Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ไตรภูมิพระร่าง ตอน มนุสสภูมิ

ไตรภูมิพระร่าง ตอน มนุสสภูมิ

Published by Helper Forwork, 2021-12-14 17:23:05

Description: ไตรภูมิพระร่าง ตอน มนุสสภูมิ

Search

Read the Text Version

ไตรภมู ิพระรวง ตอน มนุสสภูมิ

01 ประวัติผแู ตง พระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลไิ ท) พระมหาธรรมราชาที่ 1 เปนกษัตริยองคท่ี 6 แหงกรุงสุโขทัย เสดจ็ ขนึ้ ครองราชยใ น พ.ศ.1890 ทรงเปน พระมหากษตั รยิ ท ที่ รงธรรม มพี ระปรีชาสามารถในศิลปศาสตรแขนงตาง ๆ เชน พุทธศาสตร ดาราศาสตร โหราศาสตร พญาลิไท ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเปนอยางมาก จึงไดสละ ราชสมบัติออกผนวชที่วัดปามะมวง นอกเมืองสุโขทัยทางทิศ ตะวันตกและทรงพระราชนิพนธ หนังสือไตรภูมิพระรวง ซึ่งเปน ผลงานการคน ควา ทสี่ าํ คญั ทางศาสนา หลงั ตากทท่ี รงขน้ึ ครองราชย ไดประมาณ 6 ป ประมาณ พ.ศ.1896

ลกั ษณะคําประพันธ 02 รอยแกว ประเภทความเรยี งสาํ นวนพรรณนานนั้ ใชถ อ ยคาํ ทชี่ ดั เจน โนม นา วใหค ลอ ยตาม และมกี ารใชภ าษาทคี่ อ นขา ง จะเขาใจยาก จดุ มุงหมายในการแตง เพ่ือเทศนาโปรดพระมารดา เปนการเจริญธรรมกตัญู เพื่อใชส่ังสอนประชาชนใหมีคุณธรรม เขาใจพุทธศาสนา และชวยกนั ธาํ รงพระพุทธศาสนา

03 เนื้อหา ไตรภูมิพระรวง ตอน มนุสสภูมิ กลาวถึงการกําเนิดของ มนษุ ยไ วอ ยา งละเอยี ดเปน ขนั้ ตอน ตง้ั แตเ รม่ิ ปฏสิ นธจิ นกระทงั่ คลอดจากครรภม ารดา ซ่งึ การกําเนิดของมนุษยเปนส่ิงที่ยากลําบาก ดังน้ัน เม่ือมีโอกาสไดถึงกําเนิดออกมาและอยูรอดปลอดภัย ก็ควรกระทําความดี เพื่อใหกุศลผลแหงการทํา ความดีน้ันติดตัวสงผลใหไดไปเกิดในชาติภาพที่ดีหรือ บรรลุนิพพาน

04 เนื้อหา การกาํ เนดิ มนุษย มนุสสภูมิเปนภูมิหน่ึงในกามภูมิ ซึ่งกลาวถึงเนื้อหาของการ กําเนิดมนุษยเอาไว โดยกลาวถึงมนุษยผูชายหรือผูหญิงท่ี ปฏิสนธิในทองของแมจะเร่ิมตนโดยการเปน “กลละ” หรือ เซลลท ีม่ ีขนาดเลก็ ทีส่ ดุ พอครบ 7 วนั จะมลี กั ษณะเหมอื นนา้ํ ลา งเนอื้ เรยี กวา “อมั พทุ ะ” อกี 7 วนั ถดั มาจะเปน ชน้ิ เนอื้ ในครรภม ารดา หรอื เรยี กวา “เอส”ิ ซง่ึ มาลกั ษณะขน เหมอื นตะกวั่ เชอื่ มในหมอ และอกี 7 วนั ตอ มา จะแขง็ เปน กอ นเหมอื นไขไ ก ซงึ่ เรยี กวา “ฆนะ” จากนนั้ จะคอ ย ๆ ใหญข้ึนทกุ วนั

05 เนือ้ หา หลังจากเปนฆนะได 7 วัน ก็จะเปน “เบญจสาขาหูด” โดยคําวาเบญจ แปลวา 5 ดังนั้น จึง หมายถึง หูดท่ีมี 5 ตุม ไดแก หัว 1 ตุม แขน 2 ตุม และขา 2 ตุม ตอจากน้ันไปอีก 7 วัน จะเร่ิมมีฝามือ น้ิวมือ และเม่ือครบ 42 วันจึงมีขนมีเล็บเทา เล็บมือ มีอวัยวะครบถวน ทุกประการแบบมนษุ ย นอกจากนนั้ ในไตรภมู พิ ระรว ง ตอน มนสุ สภมู ยิ งั บอกกอกี วา เดก็ ทเี่ กดิ ใน ทองแมน นั้ มีรปู รา ง 184 ประการ แบง ออกเปน สว นบน ตงั้ แตคอถงึ ศีรษะ มี 84 รูป สว นกลาง ตั้งแตค อถงึ สะดือ มี 50 รปู สว นลา ง ต้ังแตสะดอื ถึงฝา เทา มี 50 รูป โดยเดก็ ทอ่ี ยใู นทอ งนน้ั ตอ งไดร บั ความลาํ บากอยา งมาก ตอ งทนอยใู นทท่ี ่ี ท้งั ช้ืนและเหมน็ พยาธิ ซงึ่ อาศยั ปนอยูในทองแม

เนื้อหา 06 การคลอด ทอง 6 เดอื นคลอด : ไมร อด ทอง 7 เดือนคลอด : ไมแ ขง็ แรง การเกิด มาจากสวรรค : ตัวเยน็ ออกมาแลวหัวเราะ มาจากนรก : ตัวรอน ออกมาแลว รองไห กาลทงั้ 3 ไดแก กาลที่ 1 : แรกเกดิ ในทองแม กาลท่ี 2 : อยูในทองแม กาลที่ 3 : ออกจากในทองแม คนธรรมดา : ไมรู จาํ ไมไดทง้ั 3 กาล พระปจ เจกโพธเิ จา / พระอรหันตาขีณาสพเจา / พระอัครสาวกเจา : 2 กาลแรกรตู ัว จําได แตลมื การท่ี 2

07 เนือ้ หา ความหมาย เดก็ ทอ่ี ยใู นทอ งแมน น้ั ไดร บั ความลาํ บากอยา งมาก เนื่องจากตองอาศัยอยูในที่เหม็นและช้ืน อกี ท้ังยังมพี ยาธิปะปนอยู คําศัพท คนกนั : ปนกนั ระคนกัน ครอก : ลูกสัตวหลายตัวท่ีเกิดขึ้นพรอมกัน ในคราวเดียว ตดื : พยาธใิ นทอ งชนิดหนึ่ง เออื น : พยาธใิ นทองชนิดหน่ึง

รูปแบบ 08 รปู แบบการแตงเปน รอ ยแกว ทมี่ สี ัมผัสคลองจอง ดคุณาคนา โดยกวแี ตง ประโยคใหเขาใจงาย ไมซบั ซอ น เนื้อหา องคป ระกอบของเรอ่ื ง เรอื่ งไตรภมู ิพระรวง ตอน มนุสสภมู ิ แสดงการเกิดของ มนุษยท ั้งชายหญิง ต้ังแตแ รกเกิดจนถงึ คลอดนัน้ เปน ไปดว ยความเจ็บปวดทรมาน โครงเรอ่ื ง มกี ารลาํ ดับความเปน ไปตามข้ันตอน กลวธิ ีการแตง เปน การรเลา เรอื่ งตามลาํ ดบั โดยใช บรรยายโวหาร เปนหลัก แตจะใชพ รรณาโวหารในตอนท่ตี องการใหรายละเอียด

09 การสรรคํา ดคุณา คนา มีการเลอื กใชค าํ ใหเ หมาะแกล กั ษณะคาํ ประพันธ มีการเลนคําสมั ผัสคลองจอง วรรณศิลป มกี ารใชค าํ ทมี่ คี าํ หมายเหมอื นกนั หรอื ใกลเ คยี งกนั มกี ารยาํ้ คาํ ทม่ี คี วามหมายเหมอื นกนั หรอื ใกลเ คยี งกนั มกี ารเลน อกั ษร เสยี งสมั ผสั สระ และ สมั ผสั พยญั ชนะ คาํ ศพั ท มีการใชบ รรยายโวหาร มกี ารใชพรรณาโวหาร มีการใชอ ุปมาโวหาร

สะทอ นความเชือ่ ของคนในสังคม 10 ความเชอ่ื ในเรื่องกรรม ดคสณุงั าคคนมา ความเช่อื ในเร่อื งการเวียนวา ยตายเกิด ความเชอ่ื ในเรอ่ื ง นรก สวรรค ความเชื่อในเรอ่ื ง บุญ บาป สะทอ นแนวคดิ ของคนในสังคม สะทอ นการเกิดของมนุษย สะทอ นใหเห็นสัจธรรมของชวี ติ

ขอบคณุ ครับ/คะ นาย ชาครีย ธรรมกิตติยา เลขที่ 2 (PowerPoint) นางสาว ปญุ ญิศรา อนุชิตชาญชัย เลขที่ 4 (Present) นาย ภูสิทธิ์ หลาเพชร เลขที่ 6 (Present) นาย กรรวี พลู ทอง เลขท่ี 10 (PowerPoint) นาย ชษิ ณพุ งศ วังชากร เลขท่ี 13 (PowerPoint) นาย เมสสยิ สทิ ธ์ิ พรอ มวงค เลขที่ 19 (Present) นาย ศภุ นฐั เทศแดง เลขที่ 22 (Present)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook