E-book แบบสำรวจและแบบสอบถาม

แบบสำรวจ และสอบถำม การวดั ผลและประเมินผล 2/63 EMR201

แบบสอบถาม

หมายถงึ คำถำมหรอื ชุดของคำถำมทเี่ รำคดิ ข้นึ เพ่ือเตรยี มไวไ้ ปถำมผูท้ ่ี ทรำบขอ้ มูลตำมทเ่ี รำตอ้ งกำรทรำบ อำจจะถำมเอง ใหค้ นอนื่ ไปถำม หรอื สง่ แบบสอบถำมไปใหก้ รอกตำมแบบฟอรม์ คำถำมทก่ี ำหนดให้ แลว้ นำคำตอบทไี่ ดม้ ำวเิ ครำะหแ์ ปลควำมหมำยตอ่ ไป แบบสอบถำม เป็นเครอื่ งมอื วจิ ยั ชนิดหน่ึงทน่ี ิยมใชก้ นั มำก เพรำะ กำรเก็บรวบรวมขอ้ มูลสะดวกและสำมำรถใชว้ ดั ไดอ้ ยำ่ งกวำ้ งขวำง กำร เก็บขอ้ มูลดว้ ยแบบสอบถำมสำมำรถทำไดด้ ว้ ยกำรสมั ภำษณห์ รอื ให้ ผูต้ อบดว้ ยตนเอง

ส่วนประกอบของแบบสอบถำม ส่วนท่ี 1 ส่วนที่ 2 ลกั ษณะของผตู้ อบท่ีคาดวา่ จะมี ความคิดเหน็ ของผ้ตู อบที่เก่ยี วกบั เรื่อง ผลทาใหค้ าตอบทีแ่ สดงความ น้นั เช่น คาถามในการสารวจความ คิดเห็นแตกตา่ งกนั จากผูส้ อบท่ีมี คิดเห็นของเกย่ี วกับความพงึ พอใจใน ลกั ษณะอืน่ เช่น พนื้ ที่อยอู่ าศัย เพศ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ การใชบ้ รกิ ารการ ร.พ อาจถามเก่ยี วกบั การบริการ การดแู ลเอาใจใส่ การตรวจ อาชีพฯ รักษาของแพทยพ์ ยาบาล

สว่ นประกอบของแบบสำรวจ ส่วนท่ี 3 สว่ นท่ี 2 ข้อเสนอแนะต่างๆ ของผตู้ อบ เกยี่ วกับเรอื่ งทีส่ ารวจความคิดเหน็ นัน้ ๆ

การสรา้ งแบบสอบถาม

การสรา้ งแบบสอบถาม 01 กาหนดจดุ ประสงค์ คณุ ลักษณะหรือประเดน็ ท่จี ะ วัด จากนั้นจงึ ศกึ ษาคณุ ลักษณะ หรือตัวแปรทจ่ี ะ วัดใหเ้ ข้าใจอย่างละเอยี ด

การสรา้ งแบบสอบถาม 02 กาหนดประเภทของขอ้ คาถาม โดยขอ้ คาถามในแบบสอบถามแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ

การสรา้ งแบบสอบถาม 1.คาถาม2.ป1ลายปดิ คาถามทผ่ี รู้ า่ งได้ร่างคาถามไว้กอ่ นแลว้ และใหต้ อบตามท่กี าหนด ไวเ้ ป็นส่วนใหญเ่ ท่าน้นั โดยใหโ้ อกาสผตู้ อบมีโอกาสมอี สิ ระ เลอื กตอบได้น้อย

ตวั อย่างคาถามปลายปิ ด

ขอ้ ดขี องคาถามปลายปิ ด 1. คาตอบมีลกั ษณะเป็นมาตรฐานเดยี วกนั 2. สะดวกหรอื ง่ายตอ่ การปฏบิ ตั ิในการรวบรวมเกบ็ ข้อมูล 3. รวดเร็ว ประหยดั 4. สะดวกในการวเิ คราะห์ 5. ทาใหไ้ ด้รายละเอียดไม่หลงลมื 6. ได้คาตอบตรงกับวตั ถปุ ระสงค์ 7. ใช้ไดด้ ีกบั คาถามท่ไี ม่ซบั ซ้อน หรือที่เกีย่ วกบั ข้อเทจ็ จรงิ

ขอ้ เสยี ของคาถามปลายปิ ด 1. ผูต้ อบไมม่ ีโอกาสได้แสดงความคดิ เห็นอย่างเต็มที่ 2. อาจจะทาใหก้ ารวจิ ยั ไมไ่ ดข้ ้อเทจ็ จริงครบเพราะผวู้ จิ ยั ตั้ง คาถามไวค้ รอบคลมุ ไม่หมด 3. ถา้ คาถามไมช่ ัด ผตู้ อบอาจตคี วามหมายต่างกัน และคาตอบ ผิดพลาดได้

การสรา้ งแบบสอบถาม 1.คาถาม2ป.2ลายเปิด เป็นคาถามที่เปดิ โอกาสให้ผตู้ อบสามารถ ตอบได้อย่างเตม็ ท่ี ซ่งึ จะไดค้ าตอบที่แนน่ อน สมบูรณ์ ตรงกบั สภาพความเป็นจริงไดม้ ากกวา่ คาตอบท่ีจากดั วงใหต้ อบ

ตวั อย่างคาถามปลายเปิ ด

ขอ้ ดขี องคาถามปลายเปิ ด 1. ผู้วจิ ัยตอ้ งการทราบ ความคิดเห็นของผ้ตู อบอยา่ งเต็มท่ี โดยเฉพาะเรอ่ื งทีซ่ บั ซ้อน 2. ชว่ ยผูว้ จิ ยั เม่อื ความรู้ในเร่ืองน้นั ๆ ของผู้วิจยั มีจากัด 3. ถา้ มีข้อความอะไรทีเ่ หลือตกค้าง ยงั ไม่ไดต้ อบ ผู้ตอบจะได้ ตอบมาได้ ไม่ตกค้าง 4. ชว่ ยใหไ้ ดค้ าตอบในรายละเอยี ด ซ่ึงเปน็ เรอื่ งเกย่ี วกบั ความรู้สกึ ความจงู ใจทซ่ี ่อนอยู่ 5. ถา้ คาถามกาหนดไว้ตายตัวมาก ผูต้ อบไมม่ โี อกาสได้แสดง ความคิดเห็นตวั เองเพมิ่ เตมิ จะไดเ้ พม่ิ เติมตามทต่ี อ้ งการ ทาให้ได้ ขอ้ เท็จจริงเพม่ิ ข้นึ

ขอ้ เสยี ของคาถามปลายเปิ ด 1. อาจทาให้ได้คาตอบไมต่ รงกบั ความต้องการ ของเรื่องท่ี ต้องการ หรอื มสี ว่ นตรงจดุ หมายน้อย 2. อาจจะทาใหไ้ ด้คาตอบออกนอกลู่นอกทาง ซ่ึงอาจไมเ่ กย่ี วกับ เนอื้ หาเลย 3. ลาบากในการรวบรวมและวิเคราะห์ เพราะแตล่ ะคนตอบตาม ความรู้สกึ นกึ คิดของตนเอง ไม่มกี รอบหรอื ขอบเขตทก่ี าหนดให้

การสรา้ งแบบสอบถาม 03 การรา่ งแบบสอบถาม โดยหลักการในการสรา้ งแบบสอบถาม มดี งั น้ี

การร่างแบบสอบถาม 1.ต้องมจี ุดมงุ่ หมายท่ี 2.ตอ้ งสร้างคาถามให้ 3.ตอ้ งถามให้ 4.ควรเรยี งลาดบั ให้ แน่นอนวา่ ตอ้ งการจะ ตรงตามจุดม่งุ หมาย ครอบคลมุ เรือ่ งท่จี ะ ตอ่ เน่ืองสัมพันธ์กัน ถามอะไรบ้าง ที่ตั้งไว้ วัด และแบ่งตามพฤตกิ รรม ยอ่ ยๆ ไว้เพื่อใหผ้ ู้ตอบ โดยจดุ มงุ่ หมายนัน้ เพื่อปอ้ งกนั การมขี ้อ โดยมีจานวนข้อคาถามที่ เห็นชัดเจนและง่ายต่อ จะตอ้ ง คาถามนอกประเด็น พอเหมาะ ไมม่ ากหรือ และมีข้อคาถามจานวน การตอบ สอดคลอ้ งกบั นอ้ ย วัตถปุ ระสงค์ของงานวจิ ัย มากเกินไป เกนิ ไป ท่ีจะทา

ลกั ษณะของคาถามทดี่ ี 1) ขอ้ คาถามไมค่ วรยาวจนเกนิ ไป ควรใช้ข้อความสน้ั กะทัดรัด ตรงกับวัตถุประสงค์ 2) ขอ้ ความ หรอื ภาษาทใี่ ช้ในข้อความตอ้ งชดั เจน เข้าใจง่าย 3) ขอ้ คาถามไมค่ วรมากเกินไปจนทาให้ผูต้ อบเบอ่ื หน่ายหรอื เหนื่อยลา้ 4) ไมถ่ ามเรือ่ งท่ีเป็นความลบั เพราะจะทาให้ไดค้ าตอบท่ไี ม่ตรง กับข้อเท็จจรงิ 5) ไมค่ วรใชข้ อ้ ความที่มคี วามหมายกากวมหรือข้อความท่ีทาให้ ผ้ตู อบแต่ละคนเขา้ ใจความหมายของขอ้ ความไม่เหมือนกัน

ลกั ษณะของคาถามทดี่ ี 6) ไม่ถามในเรอ่ื งทรี่ แู้ ล้ว หรือถามในสิง่ ท่วี ัดได้ด้วยวธิ ีอน่ื 7) ข้อคาถามต้องเหมาะสมกบั กลุ่มตวั อย่าง คอื ตอ้ งคานึงถงึ ระดับการศกึ ษา ความสนใจ สภาพเศรษฐกจิ ฯลฯ 8) ข้อคาถามหน่ึงๆ ควรถามเพียงประเด็นเดยี ว เพ่ือให้ไดค้ าตอบทช่ี ดั เจน และตรงจุด 9) คาตอบหรอื ตัวเลือกในข้อคาถามควรมีมากพอ หรือให้เหมาะสมกบั ขอ้ คาถามนนั้ แตถ่ ้าไมส่ ามารถระบุไดห้ มดกใ็ ห้ใชว้ ่า อ่ืนๆ โปรดระบุ …………… …. 10) ควรหลกี เล่ียงคาถามท่ีเกยี่ วกบั ค่านิยมทจี่ ะทาให้ผูต้ อบไม่ตอบตาม ความเป็นจรงิ 11) คาตอบที่ได้จากแบบสอบถาม ต้องสามารถนามาแปลงออกมาในรปู ของ ปริมาณและใชส้ ถติ อิ ธิบายข้อเท็จจรงิ ได้

การสรา้ งแบบสอบถาม 04 ปรบั ปรุงแบบสอบถามใหส้ มบูรณ์ หลังจากทีส่ ร้างแบบสอบถามเสรจ็ แล้ว ผวู้ จิ ัยควรนาแบบสอบถามนั้นมา พิจารณาทบทวนอีกคร้งั เพื่อหาข้อบกพรอ่ งทีค่ วรปรบั ปรุงแกไ้ ข เพือ่ ใหแ้ บบสอบถามมีความสมบรู ณ์และมคี ุณภาพผูต้ อบอ่านเขา้ ใจได้ตรง ประเดน็ ทผ่ี ้วู ิจัยต้องการ

ขอ้ ดขี องแบบสอบถาม 1. คา่ ลงทุนน้อยกวา่ เม่อื เทียบกบั การสัมภาษณ์ เพราะ แบบสอบถามลงทุนด้วยค่าพมิ พ์และสง่ ไปยงั ผู้รับ ส่วนการ สัมภาษณต์ อ้ งออกไปสมั ภาษณท์ ีละคน ยอ่ มเสียเวลาและ ค่าใช้จ่ายมากกวา่ 2. การส่งแบบสอบถามไปใหค้ นจานวนมาก ยอ่ มสะดวกกว่าการ สัมภาษณ์ 3. แบบสอบถามจะไปถึงมอื ผู้รับไดท้ กุ แห่งในโลกท่มี กี าร ไปรษณยี ์ 4. แบบสอบถามท่ีดี ผู้ตอบจะตอบอยา่ งสะดวกใจมากกว่าการ สัมภาษณ์

ขอ้ ดขี องแบบสอบถาม 5. ถ้าสร้างแบบสอบถามให้ดแี ลว้ การวิเคราะห์ข้อมูลทาได้งา่ ย กวา่ การสมั ภาษณ์ 6. สามารถควบคมุ เวลาในการตอบคาถาม จึงทาใหก้ ารตอบ ได้ แสดงถึงความคิดเห็นของสภาวการณใ์ นเวลาทใ่ี กลเ้ คยี งกันได้ เปน็ การควบคุมการตอบไดแ้ บบหนึง่ 7. ผูต้ อบตอ้ งตอบขอ้ ความท่เี หมอื นกนั และแบบฟอร์มเดยี วกัน เปน็ การควบคมุ สภาวะทีคล้ายกัน

ขอ้ เสยี ของแบบสอบถาม 1. มกั จะไดแ้ บบสอบถามกลับคนื จานวนน้อย 2. ความเท่ียง และความตรง ของแบบสอบถามไดร้ บั การ ตรวจสอบลาบาก 3. โดยปกตแิ บบสอบถามควรมีขนาดสัน้ กะทดั รัด ดงั นน้ั จึงมขี อ้ คาถามไดจ้ านวนจากัด 4. คนบางคนมีความลาเอยี งตอ่ การตอบแบบสอบถาม เนื่องจาก ไดร้ บั บอ่ ยเหลอื เกนิ หรือมปี ระสบการณ์เกยี่ วกับแบบสอบถามที่ ไมด่ มี ากอ่ นจึงทาใหไ้ ม่อยากตอบ

ขอ้ เสยี ของแบบสอบถาม 5. แบบสอบถามใหป้ ฏกิ ริ ยิ าโตต้ อบทางเดยี ว 6. แบบสอบถามใชไ้ ด้เฉพาะบคุ คลที่อ่านหนังสือออกเท่าน้ัน 7. แบบสอบถามท่ไี ดร้ บั คนื มานนั้ ผ้วู เิ คราะห์ไมส่ ามารถทราบได้ วา่ ใครเปน็ ผตู้ อบแบบสอบถามน้นั 8. ผ้ตู อบบางคนไมเ่ ห็นความสาคัญกอ็ าจโยนแบบสอบถามทิ้ง โดยไมพ่ ิจารณาให้รอบคอบ

ขอ้ ควรระวงั คาถามเก่ยี วกับความคิดเห็นในเรื่องที่ จานวนคาถามไม่ควรมีจานวนมากเกนิ ไป สารวจต้องไมเ่ ป็นคาถามนา หรือคาถามที่ เพราะจะทาให้พูดตอบรว่ มมือในการตอบ พยายามชักนาใหพ้ ูดตอบตอบคาตอบที่ คาถามน้อยลง และคาตอบมีจานวนเกิน ผู้สารวจต้องการ เช่น ท่านไมพ่ ึงพอใจใน ความจาเปน็ ในการนาไปใชป้ ระโยชน์ ทาให้ การบริการใชไ่ หม เสียเวลาและคา่ ใชจ้ ่ายโดยไมจ่ าเปน็ ผ้ตู อบแบบสอบสารวจความคิดเหน็ ควรจะมีความรแู้ ละ ประสบการณ์เกี่ยวกับเรอ่ื งท่ีทาการสารวจเปน็ อย่างดี มิฉะน้นั ความคดิ เหน็ ท่ีสารวจได้จากผูส้ อบดังกลา่ วจะไมส่ ามารถ นาไปใช้ในการสรปุ ผลรว่ มกับคาตอบของผู้สอบรายอื่นๆได้

Thanks ! Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Etiam aliquet eu mi quis lacinia