Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงาน-ลิปบาล์มทับทิม

โครงงาน-ลิปบาล์มทับทิม

Published by 5512nanchay, 2020-11-08 14:08:02

Description: โครงงาน-ลิปบาล์มทับทิม

Search

Read the Text Version

โครงงาน ลิปบาลม์ ทับทมิ คณะผ้จู ัดทา นางสาวสริ กิ ญั ญา อนิ ทะรงั ษี เลขท1่ี 4 นางสาวกลุ ธิดา จิตอารี เลขที่24 นายชโยดม สุวรรณา เลขท2่ี 7 นางสาวเกษมณี ไชยวงค์ เลขท3ี่ 0 นางสาววชริ ญาณ์ จนั ต๊ะวงค์ เลขท3ี่ 2 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี๕/๔ ครูท่ปี รกึ ษาโครงงาน ครดู ารง คนั ธะเรศย์ เอกสารฉบบั นีเ้ ป็นสว่ นหนึ่งของการศกึ ษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Is1) โรงเรียนปัว อาเภอปวั จงั หวดั นา่ น สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาเขต 37 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2563

โครงงาน ลปิ บาล์มทบั ทิม คณะผูจ้ ัดทา นางสาวสิริกญั ญา อินทะรงั ษี เลขท่1ี 4 นางสาวกุลธดิ า จติ อารี เลขท่ี24 นายชโยดม สุวรรณา เลขท่ี27 นางสาวเกษมณี ไชยวงค์ เลขท่ี30 นางสาววชิรญาณ์ จนั ต๊ะวงค์ เลขท3่ี 2 ครทู ่ปี รึกษาโครงงาน ครู อนุรักษ์ เมฆแสน เอกสารฉบบั น้เี ป็นสว่ นหนึง่ ของการศึกษาค้นควา้ และสรา้ งองค์ความรู้ (Is1) โรงเรยี นปัว อาเภอปัว จงั หวดั น่าน สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษาเขต 37 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563

ก บทคัดย่อ โครงงานเร่ือง ลิปบาล์มทับทิมมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือศกึ ษาการทาลิปบาล์มจากทับทิม และเปรียบเทียบคุณภาพ ลิปบาลม์ จากทบั ทิม กบั ลปิ บาล์มย่ีหอ้ อื่นๆ โดยนานา้ ทับทมิ ปริมาณ 3 ช้อนโต๊ะ นาไปต้ังไฟอ่อนๆกับ ปิโตรเลยี มเจล 5 ช้อนโต๊ะ นา้ ผึ้ง 2 ชอ้ นชา นา้ มันมะพร้าวสกัดเย็น 1 ชอ้ นชา และเตมิ สีโดยการใส่ลปิ สตกิ สี ชมพูลงไป จากนัน้ คนทุกอย่างให้เขา้ กันและนามาพักให้เย็นตวั ลงเล็กน้อย แล้วจึงใสก่ ระปุกทีเ่ ตรยี มไว้ แล้วน้า ไปแชต่ เู้ ยน็ 5-10 นาที กจ็ ะแข็งตัวกลายเป็นลปิ บาลม์ จากทบั ทิม เมอ่ื ได้ลิปบาลม์ จากทับทิม แลว้ จงึ นาไป ทดสอบคุณภาพเปรยี บเทยี บกบั ลปิ บาล์มยีห่ ้ออ่นื โดยการทดสอบคุณภาพดา้ นลักษณะเนื้อของลิป ดา้ นกลิน่ และสรรพคุณของลปิ บาลม์ ทั้งสองชนิด ผลการทดสอบพบว่า ด้านลักษณะเนื้อ ลิปบาลม์ จากทบั ทิมมีเนื้อ มี ความน่มิ ไม่ล่นื มาก และละเอียด ส่วนกลน่ิ ของลิปทับทิมเป็นกลนิ่ หอมออ่ นๆของน้าผึ้งและนา้ มันมะพร้าว และมีสชี มพูอ่อนๆของลิปสติกท่นี ามาเปน็ สว่ นผสม สรรพคุณของลปิ บาลม์ ทบั ทิม เนื่องจากเน้อื ลิปมีลักษณะ ไมล่ ื่นมากจึงสามารถเก็บความชนื้ ไว้ไดย้ าวนาน และมีสว่ นผสมของน้าผึ้งจึงชว่ ยบารงุ ให้ปากไม่แหง้ และดูอิ่ม เอิบ และมีส่วนผสมสมจากทับทมิ ทชี่ ่วยปอ้ งกนั ริมฝีปากจากแสงแดด สว่ นลิปสตกิ ยห่ี ้ออื่น พบว่า มีเนื้อ ละเอียดหนืดๆ สชี มพูอ่อนๆกล่ินหอมกหุ ลาบ สรรพคณุ ช่วยเกบ็ ความชมุ่ ชืน้ ไวย้ าวนานทาใหป้ ากไมแ่ ห้ง จาก ผลการทดสอบดงั กลา่ วพบว่า ลิปบาล์มจากทบั ทิมมีคณุ ภาพใกล้เคยี งกบั ลิปบาลม์ มากทัง้ ในเร่ืองของเน้ือลปิ สี และสรรพคุณบางอยา่ ง

ข กติ ติกรรมประกาศ ขอขอบพระคุณผทู้ ี่สนบั สนนุ และช่วยเหลอื การทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ครั้งน้ี ให้สาเร็จลลุ ว่ งไปด้วย ความเรียบรอ้ ยตามวัตถุประสงค์ ดังรายชื่อผู้สนบั สนนุ ตอ่ ไปน้ี วา่ ที่ พ.ต.สพุ จน์ ธนานกุ ลู ผอู้ านวยการโรงเรยี น ภทั รบพิตร ครทู ุกทา่ นในกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ และนางรตนัตตยา จันทนะสาโร ครทู ่ีปรึกษา โครงงาน ทีไ่ ด้ตรวจแกไ้ ข คาแนะนา รายงานโครงงานฉบับสมบรู ณ์ตลอดเวลาในการทาโครงงาน คณุ ค่าและ ประโยชน์ของโครงงานฉบับน้ี ขอมอบใหส้ าหรบั ผ้ทู ี่สนใจและค้นคว้าวจิ ัย และบิดามารดา ครูอาจารยท์ ุกท่านที่ มพี ระคุณย่ิง คณะผู้จดั ทา

ค คานา โครงงานฉบับน้จี ัดทาขนึ้ เพอื่ นาเสนอโครงงานวชิ า Independent Study (IS) ระดับมัธยมศกึ ษาตอน ปลายในหวั ขอ้ โครงงานเรื่องลิปบาล์มทบั ทมิ คณะผ้จู ัดทาโครงงานได้ศกึ ษาจากอินเตอร์เน็ตเว็บไซตต์ ่างๆ รวบรวมขอ้ มูลและเก็บบนั ทึกข้อมลู เพื่อศึกษาการทาลปิ บาลม์ ด้วยความตง้ั ใจสามัคคีในการนาเสนอโครงงาน ชิ้นนี้ทางคณะผ้จู ดั ทาหวังวา่ จะเป็นประโยชน์และแนวทางสาหรับผทู้ ีต่ ้องการศึกษาต่อไปหากผดิ พลาดประการ ขออภัยมา ณ ท่ีน้ี คณะผู้จัดทา

สารบญั ง บทคัดยอ่ ก กติ ตกิ รรมประกาศ ข คานา ค สารบัญ ง บทท่ี 1 บทนา 1 1 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน ๑ วตั ถปุ ระสงค์ของการศึกษา ๑ สมมตฐิ านการศึกษา ๑ ประโยชน์ที่คาดวา่ น่าจะไดร้ บั ๒ บทที่ ๒ เอกสารท่ีเก่ียวข้อง ๒ ๒ ทบั ทมิ ๒ ๓ ประโยชน์ของทับทิม ๓ ๔ ริมฝปี าก ๕ ๕ ปัญหาของรมิ ฝีปาก ๕ ๗ นา้ ผึ้ง ๘ ๙ ประโยชนข์ องน้าผงึ้ บทท่ี ๓ วิธีการดาเนินโครงงาน เคร่ืองมอื และวสั ดอุ ปุ กรณ์ท่ีใช้ในการศึกษา วิธกี ารศึกษา บทท่ี ๔ ผลการศึกษา บทท่ี ๕ สรุปผลการทดลอง บรรณานกุ รรม



1 บทท่ี 1 บทนา ที่มาและความสาคัญของโครงงาน - จดั ทาโครงงานช้นิ น้ีขน้ึ เพาะเหน็ วา่ ลิปสตกิ ปาล์มทบั ทิม เปน็ ทสี่ ิ่งจาเป็นสาหรบั ผู้หญิงเพราะเปน็ สิ่งทีช่ ว่ ยให้ ผูห้ ญิงอย่างเราน่นั มีความม่ันใจในตัวเอง นอกจากนล้ี ปิ สติกยังเป็นส่งิ ที่ช่วยบารุงรมิ ฝปี ากเราให้ดูมสี ขุ ภาพทดี่ ี ด้วยการใช้ ลิปบาลม์ และถา้ เรานาส่ิงที่มาจากธรรมชาติก็จะยิง่ ดตี ่อสขุ ภาพของเราและส่ิงแวดลอ้ มด้วย - ปัญหาของริมฝีปากก็ไม่แตกต่างจากผวิ พรรณในสว่ นอน่ื ของร่างกาย และส่ิงทีก่ ่อความกงั วลใหก้ ับหญงิ สาว จานวนมากก็คอื ปญั หาริมฝปี ากคลา้ ริมฝปี ากแหง้ และแตกหรอื ลอกเปน็ ขลุย ซ่ึงหากดแู ลไมด่ ีพอหรือ แก้ปญั หาไมถ่ ูกจดุ ริมฝปี ากก็จะยิ่งดาคลา้ ทาใหด้ ูนา่ เกลยี ด และบ่ันทอนความงดงามของใบหนา้ ลงไปมาก ทเี ดียว วตั ถปุ ระสงคข์ องการทาโครงงาน -เพื่อศึกษาการทาลิปบาลม์ ทับทิม -เพอ่ื เปรียบเทยี บคุณภาพของลปิ บาล์ม กบั ลิปบาล์มท่วั ไป -เพอื่ ให้ทกุ คนหนั มาใช่ลปิ จากธรรมชาติแทนลิปทีท่ ามาจากสารเคมี สมมติฐานของการศกึ ษา -ลิปบาลม์ ทับทิม มีคุณภาพใกลเ้ คียงกบั ลปิ บาลม์ ท่วั ไป ตวั เเปรต้น -น้าทบั ทิม น้าผึง้ น้ามนั มะพร้าว ปิโตรเลียมเจล เเละลปิ สตกิ สี ตวั แปรตาม -คุณภาพเเละสรรพคุณของลิปท่ีได้ ตวั เเปรควบคมุ -ปริมาณน้าทบั ทิม น้าผงึ้ นา้ มันมะพรา้ ว ปโิ ตรเลยี มเจล เเละลปิ สติกสี ประโยชน์ที่คาดวา่ จะได้รบั -ตอ้ งการได้ลิปสตกิ ที่ทามาจากธรรมชาติ ทีไ่ ม่มสี ง่ิ ทเี่ ป็นเคมีไปเจือปน -ชว่ ยบารุงรมิ ฝปี ากใหด้ มู ีสุขภาพท่ดี ี -อยากให้ทุกคนหนั มาใช้ส่งิ ที่ทามาจากธรรมชาติมากกวา่ การใช่สารเคมี ๒

บทท่ี 2 เอกสารและงานวจิ ัยทเี่ กย่ี วข้อง 1. ทับทิม ชอ่ื : ทบั ทิม ชือ่ อังกฤษ : Pomegranate ทับทิม (Pomegranate) ช่ือทอ้ งถน่ิ เซยี๊ ะลิ้ว, พลิ า, พิลาขาว, มะก่องแกว้ , มะเก๊าะ, หมากจงั เป็นไม้ ผลขนาดเล็ก มีขนาดประมาณ 5-8 เซนติเมตร ทบั ทมิ มีถน่ิ กาเนดิ จากตะวนั ออกของประเทศอิหร่าน ทางตอนใตข้ องอฟั กานสิ ถานและทางตอนเหนือ ของเทือกเขาหิมาลัย ทบั ทมิ จึงชอบอากาศหนาวเย็นและอยู่บนพื้นทสี่ ูงกวา่ ระดับน้าทะเลอย่างน้อย 300 เมตร ย่ิงอากาศหนาวเนื้อทับทมิ จะมีสแี ดงเข้มมากขน้ึ ประโยชนท์ ับทิม ผลทับทิม ใชร้ ับประทานเป็นผลไม้มรี สหวานหรือเปรีย้ วอมหวานทบั ทิมเปน็ ผลไมท้ มี่ ปี ระโยชนต์ อ่ สขุ ภาพ น้าทับทิมมวี ิตามนิ ซีสูงและยงั มีสารเกลอื แรท่ ีเ่ ปน็ ประโยชน์ต่อร่างกายในปรมิ าณที่สูงเหมาะสาหรบั การดืม่ เพ่อื เพ่ิมความสดช่ืนให้กับรา่ งกาย นาทับทิม มสี ารต้านอนุมลู อิสระหลายชนิดและมีประสิทธิภาพสูงมากสามารถลดภาวะการแข็งตัว ของเลือดจากไขมันในเลือดสูง บรรเทาโรคโรคหวั ใจและความดันโลหิตสูง ช่วยเพ่มิ พลังและความงาม ดม่ื นา้ ทับทิมคนั้ วันละแกว้ จะชว่ ยสง่ เสรมิ การทางานของหลอดเลือด ลดการแข็งตัวของหลอดเลือดแดงและช่วยเสรมิ สขุ ภาพของหวั ใจใหด้ ีข้ึน เปลอื กทับทิม จากการศกึ ษาวิจยั พบวา่ ในเปลือกทับทิมมีสารในกลุ่มแทนนนิ สูง 22-25% โดย ประกอบด้วยสารแทนนนิ ในกลมุ่ มี Gallotannin เปลือกทับทมิ ตากแหง้ ใช้เปน็ ยาแก้ท้องเดินและโรคบดิ ได้ [ต้องการอ้างอิง] นอกจากนี้ยังพบสารแทนนินในกลุ่ม Ellagictannin ในปริมาณสูงสารในกลุ่มนี้มีคุณสมบตั ิ เป็นตัวตา้ นอนมุ ูลอสิ ระท่ดี ี สารสกัดจากเปลือกผลด้วยเอทานอลมฤี ทธิ์กาจัดอนุมูลอิสระ 2. รมิ ฝปี าก ปญั หาของรมิ ฝปี ากกไ็ ม่แตกต่างจากผวิ พรรณในสว่ นอนื่ ของร่างกาย และสงิ่ ทีก่ ่อความกังวลใหก้ ับหญงิ สาว จานวนมากก็คือ ปัญหาริมฝปี ากคลา้ รมิ ฝีปากแห้งและแตกหรอื ลอกเป็นขุย ซ่ึงหากดแู ลไมด่ ีพอหรอื แกป้ ัญหา ๓

ไม่ถูกจดุ รมิ ฝีปากกจ็ ะย่ิงดาคลา้ ทาใหด้ นู า่ เกลยี ด และบ่ันทอนความงดงามของใบหนา้ ลงไปมากทีเดียว สีของ รมิ สปี ากในคนปกตมิ ีตัง้ แต่ชมพสู ด สีแดง ไปจนถึงสคี ลา้ การเปล่ยี นแปลงของสีท่ีริมฝปี ากเป็นลักษณะ เฉพาะตวั บคุ คล เชน่ คนผวิ คล้าก็มแี นวโน้มว่าปากจะมีสเี ข้มมากกว่าคนผวิ ขาว นอกจากนั้นก็ยงั เป็นไปตามวัย และสภาพแวดล้อมดว้ ย ที่ธรรมชาติไดก้ าหนดไวว้ า่ เม่ืออายมุ ากข้นึ ริมฝีปากกจ็ ะเรมิ่ มสี ีเขม้ ขน้ึ เร่ือย ๆ เชน่ เดียวกับสีของผิวหนงั สว่ นอนื่ ๆ ในรา่ งกาย เพราะฉะน้ันก็อยา่ กังวลไปเลย ปญั หาของริมฝีปาก ริมฝปี ากเปน็ อวยั วะบนใบหน้าท่ียนื่ นนู ออกมาเชน่ เดยี วกบั จมกู และโหนกแก้ม ดงั นนั้ จึงได้รับผลกระทบจาก สิ่งแวดลอ้ ม และความเปล่ยี นแปลงของสภาพอากาศทร่ี ้อน หนาว และแลง้ แห้ง ไม่ตา่ งจากใบหนา้ ท่ีต้องเจอ ปัญหาการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดาตา่ ง ๆ นอกจากน้ี อาหาร เครื่องด่ืม ยาบางชนดิ การสบู บุหรี่ ยาสีฟัน ลปิ สติก และความเจบ็ ปว่ ย ก็มีส่วนในการทาให้ริมฝีปากมีสีคลา้ ขนึ้ ดว้ ย รมิ ฝปี ากดาคล้า เกดิ จากเหตุปัจจยั อย่าง ลองพจิ ารณาดวู า่ ปัญหาของคุณเกิดจากสงิ่ เหล่านีห้ รือเปลา่ ลกั ษณะเฉพาะบุคคล ดังทกี่ ล่าววา่ คนผวิ เข้ม และมรี อยฝปี ากสเี ข้มมากกว่าคนผิวขาว ซงึ่ เป็นเรอ่ื งของธรรมชาตขิ องคนคนน้ัน อณุ หภูมิ อาจมีผลทาให้สีของ รมิ ฝปี ากเปลี่ยนแปลงได้ เชน่ ชว่ งทอี่ ากาศหนาวเย็น ปากอาจจะมสี คี ล้าข้ึน เพราะเส้นเลอื ดหดตวั และมีเลือด ดาค่ังคา้ งมากกว่าปกติ ผทู้ ่สี ขุ ภาพไมส่ มบูรณ์ เชน่ เลอื ดจาง เจบ็ ปว่ ยเรื้อรัง ผู้ปว่ ยระยะฟ้นื ไข้ ปรมิ าณเลือดท่ี ไหลมาเล้ียงรมิ ฝีปากมีน้อย จงึ ทาให้ปากดซู ดี เขียว ไมม่ ีสีสัน หรือผปู้ ว่ ยโรคหวั ใจที่เลือดมสี ีเข้มขน้ ก็จะทาให้ริม สีปากดกู ลา้ กวา่ คนปกติได้ อาหารทเี่ รากนิ อยู่ทกุ วนั ก็มสี ว่ นไมน่ ้อยท่ีทาใหเ้ กดิ ปญั หาปากคลา้ ตัวอยา่ งเช่น ผัก ขน้ึ ฉ่าย ผักชีฝร่งั หอม กระเทียม ขิง หรือผลไม้ ของเปรยี้ วพวกสม้ มะนาว มะกรูด สับปะรด มะมว่ ง ฯลฯ เนอื่ งจากอาหารเหล่านีม้ สี ารท่ีชอ่ื ว่า โซราแลน ( psoralen ) สารดังกล่าวเมือ่ ตกค้างตามริมฝีปากกไ็ ม่ได้ทาให้ เกดิ ปัญหาแตย่ ่างไร แต่ถา้ สารนนั้ สมั ผัสกบั รังสอี ลั ตราไวโอเลตในแสงแดด กจ็ ะเกิดปฏกิ ิรียาเคมีทาให้ผิวรมิ ฝปี ากอักเสบ และมีการกระตุ้นเซลล์สร้างใหส้ รา้ งเม็ดสีออกมามาก ๆ จนปากดาคลา้ ( ทางแพทยเ์ รียกว่า ปฏิกริ ยิ าแพ้แดด ) 3. นาผึง(Honey) คือผลผลิตของน้าหวานจากดอกไม้ และจากแหลง่ อ่นื ๆ ที่ผึ้งงานนามาเก็บสะสมไว้ โดยผ่านขนั้ ตอนการ เปลีย่ นแปลงทางกายภาพและทางเคมีแลว้ สะสมไว้ในรงั ผึ้ง ซ่งึ ปกตแิ ลว้ น้าผง้ึ จะมกี ลน่ิ รส สี ทีต่ ่างกันออกไป ตามชนดิ ของพืชน้ัน ๆ จงึ ทาให้สามารถระบชุ นดิ ของนา้ ผ้งึ ตามชนิดของพชื นนั้ ได้ ๆ เช่น น้าผึ้งจากดอกสม้ ดอกลาไย ดอกล้ินจี่ ก็จะแตกตา่ งกนั ออกไปซ่ึงนยิ มนามาใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหารหรือเคร่ืองดืม่ นานา ชนิด ประโยชนข์ องนา้ ผ้ึง น้นั มีมากมาย เพราะนา้ ผ้งึ มีส่วนผสมของนา้ ตาลและสารประกอบอ่ืน ๆ ซ่ึงส่วนใหญ่จะ เปน็ ฟรุกโทสกับกลโู คส และมีวติ ามนิ และแร่ธาตุผสมอยดู่ ว้ ย เชน่ วิตามินเอ วติ ามินบ2ี วิตามนิ บี3 วิตามนิ บี5 วิตามินบี6 กรดโฟลกิ วติ ามินซี ธาตแุ คลเซียม ธาตแุ มกนีเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุโพแทสเซยี ม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตเุ หลก็ ธาตทุ องแดง ธาตสุ ังกะสี เป็นต้น สาหรบั สารประกอบอื่น ๆทีม่ ีอยู่ในปรมิ าณเพียงน้อยนิดน้นั จะเป็น สารทที่ าหนา้ ทช่ี ่วยต่อตา้ นอนุมลู อิสระเป็นหลัก 5 ประโยชน์ของนาผึง

1. ชว่ ยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย 2. มสี ารตอ่ ต้านอนุมลู อสิ ระ ชว่ ยชะลอวัย 3. ช่วยลดและปอ้ งกันการเกิดรว้ิ รอยแห่งวยั

๕ บทท่ี 3 วิธีการดาเนินโครงงาน เครือ่ งมือและวัสดุอปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นการศึกษา อุปกรณ์ 1.น้าทับทิม 25 มลิ ลิลิตร 2.น้าผง้ึ 2 ชอ้ นชา 3.น้ามันมะพร้าว 1 ช้อนชา 4.ปโิ ตเลียมเจล 5 ชอ้ นโตะ๊ 5.ลปิ สติกสชี มพู ½ ช้อนชา 6.กระปกุ เล็ก 3 กระปุก 7.หม้อสาหรบั ใช้ต้ม 1 ใบ 8.ชอ้ นสาหรับคน 1 คนั 9. เตาแกส๊ 1 เตา 10. วธิ กี ารทาลิปบาล์มทับทิม 1. นานา้ ทับทิมปรมิ าณ 3 ช้อนโตะ๊ นาไปตัง้ ไฟอ่อนๆกับ ปิโตรเลียมเจล 5 ช้อนโต๊ะ 2. ใส่น้าผง้ึ 2 ชอ้ นชา น้ามนั มะพรา้ วสกัดเย็น 1 ช้อนชาลงไป 3. เติมสีโดยการใส่ลปิ สตกิ สชี มพลู งไป 4. หลงั จากนั้นนามาล้างดว้ ยนา้ สะอาด 4 ครง้ั 5. คนเร่อื ยๆจนทุกอยา่ งเขา้ กัน 6. เม่อื ทุกอยา่ งเข้ากันแล้วยกลงจากเตา 7. ต้ังท้ิงไวส้ กั ครู่หน่ึง

๖ 8.นาไปแช่ตเู้ ย็น 5-10 นาที กจ็ ะแข็งตัวกลายเปน็ ลิปบาล์มจากทบั ทมิ

๗ บทท่ี 4 ผลการศกึ ษา จากการศึกษาการทาลปิ บาล์มทับทมิ และเปรียบเทยี บคณุ ภาพและสรพคณุ ลปิ บาลม์ ทบั ทมิ กบั ลปิ บาล์มทั่วไป โดยการทดลองใช้จากตัวผู้ทาโครงงาน ผลการทดลองดังตาราง ตารางท่ี 1 แสดงลกั ษณะของลิป บาลม์ ทบั ทิมและลปิ บาลม์ ท่วั ไป ชนดิ ลปิ บาล์ม บรเิ วณท่ที าการทดลอง ผลทไ่ี ด้ ลิปบาล์มทบั ทมิ ริมฝปี าก ปาก มสี ชี มพูอ่อนๆ ไดก้ ลิน่ หอมของน้ามนั มะพรา้ วกับนา้ ผ้ึง มีรสหวานของนา้ ผึ้ง ปากนุม่ ชุ่มชื่น มันวาว ลปิ บาล์ม ท่วั ไป รมิ ฝีปาก ทาแล้วไมม่ สี ี ได้กลน่ิ กหุ ลาบอ่อนๆ นมุ่ ชมุ่ ชื่นแต่หลดุ ง่าย ทาแล้วมนั วาว จากการศึกษาแล เปรียบเทยี บลิปบาล์ม 2 ชนดิ ลปิ บาลม์ จากทบั ทิมมีคุณภาพใกลเ้ คียงกบั ลปิ บาล์มมากทั้งในเรื่องของเน้อื ลปิ สี และสรรพคุณบางอย่าง เช่น ชว่ ยบารุงให้รมิ ฝีปากนมุ่ กักเกบ็ ความชุ่มชน้ื

๘ บทที่ 5 สรุปผลการทดลอง สรปุ ผลการทดลอง 1.ลิปบาล์มทับทิมมสี รรพคณุ ดีกว่าลิมบาล์มท่ัวไปบางยี่หอ้ 2.ลปิ บาล์มจากทับทิมมคี ณุ ภาพใกลเ้ คียงกบั ลปิ บาล์มมากทั้งในเรื่องของเนื้อลปิ สีและสรรพคุณ อภปิ รายผล การทดลอง จากการศึกษาการทาลิปบาล์มทับทิม และเปรียบเทยี บคุณภาพและสรรพคุณลิปบาลม์ ทับทิมกบั ลิปบาลม์ ท่วั ไป โดยนาโดยนาน้าทับทิม ปโิ ตรเลยี ม นา้ ผง้ึ น้ามนั มะพร้าวสกดั เย็น มาทาเป็นลิปบาลม์ จาก ทับทิม พบว่า จากการศกึ ษาลกั ษณะลิปบาลม์ ท้ัง 2 ชนดิ พบว่า ด้านลักษณะเนอ้ื ลปิ บาลม์ จากทับทิมมเี น้ือ มี ความน่มิ ไม่ล่ืนมาก และละเอยี ด ส่วนกลิ่นของลปิ ทบั ทิมเปน็ กลน่ิ หอมออ่ นๆของนา้ ผ้ึงและน้ามันมะพร้าว และมสี ีชมพูอ่อนๆของลิปสติกทนี่ ามาเปน็ สว่ นผสม สรรพคุณของลปิ บาลม์ ทบั ทมิ เนื่องจากเนือ้ ลิปมลี ักษณะ ไม่ลน่ื มากจึงสามารถเก็บความชื้นไวไ้ ดย้ าวนาน และมีส่วนผสมของนา้ ผ้ึงจึงช่วยบารุงให้ปากไม่แห้ง และดอู ่ิม เอิบ และมสี ่วนผสมสมจากทับทมิ ที่ชว่ ยป้องกันรมิ ฝีปากจากแสงแดด สว่ นลปิ สตกิ ยหี่ ้ออื่น พบวา่ มีเนือ้ ละเอียดหนดื ๆ สีชมพูอ่อนๆกลนิ่ หอมกุหลาบ สรรพคุณช่วยเกบ็ ความชุ่มชน้ื ไวย้ าวนานทาใหป้ ากไม่แห้ง ซงึ่ ลกั ษณะลิปบาลม์ 2 ชนดิ คอ่ นขา้ งใกล้เคยี งกนั มาก และมีสรรพคุณคล้ายกัน แตกต่างกันตรงทลี่ ปิ บาลม์ จาก ทับทมิ เป็นลิปบาล์มทที่ าข้นึ ผลไม้ ตาโดยรวมถือว่ามีสรรพคณุ มากกวา่ ประโยชนท์ ่ไี ดร้ ับ 1. เกดิ การเรยี นรใู้ นเร่ืองของการสร้างผลติ ภัณฑ์โดยการนาสมุนไพร ผลไม้ วัสดุทางธรรมชาติ 2. ผลติ ลิปบาล์มจากทับทิมเป็นสว่ นประกอบเพื่อเพิ่มความหลากหลายของลปิ บาลม์ ใหเ้ หมาะสมกับการ ใช้ งาน 3.เพิม่ ทกั ษะการคิดวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์ ข้อเสนอแนะ จากการศึกษาโครงงานนาไปสรา้ งรายไดแ้ ละประหยัดตน้ ทุนหาได้จากธรรมชาติ

๙ บรรณานกุ รม ทับทมิ . (2554). (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://www.google.co.th/search?q=ทมั ทิม วนั ทส่ี บื ค้น 20 สิงหาคม 2563 ทบั ทมิ . (2554). (ออนไลน์). แหล่งทมี่ า : http://puechkaset.com/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B 4%E0%B8%A1/ วนั ที่สบื คน้ 19 กนั ยายน 2563 รมิ ฝีปาก. (2553). (ออนไลน์). แหลง่ ท่ีมา : https://www.doctor.or.th/article/detail/3444 วนั ทสี่ ืบคน้ 19 กนั ยายน 2563 นา้ ผง้ึ . (2555). (ออนไลน์). แหลง่ ทีม่ า : http://frynn.com/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0 %B9%89%E0%B8%87/ วนั ทีส่ บื ค้น 19 กันยายน 2563 นา้ มนั มะพร้าว.. (2553). (ออนไลน์). แหลง่ ที่มา : http://frynn.com/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0 %B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B 2%E0%B8%A7/ วันท่ีสืบคน้ 19 กันยายน 2563


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook