Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การหารูปแบบ และการคิดเชิงนามธรรม

การหารูปแบบ และการคิดเชิงนามธรรม

Published by kruporntip tws, 2019-08-16 04:31:23

Description: 03_Pattern_Abstration

Search

Read the Text Version

การหารูปแบบ และการคดิ เชงิ นามธรรม (abstraction) สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

จดุ ประสงค์ของบทเรียน 1. อธิบายรูปแบบและระบุองค์ประกอบสาคัญทส่ี ัมพันธก์ ันของสง่ิ ของหรือปัญหา 2. แยกคณุ ลกั ษณะท่สี าคัญออกจากรายละเอยี ดในโจทยป์ ัญหาท่กี าลังพิจารณา 3. อธบิ ายสถานการณ์หรอื ปญั หาด้วยแบบจาลอง สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

เกม “การ์ดดอกไม”้ พืชใบเลี้ยงเด่ยี ว พชื ใบเลีย้ งคู่ เสน้ ใบเรยี ง เส้นใบ แบบขนาน แบบ ร่างแห . กลบี ดอกมี . จานวน 3X กลบี ดอก มีจานวน (4-5)X สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ใหน้ กั เรยี นพิจารณารปู ว่าพืชดอกในรูปเป็น “พชื ใบเลย้ี งเดย่ี ว” หรอื “พชื ใบเล้ยี งคู่” สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การหารปู แบบ (pattern recognition) การหารูปแบบเป็นทักษะการหาความสัมพันธ์ที่เก่ียวข้อง และลักษณะ ทั่วไปของสิ่งต่าง ๆ จากน้ันอาจใช้ทักษะการแยกส่วนประกอบทาให้ได้ องค์ประกอบภายในอ่ืนๆ แล้ว จึงใช้ทักษะการหารูปแบบเพ่ือสร้าง ความเขา้ ใจระหว่างองค์ประกอบเหลา่ น้นั สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

กจิ กรรมท่ี 1.5 เหมือนหรอื ตา่ ง พจิ ารณาส่ิงของแลว้ ระบรุ ูปแบบทเี่ หมือน หรือแตกตา่ งกัน สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ผู้เรยี น ทาใบกจิ กรรมที่ 3.1 ในหนงั สอื เรียน เรื่อง “เหมือนหรือตา่ ง” สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

เกม “สารานกุ รมไทย” พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั รชั กาลที่ ๙ มพี ระราชปรารภวา่ การเรยี นรูเ้ รอื่ งราวและวชิ าการสาขาตา่ ง ๆ โดยกวา้ งขวาง จะกอ่ ใหเ้ กดิ ความรู ้ ความคดิ และความฉลาด ซงึ่ เป็ นปัจจยั สาคญั ทสี่ ุดสาหรบั ชวี ติ ทุกคนควร มโี อกาสทจี่ ะศกึ ษาเมอื่ ตอ้ งการ หรอื พอใจจะเรยี นรูเ้ รอื่ งใดสามารถคน้ หาอา่ นโดยสะดวก จงึ มพี ระราชดารสั ใหจ้ ดั ทาสารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน นบั เป็ นหนงั สอื ทมี่ ปี ระโยชนเ์ กอื้ กูลการศกึ ษาเพมิ่ พูนปัญญาดว้ ย ตนเองของประชาชน โดยเฉพาะยามทมี่ ปี ัญหาขาดแคลนครู และทเี่ ล่าเรยี น ดงั พระราชดารสั ที่ พระราชทานแกส่ มาชกิ ไลออนสใ์ นประเทศไทย เกยี่ วกบั \"โครงการสารานุกรมไทย\" เมอื่ วนั ที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๓ ความตอนหนึ่งวา่ \"... เราตอ้ งใหค้ วามรูก้ บั เดก็ และคนรุน่ ตอ่ ไปอย่างทเี่ ราจะสามารถทาได้ จงึ พูดถงึ สารานุกรมฯ นีจ้ ะทาใหเ้ รา แกป้ ัญหาของเราไดส้ ว่ นหนึ่ง ทจี่ รงิ มวี ธิ แี กป้ ัญหาอย่างอนื่ ดว้ ย แตว่ า่ เราตอ้ งเลอื กทาขอเลอื กทาสารานุกรม สารานุกรมไมใ่ ชค่ รู แตว่ า่ จะชว่ ยใหค้ นอนื่ ทไี่ ม่ไดเ้ ป็ นครไู ด้ เชน่ พ่อ แม่ ถา้ ลูกถามปัญหาตา่ ง ๆ กอ็ าศยั สารานุกรมนีม้ าตอบได้ ...\" \"... สารานุกรมเลม่ นีม้ ไี วไ้ มใ่ ชส่ าหรบั สอนหนงั สอื ใดโดยเฉพาะ แตว่ า่ มไี วส้ าหรบั ใหค้ นสามารถ ทจี่ ะเผชญิ กบั ปัญหาใด ๆ ในชวี ติ ...คอื วา่ โครงการสอนอยา่ งไรกต็ ามตอ้ งสอนใหค้ นรูจ้ กั เผชญิ กบั ปัญหาไมใ่ ชส่ อน สาหรบั ใหค้ นมาตอบปัญหาตอ้ งใหท้ ุกคนทง้ั เยาวชนทงั้ คนแก่ ทราบวา่ วชิ าทงั้ หลายตอ้ งโยงกนั และปัญหา ทงั้ หลายตอ้ งใชว้ ชิ าทุกวชิ าโยงกนั มาแกใ้ หส้ อดคลอ้ งกนั มฉิ ะนนั้ กไ็ มม่ ปี ระโยชนถ์ า้ เรยี นวชิ าหรอื อา่ นวชิ า อยา่ งหนึ่งอย่างใดแลว้ กท็ อ่ งไดต้ ามตวั หนงั สอื ไมม่ ปี ระโยชนเ์ ลย ตอ้ งสามารถคดิ มาใชเ้ ป็ นประโยชน์ แตเ่ มอื่ มาใชป้ ระโยชนจ์ ะตอ้ งโยงกบั วชิ าอนื่ ไดห้ มด ...\"\" ใหแ้ ต่ละกลุ่มสรปุ สาระสาคญั ไมเ่ กิน 20 คา ลงใน Padlet สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การคดิ เชิงนามธรรม (Abstraction) การคิดเชิงนามธรรม คือ กระบวนการคัดแยกคุณลักษณะท่ีสาคัญออกจาก รายละเอียดในโจทย์ปัญหาหรืองานที่กาลังพิจารณา เพื่อให้ได้องค์ประกอบท่ี จาเป็นเพยี งพอ และกระชบั ทส่ี ดุ ในการพจิ ารณาภายใต้ สถานการณท์ ่สี นใจ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แ ผ น ภ า พ มี ข้ อ มู ล เ พี ย ง พ อ ใ น ก า ร ใ ช้ วิ เ ค ร า ะ ห์ ก า ร ท า ง า น ของวงจรไฟฟา้ และตัดรายละเอียดทไี่ ม่จาเป็นในการพจิ ารณาออก ทัง้ หมด เรียกแผนภาพต่าง ๆ ท่ีเป็นผลลัพธ์ของการคิดเชิงนามธรรมว่า แบบจาลอง (model) สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

การทาความเข้าใจกับกิจกรรมต่าง ๆจาเป็นต้องจินตนาการแบบจาลองเหล่าน้ีไว้ ในใจด้วยเชน่ กัน ตวั อยา่ งเชน่ ในการเล่นเกม Pacman หรือเกมAngry Bird ในเกมทั้งสอง ผู้เล่นต้องเข้าใจว่าการเลือกสั่งงานตัวละครใดจะให้ผลลัพธ์แบบ ใดบ้าง แม้ว่าผู้เล่นจะไม่ได้คาดการณ์ผลลัพธ์ได้ตรงทุกคร้ัง ผลลัพธ์จริงท่ีได้จากการ เล่นเกม มักจะแตกต่างจากที่คาดการณ์ไว้ไม่มาก เน่ืองจากแบบจาลองของเหตการณ์ ในเกม สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ผู้เรยี น ทาใบกิจกรรมที่ 3.2 ในหนังสอื เรียน เรอื่ ง “สร้างแบบจาลอง” สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

กจิ กรรมท่ี 3.2 สรา้ งแบบจาลอง ประตไู ปไหนก็ได้ การตดั ปะในระบบ คอมพวิ เตอร์ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช่ัวโมงต่อไป การแกป้ ัญหาด้วยคอมพวิ เตอร์ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

โหลดแอพลเิ คชน่ั 1.Google Classroom 2.Google drive 3.Google เอกสาร /Google docs สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook