7 สิ่งมหัศจรรย์ ของโลก
1. ชิเชน อิตซา CHICHEN ITZA : เม็กซิโก ชิเชนอิตซา เป็นภาษามายา แปลว่า ต้นทางแห่งความสุขสบายของประชาชน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียง ใต้ของประเทศเม็กซิโกนป็นแหล่งโบราณคดีที่สร้างขึ้นโดยชาวมายันซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ของเทพเจ้า มีพื้นที่ราว 6.4 ตารางกิโลเมตร วิหารที่ใหญ่สุดมีชื่อว่า วิหารแห่งนักรบ สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 12 หลังจากสร้างวิหารเก่าแห่งชักโมล ตรงกลางสร้างเป็นปราสาทเหลี่ยมทึบสูงขึ้นไป ใช้เป็นที่ทำพิธีสังเวยเทพเจ้าโดย ใช้เด็กสาวโยนลงไปถวายเทพเจ้า ณ ที่นั้น นอกจากนี้ในส่วนของพีระมิดแห่งเทพเจ้าคูคุลคาน ซึ่งถือเป็นพีระมิด แห่งสุดท้าย และเป็นพีระมิดที่กล่าวได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของอารยธรรมมายา ที่ตั้ง : Yucatan, Mexico เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.30 น.
2. คริชตู เรเดงโตร์ CRISTO REDENTOR หรือ CHRIST THE REDEEMER : บราซิล รูปปั้นพระเยซูคริสต์ ตั้งอยู่ที่ยอดเขากอร์โกวาดู ประเทศบราซิล นอกจากจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความหมายถึง ศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ ยังเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้เมือง ริโอ เดอ จาเนโร โด่งดังไปทั่วโลกอีกด้วย รูปปั้นพระคริสต์นี้มีความสูงถึง 38 เมตร ได้รับการออกแบบโดยเอโตร์ ดา ซิลวา กอชตา ชาวบราซิล และ สร้างโดยปอล ลันดอฟสกี ประติมากรชาวฝรั่งเศสถึง 5 ปีด้วยกัน ที่นี่ถือเป็นอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่ง หนึ่งของโลก และเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวบราซิลอีกด้วย ทำให้ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายัง สถานที่แห่งนี้ราว 1.8 ล้านคนทีเดียว ที่ตั้ง : Parque Nacional da Tijuca - Alto da Boa Vista, Rio de Janeiro - RJ, Brazil เปิดให้เข้าชม : 08.00-19.00 น.
3. กำแพงเมืองจีน GREAT WALL OF CHINA : จีน กำแพงเมืองจีน นี้สร้างขึ้นจีนสมัยสมัยราชวงศ์ฉิน เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่ามองโกล และเติร์ก ในอดีต และหลังจากนั้นยังมีการสร้างกำแพงต่ออีกหลายครั้งด้วยกัน มีความยาวทั้งสิ้นกว่า 21,196.18 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลทั่วประเทศ ถือเป็นสิ่งก่อสร้างโดยฝีมือมนุษย์ที่ยาวที่สุดในโลกเท่าที่เคย มีมา ความยิ่งใหญ่ และประวัติศาสตร์อันยาวนานนี่เอง ทำให้กำแพงเมืองจีนนอกจากจะเป็น 1 ใน 7 มหัศจรรย์ของโลกแล้ว ยังเป็น 1 ในมรดกโลก ที่องค์กร UNESCO คัดเลือกอีกด้วย ที่ตั้ง : Huairou, China เปิดให้เข้าชม : 07.30-17.30 น..
4. มาชูปิกชู MACHU PICCHU : เปรู เมืองสาบสูญแห่งอินคา หรือ มาชูปิกชู แห่งนี้ เป็นซากอารยธรรมโบราณของชาวอินคา ตั้งอยู่บนเทือก เขาสูงในประเทศเปรู อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,350 เมตร ที่ตั้งของเมืองนี้ค่อนข้างกันดาร ยากที่จะเข้า ถึง เพราะตั้งอยู่บนที่ราบสูงแอนดิส ลึกเข้าไปในป่าอเมซอน และอยู่เหนือแม่น้ำอุรุบัมบา หลังจากอาณาจักรอินคาล่มสลายจากการพ่ายแพ้สงครามให้กับชาวสเปน และโรคระบาดเมืองแห่งนี้ก็ได้ หายสาบสูญไปกว่า 3 ศตวรรษ และได้ถูกค้นพบโดยนักโบราณคดีชาวอเมริกัน ไฮแรม บิงแฮม ในปี ค.ศ.1911 ที่ตั้ง : Peru เปิดให้เข้าชม : ติดต่อเจ้าหน้ าที่ และไกด์ท้องถิ่น.
5. นครเพตรา PETRA : จอร์แดน นครเพตรา ซ่อนตัวอย่างลึกลับใน หุบเขาวาดี มูซาหุบเขาที่ตั้งอยู่ ระหว่างทะเลสาบเดดซี กับทะเลอัคบาในประเทศจอร์แดน นครนี้ในสมัย โบราณนั้นเป็นนครแห่งการค้าขนาดใหญ่ เป็นเมืองหลวงของชนเผ่านาบา เชียนซึ่งเป็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจอร์แดนในสมัยก่อน และถูกละทิ้งเป็นเวลานานกว่า 700 ปี ซึ่งได้ถูกค้นพบโดยนักสำรวจชาวส วิตเซอร์แลนด์ โจฮันน์ ลุควิก เบิร์กฮาร์ท ในปี ค.ศ. 1812 ชาวนาบาเชียนสร้างเมืองแห่งนี้โดยใช้วิธีการแกะสลักหินให้เป็นช่อง อุโมงค์โรงละครของเมืองแห่งนี้ซึ่งเป็นต้นแบบของโรงละครแบบกรีก- โรมัน ส่วนหน้าของวิหารเอล เดียร์ ซึ่งสูง 42 เมตร ในเมืองแห่งนี้เป็น ตัวอย่างที่ดีอีกแห่งหนึ่งของสถาปัตยกรรมแบบกรีกโบราณ ทำให้นครเปต ราได้รับลงทะเบียนจากองค์กร UNESCO ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2528 ที่ตั้ง : Jordan เปิดให้เข้าชม : 06.00-16.00 น. ในช่วงฤดูหนาว และ 06.00-18.00 น. ในช่วงฤดูร้อน
7. ทัชมาฮาล TAJ MAHAL : อินเดีย สุสานหินอ่อน ทัชมาฮาล แห่งนี้ ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรม แห่งความรักที่สวยที่สุดในโลกที่สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิ แห่งจักรวรรดิโมกุล ผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ ทัชมาฮาล ตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ใน เมืองอัคราส่วน ที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาลซึ่งถูกสร้าง ด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้น ด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด รวมถึงยังได้รับการยกย่องว่า เป็นตัวอย่างชั้นเลิศของสถาปัตยกรรมมุฆัลในอินเดีย ที่นี่ต้องใช้ แรงงานในการก่อสร้างถึง 20,000 คน และใช้เวลาก่อสร้างถึง 20 ปี ที่ตั้ง : Dharmapuri, Forest Colony, Tajganj, Agra, Uttar Pradesh 282001, India
6. โคลอสเซียม COLOSSEUM : อิตาลี โคลอสเซียม เป็นสนามกีฬาโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในขณะนั้น สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรมนี้ เริ่มสร้าง ขึ้นใน สมัยจักรพรรดิเวสเปเซียน แห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้าง เสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ใช้เวลาการก่อสร้างถึง 10 ปี ด้วยกัน ที่แห่งนี้มีห้องสำหรับขังทาส นักโทษ และสัตว์ดุร้าย เช่น สิงโต เสือ โดยจะให้ทาสสู้กันเองจนกว่าจะเหลือผู้รอดชีวิตเพียง คนเดียว หรือให้สู้กับสิงโต เพื่อเป็นความบันเทิงให้แก่ผู้ชม ผู้ที่ รอดตายโจคาลกอกสาเรซตี่ยอมสู้จึเงปจ็นะรไูดป้รวับงกอิลสมรภก่าอพด้วยอิฐ และหินทราย วัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบอย่างชาญฉลาด โดยสร้างให้สนามกีฬามี ลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนาม ขณะเกิดฝนตกอีกด้วย โคลอสเซียมจึงกลายเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบัน ที่ตั้ง : Piazza del Colosseo, 1, 00184 Roma RM, Italy เปิดให้เข้าชม : 08.30-19.00 น.
Thank you
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: