การเปล่ยี นแปลงลักษณะของเปลือกโลก การเปลี่ยนแปลงอนั เน่ืองมาจากการเคลอ่ื นทข่ี องแผน่ ธรณี ซ่งึ มลี ักษณะ การเปลี่ยนท่ีสาคัญ และพบเห็นไดท้ ั่วไป คือ ชนั้ หินคดโค้ง และรอยเลือ่ น
สารบญั 01 1.ชั้นหนิ คดโคง้ (fold) 02 2.รอยเลอ่ื น (fault) 03 04 3.รอยเลอ่ื นแบบปกติ 05 4.รอยเลอ่ื นแบบยอ้ น 5.รอยเลื่อนแบบแนวระนาบ
ช้ันหินคดโคง้ (fold) การโคง้ งอของชน้ั หนิ เปน็ การเปลยี่ นลกั ษณะ ของชน้ั หนิ ทม่ี สี มบตั ิเปน็ พลาสตกิ (เปลย่ี นรปู แลว้ ไมค่ นื ตวั กลบั สสู่ ภาพเดมิ เมอื่ แรงกระทา หมดไป) แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท 1.ชั้นหินคดโคง้ รูปประทุน(anticline) มรี ูปรา่ งโค้งงอตง้ั ขึ้นเหมอื นหลงั คาเรือ 2.ชัน้ หินคดโค้งรูปประทุนหงาย(syncline) เป็นการโคง้ งอของชน้ั หนิ ทม่ี สี ว่ นโคง้ ควา่ ลง
รอยเล่อื น(fault) รอยเลอื่ น คอื ระนาบ รอยแตกตัดผ่านหินซึ่งมีการ เคลื่อนที่สมั พันธ์กนั และหนิ จะ เคล่ือนทตี่ ามระนาบรอยแตกนน้ั เราสามารถจาแนกรอยเล่ือน ออกมาได้ 3 ประเภทหลัก หินทีว่ างตัวอยู่บนระนาบของรอยเลื่อน เรยี กวา่ หินเพดาน (hanging wall) และหินที่อย่ดู ้านล่างของระนาบรอยเล่อื นเรียกว่า หนิ พน้ื (foot wall)
รอยเล่อื นแบบปกติ เป็นรอยเลอื่ นท่มี ีการเคลอ่ื นทต่ี ามมุมเทของระนาบรอยเล่อื น โดย ที่หนิ เพดานมีการเคลอื่ นทลี่ ง เปรยี บเทยี บกับหนิ พื้นโดยทวั่ ไประนาบรอย เล่อื นของรอยเลอื่ นปกตจิ ะมีมมุ เทมากกว่า 45 องศา
2.รอยเลอ่ื นยอ้ น(reverse fault) เป็นรอยเลอ่ื นท่มี กี ารเคลื่อนท่ตี ามมุมเทของระนาบรอยเล่ือน เช่นเดยี วกบั รอย เล่ือนปกติ แต่ทศิ ทางของการเคลอ่ื นทีจ่ ะสลบั กัน กลา่ วคือ หินเพดานจะเคลือ่ นทข่ี ้ึนเมือ่ เปรียบเทยี บกับหินพ้นื โดยท่วั ไประนาบรอยเลอ่ื นของรอยเล่ือนย้อนจะมมี ุมเทมากกว่า 45 องศา แตถ่ ้าคา่ มมุ เทน้อยกวา่ 45 องศา จะมชี อ่ื เรยี กว่า รอยเล่อื นย้อนมุมต่า (thrust fault)
3.รอยเลอื่ นตามแนวระดบั เป็นรอยเลือ่ นที่มีมมุ เทของระนาบรอยเล่ือน มีคา่ 90 องศา และหนิ จะเคล่อื นที่ในทิศเดียวกบั แนวระดบั ของระนาบรอยเล่อื น
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: