หน่วยที่ 1อา่ นแบบแปลนระบบไฟฟา้ ในอาคารนายไพรัช เครือแปน้วทิ ยาลยั เทคนิคปราจีนบรุ ี
วทิ ยาลัยอาชีวศกึ ษาเถนิ เทคโนโลยีข้อสอบเทียบโอน วิชาการออกแบบระบบไฟฟา้ รหัสวิชา (3104-2004)ประเภทวชิ าอุตสาหกรรม สาขาวิชาไฟฟ้ากาลัง สาขางานติดตง้ั ไฟฟา้ระดับชนั้ ประกาศนียบตั รวิชาชพี ช้ันสูง เวลาสอบ 2 ชั่วโมงช่ือ....................................................สกุล...................................รหสั ประจาตัว.....................................คาส่งั จงเลือกคาตอบท่ีถกู ต้องทส่ี ุดเพียงข้อเดยี ว1. ข้อใดจดั เรยี งลาดบั ของระบบส่งจ่ายกาลังไฟฟ้าจากตน้ ทางส่ปู ลายทางไดถ้ ูกต้องก. กฟฝ. – กฟภ. – ผ้ใู ชไ้ ฟฟา้ข. กฟน. – กฟภ. – ผูใ้ ช้ไฟฟ้าค. กฟภ. – กฟผ. – ผูใ้ ชไ้ ฟฟา้ง. กฟภ. – กฟน. – ผ้ใู ช้ไฟฟา้2. ขอ้ ใดเปน็ ระดบั แรงดันในระบบสง่ จา่ ยกาลงั ไฟฟา้ ในสว่ นความรบั ผิดชอบของการไฟฟ้าฝา่ ยผลติ ในปจั จุบนัก. มากกวา่ 500 กิโลโวลต์ 3 เฟส 3 สายข. มากกว่า 500 กิโลโวลต์ 3 เฟส 4 สายค. 115 – 500 กโิ ลโวลต์ 3 เฟส 3 สายง. 115 – 500 กโิ ลโวลต์ 3 เฟส 4 สาย3. ระดับแรงดันใด ไม่ เก่ียวขอ้ งกบั การไฟฟ้านครหลวงก. 69 กิโลโวลต์ ข. 24 กโิ ลโวลต์ค. 22 กโิ ลโวลต์ ง. 12 กิโลโวลต์4. จังหวดั ใด ไม่ อยใู่ นเขตจาหนา่ ยของการไฟฟา้ นครหลวงก. กรุงเทพมหานคร ข. ปทมุ ธานีค. สมุทรปราการ ง. นนทบุรี5. ข้อใดเป็นพนื้ ที่ที่ใช้ไฟในระบบ 33 กโิ ลโวลต์ 3 เฟส 3 สาย กระแสสลับก. ทุกจงั หวดั ในส่วนรับผิดชอบของ กฟภ.ข. ทุกจงั หวดั ในส่วนรบั ผดิ ชอบของ กฟน.ค. พืน้ ทีภ่ าคใตต้ ัง้ แตจ่ ังหวดั ระนองลงไปง. พน้ื ทท่ี างภาคเหนอื ต้งั แตจ่ งั หวัดลาปางขึน้ ไป6. ระบบสง่ จ่ายกาลังไฟฟ้าชนิดกระแสตรงระหว่างประเทศไทยและมาเลเซียทมี่ ีค่าเทา่ ใดก. 115 กโิ ลโวลต์ ข. 69 กโิ ลโวลต์ค. 30 กิโลโวลต์ ง. 12 กโิ ลโวลต์7. แรงดนั ทุตยิ ภูมขิ องหมอ้ แปลงการไฟฟ้านครหลวงท่ใี ชแ้ ปลงแรงดนั จากระบบจาหน่ายมคี า่ เท่าใดก. 660/380 โวลต์ ข. 416/240 โวลต์ค. 400/230 โวลต์ ง. 380/220 โวลต์8. จากข้อ 7 หากเปน็ การไฟฟา้ สว่ นภมู ิภาค จะมคี า่ เท่าใด
ก. 660/380 โวลต์ ข. 416/240 โวลต์ค. 400/230 โวลต์ ง. 380/220 โวลต์9. ขอ้ ใด ไม่ใช่ หน่วยงานหลกั ทจ่ี ัดทามาตรฐานการตดิ ต้ังทางไฟฟา้ สาหรับประเทศไทย พ.ศ. 2545ก. การไฟฟ้านครหลวง ข. การไฟฟ้าสว่ นภมู ิภาคค. กรมโรงงานอุตสาหกรรม ง. วิศวกรรมสถานแหง่ ประเทศไทย10. มาตรฐาน BS เปน็ มาตรฐานของประเทศใดก. เยอรมัน ข. อเมริกาค. ญีป่ นุ่ ง. องั กฤษ11. ขอ้ ใด ไม่ใช่ เหตุผลท่จี าเปน็ ตอ้ งมมี าตรฐานกาหนดในการตดิ ต้ังระบบไฟฟ้าก. ความปลอดภยั ตอ่ ผ้ใู ช้ ข. ความเป็นระเบียบสวยงามค. อายุใชง้ านของอุปกรณ์ไฟฟา้ นานขนึ้ ง. ความปลอดภยั ต่ออปุ กรณไ์ ฟฟา้12. การออกแบบและตดิ ต้งั ระบบไฟฟา้ สิง่ สาคญั ทส่ี ดุ ทตี่ ้องคานงึ ถงึ ลาดับแรก คือก. ความปลอดภยั ข. ความงา่ ยค. ความเชือ่ ถือได้ ง. ค่าใช้จา่ ย13. เหตุใดจึงต้องเลือกใช้อุปกรณไ์ ฟฟา้ ท่ีไดม้ าตรฐานก. ความปลอดภยั ข. ความทนทานค. ความเช่อื ถอื ได้ ง. อายใุ ชง้ าน14. แบบทางไฟฟ้าหลกั ๆ ท่ีใช้ในการติดตั้งประกอบด้วยก. แบบตาแหน่งและวงจรโหลด แบบไดอะแกรมเสน้ เด่ียว แบบไดอะแกรมสายป้อนข. แบบตาแหน่งและวงจรโหลด แบบไดอะแกรมสายปอ้ น แบบผังบรเิ วณค. แบบรายละเอียดโหลดในแผงย่อย แบบไดอะแกรมสายป้อน แบบผังบริเวณง. แบบตาแหน่งและวงจรโหลด แบบรายละเอยี ดโหลดในแผงยอ่ ย แบบไดอะแกรมเสน้ เดยี่ ว15. ขอ้ ใดคอื ลาดบั ข้ันตอนการทางานทางดา้ นไฟฟา้ก. ออกแบบ ตดิ ตัง้ บารงุ รกั ษา เลอื กใชอ้ ุปกรณ์ข. ออกแบบ ตดิ ตั้ง เลือกใชอ้ ปุ กรณ์ บารุงรักษาค. ออกแบบ เลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ ตดิ ตัง้ บารุงรกั ษาง. ติดตง้ั ออกแบบ บารุงรกั ษา เลอื กใชอ้ ปุ กรณ์16. ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย มแี รงดนั ระหวา่ งสายเสน้ ไฟเท่ากบัก. 110 โวลต์ ข. 220 โวลต์ค. 380 โวลต์ ง. 440 โวลต์17. ขอ้ ใด ไม่ เกยี่ วขอ้ งกับการเลอื กใช้อปุ กรณ์ปอ้ งกันก. กระแสของโหลด ข. แรงดันระบบค. ค่าตัวประกอบกาลังไฟฟ้า ง. ความถ่ึ18. ในระบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย ท่จี ่ายให้กับโหลด 3 เฟสสมดุล กระแสในสายเสน้ ไฟทั้ง 3 เสน้ ควรเปน็ เชน่ ใด
ก. เท่ากันท้งั 3 เสน้ โดยมีค่ามากกว่ากระแสของสายนิวทรัลข. เทา่ กันท้งั 3 เส้น โดยมีคา่ เทา่ กับกระแสของสายนิวทรัลค. เทา่ กันทัง้ 3 เสน้ โดยมคี า่ น้อยกวา่ กระแสของสายนวิ ทรลัง. แตกตา่ งกันทงั้ 3 เส้น19. จากข้อ 18 กระแสในสายนวิ ทรัลควรเปน็ เชน่ ใดก. มคี า่ มากกว่ากระแสของสายเสน้ ไฟ 3 เท่า ข. มคี า่ นอ้ ยกว่ากระแสของสายเส้นไฟ 3 เทา่ค. เท่ากับกระแสของสายเส้นไฟ ง. ไมม่ กี ระแสไหล20. ในระบบไฟฟา้ 3 เฟส 4 สาย แรงดนั ระหว่างสายเสน้ ไฟเทยี บกบั สายดินควรมีค่าเท่าใดก. 110 โวลต์ ข. 220 โวลต์ค. 380 โวลต์ ง. 0 โวลต์21. สว่ นประกอบใดของฟิวส์ทีม่ ีหนา้ ทใ่ี นการตัดวงจรก. แผ่นไบเมทลั ข. ผงควอทซ์ค. กระบอกเซรามิก ง. ไสฟ้ ิวส์ภายใน22. ส่วนประกอบของเซอร์กติ เบรกเกอรท์ ่ีมหี น้าทใี่ นการตัดวงจรเนอ่ื งจากสภาวะโหลดเกินคอืก. แผ่นไบเมทลั ข. ไสฟ้ ิวส์ภายในค. คอยลส์ นามแม่เหล็ก ง. กระบอกเซรามิก23. สว่ นประกอบของเซอรก์ ิตเบรกเกอร์ทมี่ หี น้าทีใ่ นการตัดวงจรเนือ่ งจากกระแสลัดวงจรคอืก. แผน่ ไบเมทลั ข. ไสฟ้ วิ สภ์ ายในค. คอยล์สนามแมเ่ หล็ก ง. กระบอกเซรามกิ24. ฟวิ สช์ นิดใดท่มี ขี นาดกระแสพกิ ดั มากที่สุดก. เอช.อาร.์ ซี ข. ดีค. ดีศนู ย์ ง. ทรงกระบอก25. เหตุการณใ์ ดในข้อต่อไปนที้ ี่ ไม่ ทาให้ฟิวส์ชนิดดศี ูนยท์ างานก. กรแสเกนิ เนอื่ งจากภาวะโหลดเกนิ ข. กระแสเกินเน่อื งจากภาวะลัดวงจรค. ความร้อนของไส้ฟวิ สส์ งู เกินกาหนด ง. ไฟร่ัวเกิน 30 มิลลแิ อมปร์26. ข้อใดจดั เปน็ อุปกรณ์ป้องกนั ระบบไฟฟา้ พืน้ ฐานทีจ่ าเป็นจะตอ้ งตดิ ตัง้ก. เครอ่ื งปอ้ งกนั แรงดนั เกนิ ข. เครอ่ื งป้องกนั กระแสเกินค. เครอ่ื งตดั ไฟร่วั ง. ถกู ทกุ ข้อ27. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ จานวนวงจรยอ่ ยของตู้โหลดเซ็นเตอร์ก. 12 วงจร ข. 15 วงจรค. 18 วงจร ง. 24 วงจร28. การทางานตัดวงจรของฟิวส์ใช้หลักการก. แรงสนามแมเ่ หล็ก ข. พลงั งานความร้อนค. แรงดันเหนย่ี วนา ง. พลังงานกล29. การทางานตัดวงจรของเซอรก์ ติ เบรกเกอรช์ ว่ งกระแสโหลดเกนิ และกระแสลดั วงจรใชห้ ลกั การก. พลงั งานสนามแม่เหลก็ – พลังงานความรอ้ นข. พลงั งานความรอ้ น – พลังงานความร้อน
ค. พลงั งานสนามแม่เหล็ก – พลังงานสนามแมเ่ หลก็ง. พลังงานความร้อน – พลังงานสนามแมเ่ หล็ก30. ข้อใด ไมใ่ ช่ ข้อดีของเครื่องป้องกนั กระแสเกนิ แบบจากัดกระแสก. ลดขนาดกระแสโหลดเกนิ สูงสดุ ข. ลดขนาดกระแสลดั วงจรสงู สดุค. ลดแรงดนั ตกครอ่ มชขณะเกดิ ลัดวงจร ง. ลดเวลาตดั วงจรเมือ่ เกดิ ลัดวงจร31. เหตุผิดปกตแิ บบใดทเ่ี ครอ่ื งตดั ไฟร่วั จะไมต่ ัดวงจรก. ลัดวงจร 1 เฟสลงกราวด์ ข. ลดวงจร 2 เฟสลงกราวด์ค. โหลดเกิน ง. สมั ผัสถูกสายเส้นไฟ32. ขนาดสงู สุดของเซอร์กติ เบรกเกอรห์ ลัก สาหรับตู้คอนซมู เมอรย์ นู ทิ ตอ้ งไมเ่ กนิก. 50 แอมแปร์ ข. 100 แอมแปร์ค. 125 แอมแปร์ ง. 150 แอมแปร์33. ถ้าการตดิ ต้งั ระบบไฟฟ้าเปน็ ไปตามมาตรฐานแล้ว วิธีปอ้ งกันอนั ตรายที่เกดิ จากไฟรว่ั ที่ดที ส่ี ดุ คอืก. ตดิ ต้ังระบบสายดนิ ข. ตดิ ตั้งเคร่อื งตดั ไฟรั่วค. ตดิ ต้ังฟวิ ส์ร่วมกับเซอร์กติ เบรกเกอร์ ง. ถกู ทกุ ข้อ34. ระบบสายดนิ มีไวเ้ พือ่ก. ความปลอดภยั ข. ปอ้ งกนั การเกดิ ไฟรว่ัค. ให้ครบวงจร ง. ทง้ั ก. และ ข.35. ชนิดของตัวนาของสายดนิ และสายต่อหลกั ดินต้องเปน็ก. ทองแดง ข. อะลูมิเนียมค. ทั้ง ก. และ ข. ง. ไม่มีข้อกาหนด36. กรณที ่เี กดิ ไฟร่ัว กระแสในสายเส้นไฟและสายนวิ ทรลั จะเป็นเทา่ ใดก. ผลรวมทางไฟฟา้ ของกระแสในสายทั้งสองเท่ากับศนู ย์ข. ผลรวมทางไฟฟ้าของกระแสในสายทัง้ สองไมเ่ ท่ากับศูนย์ค. ผลรวมทางไฟฟา้ ของกระแสในสายเส้นไฟเทา่ กบั กระแสในสายนิวทรัลง. สรุปแนน่ อนไมไ่ ด้37. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ ผลจากไฟร่วัก. มกี ระแสไหลท่สี ายดิน ข. เครื่องตดั ไฟรวั่ ปลอดวงจรค. สินเปลอื งคา่ ไฟฟ้า ง. มอเตอรห์ มนุ กลับทาง38. ขนาดของสายตอ่ หลกั ดินขนึ้ อยกู่ ับก. ขนาดของฟวิ ส์ ข. ขนาดของเซอรก์ ิตเบรกเกอร์ค. ขนาดตัวนาประธาน ง. ถกู ทกุ ข้อ39. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ ชนิดของหลักดินก. แทง่ ทองแดง ข. แท่งอะลเิ นียมค. แทง่ เหล็กหุ้มดว้ ยทองแดง ง. แท่งเหล็กอาบนา้ สงั กะสี40. วิธแี ก้ไขระบบต่อลงดนิ กรณที คี่ วามต้านทานดินสูงกว่าคา่ ทก่ี าหนดก. ลดความยาวงของหลักดิน ข. ลดขนาดของหลักดนิค. ลดพ้ืนทหี่ นา้ ตดั ของหลกั ดนิ ง. เพม่ิ จานวนหลกั ดนิ
41. ขอ้ ใด ไม่ ถูกต้องก. เครื่องตัดไฟร่วั ปลดวงจรเมือ่ เกดิ ไฟรว่ั ข. ระบบสายดินป้องกนั อนั ตรายเมื่อเกดิ ไฟร่วัค. เครอื่ งตดั ไฟรว่ั ป้องกันอนั ตรายเมอ่ื เกดิ ไฟรวั่ ง. ระบบสายดนิ ปอ้ งกันอุปกรณ์ไฟฟา้ จากไฟรั่ว42. ขอ้ ใด ไม่ ถูกตอ้ งก. สายดินมไี วเ้ พอ่ื ให้กระแสไฟร่ัวไหลผ่าน ข. สายดินจะมศี กั ยไ์ ฟฟ้าเท่ากบั ศูนย์ค. สายดนิ มคี วามตา้ นทานสงู เพื่อลดกระแสไฟร่ัว ง. สายดินเปน็ สายเปลอื ยได้43. อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ทมี่ ีแรงดันต่ากวา่ เท่าใด ไม่จาเปน็ ตอ้ งต่อลงดินก. 20 โวลต์ ข. 30 โวลต์ค. 40 โวลต์ ง. 50 โวลต์44. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ส่วนประกอบของระบบสายดินก. หลกั ดิน ข. สายตอ่ หลกั ดินค. ข้ัวตอ่ สายดิน ง. เคร่ืองป้องกันไฟรว่ั45. ข้อใด ไม่ ถูกตอ้ งก. สายดนิ และสายนิวทรลั ใชร้ ่วมกันได้ ค. ระบบสายดินทั้งหมดต้องเป็นตวั นาทองแดงข. ขั้วต่อสายดนิ และสายนวิ ทรลั ใชร้ ่วมกนั ได้ ง. ระบบ 3 เฟส 3 สายใช้เฟสใดกไ็ ดต้ อ่ ลงดิน46. ชนดิ ของตวั นาสาหรับสายไฟฟา้ ตดิ ตงั้ ภายในอาคารคือก. ทองแดง ข. อะลมู เิ นียมค. ทองเหลือง ง. ตะกวั่47. สายไฟฟ้าขนาดกระแสเทา่ กนั ตวั นาชนิดใดจะมขี นาดเล็กทสี่ ดุก. ทองแดง ข. อะลูมิเนยี มค. ทองเหลอื ง ง. ตะก่วั48. ข้อใด ไม่ จดั อยใู่ นกล่มุ เดียวกันก. มอก. 293-2541 ข. ตวั นาอะลูมิเนยี มค. หุ้มฉนวนพีวีซี ง. ใช้ในระบบแรงตา่ ภายใน49. สายไฟฟ้าทส่ี ามารถฝัง่ ดนิ ไดโ้ ดยตรงคอืก. สายวีเอเอฟ ข. สายทเี อชดับบลิวค. สายววี ีเอฟ ง. สายเอ็นวายวาย50. สายชนิดใด ไม่ สามารถใชก้ บั แรงดัน 380 โวลต์ก. สายวีเอเอฟ ข. สายทเี อชดบั บลิวค. สายวีวเี อฟ ง. สายเอน็ วายวาย51. สายในขอ้ ใดมี 2 แกนก. สายทีเอชดบั บลิว ข. สายวีเอเอฟค. สายเอ็นวายวายมสี ายนิวทรลั ง. สายเอน็ วายวายมสี ายดนิ52. สายไฟฟา้ ชนิดใดหา้ มเดินในท่อร้อยสายก. สายวีเอเอฟแบน ข. สายทีเอชดับบลิวค. สายเอน็ วายวาย ง. สายวีซที ี53. ขอ้ ใดคือชนิดตวั นาสายไฟฟ้า
ก. ทองแดง ทองเหลอื ง ข. ทองแดง อะลูมเิ นยี มค. ทองเหลอื ง อะลูมิเนียม ง. ทองแดง อัลลอยด์54. ข้อใด ไม่มี ผลต่อการเลือกขนาดสายไฟฟา้ก. ขนาดกระแส ข. ความยาวสายค. อุณหภมู โิ ดยรอบ ง. อุณหภูมโิ หลด55. ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าขน้ึ อยกู่ บั องคป์ ระกอบใดเป็นสาคญัก. ชนดิ ตวั นา ข. ฉนวนห้มุ ตัวนาค. อณุ หภมู ติ ัวนา ง. แรงดนั ตกครอ่ มสาย56. สายชนิดใดสามารถใชฝ้ ังดนิ โดยตรงได้ก. สายวีเอเอฟ ข. สายทีเอชดับบลวิก. สายววี เี อฟ ง. สายเอ็นวายวาย57. ขอ้ ใดเป็นอปุ กรณ์ประกอบในการเดินทอ่ก. ฟชิ เทป ข. รมี เมอร์ค. เบนเดอร์ ง. บชุ ชิง58. อุปกรณ์ที่ใชใ้ นการลบคมปลายท่อเรยี กวา่ก. ฟชิ เทป ข. รีมเมอร์ค. เบนเดอร์ ง. บชุ ชิง59. การต่อท่อโลหะหนาและท่อโลหะหนาปานกลางทาได้โดยก. การขันเกลียวด้วยคปั ปลงิ ข. แบบขันสกรูล็อกค. การเชอื่ มประสานด้วยกาว ง. เช่อื มประสานโดยใช้ความร้อน60. ทอ่ ทสี่ ามารถฝังดนิ ได้โดยตรงคอืก. ทอ่ โลหะอ่อน ข. ท่ออโลหะอ่อนค. ท่อโลหะบาง ง. ทอ่ โลหะหนา61. ท่อชนิดใดเหมาะสาหรบั ตดิ ตงั้ ในชว่ งต่อสายเข้าเคร่อื งจกั รก. ทอ่ โลหะบาง ข. ทอ่ โลหะหนาปานกลางค. ท่ออโลหะหนา ง. ท่อโลหะอ่อน62. ทอ่ ชนิดใดมีความยาวต่อท่อนเท่ากบั 3 เมตร และมเี กลยี วทปี่ ลายท่อก. ท่อโลหะบาง ข. ท่อโลหะหนาปานกลางค. ท่ออโลหะแขง็ ง. ท่อโลหะอ่อน63. ท่อทีม่ ีผิวนอกลักษณะเปน็ ลอน คือก. ท่อโลหะบาง ข. ท่อโลหะหนาปานกลางค. ท่ออโลหะออ่ น ง. ชอ่ งเดนิ สายอโลหะบนพื้นผิว64. ทอ่ โลหะชนดิ ใด ไม่ สามารถทาเกลยี วได้ก. ท่อโลหะบาง ข. ท่อโลหะหนาปานกลางค. ทอ่ โลหะหนา ง. ไมส่ ามารถทาไดท้ ัง้ หมด65. อุปกรณ์ปอ้ งกันการบาดสาย เม่อื ร้อยสายไฟเขา้ กลอ่ งต่อสาย คอืก. คัปปลิ้ง ข. ลอ็ กนัทค. บซุ ซงิ ง. ไวรน์ ัท
66. สว่ นใดของระบบปอ้ งกันฟ้าผ่าท่ีมีระดบั ในการตดิ ตงั้ สูงสดุก. ตัวนาลอ่ ฟ้า ข. ตัวนาลงดินค. รากสายดนิ ง. หลักดนิ67.โดยปกติแล้วฟ้าจะผ่าลงบริเวณใดมากท่สี ุดก. บริเวณทมี่ ีความตา้ นทานต่า ข. จุดที่เปน็ ตัวนาไฟฟ้าค. จุดทีม่ คี วามเครยี ดสายไฟฟา้ มาก ง. ถกู ทุกขอ้68.ขอ้ ใดไมใ่ ช่ ข้อดเี นอ่ื งจากการเพมิ่ ตัวนาลงดินก. เพิ่มจดุ ทีต่ อ้ งการให้ฟ้าผ่ามากขึ้น ข. เพม่ิ ทิศทางการไหลของกระแสฟา้ ผ่าค. เป็นการสารองของตวั นาลงดนิ ง. กระแสฟ้าผ่าไหลลงดนิ ไดเ้ ร็วขึ้น69. การเชือ่ มถงึ กันของตัวนาลงดนิ ในแนวด่ิงของสง่ิ ปลูกสร้าง มีวตั ถุประสงคห์ ลักเพอื่ เหตใุ ดก. เพิ่มทิศทางการไหลของกระแสฟ้าผา่ ข. ลดค่าความตา้ นทานดินค. ปอ้ งกนั การเกดิ ประกายไฟจากตวั นา ง. กระแสฟา้ ผ่าไหลลงดนิ ได้เร็วขึน้70. ข้อใดไมใ่ ชว่ สั ดทุ ส่ี ามารถใช้เปน็ รากสายดนิ ได้ก. แท่งเหล็กอาบสงั กะสี ข. แทง่ เหล็กหุ้มทองแดงค. แทง่ อะลมู ิเนียม ง. แท่งทองแดง71. รากสายดนิ แบบวงแหวนควรหา่ งจากบริเวณทีต่ อ้ งการปอ้ งกันไม่นอ้ ยกวา่ เท่าใดก. 0.5 เมตร ข. 1 เมตรค. 1.5 เมตร ง. 2 เมตร72. ตวั นาในระบบลอ่ ฟ้าชนิดใดมคี า่ ความตา้ นทานจาเพาะต่าที่สดุ เม่อื มีพ้ืนทห่ี น้าตดั เท่ากนัก. ทองแดง ข. อะลมู เิ นยี มค. เหลก็ ชุบสงั กะสี ง. เหลก็ ห้มุ ทองแดง73. การออกแบบปอ้ งกันฟา้ ผา่ แบบใดมปี ระสิทธิภาพสูงสุดก. มมุ ป้องกัน ข. ตาขา่ ยค. ทรงกลมกล้งิ ง. ไม่แตกต่าง74. ขอ้ ใดไม่ใชห่ ลกั การในการป้องกันฟา้ ผ่าก. เพมิ่ ความเครยี ดสนามไฟฟา้ ท่ปี ลายตวั นาลอ่ ฟา้ ข. ลดความตา้ นทานดนิค. ให้กระแสฟา้ ผ่าไหลลงดินสะดวก ง. ใหก้ ระแสฟ้าผา่ ไหลลงดินเพยี งจุดเดยี ว75. ตวั นาชนดิ ใดคุณสมบัตเิ หมาะสมท่ีสดุ สาหรบั ใช้ในระบบป้องกนั ฟ้าผา่ก. ทองแดง ข. อะลมู เิ นยี มค. เหลก็ ชบุ สงั กะสี ง. เหล็กห้มุ ทองแดง76. โดยทว่ั ไปจะใชค้ ่าตวั ประกอบความต้องการมาคานวณเมื่อ ก. ระบบไฟฟ้ารวมมีขนาดเล็กและโหลดทัง้ หมดจะทางานพรอ้ มกนั ข. ระบบไฟฟ้ารวมมีขนาดเล็กและสายป้อนตามการคานวณปกติได้ 4 มม.2 ค. ระบบไฟฟ้ารวมมขี นาดใหญ่และโหลดทัง้ หมดจะทางานพรอ้ มกนั ง. ระบบไฟฟ้ารวมมีขนาดใหญ่และโหลดทง้ั หมดจะทางานไม่พรอ้ มกัน
77. เตา้ รับของวงจรย่อยกาหนดใหม้ ีไวเ้ พ่ือจ่ายตู้เยน็ ขนาด 200 วตั ต์ โดยระบวุ ่า PF 0.8 ในการออกแบบตอ้ งกาหนดโหลดเต้ารบั ดงั กลา่ วตา่ สดุ เทา่ ใด ก. 180 โวลตแ์ อมแปร์ ข. 200 โวลต์แอมแปร์ ค. 220 โวลตแ์ อมแปร์ ง. 250 โวลต์แอมแปร์78. ข้อใดไม่ใชผ่ ลอนั เน่อื งมาจากการนาคา่ ตวั ประกอบความต้องการมาใช้ในการคานวณ ก. ขนาดของสายปอ้ นลดลง ข. ขนาดของเครอื่ งปอ้ งกนั กระแสเกินท่บี รภิ ัณฑ์ประธานลดลง ค. ขนาดของสายประธานลดลง ง. จานวนวงจรที่บริภณั ฑป์ ระธานลดลง79. บา้ นหลงั หนงึ่ ใช้ไฟรวมทงั้ สิน้ 9 แอมแปร์ ขนาดของสายปอ้ นควรมีขนาดต่าสดุ เท่าใด ก. 1.5 มม.2 ข. 2.5 มม.2 ค. 4 มม.2 ง. 6 มม.280. ในระบบ 3 เฟส 4 สายวงจรหน่ึง มีกระแสไมส่ มดลุ สูงสุด 180 แอมแปร์ ขนาดกระแสของสายนวิ ทรลั ตา่ สุดควรเป็นเทา่ ใด ก. 126 แอมแปร์ ข. 140 แอมแปร์ ค. 180 แอมแปร์ ง. 200 แอมแปร์81. จากข้อ 80 ถ้ากระแสไมส่ มดลุ สงู สดุ เปน็ 300 แอมแปร์ ขนาดกระแสของสายนวิ ทรลั ตา่ สดุ ควรเปน็ เท่าใด ก. 200 แอมแปร์ ข. 270 แอมแปร์ ค. 300 แอมแปร์ ง. 340 แอมแปร์82. ต้องใช้ตวั นาอะลูมิเนยี มขนาดตา่ สดุ เท่าใด กรณที ี่ใช้เปน็ ตัวนาประธานเดนิ ในอากาศในเขตความรบั ผิดชอบของการไฟฟ้านครหลวง ก. 4 มม.2 ข. 10 มม.2 ค. 16 มม.2 ง. ผิดทุกข้อ83. ข้อใดไมจ่ าเป็นตอ้ งแสดงในตารางโหลด ก. พกิ ดั กระแสของสายไฟฟา้ ข. พกิ ดั กระแสของเคร่อื งป้องกนั กระแสเกนิ ค. ขนาดของโหลดในวงจร ง. ขนาดของสายในวงจร84. ข้อใดเรยี งลาดบั จากตน้ ทางไปยงั ปลายทาง ก. สายตัวนาประธาน สายวงจรยอ่ ย สายปอ้ น ข. สายตัวนาประธาน สายปอ้ น สายวงจรย่อย ค. สายป้อน สายวงจรย่อย สายตัวนาประธาน ง. สายปอ้ น สายตวั นาประธาน สายวงจรย่อย85. สง่ิ สาคัญท่ตี อ้ งคานึงถึงในการออกแบบระบบไฟฟา้ คอื ก. คา่ ใชจ้ ่ายทตี่ า่ ข. ความสะดวกในการใช้งาน ค. ความปลอดภัยในการใช้งาน ง. การใช้งานในอนาคต86. กระแสโหลดไมส่ มดลุ สงู สุดตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ เทา่ ใด จึงสามารถลดขนาดสายนวิ ทรลั ลงได้ ก. 50 แอมแปร์ ข. 100 แอมแปร์ ค. 150 แอมแปร์ ง. 200 แอมแปร์87. เครือ่ งปอ้ งกนั กระแสเกนิ ในบริภณั ฑป์ ระธาน ตอ้ งมพี ิกัดตดั กระแสไมน่ อ้ ยกว่าเทา่ ใด
ก. 5 กิโลแอมแปร์ ข. 10 กิโลแอมแปร์ค. 25 กิโลแอมแปร์ ง. 50 กิโลแอมแปร์88. เครือ่ งปลดวงจรระบบ 1 เฟส ขนาดกระแสเท่าใด ตอ้ งเป็นชนดิ สวิตซส์ าหรับตัดโหลดก. 50 แอมแปร์ ข. 100 แอมแปร์ค. 150 แอมแปร์ ง. 200 แอมแปร์89. การออกแบบวงจรย่อยจะใช้สายไฟฟา้ ขนาดเท่าใดก. 2.5 มม.² ข. 4 มม.²ค. 6 มม.² ง. 10 มม.²90. การออกแบบวงจรสายป้อนจะใชส้ ายไฟฟ้าขนาดเท่าใดก. 2.5 มม.² ข. 4 มม.²ค. 6 มม.² ง. 10 มม.²91. คา่ ตัวประกอบกาลังล้าหลังตา่ สุดควรมคี า่ เท่าใด เพอื่ หลกี เลี่ยงคา่ ปรบั จากทางการไฟฟา้ก. 1 ข. 0.9ค. 0.85 ง. 0.892. หม้อแปลงขนาด 500 KVA จะสามารถจา่ ยโหลดสูงสดุ ได้เทา่ ใด ถา้ กาหนดใหค้ า่ ตวั ประกอบกาลังเท่ากับ 1ก. 500 kW ข. 450 kWค. 425 kW ง. 400 kW93. ตามปกติแล้วโหลดของผู้ใช้ทว่ั ไป มุมเฟสของกระแสเมอื่ เทยี บกบั แรงดนั จะเป็นเช่นใดก. ตรงกัน ข. นาหน้าค. ลา้ หลงั ง. ขึ้นอยู่กบั กาลงั ไฟฟ้าปรากฏ94. ข้อใดไมใ่ ชข่ ้อดีของการปรับปรงุ คา่ ตวั ประกอบกาลงัก. ลดแรงดันตกคร่อม ข. ลดกาลังไฟฟา้ สญู เสยี ในสายค. ปรับให้กระแสมมี มุ นาหน้าแรงดัน ง. สามารถจ่ายกาลังแอคทฟี ไดเ้ พม่ิ ขน้ึ95. โหลดในขอ้ ใดมีคา่ ตวั ประกอบกาลงั เท่ากบั 1ก. โหลดความต้านทาน ข. โหลดคาปาซเิ ตอร์ค. โหลดมอเตอร์ ง. ถกู ทกุ ข้อ96. มุมตา่ งเฟสระหวา่ งกระแสและแรงดนั ของโหลดตวั เหน่ยี วนาอดุ มคตจิ ะมคี า่ เทา่ ใดก. 0 องศา ข. 45 องศาค. 90 องศา ง. 180 องศา97. มมุ ต่างเฟสระหวา่ งกระแสและแรงดนั ของโหลดคาปาซเิ ตอร์อดุ มคตจิ ะมีคา่ เทา่ ใดก. 0 องศา ข. 45 องศาค. 90 องศา ง. 180 องศา98.โหลดยอ่ ยในข้อใดไม่จาเป็นตอ้ งปรับปรงุ ค่าตวั ประกอบกาลังแม้วา่ ตัวประกอบกาลังรวมของระบบมีคา่ ต่ามากก. หลอดฟลูออเรสเซนต์ ข. หลอดไส้ค. มอเตอรส์ ายพาน ง. เคร่ืองปรบั อากาศ
99. เหตุใดจงึ ตั้งคา่ ตัวประกอบกาลงั ท่ีจะแกใ้ ห้ไมต่ า่ กวา่ 0.85ก. เพราะเป็นค่าสมดุลกาลังไฟฟ้าท้ัง 3 ข. แรงดันทโี่ หลดจะเทา่ กับแหลง่ จา่ ยพอดีค. เปน็ ค่าท่กี ารไฟฟา้ เรยี กเกบ็ เงนิ ง. แรงดันตกคร่อมสายไมเ่ กิน 5%100. ขอ้ ใดคือเหตผุ ลหลกั ในการปรับปรงุ ค่าตัวประกอบกาลังก. ลดคา่ ไฟ ข. ลดกาลงั สญู เสยีค. หม้อแปลงจ่ายโหลดไดเ้ พิม่ ขนึ้ ง. สายไฟฟ้าจา่ ยโหลดได้เพิ่มขึ้น101.คา่ แรงดันต่าสดุ ทยี่ อมรบั ไดข้ องเตา้ รบั ทว่ั ไปในระบบ 1 เฟส 2 สาย (ไม่รวมสายดนิ ) ควรมีค่าเท่าใดก. 213.4 โวลต์ ข. 209 โวลต์ค. 202.4 โวลต์ ง. 198 โวลต์102.จากข้อท่ี 1 ถา้ เปน็ ไปได้ค่าแรงดันทเ่ี ต้ารับดงั กลา่ วควรมคี ่าเทา่ ใด จงึ เหมาะสมทีส่ ดุก. 240 โวลต์ ข. 230 โวลต์ค. 220 โวลต์ ง. 213.4 โวลต์103. ขอ้ ใดมผี ลโดยตรงตอ่ ค่าอิมพแี ดนซข์ องสาย1ก. อุณหภมู ิของสายข. ขนาดของโหลดค. กระแสพิกดั ของโหลดง. แรงดนั พิกดั ของโหลด104.สายในข้อใดไม่มีสว่ นเกี่ยวขอ้ งกบั เรื่องของแรงดันตกก. สายเสน้ ไฟในระบบ 1 เฟสข. สายนิวทรัลในระบบ 1 เฟสค. สายเส้นไฟในระบบ 3 เฟสง. สายดนิ ในระบบ 3 เฟส105.ขอ้ ใดไมใ่ ช่วตั ถุประสงคใ์ นการติดต้ังคาปาซิเตอร์ในระบบไฟฟ้าก. แรงดันตน้ ทางลดลงข. ค่าตวั ประกอบกาลังดขี ้นึค. กาลังสูญเสยี ในสายลดลงง. แรงดันตกในสายลดลง106. ขอ้ ใดไม่มีผลตอ่ คา่ แรงดันตกในสายก. ระยะทางของสายข. ขนาดของสายค. แรงดนั ของโหลดง. มผี ลทุกขอ้107.ขอ้ ใดไมใ่ ช่ผลของแรงดนั ตกในสายก. แรงดนั ต้นทางลดลงข. แรงดันของโหลดตกลงค. กาลังสูญเสียในสายเพิ่มข้นึง. อณุ หภมู ขิ องสายสูงขึน้108.ขอ้ ใดไมใ่ ช่วิธีการลดแรงดันตกในสายก. เปลี่ยนสายตัวนาใหใ้ หญข่ ึ้นข. เพิม่ จานวนตวั นาโดยวธิ ีเดนิ สายควบ
ค. ปรับปรุงคา่ ตัวประกอบกาลังง. ลดแรงดนั ทโี่ หลด109.เพราะเหตุใดการคานวณแรงดันตกในสายของระบบ 1 เฟส ระยะทางจากแหล่งจ่ายไปโหลดจงึ ต้องคดิ เปน็ 2 เท่าก. เพราะทศิ ทางของกระแสมีท้ังไปและกลบัข. เพราะแรงดันตกในสายระบบ 1 เฟสจะเปน็ คร่ึงหนึ่งของระบบ 3 เฟสค. เปน็ การประมาณการเพอ่ื ชดเชยคา่ ตัวประกอบกาลังง. เป็นการประมาณการเพื่อชดเชยคา่อิมพแี ดนซ์รวมของระบบ110.กาลังสญู เสยี ในสายขนาด 4 มม.2 จา่ ยกระแสที่ 20 แอมแปร์ ความยาวที่ 200 เมตร มคี า่ ประมาณเทา่ ใดก. 879 วัตต์ ข. 440 วตั ต์ค. 44 วัตต์ ง. 22 วตั ต์111.แรงดันท่โี หลดอาจมีค่ามากกวา่ แรงดนั ทแี่ หลง่ จา่ ย หากค่าตัวประกอบของโหลดก. เทา่ กับ 1 ข. นาหนา้ค. ล้าหลงั ง. ไมแ่ นน่ อน112.ข้อใดท่กี ระแสในสายเทา่ กนั คา่ ตัวประกอบกาลังมผี ลต่อก. แรงดนั ท่โี หลดข. กาลังวัตต์แหล่งจ่ายค. ขนาดแรงดันตกครอ่ มในสาย ง. กาลงั สญู เสียในสาย113.ขนาดสายไฟฟ้าและกระแสทีเ่ ท่ากนั ระบบ 1 เฟส จะมีแรงดันตกครอ่ มในสายมากกว่าระบบ 3 เฟส ประมาณเทา่ ใดก. 5 % ข. 10 %ค. 15 % ง. 20 %114.สายขนาดใด เปอร์เซน็ ตแ์ รงดนั ตกมคี ่ามากทสี่ ดุก. 2.5 มม.2 ข. 6 มม.2ค. 16 มม.2 ง. 35 มม.2115.อปุ กรณ์ใดอาจเสียหายไดห้ ากแรงดนั ตา่ กว่าพกิ ดั เกินไปก. หลอดแสงสวา่ ง ข. เคร่อื งทาน้าร้อน ค. มอเตอร์ ง. โทรทัศน์116.กาลังของโหลดในข้อใดไมม่ หี น่วยเปน็ วาร์ก. โหลดชนิดความตา้ นทานข. โหลดชนิดตัวเหน่ยี วนาค. โหลดชนิดคาปาซิเตอร์ง. โหลดชนดิ ตัวเหนย่ี วนารวมกับคาปาซิเตอร์117.คา่ ตัวประกอบกาลงั ล้าหลงั ต่าสดุ ควรมคี ่าเทา่ ใด เพื่อหลีกเล่ยี งคา่ ปรับจากทางการไฟฟ้าก. 1 ข. 0.9ค. 0.85 ง. 0.8118.หมอ้ แปลงขนาด 500 KVA จะสามารถจา่ ยโหลดสงู สดุ ไดเ้ ท่าใด ถา้ กาหนดใหค้ ่าตวั ประกอบกาลงั เทา่ กบั 1ก. 500 kW ข. 450 kW
ค. 425 kW ง. 400 kW119.ตามปกติแลว้ โหลดของผูใ้ ชท้ วั่ ไป มุมเฟสของกระแสเมอื่ เทียบกบั แรงดนั จะเปน็ เช่นใด ก. ตรงกนัข. นาหนา้ค. ล้าหลังง. ข้นึ อยู่กับกาลงั ไฟฟ้าปรากฏ120.ขอ้ ใดไม่ใช่ข้อดีของการปรบั ปรุงค่าตัวประกอบกาลงัก. ลดแรงดนั ตกคร่อมข. ลดกาลังไฟฟ้าสูญเสยี ในสายค. ปรบั ให้กระแสมีมุมนาหนา้ แรงดนัง. สามารถจ่ายกาลังแอคทีฟไดเ้ พ่มิ ขึน้121.โหลดในข้อใดมีค่าตัวประกอบกาลังเท่ากับก. โหลดความต้านทานข. โหลดปาซเิ ตอร์ค. โหลดมอเตอร์ง. ขอ้ ก และ ค ถูก122. มุมตา่ งเฟสระหว่างกระแสและแรงดันของโหลดตวั เหนยี่ วนาอดุ มคตจิ ะมคี ่าเท่าใดก. 0 องศา ข. 45 องศาค. 90 องศา ง. 180 องศา123. มุมตา่ งเฟสระหวา่ งกระแสและแรงดนั ของโหลดคาปาซิเตอร์อดุ มคตจิ ะมีค่าเท่าใดก. 0 องศา ข. 45 องศาค. 90 องศา ง. 180 องศา124.โหลดตัวเหนี่ยวนาอุดมคติมีกระแส 10 แอมแปร์ และโหลดคาปาซิเตอร์อุดมคติมีกระแส 10 แอมแปร์ กระแสรวมของ โหลดท้ัง 2 จะมคี า่ เท่าใด ก. 0 แอมแปร์ ข. 5 แอมแปร์ค. 10 แอมแปร์ ง. 20 แอมแปร์125.โหลดย่อยในข้อใดไม่จาเป็นต้องปรบั ปรงุ คา่ ตัวประกอบกาลัง แมว้ า่ ตัวประกอบกาลังรวมของระบบมคี า่ ต่ามาก ก. หลอดฟลูออเรสเซนต์ ข. หลอดไส้ ค. มอเตอร์สายพาน ง. เครอ่ื งปรับอากาศ126.เหตุใดจึงตง้ั คา่ ตวั ประกอบกาลงั ทจี่ ะแก้ใหไ้ ม่ตา่ กว่า 0.85 ก. เพราะเปน็ คา่ สมดลุ กาลังไฟฟ้าทง้ั 3 ข. แรงดันท่โี หลดจะเท่ากบั แหลง่ จ่ายพอดี
ค. เปน็ ค่าทีก่ ารไฟฟ้าเรียกเกบ็ เงนิง. แรงดนั ตกครอ่ มสายไมเ่ กิน 5%127.ข้อใดไม่ใช่ผลของการปรับปรงุ คา่ ตวั ประกอบกาลงั แล้วทาใหค้ ่าไฟฟา้ ลดลงก. ตัวประกอบกาลังมากกว่า 0.85ข. กาลงั สูญเสียในสายลดลงค. กาลังสูญเสียในหมอ้ แปลงลดลงง. กาลังสญู เสยี ในโหลดลดลง128.ขอ้ ใดคือเหตผุ ลหลักในการปรบั ปรงุ ค่าตัวประกอบกาลงัก. ลดคา่ ไฟข. ลดกาลงั สูญเสยีค. หมอ้ แปลงจ่ายโหลดได้เพ่ิมขนึ้ง. สายไฟฟ้าจา่ ยโหลดได้เพ่ิมข้ึน129.หากแกค้ า่ ตวั ประกอบกาลังจาก 0.6 เปน็ 0.9 ตอ้ งใชค้ าปาซิเตอร์มากกว่าแก้เป็น 0.85 กี่เปอร์เซน็ ต์ก. 5% ข. 10%ค. 15% ง. 19%130.จากขอ้ ที่ 129 หากแก้เป็น 1 จะมากกว่าแก้เป็น 0.95 กเี่ ปอร์เซน็ ต์ก. 11% ข. 19%ค. 22% ง. 33%131.ข้อใดจดั เรยี งขนาดหรือกระแสพิกดั ของ วงจรย่อยจากนอ้ ยไปหามาก ก. กระแสรวมของโหลดในวงจร ขนาดกระแสของสายในวงจรย่อย กระแสพิกัดเครื่องป้องกนั กระแสเกนิ ข. กระแสรวมของโหลดในวงจร กระแสพิกัดเครื่องป้องกนั กระแสเกนิ ขนาดกระแสของสายในวงจรยอ่ ย ค. กระแสพกิ ดั เครอ่ื งป้องกนั กระแสเกนิ ขนาดกระแสของสายในวงจรยอ่ ย กระแสรวมของโหลดในวงจร ง. กระแสพกิ ัดเคร่ืองปอ้ งกันกระแสเกนิ กระแสรวมของโหลดในวงจร ขนาดกระแสของสายในวงจรย่อย132.โดยทั่วไปจะใช้คา่ ตวั ประกอบความต้องการมาคานวณเมือ่ ก. ระบบไฟฟา้ รวมมีขนาดเลก็ และโหลดท้ังหมดจะทางานพรอ้ มกนั ข. ระบบไฟฟา้ รวมมขี นาดเลก็ และสายป้อนตามการคานวณปกติได้ 4 มม.2 ค. ระบบไฟฟา้ รวมมขี นาดใหญ่และโหลดท้งั หมดจะทางานพร้อมกนั ง. ระบบไฟฟา้ รวมมีขนาดใหญ่และโหลดท้งั หมดจะทางานไมพ่ ร้อมกนั133.เต้ารบั ของวงจรยอ่ ยกาหนดใหม้ ไี ว้เพอ่ื จา่ ย ตู้เยน็ ขนาด 200 วัตต์ โดยระบุวา่ PF 0.8 ในการออกแบบตอ้ งกาหนดโหลดเตา้ รบั ดงั กลา่ วต่าสดุ เท่าใด จ. 180 โวลต์แอมแปร์ ฉ. 200 โวลตแ์ อมแปร์ ช. 220 โวลต์แอมแปร์ ซ. 250 โวลต์แอมแปร์134. ข้อใดไมใ่ ช่ผลอันเน่อื งมาจากการนาค่าตัวประกอบความต้องการมาใชใ้ นการคานวณ ก. ขนาดของสายปอ้ นลดลง
ข. ขนาดของเครอ่ื งปอ้ งกนั กระแสเกนิ ที่บรภิ ัณฑ์ประธานลดลง ค. ขนาดของสายประธานลดลง ง. จานวนวงจรที่บรภิ ัณฑ์ประธานลดลง135.บ้านหลงั หน่งึ ใช้ไฟรวมทง้ั สิ้น 9 แอมแปร์ ขนาดของสายปอ้ นควรมขี นาดตา่ สดุ เท่าใด ก. 1.5 มม.2 ข. 2.5 มม.2ค. 4 มม.2 ง. 6 มม.2136.ในระบบ 3 เฟส 4 สายวงจรหนึง่ มกี ระแสไมส่ มดลุ สงู สุด 180 แอมแปร์ ขนาดกระแสของสายนิวทรลั ตา่ สดุ ควรเปน็ เท่าใด ก. 126 แอมแปร์ ข. 140 แอมแปร์ค. 180 แอมแปร์ ง. 200 แอมแปร์137.จากข้อ 136 ถา้ กระแสไม่สมดุลสงู สุดเป็น 300 แอมแปร์ ขนาดกระแสของสายนวิ ทรลั ตา่ สุดควรเป็นเท่าใด ก. 200 แอมแปร์ ข. 270 แอมแปร์ค. 300 แอมแปร์ ง. 340 แอมแปร์138.ต้องใชต้ วั นาอะลูมเิ นยี มขนาดต่าสุดเท่าใด กรณที ีใ่ ชเ้ ปน็ ตวั นาประธานเดินในอากาศในเขตความรับผิดชอบของการไฟฟ้านครหลวงก. 4 มม.2 ข. 10 มม.2ค. 16 มม.2 ง. ผดิ ทกุ ข้อ139.ข้อใดไม่จาเปน็ ตอ้ งแสดงในตารางโหลด ก. พิกัดกระแสของสายไฟฟ้า ข. พิกัดกระแสของเคร่อื งปอ้ งกันกระแสเกนิ ค. ขนาดของโหลดในวงจร ง. ขนาดของสายในวงจร140.ขอ้ ใดเรียงลาดับจากต้นทางไปยงั ปลายทาง ก. สายตัวนาประธาน สายวงจรยอ่ ย สายปอ้ น ข. สายตวั นาประธาน สายปอ้ น สายวงจรยอ่ ย ค. สายป้อน สายวงจรยอ่ ย สายตัวนาประธาน ง. สายป้อน สายตวั นาประธาน สายวงจรย่อย141.สง่ิ สาคญั ท่ตี ้องคานงึ ถงึ ในการออกแบบระบบไฟฟ้าคอื ก. คา่ ใช้จา่ ยทต่ี ่า ข. ความสะดวกในการใชง้ าน ค. ความปลอดภัยในการใชง้ าน ง. การใช้งานในอนาคต142.ขอ้ ใดไม่ถกู ตอ้ งก. เต้ารับในวงจรย่อยเป็นแบบมีขวั้ สายดิน เฉพาะอุปกรณ์ไฟฟา้ ที่กาหนดว่าต้องตอ่ ลงดินข. โหลดของเตา้ รับใช้งานทัว่ ไป สามารถคานวณโหลดจดุ ละมากกวา่ 180 โวลตแ์ อมแปร์ได้ค.วงจรย่อยมเี คร่ืองตัดไฟรัว่ เฉพาะที่กาหนดว่าต้องมีเคร่อื งป้องกนั ไฟดูดก็พอ
ง.ขนาดพกิ ดั เคร่อื งป้องกันกระแสเกินใชข้ นาดเทา่ กับกระแสรวมของโหลดท้งั หมดในวงจรได้143. กระแสโหลดไมส่ มดลุ สงู สุดต้องไม่นอ้ ยกว่าเทา่ ใด จึงสามารถลดขนาดสายนิวทรัลลงได้ ก. 50 แอมแปร์ ข. 100 แอมแปร์ค. 150 แอมแปร์ ง. 200 แอมแปร์144. เคร่อื งป้องกันกระแสเกินในบรภิ ณั ฑป์ ระธาน ตอ้ งมพี กิ ดั ตัดกระแสไมน่ ้อยกวา่ เทา่ ใดก. 5 กิโลแอมแปร์ข. 10 กโิ ลแอมแปร์ค. 25 กโิ ลแอมแปร์ง. 50 กโิ ลแอมแปร์145. เครอ่ื งปลดวงจรระบบ 1 เฟส ขนาดกระแสเท่าใด ตอ้ งเปน็ ชนิดสวติ ซส์ าหรบั ตัดโหลดก. 50 แอมแปร์ ข. 100 แอมแปร์ค. 150 แอมแปร์ ง. 200 แอมแปร์146.ขอ้ ใดไม่ใช่หน้าท่ีหลักของแหล่งจ่ายไฟฟ้าสารอง ก. ใช้จ่ายไฟแทนแหลง่ จา่ ยไฟฟา้ หลัก ข. ใช้จ่ายไฟเมื่อแหลง่ จา่ ยไฟฟา้ หลกั ขดั ข้อง ค. ใช้จ่ายไฟเสรมิ แหล่งจ่ายไฟหลกั ง. ใช้ลดแรงดันไฟฟ้าหลกั ใหต้ า่ ลง147.โหลดในขอ้ ใดมคี วามจาเปน็ นอ้ ยสดุ ทีต่ อ้ งมีแหลง่ จา่ ยไฟฟา้ สารอง ก. เครือ่ งป๊มั นา้ สาหรบั อาคารสงู ข. ลิฟตโ์ ดยสาร ค. เครอ่ื งฉายสไลดห์ ้องประชมุ ง. ไฟแสงสวา่ งทางหนีไฟ148.แหลง่ จ่ายไฟฟา้ สารองชนิดใดที่มกี ารสั่นสะเทอื นในขณะทางานสูงสุด ก. ชนดิ เครือ่ งกาเนิดไฟฟา้ - เครอื่ งยนต์ ข. ชุดยูพเี อสชนดิ ออฟไลน์แบบอตั โนมัติ ค. ชดุ ยูพเี อสชนดิ ออฟไลนแ์ บบไมอ่ ตั โนมัติ ง. ชดุ ยูพีเอสชนิดออนไลน์149.การแบง่ กลุม่ โหลดตามความสาคญั ของโหลด ดาเนนิ การเพ่ือวัตถุประสงค์ใด ก. เพ่อื ให้ขนาดแหล่งจ่ายไฟฟ้าสารองใกล้เคียงกบั ขนาดแหลง่ จ่ายไฟฟ้าหลกั ข. เพอื่ ใหข้ นาดแหล่งจ่ายไฟฟ้าสารองลดลง ค. เพื่อใหข้ นาดแหลง่ จ่ายไฟฟา้ หลกั ลดลง ง. เพื่อให้ขนาดแหลง่ จ่ายไฟฟา้ สารองเท่ากับขนาดของแหลง่ จา่ ยไฟฟ้าหลัก150.โหลดชนดิ ใดจาเปน็ สูงสุดในการใชแ้ หลง่ จ่ายไฟฟ้าสารองชนิดยูพเี อสแบบออนไลน์ ก. ลิฟตโ์ ดยสาร ข. เครื่องปม๊ั นา้ สาหรับอาคารสงู ค. เครื่องช่วยหายใจ ง. เคร่อื ง X-RAY ผู้ปว่ ย
แผนผังการออกข้อสอบวชิ า การออกแบบระบบไฟฟ้า รหัสวชิ า (3104-2004) หมวดวิชาช่างอุตสาหกรรม สาขาวชิ าไฟฟ้ากาลัง สาขางานตดิ ตง้ั ไฟฟ้า หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชน้ั สูง(ปวส.) จดั ทาโดย อาจารยส์ งกรานต์ ยาใจดี แผนกชา่ งไฟฟ้ากาลงั วิทยาลยั อาชีวศกึ ษาเถินเทคโนโลยี
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: