50 รายช่อื มหาวิทยาลัย ปานกลาง ระดับคะแนน รวม 7 (12.1) จานวนคน (ร้อยละ) 58 (100) มหาวิทยาลยั ราชภัฏมหาสารคาม 1 (5.6) มาก มากที่สุด 18 (100) มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั หมูบ่ ้านจอมบึง 2 (7.4) 40 (69) 11 (19) 27 (100) มหาวิทยาลัยราชภฏั นครศรีธรรมราช 4 (26.7) 15 (83.3) 2 (11.1) 15 (100) มหาวิทยาลัยราชภัฎสรุ ินทร์ 1 (4.2) 23 (85.2) 2 (7.4) 24 (100) มหาวิทยาลัยราชภฏั นครสวรรค์ 5 (9.3) 10 (66.7) 1 (6.7) 54 (100) มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั เชียงราย 5 (25) 22 (91.7) 1 (4.2) 20 (100) มหาวิทยาลยั ราชภฏั เพชรบรู ณ์ 0 (0) 47 (87.0) 2 (3.7) 4 (100) มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เพชรบรุ ี 0 (0) 15 (75) 0 (0) 2 (100) มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏกาญจนบรุ ี 1 (100) 4 (100) 0 (0) 1 (100) มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา 0 (0) 2 (100) 0 (0) 1 (100) มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏพบิ ลู สงคราม 0 (0) 0 (0) 1 (100) 0 (0) 16.3.4 ผลการเปรียบเทียบคะแนนประเมินการรับรู้ความสามารถของตนเองเร่ืองการจัด ประสบการณ์เรยี นรู้เพอ่ื ส่งเสริมทกั ษะสมอง EF กอ่ นละหลงั การเรียนสาระวิชาสมองกับการเรยี นรู้ ผลคะแนนประเมินการรับรู้ความสามารถของตนเอง พบว่า ข้อมูลของนักศึกษาที่สามารถนามา วิเคราะหเ์ ปรยี บเทีบผลคะแนนการรับรูค้ วามสามารถของตนเองกอ่ นและหลังการเรียนรู้สาระวิชาสมองกับการ เรียนรู้ มีจานวน 217 คน โดยพบขอ้ มลู ดงั นี้ จากข้อมูลนักศึกษาท่ีตอบแบบประเมินการรับรู้ความสามารถของตนเอง ก่อนการเรียนรู้สาระวิชา สมองกับการเรียนรู้ ด้านความรู้ความเข้าใจเรื่องสมองกับการเรียนรู้ ครบถ้วน จานวน 214 คน พบว่า นักศึกษามีระดับการรับรู้น้อยสูงท่ีสุด จานวน 90 คน คิดเป็นร้อยละ 42.1 ด้านความสามารถในการจัด ประสบการณเ์ รยี นรเู้ พอ่ื สง่ เสรมิ EF เด็กปฐมวยั จานวน 214 คน พบว่า นักศึกษามีระดับการรับรู้ปานกลางสูง ที่สุด จานวน 95 คน คิดเป็นร้อยละ 44.4 ด้านความมุ่งมั่นต้ังใจในการส่งเสริมทักษะสมอง EF เด็กปฐมวัย จานวน 216 คน พบว่า นักศึกษามีระดับการรับรู้มากสูงท่ีสุด จานวน 145 คน คิดเป็นร้อยละ 67.1 (ตารางท่ี 41)
51 ตารางที่ 41 แสดงจานวนและร้อยละของการรับร้คู วามสามารถของตนเองทัง้ 3 ด้าน ก่อนการเรียนรู้สาระวิชา สมองกับการเรยี นรู้ ระดับการ การรบั ร้คู วามสามารถของตนเอง รับรู้ ดา้ นความรคู้ วามเข้าใจเรอ่ื ง ดา้ นความสามารถในการจัด ด้านความมุ่งมั่นตงั้ ใจในการ สมองกบั การเรียนรู้ ประสบการณเ์ รียนรเู้ พื่อ ส่งเสรมิ ทักษะสมอง EF เดก็ สง่ เสรมิ EF เดก็ ปฐมวัย ปฐมวัย จานวน (คน) รอ้ ยละ จานวน (คน) ร้อยละ จานวน (คน) รอ้ ยละ น้อย 90 42.1 48 22.4 30 13.9 ปานกลาง 52 24.3 95 44.4 35 16.2 มาก 66 30.8 68 31.8 145 67.1 มากท่ีสดุ 6 2.8 3 1.4 6 2.8 รวม 214 100.0 214 100.0 216 100.0 ข้อมูลนักศกึ ษาท่ตี อบแบบประเมนิ การรับรู้ความสามารถของตนเอง หลังการเรียนรสู้ าระวิชาสมองกับ การเรียนรู้ ด้านความรู้ความเข้าใจครบถ้วน จานวน 207 คน พบว่า นักศึกษามีระดับการรับรู้มากสูงท่ีสุด จานวน 129 คน คิดเป็นร้อยละ 62.3 ด้านความสามารถในการจัดประสบการณ์เรียนรู้เพ่ือส่งเสริม EF เด็ก ปฐมวัย จานวน 211 คน พบว่า นักศึกษามีระดับการรับรู้ปานกลางสูงที่สุด จานวน 104 คน คิดเป็นร้อยละ 49.3 ด้านความมุ่งมัน่ ตั้งใจในการสง่ เสริมทกั ษะสมอง EF เดก็ ปฐมวัย จานวน 215 คน พบว่า นักศึกษามีระดับ การรบั รู้มากสงู ทส่ี ดุ จานวน 169 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 78.6 (ตารางท่ี 42) ตารางที่ 42 แสดงจานวนและรอ้ ยละของการรบั รคู้ วามสามารถของตนเองท้ัง 3 ด้าน หลังการเรียนรู้สาระวิชา สมองกบั การเรียนรู้ ระดับการ การรบั รู้ความสามารถของตนเอง รับรู้ ด้านความรู้ความเข้าใจเร่อื ง ด้านความสามารถในการจดั ดา้ นความมงุ่ มน่ั ตัง้ ใจในการ สมองกบั การเรียนรู้ ประสบการณเ์ รยี นรู้เพื่อ สง่ เสรมิ ทักษะสมอง EF เด็ก สง่ เสริม EF เดก็ ปฐมวยั ปฐมวัย จานวน (คน) รอ้ ยละ จานวน (คน) รอ้ ยละ จานวน (คน) ร้อยละ นอ้ ย 3 1.4 8 3.8 0 0 ปานกลาง 18 8.7 104 49.3 25 11.6 มาก 129 62.3 78 37.0 169 78.6 มากท่สี ุด 57 27.5 21 10.0 21 9.8
52 ระดบั การ การรับรูค้ วามสามารถของตนเอง รับรู้ ดา้ นความรคู้ วามเขา้ ใจเรือ่ ง ด้านความสามารถในการจดั ดา้ นความมุ่งมั่นตัง้ ใจในการ สมองกับการเรยี นรู้ ประสบการณเ์ รยี นร้เู พ่ือ ส่งเสริมทักษะสมอง EF เด็ก สง่ เสรมิ EF เด็กปฐมวัย ปฐมวัย จานวน (คน) รอ้ ยละ จานวน (คน) ร้อยละ จานวน (คน) ร้อยละ รวม 207 100.0 211 100.0 215 100.0 ภาพประกอบ 5 แสดงร้อยละของการรับรู้ความสามารถของตนเอง ด้านความรู้ความเข้าใจเร่ืองสมอง กบั การเรยี นรู้ กอ่ นและหลังการเรียนรสู้ าระวิชาสมองกับการเรียนรู้ ในหลกั สูตรการศึกษาปฐมวัยของนักศึกษา ทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการจานวน 207 คน เปน็ แผนภูมิแท่ง ดา้ นความรคู้ วามเขา้ ใจ 70 62.3 60 30.8 27.5 50 24.3 2.8 42.1 8.7 มากทส่ี ดุ 40 ปานกลาง มาก กอ่ นการอบรม หลังการอบรม 30 20 10 1.4 0 น้อย ภาพประกอบ 5 แผนภมู ิแท่งแสดงรอ้ ยละการรับรู้ความสามารถของตนเอง ด้านความรู้ความเข้าใจเร่ืองสมอง กบั การเรยี นรู้ กอ่ นและหลงั การเรียนรู้สาระวชิ าสมองกับการเรยี นรู้ ในหลักสตู รการศึกษาปฐมวัยของนักศึกษา ทเ่ี ข้าร่วมโครงการ ภาพประกอบ 6 ร้อยละการรับรู้ความสามารถของตนเอง ด้านความสามารถในการจัดประสบการณ์ เรียนรเู้ พื่อส่งเสริม EF เด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการเข้าร่วมอบรมนักศึกษาในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยท่ีเข้า รว่ มโครงการจานวน 207 คน เป็นแผนภมู ิแทง่
53 ด้านความสามารถในการจดั ประสบการณเ์ รยี นรูเ้ พือ่ ส่งเสรมิ EF เดก็ ปฐมวยั 60 49.3 37 10 50 44.4 31.8 1.4 40 ปานกลาง มาก มากท่สี ดุ 30 22.4 20 10 3.8 0 น้อย ก่อนการอบรม หลังการอบรม ภาพประกอบ 6 แผนภูมิแท่งแสดงร้อยละการรับรู้ความสามารถของตนเอง ด้านความสามารถในการจัด ประสบการณ์เรยี นรูเ้ พื่อสง่ เสรมิ EF เดก็ ปฐมวัย กอ่ นและหลงั การเข้าร่วมอบรมนักศึกษาในหลักสูตรการศึกษา ปฐมวยั ทเ่ี ข้าร่วมโครงการ ภาพประกอบ 7 แสดงร้อยละการรับรู้ความสามารถของตนเอง ด้านความมุ่งม่ันตั้งใจในการส่งเสริม ทักษะสมอง EF เด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการเรียนรู้สาระวิชาสมองกับการเรียนรู้ ในหลักสูตรการศึกษา ปฐมวยั ของนกั ศึกษาทเ่ี ขา้ ร่วมโครงการจานวน 207 คน เป็นแผนภมู ิแทง่
54 ด้านความมงุ่ ม่ันตงั้ ใจในการสง่ เสรมิ ทักษะสมอง EF เด็กปฐมวยั 100 78.6 80 67.1 60 40 20 13.9 16.2 11.6 9.8 0 ปานกลาง มาก 2.8 ก่อนการอบรม หลังการอบรม 0 มากท่ีสดุ น้อย ภาพประกอบ 7 แผนภูมิแท่งแสดงร้อยละการรับรู้ความสามารถของตนเอง ด้านความมุ่งม่ันต้ังใจในการ ส่งเสริมทักษะสมอง EF เด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการเรียนรู้สาระวิชาสมองกับการเรียนรู้ ในหลักสูตร การศกึ ษาปฐมวัยของนกั ศึกษาทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการ เมอ่ื นาคะแนนภาพรวมการรับรู้ความสามารถของตนเองท้ัง 3 ด้าน มาวิเคราะห์เพื่อเปรียบเทียบด้วย คะแนนก่อน และหลังการเรียนรู้สาระวิชาสมองกับการเรียนรู้พบว่า ระดับคะแนนภาพรวมการรับรู้ ความสามารถของตนเองของนักศึกษาก่อนการเรียนรสู้ าระวิชาสมองกับการเรียนรู้ สูงกว่าหลังการเรียนรู้สาระ วิชาสมองกับการเรียนรู้ อย่างมนี ยั สาคัญทางสถติ ิที่ระดบั .05 (ตารางท่ี 43) ตารางที่ 43 แสดงผลการเปรียบเทียบระดับคะแนนของการรับรู้ความสามารถของตนเองก่อนและหลังการ เรียนรสู้ าระวิชาสมองกบั การเรยี นรู้ การอบรม N X S.D. t Sig. ก่อน 200 46.26 12.816 -13.308 .000* หลัง 200 60.16 7.393 *ระดับนัยสาคญั ท่ี .05 ภาพประกอบ 8 แสดงค่าเฉล่ียการรับรู้ความสามารถของตนเอง ก่อนและหลังการเรียนรู้สาระวิชา สมองกับการเรยี นรู้ นกั ศกึ ษาในหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัยทีเ่ ขา้ รว่ มโครงการ เป็นแผนภมู แิ ทง่
55 การรับรู้ความสามารถของตนเอง 70 หลงั การอบรม, 60.16 60 ก่อนการอบรม, 50 46.26 40 30 20 10 0 Note *** p< .05 ภาพประกอบ 8 แผนภูมแิ ท่งแสดงค่าเฉลย่ี การรบั รูค้ วามสามารถของตนเอง ก่อนและหลังการเรียนรสู้ าระวชิ า สมองกบั การเรียนรู้ นักศกึ ษาในหลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั ท่เี ขา้ รว่ มโครงการ 17. สรุปและอภิปรายผล การศึกษาคร้ังนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของหลักสูตรพัฒนาอาจารย์สาขาปฐมวัยศึกษาใน มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏต่อความรู้ ความเข้าใจ การรบั รู้ความสามารถของตนเองและทักษะการสอนวิชาสมองและ การเรียนรูข้ องอาจารยส์ าขาปฐมวยั ศกึ ษาในมหาวิทยาลัยราชภฏั โดยโครงการพัฒนาขึ้นจากสถาบันอาร์แอลจี และมหาวิทยาลัยราชภัฏ ได้ทาการตกลงในการทาโครงการความร่วมเพื่อพัฒนาหลักสูตรด้านการส่งเสริม ทักษะสมองส่วนหน้า (ExecutiveFunctions - EF) และพัฒนาอาจารย์สาขาปฐมวัยศึกษาในมหาวิทยาลัย ราชภัฏ ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณของ สสส. ในการจัดทาคู่มือและพัฒนาหลักสูตรสาหรับอาจารย์ สาขาปฐมวัย มหาวิทยาลัยราชภัฏท้ัง 38 แห่ง โดยจะนาผลจากการวิจัยคร้ังน้ีไปผลักดันให้เกิดการพัฒนา หลักสูตรด้านการส่งเสริมทักษะสมองส่วนหน้า ให้องค์ความรู้น้ีปักฝังหมุดเป็นความรู้ฐานรากด้านการพัฒนา เด็กอยา่ งเป็นองคร์ วมตอ่ ไป อาจารย์มหาวทิ ยาลัยราชภัฏทเี่ ขา้ รว่ มโครงการ แบง่ ออกเปน็ สองรุ่น รุน่ ที่หน่งึ มจี านวน 38 คนและรุ่น ที่สองมีจานวน 91 คน การประเมินแบ่งออกเป็น 5 ช่วง โดยสามช่วงแรก เป็นการประเมินผลอาจารย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏที่เข้าร่วมโครงการอบรมฯ และช่วงที่ 4 และ 5 เป็นการติดตามประเมินผลจากนักศึกษา หลักสตู รปฐมวยั ช้ันปีท่ี 1 ไดเ้ รยี นรู้สาระวิชาสมองและการเรียนรู้จากอาจารย์ที่เข้ารับการอบรมและนาไปสอน ดงั น้ี
56 1) ชว่ งที่ 1 เป็นการประเมินความร้คู วามเข้าใจเรื่องสาระวิชาสมองกับการเรียนรู้ และการรับรู้ ความสามารถของตนเองในการสอนสาระวิชาสมองและการเรียนรู้ ของอาจารย์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏทีเ่ ข้ารับการอบรมในโครงการฯ ก่อนการอบรม 2) ช่วงท่ี 2 เป็นการประเมนิ ความรู้ความเข้าใจเรื่องสาระวิชาสมองกับการเรียนรู้ และการรับรู้ ความสามารถของตนเองในการสอนสาระวิชาสมองและการเรียนรู้ ของอาจารย์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ทีเ่ ข้ารับการอบรมในโครงการฯ หลงั การอบรม 3) ช่วงที่ 3 เป็นการติดตามประเมินทักษะการสอนของอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏ ในสาระ วิชาสมองและการเรียนรู้ตามหลักการบูรณาการสมองและการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง ให้กบั นักศกึ ษาหลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั ช้ันปีที่ 1 ในหอ้ งเรยี นจริง 4) ช่วงที่ 4 เป็นการติดตามประเมินผลความร้คู วามเข้าใจเรือ่ งสมองกับการเรียนรู้ และการรับรู้ ความสามารถของตนเองในการจัดประสบการณ์เรียนรู้เพ่ือส่งเสริมทักษะสมอง EF เด็ก ปฐมวัย ของนักศึกษาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยชั้นปที่ 1 ก่อนการเรียนรู้วิชาสมองกับการ เรยี นรู้ 5) ช่วงที่ 5 เป็นการติดตามประเมนิ ผลความร้คู วามเขา้ ใจเร่อื งสมองกับการเรยี นรู้ และการรับรู้ ความสามารถของตนเองในการจัดประสบการณ์เรียนรู้เพ่ือส่งเสริมทักษะสมอง EF เด็ก ปฐมวัย ของนักศึกษาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยชั้นปที่ 1 หลังการเรียนรู้วิชาสมองกับการ เรยี นรู้ ผลการวิจัยพบว่า ก่อนและหลังการทดลอง อาจารย์ผู้เข้าร่วมโครงการ มีคะแนนความรู้ความเข้าใจ เรื่องสาระวิชาสมองกับการเรียนรู้ และการรับรู้ความสามารถของตัวเองในการสอนสาระวิชาสมองกับการ เรียนรู้ แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .001 โดยมีคะแนนความรู้ความเข้าใจ และการรับรู้ ความสามารถของตนเองหลักการอบรม มากกว่า คะแนนก่อนอบรม นอกจากน้ียังพบว่า อาจารย์ผู้เข้าร่วม โครงการ มีทกั ษะในการสอนตามหลักการทางานของสมอง EF มากขึ้น มีการให้ความสาคัญกับการมีส่วนร่วม ของผูเ้ รยี นมากข้นึ และการเรยี นการสอนเน้นการลงมือปฏบิ ัตติ ลอดทง้ั ภาคการศึกษา ท่ีสาคัญเม่ือติดตามผลจากการเปลี่ยนแปลงความรู้ ทักษะ และการรับรู้ความสามารถของตนเองของ อาจารย์ผู้เข้าร่วมโครงการ จากการประเมินความรู้ความเข้าใจ และการรับรู้ความสามารถของตนเองของ นักศึกษาช้ันปีท่ี 1 ท่ีได้เรียนรู้วิชาสมองกับการเรียนรู้ พบว่า ก่อนและหลังการเรียนรู้วิชาสมองกับการเรียนรู้ นักศึกษาชน้ั ปีท่ี 1 ทไี่ ด้เรยี นกับอาจารย์ผู้เข้าร่วมโครงการ มีคะแนนความรู้ความเข้าใจเรื่องสาระวิชาสมองกับ การเรยี นรู้ และการรบั รู้ความสามารถของตวั เองในการจดั ประสบการณ์เรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะสมอง EF เด็ก ปฐมวัย แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 โดยนักศึกษา มีคะแนนความรู้ความเข้าใจ และการ รับรู้ความสามารถของตนเองหลักการเรียนรู้ มากกว่า คะแนนก่อนการเรยี นรูว้ ิชาสมองกบั การเรียนรู้
57 สรปุ และอภิปรายผลการศกึ ษา การออกแบบหลักสูตรการฝึกอบรมอาจารย์สาขาการศึกษาปฐมวัยในสาระวิชาสมองและการเรียนรู้ สาหรับเด็กปฐมวัย ใช้หลักการบูรณาการสมองและการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง เป็นแนวทางในการ ออกแบบโครงร่างของหลักสูตรฯ ซ่ึงเป็นแนวทางการสอนที่บูรณาการทั้งเน้ือหา กระบวนการสอน และการ ประเมนิ โดยเปา้ หมายของหลักสูตรฯ คือ ผู้เข้าอบรมเกิดการเปลี่ยนแปลงท้ังทางด้านความรู้ ด้านทักษะ และ ดา้ นเจตคติ ดังนั้นตัวชว้ี ดั ความสาเรจ็ ของการอบรมคร้ังนี้ จึงมีแบบทดสอบด้านความรู้ความเข้าใจเรื่องการจัด ประสบการณ์เรียนรู้ตามหลกั บรู ณาการสมองและการเรยี นรเู้ พ่อื การเปลย่ี นแปลงในการศึกษาปฐมวัย ก่อนการ อบรม หลงั การอบรมเปน็ ตวั ชวี้ ดั ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ ส่วนตัวชี้วัดด้านเจตคติ ใช้แบบประเมินการรับรู้ความสามารถของตนเองในการวางแผน และจัด กระบวนการสอนในสาระวิชาสมองและการเรียนรู้สาหรับเด็กปฐมวัย รวมถึงการสะท้อนบอกความรู้สึกถึง ความสาคัญในวิชาชีพของตนเองในฐานะอาจารย์สาขาการศึกษาปฐมวัย และเจตคติท่ีมีต่อนักศึกษาสาขา การศกึ ษาปฐมวยั เปน็ ระยะๆ ตลอดการอบรม สาหรับตัวชี้วัดด้านทักษะในการวางแผนการจัดกระบวนการสอนตามหลักการทางานของสมอง EF และกระบวนการเรียนรู้แบบ PL มาบูรณาการร่วมกันเป็นวิธีการสอน ใช้การเปิดเวทีให้ผู้เข้าอบรมสาธิตการ ประยุกต์ใช้เน้ือหาความรู้ด้านสมองในการวางแผนการจัดการเรียนการสอน และกระบวนการทวนแผนการ จัดการเรียนการสอนทีส่ อดคลอ้ งตามหลักการบูรณาการฯ ผลทไี่ ดร้ บั ปรากฏเป็นหลกั ฐานประจักษ์แสดงถึงการบรรลุเป้าหมายของการอบรมครั้งนี้ คือ 1. ผู้เข้าอบรมสะท้อนบอกได้ว่าการเรียนรู้ที่ทาให้ตนเองเกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดจากการได้รับ ประสบการณ์ตรงในการใช้ทักษะสมอง EF ของตนเองในการเข้าร่วมกิจกรรมและกระบวนการ ของวิทยากร 2. ผู้เข้าอบรมสามารถออกแบบการจัดการเรียนการสอนที่สะท้อนถึงความเชื่อม่ันในศักยภาพของ ตนเอง และความเช่ือม่ันในศักยภาพของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ว่าจะสามารถเกิดการเรียนรู้เพ่ือการ เปลี่ยนแปลงได้จากกระบวนการจัดการเรียนการสอนตามหลักบูรณาการฯ ที่ผู้เข้าอบรมได้ รว่ มกนั ออกแบบเอง 3. ผเู้ ขา้ อบรมแสดงใหเ้ หน็ ถึงความสามารถในการออกแบบกจิ กรรม กระบวนการเรยี นการสอน และ การทบทวนแผนการจัดการเรียนการสอน บนฐานของหลักการเดียวกัน คือ หลักการบูรณาการ สมองและการเรียนรูเ้ พอ่ื การเปลี่ยนแปลง และ เป้าหมายเดยี วกัน คือ การจัดประสบการณ์เรียนรู้ ท่ีมีคุณภาพเพียงพอให้นักศึกษาสามารถเกิดการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านความรู้ ทกั ษะ และเจตคติ เกิดการเตบิ โตทางความคดิ พัฒนาไปสู่การเป็นครปู ฐมวยั ทมี่ คี ณุ ภาพ
58 ขอ้ จากัดงานวจิ ยั 1. ข้อจากัดในการบริหารหลักสูตรปฐมวัยภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏแต่ละแห่ง มีการเปิดวิชาสมอง กบั การเรียนรู้ ไม่ทุกแห่ง บางแห่งยังไม่เปิดสอน บางแห่งนาสาระวิชาสมองกับการเรียนรู้ไปบูรณาการกับวิชา อื่นๆ ในงานวิจัยช้ินน้ี จึงเก็บข้อมูลด้านทักษะในการสอนสาระวิชาสมองกับการเรียนรู้ เฉพาะอาจารย์ที่ สามารถเปิดสอนรายวชิ าสมองกับการเรยี นรู้ เทา่ น้นั 2. ข้อจากัดของนักวิจัยในการลงพ้ืนที่เพื่อสังเกตติดตามให้คาปรึกษาและคาแนะนาแก่อาจารย์ผู้สอน วชิ าสมองกับการเรียนรู้อยา่ งใกลช้ ิด แตใ่ ช้วธิ ีการสนทนากลุ่มแทน ซึง่ ทาใหก้ ารแกไ้ ขปญั หายังไม่ทนั ทว่ งที การนาผลการศึกษาไปประยุกตใ์ ช้ 1. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการเพ่ิมคุณภาพบุคลากรการศึกษาปฐมวัยด้านความรู้สมองกับการ เรยี นรู้ และความสามารถในการสง่ เสริมทกั ษะสมอง EF เดก็ ปฐมวยั 2. การนาหลักสูตรการฝึกอบรมอาจารย์สาขาการศึกษาปฐมวัยในสาระวิชาสมองและการเรียนรู้ สาหรับเดก็ ปฐมวยั เปน็ หนงึ่ ในวชิ าหลักในหลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั 3. ขยายการจดั อบรมหลกั สูตรการฝึกอบรมอาจารย์สาขาการศึกษาปฐมวัยในสาระวิชาสมองและการ เรยี นรู้สาหรับเด็กปฐมวยั ไปสู่อาจารย์ในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ 4. ขยายการจัดอบรมความรู้เร่ืองสมองและการเรียนรู้ให้แก่ครูปฐมวัยในศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียน อนุบาล 5. การนาหลักการบูรณาการสมองและการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงไปสร้างเครื่องมือส่งเสริม และ ประเมินคุณภาพครูปฐมวัย
Search