทางการคณะสงฆ์แต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากที่ได้บริหารกิจการของ สำนักเรียนวัดมงคลทับคล้อมาได้ 3 – 4 ปี ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น มีโรงเรียนให้ นักเรียนได้ใช้เป็นสถานที่ เล่าเรียน จำนวนภิกษุสามเณรก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทางการคณะสงฆ์จึง ได้ขอพระราชทานสมศักดิ์ให้เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่ “พระครูนิพัทธธรรมโกศล” เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2492 พ.ศ. 2499 พระครูนิพัทธธรรมโกศลได้รับแต่งตั้งจากทางการคณะสงฆ์ให้เป็นศึกษาจังหวัด พิจิตร พระครูนิพัทธธรรมโกศล ได้ทุ่มเททั้งกำลังใจให้แก่สำนักเรียนวัดมงคลทับคล้อมาเป็นเวลา 12 ปี (พ.ศ. 2488 – 2500) นักเรียนของสำนักเรียน วัดมงคลทับคล้อที่สอบได้เป็นมหาเปรียญก็มี จำนวนเพิ่มขึ้น ชื่อเสียงเกียรติคุณของสำนักได้รับการกล่าวขวัญถึงอยู่เสมอ ทางการคณะสงฆ์จึง ได้ขอพระราชทานสมณศักดิ์ให้เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระวิมลญาณเมธี” เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2500งานฉลองสมณศักดิ์พระครูนิพัทธธรรมโกศล จัดขึ้นที่วัด มงคลทับคล้อวันที่ 18 – 19 มีนาคม พ.ศ. 2501 วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2510 เวลาประมาณ 16.55 น. มารดาของพระวิมลญาณเวทีถึงแก่ กรรมต่อหน้าพระวิมลญาณเวที บุตรธิดาและหลาน ตลอดจนผู้ที่เคารพนับถือบางคน รวมอายุได้ 74 ปี 3 เดือนเศษ พ.ศ. 2517 พระทีฆทัสสมุนีวงศ์ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตรมรณภาพ ทางการคณะสงฆ์จึงแต่งตั้ง พระวิมลญาณเมธี รองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรรักษาการในตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรอีก ตำแหน่งหนึ่ง และได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองผู้อำนวยการพระธรรมทูตจังหวัดพิจิตรด้วย พ.ศ. 2518 พระวิมลญาณเมธี ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร โดยสมเด็จพระ สังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้มีพระบัญชาที่ 1/2518 แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด พิจิตร ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2518 และได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการพระธรรมทูตจังหวัด พิจิตรด้วย พระวิมลญาณเมทีได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ “พระราช วิมลเมธี” เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2519 จัดให้มีการฉลองอย่างสมเกียรติเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2520 ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง พ.ศ. 2522 สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้มีพระบัญชาที่ 6/2522 แต่งตั้ง ให้พระราชวิมลเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เลื่อนขึ้นดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะภาค 4 ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2522 ให้มีหน้าที่เป็นผู้ช่วย พระธรรมปิฏก เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม เจ้าคณะภาค 4 (สมณศักดิ์ในขณะนั้น) ปกครองดูแลกิจการของคณะสงฆ์ใน 4 จังหวัด คือ จังหวัดนครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ ตลอดระยะเวลา 45 ปี ที่พระราชวิมลเมธี ได้มาเป็นเจ้าอาวาส วัดมงคลทับคล้อ (พ.ศ. 2487 – 2532) วัดมงคลทับคล้อได้เจริญก้าวหน้าขึ้นอย่างมากในทุก ๆ ด้าน สิ่งสำคัญที่ ทำให้สำนักเรียนวัดมงคลทับคล้อได้รับเกียรติชื่อเสียงและคำชมเชยมาตลอด คือ ผลการเรียน การสอนของสำนักที่ได้สร้างบุคคลซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของชาติ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ทุกระดับ ชั้นต่างรู้จักสำนักเรียนวัดมงคลทับคล้อว่าเป็นสำนักเรียนที่มีผู้สอบไล่ได้มากทุกปีสำนักหนึ่ง จึง ได้ขอพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ในวโรกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2531 พระราชวิมลเมธีก็ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ “พระ เทพญาณเวที” ซึ่งยังความปลื้มปีติให้แก่บรรดาศิษยานุศิษย์ ตลอดจนท่านผู้ที่เคารพนับถือในพระ ราชวิมลเมธีเป็นอย่างยิ่ง วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2534 สภามหาจุฬาลง กรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มี มติเป็นเอกฉันท์ถวายปริญญาพุทธศาสตรดุษฎี บัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาครุศาสตร์ แก่พระเทพ ญาณเวที ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง อาพาธ พระเทพญาณเวทีเริ่มอาพาธด้วยโรคเนื้องอกในหลอดอาหารตั้งแต่ วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 คณะศิษย์ได้พาท่านไปยังโรงพยาบาลปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ในวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2533 และพาท่าน ไปรักษายังโรงพยาบาลวิภาวดี ในวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2533 ต่อจากนั้นจึงได้พาไปยังโรงพยาบาลศิริราชใน วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2533 และคณะแพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราชได้ประชุมตกลงกันให้งดการผ่าตัดโดยเด็ด ขาด และให้ทำการรักษาเพียง 2 ทาง คือ ทางเคมีและทางรังสี โดยแบ่งการรักษาทางเคมีออกเป็น 3 ระยะ ใน ระหว่างที่ทำการรักษาพยาบาลนั้น ทางคณะแพทย์ตกลงให้พระเทพญาณเวทีเดินทางกลับไปพักผ่อนที่วัดมงคล ทับคล้อได้ เมื่อถึงกำหนดเวลาก็ให้เดินทางมารับการรักษาเป็นระยะ ๆ ไป รวมระยะเวลาที่เดินทางไปรับการรักษา และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 8 ครั้งประมาณ 124 วัน การเดินทางมารับการรักษาพยาบาลครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2534 ไม่มีอาการรุนแรงอะไรที่ แสดงให้เห็นว่าจะเป็นเหตุให้พระเทพญาณเวทีมรณภาพ แต่มีข้อน่าสังเกตว่าในระยะ 2 – 3 วันหลัง พระเทพ ญาณเวทีมักจะปรารภกับผู้ใกล้ชิดว่าอยากกลับวัดมงคลทับคล้ออยู่บ่อยครั้ง ถึงกับกำหนดว่าจะเดินทางกลับใน วันที่ 15 หรือ 16 มีนาคม พ.ศ. 2534 ทั้ง ๆ ที่ได้ทราบว่านายแพทย์ขอให้อยู่รักษาต่ออีกสัก 2 – 3 วัน นอกจากนั้นในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2534 พระเทพญาณเวทีมีอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะทางนายแพทย์ผู้ให้การ รักษาจึงขอให้ท่านอยู่รับการรักษาในวันที่ 15 มีนาคม อีก 1 วัน พระเทพญาณเวทีก็ตกลงและกำหนดว่าเมื่อ ทางนายแพทย์ตรวจรักษาในช่วงเช้าหรือบ่ายแล้วก็จะเดินทางกลับทับคล้อทันที คืนวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2534 พระเทพญาณเวทีพูดคุยกับศิษย์และท่านที่ไปเยี่ยมอาการอาพาธได้ตาม ปกติ มิได้มีอาการอย่างอื่นแสดงออกมาให้เห็นเลยว่าจะถึงแก่มรณภาพ ก่อนจำวัดนายประจวบ รอดน้อย ซึ่ง เป็นผู้ที่มาถวายการปรนนิบัติพระเทพญาณเวทีอยู่เป็นประจำได้เล่าให้ฟังว่า ระหว่างที่พระเทพญาณเวทีสนทนากับ นายประจวบอยู่นั้น พระเทพญาณเวทีจ้องหน้านายประจวบบ่อยครั้งและเป็นเวลานาน แต่ก็มิได้พูดจาสั่งเสีย อะไรทั้งสิ้นแล้วขึ้นเตียงจำวัด จนกระทั่งประมาณ 02.00 น. มีผู้เห็นพระเทพญาณเวทีเข้าห้องน้ำและออกจาก ห้องน้ำตามปกติ เช้าวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2534 เมื่อถึงเวลาฉันอาหาร บรรดาผู้ที่อยู่ปรนนิบัติทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิตจึง ปลุกท่านให้ตื่นขึ้นฉันอาหาร แต่ปรากฏว่าพระเทพญาณเวทีไม่ตื่นเสียแล้ว จึงได้ตามแพทย์และพยาบาลให้มาดู อาการ ก็ทราบว่าพระเทพญาณเวทีถึงแก่มรณภาพแล้ว จากนั้นจึงได้มีการแจ้งให้ทางวัดมงคลทับคล้อและศิษย์ ต่าง ๆ ทราบ ซึ่งทุกคนก็ตกอยู่ในอาการตกใจ คาดไม่ถึงและเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก ตอนบ่ายได้มีการเคลื่อนย้ายศพของพระเทพญาณเวทีไปยังวัดมงคลทับคล้อ เก็บศพไว้ในกุฏิที่ท่านเคยพัก อาศัยอยู่ 1 คืน ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2534 ได้มีพิธีสรงน้ำศพบนศาลา การเปรียญมีบรรดาศิษย์และท่านที่เคารพนับถือพระเทพ ญาณเวทีต่างพากันมาร่วมในพิธีอย่างคับคั่ง มีผู้เข้าร่วม สรงน้ำศพตั้งแต่เวลาบ่ายจนถึงเย็น ผู้เข้าสรงน้ำศพยังสรง น้ำศพกันไม่หมด เวลาประมาณ 17.00 น.ได้มีพิธี พระราชทานน้ำสรงศพ และจากนั้นเจ้าหน้าที่สำนัก พระราชวังได้นำศพลงหีบทองทึบที่ได้รับพระราชทานมา และนำหีบขึ้นตั้งบนศาลาการเปรียญเพื่อให้บรรดา ศิษยานุศิษย์และท่านที่เคารพนับถือได้เข้าแสดงคารวะศพ และบำเพ็ญกุศลให้แก่ศพต่อไป ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง ผลงาน ที่ดินของวัดมงคลทับคล้อ ที่ดินของวัดมงคลทับคล้อ มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ 50 ตารางวา ผู้ที่ยกที่ดินถวายวัด ร่วมกันมี 2 ท่าน คือ นายบุตร ไหมแพง และนายเพ็ง นางแหวน หนูพิน ได้ร่วมกันบริจาค คนละครึ่ง นอกจากนี้พระเทพญาณเวทีได้ซื้อที่ดินจากนางคำพา มีศิริ เพิ่มเติมทางด้านหลังอีก ประมาณ 2 งาน ในราคา 60,000 บาท และนางคำพาได้ยกที่ดินให้อีก 2 งานเศษ เมื่อซื้อแล้ว ได้ใช้เป็นสถานที่ตั้งของโรงเรียนพระปริยัติธรรมหลังปัจจุบันนี้ (สร้างเมื่อ พ.ศ. 2521 - 2525) สรุปแล้วที่ดินวัดมงคลทับคล้อขณะที่พระเทพญาณเวทีเป็นเจ้าอาวาสมีประมาณ 11 ไร่เศษ เปิดสำนักเรียน พระเทพญาณเวทีและพระมหาแทนได้เปิดสำนักเรียนสอน พระปริยัติธรรม ทั้งแผนก ธรรมและบาลี ให้แก่พระภิกษุและสามเณร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2488 จนกระทั่ง พ.ศ. 2491 มีชื่อเสียง ขึ้นจนกลายเป็นสำนักชั้นนำของประเทศ สำนักเรียนวัดมงคลทับคล้อสามารถผลิตพระภิกษุ สามเณรเปรียญออกมาได้กว่า 45 รุ่น นับจำนวนได้ประมาณ 1,700 รูป โดยเฉพาะมีพระภิกษุ สามเณรสอบเปรียญธรรม 9 ประโยค ได้ในนามวัดมงคลทับคล้อจำนวน 5 รูป และที่เป็น ศิษย์สำนักเรียนนี้ไปสอบได้ในนามสำนักเรียนอื่นอีก 9 รูป นอกจากนี้พระภิกษุ สามเณร จากวัดมงคลทับคล้อยังสามารถเล่าเรียนจนจบปริญญาตรี โดยเฉพาะจากมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลัย มีจำนวนมากกว่า 60 รูป จบการศึกษาปริญญาโทเป็นจำนวนมาก และจบการ ศึกษาระดับปริญญาเอกมีจำนวน 2 รูป ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง การก่อสร้าง พระเทพญาณเวที เป็นพระนักพัฒนาได้ ก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ มากมายดังนี้ 1. พ.ศ. 2490 ก่อสร้างกุฏิ 3 หลังๆ ละ 3 ห้อง ติดรั้วทางด้านทิศตะวันออกของวัด 2. สร้างศาลาการเปรียญ มีความยาว 16 วา กว้าง 8 วา เริ่มก่อสร้างประมาณปี พ.ศ. 2549 3 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี แล้ว เสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2496 3. พ.ศ. 2496 สร้างมณฑปพระพุทธบาท จำลอง ณ วัดพระพุทธบาทเขารวก ตำบลวัง หลุม อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร 4. พ.ศ. 2497 เป็นประธานสร้างวัดพฤกษวัน โชติการาม 5. พ.ศ. 2500 สร้างกุฏิใหม่ 25 หลัง ๆ ละ 2 ห้อง แต่ละหลัง กว้าง 3 วา ยาว 4 วา 2 ศอก (กุฏิทั้ง 25 หลัง ทำการรื้อถอนเมื่อ ปี พ.ศ. 2539) 6. พ.ศ. 2501 เป็นประธานสร้างวัดสันติพลา ราม 7. พ.ศ. 2502 สร้างพระอุโบสถ มีความยาว 11 วา กว้าง 4 วา ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง 8. พ.ศ. 2504 สร้างสระน้ำ เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ 9. พ.ศ. 2505 เป็นประธานจัดสร้างอาคารเรียนโรงเรียนระธานจัด เป็โรงเรียนบ้าน สายดงยาง พ.ศ. 2539 แล้ว) ยาว 4 วา 2 ศอก (กุฏิทั้ง 25 หลังบ้านสายดงยาง ตำบลทับคล้อ อำเภอตะพานหิน (ในขณะนั้นปัจจุบันเป็นอำเภอทับคล้อ) เป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 40 เมตร 10. พ.ศ. 2509 สร้างเมรุ 11. พ.ศ. 2509 เป็นประธานสร้างอาคารเรียนให้แก่โรงเรียนวัดป่าเรไรย์ ตำบลทับคล้อ อำเภอตะพานหิน (ในขณะนั้นปัจจุบันเป็นอำเภอทับคล้อ) เป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ขนาดความ กว้าง 4.50 เมตร ยาว 20 เมตร ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ทำเนียบแหล่งเรียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอทับคล้อ ประวัติวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง นางสาวนภัสวรรณ อุฤทธิ์ คณะผู้จัดทำ นายสมนึก ดิตเหมาะ นางสาวศิริธร ดารานารถ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยอำเภอทับคล้อ บรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ บรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี \" อำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
ห้องสมุดประชาชนอำเภอทับคล้อ ห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกุมารี\" อำเภอทับคล้อ กศน.อำเภอทับคล้อ
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: