โครงสรา้ งพ้นื ฐาน
EEC พเแมลัฒือะงนเชาิงศภพกั าื้นยคภทาี่ พ รถยนต์ EV บรษิ ัท FOMM ของญป่ี ุ่น ได้ยน่ื ขอสง่ เสรมิ การลงทุนแลว้ บรษิ ัท MG กาลงั หาพ้ืนทต่ี ้ังโรงงาน ซงึ่ น่าจะอยู่ในนิคมเหมราช สว่ น Toyota และ BMW อย่รู ะหวา่ งย่ืนขอ BOI เพอื่ ทารถhybrid (HEV) ปโิ ตรเคมี มีการยื่นขอลงทนุ ประมาณ 360,000 ล้านบาท และมีการลงทนุ จริงไปแลว้ ประมาณ 100,000 ลา้ นบาท พลาสติกชีวภาพ อยู่ระหวา่ งขอ BOI ประมาณ 10,000 ลา้ นบาท
รัฐดิจิตัล รฐั บาลกะทัดรัด โปรง่ ใส เข้าถงึ ได้ • พัฒนาระบบคน้ หารปู แปลงทีด่ นิ ผา่ นระบบออนไลน์ โดยกรมท่ดี ิน ทาให้ไมต่ ้องเดนิ ทางไป ณ ทีต่ ั้งของแปลงทีด่ นิ ทกุ คร้งั เม่อื มีธรุ กรรมทตี่ ้องดาเนินการ • ใช้ะบบการยื่นฟ้องทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (Court Automation) เพ่ือเพ่ิมประสิทธภิ าพระบบพจิ ารณาคดีของศาล การอานวยความสะดวกภาคธรุ กิจ • กรมพัฒนาธุรกิจการคา้ ไดเ้ ปิดให้มกี ารจดทะเบียนนิติบุคคลทางอเิ ล็กทรอนิกส์ และนาระบบ พิสูจนต์ วั ตนทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ รวมถึงการเช่ือมโยงข้อมลู กบั หน่วยงานที่เก่ยี วขอ้ ง ซ่ึงทาให้ผู้ประกอบการไม่ตอ้ งยน่ื เอกสารข้อมลู ซ้าซ้อนกบั ทเี่ คยใหไ้ ว้กับทางราชการแล้ว • การยกเลกิ การยนื่ ข้อบังคบั การทางาน และยกเลกิ ตรายาง และ ผ้ปู ระกอบการสามารถ จดทะเบยี น VAT พร้อมกบั การข้นึ ทะเบียนนายจา้ ง ผปู้ ระกันตน โดยใช้แบบฟอรม์ เดียว ซงึ่ ทาให้ลดขน้ั ตอนและระยะเวลาในการเริ่มตน้ ธรุ กิจ ทาใหล้ ดระยะเวลาจากเดมิ ในปีทีแ่ ลว้ 25.5 วัน เหลือประมาณ 3.5 วัน
ศักยภาพคนไทยเพ่อื อนาคตประเทศไทย คนไทยสายพนั ธใุ์ หม่ คานงดั สาคัญในการเปล่ียนโฉม.............. ทม่ี า: ประมวลโดย สศช. 55
ยพกัฒรนะานดวบั ตั กครุณรมภเพา่ือพเพช่มิ ีวผลิตติ ปภราพะแชลาะชนทุกกลุ่ม ส่งเสริมระบบนิเวศนวัตกรรม รวมถงึ สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนานวัตกรรมมาประยุกต์ใช้อย่างมี ประสิทธภิ าพ ส่งเสริมให้ภาคเอกชนเป็นผู้นาการลงทุนและพัฒนาเพ่ือสร้างนวัตกรรมการสนับสนุนผู้ประกอบการ นวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะผูป้ ระกอบการรายใหมห่ รือกลมุ่ ทเ่ี รม่ิ ดาเนินธุรกิจ (Start-Up) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเน่ืองเพ่ือรองรับนวัตกรรมในอนาคต การสร้างเครือข่ายการวิจัย ระหว่างภาครัฐและเอกชน การปรับปรุงกฎระเบียบท่ีเก่ียวข้อง การสร้างแรงจูงใจให้เอกชนเข้ามาลงทุน วิจัยและพัฒนานวัตกรรม รวมทั้งการผลิตและพัฒนาบุคลากรรองรับการพัฒนานวัตกรรม และที่สาคัญ คือ การปลูกฝงั “วฒั นธรรมนวัตกรรม” ให้เกิดขึน้ ในสงั คมไทย การเพ่ิมผลิตภาพให้ภาคการผลิต การค้า และบริการ สร้างความเจริญทางเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้าง รายได้ และยกระดับคุณภาพชวี ิตประชาชนทุกกลุ่มอย่างยั่งยืน 56
พัฒนา โครงสร้างพนื้ ฐานและระบบโลจสิ ตกิ ส์ การพัฒนาด้านการขนส่ง ลดต้นทนุ คา่ ขนส่งสินคา้ เพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้า พัฒนาระบบโครงสรา้ งและมาตรฐานระบบบรหิ ารจัดการโลจิสติกส์ ทง้ั ทางรางและทางน้าตอ่ การขนส่งสินค้าทั้งหมดภายในประเทศ เพ่ิมสัดส่วนผู้ใช้งานระบบ ภาคเกษตร อตุ สาหกรรม และบรกิ ารโลจิสติกส์ โดยนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาชว่ ย ขนส่งสาธารณะต่อปริมาณการเดินทางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ขยาย บรหิ าร สนบั สนุนผู้ใหบ้ ริการโลจิสตกิ ส์ไทยไปลงทุนและสร้างเครือข่ายธรุ กิจในอนุ ความสามารถในการรองรบั ผู้โดยสารของทา่ อากาศยานในกรงุ เทพฯ และในภูมภิ าค ภูมภิ าค และพฒั นามาตรฐานการอานวยความสะดวกทางการค้า ระบบขนสง่ 1) ระบบขนส่งทางรางรถไฟขนาดทาง 1 เมตร ใหเ้ ปน็ โครงขา่ ยการเดนิ ทางและขนส่ง การพัฒนาด้านพลังงาน เพิม่ ประสิทธิภาพการใชพ้ ลังงานและเพิ่มสัดส่วนการ สินค้าหลัก และรถไฟความเร็วสูงขนาดทาง 1.435 เมตร เพอ่ื กระจายความเจริญจาก กรุงเทพฯ ไปยังเมอื งหลักในภมู ิภาค ใช้พลังงานทดแทนต่อเนื่องโดยมาตรการสร้างแรงจูงใจ ปรับปรุงโครงสร้างราคา 2) พฒั นาระบบขนสง่ สาธารณะในเขตเมือง พลังงานให้เป็นธรรมสะท้อนต้นทุน พัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานเพ่ือรองรับ 3) ระบบขนส่งทางถนน โดยเพ่ิมความปลอดภัยในการสัญจร และพัฒนา ยานยนต์ไฟฟา้ และการพฒั นาระบบโครงขา่ ยไฟฟ้าอจั ฉริยะ โครงข่ายทางพิเศษและทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง และใช้เทคโนโลยีระบบ การขนสง่ และจราจรอจั ฉรยิ ะ การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล โดยพฒั นาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมให้ 4) ระบบขนส่งทางอากาศ โดยการพัฒนาบุคลากร อุปกรณ์ ระบบบริหาร จัดการ และการรบั มือเหตฉุ ุกเฉินให้ได้มาตรฐานสากล ครอบคลุมทวั่ ประเทศ โครงขา่ ยอินเทอรเ์ น็ตความเร็วสงู ทกุ หมบู่ ้าน โครงข่าย 5) ระบบขนส่งทางนา้ โดยใชป้ ระโยชน์ท่าเรือภูมิภาคท่ีมีอยู่ให้เต็มศักยภาพใน สือ่ สารระหวา่ งประเทศใหม้ ีความจุเพียงพอต่อการรับส่งข้อมูล พร้อมส่งเสริม การขนส่งสนิ คา้ ต่อเนอ่ื งหลายรูปแบบ นวัตกรรม การวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีอวกาศเชิง พาณชิ ย์ และสรา้ งความปลอดภัยทางไซเบอร์ การพัฒนาด้านน้าประปา โดยจัดหาน้าสะอาดและขยายเขตการ ให้บริการท้ังปริมาณและคุณภาพให้ครอบคลุมทุกพื้นท่ี ควบคู่ไปกับการ พฒั นาแหล่งน้าใหม้ เี พียงพอต่อการผลติ น้าประปา
พัฒนา เกษตรยุคใหม่ สถานการณ์ • สมาชิกครวั เรือนเกษตรท่ีอายุมากกว่า 64 ปี เพม่ิ ข้ึนจากร้อยละ 7 ในช่วงแผนฯ 8 เป็นรอ้ ยละ 11 ในชว่ งแผนฯ 11 และ ครัวเรอื นเกษตร มีอายุเฉลยี่ ของเกษตรกรเพ่มิ สงู ขึ้นอยทู่ ปี่ ระมาณ 58 ปี เนอื่ งจาก ลกู หลานในภาคเกษตรไม่สนใจประกอบอาชพี เกษตรกร / มกี ารเคลือ่ นยา้ ยไปภาคการผลติ อนื่ / คนสนใจศกึ ษาในสาขาเกษตรน้อยลง หรอื จบสาขาเกษตรแตไ่ ปประกอบอาชพี อนื่ ผลกระทบ ความสามารถในการแขง่ ขนั ภาคเกษตร ดา้ นการปรบั ตวั ให้ทันสถานการณ์การเปลย่ี นแปลง การเรยี นรเู้ ทคโนโลยี การดาเนนิ งานตามนโยบายรฐั บาล การพงึ่ พาแรงงานตา่ งชาติมากขน้ึ และการจัดหาสวัสดกิ าร เกษตรกรลดลง และมอี ายมุ า•กขกนึ้ ารสรา้ งคา่ นิยมท่ีดี เพอ่ื ให้เห็นคุณคา่ ของอาชีพเกษตรกรรม กลมุ่ บัณฑิตจบใหม่ • การฝึกอบรมและจัดทาหลกั สตู รการศึกษา ทัง้ ในระบบและนอกระบบ แนวคิด • มคี วามรู้แตไ่ ม่ไดเ้ ขา้ สู่ภาคเกษตร ในการสร้าง ทเ่ี นน้ การเรียนรจู้ ากภาคปฏบิ ตั ิ • สนใจแตข่ าดปจั จยั และโอกาสในการเปน็ เกษตรกร • การสนับสนนุ องค์ความรดู้ า้ นการเกษตร ท้งั ระบบอยา่ งครบวงจร กลุ่มเกษตรกรเดมิ และลูกหลานเกษตรกร เกษตรกรรุ่นใหม่ • การสนบั สนนุ ปัจจยั การผลติ และโครงสร้างพนื้ ฐานท่จี าเปน็ อาทิ ท่ดี นิ ทากิน แหลง่ น้า พนั ธ์ุพืชพนั ธุ์สัตว์ และแหล่งเงนิ ทุน • มพี ื้นฐานและความพรอ้ มในการประกอบอาชพี • การสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพ ทงั้ ในสว่ นของ • ขาดแรงจงู ใจและมีการปรบั เปลยี่ นไปสู่ภาคการผลิตอ่ืนแทน การประกันภยั การดแู ลสวัสดกิ าร และการเพ่ิมรายไดน้ อกภาคเกษตร • การเสริมสร้างบทบาทการมสี ่วนรว่ มในการกาหนดนโยบายการพัฒนา กลุ่มทอ่ี ยภู่ าคการผลิตอน่ื หรอื ผทู้ ี่สนใจเขา้ สภู่ าคเกษตร ภาคเกษตร และการขบั เคลื่อนส่กู ารปฏิรปู • มเี ปน็ กล่มุ ใหม่ท่มี คี วามสนใจในการทาการเกษตร • มีขอ้ จากดั ในเรือ่ งองคค์ วามรู้ แนวทาง เกษตรกรต้องมใี จรกั อาชพี และ การสร้างแรงจงู ใจและ การสรา้ งเกษตรกรรุ่นใหม่ การยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รตแิ ละ ในการสร้าง ใฝ่เรยี นรตู้ ลอดเวลา การเพิม่ ศักยภาพการทาการเกษตร เขา้ สู่การทาการเกษตร ประกาศเกยี รติคณุ เกษตรกรรนุ่ ใหม่ โดยพัฒนาเทคโนโลยี นวตั กรรมและองค์ความรู้ พัฒนาระบบขอ้ มลู ประกอบการตัดสินใจ สนบั สนนุ ปจั จัยการผลติ ทจ่ี าเป็นพนื้ ฐาน เข้าถงึ เทคโนโลยสี ารสนเทศ มีกระบวนการเรยี นรแู้ ละถา่ ยทอดเทคโนโลนยี และส5ร8า้ งเครอื ข่าย
พฒั นา ภาครัฐดจิ ทิ ลั มุ่งสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลท่ีมีการบูรณาการ เพิ่มโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม เร่งดาเนินการตามของแผน ท้ังน้ีบริบทที่เปล่ียนแปลงไปท้ังในด้าน ระหว่างหน่วยงาน มีการดาเนินงานแบบ ในการกาหนดและสะท้อนความ ดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและ เทคโนโลยี ดา้ นความต้องการของภาค อัจฉริยะ ให้บริการโดยมีประชาชนเป็น ตอ้ งการตอ่ การบริการของภาครัฐ สังคม เพื่อยกระดับงาน ประชาชน ด้านการแข่งขันในเวทีโลก ศูนย์กลาง เพ่ือยกระดับการบริหารราชการ รวมถึงตรวจสอบการทางานของ บริการภาครัฐสู่ความเป็น และด้านภารกิจของรัฐบาลปัจจุบัน แผ่นดิน เพื่อให้การปฏิบัติงานโปร่งใส มี ภาครัฐเพื่อให้เกิดความโปร่งใสได้ เลศิ ท า ใ ห้ มี ค ว า ม จ า เ ป็ น ต้ อ ง ผ ลั ก ดั น ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล สามารถ มากขึ้นอีกด้วย โดยต้องอาศัย ภาครัฐไทยสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ให้บริการประชาชนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ความรู้ความเข้าใจและร่วมกัน และขับเคลื่อนให้เกิดการเปล่ียนแปลง แ ล ะ ช่ ว ย ใ ห้ ก า ร ติ ด ต่ อ สื่ อ ส า ร ร ะ ห ว่ า ง ขับเคลื่อนให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ได้อยา่ งแทจ้ รงิ ประชาชนกับประชาชน และประชาชนกับ ต่อไป ภาครฐั เป็นไปไดอ้ ย่างรวดเร็วยง่ิ ขน้ึ
พฒั นาพนื้ ท่ี ภาค และเมือง EEC SEZ • พัฒนาโครงสรา้ งพ้นื ฐานหลกั • สนบั สนุนการลงทนุ ของ SMEs และแนวทางการเสรมิ สร้างความเขม้ แขง็ ของ SMEs • สนบั สนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมอนาคต และการลงทุน • ใหส้ ิทธปิ ระโยชน์เพ่อื จูงใจการลงทุนโดยเนน้ กจิ การทีม่ ลี ักษณะเฉพาะตามจุดเด่นของ โครงการสาคญั ในลกั ษณะ PPP พนื้ ที่ เช่น SEZ ทอ่ งเทยี่ ว SEZ บรกิ ารทางการแพทย์ • พฒั นาคนรองรบั กจิ กรรมใน EEC • บริหารจดั การแรงงานต่างดา้ ว (การเช่ือมโยงระบบข้อมลู เพ่อื ควบคมุ ตดิ ตามแรงงาน • พฒั นาเมือง • ป้องกนั ผลกระทบตอ่ สังคมและสงิ่ แวดลอ้ ม การพัฒนาศนู ย์ OSS ด้านแรงงาน และการติดตามผลกระทบ) • ออกกฎหมายรองรับ EEC • พัฒนากลไกบริหารจัดการระดับพน้ื ที่ • พัฒนาด้านการตลาดและประชาสัมพนั ธ์ • สนบั สนนุ ใหป้ ระชาชนและภาคส่วนท่ีเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพัฒนา
ขับเคล่อื นต่อไปอย่างไรเพ่อื ให้บรรลุเป้าหมาย “ต้องเชอ่ื มโยง ยทุ ธศาสตร์ชาติ แผนฯ 12 ยทุ ธศาสตร์กระทรวง ยุทธศาสตรจ์ งั หวัด ยทุ ธศาสตรก์ ลุม่ จงั หวดั ใหเ้ ป็นไปในทิศทางเดยี วกัน และติดตาม ประเมินผล อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ”
ุยทธศาสต ์รชาติ ความเชอื่ มโยงยทุ ธศาสตรช์ าติ แผนในระดับตา่ ง ๆ และแผนปฏริ ปู (ตาม พ.ร.บ.) ยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี (National Strategy) มั่นคง เพม่ิ ขดี คน ลดเหล่ือมลา้ ส่ิงแวดล้อม ระบบราชการ การเชือ่ มโยงลงสูแ่ ผนระดับตา่ ง ๆ แผน ัพฒนาฯ+ นโยบายความ แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และ เปลีย่ นโฉม/พลิกโฉมประเทศ (Transformation/Game Changers) การเปลย่ี นแปลงอยา่ ง นโยบาย ัรฐบาล มนั่ คงแหง่ ชาติ สังคมแหง่ ชาติ ระยะ 5 ปี ตอ่ เนอื่ ง (Dynamic C แผนแมบ่ ทภายใต้ยุทธศาสตรช์ าติ hange) - สถานการณโ์ ลก นโยบาย แผนปฏิรปู เพอื่ เร่งการแปลงโฉมประเทศ - สถานการณ์ทาง พรรค (Catalyst of Transformation/Game Changers) เศรษฐกจิ สงั คมและ การเมอื ง นโยบายรฐั บาล** สิ่งแวดล้อมในประเทศ วางแผนปฏบิ ตั ิการและระบุโครงการสาคัญ แผนป ิฏบัติการ แผนปฏิบัตริ าชการกระทรวง แผนพัฒนากลุ่มจงั หวดั FUNCTION AGENDA AREA แผนพัฒนา แผนพฒั นา แผนพัฒนา แผนปฏบิ ัตริ าชการกรม /หน่วยปฏบิ ตั ิ จงั หวดั จงั หวดั จงั หวดั แผนอาเภอ แผนอาเภอ แผนอาเภอ แผนทอ้ งถื่น แผนทอ้ งถน่ื แผนท้องถืน่ แผนชุมชน แผนชุมชน แผนชมุ ชน 62 การตดิ ตามประเมนิ ผลและการทบทวนแผนท่ีเกยี่ วข้อง
ปกราะรเตมิดินตาผมล
ระบบการประเมนิ ผลกระทบจากการดาเนินงานตามยุทธศาสตร์สาคัญของประเทศ ประชาชนมีส่ วนร่ วม ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ประชาชนมีส่ วนร่ วม แผนยทุ ธศาสตร์ชาตเิ ฉพาะด้าน แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ C : Context บริบท แผนปฏริ ูป สมมตฐิ าน ระดับยุทธศาสตร์ นโยบายความม่นั คง I : Input ปัจจัยนาเข้า การประเมนิ สมมตฐิ าน P : กระบวนการ เชงิ ระบบ การออกแบบผลกระทบ ทฤษฎีการเปล่ียนแปลง P : Product ผลผลติ (CIPP Model) (Desired Impacts) (Theory of Change) การออกแบบผลลัพธ์ การออกแบบผลผลติ (Desired Outcomes) ยุทธศาสต (Desired Outputs) ผลลัพธ์ท่เี กดิ ขึน้ ผลกระทบท่เี กดิ ขึน้ ร์ (Outcomes) (Impacts) การแปลงสู่การปฏบิ ตั ิ กจิ กรรม ผลผลิตท่เี กดิ ขนึ้ จริง (Outputs) ระดับกระทรวง แผน แบบจาลองเชิงตรรกะ แผนจงั หวัด/ ระดับพนื้ ท่ี กระทรวง (Logic Model) กุล่มจังหวัด ประชาชน ระบบตดิ ตามประเมนิ ผลต้องดาเนินการก่อน (ประเมนิ ความ (จาเป็ น) ประชาชน มีส่ วนร่ วม มีส่ วนร่ วม ระหว่างดาเนินการ (ประเมนิ กระบวนการ) และหลัง (ผลผลิต ผลลัพธ์ ผลกระท6บ4)
การตดิ ตามประเมินผล 1. ปรับปรุงระบบติดตามและประเมินผลที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน 2. วางระบบการตดิ ตามประเมินผล 3 ระยะเวลา ใหเ้ ปน็ การตดิ ตามประเมนิ ผลแบบถา่ ยทอดระดับ 1) การประเมินผลก่อนการปฏิบัติการหรือก่อนเร่ิมโครงการ (Ex-ante Evaluation) (Cascade) เพือ่ นาไปประยุกต์ใช้ตงั้ แต่แผนฯ ฉบบั ท่ี 12 เป็นต้นไป โดย อย่าง ถูกต้องตามหลักวิชาการ เป็นการประเมินสถานการณ์และสารวจ 1) ระดบั กระทรวง (Function-based) และระดับพ้นื ท่ี (Areas-based) โดย ข้อเท็จจริง สมมติฐานความเป็นไปได้ในข้ันตอนการจัดเตรียมนโยบายท้ังรูป กฎหมายและมิใช่กฎหมายเพ่ือกลั่นกรองโครงการ เช่น ศักยภาพในการพัฒนา กระทรวงรวมกับพ้ืนที่จังหวัดทาหน้าที่จัดทารายงานติดตามประเมินผล พนื้ ท่ี ต้นทุนการดาเนินงาน แผนงาน/โครงการ ท้ังในระดับผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบ เพื่อใช้เป็น ข้อมูลประกอบการประเมนิ ผลแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 และยทุ ธศาสตรช์ าติ 2) การประเมินผลระหว่างดาเนินการ (On-Going Evaluation) เป็นการติดตาม 2) ระดบั ยุทธศาสตร์ (Strategic-based) โดยสานักงานคณะกรรมการพัฒนาการ ประเมินผลความก้าวหน้าในระยะท่ีกาลังดาเนนินงานเพื่อศึกษาว่ามีปัญหา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมกับ สานักงบประมาณ และสานักงานคณะ อุปสรรคใดบ้างในการดาเนินงานท้งั จากปัจจัยภายในและภายนอกท่ีมีผลกระทบ การพัฒนาระบบราชการจัดทารายงานติดตามประเมินผลแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ต่อการดาเนนิ งาน และสังคมแห่งชาติ ที่เชื่อมโยงกับแผนงาน/โครงการทั้งในระดับกระทรวงและ พื้นท่ี และเช่ือมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยการใช้ตัวชี้วัดผลผลิตร่วม (Output 3) การประเมินผลหลังการดาเนินงาน (Ex-Post Evaluation) เป็นการประเมินผล JKPI) ตัวชี้ผลลัพธ์ร่วม (Outcome JKPI) ตัวชี้วัดผลกระทบร่วม (Impact JKPI เพื่อสรุปเมื่อสิ้นสุดแผนแล้วได้รับความสาเร็จตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายท่ี ) เป็นเคร่ืองมอื วดั ผลการพฒั นาในภาพรวมของประเทศ กาหนดไว้มากน้อยเพียงใด มีผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบท่ีเกิดข้ึนภายหลัง จากส้ินสุดแผนเม่ือเทียบกบั ที่ออกแบบไวใ้ นตอนเร่มิ ตน้ 65
การตดิ ตามประเมินผล (ต่อ) 3. พฒั นาระบบตรวจสอบระบบ 4. ตั้งหน่วยวจิ ยั และฝึกอบรม 5 . พั ฒ น า ก ร ะ บ ว น ก า ร มี ตดิ ตามประเมินผล (Evalution เพือ่ พัฒนาระบบติดตาม สว่ นรวม Audit) ประเมินผล เพ่ือเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามี เ พ่ื อ ป รั บ ร ะ บ บ ติ ด ต า ม ป ร ะ เ มิ น ผ ล ใ ห้ มี ให้มีมาตรฐานสากลและทันสมัย รวมท้ัง ส่วนรวม รับฟังความคิดเห็น และตรวจสอบ มาตรฐานสากล โดย สานักงานคณะกรรมการ แผนงาน/โครงการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ควรมี ฝึกอบรม เทคนิค วิธีการ หลักการ แนวคิดใน บทบาทในการทาหน้าท่ี เป็นผู้ตรวจสอบ (Audit 66 or) ระบบประเมินผล เพื่อสร้างความรู้ความ การประเมินผลแผนงาน/โครงการ ให้กับ เขา้ ใจเก่ียวกับระบบการตดิ ตามประเมินผล และ เ พื่ อ ใ ห้ ร ะ บ บ ก า ร ติ ด ต า ม ป ร ะ เ มิ น ผ ล เ ป็ น หน่วยงานปฏิบัติ ให้มีความรู้ความสามารถใน มาตรฐานเดียวกัน ทั้งน้ี รวมทั้ง การมีเครือข่าย ด้านการติดตามประเมินผล เพ่ือให้มีการ การติดตามประเมนิ ผลแผนงาน/โครงการ แลกเปล่ยี นเรียนรอู้ ยา่ งต่อเนื่อง
กาจดั จดุ อ่อน....ก่อนเร่ งพัฒนาประเทศ คณุ ภาพคน: ขาดความรู้และทักษะที่ตรงกบั ตลาดงาน วกิ ฤติค่านิยม มีทศั นคตแิ ละพฤตกิ รรมในการใชช้ วี ิต และปจั จยั เสย่ี งด้านสขุ ภาพ แรงงาน: ขาดแคลนประชากรวัยแรงงาน และการเข้าสงั คมผสู้ ูงวัย เศรษฐกจิ : เปน็ แต่ผู้ซอ้ื และใช้นวัตกรรม แตข่ าดการพัฒนา เทคโนโลยขี องตวั เอง จึงไมส่ ามารถสร้างมูลค่าเพมิ่ และผลิตภาพ ของสินค้าและบริการ ทาให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันต่า ทรพั ยากรธรรมชาติ: ใช้ทรพั ยากรและทาลายส่ิงแวดล้อม จนเส่อื มโทรมอยา่ งรวดเร็ว กระทบตอ่ คณุ ภาพชีวิตประชาชนในปจั จบุ นั และอนาคต สังคม: ความเหลือ่ มล้าในสงั คมสูง ทง้ั ดา้ นรายได้ คุณภาพการบรกิ ารภาครัฐ ฯลฯ ภาครฐั : การบริหารจัดการยังไมม่ ปี ระสทิ ธิภาพ ขาดความโปรง่ ใส และมปี ญั หาคอรร์ ัปชนั่
Search
