Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน้าปก

หน้าปก

Published by อริสรา วงทองนิล, 2019-09-27 05:42:06

Description: หน้าปก

Search

Read the Text Version

วสั ดใุ นชีวตประจําวนั ช่อื อรสิ รา วงทองนิล ม2/5 เลขที่34 เสนอคณุ ครู ภทั รา วรรณ อทุ สงิ ธ

สารบัญ 1 ไมธ้ รรมชาติ 2 ไมป ระกอบ 3 ยางสงั เคราห 4 ยางธรรมชาติ 5 โลหะในกลมุ เหล็ก 6 โลหะนอกกลมุ เหกก็

คํานํ า รายงานฉบบั นี้เป็นเร่อื ง เกีย่ งวกบั วัสดุธรรมชาติ และเป็ นเพียงสวนหน่ึง ของรายงานเทา นัน้

ไมธรรมชาติ ไม  เป็นวสั ดแุ ขง็ ท่ที าํ จากแกน ลาํ ตน ของ ตน ไม  สว นใหญเป็นไมยืนตน โดยแบงเป็นไม เน้ือแขง็ เชน ไมเ ตง็ ไมแดง และไมเน้ือออน เชน  ไมสัก ไมย างพารา ไมโอก โดยนิยาม แลว ไม จะหมายถงึ เน้ือเย่อื ไซเล็มชนั้ ท่ี สอง (Xylem) ของตนไม แตใ นความเขาใจไม อาจหมายรวมไปถึงวัสดใุ ดๆ ทมี่ ีสว น ประกอบทํามาจากไมด ว ย

ไมป ระกอบ หมายถงึ ผลิตภณั ฑจากไมทีย่ อ ยเป็นชนิ้ ไสเป็น ฝอย หรือแยกเป็นเสนใย แลวนํามาอัดรวมกัน เขาเป็นชิน้ เป็นแผน ทัง้ นี้ โดยจะมวี ตั ถเุ ช่อื ม ประสานดวยหรอื ไมก ็ได จัดเป็นอตุ สาหกรรมท่ีใช ไมขนาดเล็ก ตลอดจนเศษไมปลายไมใหเ ป็น ประโยชนอยา งสําคญั ไมประกอบอาจแบง ออกได เป็น ๓ พวก คอื แผน ชนิ้ ไมอ ดั แผนใบไมอัด และ แผนฝอยไมอัด

ยางสงั เคระห ยางสังเคราะห (Synthetic rubber) เป็น ผลิตภณั ฑทสี่ งั เคราะหข ้ึนเพ่ือเลียนแบบยาง ธรรมชาติ ซ่งึ จัดวา เป็นอลิ าสโทเมอร หรือวัสดุ ยดื หยุนสงั เคราะห (artificial elastomer) ชนิด หน่ึงที่มีสมบัตพิ ิเศษคือ สามารถเปลี่ยนรปู ภายใต ความเคนไดม ากกวา วสั ดชุ นิดอ่ืนและสามารถ กลบั คืนรูปไดเหมือนเดิมโดยไมเกิดการเสียรปู อยางถาวร

ยางธรรมชาติ ยาง คอื วสั ดพุ อลิเมอรทีป่ ระกอบดว ยไฮโดรเจนและ คารบ อน ยางเป็นวสั ดทุ ่มี คี วามยืดหยนุ สงู ยางทมี่ ี ตนกาํ เนิดจากธรรมชาตจิ ะมาจากของเหลวของพืช บางชนิด ซ่งึ มีลักษณะเป็นของเหลวสขี าว คลาย น้ํานม มสี มบตั ิเป็นคอลลอยด  อนภุ าคเลก็ มี ตัวกลางเป็นน้ํา ยางในสภาพของเหลวเรียกวา น้ํา ยาง ยางท่ีเกดิ จากพชื นี้เรียกวา ยางธรรมชาต ิ ใน ขณะเดยี วกันมนุษยสามารถสรา งยางสงั เคราะหได จากปิโตรเลยี ม

โลหะใหกลมุ เหล็ก เป็นวสั ดุทม่ี กี าํ ลังรบั การรับแรงสูง มคี วามคงทน ตลอดอายุการใชง านหากมีการบาํ รุงรกั ษาทด่ี ี และมี รปู ทรงมาตราฐานท่เี มน ยําไมเ ปลยี่ นแปลงงา ย จงึ ถูกนํามาใชงานในดา นตาง ๆ เชน ทาํ เป็นเคร่อื งมือ กสิกรรม เคร่ืองมือชาง ใชใ นงานกอ สราง หรอื ใชใ น งานอตุ สาหกรรมเป็นตน จึงจดั ไดวาโลหะเหล็กมี ความสาํ คัญตอ มนุษยม ากเพราะนอกจากจะสราง ความเจรญิ ใหกบั โลกแลวยงั เป็นสว นประกอบของ อาวธุ ยโุ ทปกรณที่มนุษยนํามาฆา ฟันกันอีกดวย

โลหะนอกกลมุ เหลก็ โลหะนอกกลุมเหลก็  หมายถึง โลหะทีไ่ มมีเหลก็ เป็นองคป ระกอบสว นใหญ เชน ทองแดง, อะลมู เิ นียม, แมกนีเซียม, สังกะสี ฯลฯ ในทาง วิศวกรรมและอตุ สาหกรรมจะใชโลหะนอกกลมุ เหล็กในปริมาณทนี่  อยกวา โลหะในกลุมเหล็ก ทงั้ นี้ เน่ืองเพราะราคาทส่ี งู กวา ของโลหะนอกกลมุ เหลก็ นัน่ เอง ดงั นัน้ จงึ มกั ใชง านโลหะนอกกลุมเหล็กใน กรณีท่จี ําเป็น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook