Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ ๑ ดอกสร้อยแสนงาม

บทที่ ๑ ดอกสร้อยแสนงาม

Published by kansiri. kingko, 2022-03-03 17:07:42

Description: บทที่ ๑ ดอกสร้อยแสนงาม

Search

Read the Text Version

กาดาและนกขมิน้ ในดอกสร้อย เหล่านกน้อยน่ารกั เสยี หนกั หนา นทิ านอีสปสนกุ นกึ ฝึกปัญญา เร่อื งนกกาให้ข้อคิดติดเตือนตน

บา่ ยวันหน่ึง คณุ ครูใจดีน่ังคุยกับเด็ก ๆ ใต้ร่มไม้ คณุ ครูพดู ว่า “วันน้แี ดดไม่รอ้ น ลมพดั เยน็ สบาย บนต้นไม้ก็มนี กนอ้ ยมาอาศยั ฟงั สิ...เสยี งนกร้องเพลง ช่างไพเราะ เรามาร้องเพลงกันดีไหม”

เด็ก ๆ พากันยมิ้ ดีใจ รบี เขา้ มาใกล้ รุมล้อมคุณครู เด็กชายมีใจพดู ว่า “ผมอยากร้องเพลง กาเอ๋ยกา ครับ” แล้วลกุ ข้ึนทาท่าทาง พลางร้องเพลง

กาเอ๋ยกา บนิ มาไวไว มาจับต้นโพ โผมาต้นไทร

เด็กชายมใี จร้องเพลงไป ทาท่าบนิ มาบินไป เพ่อื น ๆ ไม่รอชา้ ต่างรอ้ งเพลง กาเอ๋ยกา แล้ว ทาท่าบนิ มาบินไป คณุ ครูใจดีย้มิ สดใส ชอบใจเพลง กาเอ๋ยกา แล้ว ทาท่าบินมาบินไป คุณครูบอกว่า “ครูก็มเี พลง กาดา จะมารอ้ ง ใหฟ้ ัง” เด็ก ๆ รบี พากันน่ัง รอฟงั เพลงจากคุณครู

กาดา กาเอ๋ยกาดา รู้จารู้จักรักเพ่อื น ได้เหย่อื เผ่อื แผ่ไมแ่ ชเชอื น รีบเตือนพวกพอ้ งร้องเรยี กมา เกล่ือนกล้มุ รุมล้อมพรอ้ มพรกั น่ารกั นา้ ใจกระไรหนา การเผ่อื แผ่แนะ่ พ่อหนจู งดูกา มนั โอบอารรี ักดีนกั เอย (นายแกว้ , ดอกสรอ้ ยสุภาษิต, กระทรวงศกึ ษาธกิ าร) บทอาขยาน บทหลัก

พอคุณครูรอ้ งเพลงจบ เด็ก ๆ พากันปรบมือให้ แล้วถามว่า “คณุ ครูร้องเพลงอะไร ทาไมไม่เหมอื น เพลงที่เคยฟังล่ะครบั ” คุณครูใจดีบอกว่า “เพลง กาดา ท่ีครูร้อง เป็นบทดอกสรอ้ ยของเก่า ตอนเด็ก ๆ ครูเคยอ่าน เป็นทานองเสนาะ ถ้าอ่านออกเสียงใหไ้ พเราะ บทดอกสร้อยก็จะน่าฟงั ”

เด็ก ๆ ขอใหค้ ณุ ครูช่วยสอนอ่านบทดอกสรอ้ ย



๑. “นกอะไรเอ่ย สดี าท้ังกายา รอ้ ง กา กา กังวานไกล”



๒. มารอ้ งเพลง กาเอ๋ยกา พรอ้ มทาท่าไปตามเพลง

เพลง กาเอ๋ยกา กาเอ๋ยกา บนิ มาไวไว มาจับต้นโพ โผมาต้นไทร

๓. ใครรูจ้ ัก นกกา บา้ ง เล่าให้กันฟัง

กา หรอื กาดา กา เปน็ ช่ือนกชนดิ หน่งึ พบเหน็ ได้หลายถ่ินของโลก และในประเทศไทย เสียงรอ้ ง กา กา นา่ จะเป็นท่ีมาของ การเรยี กช่อื ว่า กา และยงั นยิ มเรียกว่า อีกา หรอื กาดา ตามสขี น คนไทยคงติดตาขนสีดาสนทิ ของกา จนกล่าวเปน็ สานวนเปรยี บเทียบคนใจดา ว่า “ใจดาเหมอื นอีกา” กา สามารถส่ือสารทาท่าทาง ทาเสยี งรอ้ ง ได้แตกต่างตามที่ต้องการ และเลียนเสียง คาพดู ได้ดีไมแ่ พ้นกขุนทอง

๔. ฝกึ อ่านบทดอกสรอ้ ย กาดา เป็นทานองเสนาะพรอ้ มกัน

กาดา กาเอ๋ยกาดา รู้จารู้จักรักเพ่อื น ได้เหย่อื เผ่อื แผ่ไมแ่ ชเชอื น รบี เตือนพวกพอ้ งร้องเรยี กมา เกล่ือนกล้มุ รุมล้อมพรอ้ มพรกั นา่ รกั น้าใจกระไรหนา การเผ่อื แผ่แนะ่ พอ่ หนจู งดูกา มนั โอบอารรี ักดีนักเอย (นายแกว้ , ดอกสรอ้ ยสภุ าษิต, กระทรวงศกึ ษาธกิ าร) บทอาขยาน บทหลัก

๕. เม่อื อ่านบทดอกสรอ้ ย กาดา แล้วลองศกึ ษาธรรมชาติของกา เพ่มิ เติม เด็ก ๆ คิดว่านิสัยของกา เป็นอยา่ งไร “กาใจดา” หรอื “กาใจด”ี หนูตอบอยา่ งนม้ี เี หตผุ ลใด

๖. อ่านคาต่อไปนี้ เลือกได้หรอื ไม่ ว่า อยากเปน็ เพ่ือนกับคนทม่ี ี “ใจ” แบบใด

ใจดี ใจร้าย ใจดา ใจกว้าง ใจแคบ ใจซ่ือ ใจคด ใจงาม ใจทราม ใจโอบอ้อมอารี ใจเอ้ือเฟ้ อื เผ่อื แผ่ ใจเมตตากรุณา

๗. มารูจ้ ัก บทดอกสรอ้ ย

บทดอกสรอ้ ย ดอกเอ๋ยดอกสรอ้ ย ทกุ บาทบทเรยี งร้อยเลิศล้าค่า “กาเอ๋ยกาดา” ด่ังตารา เป่ ยี มน้าใจนกั หนาหนอกาดา กลอนดอกสรอ้ ยมี “เอ๋ย” ในวรรคแรก สัมผสั แทรกสรรคารมช่างคมขา ครบแปดวรรคจบพจนบ์ ทลานา อย่าลืมคาสุดท้ายใหใ้ ชเ้ อย

๘. บทดอกสรอ้ ยทไ่ี พเราะและใหข้ อ้ คิดดี ๆ นอกจากบท กาดา แล้วยงั มอี กี จานวนมาก เชน่ มดแดง แมวเหมยี ว เด็กน้อย ลองอ่านบท นกขม้นิ เหลืองอ่อน แล้วช่วยกนั บอกความดี ของนกขม้นิ ว่าเปน็ แบบอยา่ งในเร่อื ง “พากเพยี รชอบ” คือความขยนั หม่ันเพยี ร อยา่ งเหมาะสม อย่างไรบา้ ง

นกขม้นิ เหลืองอ่อน ปักเอ๋ยปกั ษิน นกขม้ินเร่ือเรืองเหลืองอ่อน ถึงเวลาหากินก็บินจร คร้ันสายัณห์ผนั รอ่ นมานอนรงั ความเคยค้นุ สกุณาอุตสาหะ ไม่เลยละพ่มุ ไม้ที่ใจหวัง เพราะพากเพียรชอบที่มีกาลัง เป็นที่ต้ังตนรอดตลอดเอย (หลวงมลโยธานุโยค (นก), ดอกสรอ้ ยสุภาษิต, กระทรวงศกึ ษาธกิ าร)

๙. อ่านนิทานอสี ปสนุกนักหนา เร่อื ง กากับเหยอื กน้า” มาติดตามกันว่า กาตัวนด้ี อี ยา่ งไร แล้วลองต้ังช่ือเร่อื งใหม่ให้เหมาะสม

กากับเหยือกน้า กาตัวหน่ึง รูส้ ึกกระหายน้ามาก จึงบินออกไป หาน้ามาประทังชวี ิต ไปพบเหยอื กน้าใบหน่งึ เหน็ มี นา้ อยู่ รูส้ ึกยินดีมาก แต่พอจะกินก็รูว้ ่าในเหยอื กมี นา้ อยู่นอ้ ยเหลือเกิน กาพยายามผลักเหยือกจะให้ เอียงล้มลง เพ่อื จะได้กินน้า แต่เหยือกหนกั เกินไป จนผลักไมไ่ หว ในที่สุดก็คิดข้ึนได้ จึงใช้ปากคาบหนิ ก้อนเล็ก ๆ ใส่ลงไปในเหยือกทีละก้อน ๆ ทาให้ระดับ น้าสูงข้นึ จนสามารถกินนา้ ได้ดังที่หวัง (นิทานอสี ป ฉบับโครงการนวัตกรรมส่อื การเรียนรูภ้ าษไทย, กระทรวงศกึ ษาธกิ าร)

๑๐. บอกได้หรอื ไม่ ภาพต่อไปนี้ ตรงกับสานวนเกย่ี วกับนกในขอ้ ใด ใครตอบได้ถูกต้องและรวดเรว็ ทส่ี ุด เป็นผู้ชนะ

ก. นกปกี หัก ข. นกมีหู หนมู ปี กี ค. สงสารลูกนกลูกกา ง. นกสองหวั จ. เสียงนกเสียงกา ฉ. ปล่อยนก ปล่อยกา ช. ยงิ ปืนนดั เดียว ได้นกสองตัว ซ. นกนอ้ ยทารังแต่พอตัว ฌ. ชนี้ กเป็นนก ชไ้ี มเ้ ป็นไม้

ก. นกปกี หัก ข. นกมีหู หนมู ปี กี ค. สงสารลูกนกลูกกา ง. นกสองหวั จ. เสียงนกเสียงกา ฉ. ปล่อยนก ปล่อยกา ช. ยงิ ปืนนดั เดียว ได้นกสองตัว ซ. นกนอ้ ยทารังแต่พอตัว ฌ. ชนี้ กเป็นนก ชไ้ี มเ้ ป็นไม้

ก. นกปกี หัก ข. นกมีหู หนมู ปี กี ค. สงสารลูกนกลูกกา ง. นกสองหวั จ. เสียงนกเสียงกา ฉ. ปล่อยนก ปล่อยกา ช. ยงิ ปืนนดั เดียว ได้นกสองตัว ซ. นกนอ้ ยทารังแต่พอตัว ฌ. ชนี้ กเป็นนก ชไ้ี มเ้ ป็นไม้

ก. นกปกี หัก ข. นกมีหู หนมู ปี กี ค. สงสารลูกนกลูกกา ง. นกสองหวั จ. เสียงนกเสียงกา ฉ. ปล่อยนก ปล่อยกา ช. ยงิ ปืนนดั เดียว ได้นกสองตัว ซ. นกนอ้ ยทารังแต่พอตัว ฌ. ชนี้ กเป็นนก ชไ้ี มเ้ ป็นไม้

ก. นกปกี หัก ข. นกมีหู หนมู ปี กี ค. สงสารลูกนกลูกกา ง. นกสองหวั จ. เสียงนกเสียงกา ฉ. ปล่อยนก ปล่อยกา ช. ยงิ ปืนนดั เดียว ได้นกสองตัว ซ. นกนอ้ ยทารังแต่พอตัว ฌ. ชนี้ กเป็นนก ชไ้ี มเ้ ป็นไม้

ก. นกปกี หัก ข. นกมีหู หนมู ปี กี ค. สงสารลูกนกลูกกา ง. นกสองหวั จ. เสียงนกเสียงกา ฉ. ปล่อยนก ปล่อยกา ช. ยงิ ปืนนดั เดียว ได้นกสองตัว ซ. นกนอ้ ยทารังแต่พอตัว ฌ. ชนี้ กเป็นนก ชไ้ี มเ้ ป็นไม้

ก. นกปกี หัก ข. นกมีหู หนมู ปี กี ค. สงสารลูกนกลูกกา ง. นกสองหวั จ. เสียงนกเสียงกา ฉ. ปล่อยนก ปล่อยกา ช. ยงิ ปืนนดั เดียว ได้นกสองตัว ซ. นกนอ้ ยทารังแต่พอตัว ฌ. ชนี้ กเป็นนก ชไ้ี มเ้ ป็นไม้

ก. นกปกี หัก ข. นกมีหู หนมู ปี กี ค. สงสารลูกนกลูกกา ง. นกสองหวั จ. เสียงนกเสียงกา ฉ. ปล่อยนก ปล่อยกา ช. ยงิ ปืนนดั เดียว ได้นกสองตัว ซ. นกนอ้ ยทารังแต่พอตัว ฌ. ชนี้ กเป็นนก ชไ้ี มเ้ ป็นไม้

ก. นกปกี หัก ข. นกมีหู หนมู ปี กี ค. สงสารลูกนกลูกกา ง. นกสองหวั จ. เสียงนกเสียงกา ฉ. ปล่อยนก ปล่อยกา ช. ยงิ ปืนนดั เดียว ได้นกสองตัว ซ. นกนอ้ ยทารังแต่พอตัว ฌ. ชนี้ กเป็นนก ชไ้ี มเ้ ป็นไม้



คาศพั ท์ กล้มุ รุมกันเขา้ ไป มักใช้ซ้อนกับคาว่า รุม เปน็ กล้มุ รุม และคาว่า รุม เกล่ือน มกั ใช้ซ้อนกับคาว่า ล้อม เป็น รุมล้อม แชเชือน กระจัดกระจายอยูท่ ่ัวไป ชักช้า, เถลไถล

คาศพั ท์ ต้นไทร (อ่านว่า ต้น – ไซ) ต้นโพ ช่อื ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ใบหนาทึบ ต้นไทรมีหลายชนิด บางชนิด มีรากหอ้ ยย้อยออกมาจากก่ิง ช่อื ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีใบรูปหวั ใจ ปลายใบเรยี วยาวคล้ายหาง นยิ มปลูกในวัด

คาศพั ท์ ทานองเสนาะ (อ่านว่า ทา – นอง – สะ – เหนาะ) วิธีการออกเสียงอยา่ งไพเราะตามลีลา ของร้อยกรองแต่ละชนดิ ธรรมชาติ (อ่านว่า ทา – มะ – ชาด) ความเป็นไปเป็นอยู่ตามปกติธรรมดา ของสิ่งใดสงิ่ หน่งึ เช่น ธรรมชาติของนก ธรรมชาติของคน ธรรมชาติของปา่ ไม้ เปน็ ต้น

คาศพั ท์ นกขม้นิ (อ่านว่า นก – ขะ – มนิ้ ) ช่อื นก มหี ลายชนิด หลายสี แต่ที่คนไทย รูจ้ ักดีคือ นกขมิ้นสเี หลืองอ่อน ๆ นกขุนทอง ช่อื นกในวงศ์เดียวกับนกเอ้ียง ขนสีดาเล่ือม เปน็ มัน ท่ีปากมขี นสีขาวแซม ปากสีแสด ขาและตีนสีเหลืองจัด รอ้ งเลียนเสยี งคน หรอื เสยี งอ่ืน ๆ บางอย่างได้ต้น

คาศพั ท์ ปรบมือ ใช้ฝ่ามอื สองขา้ งตบกันหลาย ๆ คร้ัง เพ่อื แสดงความพอใจหรอื ยนิ ดี เผ่อื แผ่ เอ้ือเฟ้ อื พร้อมพรกั รวมอยูพ่ ร้อมหนา้ กัน วรรค (อ่านว่า วัก) ตอนหน่ึง ๆ ของคาท่ีเขียนต่อเน่ืองกัน เหย่อื ในท่ีนหี้ มายถึง อาหารท่ีหามาได้

คาศพั ท์ เหยือก ภาชนะใส่น้า มขี นาดใหญ่และสงู กว่าถ้วย อารี มหี จู ับขา้ งเดียว อุตสาหะ มาจาก โอบอ้อมอารี หมายถึง มนี า้ ใจเอ้ือเฟ้ ือเผ่อื แผ่ (อ่านว่า อุด – สา – หะ) บากบ่นั , อดทน, ไม่ย่อท้อ




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook