Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น

การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น

Published by Yupharat Thongthuean, 2021-02-01 09:31:08

Description: การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น

Search

Read the Text Version

เทคโนโลยี ชันมธั ยมศึ กษาปที (วทิ ยาการคํานวณ) 1 การเขยี น โปรแกรมเบอื งต้น ค รู ยุ พ า รั ต น์ ท อ ง เ ถื อ น

การเขียนโปรแกรมเบอื งตน้ โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ( Computer Programming ) คอื ชดุ คําสงั ทสี งั ใหค้ อมพวิ เตอรส์ ามารถทํางานไดต้ รงตาม ความตอ้ งการและความถกู ตอ้ ง เชน่ โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ สําหรบั สงั ใหค้ อมพวิ เตอรพ์ มิ พเ์ อกสาร โปรแกรมสําหรบั วาดภาพ เปนตน้ การเขยี นโปรแกรม (Programming) คอื การเขยี นชดุ คําสงั ดว้ ยภาษาโปรแกรมทสี งั ใหค้ อมพวิ เตอรส์ ามารถ ทํางานไดต้ รงตามความตอ้ งการ และสามารถทํางานได้ อยา่ งถกู ตอ้ ง ซงึ เปนการกําหนดขนั ตอนใหก้ บั คอมพวิ เตอร์ ทาํ งานตามลําดบั และรปู แบบทกี ําหนดไว้

1. หลกั การเขียนโปรแกรม การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรน์ ัน ผเู้ ขยี นโปรแกรมจะตอ้ ง เลอื กใชภ้ าษาโปรแกรมทเี หมาะสม รวมถงึ ตอ้ งเขา้ ใจโครงสรา้ งและ ไวยากรณข์ องภาษาโปรแกรมนันๆ หลกั การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ บอื งตน้ การกําหนด / วเิ คราะหป์ ญหา (Analysis the problem) การออกแบบโปรแกรม (Design a program) การเขยี นโปรแกรม (Coding) การทดสอบโปรแกรม (Testing) 1. การกาํ หนดและวเิ คราะหป์ ญหา (Analysis the problem) ผเู้ ขยี นโปรแกรมตอ้ งกําหนดปญหาและตอ้ งทําความเขา้ ใจปญหา โดยการวเิ คราะหป์ ญหาซงึ เน้ สงิ ทนี ักพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ควรกระทํากอ่ นเสมอ เพอื ทําความเขา้ ใจกบั ปญหา ทเี กดิ ขนึ และคน้ หาวตั ถปุ ระสงคใ์ นการเขยี นโปรแกรม คอมพวิ เตอร์ การวเิ คราะหป์ ญหามอี งคป์ ระกอบสําคญั ดงั นี

1) กําหนดวตั ถปุ ระสงคข์ องโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 2) กําหนดลกั ษณะขอ้ มลู นํ าเขา้ โดยกําหนดวา่ มขี อ้ มลู นํ าเขา้ อะไร เปนขอ้ มลู ชนิดใด และนํ าเขา้ อยา่ งไร พรอ้ มทงั กําหนดตวั แปลและประเภทของตวั แปรสําหรบั ขอ้ มลู นันๆ 3) กําหนดลกั ษณะขอ้ มลู นํ าออก โดยกําหนดวา่ มขี อ้ มลู นํ า ออกอะไรบา้ ง เปนขอ้ มลู ประเภทใด และนํ าออกอยา่ งไร พรอ้ ม กําหนดตวั แปลและประเภทของตวั แปลสําหรบั ขอ้ มลู นํ าออ กนันๆ 4) กําหนดวธิ กี ารประมวลผลหรอื วธิ กี ารคํานวณ เพอื ใชแ้ ก้ ปญหาตามวตั ถปุ ระสงคข์ องโปรแกรมคอมพวิ เตอร์การแก้ ปญหานันมวี ธิ กี ารประมวลผลไดห้ ลายวธิ ีโดยขนึ อยกู่ บั ความ เหมาะสมและผวู้ เิ คราะห์ 2. การออกแบบโปรแกรม (Design a program) เปนการออกแบบการทํางานของโปรแกรมคอมพวิ เตอร์หรอื ขนั ตอนในการแกป้ ญหา รวมทงั หน้าจอการทาํ งานของโปรแกรม ซงึ ผอู้ อกแบบสามารถเลอื กใชเ้ ครอื งมอื ตา่ งๆ ทเี หมาะสมมาชว่ ย ในการออกแบบได้ โดยแยกการออกแบบโปรแกรม คอมพวิ เตอรเ์ ปน 2 ลกั ษณะ ดงั นี

1) การออกแบบอลั กอรทิ มึ (Algorithm) คอื การออกแบบ ลําดบั ขนั ตอนการทํางานกอ่ นและหลงั ของโปรแกรม โดย สามารถเลอื กเขยี นได้ 3 ลกั ษณะ ดงั นี - ภาษาธรรมชาติ (Natural Language) คอื การบรรยาย ขนั ตอนการทํางานของอลั กอรทิ มึ ใดๆโดยใชภ้ าษามนษุ ย์ เพอื อธบิ ายถงึ ลําดบั ขนั ตอนการทํางานของอลั กอรทิ มึ ตามลําดบั การทาํ งานกอ่ นหลงั - รหสั จาํ ลอง (Pseudo Code) รปู แบบภาษาทมี โี ครงง สรา้ งชดั เจน กระชบั เพอื ใชอ้ ธบิ ายขนั ตอนการทาํ งานของอลั กอ รทิ มึ ใดๆโดยไมข่ นึ กบั ภาษาโปรแกรมใดภาษาหนึงและสามารถ แปลงรหสั จําลองเปนภาษาคอมพวิ เตอรไ์ ดง้ า่ ย โดยรหสั จําลอง สามารถใชร้ ปู แบบคําสงั ทเี ปนภาษาองั กฤษหรอื ภาษาไทยกไ็ ด้ อกี ทงั สามารถใชค้ ําสงั เฉพาะทมี อี ยใู่ นภาษาโปรแกรม คอมพวิ เตอรม์ าชว่ ยในการเขยี นรหสั จําลองได้ - ผงั งาน (Flowchart) เปนการใชแ้ ผนภาพสญั ลกั ษณเ์ พอื แสดงลําดบั ขนั ตอนการทํางาน ซงึ ชว่ ยลําดบั แนวคดิ ในการ เขยี นโปรแกรม เรยี กวา่ program flowchart เปนวธิ ที นี ิยมใช้ เพราะทําใหเ้ หน็ ภาพในการทํางานของโปรแกรมซงึ งา่ ยกวา่ การ ใชข้ อ้ ความ และเมอื มขี อ้ ผดิ พลาด สามารถดจู ากผงั งานจะทําให้ การแกไ้ ขหรอื ปรบั ปรงุ โปรแกรมทําไดง้ า่ ยขนึ

2) การออกแบบสว่ นตดิ ตอ่ ผใู้ ช้ (User Interface) การ ออกแบบหน้าจอการทาํ งานของโปรแกรมคอมพวิ เตอร์จะตอ้ ง ออกแบบใหใ้ ชง้ านงา่ ย สะดวก ไมซ่ บั ซอ้ น และตอ้ งคํานึงถงึ ความตอ้ งการของผใู้ ชง้ านเปนหลกั มชี อื โปรแกรม ในกรณที ผี ู้ ใชง้ านตอ้ งใสข่ อ้ มลู ใดๆผา่ นทางหน้าจอควรมขี อ้ ความกํากบั ที สนั กระชบั และควรมขี อ้ ความแสดงผลลพั ธท์ ไี ดอ้ อกมาหลงั จาก โปรแกรมประมวลผลแลว้ ทงั นี การออกแบบสว่ นตดิ ตอ่ ผใู้ ชท้ ดี ี คอื กที่ ผี ใู้ ชง้ านสามารถใชง้ านโปรแกรมคอมพวิ เตอรน์ ันไดท้ นั ที โดยใชค้ มู่ อื การใชง้ านน้อยทสี ดุ 3) การเขยี นโปรแกรม (Coding) เปนขนั ตอนการเขยี นชดุ คําสงั ดว้ ยภาษาโปรแกรม เพอื พฒั นาหรอื สรา้ งโปรแกรม คอมพวิ เตอรใ์ หส้ ามารถทํางานไดต้ รงตามความตอ้ งการ โดย เขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรน์ ัน ผเู้ ขยี นจะตอ้ งเขยี นชดุ คําสงั ตาม โครงสรา้ ง (Structure) และไวยากรณ์ (Syntax) ของภาษา โปรแกรมคอมพวิ เตอรท์ เี ลอื กใช้โดยชดุ คําสงั ทไี ดจ้ ากขนั ตอน การเขยี นโปรแกรมนี เรยี กวา่ ซอรส์ โคด้ (Source Code) การ เขยี นโปรแกรมมขี นั ตอน ดงั นี 1) เขยี นคําสงั (Coding) คอื ขนั ตอนการเขยี นชดุ คําสงั ให้ ถกู ตอ้ งตามโครงสรา้ งและไวยากรณข์ องแตล่ ะภาษาโปรแกรม

2) แปลภาษา (Compile) คอื ขนั ตอนการแปลชดุ คําสงั จาก คําสงั ทเี ขยี นขนึ มาจาก 1) ใหเ้ ปนภาษาคอมพวิ เตอร์โดยภาษา โปรแกรมแตล่ ะภาษาจะมโี ปรแกรมสําหรบั แปลชดุ คําสงั เรยี กวา่ คอมไพเลอร์ (Compiler) ตดิ ตงั อยใู่ นภาษาโปรแกรมนันอยแู่ ลว้ และสงิ ทไี ดจ้ ากขนั ตอนการแปลภาษา คอื ไฟลโ์ ปรแกรมที พรอ้ มทาํ งาน 3) สงั ใหไ้ ฟลโ์ ปรแกรมทาํ งาน (Run) คอื การเรยี กไฟล์ โปรแกรมใหท้ าํ งานตามความตอ้ งการการเขยี นโปรแกรม คอมพวิ เตอรพ์ นื ฐานนันจะประกอบดว้ ยคําสงั ตา่ งๆ ดงั นี - คําสงั การประกาศตวั แปร เพอื สรา้ งตวั แปรสําหรบั เกบ็ คา่ ตา่ งๆ เชน่ ขอ้ มลู นํ าเขา้ ผลลพั ธก์ ารประมวลผล เปนตน้ - คําสงั การรบั คา่ หรอื รบั ขอ้ มลู นํ าเขา้ เพอื รบั คา่ ขอ้ มลู ไป ประมวลผล - คําสงั การคํานวณ หรอื ประมวลผลขอ้ มลู เพอื นํ าขอ้ มลู ที รบั เขา้ มาคํานวณหรอื ประมวลตา่ งๆ - คําสงั การแสดงผล หรอื ขอ้ มลู นํ าออก เพอื แสดงผลลพั ธ์ ทไี ดจ้ ากการประมวลผล

4) การทดสอบโปรแกรม (Testing) เปนขนั ตอนการตรวจ สอบความถกู ตอ้ งของโปรแกรมกอ่ นนํ าไใชง้ านจรงิ เพอื ผเู้ ขยี น โปรแกรมสามารถระบคุ วามผดิ พลาดของโปรแกรมไดใ้ นกรณที ี โปรแกรมมจี ดุ ผดิ พลาดซอ่ นอยู่ พรอ้ มทงั ดําเนินการแกไ้ ขจดุ ผดิ พลาดของดงั กลา่ ว โดยการเขยี นโปรแกรมทดี นี ัน ผเู้ ขยี นควร ทําการทดสอบโปรแกรมทกุ ครงั เพอื ใหโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ทํางานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และตรงตามความตอ้ งการของผใู้ ชง้ าน ซงึ การทดสอบโปรแกรมเบอื งตน้ นัน ผเู้ ขยี นโปรแกรมสามารถ ทดสอบไดด้ ว้ ยตนเองใน 2 ลกั ษณะ ดงั นี 1) Black Box Testing คอื การทดสอบโปรแกรมโดย พจิ ารณาขอ้ มลู นํ าเขา้ และความถกู ตอ้ งของผลลพั ธท์ ไี ดจ้ ากการ ทํางานของโปรแกรมเปนหลกั โดยยงั ไมพ่ จิ ารณาการประมวล ผลภานในโปรแกรม เปรยี บเสมอื นกลอ่ งดําทไี มส่ ามารถมอง เหน็ สงิ ทอี ยภู่ ายในกลอ่ ง 2) White Box Testing คอื การทดสอบโปรแกรมโดย พจิ ารณาขอ้ มลู นํ าเขา้ และความถกู ตอ้ งของผลลพั ธท์ ไี ดจ้ ากการ ทาํ งานของโปรแกรม และความถกู ตอ้ งของการประมวลผล ภายในโปรแกรม เปรยี บเสมอื นกลอ่ งโปรง่ ใสทสี ามารถมองเหน็ สงิ ทอี ยภู่ ายในกลอ่ งได้ ทาํ ใหก้ ารทดสอบโปรแกรมลกั ษณะนีมี ความซบั ซอ้ นมากกวา่ การทดสอบ Black Box Testing

2. โปรแกรมภาษา C 1) ประวตั แิ ละความเปนมาของภาษา C ภาษา C พฒั นาขนึ ในชว่ งระหวา่ งป ค.ศ. 1969 - 1973 โดย เดนนิส รติ ชี(Dennis Ritchie) แหง่ Bell Lab ซงึ ภาษา C มตี น้ กําเนิดมาจากภาษา 2 ภาษา คอื ภาษา BCPL และภาษา B และได้ รบั การรบั รองมาตรฐานโดย ANSI ซงึ ภาษา C เปนโปรแกรม หนึงทไี ดร้ บั ความนิยมแพรห่ ลายมาจนถงึ ปจจบุ นั 2) คําสงั และไวยากรณพ์ นื ฐาน 1) จบคําสงั ดว้ ยเครอื งหมาย ; เสมอ 2) คําสงั การประกาศตวั แปร รปู แบบ : ชนิดขอ้ มลู ตวั แปร ; เชน่ int width; ตวั แปร width เปนตวั แปรประเภทเลขจํานวนเตม็ 3) คําสงั การรบั ขอ้ มลู รปู แบบ : scanf (ชนิดตวั แปร ,&ชอื ตวั แปร); เชน่ scanf (\"%d\", &width); โดย %d หมายถงึ ชนิดเลขจํานวนเตม็ 4) คําสงั การแสดงผลขอ้ มลู ออกมาทางหน้าจอ รปู แบบ : printf (\"ขอ้ ความ\") เชน่ printf (\"Square area is : %d\\n\", area);

3) โครงสรา้ งภาษา C เบอื งตน้ 1) Preprocessor Directiver : เปนคําสงั ทถี กู แปล ภาษา (Compile) เปนอนั ดบั แรกโดยใชส้ ําหรบั เรยี กใชค้ ําสงั มาตรฐานทตี ดิ ตงั อยใู่ นภาษา C อยแู่ ลว้ จะตอ้ งเขยี นขนึ ตน้ ดว้ ย เครอื งหมาย 2) Gobal Declaration : ใชส้ ําหรบั ประกาศตวั แปร หรอื ฟงกช์ นั ทสี ามารถถกู เรยี กใชไ้ ดจ้ ากทกุ สว่ นของโปรแกรม 3) Main Function : เปนสว่ นทมี คี วามสําคญั และ จําเปนตอ้ งมี เนืองจากเปนสว่ นการทาํ งานหลกั และเปนจดุ เรมิ ตน้ การทาํ งานของโปรแกรม 4) User-Defined Function : เปนสว่ นของการเขยี นคํา สงั หรอื ฟงกช์ นั ตา่ งๆ สําหรบั ใชใ้ นโปรแกรม ซงึ เขยี นโดยผเู้ ขยี น โปรแกรมเอง 3. โปรแกรมภาษา Scratch 1) ประวตั แิ ละความเปนมาของภาษา Scratch Scratch เปนเครอื งมอื และโปรแกรมภาษาทถี กู พฒั นาขนึ มา เพอื การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ในรปู แบบกราฟก ทาํ ใหส้ ามารถสรา้ งชนิ งานไดห้ ลากหลายตามความตอ้ งการ

2) โครงสรา้ งของภาษา Scratch เบอื งตน้ ประกอบดว้ ย 3 สว่ น เปนองคป์ ระกอบ ดงั นี 1) เวที เปนสถานทใี หต้ วั ละครแสดง มภี าพฉากหลงั เปลยี นแปลงได้ และมขี อบเขตทแี น่นอน เวทจี ะมขี นาดความ กวา้ ง 480 pixels สงู 360 pixels โดยในแตล่ ะโปรเจกตจ์ ะมเี วที เดยี ว ชอื เดยี ว ไมส่ ามารถเปลยี นชอื ได้ 2) ตวั ละคร ตวั ละครแตล่ ะตวั จะมขี อ้ มลู ทแี ตกตา่ งกนั โดยสามารถคลกิ ทภี าพตวั ละครในพนื ทแี สดงรายการตวั ละคร เพอื จะดขู อ้ มลู ของตวั ละครนัน เชน่ ตวั ละครปลาทองในโปรเจ กต์ Aquarium มขี อ้ มลู ดงั ตาราง 3) สครปิ ต์ คอื ชดุ คําสงั สําหรบั ตวั ละครหรอื เวที เพอื สงั ใหต้ วั ละครหรอื เวทที ํางานตามวตั ถปุ ระสงคท์ ตี อ้ งการ โดยการ เลอื กสครปิ ตจ์ ากกลมุ่ บลอ็ ก ซงึ แบง่ เปน 8 กลมุ่ ดงั นีตาราง แสดงกลมุ่ บลอ็ กการทํางานในโปรแกรม Scratch 4. โปรแกรมภาษาไพทอน (Python)

1) ประวตั แิ ละความเปนมาของภาษาไพทอน Python ถกู พฒั นาครงั แรกเมอื ป 1989 โดยกโิ ด ฟาน รอส ซมั (Guido van Rossum) โดยโครงสรา้ งของภาษานันจะไมม่ กี าร ยดึ ตดิ กบั แพลตฟอรม์ ทใี ช้ไมว่ า่ จะเปน Windows osx Linux ซงึ การไมย่ ดึ ตดิ กบั แพลตฟอรม์ ทําให้ python เปน Open Source เตม็ รปู แบบทใี ชพ้ ฒั นาไดอ้ ยา่ งอสิ ระ 2) โครงสรา้ งของภาษาไพทอนเบอื งตน้ 1) คอมเมนตห์ รอิ การประกาศตวั แปรภาษา 2) การนํ าเขา้ ไลบรารี หรอื คลาสของไพทอนมาใช้ 3) ประกาศตวั แปร ฟงกช์ นั และคําสงั ควบคมุ การทํางาน 5. โปรแกรมภาษาจาวา (Java) 1) ประวตั แิ ละความเปนมาของภาษาจาวา ภาษาจาวา เปน ภาษาทถี กู พฒั นาขนึ ในป ค.ศ. 1991 เปนภาษาทพี ฒั นาขนึ มาโดย เจมส์ กอสลงิ (James Gosling) และวศิ วกรคนอนื ๆ ทบี รษิ ทั ซนั ไมโครซสิ เตม็ ส์ โดยเปนสว่ นหนึงของโครงการกรนี (the Green Project) ภาษาไดร้ บั การออกแบบใหม้ รี ปู แบบทางภาษาเหมอื น ภาษา C โดยมคี ํากลา่ ววา่ เปน \"Write Once,Run Anywhere\"เขยี น เพยี งครงั เดยี วและสามารถนํ าไปรนั ไดบ้ นทกุ แพลตฟอรม์

2) โครงสรา้ งของภาษาจาวาเบอื งตน้ 1) import คอื สว่ นของการเรยี กใชง้ านคลาสทอี ยตู่ า่ ง แพก็ เกจ 2) package คอื สว่ นการระบตุ ําแหน่งหรอื ทอี ยขู่ องคลาส 3) class คอื สว่ นของการเขยี นคําสงั การทํางานของ โปรแกรม 3) ขอ้ ดขี องภาษาจาวา 1) ภาษาจาวา เปนภาษาสนับสนนุ การเขยี นโปรแกรมเชงิ วตั ถแุ บบสมบรู ณ์ ซงึ เหมาะสําหรบั พฒั นาระบบทมี คี วามซบั ซอ้ น การพฒั นาโปรแกรมแบบวตั ถจุ ะชว่ ยใหเ้ ราสามารถใชค้ ํา หรอื ชอื ตา่ งๆ ทมี อี ยใู่ นระบบงานนันมาใชใ้ นการออกแบบโปรแกรมได้ ทาํ ใหเ้ ขา้ ใจไดง้ า่ ยขนึ 2) โปรแกรมทเี ขยี นขนึ โดยใชภ้ าษาจาวา จะมคี วาม สามารถทํางานไดใ้ นระบบปฏบิ ตั กิ ารทแี ตกตา่ ง ไมจ่ ําเปนตอ้ ง ดดั แปลงแกไ้ ขโปรแกรม 3) ภาษาจาวา มคี วามซบั ซอ้ นน้อยกวา่ ภาษา C++ เมอื เปรยี บเทยี บ code ของโปรแกรมทเี ขยี นขนึ โดยภาษาจาวากบั C++ พบวา่ โปรแกรมทเี ขยี นโดยภาษาจาวา จะมจี ํานวน code น้อยกวา่ โปรแกรมทเี ขยี นโดยภาษา C++ ทําใหใ้ ชง้ า่ ยไดง้ า่ ยกวา่ และลดความผดิ พลาดไดม้ ากขนึ

4) ภาษาจาวาถกู ออกแบบมาใหม้ คี วามปลอดภยั สงู ตงั แตแ่ รก ทาํ ใหโ้ ปรแกรมทเี ขยี นขนึ ดว้ ยจาวามคี วามปลอดภยั มากกวา่ โปรแกรมทเี ขยี นขนึ 5) มี IDE application sever และ library ตา่ งๆมากมาย โดยสําหรบั การใชง้ านโปรแกรมภาษาจาวาสามารถใชง้ านโดยไม่ เสยี คา่ ใชจ้ า่ 4) ขอ้ เสยี ของภาษาจาวา 1) ทาํ งานไดช้ า้ กวา่ native code หรอื โปรแกรมทเี ขยี น ขนึ ดว้ ยภาษาอนื เชน่ C หรอื C++ ทงั นี เพราะวา่ โปรแกรมทเี ขยี น ขนึ ดว้ ยภาษาจาวา จะถกู แปลงเปนภาษากลางกอ่ น แลว้ เมอื โปรแกรมทํางาน คําสงั ของภาษากลางจะถกู เปลยี นเปนภาษา เครอื งอกี ทหี นึงครงั ละคําสงั (หรอื กลมุ่ ของคําสงั ) ทาํ ใหท้ ํางาน ชา้ กวา่ native code ซงึ อยใู่ นรปู ของภาษาเครอื งแลว้ ตงั แต่ compile โปรแกรมทตี อ้ งการความเรว็ ในการทาํ งานจงึ ไมน่ ิยม เขยี นดว้ ย JAVA 2) tool ทมี ใี นการใชพ้ ฒั นาโปรแกรมจาวา มกั ไมค่ อ่ ย ทนั สมยั ทําใหห้ ลายอยา่ งโปรแกรมเมอรจ์ ะตอ้ งเปนคนทาํ เอง ทําใหเ้ สยี เวลาทํางานในสว่ น tool ทาํ ไมไ่ ด้ ถา้ เราดู tool ของ Microsoft จะใชง้ านงา่ ยกวา่ และพฒั นาไดเ้ รว็ กวา่

6. รูปแบบการเขียนโปรแกรม คอมพิวเตอร์ การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรผ์ เู้ ขยี นโปรแกรมตอ้ งเขา้ ใจ หลกั การในการเขยี นแตล่ ะรปู แบบ ซงึ จะทําใหส้ ามารถเขยี น โปรแกรมคอมพวิ เตอรด์ ว้ ยภาษาโปรแกรมตา่ งๆ ไดง้ า่ ยขนึ ภาษา โปรแกรมแตภ่ าษาจะมลี กั ษณะหรอื รปู แบบการเขยี นทแี ตกตา่ ง กนั การเลอื กภาษาโปรแกรมหรอื ภาษาคอมพวิ เตอรเ์ พอื นํ ามา เขยี นโปรแกรมนันขนึ อยกู่ บั ปจจยั ตา่ งๆ เชน่ ความเหมาะสมของ โปรแกรมกบั ลกั ษณะงานทจี ะนํ าไปใช้การทํางานรว่ มกนั ไดก้ บั โปรแกรมอนื ๆ หรอื อาจเปนความถนัดของแตล่ ะคน เปนตน้ โดยภาษาโปรแกรมในปจจบุ นั มรี ปู แบบการเขยี นโปรแกรมขนั ตน้ 3 รปู แบบ แบง่ ตามโครงสรา้ ง ดงั นี - โครงสรา้ งการทาํ งานแบบเรยี งลําดบั (sequence structure) เปนรปู แบบการเขยี นโปรแกรมทมี กี ารทาํ งานเปน ลําดบั ขนั ตอน ไลเ่ รยี งลําดบั กนั ไปเหมอื นเสน้ ตรง ไมม่ กี ารขา้ ม ขนั ตอน ไมม่ กี ารยอ้ นกลบั ไปทํางานเดมิ ทที าํ ซาไปแลว้ หรอื ไมม่ ี การตดั สนิ ใจเพอื เลอื กทํางานใดๆ

- โครงสรา้ งการทาํ งานแบบเลอื กทาํ หรอื มเี งอื นไข (condition structure) เปนรปู แบบการเขยี นโปรแกรมทมี กี าร ตดั สนิ ใจ มที างเลอื กใหเ้ ลอื กกระทํา โดยแตล่ ะทางเลอื กจะมี เงอื นไข ซงึ จะตอ้ งผา่ นการตรวจสอบเงอื นไขนันๆกอ่ น จงึ จะ สามารถทาํ งานในทางเลอื กนันได้ ทงั นี ภายในโปรแกรม คอมพวิ เตอรอ์ าจมกี ารตดั สนิ ใจเชน่ นีอยหู่ ลายจดุ เรยี ก โครงสรา้ งการทํางานลกั ษณะนีวา่ selection หรอื condition - โครงสรา้ งการทาํ งานแบบทําซา (iteration structure) เปนรปู แบบการเขยี นโปรแกรมทมี กี ารทํางานเดมิ ซาๆ โดยมเี งอื นไขเพอื กําหนดจํานวนรอบในการทาํ งานซา ซงึ การทํางานแบบทําซามี 3 ประเภท คอื การทาํ งานแบบทาํ ซา ตามจํานวนรอบทรี ะบุ การทาํ งานแบบทาํ ซาในขณะทมี เี งอื นไข เปนจรงิ การทํางานทาํ ซาจนกระทงั เงอื นไขเปนจรงิ

อา้ งองิ วทิ ยาการคํานวณม.1 . การเขยี นโปรแกรมเบอื งตน้ [ออนไลน์]. แหลง่ ทมี า : https://sites.google.com/site/withyakarkhanwnm1/ [ 1 กมุ ภาพนั ธ์2564] ครไู อที . วทิ ยาการคํานวณ ม.1 [ออนไลน์]. 2019, แหลง่ ทมี า : https://kru-it.com/technology/computing-science-m1/ [ 1 กมุ ภาพนั ธ์2564] computer nanajang . วทิ ยาการคํานวณ ม.1 [ออนไลน์]. แหลง่ ทมี า : https://sites.google.com/site/computernanajang/1-kar- xxkbaeb-laea-kar-kheiyn-xal-kx-ri-thum [ 1 กมุ ภาพนั ธ์2564]

นํ าเสนอ อาจารยส์ จุ ติ ตรา จนั ทรล์ อย รายวชิ า นวตั กรรมและ เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื การ สอื สารการศึกษาและการเรยี นรู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook