Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตะลุยอาณาจักรสัตว์

ตะลุยอาณาจักรสัตว์

Published by Ratta Vam, 2021-12-05 17:59:04

Description: ตะลุยอาณาจักรสัตว์

Search

Read the Text Version

41 คำ� ถามทา้ ยกิจกรรม 1. ปลาเคล่ือนที่โดยใชอ้ วัยวะส่วนใดบ้าง ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. 2. รปู ร่างลกั ษณะของปลามีส่วนช่วยในการเคลือ่ นทีห่ รอื ไม ่ อย่างไร ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. 3. เหงอื กปลามคี วามส�ำคญั ตอ่ ปลาอยา่ งไร ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. 4. ปลามีการหายใจอย่างไร นักเรียนสามารถหาอัตราการหายใจของปลาได้ อย่างไร ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. 5. ปลาบางชนิดเคล่ือนที่ได้เร็ว ปลาบางชนิดเคลื่อนที่ได้ช้า นักเรียนคิดว่า รูปร่างลักษณะของปลาทั้งสองควรเป็นอย่างไร ให้วาดรูปแสดงลักษณะปลา ที่มกี ารเคลอื่ นทแ่ี ตกต่างกนั ปลาท่ีเคลื่อนท่ีได้เร็ว ปลาที่เคล่ือนท่ีช้า ตัวอย่างปลาในกลุ่มนี้ ได้แก่ ตัวอย่างปลาในกลุ่มน้ี ได้แก่

42 6. สตั วบ์ างชนดิ อาศยั อยูใ่ นน้�ำ รูปร่างคลา้ ยปลา แตไ่ ม่ใช่ปลา เพราะเหตุใด วาฬ โลมา พะยูน ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. .............................................................................................................................

43 สตั ว์มีกระดกู สนั หลัง กลุ่มที่ 2 สตั ว์สะเทินน�ำ้ สะเทินบก สัตว์สะเทินน้�ำสะเทินบก หรือเรียกท่ัวไปว่าสัตว์คร่ึงบกครึ่งน้�ำ (amphibian) เป็นสัตว์ท่ีอยู่ได้ท้ังในน้�ำและบนบก เช่น กบ คางคก อึ่งอ่าง เขียด ปาด ซาลาเมนเดอร์ นิวท์ ซีซีเลียน เป็นต้น สัตว์กลุ่มน้ีเป็นสัตว์เลือดเย็น มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างต้ังแต่เกิดออกจากไข่ มีรูปร่างคล้ายปลา และโตเต็มท่ี มีรูปร่างมี 4 ขา หางหดสั้นลง ในช่วงฤดูหนาวถึงฤดูร้อนส่วนใหญ่จะขุดรูจ�ำศีล เพื่อหนคี วามแหง้ แลง้ กบ นวิ ท์ ซีซีเลยี น ซาลาแมนเดอร์ สัตวส์ ะเทนิ นำ�้ สะเทนิ บกส่วนใหญม่ ีพฤตกิ รรมและการด�ำรงชวี ติ ดงั นี้

44 ลักษณะภายนอก ตา ปาก เทาพังผืด ทอง ขา มผี วิ หนงั เรยี บลนื่ ไมม่ เี กลด็ และชมุ่ ชน้ื ตลอดเวลา เพราะมตี อ่ มสรา้ งเมอื ก คอยขบั นำ�้ เมอื กออกมาถา้ ผวิ หนงั แหง้ บางชนดิ เชน่ คางคกอาจมตี อ่ มพษิ อยตู่ าม ผิวหนังท่ีขรุขระ กบมีขาหลังยาวกว่าขาหน้า ขาใหญ่กระโดดได้ไกล มีพังผืดที่น้ิว ชว่ ยว่ายน�้ำ ขาหน้าสั้นและไม่มีพังผืด การหายใจ ในขณะทก่ี บยงั เปน็ ตวั ออ่ นหรอื ลกู ออ๊ ดจะอาศยั อยใู่ นนำ้� แลกเปลย่ี นแกส๊ ที่เหงือก เมื่อเป็นตัวเต็มวัย เหงือกจะหายไปแต่จะใช้ผิวหนังและปอดในการ แลกเปลีย่ นแกส๊ แทน ออกซิเจน เหงือก คาคราบ์ รบออนนไไดดอออกอไซกดไ ซด์

45 การด�ำรงชีวิต สัตว์ในกลุ่มน้ีมักจะ วางไข่ในน้�ำ ช่วงแรกจะเกิดและ อาศัยอยู่ในน้�ำ ต่อมาเมื่อมีการ เปลี่ยนแปลงร่างกาย จึงจะ อาศยั อยบู่ นบก แต่กต็ อ้ งอยู่ใกล้ แหลง่ น้ำ� การกินอาหาร สว่ นใหญก่ นิ สตั ว์ อาหารทกี่ นิ คือหนอนและแมลง โดยใช้ลิ้นตวัด เขา้ ปาก การเคล่ือนที่ กบเคลื่อนที่โดยอาศัยการท�ำงานของขาท้ัง 4 ข้าง ขาหลังที่ยาวและ แขง็ แรงชว่ ยในการกระโดดและยดื ขาหลงั ออก ในขณะทอี่ าศยั อยใู่ นนำ�้ ขาหลงั กบ ที่มีพังผดื คอยช่วยให้พดั โบกนำ�้ เพอื่ ให้ล�ำตวั เคลอื่ นท่ไี ปขา้ งหน้า

46 การขยายพันธุ์ ไขก่ บมลี กั ษณะเปน็ เมด็ กลม ๆ สดี �ำ มีวนุ้ หมุ้ ลอยกันเกาะเป็นแพ ไขกบ ลูกที่เพิ่งฟักออกมามี ลูกออด ลักษณะรูปร่างโดย กบตัวเต็มวัย ทว่ั ไปคลา้ ยปลา วา่ ยนำ�้ ได้ ส่วนหัวมีขนาดโต มีหาง ยาวประมาณ 2 เทา่ ของสว่ นหวั ไมม่ ขี า ล�ำตวั สนี ำ้� ตาลเรยี กวา่ ลกู ออ๊ ด เมอื่ โตขนึ้ รปู รา่ งของลกู ออ๊ ดจะเปลย่ี นแปลงไป เรม่ิ มขี าออกมาและหางหดหายไป เพื่อให้เหมาะกบั การใชช้ วี ิตบนบก ความร้เู พมิ่ เติม ซีซีเลียน (Caecilians) จัดอยู่ในกลุ่ม สัตว์สะเทินน�้ำสะเทินบกที่ตัวยาวเหมือนงูและ ไมม่ ขี า แต่ผวิ หนังชุ่มช้ืนและมกี ระดกู สนั หลงั ซาลาเมนเดอร์ (Salaman- ders) และนวิ ท์ (Newts) ดแู ตกตา่ ง จากกบและคางคก เพราะในช่วง การเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยนั้น หางจะไมห่ ดสนั้

47 กจิ กรรมที่ 6 สตั ว์มีกระดกู สนั หลังแตล่ ะชนดิ ด�ำรงชีวิตกนั อยา่ งไร กลุม่ ที่ 2 สตั วส์ ะเทนิ น้ำ� สะเทินบก กจิ กรรม 1. สังเกตลกั ษณะภายนอกของกบ บันทึกผลการสังเกต 2. สังเกตลักษณะภายนอกของไข่กบ บันทึกผลการสังเกตและวาดรูป ประกอบ 3. สังเกตลักษณะต่าง ๆ ของกบ ได้แก่ การเคล่ือนไหว การหายใจ ท่ีอยู่ อาศัย บันทกึ ผลการสังเกต 4. ศกึ ษาวดี ทิ ศั นแ์ ละอเิ ลก็ ทรอนกิ สบ์ กุ๊ คน้ ควา้ เกย่ี วกบั การด�ำรงชวี ติ ของ สตั วส์ ะเทินน�้ำสะเทินบก และบนั ทกึ ผลการศึกษา อปุ กรณ์ 1. กบหรือคางคก 2. ไข่กบหรือคางคก 3. ลกู ออ๊ ด 4. โครงกระดกู กบ 5. แบบจ�ำลองวัฏจกั รชีวิตกบ 6. แวน่ ขยาย

48 ตารางบันทึกผล 6. ไข่มีลักษณะ 1. สงั เกตลกั ษณะภายนอก 2. การหายใจ ........................................ ........................................... ........................................ วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ 5. การเคล่ือนที่ 4. อาหารท่ีกิน 3. ท่ีอย่อู าศยั ......................................... ........................................... ........................................... ......................................... ........................................... ........................................... สรปุ ผล สัตว์สะเทินน�้ำสะเทินบกส่วนใหญ่มีการด�ำรงชีวิต คือ ...................................................................................................................... สัตว์ชนิดอื่น ๆ ในกลุ่มน้ี ได้แก่ ...................................................................................................................... ......................................................................................................................

49 คำ� ถามทา้ ยกิจกรรม 1. ท�ำไมจึงจดั ใหก้ บเปน็ สตั วส์ ะเทนิ นำ�้ สะเทินบก ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. 2. บอกสิง่ ท่ีเหมือนและแตกต่างของกบตวั เตม็ วยั และในชว่ งเป็นลูกออ๊ ด ลกู ออ๊ ด กบตวั เต็มวยั ............................................................. .............................................................. วิธกี ารหายใจ ............................................................. .............................................................. ............................................................. .............................................................. ............................................................. ............................................................. ทอ่ี ย่อู าศัย ............................................................. .............................................................. ............................................................. .............................................................. ............................................................. .............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. .............................................................. การเคลอื่ นที่ ............................................................. .............................................................. ............................................................. .............................................................. ............................................................. .............................................................

50 สตั วม์ ีกระดกู สนั หลังกลุ่มที่ 3 สตั ว์เลอ้ื ยคลาน สัตว์ในกลุ่มนี้อาศัยอยู่บนบก ส่วนใหญ่เคลื่อนท่ีด้วยการเล้ือยและ การคลาน เปน็ สตั วเ์ ลอื ดเยน็ มกั จะนอนรบั แสงแดดเพอื่ ใหร้ า่ งกายไดร้ บั พลงั งาน และคลายร้อนด้วยการแช่ในน้�ำให้อุณหภูมิลดลง จะลงไปหาอาหารในน�้ำ เวลาพักผอ่ นจะขน้ึ มาอยบู่ นบกหรอื ริมน�้ำ สัตว์ในกลุม่ น้แี บ่งเป็น 4 กลุ่ม ไดแ้ ก่ 1. ลซิ ารด์ และงู 2. เต่าและตะพาบ 3. จระเข้และอัลลิเกเตอร์ 4. ทัวทารา กลุ่มท่ี 1 กลุ่มท่ี 2 กลุ่มที่ 3 กล่มุ ที่ 4

ลักษณะภายนอก 51 ผิวเกล็ดแหง หาง ตา หู จมูก เทา ปาก ขา ผวิ หนงั หนาและแหง้ มกั มเี กลด็ แขง็ ปกคลมุ รา่ งกาย มี 4 ขา บางชนดิ ไมม่ ี ขา เช่น งู การหายใจ หายใจดว้ ยปอดตลอดชีวติ

52 การด�ำรงชีวิต สว่ นใหญ่อยู่บนบกและลงไปหาอาหารในนำ�้ การกินอาหาร มที ้ังกนิ พชื และกินสตั ว์

53 การเคล่ือนที่ มีขา 4 ขา ปลายน้ิวมีเล็บช่วยจิกในการเคลื่อนที่ และอาจมีการ เปลี่ยนแปลงลักษณะให้เหมาะสมกับการเคล่ือนที่ เช่น ขาเปล่ียนไปเป็น ใบพายส�ำหรับว่ายน�้ำ เช่น เต่าทะเล บางชนิดไม่มีขาจึงเคลื่อนท่ีโดยการเลื้อย เช่น งู เต่าบกจะมเี ลบ็ เท้า เต่าทะเลจะมเี ทา้ แบบใบพาย การขยายพันธุ์ ออกลูกเป็นไข่ วางไข่บนบก มี วิวัฒนาการของเปลือกไข่มีเปลือกหุ้มเพื่อ ให้วางไข่บนบกได้ ไข่ของสัตว์เลื้อยคลาน บางประเภท เช่น เต่า จะมีเปลือกนิ่มหยุ่น แบบยาง ลูกอ่อนท่ีฟักออกจากไข่มีรูปร่าง เหมือนพ่อแม่

54 ความร้เู พ่ิมเติม เต่าและตะพาบน้�ำ มีกระดองที่เป็นผิวหนังชั้นเยื่อบุผิว ซ่ึงกระดองเต่า น้ันจะเป็นแผ่นเกล็ดปกคลุมร่างกาย กระดูกสันหลังของเต่าเชื่อมรวมกับ กระดอง

55 กจิ กรรมที่ 6 สตั ว์มีกระดกู สนั หลังแต่ละชนดิ ด�ำรงชวี ติ กนั อย่างไร กลุม่ ที่ 3 สตั ว์เลือ้ ยคลาน กิจกรรม 1. สังเกตลกั ษณะภายนอกของเตา่ บนั ทึกผลการสงั เกต 2. สังเกตลักษณะภายนอกของไข่เต่า บันทึกผลการสังเกตและวาดรูป ประกอบ 3. สังเกตลักษณะต่าง ๆ ของสัตว์เลื้อยคลาน ได้แก่ การเคล่ือนไหว การหายใจ ทอี่ ย่อู าศัย บันทึกผลการสังเกต 4. ศกึ ษาวดี ทิ ศั นแ์ ละอเิ ลก็ ทรอนกิ สบ์ กุ๊ คน้ ควา้ เกย่ี วกบั การด�ำรงชวี ติ ของ สตั วเ์ ล้ือยคลาน และบันทึกผลการศกึ ษา อปุ กรณ์ 1. สตั ว์เลอ้ื ยคลาน เช่น เต่า จง้ิ จก 2. ไขเ่ ต่า, ไขง่ ู 3. ผลติ ภัณฑจ์ ากหนังจระเข้

56 ตารางบันทึกผล 6. ไข่มีลักษณะ 1. สังเกตลกั ษณะภายนอก 2. การหายใจ ........................................ ........................................... ........................................ วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ 5. การเคล่ือนที่ 4. อาหารที่กิน 3. ทอี่ ยู่อาศยั ......................................... ........................................... ........................................... ......................................... ........................................... ........................................... สรปุ ผล สัตว์เล้ือยคลานส่วนใหญ่มีการด�ำรงชีวิต คือ ...................................................................................................................... สัตว์ชนิดอ่ืน ๆ ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ...................................................................................................................... ......................................................................................................................

57 ค�ำถามท้ายกจิ กรรม 1. เหตใุ ดจงึ จดั ใหเ้ ตา่ อย่ใู นกลุ่มสตั ว์เล้อื ยคลาน ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. 2. ท�ำไมจระเข้ เตา่ หรอื สตั ว์อ่ืน ๆ ทอี่ ยูใ่ นกลมุ่ สัตว์เล้ือยคลานมักนอนอาบแดด ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. 3. สัตว์เลื้อยคลานแต่ละชนิดมีโครงสร้างภายนอกแตกต่างกันอย่างไร มีผลต่อ การเคลอ่ื นท่ีหรอื ไม่ อยา่ งไร ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. .............................................................................................................................

58 กลุ่มสัตว์มีกระดกู สนั หลัง กลุ่มที่ 4 กลุ่มนก สตั วใ์ นกลมุ่ นข้ี นแบบแผงปกคลมุ ตวั เปน็ สตั วท์ มี่ วี วิ ฒั นาการมาจากสตั ว์ เล้ือยคลาน บริเวณขาและน้ิวเท้ามีเกล็ดอยู่ แต่เน่ืองจากขาหน้าของสัตว์กลุ่มนี้ เปลี่ยนแปลงไปเป็นปีก เพ่ือช่วยในการบิน จึงเรียกสัตว์กลุ่มน้ีว่า สัตว์ปีก สัตว์ ในกลุ่มนี้เป็นสัตว์เลือดอุ่น คือมีอุณหภูมิในร่างกายคงที่ตลอดเวลา ไม่ว่า อุณหภูมิภายนอกจะเปลี่ยนเป็นร้อนหรือหนาว ดังน้ัน ขนนกจึงมีความส�ำคัญ มากในการรักษาอุณหภูมิของร่างกาย นก นกยูง นกฮัมมิ่งเบิร์ด เป็ด ไก่ นกกระจอกเทศ

59 ลักษณะภายนอก มีขนปกคลุมตัว ขนมีลักษณะเฉพาะตัว คือ เป็นขนแบบแผง โดยขน เส้นเล็ก ๆ แต่ละเส้นจะเรียงชิดติดกัน อยู่บนก้านยาวจะมีส่วนโคนฝังอยู่บริเวณ ผวิ หนัง ปาก ปก ขนปก อก ขนหาง ขา หาง

60 การหายใจ ถุงลม อากาศเขา หายใจด้วยปอด ปอดเป็น อ วั ย ว ะ แ ล ก เ ป ลี่ ย น ก ๊ า ซ มี ถุ ง ล ม บริเวณส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ฐานของคอ ท้อง ทรวงอก ช่วยเก็บ อากาศเพ่ือส่งไปแลกเปล่ียนก๊าซท่ี ปอด และถุงลมในร่างกายยังช่วยให้ ร่างกายมีน้�ำหนักเบา ท�ำให้ลอยตัว อยู่ในอากาศได้ดี การด�ำรงชีวิต ส่วนใหญ่จะสร้างรังเป็นที่อยู่อาศัย โดย สร้างจากใบไม้ ใบหญ้า ก่ิงไม้ ลักษณะของรัง จะแตกต่างกันตามชนิดของสัตว์ปีก ยกตัวอย่าง เช่น นกกระจาบหัวเหลืองจะสานใบหญ้าเป็นรัง ใหส้ วยงาม เปน็ รงั แบบแขวน นกเงอื กจะเจาะตน้ ไม้ เปน็ โพรงใหญ่

61 การกินอาหาร ปากจะเปน็ จะงอยจะมรี ปู รา่ งแตกตา่ งกนั ออกไปเพอ่ื ใหเ้ หมาะสมกบั การ กินอาหาร สัตว์ปีกส่วนใหญ่กินสัตว์ บางชนิดกินแมลงและสัตว์เล็กๆ บางชนิดล่า เหย่ือเปน็ อาหาร นกพิราบ นกเงือก นกกระสา การเคล่ือนที่ เราสามารถแบ่งสัตวก์ ลุ่มนี้ตามลกั ษณะการบนิ ได้ 2 พวกคือ 1. พวกที่บินได้ ส่วนใหญ่มีปีกเจริญได้ดี สามารถใช้ในการบินไปมา ในอากาศได้อย่างรวดเร็ว แต่มีบางพวกปรับโครงสร้างของร่างกาย ให้เหมาะสม กับสถานท่อี ยู่อาศัย จงึ บินได้ตำ่� เช่น ไก่ เปด็ นกยูง นกขนุ ทอง นกยูง ไก่ เป็ด

62 2. พวกที่บินไม่ได้ ส่วนใหญ่จะมีปีก ขนาดเลก็ จงึ ไมส่ ามารถบนิ ได้ ปกี เหลา่ น้ี มกั จะใชใ้ นการพยงุ ตวั ขณะเดนิ หรอื วง่ิ เชน่ นกกระจอกเทศ นกอีมู เป็นต้น ปีกนกบางชนิดก็ใช้ในการว่ายน้�ำได้ เชน่ นกเพนกวนิ นกกระจอกเทศ นกเพนกวิน การขยายพันธุ์ ออกลกู เปน็ ไข่ ไขม่ เี ปลอื กแขง็ หมุ้ ไขน่ กนน้ั มสี สี นั แตกตา่ งกนั ออกไป พวก ท่วี างไขต่ ามโพรงไม้ หรอื ในโพรงดนิ มักจะมีสขี าว นกท่ีวางไขต่ ามกอหญ้า บนดนิ ทราย หรือตามหิน ก็มกั จะมสี สี ันคล้ายพนื้ ท่ีบริเวณนนั้ ๆ เพือ่ พรางตาจากศตั รู ของมัน นกแทบทุกชนิด มักจะช่วยกันกกไข่ท้ังตัวผู้และตัวเมีย เพ่ือให้ไข่ได้รับ ความอบอุ่นตลอดเวลา

63 กจิ กรรมท่ี 6 สตั ว์มีกระดกู สนั หลังแต่ละชนดิ ด�ำรงชวี ติ กนั อยา่ งไร กลมุ่ ที่ 4 กลมุ่ นก กจิ กรรม 1. สังเกตลักษณะของขนนก ขนไก่ อาหารของนก ไข่ไก่ บันทึกผลการ สังเกต 2. สังเกตการเคล่ือนทีข่ องนก บันทกึ ผลการสังเกต 3. สงั เกตพฤตกิ รรมตา่ ง ๆ ของนกในกรงและนกในธรรมชาติ บนั ทกึ ผลการ สังเกต 4. ทดลองให้อาหารนก สงั เกตการกนิ อาหารของนก บันทกึ ผลการสงั เกต 5. สังเกตรังนกและบันทึกผลการสงั เกต 6. ศกึ ษาวดี ทิ ศั นแ์ ละอเิ ลก็ ทรอนกิ สบ์ กุ๊ คน้ ควา้ เกยี่ วกบั พฤตกิ รรมและการ ด�ำรงชวี ิตของสตั ว์ในกล่มุ นก และบนั ทกึ ผลการศึกษา อุปกรณ์ 1. ขนไก่ ขนนก 2. รงั นกชนดิ ต่าง ๆ 3. ไข่ไก่ ไขน่ ก 4. ไกห่ รอื นก 5. แวน่ ขยาย

64 ตารางบันทึกผล 6.ตอกไขด่ ภู ายในของเปลอื กไข่ 1. สังเกตลกั ษณะภายนอก 2. การหายใจ สังเกตไข่แดงและไข่ขาว ........................................... ........................................ วาดภาพ วาดภาพ ........................................ วาดภาพ 5. การเคลื่อนท่ี 4. อาหารท่ีกิน 3. ท่ีอยู่อาศัย ......................................... ........................................... ........................................... ......................................... ........................................... ........................................... สรปุ ผล สัตว์ปีกส่วนใหญ่มีการด�ำรงชีวิต คือ ...................................................................................................................... สัตว์ชนิดอ่ืน ๆ ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ...................................................................................................................... ......................................................................................................................

65 ตอนท่ี 2 ชว่ ยกนั สงั เกตวา่ สตั วป์ กี เหลา่ นกี้ นิ อะไรเปน็ อาหารจากลกั ษณะปาก ที่แตกต่างกัน นกเงือก ปากมีลักษณะ ..................................... นกกระสา ............................................................ นกฮัมม่ิงเบิร์ด อาหารที่กินคือ ..................................... ............................................................ เป็ด ปากมีลักษณะ ..................................... ............................................................ อาหารที่กินคือ ..................................... ............................................................ ปากมีลักษณะ ..................................... ............................................................ อาหารท่ีกินคือ ..................................... ............................................................ ปากมีลักษณะ ..................................... ............................................................ อาหารท่ีกินคือ ..................................... ............................................................

66 คำ� ถามท้ายกิจกรรม 1. เวลาแมไ่ ก่กกไข่ มันท�ำอย่างไรบ้าง ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. 2. นกั เรียนเคยเหน็ รังนกหรือไม่ มีรูปรา่ งอยา่ งไร วาดภาพประกอบ 3. ในท้องถนิ่ ของนักเรียนพบนกชนดิ ใดบา้ ง ให้เขียนช่ือที่นกั เรยี นร้จู ัก 5 ชอื่ 1. ......................................................................................................................... 2. ......................................................................................................................... 3. ......................................................................................................................... 4. ......................................................................................................................... 5. .........................................................................................................................

67 กลุม่ สัตวม์ ีกระดกู สนั หลัง กลุ่มที่ 5 สตั ว์เลย้ี งลูกด้วยน้�ำนม สตั ว์เลย้ี งลกู ด้วยน�ำ้ นม ในเพศเมยี จะมตี อ่ มนำ้� นมเพ่ือผลิตนำ้� นมส�ำหรับ เลยี้ งตวั ออ่ นเปน็ สตั วเ์ ลอื ดอนุ่ จงึ มขี นเสน้ ๆ ปกคลมุ ทว่ั รา่ งกายเพอ่ื รกั ษาอณุ หภมู ิ ยกเว้นสัตว์น�้ำท่ีไม่มีขน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้�ำนมส่วนใหญ่ออกลูกเป็นตัว ยกเว้น ต่นุ ปากเป็ดและตัวกินมดหนาม (อคิ ดิ นา) เทา่ นัน้ ทอี่ อกลูกเปน็ ไข่ วัว สุนัข จิงโจ้ หมู ค้างคาว กระต่าย

68 ลักษณะภายนอก ขนลักษณะเปน็ เส้นสัน้ ๆ ปกคลมุ ล�ำตัว มแี ขน ขา ไม่เกนิ 2 คู่ การหายใจ หายใจด้วยปอดตลอดชวี ิต ปอด การด�ำรงชีวิต ส่วนใหญ่อยู่บนบกแต่บางชนิดอาศัยอยู่ในน�้ำ เช่น วาฬ โลมา พะยูน บางชนิดบนิ ได้ เชน่ คา้ งคาว วาฬ โลมา พะยนู ค้างคาว

69 การกินอาหาร มที ั้งกลุ่มกินพืช กนิ สัตว์ กนิ ทงั้ พชื และสัตว์ การเคลื่อนที่ ส่วนใหญ่เดินด้วยขาทั้ง 2 ข้าง บางชนิดมี 4 ขา บางชนิดมีปีกบินได้ บางชนิดว่ายน�ำ้ ได้ ค้างคาว โลมา จิงโจ้ สุนัข

70 การขยายพันธุ์ ส่วนใหญ่ออกลูกเป็นตัวแต่มีบางชนิดท่ีออกลูกเป็นไข่ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 1. กลมุ่ ทอี่ อกลกู เปน็ ไข่ พวกนจ้ี ะวางไขเ่ หมอื นสตั วป์ กี และสตั วเ์ ลอื้ ยคลาน โดยมีเปลือกแข็งหุ้ม เช่น ตุ่นปากเป็ดและตัวกินมด ภายหลังตัวอ่อนออกจากไข่ แล้วกินนมจากแม่เพอื่ เจริญเตบิ โตตอ่ ไป ตัวกินมด ตุ่นปากเป็ด 2. กลุ่มที่มีถุงหรือกระเป๋า จิงโจ้ บริเวณหน้าท้อง พวกนี้จะมีถุง บริเวณหน้าท้องไว้ส�ำหรับเล้ียงดู ตวั ออ่ นซงึ่ มขี นาดเลก็ มากเพราะมดลกู ของสัตว์กลุ่มน้ียังไม่พัฒนาดีนัก จึง ให้ลูกเจริญเติบโตภายในมดลูกได้ เพยี งระยะสน้ั ๆ แลว้ ตอ้ งใหต้ วั ออ่ นมา เจริญอยู่ภายในถุงบริเวณหน้าท้อง เช่น จิงโจ้ หมีโคอะลา

71 3. กลมุ่ ทม่ี รี ก พวกนจ้ี ะมมี ดลกู ทพี่ ฒั นาดี โดยมกี ารสรา้ งรกเชอ่ื มระหวา่ ง ถุงหุ้มตวั อ่อนกับผนงั มดลกู ของแม่ ใช้ส�ำหรับแลกเปล่ียนสารตา่ ง ๆ ระหว่างแม่ กบั ตวั ออ่ นรวมทง้ั อาหารตา่ ง ๆ จากแมก่ จ็ ะถกู สง่ ไปยงั ตวั ออ่ น เพอ่ื ใหเ้ จรญิ เตบิ โต ภายในมดลูก โดยผ่านทางรก ตัวอ่อนจะเจริญอยู่ภายในมดลูกของแม่จน สมบูรณ์เต็มที่ จึงคลอดออกมาและดูดกินนมจากแม่ระยะหน่ึงจนโตพอท่ีจะ ด�ำรงชีวิตได้เอง เช่น คน ช้าง ม้า วัว ควาย สุนัข แมว หมู เสือ สิงโต หมี วัว หมู สุนัข เสือ

72 กิจกรรมท่ี 6 สตั ว์มีกระดกู สนั หลังแตล่ ะชนดิ ดำ� รงชีวิตกนั อย่างไร กลุม่ ที่ 5 สตั ว์เลยี้ งลูกดว้ ยน�ำ้ นม กิจกรรม ให้นักเรียนศึกษาพฤติกรรมต่าง ๆ ของสัตว์เล้ียงลูกด้วยน้�ำนม เช่น หนู แมว สุนัข สังเกตลักษณะภายนอก การด�ำรงชีวิตจากวีดิทัศน์ อิเล็กทรอนิกส์บุ๊ก และบันทึกผลการศึกษา อุปกรณ์ 1. หน ู 2. แมว 3. สุนัข 4. ขนกระตา่ ย

73 ตารางบันทึกผล 6. ลูกมีลักษณะ 1. สงั เกตลกั ษณะภายนอก 2. การหายใจ ........................................ ........................................... ........................................ วาดภาพ วาดภาพ วาดภาพ 5. การเคลื่อนไหว 4. อาหารที่กิน 3. ท่อี ยูอ่ าศยั ......................................... ........................................... ........................................... ......................................... ........................................... ........................................... สรปุ ผล สัตว์เล้ียงลูกด้วยน�้ำนมส่วนใหญ่มีการด�ำรงชีวิต คือ ...................................................................................................................... สัตว์ชนิดอ่ืน ๆ ในกลุ่มน้ี ได้แก่ ...................................................................................................................... ......................................................................................................................

74 ค�ำถามทา้ ยกจิ กรรม 1. สตั ว์เลี้ยงลกู ดว้ ยนำ้� นมมหี ลายชนิด ใหย้ กตัวอย่างจ�ำแนกตามอาหารที่กนิ กินพืช กินสัตว์ กินทั้งพืชและสัตว์ .................................. .................................. .................................. .................................. .................................. .................................. .................................. .................................. .................................. .................................. .................................. .................................. .................................. .................................. .................................. 2. ให้นักเรียนบอกชื่อสัตวเ์ ลย้ี งลูกดว้ ยนำ�้ นมตามเกณฑ์ต่อไปนอ้ี ย่างละ 3 ชือ่ 2.1. อยบู่ นบก ............................................................................................... 2.2. อยู่ในน�้ำ ................................................................................................. 2.3. ออกลกู ครั้งละ 1 ตัว ............................................................................... 2.4. ออกลกู ครงั้ ละหลายตวั .......................................................................... 3. ปัจจุบัน วัยรุ่นไทยนิยมเลี้ยงสัตว์ท่ีน�ำเข้าจากต่างประเทศ เช่น กระต่าย หรือ สัตวท์ ่ตี ้องน�ำมาจากในป่า เชน่ กระรอกป่า นักเรยี นมคี วามคดิ เหน็ อย่างไร ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. .............................................................................................................................

75 สรปุ และทบทวนการเรยี นรู้ เร่อื งสัตว์ไม่มีกระดกู สนั หลัง 1. น�ำค�ำต่อไปนี้เติมลงในตารางให้ถูกต้อง ล�ำตัวมีรูพรุน/ล�ำตัวใสคล้ายวุ้น/มีประโยชน์ต่อเกษตรกรแต่บางชนิดเป็น อันตรายต่อคน/ล�ำตัวอ่อนน่ิม/มีรูปร่างหลายแบบ เช่น ตัวแบน ตัวกลม/ มีสารประเภทหินปูน เกาะตามผิวล�ำตัว เกาะนิ่งไม่เคลื่อนที่/มีเท้าท่อ/ล�ำตัว อ่อนนุ่มและมีเปลือกแข็งหุ้มด้านนอก/ล�ำตัวอ่อนนุ่ม มีโครงแข็งภายในล�ำตัว ช่วยให้คงรูปร่างได้/ล�ำตัวแบ่งเป็น 3 ส่วน/มีเข็มพิษท่ีปลายหนวด/ ขาเป็นข้อปล้อง/บางชนิดเปลี่ยนแปลงรูปร่างระหว่างการเจริญเติบโต/ ใช้ถูตัวอาบน้�ำได้/เป็นท่ีอยู่อาศัยและเพาะพันธุ์สัตว์น้�ำขนาดเล็ก ๆ/ ด�ำรงชีวิตแบบปรสิต/มีขาเป็นจ�ำนวนคู่ ฟองนำ้� สตั วล์ �ำตวั กลวง หนอนและ สตั วท์ ะเลผวิ หอยและหมกึ สตั วท์ มี่ ขี าเปน็ พยาธิ ขรขุ ระ ขอ้ ปลอ้ ง 1. 1. 1. 1. 1. 1. ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ 2. 2. 2. 2. 2. 2. ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ 3. 3. 3. 3. 3. 3. ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................

76 2. จงเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของสตั วไ์ มม่ กี ระดกู สนั หลงั และสตั วม์ กี ระดกู สนั หลัง สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง สัตว์มีกระดูกสันหลัง 1......................................... 1........................................... 2......................................... 2...........................................

77 3. จงท�ำแผนภาพสรุปความคิดเร่ืองสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ดังน้ี สัตว์ล�ำตัว สัตว์ที่มีขา กลวง เป็นข้อปล้อง สัตว์ไม่มี ฟองน�้ำ กระดูกสันหลัง

78 4. จงตอบค�ำถามต่อไปน้ี 1. ฟองน�้ำถูตัวและฟองน้�ำสังเคราะห์ เหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... 2. ปะการังมีลักษณะต่างจากดอกไม้ทะเลอย่างไร ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... 3. สัตว์ชนิดใดที่ด�ำรงชีวิตเป็นปรสิต ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... 4. ไส้เดือนดิน มีประโยชน์หรือโทษ ต่อเราอย่างไร ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... 5. พยาธิท่ีเป็นปรสิตในร่างกายมนุษย์ที่นักเรียนรู้จักยังมีอะไรอีกบ้าง ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... 6. สัตว์ทะเลผิวขรุขระ เคลื่อนที่โดยวิธีใด ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... 7. หอยและหมึก เหมือนกัน คือ .................................................................... ...................................................................................................................... แตกต่างกัน คือ ............................................................................................. ......................................................................................................................

79 8. ถา้ ดจู ากจ�ำนวนขาเปน็ เกณฑ์ สัตวใ์ นกลุม่ สตั วท์ ม่ี ีขาเป็นขอ้ ปล้องสัตวช์ นิดใด ควรจัดให้อยู่กลุ่มเดียวกัน ยกตัวอย่าง สัตว์ท่ีมี 6 ขา ......................................................................... ................................................................................................................. ยกตัวอย่าง สัตว์ที่มี 8 ขา ......................................................................... ................................................................................................................. ยกตัวอย่าง สัตว์ที่มี 10 ขา ...................................................................... ................................................................................................................. 9. ปลิงน้�ำจืดและปลิงทะเล อยู่ในกลุ่มเดียวกันหรือไม่ อย่างไร ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... 10. สัตว์ชนิดใดบ้างท่ีไม่มีกระดูกสันหลังและมีประโยชน์ต่อมนุษย์ ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... 5. จงวงกลมล้อมรอบค�ำตอบที่ถูกต้อง 1. สัตว์ในข้อใดจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ก. กุ้ง ปู แมงกะพรุน ข. ฟองน�้ำ ปะการัง ดอกไม้ทะเล ค. แมงมุม ก้ิงกือ ปู 2. สัตว์ในข้อใดเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังท้ังหมด ก. ผีเส้ือ หมึกกล้วย จิงโจ้ ข. ฉลาม หอยมือเสือ ดาวทะเล ค. ไฮดรา เพรียงทะเล ปลิงน�้ำจืด

80 3. สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังข้อใดเจริญเติบโตโดยการลอกคราบ ก. สัตว์ที่มีขาเป็นข้อปล้อง ข. สัตว์ล�ำตัวกลวง ค. สัตว์ทะเลผิวขรุขระ 4. สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังประเภทใด เป็นปรสิตอยู่ในร่างกายสัตว์ ก. กิ้งกือ ข. ปะการัง ค. พยาธิใบไม้ 5. สัตว์ชนิดใดอยู่ในจ�ำพวกเดียวกับหมึกทะเล ก. ฟองน้�ำ ข. ดาวทะเล ค. หอยงวงช้าง 6. สัตว์ชนิดใด มีร่างกายเป็นแฉก ๆ เคลื่อนที่โดยใช้เท้าท่อ ก. ไฮดรา ข. หอยแครง ค. ดาวทะเล 7. สัตว์ชนิดใด มีล�ำตัวกลวง มีเข็มพิษเล็ก ๆ ท่ีปลายหนวด ใช้จับเหยื่อ ก. แมงกะพรุน ข. หมึกทะเล ค. ทากดูดเลือด 8. นักเรียนคนใดที่ได้รับอันตรายจากสัตว์ทะเลผิวขรุขระ ก. นักเรียนคนท่ี 1 ว่ายน้�ำถูกพิษจากแมงกะพรุนไฟ ข. นักเรียนคนที่ 2 ด�ำน้�ำ ถูกหนามเม่นทะเลปักท่ีขา ค. นักเรียนคนท่ี 3 โดนแมงป่องกัดที่เท้า 9. สัตว์ชนิดใดเป็นปรสิตภายนอก ก. ปลิงทะเล พยาธิเส้นด้าย ข. เห็บ ปลิงน้�ำจืด ค. ไส้เดือน พยาธิใบไม้ 10. สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังชนิดใดมีปริมาณมากท่ีสุดในโลก ก. หอย ข. แมลง ค. พยาธิ

81 6. จากภาพจงจ�ำแนกสตั วเ์ หลา่ นว้ี า่ จดั อยใู่ นกลมุ่ ใดของสตั วไ์ มม่ กี ระดกู สนั หลงั ภาพ ชื่อ กลุ่ม 1. ............................................ ............................................ 2. ............................................ ............................................ 3. ............................................ ............................................ 4. ............................................ ............................................ 5. ............................................ ............................................

ภาพ 82 6. ช่ือ กลุ่ม 7. ............................................ ............................................ ............................................ ............................................ 8. ............................................ ............................................ ............................................ ............................................ 9. ............................................ ............................................ 10.

83 ภาพ ชื่อ กลุ่ม 11. 12. 7. วาดภาพแสดงวฏั จกั รชวี ติ ของสตั วไ์ มม่ กี ระดกู สนั หลงั ทมี่ กี ารเปลย่ี นแปลง รูปร่าง

84 เร่ืองสัตว์มีกระดูกสันหลัง 1. จงวาดภาพ การเจริญเติบโตของสัตว์ตั้งแต่เล็กจนโตเต็มวัย กลุ่มนก กลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน กลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้�ำนม

85 2. วาดภาพแสดงวฏั จกั รชวี ติ ของสตั วม์ กี ระดกู สนั หลงั ทมี่ กี ารเปลยี่ นแปลงรปู รา่ ง 3. สรปุ สงิ่ ทเี่ หมอื นและแตกตา่ งของวงจรชวี ติ กบเปรยี บเทยี บกบั วงจรชวี ติ สตั วอ์ น่ื 1 ชนิด

86

87 4. จงเติมค�ำตอบลงในตารางต่อไปนี้ให้ถูกต้อง กลุ่มปลา กลุ่มสัตว์ กลุ่มสัตว์ กลุ่มนก สัตว์เลี้ยงลูก สะเทินน�้ำ เลื้อย ด้วยน�้ำนม สะเทินบก คลาน ลูกอ๊อด 1. การหายใจ .......................... 2. ลักษณะ โตเต็มวัย ส่ิงปกคลุมตัว .......................... 3. ลกั ษณะของ ไข่ การวางไข่ 4. การ ลูกอ๊อด เคลือ่ นไหว .......................... 5. แหล่งที่อยู่ โตเต็มวัย อาศัย .......................... 6. สัตว์เลือด ลูกอ๊อด เย็นหรืออุ่น .......................... โตเต็มวัย ..........................

88 5. จากภาพจงบอกวา่ สตั วช์ นิดนี้เปน็ สตั วท์ อ่ี ยใู่ นกลุม่ ใด วงกลมล้อมรอบสตั ว์ เลื้อยคลานและกากบาททับสัตว์สะเทินน�้ำสะเทินบก 1. 4. 7. 2. 5. 8. 9. 3. 6. 10. 6. จงตอบค�ำถามต่อไปน้ี 1. สัตว์เลือดอุ่นและสัตว์เลือดเย็นต่างกันอย่างไร จงอธิบายและยกตัวอย่างให้ ชัดเจน ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... 2. สัตว์กลุ่มนกทุกชนิด มีอวัยวะในการหายใจ คือ......................................และ มีถุงลมไว้ส�ำหรับ............................................................................................ 3. ส่ิงส�ำคัญท่ีท�ำให้สัตว์กลุ่มนกบินได้ คือ....................................................... 4. สัตว์ในกลุ่มสัตว์กลุ่มนกที่บินไม่ได้ คือ........................................................ 5. ลักษณะภายนอกของสัตว์กลุ่มนกคือ.........................................................

89 6. สัตว์เล้ียงลูกด้วยน้�ำนม ส่วนใหญ่มีการออกลูกเป็น...............................แต่มี บางชนิดท่ีออกลูกเป็น........................................คือ....................................... 7. ลักษณะภายนอกท่ีส�ำคัญของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้�ำนม..................................... ...................................................................................................................... 7. จงวงกลมล้อมรอบข้อที่ถูกต้อง 1. ระยะใดของลูกอ๊อดท่ีเกิดก่อน ก. หางหดส้ัน ข. ขาหน้างอก ค. ขาหลังงอก 2. สัตว์เลื้อยคลานส่วนใหญ่มีการออกลูกลักษณะใด ก. ออกลูกเป็นไข่ วางไข่บนบก ข. ออกลูกเป็นไข่ วางไข่ในน�้ำ ค. ออกลูกเป็นตัว มีเหงือกหายใจ 3. สัตว์เลือดเย็น ผิวหนังหนาแห้ง มีเกล็ดปกคลุม หายใจด้วยปอด เป็นลักษณะ ของสัตว์ชนิดใด ก. สัตว์เล้ียงลูกด้วยน�้ำนม ข. สัตว์เล้ือยคลาน ค. ปลา 4. สัตว์ในข้อใดออกลูกเป็นไข่ท้ังหมด ก. ค้างคาว ตุ๊กแก กบ ข. ปลาหางนกยูก จิงโจ้ ตะพาบน�้ำ ค. ตุ่นปากเป็ด นกกระจอก จระเข้ 5. กลุ่ม A ปลาสอด โลมา พะยูน กลุ่ม B ปลาทอง ปลาตะเพียน ปลานิล เราใช้อะไรเป็นเภณฑ์ในการจ�ำแนกสัตว์ 2 กลุ่มนี้ ก. การออกลูก ข. การหายใจ ค. ท่ีอยู่อาศัย

90 6. สตั วท์ ไ่ี มม่ กี ารเปลยี่ นแปลงอณุ หภมู ใิ นรา่ งกายไปตามอณุ หภมู ขิ องสง่ิ แวดลอ้ ม คือสัตว์ชนิดใด ก. สัตว์เลือดอุ่น ข. สัตว์เลือดเย็น ค. สัตว์เลือดผสม 7. ลกั ษณะทปี่ รากฏชดั เจนของสตั วเ์ ลย้ี งลกู ดว้ ยนมทแี่ ตกตา่ งจากสตั วช์ นดิ อน่ื ๆ คืออะไร ก. มีขนปกคลุม ข. เป็นสัตว์เลือดอุ่น ค. มีใบหู 8. สัตว์ชนิดใดที่มีวัฏจักรชีวิตแบ่งเป็น 3 ระยะ ก. ไก่ กระต่าย ข. จงโคร่ง ผีเส้ือ ค. ปลาหางนกยูง กบ 9. สัตว์เลื้อยคลานกับสัตว์กลุ่มนก มีความแตกต่างกันในข้อใด ก. การหายใจ ข. การออกลูก ค. อุณหภูมิร่างกาย 10. ข้อใดไม่จัดเป็นสัตว์กลุ่มนก ก. ค้างคาว ข. หงส์ ค. นกกระจอกเทศ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook