Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แค่สวดมนต์ก็พ้นได้

แค่สวดมนต์ก็พ้นได้

Description: หมวดศาสนา

Search

Read the Text Version

หายกลัว พระอินทร1ป็นใJอุชนยงรราคะ โทสะ โมหะอยู่ คนส์อฟัง และพึ่งแลัวย่อมฟันจากภัยได้ พระทุทธเด้าเป็นผู้ประเสริฐไม่มีใครยิ่งกว่า ห่างไกลจาก กิเลส ทรงประกอบด้วยพระป็ญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ และ พระมหากา^ณาธิคุณ เป็นผู้มีความเอ็นดู หวังประโยชน์เกื้อภูลต่อ สรรพลัตวัทั้งหลาย ถาเราได้พึ่งพระองค์ด้วยการปฏิบัติตามคำลอนย่อมฟัน จากความทุกฃได้แน่นอน แต่ทุกวันนี้ เราพึ่งวัตอุมงคลมากกว่าพึ่งคำลอน พึ่ง ส์งด้กดสิทธมากกว่าพึ่งพระธรรม การบันถือนั้น ด้องบันถือให้ลีกกื้งถืงคำลอนที่ช่อนอยู่ใน วัตอุมงคล อย่าบันถือเพียงแค่^ปป็นภายนอก ค^นาอาจารยทั้งหลาย เวลาแจกวัตอุมงคลท่านก็จะลอน เสมอว่าให้รักษาสืล ๕หมนท่าบุญนางรูปก็เบันว่าอย่าผิดลูกผิดเมีย คนอี่นบัาง อย่าประมาท ให้มีลติ แต่เราก็จำได้แค่วัตฤมงคล ลืมค่าสอนที่ฟานสง พระมหานงค์ สุ มงฺค[ล ©do www.kalyanamitra.org

ร- M ---^ เราต้องเคารพในคุณธรรมความดืของผู้ใ}น ไม่ใช่เคารพ บุชาเพี่อขอความช่วยเหลือ เราต้องช่วยเหลือตัวเอง ก่อนที่จะ อ้อนวอนให้เทพช่วยเหลือ เมื่อเราฝากความหวงไอ้กับคนอื่น ถ้าไม่ไต้ก็จะผิดหวัง เลิกใ!บถือเทพองคนี้ แล้วไปหาเทพองคไหม่ สิงคักดลืทธ^ปแบบใหม่ที่ช่วยเหลือ ตนเองไต้ จึงทำให้เกิดเทพจริง และเทพปลอมขึ๋นเป็นจำนวนมาก กว่าจะเวาโดนหลอก เราก็หมดตัวเลืยแล้ว 9๔(9 แค่สวคฆนต์กิพน!ดั ^^ www.kalyanamitra.org

อาฎานาฎิยนุริตร: บทสวดเล่ผีหรอปอบเข้าสิง บทสวดนี้เริ่มต้นด้วยค่าว่า \"วิปัสสิลสะ นะมัตอุ จักชุมันต้สสะ สิรีมะโต'' เป็นต้นไป มีอานุภาพในการป๋องกัน เหล่าอมนุษยไม่ให้มารบกวน เป็นคาถาที่ห้าวจตุมหาราชแต่งขึ้น เพี่อป๋องกันอมนุษย์บางพวกที่ไม่หวังดีมารบกวนพระสงป' ผู้บำ เพ็ญเพียรปฐมัติธรรมอยู่ในป๋าเขา ปรากฎตามพระสูตรว่า \"อาฏานาฏิยสูตร''มาในพระไตรป๋ฎกเล่มที่ ๑๑ ต่านานบทสวดมนต์ สมัยหนี่งพระผู้มีพระภาคเจัาทรงประห้บอยู่ณสูเขาคิชณสูฎ ใกล้กชุงราชคฤห์ ในครั้งนั้น ห้าวจาตุมหาราชขึ้งสถิตย์อยู่เหนือ ยอดเขายุคันธร หรีอที่เรียกว่าชั้นจาตุมหาราHกา อ้นเป็นสวรรค ชั้นล่างสุดในบรรดาสวรรค์ทั้งหมด ^ ^ พระบหๆนงก์ สฺ ฆงค(ล อ๔(ท www.kalyanamitra.org

พระอินทร์ทรงรบํญซาใใพาวมหาราชทั้ง (£ ทำ หน้าที่เฝ็า รักษาประดูสวรรคในทิศทั้ง ๙ ใหดี เพี่อปัองกันมิไหพวกอสูร มารบกวน โดยมิ พํววfi เผู่'เป็นหัวหน้าคนธรรพ์ เฝัารักษาประตุทางด้าน ทิศบุรพา ทวววิfหัหกผู้เป็นหัวหน้าๆมกัณฑ์ เฝืารักษาประตุทางด้าน ทิศหักษิณ พำ ววิเ'กัก!/ผู้เป็นหัวหน้านาคทั้งหลาย เฝืารักษาประตุ ทางด้านทิศปัจจิม หัววiวสวินผู้เป็นหัวหน้ายักษ เฝ็ารักษาประตุทางด้าน ทิศอุดร หัาวมหาราชทั้ง ๙ มิจิตเลื่อมใสศรัทธาในทุทธศาสนา ปรารถนาจะดูแลพระภิกนุสงฆ์ มิใหัพวกอสูรหรือพวกด้ต^มา รบกวนการปฏิบัติธรรมของพระภิกนุสงฆ์ จึงคิดจะชวนกันลงมา เฝืาพระผู้มิพระภาคเจา แต่ก็ห่วงภาระหน้าที่ที่จะด้องดูแลรักษา ความสงบเรืยบรัอยในประตุสวรรคทั้ง ๙ ทิศ มหาราชทั้ง ๙ จึงมิบัญชาแต่งทั้งใหัคนธรรพ ๆมกัณฑ์ นาค และยักษ์ อย่างละแสนเฝืารักษาประตุสวรรคทั้ง ๙ ทิศ ©๘๘ แค่สวดมนต์ก็พน1ค ^ www.kalyanamitra.org

ให้ดืแล้วพากันไปประชุมพร้อมกันที่อาฏานาฏิยนคร ณ สวรรค์ ล้นจาตุมหารา%กานนเอง พร้อมกับผูกมนค์อาฏานาฎิยปริตร ^งมีเนื้อความสรรเสริญคุณของพระล้มมาล้มทุทธเล้าทั้ง ri พระองค์ คือ ๑. พระวิปัส^ la. พระ ๓. พระเวmQ ๙. พระกๆสันธะ ๕. พระโกนาคมนะ ๖. พระกัสสปะ ๗. พระอังคืรส(พระสมณโคดม) ครั้นผูกมนต์พระปริตรแล้วจึงประกาศแก่บริวารของตนว่า ''ทากปี^ดสาธยายมนต์อาฏานาปียปริตรนี้ขี้นแสัว สัาใครไม่ฟัง จะต์องฤกสงโทษอย่าง^นแรง\" จากนั้น มหาราชทั้ง ๙ ก็พร้อมใจกันลงมาเล้าเฝืาพระผู้มื พระภาคเล้า ณ ฎเขาคืซฌภูฎ กราบทุสว่า พวกยักษ์นาค คุมกัณฑ์ และคนธรรฑ์ทั้งหลาย ที่มีเดชบีค์กดาบือาบุภาพ แต่มีจิตกระด้าง # พระบหานงค' สุ ฆงฺคโส 9๘๕ www.kalyanamitra.org

V -® ^ หยาบช้า พากันละเมิดสิล ๕ เป็นประจำ ยังไม่เลื่อมใลในคุณของ พระรัตนตรัยนั้นมิเป็นจำนวนมาก ส่วนพวกที่จิตเลื่อมใสนั้นมินอย เมื่อพระสาวกพากันอยู่ในป้าเพี่อบำเพ็ญสมณธรรม อมบุษยัผู้ใม่ เลื่อมใสจะพากันหสอนหสอก กระทำให้เจ็บไช้ เป็นยันตรายแก่ ช้วิตแสะพรหมจรรย'ได้ ตั้งแต่นี้ไบํจะไม่บังเกิดเหตุการณ'เซ่นนั้น อึกแล้ว หากพระองค'ทรงพระกชุณารับเอามนต'บทนี้ไว้ แล้ว บํระทานให้พระภิกนุสาวกสาธยายอยู่เนืองๆ รับรองว่าอมนุษย' ทั้งหสายกั๊จะไม่กล้ามารบกวนหสอนหสอกอย่างแม่นอน อึกทั้ง ยังจะซ่วยบํกป๋องคุ้มครองกัยทั้งบํวงให้อึกด้วย พระทุทธเว้าจึงทรงรับมนต'พระบํริตรนั้นไว้ ห้าวเวสว้ณ ได้สวดอาฎานาฏิยบํริตรถวายแล้วพากันมนัสการสากล้นไบํ จากนั้น พระทุทธเว้าจึงทรงมิพระบัญชาให้บํระชุมภิกนุ ทั้งหสายในที่นั้น แล้วทรงแสดงพระบํริตรนั้นให้แก่กิกนุทั้งหสาย ได้สาธยาย เสร็จแล้วทรงตรัสว่า ''ดูก่อนภิกชุทั้งหสาย ทำ นทั้งหสาย จงพยายามสาธยายมนต'นี้ให้บริบุรณ'จักพนจากอุป้ทวันยันตราย ทั้งบํวงได้ อมบุษย'ทั้งหสายก็จะไม่มารบกวนหสอนหสอก เธอ ทั้งหสายจะได้อยู่เป็นสุข เพี่อบํระพฤติพรหมจรรย'ให้เจริญกัาวหน้า ต่อไบํ\" 9๘๖ แค่สวดมนต์ก็[บนเค้ จ^ุ ^ ^ www.kalyanamitra.org

พระภิกนุทั้งหลายก็น้อมรับแล้วนำมาสวดสาธยาย กลายมาเป็นประเพณีจนถึงใqกวนนี้ เกิดตำนานสวดภาณยักษ์ การสวดภาณยักษ์ทั้นแทจริงแล้ว ก็คีอ การสวดอาฏานาปีย l/ริดรนี้นเอง โดยพระปริตรนี้แปงเป็น ๒ ภาค คือ ภาคภาณพระ และ ภาคภาณยักษ์ หลังจากพระมหาบุ^ษตรัสfเป็นพระอรหันตล้มมา ล้มทุทธเจ้าแล้วนั้น หัาวจตุโลกมาสก็มาเข้าเฝัา พระทุทธเจ้าก็ตรัส กล่าวถึงพระทุทธวงศ คือพระนามพระทุทธเจ้าที่เคยตรัส!'มาแล้ว ภาคนี้เริยกว่า \"ภาณพระ\" จากนั้นหัาวจตุโลกบาลก็มืดำริว่ายักษ์ฤมภ'ณฑ์นาค และ คนธรรพ'ที่ไม่มีจิตเลื่อมใสในพระทุทธศาสนา กลัวว่าจะมารบกวน พระสงฆ'สาวกใหัได้รับความเดือดรัอน จึงถวายพระปริตรนามว่า อาฏานาฏิยปริตรแด่พระทุทธเจ้า เพี่อใหัพระสงฆ'นำไปสวด ภาคนี้เริยกว่า ''ภาณยักษ์\" ^ # พระมหานงค์ สุ มงฺคโล €>๘ฝ ■pOsw, ww.kalyanamitra.org

i พ^ ในอดืต การสวดภาณยักษ์มีอยู่สองแบบคือ ''สวดภาณวาร\" และ \"สวดภาณยักษ\" การสวดVไงสองอย่างนี้มีความแตกต่าง กันคือ ภาณวาร เป็นการสวดแบบมีทำนองค^ ลทุ คือมีการ เน้นเสียงหนักเบา ใยันาเสียงสวดที่ไพเราะ ไม่กระแทกกระทั้น ดุดันเหมีอนสวดภาณยักษ์ ส่วนสวดภาณยักษ์ เป็นการสวดที่มีนํ้าเสียงกระแทกดุดัน เกfยวกราดและน่ากกัว จึงได^อว่า \"สวดภาณยักษ์\"จุดประสงคเพี่อยับไล่ยักษ์หรือ ภูตฝืต่างๆ การสวดภาณยักษ์สันนิษฐานว่าเริ่มมีขื้นในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยพ่อชุนรามคำแหง ^งไดัรับอิทธิพลมาจากพระสงมัทาง สังกาสายเถรวาท โดยเริ่มเยัามาทางดัานจังหวัดนครศรืธรรมราช จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกสัาเจัาอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เสด็จนครศรืธรรมราชจึงไดัน่ามาจัดเป็นพิธิประจำปี สำ หรับพระนคร เพี่อความเป็นสิริมงคล เพราะมีความเริ่อกันว่า น้านเมีองหนึ่งๆ จะมีผืที่คืและ ฝืที่ไม่คือาดัยอยู่ ผีที่ไม่คืเรืยกว่า ตพืมี'คาจ\" ส่วนผืที่คืเรืยกว่า ©๔๘ แค่ลวคมนต์ก็(นนเค้ ^- www.kalyanamitra.org , '''

p ''เทnยดา'' ''เททเจ้า'' และที่ป้านเมึองมืเหตุเภทภัยต่างๆ เกิดขึ้น ก็เป็นเพราะเกิดจากฎติฝ็ปีศาจกลนแกสํ'งบันดาลให้ เป็นไป ดังนั้น เมื่อสันปีหนึ่งไป จึงไดัทำพิธีสวดภาณ่ยักษ์ เพี่อเป็น การขับไล่ฎตผีภันยักครั้ง เพี่อความเป็นสิริมงคล และความร่มเย็น เป็นสุขของบัานเมือง จึงเป็นสาเหตุที่มืการทำพิธีสวดภาณยักษ์ ภันขึ้นมานั้นเอง นอกจากนี้ พิธีสวดภาณยักษ์ในสมัยก่อนจะมืการยิง ปีนใหญ่ดัวย เป็นปีนโบราณใส่ดินปีนกระทุ้ง ที่มืเสียงดังตุมตามๆ น่ากยัวมาก กล่าวกันว่าเพี่อใหํยกhfกลว ไม่ใช้ปีนเล็กๆ อย่างในสม่ย ปัจๅบัน มืผู้กล่าวว่า บทสวดหรือพระสูตรนี้แต่งขึ้นภายหยัง มืใซ่ เรื่องของพระทุทธคาสนา แต่เมื่อพิจารณาดูเนี้อหาแยัวเห็นว่า เป็นบทสวดสรรเสริญ อดิตพระทุทธเจ้ามืพระวิปีสสี เป็นดัน ส์งน่าจะอบุใลมช่วยให้เกิด ทุทธาบุสติ และมือาบุภาพในการบัดเป่าภัยพิบไติไดับัาง 6^ # : พระ บ หา นง ค' สุ มงฺ ค!ล ©๔๙ www.kalyanamitra.org

♦« บทสวดและคาแปล จักชุมันตัสสะ สิรืมะโต สัพพะฦตานุสัมปีโน วิปัสสิสสะ นะมัตชุ สิฃิสสะปี นะม้ตชุ เวสสะฦสสะ นะมัตธุ นะหาตะสัสสะ ตะปีสสิโน นะมตชุ กะๆสันรัสสะ มาระเสนปปะมัททิโน โกนาคะมะนสสะ นะมัตชุ พ์ราหมะณัสสะ ชุสิ มะโต สัสสะปัสสะ นะม้ตถุ วิปปะบุตตัลสะ สัพพะธิ อังคืระสัสสะ นะมัตชุ สัก์ยะใJตตัสสะ สิรึมะโต ใย อิ มัง รัมมะมะเทเสสิ สัพพะทุกชาปะนุทะมัง เย จาปี นิพทุตา ใลเก ยะถาฎตัง วิปีสสิสุง เต ซะนา อะปีสุณา มะสันตา วิตะสาระทา หิ ตัง เทวะมะนุสสาน้ง ยัง นะมัสสันติ โคตะมัง วิชชาจะระณะสัมป้นนง มะสันตัง วิ ตะสาระสัง วิชชาจะระณะสัมปีนนัง ทุทรัง วันทามะโคตะมันติฯ ขอความนอบน้อมแห่งขาพเจ้า จงบีแด่พระทุทธเจ้า พระนามว่าวิปีสสิ ผู้ทรงบีพระปีญญาญาณกวัางไกล ทรงไวั ^งพระสิริคือความงาม ขอความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้า จงบี แด่พระพุทธเจ้าพระนามว่าสิฃื ผู้ทรงบีพระสัยอนุเคราะสัต่อ อ๕๐ แค่สวดบนด์ก็ฟ้นเดั www.kalyanamitra.org

สรรพสัตว์ทั้งปวง ขอความนอบนอมแห่งข้าพเจ้า จงมแด่พระทุทธเจ้า พระนาบว่าเวสสภู ผู้ทรงชำระล้างกิเลสแสัว ผู้ทรงมืตบะบารบื ขอความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้า จงรแด่พระทุทธเจ้าพระนามว่า กทุสันธะ ผู้ทรงยรยี^งมารและเหล่าเสนามารทั้งหลายได้ ขอความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้า จงรแด่ทุทธเจ้าพระนามว่า โกนาคะมะนะ ผู้ทรงลอยบาปเสิยแล้ว ผู้ทรงมืพรหมจรรย์ อันอยู่จบแล้ว ขอความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้า จงมีแด่พระทุทธเจ้า พระนามว่ากัสสปะ ผู้ทรงหลุดพ้นวิเศษแล้วจากกองกิเลส ทั้งปวง ขอความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้า จงมึแด่พระทุทธเจ้า พระนามว่าอังคืรส ผู้ทรงเป็นโอรสแห่งศากยราช ผู้ทรงไว่^ง พระสิริอันงดงาม พระทุทธเจ้าพระองคได ได้ทรงแสดงแล้ว^งธรรมนี้ อันเป็นเครื่องบรรเทาเสิย^งทุกข'ทั้งปวง อนึ่ง แม้ชนเหล่าใด กด ทดบกิเลสไดแล้ว[นเลก ไVI ดv(vแจVงธรรม ตามคว_ า_ ม_ เบ<นS|จริง ชนเหล่านั้นเป็นผู้Iม่มความส่อเสิยด เป็นผู้ทรงความเป็นใหญ่ ปราศจากความครื่นคร้ามแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พากัน ' ^ ^ พระมทานงค์ สุ ม0คโล ©๕© www.kalyanamitra.org

นอบน้อมอยู่ ^งพระๆทธเจ้าพระองคใด ผู้ทรงเป็นโคดมโคตร ผู้ทรงเกื้อภูลแก่เทวดาและมบุษยทั้งหลาย ผู้ทรงถึงพร้อมแล้ว ด้วยวิชชาและจรณะ ผู้ทรงความเป็นใหญ่ เป็นผู้ปราศจากความ ครนคร้ามแล้ว ฃำ พเจ้าทั้งหลาย ขอนน้ลการพระทุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงเป็นโคตมโคตร ผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยวิชชาและจรณะ ด้งนี้ฯ ธรรมะจากบทสวดมนต์ บทสวดอาฏานาฏิยปริตรนี้ มีจุดประสงค์เพี่อขับไล่เหล่า ยกษ์และi^ตผืปีศาจที่นิล้ยไม่ดื คอยเขัาถึงผู้ที่มีจิตอ่อนแอ หรือ หาทางรบกวนผูอี่น โบราณกล่าวไว้ว่า หากใครถูกยักษ์หรือวิญญาณร้ายเขัาถึง อย่าเพิ่งสวดบทนี้ให้ฟัง ด้องให้ผู้ที่ถูกฝ็เขัานั้นร้บสืลก่อน เพี่อให้มีสืลบรืสุทธ จากนั้น จึงสวดเมตตสูตร ธขัคคสูตร รัตนสูตร ^งว่าด้วยอาบุภาพ ของเมตตาและคุณพระร้ตนตรัย 9๕๒ แค่ลวลมนฅ์กิน!น1ด www.kalyanamitra.org

แด่ถ้ายังไม่ยอมออก ก็ให้น่าผู้นั้นไปวัด ให้นอนที่ลานวัด หรือเจดีย์ แล้วตั้งเครื่องเข่นไหวับุชาประกาศชุมบุบเทวดา จากนั้น จึงค่อยถามรื่อของอมบุษย์ที่เขาสิงว่าเป็นใครมาจากไหน จะได่' ท่าบุญไปให้ และขอร้องให้ปล่อยคนที่ถูกสิง แด่ถ้าท่าอย่างนั้แล้วยังไม่ยอมออก ก็ประกาศให้เทวดา ทั้งหลายทราบว่า อมบุษย์นี้ไม่ยอมท่าตามค่าขอร้อง เมื่อเป็น เช่นนั้น ต้องใช่ไม้แขงลงทุทรอาญาแก่อมบุษย์ แล้วลวดพระปริตร นี้ให้ฟังในภายหลัง แต่ท่านไม่ไดกส่าวไว้ว่า ทากลวดบทนี้แลวยักษ์หรือผียง ไม่ยอบจะใยัท่าอย่างไร การสวดมนต์บทนี้ เป็นการนอมเอาคุณของพระทุทธเจ้า ทั้ง ๗ พระองค์ มาเป็นล้กขืพยาน เพี่อยับไล่สิงไม่ดีทั้งหลาย เมื่อสวดแล้วจะยับไล่ยักษมารไต้จริงหรือไม่ คงมิใช่ ประเด็นสำคัญ แด่เมื่อสวดเป็นประจ่า ย่อมสามารถยับไล่ ''ยักษ์ภายใน คือโลภ ใกรร หลง ออกจากใจไต้อย่างแน่นอน V ผระมหานป้ค สุ มป้คโล 9<ร๓ www.kalyanamitra.org

^ะ^ ^ ยักษ ๓ ดํวนี้ คือความโลภ ความโกรธ ความหลงนี้ อันตรายยิ่งกว่ายักษ'หรืออมนุษยัที่มองไม่เห็น!■สิยอีก อย่าปล่อยใจ ให้ยักษ์ ๓ ตัวนี้ เกิดขึ้นในใจเรา หรือยัามื ก็อย่าเลี้ยงไว่ให้ยันโต จนน่ากลัว ทางที่ดี ควรทาทางกำจัดก่อนที่เราจะฤกยักษกินเ^ยก่อน 9(2๔ แค่สวดมนค์ก์เบนเดั www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

อังคุลิมาลปริตร: ช่วย?ห้คลอดลูกง่าย ปลอดภัย บทอังคุลิมาลปริตรที่เริ่มสวดด้วยค่าว่า ''ยะโดทัง ภะคินิ อะริยายะชาติยๆ ชาโต'' ปรากฎในอังคุลิมาลสูตร พระไตรปีฎก เล่มที่ «๓ เป็นคาถาที่พระทุทธเจาตรัสสอนให้พระองคุลิมาลไห' ท่าสัจกิริยาแห้วอธิษฐานจิตเพี่อช่วยให้หญิงคนหนึ่งคลอดสูกง่าย พระปริตรบทน พระสงม์นยมสวดในพิธิมงคลสมรส เพี่อ ให้เจาสาวมีสุขภาพแข็งแรง คลอดลูกอย่างปลอดภัย นอกจากนึ่' ยังมีอาบุภาพในการขจัดโรคภัยและอันตรายทั้งหลายอีกด้วย ตำ นานบทสวดมนต์ ตามประวไติพระองคุลิมาล ''โจรทันนิ้ว\"ท่านกล่าวไว้ว่า พระองคุลิมาลนี้ มีมารดาที่อว่า ''มันตานิ'' ส่วนปิตา เป็นใJโรหิตของพระเจัาโกศล นางมันตานีได้คลอดบุตรในเวลา A , พระฆ หานงค' ลุ มงฺ คเล 9<Sc1 www.kalyanamitra.org

กลางคึน.ในช่วงเวลาที่มารดาคลอดองคุลิมาลนั้น ก็เกิดอาเพศ เป็นลางราย อาจุธนั้งหลายในเมืองส่องประกายขึ้นโดยไม่ทราบ สาเหตุ แม้กระทงฝักดาบที่อยู่ในห้องพระบรรทมของพระราชา ก็เรืองแดงฉานใปทว พราหมณ์ผู้เป็นบิดาจึงลุกออกมาแหงนดูดาวตรวจดูฤกษ ยาม ก็เวาบุตรเกิดในฤกษ๊โจร จึงเข้าเฝัาดูลให้พระราชาทราบว่า จะไม่มือันตรายใดๆ แก่พระราชาหรือราชสมบํต แต่ภัยนี้จักเกิดขึ้น ในอนาคต ดวยว่า เมื่อคืนนี้ลุกชายของหม่อมอันเกิดแห้วจึงเป็นเหตุ ให้ภัตราจุธลุกเป็นไฟ ห้วยเดชของๆมารม้อยนั้น แต่เมื่อเจรืญจัย จะมืจึตใจหยาบข้า จะเช่นฆ่าผู้คน จะเป็นเหตุให้มหาชนเดือดร้อน เป็นอันมากขอพระองคทรงโปรดให้จับๆมารนั้น ไปประหารเสิยเกิด เพี่อมืให้เป็นภัยต่ออาณาประชาราษฎร์ลิบไป พระเจัาโกศล เป็นผู้เลี่อมใสในพระร้ตนตรัยเป็นทุทธมามกะ จึงทรงมืจึตเมตตาเห็นว่าเด็กม้อยเพี่งจะลิมตามาดูโลก อังไม่!' เรื่องราวอะไรจะห้งให้ประหารก็ดูจะโหดร้ายทาเณ สู'อุตส่าห้เลี้ยงดู ให้เติบใหญ่จะมืประโยชนกว่า แห้วจึงทรงตั้งรื่อๆมารนั้นว่า \"ฮหิงสกะ''แปลว่า เ^ม'เปียดเบียนใคร ©๕๘ แศ่ลวดมนต์กีบ!น!ด้ ^ www.kalyanamitra.org

ตั้งแต่นั้นมา อหิงลกะๆมารนั้นก็อยู่ในการอุปการะของ พระเจ้าแผ่นดิน ความอิจฉาเป็นเครื่องทำลายโลก ต่อมาอหิงลกะฤมารเจริญวยเติบใหญ่เป็น'กนุ่ม2ป'ไย ท่านนุ่ใรหิตและนางพราหมณีจึงส่งลูกชายใหํใปสืกษ'ไติลปริหย'ไ ณ เมืองตักกดิลา อหิงสกะเป็นเด็กฉลาดหลักแหลม เนื่องจากเป็นติษย์รับใช้ ใกลัเดกบอาจารย์ เช้าไปเริยนดิลปริทยากับอาจารย'ไม่นาน เท่าไหร่ ก็เช้าใจรอบ!สรรพริทยาของอาจารย'ได้กังหมด อีกกัง กังเป็นยู่'กตัญญ!คุณอาจารย์ พยายามตอบแทนพระคุณอาจารย์ ด้วยช่วยเหลึอกิจการงานทุกอย่างที่จะท่าได้ จนเป็นที่อิจฉาริษยา แก่บรรดาติษย์คนอื่นๆ แผนการกำจ้ดอหิงสกะจึงได้เริ่มขึ้นตั้งแต่กัดนี้เพยงเพราะ ความอิจฉาริษยาตัวเดิยว นื่แหละที่พระทุทธเจ้าเริยก'1า ''อรติ โลกนา^กา ความอิจQ1 เป็นเครื่องทำลายโลก'' •!ร ,๗! พระมหานงค์ ลุ มงฺค!ส Qdcf www.kalyanamitra.org

คนประเภทนี้คนอี่นดืหรือเด่นเกินตัวไม่ได้ ตัองหาทาง กำ จัด ใJชุชนคนธรรนดาอย่างอาจารย์แรกๆ ยังไม่เ^อ พอได้ฟัง อยู่ปอยๆ ก็เริ่มจะเอนเอียง เหมือนคำกล่าวที่ว่า ''นี้าเชาะหิน หินยัง กร่อน ใจอ่อนๆ ของคนหรือจะทนได้\" พวกที่ใล่รายฟ้ายสิก็ทำเป็นกระบวนการ พูดทุกวันจน อาจารย์จักจะเริ่มเอียง พลอยหลงเริ่อตามคำใล่ร้ายฟ้ายอี จึงคิด วางแผนเพี่อหาทางกำจัดให้ได้คิดว่า \"ถาเราฆ่าลูกคิษย์ใครๆ ก็ จะคิดว่าเราใจร้ายทำลายได้แมกระทงลูกคิษย'ในล่านัก ต่อไปจะ ไม่มืใครมาเรืยนที่ล่านักนี้อีก เมื่อเป็นอย่างนี้ที่อเสิยงก็จะเสิยหาย รายได้ขาดสูญ หมดทางทำมาหากิน\" ปีวิธืเดียวก็คือปีมปีอคนอี่นฆ่า จากนันะอาจารย์ก็วาดแผนการณ์ร้ายไวัในใจแลวเรืยก อหิงสกะๆมารมาบอกว่า \"ยัง่มืวิซาขั้นสุดทำยที่ยังไม่ได้เรืยน เธอตัองฆ่าคนให้ได้ทนคน จึงีจะสำแจวิช่านี้ และมืเพียงเธอเป็น ผู'เคิยวเท่านันที่จะทำได้ เมื่อทำได้เช่นนี้ ก็จะได่ริ่อว่าพูซาคเ\" 9ช0 แศ่สวดมแด'ก็lijliM ^^ www.kalyanamitra.org

อหิงสกะๅมารจึงกล่าวว่า \"พ่านอาจารย์ข้าพเจ้าท่าเช่นนั้น ไม่ได'หรอก\" อาจารยจึง^ว่า \"ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่เรืยนไม่จบนะ เพราะต้อง ไต้นิ้วมาบุซาคเ\" อหิงลกะจนใจต้องยอมรับข้อเสนอ เพราะถ้าท่าผิดพลาด ก็จบข้วิตเช่นกัน ถ้าไม่ท่าก็เรียนไม่จบ เรียกว่าจบทั้งสองอย่าง กลับไปคงอายฟ้าดิน เมื่อต้ดสินใจต้งนั้น อหิงสกะจึงลาอาจารย์ถืออาๅธเข้าปา เริ่มข้วิตเป็นนักปา ปาไปนับไป บางทีก็ลืมนับ บางทืนับผิดนับถูก จากนั้น จึงเอานิ้วมารัอยเป็นพวงมาลัยแทน ต้วยเหตุนั้นแส คนทั้งหลายจึงขนานนามว่า ''องf^ลิมาล'' ผู้มืนิ้วมือเป็นมาลัย องคุสิมาสถือดาบตระเวนไล่ฟ้นเช่นปาผู้คน ลัมตายไป มากมาย ผู้คนพากันหวาดกลัวทิ้งบ้านเรีอนเดินทางบาลัอม พระนครสาวัตถื รวมตัวกันประท้วงใหพระราชาแบ้บ้ญหา ฝ่ ายพราหมณ์ผู้เป็นบิดารู่'ว่าโจรองคุสิมาสนั้นคือลูก ของตน จึงบอกภรรยาว่า โจรนัะ้นMไม'1่_ใ1ช*1่ใครอนคือ-อ^หิงสกะลูกของ เรา บ้ดนิ้ พระราขาจ้กเสด็จออกไปจ้บเขา จะท่าอย่างไรกันดี ^^ พระมหาน0ค สุ มงุค!ล ©ช© www.kalyanamitra.org

ทั้งสองตกลงมอบให้ผู้เป็นแม่ไปหาลูก เพราะไม่ไว่ใจใคร รเพืยงแม่เท่านั้นที่รักและปรารถนาดึต่อลูกอย่างแห้จริง ด้วย ความรักของแม่ที่รต่อลูกสุด?วิด ไม่คิดเสียดายว่า?วิตจะมื อันตราย จึงออกเดินทางล่วงหน้า เพี่อหวังจะไปบอกแก่ลูกว่ากำอัง จะรภัย ให้หยุดฆ่าคนเสีย หยุดเป็นตัวสำแจ ขณะนั้น พระทุทธเจ้าประทับอยู่ ณวัดพระเซตวัน เขตเรอง สาวัตถืช่วงนั้น^อเสียงขององคุสีมาลโด่งด้งไปทั้ว ไม่รใครที่ได่ยิน ^อแอัวไม่กอัว วันนั้น พระทุทธเจ้าทรงตรวจดูโลกในเวลาใกล้สว่าง ทรง เห็นโจรองคุสีมาลจึงทรงดำริว่า เพี่อเราไปจักเป็นความสวัสดีแกํเธอ เพี่อเขาได้ฟังธรรมแล้วจักออกบวชจนได้บรรสุธรรม แต่ถ้าเราไม่ไป เขาจะทำความผิดอันใหญ่หลวงด้วยการฆ่ามารดา ถึงตอนนั้น ใครๆ ก็ช่วยไม่ได้จากนั้น จึงเสด็จออกไปจากวิหาร เสด็จดำเนิน ไปตามทางที่องคุสีมาลชุ่มอยู่ พวกคนเลี้ยงโคและชาวนาที่เดินมาได้เห็นพระคุทธเจ้า กำ อังเสด็จไปทางนั้น จึงได้กราบทุลเดีอนพระทุทธเจ้าถึง ๓ ครั้ง 0bb แค่สวดมนต์ก็ฟ้นเดั www.kalyanamitra.or- g^

*♦ ว่าอย่าเดินไปทางนั้น ขนาดคน ๓๐-๙0 คน ก็ชุกองคุลิมาล ปราบมาแล้ว พระองคเสด็จไปเปเดิยว คงรอดยาก คนเหล่านั้น หาเใม่ว่านี้คือพระทุทธเจ้า ใครๆ ก็ไม่อาจ ทำ ร้ายได้' เมื่อคนพวกนั้นกราบทุลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคทรง นิ่งเลิยแล้วได้'เสด็จไป ตอนนั้น โจรองคุลิมาลปาคนเป็นจำนวน ๙๙๙ เหลิออืก เพืยงคนเดิยวก็จะครบหัน และตั้งใจว่าจ้นนเจอใครก่อนก็จะปา ก่อน เพี่อจะได้'ครบหันและเป็นการชุซาครู จะได้สำ เร็จวิชาเลียที จึงออกมาดักรออยู่ ได้พบกับพระทุทธเจ้า องคุลิมาลเห็นพระผู้มืพระภาคเสด็จมาแต่ไกล จึงคดว่า แปลกจริง ธรรมดาพวกผู้ชายประมาณ ๓๐-๙๐ คน ขนาด รวมกลุ่มกันเดินผ่านทางนี้ ยังไม่รอดหันมอเรา แต่ไฉนพระรูปนี้ มาคนเดิยวไม่ม่เพี่อน ลงล้ยอยากจะลองดี เดี๋ยวเลอะ เราจะปา พระรูปนี้เลีย ครั้นแล้ว องคุลีมาลก็ถือดาบและโล่ห์วิ่งติดตามพระทุทธเจ้า ไปทางด้านหลัง ครั้งนั้น พระทุทธเจ้าทรงบันดาลฤทธแสดงปาฏิหาริย์ โดยประการที่องคุลิมาลแป้วิ่งจนสุดกำลัง ก็ไม่อาจตามทัน ^.... ^ พระฆrtานงค่ สุ มงฺคโล ©๖๓ www.kalyanamitra.org

องคุลิมาลได้ชุกคิดขึ่'นว่า แปลกจริงๆ เมื่อก่อนแม้ช้าง ม้า หรือรถกำลังแล่น เราก็ยังวิ่งตามจับได้ แต่ยัดนี้ เราวิ่งจนสุด กำ ลัง ยังไม่อาจยันสมณะเปนี้วิ่งเดินไปตามปกติ ด้งนี้จึงหยุดยืน ถามพระทุทธเจัาว่า ''ท^ดก่อนลมณะ ก่อนสมณะ'• พระทุทธเจัาจึงตรัสตอบว่า ''เราทqดนสํว องลิมาล เรอทละ ท^ดทใอยัง'' ต้นคดปลายตรง ครั้งนั้น องคุลิมาลเกิดความสงลัยว่า ธรรมดาพระม้กเป็น คนพูดจริง ไม่โกหก แต่ว่าหระ^ปนี้เดินไปอยู่แยัๆ แต่กลับพูดว่า เราหยุดแลัว องคุลิมาล เธอหละหยุดหรือยัง พระ^ปนี้พูดหมายถึง อะไร ยับว่าเป็นโอกาสดิที่องคุลิมาลจะได้มีสติหยุดทิ้งดาบ และฟังธรรมจากพระทุทธเจัา องคุลิมาลได้กราบพูลว่า \"สมณะ ท่านกำลังเดินไปอยู่ แยัๆ แต่พูดว่า เราหยุดแลัว และกล่าวกับช้าพเจัาผู้หยุดแลัวว่า ไม่ยอมหยุด เรื่องนี้มีความหมายว่าอย่างไร\" พระทุทธเจัาได้ตรัสว่า ''ดูกรองคุลิมาล เรางดเว้นจาก 9๖๘ แค่สวคนแต์ก็พ้น[ด www.kalyanamitra.org

การฆ่าสัตว์ได้แล้ว จึ ง^อว่าหยุดทาบาปแล้วโดยส์'นเ?ง ส่วนเธอยังเที่ยวเข่นฆ่าคนทํ้งหลาย เพราะฉะนั้น เราจึง หยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด\" องคุลิมาลเบื่อได้ฟังด้งนั้น ก็กสับได้สติทิ้งดาบและอาๅธ ได้ถวายยังคมพระบาทของพระศาสดา แล้วได้ทุลขอบรรพชา ณ ที่นั้นเอง องคุลิมาลนั้นรบาตรและจึวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ'พรอมกับ พระดำรัสนั้นเอง ทันไดนั้น เพศคฤทัลสัก็อันตรธานหายไป สมณะเพศปรากฏขึ้นแทน การบวชเข่นนี้ เ'!ยกว่า \"เอหลิกชุอุปสัมปทา\" คือ พระทุทธเจาบวชให้เอง ในขณะนั้น ยังไม่มีใครfว่าองคุลิมาสได้บวชเป็นพระแล้ว พระทุทธเจ้าและพระองคุลิมาลประทับอยู่ ณ วัดพระเขตวน เมีอง ลาวัตถื สมัยนVน หยู.่มหาชนรวมตัวกันทีI่ประดูพระราชวังพากัน ประห้วงพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า มีโจรองคุลิมาล เป็นคนหยาบช้า โหดรัายทาชุณ เที่ยวเข่นฆ่ามนุษยัแล้วเอานี้วมีอร้อยเป็นพวงมาสัย ขอให้พระองคจงกำจัดมันเสิยเถิด (ล้าทำไม่ได้ก็ลาออกไป) 1^ » พระมหานปค์ สฺ มงฺคโล $๖(ร www.kalyanamitra.org

พระเจ้าปเลนทิโกศลจึงรีบเสด็จออกจากเมืองพร้อม ด้วยกองทัพม่า ๕๐๐ เสด็จเข้าไปทางวดพระเซตวัน เพี่อไปเข้าเฝ็า พระทุทธเจ้า ความจรีง พระเจ้าปเสนทิใกศลกั๊กลัวองคุลิบาลเหมือนกัน แต่เพราะกลัวข้อครหาไม่ปกปัองประชาชน จึงข้นอาสาออกจับ ด้วยตนเอง พระผู้มืพระภาคได้ตรัสกับพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า \"มหาบพิตร มืใครทาให้พระองค์โกรธเคองหรีอ จึงได้ยกทัพ เหมือนจะออกไปรบ\" พระเจ้าปเสนทโกศลจึงกราบทุลว่า \"กำลังจะยกทัพ ไปปราบโจรองคุลิมาล\"หระทุทธเจ้าจึงได้ตรัสถามว่า \"มหาบพิตร ถ้าพระองค์เห็นพระองคุลิมาลกลับตัวกลับใจเป็นคนดี บวชเป็นหระ แลัว จะทำอย่างไร\" พระเจ้าปเสนทิโกศล ได้กราบทุลว่า \"ถ้าอย่างนั้นก็ดีนะลิ หม่อมฉันพึงถวายการบำรุงท่านด้วยปจจัย ๕ แต่ว่าองคุลิมาลนั้น เป็นคนทุดีล ทำ ความข้วมามากขนาดนั้น บวชแล้วจักบรรลุธรรม ได้หรือ\" ©๖๖ แศ่สวดมนต์ก็บ!นเดั www.kalyanamitra.org

ในขณะนั้น พระองคุลิมาลนั้งอยู่ไม่ไกลพระทุทธเจ้า พระทุทธเจ้าfบอกว่า ปที่นั้งอยู่นั้น คือพระองคุลิมาล\" พระเจ้าปเสนทิโกศลพอเห็นเข้าเท่านั้น ก็ตกใจกลัว จนขนหัวลุก เหงื่อไหลท่วมตัว พระทุทธเจ้าจึงตรัสว่า อย่าทรงกลัวเลย มหาบพิตร ตอนนี้ พระองคุลิมาลไม่มีพิษภัยแก่ใครแลัว หลังจากที่พระเจ้าปเสนพิโกศล หายตกใจทรงระงับความ กลัวได้ จึงค่อยๆ เสด็จเข้าไปใกลัพระองคุลิมาลแล้วได้ตรัสถาม ท่านถึงเนี้อชาติเหล่ากอ เมี่อฐ้ว่าไม่ผิดตัวแน่นอน จึงได้ปวารณา ถวายความอุปภัมภัปา^งด้วยป็จจ้ย ๔ แต่เพราะพระองคุลิมาลถึอการอยู่ป่า การบิณฑบาต และถือผ้าบังสุลุลเป็นวัตร จึงได้ปฏิเสธความหวังดืของพระเจ้า ปเลนพิโกศลว่า อย่าเลย มหาบพิตร ไตรจึวรของอาตมภาพ บรับุรณ'แล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลไดํ?นชมในอาบุภาพของพระ'คุทธเจ้า ที่ทรงtjกคนที่\"รกได้ยาก โจรที่ปราบไม่ได้ พระ'ทุทธเจ้าก็ปราบ ได้ราบคาบ สมภับที่พระองค'ทรงเป็นยอดครูของโลก จากนั้น ได้ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วเสด็จกลับไป - -..^ ^ พระฆหานป้ค์ สุ มงฺคโล ©๖ฬ www.kalyanamitra.org

ป็จจุบันสำคัญที่สุด ต่อมา เซาวันหนึ่ง พระองคุลิมาลเขาไปบิณฑบาตในเมือง ขณะที่กำลังเดินบิณฑบาตอยู่นั้น ไคัพลันเห็นสตรีคนหนึ่ง^ง ท้องแก่ใกลัคลอด จีงมืความสงสาร หลังกลับจากบิณฑบาตแลัว เข้าไปเฝืาพระสุทธเจ้าได้กราบพูลถีงเหตุการณ์ที่พบเมื่อเช้านี้ พระทุทธเจ้าจึงตรัสว่า ดูกรองคุลิมาล ถ้าอย่างนั้น เธอจง เข้าไปหาสตรีนั้นและกล่าวอย่างนี้ว่า กร•แองหญิง ตั้งแต่เรา เกิดมาแลว ไม่เคยแกลงฆ่าสัตว์จาก^วิตเลย ดายสัจจะวาจานี้ ขอความสุขสวัสดีจงปีแก่เธอ ขอความสุขสวัสดีจงปีแก'ครรภ์ของ เธอเกิด\" เพราะความที่ท่านเคยปาคนมาก่อน พระองคุลิมาลจึงไม่ กลัากล่าวเท็จ พระทุทธเจ้าจึงตรัสว่า องคุลิมาล ถ้าอย่างนั้น เธอจงพูดใหม่ ว่า ''(^กรน้องหญิง ตัง้แต่เราเกิดแสัวในอริยชาติ ไม่เคยแกสังฆ่าสัตว์ จาก^วิตเลย ด้วยสัจจะวาจานี้ ขอความสุขสวัสดีจงปีแก่เธอ ขอความสุขสวัสดีจงปีแก่ครรภ์ของเธอเกิด\" เนี้อความที่พระทุทธเจ้าตรัสบอกแก่พระองคุลิมาลนี้ เป็น การเตือนไม่ให้ท่านฝังใจกับอดีตที่ผ่านมา เพราะท่านเคยปาคน 9๖๘ แต่ลวคมนต์ก็น!น?ค้ ธ^ุ ^ www.kalyanamitra.org

มาเป็นจำนวนบาก อดืตไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ไหถือเป็น บทเรืยน ปัจจุบันจึงสำคัญที่สุด คือในอริยชาตินี้ ตั้งแต่ได้บวชเป็นพระในทุทธศาลนา ท่าน ไม่เคยฆ่าสัตว์ท่ารายรวิตอี่นเลย ขอเพียงสำนึกผิดและกลับใจเป็นคนคื ก็ถือว่าเป็นคนประเสริฐ พระองคุลิมาลเมี่อเขาใจในความหมายนั้นแสัว จึงเข้าไป หาหญิงนั้นแสัวได้กล่าวว่า กรนองหญิง ตั้งแต่เวลาที่จันเกิด แล้วในอริยชาติ ไม่เคยแกล้งฆ่าล้ตวจากปีวิตเลย ด้วยล้จจวาจานี้ ขอดวาบสุขลจัสดจงปีแก'เรอ ขอความสุขสจัสติจงปีแก่ครรภ์ของ เธอเถิด\" พอได้ฟังสัจจะวาจาของพระองคุลิมาล หญิงนั้นก็คลอดลูก อย่างปลอดภัย ต่อมา พระองคุลิมาล หลิกออกจากหบุ่อผู่แต่ผูเคืยว เป็น ผูไม่ประมาทมืความเพียรพยาม'ผิกตนอยู่ ไม่นานนัก ก็ได้บรรลุ ธรรมเป็นพระอรหันต์ เข้าวันหนึ่ง ในขณะที่ท่านเข้าไปบิณฑบาตในเมือง ประชาชน ^ ^ พระมHาน0ค์ สุ มงฺศโล ©๖๙ www.kalyanamitra.org

♦* ที่ย้งโกรธแค้นอยู่ เมื่อเวาท่านเดินผ่านมา ก็พาก้นเอาค้อนดิน ท่อนไม้ขว้างใส่ท่าน จนหัวแตกเลือดไหลอาบจีวรบาตรก็แตก ผ้าลังร]าฎิก็ฉีกขาด ถึงกระนั้น ท่านก็ไม่ตอบโตไม่โกรธตอบต่อคนเหล่านั้น เพราะถึอว่าจะไค้ซดไซ้กรรมใหัหมดในชาดินี้ เมื่อกลับจากบิณฑบาต จึงเซ้าไปทุลถามพระทุทธเค้า พระพุทธองคไค้ตรัสว่า ขอใหัเธอจงอดกลั้นไว้ การที่เธอไค้รับ ผลกรรมในบิจจุบันนี้ ยังดิกว่าตกนรกหมกไหม้หลายรัอยหลาย พันปีในชาติหน้า นี้คือประวัติของยอดโจรเ^งใหญ่ แฝกลายเป็นยอดคน ในภายหลัง บทสวดและคำแปล ยะโตพัง ภะคินิ อะริยายะชาติยา ชาโตนาภิชานาร ลัญจิจจะ ปาฟ'ง ซ้วิตา โวโรเปตา ฯ เตนะ ลัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ ค้พก้สสะ ฯ ดูก่อนน้องหญิง ตั้งแต่เราเกิดมาโดยชาติอริยะ ไม่เคย จงใจม้าลัตว้ตัดซ้วิตเลย อฟ๐ แค่สวคมนค์ก็ฟ้นเดั www.kalyanamitra.org

ด้วยการกล่าวค่าสัจนี้ ขอความสุขสวัลด จงมืแก่เธอ ขอความสขสวัสดี จงมืแก่ครรภ์ของเธอเถิด ฯ (สวด ๓ จบ) ธรรมะจากบทสวดมนต เรื่องของพระองคุลิมาล มีแง่คิดสอนเราหลายอย่าง ทั้งเรื่องความริษยาที่มาพรอมกับความเก่ง คนดีมักประสบ ฟ้ญหานี้กันเป็นส่วนมาก แฟนอยคนจะเข้าใจและหาทางออก ให้กับตัวเองได้ พระองคุลิมาลโดยพื้นฐานเป็นคนดี เป็นคนเก่ง แต่เพราะ สุกสภาวะแวดสัอมทางอารมณ์ ทั้งด้านการคิกษาและหน้าที่ การงานบีบคั้นกดด้น ทำ ให้ตัองทำผิด แมีใม่อยากทำ แต่คนเก่งมักลืมคิดถึงผลกระทบที่จะเถิดขึ้นในอนาคต มองแต่ความสำเร็จในบีจจุบัน อยากสำเร็จการคิกษาเร็วๆ สนใจ แต่เป๋าหมาย ละเลยวิธืการที่สุกตัอง แม้จะผิดก็ทำ ฉะนั้น คนเก่งไม่ได้หมายความว่าเป็นคนดี คนเก่งและดี ก็มี เหมือนกัน แต่มีน้อย พระมMานงค' สุ มงฺคโล 0(1© www.kalyanamitra.org

พระองคุลิมาลโชคดืที่ได้เจอพระทุทธเจ้า ไม่เซ่นนั้นอาจทำ กรรมหนักคือฆ่าแม่?วิตของท่านผิดแด้วยอมรับผิด ทำ ไห'มีโอกาส แด้ด้ว แม้จะเป็นโจรรัายมาแค่ไหน ถาฟ้จจุนันคนนั้นกด้บตัว กด้บใจเป็นคนคื ด้งคมควรให้อภัย ไม่ควรถือโทษโกรธเคือง อย่าเจ็บแบบฝังใจ เพราะเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร บางทึคนที่ทำให้เราโกรธเจ็บซํ้าใจ หายโกรธและลิมไป นานแด้ว แต่เรายังเก็บเป็นความทรงจำที่ไม่ดีไจ้อยู่ คนที่ทุกข์คือเรา ไม่โซ่เขา ป็จจุบันคือเวลาที่คืที่สุด อคืตเป็นเพืยงประสบการณ์และ เป็นบทเรียนในการวิเคราะห้เท่านั้น หลายครั้งเราใช้ข้อ3Jลในอคืต วิเคราะห้คาดการณ์ถืงฟ้จจุบัน ผิดม้าง ถูกม้าง อนาคตเป็นลิงที่ ไม่แน่นอน ไม่ควรภังวลใจ อย่าตัดลินพฤติกรรมของคนเพียงเพราะเหตุผลของอดีต ลองเปีดใจให้กว้าง ให้โอกาสคนทำผิดได้แด้ตัว ดีกว่าปล่อยให้คนช้วลอยนวล ©rib แค่ลวดมนต์กํฟัน1ดั ^ www.kalyanamitra.org

\"'ะ-^ [พซฌงคปริตร: มหัศาธธย'แห่งพุทรมนต์ ช่วยพันาากโรคภัย โพชณงคปริตร เริ่มต้นด้วยค่าว่า ''โnชฌังโค สะติ สังขาโต ธัมมานัง วิจะโย'' เป็นบทกล่าวถึงองค์ธรรมสำหรับ ความ!'แจง si ประการ คือ สต ธรรม'วิจัย วิริยะ ปีด ฟ้สสทธ สมาอิ และอุเบกขา บทสวดนี้นิยมสวดให้ผู'ป่วยฟัง เมื่อผู้ป่วยส่งจิตไปตามเถึยงสวดมนต้อย่างรสมาธิจะเกิด อาบุภาพในการข่วยบรรเทาโรคภัยให'หายไปอย่างน่าอัศจรรย์ เป็นพระสูตรที่นิยมสวดต่อจากองคุลิมาลปริตร ที่งมื อาบุภาพคล้ายกันในด้านช่วยรักษาอาการเจีบป่วย พระมคานงค์ ลุ มงฺคโล 9(1ค www.kalyanamitra.org

ตำ นานบทสวดมนต์ ครั้งหนึ่ง พระทุทธเจ้าประทบอยู่ในเวvjวัน ใกล้ก^งราชคฤห ครั้งนั้น พระมหาก้สสปะอาพาธหนักได้รับทุกขเวนาแสนสาหัส โดยหักอาศัยอยู่ในนั้า พระทุทธเจ้าจึงได้เสด็จไปเยี่ยมตรัสถาม ถึงอาการไข้ ทรงทราบว่าพระเถระมอาการหนัก ยังไม่ทุเลาลง จึงได้มีพระเมตตาแสดงโพชฌงค' <ri ให้ฟังว่า \"โพซฌงค' ๗ ประการเหล่านี้ เราได้ตรัสไวัซอบแล้ว ผู้ใดหมน■ปีกฝนอบรม เจริญภาวนาเป็นประจ่า ย่อมเป็นไปเพี่อความ!'ยิ่ง เพี่อความ ตรัสfและนิพพาน'' เมื่อพระมหากัสสปะตั้งใจฟังส่งจิตไปตามเสียงสวด พร้อม นัอมรำลึกพระมหาก^ณาธิคุณว่า พระธรรมคำสอนของพระศาสดา เปริยบศังธรรมโอสถวิเศษ สามารถช่วยนำล้ตวัออกจากทุกข'ได้ ผลปรากฏว่าเลือดของท่านก็เปลี่ยนสีเป็นปกติ ร่ายกายลดยี่น สร่างไข้ถึงความสะอาดหมดจดปราศจากโรคภัย เหมีอนหยาดนั้า ตกบนใบนัว ฉะนั้น อีกคราวหนึ่ง พระมหาโมคศัลลานะไม่สบายเป็นไข้หนัก พระพุทธเจ้าจึงได้เสด็จไปเยี่ยมอาการไข้ ทรงทราบว่าพระเถระ มีอาการหนัก ยังไม่ทุเลาลง จึงได้ทรงเมตตาแสดงโพชณงค' ๗ odd แค่สวดมนส่ก้เขนเด is ^ www.kalyanamitra.org

♦♦ ให้ฟัง1ซ่นกัน เมื่อพระมหาโมคคัลลานะตั้งใจฟังส่งจิตไปตาม เสียงและน้อมถึงพระมหาก^ณาธิคุณของพระองค์ ผลปรากฏว่า ร่างกายก็สดใเนสร่างไข้ถึงความละอาดหมดจดปราศจากโรคภัย เข่นกัน ส่วนอืกคราวหนึ่ง พระทุทธเจ้าทรงประชวรเอง พระมหา จุนทะได้เข้าไปเฝืาและสวดสาธยายโพขฌงค์ ๗ ถวาย เป็นเหตุ ให้พระทุทธเจ้าทรงหายจากอาการประชวรเซ่นกัน พระโบราณาจารย'จึงได้นำเอาเนื้อความของโพขฌงคสูตร ที่ ๑-๓ มาประพันธ์รวมเป็นคาถาสำหรับสวด จึงเรืยกว่า \"โพซฌงคปริตร\" บทสวดและคำแปล โพซฉรังโค สะติสังขาโต คัมมาน้ง วิจะโย ตะถา วิริ ยัมปีติใ![สกัทธิ ไพชฌ้งคา จะ ตะถาปะเร สะมาธุเปกขะโพชฌังคา ส้ตเตเต ส้พพะทัสสินา บุ นินา ส้มมะพักขาตา ภาวิตา พะทุสีกะตา ส้งกัต[คันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา เอเตนะ ส้จจะวัชเซนะ โสตถิ เต โหตุ ส้พพะทา ฯ พระมหานงค์ ลุ ฆงคโล อ(1(ร www.kalyanamitra.org

โพชณงค์ rt ประการ คือ สติสัมโพซฌงค์ ธรรมวิจยะ ส้มโพซฌงค์ วริยะส้มโพซฌงค์ ปี ติ ส้มโพซน]งค์ ปสส้ทธิ ส้มโพชฌงค สมาธิส้มโพซฌงค์ และอุเบกขาส้มโพชฌงค์ เหล่านี้ เป็นธรรมอันพระบุนีเจ้า ผู้ทรงเห็นแจ้งธรรมทั้งปวง ตรัสไว้ชอบแส้ว อันบุคคลภาวนาเป็นประจำ ทำ บ่อยๆ ย่อมเป็น ไปเพี่อความfยิ่ง เพี่อความตรัสผู้ และเพี่อนิพพาน ด้วยการ กล่าวคำส้ตยนี้ขอความสขสว้สดืจงบังเกิดมืแก่ท่านตลอดกาล ทุกเมื่อ เอกัส์มิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กสสะปง คืลาเน ทุกขิเต ทิสัวา โพชฌํ'งเค ส้ตตะ เทสะยิ เต จะ ตัง อะกินันทิตวา โรคา บุจจิงสุ ตังซะเณ เอเตนะ ส้จจะว้ซเซนะ โสตถิเต โหตุส้พพะทา ฯ ในสมัยหนึ่ง พระโลกนาถเจ้า ทอดพระเนตรเห็น พระโมคคัลลานะ และพระมหาบัสสปะกำส้งเจ็บป่วย ได้รับ ความล่าบาก จ็งทรงแสดงโพซณงคั ๗ ประการ ให้ท่าน ทั้งสองปง ท่านทั้งสองนั้น ^นซบยินดยิ่งมื่งโพซฌงคธรรม โรคก็หายได้ในบัดดล ด้วยการกล่าวค่าส้ตย์นี้ ขอความสุข สวัลดจงบังเกิดมืแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ srtb แค่สวดมนต์ก็พ้นเด้ ^ www.kalyanamitra.org

เอกะทา ธัมมะราชาปี 1คล้ญเญนาภิปี>^โต จุนทัตเกเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปต์วานะ สาทะรัง สํ'มโมทิตวา จะ อาพาธา ตมหา จุฏฐาทิ ฐานะโส เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิเต โหตุ สัพพะทา ฯ ครั้งหนึ่ง พระทุทธเจ้า ผู้เป็นธรรมราชา ทรงประชวรเป็น ไข้หนัก รับลงให้พระจุนทะเถระสวดโพชฌงค์นันแลกวายโดย เคารพ ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย หายจากพระประชวรนั้นได้ โดยพสันด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ฃอควานสุชลวัลดืจงบังเถิดมี แก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ ปะหนา เต จะ อาพาธา ติณก!นนับปี มะเหถินัง นัคคาหะตะถิเลสาวะ ปีตตาบุปใ!!ตติธัมมะตัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหทุ สัพพะทา ฯ ก็อาพาธทั้งหลายนั้น ของพระผู้ทรงคุณอ้นยิ่งใหญ่ทัง ๓ องค์นั้น หายแสัวไม่กสับเป็นอก ดุจดังถิเลส สุกอริยมรรค กำ จัดเถิยแสัว ถึงยิ่งความไม่เถิดอีกเป็นธรรมดา ด้วยการกล่าว คำ สัตย์นี้ขอความสวัสดีจงบังเถิดมีแก่ท่านตลอดกาลทุกเมื่อ เทอญ พระมทานaค' สุ ม^^คเล ©rtri www.kalyanamitra.org

•=^ ;ร;. ธรรมะจากบทสวดมนต บทสาดโพซณงค์นี้ นับว่าเป็นบทสวดที่มึความมหัศจรรย์ ใครที่ไม่เคยประสบด้วยตัวเองจะไม่เ'ว่ามีดือย่างไร ผู้ป้วยหลายคน พอได้ฟังบทสวดนี้ ด้วยจิตที่สมาธิและ นัอมตามบทสวด อาการของโรคก็หายไปอย่างอัศจรรย์ เมื่อเราเจ็บกาย ก็พยายามไปหาหมอเพี่อรักษา โรค บางอย่างเกิดจากอาหาร บางอย่างเกิดจากอากาศหรือฤดูกาล เปลี่ยนแปลง บางอย่างเกิดจากจิต บางอย่างเกิดจากกรรม บางครั้งเจ็บป่วยใจแต่รักษากาย รักษาอย่างไรก็ไม่หาย อักที หมดเงินไปก็เยอะ แต่พอทำบุญอุทิศส่วนๆศสโหัเจ้ากรรมนายเวร หรือได้มา ปฏินัติวิฟ้สสนากรรมฐาน ก็หายได้อย่างบ่าอัศจรรย์ บทสวดโพซฌงคนี้ เป็นการแสดงถึงธรรมะที่เป็นหัวใจหอัก ของการบรรลุธรรม ผู้จะบรรลุธรรมเกิดปัญญาญาณ!'แจ้งเห็นจริง ด้องมี ๗ ลี่งนี้เป็นองค์ประกอบ คือ ความระลึก^เทำหันอารมณ์ มากระทบ !'ทันปัจจุบัน (สติ)ด้องแตกฉานในธรรมเ'แจ้งในธรรม เอง (อัมบวิจัย) ©ฬ๘ แค่สาร)มนต์กิฟัน!คั ^ www.kalyanamitra.org

เกิดจากจิตที่หมนภาวนาจนรู้แจ้ง ไม่ใช่จากการอ่าน ค้นคว้า รความพากเพียรพยายามในการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง จนสุกงอมเต็มที่พร้อมใบัผล (วิรยะ) เกิดปีติความเอิบอิ่มในธรรม (ปีติ) มื ความสงบระว้บ เป็นสุขอย่างยิ่ง (ปัสลัทธิ)มิความแน่วแน่ตั้งมไม่หวไหว (สมาธิ) และมีความวางเฉยต่ออารมณที่มากระทบไม่ว่าติหรือร้าย (ฤเบกขา) บทสวดโพชฌงค'นี้ มีทุทธานุภาพช่วยขจัดโรคภัย เกิด ความสุขสวัสดี จนมีธรรมเนียมว่า เมื่อใครเจ็บป่วยไม่สบายกิ สวดโพชฌงค'ให้ฟัง ยิ่งเป็นทั้งโอสถและเป็นทุทธมนด' ผู้ป่วยจะ สวดเอง นิมนต'พระลงป'มาสวด หรือจะให้ลูกหลานหรือใครๆ สวดให้ฟังกิไค้ ขณะสวดค้องมีเมตตาจิต ผู้ฟังกิควรตั้งใจฟังและนอมจิต ไป่ตามบทสวด กิจะเกิดอานุภาพในการรักษาโรคภัย จิตใจสดยิ่น เบิกบาน เมื่อใจสงบระวับดับความเร่าร้อนทางใจอ้นเกิดจากกิเลส ไค้โรคภัยกิหายไป่เอง ♦«^ พระฆคานงค' สุ มงุค!ล Qcla\" www.kalyanamitra.org

6^\" พระสูตรนี้จึงถือว่าเป็นมนต์ต่ออายุ ใช้สวดต่ออายุ คนเจ็บป้ายให้หายจากโรคภัย การสวดมนต์บทนี้ทั้งผูสวดและนี้ฟัง ต้องน้อมใจตาม เพี่อ ส่งผลให้เกิดอานิสงส์คือช่วยต้บความทุกข์ทางกาย เบื่อจิตสงบ สมาธิเกิดขึ้น ปีติย่อมมีกำลัง เบื่อนั้นย่อมท่าให้เกิดความสุขใจอย่างบอกใม่สูก ขณะนั้นเอง โรคที่เกิดจากอทุศลกรรมก็เบาบางลงแสะ หายไปในที่สุด ขณะที่ร่างกายย่งแข็งแรงและมีกำลังอยู่นี้ ควรให้เวลาลับ การสวดมนต์ นั้งสมาธิบาง เพี่อเพี่มพลังให้แก่จิตของเรา หากจิตของเราอ่อนแอ ไม่ไต้สงสมบุญไว้เสย ย่อมพ่ายแพ้ ต่อกำลังของบาปอๅศล ถึงตอนนั้น แม้มนต์บทใดก็ช่วยเราไม่ไต้ ©๘๐ แค่สวดมนต์ก็บ่!นเด้ ^ www.kalyanamitra.org

อภยนริตร: แฆ้ปันร้าย ก็พ่ายแพ้พุทธฆนต บทสวดอภยปริตร เริ่มด้วยคำว่า \"ยันทุนนิมิตด้ง อะวะมังคะลัญจะ\" เป็นบทสวดเพื่อฟ้องกันความหวาดกลัวจาก ฝันราย คำว่า \"อ/ใยะ\"แปลว่า \"ไม่ตองกลัว\"\"ไม่ปีภัย\" ผู้ใดได้สวดสาธยายเป็นประจำก่อนนอน ก็จะไม่ฝันร้าย ไม่ตกใจกลัว ตำนานบทสวดมนต์ สาเหตุเกิดจากพระเจ้าปเสนทิโกคล ทรงฝันร้ายถึงอาเพศ ๑๖ อย่าง แล้วเกิดความหวาดกลัวว่ากิงที่เจอในความฝันจะเกิดขึ้น กับตนเอง จึงทรงเล่าความฝันนั้นให้ม่โรหิตฟัง ม่ โรหิตพยากรณ์ว่าจะมิอันตรายอย่างหนึ่งเกิดขึ้นแก่ พระองค์รวมทั้งราซสมบ'ตด้วย และได้ทุลแนะวิธฟ้องกันอันตราย พระมหานงค' ลุ มงฺคโล ©๘ร) www.kalyanamitra.org

ด้วยการม่าลัตว์ใJชายัญ ภัยจึงจะไม่เกิดขึ๋น พระเจ้าปเสนทิโกศลหลงเ^อค่าของคนโง่ จึงทรงนรับลง ให้จ้ดเตรืยมพิธืและสิงของเครี่องบุชายัญตามคำของไJโรหิต พระนางมัลลิกาเทวี พระมเหสิของพระเจ้าปเสนทิโกศล จึงทุลทักห้วงขี่'นว่า \"อย่าเพิ่งทำพิธืกรรมใดๆ เลย ขอไดไปรดเสด็จ ไปทุลถามพระทุทธเจ้าเสิยก่อน พระองค์ทรงเป็นส'พทัญญ ไม่ม สิ่งใดที่พระทุทธเจ้าไม่{\"จึงได้เสด็จไปพร้อมพระมเหสิแห้วพูลถาม ถึงความฝัน พระทุทธเจ้าตรัสว่า จะไม่มืภัยอันตรายใดๆ เกิดขี่'นแก่ พระองค์จากเหตุแห่งความฝันนั้น แต่สิ่งที่พระองค์ฝันเป็นลางบอก เหตุการณ์ที่จะเกิดขี่'นในอนาคต หลังจากเราตถาคตปรินิพพาน ไปแห้ว ไม่ใช่จะเกิดขี่'นในตอนนี้ ในที่สุดพระเจ้าปเสนทิโกศล ก็สงห้มเลิกพิธืทั้งปวงเสิย ห้ตว์กำลังจะลุกฆ่าบุขายัญก็รอดอย่างปลอดภัย ©๘b แคล')ถมนต'ก็นYเนเด พ 4_ ^ '. ^ www.kalyanamitra.org

บทสวดและคำแปล ยันทุนนิมิตตง อะวะมังคะยัญจะ โย จามะนๆโป สะทุณัสละ ยัทโท ปาปคคะโห ทุสสุปีนัง อะกนตัง ทุทธาบุภาเวนะวินาสะเมนตุ ฯ ลางร้ายและสิ่งทเป็นอัปมงคลอ้นใด เสียงนกเสิยงกาอ้นไม่น่าขอบใจอ้นใด บาปเคราะห์ และความฝันร้ายอ้นไม่น่าพอใจใด ที่มิอยู่ ด้วยอาบุภาพแห่งพระทุทรเจ้า ขอสิ่งอัวร้ายเหล่านั้น จงพินาศไป ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะยัญจะ โย จามะนาโป สะๆณ้สสะ ยัทโท ปาป็คคะโห ทุสสุปีนัง อะกนตัง อัมมาบุภาเวนะวินาสะเมนตุ ๆ ลางร้ายและสิ่งที่เป็นอ้ปมงคลอ้นใด เสียงนกเสียงกา อ้นไม่น่าชอบใจอ้นใด บาปเคราะห์ และความฝันร้ายอ้นไม่น่าพอใจใด ที่ฏอยู่ ด้วยอาบุภาพแห่งพระธรรม ขอสิ่งอัวร้ายเหล่านั้น จงพินาศไป J0.. น) ระ นหๆ น!}ค สุ ฆงฺ คโล 9๔(ท A www.kalyanamitra.org

ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะทุณัสสะ สัทโท ปาป๋คคะโห ทุสสุปีนัง อะกันตัง กังฆานุภาเวนะวินาสะเมนตุ ฯ ลางร้ายและสิงที่เป็นอัปมงคลอันใด เสียงนกเสียงกา อันไม่น่าชอบใจอันใด บาปเคราะห์ และความฝันร้ายอันไม่น่าพอใจใด ที่มิอยู่ ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ ขอสิงซวร้ายเหล่านั้น จงพินาศไป ธรรมะจากบทสวดมนต์ ความฝันเกิดขึ้นหลายสาเหตุ บางอย่างเป็นเรื่องจริง บางอย่างเป็นลางบอกเหตุ อาจจริงหรือไม่จริงก็ได้บางครั้งกินมาก นอนมาก ก็ฝันไปเรื่อย เมื่อมิความความฝันในกลางคืน คนก็ชอบจะเก็บมาฝัน ต่อในกลางวัน เอามาคิด เก็บมานังนึกนังฝัน อย่างนี้เขาเริยกว่า \"ฝันลมๆ แล้งๆ'' «>๘๔ แค่สวดมนต์ก็พนใค้ ^^ www.kalyanamitra.org

♦ เวิตทุกคนเต็มไปด้วยความฝัน ทั้งฝันกลางคืน ฝันกลางวัน และวาดฝันเพี่อใหเป็นจริง ส่วนจะสำเร็จหริอไม่นั้น ขี'๋ นอยู่กับความพยายามของ เราเอง ไม่ใช่เพราะความฝัน \" ทุกช่วิตลวนมืความฝัน เช่น ฝันอยากมีบ้าน อยากกัาวหบ้า อยากเป็นทหาร อยากเป็นบ้กธุรกิจ อยากมีช่วิตที่ประสบความ สำ เรจ เมอมีความฝัน ต้องมีความพยายามท่าความฝันใบ้เป็น จริง อาจสำ เร็จตามที่ฝันหริอไม่ ไม่ใช่เรื่องสำด้ญ อย่างบ้อยไดรื่อว่าท่าความเพืยร แต่กัาอยากใบ้มีความแน่วแน่ เบื่อวาดฝันแล้วทั้งใบ้มน เป็นปณิธาน เพราะความฝันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ปณิธาน จะแน่วแน่กว่าลี่งใด เบื่อฝันใบ้!กลต้องไปใบ้ถึง ไม่ใช่แค่ความฝัน เช่น พระทุทธเจ้าเบื่อครั้งเกิดเป็นสุเมธดาบส ได้ทั้งปณิธาน ปรารถนาที่จะเป็นพระทุทธเจ้า แล้วอธิษฐานใบ้เกิดเป็นบารมี จนได้รับการพยากรณ์จากพระทุทธเจ้าพระนๆมๆๆกิฝัง จุ^ สำ เร็จแน่นอน พระม ทา นงค* สุ ฆงฺคโล ©๘๕ www.kalyanamitra.org

ส่วนปณิธานของเรา ต้องตั้งให'สูงไว้ แล้วต้วเรานนหละจะ เป็นผู้พยากรณ์ตัวเองไล้ดึที่สุด ล้ารความพยายาม ทำ นายไล้ว่า ต้องส่าเรจ ล้าใจไม่สู้หรือไม่อดทน ก็แสดงว่าล้มเหลว f .. . IS «y ^ •A _i V. ' «1 V - V. ฉะนั้น ล้าอยากประสบความส่าเร็จต้องมีปณิธานทืต้งมน อย่ามีเพืยงความฝืนลมๆ แล้งๆ รุ>๘๖ แศ่ลวคนนค์ก็UJนเดั iv www.kalyanamitra.org

£ ■•f www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

พุทธชัยมงคลคาถา: ชัยชนะอันยี่ง?หญ่ของพระพุทธท้า ทุทธฟ้'ยมงคลคาถา หรือ ''คาถาพาทุง'' เป็นบทสวดที่ คนนิยมสวดกันมาก เพราะเป็นบทสวดที่กล่าวถีงฟ้'ยชนะอ'นใหญ่ทั้ง ๘ ครั้ง ของพระทุทธเจ้า เพราะสวดขึ๋'นต้นดวยคำว่า ''พาทุง'* จึงนิยม เรืยกว่า •'คาถาพาทุง'' และสวดต่อด้วยมหากา^ณิโกหรือ ซยไว่รืตร ความเป็นมาคาถาพาทุง ที่มาของบทสวดคาถาพาทุงนี้ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ้งหวัดสิงหบุรืไต้กล่าวไว้ว่า เป็นตำราเก่าแก่ตั้งแต่ยุคก^งศรือยุธยา เป็นใบลานทองคำจารึกของ ''สมเด็จพระพนรัตน วัดป่าแกัว\" ป่จจุบันเรืยกว่า ''วัดใหญ่ชัยมงคล'' จังหวัดพระนครศรือยุธยา ^ ^ พร:ฆหานงค์ สุ ฆงฺคโล €>๘๙ www.kalyanamitra.org

ได้รจนาถวายพระพรฟ้'ยมงคลแด่สนเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระพนรัตน์องคน'เป็นอาจารยของสมเด็จพระนเรศวร ในเรื่องนี้หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ได้กล่าวถึงความเป็นมา ไวัอย่างบ่าสนใจว่า คืนหนึ่งท่านฝันว่า ได้เดินไปในสถานที่แห่งหนึ่ง ได้พบกับ พระสงน์^ปหนึ่งครองจีวรครร สมณสาเปเรียบรัอยบ่าเลื่อมใส เห็นว่าเป็นพระอาจุใสบวชมานาน จึงเข้าไปกราบนมัสการ ท่านหยุดยืนตรงหมัาแล้วกล่าวว่า \"ฉันคือสมเด็จพระพนรัตน์ วัดปาแกวแฟงกfงศรีอqธยา ฉันต้องการใ'หเธอไปที่วัดใหญ่ วัยมงคลเพี่อ^จารีกที่ฉันไต้จารึกถวายพระเกียรติแด่สบเด็จ พระนเรศวร เนื่องในวาระที่สรัางพระเจคืยจลองวัยชนะเหนือ พระมหาฤปราชแห่งพม่า และประกาศความเป็นอิสระชองประเทศ ไทยจากหงสาวดีเป็นครั้งแรก เธอไปเ^ไวัแลวจดจำมาเผยแพร่ ออกไป กีงเวสาที่เธอจะไต้รันfแลว'' ในฝันนี้นท่านได้รับปากพรัอมกับfตำแหบ่งที่บรรจุไวั แล้ว ก็ตกใจตื่นตอนใกล้จุ่ง แล้วก็ทบทวนความฝัน นึกอยู่ในใจว่าตัวท่าน มีสติกำหนดจิตอยู่เสมอ เรื่องฝันใ^งซ่านไม่ค่อยมี และก็ได้ทราบข่าว อ๙๐ แค่สวดมนต์ก็พนเด้ jSJ - ^ www.kalyanamitra.org


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook