โครงงาน IS เรอ่ื ง ตะไคร้ไล่ยุง จดั ทาโดย เลขที่ 3 นางสาวอญั ญารัตน์ วงั สาร เลขที่ 8 นางสาวสภทั รพร ชาวงวิ้ เลขที่ 13 นางสาวกัญญาพชั ร ยศอาลยั เลขที่ 26 นางสาวเยาวรัตน์ เชยชน่ื จติ ร เลขท่ี 3๑ นางสาวเบญจนัตน์ วงศว์ าท ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5/4 เสนอ นายดารง คันทะเรศย์ โรงเรียนปัว อาเภอปัว จังหวดั น่าน สานักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต37 รายงานฉบับนเี้ ป็นสว่ นหนึ่งของวิชา IS1 รหสั วชิ า I30201 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562
คำนำ โครงงานพฒั นาเวบ็ ไซต์ เรอ่ื ง ตะไครไ้ ลย่ งุ จดั ทาข้ึนตามกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ชิ าการงานอาชีพ และ เทคโนโลยี ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕/๔ โรงเรียนปวั จงั หวดั นา่ น โดยมวี ัตถปุ ระสงค์ทจี่ ะนาความร้ใู นวชิ า คอมพิวเตอรท์ ่ีได้รับจากการเรยี นในระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลายมาใช้โดยบรู ณาการความรู้ท่ีได้ในวชิ า คอมพวิ เตอร์ จัดทาโครงงานพัฒนาเวบ็ ไซต์ตามเรอ่ื งตะไคร้ไลย่ งุ เพ่อื เป็นการศกึ ษาคน้ คว้า และเผยแพร่เร่ือง ตะไครไั ล่ยุงในลักษณะของเว็บไซตโ์ ดยใชโ้ ปรแกรมพัฒนาเวบ็ ไซต์ในลักษณะของ Web Editer การจดั การ ภาพท่ปี ระกอบโครงงานดว้ ยโปรแกรม Photoshop cs3 การจดั การงานเอกสารประกอบโครงงานดว้ ยการใช้ โปรแกรมสานักงาน Webpage Maker หวังเป็นอยา่ งย่ิงว่า โครงงานน้ีจะเปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งยิง่ ในการทีจ่ ะทาให้ผู้ท่ีสนใจในเร่อื ง ตะไครไ้ ล่ยุง ท่คี ณะผู้จดั ทาไดท้ าขน้ึ ได้รับความรู้ตามสมควร คณะผจู้ ัดทา 21/09/2562
กิตตกิ รรมประกำศ โครงงานพฒั นาเวบ็ ไซต์ เรื่องตะไคร้ไล่ยงุ นี้ สาเร็จได้ด้วยความร่วมมือของสมาชกิ ในกล่มุ และรับการชว่ ยเหลือ และสนับสนนุ จากหลาย ๆ ทา่ น กอ่ น อ่ืนตอ้ งขอขอบคุณอาจารย์ดารงค์ คันธะเรศย์ ท่เี ปน็ ท่ปี รึกษาโครงงาน และสอนใหม้ ีความรู้ความสามารถใน การพฒั นาเวบ็ ไซต์ และทาให้เกดิ โครงงานน้ขี ึน้ ขอขอบคณุ จึงขอขอบพระคณุ ทกุ ท่านทไ่ี ด้สนับสนนุ การทางาน และให้กาลังใจเสมอมา จนโครงงานพฒั นา เวบ็ ไซตค์ รง้ั นสี้ าเรจ็ ลุล่วงด้วยดี และความดีอนั เกิดจากการศกึ ษาคน้ ควา้ ครั้งน้ี สมาชิกในกลมุ่ ขอมอบแด่ผ้มู ี พระคณุ ทุกท่าน และขอกราบขอบพระคณุ มา ณ โอกาสนี้ คณะผจู้ ัดทา 21/09/2562
บทคัดยอ่ \"ตะไคร้\" เป็นพชื สมุนไพร “ตะไคร้” ใช้เวลาเพาะ และโตเต็มท่ีแค่ เพียง 2-3 วนั กส็ ามารถนาไป ขายได้ ซง่ึ ปัจจุบันคนไทยนิยมนามาสกดั เปน็ นา้ มันหอมละเหยและเปน็ สว่ นผสมของสเปรย์ไล่ยุง ทาใหม้ ีการ ใช้สารเคมีจาพวกสารท่ีเป็นอันตรายตอ่ รา่ งกายนี้ลง ซ่ึงสารเหลา่ น้ีแน่นอนอยแู่ ลว้ ว่า กระทรวง สาธารณสุข ไม่ อนญุ าตใหใ้ ชผ้ สม เพราะลว้ นเปน็ สารทม่ี ีพิษ ตอ่ ร่างกายสงู อาจมีผลตอ่ ระบบทางเดนิ อาหาร ระบบหายใจ ระบบประสาท และอาจจะทาใหเ้ สยี ชีวติ ได้ ดงั นั้น คณะผูจ้ ัดทาโครงงาน จึงไดศ้ กึ ษาคน้ คว้า หาขอ้ มูลจากแหล่งเรยี นรูไ้ ด้นาตะไครไ้ ปเปน็ ส่วนผสม ในยากนั ยุงแทนการใชส้ ารเคมี เพอ่ื วัตถปุ ระสงคใ์ นการใช้ โดยเนน้ เรือ่ ง ปลอดภยั ไร้สารพษิ ตลอดจนเปน็ การ สง่ เสรมิ การแปรรปู ผลิตภณั ฑ์ให้มมี ูลค่าสูงขึน้ ทาใหเ้ กดิ ทักษะจากการปฏบิ ตั ิงานสามารถมีรายได้กบั ตนเอง และครอบครวั คณะผูจ้ ัดทา 21/09/2562
บทที่ 1 บทนำ ท่มี ำและควำมสำคญั ของโครงงำน ปัจจุบันถ้าจะกล่าวถึงสตั วท์ ่ีเปน็ พาหะนาโรค สตั ว์อันดบั ตน้ ๆท่คี ดิ คงไมพ่ ้นยุง เน่ืองจากยงุ เป็นพาหะ นาโรคร้ายต่างๆท่ีครา่ ชีวิตคนเป็นจานวนมาก ยงุ เปน็ พาหะนาโรคหลายชนดิ ทีเ่ ปน็ อนั ตรายตอ่ มนษุ ย์ เชน่ โรค ไขเ้ ลอื ดออก ไข้มาลาเรีย โรคเท้าช้าง เปน็ ต้น จงึ มผี ู้คิดทาตวั ยาเพ่อื กาจัด และป้องกันยุงข้นึ มาหลายชนดิ เช่น ครีมทากนั ยุง ยาฉีดกันยุง น้ามนั ไล่ ยุง เป็นต้น แต่ยากันยงุ เหลา่ นก้ี อ่ ใหเ้ กิดปญั หาขน้ึ มากมาย เพราะมสี ารทเี่ ป็นอนั ตรายผสมอยู่ ซ่งึ ทาให้ผใู้ ชบ้ าง คนเกดิ อาการแพ้ ผู้จดั ทาโครงงานไดพ้ บวา่ มชี าวบ้านในทอ้ งถน่ิ ได้นาใบตะไคร้หอมนามาทุบแล้วนามาวางไว้ ใกล้ตวั พบว่าสามารถไล่ยงุ ได้ จากการคน้ คว้า ตะไคร้หอมเป็นสมนุ ไพรท่ีสามารถไล่ยงุ ได้ โดยใบตะไคร้หอม จะมนี า้ มนั หอมระเหยสกัดสามารถใช้ไลแ่ มลงได้ เมื่อนาน้ามนั หอมระเหยจากตะไคร้หอม มาทดสอบกบั ยงุ ท่ี เปน็ พาหะของโรคมาลาเรยี ไข้เลือดออก และเทา้ ชา้ ง พบวา่ มผี ลป้องกันยงุ กัดไดน้ าน 8-10 ชม. ดงั นน้ั ทางกลมุ่ จงึ มคี วามคดิ ท่ีจะทาการศกึ ษา คน้ คว้า โดยนาตะไครห้ อมมาใชใ้ นรปู ผลิตภัณฑ์เทียน ไข โดยให้มีสว่ นผสมของใบตะไครแ้ ละน้าตะไคร้ซง่ึ จะไดเ้ ทยี นท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพในการไล่ยงุ และ หมดปญั หา การแพ้สารเคมไี ด้ วตั ถุประสงคข์ องกำรทำโครงงำน - เพ่อื ศกึ ษาประโยชนข์ องตะไคร้ - เพ่ือศกึ ษาวา่ ตะไคร้ไล่ยงุ ไดจ้ ริงหรอื ไม่ สมมติฐำนของกำรศกึ ษำ - นา้ มนั หอมระเหยจากตะไครส้ ามารถไลย่ งุ ไดจ้ รงิ ขอบเขตของกำรทำโครงงำน - ประโยชนข์ องตะไคร้ - โรคทยี่ ุงเป็นพาหะ ระยะเวลำทำงำน
9ก.ค.2562 - 30ก.ค.2562 ผลทคี่ ำดวำ่ จะไดร้ บั - การใช้สมนุ ไพรในการปอ้ งกนั ยงุ ทีถ่ ูกตอ้ ง - รจู้ กั ใชส้ มุนไพรแทนผลติ ภัณฑ์อยา่ งอ่นื ทีอ่ าจมีสารเคมีเปอื ปน - รู้ถึงประโยชน์ของสมุนไพรรอบตัวของเราทส่ี ามารถนาอามาใช้ประโยชนไ์ ด้
บทท่ี 2 เอกสำรท่เี กยี่ วข้อง เอกสารเกยี่ วกบั โครงงานตะไคร้ไล่ยุง ประโยชนข์ องตะไคร้ เมอื่ กล่าวถงึ \"ตะไคร้\" แน่นอนวา่ เปน็ พชื สมุนไพรท่ีทุกคนรู้จกั เป็นพชื อันทรงคุณค่า เพราะนอกจาก นามาประกอบอาหารแล้ว ยังเปน็ สมุนไพรทม่ี ีสรรพคุณ มีประโยชน์ ในการรกั ษาโรคได้อกี ดว้ ย ซึง่ ประโยชน์ ของตะไคร้ก็มีมากกว่าทีเ่ ราคิด ยกตัวอยา่ งเช่น นามาสกัดเปน็ น้ามนั หอมระเหยในการไล่ยุง บรรเทาอาการ เป็นหวดั คัดจมูก แกอ้ าการไอ รักษาอาการทอ้ งอดื ท้องเฟอ้ ได้ เป็นตน้ ชนิดของตะไคร้ที่นำมำสกัดเป็นนำมันหอมระเหย ตะไครเ้ ปน็ พืชทีร่ กั ษาโรคได้ แตช่ นิดจะต่างกัน แตส่ รรพคุณยงั คลา้ ยๆกันแต่ละชนิดรกั ษาโรคได้แทบ ทุกโรค และมปี ระโยชนต์ ่อรา่ งกายอกี ดว้ ย และสามารถ นามาทาอาหารไดอ้ ีก และที่สาคญั ตะไคร้หอมยังชว่ ย ไลย่ ุง อกี ทัง้ ยงั ช่วยดับกลิ่นปากท่ีเกดิ จากเชื้อราในช่องปากช่วยให้นอนหลับสบาย อีกท้ังยังมกี ล่ินหอมอีกดว้ ย ปัญหำกำรใชย้ ำกันยงุ ท่มี ีสำรอันตรำยผสมอยทู่ ำใหเ้ กดิ อำกำรแพ้ ยากันยุงมีแพรห่ ลายแตไ่ มค่ ่อยรุนแรงและอันตรายแตส่ ารเคมีกาจดั ประเภทไพรธี รอยดส์ ามารถทาให้ เกิดพษิ ไดแ้ ละทาให้เกิดอาการแพด้ ังน้ี ผิวหนงั อกั เสบ บวม แดง เยื่อจมกู อักเสบ และมอี าการเหมือนแพเ้ กสร ดอกไม้ คือ จาม ไอ นา้ มกู ไหล หายใจติดขดั และปญั หาการผลติ ภัณฑจ์ ดุ ยากันยงุ ไปใชเ้ ปน็ ส่วยผสมของ เคร่อื งด่มื เสพตดิ \"สคี่ ูณร้อย และ วนั ทู คอล\"ระบาดในกลุ่มวยั รนุ่ และแรงงานตา่ งด้าวผสมร่วมกบั ใบกระท่อม ยาแกไ้ อ วตั ถอุ อกฤทธติ์ อ่ จิตและประสาท และน้าาอดั ลม จาพวกโคล่า กาแฟ หรือ นมเปรี้ยว โดยอ้างวา่ ทาให้ ผ้เู สพเกดิ อาการคกึ คะนอง มึนเมา เคลิบเคลิ้ม ใจลอย ขาดสติ มีความกลา้ ไม่เปน็ ตัวของตวั เอง และถกู ชกั จูง ใหท้ าสง่ิ ต่างๆ ได้ง่าย กำรปอ้ งกันไม่ให้ยงุ กดั ยงุ ถือเป็นสตั ว์ทอ่ี นั ตรายท่ีสดุ ในโลก จากการประเมนิ แบบข้ันตา่ ยุงเป็นสาเหตขุ องการตายในผู้ป่วย โรคมาลาเรีย ปีละนบั ร้อยลา้ นคน อย่างไรกต็ าม ยุงยงั แพร่เช้อื อน่ื ๆ ได้อีกด้วย เช่น โรคไข้สมองอักเสบจาก ไวรสั เวสท์ไนล์ รวมถงึ ไข้เหลืองและไขเ้ ลือดออก ก็มเี หตผุ ลเกนิ พอแลว้ ทจ่ี ะหลกี เล่ยี งการถูกยุงกดั น่ยี งั ไมน่ บั ตุ่มคนั ๆ จากการถกู มนั กดั ดว้ ย วธิ กี ารจะจัดการพวกมันได้ดที สี่ ุด ก็ตอ้ งรูว้ า่ มนั อยู่กนั ในแหล่งไหน ทาอย่างไร จงึ ขับไลแ่ ละกาจัดมันได้ ตัวอย่างเชน่ การใช้มุ้งเพือ่ ป้องกนั ไม่ให้ยุงกัด ทายากัดยุง อื่นๆเปน็ ต้น แม้ยุงจะเปน็ เพยี งแค่สัตวต์ วั เลก็ จด๊ิ เดียวแต่น้าลายยุงกเ็ ปน็ พาหะนาโรครา้ ยอย่างไขเ้ ลอื ดออกและโรคมาลาเรยี แถมยังทา ใหเ้ ราเกดิ อาการคนั และทิ้งรอ่ งรอยตุ่มสีแดง ๆ
บทท3่ี ขัน้ ตอนการดาเนนิ งาน วัสดอุ ปุ กรณ์ 1.ตะไคร้ 2.น้ามันหอมระเหย 3.ขวดผลิตภัณฑ์ ขัน้ ตอนการทา - นาตะไคร้มาหั่น ตา และใส่ผ้ากรอง - นาตะไคร้หอมทห่ี ่อด้วยผ้ากรองไปต้มเพือ่ สกัดน้าตะไคร้หอม - เติมการบูรเพ่อื ลดกล่ินอับและความอับชน้ื เพ่อื เป็นการเพ่ิมกลิ่นหอม คนส่วนผสมทง้ั หมดให้เข้ากนั - เทใส่ขวดบรรจุ
เอกสำรอ้ำงองิ https://sites.google.com/site/takhirhxmliyung45/bth-thi1 http://autsada.blogspot.com/ :https://www.honestdocs.co/benefits-of-lemongrass :https://medthai.com/ตะไคร้/ :http://johjaionline.com/on-looker/ตะไคร้บา้ น-กบั -ตะไคร้หอม-ต่างกนั อยา่ งไร/ :https://sites.google.com/site/takhirsmunphirthiy/1 :https://puechkaset.com/ตะไคร้ตน้ / : http://www.bangkokhealth.com/index.php/45-2011-12-26-02-43-39.html?start=2 : www.dmsc.moph.go.th/cosmetics/upload/knowledge/insectisiderev2%20.doc : http://www.fda.moph.go.th/sites/Hazardous/RegionM/ ยาจุดกนั ยงุ .pdf :https://sites.google.com/site/ruthanyungtawray2/posttest2 :https://th.wikihow.com/หลีกเลี่ยงยงุ กดั :https://health.kapook.com/view91744.html
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: