ระบบสุรยิ ะ 4เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี นางสาวณัฐกลุ สม้ แกว้ นางสาวณันท์ทิชา ดาราศร นางสาวแกว้ ตา เผอื ดผอ่ ง
คานา เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ระบบสุริยะ ได้จดั ทาขึ้นเพอื่ ใช้ ประกอบการสอนในรายวิชา วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 โดยเอกสารประกอบไปด้วย ส่วนประกอบของระบบสุริยะ การขึ้น และตกของดวงจันทร์ ข้างข้ึนข้างแรม เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความ เขา้ ใจและอธิบายส่วนประกอบของระบบสุรยิ ะได้ คณะผู้จัดทาหวังว่าเอกสารประกอบการเรียนนี้จะเสริมสร้าง ความรู้เรื่องระบบสุริยะให้กับผู้เรียนได้พัฒนาความรู้ได้ หากมี ขอ้ ผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ โอกาสน้ี คณะผูจ้ ัดทา
สารบัญ หนา้ เร่อื ง 1 2 หน่วยที่ 1 ระบบสรุ ยิ ะ 3 -ระบบสรุ ยิ ะ (Solar System) 4 -ดวงอาทติ ย์ (Sun) 5 -ดาวเคราะห์ชัน้ ใน (Inner planets) 6 -ดาวพุธ (Mercury) 7 -ดาวศกุ ร์ (Venus) 8 -โลก (Earth) 9 -ดาวอังคาร (Mars) 10 -ดาวเคราะหช์ ้นั นอก (Outer Planets) 11 -ดาวพฤหสั บดี (Jupiter) 12 -ดาวเสาร์ (Saturn) 13 -ยเู รนสั (Uranus) 14 -ดาวเนปจนู (Neptune) 17 18 หน่วยท่ี 2 ดวงจนั ทร์ 21 -การเคลอื่ นทข่ี องดวงจันทร์ 23 -ข้างขน้ึ ข้างแรม 26 28 กจิ กรรมที่ 1 ระบุชอื่ ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ กจิ กรรมที่ 2 ขา้ งขนึ้ ขา้ งแรม กิจกรรมที่ 3 การสรา้ งแบบจาลงระบบสุรยิ ะ แบบฝึกหัด
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการ คิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบ สุรยิ ะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะท่ีส่งผลต่อส่ิงมีชีวิต และการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ ตัวชี้วัด ป.4/1 อธิบายแบบรูปเส้นทางการข้ึนและตกของดวง จันทร์ โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ตัวชี้วัด ป.4/2 สร้างแบบจาลองท่ีอธิบายแบบรูปการ เปลี่ยนแปลงรูปรา่ งปรากฎการณ์ของดวงจนั ทร์ ตวั ชวี้ ัด ป.4/3 สร้างแบบจาลองแสดงองคป์ ระกอบของ ระบบสรุ ยิ ะ และอธบิ ายเปรยี บเทียบคาบการโคจรของ ดาวเคราะหต์ า่ งๆ จากแบบจาลอง
1 หน1ว่ ยที่ เรื่อง สว่ นประกอบของระบบสรุ ยิ ะ เมือ่ เรียนจบเรอ่ื งนี้ นกั เรยี นสามารถ 1. บอกตาแหนง่ ของดาวเคราะหแ์ ตล่ ะดวงได้ 2. สร้างแบบจาลองของระบบสุริยะท่ีมีดวง อาทิตย์เป็นศูนย์กลาง และมีบริวารประกอบด้วย ดาวเคราะห์ 8 ดวงได้
2 ระบบสุรยิ ะ (Solar System) คือ ระบบที่มี ดวงอาทิตย์ (Sun) เป็นศูนย์กลาง และ มีบริวาร คือ ดาวเคราะห์ 8 ดวง นอกจากนี้ยังมีดาว เคราะห์น้อยที่เป็นหินแข็ง และดาวหางต่างเคล่ือนท่ีรอบ ดวงอาทติ ย์ ใ น อ ดี ต มี ก า ร นั บ ด า ว เคราะห์ที่โคจรรอบดวง อาทิตย์ท้ังหมด 9 ดวง แต่มาในปี 2549 มีการ ตัดดาวพลูโตออกไปจาก ระบบ
3 ดวงอาทิตย์ (Sun) เป็นดาวฤกษ์ท่ีมีขนาดใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ มีขนาดใหญ่กว่าโลกที่เราอาศัยอยู่ถึง 108 เท่า ดวงอาทิตย์มีพลังงานดึงดูดซ่ึงกันและกันกับ ดาวเคราะห์ทั้ง 8 ดวง เป็นดาวฤกษ์ท่ีอยู่ใกล้ โลกมากที่สุด ประกอบไปด้วยกลุ่มแก๊ส พื้นผิว ไม่ใช่ของแข็ง แก๊สท่ีมีมากที่สุดในดวงอาทิตย์ คือ ไฮโดรเจน (H) ไม่นา่ เชือ่ ใชไ่ หม วา่ ยงั มดี าวดวงอื่นทส่ี ว่างกว่าดวงอาทิตย์อกี ดาวดวงนี้มชี ือ่ ว่าเอตาคารินา เป็นดาวฤกษ์ทีม่ ีความ สวา่ งไมค่ งที่ ในปพี .ศ.2386 ดาวดวงนีส่ วา่ งวาบข้ึน นกั ดาราศาสตรบ์ นั ทกึ ความสวา่ งได้6ลา้ นเทา่ ของ ดวงอาทติ ย์ นบั เป็นดาวที่สวา่ งท่ีสดุ ที่เคยบันทึกมา
4 ดาวเคราะห์ชน้ั ใน (Inner planets) ดาวเคราะห์ช้ันใน (Inner Planets) หรือ ดาว เคราะห์แข็ง (Terrestrial planets) หมายถึง ดาว เคราะห์ท่ีมีพ้ืนผิวเป็นของแข็ง ได้แก่ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก และดาวอังคาร เป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดเล็กและ มีมวลน้อย เนื่องจากบรรยากาศท่ีห่อหุม้ ดาวถูกทาลาย โดยรงั สคี ลนื่ ส้ันและอนุภาคพลังงานสูงที่มากับลมสุริยะ จงึ เหลอื แต่พ้ืนผิวทเ่ี ป็นของแข็ง
5 ดาวพธุ (Mercury) เปน็ ดาวเคราะหท์ ่ีใกล้ทส่ี ุดอันดบั 1 และเป็นดาวท่ีเลก็ ที่สดุ ในระบบสรุ ยิ ะ พน้ื ผิวของดาวพธุ นัน้ มีผวิ ที่ขรุขระสาเหตมุ าจาก การพุงชนของอุกกาบาต ไมม่ ดี วงจนั ทรเ์ ป็นบรวิ าร ชน้ั ของ บรรยากาศ ประกอบด้วย โพสแทสเซยี ม แคลเซียม โซเดยี ม ออกซเิ จน ฮเี ลียม ไฮโดรเจน และ นา้ ความดันของชั้นบรรยากาศ อยทู่ ่ีประมาน 10 –14 บาร์
6 ดาวศุกร์ (Venus) เปน็ ดาวที่อยใู่ กล้เปน็ อันดบั 2 ซง่ึ ลักษณะคลา้ ยกับโลก บรรยากาศ ประกอบด้วยก๊าซคาบอนไดออกไซต์ 97 % ไนโตรเจน 3.5 % ซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์ และ อาร์กอน 0.5 % ซง่ึ มเี มฆคาบอนไดออกไซต์ ปกคลุมดาวท้ังดวงทา ใหส้ ะท้อนแสงอาทิตย์ จงึ ทาให้เหน็ ดาวศกุ ร์สว่าง ดาวศกุ ร์ โลก รูห้ รือไม่! เน่ืองจากดาวทง้ั สองมีความคลา้ ยกนั ทงั้ ขนาด, มวล, ความหนาแน่นและปรมิ าตร แต่จากข้อมลู ท่ีได้จาก การสงั เกตการณ์โดยยานอวกาศท่ีโคจรรอบดาวศุกร์ กลับพบว่า ดาวศกุ ร์กบั โลกมคี วามแตกตา่ งกนั โดย สนิ้ เชงิ บนดาวศุกรไ์ ม่มนี า้ และไอน้าอยู่เลย
7 โลก (Earth) เปน็ ดาวเคราะห์ที่อยู่ใกลด้ วงอาทติ ย์ เป็นอันดบั 3 ซง่ึ โลกคาดว่า เป็นสิ่งมีชวี ิตอยเู่ พยี งดาวดวงเดยี ว ในอดีตโลกน้นั หมุนรอบตวั เอง เรว็ มาก ทีม่ ีแกนกลางเป็นแร่เหล็กและนิเกลทาให้เกดิ ภาวะ สนามแมเ่ หลก็ ขน้ึ ประมาน 71เปอร์เซน็ ต์ โลกถูกปกคลมุ ดว้ ยนา้ เป็นดาวเคราะหเ์ พยี งดวงเดยี วทมี่ นี า้ ปกคลมุ เปน็ ส่ิงสาคญั มาก ตอ่ สง่ิ มชี วี ติ บรรยกาศของโลก ประกอบด้วย ไนโตรเจน 78 % ออกซิเจน 21 % สว่ นอน่ื ๆท่ีเหลือจะเปน็ คาร์บอนไดออกไซต์ อากอน และ นา้
8 ดาวองั คาร (Mars) เป็นดาวเคราะห์ อันดับ 4 เม่ือมองข้ึนไปบนทอ้ งฟา้ จะเหน็ ดวงดาวเปน็ สีแดง ชาวโรมนั โบราณ เปรยี บดาวดวงน้เี หมือน เทพแหง่ สงคราม ดาวอังคารมอี งค์ประกอบของโลกหลายอยา่ ง แต่ชัน้ บรรยากาศแตกต่างจากโลกโดยสิ้นเชิง ส่วนใหญม่ ีก๊าช คาบอนไดออกไซต์ถึง 95 % มดี าวบรวิ ารถึง 2 ดวง ชอื่ วา่ โฟ บอส กบั ไดมอน
9 ดาวเคราะหช์ ้ันนอก (Outer Planets) ดาวเคราะหช์ ั้นนอก (Outer Planets) หรอื ดาว เคราะหแ์ ก๊ส (Giant Gas Planets) หมายถึง ดาว เคราะหท์ ีม่ บี รรยากาศหนาแน่น ไดแ้ ก่ ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน เปน็ ดาวเคราะห์ ทมี่ ีขนาดใหญ่และมีมวลมาก เนือ่ งจากอยูห่ า่ งไกลจาก อิทธิพลของรังสแี ละลมสรุ ยิ ะ บรรยากาศจงึ สามารถ คงอยไู่ ดอ้ ย่างหนาแน่น ดาวเคราะห์ชัน้ นอกมมี วล มากจึงมแี รงโนม้ ถ่วงสงู ทาใหด้ งึ ดูดสสารท้ังหลายมา สะสมไว้ภายใน และเป็นดวงจันทรบ์ ริวาร
10 ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) เปน็ ดาวเคราะหท์ ี่ใหญ่ท่สี ดุ อย่อู นั ดบั 5 ของระบบสรุ ยิ ะ มี ขนาดใหญ่กว่าโลก 1400 เท่า ชัน้ บรรยากาศมอี ุณหภมู ิไม่ แตกต่างจากโลกมานัก ซง่ึ ทาหนา้ ทเ่ี รือนกระจกท่เี กบ็ พลังงาน แสงอาทิตยไ์ ว้ ดาวพฤหสั เปน็ ดาวเคราะหท์ ่มี กี า๊ ซขนาดใหญ่ ทา ใหไ้ ม่มผี วิ ให้เหยียบดวงจันทร์ได้ บรรยากาศประกอบดว้ ย ไฮโค รเจน 81 % ฮเี ลียม 18 % ทีเ่ หลอื นั้นจะเปน็ ก๊าซมีเธน แอมโมเนยี ฟอสฟอรสั และ ไอน้า
11 ดาวเสาร์ (Saturn) เป็นดาวเคราะห์ท่ีพิเศษกวา่ ดาวอนื่ ๆซึ่งมวี ง แหวนขนาดใหญล่ ้อมรอบเอาไว้และวงแหวน ชว่ ยสะท้อนแสงเพิ่มมากข้ึน ตาเราไมส่ ามารถ มองเหน็ แสงเหลา่ นัน้ ได้ กาลิเลโอ เขาเป็นคน กลุ่มๆแรกทสี่ ่องกลอ้ งสารวจบนทอ้ งฟ้า สว่ นคริ สตยี าน เฮยเคนิ ส์ เปน็ คนแรกท่สี ามารถอธิบาย ลกั ษณะของวงแหวนไดอ้ ย่างละเอยี ด
12 ยูเรนัส (Uranus) ถอื ว่าเป็นดาวเคราะห์ดวงแรกท่ถี กู คน้ พบด้วยเทคโนโลยี สมัยใหม่ หลังจากเฝ้าสังเกตการณ์อยู่นานไดค้ ้นพบการโคจร ของวัตถุท่ีเขาคน้ พบและพบวา่ วัตถุดังกล่าวเปน็ ดาวเคราะห์ดวง ใหมท่ โ่ี คจรรอบดวงอาทิตย์ทห่ี ่างไกลออกไปจากดาวเสาร์ ถงึ 2 เท่า ชนั้ บรรยากาศประกอบด้วย ก๊าซไฮโดรเจนและฮีเล่ยี ม สี ของดาวจะออกเปน็ สฟี า้ มีดวงจนั ทรเ์ ปน็ บริวารถงึ 15 ดวง
13 ดาวเนปจนู (Neptune) เป็นดาวเคราะหข์ นาดใหญ่ อย่หู า่ งจากดวงอาทติ ย์ เป็นอันดับที่ 8 สามารถ จุโลกได้ถงึ 60 ดวง ซง่ึ อยไู่ กล มากจนมองไมเ่ ห็นดว้ ยตาเปล่า หลังจาก นกั วทิ ยาศาสตรไ์ ดค้ ้นพบดาว ยเู รนสั เชือ่ ว่าต้องมดี าว อีก 1 ดวงที่รบกวนการโคจรของดาวยเู รนสั จึง คานวณหาดาวเคราะห์ด้วยนไี้ ว้ลว่ งหน้า ในปี 2389 จึงสอ่ งกล้องโทรทรรศน์ เจอดาวเคราะห์ดวงนี้จรงิ ๆ ลกั ษณะของดาวเนปจนู มสี ภาพอากาศที่แปรปรวน มี พายุหมนุ เกิดข้ึนตลอดเวลา ขนาดใหญ่เท่ากบั โลก
14 หน่วยที่ 2 เร่ือง ดวงจนั ทร์ เม่อื เรยี นจบเรอื่ งนี้ นักเรยี นสามารถ สรา้ งแบบจาลองและอธบิ ายข้างขึ้นขา้ งแรม
15 ดวงจันทร์ (Moon) ดวงจันทร์ที่เป็นบริวารของโลก อยู่ห่างออกไป 238,900 ไมล์ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2,160 ไมล์ หมุนรอบตัวเอง และหมุนรอบโลกในอัตราเร็วและเวลาเกือบเท่ากัน ด้วยเหตุ นี้เองคนบนโลกจึงเห็นผิวพ้ืนของดวงจันทร์เพียงด้านเดียว เสมอดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์ที่ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง และไม่มีอากาศห่อหมุ้ อยู่ นักบนิ อวกาศคนแรกท่ี ไปเหยียบดวงจันทรค์ ือ นลี อารม์ สตรอง
16 ดวงจนั ทร์ (Moon) พืน้ ผิวของดวงจันทรถ์ า้ ดูด้วย กลอ้ งโทรทรรศน์จะพบว่า ไมเ่ รยี บ เป็นผวิ ขรุขระ เต็มไปด้วยภเู ขาสูง และหุบเหวลกึ ซ่ึงเปน็ ลักษณะของภูเขาไฟทด่ี ับแลว้ จานวนนับไมถ่ ้วนของดวงจนั ทร์ นอกจากน้ีตามผิว พ้ืนราบยงั ปรากฏเปน็ หลุมลกึ ขนาดใหญ่มหึมาอีก มากมาย ซ่งึ เขา้ ใจกนั วา่ เกดิ จากการกระแทกอยา่ ง แรงของสะเกด็ ดาวนอกเวหาทพ่ี ุง่ เข้าชนดวงจันทร์
17 การเคลอ่ื นท่ขี องดวงจนั ทร์ มีการเคลื่อนทีส่ าคญั 3 ประการ คือ 1. หมนุ รอบตวั เองใชเ้ วลา ประมาณ 27 วัน 7 ชม. 43 นาที 2. โคจรรอบโลกใชเ้ วลา ประมาณ 29.5 วัน (ราวๆ 1 เดือน) เทา่ กัน 3. โคจรรอบดวงอาทติ ยใ์ ชเ้ วลา ประมาณ 12 เดอื น
18 ขา้ งขน้ึ - แรม สาเหตุของการเกิดข้างขึ้นขา้ งแรม เกดิ จากดวงจันทรไ์ มม่ แี สงในตัวเอง แตไ่ ดร้ ับแสงจากดวงอาทิตย์ ดงั น้นั เมอ่ื มองดวงจนั ทร์จากบนโลก เราจึงเหน็ ดวงจนั ทรม์ ีรปู ร่างทแี่ ตกต่างกนั
19 ขา้ งขนึ้ (Waxing) เปน็ ชว่ งที่เกดิ ขน้ึ ระหว่าง คนื เดอื น มดื จนถึงคืนวันเพ็ญ โดยใชด้ า้ นสวา่ ง ของดวงจันทร์เป็นตวั กาหนด แบ่งออกเป็น 15 ส่วน เริ่มจาก ขึน้ 1 คา่ จนถึง ขน้ึ 15 คา่
20 ขา้ งแรม (Waning) เปน็ ช่วงท่เี กดิ ขนึ้ ระหว่างคืนวนั เพญ็ จนถงึ คนื เดอื นมืดอีกครั้ง โดยใช้ด้าน มืดของดวงจันทร์เป็นตัวกาหนด แล้ว แบ่งออกเปน็ 15 สว่ นโดยเรมิ่ จาก แรม 1 ค่า จนถึง แรม 14-15 ค่า
21 กจิ กรรมท่ี 1 ระบุชื่อดาวเคราะหใ์ นระบบสรุ ยิ ะ คาชี้แจง: ใหน้ กั เรยี นระบุช่ือดาวเคราะหใ์ นระบบสรุ ิยะใหถ้ กู ตอ้ ง
22 เฉลย คาช้แี จง: ใหน้ กั เรียนระบชุ ่อื ดาวเคราะห์ในระบบสุรยิ ะใหถ้ ูกตอ้ ง ดาวเนปจนู ดาวยเู รนัส ดาวเสาร์ ดาวพฤหัส ดาวองั คาร โลก ดาวศกุ ร์ ดาวพุธ
23 กจิ กรรมท่ี 2 ขา้ งขน้ึ ข้างแรม วสั ดุอุปกรณ์ 1 ลูก 1 อัน 1. ลูกปิงปอง 1 ดา้ ม 2. ไม้เสยี บลกู ปงิ ปอง 3. ปากกาเมจกิ สดี า วิธที า 1. ใหน้ ักเรียนนาลกู ปิงปองจานวน 1 ลกู ทาสีดาลงบนลูกปิงปองบริเวณคร่งึ หน่ึงของ ลกู ปิงปอง จากนน้ั ปล่อยใหแ้ ห้ง 2. ใหน้ ักเรยี นนาไม้แหลมเสียบลกู ปิงปองบริเวณตรงกลางเพอ่ื เปน็ ดา้ มจับ 3. ใหน้ กั เรยี นขดี พน้ื ห้องเป็นรปู วงกลม จากน้นั แบ่งวงกลมออกเป็น 8 ส่วนทา เครือ่ งหมายแต่ละจดุ บนแนวเส้นรอบวงกลม 4. ใหน้ กั เรยี นคนท่ี 1 เปน็ ผู้สงั เกต ยนื อยู่กลางวงกลมส่วนนักเรียนคนที่ 2 ถือลกู ปงิ ปองอย่ใู นระดับสายตาของนักเรียนคนท่ี 1 จากน้นั ให้นกั เรยี นคนที่ 2 เดินไปตาม แนววงกลมรอบ ๆ ตัวนักเรยี น คนท่ี 1 ตามตาแหน่งท่ีกาหนดไวโ้ ดยหนั ดา้ นสีขาวไป ทางหนา้ ห้องเรยี นทกุ คร้ังที่มกี ารเปลีย่ นแปลงตาแหน่ง (สมมุติใหห้ นา้ ห้องเรยี นเปน็ ดา้ นท่ดี วงอาทติ ย์อย)ู่ 5. ใหน้ ักเรียนคนที่ 1 บนั ทึกภาพลกู ปงิ ปองท่ีสังเกตไดใ้ นตาแหน่งต่าง ๆ ลงในตาราง โดยแรเงาส่วนมดื ด้วยดนิ สอ
ตำแหนง่ ของลกู ปิงปอง 24 คาถามก่อนทากจิ กรรม ให้นกั เรียนเขยี นเคร่อื งหมาย ลงใน หนา้ คาตอบท่ีถกู ตอ้ ง นักเรียนคิดว่าแบบจาลองทีน่ กั เรยี นประดษิ ฐ์ข้นึ สามารถอธิบายปรากฏการณข์ า้ งข้นึ ขา้ งแรมไดห้ รอื ไม่ ได้ ไมไ่ ด้ บนั ทึกผลการทากจิ กรรม ตาแหนง่ ของลกู ปงิ ปอง 1 2 3 4 5 6 7 8 ลกั ษณะของลูกปิงปอง ที่สงั เกตได้ คาถามหลังทากจิ กรรม ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมาย ลงใน หนา้ คาตอบทถี่ กู ต้องและตอบคาถาม 1. ลกู ปิงปองเปรยี บเทียบได้กบั สง่ิ ใด โลก ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ 2.เพราะเหตใุ ดจึงต้องหันลูกปงิ ปองดา้ นสขี าวไปทางเดยี ว (หน้าชน้ั เรยี น) ตลอด _________________________________________________________________________ 3.จากการเคลื่อนทไ่ี ปตามตาแหน่งต่าง ๆ ตามหมายเลขตาแหน่งท่ีเหน็ ลกู ปิงปองสวา่ งชัดเจนท่สี ุด คอื ตาแหนง่ ท่ี ______________________________ ตาแหน่งที่เห็นลูกปงิ ปองมืดสนิทที่สดุ คือ ตาแหน่งที่ _________________________________ 4.สรปุ ผลการทดลองไดว้ า่ อยา่ งไร __________________________________________________________________________ ___________________________________________________ 5.นกั เรียนจะนาความรู้เก่ียวกบั การสงั เกตดวงจันทรใ์ นวนั ขา้ งขน้ึ ขา้ งแรมไปใช้ประโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งไร _____________________________________________________________________ __________________________________________________________________________ __________________________________________________________________________
25 เฉลยกิจกรรม การเกดิ ข้างข้ึน ข้างแรม • คาถามกอ่ นทากจิ กรรม ตอบ อธบิ ายปรากฏการณ์ข้างขึ้น ข้างแรมได้ • คาถามหลงั ทากิจกรรม 1. ตอบ ดวงจันทร์ 2. ตอบ เพราะทางด้านหน้าช้ันเรยี นเป็นด้านท่ีสมมุติใหม้ ดี วงอาทิตย์อยู่ 3. ตอบ 3.1 ตาแหนง่ ท่ี 5 3.2 ตาแหน่งท่ี 5 4. ตอบ ลกู ปิงปองเปรยี บได้กบั ดวงจันทรท์ ่โี คจรรอบโลกในทศิ ทวนเขม็ นาฬกิ า เปน็ ผลทาให้ ดวงจันทรเ์ ปล่ยี นตาแหน่งต่าง ๆ ในวงโคจรและทาให้ดวงจนั ทรห์ นั ส่วนท่ี ไดร้ บั แสงจากดวงอาทติ ยส์ ะทอ้ นมายังโลก ทาใหเ้ ราสังเกตเห็นดวงจันทร์ ในตาแหน่งตา่ ง ๆ มรี ปู รา่ งแตกต่างกัน 5. ตอบ ตัวอยา่ งคาตอบ ทาใหท้ ราบวนั สาคญั ตา่ ง ๆ ทางศาสนา โดย สงั เกตจากลักษณะของดวงจันทรท์ ่ีเปล่ยี นแปลงไป เช่น วนั มาฆบชู า ตรง กบั วนั ขึ้น 15 ค่า เดอื น 3 วนั วิสาขบชู า ตรงกับวนั ขน้ึ 15 ค่า เดอื น 6 วนั ลอยกระทรง ตรงกบั วนั ขน้ึ 15 คา่ เดอื น 12
26 กิจกรรมที่ 3 การสรา้ งแบบจาลองระบบสรุ ิยะ ขอ้ มูลระยะทางเฉลยี่ ขนาดดวงอาทิตย์และดาวเคราะหบ์ ริวารดัดแปลงจาก หนงั สอื Observer’s Handbook 2007 หนา้ 18 – 19 ขนาดของดวงอาทติ ยแ์ ละดาวเคราะห์บริวารยอ่ สว่ น 1 cm ~ 1.8 แสนกโิ ลเมตร
27 อปุ กรณท์ ่ใี ช้ในการสรา้ งแบบจาลอง 1 แผ่น 1.กระดาษรูปดวงอาทติ ย์และดาวเคราะห์บรวิ าร 1 แผน่ 2.กระดาษขาวขนาด 20 cm x 350 cm 1 หลอด 3.กาวลาเท็กซ์ 4.ดนิ สอ 5.กรรไกร วธิ สี ร้างแบบจาลอง 1.ขดี เสน้ แบง่ ครง่ึ กระดาษขาวตามยาว 2.ใช้ข้อมลู ระยะทางเฉลยี่ ของดาวเคราะห์บรวิ าร มายอ่ สว่ นโดยใช้ มาตรา สว่ นท่เี หมาะสม เพื่อใหส้ ามารถสร้างแบบจาลองบนกระดาษทก่ี าหนดให้ได้ แล้วทาเคร่ืองหมายแสดงตาแหนง่ ทจ่ี ะติดดาวเคราะหแ์ ตล่ ะดวง 3.พจิ ารณาข้อมูลขนาดของดาวเคราะห์และระยะห่าง แลว้ ตัดดวงอาทติ ยแ์ ละ ดาวเคราะหม์ าติดบนกระดาษขาวตรงตาแหนง่ ทกี่ าหนดไว้ให้ถกู ต้อง ยกเว้น ดาวพุธ ศุกร์ และโลก อาจใช้ปากกาหรอื ดินสอวาด เน่อื งจากมีขนาดเลก็ มาก 4.พิจารณาตาแหน่งของดาวเคราะห์ทงั้ 8 ดวง แล้วแบง่ ดาวเคราะห์ เป็นกลุ่ม จะแบ่งไดก้ ี่กล่มุ ใชอ้ ะไรเปน็ เกณฑใ์ นการแบ่ง
แบบฝกึ หัด 28 1. ขอ้ ใดคอื ความหมายของระบบสรุ ยิ ะ ก.ระบบที่มีดวงอาทติ ยเ์ ป็นศูนย์กลาง แตไ่ มม่ ีดาวบรวิ าร ข.ระบบท่ีมีดวงอาทิตยเ์ ปน็ ศนู ยก์ ลาง และมีบริวาร เคลือ่ นทอ่ี ยู่โดยรอบ ค.ระบบทมี่ โี ลกเปน็ ศนู ยก์ ลาง แต่ไม่มดี าวบรวิ าร ง.ระบบทมี่ ีโลกเปน็ ศนู ยก์ ลาง และมีบรวิ ารเคลอ่ื นทีอ่ ยู่ โดยรอบ 2. ขอ้ ใดไม่ใชบ่ ริวารของดวงอาทติ ย์ ก.ดาวหางตา่ งๆ ข.อนภุ าคขนาดเลก็ ค.กาแลก็ ซ่ี ง.อุกกาบาต
แบบฝึกหัด 29 3. ข้อใดคือดาวเคราะห์วงนอก ก.ดาวพธุ ดาวศกุ ร์ ข.ดาวพุธ ดาวศกุ ร์ โลก ดาวอังคาร ค.ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจนู ง.ดาวอังคาร ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนสั ดาวเนปจูน 4. ขอ้ ใดเรียงลาดับจากเล็กไปใหญไ่ ด้ถกู ต้อง ก.เอกภพ กาแลก็ ซี่ ระบบสุรยิ ะ ข.กาแลก็ ซี่ ระบบสรุ ยิ ะ เอกภพ ค.ระบบสรุ ิยะ เอกภพ กาแล็กซ่ี ง.ระบบสุรยิ ะ กาแล็กซ่ี เอกภพ 5. ข้อใดกลา่ วถกู ต้องเก่ยี วกับดวงอาทติ ย์ ก.เป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ใกลโ้ ลกมากท่สี ดุ ข.เปน็ ดาวเคราะหท์ ่ีอยู่ใกลโ้ ลกมากทส่ี ุด ค.ดาวบรวิ ารมชี ่อื วา่ ดวงจันทร์ ง.เป็นดาวฤกษ์ขนาดใหญ่มาก
แบบฝึกหดั 30 6. ข้อใดคือดาวเคราะห์ ก.ดวงจนั ทร์ ข.ดวงอาทิตย์ ค.อุกกาบาต ง.ดาวประจาเมือง 7. จากภาพขอ้ ใดถูกตอ้ ง ก.เอกภพ ข.จักรวาล ค.ระบบสุรยิ ะ ง.กาแล็กซ่่ี
แบบฝกึ หดั 31 8. ข้อใดคือดาวประกายพรึกหรือดาวประจาเมือง ก. ข. ค. ง. 9. ขอ้ ใดคอื กาแลก็ ซ่ี ข. ก. ง. ค.
แบบฝึกหัด 32 10. ขอ้ ใดคอื ดาวเคราะห์ชัน้ ใน ก.พธุ ศกุ ร์ ข.พธุ ศุกร์ โลก อังคาร ค.พฤหัสบดี เสาร์ ยูเรนัส เนปจนู ง.อังคาร พฤหสั บดี เสาร์ ยูเรนัส เนปจูน 11.ดวงอาทติ ยป์ ระกอบด้วยธาตุชนิดใดมากที่สดุ ก. He ข. H ค. O ง. N 12.ดาวเคราะห์ดวงใดมีบรวิ ารมากที่สดุ ก. ดาวเสาร์ ข. ดาวพธุ ค. ดาวเนปจูน ง. ดาวพฤหสั
แบบฝกึ หัด 33 13.ดาวเคราะห์ดวงใดไมม่ ดี วงจนั ทร์เปน็ บริวาร ก. โลก องั คาร ข. พุธ ศกุ ร์ ค. อังคาร พธุ ง. เสาร์ ศกุ ร์ 14. สิ่งใดตอ่ ไปนอ้ี ยูใ่ นเอกภพ ก. ดาวฤกษ์ ข. ดาวเคราะห์ ค. กลุ่มแก๊ส ง.: ถกู ทกุ ข้อ 15. 1 ปีแสง หมายถงึ อะไร ก.ความเรว็ ของแสง ข.ระยะทางทห่ี าคา่ ไมไ่ ด้ ค. ระยะทางทีแ่ สงเดนิ ทางได้ 1 ปี ง. หนึ่งหนว่ ยดาราศาสตร์
34
บรรณานุกรม __. ระบบสรุ ิยะจักรวาล. ท่ีมา : https://sites.google.com/site/homeaoy 7 กันยายน 2563 __. แบบทดสอบเร่อื งระบบสรุ ยิ ะ. ท่มี า : http://www.trueplookpanya.com 7 กนั ยายน 2563 __. แบบทดสอบเร่ืองระบบสรุ ยิ ะ.ทีม่ า : https://quizizz.com/admin/quiz/ 7 กันยายน 2563 __. ดาวเคราะห์ 8 ดวง ในระบบสรุ ิยะ. ทม่ี า : HTTPS://WWW.EXOPOLITICSTORONTO.COM/PLANET/ 7 กนั ยายน 2563 __. การแบง่ ประเภทดาวเคราะห์. ทีม่ า : http://www.lesa.biz/astronomy/solar-system/composition/planet-types 7 กันยายน 2563
จัดทาโดย นางสาวณัฐกุล ส้มแกว้ รหัส 60131113030 นางสาวณนั ท์ทิชา ดาราศร รหสั 60131113038 นางสาวแก้วตา เผือดผอ่ ง รหสั 60131113039 ชั้นปที ี่ 4 กลุ่มเรยี นท2่ี
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: