Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore งานทัศนศิลป์ไทยก่อนประวัติศาสตร์ คู่มี้

งานทัศนศิลป์ไทยก่อนประวัติศาสตร์ คู่มี้

Published by Afka Hadkajea, 2020-11-20 14:02:07

Description: งานทัศนศิลป์ไทยก่อนประวัติศาสตร์ คู่มี้

Search

Read the Text Version

ยคุ หนิ

มนุษยก์ บั ศลิ ปกรรมกอ่ น ประวตั ศิ าสตร ์ การ สรา้ งสรรคศ์ ิลปะของมนุษยใ์ น ยุคน้ันไม่ใชท่ าไวเ้ พอื่ ตอ้ งการอวดโฉมไวแ้ ก่ มนุษยร์ ุน่ หลงั แต่เขาสรา้ งสรรคผ์ ลงานเพือ่ บนั ทึกการดารงชวี ิตของตนเองไว ้ ทง้ั ดา้ น การใชส้ อย อาวุธ เครอื่ งมือ สรา้ งเพื่อผล ทางความเชอื่ และเพอื่ ผลทางความงาม

สาหรบั ศกั ยภาพของมนุษยใ์ นสมยั นั้น ที่สามารถสรา้ งสรรคผ์ ลงานศิลปะ ออกมาไดเ้ ป็ นเพราะว่ามนุ ษยเ์ ป็ นสตั วท์ ี่ รจู ้ กั คดิ และเป็ นความคดิ ทนี่ ่าอศั จรรยเ์ มอื่ เป รียบเทียบกับสัตวอ์ ื่นๆ ทาใหม้ นุ ษย ์ สามารถใชส้ ญั ลกั ษณใ์ นการสื่อสารหรอื เป็ นตัวแทนความคิดต่างๆได ้ และได ้ กลายเป็ นภาษาในการสื่อสารและทาให ้ เกดิ ความเจรญิ ต่อๆมา เพราะภาษาที่ใช ้ น้ันซบั ซอ้ นมากขนึ้ มกี ารพฒั นาทางดา้ น มนั สมองและรา่ งกายเรอื่ ยมา

ชวี ติ และศลิ ปกรรมของมนุษย ์ สมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตร ์ ศิลปะ ของมนุ ษยส์ มัยนั้นมีความ ผูกพันเกี่ยวกับเนื่ องกับวิถีชีวิตของ มนุษยส์ มยั นั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อดูเชงิ ในการวิวฒั นาการของมนุษยใ์ นยุคน้ัน นักโบราณคดีไดจ้ าแนกช่วงเวลาเพื่อ ศึ ก ษ า ม นุ ษ ย ์ก ลุ่ ม นี้ โ ด ย อ า ศั ย พัฒนาการวัตถุศิลป ะ เป็ นเครื่องมือ เครอื่ งใชใ้ นการดารงชวี ติ เป็ นตวั จาแนก ดังนั้ นศิล ป กรรม ข องมนุ ษ ยส์ มัยน้ั น แบง่ เป็ น 3 ชว่ ง

ศลิ ปกรรมของมนุษยส์ มยั นนั้ แบง่ เป็ น 3 ชว่ งทสี่ าคญั คอื .. -ยคุ หนิ เกา่ (Paleolithic or Old Stone Age, 30000-10000ปี กอ่ น ครสิ ตกาล) -ยคุ หนิ กลาง(Mesolithic or Middle Stone Age , 10000-8000 ปี กอ่ นครสิ ตกาล) -ยคุ หนิ ใหม่ (Neolithic or New Stone Age , 8000-3000 ปี กอ่ นคริ สกาล)

ศลิ ปกรรมยุคหนิ เกา่ (Paleolithic or Old Stone Age) ในซกี โลกตะวนั ตก มนุ ษยท์ ี่มีชวี ิต ในช่วงยุคหินเก่าที่ปรากฎหลักฐานอย่าง โ ด ด เ ด่ น คื อ ม นุ ษ ย ์โ ค ร ม า ย อ ง ( Cro- Magnon)ซงึ่ เรยี กตามชอื่ ถา้ โครมายองซงึ่ อยู่ทางทิศตะวนั ตกของฝรง่ั เศส ถา้ นี้พบ โครงกระดูกและศลิ ปะวตั ถุของมนุษยย์ ุคนั้น เป็ นจานวนมาก และเชอื่ ว่ามนุ ษยก์ ลุ่มนี้ จดั เป็ นหนึ่งในมนุษยส์ มยั ใหม่ หรอื มนุษยโ์ ฮ โมซาเปี้ยนส(์ Homo Sapiens)

มีถิ่นอาศยั กระจายอยู่ท่วั ยโุ รปและ เอเชีย มนุ ษย โ์ ครมายองนอกจากจะมี ความสามารถในการเขียนภาพบนผนังถา้ แลว้ ยงั รูจ้ กั เผาศพและสกั บนใบหน้า ถัด จากสมยั โซลูเทรยี น ในยุคหินเก่าตอนทา้ ย ไ ด ้ก ้า ว เ ข ้า สู ส มั ย แ ม ก ด า เ ล เ นี ย น (Magdalenian) ซงึ่ เป็ นชว่ งทีป่ รากฏ ม นุ ษ ย ์เ ผ่ า พั น ธุ ์ห นึ่ ง ชื่อ ว่ า ก ริม า ล ดี (Grimaldi)ซงึ่ มี ความสามารถทางศลิ ปะ ไมแ่ พม้ นุษยโ์ ครมายอง ผลงานของพวกเขา เป็ นภาพเขยี นบนผนังถา้ ภาพแกะสลกั และ ปั้นรูปสตั วต์ ่างๆ การทาเข็มกระดูกสตั วเ์ พอื่ เย็บหนังสตั ว ์

อย่างไรก็ตามโดยรวมแลว้ มนุษยใ์ น ยุคหนิ เกา่ จะดารงชพี โดยการล่าสตั วแ์ ละหา พชื ผกั ผลไมเ้ ป็ นอาหาร พวกเขาตอ้ งพงึ่ พา ธรรมชาติ และสถาวะแวดลอ้ มอย่างมาก และเมอื่ ฝูงสตั วห์ รอื พชื ผกั หมดลง พวกเขา ก็จะอพยพยา้ ยไปหาแหล่งใหม่ และมกั อยู่ ใกลท้ ะเลหรอื หนองน้าเพื่อหาอาหาร และ น้า แมแ้ ต่ถา้ ที่อาศยั ก็จะมีลาธารไหลผ่าน เมื่อลาธารนั้นอุกตนั ก็จะยา้ ยไปหาถา้ ใหม่ อาศยั

ชวี ติ ส่วนใหญ่ของพวกเขาหมดไปกบั การหาอาหาร การป้ องกนั ตนเองจากภัย ธรรมชาตแิ ละสตั วร์ า้ ยรวมทงั้ ต่อสูใ้ นหมู่พวก เดยี วกนั เพอื่ การอยู่รอด โดยใชห้ นิ กระเทาะ เป็ นอาวุธหรอื เครอื่ งมอื ส่วนระบบสงั คมยงั ไม่ มีการรวมกลุ่มเป็ นชมุ ชนหมู่บา้ นหรอื เมือง อย่างเดน่ ชดั

ศลิ ปะยุคหนิ เกา่ (The Art of The Old Stone Age Paleolithic ) จติ รกรรม การดารงชวี ติ ของมนุษยใ์ นระยะแรก น้ันจะมสี ภาพชวี ติ คลา้ งคลงึ กบั สตั วป์ ่ า พวก เขาอาศยั ในถา้ มีความหนาแน่ น คือถา้ ใน ประเทศสเปน ฝร่งั เศส และอิตาลี ถ้าที่มี ชอื่ เสยี งคอื ถา้ Altamira ,ถา้ ์์Niaux ,ถา้ la Madeleine ,ถา้ Lascaux ,ถา้ Font- de-Gaume ซงึ้ อยู่ในบรเิ วณประเทศสเปน กบั ฝรง่ั เศส

รอ่ งรอยของมนุษยไ์ ดป้ รากฏผ่านงาน จติ รกรรมทวี่ าดบนผนังถา้ โดยลกั ษณะรปู แบบ ก็แตกต่างกนั ออกไป ถา้ ลาสโคซ ์ (Lascaux) อยุ่ใกล ้ Montingnac บรเิ วณลุ่มน้า Dordone ประเทศฝรง่ั เศส ถูกสารวจพบใน ค.ศ.1940 ในส่วนของงานศิลปะไดท้ ดสอบ ดว้ ยวธิ ที างวทิ ยาศาสตรพ์ บว่าเป็ นผลงานของ ม นุ ษ ย ์ ส มัย หิน เ ก่า ถูก ว า ด ขึน้ ป ร ะ ม า ณ 15000-13000 ปี ก่อนครสิ ตกาล รูปแบบ ผลงานมเี นือ้ หาเกยี่ วกบั สตั วเ์ ชน่ ภาพววั ไบซนั มา้ กวาง ศลิ ปิ นไดแ้ สดงออกเป็ นภาพดา้ นขา้ ง ที่คานึงถึงความเป็ นจรงิ และลีลาเครอื่ นไหว ผลงานน้ันใชเ้ สน้ สายที่กลา้ หาญแต่ไม่ได ้ คานึงถึงสดั ส่วน ภาพสตั วท์ ง้ั หลายเมือเทียบ สดั สว่ นกนั แลว้ จะไม่สั มั พนั ธก์ บั ภาพอนื่

ประตมิ ากรรม ป ร ะ ติ ม า ก ร ร ม ส มั น ก่ อ น ประวตั ิศาสตรป์ รากฎทงี่ ในยุคหนิ เก่า ยุค หินกลาง ยุคหินใหม่ มีที่งการป้ันและ แกะสลกั วสั ถดุหลกั ๆในการแกะสลกั ใน สมยั นั้นคือหิน กระดูก ไม้ เขาสตั ว ์ และ เครอื่ งมอื ก็ทาจากหนิ เชน่ กนั ประตมิ ากรส มัยหินเก่ามีการใชว้ ิธีขูด ขัแต่ง เซาะ รูปแบบประติมากรรมจึงเป็ นแบบการตดั ทอนรูปทรงในธรรมชาติ ใหง้ ่ายต่อการ แสดงออกและรบั รู ้

อ ย่ า งไ ร ก็ ต า ม เ ป็ น ที่ สั ง เ ก ต ว่ า ประตมิ ากรรมสมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตรท์ เี่ ป็ นภาพ คน มกั จะเป็ นภาพผูห้ ญิงและเนน้ การบ่งบอก รูปทรงทางเพศที่แสดงออกถึงรอ่ งรอยการ ให ้ กาเนิดมาอย่างโชก ต่างเน้นลกั ษณะทางเพศ และมีขนาดเล็ก ซงึ่ ส่วนใหญ่สรา้ งขึน้ เพื่อเน้น การตอบสนองทางความเชอื่ (Belief Art) ซงึ่ อาจใชเ้ ป็ นสิ่งเคารพบูชาหรือสิ่งศักดิส์ ิทธิ ์ ตดิ ตามตวั เพราะขนาดไมใ่ หญ่ สามารถจบั ถอื ได ้ เหมาะมอื และสาเหตุทเี่ ลอื กเพศหญงิ เพราะเพศ ห ญิ ง เ ป็ น ผู ้ใ ห ้ก า เ นิ ด ชีวิ ตใ ห ม่ ไ ด ้ ดัง นั้ น ประติมากรรมสมัยก่อนประวตั ิศาสตรจ์ ึงเน้น แสดงออกถงึ ลกั ษณะดงั กลา่ ว อยา่ งเดน่ ชดั

จดั ทาโดย นางสาวอฟั กานิ ์ หดั ขะเจ นางสาวนัจมี ขรดี าโอะ๊


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook