คูมือ การจัดทาํ แผนการจัดการเรยี นรมู ุงเนนสมรรถนะ สํานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร
ก คํานาํ คูมือการจัดทําแผนการจัดการเรียนมุงเนนสมรรถนะเลมน้ีจัดทําขึ้นเพ่ือใชเปน แนวทางในการจัดการเรียนรูของสถานศึกษาอาชีวศึกษา โดยเนนผูเรียนเปนสําคัญ ใหผูเรียนมีสวนรวม ในกิจกรรมและกระบวนการเรียนรู สามารถสรางองคความรู ทักษะ คุณลักษณะที่พึ่งประสงค และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไดดวยตนเองและเปนรายกลุม โดยมีรายละเอียด 4 สวน ไดแก 1) แผนการจัดการเรียนมุงเนนสมรรถนะ 2) นิยามศัพทท่ีเก่ียวของกับแผนการจัดการเรียนมุงเนน สมรรถนะ 3) แนวทางการจัดทํารายละเอียดตางๆ สําหรับจัดทําแผนการเรียนรูมุงเนนสมรรถนะ 4) ตัวอยา งเอกสารทเี่ กย่ี วของ สํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาไดตระหนักถึงความสําคัญของการจัดทํา แผนการจัดการเรียนมุงเนนสมรรถนะรายวิชาที่ตองครอบคลุมทั้งจุดประสงครายวิชา สมรรถนะ รายวิชา และคําอธิบายรายวิชา โดยไดนําเสนอแผนการจัดการเรียนรูเปนรายชั่วโมงตามหนวย การเรียนรูและในแตละหนวยการเรียนรู มีการวัดและประเมินผลการเรียนรูท้ัง 3 ดาน ไดแก ดานความรู ดานทักษะ และคุณลักษณะท่ีพ่ึงประสงค ออกแบบการเรียนรูดวยเทคนิคและ วิธีการสอนท่ีหลากหลาย เพ่ือการจัดการเรียนรูสําหรับนักเรียน นักศึกษาใหบรรลุเปาหมายของ หลักสูตร จึงหวังเปนอยางยิ่งวาจะเปนประโยชนตอสถานศึกษาในการใชเปนแนวทางจัดทําแผน การจัดการเรียนมุงเนนสมรรถนะที่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล สงผลใหการจัดการเรียนรูบรรลุ เปาหมายตามหลกั สตู ร สาํ นักมาตรฐานการอาชวี ศกึ ษาและวชิ าชีพ สํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ข สารบัญ หนา คํานํา ก สวนที่ 1 แผนการจดั การเรียนมงุ เนน สมรรถนะ 1 สว นที่ 2 นยิ ามศัพททีเ่ กยี่ วของกับแผนการจัดการเรียนมุง เนน สมรรถนะ 11 สวนท่ี 3 แนวทางการจดั ทํารายละเอยี ดตางๆ สาํ หรับจัดทาํ แผนการเรยี นรูม ุงเนน สมรรถนะ 17 สวนท่ี 4 ตวั อยางเอกสารทเ่ี กีย่ วขอ ง 33 ภาคผนวก 52
ระบบข KRU…AN
ขบั ถ่าย ISAH NAWAE
ระบบกาจดั ของเ ของเสยี หมายถึง สารทเี่ กดิ จากกระบวนกา รา่ งกายของสงิ่ มีชวี ติ ที่ ไมม่ ปี ระโยชนต์ อ่ รา่ งกาย ตน้ นอกจากน้ีสารทมี่ ีประโยชน์ ปรมิ าณมากเกนิ การกาจดั ของเสยี ในรา่ งกายเกดิ ข้ึนได้ หลายทาง เชน่ ทางไต ทางผิวหนงั ทางปอด ทางลาไสใ้ หญ่ เป็นตน้
สีย (ระบบขบั ถ่าย) ารเมแทบอรซิ มึ (metabolism) ภายใน ยเชน่ นา้ แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ ยเู รยี เป็น นไปรา่ งกายก็จะกาจดั ออก เมแทบอรซิ มึ (metabolism) หมายถึงการบวนการหมุนเวยี น เปล่ยี นแปลงทางชวี เคมีทเ่ี กดิ ข้นึ ภายใน รา่ งกายของสิ่งมีชวี ติ
การกาจดั ของเสียทางไต ไต (Kidney) ทาหนา้ ทกี่ าจดั ของเสยี ในร บรเิ วณตรงกลางของไตมีสว่ นเวา้ เป็นกรวยไต ปัสสาวะ ไตแตล่ ะขา้ งประกอบดว้ ยหนว่ ยไต (n ทข่ี ดไปมาโดยมปี ลายทอ่ ขา้ งหน่ึงตน้ เรยี กป แคปซลู (Bowman s capsule)”
รูปของนา้ ปัสสาวะ ต มีหลอดไตตอ่ ไปยงั กระเพาะ nephron) นบั ลา้ นหนว่ ยเป็ นทอ่ ปลายทอ่ ทตี่ นั น้ีวา่ “ โบวแ์ มนส์
การกาจดั ของเสียทางไต( โบวแ์ มนสแ์ คปซูล (Bowman s capsule) หนว่ ตนั ลกั ษณะเป็นแอง่ คลา้ ยถว้ ยภายในแอง่ จะมกี ลุม่ เล เมอรูลสั (glomerulus)” หนา้ ทก่ี รองของเสยี ออกจา บรเิ วณทอ่ ของหน่วยไตจะมีการดูดซมึ สารทเ่ี ป็ น นา้ ตาลกลโู คส กรดอะมิโนรวมทง้ั นา้ กลบั คนื สหู่ ลอด ของเสียอน่ื ๆ ทเี่ หลอื คอื นา้ ปัสสาวะ จะถกู สง่ มาตาม
(ต่อ) วยเป็ นทอ่ ทขี่ ดไปมาโดยมีปลายทอ่ ปลายทอ่ ท่ี ลอื ดฝอยพนั กนั เป็นกระจกุ เรียกวา่ “ โกล ากเลือดทไี่ หลผา่ นไต นประโยชนต์ อ่ รา่ งกาย เชน่ แรธ่ าตุ ดเลือดฝอยและเขา้ สหู่ ลอดเลอื ดดา สว่ น มหลอดไตเขา้ สู่ กระเพาะปัสสาวะ
การกาจดั ของเสียทางไต(ต นา้ ปัสสาวะประกอบดว้ ยสารตา่ ง ๆ ดงั น้ี คอื น 0.6% ฟอสเฟต 0.15% แอมโมเนีย 0.04% ยเู รยี 2 นา้ ปัสสาวะจะประกอบไปดว้ ยนา้ และยเู รยี เป็นส ตกตะกอนของแรธ่ าตไุ ปอุดตนั ทางเดนิ ทอ่ ปัสสาวะ จ อยา่ งน้ีวา่ “โรคนิ่ว ” เมอ่ื ไตผดิ ปกตจิ ะทาใหส้ ารบางชนิดปนออกมา กรดอะมโิ น นา้ ตาลกลูโคส ไตเทยี ม เป็ นเครอ่ื งมอื ทอ่ี ยภู่ ายนอกรา่ งกาย สว่ ผูป้ ่ วย
ต่อ) นา้ 95% โซดยี ม 0.35% โพแทสเซยี ม 0.15% คลอรนี 2.0% กรดยรู กิ 0.05% และครเี อทนิ ิน 0.75% สว่ นใหญ่ สว่ นแรธ่ าตมุ อี ยู่เล็กนอ้ ย ถา้ มกี าร จะทาใหป้ ัสสาวะลาบาก เรยี กลกั ษณะอาการ ากบั นา้ ปัสสาวะ เชน่ เม็ดเลือดแดง วนการปลูกไตเป็นการนาไตของผูอ้ น่ื มาใสใ่ หก้ บั
การกาจดั ของเสยี ทางผวิ เหงอ่ื (sweat) ประกอบดว้ ยนา้ เป็นสว่ นใหญ โซเดยี มคลอไรด์ ยเู รยี เหงอื่ จะถกู ขบั ออกจากรา่ งกายทางผิวหนงั โด ต่อมเหงอื่ ของคนเราแบ่งไดเ้ ป็ น 2 ชนดิ 1. ต่อมเหงอื่ ขนาดเลก็ 2. ต่อมเหงอ่ื ขนาดใหญ่
วหนงั ญ่ และมสี ารอน่ื ๆ บา้ งชนิดปนอยดู่ ว้ ย เชน่ เกลอื ดยผา่ นทางตอ่ มเหงื่อซงึ่ มีอยทู่ วั่ รา่ งกายใตผ้ วิ หนงั
ต่อมเหงอ่ื ขนาดเลก็ ต่อมเหงอื่ ขนาดเลก็ มอี ยทู่ ผี่ วิ หนงั ทว่ั ท ทอี่ วยั วะสบื พนั ธุบ์ างสว่ น ตอ่ มเหง่อื เหลา่ น้ีต ชนั้ นอกสุด ตอ่ มเหงือ่ ขนาดเล็กน้ีสรา้ งเหงื่อ เหง่อื จากตอ่ มเหงอื่ ขนาดเล็กเหลา่ น้ีประกอ ละ 1 ซง่ึ ไดแ้ ก่ เกลอื โซเดยี มคลอไรดแ์ ละสา อน่ื อกี เล็กนอ้ ยเชน่ แอมโมเนีย กรดอะมโิ น
ทกุ แหง่ ของรา่ งกาย ยกเวน้ ทรี่ มิ ฝีปากและ ตดิ ตอ่ กบั ทอ่ ขบั ถา่ ยซงึ่ เปิดออกทผ่ี ิวหนงั อแลว้ ขบั ถา่ ยออกมาตลอดเวลา อบดว้ ยนา้ รอ้ ยละ 99 สารอน่ื ๆ รอ้ ย ารอนิ ทรยี พ์ วกยเู รยี นอกนนั้ เป็นสาร น นา้ ตาล กรดแลกตกิ
ต่อมเหงอื่ ขนาดใหญ่ ต่อมเหงอ่ื ขนาดใหญ่ ไมไ่ ดม้ อี ยทู่ ว่ั รา่ งก หวั นม รอบสะดอื ชอ่ งหูสว่ นนอก จมูก ตอ่ มชนิดน้ีจะทางานตอบสนองตอ่ การกระตุน้ ทา กลน่ิ ตวั นน่ั เอง
กาย พบไดเ้ ฉพาะบางแหง่ ไดแ้ ก่ รกั แร้ รอบ อวยั วะสบื พนั ธุบ์ างสว่ น างจติ ใจ สารทขี่ บั ถ่ายจากตอ่ มชนิดน้ีมกั มีกลิน่ ซง่ึ ก็คอื
การกาจดั ของเสยี ทางลาไสใ้ หญ การยอ่ ยอาหารเสรจ็ ส้นิ ลง อาหารสว่ นทเ่ี ห ถกู กาจดั ออกจากรา่ งกายทางลาไสใ้ หญ(่ ทวารห ถา้ อุจจาระตกคา้ งอยใู่ นลาไสใ้ หญห่ ลายวนั ทาใหอ้ ุจจาระแข็งเกดิ ความยากในการขบั ถ่าย เร ทอ้ ง อดึ อดั บางรายอาจมอี าการปวดทอ้ งหรอื ป เม่ือถา่ ยอุจจาระออกจากรา่ งกาย ผูท้ ม่ี อี าการทอ้ ทวารไดส้ าเหตเุ กิดจาก การรบั ประทานอาหารท ถ่ายไมเ่ ป็นเวลา เครยี ด สูบบุหรจี่ ดั ดม่ื นา้ ชาหร
ญ่ หลือและสว่ นทรี่ า่ งกายไมส่ ามารถยอ่ ยไดจ้ ะ หนกั ) ในรูปรวมทเี่ รยี กวา่ “อุจจาระ” ผนงั ลาไสใ้ หญจ่ ะดดู นา้ กลบั เขา้ ไปในเสน้ เลือด รยี กวา่ “ทอ้ งผูก” ทมี่ ีอาการทอ้ งผูกจะรูส้ กึ แน่น ปวดหลงั ดว้ ย อาการตา่ ง ๆ เหลา่ น้ีจะหายไป องผกู นาน ๆ อาจเป็นสาเหตุของโรครดิ สดี วง ทมี่ ีกากใยอาหารนอ้ ยเกนิ ไป กินอาหารรสจดั รอื กาแฟมากเกนิ ไป
การกาจดั ของเสยี ทางปอด ของเสียทถ่ี กู กาจดั ออกนอกรา่ งกายทางปอด กระบวนการหายใจของเซลลต์ า่ ง ๆ ในรา่ งกาย ขน้ั 1. นา้ และแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดท์ เี่ กดิ ข้นึ แ เลอื ด 2. เลอื ดทมี่ ีของเสยี ละลายปนอยูจ่ ะถูกลาเลยี แลกเปลย่ี นแกส๊ ทป่ี อด 3. เลือดทม่ี ขี องเสยี ละลายปนอยเู่ มอ่ื ไปถึงป หลอดเลือดเขา้ สถู่ ุงลมของปอดแลว้ ลาเลียงไปตาม ลมหายใจออก
ด ไดแ้ ก่ นา้ และแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ ซงึ่ เกิดข้นึ จาก นตอนในการกาจดั ของเสยี ออกจากรา่ งกายทางปอด มีดงั น้ี แพรอ่ อกจากเซลลเ์ ขา้ สหู่ ลอดเลอื ด โดยจะละลายปนอยใู่ น ยงสง่ ไปยงั ปอด โดยการลาเลียงผา่ นหวั ใจเพือ่ สง่ ตอ่ ไป ปอด ของเสียตา่ ง ๆ ทสี่ ะสมอยูใ่ นเลือดจะแพรผ่ า่ นผนงั ของ มหลอดลม เพือ่ กาจดั ออกจากรา่ งกาย ทางจมูกพรอ้ มกบั
THE Kru…Anisa
END ah nawae
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: