ชือ่ เรอ่ื ง : การพฒั นาวทิ ยาลัยการอาชพี บาเหน็จณรงค์สกู่ ารเปน็ สานกั งานสีเขียวอย่างยัง่ ยืน ชือ่ ผวู้ ิจัย : ว่าทรี่ ้อยตรี ชนะคมศร คงยนื หนว่ ยงาน ผอู้ านวยการวทิ ยาลยั การอาชีพบาเหน็จณรงค์ ปที ีร่ ายงาน นายธีรวัฒน์ เจรญิ ศริ ิ หวั หนา้ งานวิจยั พัฒนานวัตกรรมและสง่ิ ประดิษฐ์ นางสาวมินตรา สแี สง เจ้าหน้าท่ีงานวจิ ยั พฒั นานวัตกรรมและสงิ่ ประดษิ ฐ์ : วิทยาลยั การอาชีพบาเหน็จณรงค์ สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา : 2563 บทคัดย่อ การศึกษาวิจัยครั้งน้ี มีวัตถุประสงค์ 1) เพ่ือศึกษาการปฏิบัติตนของบุคลากรวิทยาลัยการอาชีพ บาเหนจ็ ณรงค์ในเรอื่ ง การพัฒนาวิทยาลัยการอาชีพบาเหน็จณรงค์ สู่การเป็นสานักงานสีเขียวอย่างยั่งยืน 2) เพื่อ เสนอแนวทางในการปรับเปล่ียนพฤติกรรมของบุคลากรในเรื่อง การพัฒนาวิทยาลัยการอาชีพบาเหน็จณรงค์ สู่ การเป็นสานักงานสีเขยี วอยา่ งย่ังยืน เป็นการวจิ ัยเชิงปริมาณ (Quantitative research)โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน การวิจัยในครั้งน้ีจานวน 47 ตัวอย่าง ใช้แบบสอบถามเป็นเคร่ืองมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ความถ่ี ร้อยละ ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ทาการ ทดสอบ สมมติฐานโดยใช้สถิติ Independent Sample t-test One-way Analysis of Varianceและค่า สหสัมพันธ์ อยา่ งง่ายเพยี รส์ ัน (Pearson Correlation) ผลการวิจัยพบวา่ กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุอยู่ในช่วงระหว่าง 25- 34 ปี จบระดับการศึกษาปริญญาตรี อยู่ในระดับลูกจ้างชั่วคราว และมีระยะเวลาการปฏิบัติงานในสถานศึกษา นอ้ ยกวา่ 5 ปี ข้อมูลเก่ียวกับการพัฒนาวิทยาลัยการอาชีพบาเหน็จณรงค์ สู่การเป็นสานักงานสีเขียวอย่างย่ังยืน ภาพรวมอยู่ในระดับมากในทุก ๆ ด้าน ได้แก่ ด้านอาคารสถานท่ี พบว่าโดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก โดยมีคะแนนเฉล่ีย เท่ากับ 3.97 และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (SD) เท่ากับ 0.17 ด้านวัสดุอุปกรณ์ท่ีเป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม พบว่าโดยภาพรวมมีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับมาก โดยมีคะแนนเฉล่ีย เท่ากับ 3.74 และส่วน เบ่ียงเบนมาตรฐาน (SD) เท่ากับ 0.33 ด้านหลักเกณฑ์ พบว่าโดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก โดยมี คะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 3.75 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) เท่ากับ 0.20 พฤติกรรมท่ีสอดคล้องกับนโยบาย สีเขียว พบว่าโดยภาพรวมมีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 4.29 และส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน (SD) เท่ากับ 0.16 และความรู้ความเข้าใจในการจัดการสานักงานสีเขียว พบว่าโดยภาพรวมมี คา่ เฉลย่ี อยใู่ นระดบั มาก โดยมีคะแนนเฉลีย่ เทา่ กบั 4.26 และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน (SD) เทา่ กับ 0.38
บทท่ี 1 บทนา 1.1 ความเปน็ มาและความสาคัญ โลกในปัจจุบันกาลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ของส่ิงแวดล้อมอย่างร้ายแรง ซ่ึงเกือบทั้งหมด เกิดขึ้นจาก ฝีมือของมนุษย์ผ่านโลกทัศน์ วิธีคิด พฤติกรรม ในวิถีชีวิตท่ีทาลายข่ายใยชีวิต (Web of life) ในระบบนิเวศ จนกระทั่ง เกิดผลกระทบให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนมากขึ้นเป็นลาดับไม่ว่าปัญหาโลกร้อน ความ แปรปรวนของฤดกู าล การสูญพันธ์พืชและสตั ว์ที่มีความสาคัญในระบบนิเวศ วกิ ฤตการณ์ดังกล่าวได้กระตุ้น ให้ เกิดความต่ืนตัวทั้งในระดับโลก ภูมิภาค ความเคลื่อนไหวทาง ส่ิงแวดล้อมด้านการบริโภคสีเขียว หรือการ บริโภคทเ่ี ปน็ มติ รกบั ส่งิ แวดลอ้ ม เป็นความเคลอ่ื นไหว ในสังคมท่ีได้รับการตอบรับ ด้วยเหตุของความตระหนัก ถงึ ผลกระทบอันเน่ืองมาจากปญั หา ส่งิ แวดลอ้ มทเี่ ปน็ ภยั คุกคาม ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเร่ืองท่ีอยู่ในกระแสความสนใจของคนทั่วโลก มีการสอดแทรก แนวคิด เรื่อง Green เข้าไปในทุกกิจกรรมด้วยเหตุท่ีเราทั้งหลายต่างรับรู้ว่ากาลังเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ทางส่ิงแวดล้อม และไม่ใช่เร่ืองไกลตัวอีกต่อไป สิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดข้ึนในประเทศ ไทยเช่น สึนามิ ก็เกิดข้ึนแล้วเม่ือปี พ.ศ. 2547 ไม่นบั รวมเรอื่ งฤดูกาลแปรปรวนที่เราประสบกับมันมานานหลายปีแล้ว และเร่ืองที่หลาย ๆ คนต่าง พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “โลกมันร้อนข้ึนทุกวัน ” ซึ่ง เราต่างก็รู้ว่า พฤติกรรมในชีวิตประจาวัน เป็นเรื่องใกล้ ตัวของทุกคนน่ันเองที่เป็นตัวการสาคัญทาให้ เกดิ ปญั หาส่ิงแวดล้อม (กรมสง่ เสรมิ คุณภาพสิง่ แวดลอ้ ม, 2556) ท้ังน้ีก่อนที่จะมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประเทศไทยเป็นประเทศที่ กาลังพัฒนา เพราะประชากรส่วนใหญ่ของประเทศมีความยากจน ว่างงานและการศึกษาน้อย ขณะที่ประเทศมี ทรพั ยากรธรรมชาติทสี่ มบรู ณ์อยา่ งมากเม่ือเทียบกบั ประเทศอื่น ๆ แผนพัฒนา ประเทศในเวลาต่อมาจึงมุ่งเน้น การพัฒนาเศรษฐกิจโดยส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน ทั้งจาก ต่างประเทศและในประเทศ ซ่ึงล้วนเป็นการ พัฒนาให้มีการลงทุน และการผลิตท่ีใช้ ทรัพยากรธรรมชาติในประเทศเป็นวัตถุดิบ ทาให้ทรัพยากรธรรมชาติ ของประเทศลดลง และเสื่อม โทรมอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการสร้างกากของเสียหรือมลภาวะเป็นพิษที่ทาให้ คุณภาพของ สงิ่ แวดล้อมลดตา่ ลงและสง่ ผลกระทบถึงคณุ ภาพชีวติ ของประชาชนเพ่ิมมากขนึ้ เรื่อย ๆ จนรัฐบาล ในสมัยน้ัน เริม่ มองเห็นปัญหาดงั กล่าวจึงได้ตราพระราชบญั ญัตสิ ง่ เสริมและรักษาคุณภาพ ส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2518 ข้ึนพร้อมกบั จดั ต้ังหน่วยงานรบั ผดิ ชอบขึ้น ให้มีหนา้ ทีใ่ นการบรหิ ารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ความร่วมมือทางด้านส่ิงแวดล้อมในเมืองไทย มีความชัดเจน เมื่อมีพระราชบัญญัติส่งเสริมและ รกั ษาคุณภาพส่งิ แวดล้อมแหง่ ชาติพ.ศ.2535 มาตรา 6, 7 และ 8 มีบทบญั ญัติคุ้มครองสทิ ธขิ องประชาชน และ กาหนดให้ประชาชนมีโอกาสเข้า มามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อม โดยให้รัฐดาเนินการช่วยเหลือ สนับสนุนและส่งเสริม ให้ประชาชนในพื้นท่ีใดพื้นที่หนึ่งริเร่ิมโครงการ หรือกิจกรรมเพ่ือคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และอนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม ในพืน้ ที่นั้น โดยปัจจัยท่ีทาให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติร่วมกับภาครัฐ มีความชัดเจนมากข้ึนในแนวทางปฏิบัติที่ระบุไว้ ใน
รัฐธรรมนูญปี 2540 โดยให้ความสาคัญกบั กระบวนการมสี ว่ นรว่ มของภาคประชาชนอย่าง แท้จริงและท่ีสาคัญ คือการปรับเปล่ียนกระบวนทัศน์จากภาครัฐมาสู่กลุ่มต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและ หน่วยงานได้เล็งเห็นถึง ความสาคัญของการมีส่วนร่วม แต่การมีส่วนร่วมจะประสบผลสาเร็จนั้น ก็ต่อเม่ือประชาชนมีจิตสา นึกและ ต้องการทาประโยชน์ต่อส่วนรวม และภาครัฐจะต้องสร้าง กระบวนการหรือกลไกให้ประชาชนหรือชุมชนได้มี โอกาสในการมีสว่ นร่วมไดอ้ ย่างแท้จริง ในทางปฏิบัติลักษณะของการมีส่วนร่วมของประชาชนมักออกมาในรูป ของการโนม้ นา้ วชกั ชวนให้ ประชาชนเขา้ มาร่วมมอื ทางานกับภาครัฐ กระแสการอนุรักษ์ทรัพยากรพลังงานและส่ิงแวดล้อมได้รับการตอบรับจากทุกภาคส่วน ทั่วโลกทั้งน้ี เพราะแหล่งพลังงานของโลกซง่ึ ได้แก่นา้ มนั และกา๊ ซลดลงอย่างรวดเรว็ เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ประกอบกับความ ต่นื กลัวในเร่ืองของภัยธรรมชาติซึ่งส่วนหน่ึงเกิดจากการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก(Green house gas) และ การทาลายคุณภาพของน้าและดินที่เป็นแหล่งอาหารของพืช และสัตว์ก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนอาหาร ของมนุษย์และปัจจัยสาคัญต่อการดารงชีพของ สิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศดังน้ันกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับ ส่ิงแวดล้อมจึงเป็นหนทางเดียวท่ีจะทาให้สถานประกอบการสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้อย่าง ย่งั ยนื (สานักงานส่งเสรมิ และพฒั นาอุตสาหกรรมสเี ขยี ว กระทรวงอุตสาหกรรม, 2556) การพัฒนาทยี่ ั่งยืนเพ่ือตอบสนองความต้องการพื้นฐานของคน ท้ังยุคปัจจุบันและยุคต่อๆไปและสร้าง ความสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม มนุษย์และสิ่งแวดล้อมและในการประชุมสมัชชาสหประชาติ (United Nations General Assembly-UNGA) ได้กาหนดทิศทางการพัฒนาตั้งแต่เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2558 ถึงเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2573 ครอบคลุมระยะเวลา 15 ปี โดยประกอบไปด้วย 17 เป้าหมายและ เป้าหมายท่ี 12 คือทาให้แน่ใจถึงการมีแบบแผนการผลิต และการบริโภคท่ียั่งยืนรัฐบาลไทยจึงนามา ประยุกต์ใช้ และดาเนินการเชิงนโยบายด้านกฎระเบียบและ เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อให้เกิดรูปแบบ การผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน (Sustainable Consumption and Production:SCP) ท่ีสาคัญของ ประเทศในระยะแรกนาเสนอไว้ 3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านการผลิตอย่างยั่งยืนผ่านโครงการอุตสาหกรรมสีเขียว 2. ด้านการบริโภคอย่างยัง่ ยืนผ่านการดาเนินงานตามแผนสง่ เสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการท่ีเป็นมิตร กับสงิ่ แวดล้อม 3. ด้านการ สรา้ งจิตสานกึ และความตระหนักรแู้ กป่ ระชาชนผา่ นกจิ กรรมรณรงค์ โดยต้ังแต่ปีพ.ศ. 2556 กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพส่งิ แวดลอ้ ม ได้ดาเนินโครงการสานักงานสเี ขียว เพ่ือศึกษา และพัฒนาเกณฑ์สานักงานสีเขียวตามแนวคิดและวิธีการในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นาแนวคิดการ เติบโตสเี ขียว หรือการพัฒนาสังคมสเี ขียวมาใช้เปน็ กลยุทธ์ เพอ่ื การขับเคล่ือนการพัฒนานี้มุ่งสู่การเจริญเติบโต ทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยง่ั ยนื เสริมสร้างความ ตระหนกั รู้ดา้ นการผลิตและการบริโภคอย่างย่ังยืนและเพ่ือ กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรม ท้ังนี้เชื่อว่าเมื่อประชาชนต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้าน สิ่งแวดล้อมมากขึ้น จะกระตุ้นให้ประชาชนในสังคมหันมามีพฤติกรรมท่ีความตระหนักถึงการร่วมกันป้องกัน และแกไ้ ขปญั หาส่ิงแวดล้อมยง่ิ ขนึ้ กระแสการบริโภคสีเขียวในประเทศไทยพัฒนาการมาเป็นลาดับ และหน่ึงใน การพัฒนาคือ การจัดทาสานักงานสีเขียว เป็นการนาเสนอแนวคิดและวิธีการลดการ ปล่อย ใน สานักงาน และการใชช้ ีวิตประจาวนั ในสานักงานทเ่ี ป็นมติ รกับสิ่งแวดล้อม ต้ังแตว่ ธิ ีง่าย ๆ ท่ีทุกคนในสานักงาน ทาได้ด้วยการปรับเปล่ียนพฤติกรรมอันจะช่วยลดปริมาณการปล่อย สู่ช้ันบรรยากาศอาทิเช่น การลด/
ใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดการจัดทา 3R ประกอบด้วย REDUCE, RECYCLE, REUSED การ ปรับเปลี่ยนสานักงานให้มีการใช้ทรัพยากร และพลังงานอย่างรู้คุณค่า มีแนวทางในการจัดการของเสียอย่างมี ประสิทธิภาพรวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์เคร่ืองใช้สานักงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมรวม ถึงลดปริมาณ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือทเี่ รยี กว่าสานักงานสีเขียว ซง่ึ เป็นแนวทางหน่ึงท่ีบุคลากรสามารถมีส่วนร่วมใน การลดปญั หาท่ีจะเกิดขึ้นจากภาวะโลกรอ้ น จากความเปน็ มาและความสาคัญขา้ งต้น คณะวิจยั จึงเล็งเห็นว่าการท่ีจะดาเนินกิจกรรมด้านการจัดทา สานักงานสีเขียว (Green office) เพ่ือสร้างการมีส่วนร่วมให้บุคลากรตระหนักถึงการดูแล สิ่งแวดล้อม การ ปรับเปล่ียนสานักงานให้มีการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างรู้คุณค่า มีแนวทางใน การจัดการของเสียอย่างมี ประสิทธิภาพรวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์เคร่ืองใช้สานักงานท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิด ประโยชน์กบั บุคลากรมากทส่ี ุดและมีความยังยืนมากท่ีสดุ ดงั นั้นคณะวจิ ัยจงึ มีความสนใจทจี่ ะศกึ ษาเรอ่ื ง การพฒั นาวทิ ยาลัยการอาชีพบาเหน็จณรงค์ สู่การเป็น สานักงานสีเขยี วอยา่ งยง่ั ยืน โดยหวังว่าการวิจยั ครั้งนจ้ี ะเป็นประโยชนแ์ ก่ผทู้ สี่ นใจ 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ศึกษาการปฏิบัติตนของบุคลากรวิทยาลัยการอาชีพบาเหน็จณรงค์ในเร่ือง การพัฒนาวิทยาลัย การอาชพี บาเหน็จณรงค์ สูก่ ารเปน็ สานักงานสเี ขียวอยา่ งย่งั ยนื 2. เพื่อเสนอแนวทางในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของบุคลากรในเร่ือง การพัฒนาวิทยาลัยการอาชีพ บาเหน็จณรงค์ สกู่ ารเปน็ สานกั งานสีเขยี วอยา่ งยั่งยนื 3. เพอื่ นาผลการประเมินสานักงานสีเขียว ปี 2562 มาวิเคราะห์หาจุดแข็งจุดด้วย เพ่ือนาไปปรับปรุง พัฒนาในการดาเนินงาน ปี 2563 สกู่ ารพัฒนาเปน็ วิทยาลัยสีเขยี วอยา่ งยง่ั ยืน 1.3 สมมติฐานของการวจิ ัย 1. บุคลากรของวิทยาลัยการอาชีพบาเหน็จณรงค์ มีพฤติกรรมและความตระหนักต่อการพัฒนา วทิ ยาลัยการอาชีพบาเหนจ็ ณรงค์ สู่การเป็นสานักงานสีเขียวอยา่ งยั่งยืนแตกตา่ งกัน 2. ปัจจัยด้านสานักงานสีเขียวมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมและความตระหนักต่อการพัฒนาวิทยาลัย การอาชีพบาเหน็จณรงค์ ส่กู ารเป็นสานกั งานสเี ขยี วอย่างย่งั ยืน
1.4 กรอบแนวคดิ ในการวิจยั ตัวแปรอสิ ระ ตัวแปรตาม ปจั จัยส่วนบคุ คล พฤตกิ รรมและความตระหนกั ตอ่ การพฒั นา 1. เพศ วทิ ยาลยั การอาชีพบาเหน็จณรงค์ 2. อายุ สกู่ ารเป็นสานกั งานสีเขียวอย่างยั่งยืน 3. ระดับการศึกษา 4. ตาแหนง่ งาน 1. พฤตกิ รรมท่ีสอดคลอ้ งกบั 5. อายุงาน (ปี) นโยบายสานักงานสีเขยี ว ปัจจยั ด้านการจัดการสานักงานสเี ขยี ว 2. การใช้พลงั งาน ทรัพยากร 1 การบรหิ ารจดั การองค์กร และ ของเสียมีปรมิ าณลดลง 2. การสอื่ สารและการสรา้ งจิตสานกึ 3. การใชพ้ ลงั งานและทรัพยากร 3. บคุ ลากรของวิทยาลยั การ 4. การจัดการของเสยี อาชีพบาเหนจ็ ณรงค์ มีความรู้ความ 5. สภาพแวดลอ้ มและความปลอดภยั เข้าใจในการจัดการสานักงานสเี ขียว 6. การจัดซือ้ จัดจ้าง ภาพที่ 1-1กรอบแนวคิดในการวิจยั 1.5 ประโยชนท์ ไี่ ด้รับจากการวิจยั 1. ผลของการศึกษาบุคลากรของวทิ ยาลยั การอาชีพบาเหน็จณรงค์ มจี ติ สานึก ตระหนักรู้ และการมสี ่วนร่วมอยา่ งจริงจงั ในการพัฒนาองคก์ รเร่ืองการจัดการสานกั งานสเี ขียว 2. ผลของการศึกษาบุคลากรของวิทยาลัยการอาชีพบาเหน็จณรงค์มีการปรับเปล่ียน พฤติกรรมการ พัฒนาวิทยาลยั การอาชพี บาเหนจ็ ณรงค์ สกู่ ารเปน็ สานกั งานสีเขยี วอยา่ งย่ังยืน 1.6 ขอบเขตการวจิ ัย 1. ด้านเน้ือหาครอบคลุม 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยด้านการพัฒนาวิทยาลัยการอาชีพ บาเหน็จณรงค์ ส่กู ารเป็นสานกั งานสีเขียวอย่างย่ังยืน พฤติกรรมและความตระหนักต่อการพัฒนาวิทยาลัยการ อาชพี บาเหน็จณรงค์ สู่การเปน็ สานักงานสเี ขยี วอยา่ งย่ังยนื 2. ด้านประชากร ประชากรเปา้ หมายทใ่ี ชใ้ นการศึกษาคร้ังนี้ไดแ้ ก่การสมุ่ ตัวอย่างจาก บคุ ลากรใน วทิ ยาลัยการอาชีพบาเหนจ็ ณรงค์ รวมทง้ั สน้ิ 47 คน
3. ดา้ นระยะเวลาการศกึ ษาครงั้ นี้ทาการศึกษาการพัฒนาบุคลากรให้เป็นแบบอย่างทด่ี ขี องสานักงานสี เขียวอย่างย่ังยืนระหว่าง (1เมษายน 2562-1เมษายน 2563) 1.7 นิยามศัพทเ์ ฉพาะ 1. สานักงาน (Office) หมายถึง สถานที่ทางานที่มีผู้ทางานใช้เป็นท่ีปฏิบัติงานด้าน เอกสาร ด้านการประชุมและการจัดนิทรรศการรวมไปถึงพ้ืนท่ีใช้ประโยชน์อ่ืน ๆ ภายในท่ีมี กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ สานกั งาน ไดแ้ ก่พื้นท่รี ับประทานอาหาร พ้ืนที่ประกอบอาหาร ห้องน้า ลานจอดรถ พ้ืนท่ีรองรับของเสียระบบ บาบัดสถาบันสอนพิเศษ หมายถึง สถาบันที่สอนวิชาความรู้ เพ่ิมเติมจากส่ิงที่เรียนมาแล้วเพ่ือให้เรียนทันผู้อื่น หรือร้มู ากกวา่ ผู้อ่นื 2. สานกั งานสเี ขยี ว (Green office) หมายถึง สานกั งานและกิจกรรมตา่ ง ๆ ภายใน สานักงาน ที่ส่งผลต่อส่ิงแวดล้อมน้อยท่ีสุด โดยการใช้พลังงาน ทรัพยากรและของเสียมีปริมาณ ลดลง ใช้ทรัพยากรและ พลังงานอย่างรู้คุณค่า มีแนวทางในการจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ เครอ่ื งใชส้ านักงานท่เี ป็นมติ รกับส่ิงแวดลอ้ ม และทีส่ าคญั จะตอ้ ง ปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาในปริมาณต่า 3. บุคลากร หมายถึง บุคคลท่ีร่วมกันทาหน้าที่หรือกิจการอันใดอันหน่ึง ในสถานท่ีน้ีหมายถึง คณะผู้บรหิ าร ครู บคุ ลากรทางการศกึ ษา เจ้าหน้าท่ี พนักงาน ลูกจา้ ง นักเรียน-นักศึกษา 4. หลกั เกณฑ์ หมายถึง ข้อกาหนดที่สานกั งานจะต้องมีหรือต้องปฏบิ ัติ 5. ภาวะโลกร้อน (Global warming) หมายถึงการเพ่ิมข้ึนของก๊าซท่ีปกคลุมชั้นบรรยาย การ ของโลก ทาให้อุณหภูมิภายในโลกสูงข้ึน เป็นเหตุให้ฤดูกาลทั่วโลกเปล่ียนไป และก๊าซที่ เพ่ิมข้ึนส่วนใหญ่เกิด จากการเผาผลาญเชือ้ เพลิง 6. การนากลับมาใช้ใหม่ (Recycle) หมายถึงการจัดการวัสดุเหลือใช้โดยนาไปผ่าน กระบวนการแปรสภาพเพื่อให้เป็นวัสดุใหม่แล้วนากลับมาใช้ได้อีกซึ่งวัสดุท่ีผ่านการแปรสภาพน้ันอาจจะเป็น ผลิตภณั ฑเ์ ดมิ หรอื ผลติ ภัณฑใ์ หม่กไ็ ด้ 7. การนากลับมาใช้ซา้ (Reuse) หมายถึงการจัดการวัสดุเหลือใช้โดยท่ียังไม่ผ่าน กระบวนการ แปรสภาพกลับมาใช้ใหม่ 8. การลด (Reduce) คือลดการใช้ลดการบริโภคสินค้าท่ีฟุ่มเฟือยใช้อย่างประหยัดและใช้ เท่าท่ีจาเป็น เช่น ทาอาหารให้พอดีรับประทาน เลือกซื้อสินค้าท่ีไม่บรรจุห่อหลายชั้นใช้ผ้าเช็ดหน้าแทน
กระดาษทิชชูพกถุงผ้าไปตลาด ถ้าวันน้ันลืมถุงผ้าไปจ่ายตลาด ก็ควรปฏิบัติเช่นนี้ คือ ไปท่ีร้านแรกขอถุงใหญ่ 1 ใบ ต่อจากน้ันก็ใชถ้ งุ ใหญใ่ บเด่ียวแทนถงุ ผา้ ก็ไดเ้ ม่ือไปซื้อของรา้ น ตอ่ ไป 9. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continuous improvement) หมายถึง การปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นจากความพยายามอย่างต่อเนื่องค่อยเป็นค่อยไปในการปรับปรุงจากมาตรฐานเดิมท่ีมีอยู่ให้ดี ขึน้ รวมถึงการปรับปรงุ การทางานประจาวนั ให้ดียิง่ ข้นึ 10. ผลิตภณั ฑ์ท่เี ปน็ มิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-product) หมายถึง สินค้า ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้น จากกระบวนการและเทคโนโลยีท่ีใส่ใจกับผลกระทบท่ีจะเกิดข้ึนกับส่ิงแวดล้อมเร่ิมต้นจากการคัดเลือกวัตถุดิบ ในการผลิตการเลือกใช้พลังงานและเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมเพ่ือให้กระบวนการผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์น้ัน ๆ ใช้พลังงานจากน้าและไฟฟ้าในการผลิตอย่างคุ้มค่ามากที่สุด จนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์เป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ รอการบรรจุลงในหีบห่อและบรรจุภัณฑ์สาหรับ เตรียมการขนส่งและจัดจาหน่ายให้กับตลาดผู้บริโภคต่อไป รวมถึงการจัดการซากผลิตภณั ฑ์นนั้ อยา่ งถกู วิธี
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: