แผนการจดั การเรียนรู้ มุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพบรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ชือ่ วิชา คณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชีพ รหสั วชิ า 20000-1401 ทฤษฎี 2 ปฏบิ ตั ิ 0 หนว่ ยกิต 2 หลักสตู รประกาศนียบตั รวชิ าชีพ ประเภทวชิ า พาณิชยกรรม สาขาวิชา การบัญชี จัดทาโดย นางปณุ ญศิ า ศรสี ุขใส วทิ ยาลยั การอาชพี คลองท่อม สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร
หลักสูตรรายวชิ า ชอ่ื วิชา คณิตศาสตร์พ้ืนฐานอาชพี รหัสวชิ า 20000-1401 ทฤษฎี 2 ปฏบิ ัติ 0 หนว่ ยกติ 1 หลักสูตรประกาศนยี บตั รวิชาชพี สาขาวชิ า การบัญชี จดุ ประสงค์รายวชิ า 1. เพ่อื ใหร้ ูแ้ ละเขา้ ใจเกยี่ วกบั สมการเชงิ เส้นตัวแปรเดยี ว ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตัวแปร สถติ ิเบ้อื งตน้ การวดั แนวโนม้ เข้าสูส่ ่วนกลาง การวดั ตาแหนง่ และการวัดการกระจายของข้อมูล 2. เพ่อื ให้มีทกั ษะกระบวนการคดิ และแกไ้ ขปัญหาเกี่ยวกบั สมการเชงิ เส้นตวั แปรเดียว ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตัวแปร สถิตเิ บือ้ งต้น การวัดแนวโนม้ เข้าสู่สว่ นกลาง การวัดตาแหน่งและการวดั การกระจายของข้อมูลและ นาไปประยุกต์ใช้ในงานอาชพี 3. เพ่ือให้มเี จตคตแิ ละกจิ นสิ ัยท่ีดีในการคิด วิเคราะห์ แกป้ ญั หาในสถานการณ์ต่างๆ อยา่ งเป็นระบบ และมีความระเอียดรอบคอบในการปฏิบัติงาน สมรรถนะรายวิชา 1. ประยุกตค์ วามรู้เก่ียวกบั สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ระบบสมการเชิงเสน้ สองตัวแปร ไปใช้ใน สถานการณห์ รอื ปัญหาท่ีกาหนด 2. สรา้ งตารางแจกแจงความถ่กี ราฟหรอื แผนภมู ิ และตคี วามหมายและวิเคราะห์ข้อมูลจากตารางกราฟ หรอื แผนภูมิ 3. เลือกใช้ค่าเฉลย่ี เลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยมใหเ้ หมาะสมกับขอ้ มูล 4. วัดตาแหน่งท่ขี องขอ้ มูลโดยใช้เปอรเ์ ซน็ ไทล์ 5. วัดการกระจายของขอ้ มูลโดยใช้พิสัย สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน สมั ประสิทธข์ิ องพิสัย และสมั ประสิทธ์ิ ของการแปรผนั คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาและฝกึ ทักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์เกยี่ วกบั สมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดียว ระบบสมการเชิงเสน้ สองตวั แปร สถิตเิ บอื้ งตน้ การวดั แนวโนม้ เข้าสู่ส่วนกลาง การวดั ตาแหนง่ และการวดั การกระจายของขอ้ มลู และ การประยกุ ตใ์ ช้ในงานอาชพี
หน่วยการเรยี นรู้ หนว่ ย ช่อื หน่วยการเรียนรู้ จานวน สัปดาหท์ ่ี ท่ี ช่ัวโมง 1 สมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดยี ว 4 1-2 6 3-5 2 สมการเชงิ เส้นสองตวั แปร 4 6-7 4 8-9 3 สถติ ิเบือ้ งต้น 6 10-12 2 13 4 การวิเคราะห์ขอ้ มลู เบ้ืองต้น 6 14-16 2 17 5 การวดั แนวโนม้ เข้าส่วนกลาง 2 18 36 6 การวดั ตาแหนง่ ของขอ้ มลู 7 การวัดการกระจายสัมบูรณ์ 8 การวดั การกระจายสมั พัทธ์ 9 สอบปลายภาค รวม
หน่วยการเรียนรแู้ ละสมรรถนะประจาหนว่ ย ชอ่ื หน่วย สมรรถนะ หน่วยท่ี 1 ความรู้ ทกั ษะ คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ สมการเชิงเสน้ ตัวแปร 1.บอกความหมายของ ผ้เู รียนสามารถใช้ภาษา 1.นกั เรียนเปน็ ผทู้ ม่ี คี วาม เดียว สมการได้ และสญั ลกั ษณท์ าง รับผิดชอบ 2.บอกลักษณะสมการเชิง คณิตศาสตรใ์ นการเขยี น 2.นักเรียนเป็นผู้ที่มี เส้นตวั แปรเดียว สมการเชงิ เส้นตัวแปรเดยี ว ระเบยี บวินัย 3.หาคาตอบสมการเชิง 3.นักเรยี นมนี ้าใจ เส้นตวั แปรเดยี ว ช่วยเหลือซึง่ กันและกัน 4.แก้ปัญหาในสถานการณ์ ตา่ งๆอยา่ งเปน็ ระบบโดย ใชค้ วามรูเ้ รอ่ื งสมการเชิง เส้นตวั แปรเดยี ว 5.นาความรแู้ ละทกั ษะท่ไี ด้ จากการเรียนรเู้ รือ่ งสมการ เชิงเส้นตัวแปรเดียว ไปใช้ แก้ปญั หาในสถานการณ์ ตา่ งๆอยา่ งละเอียด รอบคอบ หนว่ ยท่ี 2 1.บอกลกั ษณะสมการเชิง ผเู้ รยี นสามารถใช้ภาษา 1.นักเรยี นเปน็ ผ้ทู ่ีมคี วาม สมการเชิงเส้นสองตวั เสน้ สองตวั แปร และสัญลักษณ์ทาง รับผิดชอบ แปร 2.นกั เรียนเป็นผูท้ ม่ี ี 2.หาคาตอบของระบบ คณติ ศาสตร์ในการเขียน ระเบียบวินัย สมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร คาตอบของระบบสมการ 3.นักเรยี นมนี า้ ใจ ชว่ ยเหลือซ่ึงกนั และกัน โดยวิธีการแทนคา่ เชิงเส้นสองตวั แปรได้ 3.หาคาตอบของระบบ สมการเชงิ เส้นสองตัวแปร โดยวธิ ีการบวกลบระหวา่ ง สองสมการ 4.เขียนกราฟของระบบ สมการเชงิ เสน้ สองตัวแปร และหาคาตอบจากกราฟ 5.นาความรูแ้ ละทักษะทไี่ ด้ จากการเรียนรสู้ มการเชงิ เส้นสองตวั แปรไป ประยกุ ตใ์ ช้ในงานอาชีพ
ชอ่ื หนว่ ย ความรู้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 3 1.บอกความสาคัญของ ทกั ษะ คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ สถติ เิ บอ้ื งตน้ สถิติ 2.บอกความหมายของ ผเู้ รียนทกั ษะการคดิ อยา่ ง 1.นักเรยี นเป็นผูท้ ม่ี คี วาม สถิตแิ ละขอ้ มูล เป็นระบบ สามารถสารวจ รบั ผดิ ชอบ 3.จาแนกข้อมูลออกเป็น และจดั หมวดหมขู่ อ้ มูล 2.นกั เรยี นเป็นผ้ทู ี่มี ชนิดตา่ งๆ อย่างงา่ ย วิเคราะห์ ระเบยี บวนิ ยั 4.บอกวธิ กี ารเกบ็ รวบรวม ตาแหนง่ ของขอ้ มูลและ 3.นักเรียนมีน้าใจ ขอ้ มูล การวดั กระจายของขอ้ มลู ชว่ ยเหลอื ซึ่งกันและกนั 5.เลือกวธิ ีการนาเสนอ จากขอ้ มูลท่กี าหนด การ ข้อมูลไดเ้ หมาะสม ใช้ขอ้ มูลข่าวสาร ค่าสถิติ และคา่ สถติ ทิ ไ่ี ด้จากการ วิเคราะห์ข้อมลู ในการ ตัดสนิ ใจ โดยสามารถ นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชวี ติ ประจาวันได้ หนว่ ยท่ี 4 1.สร้างตารางแจกแจง ผ้เู รียนทักษะการคิดอย่าง 1.นกั เรยี นเป็นผทู้ ม่ี ีความ การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เบ้อื งตน้ ความถีข่ องขอ้ มลู ที่ เป็นระบบแจกแจงความถ่ี รับผดิ ชอบ กาหนดให้ ของขอ้ มูลทกี่ าหนดให้ 2.นักเรียนเปน็ ผทู้ ม่ี ี 2. บอกคา่ ต่างๆจาก โดยสามารถนาประยกุ ตใ์ ช้ ระเบียบวินัย สว่ นประกอบของตาราง ในชีวิตประจาวนั ได้ 3.นักเรยี นมีน้าใจ 3.แจกแจงความถีข่ อง ช่วยเหลือซงึ่ กนั และกัน ข้อมูลที่กาหนดให้ 4.แจกแจงความถจี่ าก กราฟฮิสโทแกรม
ชือ่ หนว่ ย สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 5 ความรู้ ทกั ษะ คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ การวัดแนวโนม้ เขา้ สู่ 1.นักเรียนเปน็ ผทู้ ่มี คี วาม ส่วนกลาง 1.เลือกใช้คา่ กลางชองขอ้ มูลที่ ผูเ้ รียนมีทักษะการคิด รบั ผิดชอบ 2.นกั เรียนเปน็ ผูท้ ่มี ี หนว่ ยท่ี 6 เหมาะสมกับขอ้ มูลท่กี าหนด อยา่ งเปน็ ระบบ สามารถ ระเบียบวนิ ยั การวัดตาแหน่งของ 3.นักเรียนมนี า้ ใจ 2.วเิ คราะหต์ าแหนง่ ของขอ้ มูล เลอื กใช้ค่ากลางชองขอ้ มลู ชว่ ยเหลอื ซึ่งกนั และกัน ข้อมูล และการวัดการกระจายของ ท่ีเหมาะสมกบั ขอ้ มูลท่ี 1.นักเรยี นเปน็ ผู้ท่ีมคี วาม หน่วยท่ี 7 รบั ผิดชอบ การวดั การกระจาย ขอ้ มลู จากขอ้ มูลที่กาหนด กาหนด วิเคราะห์ 2.นักเรยี นเปน็ ผู้ที่มี ระเบยี บวินยั สัมบรู ณ์ 3.ใชข้ อ้ มูลขา่ วสาร ค่าสถิติ ตาแหนง่ ของข้อมลู และ 3.นักเรียนมีน้าใจ ช่วยเหลอื ซ่งึ กนั และกัน และคา่ สถติ ิทไี่ ด้จากการ การวัดการกระจายของ 1.นกั เรยี นเป็นผทู้ ี่มคี วาม วเิ คราะหข์ อ้ มูลในการ ขอ้ มูลจากขอ้ มูลทกี่ าหนด รับผดิ ชอบ 2.นกั เรียนเป็นผทู้ ่มี ี ใช้ขอ้ มูลขา่ วสาร คา่ สถติ ิ ระเบยี บวินัย 3.นักเรยี นมีน้าใจ และคา่ สถติ ทิ ่ไี ด้จากการ ชว่ ยเหลอื ซึง่ กันและกนั วเิ คราะหข์ อ้ มูลในการ ตดั สินใจ 1.อธบิ ายความหมายของการ ผู้เรียนมีทกั ษะการคดิ วัดตาแหน่งของข้อมลู ได้ อย่างเปน็ ระบบ สามารถ 2.อธิบายความหมายของ วเิ คราะหต์ าแหนง่ ของ เปอร์เซ็นไทลไ์ ด้ ข้อมลู และการวัดการ 3.หาเปอรเ์ ซ็นไทล์ของข้อมูลที่ กระจายของขอ้ มูลจาก ไม่ไดแ้ จกแจงความถไ่ี ด้ ขอ้ มูลที่กาหนด ใชข้ อ้ มูล 4.หาเปอรเ์ ซ็นไทลข์ องข้อมูลท่ี ขา่ วสาร ค่าสถิติ และ แจกแจงความถไ่ี ด้ คา่ สถิติทีไ่ ดจ้ ากการ 5.น าค ว ามรู้ เรื่ อ ง ก าร วั ด วิเคราะห์ข้อมลู ในการ ตาแหน่ง ขอ ง ข้อ มูลไ ปใ ช้ ตัดสนิ ใจ แก้ปญั หาโจทยไ์ ด้ 1.วัดการกระจายของขอ้ มูล ผู้เรียนมที ักษะการคดิ โดยหาคา่ พิสยั อยา่ งเปน็ ระบบ สามารถ 2.หาค่าพิสยั ของข้อมลู ท่ี วิเคราะห์ตาแหนง่ ของ กาหนดใหไ้ ด้ ขอ้ มูลและการวัดการ 3.หาค่าส่วนเบยี่ งเบน กระจายของข้อมลู จาก มาตรฐานของขอ้ มูลที่ ขอ้ มลู ที่กาหนด ใช้ข้อมูล กาหนดใหไ้ ด้ ข่าวสาร ค่าสถิติ และ 4. หาค่าความแปรปรวนของ ค่าสถิติท่ีได้จากการ ข้อมลู ที่กาหนดใหไ้ ด้ วิเคราะหข์ อ้ มูลในการ ตัดสินใจ
ชอื่ หนว่ ย สมรรถนะ หน่วยท่ี 8 ความรู้ ทกั ษะ คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ การวัดการกระจาย 1.เปรยี บเทยี บการกระจาย ผูเ้ รยี นมที ักษะการคดิ 1.นักเรียนเปน็ ผ้ทู ่ีมีความ สัมพทั ธ์ ของขอ้ มูลตง้ั แต่ 2 ชดุ ขึ้นไป อย่างเป็นระบบ สามารถ รับผิดชอบ โดยใช้สัมประสิทธข์ิ องพสิ ยั วิเคราะห์ตาแหนง่ ของ 2.นกั เรียนเปน็ ผู้ท่มี ี 2.เปรียบเทียบการกระจาย ข้อมูลและการวดั การ ระเบียบวนิ ยั ของข้อมูลต้ังแต่ 2 ชุดขึ้นไป กระจายของขอ้ มูลจาก 3.นักเรยี นมีนา้ ใจ โดยใช้สัมประสิทธิ์ของความ ขอ้ มลู ที่กาหนด ใช้ขอ้ มูล ช่วยเหลือซ่ึงกันและกนั แปรผนั ขา่ วสาร ค่าสถติ ิ และ ค่าสถิตทิ ี่ได้จากการ วิเคราะห์ข้อมลู ในการ ตดั สินใจ
แผนการจดั การเรยี นรู้ม่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 1 สอนครัง้ ท่ี 1-2 ชอ่ื หน่วย สมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดยี ว ชว่ั โมงรวม 36 จานวนชว่ั โมง 4 1. สาระสาคัญ สมการคือประโยคสัญลักษณ์ท่แี สดงถึงการเท่ากนั ในประโยค อาจมีตัวแปรหรือไมม่ ีกไ็ ด้ ในชวี ิตประจาวัน เราจะมคี วามเกยี่ วข้องของสง่ิ ต่างๆ ท่ีมีอยู่ในรูปของสมการเชิงเส้นตวั แปรเดียวมากมาย ซงึ่ รูปทัว่ ไปของสมการ เชงิ เสน้ ตัวแปรเดียวคอื ax + b = 0 เมือ่ a, b คอื คา่ คงท่ีใดๆ และ a 0 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย ดาเนินการแก้สมการเชิงเส้นตวั แปรเดียว 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ 3.1.1 ความหมายของสมการ 3.1.2 สมการเชิงเส้นตัวแปรเดยี ว 3.1.3 การแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดยี ว 3.1.4 โจทย์สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว 3.2 ด้านทักษะ นกั เรยี นสามารถคานวณหาค่าของตวั แปรได้ 3.3 คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ 3.3.1 นักเรยี นเป็นผทู้ ีม่ คี วามรบั ผิดชอบ 3.3.2 นักเรยี นเป็นผู้ทม่ี ีระเบียบวนิ ยั 4. เนือ้ หาสาระการเรียนรู้ 1. สมการเป็นประโยคสญั ลักษณ์ แสดงถงึ การเท่ากันของจานวนโดยใช้เคร่ืองหมาย “ =” การแก้สมการเป็นการหาคาตอบของสมการ ซ่ึงอาจใชส้ มบัตกิ ารเทา่ กนั ของ จานวนจริง 2. สมการเชงิ เส้นตัวแปรเดยี ว คอื สมการทมี่ ีตวั แปรหนงึ่ ตัว และเลขชีก้ าลังของตวั แปรเป็นหนึง่ กาหนด อย่ใู นรูป ax + b = 0 เมอื่ a และ b เป็นค่าคงตัว a 0 และ x เปน็ ตัวแปร 3. การแก้สมการเชงิ เส้นตวั แปรเดียวคอื การหาคาตอบของสมการโดยใชส้ มบัตขิ องการเทา่ กันของ จานวนจริงคอื 3.1 สมบัติสมมาตร เมื่อ a และ b แทนจานวนใด ๆ ถา้ a = b แลว้ b = a 3.2 สมบตั ถิ า่ ยทอด เมือ่ a , b และ c แทนจานวนใด ๆ ถ้า a = b และ b = c แล้ว a = c 3.3 สมบตั กิ ารบวก เม่อื a , b และ c แทนจานวนใด ๆ ถ้า a = b แล้ว a + c = b + c
แผนการจัดการเรยี นรู้ม่งุ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 1 สอนครัง้ ท่ี 1-2 ชื่อหน่วย สมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดียว ช่วั โมงรวม 36 จานวนช่ัวโมง 4 4. เน้อื หาสาระการเรียนรู้ 3.4 สมบตั กิ ารคณู เมือ่ a , b และ c แทนจานวนใด ๆ ถ้า a = b แล้ว ac = bc 3.5 สมบตั ิการแจกแจง เมอื่ a , b และ c แทนจานวนใด ๆ ถา้ c( a + b) = ac + bc 4. หลกั การแก้ปญั หาโจทย์สมการ 4.1 อา่ นโจทย์ และพิจารณาส่งิ ท่ีโจทย์กาหนดให้และสิ่งท่ีเปน็ คาถาม 4.2 กาหนดตัวแปร แล้วสรา้ งสมการตามทโี่ จทยก์ าหนด 4.3 ดาเนนิ การแกส้ มการ 5. กจิ กรรมการเรียนการสอน 5.1 การนาเขา้ ส่บู ทเรยี น 5.1.1 แนะนารายวชิ า วธิ ีการเรียน การมอบหมายงาน วธิ ีวดั ผล และประเมนิ ผล 5.1.2 ทดสอบกอ่ นเรียนหน่วยที่ 1 เรื่องสมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดยี ว ครูตรวจแลว้ ให้ผเู้ รยี นบันทกึ คะแนนที่ได้ไว้ เพื่อเปรียบเทียบกบั การทดสอบหลังเรยี นจบแลว้ 5.1.3 แจง้ จุดประสงค์การเรยี นการสอนหนว่ ยท่ี 1 5.2 การเรียนรู้ 5.2.1 แจง้ รายการท่ีจะสอบตามเนอื้ หาสาระเรอ่ื งสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว 5.2.2 ใหค้ วามรโู้ ดยการบรรยาย อธิบาย ยกตัวอยา่ งประกอบ มีการถาม – ตอบ 5.2.3 แบง่ ผู้เรียนเปน็ กลุ่ม ๆ ละ 4 คน ช่วยกนั ทางานในใบงานท่ี 1 ครสู ังเกตพฤติกรรมของผเู้ รยี น 5.2.4 ใหผ้ ู้เรยี นแสดงคาตอบของกลมุ่ ของตนเอง และเปรยี บเทียบกบั กลุ่มอนื่ ๆ 5.2.5 ใหผ้ ู้เรยี นทาแบบฝกึ ปฏิบตั ิ จากหนงั สือแบบเรียน 5.2.6 สอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5.3 การสรปุ ผ้สู อน และผู้เรยี นรว่ มกับสรปุ เนอ้ื หา การทดสอบหลงั เรยี น และเปรียบเทียบผลกบั การทดสอบก่อน เรียนจะต้องได้คะแนนเพมิ่ ขนึ้ จากเดมิ ต้ังแต่ 20% ข้นึ ไป 5.4 การวดั และประเมนิ ผล ผู้สอนประเมินผลความกา้ วหนา้ ของผู้เรยี นจากกิจกรรมและแบบฝึกหัด แบบทดสอบเก็บคะแนน สงั เกต พฤตกิ รรมรายบคุ คล ประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ และการสังเกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรม ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
แผนการจัดการเรยี นร้มู ่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 1 สอนคร้งั ท่ี 1-2 ช่ือหน่วย สมการเชิงเส้นตวั แปรเดียว ช่วั โมงรวม 36 จานวนช่วั โมง 4 6. ส่ือการเรยี นรู้/แหล่งการเรยี นรู้ 6.1 ส่อื สง่ิ พมิ พ์ 6.1.1. หนงั สือวิชาคณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐานอาชีพ รหัสวิชา 20000-1401 หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวิชาชีพ (ปวช.)พทุ ธศกั ราช 2562 6.1.2. หนังสือเรยี นอนื่ ๆ ทม่ี ีเนอ้ื หาสอดคล้องกบั วิชาคณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี (20000-1401) 6.1.3. แบบฝึกทักษะ 6.1.4. Power Point และ Website ต่าง ๆ ที่มีเน้อื หาสอดคลอ้ งกบั เร่ืองท่กี าลงั ศกึ ษา 6.2 สือ่ โสตทัศน์ Power Point ทม่ี ีเน้ือหาสอดคลอ้ งกบั เร่ืองทกี่ าลงั ศึกษา 6.3 หนุ่ จาลองหรือของจรงิ (ถา้ ม)ี 6.4 อน่ื ๆ (ถา้ ม)ี Website ต่าง ๆ ท่มี ีเนอื้ หาสอดคล้องกับเรื่องที่กาลังศึกษา 7. เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) 8. การบูรณาการกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 8.1 เตรยี มความพร้อมดา้ น วสั ดุ อปุ กรณ์ สอดคลอ้ งกบั งานไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง 8.2 ปฏบิ ตั ิงานได้อย่างถูกต้อง และสาเร็จภายในเวลาท่กี าหนดอยา่ งมีเหตแุ ละผลตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 ก่อนเรียน ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน 9.2 ขณะเรียน สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ ตรวจแบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 1 9.3 หลังเรยี น ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยท่ี 1 สงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 10. กิจกรรมเสนอแนะ - แบบฝกึ หัด, ใบงาน, ประเมินผลการเรียนรูป้ ระจาหน่วย 11. เอกสารอ้างอิง มนสั ประสงค์. คณติ ศาสตร์พื้นฐานอาชีพ. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพ์จิตรวัฒน์, 2562.
แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 2 สอนคร้ังท่ี 3-5 ชื่อหนว่ ย สมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร ชว่ั โมงรวม 36 จานวนช่ัวโมง 6 1. สาระสาคญั สมการเชงิ เส้นสองตวั แปร คอื สมการที่มีตัวแปร 2 ตวั และเลขชกี้ าลงั ของตัวแปรทั้งสองเป็น 1 และตัวแปร ท้งั สองอยใู่ นรปู ของการบวก หรือการลบรปู ทว่ั ไปของสมการเชงิ เส้นสองตัวคือ ax + by + c = 0 เม่ือ a, b และ c เป็นค่าตวั โดยที่ a 0 และ b 0 2. สมรรถนะประจาหน่วย ประยุกต์ความรู้เกี่ยวกับระบบสมการเชงิ เส้นสองตวั แปรไปใช้ในสถานการณ์หรือปัญหาท่ีกาหนด 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 3.1.1 ทราบความหมายของสมการเชงิ เสน้ สองตัวแปร 3.1.2 ทราบรปู แบบของสมการเชิงเสน้ สองตวั แปร 3.1.3 เข้าใจวิธกี ารหาคาตอบของสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร 3.2 ด้านทักษะ ผู้เรยี นสามารถใช้ภาษาและสญั ลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการเขียนคาตอบของระบบสมการเชิงเส้น สองตวั แปรได้ 3.3 คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ 3.3.1 นักเรียนเปน็ ผ้ทู ี่มคี วามรับผิดชอบ 3.3.2 นักเรียนเปน็ ผทู้ ่ีมีระเบยี บวนิ ัย 4. เน้ือหาสาระการเรียนรู้ 1. สมการเชงิ เส้นสองตัวแปร คือ สมการทมี่ ีตัวแปรสองตัว เลขชีก้ าลงั ของตวั แปร แต่ละตวั เปน็ หนง่ึ และไมม่ ีการคูณกันระหวา่ งตวั แปร รูปทั่วไปของสมการ ax + by = c เมื่อ a, b, c เป็นจานวนจริงใดๆ a 0, b 0 2. ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร คือ สมการเชิงเสน้ สองตัวแปร 2 สมการ เขยี นอยูใ่ นรูป a1x + b1y = c1 โดย a1, b1 0 a2x + b2y = c2 โดย a2, b2 0 3. การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตวั แปร 3.1 การแกร้ ะบบสมการเชงิ เสน้ สองตัวแปรโดยการแทนคา่ 3.2 การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรโดยการบวกหรือลบระหว่างสมการ 4. กราฟของสมการเชิงเสน้ สองตัวแปร โดยการหาจดุ ตดั บนแกน x และแกน y
แผนการจดั การเรยี นร้มู งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 2 สอนครั้งที่ 3-5 ชือ่ หนว่ ย สมการเชงิ เส้นสองตวั แปร ชั่วโมงรวม 36 จานวนชวั่ โมง 6 4. เนอ้ื หาสาระการเรยี นรู้ 5. โจทย์สมการเชงิ เส้นสองตัวแปร 6. หลักการแก้ปัญหาโจทย์สมการ 6.1 อ่านโจทย์ และพิจารณาสง่ิ ท่ีโจทย์กาหนดให้และสง่ิ ทีเ่ ป็นคาถาม 6.2 กาหนดตวั แปร แลว้ สร้างสมการตามที่โจทย์กาหนด 6.3 ดาเนินการแกส้ มการ 5. กิจกรรมการเรียนการสอน 5.1 การนาเขา้ สบู่ ทเรยี น ผสู้ อนนาเข้าสกู่ ิจกรรมการเรยี นรู้ โดยการช้ีให้เห็นถึงความสาคญั ของการเรียนสมการเชิงเสน้ สองตวั แปร และการใช้สัดสว่ นในการหาตัวแปรและประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน 5.2 การเรยี นรู้ 5.2.1 บรรยายเนือ้ หา เรอื่ งสมการเชิงเสน้ สองตวั แปร 5.2.2 อธบิ ายวธิ กี ารแก้ระบบสมการเชงิ เส้นสองตวั แปร 5.2.3 ครยู กตวั อยา่ งการแกร้ ะบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร และการตรวจคาตอบ พรอ้ มท้งั ซักถาม นักเรียนเพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน 5.2.4 ครูส่มุ เลือกนกั เรียนออกมาแสดงวธิ ที าบนกระดาน ให้เพ่ือน ๆ ช่วยกันตรวจสอบวา่ ตวั แทนของ นักเรยี นท่ีออกมาแสดงวิธที าบนกระดานนั้นทาถูกตอ้ งหรอื ไม่ ถา้ ทาผิดควรแก้ไขอยา่ งไร 5.3 การสรปุ ผสู้ อนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียนให้มีความเข้าใจในทิศทางเดียวกันสรุปเร่ืองสมการเชิงเส้น สองตวั แปร 5.4 การวัดและประเมินผล ผสู้ อนประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของผู้เรยี นจากกิจกรรมและแบบฝกึ หัด แบบทดสอบเกบ็ คะแนน สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม และการสงั เกตและประเมินผล พฤติกรรมด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6. สอื่ การเรียนรู้/แหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สอื่ สง่ิ พมิ พ์ 6.1.1. หนังสือวชิ าคณิตศาสตร์พืน้ ฐานอาชีพ รหัสวิชา 20000-1401 หลักสตู รประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวช.)พุทธศักราช 2562
แผนการจดั การเรยี นรูม้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 2 สอนครง้ั ท่ี 3-5 ช่อื หน่วย สมการเชงิ เส้นสองตัวแปร ช่ัวโมงรวม 36 จานวนชั่วโมง 6 6. สือ่ การเรียนรู้/แหลง่ การเรียนรู้ 6.1.2. หนงั สอื เรยี นอ่นื ๆ ท่ีมเี นอ้ื หาสอดคล้องกับวชิ าคณิตศาสตร์พ้นื ฐานอาชีพ (20000-1401) 6.1.3. แบบฝกึ ทักษะ 6.1.4. Power Point และ Website ตา่ ง ๆ ทม่ี เี นือ้ หาสอดคลอ้ งกับเรอื่ งท่กี าลงั ศกึ ษา 6.2 สอื่ โสตทัศน์ Power Point ท่ีมีเนอ้ื หาสอดคลอ้ งกับเร่ืองทกี่ าลังศกึ ษา 6.3 หนุ่ จาลองหรือของจรงิ (ถ้ามี) 6.4 อน่ื ๆ (ถ้ามี) Website ต่าง ๆ ทมี่ เี นอ้ื หาสอดคล้องกบั เรื่องทกี่ าลังศกึ ษา 7. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) 8. การบรู ณาการกบั หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 8.1 เตรียมความพรอ้ มด้าน วัสดุ อุปกรณ์ สอดคล้องกบั งานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 8.2 ปฏบิ ตั ิงานไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง และสาเรจ็ ภายในเวลาทีก่ าหนดอยา่ งมีเหตแุ ละผลตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง 9. การวดั และประเมินผล 9.1 ก่อนเรยี น ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 9.2 ขณะเรียน สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม ตรวจแบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 2 9.3 หลังเรียน ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยที่ 2 สังเกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 10. กจิ กรรมเสนอแนะ - แบบฝึกหัด - ใบงาน - ประเมินผลการเรียนร้ปู ระจาหน่วย 11. เอกสารอา้ งอิง มนสั ประสงค์. คณิตศาสตร์พืน้ ฐานอาชีพ. กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์จติ รวฒั น์, 2562.
แผนการจัดการเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 3 สอนครั้งท่ี 6-7 ชื่อหน่วย สถติ เิ บือ้ งต้น ชั่วโมงรวม 36 จานวนชว่ั โมง 4 1. สาระสาคญั 1.1 สถติ ิเบอ้ื งต้น - ความหมายสถิติ - ขอ้ มูลทางสถิติ - วิธกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 1.2 การนาเสนอข้อมูล 1.3 การแจกแจงความถ่ี 1.4 การแจกแจงความถโี่ ดยใช้กราฟ 2. สมรรถนะประจาหน่วย สารวจและจดั หมวดหมู่ข้อมลู อย่างงา่ ย 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 3.1.1 บอกความหมายของสถิติ ข้อมูล และการนาเสนอขอ้ มลู ได้ 3.1.2 อธบิ ายประเภทและแหล่งทมี่ าของข้อมูลทางสถิติได้ 3.1.3 อา่ นรายละเอียดและตีความหมายข้อมลู ท่นี าเสนอในรูปขอ้ ความและข้อความ กึ่งตารางได้ 3.1.4 อ่านรายละเอียดและตีความหมายขอ้ มูลที่นาเสนอในรปู ตาราง แผนภมู แิ ทง่ และแผนภูมิรปู ภาพ ได้ 3.2 ด้านทกั ษะ ผเู้ รยี นทักษะการคดิ อย่างเปน็ ระบบ สามารถสารวจและจดั หมวดหม่ขู อ้ มลู อยา่ งงา่ ย วเิ คราะห์ ตาแหน่งของข้อมูลและการวัดกระจายของขอ้ มลู จากขอ้ มูลทก่ี าหนด การใชข้ อ้ มูลขา่ วสาร ค่าสถิติ และ ค่าสถิติทีไ่ ดจ้ ากการวิเคราะหข์ อ้ มูลในการตดั สินใจ โดยสามารถนามาประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวันได้ 3.3 คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 3.3.1 นักเรียนเป็นผูท้ ี่มีความรับผิดชอบ 3.3.2 นักเรยี นเปน็ ผู้ทีม่ ีระเบียบวินัย
แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 3 สอนคร้งั ที่ 6-7 ชือ่ หน่วย สถิติเบือ้ งตน้ ช่วั โมงรวม 36 จานวนชั่วโมง 4 4. เนอื้ หาสาระการเรียนรู้ 1. สถิติ มีความหมาย 2 ประการ คอื ความหมายทห่ี นงึ่ สถิติ หมายถึง ตัวเลขซึง่ แสดงขอ้ เทจ็ จรงิ อยา่ ง ใดอย่างหนง่ึ เก่ียวกบั ตัวเลขอื่นๆ ท่ีเก็บรวบรวมไว้ ตวั เลขท่ีจะเปน็ ค่าสถติ นิ ี้จะตอ้ งเปน็ ผลลพั ธท์ ไ่ี ดจ้ ากการ คานวณของตวั เลขอื่นๆ ต้งั แต่สองตัวข้นึ ไปนามาบวก ลบ คณู หาร หรือคิดเปน็ ร้อยละ ฯลฯ ความหมายท่ีสอง สถติ ิ หมายถงึ หลกั การและระเบยี บวธิ ที างสถิติ ซ่ึงได้แก่ การเก็บรวบรวมข้อมูล การนาเสนอขอ้ มูล การวิเคราะห์ ขอ้ มลู และการตคี วามหมายของข้อมลู 2. ข้อมลู (Data) หรอื ขอ้ มลู ทางสถิติ (Statistical data) หมายถงึ ตวั เลขทไี่ ด้จากการวัดหรอื ผล ทีไ่ ดจ้ ากการสงั เกต อาจมาจากการนบั หรือคะแนนทไี่ ด้จากการสอบ 3. วิธเี กบ็ รวบรวมข้อมลู มีดังนี้ 3.1 วิธีเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภมู ิ สามารถทาได้หลายวิธี แตท่ ่นี ยิ มใช้กนั ท่ัวไปมี 5 วิธี คอื การสมั ภาษณ์ การสอบถามทางไปรษณยี ์ การสอบถามทางโทรศัพท์ การสงั เกต และการทดลอง 3.2 วิธเี กบ็ รวบรวมข้อมูลทุติยภูมิ ซง่ึ สว่ นใหญ่มักจะอยู่ในหนงั สอื รายงาน บทความ หรอื เอกสารตา่ งๆ 4. การนาเสนอข้อมลู โดยท่วั ไปนิยมใชอ้ ยู่ 2 วิธี คอื 4.1 การนาเสนอขอ้ มูลอย่างไม่เป็นแบบแผน เปน็ การนาเสนอข้อมูลโดยไม่มีกฎเกณฑห์ รือแบบอย่างที่ แน่นอนมักเสนอตามความเหมาะสมหรอื ตามความคดิ เห็นของผนู้ าเสนอ ทใี่ ช้กันมี 2 วธิ ี คือ การนาเสนอในรูปบทความ และการนาเสนอข้อมูลในรูปข้อความก่งึ ตาราง 4.2 การนาเสนอข้อมูลอยา่ งเป็นแบบแผน เปน็ การนาเสนอข้อมลู ทม่ี กี ฎเกณฑจ์ ะต้องปฏบิ ตั ติ าม มาตรฐานท่กี าหนดไว้เป็นแบบแผน ไดแ้ ก่ การนาเสนอขอ้ มูลในรปู ตาราง การนาเสนอข้อมูลในรูปแผนภูมแิ ละ แผนภาพ และการนาเสนอขอ้ มูลในรูปกราฟ 5. กจิ กรรมการเรยี นการสอน 5.1 การนาเข้าสูบ่ ทเรียน 5.1.1 บอกจดุ ประสงค์ของการเรยี น เร่อื ง สถติ เิ บอ้ื งตน้ 5.1.2 ผู้สอนนาเสนอการคาดเดาผลของเหตุการณ์ ตา่ ง ๆ ที่ นกั เรียนพบในชีวิตประจาวัน การสารวจ โพล์ของสานกั ตา่ ง ๆ ทป่ี รากฏในส่อื สงิ่ พิมพ์ หรือส่อื โทรทศั น์ เปน็ ตน้ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นเหน็ คุณค่าของสถิติ 5.2 การเรยี นรู้ 5.2.1 นักเรียนแบง่ กลมุ่ ๆ ละประมาณ 4 คน ใช้รูปแบบการจัดการเรียนรแู้ บบรว่ มมือ โดยแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลมุ่ ตามความสามารถ คอื กลุ่มเกง่ กลมุ่ ปานกลางและกล่มุ ออ่ น 5.2.2 ตัวแทนนักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรับใบเนือ้ หา เรื่อง “สถติ ิเบอ้ื งตน้ ” และชว่ ยกนั ศึกษาเนอ้ื หาเร่ือง ความหมายของสถิติ ประเภทของสถิติ คาศพั ท์ทางสถิติ ข้อมลู และการเก็บรวบรวมข้อมูล และการนาเสนอ ขอ้ มลู ขณะเดียวกันครูสังเกตพฤติกรรมการให้ความรว่ มมอื ในการทากิจกรรมกลุ่ม
แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 3 สอนครัง้ ที่ 6-7 ชอ่ื หนว่ ย สถิตเิ บ้ืองตน้ ช่วั โมงรวม 36 จานวนชว่ั โมง 4 5.2 การเรยี นรู้ 5.2.3 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายเรอ่ื ง ความหมายของสถิติ ประเภทของสถิติ คาศัพท์ทางสถติ ิ ขอ้ มลู และการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และการนาเสนอขอ้ มูล พรอ้ มทง้ั ครูอธบิ ายเพ่มิ เติม และยกตัวอย่างประกอบ มรี ายละเอียดดังนี้ ครูแนะนาความหมายของสถิติ พรอ้ มซักขอ้ สงสัยและครูสมุ่ ตัวแทนนักเรยี นใหต้ อบ คาถามเรอื่ งความหมายของสถิติ 5.3 การสรปุ สรุปสาระสาคญั ของสถติ เิ บ้อื งต้น 5.4 การวัดและประเมนิ ผล 5.4.1 สงั เกตจากการอภปิ รายร่วมกัน การซกั ถาม การตอบคาถาม 5.4.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี น โดยใช้แบบประเมินจิตพสิ ยั 6. สอื่ การเรยี นร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สอื่ สิ่งพมิ พ์ 6.1.1. หนงั สอื วชิ าคณิตศาสตรพ์ ืน้ ฐานอาชีพ รหสั วชิ า 20000-1401 หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ (ปวช.)พทุ ธศักราช 2562 6.1.2. หนังสือเรยี นอ่นื ๆ ที่มีเนอ้ื หาสอดคล้องกับวชิ าคณิตศาสตร์พื้นฐานอาชพี (20000-1401) 6.1.3. แบบฝึกทกั ษะ 6.1.4. Power Point และ Website ต่าง ๆ ทม่ี เี นือ้ หาสอดคลอ้ งกบั เรือ่ งที่กาลงั ศกึ ษา 6.2 สอ่ื โสตทัศน์ Power Point ท่ีมีเนือ้ หาสอดคลอ้ งกบั เรื่องทีก่ าลังศกึ ษา 6.3 หนุ่ จาลองหรอื ของจรงิ (ถา้ ม)ี 6.4 อืน่ ๆ (ถา้ ม)ี Website ตา่ ง ๆ ทม่ี ีเนอื้ หาสอดคล้องกบั เรอ่ื งทกี่ าลังศึกษา 7. เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) 8. การบรู ณาการกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 8.1 เตรยี มความพรอ้ มดา้ น วสั ดุ อปุ กรณ์ สอดคลอ้ งกบั งานไดอ้ ย่างถกู ต้อง 8.2 ปฏบิ ัตงิ านได้อย่างถูกต้อง และสาเรจ็ ภายในเวลาทกี่ าหนดอย่างมเี หตแุ ละผลตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพียง
แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 3 สอนคร้ังท่ี 6-7 ชือ่ หน่วย สถิติเบ้อื งต้น ช่ัวโมงรวม 36 จานวนช่ัวโมง 4 9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 ก่อนเรยี น ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 9.3 ขณะเรยี น สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม 9.3 หลงั เรียน สังเกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 10. กจิ กรรมเสนอแนะ - แบบฝกึ หัด - ใบงาน - ประเมนิ ผลการเรียนรูป้ ระจาหนว่ ย 11. เอกสารอา้ งองิ มนสั ประสงค์. คณิตศาสตร์พ้นื ฐานอาชีพ. กรงุ เทพฯ : สานักพมิ พ์จิตรวฒั น์, 2562.
แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 4 สอนครั้งท่ี 8-9 ช่ือหน่วย การวิเคราะห์ขอ้ มลู เบื้องตน้ ชั่วโมงรวม 36 จานวนชวั่ โมง 4 1. สาระสาคัญ การแจกแจงความถีข่ องขอ้ มลู เปน็ การนาข้อมลู ท่ีเป็นค่าของตัวแปรที่สนใจจัดเรยี งตามลาดบั หรือ แบ่งเป็นชว่ งเทา่ ๆกัน เรยี กวา่ การแจกแจงความถี่ ฮสิ โทรแกรม เป็นกราฟทีแ่ สดงความถ่ีของขอ้ มลู โดยมีแกนนอนแทนคา่ ท่ีเป็นไปได้ของตัวแปรความกว้าง ของรปู สเี่ หล่ียมมมุ ฉากแทนความกว้างของอันตรภาคช้นั สว่ นความสงู ของรูปสี่เหลยี่ ม คอื ความถ่ีของขอ้ มลู 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย ดาเนนิ การและประยกุ ต์ใช้เกยี่ วกบั การแจกแจงข้อมูลที่กาหนดให้ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 3.1.1 สร้างตารางแจกแจงความถขี่ องข้อมูลได้ 3.1.2 บอกค่าต่าง ๆ จากสว่ นประกอบของตารางได้ 3.1.3 แจกแจงความถี่ของขอ้ มูลท่กี าหนดให้ได้ 3.1.4 สรา้ งตารางแจกแจงความถี่ของข้อมูลท่ี จดั เปน็ อันตรภาคชน้ั ได้ 3.1.5 แจกแจงความถจี่ ากกราฟฮสิ โทแกรมได้ 3.1.6 แจกแจงความถ่ีจากการสร้างแผนภาพตน้ ใบได้ 3.2 ด้านทักษะ ผ้เู รยี นทกั ษะการคิดอย่างเป็นระบบ สามารถสารวจและจดั หมวดหมขู่ อ้ มูลอย่างง่าย วเิ คราะห์ แจกแจงความถ่ขี องข้อมูลท่ีกาหนดให้ได้สรา้ งตารางแจกแจงความถีข่ องข้อมูลท่ี จดั เป็นอันตรภาคช้ันได้ แจกแจงความถี่จากกราฟฮิสโทแกรมได้ แจกแจงความถีจ่ ากการสรา้ งแผนภาพต้นใบได้ 3.3 คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 3.3.1 นกั เรยี นเป็นผทู้ มี่ ีความรบั ผดิ ชอบ 3.3.2 นกั เรยี นเป็นผู้ทม่ี ีระเบยี บวินยั 4. เน้ือหาสาระการเรียนรู้ การนาเสนอข้อมูล (Presentation of data) เป็นการนาเอาข้อมูลที่รวบรวมมาได้ ซึ่งมักจะไม่เป็น ระเบียบ นามาจัดให้เป็นหมวดหมู่ด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นข้อเท็จจริงท่ีต้องการทราบได้อย่าง ชัดเจน อ่านไดง้ ่าย น่าสนใจ สะดวก รวดเรว็ พรอ้ มสาหรับการวเิ คราะหแ์ ละตคี วามหมายตอ่ ไป วิธกี ารนาเสนอขอ้ มูล แบง่ เป็น 2 แบบ คอื การนาเสนอขอ้ มูลอยา่ งไมเ่ ปน็ แบบแผน ไดแ้ ก่ การ นาเสนอขอ้ มลู ในรปู บทความ การนาเสนอข้อมลู ในรูปบทความกงึ่ ตาราง และการนาเสนอข้อมูลอย่างเปน็ แบบ แผน ไดแ้ ก่ การนาเสนอขอ้ มูลโดยใช้ตาราง, แผนภมู ิแทง่ , แผนภมู ิรปู ภาพ , แผนภมู วิ งกลม , แผนที่สถติ ิและ กราฟเสน้
แผนการจัดการเรยี นรูม้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 4 สอนครงั้ ที่ 8-9 ชือ่ หนว่ ย การวเิ คราะหข์ ้อมูลเบ้ืองต้น ชว่ั โมงรวม 36 จานวนชวั่ โมง 4 4. เนอื้ หาสาระการเรียนรู้ การแจกแจงความถี่ของข้อมูล เป็นการนาเสนอข้อมูล โดยการนาข้อมูลเชิงปริมาณ หรือตัวเลขที่ได้ จากการเก็บรวบรวม ซึง่ มเี ปน็ จานวนมากหรือซา้ กนั มาก นามาจัดให้เป็นหมวดหมู่ เพ่ือให้เห็นรายละเอียดของ ขอ้ มลู ชดั เจนขน้ึ และสะดวกตอ่ การวิเคราะหต์ อ่ ไปการแจกแจงความถี่ของข้อมูลมี 2 วธิ ี คือ 1. การแจกแจงความถ่ีโดยวธิ ีจัดเรียงค่าของข้อมลู ตามลาดบั 2. การแจกแจงความถ่ีโดยวธิ จี ดั ข้อมลู เป็นช่วงหรอื อันตรภาคช้นั การแจกแจงความถี่ แสดงโดยใช้กราฟ จะทาให้เห็นการกระจายของข้อมูลได้ชัดเจนกว่าการดูจาก ตารางแจกแจงความถ่ี กราฟท่ีแสดงการแจกแจงความถี่ ไดแ้ ก่ 1. ฮิสโตแกรม (Histogram) 2. รปู หลายเหลี่ยมของความถ่ี (Frequency Polygon) 3. เสน้ โค้งความถี่ (Frequency curve) กราฟท่ใี ชแ้ สดงการแจกแจงความถ่ีสะสม เรียกว่า “เส้นโค้งความถี่สะสม” หรือเส้นโค้งโอจีฟ (Ogive curve) 5. กิจกรรมการเรยี นการสอน 5.1 การนาเข้าสู่บทเรียน 5.1.1 บอกจุดประสงคข์ องการเรยี น เร่ือง การวิเคราะหข์ อ้ มูลเบ้ืองตน้ 5.1.2 ผู้สอนนาเสนอการการแจกแจงความถ่โี ดยวธิ ีจัดเรียงคา่ ของข้อมูลตามลาดบั 5.2 การเรยี นรู้ 5.2.1 ครูอธบิ าย การสรา้ งตารางแจกแจงความถี่ของขอ้ มลู และสร้างตารางแจกแจงความถ่ขี องขอ้ มลู ท่ี จดั เป็นอนั ตรภาคช้นั 5.2.2 ครูให้นักเรียนทาแบบฝกึ ทกั ษะ 5.2.3 ครูและนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยแบบฝึกทกั ษะ พรอ้ มทั้งครอู ธิบายเพมิ่ เติม และยกตัวอยา่ ง ประกอบ 5.3 การสรปุ สรปุ สาระสาคัญของการวเิ คราะห์ข้อมูลเบอื้ งตน้ 5.4 การวัดและประเมนิ ผล 5.4.1 สงั เกตจากการอภิปรายร่วมกัน การซกั ถาม การตอบคาถาม 5.4.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี น โดยใช้แบบประเมินจติ พิสยั
แผนการจดั การเรยี นรูม้ ่งุ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 4 สอนครั้งที่ 8-9 ชอื่ หนว่ ย การวิเคราะห์ขอ้ มูลเบ้อื งตน้ ชว่ั โมงรวม 36 จานวนชว่ั โมง 4 6. ส่อื การเรยี นร/ู้ แหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สอื่ สง่ิ พมิ พ์ 6.1.1. หนงั สือวิชาคณิตศาสตรพ์ ้นื ฐานอาชพี รหสั วิชา 20000-1401 หลักสตู รประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวช.)พทุ ธศกั ราช 2562 6.1.2. หนังสอื เรยี นอ่นื ๆ ท่มี เี นอ้ื หาสอดคล้องกบั วชิ าคณิตศาสตร์พนื้ ฐานอาชพี (20000-1401) 6.1.3. แบบฝกึ ทักษะ 6.1.4. Power Point และ Website ต่าง ๆ ทมี่ เี น้ือหาสอดคลอ้ งกบั เรื่องที่กาลังศกึ ษา 6.2 สอ่ื โสตทัศน์ Power Point ท่มี ีเน้อื หาสอดคล้องกบั เรื่องทีก่ าลังศึกษา 6.3 หุ่นจาลองหรือของจริง (ถ้าม)ี 6.4 อนื่ ๆ (ถ้าม)ี Website ต่าง ๆ ทีม่ เี นื้อหาสอดคล้องกับเร่อื งท่กี าลงั ศึกษา 7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) 8. การบรู ณาการกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 8.1 เตรยี มความพรอ้ มด้าน วัสดุ อปุ กรณ์ สอดคลอ้ งกบั งานได้อยา่ งถกู ต้อง 8.2 ปฏิบตั ิงานได้อยา่ งถกู ตอ้ ง และสาเรจ็ ภายในเวลาที่กาหนดอย่างมเี หตแุ ละผลตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง 9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 กอ่ นเรียน ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น 9.4 ขณะเรียน สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 9.3 หลังเรียน สงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 10. กิจกรรมเสนอแนะ - แบบฝกึ หัด - ใบงาน - ประเมนิ ผลการเรยี นรปู้ ระจาหนว่ ย 11. เอกสารอ้างองิ มนสั ประสงค์. คณติ ศาสตร์พืน้ ฐานอาชีพ. กรงุ เทพฯ : สานักพมิ พ์จิตรวัฒน์, 2562.
แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุง่ เน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 5 สอนครัง้ ที่ 10-12 ชือ่ หนว่ ย การวดั แนวโน้นเข้าสู่สว่ นกลาง ชั่วโมงรวม 36 จานวนชว่ั โมง 6 1. สาระสาคญั 1.1 การวดั แนวโน้มเข้าสู่สว่ นกลาง 1.1.1 สัญลกั ษณ์การบวก 1.1.2 คา่ เฉล่ยี เลขคณติ 1.1.3 มัธยฐาน 1.1.4 ฐานนยิ ม 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 2.1 เลือกใช้คา่ กลางชองขอ้ มลู ทีเ่ หมาะสมกบั ขอ้ มูลท่กี าหนด 2.2 วิเคราะหต์ าแหนง่ ของข้อมูลและการวัดการกระจายของข้อมลู จากขอ้ มลู ที่กาหนด 3.3 ใช้ขอ้ มูลขา่ วสาร ค่าสถิติ และค่าสถติ ทิ ่ไี ด้จากการวิเคราะหข์ อ้ มูลในการตัดสนิ ใจ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 3.1.1 ใชส้ ญั ลกั ษณแ์ สดงผลบวกได้ 3.1.2 หาค่าของจานวนที่อยูใ่ นรูปสญั ลักษณแ์ สดงผลบวกได้ 3.1.3 หาคา่ เฉลี่ยเลขคณิตของข้อมลู ทีก่ าหนดให้ได้ 3.1.4 นาความรู้ และทักษะท่ีไดจ้ ากการหาค่าเฉล่ยี เลขคณติ ไปใช้ในการแก้ปญั หาโจทย์ได้ 3.1.5 อธบิ ายความหมายของมธั ยฐานได้ 3.1.6 หาคา่ มัธยฐานของข้อมลู ทไี่ ม่แจกแจงความถี่ได้ 3.1.7 หาค่ามัธยฐานของข้อมูลท่แี จกแจงความถไ่ี ด้ 3.1.8 นาค่ามัธยฐานไปใช้แก้ปญั หาโจทยไ์ ด้ 3.1.9 อธบิ ายความหมายของฐานนิยมได้ 3.1.10 หาค่าฐานนิยมของข้อมลู ท่ีไมแ่ จกแจงความถ่ไี ด้ 3.1.11 หาค่าฐานนยิ มของขอ้ มูลท่แี จกแจงความถไี่ ด้ 3.1.12 นาคา่ ฐานนยิ มไปใช้แกป้ ัญหาโจทย์ได้ 3.2 ด้านทกั ษะ ผูเ้ รยี นมที กั ษะการคดิ อยา่ งเป็นระบบ สามารถ เลือกใช้คา่ กลางชองขอ้ มลู ท่เี หมาะสมกับขอ้ มลู ท่ี กาหนด วเิ คราะหต์ าแหนง่ ของข้อมูลและการวัดการกระจายของขอ้ มูลจากขอ้ มลู ท่ีกาหนด ใช้ข้อมลู ข่าวสาร คา่ สถิติ และคา่ สถติ ิท่ไี ด้จากการวเิ คราะห์ขอ้ มูลในการตัดสินใจ 3.3 คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ 3.3.1 นักเรยี นเป็นผทู้ ่มี คี วามรบั ผดิ ชอบ 3.3.2 นักเรียนเป็นผ้ทู มี่ รี ะเบียบวินยั
แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุง่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 5 สอนคร้ังที่ 10-12 ช่อื หน่วย การวัดแนวโน้นเขา้ สู่สว่ นกลาง ช่วั โมงรวม 36 จานวนชั่วโมง 6 4. เนือ้ หาสาระการเรียนรู้ การวัดค่ากลางของข้อมูล เป็นการหาค่ากลางท่ีเป็นตัวแทนของข้อมูลทั้งหมด เพื่อสรุปเรื่องราวท่ี เกีย่ วขอ้ งกบั ขอ้ มลู นั้น ๆ ไดอ้ ยา่ งสะดวกและรวดเร็ว การหาค่ากลางของข้อมูลมีวิธีหาได้หลายวิธีแต่ที่นิยมกันมี อยู่ 3 ชนิด คอื ค่าเฉลยี่ เลขคณิต มธั ยฐานและฐานนยิ ม ค่าเฉล่ียเลขคณิต คือ ค่าท่ีได้จากการนาข้อมูลทุกค่ามารวมกันแล้วหารด้วยจานวนข้อมูลทั้งหมด ใช้ สัญลักษณ์ x แทนคา่ เฉลีย่ เลขคณติ มัธยฐาน หมายถงึ คา่ ที่มีตาแหน่งอย่ตู รงกลางข้อมลู ท่เี รียงลาดับซึ่งค่านจ้ี ะแบ่งจานวนขอ้ มูลหรือความถ่ี ข้อมลู ชดุ นัน้ ออกเปน็ สองส่วนเทา่ ๆ กัน ใชส้ ัญลกั ษณ์ Med หรือ Me แทนมธั ยฐาน ฐานนยิ ม (Mode) คือ ค่าของข้อมูลที่มีความถี่สูงสุด หรือมีจานวนซ้ากันมากท่ีสุด ข้อมูลชุดหน่ึงอาจมี ฐานนิยมเพียงคา่ เดียว หรอื มีมากกว่า 1 คา่ หรอื อาจไม่มีฐานนยิ มเลยกไ็ ด้ ใช้สัญลกั ษณ์ Mod แทนฐานนิยม 5. กิจกรรมการเรียนการสอน 5.1 การนาเขา้ สูบ่ ทเรียน 5.1.1 บอกจุดประสงค์ของการเรียน เร่ือง การวดั แนวโนม้ เขา้ สสู่ ว่ นกลาง 5.1.2 ทบทวนการหาตัวแทนของสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจาวนั 5.2 การเรียนรู้ 5.2.1 บรรยายเนือ้ หา เร่ือง การหาค่าเฉล่ยี เลขคณิต มธั ยฐานและฐานนิยม 5.2.2 สาธติ วิธกี ารหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต มัธยฐานและฐานนิยม ตามตัวอยา่ งท่ี 1 – 18 ในหนงั สือ เรียนวิชา คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐาน รหสั 2000-1401 ของสานักพิมพศ์ ูนยส์ ง่ เสริมอาชีวะ หน่วยท่ี 6 5.2.3 ให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ ทกั ษะท่ี 6.1 – 6.3 5.3 การสรปุ 5.3.1 เฉลยแบบฝึกทกั ษะ 5.3.2 สรุปสาระสาคัญของการวัดแนวโนม้ เขา้ สู่สว่ นกลาง ในการหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต มธั ยฐาน และฐานนยิ ม 5.4 การวัดและประเมนิ ผล 5.4.1 สังเกตจากการอภิปรายรว่ มกัน การซักถาม การตอบคาถาม 5.4.2 ตรวจแบบฝึกทกั ษะ 5.4.3 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียน โดยใชแ้ บบประเมินจิตพิสยั
แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 5 สอนคร้งั ที่ 10-12 ช่ือหนว่ ย การวัดแนวโนน้ เข้าสู่สว่ นกลาง ชั่วโมงรวม 36 จานวนชว่ั โมง 6 6. สื่อการเรียนร้/ู แหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สอื่ สง่ิ พมิ พ์ 6.1.1. หนงั สอื วิชาคณติ ศาสตร์พืน้ ฐานอาชีพ รหสั วิชา 20000-1401 หลักสตู รประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.)พทุ ธศกั ราช 2562 6.1.2. หนังสอื เรียนอืน่ ๆ ทีม่ ีเนือ้ หาสอดคลอ้ งกบั วชิ าคณิตศาสตร์พืน้ ฐานอาชีพ (20000-1401) 6.1.3. แบบฝึกทกั ษะ 6.1.4. Power Point และ Website ตา่ ง ๆ ทมี่ เี น้อื หาสอดคลอ้ งกับเรอื่ งที่กาลงั ศึกษา 6.2 สือ่ โสตทัศน์ Power Point ท่ีมเี นอ้ื หาสอดคล้องกบั เร่ืองที่กาลงั ศึกษา 6.3 ห่นุ จาลองหรอื ของจริง (ถา้ ม)ี 6.4 อื่นๆ (ถ้าม)ี Website ต่าง ๆ ทีม่ เี นอ้ื หาสอดคล้องกับเรือ่ งท่ีกาลงั ศกึ ษา 7. เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) 8. การบรู ณาการกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 8.1 เตรียมความพร้อมด้าน วสั ดุ อปุ กรณ์ สอดคลอ้ งกบั งานได้อย่างถูกต้อง 8.2 ปฏบิ ัติงานไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง และสาเร็จภายในเวลาท่กี าหนดอยา่ งมเี หตแุ ละผลตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง 9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 ก่อนเรียน ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน 9.2 ขณะเรียน สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ ตรวจแบบฝกึ หดั หน่วยที่ 6 9.3 หลงั เรยี น ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยที่ 6 สังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 10. กิจกรรมเสนอแนะ แบบฝึกหดั , ใบงาน และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ประจาหน่วย 11. เอกสารอา้ งองิ มนสั ประสงค.์ คณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชีพ. กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์จิตรวัฒน์, 2562.
แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 6 สอนครง้ั ท่ี 13 ชือ่ หน่วย การวดั ตาแหนง่ ของขอ้ มลู ช่ัวโมงรวม 36 จานวนชัว่ โมง 2 1. สาระสาคญั 1.1 การวดั ตาแหนง่ ของขอ้ มูล 1.2 การหาเปอร์เซ็นไทลข์ องข้อมลู ท่ีไม่ได้แจกแจงความถ่ี 1.3 การหาเปอร์เซน็ ไทล์ของขอ้ มลู ท่แี จกแจงความถ่ี 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 2.1 วเิ คราะห์ตาแหน่งของขอ้ มูลและการจดั กกระจายของข้อมลู จากขอ้ มลู ทีก่ าหนด 2.2 ใชข้ ้อมลู ข่าวสาร คา่ สถิติ และค่าสถิตทิ ่ีได้จากการวเิ คราะห์ขอ้ มูลในการตัดสนิ ใจ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 3.1.1 อธบิ ายความหมายของการวดั ตาแหนง่ ของขอ้ มลู ได้ 3.1.2 อธิบายความหมายของเปอรเ์ ซน็ ไทล์ได้ 3.1.3 หาเปอร์เซน็ ไทลข์ องข้อมูลที่ไมไ่ ด้แจกแจงความถ่ีได้ 3.1.4 หาเปอร์เซน็ ไทล์ของข้อมลู ท่แี จกแจงความถไ่ี ด้ 3.1.5 นาความรู้เร่ืองการวดั ตาแหน่งของข้อมลู ไปใช้แก้ปญั หาโจทย์ได้ 3.2 ด้านทกั ษะ ผูเ้ รียนมที ักษะการคดิ อยา่ งเปน็ ระบบ สามารถวเิ คราะหต์ าแหน่งของขอ้ มลู และการวัดการกระจายของ ขอ้ มลู จากขอ้ มูลท่ีกาหนด ใช้ข้อมูลข่าวสาร ค่าสถติ ิ และคา่ สถติ ทิ ่ีได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลในการตัดสนิ ใจ 3.3 คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ 3.3.1 นกั เรยี นเป็นผทู้ ม่ี ีความรบั ผิดชอบ 3.3.2 นกั เรียนเปน็ ผทู้ ีม่ รี ะเบียบวนิ ัย 3.3.3 นักเรยี นเป็นผู้ทมี่ คี วามรับผิดชอบ 4. เน้ือหาสาระการเรียนรู้ การวัดตาแหน่งของขอ้ มูล เปน็ คา่ ท่ีแสดงตาแหน่งของข้อมูลที่ไดห้ ลังจากเรียงลาดับของขอ้ มูลจากน้อย ไปมากแล้ว ซึง่ การวัดตาแหน่งของขอ้ มลู ไดแ้ ก่ ควอไทล์ (Quartile) เปน็ ตาแหน่งของข้อมลู ทแ่ี บง่ ข้อมูลออกเป็น 4 สว่ น เท่า ๆ กัน เดไซล์ (Deciles) เปน็ ตาแหนง่ ของข้อมูลท่แี บ่งขอ้ มลู ออกเปน็ 10 ส่วน เท่า ๆ กัน และ เปอร์เซ็นไทล์ (percentiles) เปน็ ตาแหน่งของขอ้ มูลท่ีแบ่งขอ้ มูลออกเปน็ 100 สว่ น เท่า ๆ กนั
แผนการจัดการเรยี นร้มู งุ่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 6 สอนครัง้ ท่ี 13 ช่อื หนว่ ย การวดั ตาแหน่งของขอ้ มลู ช่วั โมงรวม 36 จานวนชว่ั โมง 2 5. กิจกรรมการเรยี นการสอน 5.1 การนาเขา้ สู่บทเรียน 5.1.1 บอกจดุ ประสงคข์ องการเรียน เรื่อง การวัดตาแหน่งของข้อมูล 5.1.2 ทบทวนการหาตวั แทนของส่ิงตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวนั 5.2 การเรียนรู้ 5.2.1 บรรยายเน้ือหา เร่ือง การวดั ตาแหน่งของข้อมูล 5.2.2 สาธติ สาธติ วธิ ีการหาคา่ เปอร์เซน็ ไทล์ ตามตวั อยา่ งท่ี 5.2.3 ให้นักเรียนทาแบบฝกึ ทกั ษะ 5.3 การสรุป 5.3.1 เฉลยแบบฝกึ ทกั ษะ 5.3.2 สรปุ สาระสาคญั ของการวดั ตาแหนง่ ของข้อมูล และการหาคา่ เปอร์เซ็นไทล์ 5.4 การวดั และประเมนิ ผล 5.4.1 สังเกตจากการอภปิ รายร่วมกัน การซกั ถาม การตอบคาถาม 5.4.2 ตรวจแบบฝึกทกั ษะ 5.4.3 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียน โดยใช้แบบประเมินจิตพิสัย 6. สื่อการเรยี นร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สื่อส่งิ พมิ พ์ 6.1.1. หนงั สอื วิชาคณติ ศาสตร์พื้นฐานอาชพี รหัสวิชา 20000-1401 หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวช.)พุทธศกั ราช 2562 6.1.2. หนังสือเรียนอนื่ ๆ ทมี่ ีเนอื้ หาสอดคล้องกับวชิ าคณิตศาสตรพ์ นื้ ฐานอาชพี (20000-1401) 6.1.3. แบบฝกึ ทกั ษะ 6.1.4. Power Point และ Website ตา่ ง ๆ ท่มี ีเน้อื หาสอดคลอ้ งกับเรอื่ งที่กาลังศกึ ษา 6.2 สื่อโสตทัศน์ Power Point ที่มเี นอ้ื หาสอดคล้องกับเรื่องทก่ี าลงั ศกึ ษา 6.3 หุ่นจาลองหรอื ของจรงิ (ถา้ ม)ี 6.4 อื่นๆ (ถา้ ม)ี Website ต่าง ๆ ท่ีมเี นอ้ื หาสอดคลอ้ งกับเร่ืองทีก่ าลงั ศกึ ษา 7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)
แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 6 สอนครัง้ ท่ี 13 ชอื่ หน่วย การวัดตาแหนง่ ของขอ้ มูล ชัว่ โมงรวม 36 จานวนช่วั โมง 2 8. การบูรณาการกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 8.1 เตรียมความพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์ สอดคล้องกับงานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 8.2 ปฏิบตั งิ านไดอ้ ย่างถกู ต้อง และสาเรจ็ ภายในเวลาทก่ี าหนดอย่างมเี หตุและผลตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 9. การวัดและประเมินผล 9.1 ก่อนเรยี น ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน 9.4 ขณะเรียน สังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่ ตรวจแบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 6 9.3 หลงั เรยี น ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยท่ี 6 สังเกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 10. กจิ กรรมเสนอแนะ แบบฝกึ หดั ใบงาน ประเมินผลการเรยี นรปู้ ระจาหน่วย 11. เอกสารอ้างองิ มนัส ประสงค์. คณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชีพ. กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พจ์ ติ รวัฒน์, 2562.
แผนการจดั การเรยี นรูม้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 7 สอนคร้ังที่ 14-16 ชื่อหนว่ ย การวัดการกระจายของสมั บูรณ์ ชว่ั โมงรวม 36 จานวนช่วั โมง 6 1. สาระสาคัญ การวัดการกระจาย 1. การวัดการกระจายสัมบูรณ์ 2. สมรรถนะประจาหน่วย 2.1 วเิ คราะหต์ าแหนง่ ของข้อมูลและการจดั กกระจายของขอ้ มลู จากข้อมูลทกี่ าหนด 2.2 ใช้ข้อมูลข่าวสาร คา่ สถิติ และคา่ สถิติทไ่ี ด้จากการวิเคราะหข์ อ้ มลู ในการตัดสินใจ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 3.1.1 อธบิ ายความหมายของการวัดการกระจายของขอ้ มูลได้ 3.1.2 หาคา่ พิสยั ของขอ้ มูลท่ีกาหนดให้ได้ 3.1.3 หาคา่ ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานของข้อมลู ท่กี าหนดใหไ้ ด้ 3.1.4 หาค่าความแปรปรวนของข้อมูลทกี่ าหนดให้ได้ 3.1.5 นาความรเู้ ร่อื ง พิสยั และสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐานไปใชแ้ กป้ ัญหาโจทยไ์ ด้ 3.1.6 หาสัมประสทิ ธ์ิของการแปรผันของข้อมลู ทก่ี าหนดให้ได้ 3.1.7 นาความรเู้ ร่อื ง สัมประสทิ ธ์ขิ องการแปรผนั ไปใชแ้ กป้ ญั หาโจทยไ์ ด้ 3.2 ด้านทักษะ ผเู้ รยี นมีทกั ษะการคดิ อยา่ งเป็นระบบ สามารถวิเคราะหต์ าแหนง่ ของขอ้ มูลและการวัดการกระจาย ของข้อมูลจากขอ้ มูลทกี่ าหนด ใชข้ อ้ มลู ขา่ วสาร ค่าสถิติ และค่าสถติ ิทไี่ ด้จากการวิเคราะห์ข้อมูลในการตดั สนิ ใจ 3.3 คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ 3.3.1 นกั เรยี นเป็นผู้ทมี่ ีความรบั ผิดชอบ 3.3.2 นกั เรียนเป็นผู้ทมี่ รี ะเบียบวนิ ยั 4. เน้อื หาสาระการเรียนรู้ การวัดการกระจาย (Measures of Dispersion) เปน็ สถติ ปิ ระเภทหนึ่งทคี่ านวณออกมาเป็นตัวเลข เพื่อ ใชใ้ นการอธบิ ายลกั ษณะการกระจายของข้อมูล การวัดการกระจายสมั บรู ณ์ (Absolute Variation) เปน็ การวัดการกระจายของขอ้ มูลเพียงชุดเดียวเพื่อ ตอ้ งการทราบว่าข้อมูลนัน้ มีการกระจายมากนอ้ ยเพยี งใด
แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 7 สอนครัง้ ท่ี 14-16 ชอ่ื หนว่ ย การวัดการกระจายของสมั บรู ณ์ ชวั่ โมงรวม 36 จานวนชว่ั โมง 6 5. กิจกรรมการเรยี นการสอน 5.1 การนาเข้าสูบ่ ทเรียน 5.1.1 บอกจดุ ประสงคข์ องการเรียน เรื่อง การวดั การกระจายของขอ้ มูล 5.1.2 ทบทวนการหาค่าเฉลยี่ เลขคณิต 5.2 การเรียนรู้ 5.2.1 บรรยายเนอื้ หา เรือ่ ง การวัดการกระจายของข้อมูล 5.2.2 สาธิตสาธิตวธิ ีการหาพิสัย คา่ ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน สัมประสิทธ์พิ ิสัย และสมั ประสิทธ์ขิ อง ความแปรผนั 5.2.3 ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกทกั ษะ 5.3 การสรปุ 5.3.1 เฉลยแบบฝึกทักษะ 5.3.2 สรปุ สาระสาคัญของวธิ ีการหาพสิ ยั ค่าส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน สัมประสิทธ์ิพิสัย และสัมประสิทธ์ิ ของความแปรผนั 5.4 การวดั และประเมินผล 5.4.1 สังเกตจากการอภปิ รายรว่ มกนั การซกั ถาม การตอบคาถาม 5.4.2 ตรวจแบบฝึกทกั ษะ 5.4.3 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน โดยใช้แบบประเมนิ จิตพสิ ยั 6. สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สอ่ื สง่ิ พมิ พ์ 6.1.1. หนงั สือวชิ าคณิตศาสตร์พืน้ ฐานอาชีพ รหัสวชิ า 20000-1401 หลกั สตู รประกาศนยี บัตรวชิ าชพี (ปวช.)พทุ ธศกั ราช 2562 6.1.2. หนังสอื เรียนอน่ื ๆ ทม่ี ีเน้ือหาสอดคล้องกบั วชิ าคณิตศาสตรพ์ นื้ ฐานอาชพี (20000-1401) 6.1.3. แบบฝกึ ทกั ษะ 6.1.4. Power Point และ Website ตา่ ง ๆ ที่มเี นื้อหาสอดคลอ้ งกบั เรือ่ งท่ีกาลงั ศกึ ษา 6.2 สือ่ โสตทัศน์ Power Point ทมี่ ีเนื้อหาสอดคล้องกับเรื่องท่ีกาลังศึกษา 6.3 ห่นุ จาลองหรอื ของจริง (ถ้ามี) 6.4 อ่ืนๆ (ถา้ มี) Website ตา่ ง ๆ ท่มี เี น้ือหาสอดคลอ้ งกับเรอ่ื งทีก่ าลงั ศกึ ษา 7. เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)
แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 7 สอนครงั้ ท่ี 14-16 ช่ือหน่วย การวัดการกระจายของสมั บูรณ์ ชวั่ โมงรวม 36 จานวนช่วั โมง 6 8. การบูรณาการกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 8.1 เตรียมความพร้อมด้าน วสั ดุ อุปกรณ์ สอดคล้องกับงานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 8.2 ปฏบิ ัตงิ านได้อย่างถูกตอ้ ง และสาเรจ็ ภายในเวลาทกี่ าหนดอยา่ งมีเหตแุ ละผลตามหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง 9. การวดั และประเมนิ ผล 9.1 ก่อนเรยี น ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น 9.2 ขณะเรียน สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ตรวจแบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 7 9.3 หลงั เรียน ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยท่ี 7 สังเกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 10. กิจกรรมเสนอแนะ แบบฝึกหัด ใบงาน ประเมนิ ผลการเรียนรู้ประจาหน่วย 11. เอกสารอา้ งอิง มนสั ประสงค์. คณติ ศาสตรพ์ ้นื ฐานอาชีพ. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพจ์ ิตรวัฒน,์ 2562.
แผนการจดั การเรยี นรู้ม่งุ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 8 สอนครั้งท่ี 17 ชือ่ หน่วย การวดั การกระจายของสมั พัทธ์ ช่วั โมงรวม 36 จานวนชัว่ โมง 2 1. สาระสาคัญ การวัดการกระจาย 1. การวัดการกระจายของสมั พัทธ์ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 2.1 วิเคราะห์ตาแหน่งของข้อมูลและการจัดกกระจายของขอ้ มลู จากขอ้ มูลที่กาหนด 2.2 ใช้ขอ้ มูลข่าวสาร ค่าสถิติ และคา่ สถติ ิทีไ่ ดจ้ ากการวิเคราะห์ข้อมูลในการตัดสินใจ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ 3.1.1 อธิบายความหมายของการวัดการกระจายของขอ้ มูลได้ 3.1.2 หาคา่ พสิ ัยของขอ้ มลู ท่กี าหนดใหไ้ ด้ 3.1.3 หาค่าสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐานของข้อมลู ทกี่ าหนดใหไ้ ด้ 3.1.4 หาคา่ ความแปรปรวนของขอ้ มูลทีก่ าหนดให้ได้ 3.1.5 นาความรู้เร่ือง พิสยั และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานไปใชแ้ ก้ปญั หาโจทยไ์ ด้ 3.1.6 หาสัมประสทิ ธ์ขิ องการแปรผนั ของขอ้ มูลทีก่ าหนดให้ได้ 3.1.7 นาความร้เู รื่อง สัมประสทิ ธขิ์ องการแปรผนั ไปใชแ้ กป้ ัญหาโจทย์ได้ 3.2 ด้านทกั ษะ ผ้เู รยี นมีทกั ษะการคดิ อย่างเป็นระบบ สามารถวิเคราะหต์ าแหนง่ ของข้อมลู และการวดั การกระจาย ของขอ้ มลู จากข้อมูลทก่ี าหนด ใช้ข้อมลู ข่าวสาร ค่าสถิติ และคา่ สถติ ิทไี่ ดจ้ ากการวิเคราะหข์ อ้ มูลในการตดั สินใจ 3.3 คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ 3.3.1 นกั เรยี นเปน็ ผู้ทมี่ ีความรับผดิ ชอบ 3.3.2 นักเรียนเปน็ ผ้ทู ่ีมรี ะเบียบวนิ ัย 4. เน้อื หาสาระการเรยี นรู้ การวัดการกระจาย (Measures of Dispersion) เปน็ สถติ ิประเภทหนึ่งทีค่ านวณออกมาเป็นตัวเลข เพ่ือ ใชใ้ นการอธิบายลักษณะการกระจายของข้อมูล การวดั การกระจายสัมพทั ธ์ (Relation Variation) เปน็ การวดั การกระจายของข้อมลู ตง้ั แต่สองชุดขึ้น ไป เพื่อนาการกระจายของขอ้ มลู เหล่านั้นมาเปรยี บเทยี บกัน
แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 8 สอนครั้งท่ี 17 ชอื่ หนว่ ย การวดั การกระจายของสมั พัทธ์ ช่ัวโมงรวม 36 จานวนชวั่ โมง 2 5. กิจกรรมการเรยี นการสอน 5.1 การนาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 5.1.1 บอกจุดประสงค์ของการเรียน เรื่อง การวดั การกระจายของข้อมลู 5.1.2 ทบทวนการหาค่าเฉล่ียเลขคณิต 5.2 การเรียนรู้ 5.2.1 บรรยายเนื้อหา เร่อื ง การวัดการกระจายของขอ้ มลู 5.2.2 สาธิตสาธติ วธิ ีการหาพิสยั คา่ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธพิ์ ิสยั และสมั ประสทิ ธขิ์ อง ความแปรผนั 5.2.3 ให้นกั เรียนทาแบบฝกึ ทักษะ 5.3 การสรปุ 5.3.1 เฉลยแบบฝึกทกั ษะ 5.3.2 สรุปสาระสาคัญของวธิ กี ารหาพิสยั คา่ สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน สมั ประสทิ ธพิ์ ิสยั และสัมประสิทธ์ิ ของความแปรผนั 5.4 การวัดและประเมนิ ผล 5.4.1 สงั เกตจากการอภปิ รายรว่ มกนั การซักถาม การตอบคาถาม 5.4.2 ตรวจแบบฝึกทกั ษะ 5.4.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี น โดยใชแ้ บบประเมินจิตพสิ ัย 6. สอื่ การเรยี นร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สื่อส่งิ พิมพ์ 6.1.1. หนงั สอื วชิ าคณิตศาสตรพ์ ้ืนฐานอาชีพ รหสั วิชา 20000-1401 หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวช.) พทุ ธศักราช 2562 6.1.2. หนังสือเรียนอ่ืน ๆ ท่มี ีเนื้อหาสอดคล้องกบั วชิ าคณิตศาสตรพ์ ื้นฐานอาชีพ (20000-1401) 6.1.3. แบบฝึกทักษะ 6.1.4. Power Point และ Website ต่าง ๆ ที่มเี นื้อหาสอดคล้องกับเรื่องทกี่ าลังศึกษา 6.2 ส่ือโสตทัศน์ Power Point ทมี่ ีเนอ้ื หาสอดคลอ้ งกับเร่ืองที่กาลังศึกษา 6.3 หุ่นจาลองหรอื ของจริง (ถา้ มี) 6.4 อื่นๆ (ถา้ ม)ี Website ต่าง ๆ ท่ีมเี นื้อหาสอดคล้องกับเร่ืองท่กี าลงั ศกึ ษา
แผนการจัดการเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 8 สอนครง้ั ท่ี 17 ชอ่ื หน่วย การวัดการกระจายของสมั พทั ธ์ ชั่วโมงรวม 36 จานวนชว่ั โมง 2 7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) 8. การบูรณาการกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 8.1 เตรียมความพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์ สอดคล้องกบั งานได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 8.2 ปฏิบัตงิ านไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง และสาเร็จภายในเวลาทกี่ าหนดอยา่ งมีเหตแุ ละผลตามหลักปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง 9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 ก่อนเรียน ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น 9.2 ขณะเรยี น สังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม ตรวจแบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 8 9.3 หลังเรียน ตรวจแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 8 สงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 10. กิจกรรมเสนอแนะ แบบฝึกหัด ใบงาน ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ประจาหนว่ ย 11. เอกสารอา้ งอิง มนัส ประสงค์. คณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐานอาชพี . กรงุ เทพฯ : สานกั พมิ พจ์ ติ รวฒั น์, 2562.
แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี - สอนครั้งที่ 18 ชอื่ หน่วย สอบปลายภาค ชว่ั โมงรวม 36 จานวนชว่ั โมง 2 สอบปลายภาค
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: